Cover Story





B- School





Small Biz





ถนนนักลงทุน





Local Biz





Property





ธุรกิจการตลาด





Travel Biz





Food Biz





I - Biz





Auto Biz




วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม พ.ศ. 2548














มูลค่าที่แท้จริง : คิดลดกระแสเงินสด 1

มนตรี นิพิฐวิทยา
แน่นอนครับ ทุกคนชอบเงิน ทุกวันนี้เราๆท่านๆก็ทำงานเพื่อให้ได้เงินมาเพื่อจับจ่ายใช้สอย บางท่านก็ว่าเงินนั้นไม่สำคัญ แต่ถ้าไม่มีเงินก็เห็นว่าจะต้องเดือดร้อนกันบ้างไม่มากก็น้อยแล้วแต่สถานการณ์ของแต่ละคน

กิจการใดๆก็ตามก็ต้องใช้เงิน ทำมาหาได้เพื่อให้ได้เงิน กู้หนี้ยืมสินมาเพื่อให้ได้เงินมาลงทุน ดังนั้นหากกิจการใดทำมาหาได้แล้วไม่มีเงินสด บริษัทนั้นก็อาจพบกับปัญหาได้ในไม่ช้า แล้วแต่ว่าผู้บริหารจะหาวิธีต่ออายุกิจการอย่างไร เช่น กู้เพิ่มเพราะยังพอหมุนเงินมาจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นบางส่วนทัน พอกู้จนเต็มที่แล้วก็ต้องหาทางเพิ่มทุนให้จงได้ ถึงตรงนี้แล้วคุ้นๆไหมครับ

บางครั้งเราจะเห็นว่าบริษัทมีกำไรมาโดยตลอด แต่ลองดูให้ดีๆครับ บริษัทอาจจะมีเงินสดไม่พอที่จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบมาผลิต จ่ายคืนหนี้ค่าสินค้า แน่นอนบริษัทต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่มาผลิต บางบริษัทซื้อเครื่องจักรใหม่มาผลิตสินค้ายังไม่ทันคืนทุนเลยก็ต้องซื้อใหม่แล้ว เพราะต้องรีบตามให้ทันการเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นจะเสียท่าคู่แข่งได้

หลายคนที่ยังเชื่ออยู่ว่ามูลค่าหรือราคาของหุ้นจะสูงขึ้นได้นั้นบริษัทจะต้องมีกำไรเติบโตขึ้นมากๆ นั้นเห็นทีจะต้องคิดใหม่ เพราะกำไรที่มากๆนั้นอาจจะไม่ใช่ของจริงก็เป็นได้ อาจเป็นเพียงกำไรทางบัญชีที่สามารถอาศัยช่องว่างในการตบแต่งให้ดูดีเพื่อประโยชน์ในการเรียกแมงเม่าให้บินเข้ากองไฟ

คำว่าการเติบโตของกิจการนั้นโดยแท้จริงแล้ว เป็นการเติบโตของกำไรที่เป็นเงินสดครับ กำไรทางบัญชีนั้นไม่สามารถนำมาหามูลค่าได้

การคำนวณมูลค่าของสินทรัพย์ทุกชนิดจะต้องใช้วิธีคิดลดกระแสเงินสดที่สินทรัพย์นั้นสามารถสร้างให้เกิดในอนาคต ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เราซื้อรถแท็กซี่มาเพื่อให้เช่า และเมื่อมีคนเช่าเราก็จะได้เงินสดเป็นค่าเช่าตลอดอายุของรถแท็กซี่นั้น ที่นี้ถ้าเราเก็บค่าเช่าได้น้อยเมื่อคิดลดกระแสเงินสดแล้วอาจจะไม่คุ้มกับเงินลงทุนที่ซื้อรถมาก็เป็นได้ แต่ถ้าเก็บค่าเช่าได้มากๆก็จะคุ้มและมีกำไร

สำหรับการหามูลค่าของบริษัทเองก็ต้องใช้การคิดลดกระแสเงินสดเช่นกัน เพียงแต่ต้องอาศัยการสมมติฐานหลายประการ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นกิจการที่ดีนั้นจะต้องมีผลดำเนินงานที่เราสามารถคาดการณ์ได้จากรายงานทางการเงินที่เชื่อถือได้

ถ้าเรายังดูแต่กำไรซึ่งเป็นบรรทัดสุดท้ายกันอยู่อีก เราก็จะไม่สามารถรู้มูลค่าที่แท้จริงของกิจการนั้นได้อย่างถูกต้อง เพราะผู้บริหารก็จะสร้างผลกำไรให้สวยงามถูกใจนักลงทุนได้ตลอดเวลา และถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชีเสียด้วยครับ

ทีนี้เรามาดูกันว่าในกำไรทางบัญชีนั้นเป็นเงินสดจริงๆเท่าไร โดยทั่วไปแล้วเราสามารถหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากงบกระแสเงินสดครับ ดังตัวอย่าง

เราจะเห็นว่า เริ่มต้นด้วยกำไรสุทธิ และมีการปรับกระทบรายการที่ไม่เป็นเงินสดออก เอาแต่เฉพาะที่เป็นเงินสดไว้ จากนั้นก็มาปรับปรุงรายการที่ไม่เป็นเงินสดอีกสองชั้นคือ ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ เจ้าหนี้การค้าเป็นต้น ซึ่งรายการเหล่านี้ยังไม่มีการรับหรือจ่ายเงินสดออกไปจึงต้องนำมาปรับปรุงรายการ

มาดูว่าในรายการปรับปรุงสินทรัพย์ดำเนินงานที่ถ้าเพิ่มขึ้นให้หักออก นั่นหมายถึงว่าบริษัทต้องสำรองจ่ายเงินสดออกไปก่อนเช่น ลูกหนี้การค้า บริษัทให้สินค้าลูกค้าไปก่อนแล้วตามเก็บเงินทีหลัง ซึ่งก็คือบริษัทต้องออกเงินไปก่อนครับจึงต้องปรับรายการนี้ออก(กระแสเงินสดไหลออก)

ส่วนรายการปรับปรุงหนี้สินดำเนินงานนั้น เพิ่มขึ้นให้บวกเข้า ก็เพราะว่าผู้ขายสินค้าสำรองเงินให้บริษัท แล้วตามมาเก็บเงินกับบริษัททีหลัง ตรงนี้ถือเป็นกระแสเงินไหลเข้า

พอมาดูบรรทัดสุดท้าย เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน ถ้าติดลบอย่างในตัวอย่างนี้นั้น หมายถึงกำไรที่เป็นเงินสดจริงๆนั้นไม่มี เพราะกำไรที่แสดงแต่แรกนั้นเมื่อหักเงินสดเพื่อซื้อสินค้าคงเหลือ ให้เครดิตลูกค้า จ่ายคืนเจ้าหนี้การค้าแล้ว ยังไม่พอเลย ทีนี้เมื่อจะต้องลงทุนเพิ่มจะไปเอามาจากไหน แน่นอนต้องกู้หรือไม่ก็เพิ่มทุนแน่นอน ซึ่งคราวหน้าเราจะมาดูงบกระแสเงินสดส่วนที่เหลือกัน

เป็นที่สังเกตก่อนจบบทความนี้ว่า หากบริษัทใดมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบยาวนานต่อเนื่องก็ขอให้ท่านทราบไว้ว่า ไม่นานจากนี้บริษัทนั้นจะต้องกู้เงินเพิ่มอีกแน่ๆ และหากว่ากู้จนเต็มเหยียดแล้วละก็ท่านก็เตรียมเงินเอาไว้เพิ่มทุนได้ครับ

กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน

กำไรสุทธิ 229,983

รายการปรับกระทบกำไรสุทธิเป็นเงินสดรับ (จ่าย)

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 68,469

หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ 179,799

ขาดทุน (กำไร) จากการจำหน่ายอุปกรณ์ (6,434)

ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์รอการขาย 800

ขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์รอการขาย 5,189

กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 8,403

กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน 486,209

สินทรัพย์ดำเนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลง

ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ (1,070,366)

ลูกหนี้และเงินจ่ายล่วงหน้าพนักงาน (38,892)

สินค้าคงเหลือ 22,090

สินทรัพย์รอการขาย 25,718

สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น (11,973)

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น (11,427)

หนี้สินดำเนินงานเพิ่มขึ้น (ลดลง)

เจ้าหนี้การค้า (12,194)

ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 12,115

ภาษีมูลค่าเพิ่มรอนำส่ง 64,930

โบนัสค้างจ่าย (21,618)

หนี้สินหมุนเวียนอื่น 2,502

เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน (552,906)


About Us I Suggestion I Site Map I GetThaiFont | Contact Us I Privacy Policy
copyright @ 2004 Nation Group / Produced & Designed by : KT Internet Dept.