
กระบี่ที่ใจ
มนตรี นิพิฐวิทยา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณวิบูลย์ชวนออกนอกเรื่องหนักๆ คราวนี้มาคุยกันเรื่องสบายๆกันสักพักเพื่อพักสมองกันหน่อย แล้วค่อยกลับไปลุยเรื่องหนักๆ กันต่อ ผู้อ่านท่านใดกำลังติดตามอย่างเมามันอยู่ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ในวงสนทนาต่างๆ มักจะเปรียบเทียบรูปแบบการลงทุนทั้งแบบเทคนิคเคิลและแบบพื้นฐานตามสำนวนกำลังภายใน แบบเทคนิคเคิลมักจะต้องว่องไวเปรียบได้กับฝ่ายกระบี่ ส่วนแบบพื้นฐานและแบบเน้นมูลค่านั้นเปรียบได้กับลมปราณซึ่งไปแบบสุขุมนุ่มลึก
จอมยุทธ์ทั้งสองสำนักที่ประสบความสำเร็จได้นั้นต่างก็จะต้องมีกระบี่อยู่ที่ใจทั้งสิ้น จอมยุทธ์ระดับเริ่มต้นอาจจะยังมีไม่เต็มที่ หรือบางท่านไม่มีเอาเสียเลย
กระบี่ที่ใจที่ผมว่านี้คือความฉลาดทางอารมณ์หรือ Emotional Quotient ก็ EQนั่นเองครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าเรื่องความฉลาดทางวิชาการหรือ Intelligent Quotient, IQ เสียด้วยซ้ำ เพราะถ้าIQสูงก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควรต้องเห็นด้วยกับผมแน่ แต่คนที่EQสูงมักจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากกว่า ทั้งในปัจจุบันและในอดีต
ในอดีตผู้ที่เป็นใหญ่ เป็นกษัตริย์ เป็นแม่ทัพ เป็นผู้ที่กุมใจไพร่พลและประชาชนทั้งปวงนั้นคือผู้ที่มี EQ สูงทั้งสิ้น ส่วนผู้ที่ IQสูงนั้นมักเป็นแค่กุนซือ ที่ปรึกษา ลองนึกถึง เล่าปี่ลูกคนทอเสื่อขาย กับจอมปราชญ์จูกัดเหลียง (ขงเบ้ง) เป็นตัวอย่าง
เมื่อไม่นานมานี้นักวิชาการชื่อ Daniel Goleman ได้ติพิมพ์หนังสือเรื่อง Emotional Intelligent โดยให้คำจำกัดความของEQไว้ว่าคือ ความสามารถในการมีความรู้สึกและอารมณ์ร่วมกับผู้อื่น มีความสามารถในการรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง สามารถอดกลั้น อดทน มีวินัย และมีความสามารถในการคบหากับคนอื่นหรือ Human Skill ซึ่งหากแยกเป็นข้อๆ จะต้องมีความสามารถดังต่อไปนี้
1. รู้จักและตระหนักได้ถึงอารมณ์ ความรู้สึกของตนเองหรือมีความสามารถในการรับรู้และระมัดระวังตนเอง
2. จัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตนเองได้
3. รู้จักจูงใจตนเอง กล่าวคือ รู้จักที่จะควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเองโดยชักจูงให้ตนเองทำในสิ่งที่ถูกที่ควรได้
4. รู้และเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น
5. มีศิลปะในการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น กล่าวคือ รู้และเข้าใจที่จะปฏิบัติต่อใคร อย่างไร ได้อย่างถูกกาลเทศะ
คนที่รู้และเข้าใจความรู้สึกของตนเองนั้นจะมีความสามารถในการนำชีวิตของตนเองให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น มีการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล และหากจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้ดีแล้ว จะเป็นผู้เครียดและท้อแท้สิ้นหวังน้อยกว่าผู้อื่น เพราะรู้จักวิธีที่จะหลุดพ้นจากความรู้สึกที่ไม่พึงปรารถนาได้
สำหรับการลงทุนเองก็เช่นกัน เพราะตลาดหุ้นขึ้นๆ ลงๆ ตามอารมณ์ของผู้เล่นส่วนใหญ่ มันเป็นเสมือนการโหวตเสียงในระยะเวลาสั้นๆ แต่ในระยะยาวแล้วมันเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักของกิจการนั่นเอง ดังนั้นหากเราควบคุมอารมณ์ความรู้สึกต่อของเราในระยะเวลาสั้นๆ ได้เราจะได้เห็นว่าในระยะยาวแล้วเครื่องชั่งจะชั่งน้ำหนักว่าบริษัทไหนมีน้ำหนักดี บริษัทไหนโกงน้ำหนัก
จากคุณสมบัติสำคัญของผู้มี EQนั้น เราจะเห็นได้ว่ามีข้อหนึ่งที่ต้องรู้และเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น และนั่นคือคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่ง เมื่อผู้คนกำลังหมกมุ่นไล่หุ้นกันอย่างบ้าคลั่ง ไร้เหตุผล เราต้องรู้และควบคุมไม่ให้เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว และคอยหาโอกาสทองจากสถานการณ์นั้น จังหวะที่ผู้คนแตกตื่นขายขายหุ้นทิ้งอย่างไร้เหตุผล เราต้องควบคุมตัวเราให้มั่นคง และเช่นเดิมหาโอกาสซื้อของดีราคาถูก ผมเองชอบสถานการณ์แบบนี้ที่สุดเลย ขอบอก!!!
เรื่อง IQ นี้มันเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับคุณตั้งแต่เกิด เลือกไม่ได้ แต่ EQ นั้นเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนเป็นประจำและอดทนถึงจะเกิดขึ้นได้
Warren Buffett กล่าวว่า "ผลสำเร็จของการลงทุน ไม่ได้เป็นสัดส่วนกับ IQ แม้แต่น้อย" และมันเป็นสัดส่วนกับอะไรละครับ?
คำตอบสำหรับผมคือ
๐คุณควบคุมให้ตัวเองศึกษาธุรกิจของบริษัทที่คุณจะลงทุนให้ได้อย่างทะลุปรุโปร่งหรือไม่
๐คุณควบคุมให้ตัวเองอดทนรอที่จะซื้อหุ้นบริษัทดีๆ ที่คุณศึกษามาอย่างทะลุปรุโปร่งในตอนที่ราคาลดกระหน่ำได้หรือไม่
๐คุณควบคุมให้ตัวเองอดทนรอที่จะให้บริษัทของคุณสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น และสะท้อนออกมาได้หรือไม่
๐คุณมีวินัยพอที่จะไม่ทำอะไรที่เสี่ยงๆ แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้หรือไม่
๐คุณทนเห็นหุ้นของคุณอยู่นิ่งๆ แต่หุ้นอื่นวิ่งแซงไปหลายช่วงตัวได้หรือไม่
๐ และ ฯลฯ
เรื่องวินัยนั้นเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการลงทุนครับ Warren Buffett เคยถูกเพื่อนๆถ้าพนันว่า หากเขาตี hold in one ไม่ได้ เพื่อนๆ จะจ่ายให้ 100 USD แต่ถ้าหากฟลุ้คตีได้เขาต้องเสียให้เพื่อนๆ 10 USD Buffett บอกว่าคิดแล้วมันไม่ควรรับข้อเสนอนี้ แม้ว่าความเสี่ยงจะต่ำ แต่โอกาสในการตี Hold in one ได้มันก็มี วิเคราะห์ไม่ได้ วัดดวงลูกเดียว ฉะนั้นไม่เอาดีกว่า เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ยังยอมได้ สักวันคงจะเผลอทำเรื่องใหญ่ๆ เข้าจนได้
ครับ...ผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนที่ผมยกมานี้ เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ความรู้สึก และรักษาวินัยอย่างเคร่งครัด แม้โอกาสที่จะได้เงินสูงมาก(Buffett เป็นคนงกมากครับ ลูกยืมเงินค่าจอดรถ 20USDแกยังให้คืนเงินแกเลย) แต่ก็ไม่ยอมเสี่ยง เพราะจะทำให้เสียนิสัย แต่เราๆ ท่านๆ ล่ะ รักษาวินัยหรือรักษากระบี่ที่ใจของคุณให้แหลมคมได้ดีอยู่หรือเปล่า
|