Cover Story





B- School





Small Biz





ถนนนักลงทุน





Local Biz





Property





ธุรกิจการตลาด





Travel Biz





Food Biz





I - Biz





Auto Biz




วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2548














บทเรียนการลงทุน 4

มนตรี นิพิฐวิทยา
Warren Buffett ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจไว้ว่า “บริษัทที่ทำกำไรได้มากๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะถูกนับว่ามีความน่าเชื่อถือสูงนั้น มักจะมีความต้องการเงินกู้เล็กๆ น้อยๆ ในขณะที่พวกที่ไม่ค่อยทำกำไรกลับต้องการเงินกู้มากมายไม่รู้จักพอ”

การวัดแนวโน้มรายได้ ไม่ได้มาจากข้อมูลการดำเนินงานเพียงไตรมาสเดียวหรือปีเดียว แต่ตราบใดที่บริษัทยังคงสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุนได้สูงต่อเนื่อง เราก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจกับผลงานเพียงระยะเวลาสั้นๆ และที่สำคัญ เราไม่ได้ทำกำไรจากการเจริญเติบโตในอดีต เรากำลังทำกำไรจากการเจริญเติบโตในอนาคต แล้วคุณๆ รู้ละเอียดแค่ไหนว่ากิจการของคุณจะเติบโตได้อย่างไรในอนาคต นั่นเป็นคำถามที่ท้าทายคุณๆ อยู่ครับ!!!

Warren เป็นคนที่ไม่ชอบความเสี่ยง และพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เขาให้ความสำคัญกับความแน่นอน เขาจะไม่ลงทุนในที่ซึ่งจะต้องเผชิญกับความเสี่ยง และจะไม่เป็นการเสี่ยงเลยหากคุณซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าของมัน และสุดท้ายเรื่องความเสี่ยงคือ

“ความเสี่ยงเกิดขึ้นจากการขาดความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ไม่ใช่ความผันผวนของราคาหุ้น”

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอุปนิสัยในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่น่าสนใจของ Warren ดังนี้ Warren เคยออกไปเล่นกอล์ฟกับเพื่อนๆ จนเพื่อนๆ อยากจะลองพนันกับเขาดู โดยบอกว่าจะให้เงิน 100 ดอลลาร์ หากว่าเขาตีลูก hold in one ไม่ได้ แต่ถ้าเขาตีได้เขาต้องเสียให้เพื่อนๆ 10 ดอลลาร์ Warren ไม่รับการพนันนั้น แม้จะเป็นเงินที่เขาน่าจะได้มากกว่าเสีย เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เราจะต้องควบคุมมันให้ได้ ถ้าเรายอมกับเรื่องเล็กๆ บ่อยๆ นิสัยเราจะเสีย และจะเผลอทำในเรื่องใหญ่ๆ เข้าสักวันจนได้ จัดว่า Warren รักษาวินัยของเขาอย่างจริงจังจริงๆ

การเลือกธุรกิจที่เราจะลงทุนนั้น ไม่ใช่แค่เราหาธุรกิจดีๆ ได้สักธุรกิจหนึ่ง แล้วเราก็เอาเงินซื้อหุ้นกิจการนั้นๆ เลย บางครั้งเราต้องรอโอกาสงามๆเช่นกัน ไม่เช่นนั้นคุณจะได้ “ธุรกิจที่ดีในราคาที่แพง” ซึ่งอาจไม่ใช่การลงทุนที่ดีก็ได้ การซื้อ “หุ้นกิจการที่ดีในราคาที่เหมาะสม” ต่างหาก เป็นการลงทุนที่ดีและปลอดภัย

“โอกาสในการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ มักจะเกิดขึ้นเมื่อกิจการที่ดีถูกห้อมล้อมไปด้วยสถานการที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นเหตุให้มูลค่าของกิจการนั้นถูกประเมินอย่างผิดพลาด”

ในบ้านเราเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นบ่อยมาก ไม่ว่าการปั่นหุ้น การทุบหุ้น การแตกตื่นจากข่าวต่างๆ ที่เข้ามากระทบ การให้ความสนใจกับผลดำเนินงานในระยะสั้นๆ ทั้งหมดนั้นเราต้องอดทนรอคอยครับ และในที่สุดคุณจะรู้ว่าใครแก้ผ้าว่ายน้ำ ก็ตอนน้ำลดนั่นแหละ จริงไหม?

ในเรื่องหนี้สินของบริษัทที่มากเกินไป Warren เรียกเงินกู้ที่มากเกินไปว่า ดาบสั้นสองคมที่ผูกติดกับพวงมาลัยของกิจการ และมันจ่อตรงไปที่หัวใจของกิจการนั้นด้วย และเรื่องนี้เขาบอกว่า “คุณอาจขับรถตกหลุมเข้าสักวัน” และอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องนี้พวกเราคนไทยได้ลิ้มรสกันมาแล้วคงไม่ต้องอธิบาย เพราะเราขับรถตกเหวกันเลยก็ว่าได้!!!

ในเรื่องของความอดทน ซึ่งมักจะเป็นจุดอ่อนของนักลงทุนส่วนมากก็ว่าได้ Warren กล่าวตอบผู้ถือหุ้นว่า ทำไมไม่สามารถลงทุนได้อย่างเขา เขาบอกว่า เขาพูดเรื่องการลงทุนมาแล้วสามสิบกว่าปี แต่ไม่ค่อยมีใครทำตามได้ เพราะมีความอดทนต่อสิ่งเร้าไม่พอ เรื่องอย่างนี้เราก็รู้ๆ กันอยู่ เป็นกันอยู่ทุกคน เวลาหุ้นที่คิดว่าดีตก กลับรีบขายก่อนเพราะกลัวจะขาดทุน แต่ไม่ได้ดูให้รอบคอบว่าจริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะในบ้านเราที่คนส่วนใหญ่ขี้ตกใจเสียด้วยซิ ดังนั้นอย่าลืมว่า คุณจะรู้ว่าใครแก้ผ้าว่ายน้ำ ก็ตอนน้ำลดนั่นแหละ

และก็อีกเช่นกัน หากหุ้นใดหุ้นหนึ่งขึ้น คนส่วนใหญ่มักจะเข้าร่วมไล่ราคา แต่ถ้าหากเราไม่รู้ว่าหุ้นนั้นควรจะมีมูลค่าเท่าไร ก็ควรจะปล่อยมันไป และคุณจะไม่มีโอกาสพลาด แต่ถ้าคุณอดทนต่อสิ่งเร้านั้นไม่ได้ แล้วดันเข้าไปร่วมวงกับเขา ถ้าโชคดีคุณอาจจะชนะ แต่ถ้าพลาดคุณอาจแย่ได้ จำเรื่องบ้านฟ้า (NCH) ที่กลายเป็นบ้านผีสิงกันได้หรือเปล่าครับ

ในเรื่องนี้ Warren กล่าวว่า “คุณจะทำสิ่งต่างๆ ได้เมื่อโอกาสมาถึง ผมเคยมีช่วงที่มีความคิดดีๆ มากมาย และช่วงที่ไม่มีความคิดอะไรใหม่ๆ เลย หากผมมีความคิดดีๆ สักเรื่องในอาทิตย์หน้า ผมจะเริ่มทำอะไรบางอย่าง แต่ถ้าผมคิดอะไรไม่ออก ผมจะไม่ทำอะไรอย่างไร้สติแน่นอน”

เอาละ !!! ทีนี้มาดูกันซิว่า เวลาคุณซื้อหุ้นนั้น คุณคิดด้วยตัวคุณเองหรือไม่ ผมพบคนหลายคนและได้ถามเขาว่า หุ้นที่เขาถือดีอย่างไง ผมได้คำตอบที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ จะตอบว่า นักวิเคราะห์บอกว่าดี ดีอย่างโน้นอย่างนี้ เอาละวิธีนี้ยังดีหน่อยที่ยังได้รับฟังข้อมูลบ้าง บางรายตอบว่าเพื่อนๆ บอกว่าดี และบางรายซื้อตามคนอื่น บางคนแอบมาถามผมว่า ผมสนใจหุ้นอะไรอยู่ จะตามไปศึกษา คุณเชื่อไหมว่า

“อย่าถามช่างตัดผม ถ้าคุณต้องการตัดผม”

เพราะช่างตัดผมจะตัดผมให้คุณแน่ๆ ไม่ว่าผมคุณจะยาวหรือไม่ยาวพอที่ควรจะตัด มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ขัดแย้ง ผมมักจะไม่ค่อยบอกใครว่าทำอะไรอยู่ เพราะผมกลัวเรื่องผลประโยชน์ขัดแย้ง แต่คุณเชื่อไหม ยิ่งไม่บอก เขายิ่งอยากรู้ หลังๆ ผมจะบอกว่าแทนที่จะให้ผมบอกก็เอาเงินมาให้ผมไปลงทุนเองเลยไม่ดีกว่าหรือ รับรองว่าคุณจะได้เหมือนอย่างที่ผมได้แน่นอน ไม่ว่ากำไรหรือขาดทุน แต่ต้องจ่ายค่าความคิดกลับผมนะ

เพราะว่า “ด้วยเงินของคุณ และความคิดของผม เราจะไปกันได้สวย” ฉะนั้นการสรรหาหุ้นดีๆ ควรจะคิดด้วยตัวคุณเองครับ คุณต้องศึกษาและตอบคำถามให้ได้ทุกข้อ มิฉะนั้นแล้วเอาเงินให้คนอื่นเขาไปบริหารดีกว่า

ผมเองก็จัดว่าเป็นคนที่ไม่เชื่อนักวิเคราะห์ และไม่เคยซื้อหุ้นตามนักวิเคราะห์คนไหนเลย เพราะผมต้องการจัดการกับเงินของผมเอง ถ้าผมเชื่อพวกเขา ผมคงเอาเงินให้เขาไปจัดการแทนแล้วละ

ในเมื่อจะต้องเลือกหุ้นด้วยตัวเองแล้ว เราควรจะต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสมเสียหน่อย Warren ให้ข้อเสนอแนะกับนักลงทุนอิสระว่า

“คุณควรจะมีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจ และภาษาของธุรกิจ(บัญชี) มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เรื่องธุรกิจ และที่สำคัญคือคุณภาพของสภาวะจิตใจของคุณซึ่งแท้จริงแล้วสำคัญกว่า IQ เสียอีก สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมีความคิดเป็นของตัวเอง และหลีกเลี่ยงความตื่นตระหนกของคนจำนวนมากที่มีในหลายรูปแบบ และที่ได้สร้างปัญหาให้กับตลาดหุ้นเป็นระยะๆ เรื่อยมา”

ผมว่าแค่นี้ก็เป็นหัวใจทั้งหมดของการลงทุนแล้วครับ ความเข้าใจหลักการสำคัญๆ ทางบัญชีเป็นอย่างดีนับเป็นเครื่องมือหนึ่งในการป้องกันตนเอง หากผู้บริหารที่คิดจะทำมิดีมิร้ายกับบริษัทของคุณ โดยให้ข้อมูลแก่คุณ เขาจะต้องทำได้ด้วยการใช้กฎเกณฑ์ทางบัญชีเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับพวกเขา ซึ่งเราก็เห็นอยู่บ่อยๆ แต่เราไม่ค่อยสนใจมัน ดังนั้นหากคิดจะอยู่ในตลาดหุ้นแล้วประสบความสำเร็จ คุณจะต้องมีความรู้ความเข้าใจพอที่จะแยกแยะมันได้ มันไม่ได้ยากจนเกินไปหรอก ถ้าเราจะต้องเรียนรู้อะไรบางอย่างเพื่อให้เราประสบความสำเร็จ แต่น้อยคนที่คิดแบบนี้นะ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม

มีคำกล่าวเสียดสีเกี่ยวกับนักลงทุนที่ Warren กล่าวได้แสบมากครับ “ตลาดหุ้น เป็นสถานที่เดียวที่คนขับรถโรลส์รอยซ์ เพื่อมาฟังคำแนะนำของคนที่เดินทางมาด้วยรถไฟใต้ดิน” สำหรับบ้านเราแล้ว ตลาดหุ้นเป็นสถานที่ที่มีจอมปลวกมากที่สุด ถ้าอาคารตลาดหลักทรัพย์ทำด้วยไม้ มันคงถล่มลงมานานแล้วแน่ๆ คุณว่าไหม?

เมื่อครั้งที่เพื่อนผมจะแต่งงาน พ่อของเขาซื้อรถคันใหม่ให้ เป็นรถหรูมากใช้เกียร์อัตโนมัติ บังเอิญเจ้านี่มันขับเป็นแต่รถเกียร์ธรรมดา(เท้ามันช่าง ไม่ไฮโซ เอาซะเลย) มันบอกผมว่าให้ผมช่วยมาเป็นพลขับในวันส่งตัวหน่อย เพราะว่าเห็นผมขับรถเกียร์อัตโนมัติได้คล่อง เขาไม่อยากให้งานสำคัญของเขาพลาดเพราะเกียร์อัตโนมัติ

เจ้าเพื่อนผมคนนี้มันช่างรอบคอบมาก เพราะเรื่องที่ไม่ถนัดไม่ยอมเสี่ยงแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว แต่มันดันเจ๊งหุ้น เพราะดันไปซื้อหุ้นในกิจการที่มันไม่เข้าใจเอาเสียเลย ไม่อย่างนั้นมันคงมีเงินซื้อรถเกียร์ธรรมดามาขับเองแล้วครับ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทำแต่สิ่งที่คุณมีความถนัดหรือเข้าใจมันจริงๆ “การลงทุนจะต้องมีเหตุผล หากคุณไม่สามารถเข้าใจมันได้ก็อย่าไปลงทุนกับมัน”

มนตรี นิพิฐวิทยา นักลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นกว่า 10 ปี และเป็นผู้ก่อตั้งเวบไซต์ Thaiinvestor.com จะแนะนำกลวิธีการลงทุนแบบเจาะลึกถึงแก่นแท้ในสไตล์ "Value Investor " ผ่านคอลัมน์นี้"


About Us I Suggestion I Site Map I GetThaiFont | Contact Us I Privacy Policy
copyright @ 2004 Nation Group / Produced & Designed by : KT Internet Dept.