Post new topic Reply to topic  [ 26 posts ] 
Author Message
 Post subject: ตลาดหุ้นใน'มุมมองใหม่'ของ'เสือเก่า'('เสี่ยยักษ์' วิชัย วชิรพ
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 8:33 am 
Regular
User avatar

Joined: Wed Jun 23, 2010 7:01 pm
Posts: 1353
Location: golden peninsula

Offline

0
Vote this post upVote this post down
ทัศนะของเซียนหุ้น (ที่ไม่ได้รวยมาจาก VI ) ต่อ VI  

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%B2.html

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... 19/358021/ตลาดหุ้นใน-มุมมองใหม่-ของ-เสือเก่า.html


ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 19 ตุลาคม 2553 01:00
ตลาดหุ้นใน 'มุมมองใหม่' ของ 'เสือเก่า'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

Image

ชีวิตในวัย 55 ปี ของ 'เสี่ยยักษ์' วิชัย วชิรพงศ์ เขาอาจเป็น 'เสือแก่' ในสายตาหลายคน แต่สัญชาตญาณของ 'เสือเก่า' ย่อมไม่มีวันทิ้ง 'ลาย'

เขาวิเคราะห์ทฤษฎีเล่นหุ้นบน 'สถานการณ์ใหม่'

แม้ความเป็น "นักฆ่า" ของ "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ จะลดน้อยถอยลง นาทีนี้เจ้าตัวยอมรับว่าแนวทางของ "แวลูอินเวสเตอร์" (วีไอ) มาถูกทาง และเป็นกลุ่มที่ "ทรงพลัง" ในตลาดหุ้น สมัยก่อนกลุ่มวีไอยังเล็กแต่วันนี้ได้ขยายเป็นกลุ่มใหญ่มีเครือข่ายคนเล่นหุ้นในแนวทางนี้จำนวนมาก มีการทำคอมพานีวิสิท (เข้าพบผู้บริหาร) และเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก

เซียนหุ้นพันล้าน บอกว่า แท้ที่จริงแล้วทฤษฎีการเล่นหุ้นไม่ได้เปลี่ยน สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ "สถานการณ์"    

"หุ้นตอนนี้ทุกคนก็รู้ว่าเงินต่างชาติไหลเข้ามา แต่คนเล่นหุ้นวิธีคิดมันเปลี่ยนอีกแล้วคือกองทุนรวมบ้านเราคุมตลาดอยู่หมด ทั้ง LTF, RMF เงินแต่ละปีไหลเข้าตลาดหุ้นเยอะมาก ฝรั่งขาย 60,000 ล้านหุ้นไม่ตกเยอะ ผมใช้ประสบการณ์ (เก่า) มองว่าตลาดหุ้นเละแน่ ที่ไหนได้กองทุนในประเทศรับแรงขายได้หมด"

ณ เวลานี้ที่เงินบาทแข็ง ยังมีเงินต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลเข้ามา สังเกตดูซิว่าหุ้นไม่ปรับตัวลงมาก เล่นหุ้นปีนี้คนที่ "ซื้อเก็บ" จะได้กำไรเยอะ แต่ใครที่ซื้อๆ ขายๆ กำไรไม่เยอะ ยิ่งมาเล่นหุ้นช่วงท้ายๆ ตอนที่หุ้นขึ้นมาเยอะแล้ว เล่นขาดทุนมากกว่ากำไร

"วิธีคิดมันต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ต้องกลับมาทบทวนตัวเอง ผมยังยึดประสบการณ์และความเชื่อเดิมๆ มองตลาดผิดคิดว่าเสื้อเหลืองเสื้อแดงมันไม่จบ เมื่อเรามองตลาดไม่ดีก็ไม่เล่น มาเล่นตอนที่หุ้นขึ้นมาสูงแล้วก็มีกำไรแต่ไม่มาก ได้สัก 20% คนอื่นเขาได้ 100-200% ถ้าเล่นตัวเล็ก JAS, TRUE กำไรหลายเท่า พอกลับมาซื้อสไตล์ผมต้องซื้อหุ้นที่ "แลคการ์ด" (ยังขึ้นไม่มาก) ผมไปเต็ง BANPU แต่ขึ้นไม่เยอะ ชอบ PTT แต่ปัญหามาบตาพุดยังไม่จบ ราคาน้ำมันก็ไม่สูงเหมือนรอบโน้น หุ้นในดวงใจผมรอบนี้ PTTEP ก็เจอเรื่องจ่ายเงินชดเชยให้รัฐบาลอินโดนีเซียก็ยังไม่ชัด"

เสี่ยยักษ์ยกตัวอย่างหุ้น CPF ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นบทเรียนที่ล้ำค่ามากในรอบนี้ ผมไม่เล่นหุ้น "กลุ่มซีพี" เพราะมีความเชื่อมาตลอดว่าไอคิวเราสู้เจ้าสัวไม่ได้ ตรงนี้วิธีคิดมันเปลี่ยนอีกแล้วสมัยก่อนเจ้าสัวแก "ค้ากำไร" แต่สมัยนี้แกเปลี่ยนมา "ค้าหุ้น" พอกลุ่มซีพีเขาเปลี่ยนวิธีคิด ปีนี้ (2553) ฟอร์บส์จัดอันดับเจ้าสัวธนินท์รวยที่สุดในประเทศไทยเลยเห็นมั้ย (มูลค่าทรัพย์สิน 2.17 แสนล้านบาท) ตรงนี้ถือเป็นบทเรียนสอนตัวเองว่า "อย่ายึดติดไอเดียเดิมๆ"

"เจ้าสัวแกฉลาดรู้ว่าตลาดกำลังฮิตหุ้นโมเดิร์นเทรดก็หันมาทำตรงนี้ (CPF, CPALL) ปกติหุ้นซื้อขายพี/อี 8 เท่า พอเปลี่ยนมาเป็นหุ้นโมเดิร์นเทรดไปซื้อขายกันที่พี/อี 15-20 เท่า นี่เพราะว่าเขาเปลี่ยนวิธีคิด หุ้น CPF ขึ้นมา 5 เท่าตัว ผมไม่ได้เข้าตั้งแต่แรกจะให้มาซื้อตอนนี้ก็ไม่กล้าซื้อ จุดตรงนี้ที่ผมนำมาใช้เป็นอุทาหรณ์ ที่ไม่ซื้อเพราะความคิดของเรามันไม่เชื่อ ก็เสียโอกาส"

ที่จริงตอนหุ้น CPF อยู่แถวๆ 6-7 บาท ผู้บริหารซีพีเอฟไปนั่งบรีฟข้อมูลให้นักลงทุนรายใหญ่ฟังบางคนรวยเละแต่เสี่ยยักษ์ไม่ซื้อตาม "ใจผมมันไม่เชื่อ" อีกอย่างเที่ยวนี้เราเข้าทีหลัง (ต้นทุนสูง) เลยต้อง "ออกก่อน" ที่จริงมองตลาดผิดตั้งแต่ 600 กว่าจุดคิดว่ามันจะลง พอจะกลับมาซื้อหุ้นขึ้นไปเยอะแล้วก็ไม่กล้าบุก "สไตล์ผมถ้าเข้าทีหลังต้องรีบออกก่อนเพราะต้นทุนเราเสียเปรียบ" รอบนี้ถึงได้กำไรไม่เยอะ

"รอบนี้ เสี่ยปู่ (สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล) น่าจะได้กำไรเยอะเพราะรอบนี้เขา "ถือพอร์ต" ส่วน ทพ.ยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม (หมอยง) เท่าที่รู้เขาเล่นหุ้นน้อยลงแล้ว รายใหญ่คนอื่นๆ ตอนนี้ก็ถอยกันเยอะแล้วนะ"

เมื่อรู้ตัวว่า "ตกรถไฟ" เซียนหุ้นรายนี้ก็ไม่ดันทุรังจะเอาชนะเพราะนั่นคือหนทางนำไปสู่หายนะในอนาคต เพราะคุณไม่สามารถรบชนะทุกรอบในทุกสถานการณ์ ถ้ารู้ว่าเราพลาดต้อง "ตั้งรับ" ไม่ใช่เล่นเกม "บุก"  

ถ้าเป็นนักลงทุนคนอื่นเขาจะเล่นหุ้นแบบ "นักปีนเขา" หุ้นขึ้นก็ปีนขึ้น หุ้นขึ้นไปอีกก็ปีนขึ้นไปอีก แต่สำหรับผมเป็นพวก "แคมป์เปอร์" เราอยู่บนเขา..หุ้นอยู่บนที่สูง ผมจะกางเต็นท์นอนดูวิว ไม่รีบร้อน ผมเป็น "นักเดินทาง" ไม่ใช่นักปีนเขา การเป็นนักเดินทางเราต้องใจเย็นๆ

ในมุมมองของผมยังเหมือนเดิม การเป็นนักลงทุนที่ดี  "คุณต้องรอจังหวะ"  ไม่ว่าคุณจะเป็นวีไอ หรือนักเก็งกำไร ทุกอย่างมันมี Cycle (วงจร) ของมัน อย่างตอนนี้หุ้นอยู่บนที่สูงตามหลักการแล้ว "คุณต้องเล่นน้อย" ทุกคนบอกว่าหุ้นจะไป 1,000 จุด บอกตรงๆ ผมเองยังไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือจะลง ที่อเมริกาแรงงาน 10 คนตกงาน 1 คน แต่หุ้นดาวโจนส์ก็ไม่ตกไม่รู้จะวิเคราะห์อะไร เพราะฟันด์โฟลว์มันเยอะเงินไม่มีที่ไปแต่ไม่มีใครบอกได้ว่าเงินพวกนี้มันจะออกไปวันไหน"

แต่บอกได้ว่า ณ เวลานี้เล่นหุ้นยาก ตัวเล็กๆ เริ่ม "กัด" รายใหญ่ "ล้างท่อ" หมดแล้ว หุ้นหลายๆ ตัวที่ถูกทุบลงมาราคามัน "ช้ำ" กลับขึ้นไป "ยาก"

สถานการณ์ใหม่อีกอย่างคือทุกวันนี้ "ราคาหุ้นมันนำความคิดคน" ไม่ใช่ความคิดนำราคาหุ้นเหมือนสมัยก่อน พอหุ้นขึ้นก็หา "ข้ออ้าง" ตามหลัง หุ้น PTTEP ที่มันขึ้นเพราะตกลงกับรัฐบาลอินโดนีเซียได้แล้ว พอหุ้นขึ้นอีกก็บอกว่าเห็นมั้ย! "จริงชัวร์" หรือพอหุ้นแพงก็อ้าง "ฟอร์เวิร์ดพี/อี เรโช" บอกว่ากำไร (อนาคต) มันจะโตเท่านั้นเท่านี้ แล้วสรุปว่า "ราคายังถูก..ซื้อได้" แต่วันหนึ่งมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ มุมมองแบบนี้บางสถานการณ์มันถูก แต่ไม่ใช่ในทุกสถานการณ์  

เซียนหุ้นพันล้านกลับมาที่คำถามว่าแล้วทฤษฎีการเล่นหุ้นที่ดีที่สุดช่วงนี้เป็นอย่างไร คำตอบก็คือทฤษฎีไม่เคยล้าสมัย ที่ล้าสมัยคือ "ความคิดคน"

"สำหรับผมจุดมั่นใจที่สุด ก็คือ จุดที่อันตรายที่สุด และจุดอันตรายที่สุด ก็คือ จุดที่ปลอดภัยที่สุด ตอนนี้ที่ทุกคนมั่นใจก็คือ "จุดอันตราย" สำหรับผมยังเล่นหุ้น "เป็นรอบ" ผมจะบอกให้ว่าจุดที่อันตรายที่สุดช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานตรงนั้นแหละ "น่าซื้อหุ้นที่สุด" ถ้าคุณรู้สึกว่าตอนไหนที่ "หุ้นแพง" คุณก็ต้อง "เล่นน้อย" นี่คือหลักการลงทุน (ที่ไม่เคยล้าสมัย)"

เขาสรุปว่า  ช่วงที่เกิดวิกฤติ คือ ช่วงที่น่าซื้อหุ้นที่สุด ยกตัวอย่างการบินไทยตอน 7-8 บาท คนไม่มาเที่ยว อะไรก็แย่หมดประเทศนี้ไม่มีความหวังมีแต่ข่าวร้าย ที่ที่น่ากลัวที่สุดตรงนั้นแหละปลอดภัยที่สุด ถ้าจะมาถามหาหุ้นในดวงใจแถวดัชนีใกล้ๆ 1,000 จุด ตอนนี้จะไปหาอะไร เล่นหุ้นตอนนี้ต้อง "ซูเปอร์ ซีเล็คทีฟ" (เฟ้นหาสุดๆ) หุ้นแพงไม่แปลก แต่มันควรจะมีการปรับฐานบ้างที่ผ่านมามันลงน้อย ตรงนี้ที่ "ผมกลัว"

เซียนหุ้นพันล้านแนะนำว่า มือใหม่ต้องใช้จังหวะนี้อ่านหนังสือเยอะๆ ศึกษาข้อมูลให้มากๆ  ศึกษาเทคนิเคิลเยอะๆ ไปฝึกวิธีคิดให้เก่งๆ เวลานี้เห็นเด็กหนุ่มมาเปิดบัญชีเล่นหุ้นเต็มไปหมด "ผมว่าน่าเป็นห่วงนะ" ช่วง 1-2 ปีนี้ (2552-2553) อาจจะดีสำหรับคุณหรือคุณเห็นว่าดี แต่ปีหน้า (2554) ไม่แน่ วันหนึ่งถ้าตลาดพังขึ้นมาคุณจะทำอย่างไร  

"ชีวิตตอนนี้อะไรที่ทำแล้วมีความสุขผมจะทำ เป้าหมายของชีวิตคืออะไร สุดท้ายเราต้องขึ้นไปไหว้พระบนภูเขา คุณต้องตาย (เอาอะไรไปไม่ได้) คุณมีกระบุงใบหนึ่งแบกอยู่ข้างหลังเดินขึ้นเขา คุณจะเก็บดอกไม้ (หาความสุข) หรือจะเก็บหินใส่ (แบกทุกข์ขึ้นไป) มีเพื่อนรุ่นพี่ผมคนหนึ่งเขามีเงินเป็นพันล้าน เขาขายที่ดินมรดกที่ถนนเพลินจิตได้เงินมา 1,500 ล้านบาท มาถามผมจะเอาเงินไปลงทุนอะไรดี"

ผมบอกพี่..พี่สบายแล้วพี่ยังจะเก็บหินใส่หลังเดินขึ้นไปไหว้พระบนภูเขาอีกเหรอ ชีวิตมาขนาดนี้แล้วคุณจะเอาอะไรอีก แกซื้อรถสปอร์ต 3 คัน ผมบอกพี่พอแล้วไม่ควรซื้ออีกแล้ว แกมาชวนผมให้ลงทุนโน่นลงทุนนี่ ผมบอกว่าพี่นี่มันไม่ใช่แล้ว "พี่ผิดทางแล้วรู้มั้ย"  ชีวิตผมปฏิญาณแล้วว่าจะไม่เป็นหนี้ ผมจะเก็บดอกไม้ ผมไม่เก็บหินใส่กระบุง"

ชีวิตของเซียนหุ้นรุ่นใหญ่วัย 55 ปี ไม่มีคนขับรถ ไม่มีมาด กินง่ายๆ มองจากการแต่งตัวเผินๆ (วันนั้น) สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวปล่อยชาย นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้ากีฬา ไม่ใส่เครื่องประดับ ถ้าเดินสวนกันแทบไม่มีใครรู้ว่าเขาคือ "เศรษฐีพันล้าน" มีทรัพย์สินมูลค่านับพันล้านบาทที่เป็น Net Asset โดยไม่มี "ตัวแดง" ในบัญชี  

เซียนหุ้นพันล้าน สรุปว่า ชีวิตอย่างนี้ต่างหากที่โลก (คน) ต้องอิจฉา สมัยก่อนคนเลิกเล่นหุ้นได้มี 2 ประเภท คือ "ตาย" กับ หมดตัว แต่ผมจะเป็นคนแรกที่ทำให้เห็นว่าเลิกเล่นหุ้นเพราะ สมควรแก่เวลา ถึงตอนนี้จะหนีตลาดหุ้นไปไม่พ้นแต่ก็เล่นน้อยลงเยอะ

"ถ้าผมแน่จริงจะต้องกลับขึ้นไปมีพอร์ตเป็นพันล้านได้ ถ้ากลับไปไม่ได้ข้างหลังเรายังเหลืออีกเยอะ" เขาจบบทสนทนาก่อนเดินฝ่าเปลวฝนหิ้วขนมเค้กร้านอร่อยติดมือ เดินกึ่งวิ่งขึ้นคอนโดหรูริมถนนสาทรหายไปในเงามืด นี่คือบทสรุปของคนที่เรียกตัวเองว่า "นักเดินทาง" วิชัย วชิรพงศ์


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 8:34 am 
Regular
User avatar

Joined: Wed Jun 23, 2010 7:01 pm
Posts: 1353
Location: golden peninsula

Offline

0
Vote this post upVote this post down
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... 2%E0%B8%99)-%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99.html
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... 11/356934/ชีวิตเกษียณ-เซียนหุ้น(พันล้าน)-มุ่งสู่ความยั่งยืน.html

ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 11 ตุลาคม 2553 02:00
ชีวิตเกษียณ 'เซียนหุ้น'(พันล้าน) มุ่งสู่ความยั่งยืน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


Image

ชีวิตในวัย55 ของ 'เสี่ยยักษ์' วิชัย วชิรพงศ์ เซียนหุ้นพันล้าน หลังผ่าน'จุดพีค'ในตลาดหุ้น เจ้าตัวเริ่ม Diversify ทรัพย์สินมุ่งสู่ความยั่งยืน

แม้อาชีพการเล่นหุ้นไม่มี "วัยเกษียณ" เหมือนข้าราชการ แต่ผู้กำศึกมาอย่างยาวนานจากทุนรอนในกระเป๋า 2 ล้านบาท ไต่ระดับความสูงสู่พอร์ตหุ้นหลัก "พันล้านบาท" ย่อมมีวัน "ล้า" แม้เขายังจากตลาดหุ้นที่เต็มไปด้วย "น้ำผึ้ง" และ "ยาพิษ" ไปไม่ได้ "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ ค่อยๆ ลดพอร์ตตัวเองลงเหลือระดับ "ร้อยล้านบาท" และพยายาม Diversify ทรัพย์สินมุ่งสู่ความยั่งยืนระยะยาว นั่นคือการสะสมที่ดินและลงทุนอสังหาริมทรัพย์

ความเป็น "นักฆ่า" ของเรามันหมด สมัยก่อนพร้อมจะสู้พร้อมจะบุก เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะ จากนี้ไปผมคงจะถือหุ้นเท่าที่มีอยู่เพราะหุ้นมันไม่ได้ปรับตัวลงแรง ใครๆ ก็ "เสียว" พร้อมกับยอมรับว่า ตอนนี้หาหุ้นในดวงใจไม่ได้ หุ้นบางตัวขึ้นมา 100-200% จะให้ไปรักมันได้ยังไง มันผิดวิสัยการลงทุน

วันนี้มีทรัพย์สินสักกี่พันล้านแล้ว! คำถามที่กรุงเทพธุรกิจ BizWeek อยากรู้เหมือนกับใครหลายคน "เฮ้ย! ไม่เอา บอกไปเดี๋ยวอันตราย" ชายวัย 55 ปีที่วันนี้ดูฟิตเปรี๊ยะกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วมาก ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาดูแกร่งขึ้นเพราะลดอาหารจำพวก "แป้ง" ลง และหันมาว่ายน้ำฟิตร่างกายอย่างหนัก

"คนเราถ้าพยายามจะทำอะไร ถ้าถึงที่สุดแล้วจะเป็นอะไรก็ไม่เสียใจ" ที่จริงเสือเก่าเขียนแผนงาน (ไดอารี่) ประจำปีที่จะต้องทำให้สำเร็จภายในปี 2553 ต้องลดน้ำหนักให้ได้ 2 กิโล และเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุนแต่ก็ดูจะ "พลาดเป้า" ผ่านมาแล้ว 3 ไตรมาสยังทำไม่ได้ทั้ง 2 อย่าง      

ระหว่างที่บทความชิ้นนี้ออกเผยแพร่ เสี่ยยักษ์คงกำลังขี่ฮาร์เลย์ เดวิดสัน เที่ยว "แอลเอ" อย่างมีความสุข ขณะที่เจ้าตัวเผยความในใจว่า การที่ได้ควบฮาร์เลย์ใส่เสื้อหนังฝ่าเปลวแดดอันแสนร้อนระอุบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ การถือหุ้น 500 ล้านบาทไว้ในพอร์ตยังไม่ตื่นเต้นเท่า

หลายเดือนมาแล้วที่เซียนหุ้นพันล้านหันมา "เห่อ" ควบเจ้าฮาร์เลย์ เดวิดสัน หนึ่งในความฝันที่แทรกแทนที่เฟอร์รารี่สีแดงคันงามราคาหลายสิบล้านที่จอดทิ้งไว้เพราะกลัว "น้ำ" ช่วงหน้าฝน ตลาดหุ้นเริ่มกลายเป็น "งานอดิเรก" มากกว่าเป็น "อาชีพหลัก" สมัยก่อนที่จ้องหน้าจอเคาะหุ้นแบบเอาเป็นเอาตาย..วันนี้เขามีเวลาทำตามความฝันมากขึ้น

"บางวันเดินเข้าห้องน้ำเอาน้ำลูบหน้าตัวเอง มองกระจก วันนี้ (กู) ซื้อหุ้นอะไรไม่ได้สักตัว" พลังไฟของเซียนหุ้นพันล้านเริ่มสัมผัสกับสัญชาตญาณ "เสือแก่" นาทีนี้เจ้าตัวขอหลีกทางให้กับ "แวลูอินเวสเตอร์" ที่มาแรงแซงทางโค้งกำไรกัน 200-300% สำหรับปีนี้ยอมรับว่าตัวเองมองตลาด "ผิด" คิดว่าการเมืองคงไม่จบง่ายๆ ตอนนี้เล่นหุ้นน้อยลงเยอะ (มาก) เหลือประมาณ 1 ใน 3    

เสือเก่าแห่งตลาดหุ้นค่อยๆ ถอด "เขี้ยวเล็บ" เริ่มเข้าสู่ "วัยชรา" ของวงจรตลาดหุ้นที่มีเซียนหุ้นรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบทุกวัน  เขายอมรับโดยดุษณีว่าคลื่นลูกใหม่ในวงการนี้กำลังมาแทนที่คลื่นลูกเก่า

"ผมมันเป็นพวกเซียนหุ้นรุ่นสุดท้ายแล้วล่ะ เว็บไซต์ PANTIP ก็ไม่เคยเข้า ประชุมผู้ถือหุ้นก็ไม่ไป คอมพานีวิสิท (ไปเยี่ยมชมกิจการ-สัมภาษณ์ผู้บริหาร) ก็ไม่ไป เล่นหุ้นอ่านหนังสือพิมพ์แค่วันละ 3 ฉบับ ที่ยังเหลืออยู่และเหนือกว่าคือประสบการณ์"

เขาบอกแม้ความเป็น "นักฆ่า" จะไม่เหมือนเดิม แต่สัญชาตญาณของ "เสือเก่า" ยังไม่หมด เมื่อไม่นานมานี้ช่วงชุลมุน 3จี เสี่ยยักษ์ใช้จิตวิทยาการลงทุนหยิบกำไรหุ้น ADVANC ไปเหนาะๆ 8 ล้านบาทจากการเล่น "สวนทางตลาด" และถือ N-PARK เพียง 2 วันกำไรไป 10 ล้านบาท

"ผมเล่นมันๆ มากกว่า หุ้น N-PARK วันนั้นอยู่ที่ 0.3 บาท หลานผมดูงบไตรมาส 2/2553 บอกว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท ที่จริงไม่ได้เป็นกำไรจากการดำเนินงานแต่รับรู้กำไรจากการขายโรงแรมโนโวเทลบีช รีสอร์ท พันวา ภูเก็ต เราก็คิดว่าเอ็นพาร์คมันขาดทุนมาตลอด ถ้าประกาศกำไรอย่างนี้ก็เล่นได้ ตอนนั้นมันมี Offer (เสนอขาย) ราคา 0.4 บาท อยู่ประมาณ 1,000 ล้านหุ้น ผมเคาะขวาซื้อ 500 ล้านหุ้น ใช้เงินไป 20 ล้านบาท ไปขายที่ 0.6 บาท เล่น 2 วันได้กำไร 10 ล้านบาท"

เสี่ยยักษ์ บอกว่า ความเป็นนักเลงเก่ายังมีอยู่ แต่สไตล์โบราณมากๆ ไม่มีทางจะไปสู้คนอื่นเขาได้ ทุกวันนี้เหลือเล่นแต่ตัวใหญ่ๆ ไม่กี่ตัว PTT, PTTEP, BANPU
"ผมว่าผมเป็นนักลงทุนรุ่นสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ในตลาดหุ้น" เจ้าตัวยอมรับ

ช่วงที่ผ่านมาเสี่ยยักษ์ลบชื่อตัวเองออกจากพื้นที่ข่าว หลังมีชื่อย่อ "ย" เป็นผู้ปล่อยข่าวอัปมงคล เพื่อหวังผลประโยชน์จากการ "ทุบหุ้น-ปั่นหุ้น" เมื่อวันที่ 14-15 ตุลาคม 2552

"ตอนนั้นผมโดนหนักถูกทำร้ายจิตใจมาก ผมไม่คุยกับใครเลย อยู่เงียบๆ เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ ชีวิตผมมาถึงจุดนี้เราเกินพอแล้ว ไม่มีทางทำเรื่อง (เลวๆ) แบบนี้"

เมื่อไม่นานมานี้ ชื่อวิชัยโผล่ในนามนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่ เป็นเจ้าของ บริษัท อัครวิชัย พัฒนา จำกัด พัฒนาที่ดิน 120 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.19 อำเภอบางพลี ที่เขาซื้อไว้เมื่อปลายปี 2552 ทำธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้าให้เช่า รวมทั้งเป็นเจ้าของที่ดิน 56 ไร่ ติดชายทะเลระยอง ปัจจุบันซื้อเพิ่มเป็น 70 ไร่ มีแผนจะพัฒนาเป็น "บูติคโฮเต็ล" ในอนาคตอันใกล้ และยังเป็นเจ้าของที่ดินอีกกว่า 1,000 ไร่ ที่อำเภอแกลง เดิมเคยเป็นสนามกอล์ฟหินสวยน้ำใส ปัจจุบันแบ่งที่ดิน 500-600 ไร่ ปลูกต้นยางนา (ไม้เศรษฐกิจ) ทิ้งไว้ ในอนาคตมีแผนจะพัฒนาที่ดินที่เหลือเป็นสนามกอล์ฟด้วย

"ช่วงที่ผ่านมา ผม Diversify เอาเงินออกจากตลาดหุ้นมาเยอะเลย ซื้อที่ดินเก็บไว้ "ไม่เน่า-ไม่เสีย" แถมดูเหมือนจะเป็นการออมเงินประเภทเดียวที่เอาชนะ "เงินเฟ้อ" ได้ดี และถ้ากลับไปดูคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตติดอันดับ 1 ถึง 10 ทั้งในประเทศไทยและของโลกล้วนมาจากอสังหาริมทรัพย์แทบทั้งนั้น"

ปัจจุบันเจ้าตัวยอมรับว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในที่ดินและลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากกว่าในตลาดหุ้น "ถ้าผมเก่งจริงจากพอร์ตร้อยล้านก็กลับไปใหญ่เหมือนสมัยก่อนได้ แต่ถ้าผมกลับไปไม่ได้ข้างหลังผมก็ยังเหลือเยอะ"  

หลักคิดของเซียนหุ้นรายนี้ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์คือลงทุนเท่าที่มีกำลัง "ไม่คิดสร้างหนี้" เพราะหนี้ทำให้เกิด "ทุกข์" ถ้าคนเรารู้สึกว่า "พอแล้ว" จะไปหาความทุกข์มาเพิ่มอีกทำไม

"ที่ดินก็มีอยู่แล้ว กู้ก็ไม่กู้ ทำธุรกิจจะแพ้ได้ยังไง ผมถือคติไว้เลยว่าทำธุรกิจจะไม่เป็นหนี้จะไม่กู้ ถ้าไปทำคอนโดขายเป็นหนี้เขาชีวิตก็ต้องเป็นทุกข์อีก ชีวิตวันนี้มัน(เกิน)พอแล้ว ทำไมต้องไปสร้างหนี้ สไตล์ผมจะค่อยๆ เติบโตจะไม่เริ่มจากทำอะไรใหญ่ๆ"

วิชัยเล่าว่า ที่ดินบริเวณถนนบางนา-ตราด กม.19 มีอนาคตมาก ที่ดินผืนนี้ 120 ไร่ ซื้อมาด้วยต้นทุนที่ถูกมาก เพราะเป็นที่ดิน "ตาบอด" ไม่มีทางเข้าออก ที่ดินรอบข้างขายไร่ละ 7 ล้านบาท แต่มีคนมาเสนอขายให้ในราคาแค่ "ครึ่งเดียว" วิธีแก้ปัญหาก็คือไปร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินด้านหน้าที่ติดถนนให้เขามาร่วมหุ้นด้วย  

"เขาไม่มีเงินร่วมทุน ผมก็ให้ยืมคิดดอกเบี้ย 8% ต่อปี แล้วให้หุ้นบริษัทเขา 49% แต่เขาต้องมอบภาระจำยอมทางเข้าออกให้เรา เขาแฮปปี้มาก ราคาที่ดินตาบอด (120 ไร่) ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ผมไม่เอาเปรียบคนอื่น ผมก็เลยโชคดีได้หุ้นส่วนดี เขาจัดการให้เราหมด ไม่ต้องเหนื่อยติดต่อกับหน่วยงานราชการและหน่วยงานท้องถิ่น ผมถามเพื่อน 10 คนบอกว่าคุณให้เขาเยอะไป ถ้าไม่มีที่ดินเข้าออกเราก็ทำอะไรไม่ได้ ผมคิดว่า "วิน-วิน" ทั้งสองฝ่าย"

ชีวิตวันนี้ "ผมมีอิสระ สบายใจ ภาระอะไรก็ไม่มี" ที่ดินระยองซื้อมาตั้งแต่ยังไม่ฮิต ขับรถไปตระเวนดูที่ดินติดทะเลอยากได้ที่ปราณบุรีไร่ละ 21 ล้านบาท ซื้อไม่ไหว มาได้ที่ดินริมทะเลระยองไร่ละ 3-4 ล้านบาท ผมเอาหลักการลงทุนในตลาดหุ้นมาใช้ในการซื้อที่ดิน คือซื้อเก็บไว้ตอน "ราคาถูก...ตอนยังไม่ฮิต" แล้วผมจะ "แพ้" ได้ยังไง

"ผมคิดว่าถ้าได้ดอกเบี้ยปีละ 4% ทบต้น เงิน 1 ล้านบาท 16 ปี เงิน 1 ล้านบาทจะเป็น 2 ล้านบาท ถ้าผมเอาเงิน 3 ล้านบาท ซื้อที่ดิน 1 ไร่ 16 ปี จะเป็นไร่ละ 6 ล้านบาทไม่ได้เหรอ ผมคิดง่ายๆ แบบคนไม่มีประสบการณ์แต่ใช้ชั้นเชิงนักลงทุน ตอนไปดูที่ดินที่ระยองไปกับเพื่อน 5 คน พอกลับมาทุกคนหนีผมหมด เลยต้องเอาคนเดียว"

เบื้องหลังการเป็นนักลงทุนที่ดินของเสี่ยยักษ์ เจ้าตัวเล่าแบบขำๆ ว่า จุดเริ่มต้นไม่ได้คิดเรื่องจะเป็นนักพัฒนาที่ดินอะไรเลย ชีวิตผมมีความฝันว่าอยากมีบ้านริมทะเลสักหลังก็เลยชวนเพื่อนไปดูว่าจะเอาตรงไหนดี ไปดูที่พัทยาไร่ละ 30 ล้านบาทซื้อไม่ไหว ไปดูแถวหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ก็แตะไม่ลง ไปปราณบุรีไร่ละ 21 ล้านแพงไป ผมเลยต้องเลี้ยวรถกลับมาที่ระยอง ภาพลักษณ์มันไม่ค่อยดีทำคอนโดค้างไว้เยอะขายไม่ออก เป็นจังหวัด "ปราบเซียน" ราคาที่ดินก็เลยยังไม่แพง

"ที่ดินของผมอยู่ใกล้ๆ โรงแรมโนโวเทลระยอง อยู่ไปทางอำเภอแกลง พอผมซื้อเสร็จ โครงการภูผาธาราของตระกูลวิไลลักษณ์ มาขึ้นติดกับที่ดินของผมเลย ผ่านมา 3 ปีตอนนี้เขาขึ้นคอนโดแล้ว 3 แท่ง แถมในนั้นมีโรงแรมแมริออทอีก คิดดูว่าผมโชคดีขนาดไหนเลยซื้อเพิ่มติดกับที่เดิมในราคาไร่ละ 8 ล้าน ตอนนี้มีที่ดินติดทะเลระยองทั้งหมดประมาณ 70 ไร่ "ต้นทุนเฉลี่ยผมถูก" นี่คือหลักการเดียวกับการเล่นหุ้น ผมต้องขอบคุณคุณวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ที่มาลงทุนติดกับที่ดินของผม"

ตอนนี้ รีสอร์ท (บูติคโฮเต็ล) ที่ระยองกำลังอยู่ในขั้นตอนออกแบบ เฉพาะโครงสร้าง 200 ล้านบาท ส่วนที่ดินสนามกอล์ฟเก่า 1,000 ไร่ (ประมูลมาไร่ละประมาณ 2 แสนบาท) ปลูกยางนาต้นใหญ่ๆ ไว้ครึ่งหนึ่งต้องรอผลตอบแทน 15 ปี  "ผมคิดว่าถ้าคุณคิดสั้นๆ ก็ปลูกข้าว ปลูกอ้อย ถ้ามองยาวเก็บไว้เป็นมรดกก็ต้องปลูกไม้ยืนต้น"

เสี่ยยักษ์ บอกว่า การทำรีสอร์ทเป็นหนึ่งในความฝันที่อยากทำ จะไม่กู้ ไม่ทำใหญ่ หวังแค่ให้มันเลี้ยงตัวเองได้ก็พอใจ ตอนนี้ส่งลูกสาวไปเรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์ไปได้ 7-8 เดือนแล้ว ลูกคนนี้จบปริญญาตรีวิศวกรรมเคมี จากจุฬาฯ แต่เขามีความฝันอยากมาบริหารรีสอร์ท "ทุกครั้งที่ผมโทรศัพท์หาลูก จะถามเขาเสมอว่าหนูยังมีความฝันอยู่มั้ยลูก เป้าหมายชีวิตหนูยังเหมือนเดิมมั้ย" คนเราต้องมีความฝันและตั้งใจแน่วแน่ ทำอะไรถึงจะสำเร็จ

ล่าสุดก็เพิ่งบินไปสหรัฐอเมริกาไปขี่ฮาร์เลย์เที่ยวกับเพื่อนคนไทยที่ไปด้วยกัน 11-12 คน ปัจจุบันเสี่ยยักษ์มีฮาร์เลย์แล้ว 2 คัน ตระเวนเที่ยวต่างจังหวัดมาแล้วหลายทริปที่ระยอง หัวหิน เขาใหญ่ สุพรรณบุรี

"ผมมีฝันอยากมีรถสปอร์ต (เฟอร์รารี่) ก็มีแล้วแต่เพื่อนน้อย ขี่ฮาร์เลย์มีเพื่อนเยอะ เคยจะไปขับเครื่องบินแต่แฟนห้ามไม่ให้ไป ขี่ม้าก็อยากลองแต่ยังไม่มีโอกาส ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำตามความฝันได้มันต้องพร้อมก่อน หลานผมอายุ 27-28 แต่ไปตีกอล์ฟเสียเวลาทั้งวัน "มันไม่ใช่" คุณไปวิ่งสวนลุมดีกว่า ผมห่วงเด็กรุ่นใหม่ที่กระโดดเข้ามาตลาดหุ้นเพราะคิดว่ารวยเร็ว ผมว่าอันตราย คุณไปหางานทำรู้จักวิธีหาเงินก่อนดีกว่า"      

เซียนหุ้นรายใหญ่ เล่าความในใจให้ฟังว่าเวลาจะไปขี่ฮาร์เลย์จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง อารมณ์มันช่างแตกต่างจากการตัดสินใจซื้อขายหุ้นเป็นร้อยๆ ล้านบาท มันไม่ตื่นเต้นอะไรเลย

"บ้านชายทะเลที่ระยองของผมรับแขกฮาร์เลย์หลายทริปแล้วนะ พอไปถึงก็เอาเรือเร็ว (สปีดโบต) ออกไปกินข้าวกลางวันที่เกาะเสม็ด แล้วไปนอนเล่นกันที่เกาะทะลุ 3-4 โมงเย็นก็กลับ ส่วนเฟอร์รารี่ขับน้อยช่วงนี้หน้าฝนน้ำเข้าเครื่องแล้วยุ่ง เห็นมั้ยว่าเหรียญ (ทุกอย่าง) มันมีสองด้านเสมอ"  

ชีวิตในวัย 55 ปีวันนี้ของเสี่ยยักษ์ จึงไม่ต่างไปจาก "ชีวิตเกษียณ" ของเซียนหุ้น เจ้าตัวกำลังไล่ล่า "ความฝัน" ที่ขาดหาย และ Diversify ความมั่งคั่งสู่ความยั่งยืน

สัปดาห์หน้าติดตามวิธีคิดการลงทุนในตลาดหุ้นที่เปลี่ยนไปของ "เซียนหุ้นพันล้าน" ที่เจ้าตัวต้องนำมาขบคิดทบทวนตัวเอง


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 9:36 am 
Regulator
User avatar

Joined: Tue Mar 08, 2005 9:08 am
Posts: 13987
Location: huaykwang

Offline

0
Vote this post upVote this post down
:8) นอกเหนือจากอาจารย์นิเวศน์แล้ว
     ก็มีเฮียวินี่แหละที่ต้องคารวะและนับถือจับใจจริงๆ

_________________
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า


Report this post
Top
 Profile Send private message E-mail  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 9:48 am 
Regular

Joined: Mon Jul 12, 2010 6:15 pm
Posts: 188

Offline

0
Vote this post upVote this post down
ชอบครับ ขอบคุณครับ


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 10:04 am 
Regular

Joined: Thu Aug 14, 2003 5:50 pm
Posts: 2818

Offline

0
Vote this post upVote this post down
ขาดทุนN-parkอะครับ

ไปขอตังส์คืนได้ปะ  :lol:

_________________
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 11:00 am 

Joined: Sun Dec 09, 2007 8:31 pm
Posts: 77
Location: เมืองลับแล

Offline

0
Vote this post upVote this post down
ค้นหาตัวเองเจอ ก็เป็นสุข  :D

 ทั้งในการใช้ชีวิต และการลงทุน

 นับถือจริงๆคะ  :bow:


Report this post
Top
 Profile Send private message E-mail  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 11:07 am 
Regular
User avatar

Joined: Wed Apr 20, 2005 10:01 am
Posts: 944
Location: นนทบุรี

Offline

0
Vote this post upVote this post down
[quote="por_jai"]:8) นอกเหนือจากอาจารย์นิเวศน์แล้ว

_________________
อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน


Report this post
Top
 Profile Send private message E-mail  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 11:33 am 
Regular

Joined: Thu Jan 15, 2004 12:22 pm
Posts: 3334

Offline

0
Vote this post upVote this post down
"เซียนหุ้นรายใหญ่ เล่าความในใจให้ฟังว่าเวลาจะไปขี่ฮาร์เลย์จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง อารมณ์มันช่างแตกต่างจากการตัดสินใจซื้อขายหุ้นเป็นร้อยๆ ล้านบาท มันไม่ตื่นเต้นอะไรเลย"

ชอบประโยคนี้ของเสี่ยยักษ์จริงๆครับ ถึงผมจะพอร์ตไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็เริ่มรู้สึกได้ว่าความตื่นเต้นของเงินก้อนหลังๆที่กำไรมา ไม่ได้ตื่นเต้นเท่าก้อนแรกๆที่เล็กกว่ามากในตอนเล่นหุ้นแรกๆเลย เริ่มรู้สึกได้ว่าหุ้นไม่ใช่คำตอบของชีวิตต่อจากนี้ละ ...

_________________
It's earnings that count


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 11:35 am 
Regular

Joined: Fri Aug 17, 2007 1:07 pm
Posts: 162
Location: ห้องเลี้ยงเด็ก

Offline

0
Vote this post upVote this post down
:bow:


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 20, 2010 12:00 pm 
อาสาสมัครพิทักษ์ tvi
User avatar

Joined: Wed Jul 13, 2005 3:08 pm
Posts: 781
Location: BKK

Offline

0
Vote this post upVote this post down
[quote="por_jai"]:8) นอกเหนือจากอาจารย์นิเวศน์แล้ว

_________________
มีสติ ยิ้มรับกับทุกสิ่งที่เกิด :)

เรื่องทุกเรื่องคิดไปทางกุศลก็ได้ คิดไปทางอกุศลก็ได้
ก็เลือกกันเองครับว่าจะคิดทางไหน ก็รับผลรับกรรมทางนั้นกันไป


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Thu Oct 21, 2010 10:38 am 
Regular
User avatar

Joined: Sun Jul 10, 2005 9:21 pm
Posts: 921
Location: Bangkok

Offline

0
Vote this post upVote this post down
อ่านแล้วก็สุดยอดครับ คารวะท่านจริง ๆ

หลัง ๆ เล่นหุ้นก็เบื่อ ๆ ความตื่นเต้นท้าทายหายไปอย่างพี่ blueblood ว่า

motivation ตอนนี้ กลายเป็นภาระกับความรับผิดชอบมากกว่า แฝงด้วยเป้าหมายให้กระชุ่มกระชวยใจบ้าง

_________________
10,000 Li of Life การท่องเที่ยวทำให้เราเยาว์วัย การเดินทางไกลทำให้เราเติบโต
http://10000li.net


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Thu Oct 21, 2010 11:19 am 
Regular

Joined: Fri Oct 10, 2008 11:20 pm
Posts: 1259

Online

0
Vote this post upVote this post down
Linzhi wrote:

motivation ตอนนี้ กลายเป็นภาระกับความรับผิดชอบมากกว่า แฝงด้วยเป้าหมายให้กระชุ่มกระชวยใจบ้าง


:bow:

พี่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วครับ  ไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อความพอใจส่วนตัวอย่างเดียว

อ่านแล้วกลับมามองตัวเอง รู้สึกนิสัยยังเป็นเด็กมาก อะไรๆที่เลี่ยงได้ ก็มักเลือกที่จะหนี...ถึงยังไง  คงไม่มีใครหลบหนีได้ตลอดไป  ต้องเผชิญหน้า :oops:

_________________
ตราบใดที่เรายังคิดแบ่งระดับความดี ใจเรายังเจือด้วยอคติ ก็ถือว่ายังเป็น มนุษย์ขี้เหม็น ที่ไร้วาสนาจะพานพบความดีแท้


Report this post
Top
 Profile Send private message E-mail  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Fri Oct 22, 2010 10:59 am 
Regular
User avatar

Joined: Fri Nov 13, 2009 11:02 pm
Posts: 100

Offline

0
Vote this post upVote this post down
เป็นมุมมองการใช้ชีวิต ที่อ่านขาดมาก
ชีวิตไม่ได้มีเพียงด้านเดียว
ยิ่งช่วงที่เรากำลังเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว
เราควรใช้จ่ายให้รางวัลกับชีวิตบ้าง ไม่ใช่รอจนมีเงินเหลือใช้แล้วถึงเริ่มจะใช้เงิน ซึ่งบางทีมันเลยวัยแห่งความสุข ณ ตอนนั้นมาแล้ว


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Mon Oct 25, 2010 5:43 pm 
Regular

Joined: Wed Oct 29, 2008 3:08 pm
Posts: 121

Offline

0
Vote this post upVote this post down
อ่านแนวคิดเสี่ยแล้ว นับถือแกครับ ผมคงไม่มีวันประสบความสำเร็จระดับเดียวกับแกแน่ๆ แต่แกพูดถูกที่คนเราต้องมีความฝัน จะไปได้ไกลแค่ไหน ก็แล้วแต่โชควาสนาล่ะนะ และเมื่อวันใดก็ตามที่เรารู้สึกว่าพอ มันก็ต้องพอ จะโลภมากต่อไป ก็ต้องระวังลาภจะหายด้วย  :cool:


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Mon Oct 25, 2010 6:14 pm 
Regular

Joined: Wed Oct 21, 2009 12:40 pm
Posts: 239
Location: KMITL ทำงานอันดามัน

Offline

0
Vote this post upVote this post down
Blueblood wrote:
"เซียนหุ้นรายใหญ่ เล่าความในใจให้ฟังว่าเวลาจะไปขี่ฮาร์เลย์จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง อารมณ์มันช่างแตกต่างจากการตัดสินใจซื้อขายหุ้นเป็นร้อยๆ ล้านบาท มันไม่ตื่นเต้นอะไรเลย"

ชอบประโยคนี้ของเสี่ยยักษ์จริงๆครับ ถึงผมจะพอร์ตไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็เริ่มรู้สึกได้ว่าความตื่นเต้นของเงินก้อนหลังๆที่กำไรมา ไม่ได้ตื่นเต้นเท่าก้อนแรกๆที่เล็กกว่ามากในตอนเล่นหุ้นแรกๆเลย เริ่มรู้สึกได้ว่าหุ้นไม่ใช่คำตอบของชีวิตต่อจากนี้ละ ...



Wish some day I will feel like this...

:D  :D  :D


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Mon Oct 25, 2010 11:15 pm 
User avatar

Joined: Sat Jun 28, 2008 11:16 am
Posts: 45
Location: เมืองแห่งสายน้ำ

Offline

0
Vote this post upVote this post down
ขอคารวะครับ  :D

ผมเริ่มเล่นหุ้น เพราะได้อ่านบทความเสี่ยยักษ์ล่ะครับ

_________________
หาบริษัทที่ดูน่าเบื่อให้เจอ... แล้วซื้อซะ


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Tue Oct 26, 2010 1:30 am 

Joined: Thu Jul 08, 2010 10:39 pm
Posts: 77
Location: Somewhere over the rainbow

Offline

0
Vote this post upVote this post down
สุดยอดไปเลย

ว่าแต่ทำไมเซียนหุ้น มักมีลูกสาว  ทั้งอาจารย์นิเวศน์ ทั้งเสี่ยยักษ์


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 27, 2010 12:26 pm 
Regular

Joined: Fri Jul 16, 2010 10:05 am
Posts: 159

Offline

0
Vote this post upVote this post down
[quote="Poorest"]สุดยอดไปเลย

ว่าแต่ทำไมเซียนหุ้น มักมีลูกสาว


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 27, 2010 1:00 pm 

Joined: Mon Aug 02, 2010 9:15 pm
Posts: 17

Offline

0
Vote this post upVote this post down
มีแง่คิดให้ได้ทบทวนขึ้นเยอะ..ขอบคุณมากครับ :D


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 27, 2010 1:08 pm 
Regular

Joined: Sun Apr 15, 2007 10:55 am
Posts: 3321
Location: Bangkok

Offline

0
Vote this post upVote this post down
พี่ป้อม ฝากบอกอาอย่าทำเลยครับ บูติกโฮเต็ล เหมือนแบกครกเดิน

หาเงินอะไรก็รำบากหมด เล่นแบบวีไอ ดีสุด :D

_________________
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject: post supject
PostPosted: Wed Oct 27, 2010 3:59 pm 

Joined: Fri Oct 01, 2010 3:43 pm
Posts: 6
Location: Thailand

Offline

0
Vote this post upVote this post down
เยี่ยมมาก จะติดตามอ่านต่อไป เพราะมีแง่คิดที่ดีมากควรแก่การยอมรับ


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 27, 2010 4:07 pm 
Regulator
User avatar

Joined: Tue Mar 08, 2005 9:08 am
Posts: 13987
Location: huaykwang

Offline

0
Vote this post upVote this post down
smith_sanguan wrote:
พี่ป้อม ฝากบอกอาอย่าทำเลยครับ บูติกโฮเต็ล เหมือนแบกครกเดิน

หาเงินอะไรก็รำบากหมด เล่นแบบวีไอ ดีสุด :D


:8) สองคนยลตามช่องกระมัง
     คนนึงมองเห็นดาวพร่างพราย
     อีกคนเห็นเป็นโคลนตมไปซะได้...ฮ่า...

_________________
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า


Report this post
Top
 Profile Send private message E-mail  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 27, 2010 4:30 pm 
Regular
User avatar

Joined: Fri Apr 17, 2009 5:52 pm
Posts: 515
Location: เมืองคอน

Offline

0
Vote this post upVote this post down
Blueblood wrote:
"เซียนหุ้นรายใหญ่ เล่าความในใจให้ฟังว่าเวลาจะไปขี่ฮาร์เลย์จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง อารมณ์มันช่างแตกต่างจากการตัดสินใจซื้อขายหุ้นเป็นร้อยๆ ล้านบาท มันไม่ตื่นเต้นอะไรเลย"

ชอบประโยคนี้ของเสี่ยยักษ์จริงๆครับ ถึงผมจะพอร์ตไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็เริ่มรู้สึกได้ว่าความตื่นเต้นของเงินก้อนหลังๆที่กำไรมา ไม่ได้ตื่นเต้นเท่าก้อนแรกๆที่เล็กกว่ามากในตอนเล่นหุ้นแรกๆเลย เริ่มรู้สึกได้ว่าหุ้นไม่ใช่คำตอบของชีวิตต่อจากนี้ละ ...


แบ่งความไม่ตื่นเต้นของพี่ให้ผมสัก10%ก็ได้นะครับ แฮะๆ :lol:  :lol:

_________________
M100


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 27, 2010 4:50 pm 
Regular

Joined: Sun Apr 15, 2007 10:55 am
Posts: 3321
Location: Bangkok

Offline

0
Vote this post upVote this post down
por_jai wrote:
smith_sanguan wrote:
พี่ป้อม ฝากบอกอาอย่าทำเลยครับ บูติกโฮเต็ล เหมือนแบกครกเดิน

หาเงินอะไรก็รำบากหมด เล่นแบบวีไอ ดีสุด :D


:8) สองคนยลตามช่องกระมัง

_________________
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Wed Oct 27, 2010 9:48 pm 
Regular
User avatar

Joined: Wed Apr 18, 2007 10:44 pm
Posts: 180
Location: internet

Offline

0
Vote this post upVote this post down
สุดยอดจริงๆ

ขอบคุณผู้แจ้งด้วยครับ


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
 Post subject:
PostPosted: Sat Nov 13, 2010 8:10 pm 
Regular
User avatar

Joined: Wed Jul 08, 2009 5:17 pm
Posts: 1915

Online

0
Vote this post upVote this post down
กูรูหุ้นพันล้าน : บทอวสาน สุดยอดวิชัย วชิรพงศ์ ตั้งแต่ตอนที่ 1 ถึง ตอนที่ 27 มี วลีเด็ดๆ ที่น่าสนใจดังนี้

ตอนที่ 1 เงินนี่มันแปลก เงิน 1 ล้านบาท คุณจะเพิ่มให้เป็น 2 ล้านบาท ช่วงนี้จะยากมาก แต่จาก 2 เพิ่มเป็น 4 เริ่มง่าย จาก 4 เพิ่มเป็น 8 ยิ่งง่ายกว่านี่เรื่องจริง

ตอนที่ 2 ถ้าในโลกนี้ใครได้อะไรมาง่ายๆ ก็ยากที่จะรักษาให้มันอยู่กับเราได้อย่างยั่งยืน

ตอนที่ 3 หุ้นจะเป็นขาขึ้น ราคา และ ปริมาณ จะต้องเคลื่อนไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน

ตอนที่ 4 ถ้าเราเลือกหุ้นพี/อี ต่ำ พื้นฐานดี แต่ซื้อแล้วราคาไม่ขึ้นมีแต่ลง แสดงว่าความคิดของเรา ผิด คุณต้องเปลี่ยน อย่าดันทุรัง

ตอนที่ 5 สมัยที่ยังเล่นหุ้นไม่เก่ง วิธีที่ผมใช้จะลอกข้อสอบคนเก่ง แต่ระหว่างที่เราลอกข้อสอบเขา เราก็ต้องพัฒนาตัวเองตามให้ทัน

ตอนที่ 6 ในการเล่นหุ้นให้ชนะตลาด เราต้องพายเรือตามน้ำ อย่าพายเรือทวนน้ำ เพราะการ ฝืนกระแส จะทำให้เรา เสี่ยงสูง ที่จะขาดทุน

ตอนที่ 7 จากประสบการณ์ 20 ปี จะซื้อหุ้นให้ได้กำไร เราต้องกล้าไปจ่ายตลาด ตอนประมาณ ตี 5″ หรือ อีก 1 ชั่วโมงฟ้าจะสว่างผีไม่มี

ตอนที่ 8 วิธีการเอาตัวรอดในช่วงที่ต้องเผชิญกับ วิกฤตการณ์ ทางเดียวที่จะทำให้เรา รอด คือ การตัดนิ้ว (Cut Loss) ยอมขาดทุนรักษาชีวิต

ตอนที่ 9 ความลับของเงินจะเติบโตก็เฉพาะกับคนที่รู้จักใช้มันเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม

ตอนที่ 10 การเล่นหุ้นเพื่อหวังกำไร 3-5% เป็นการลงทุนที่มีโอกาส ร่ำรวย ได้ยาก!!! เพราะการตัดสินใจซื้อ-ขายบ่อยโอกาสผิดพลาดจะสูง

ตอนที่ 11 คำศัพท์ของนักเล่นหุ้น เขาบอกว่า ลูกยังเล็กอยู่ เราจะพลาดไม่ได้ หมายความว่าหุ้นตัวนี้ อันตราย เราต้อง Cut Loss ทิ้ง

ตอนที่ 12 ในจังหวะที่หุ้นเป็นขาขึ้น เราต้อง Let the Profit Run ปล่อยให้กำไรวิ่งเต็มสตีม เมื่อไรที่ราคาเริ่มปรับฐานลงมาพร้อมวอลุ่ม เราต้องรีบล้างพอร์ตออกไป

ตอนที่ 13 ท่องเอาไว้เลย วอลุ่มพีค คือ ราคาพีค และ ถ้าหุ้นปรับฐานแล้ว รีบาวด์ แต่ไม่ทำ นิวไฮ ใหม่มันต้องลง

ตอนที่ 14 ถ้าหุ้นเป็น ขาลง แล้ว วอลุ่มหาย นี่เป็นตามธรรมชาติ แต่ถ้าหุ้นเป็น ขาขึ้น แล้ว วอลุ่มหาย นี่มันผิดกฎธรรมชาติ ให้สงสัยไว้ก่อนว่า มันกำลังจะวิ่ง

ตอนที่ 15 นิสัยผมถ้าอะไรที่ไม่แน่ใจเต็มร้อย ผมจะเข้าไปลงทุนด้วยเงินก้อนน้อยๆ ก่อน ยิ่งถ้าเป็นหุ้นเก็งกำไร จะเล่นเป็นรอบ จะไม่ทุ่มสุดตัว และไม่ถือยาว

ตอนที่ 16 คำว่า ข่าวลือ คุณต้องแอบพูดในที่ ลับ ถ้ามากระจายให้มหาชนรับรู้มาบอกนักข่าว แสดงว่า จบรอบ แล้วคุณต้องทิ้ง

ตอนที่ 17 ถ้าจะเล่น หุ้นปั่น เราต้องซื้อน้อยๆ เกาะตู้เย็น หาค่ากับข้าวได้ แต่อย่าไปเล่นแรง อย่าไปทุ่ม เดี๋ยวเจ้ามือมันจะโยนหุ้นใส่เรา

ตอนที่ 18 กรณีที่หุ้นจะปรับตัว ลงแรง วอลุ่มมักจะทำ พีค ก่อน ให้สังเกตว่ารายย่อยจะแห่เข้าใส่ แบบไม่ลืมหูลืมตา เวลาที่หุ้นปรับตัวมันจะ ลงลึก

ตอนที่ 19 ในช่วงของการสะสมหุ้น ถ้าเป็น หุ้นดี ให้สังเกตฝั่ง Bid จะน้อย แต่ฝั่ง Offer จะเยอะ ภาวะอย่างนี้คือ ช่วงที่ดัชนี SET ประมาณ ตี 4 ตี 5 คนยังเล่นหุ้นไม่เต็มตัว เขาจะรอรับ แต่ไม่ไล่ราคา

ตอนที่ 20 เฮียประธาน เขาเป็นเจ้าของคอร์ทแบดมินตัน อยู่แถวถนนบางรัก ฉายาเขา คือ พญาอินทรี ถ้าวันไหนที่พวกเรา เละ หรือ เจ๊ง กันหมด เขาจะบินมาเลยเขาจะมาซื้อหุ้น

ตอนที่ 21 การอ่านอารมณ์ตลาด ถ้า รายย่อย สงบเสงี่ยมเจียมตัว ฝรั่ง ไม่เข้า บอกได้เลยว่าเล่นหุ้นไม่ได้ตังค์ ถ้าจะเล่นหุ้นได้กำไร รายย่อยต้องมีจุดมั่นใจ นักเก็งกำไรแห่กันเข้ามาเล่นตามน้ำ ตลาดแบบนี้ ได้ตังค์

ตอนที่ 22 ถ้าเราเทรดหุ้นทุกวัน สมองมันไม่มีจุดคิด การตัดสินใจบ่อยมันพลาดได้ง่าย คุณต้องรอจังหวะ รอให้เครื่องมือทางเทคนิคยืนยัน แล้วทุกคนเริ่มกลัวกันหมด ตรงนั้นคือ จุดที่ปลอดภัยที่สุด ซื้อเสร็จก็ใส่ปี๊บเอาไว้

ตอนที่ 23 ถ้าคิดจะ สร้างราคาหุ้น แล้วไม่ให้วงแตก มือทำหุ้นที่เป็นมืออาชีพ เขาจะบอกเจ้าของหุ้นว่า คุณต้องโอนหุ้นมาให้ก่อน แล้วต้องเอาเงินมาให้ด้วยล้านเปอร์เซ็นต์เลย ถึงจะสำเร็จ !!!

ตอนที่ 24 พูดตรงๆ ผมเคยเล่นหุ้นปั่น วันที่ผมขายหมด บางคนไม่ได้ขาย ผมเสียเพื่อนไปก็หลายคน เสียน้องไปก็หลายคน สุดท้ายมันไม่ได้อะไรขึ้นมา มันไม่คุ้มหรอกเชื่อผมสิ!!!

ตอนที่ 25 วิธีการลงทุนแบบ แวลู อินเวสเตอร์ ส่วนตัวมองว่า มันเสี่ยง บางทีหุ้นลงก็ต้องถือ เพราะคุณคิดว่าพื้นฐานมันไม่เปลี่ยน เดี๋ยวมันก็ต้องกลับมา แต่เมื่อไรล่ะ!! ถ้าคุณไม่ Cut Loss ตอนหุ้นลง มันเสียโอกาส

ตอนที่ 26 ลักษณะตลาดหุ้นที่แกว่งตัวออกด้านข้าง และไม่มีข่าวดีอะไรใหม่ๆ เข้ามาในตลาด คนที่เล่นหุ้นแล้วได้ตังค์ ต้อง เล่นรอบ คือ เล่นหุ้นแบบ ปิงปอง จะได้เปรียบ แต่อย่าไปทุ่มเทอะไรกับมันมาก

ตอนที่ 27 วอร์แรนท์ที่ราคาแปลงสภาพ ต่ำกว่าหุ้นแม่ ยิ่งเหลืออายุน้อย เจ้ามือยิ่งกดรายย่อยให้ปล่อยหุ้นออกมา เพราะเขารู้ว่าไม่มีเงินไปแปลงสภาพแน่ เขาก็บีบซื้อราคาถูกเอาไปแปลงสภาพเอง

นอกจากนี้ เสี่ยยักษ์ ยังมีเคล็ดไม่ลับ ที่อยากฝากแฟนๆ ถนนนักลงทุน อีก 5 ข้อ
คำพูดที่ผมอยากจะฝากไว้ จำเอาไว้เลยนะ

1.อย่าตามหลังมวลชน
2.จุดที่มั่นใจที่สุด คือ จุดที่อันตรายที่สุด
3.จุดที่อันตรายที่สุด คือ จุดที่ปลอดภัยที่สุด นั่นคือ ประมาณ ตี 5″ ถึง ตี 5 ครึ่ง (ก่อนฟ้าสาง)
4.อย่าคิดคนเดียว อย่าตอบคำถามคนเดียว อย่าเล่นหุ้นคนเดียว และ
5.คนเล่นหุ้นให้ชนะ ต้องเลิกนิสัย ถามเอง-ตอบเอง-เออเอง สุดท้าย เจ๊งลูกเดียว


ที่มา : http://settradeslow.blogspot.com/

==========================================
^
^
^
จากทั้งหมด 27 วลีเด็ด คุณ "ชอบ" หรือ "เห็นด้วย" กับข้อไหนมากที่สุดครับ???


ส่วนตัวแล้วผมชอบข้อ 19 ครับ
อ่านแล้วรู้สึกว่า น่าจะจริง อ่ะนะขอรับ

(^_^)

_________________
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนอยู่ด้วยเสมอ"
บทความเรื่อง "หุ้น Turnaround"
ที่ viewtopic.php?f=1&t=43317


Report this post
Top
 Profile Send private message  
Reply with quote  
Display posts from previous:  Sort by  
Post new topic Reply to topic  [ 26 posts ] 


You can post new topics in this forum
You can reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You can post attachments in this forum

Jump to:  
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group