หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
drypoint
Joined: เสาร์ มิ.ย. 09, 2007 12:38 am
148
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - drypoint
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
ขอความคิดเห็นการจัดงานสัมมนาไทยวีไอ ครั้งที่ 2 ครับ
จอง1ที่ครับ
โดย
drypoint
พุธ ต.ค. 07, 2009 2:27 am
0
0
Halo Effect / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
คุณไวดร.ก็วงเล็บไว้ให้แล้วไงครับว่าVi
โดย
drypoint
จันทร์ มิ.ย. 15, 2009 10:45 am
0
0
หุ้นในแนว VI ตัวไหนที่ยังขึ้นน้อยเมื่อเทียบกับตลาด
WG
โดย
drypoint
เสาร์ มิ.ย. 13, 2009 9:43 pm
0
0
บัญชีพื้นฐานฯ รอบ 2 วันที่ 11-12 ก.ค. เปิดแล้ว
จอง1ที่ครับ
โดย
drypoint
พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 10:41 pm
0
0
โอม.....จงลง จงลง...
เห็นราคาcpallแล้วแทบบ้า มันวิ่งบ้าเลือดมากเลยนะครับวันนี้
โดย
drypoint
พุธ พ.ค. 27, 2009 1:43 pm
0
0
เสาร์ 6มิย พบ ดร.นิเวศน์ เปิดอกตอบโจทย์หุ้นไทย
อ.เสน่ห์เลิกเป็นพิธีกรแล้วเหรอครับเห็นหายไปหลายเดือน
โดย
drypoint
พุธ พ.ค. 20, 2009 10:07 pm
0
0
ซื้อขายหุ้นในยามวิกฤติ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
monopolyน่าจะเป็น tf bol bafs aot mcot นะครับ
โดย
drypoint
เสาร์ พ.ค. 16, 2009 11:18 pm
0
0
พบ ดร.นิเวศน์คุณมน เสาร์4เมษา ตลาดหลักทรัพย์ฟรี
เดือนนี้อาจารย์เสนห ไม่มาเหรอครับ
โดย
drypoint
จันทร์ มี.ค. 23, 2009 10:01 am
0
0
SE-ED/APRINT/B2S
ดอกหญ้าโดนซีเอ็ดตีฐานแตกไปนานแล้วครับ ส่วนe-bookนี่ผมคิดว่ากลุ่มที่จะเปลี่ยนไปใช้ส่วนใหญ่คือพวกนิตยสารเพราะใช้เวลาอ่านน้อย มีการออกฉบับใหม่อย่างรวดเร็ว และไม่ค่อยมีคนเก็บสะสม ส่วนหนังสือพวกนิยายต่างๆไม่น่าออกเป็นe-bookเพราะอ่านนาน การจะออกเป็นe-bookของหนังสือพวกนี้คือต้องรอจอที่มีคุณภาพเหมือนหนังสือจริงๆออกมาก่อนและสนพ.ต้องแก้ปัญหาลิขสิทธิ์ได้เพราะถ้าออกนิยายe-bookออกมารับรองก็อบกันกระจายครับ แต่ผมเชื่อว่าโลกยังต้องใช้หนังสือไปอีกนานอย่างน้อย100ปีแหละครับ
โดย
drypoint
พฤหัสฯ. ก.พ. 26, 2009 8:12 am
0
0
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
ผมว่าคนเรายังต้องใช้หนังสือไปอีกนานครับ อย่างน้อยก็จนกว่าจะหาสื่อที่แสดงผลโดยไม่กระทบต่อดวงตาได้ e-bookเหมาะกับการอ่านนิดๆหน่อยๆครับ ผมคงไม่อ่านเพชรพระอุมาผ่านe-bookแน่นอน
โดย
drypoint
จันทร์ ก.พ. 23, 2009 9:14 pm
0
0
แนะนำทีครับอยากถือยาวแบบVi ระหว่าง PTT กับ SCC
ไม่ถือทั้ง2ตัว
โดย
drypoint
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 11:18 pm
0
0
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
ผมว่า2ตัวนี้ส่งเสริมซึ่งกันและกันไม่ได้เป็นคู่แข่งที่เด่นชัด
โดย
drypoint
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 11:17 pm
0
0
หุ้นที่มี business model เจ๋งที่สุด มีอะไรบ้างคับ
ในสมัยปลายราชวงศ์เจี่ย มีคหบดีใหญ่ที่ร่ำรวยมากนามว่า “ สุมาเต๊กไต๋ ” มีลูกชายหลายคน ทุกคนล้วนขยันขันแข็ง ช่วยกันทำการค้าเจริญรุ่งเรืองจนมีกำไรมหาศาล สาเหตุที่ลูกๆทุกคนประสบความสำเร็จนั้น เนื่องจาก “ สุมาเต๊กไต๋ ” เป็นคนออกหน้าและออกทุนรอนในการเริ่มต้นกิจการให้ก่อน จากนั้นจึงระดมทุนที่เหลือจากชาวบ้านทั่วไป ทำให้กิจการของลูกๆ “ สุมาเต๊กไต๋ ” ทุกคน ต่างประสบความสำเร็จก้าวหน้ากว่ากิจการของตระกูลอื่นอย่างรวดเร็ว ลูกชายคนที่ 7 กับลูกชายคนที่ 11 ของ “ สุมาเต๊กไต๋ ” มีนิสัยชอบแต่งตัวทันสมัย ทำอะไรค่อนข้างรีบและรวดเร็ว “ สุมาเต๊กไต๋ ” เลยให้ไปทำกิจการขายสินค้าสะดวกจ่าย โดยตั้งชื่อร้านว่า “ 7 + 11 ” โดยนโยบายของร้านก็คือ เปิดร้านให้ลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยสั่งสินค้าที่เห็นว่ากำลังเป็นที่นิยมของชาวบ้านมาจำหน่ายเป็นจำนวน มาก โดยขายเป็นเงินสด งดเชื่อ แล้วค่อยๆทะยอยคืนเจ้าหนี้การค้าเป็นงวดๆ เข้าทำนอง เอาเงินสดมาหมุนก่อนค่อยจ่ายคืนช้าๆทีหลัง จึงทำให้ร้าน “ 7 + 11 ” ไม่มีหนี้สิน มีแต่เงินสดอยู่เต็มกระเป๋า จนกิตติศัพท์เลื่องลือไปทั่วทั้งตลาด เป็นที่หมายปองของเหล่าสาวและไม่สาวตลอดจนหนุ่มๆที่อยากรวยทางลัดรวดเร็ว ทั้งหลาย จ้องมองหนุ่มน้อยทั้ง 2 กันตาเป็นมัน อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนของ “ สุมาเต๊กไต๋ ” มาจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มาชวนให้เข้าร่วมเปิดร้านขายของชำขนาดใหญ่หรูหราแบบทันสมัย ซึ่งต้องใช้ทุนเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ “ สุมาเต๊กไต๋ ” คิดไม่ตกอย่างหนักก็คือ การร่วมทำธุรกิจในครั้งนี้ คู่แข็งล้วนแต่มีทุนมากกว่าอีกทั้งใช้วิธีการขายที่เข้มแข็งกว่า ยากที่จะได้กำไรคืนทุนภายใน 5 ปีเป็นแน่ กอรปกับที่เมืองจีนยังปกครองแบบสังคมนิยม ไม่อนุญาตให้ประชาชนเป็นเจ้าของที่ดิน จึงทำให้ ” สุมาเต๊กไต๋ ” คิดมากจนนอนไม่หลับอยู่หลายคืน แต่ด้วยสายตาที่ยาวไกล และความที่เป็นคนกล้าได้แต่ไม่ยอมเสีย จึงตัดสินใจร่วมลงทุนกับเพื่อนที่เซี่ยงไฮ้ทันที โดยออกคำสั่งให้ อา 7 กับ อา 11 เอาร้าน “ 7 + 11 ” ออกหน้าลงทุน โดยใช้เงินสดที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือของร้าน เปิดร้านขายของชำหรูหราทันสมัยที่เซี่ยงไฮ้ โดยใช้ชื่อร้านใหม่ว่า “ ดอกบัวเซี่ยงไฮ้ขนาดใหญ่ ” กิจการที่เซี่ยงไฮ้เป็นไปตามที่ “ สุมาเต๊กไต๋ ” คาดไว้ไม่มีผิด คู่แข่งที่ร่ำรวยกว่ามากหน้าหลายตา ทำให้ร้าน “ ดอกบัวเซี่ยงไฮ้ฯ ” ขาดทุนมหาศาล จนดึงให้กำไรของร้าน “ 7 + 11 ” ลดลงอย่างน่าใจหาย เหลือกำไรเพียงปีละไม่กี่อีแปะ สร้างความอึดอัดใจแก่บรรดาชาวบ้านที่ร่วมทุนของ ร้าน “ 7 + 11 ” เป็นอย่างยิ่ง ต่างบ่นกันเป็นแถว แต่ด้วยเงินส่วนแบ่งกำไรที่เจียดให้ปีละไม่กี่อีแปะ จึงทำให้เสียงบ่นเบาบางน้อยลง แม้จะไม่พอใจก็ตาม เหตุการณ์เป็นอยู่อย่างนี้หลายปี จนชาวบ้านที่ร่วมทุนบางคนเห็นว่า หากตนเอาเงินไปทำธุรกิจอย่างอื่นน่าจะได้กำไรดีกว่าที่จะร่วมทุนกับร้าน “ 7 + 11 ” อีกต่อไป จึงค่อยๆทยอยถอนทุนออกไป จนทำให้ความนิยมของร้านตกต่ำลงเรื่อยๆ และแล้ว วันหนึ่ง ชาวบ้านในตลาดได้ยินข่าวกระซิบมาว่า ทางการประเทศจีน ได้ออกกฏหมายอนุญาตให้ชาวบ้านทั่วไปเป็นเจ้าของที่ดินได้ และด้วยข่าวนี้นี่เอง ทำให้เกิดอีกข่าวต่อเนื่องมาว่า มีนายฝรั่งอาชีพนายหน้าที่ดิน มาติดต่อขอเซ้งร้าน “ ดอกบัวเซี่ยงไฮ้ ฯ ” เพื่อนำมาปล่อยเช่าอีกต่อหนึ่ง ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็คาดเดาว่า หากข่าวนี้เป็นจริง ต่อไปร้าน “ 7 + 11 ” ที่พวกเขาร่วมทุนอยู่ด้วย คงไม่ต้องแบกขาดทุนของร้าน “ ดอกบัวเซี่ยงไฮ้ฯ ” อีกต่อไป และคงได้เงินค่าเซ้งก้อนโตเก็บเข้ากระเป๋าเป็นแน่ จึงทำให้ความนิยมของร้าน “ 7 + 11 ” กลับมาเป็นที่นิยมอย่างมากมายล้นหลามอีกครั้ง สูงจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วันต่อมา มีข่าวประกาศจาก “ สุมาเต๊กไต๋ ” ติดหราอยู่หน้าตลาดแผ่นใหญ่ใจความว่า “ ข้าฯ ในนามของ “ สุมาเต็กไต๋ ” กับ ตระกูล ขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า เนื่องจาก ร้าน“ ดอกบัวเซี่ยงไฮ้ฯ ” ประสบกับการขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี มาบัดนี้ ข้าฯเล็งเห็นแล้วว่า ในฐานะที่ข้าฯ เป็นผู้ใหญ่ หัวหน้าของตระกูล ขอรับผิดชอบ โดยการขอรับซื้อกิจการทั้งหมดของร้าน “ ดอกบัวเซี่ยงไฮ้ฯ ” คืนจากเจ้าของเดิม พร้อมทั้งหนี้สินทั้งหมด ด้วยตั๋วแลกเงิน ซึ่งรับประกันโดยตระกูลของข้าฯ โดยตีมูลค่าให้ทั้งสิ้น 3,900 ล้านตำลึง จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน ” ชาวบ้านโดยทั่วไปต่างดีใจที่ร้าน “ 7 + 11 ” ไม่ต้องแบกขาดทุนอีกต่อไป พร้อมกับสรรเสริญในความมีน้ำใจของเศรษฐี “ สุมาเต๊กไต๋ ” อย่างเซ็งแซ่ มีเพียงชาวบ้านบางคน ที่เคยค้าขายต่างถิ่นมาก่อนไม่เห็นด้วย พร้อมกล่าวอย่างกระฟัดกระเฟียดเสียงดังว่า “ เจ้าสัวทำงี้ได้ไง ทีขาดทุนก็โยนให้พวกเราชาวบ้านรับกรรมมาหลายปี ทีจะมีคนเอาเงินก้อนใหญ่มหาศาลเป็นหมื่นล้านตำลึงทองมาเซ้งร้าน กลับรีบซื้อร้านคืนเป็นของตัวเอง เพื่อเอาเงินค่าเซ้งเข้ากระเป๋าเอง อย่างงี้เอาเปรียบพวกเราชัดๆนี่หว่า..“ ในบรรดาคนที่ยืนอ่านประกาศอยู่นั้น มีชายสูงอายุ ผมและหนวดเคราสีดอกเลา สวมหมวกปีกกว้างคลุมปกปิดใบหน้าอันเหี่ยวย่น ที่กรำแดดมาหลายปีปะปนอยู่ด้วย ยืนอ่านอย่างสงบ แล้วหลบกายถอยจากไปท่ามกลางเสียงสรรเสริญและดีใจของผู้คนชาวบ้านที่แออัด ยัดเยียด ก่อนที่ชายนิรนามจะสาวเท้าจ้ำเดินจากไปอย่างเร่งรีบ มีเสียงรำพึงที่สั่นระรัวปนหวาดกลัวเล็ดรอดออกจากปากของชายนิรนามอย่างแผ่ว เบา “ สุมาเต๊กไต๋ ผู้นี้ ใช้เคล็ดสุดยอดวิชา “ ลอกเนื้อ มังกร ” ได้แนบเนียนล้ำเลิศเหนือมนุษย์ธรรมดาจริงๆ ช่างอำมหิตยิ่งนัก ” อันนี้สำหรับเรื่องโลตัสที่จีนนะครับ ส่วนเรื่องse-edกับbook smileผมว่าคนละกลุ่มลูกค้าครับเพียงแต่มีสินค้าบางอย่างซ้ำกันลูกค้าิบุ๊คสไมล์ส่วนใหญ่เป็นนิตยสารครับลูกค้าซีเอ็ดนี่เป็นหนังสือวิชาการกับพ็อคเก็ตบุ๊ค นิตยสารนี่ซื้อร้านที่ใกล้ตัวอยู่แล้วครับซึ่งจริงๆแล้วผมก็ไม่เห็นว่าแย่งลูกค้ากันนะครับ สมมุติว่าผมจะซื้อa dayแล้วตอนนั้นผมอยู่บ้านผมก็คงซื้อที่เซเว่น แต่ถ้าเดินห้างอยู่แล้วอยากอ่านa dayผมก็เิดินไปซื้อที่se-edคงไม่กลับบ้านก่อนแล้วค่อยซื้อ แต่ที่แน่ๆคือถ้าผมจะซื้อหนังสือการลงทุน หรือนิยายที่ไม่ใช่นิยายเกาหลีแบบเด็กมัธยมชอบอ่านที่วางขายที่เซเว่นผมต้องไปซื้อที่ซีเอ็ดครับ ซึุ่่งผมไม่คิดว่าเซเว่นจะสามารถเอาหนังสือแบบซีเอ็ดมาวางขายตามสาขาต่างๆได้ง่ายๆเพราะดอกหญ้าก็ทำให้เห็นแล้วว่าร้านหนังสือตึกแถวมันโตไม่ได้ทุกสาขา ผมจึงไม่ห่วงซีเอ็ดมากนักในเรื่องนี้ แต่ถ้าเซเว่นมีระบบจัดซื้อหนังสือออนไลน์แล้วส่งไปให้คนสั่งซื้อที่สาขาใกล้บ้านแบบที่ซีเอ็ดทำอยู่ซีเอ็ดก็อาจตายได้เหมือนกัน แต่ที่ผมอยากเห็นก็คือ2ที่เป็นพันธมิตรกัน สั่งหนังสือซีเอ็ดแล้วไปส่งที่เซเว่นใกล้บ้านแต่ไม่รู้จะเป็นไปได้หรือเปล่า :D
โดย
drypoint
เสาร์ ก.พ. 07, 2009 9:57 am
0
0
หุ้นที่มี business model เจ๋งที่สุด มีอะไรบ้างคับ
ดูง่ายๆแค่เรื่องโลตัสนี่ก็เห็นเรื่องความเขี้ยวของเจ้าสัวแล้วนะครับ
โดย
drypoint
ศุกร์ ก.พ. 06, 2009 11:29 pm
0
0
ใครคำนวณหามูลค่าหุ้นเป็นบ้างครับ (VI มือใหม่ครับ)
ตามลิงค์นี้ไปเลยครับ http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=1250
โดย
drypoint
เสาร์ ม.ค. 31, 2009 8:40 pm
0
0
หุ้นที่เราสนใจ ไม่มีในร้อยคนร้อยหุ้น มันจะเป็นหุ้น VI ไม๊
ดร.นิเวศน์ เป็นสายเต่า อาจารย์ เทพ เป็นสายห่าน แล้วท่านๆ เป็นสายอะไรครับ ??? แต่ของผมน่าจะเป็นห่านเดินช้ายิ่งกว่าเต่าแน่เลยตอนนี้ :evil: ผมสายเป็ดครับคือไม่เก่งซักอย่างแค่เอาตัวรอดแล้วเอาชนะตลาดได้ปีละนิดหน่อยก็พอถ้าได้มากกว่าที่คาดก็ถือว่าโชคดีไป :)
โดย
drypoint
เสาร์ ม.ค. 31, 2009 10:27 am
0
0
เปิดสอนบัญชี
2000-5000นี่พอไหวครับ 20000-50000นี่บอกได้คำเดียวว่าจุก เด็กจบใหม่เงินเดือนสตาร์ท12000-15000คงเสียโอกาสไปไม่น้อย ส่วนตัวผมคงยอมจ่ายมัดจำได้สูงสุดที่10000บาท ถ้า20000-50000คงไม่ไหวครับเสียสภาพคล่องทางการเงินมากเกินไป
โดย
drypoint
ศุกร์ ม.ค. 23, 2009 10:36 pm
0
0
การลงทุนมีความเสี่ยง << ผมคิดว่าคำนี้คงไม่ถูกทั้งหมด
คือประโยคนี้เต็มๆมันคือ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ซึ่งผมก็คิดว่าถูกต้องแล้วนะครับ ประโยคพวกนี้ส่วนใหญ่คนพูดกันย่อๆดูตัวเต็มแล้วมันก็ถูกต้องและเข้าใจได้ง่ายนะครับ
โดย
drypoint
ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 10:04 am
0
0
มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ
ผมว่ามันยังไม่จบประโยคครับ ผมว่าจริงๆแล้วมันต้องเป็น ถ้าลงทุนในระยะยาวโดยซื้อหุ้นพื้นฐานดีในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
โดย
drypoint
พุธ ธ.ค. 17, 2008 2:29 pm
0
0
ขอหุ้นที่ลงทุนเพิ่มน้อยๆสร้าง FCF กำไร ยอดขายโตต่อเนื่องครับ
คุณฉัตรชัยนี่เป็นนักลงทุนที่แปลกมากและน่าเอาตัวอย่าง ครั้งแรกที่ผมรู้ว่าคุณฉัตรชัยถือwgตัวเดียวนี่ผมคิดว่าทำไมกล้าเสี่ยงขนาดนี้ แต่พอลองอ่านไปเรื่อยๆผมพบว่าคุณฉัตรชัยรู้ข้อมูลธุรกิจและงบการเงินของหุ้นตัวอื่นค่อนข้างลึกเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้คงเป็นจุดที่คุณฉัตรชัยใช้ลดความเสี่ยงเนื่องจากมองแล้วพบว่าหุ้นตัวอื่นไม่มีจุดแข็งเท่ากับwg
โดย
drypoint
อังคาร ธ.ค. 16, 2008 11:22 am
0
0
หุ้นดีปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนยังไงเปลี่ยนเเค่ไหนถึงจะขายทิ้งคะ
สำหรับผมซื้อตัวที่เรารู้จักมันดีที่สุด รู้ว่าบริษัททำอะไร ถ้าไม่รู้จักต่อให้ดีขนาดไหนก็ไม่เอาครับ อย่างbolเนี่ยต่อให้ใครว่าดีขนาดไหนผมก็ไม่ซื้อเพราะผมไม่มีประสบการณ์ร่วมในธุรกิจแบบนี้ ขอซื้อกิจการที่เคยใช้บริการกันดีกว่า
โดย
drypoint
อาทิตย์ ธ.ค. 14, 2008 12:22 pm
0
0
ติด THAI ใครติดบ้างงงงงง
แต่AOTก็มีความเสี่ยงในเรื่องการเมืองนะครับ วันดีคืนดีโผล่มาปิดสนามปินอีกนี่แย่เลย
โดย
drypoint
พฤหัสฯ. ธ.ค. 11, 2008 11:13 pm
0
0
หุ้นปันผลปีละ 4 ครั้ง มีหุ้นอะไรบ้างครับ
pslมีความเสี่ยงจากการเป็นหุ้นวัฏจักรนะครับ ตอนนี้เป็นขาลงไม่รู้ว่าจะทำกำไรพอที่จะจ่าย4Qได้เหมือนเดิมหรือเปล่า
โดย
drypoint
จันทร์ ธ.ค. 08, 2008 1:02 pm
0
0
มารอฟังควันหลงงานจิบเบียร์ครับ
แถว 4 แยกอสมท มี fortune และ เอสพานาดอยู่แล้วเนี่ยครับ มีห้างอีกสองห้างอยู่บนรัชดาแถวศูนย์วัฒนธรรมอีกด้วย เอ๋พี่จะให้ CPN ไปพัฒนาแถวไหนล่ะครับ คนทำงานอยู่ที่ตึก Fortune True towner ธอส ทิพยประกันภัย MCOT TOT (อันนี้สาขาย่อยคนไม่มากหรอก) RS Towner (ก็ไกลไปหน่อย) แล้วก็ไทยประกันชีวิต (ใช่หรือเปล่าหนอ เนี่ยก็ไกลไปนิด แต่ติดกับโรบินสันและจัสโก้อยู่แล้ว) ในซอยสี่ก็พัฒนาเป็นตลาดนัด คนเดินเบียดเสียดแน่นมาก จากเดิมที่เป็นพวกร้านกลางคืนตอนนี้กำลังทำพื้นที่ใหม่อยู่ ด้านที่เป็นทางเข้าจาก สีแยกอสมท ก็ตอนนี้กำลังขึ้นพวก ตึกแถว(ข้างทิพยประกันภัย) ตลาดนัดคนเดินก็มีตั้งแต่ประตู MCOT ยังตึกร้างที่ไม่ได้ก่อสร้างต่อครับ นี้คือสภาพแถวสีแยก อสมท (พอดีผมไปปล่อยเลยรู้ว่ามันมีอะไรมั้งครับ) อ่านในร้อยคนร้อยหุ้นของLPNมีคนโพสว่าเซ็นทรัลจะสร้างตรงข้ามฟอร์จูนเลยครับ
โดย
drypoint
อาทิตย์ พ.ย. 30, 2008 1:56 pm
0
0
เพื่อนๆลด port หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวบ้างหรือเปล่าครับ
ผมมองว่าต่อให้แก้ปัญหาสนามบินแล้วก็ยังมีปัญหาอีกยาวครับ ผมให้อย่างเร็ว5ปีถึงจบเรื่องประท้วง ตอนนี้ผมมองหาธุรกิจที่ต่อให้เราซื้อแล้วไม่มีคนอยากซื้อต่อก็ยังถือแล้วสบายใจครับ
โดย
drypoint
เสาร์ พ.ย. 29, 2008 11:19 pm
0
0
จิบเบียร์เลียแผล Q3 /ศุกร์28พย08/โออิชิ พหลโยธิน
ดีใจที่เจอพี่ๆน้องๆเพื่อนๆทุกคนครับ
โดย
drypoint
เสาร์ พ.ย. 29, 2008 12:04 am
0
0
นักลงทุนผู้เสียสละ
ผมก็เคยทำอย่างคุณอาเหลียงครับแต่ทำแล้วพบว่าไม่ใช่ทาง คือที่ทำตอนแรกนี่คือได้เงินก็เอาไปลงทุนต่อเพื่อที่เงินจะได้งอกออกมามากกว่าเดิม แต่ตอนหลังผมคิดว่ามันตึงเกินไป ผมเลยแบ่งเงินออกมาบางส่วนเพื่อใช้จ่ายหาความสุขบ้าง ผมคิดว่าการเดินทางไปสู่จุดหมายที่อิสระภาพทางการเงินนั้นถ้าเราก้มหน้าก้มตารีบวิ่งไปมันเหนื่อยครับ วิ่งบ้างเดินบ้างแวะข้างทางบ้างแต่อย่าลืมจุดหมายสำหรับผมดีที่สุด
โดย
drypoint
ศุกร์ พ.ย. 21, 2008 10:06 pm
0
0
พบดร.นิเวศต์ ดร.ศุภวุฒิ ดร.ก้องเกียรติ มนตรี เสาร์6ธค51
หมายถึงถ้าครั้งต่อๆไปมีโอกาสน่ะครับ
โดย
drypoint
ศุกร์ พ.ย. 21, 2008 6:07 am
0
0
พบดร.นิเวศต์ ดร.ศุภวุฒิ ดร.ก้องเกียรติ มนตรี เสาร์6ธค51
ถ้าไม่เป็นการรบกวนผมอยากให้รายการสัมภาษณ์คุณฉัตรชัยเ้น้นๆคนเดียว2ช่วงแบบนี้บ้างได้ไหมครับ คือเคยไปดูสัมภาษณ์คุณฉัตรชัยรอบนึงแล้ว+ดูสัมภาษณ์ในmoney talk daily แต่เวลามันน้อยทำให้ไม่ละเอียดน่ะครับ :D :D :D
โดย
drypoint
พฤหัสฯ. พ.ย. 20, 2008 10:11 pm
0
0
พบดร.นิเวศต์ ดร.ศุภวุฒิ ดร.ก้องเกียรติ มนตรี เสาร์6ธค51
เดือนนี้คุยเรื่องเดียวตลอกรายการเหรอครับ เห็นปกติต้องมี2ช่วง
โดย
drypoint
พฤหัสฯ. พ.ย. 20, 2008 10:18 am
0
0
จิบเบียร์เลียแผล Q3 /ศุกร์28พย08/โออิชิ พหลโยธิน
โทษทีครับพอดีปกติเดินจากเซ็นทรัลไปเมเจอร์บ่อยๆเลยคิดไปคนเดียวว่าใกล้ครับ :oops:
โดย
drypoint
ศุกร์ พ.ย. 14, 2008 1:31 pm
0
0
จิบเบียร์เลียแผล Q3 /ศุกร์28พย08/โออิชิ พหลโยธิน
ริมถนนครับอยู่ข้างหน้าคอนโดศุภาลัยตรงข้ามร.ร.สตรีวรนาทครับ ถ้ามาจากรถไฟฟ้าหรือใต้ดินให้สังเกตที่ตึกช้างครับอยู่ก่อนถึงตึกช้างนิดเดียว
โดย
drypoint
พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 10:49 pm
0
0
จิบเบียร์เลียแผล Q3 /ศุกร์28พย08/โออิชิ พหลโยธิน
รถใต้ดินสถานีพหลโยธินครับ จากปิ่นเก้าผมว่าถ้าขึ้นรถใต้ดินหัวลำโพงน่าจะใกล้นะครับ
โดย
drypoint
พุธ พ.ย. 12, 2008 11:06 pm
0
0
ถือหุ้นยาว แล้วคุ้มค่าหรือ(ว่าง่ายๆ รวยหรือเปล่าว๊ะ)
ผมว่าอสังหานี่ไม่ได้แพ้เงินเฟ้อเลยนะครับเพียงแต่ว่าสภาพคล่องมันน้อยแค่นั้นเอง สำหรับผมสิ่งที่ชนะเงินเฟ้อได้มี3อย่างคือ ทอง ที่ดิน และหุ้น
โดย
drypoint
ศุกร์ พ.ย. 07, 2008 10:09 am
0
0
จิบเบียร์เลียแผล Q3 /ศุกร์28พย08/โออิชิ พหลโยธิน
จอง1ที่ครับ
โดย
drypoint
พุธ พ.ย. 05, 2008 7:10 pm
0
0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
คุณtokครับ ผมลองใช้excelที่คุณtokให้มาแล้วได้ผลดีมากครับ แต่ผมไม่ทราบว่าคุณtok code excel ในส่วนdebtของdcfผิดรึเปล่า เพราะว่าในcodeมันไปดึงค่าdebtช่อง B49ซึ่งเป็นปี2004มาน่ะครับ
โดย
drypoint
ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 11:24 pm
0
0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
ขอบคุณ คุณtokมากครับ
โดย
drypoint
ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 1:52 pm
0
0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
ผมต้องขอขุดกระทู้ขึ้นมาหน่อยนะครับเพราะว่าหัดหาค่าDCFอยู่ คือจากกระทู้นี้ผมหาค่าWCได้ไม่เท่ากับคุณtokอะครับเลยอยากถามผู้เชี่ยวชาญว่าผมดูค่าอะไรผิดไป เงินทุนหมุนเวียน เอาส่วนที่เป็นสินทรัพย์ลบด้วยส่วนที่เป็นหนี้สิน จากงบดุล (Balance Sheet) ส่วนที่เป็นสินทรัพย์ 2005 2006 ลูกหนี้การค้า 191.5 206.6 สินค้าคงคลัง 145.8 152.5 สินทรัพย์อื่นๆ 5.9 6 รวม 343.2 365.1 ส่วนที่เป็นหนี้สิน เจ้าหนี้การค้า 118.5 106.4 หนี้สินอื่นๆ 10 5.9 รวม 128.5 112.3 WCเท่ากับ 343.2-128.8 = 214 365.1-112.3= 252.8 ผมอยากทราบว่าผมคิดหรือมองค่าตรงไหนผิดครับถึงได้ไม่เท่าคุณTOK
โดย
drypoint
ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 1:02 am
0
0
ซื้อทั้งบริษัท เอาเงินบริษัทจ่ายหนี้ แล้วยังมีเงินเหลือ
รู้สึกว่าส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ทำอสังหานะครับ
โดย
drypoint
พุธ ต.ค. 29, 2008 10:15 am
0
0
ถือหุ้นยาว แล้วคุ้มค่าหรือ(ว่าง่ายๆ รวยหรือเปล่าว๊ะ)
[quote="ปรัชญา"] วันศุกร์ที่
โดย
drypoint
อาทิตย์ ต.ค. 26, 2008 11:32 pm
0
0
หามูลค่าบริษัททำอย่างไรครับ มีสูตรคำนวณไหม ขอตัวอย่างประกอบ
[quote="tok"] ในอีก 20 ปีข้างหน้า (ปี 2007) บริษัทจะมีกำไรต่อหุ้นก่อนหักภาษีเพิ่มขี้นเป็น 0.7*(1+0.1)^20 = $4.71 Discount ด้วย rate 7% จะได้กำไรต่อหุ้นก่อนหักภาษีในปี 1987 เท่ากับ 4.71/(1+0.07)^20 = $1.22
โดย
drypoint
พุธ ต.ค. 22, 2008 1:42 pm
0
0
หามูลค่าบริษัททำอย่างไรครับ มีสูตรคำนวณไหม ขอตัวอย่างประกอบ
ถ้าบริษัทมีอัตราการเติบโตของกำไรสม่ำเสมอ 20% ต่อปี อัตราการเติบโตของกำไรนี่ใช้กำไรสุทธิหรือกำไรต่อหุ้นครับ ขอถามอีกอย่างครับเลข1ที่เอามาบวกในวงเล็บนี่มาจากไหนครับ คือไม่ค่อยเก่งเลขครับ
โดย
drypoint
พุธ ต.ค. 22, 2008 12:48 pm
0
0
มารวบรวมคำคมของเซียนหุ้นที่ท่านนับถือกันไหม
ผมจำไม่ได้ว่าใครในบอร์ดพูดไว้ "ซื้อเพระาอะไร ขายเพราะอย่างนั้น" นี่ชี้ทางสว่างให้ผมเลย
โดย
drypoint
เสาร์ ต.ค. 18, 2008 12:47 pm
0
0
ยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นคุณค่า
รบกวนปล่อยต่อได้ไหมครับ ผมยังไม่ได้เลยครับ เพิ่มเป็นสมาชิกcosmoza
โดย
drypoint
พุธ ต.ค. 15, 2008 8:51 am
0
0
วิธีคิด MOS ในสถานการณ์ปัจจุบัน
free cash flow
โดย
drypoint
จันทร์ ต.ค. 13, 2008 9:47 pm
0
0
+รออะไร ที่เท่าไหร่กันครับ+
UEC 2บาท SNC 2บาท
โดย
drypoint
จันทร์ ต.ค. 06, 2008 10:49 pm
0
0
ฟัง เจาะวิกฤตพิชิตโอกาสตีแตกตลาดหุ้น เสาร์4ตค
จากหลักที่ดร.บอก 1. มีอำนาจทางการตลาด 2. มี Monopoly power (ผูกขาด) 3. กำไรปรกติ หรือ เปลี่ยนแปลงไม่มาก 4. คาดการณ์สภาพธุรกิจได้ ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ต้องมั่นคง ฺBECนี่เข้าข่ายมั้ยครับ ลงมามากพอควรแล้ว
โดย
drypoint
จันทร์ ต.ค. 06, 2008 2:03 pm
0
0
วิธิการใช้ปุ่มต่างๆเวลาโพสท์
[quote="yy"][quote="poppo"][quote="007s"]:bow: ขอบคุณค่ะท่านซีเค[/quote] ขอลองบ้าง :D[/quote] ลองด้วยคนครับ[/quote] ทดลอง
โดย
drypoint
พุธ ก.ย. 24, 2008 2:53 pm
0
0
จิบเบียร์ Q2 5 กย. 2551 ตอนของถูกเต็มตลาด
จอง1ที่ครับ หน้าใหม่ขอฝากตัวด้วยครับ
โดย
drypoint
พุธ ส.ค. 06, 2008 3:19 am
0
0
เรียนถามเพิ่มจากสัมนาเมื่อวานครับ พี่วิบูลย์ พี่ฉัตร พี่มน
รบกวนถามเพิ่มเติมครับ คุณวันฉัตรมีวิธียังไงให้เราไม่เกิดความรู้สึกผูกพันกับหุ้นมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่มการถือหุ้นตัวเดียวแถมหุ้นตัวนั้นยังให้ผลตอบแทนมหาศาล ผมยกตัวอย่างเช่นวันหนึ่งเกิดWGเกิดดำเนินการผิดพลาด หรือกำไรตกต่ำ ทำนยังไงให้เราเป็นกลางไม่เอาใจช่วยบริษัทมากเกิน หรือคิดว่าการผิดพลาดครั้งนี้เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้เสียหายมากในกรณีที่บริษัทอาจไม่กลับมาบริหารได้ดีเหมือนเดิม
โดย
drypoint
อาทิตย์ ก.ค. 06, 2008 3:00 pm
0
0
59 โพสต์
of 2
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
drypoint
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
เสาร์ มิ.ย. 09, 2007 12:38 am
ใช้งานล่าสุด:
พฤหัสฯ. ก.พ. 10, 2011 10:50 am
โพสต์ทั้งหมด:
148 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว