Price to Sales Ratio [quote="RONNAPUM"] ใช้ดูเงินลงทุนด้วยว่ามันคุ้มไหมต่อสาขานั้น ใช้ดูการเจริญโตหรือการทดถอยของธุรกิจต่อสาขานั้นๆ ใช้ดูความสามารการทำกำไรต่อสาขานั้นๆ ใช่เปล่าพี่กบ ผมลืมแล้วอ่ะ โดย krisy พฤหัสฯ. ธ.ค. 17, 2009 2:35 pm

Price to Sales Ratio PS ratio คิดว่าน่าจะเอาไว้เลือกธุรกิจแบบ top down คือได้กลุ่ม industry มาก่อนแล้วมาเลือกตัวที่ดีที่สุดในกลุ่มนั้น เพราะการเทียบกับ sales เป็นการดูสามารถในการแข่งขันเพียวๆ ปัจจัยพวกการบริหารค่าใช้จ่ายหรือบริหารเงินสด เราจะถือว่าถ้าอยู่ในกลุ่ม industry เดียวกัน น่าจะไม่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามให้ระวังเรื่องการรับรู้รายได้เป็นสำคัญ เพราะถ้ามีนโยบายการรับรู้รายได้ไม่เหมือนกัน คิดว่าดู PE ดีกว่า เพราะการรับรู้รายได้ค่าใช้จ่าย เค้าให้ทำเป็นรายการคู่แฝด มีแต่รายได้หรือค่าใช้จ่ายลอยๆมาไม่ได้ ดู PE จะปลอดภัยกว่า โดยส่วนตัวคิดว่า ควรดู PS เพื่อดู confirm แนวโน้มธุรกิจ ว่าตลาดโตขึ้น PS ควรลด เพราะถ้าดูเป็น PE อาจมองไม่ชัด หรือ PE สูงขึ้น แต่ PS ลด อันนี้อาจจับตามอง เพราะการขยายตลาดช่วงแรกๆใช้ค่าใช้จ่ายในการเปิดตัวสูง forward PE ในปีถัดมาอาจจะไม่แพงก็ได้ โดย krisy พฤหัสฯ. ธ.ค. 17, 2009 2:07 pm

ไม่ทราบว่าผมจะหาซื้อหนังสือ One Up On Wall Street ได้ที่ไหน ค้นจาก google เพื่อหาสำนักพิมพ์ค่ะ ฟิเดลลิตี้ อะไรนี่แหละค่ะ ที่สำนักพิมพ์ยังพอมีขายอยู่ เพราะเพิ่งซื้อมา แต่จำเวบไม่ได้ ลองหาดูนะคะ โดย krisy อังคาร ธ.ค. 15, 2009 2:15 am

การแปลงสภาพหนี้สินระยะยาวไปเป็นหุ้นกู้แปลงสภาพ.ข้อดีข้อเสีย? เพิ่มเติมว่า หุ้นกู้แปลงสภาพไม่จำเป็นต้องเป้น zero coupon bond นะคะ อาจมีการจ่ายดอกเบี้ยรายปีได้เหมือนกัน แต่ดอกเบี้ยจะต่ำกว่าหุ้นกู้ปกติเพราะได้เรื่องการแปลงสภาพมาแล้ว และก้อไม่จำเป็นที่จะแปลงสภาพปีสุดท้าย บางอันก็แปลงไปเรื่อยๆตลอดทาง ทำให้มีหุ้นเข้าใหม่มาเรื่อยๆ ถ้าได้ซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพจริงๆ ก็ดีมากๆเพราะผู้ซื้อได้สิทธิประโยชน์เยอะแยะ ถือไปหลายปี ต้องมีสักปีที่ราคาหุ้นมันดีดขึ้นมาให้แปลง หรือถ้าซ้ำร้ายจริงๆก็ได้ดอกเบี้ยอยู่ดี ถ้ากิจการไม่ล้มละลายไปนะ แต่ถ้าต้องถือกิจการที่มีหุ้นกู้แปลงสภาพ ก็ต้องเผื่อส่วนลดมากมากหน่อย เพราะ EPS จะลดฮวบเมื่อแปลง ช่วงดอกเบี้ยถูกๆไม่ค่อยได้เห็นหุ้นกู้แปลงสภาพหรอกค่ะ ช่วงเงินตึงๆดอกแพงๆถึงอาจจะได้เห็นบ้าง โดย krisy จันทร์ พ.ย. 30, 2009 6:31 pm

มีตติ้ง TVI ภาคใต้ ครั้งที่ 2 กบยังอยู่สิงคโปร์อยู่เลยพี่โจ แล้วกบจะได้หุ้นเด็ดยังไงหล่ะเนี่ย แย่จัง  :cry: โดย krisy อาทิตย์ พ.ย. 22, 2009 2:17 pm

เงินสดในงบดุล มากขนาดไหนจึงบอกว่ามากเกินไป ?? WG มีเงินสดเท่าไหร่คะ เอา CA-CL ดูนิดนึงว่า CA กับ CL รวมรายการที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับ daily operation เท่าไหร่ อย่างพวก other current asset เยอะไหม เพราะพวกนั้นไม่ได้อยู่ใน cash cycle นะจ้ะ โดย krisy อังคาร พ.ย. 17, 2009 7:01 pm

เงินสดในงบดุล มากขนาดไหนจึงบอกว่ามากเกินไป ?? คำตอบที่ถูกไม่น่ามีค่ะ ก็ต้องดูทุกอย่างประกอบกันตามที่ท่านอื่นได้แนะนำกันไว้ FCF ถามว่าดูได้ไหม มันก็ดูได้นะคะ เราได้เงินค่าขนมมา หักโน่นนี่แล้ว เหลือเท่าไหร่ แล้วที่เหลือมันพอกับค่าครองชีพจนกว่าจะได้เงินค่าขนมก้อนใหม่ไหม นั่นก็บอกเงินสดที่จำเป็นต้องมีได้ค่ะ จริงๆเอาเงินสดในหน้างบมาดูกับ cash cycle (รอท่านอื่นอธิบายเน้อ) ก็จะทราบว่าเงินพอหรือไม่พอ หรือง่ายกว่านั้นไปดูของคู่แข่งก็ได้ว่า ถ้าขนาดพอๆกัน เค้ามีเงินเท่าไหร่ เราควรมีพอๆกัน วิธีนี้จะหยาบกว่า ต้องรับความเสี่ยงนิดหน่อย เพราะคู่แข่งที่ขนาดพอๆกันไม่จำเป็นต้อง copy การบริหารกันทุกรูปแบบ ส่วนเงินพอหรือไม่พอแล้วต้องทำไงนั้น การจัดการเรื่องเงินเป็นเรื่องของผู้บริหารค่ะ อย่าไปหวังมากมาย โดย krisy อังคาร พ.ย. 17, 2009 2:54 pm

Re: ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว) พอดีมีคำพูดว่า เพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิง แสดงว่าผู้หญิงมีความรู้เรื่องเพชร มากกว่าผู้ชาย และเห็นว่าเพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดอีกต่างหาก เลยถามว่าคุณผู้หญิงใน TVI มีใครมีความรู้เรื่องเพชรบ้าง เอาแบบมีความรู้จริงๆๆเลยว่า เพชรมีอะไรบ้างเกรดอะไรบ้าง แล้วราคามันเทียบอย่างไง แหล่งที่ผลิตเพชรมีที่ใดบ้าง ขอบคุณครับ :) เพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะชอบสัตว์เลี้ยงมากกว่า แต่ krisy ก็ชอบเพชรค่ะ แวววาวดี ด้วยความที่ผู้หญิงมักไม่ค่อยได้ซื้อเอง ดังนั้นผู้หญิงที่รู้เรื่องเพชรจริงๆคงมีไม่มาก อีกอย่าง ถ้ามีคนซื้อเพชรมาให้ แล้วผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ซักว่า มีใบ certificate หรือเปล่า ของสถาบันไหน น้ำเท่าไหร่ ความใสเท่าไหร่ กี่กะรัต ซื้อที่ไหน (เพราะเอาเข้าจริงแล้ว แท้ไม่แท้ดูไม่ออก เน้นเชื่อใจผู้ขายเป็นหลัก) ผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีวันได้เพชรเป็นของขวัญอีกเลย อย่างนี้จะคาดหวังว่าผู้หญิงจะรู้เรื่องละเอียดคงเป็นไปได้ลำบากสักหน่อยนะคะ สำหรับตัว krisy เอง ชอบเพชร แต่ไม่ได้รู้เรื่องละเอียดมากไปกว่าคำถามพื้นฐานที่จะชอบถามผู้ขาย (แต่ยังไม่มีเงินซื้อ) ก็ถามว่า เพชรที่ไหน ส่วนตัวได้เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าต้องเบลเยี่ยมเท่านั้น กี่กะรัต ถ้าจะซื้อของใหญ่ ควรจะเข้าไปดูที่ website ของสถาบันอัญมณีนะคะ ว่าตอนนี้ 1 กะรัต ราคาตลาดอยู่ที่เท่าไหร่ น้ำเท่าไหร่ ส่วนมากก็น้ำ 97 ก็จะขาวแล้ว ในใบ cer ก็ต้องดูว่าเป็นสีอะไร ถ้าได้สีสัก G หรือ F  เพชรจะขาวใสค่ะ ความใส ดูว่าเพชรมีความสกปรกในเนื้อเท่าไหร่ เค้าวัดกันเป็นค่าเฉพาะ ที่ขายทั่วไปก็จะเห็นที่ IF, VVSI, VVSII, VSII, VSI ค่ะ อันนี้เรียงจากใสมากไปใสน้อย สุดท้าย cutting อันนี้ก็ดูไม่เป็นเหมือนกันค่ะ เกินความสามารถ เพราะมันต้องดูเหลี่ยม ดูมุม ดู crown ดู table จุกจิกเกินไป ก็ต้องถามเค้าโดยพยายามอ้างอิงแบบ cutting ยอดนิยม จบจาก 4 C (Carat, Colour, Clarity, Cut) ก็จะถามว่าใบ cer ที่ไหน เพราะใบ cer ที่มาจากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับ เวลาเอาไปขายเมื่อเดือดร้อนจะโดนหักไม่มาก แต่ถ้าไม่ขาย ก็ไม่ต้องสนใจก็ได้ เพราะใบ cer พวกนี้จะเพิ่มราคาเพชรด้วยค่ะ ถามแต่เพชรก็อย่าลืมถามตัวเรือนด้วย ว่าใช้ทอง ทองคำขาว แพลตตินัม อะไร หนักเท่าไหร่ อันนี้เป็นความรู้พื้นๆของ krisy เองค่ะ โดย krisy เสาร์ พ.ย. 14, 2009 12:15 pm

รายได้จากอาชีพหลัก VS รายได้จากเงินลงทุน ตอบจากโจทย์เลือกข้อ 1 ตอบจากใจเลือกข้อ 2 ถ้าน้องทำข้อ 1 ได้สำเร็จจริงๆ น้องจะมีเงินเก็บ 100 ล้านภายใน 10 ปี แต่น้องจะขาดทุกอย่างที่ใช้เงินนิดหน่อยซื้อได้ตอนนั้น แต่เงินมหาศาลซื้อมันตอนนี้ไม่ได้ พี่ว่าระหว่างทางชมนกชมดอกไม้บ้างก็ได้มั้งจ้ะ โดย krisy พุธ พ.ย. 04, 2009 9:42 pm

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้ 26. เลิกตัดสินว่าหุ้นดีไม่ดี จาก financial ratio ตัวสองเดียว ให้ดูทุก ratio รวมกัน 27. ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย หรือ minority interest หรือ MI เกิดก็ต่อเมื่อ บริษัทแม่มีการลงทุนในบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม ส่วนที่บ.แม่ไม่ได้ถือหุ้น นั่นแหละเรียกว่า MI ดังนั้นถ้าแม่ลงทุนในลูก 99.99% ก็แทบจะไม่มี MI ในงบ 28. รายการพิเศษมีไว้ให้ดึงออกจากงบเวลาคิด ratio ถ้าอัตราส่วนเหวี่ยงมากๆลองดูว่ามีรายการแปลกๆปนอยู่ไหม หรืออาจต้องใช้ยอดต้นปีปลายปีมาเฉลี่ยก็ได้ หรือดูว่าสูตรผิดไหม 29. ตรวจสุขภาพงบการเงินบ่อยแค่ไหน ทุกไตรมาส หรือ ทุกปี ขึ้นอยู่กับความขยันและเนื้อหาของกิจการที่ลงทุน เสี่ยงมากก็ดูบ่อย อันนี้ไม่ต้องถามใครที่ไหน ถามใจก็พอว่ารับได้ไหม ถ้าดูแค่ปีละหน โดย krisy พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 4:02 pm

อสังหาฯ ตัวไหนมียอดขาย ต่อ มูลค่าตลาด สูงกว่า 2 เท่าบ้าง ยอดขายมาก...คือ การรับรู้รายได้ในอนาคตจะสูงไงครับ... :) ไม่ต้องดู backlog เหรอค่ะ โดย krisy จันทร์ ต.ค. 26, 2009 10:42 am

Interesting presentation notes from ECRI !!! ขอบคุณมากค่ะ โดย krisy อังคาร ต.ค. 06, 2009 5:50 pm

ขอเชียร์หุ้นตัวนึงได้ป่ะคับพี่พี่ VI คนเล่มเกมก็อยากซื้อตัวนี้กัน เราก็เป็นค่ะ พอดูเข้าไปลึกๆ แล้วเอาตัวเองมาตัดสินใจด้วยในฐานะคนเล่นเกมคนหนึ่ง ปรากฎว่าเกิดข้อขัดแย้งมากมายว่า เรายังไม่ believe เลยว่าเค้าโตได้ อาจจะวัดจากมุมมองเล็กๆก็จริงแต่ก็ในเมื่อไม่เชื่อในธุรกิจ เราก็ถอยออกมาค่ะ บางเกมทำเป็นภาษาไทยแล้วเสียรสชาดค่ะ บางทีเป็นภาษาอังกฤษนั่นก็คือเสน่ห์ เราเล่น the sims เป็นภาษาไทย แล้วก็ขัดใจ สุดท้ายก็แก้ไปเป็นภาษาอังกฤษ อ่านไม่รู้เรื่องบ้างแต่ได้บรรยากาศดี โดย krisy จันทร์ ต.ค. 05, 2009 11:39 pm

เป็นไปได้ไหมที่ LH จะไม่ยอมเสียแชมป์ แล้วทำ M&A [quote="อะไรดีละ"]ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ LH โดย krisy อังคาร ก.ย. 29, 2009 4:57 pm

ถามเรื่อง บริษัท (มหาชน) ไม่จำเป็นค่ะ แค่มีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 15 คนก็เป็นมหาชนได้ ไม่ต้องเข้าตลาด โดย krisy พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 5:55 pm

หัดรู้เรื่อง งบการเงิน เพิ่มเติมค่ะ อย่าลืมว่าเงินมีต้นทุนนะคะ ถึงจะเป็นเงินออมก็เถอะ อย่าลืมค่าเสียโอกาสค่ะ ดังนั้น เมื่อผู้บริหารจะเปิดกิจการเค้าก็จะต้องทำงบประมาณว่า ต้องใช้อะไรเท่าไหร่ พอได้จำนวนเงินที่ต้องการแล้ว จากนั้นเค้าถึงจะดูว่าแหล่งเงินนั้นมาจากทางไหนได้บ้าง ง่ายๆก็คือ ทุนของเจ้าของกับกู้ธนาคาร ปกติดอกเบี้ยเงินกู้จะมีต้นทุนสูงกว่าทุนของเจ้าของ เพราะเราได้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ด้วย การจัดสรรแหล่งเงินก็จะดูองค์ประกอบของต้นทุนควบคู่ไปกับผลตอบแทนในอนาคต เพราะถ้าได้กำไรช้า เช่น รับเหมา กู้ธนาคารมากมากจะเกิดภาระที่หนักมาก เพราะเราได้เงินช้า การใช้ทุนเจ้าของมากหน่อยก็ดูปลอดภัยกว่า แต่ถ้าเงินสดหมุนไวๆ ก็กู้มากหน่อยได้ ไม่มีคำตอบสุดท้าย มีแต่ปัจจัยให้พิจารณาว่าต้องใช้แหล่งเงินจากทางไหนเท่าไหร่ โดย krisy พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 1:44 am

ผมมาขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านครับ วันนี้พอร์ตผมทะลุแสนแล้ว [quote="Voldtrest"] ขอถามนิดนึงครับ หลักการนี้ต่างกับการทำงานเพื่อเงินไหมครับ (ไม่ได้มีเจตนาป่วนนะครับ) ผมฟังแล้ว เหมือนจงทำทุกอย่าง เพราะทุกอย่าง ก็ให้เงินมาหล่อเลี้ยงเหมือนกัน โดย krisy อังคาร ก.ย. 08, 2009 2:22 pm

Re: เราได้อะไรในห้องร้อยคนร้อยหุ้น นอกจากตามเซียน... คำถามแรกที่น้องโรมี่ถามคือ ก็เลยมาถามเพื่อนๆ พี่ๆ ทั้งเก่า ทั้งใหม่ว่า จริงๆแ้ล้ว เราควรใช้ห้องร้อยคน ร้อยหุ้น อย่างไร ให้มีประสิทธิภาพ มากที่สุดครับ ? แต่หัวข้อกล่าวถึงตามเซียน ก็เลยเป็นเรื่องตามเซียนด้วยประการฉะนี้ Post ความเห็นบางทีก็ต้องรับผิดชอบเยอะนะ เพราะขนาดของใจไม่ได้เท่ากันทุกคน โดย krisy อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 3:08 am

ตั้งแต่ลงทุนกันมา เคยทำอะไรที่ผิดพลาด จนอยากจะย้อนเวลาไหมคับ พลาดที่เจอเธอช้าเกินไป คนอื่นพาเธอไปไกลแล้ว 555 อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนสิค่ะ โดย krisy ศุกร์ ก.ย. 04, 2009 3:29 pm

ตั้งแต่ลงทุนกันมา เคยทำอะไรที่ผิดพลาด จนอยากจะย้อนเวลาไหมคับ Bias โง่ๆ ทำให้ซื้อขายคนละเหตุผล ระมัดระวังมากเกินไป ติด perfect โดย krisy ศุกร์ ก.ย. 04, 2009 2:51 pm

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ ชอบพี่โจ หาเวลาลงมาหาดใหญ่สิจ้ะ น้องฮง ถ้าจะให้พี่เค้าขึ้นกรุงเทพ พี่โจมีลูกเล็กๆทั้งนั้น อาจยากนิดนึงนะสำหรับซามูไรพ่อลูกอ่อน โดย krisy พฤหัสฯ. ก.ย. 03, 2009 5:12 pm

อยากให้มีงาน meeting tvi ครับ please รอมานานเหมือนกัน ฮงจัดหัวข้อสิ จะได้คุยตรงประเด็น วิทยากรก็จะได้เตรียมตัวมาด้วย โดย krisy พฤหัสฯ. ก.ย. 03, 2009 10:01 am

Re: ทำไมอุตสาหกรรมแต่ละชนิด PE ต่างกัน? เข้ามาฮาพี่พอใจก่อนตอบ :lol:  :lol:  :lol: สำหรับผม ผมชอบหุ้นที่มี PE 5-10 โดยประมาณ การเลือกหุ้นโดยมอง PE แบบนี้ เป็นวิธีที่ใช้ได้ไหมครับ ปล.ผมอ่าน ฟอร์ม 56-1 ได้แบบคร่าวๆ และชอบจินตนาการถึงอนาคตบริษัท ว่าอีก 5 ปี 10 ปี จะเป็นอย่างไร? ส่วนเรื่องรายละเอียดทางบัญชีลึกๆนั้น ไม่ถนัดเลยครับ ดูแค่ว่ากระแสเงิน เพียงพอให้บริษัทอยู่รอดไปได้ และมีปันผลให้ผมทุกปีก็พอครับ และก็ดูว่ามีการเจริญเติบโตเล็กๆน้อยๆ แต่โตทุกปี อย่างนี้เพียงพอไหมครับ เตียวเสี้ยนว่าพี่อ้วนเสี้ยวต้องไปอ่านครบเครื่องเรื่อง PE ในห้องคุณค่าด้วยค่ะ PE ต่ำต้องมาพร้อมองค์ประกอบหลายอย่างถึงจะเป็นหุ้นที่ลงทุนได้ เพราะไม่ใช่ว่าตลาดมองผิดเสมอไป แต่เนื่องจากพี่อ้วนเสี้ยวไม่โลภ ผิดกับ character ทรราชย์ทั่วไป ( :lol: แซวนะจ้ะ) เตียวเสี้ยนจะบอกว่า การจินตนาการถึงอนาคตแต่ยังไม่คล่องงบการเงิน เราจะ bias กับมุมมองของเราจนตัดสินใจผิด กระแสเงินสดพอเลี้ยงกิจการ เท่าไหร่ถึงเรียกว่าพอนั่นก็เป็นเรื่องใหญ่ ทุกกิจการโตได้ถึงระดับหนึ่งเท่านั้นค่ะจากเงินลงทุนที่ลงไปครั้งแรก พอถึงจุดหนึ่งต้องเพิ่มเงินแน่นอนไม่งั้นก็หยุดโต ดังนั้นกระแสเงินสดก็ต้องสำรองไว้ด้วยขึ้นกับแผนระยะยาวของกิจการ โดย krisy อังคาร ก.ย. 01, 2009 3:06 pm

เราได้อะไรในห้องร้อยคนร้อยหุ้น นอกจากตามเซียน... น้องโรมี่ ถามแบบนี้แปลว่าเริ่มใช้บอร์ดเป็นแล้วแหละ โดย krisy อังคาร ก.ย. 01, 2009 1:58 pm

"เวลาเลือกหุ้นให้ใช้พื้นฐาน แต่จังหวะซื้อต้องใช้เทคนิเค อุ๊ย พิมพ์ชื่อพี่โดมเป็นพี่พอลได้ไงเนี่ย  :oops: โดย krisy จันทร์ ส.ค. 31, 2009 7:55 pm

"เวลาเลือกหุ้นให้ใช้พื้นฐาน แต่จังหวะซื้อต้องใช้เทคนิเค กบลองแล้วไม่ work ค่ะ คนอื่นอาจทำได้ดี แต่ใจกบไม่นิ่ง เท่าที่เคยลองและผิดเป็นครู เราจะมี bias ค่ะ เพราะบางทีกราฟกับพื้นฐาน ไม่จำเป็นต้องไปทางเดียวกันตลอดเวลา แล้วเราจะทะเลาะกับตัวเอง บางครั้ง กราฟออกมาดี (กบก็ไม่เก่ง งูๆปลาๆ ทดลองเล่นไป) ไปอ่าน research เข้า เลยขายหมูไปเลย หรือบางที รอบของมันมาแล้ว แต่เรารู้สึกว่า มันควรจบแล้ว เราก็ขายหมู again แต่จะขาดทุนน้อย เพราะไม่ sure ก็จะหนีก่อน แต่ก็ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเราไม่ let profit runs เผอิญว่า กบศึกษาโจทย์มาดีแล้วว่ากบเป็นคนแบบไหน กบก็เลยไม่ได้คิดมากอะไร เวลาขายแล้วมันยังไปต่อ ส่วนหนึ่ง คนดูกราฟที่เค้าจะชอบคิดกัน คือ เราเก็บ realized gain ค่ะ หุ้นขึ้นไม่ได้แปลว่าเราได้กำไรจริงๆมาจับต้อง การขายเท่านั้นที่ได้เงินมาใช้จริงๆ แนวคิดจะต่างกันนะคะ เราไม่ได้หวัง upside สูงมาก เราทำกิจการเหมือนค้าปลีก กำไรน้อย เน้นหมุนเร็ว เราไม่พักเงินที่ไหนนาน ที่สำคัญ เทคนิเคิลต้องมี volume ค่ะ หุ้นพื้นฐานบางตัวไม่มี vol มันก็จะไม่เป็นตามกฏ เงินยิ่งมาจากหลายทางมากเท่าไหร่ กบมองว่าเราจะปลอดภัยจากการสร้างกราฟของเจ้าค่ะ ถ้าพี่พอลจะเล่นคู่กันระหว่าง VI กะ VS เงื่อนไขแรกของหุ้นที่พี่จะเลือกต้องมี vol ค่ะ ถ้าประสบความสำเร็จ อย่าลืมเล่าให้น้องๆฟังบ้างนะคะ โดย krisy จันทร์ ส.ค. 31, 2009 9:41 am

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ ขอบคุณพี่โจ พี่ตี้ พี่ charun พี่ worapong ที่เลี้ยงข้าววันนี้ อาหารอร่อยแต่ก็ไม่อร่อยเท่าบทสนทนา  :lol: วันนี้ให้กำลังใจกบหลายอย่าง ขอบคุณพี่พี่ อยากจะมีหุ้นดีดีไปคุยบ้างคราวหน้า รอหน่อยนะีคะพี่  :oops: คุณ Suysak กับ sangop403 วันนี้นั่งตรงไหนอ่ะค่ะ หลายท่านกบก็ยังไม่ได้ถามชื่อเลย :oops: โดย krisy เสาร์ ส.ค. 29, 2009 9:57 pm

งบการเงิน (ปรับปรุงใหม่) แปลว่าอะไรครับ แปลว่า มีการปรับปรุงตัวเลขจากที่รายงานไว้หนก่อน แต่จะปรับเพราะเรื่องอะไร ต้องไปดูในหมายเหตุค่ะ โดย krisy เสาร์ ส.ค. 29, 2009 9:41 pm

บทบัญญัติหลักกลยุทธ์ของโซรอส พี่โหน่ง ชะ ชะ ช่า wrote:      เมื่อไปงานเหล่าจอมยุทธ์ไทวิ  ประโยคที่กล่าวถึงมากที่สุดในงาน คือ ประโยคเด็ดว่า             ตัวนี้ไม่ได้ตามเลย!!!                แปลได้อีกนัยหนึ่ง  เท่ากับบอกว่า ปัญหานี้เป็นของคนถามนะซิ ไม่ใช่ปัญหาเขา      อย่างนี้ ก็ให้รู้ว่า ท่านเจอ ท่านเซอร์ เข้าให้แล้ว     ถูกใจจัง แต่ก่อนเวลาเมาท์หุ้น โดนถามตัวนั้นตัวนี้ พอตอบว่าไม่ได้ตามค่ะพี่ แหมกลายเป็นความผิดของตูที่ไม่ได้ตาม วันหลังจะตอบว่า "อืม พอดีมันไม่ได้อยู่ในเซอร์ของกบ" โดย krisy พฤหัสฯ. ส.ค. 27, 2009 5:28 pm

ตั้งเป้าหมาย retire ที่อายุเท่าไหร่ และ พอร์ตใหญ่แค่ไหน เรื่องหางานใหม่ งานไม่ได้หายากขนาดนั้น ตั้ง spec กันไปเองทั้งนั้นแหละ บางทีอยากได้ความรู้ เราก็เอาเงินเดือนเข้าแลก ก็มันอยากทำนี่นา  :lol: อย่างคุณ sunrise ว่าไว้ก็ใช่เลยค่ะ คนไทยไม่ชอบขอโอกาสแต่ชอบฝันถึงโอกาส เราก็โดนมาแล้วกับตัว ตอนนี้ดีขึ้น อยากทำอะไรก็ขอค่ะ แต่ชีวิตไม่ได้หอมหวานขนาดนั้นเพราะเค้าก็ไม่ได้ให้ทำ  :oops: แต่อย่างน้อย เค้าไม่ได้ say no เฉยๆแน่นอน เหตุผลมาเป็นกระบุง ก็จะได้ความชัดเจนเรื่องเนื้องานไปด้วย แ ขยันทำงานนั่นมันประเด็นหลัก ประเด็นรองๆก็ต้องใส่ใจด้วย นิสัยไหนไม่ดีก็ต้องแก้ อย่างเราถูกว่าเรื่องตรงเป็นขวานผ่ามันทั้งป่ามาหลายปี แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น สุดท้ายแก้ไงรู้ไหมค่ะ เราก็เป็นฝ่ายเลือกนายแทน (ก็บอกแล้ว งานหาไม่ยากเล้ย อิอิ) โดย krisy พฤหัสฯ. ส.ค. 27, 2009 1:28 pm

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ ใครหล่อสุดก็คนนั้นแหละ my friend คนไหนรู้จักหุ้นไปซะทุกตัว ก็คนนั้นแหละค่ะ โดย krisy พฤหัสฯ. ส.ค. 27, 2009 12:15 am

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200 เข้ามาลุ้น โดย krisy อังคาร ส.ค. 25, 2009 4:58 pm

ขอถามเรื่อง ค่าเสื่อมราคาหน่อยครับ ถูกคร้าบ คือเงินเก็บไว้เพื่อรอซื้อเครื่องจักรใหม่มันไม่จำเป็นต้องมาจากการกันค่าเสื่อมออกมา ปกติกิจการที่ไปได้ดี เค้ากันเงินไม่นานค่ะ ถ้าเครื่องจักรแพงๆก็อาจกันไว้สักปีสองปี ไม่พอก็กู้เอา เพราะเราก็มี project ไปขายธนาคารอยู่แล้ว ดอกเบี้ยจ่ายก็ลดภาษีได้อีกต่างหาก โดย krisy พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 1:15 pm

ขอถามเรื่อง ค่าเสื่อมราคาหน่อยครับ ก้อคงงั้นค่ะ ซื้อเครื่องจักรมาแล้ว พอได้รายได้ก็หักเงินก้อนนึงไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องจักร จะคิดว่า สำรองเงินสดไว้ก็ไม่ผิด พอครบ 20 ปีก็ได้เงินสดไว้ซื้อเครื่องจักรใหม่พอดี ถ้าราคาเท่าเดิม มองแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่ไม่ถูกนัก เพราะเงินก้อนที่กันไว้ เรามักไม่ได้ปล่อยให้มันนอนรอใน bank ถึง 20 ปีเพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ ค่าเสียโอกาสมันสูงเกินไป โดย krisy พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 11:36 am

ปิดสะพานเพื่อซ่อม รถติด ทางด่วนรุ่ง ปิด 30 วันเอง โดย krisy พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 12:21 pm

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ ทำไมนักวิเคราะห์ถึงเชื่อไม่ได้ เพราะการกระทำของเค้ามีเบื้องหลังไง ทุก transaction ของเราเป็นเงินเดือนของเค้า ดังนั้นคำพูดเค้ามาพร้อมอคติของคนฟัง ทายถูกไม่จำ จำแต่ที่ผิด ต่างกับการวิเคราะห์ของคนที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย คนฟังก็เปิดใจมากกว่า ทายถูกชื่นชม ทายผิดก็หยวนให้ พี่คิดว่าบทวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับสมมติฐาน เพราะโลกมันซับซ้อน คนอ่านที่ไม่ทำความเข้าใจให้ดี อ่านยังไงก็จะบอกว่า โอ้ย เชื่อถือไม่ได้ร้อก โดย krisy อังคาร ส.ค. 11, 2009 7:57 pm

unrealized gain/loss เงินลงทุน ในงบกำไรขาดทุน ปิดเข้ากำไรสะสมไปเลยค่ะ งบกำไรขาดทุนแสดงผลการดำเนินงานเฉพาะในงวดเท่านั้น กำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดถูกคำนวณในงวดนั้น ดังนั้นพอจบงวดก็เข้ากำไรสะสมหมดค่ะ โดย krisy พุธ ส.ค. 05, 2009 4:12 pm

ถ้า trade หุ้นที่เมืองนอก ได้เงินมาต้องเสียภาษีไหมครับ LTF ไม่ใช่ forever นะคะพี่ กบจำได้ว่าเค้าให้ลดหย่อนได้ถึงปี  2559 เป็นรายการเพื่อกระตุ้นตลาดทุนอย่างแท้จริง ซื้อได้ปีสุดท้าย 2559 ไปเอาเงินคืน 2563 เว้นแต่เค้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจกันต่อ (ทำเหมือน VAT ที่ 7% มาหลายรอบแล้ว) โดย krisy อังคาร ส.ค. 04, 2009 1:39 pm

นริศสอนน้อง อ้าว post ช้าไป พี่นริศเฉลยซะแล้ว  :oops: โดย krisy จันทร์ ส.ค. 03, 2009 11:20 pm

นริศสอนน้อง ชอบเดาค่ะ C ของ B แรกคือ ผลตอบแทนจากการที่ผลตอบแทนในสิ่งที่ปลอดภัยกว่าเช่น พันธบัตรไม่มากพอ เิงินจะย้ายออกหาแหล่งที่ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า ตัว C นี้ไม่ยั่งยืนเพราะผลตอบแทนที่ไหนมากกว่าก็เงินก็ไปทางนั้น C ของ B ที่สอง คือผลตอบแทนจากการเอาเงินแลกเงิน เจ้ามือเอาเงินมาต่อยอดล่อเม่าให้เข้าไปซื้อ C ตัวนี้ไม่ยั่งยืนเพราะพอได้กำไรตามเป้า เจ้ามักจะปล่อย C ของ B สุดท้ายเป็นผลตอบแทนที่มาจากการทำธุรกิจ ส่วนมากการประกอบกิจการที่มีการแข่งขันมีเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้ C ตัวนี้ไม่หวือหวาให้ความสม่ำเสมอ และมองเห็นได้ว่ายืนยงกว่า C ของแบบอื่น แต่ C ตัวนี้ก็ไม่ยั่งยืน ขึ้นอยู่กึ๋นของผู้บริหารและกลยุทธ์ เดี๋ยวรอเฉลยค่ะ โดย krisy จันทร์ ส.ค. 03, 2009 11:19 pm

นริศสอนน้อง สวัสดีค่ะพี่นริศ จะถามความเห็นว่า ก่อนจะลงทุนหุ้นสักตัว พี่นริศ ศึกษาข้อมูลละเอียดแค่ไหน ให้น้ำหนักอดีตเท่าไหร่ อนาคตเท่าไหร่ แล้วคิดว่ายอมรับความเสี่ยงของสิ่งที่ไม่รู้เท่าไหร่ กบคิดว่าข้อมูลอดีตดูไปมากๆไม่ได้บอกอนาคต เพราะงั้นมันน่าจะมีความพอดีพอใจอยู่ที่ไหนสักแห่ง พอๆกับข้อมูลอนาคตที่ศึกษาละเอียดแค่ไหนก็ไม่มีวันได้ข้อมูลที่ถูก อย่างเก่งก็ใกล้เคียง อะไรๆก็ต้องคาดการณ์ทั้งนั้น ผู้บริหารมักจะ ปรับงบประมาณภายในทุกไตรมาส บางครั้งกบก็คิดว่าเราเป็นใครกันหนอ ที่จะคาดผลประกอบการณ์ล่วงหน้าได้เป็นปี การลงทุนบางทีก็เป็นเรื่องของ risk/reward กบเข้าใจดีค่ะ เพียงแต่ก็อยากรู้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จเนี่ย เค้ามีระดับความพอใจในข้อมูลแค่ไหนก่อนลงมือ (เพราะกบมีปัญหาตรงนี้มากมาก) ขอบคุณมากค่ะพี่ โดย krisy จันทร์ ส.ค. 03, 2009 3:35 pm

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ การซื้อขายของต่างชาติเอาไว้ confirm การดู fundflow บอกได้แต่ trend ว่าเงินน่าจะย้ายมาแล้ว แต่ถ้าไม่มีตัวก็ confirm ก็ยังจะไม่ทราบจังหวะ ถ้าไม่รู้จังหวะ อารมณ์ก็จะรบกวนระบบ (เข้าใจว่าอย่างงั้น) โดย krisy พฤหัสฯ. ก.ค. 30, 2009 9:52 pm

ใส่ผ้าข้าวม้าเคียนเอวไปลงทุนในตลาดหุ้น ตอนแรก อ่านไม่ได้ดูคน post คิดว่า พี่โหน่งแน่นอน แนวคิดและการนำเสนอ รวมถึงวิธีการมองต่างมุม แต่พอดูชื่อไม่ใช่ แต่ signature ยังเหมือนเดิม ก็เลยแซวค่ะ (แหม เปลี่ยนชื่อ login ได้ด้วยอ่ะ) โดย krisy อังคาร ก.ค. 28, 2009 10:29 am

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ [quote="hongvalue"]   เวลาผมเจอคนที่เก่งกว่าผมมากๆ ความมั่นใจผมจะหายไปเยอะ แล้วทำให้ผมอยากจะไป ฝึกวิชามาใหม่น่ะครับ โดย krisy จันทร์ ก.ค. 27, 2009 2:48 pm

ใส่ผ้าข้าวม้าเคียนเอวไปลงทุนในตลาดหุ้น คารมเหมือนพี่โหน่งเชียว ขอบคุณที่เอาข้อคิดมาฝากค่ะ โดย krisy จันทร์ ก.ค. 27, 2009 1:40 pm

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ ขอบคุณค่ะพี่ เรียบง่าย (สมใจกบดี) ทำเท่าที่มีปัญญาทำ จำง่ายดีค่ะ โดย krisy ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 11:12 pm

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ พี่วิบูลย์คะ ขอแจมถาม DCF ทำใกล้ก็ไม่ได้สะท้อนพื้นฐานระยะยาวตัว Terminal value มันสูงไปด้วย ทำไกลก็มักไม่แม่นเพราะตัวแปรมันเยอะ ดังนั้นกำหนดว่าเป็น 5 ปี 10 ปีตายตัวคงติดกับดับ พี่คิดว่า การหาระยะเวลาที่เหมาะสมของกิจการที่จะทำ DCF มันต้องดูอะไรบ้างคะถึงจะเหมาะสม ใช้รอบของเศรษฐกิจโลก รอบของเศรษฐกิจไทย รอบของธุรกิจ หรือทำมันทั้งไกลทั้งใกล้ แล้วเก็บมูลค่ากิจการเอาไว้เป็น range เอาแค่แนวคิดก็ได้ค่ะพี่ เพราะกบว่าตัวเลขที่เหมาะสมเป็นการบ้านที่คนทดลองทำ ก็เลยไม่บังอาจถาม โดย krisy ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 5:51 pm

roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น ตอบฮง (พอดีพี่ไม่มีอารมณ์ทำงานแล้ววันนี้) ส่วนเรื่อง wacc สูงเพราะความคาดหวังสูงก็จริง เพราะว่าธุรกิจที่มีความมั่นคงน้อยกว่า ถ้าจะลงทุนก็ต้องขอผลตอบแทนสูงกว่า ธุรกิจที่มี brand แข็งแกร่งกว่า ก็เข้าใจเหมือนพี่นั่นแหละ (ไม่ได้แปลว่าเข้าใจถูก 555) แบบนี้คำถามที่ผมถามว่าถึงจุดไหน ของการกู้ wacc จะเพิ่ม คนที่ตอบคำถามนี้ได้ก็มีแต่ผู้บริหารนะสิครับ แต่จะว่าไปข้อมูลตรงนี้ คงไม่ได้ใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงซักเท่าไหร่นะครับ ว่าไหม   ถูก เรื่องนี้ตอนเราคุยกันเรื่อง EVA Spread ว่าผู้บริหารทำได้ดีไหมก็สามารถดูได้จากตัวเลขอันนี้ แต่ก็จะติดตรง wacc นี่แหละ ที่เราใส่อะไรที่ไม่ใช่ของที่กิจการเค้าทำได้จริงๆ เป็นข้อมูลตามความคาดหวัง ไม่ว่าจะเป็น beta risk premium ตอนนี้ไฟแรง ส่ง link มาเลยนะ พี่แรงเป็นพักๆ โดย krisy ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 4:59 pm

roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น ขอบคุณคุณ pongo ค่ะ เรื่องประเด็น default risk คุณเด่นมาช้านะคะ แต่มาแล้ว จบข่าว แยกย้ายกลับบ้านได้  :lol: โดย krisy ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 3:25 pm

ทำไงดีครับ Brokerแอบขายหุ้น ลุยเลยค่ะ ให้เค้าไปหาบันทึกการซื้อขายมาแสดงให้ดูว่าเราทำคนสั่งทำรายการ วันก่อนก็ได้อ่านข่าวว่ามาร์ใช้เครดิตของลูกค้ามาเล่น แบบลองหาอ่านดูนะคะ คุณอาจจะได้ค่าชดใช้ความเสียหายแน่นอนเพราะเค้าจะไม่ยอมเสียชื่อ แถมโดนถอด license แน่ๆสำหรับมาร์ของคุณ โดย krisy ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 3:11 pm