Re: ข้อมูลดัชนี mai ย้อนหลัง(รายวัน) ตั้งแต่เปิดตลาด ขอบคุณทั้งสองท่านน่ะครับ ทั้งคุณ Ii'8N และคุณ choosak ที่ให้ความช่วยเหลือ โดย eupatcha พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2013 10:08 pm

Re: ข้อมูลดัชนี mai ย้อนหลัง(รายวัน) ตั้งแต่เปิดตลาด เรื่องวันเริ่มต้น เดี๋ยวผมไปเช็คอีกทีถ้าเปิดตลาดเป็นวันอย่างที่คุณว่า แสดงว่าข้อมูลขาดไป 4 เดือน แต่ KE ไม่ได้ให้แค่ 2 ปีครับ แค่ที่มันฟ้องแบบนั้น หมายถึง search engine สามารถหาข้อมูลให้ครั้งละ 2 ปี จาก database เดี๋ยวถ้ายังไม่คล่อง ผมขอวันมะรืนผมมีเวลาว่างเกือบทั้งวันครับ แต่วันนี้กับพรุ่งนี้ขอตัวมีงาน ขอบคุณน่ะครับสำหรับความช่วยเหลือ ผมลองเข้าอีกครั้งได้แล้ว แต่ก็ยังขอข้อมูลเพิ่มตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2545 น่ะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ โดย eupatcha พุธ ม.ค. 30, 2013 7:42 pm

Re: ข้อมูลดัชนี mai ย้อนหลัง(รายวัน) ตั้งแต่เปิดตลาด รบกวนคุณ Ii'8N อีกนิดน่ะครับ ดัชนี mai เริ่มปีฐานวันที่ 2 กันยายน 2545 จะรบกวนขอข้อมูลคุณตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2545 น่ะครับ (ข้อมูลที่ให้มาเริ่มวันที่ 16 ธันวาคม 2545) ผมลอง Log in เข้าไปดูใน Kimeng เขาให้ไม่เกิน 2 ปีครับ ( จะขึ้นข้อความ Time range is greater than 2 years !! Please input date again.) ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความช่วยเหลือน่ะครับ Eupatcha โดย eupatcha พุธ ม.ค. 30, 2013 5:10 pm

Re: ขอความอนุเคราะห์เพื่ือน ๆ พี่ ๆ น้อง ครัย ขอให้พราะคุ้มครองให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีน่ะครับ โดย eupatcha ศุกร์ พ.ย. 16, 2012 4:26 pm

Re: ขอความเห็นการเพิ่มทุน PL สรุปแล้วผมก็ผิดน่ะครับ เพราะการที่เค้ากู้เงินเพิ่มขึ้นเยอะเพราะเป็นการโยกจากกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินเป็นหุ้นกู้ระยะยาว เห็นได้จาก D/E,Q2-55=3.96 เป็น D/E,Q3-55=4.005 ถ้าเป็นดังนี้โอกาสที่ D/Eจะเกิน 4.75 คงไม่เกิด (อาจจะถึงจนหุ้นกู้หมดอายุ) จากนั้นก็จะใช้ D/E <5 แทน(ปี 2557) ดังนั้นคงจะไม่มีการเพิ่มทุน ตามที่ผู้บริหารบอก แต่ยังไงแล้วผมก็คงจะ Raise ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งเรื่องการขอเพิ่ม D/E และกำไรที่ไม่โตขึ้นเลย ก็ขออภัยนักลงทุนทุกท่านด้วยน่ะครับ โดย eupatcha พุธ พ.ย. 14, 2012 1:58 pm

Re: ขอความเห็นการเพิ่มทุน PL ขอบคุณทุกคำแนะนำน่ะครับ แรกๆผมว่าจะรอไปประชุมผู้ถือหุ้นแล้วค่อยเปิดประเดินกับคณะกรรมการบริษัท แต่ตามที่ผมบันทึกไว้การกู้ยืมเงินเร่งตัวมากขึ้น จากวันที่ 11 ก.ค. 2555 กู้ผ่านหุ้นกู้และตั๋วเงินรวม 5530 ล้านบาท แต่ แต่ ณ วันที่ 7 พ.ย.2555 กู้เงินผ่านหุ้นกู้และตั๋วเงินรวม 6765 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ผ่านช่องทางนี้ทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้น 1235 ล้านบาท ซึ่ง มันจะทำให้ DE เร่งตัวไปได้ถึง 0.63 (ไม่ได้รวมEที่จะเพิ่มขึ้นจากกำไร และ Dที่จะไม่เพิ่มเต็มวงเงินเพราะอาจจะเอาไปทดแทนเงินกู้จากธนาคารบางส่วน) ซึ่งถ้าปันผลออกไปในปีหน้า 2556 มันก็ปริ่ม D/E 4.75 ดังนั้นผมต้องเปิดประเด็นก่อน ก็เพื่อ 1. ป้องกันการตระหนกเกินไป เมื่อบริษัทประกาศเพิ่มทุนจริงๆ เพราะผมว่าหุ้นตัวนี้ VI ก็น่าจะถือเยอะ ฉะนั้น VI รู้ ตอนประกาศจริง VI เราก็คงจะช่วยป้องกันการ Panic ได้บ้าง (ช่วยๆกันน่ะครับ) 2. แจ้งความกังวลนี้ไปยังผู้บริหารบริษัทและเสนอแนะแนวทางไปยังผู้บริหารถึงทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด สำหรับคำแนะนำของคุณ areliang และคุณลุงขวด สำหรับปันผลเป็นหุ้น ผมจะแจ้งผู้บริหารในอาทิตย์หน้าถึงแนวทางนี้น่ะครับ แต่ผมว่าน่าจะยาก เพราะ 1 บำเหน็จคณะกรรมการถูกผูกไว้กับปันผล คือในปี 2552 มติประชุมผู้ถือหุ้นสรุปว่า บำเหน็จของคณะกรรมการห้ามจ่ายเกิน 5%ของเงินปันผล ผมว่าคณะกรรมการคงจะคิดหนัก เพราะในงบได้บันทึกบำเหน็จในรายไตรมาสไว้แล้ว และเค้าจ่ายมาทุกปี คงจะยากที่จะยกเลิก 2 นโยบายปันผลเค้าชัดมากที่จะจ่ายในระดับสูง และได้จ่ายมายังผู้ถือห้นโดยตลอด จนเป็นประเพณีที่ผู้ถือหุ้นเสียงน้อยๆอย่างเรายากจะเปลี่ยนแปลง 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในรูปบริษัท ที่ผมสังเกต บริษัทในที่ผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในรูปบริษัทมักจะจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ พวกบริษัทเหล่านี้เค้าจะตั้ง Budget ไว้ว่ารายรับเท่าไหร่ รายจ่ายเท่าไหร่ เค้าคงไม่ Vote ให้เพราะกระทบ Budget เค้า ขอบคุณคุณ Kin ที่เปิดประเด็น ทำให้ผมพบทางออก สำหรับคำถามน่ะครับ D/E ของหุ้นกู้ช่วงแรก จะกำหนดให้ D/Eไม่เกิน 4.75 เหลือไม่กี่ตัวครับ เช่น PL132A,PL147A แต่กระทบไปถึงปี 56 หุ้นกู้ที่ออกช่วงหลังๆ D/E กำหนดห้ามเกิน 5 ไปค้นหาตาม Link น่ะครับ มีแน่นอน แต่อาจจะค้นลึกหน่อย http://www.thaibma.or.th/ คำถามต่อมา ความเหมาะสม กำหนดจากอะไร น่าจะเกิดจากประเพณีจากผู้บริหารชุดเก่า เพราะสินทรัพย์ให้เช่าพึ่งมาเร่งตัวใน 5 ปีหลัง ตอนนั้นคงคิดว่า 4.75-5 เท่าก็เหลือเฟือ ผมเทียบ TK Rating A- Stable D/E <7 ความเสี่ยงคือลูกค้าเป็นบุคคลธรรมดา Pl Rating A- Positive D/E<4.75 และ 5 ความเสี่ยงน้อยกว่าเพราะเป็นนิติบุคคล ผมจะเปิดประเด็นนี้กับผู้บริหารว่า Rating เราดีกว่า ลูกค้าเราก็ดีกว่า และ ลึกๆแล้วรูปแบบการเช่ามันก็คล้าย Finanace Leasing เหมือนๆกัน ทำไม D/E เราเข้มงวดกว่าเขา เราจะลองให้ผู้บริหารไป Study เพิ่ม D/E ครับ D/E เพิ่มอีก 2 เราก็กู้เงินได้เพิ่มอีก 4000 ล้านบาท แต่รอบนี้คงไม่ทันครับ เราแก้ของเก่าไม่ได้ ต้องเริ่มที่หุ้นกู้ตัวใหม่ ฉะนั้นถ้าเราขอเขาให้ปันผลเป็นห้นไม่ได้ ผมจะเสนอให้เขาพิจารณา 1 เพิ่มทุนเป็นแบบ 3:1 2 แจก warrant อายุยาวๆ 3 หุ้นกู้ตัวถัดไปให้ศึกษา D/E<7 เท่า TK เพราะเรา Rating ดีกว่า สำหรับ E น่ะ ผมมองว่าไตรมาส 3/2555 กำไรจะเริมดีขึ้น ผมสมติฐานจากรถหมดสัญญาจะเพิ่มเป็นเท่าตัว ตัวอย่างสัญญาเช่า Asset Cost 14XX,XXX Lease Payment 2X,XXX Purchase Option 3XX,XXX ถ้าผมวิเคราะห์ถูก ในไตรมาสนี้จะมีการขายรถที่หมดสัญญาเช่าเพิ่มเป็น 2 เท่าจากปรกติ คือขายเพิ่มอีก 150 – 200 ล้าน หรือเราจะเห็นรถยนต์รอขายมากขึ้นเพราะยังระบายไม่ทัน ถ้าใช่ผมจะมาแชร์ต่อ แต่ถ้าไม่ใช่เจอกันอีกทีวันประชุมผู้ถือหุ้นน่ะครับ ขอบคุณทุกข้อเสนอแนะอีกครั้งน่ะครับ โดย eupatcha เสาร์ พ.ย. 10, 2012 11:00 pm

Re: อุปนิสัยแห่งชัยชนะ 23 ข้อของนักลงทุน ขอคุณครับ โดย eupatcha อังคาร ก.ย. 13, 2011 9:16 am

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever) ผมว่าการที่จะบอกว่า มีเงินล้านแล้วเป็นความภูมิใจ ผมว่าไม่ใช่เลยนะครับ เช่นถ้าคนที่เงินลงทุน 9 ล้าน แล้วกำไรแค่ล้านเดียวแค่สิบ % ก็10 ล้าน หรือบางคน เริ่มเล่นบอก 1 ล้าน แต่ระหว่างทางเพิ่มทุนเข้าไป 8 ล้าน แล้วก็มาบอกว่าเริ่ม 1 ล้านวันนี้มี 10 ล้านแล้วนี่ก็เหมือนหลอกตัวเอง กับคนที่เริ่มต้นเงินลงทุนที่ 1 แสนแล้วไปถึง 10 ล้านมันคนล่ะเรื่องเลยครับ ผมว่าสุดท้ายต้องดูที่ผลตอบแทนทบต้นครับ ตัวเงินมันไม่ได้บอกอะไรเลย ที่พูดทั้งหมดก็แค่อยากจะบอกว่าความภูมิใจในการเล่นหุ้น มันต้องอยู่ที่ผลตอบแทน % ทบต้นครับ น้องเล็กครับ :D บางทีตัวเลขในพอร์ต มันก็ทำให้เรา เคลิ้มใจได้เหมือนกันนะครับ :lol: แต่ก็เห็นด้วยครับว่า ผลตอบแทนทบต้น % ต่อปี เป็นตัววัดความภูมิใจในการลงทุน มากกว่าตัวเงิน คนที่ได้ผลตอบแทนต่อปีมากๆ ก็จะเห็น จำนวนเงินในพอร์ตตามเป้าหมาย เร็วกว่า สำหรับ คนที่หวังผลตอบแทนต่อปีน้อยกว่าหน่อย จำนวนเงินตามเป้า ก็จะมาช้ากว่า ดังนั้นคนที่ถึงเป้าหมายก่อนน่าจะภูมิใจกว่า แต่มองอีกมุมหนึง หากเงิน ที่ได้มาเพื่อการลงทุนในหุ้น มาจากน้ำพักน้ำแรง และ การอดออม ซึ่งมันได้มาอย่างยาก มันก็เป็นหนึ่งใน ความภาคภูมิใจเหมือนกันนะครับ ดังนั้นพี่คิดว่า ในที่สุดของการลงทุน ทุกคนมี เป้าหมายหนึ่งคือ จำนวนเงินในพอร์ต แค่อีกหนึงความคิดเห็นครับ :D เห็นด้วยครับ ความภูมิใจของผม ส่วนหนึ่งก็มาจากการทำงานจากน้ำพักน้ำแรง ผมทำงานกับบริษัทอเมริกัน ก้ดีใจที่ได้เงินเดือนจากเค้า ดึงเงินมาจากต่างชาติมาเข้าประเทศได้ และก็คนที่ลงทุน ถ้าเค้าไม่มีความสามารถ ไม่ช้าไม่นาน เงินเก็บจากน้ำพักน้ำแรงขอเค้าก็จะหมดไปกับตลาดหุ้นไปเองครับ ความภูมิใจอีกอย่างคือ การตอบแทนสังคม อย่างเงินเครดิตภาษีทั้งหมด ผมเก็บไว้บริจาคทั้งหมดครับ ถ้าพวกเราเผื่อแผ่สังคม โลกก้จะน่าอยู่ขึ้นครับ โดย eupatcha จันทร์ ก.พ. 07, 2011 9:01 am

Re: ตอนปี 51 พี่ๆ มีวิธีคิดอย่างไร ที่ทำให้กล้าซื้อสวนเข้าไป เราต้องแยกให้ออกด้วยน่ะครับ ว่าการเอามือไปรับมีด กับ การกลัวในตอนที่คนอื่นกำลังโลภ และโลภในตอนที่คนอื่นกำลังกลัว ทั้งสองอย่างมันต่างกัน การเอามือไปรับมีด ตัวอย่างเช่นหุ้นพื้นฐานแย่ ราคาลดกระหน่ำ Summer Sale แล้วเราก็เข้ารับซื้อ เพราะคิดว่ามันถูกกว่าวันก่อน เดือนก่อน หรือปีก่อน แต่อันที่จริง ราคามันก็ควรแล้วที่จะลง ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าก้นเหวมันจะลึกเท่าใด ส่วนกลัวในตอนที่คนอื่นกำลังโลภ และโลภในตอนที่คนอื่นกำลังกลัว ก็จะเป็นหุ้นที่ยังพื้นฐานดีอยู่ครับ โดย eupatcha เสาร์ ก.พ. 05, 2011 7:17 pm

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever) มาลงทะเบียนด้วยคนครับ สำหรับผมมันบังเอิญมากกว่า เพราะปี 52-53 ราคาหุ้นมันเพิ่มมากกว่าปรกติ ตอนนี้จะเอาอดีตมาบอกอนาคตไม่ได้ เดินในแต่ล่ะก้าวต้องระวัง ตอนนี้อาจจะต้องเดินช้ากว่าเต่าแล้วครับ โดย eupatcha อังคาร ม.ค. 18, 2011 8:41 am

กลุ่มยานยนต์มีตัวไหนน่าสนใจบ้างคะ [quote="green-orange"][quote="eupatcha"]เค้าเรียกใกล้เกลือกินด่างมั้ยน่ะ ผมทำงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ไม่เห็นสนใจหุ้นกลุ่มนี้เลย แต่ละ Program ก็จบเร็ว 4-5 ปี เห็นแต่ AAT ล่ะลากยาว จบโปรแกรมเสร็จก็ต้อง qoute แข่งราคากันใหม่ ใครถูกที่สุดคนนั้นก็ได้ไป ตามสัญญาซื้อขายก็กำหนดว่าทุกปีต้องลดราคา 1.5 - 2 % แถมมี Project VA/VE, 6-Sigma, improvement ที่จะสรรหา ตั้งชื่อให้ต่างๆกัน สรุปสุดท้ายเพื่อให้ Supplier ลดราคา ไม่ลดราคาให้ก็ยก Mold ยก Die หนีไปให้เจ้าอื่นซ่ะนั่น กำ... โดย eupatcha พุธ ม.ค. 06, 2010 8:59 pm

กลุ่มยานยนต์มีตัวไหนน่าสนใจบ้างคะ เค้าเรียกใกล้เกลือกินด่างมั้ยน่ะ ผมทำงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ไม่เห็นสนใจหุ้นกลุ่มนี้เลย แต่ละ Program ก็จบเร็ว 4-5 ปี เห็นแต่ AAT ล่ะลากยาว จบโปรแกรมเสร็จก็ต้อง qoute แข่งราคากันใหม่ ใครถูกที่สุดคนนั้นก็ได้ไป ตามสัญญาซื้อขายก็กำหนดว่าทุกปีต้องลดราคา 1.5 - 2 % แถมมี Project VA/VE, 6-Sigma, improvement ที่จะสรรหา ตั้งชื่อให้ต่างๆกัน สรุปสุดท้ายเพื่อให้ Supplier ลดราคา ไม่ลดราคาให้ก็ยก Mold ยก Die หนีไปให้เจ้าอื่นซ่ะนั่น กำ...       อีกอย่างหลายๆบริษัทก็มีสหภาพ เรียกร้องโบนัสกัน 6 -7 เดือน กำไรบริษัทหายหมด เห็นมั้ยครับ AAT ก็ยังประท้วงกันอยู่ ยังไม่จบ แต่ผมก็ดีใจน่ะที่ได้แอ้มแป๊ กับเขาหน่อยนึง       ไม่แน่ครับ อาจจะมีเจ้าที่ไม่โดนแบบนี้ก็ได้ ที่บ่นๆไม่ได้ศึกษาหุ้นในกลุ่มเลยน่ะครับ เพราะมี Bias ก่อนแล้ว อาจจะพลาดโอกาสดีๆก็ได้ โดย eupatcha อังคาร ม.ค. 05, 2010 8:58 pm

Re: อยากทราบกำไรสะสมครับของ RPC ตอบไม่ครบครับ ปันผลได้หรือไม่ได้ ประการแรก ต้องไม่มีขาดทุนสะสม ในตัวงบการเงินที่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ดู CASE ของ TMB ประกอบได้ตั้งแต่ปี 2540-ปัจจุบัน) ประการที่สอง ต้องตั้งสำรองตามกฏหมายด้วย ตามกฏหมายครบ 10% แต่ไม่ครบก็ไม่ค่อยมีปัญหาแต่ขอให้กั้นไว้ :)   อันนี้ยอมรับครับว่าตอบไม่ครบ ส่วนเรื่องของ CR นั้น PTTAR สามารถบอกเลิกสัญญาได้ โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์ ล่วงหน้าก่อน 1 ปี อันนี้คือประเด็นสำคัญเลย เพราะในสัญญา PTTAR ส่ง CR ให้ RPC ถึงปี 2555 แต่บอกเลิกก่อน สัญญาเนี่ยคือประเด็นของมัน :)    ส่วนสัญญา CR ที่บอกว่ายกเลิกได้ อันนี้ถ้าเราไม่ใช่ศาลเตี้ยน่ะครับ จะสรุปเอาเองผิดจรรยาบรรณครับ เราไม่ได้เห็นตัวสัญญาฉบับจริงถ้าแค่อ่านใน Form56-1 ไฟล์ D ที่บอกว่าสัญญาดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจนกว่าจะถูกยกเลิกจากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 ปี แต่ทางฝ่าย RPC เค้าก็แย้งมาว่า(สงสัยแย้ง Form56-1 ของตัวเอง) ในสัญญาจึงมีการระบุว่าเป็นสัญญาลักษณะ Evergreen Basis คือ ไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด สัญญาจะต่อโดยอัตโนมัติเมื่อครบกำหนด 15 ปีแรก อีกทั้ง การยกเลิกสัญญาจะกระทำได้เมื่อได้รับความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย หรือในกรณี ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดสัญญา ซึ่งบริษัทฯ ไม่เคยดำเนินการใดๆ ผิดจากข้อสัญญาที่กำหนดไว้จึงมั่นใจว่าสัญญาดังกล่าวไม่สามารถยกเลิกได้ ผมว่าให้อนุญญาโตตุลาการตัดสินก่อนแล้วค่อยมากระจาย Fact ให้เราชาว VI รับทราบดีกว่ามั้ย เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิดน่ะครับ   PTTAR เค้าแจ้งล่วงหน้า 3 ปีครับว่าในปี 2555 จะขอยกเลิกสัญญา ไม่ได้ยกเลิกก่อนกำหนด ผมเข้าใจว่าเป็นการแจ้งล่วงหน้าให้คู่ค้าได้เตรียมตัว รวมทั้ง PTTAR ก็จะได้เตรียมตัวในกรณีที่อาจเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็เกิด คือ RPC ไม่ยอม ต้องให้อนุญญาโตตุลาการตัดสิน แล้วประเด็นต่อมาคือ โครงการของ PTTAR ดังกล่าวไม่ติดในโครงการที่ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้หยุดชั่วคราวด้วย :) ผมว่าโครงการที่ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้หยุด ไม่ได้กล่าวถึง CR เลย ซึ่งโครงการที่ไม่ติดคำสั่งศาลมี 2 โครงการ 1. โครงการลาดับที่ 16 โครงการเชื้อเพลิงสะอาดและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์: อันนี้กฎหมายบอกไว้ว่าปี 2555 ค่ากำมะถันต้องลดลงจาก 350 PPM เหลือ 50 PPM ซึ่งก็คือลงทุนตามกฎหมายกำหนด ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับ CR 2. โครงการลาดับที่ 41 โครงการติดตั้งระบบควบคุมไอน้ามันเชื้อเพลิงและเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล: ตัวนี้ผมก็ยังไม่เห็นว่าเกี่ยวข้องกับ CR ตรงไหน   ให้เข้าใจตรงกันน่ะครับ CR คือผลพลอยได้จากสายการผลิตของอะโรเมติกส์ ซึ่ง CR นี้โรงกลั่นแบบ Simple ก็สามารถกลั่นน้ำมันดีเซลออกมาในอัตราส่วนที่สูง ซึ่งไม่เหมือนน้ำมันดิบต้องกลั่นโดยใช้โรงกลั่นแบบ Complex ถึงจะให้น้ำมันดีเซลออกมาสูง ซึงต้องมีหน่วยแตกโมเลกุล  แต่ที่ผมกำลังทำความเข้าใจอยู่คือว่าเค้าสามารถต่อท่อ CR เข้าไปกลั่นตรงไหนต่างหาก เพราะ CR จะมีราคาแพงกว่าน้ำมันดิบค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าเอาไปผสมกับนำมันดิบแล้วกลั่นเลยก็คงไม่คุ้ม หรือจะให้ Thai Tank รวมเป็น Lot ใหญ่ๆแล้วกลั่นทีเดียวน่าจะได้ หรือจะนำไปผสมกับคอนเดนเสท  แต่สรุปว่า PTTAR เค้าทำได้หล่ะ เค้าถึงบอกเลิกสัญญา ประเด็นต่อมาคือ RPC ได้ CR มาแต่กลั่นได้แต่ น้ำมันดีเซลเท่านั้น ส่วนที่เป็นน้ำมันเบนซินนี้ PTTAR สกัดออกหมดแล้ว :) อันนี้ก็ใช่ครับเพราะเค้าเป็นสายผลิตอะโรเมติกส์ ซึ่งผลิตออกมาเป็น เบนซีน พาราไซลีน มันก็ต้องแยกเคมีของเบนซินออกมาเป็นธรรมดา   ปัญหาใหญ่ของ RPC ถ้าเค้าต้องเลิกสัญญาซื้อ CR เค้าต้องลงทุนขนานใหญ่ทั้งต้องเปลี่ยนระบบการกลั่นเป็น Complex และต้องเพิ่มหน่วยลดค่ากำมะถันให้ได้ตามกฎหมายกำหนดไม่งั้นขายในไทยไม่ได้ ทั้งหมดต้องเสร็จภายในปี 2555 เวลาเหลือน้อยต้องรีบหาทางออก ก็เลยต้องให้อนุญญาโตตุลาการตัดสิน เพราะข้อกำหนดของอนุญญาโตตุลาการกำหนดให้พิจารณาให้เสร็จภายใน 180 วันหลังจากแต่งตั้งคณะอนุญาโตตุลาการแล้วเสร็จ โดย eupatcha พุธ ธ.ค. 16, 2009 9:53 pm

Re: อยากทราบกำไรสะสมครับของ RPC [quote="thungkaew"]ดูใน www.set.or.th กำไรสะสม 205.71 กำไรสะสมยังไม่จัดสรร -67.84 ตัวไหนคือกำไรสะสมกันแน่ครับ และดูงบกำไรขาดทุน Q3 2009 = 316.19 โดย eupatcha อังคาร ธ.ค. 15, 2009 4:58 pm

... ระบบค้างบ่อย เป็นยังงี้มานานแล้ว ทำใจไว้เลยครับ ถ้าตั้ง Bid ล่วงหน้าแล้วหวังว่าจะได้เป็นคนแรก ไม่มีหรอกครับ ไม่เคยได้ Broker เจ้าอื่นเอาไปกินหมด ยอดเงินก็ Update ช้า   บางทีเราสั่งถอนไปแล้ว แต่เงินในระบบยังอยู่ก็มี ขนาดผลประโยชน์ของบริษัทเลยน่ะเนี่ย บทวิเคราะห์ก็ไม่เป๊ะ เจ้าหน้าที่การตลาดเวลาใช้ไปหาข้อมูลที่ก็ใช้ไม่ได้เรื่อง..  แต่ผมก็เป็นลูกค้าเค้านานแล้วหล่ะเกือบ 10 ปีแล้ว เห็นข้อดีตรงที่ถึงระบบการซื้อขายจะแย่กว่าใคร แต่ความถูกต้องของเงินในระบบ และระบบการซื้อขายถูกต้องเสมอ ผมก็เลยไม่เปลี่ยน ไม่ได้ซื้อขายบ่อย ก็เลยไม่ได้ใส่ใจระบบการซื้อขายที่ล่มบ่อยๆครับ   ถ้ามีปัญหาก็โทรหาเจ้าหน้าที่การตลาดเรานั่นหล่ะ เค้าก็รีบเคลียร์ให้นะครับ โดย eupatcha จันทร์ ก.ย. 14, 2009 5:20 pm

...... อ่านแล้วรู้สึกดีจัง  เห็นภาพเลยครับ โดย eupatcha จันทร์ ก.ค. 27, 2009 1:17 pm

...... ขอบคุณน่ะครับที่แชร์ ความรู้ดีๆให้ โดย eupatcha อังคาร ก.ค. 07, 2009 11:19 am

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล [email protected] ขอบคุณครับ โดย eupatcha เสาร์ มี.ค. 14, 2009 1:13 pm

.. ขอบคุณด้วยอีกคนน่ะครับ ที่แชร์ข้อมูลดีๆให้ โดย eupatcha พฤหัสฯ. มี.ค. 12, 2009 11:12 am

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ ** สุทธิ(รวมปันผล) +10.91% ตัวเลขยังไม่นิ่ง เพราะผมปิดงบปีทุก 31 มีนาคม  ปีนี้ถือว่าฟลุคสุดๆที่รอดมาได้ เพราะวิกฤตมันมาเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว ขนาดทำงานอยู่ในอุตสาหกรมยานยนตร์ส่งออก ก็เห็นน่ะ ต้นปี-กลางปี Order ปรกติดี แต่อยู่ๆปลายปี Order มันลดแบบเครื่องบินตก ไม่ใช่ใช่แบบค่อยๆ Soft landing ครับ โดย eupatcha พุธ ก.พ. 18, 2009 6:56 pm

............. ก็ขอแชร์ด้วยคนน่ะครับ ผมตั้งเป้าซัก 20 ล้านเป็นอย่างน้อย ก็จะแบ่งออกเป็นส่วนๆ  2 ล้าน เอาไว้ปลูกบ้าน  5 ล้าน เอาไว้ลงทุนร้านทองกับพี่สาว  10 ล้าน ฝากประจำ หรือซื้อหุ้นกู้ เอาดอกผลไว้ใช้สอย   3 ล้าน ไว้ใช้ยามเจ็บป่วย     จะพยายามใช้ให้น้อย ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้ทำบุญ เผื่แผ่คนที่เดือดร้อนรอบตัว เลี้ยงเด็กพิการ บ้านพักคนชรา   เห็นแต่ VI พูดถึงแต่ตัวเองเป็นซ่ะส่วนใหญ่ เห็นแต่ชวนกันไปจิบเบียร์กัน  ลองเปลี่ยนไปเป็นแบบ นัดกันไปทำบุญเลี้ยงเด็กตาบอดที่มหาไถ่ บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน บ้านพักคนชรา พวกเราจะดูดีขึ้นเยอะน่ะครับในสายตาของสังคม อันนี้ก็แชร์กันไป ไม่หวังมากมาย โดย eupatcha จันทร์ ก.พ. 16, 2009 2:04 pm