Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ เยี่ยมมากเลยครับสำหรับคำตอบและปรัชญาการลงทุนครับ ผมก็กำลังเดินไปแนวทางเดียวกันครับ โดย TPH พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 9:53 am

Re: พอร์ตคุณเคยติดลบสูงสุดเท่าไหร่ แล้วเอาตัวรอดอย่างไร Total port nearly -40% and stock nearly -70% when subprime by now total port +38% and the stock that lose nearly -70% is 150%. I am stay calm and stay invest, when I have saving from each month and invest in the same stock. Year 2008 when I bought stock, tomorrow price lower than the day before but I still bought it. When I first bought I will wait until the price drop morethan 10% I bought again. That time I still had many thing to learn, there is one advise do not buy to average during downturn :ohno: but I still confident in my process so I buy on the way down :oops: By today I still have manything to learn, I am still fool morethan last 2 years :'O โดย TPH พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2011 6:31 pm

Re: รบกวนพี่ๆแชร์ประสบการณ์จากพอร์ต 1 แสน เป็น 1 ล้านนิดนึงค I start at Nov'07 with 35,000 baht and continue to increase port by saving from each month by month by time being my port investment cost increase to 750Kbaht but mark to market is 1.4Mbaht krub. In my port there are only 2 stocks that gain more than 100%, I have own stock process krub and do not have much time to concentrate in trading so my port stock almost not sensitive and volatile. โดย TPH พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2011 10:03 am

Re: คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนจริงๆ Concentrate to the good investment process rather than the shorterm outcome โดย TPH พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2011 8:35 am

Re: พอรต์ของท่านมูลค่าเท่าไหร่แล้วครับ พอดีตอนแรกที่ post ใช้คอมที่ทำงานเลยพิมพ์ไทยไม่ได้ก็ขออภัยนะครับ ที่ผมเน้นที่ process เพราะว่าสมมติว่ามีนักลงทุนอยู่ 4 ท่านดังนี้ 1. นักลงทุนท่านนี้มีรูปแบบวิธีการลงทุนแบบ สมมติแล้วกันว่าเขาใช้แนว VI โดยดูจากปัจจัยพื้นฐานแล้วโอเคแถมยังซื้อในราคาที่มีส่วนลด บังเอิญปรากฏว่าเขาดวงไม่ดีซื้อแล้วราคาไม่ไปไหนแต่ยังถือไว้อยู่นานก็ยังนิ่ง เขาเห็นคนอื่นลงทุนในวิธีการอื่นที่เขาไม่ถนัดแล้วมีผลกำไรดีก็เลยขายออกไปเปลี่ยนวิธีการไปเลย หลังจากเขาขายไปไม่นานนักหุ้นก็เริ่มขึ้นตามพื้นฐานที่มันมีอยู่ ส่วนตัวที่เขาลงทุนใหม่กลับขาดทุนอย่างหนัก อย่างนีเรียกว่า Good Process but Bad Luck 2. อีกท่านนึงลงทุนแบบไม่เน้น process ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยบังเอิญว่าดวงดี เลยทำกำไรได้เยอะ โดยที่ไม่รู้ว่าวิธีวิธีที่ใช้อยู่มันแย่ อย่างนี้เรียกว่า Bad Process but Good Luck 3. อีกท่านนึงลงทุนแบบตามแห่ ใครเฮไหนก็เฮนั่น แถมดวงยังไม่เข้าข้าง อย่างนี้เรียกว่า Bad Process and Bad Luck 4. คนสุดท้ายลงทุนมีรูปแบบการลงทุน แถมตอนที่ลงทุนกลับซ้อได้ที่ bottom อย่างนี้เค้าเรียกว่า Good Process and Good Luck จากนักลงทุนทั้งสี่ท่าน สามารถคาดคะเนว่าท่านที่ 3 จะขาดทุนอย่างหนักแล้วก็หันหลังให้กับตลาดไปเลย ส่วนท่านที่ 2 หากว่ายังลงทุนผิดวิธีแล้วมีความมั่นใจในตัวเองอยู๋มาก เมื่อเทพีแห่งโชคโบกมือลาก็เตรียมขาดทุนอย่างหนักได้เหมือนกัน ท่านที่ 1 หากยึดมั่นในหลักการมากกว่าผลลัพธ์ในช่วงสั้นแล้วก็จะประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่วนท่านที่ 4 เนี่ยไม่ต้องพูดถึงเพราะครบเครื่องอยู่แล้ว เป็นมุมมองส่วนตัวจากประสบการณ์ที่มีอยู่น้อยนิด โดย TPH ศุกร์ ธ.ค. 24, 2010 4:06 pm

Re: พอรต์ของท่านมูลค่าเท่าไหร่แล้วครับ Per I read on replies, all most looking in the outcome which is depends on luck. Instead we shall focus on process (investment philosophy, method) if the process is good, it will takecare outcome. What is the process? VI (buy undervalue stock by fundamental analysis), technical (use statistic and mass psycology), fundflow (use economics info) .... โดย TPH ศุกร์ ธ.ค. 24, 2010 6:37 am

จริงหรือป่าวคับที่วอร์เรน บัพเฟตเคยซื้อหุ้นตัวนึง... I have owned one stock which it price drawndown and paper loss nearly 75% by that nearly 2 years time I not have another money to buy again at the low price and company fundamental had not changed so I hold it and still hold upto now. The paper profit is nearly 50%. โดย TPH พุธ ต.ค. 27, 2010 7:27 am

เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว(๒๕ต.ค.๒๕๕๓) ตอน เลิฟมีเลิฟมายบุ๊คส์ The first two books I have read are Common Stock Uncommon Profit & The Inteligent Investor krab โดย TPH จันทร์ ต.ค. 25, 2010 11:02 am

ทำไม บัฟเฟต รวยกว่า ชาลีครับ As per my understand Buffett has more ownership share percentage in Berkshire Hathaway. โดย TPH ศุกร์ ต.ค. 22, 2010 7:11 am

Re: คนโง่เห็นคำเตือนเป็นที่ระคายหู เค้าจะมาเตือนเชิงเทคนิกหรือเชิงคุณภาพอะไรก็ตาม ไม่มีควันก็ย่อมไม่มีไฟ เรื่องบางเรื่องก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้าง อย่าติดกับดักความคิดตัวเองอย่างเดียว หลายคนที่เข้าไปโพสเตือน เค้าไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร เตือนไปพวกเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อเค้าก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร คนบางคนอยู่ในตลาดมานาน ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่าน crash มาหลาย เค้าโพสมา เราควรเก็บมาคิดสักหน่อยนะครับ ว่าความมั่นใจของเรา เกิดจากการ "คิดไปเอง" หรือเปล่า หรือมีอะไรข้างหลังที่เราไม่รู้อีกบ้างไหม ปกติการลงทุนของผม ผมจะไม่ค่อยอยากฟังข้อดีของหุ้นที่ผมซื้อนัก เพราะผมมักจะรู้ัหมดแล้ว แต่ถ้าใครสามารถให้มุมมองที่เป็นลบ แม้ว่าจะแดกดันไปบ้างประชดประชันบ้าง ผมก็รับด้วยความยินดี ผมมีเพื่อนไม่มากนักครับ แต่เพื่อนผมทุกคน กล้าติผมต่อหน้า และผมก็กล้าติเพื่อนต่อหน้าเหมือนกัน สุดท้ายอยากให้เห็นใจ moderators กันหน่อยนะครับ บางคนทำงานหนักโดยไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่รับคำด่าไปเต็มๆ ถ้าเค้าจะพลาดบ้างอะไรบ้าง ก็อย่าถือเป็นอารมณ์จนเกินไป กระทู้โดนลบบ้างอะไรบ้าง ก็ไม่ต้องไปถามหาเหตุผลกันมากนัก แล้วสังคมจะน่าอยู่ขึ้นนะครับ ขอบคุณมากครับพี่ Eto ที่เข้าเตือนและแนะนำ ผมเห็นด้วยกับ quote ข้างบนมากครับ มนุษย์ปุถุชนเราเนี่ยก็แปลกนะครับอยากจะได้ยินคำชื่นชมที่ไพเราะเเสนาะหู กลับกันจะโกรธเคืองถ้ามีใครมาติเตียนหรือแนะนำ ยิ่งถ้าเรื่องที่ติหรือทักท้วงมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ยิ่งจะไม่เปิดใจที่จะรับฟังหรือนำมาฉุกคิดและตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ผมเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องร้อยคนร้อยหุ้นตัวหนึ่งที่ค่อนข้างจะร้อนแรง เพราะว่าได้เข้าไปอ่านตอนไฟมันคงจะมอดแล้ว เลยยากที่จะทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น การลงทุนไม่ว่าจะใช้แนวไหน ล้วนแต่ต้องมีหลักการไว้จับยึด มีความพร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจและอารมณ์ และมันเป็นศิลปะ ไม่ใช่แนววิทยาศาสตร์ที่ 1+1=2 ยิ่งเวปของเราที่เน้นการลงทุนแนวคุณค่าแล้ว หลักการคือซื้อหุ้นที่พื้นฐานดี มีความได้เปรียบทางด้านการแข่งขัน มีผู้บริหารที่ดีและมีความสามารถ และซื้อในราคาที่เหมาะสม สุดท้ายเราต้องไม่ไหลไปตามกระแสของมวลชนหมู่มาก อย่างหุ้นที่เป็นประเด็นอยู่นี้ หลาย ๆ ท่านคงจะมีการประเมิณราคาที่เหมาะสมแล้วคิดว่ามันเหมาะที่จะลงทุนแล้ว แต่สำหรับผมผมไม่สามารถที่จะทำความเข้าใจมันได้ดีพอ และการที่จะเข้าลงทุนโดยมองว่าอนาคตมันจะดีมาก ทั้ง ๆ ที่มันยังมาไม่ถึงและยังคงมีความเสี่ยงอยู่อีกมากมายที่หลายท่านอาจคาดไม่ถึง ผมชอบลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีกำไรปัจจุบันที่จับต้องได้มากกว่า สุดท้ายอยากให้ทุกท่านลองถอยออกมาอีกซักนิด และมองภาพที่กว้างกว่าอีกซักนิด บางทีการที่เรามองจากมุมที่ใกล้เกินไปอาจจะผิดเพี้ยนไปหากเราถอยออกมามองที่จุดไกลกว่าเดิมอีกนิดนึง สุดท้ายการ post ของผมอาจจะทำให้บางท่านไม่สบายใจ ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย โดย TPH อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 5:46 pm

สำรวจ(ความสูง?)อายุของชาวTHAIVI ครับ ร่วม vote แล้วครับอยู่ในช่วงฐานะมั่นคง แต่เรื่องราวจริง ๆ ยังอีกไกลครับ โดย TPH อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 5:13 pm

ทำไม่โบรกเกอร์ ถึงเกลียดนักลงทุนแนว VI ผมกับมาร์ได้คุยกันแค่ 3 ครั้งในรอบเกือบจะ 4 ปี คือครั้งแรกตอนเปิดพอร์ทและต้องโอนเงินเข้าบัญชีเพราะว่ายังตัด ats ไม่ได้ ครั้งที่สองโทรมาบอกว่า ats ใช้ได้แล้ว และครั้งที่สามก็ตอนส่งเอกสารตอบรับ tender offer หุ้นตัวนึง มาร์ผมไม่เคยแนะนำหุ้นตัวไหนให้ผมเลยครับ แปลกดีไหม  :lol: ผมไม่แน่ใจว่ามาร์ผมคงรู้ว่าผมลงทุนแบบไหนหรือเปล่า เพราะแต่ละตัวแทบไม่เคยได้ยินเลยมั้ง มาร์ผมแค่คอยส่งรายงานการซื้อขายกับสรุปพอร์ทในแต่ละเดือนนั่นคือสิ่งเดียวที่พอจะทำได้ สงสัยพอร์ทผมคงจะเล็กมั้งครับเลยขาดความอบอุ่น  :lol: โดย TPH จันทร์ ส.ค. 30, 2010 7:09 pm

ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงขาดทุนในการลงทุนได้ ก่อนอื่นเราต้องแยกแยะให้ออกว่าบริษัทที่ดีกับการลงทุนที่ดีนั้นต่างกัน การที่เรารู้ว่าบริษัทที่ดีและมั่นคงนั้นน่าจะเป็นการลงทุนที่ดี เท่ากับว่าเราเดินมาในทางที่ถูกต้องแล้วเป็นบางส่วน แต่ยิ่งจะดีขึ้นอีกถ้าเราพอจะทราบปัจจัยที่จะทำให้บริษัทนั้นยังคงดีอยู่และดีขึ้น ๆ ไปในอนาคตข้างหน้า รวมถึงสามารถประเมินมูลค่าของบริษัทได้ รวมถึงการเข้าลงทุนในราคาที่มีส่วนต่างจากมูลค่านั้นพอสมควรตามแต่จิตใจและอารมณ์ที่รับได้ของแต่ละบุคคล หากวันนึงราคาตลาดเกินมูลค่าทั้งที่ปัจจัยที่รองรับนั้นไม่เปลี่ยนแปลง ก็อาจจะขายออกมาทั้งหมดหรือบางส่วนหากพบว่ามีการลงทุนอื่นที่ดีกว่า เมื่อมองไปตามนักลงทุนที่มีอยู่ในตลาด น้อยมากที่จะสามารถยึดกับหลักที่ว่าทำให้มีทั้งการติดดอย ขายหมูหรือตกรถอยู่เป็นประจำ ผมเองก็ยังเป็นเลยครับ :lol: ดังนั้นการที่จะลงทุนให้ได้ผลที่ดีต้องมีหลักยึด อารมณ์และจิตใจที่มั่นคง ไม่แห่ไปตามมวลชนหมู่มาก รวมถึงต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัดครับ โดย TPH อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 1:39 pm

หุ้นถูก เต็มตลาด อย่างที่พี่ฉัตรชัยบอกครับ ผมว่าต่อไปนักลงทุนรายย่อยคงจะหาผลตอบแทนที่สูงได้ยากขึ้นซึ่งอาจจะไม่คุ้มค่ากับเวลาแรงงานที่เสียไป ดังนั้นในอนาคตเมืองไทยคงจะมีกองทุนรวมที่คล้าย ๆ กับฝั่งมะกันซะละมั้ง โดย TPH อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 12:40 pm

หุ้นถูก เต็มตลาด ชอบคำตอบและมุมมองของพี่ปรัชญาและพี่ฉัตรชัยครับ :) ผมเห็นด้วยนะครับว่าตอนนี้มีนักลงทุนรายย่อยที่มีความรู้ทางด้านการลงทุนเพิ่มขึ้นเยอะมาก ไม่รู้ว่าจะดีใจ (ที่แต่ละคนมีความเข้าใจเรื่องการลงทุนในตลท) หรือเสียใจดี (หาหุ้นยากขึ้นผลตอบแทนน้อยลง)  :lol: โดย TPH อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 11:24 am

TVI มีตติ้งภาคใต้ ไตรมาส 2/2553 [quote="Paul VI"]มารอฟังความรู้ครับ โดย TPH อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 11:18 am

พอดี เริ่ม สนใจหุ้น นะครับ เลยขอถามอะไรหน่อยครับ เหมือนของพี่ chowbe76 เลยครับ โดย TPH จันทร์ ก.ค. 19, 2010 7:44 pm

ผมควรบริหารportยังไงครับถ้าผมมีเงินอยู่ 100000 ผมเห็นด้วยกับที่หลาย ๆ ท่านแนะนำมาครับ มาแสวงหาความรู้ทางการลงทุนและจิตใจให้ครบก่อนดีกว่า หลังจากนั้นก็ลองศึกษาบริษัทที่สนใจครับ ที่ไม่แนะนำคือการแบ่งเงินที่จะลงทุนกับเก็งกำไรไว้ในพอร์ทเดียวกัน ถ้าอยากจะเก็งกำไรก็แนะนำว่าให้เปิดแยกอีกพอร์ทเลยครับ เพราะเคยมีหลายคนที่ใช้พอร์ทเดียวกันและคิดว่าจะเก็งกำไรเท่านั้นเท่านี้ % พอขาดทุนก็จะแบ่งเงินที่คิดว่าจะลงทุนมาเติมบางส่วน เติมไปเติมมาหายหมด  :lol:  บางที่กำไรก็เพิ่มเงินมากขึ้นกว่าที่ตั้งใจไว้ โลภมากจนจากกำไรกลับมาขาดทุนครับ โดย TPH เสาร์ ก.ค. 17, 2010 7:58 pm

การอ่าน 56-1 หรือรายงานประจำปี มันเสียเวลา? ตื่นตี 5 อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน กลับถึงบ้าน 2 ทุ่ม เพื่อเงินเดือนละไม่กี่หมื่น ไม่เสียเวลา แต่อ่านเอกสารแค่ไม่กี่ชั่วโมง เพื่อผลตอบแทนการลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน บอกเสียเวลา !! ก็ปล่อยเค้าไปเถอะครับ โดนเต็ม ๆ สำหรับความเห็นนี้ครับ เพราะว่าทุกวันนี้ยังคงดำเนินชีวิตอย่างนี้อยู่เลย เอาไว้เมื่อไหร่ที่พอร์ทการลงทุนโดยเฉพาะเงินปันผลมากกว่าเงินเดือน คงจะทำให้ play body ได้บ้าง  :lol: ผมเองก็ยังคิดว่าการอ่าน 56-1 นี้มีผลทั้งสองด้าน ด้านดีคือทำให้เรารู้ว่าเค้าทำหาค้าขายยังไง มีอะไรที่เสี่ยงบ้าง มีโครงสร้างของบริษัทและการบริหารอย่างไร เงินทุนมาจากไหน สินทรัพย์อะไรบ้าง มีแนวคิดขยายโครงการหรือเปล่า มี CG แค่ไหน หรืออาจจะเป็นมี VI ท่านใดถือหุ้นหรือเปล่า  :lol: ด้านด้อยก็คือบางครั้งอาจจะทำให้เราใช้เวลานานในการตัดสินใจยิงครับ  :lol: บางท่านอาจจะแย้งว่าเออหุ้นดีซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ ซื้อทางไปรษณีย์ยังทัน ผมว่าบางคนอาจจะไม่คิดอย่างนั้น เพราะว่าอะไรเหรอครับ เพราะว่ามนุษย์เรามี bias ครับ เราจะจดจำราคาที่ต่ำนั้นไว้แล้วก็รอจนกว่าราคานั้นจะกลับมา ซึ่งจากที่เห็นมานะครับหุ้นดี ขอย้ำว่าหุ้นดีราคามักจะแพงขึ้นเสมอ ตัวอย่างที่เห็นชัดก็ ร้านสะดวกซื้อน่าปากซอย :) ที่ทำให้หลายท่านพลาดไป โดย TPH เสาร์ ก.ค. 17, 2010 7:31 pm

รู้สึกอย่างไร เมื่อได้เด้งแรกในชีวิต ดีใจด้วยกับทุกคนที่ได้รู้จักคำว่าเด้ง ผมเองลงทุนมาเป็นเวลาเท่ากับ login ยังไม่เคยสะกดคำว่าเด้งถูกเลย  :lol: โดย TPH เสาร์ ก.ค. 17, 2010 7:11 pm

พอดี เริ่ม สนใจหุ้น นะครับ เลยขอถามอะไรหน่อยครับ พี่ปตอ.อธิบายละเอียดยิบจนมือใหม่อย่างผมกระจ่างเลยครับ เหมือนของพี่ chowbe76 เลยครับ  :) โดย TPH เสาร์ ก.ค. 17, 2010 6:57 pm

เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ? สำหรับผม ผมเคยล้างแบบหมดจรดถือเงินสดร้อยเปอร์เซ็น ตอนปีประมาณ 2541 หรือ 2542 ประมาณนั้น ทั้งนี้เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำตอนนั้น ขึ้นไปประมาณ 14-16% ผมยังจำวันที่ผมถือเช็คเข้าไปเปิดบัญชีได้อยู่เลยครับ ถ้าอัตราเงินฝากเท่านั้นและมีแนวโน้มเป็นอย่างเดิมหรือเพิ่มผมก็คงต้องขายเหมือนกันครับ 15% โดยที่แทบจะไม่มีความเสี่ยงเลย  :ep: ผมเคยขายหุ้นปรับพอร์ทก็ไม่เคยขายได้ที่ราคาสูงสุดเลย :( เหมือนกับตอนช้อนก็ไม่เคยได้ที่ต่ำสุดเลย  :lol: โดย TPH เสาร์ มิ.ย. 19, 2010 8:53 pm

Re: ขอถามความหมายของคติ และแก่น การลงทุนของลุงขวด ขอบพระคุณลุงขวดมากที่มาถ่ายทอดผลึกความรู้และประสบการณ์การลงทุนครับ [quote="ลุงขวด"] 1.แสดงว่ายอมรับกันแล้วนะครับว่า หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ โดย TPH เสาร์ มิ.ย. 19, 2010 2:40 pm

บางครั้งก็รู้สึกหวั่นไหว เลือกแนวทางที่ตัวเองสามารถ ผมตอบแทนที่ตัวเองพอใจ ไม่ต้องมาก แต่มั่นใจดีที่สุดครับ เห็นด้วยกับคุณ densin ครับ เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับความสามารถทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงผลตอบแทนที่ยอมรับได้ครับ เพราะว่าหลักการหรือวิธีการมันมีเยอะ การที่จะทำอย่างนั้นได้แสดงว่าเราต้องมีการศึกษาหาความรู้และได้ลองทดลองปฏิบัติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบ Graham, Lynch, Buffet, Fisher, Templeton, Neff, Anthony Bolton, Jim Chanos etc. สิ่งที่ดีที่สุดคือการลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโต ในราคาที่เหมาะสม และมี MOS ที่คอยรองรับในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ยิ่งจะดีถ้าหุ้นตัวนั้นเติบโตสูง ปันผลดี มี DCA ถูกมองข้ามและ P/E ต่ำ ๆ แต่ผมยังหาหุ้นที่ว่าไม่เจอซักที  :lol:   :lol:  :lol: โดย TPH เสาร์ มิ.ย. 19, 2010 1:55 pm

เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ? สงสัยว่าพี่คนขายของทำไมถึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ มองเห็นอะไรที่ผิดปกติที่คนทั่วไปมองไม่เห็นหรือเปล่า :roll: ผ่านประสบการณ์การลงทุนมาก็เกือบ 3 ปีแล้วครับเรียกว่าเริ่มตอนปลายกระทิงเปลี่ยวพอดี (850 ปลาย ๆ)จนถึงตลาดหมี (380 จุด  :vm: ) ผมยังคงเต็มพอร์ทตามประสาคนที่รู้น้อย ๆ และต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไป  :wink:  ผลตอบแทนที่ได้ตอนนี้ก็ยังเขียวอยู่ครับ อาจจะไม่ได้เป็น % เยอะมากแต่ผมก็พอใจ พอร์ทก็มีการเติบโตทั้งจากเงินเก็บและปันผลที่ได้รับเติมลงไปทุก ๆ ปี ถ้าคิดจากตอนเริ่มต้นก็ 400% แล้วครับ ส่วนตัวแล้วผมไม่เก่งที่จะทำนาย timing ของตลาด ตลอดจนอารมณ์ของผู้ที่มีส่วนร่วมในตลาด ผมจึงไม่สามารถที่จะขายล้างพอร์ทเพื่อที่จะมารอรับในราคาข้างล่างที่ต่ำกว่า ผมเคยลองเดาเล่น ๆ แล้วจดไว้ในกระดาษว่าหุ้นตัวนึงจะลงมาถึงที่ราคาเท่านั้นเท่านี้ ถ้าขายแล้วมาซื้อทำให้ลดต้นทุนลงได้ ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่คิดไว้ เรียกว่า paper profit แต่ถ้าให้ผมทำจริง ๆ ในพอร์ทผมว่าบางทีอารมณ์ที่มีอยู่ ณ ขณะนั้นอาจทำให้ผมตัดสินใจผิดพลาด ขาดวินัยในการลงทุนก็ได้ ก็มันเงินจริง ๆ เนี่ยครับ เล่นจริงเจ็บจริง  :lol: สิ่งที่พอจะทำได้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคือ 1. ซื้อเพิ่มกรณีที่มีเงินสดเหลืออยู่ในมือในหุ้นที่มีอยู่กรณีที่ผลกระทบนั้นแค่ระยะสั้นและมีผลตอบแทนที่ดี upside เยอะหรือพอสมควรแต่ downside น้อยหรือแทบจะไม่มีเลย 2. ปรับพอร์ทหุ้นที่ถืออยู่ขณะนั้นครับ 3. อยู่เฉย ๆ ปกติผมจะใช้ข้อ 1 และ 3 เพราะมนุษย์เงินเดือนมีเงินเติมเข้ามาตลอดครับ หรือเดี๋ยวมันก็ผ่านไปและกลับมาเหมือนเดิม เนี่ยเป็นมุมมองและความเห็น ณ ครับ ไม่มีเจตนาจะสอนหรือแนะนำอะไร มีความสุขกับการลงทุนและใช้ชีวิตครับ โดย TPH เสาร์ มิ.ย. 19, 2010 1:33 pm

ถ้าจะต้องเลือก ..... แต่เอผมกลับมานั่งคิดใหม่แล้วก็เจอความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงชนิดที่ว่าตายน้ำตื้น  :lol: หากสมมติว่าผมซื้อ LTF 100,000 บาทผมก็ได้คืนทันทีที่ 20,000 บาทในอัตราภาษี 20% แต่ถ้าผมนำเงินที่ว่าไปซื้อหุ้นแล้วรอรับปันผล อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่ว่าผมซื้อตัวไหนที่ราคาเท่าไหร่ สมมติว่าผมซื้อหุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแล้วกัน ผมอาจจะได้เงินคืนน้อยกว่า 20,000 บาทเพราะว่าปันผลจะได้ตามจำนวนหุ้นที่มีอยู่ เอสงสัยต้องคิดใหม่ทำใหม่ซะแล้วใช่ไหมครับ โดย TPH อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 4:09 pm

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน ขอบคุณพี่ฉัตรชัยสำหรับความรู้และปรัชญาการใช้ชีวิตครับ  :bow: โดย TPH อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 3:57 pm

ถ้าจะต้องเลือก ..... ถ้าฐานภาษีอยู่ที่ 10% ผมว่าไม่จำเป็นต้องซื้อ LTF ครับ นำมาลงทุนเองน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เพราะฐานภาษี 10% LTF จะช่วยได้แค่ 11.11% ในปีแรกเท่านั้น และอีก 2-3 ปีที่เหลือ (สมมติว่าลงทุน 3 ปี 2 วัน) ไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากนั้นก็วัดดวงเอาว่าผู้จัดการกองทุนจะทำกำไร (ขาดทุน) ให้คุณได้อย่างไร แต่ถ้าฐานซัก 20% ขึ้นไป ผมว่าซื้อไว้ก็ดีครับ ปีแรกกำไร 25% (20*100/80) ถือซะว่าเฉลี่ย 3 ปีก็อยู่ที่ประมาณ 8% พอยอมรับได้ ฐานภาษีของผมอยู่ที่ 20% ขึ้นไปครับ ก็อย่างที่คิด hilight ครับว่าลดหย่อนที่ได้ 8% กลับกันถ้าลงทุนในหุ้นแล้วนำปันผลมา credit ภาษีได้ทุกปีตราบใดที่ยังจ่ายปันผล และบริษัทส่วนใหญ่ก็น่าจะเสียภาษีใอตราที่ credit คืนแล้วมากกว่า 8%[/b] โดย TPH อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 3:22 pm

มือใหม่ครับ อยากให้พี่ๆ เพื่อนๆ แนะนำหุ้นซักตัวเพือสร้างฝัน สังคมที่นี่เค้ามีความปรารถนาดีที่จะให้ จขกท มีความรู้และสามารถเลือกหุ้นลงทุนเอง การที่จะเข้ามาขอหุ้นเด็ดจากที่นี่รับรองว่าจะต้องผิดหวังครับ อย่างที่หลาย ๆ คนแนะนำครับว่าลองตั้งใจหาความรู้ก่อนน่าจะดีครับ อาจจะเข้าคลังกระทู้คุณค่า หรือร้อยคนร้อยเล่มแล้วเลือกซื้อหนังสือมาอ่านก่อนก็ดีครับ จขกท เห็นว่าดอกเบี้ยจากการฝากเงินมันน้อย แต่ก็เป็นอะไรที่ไม่เสี่ยงครับ ลองคิดว่าโอกาสเสียเงินมีเท่าไหร่ก่อนที่จะคิดว่าโอกาสได้เงินมีเท่าไหร่น่าจะดีกว่าไหม ถ้าไม่มีเวลาแต่อยากลงทุนในหุ้น มีอยู่สองทางครับ คือ 1. ลงทุนใน index fund ครับค่าธรรมเนียมถูกอีกด้วย 2. เลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีหลักการลงทุนที่จขกท รับได้ มีความสุขกับการลงทุนและการใช้ชีวิตครับ  :) โดย TPH อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 2:33 pm

ชวนคุย เข้ามาดูและแอบอ่านต่อไปครับ  :) โดย TPH อังคาร พ.ค. 11, 2010 7:56 pm

สรุปความรู้จากงานสัมมนาไทยวีไอ ประจำปี 2553 ขอบคุณมากครับสำหรับน้ำใจที่ไม่เคยขาดหายไปจาก web thaivi  :bow:  :bow:  :bow:  :D โดย TPH จันทร์ พ.ค. 03, 2010 7:45 pm

สรุปสัมมนาเรื่องลงทุนแบบวอร์เรนและ วิถีVIไทย 17/4/10 ขอบคุณมากครับสำหรับความเอื้อเฟื้อและน้ำใจที่ดีงาม เก็บรายละเอียดได้ดีมากครับ ผมไม่มีโอกาสได้ไปฟังด้วยตัวเอง แต่อ่านจากที่สรุปก็คิดว่าน่าจะครบถ้วนครับ  :) โดย TPH อาทิตย์ เม.ย. 18, 2010 11:21 am

กลุ่มค้าปลีก สัมมนาใหญ่ไทยวีไอ 1 พ.ค. 53 ผมว่าน่าจะรวมไปถึง Global Se-ed IT Jubile โดย TPH อาทิตย์ เม.ย. 11, 2010 7:25 pm

Short sell หุ้น ??? ขอบคุณมากครับคุณ [v] การ short sell หุ้นนั้นมีความเสี่ยงกว่าการซื้อหุ้นจริง ๆ (long) มากดังที่ทุกท่านบอกกัน การ short sell นั้นหากได้ก็แค่ 100% หากหุ้นที่ short เกิดล้มละลายมูลค่าหุ้นจะเท่ากับ 0 แต่ถ้า short แล้วไม่ลงหุ้นกลับขึ้นเนี่ยคนที่ short อาจล้มละลายแทนบริษัทก็ได้  :lol: ผมแค่มีมุมมองที่อาจจะแปลกก็ได้ หากสมมติฐานที่ว่าราคาหุ้นในระยะยาวเปลี่ยนแปลงตามพื้นฐาน หุ้นตัวที่ราคาเกินพื้นฐานมาก ๆ (พื้นฐานตามไม่ทันราคาหุ้น) จะปรับลดลงมาในที่สุด ผมก็(แอบ)อ่านที่คุณ [v] เขียนในห้องเทคนิคัลอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่ค่อยได้ post ตอบเพราะว่าความรู้ทางเทคนิคของผมมันแทบจะเหมือนเด็กเพิ่งเกิด :) โดย TPH อาทิตย์ เม.ย. 11, 2010 6:44 pm

Short sell หุ้น ??? ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบครับ ตอนแรกนึกว่าจะไม่มีใครตอบซะแล้วเพราะคำถามดูเหมือนจะไช่การลงทุนตามแนวทาง VI แต่หากเรามีข้อมูลรวมถึงราคาที่น่าจะเป็นเมื่อเทียบกับราคาในตลาด ถ้าพิจารณาว่ามันเกินมูลค่าทางพื้นฐานมาก ๆ บางทีเราอาจจะ short sell เพราะว่าในท้ายที่สุดแล้วราคาหุ้นอาจจะปรับตัวลงมาหาพื้นฐานกิจการที่มีอยู่ก็ได้ แต่ผมอ่านจาก link ที่ให้แล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าหากต้องการ short sell หุ้นรายตัวต้องทำอย่างไรในกรณีที่ไม่มีหุ้นตัวนั้นอยู่ในพอร์ท แล้วเราต้องคืนหุ้นที่ short เมื่อไหร่ แล้วจะสามารถดูข้อมูลจากไหนได้บ้างว่ามีการ short sell หุ้นตัวไหนบ้าง ขอบคุณครับ โดย TPH อาทิตย์ เม.ย. 11, 2010 1:19 pm

รบกวนถาม VI ทำใจให้นิ่งอย่างไรเมื่อการเมืองรุนแรงเกินคาด ปรับพอร์ตได้ครับ :D แต่.. รายละเอียดขึ้นอยู่กับพอร์ตแต่คนครับ ศิลปะการปรับพอร์ต โดย TPH อาทิตย์ เม.ย. 11, 2010 1:06 pm

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ [quote="Voldtrest"]ขอบคุณมากครับพี่วิบูลย์ โดย TPH อาทิตย์ เม.ย. 11, 2010 12:55 pm

กระทิง ???? พี่หรั่งเล่นแรงส์ทีเดียว แล้วผมจะทำยังไงดีหล่ะ เงินสดเต็มเลย :cry: แล้วสิ้นปีนี้ผมจะเอา LTF มาลดหย่อนภาษียังไม่ได้ซื้อเลย ดอยหรือเปล่าก็ไม่รู้ :evil: โดย TPH จันทร์ เม.ย. 05, 2010 7:29 pm

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ โดยนิสัยผมเป็นพวกชอบกด pe ครับ ทั้งชีวิตไม่เคยซื้อหุ้นแล้วหวัง p/e เกิน 12 เท่าเลยซักตัว เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ค่อยได้มีโอกาสไปเล่นหุ้นสไตล์ ดร. นิเวศน์เท่าไหร่นัก เพราะหุ้น Great ส่วนใหญ่ ได้ pe ซัก 12 เท่าก็ถือว่าถูกแล้ว ซื้อแล้วหวัง pe กัน 15-20 เท่า ... ผมชอบซื้อหุ้น Good ที่ pe 4-5 เท่า แล้วหวังซัก 7-8 เท่ามากกว่า ขอถามคุณโยต่อหน่อยครับ ว่าคุณโยมีตะแกรงร่อนแยกหุ้นยังไงว่าตัวไหน great ตัวไหน good ครับ มีปัจจัยอะไรบ้างที่ใช้พิจารณา อาจจะยกตัวอย่างชื่อหุ้นบ้างก็น่าจะดีมาก ผมลงทุนมาปีนี้ก็ย่างปีที่ 3 ครับพอจะเอาตัวรอดในตลาดได้บ้าง โดยรวมไม่ขาดทุนแต่ก็ไม่ได้ชนะตลาดซักเท่าไหร่ ยังสับสนในวิธีการลงทุนในรูปแบบของตัวเองอยู่เลย ก็อาศัยศึกษาไปเรื่อย ๆ รวมทั้งอ่านจากผู้รู้ทั้งหลายก็ช่วยย่นระยะเวลาเรียนรู้พอสมควร  :) โดย TPH อาทิตย์ มี.ค. 28, 2010 3:10 pm

มุมมองลงทุนสไตล์ Sai เข้ามาฟังด้วยคนครับ :man: โดย TPH พุธ มี.ค. 17, 2010 7:49 pm

ลงทุนได้คืนปีละ 100-300 เปอร์เซ็นต์ ผลตอบแทนจาก click2win นั้นเป็นแค่เกมส์ที่ผู้เล่นสามารถใช้วิธีการลงทุนที่เสี่ยงเท่าไหร่ก็ได้ เพราะไม่ใช่เงินจริง ๆ ลองเป็นเงินจริง ๆ ที่หามาโดยน้ำพักน้ำแรงแล้วแค่เพียงกำไรนิดหน่อยบางครั้งจิตใจก็อยากจะทำกำไรซะแล้วทั้ง ๆ ที่ควรจะ let profit run พอขาดทุนก็ได้แต่หวังว่าเดี๋ยวก็กลับมาโดยที่ไม่ยอม cut loss เพราะว่าพื้นฐานของบริษัทได้เปลี่ยนไปแล้ว การลงทุนด้วยเงินจริง ๆ นั้นค่อนข้างจะยาก การที่กำไร 30% ขึ้นไปต่อปีทบต้นผมว่ายากมาก เพราะว่าเราต้องมีความพร้อมในหลาย ๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นวิธีการลงทุนว่าจะใช้แนวทางไหน เงินลงทุนที่มีอยู่ รวมทั้งการจัดสรรการลงทุนว่าจะลงทุนอย่างไร asset allocation ที่สำคัญคืออารมณ์และจิตใจที่ต้องพยายามควบคุมให้อยู่ในหลักการและวินัย กล้าที่จะซื้อหลังจากที่ศึกษามาอย่างดีเมื่อคนอื่นแห่ขาย กล้าที่สวนความเห็นของคนอื่น กล้าที่จะตัดเฉือนเนื้อร้ายหากวิเคราะห์ผิดพลาด เป็นต้น โดย TPH อาทิตย์ ก.พ. 28, 2010 11:09 am

หนังสือเหล่านี้มีเล่มที่แปลเป็นภาษาไทยไหมครับ เท่าที่รู้นะครับ 1. Fooled by Randomness มีแปลครับ ชื่อหนังสือ เก่งเทียมฟ้าหรือว่าโชค 2.The Black Swan ไม่รู้ครับ 3.Blink มีแปลครับ ชื่อหนังสือ Blink มหัศจรรย์ความคิดชั่วพริบตา 4.The Tipping Point มีแปลครับ ชื่อหนังสือ จุดชนวนคิด พลิกสถานการณ์ 5.Outliers มีแปลครับ ชื่อหนังสือ สัมฤทธิ์พิศวง 6.Freakonomics มีแปลครับ ชื่อหนังสือ เศรษฐพิลึก ผมชอบ เศรษฐพิลึก เขียนเรื่องยากให้ง่ายครับ หรือห้องไปที่ ร้อยคนร้อยเล่ม มีรีวิวครับ ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบของทุกท่าน ลองเข้าไปดูในเวปของซีเอ็ดหุ้นดีของพวกเรา ปรากฎว่าเล่มที่ 1-3 ไม่มีของซะแล้วอยากอ่านมากไม่รู้ว่าใครมีเวอร์ชั่นซีรอก ช่วยหน่อยครับ โดย TPH เสาร์ ก.พ. 27, 2010 5:01 pm

แบ เบอร์ ผมว่าใช้สติ ปัญญา และข้อมูลของแต่ละบริษัทที่เผยแพร่ออกมา รวมทั้งข่าวสารแวดล้อม เป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์และตัดสินใจ ส่วนแผนการลงทุนก็เอาให้เหมาะสมกับจริต จิตวิทยา ของแต่ละคนครับ ทำในสิ่งที่คิดว่ามีความสุขไม่เครียดจนเกินไป เช่นบางท่านอาจจะขายลดความเสี่ยงแล้วรอช้อนตอนมันลงต่ำ ซึ่งอาจจะไม่ลงก็ได้ บางท่านอาจจะใช้ DCA บางท่านอาจจะ wait and see ครับ โดย TPH เสาร์ ก.พ. 27, 2010 2:55 pm

บอกปันผลปุ๊ปซื้อดักปั๊ป หรือรอให้xdก่อน อย่างไหนดีกว่ากันครั [quote="winkung"]ขอบคุณทุกๆความเห็นมากครับ โดย TPH อาทิตย์ ก.พ. 21, 2010 4:13 pm

ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!! ผมว่าน่าจะเป็นทองคำเหมือนกันครับ หรืออาจจะเป็นตราสารอนุพันธ์ ส่วนตัวผมเองเอาตัวไม่รอดกับตลาดหุ้น คงจะอีกนานที่จะลองทองคำ คอมโมดิตี้ หรือตราสารอนุพันธ์เพราะว่ามันยากเกินไป โดย TPH อาทิตย์ ก.พ. 21, 2010 3:09 pm

31 หุ้นเบต้าต่ำสู้ขาลง 14 บจ.เบต้าสูงมีปันผล งงครับไอ้เบต้าเนี่ยคืออะไร มันเกี่ยวอะไรกับฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์เหรอครับ ไม่อย่างนั้นจะต้องดูค่าแอลฟ่า แลมป์ดา หรือ เอฟซิลอนด้วยหรือเปล่า  :shock: โดย TPH เสาร์ ก.พ. 06, 2010 11:32 am

นริศสอนน้อง [quote="chatchai"]สิ่งที่ผมกลัวสุดของหุ้นเข้าตลาดใหม่ๆก็คือ โดย TPH จันทร์ ม.ค. 25, 2010 8:07 pm

นริศสอนน้อง [quote="naris"]การที่เราจะรู้คุณภาพของธุรกิจ พี่ว่ามีองค์ประกอบสามเรื่อง 1.เราก็ต้องรู้ธรรมชาติของอุตสาหกรรม 2.เราต้องรู้โมเดลธุรกิจของเขา โดย TPH จันทร์ ม.ค. 25, 2010 7:44 pm

เคยต้องถอนตัว หรือล้างพอร์ต ออกจากตลาดหุ้นมั้ยครับ ผมรู้จักกับตลาดหลักทรัพย์มาประมาณ 2 ปีกว่า ๆ เริ่มประมาณปลายดอย 800 ปลาย ๆ ตอนปี 07 จนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยคิดที่จะล้างพอร์ทเลยครับ ถือหุ้นเต็มพอร์ท 100% ตลอดเวลา พอร์ทค่อนข้างเล็กครับ เติมเงินเก็บจากเงินเดือนทุก ๆ เดือน อาจจะ 2-3 เดือนครั้งเพื่อเพียงพอกับค่าคอมขั้นต่ำ ที่ผ่านมาซื้อตลอด เคยขายหุ้นเพียงครั้งเดียวแถมขายหมูอีกต่างหาก  :lol: พอร์ทตอนนี้ยังเขียวจาง ๆ ถ้าตลาดปรับฐานก็ว่าจะเติม position อีกครับ stay calm and stay invest, invest in company you think you know all most of the underlying and purchase when you have a lot of margin of safety  :) โดย TPH จันทร์ ม.ค. 25, 2010 7:27 pm

นริศสอนน้อง ขอบคุณพี่นริศที่คอยมาตอบคำถามและแบ่งปันความรู้ ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่ถามคำถามดี ๆ  :) ผมเองยังเป็นมือใหม่ครับ การเดินทางในเส้นทางการลงทุนยังอ่อนนักประมาณ 2 ปีนิด ๆ แต่ก็โชคดีหรือเปล่าไม่แน่ใจที่ได้รู้จัก web tvi ก่อนที่จะเริ่มเปิดพอร์ท ไม่อย่างนั้นตอนนี้อาจจะเข็ดขยาดตลาดหุ้นไปอีกนาน :lol: อยากจะสอบถามพี่นริศว่าพี่มีมุมมองหรือวิธีสังเกตุ qualitative ของหุ้นแต่ละตัวยังไงบ้างครับ พี่มีหนังสือแนะนำบ้างหรือเปล่า และอีกข้อครับผมเห็นพี่ค่อนข้างจะลงทุนในหุ้น ipo ที่มีข้อมูลค่อนข้างจะน้อยสำหรับนักลงทุนรายย่อย พี่มีวิธีดูหุ้นพวกนี้ยังไงบ้าง จะเห็นได้จากการที่พี่ลงทุนใน HTECH, NBC,SIS เป็นต้น ขอบคุณมากครับ โดย TPH อาทิตย์ ม.ค. 24, 2010 5:50 pm