!! ดาวน์โหลดเอกสารที่แจกในงานสัมมนา Thaivi#2 ได้ที่นี่ !! ขอบคุณมากครับ   :bow: โดย palm_s5 พุธ พ.ค. 12, 2010 8:33 pm

รบกวนแจ้งขนาดเสื้อสำหรับงานสัมมนาใหญ่ Thaivi#2 ที่กระทู้นี้ 105. palm_s5 : M ชาย ครับ โดย palm_s5 อังคาร เม.ย. 27, 2010 11:07 am

รบกวนแจ้งขนาดเสื้อสำหรับงานสัมมนาใหญ่ Thaivi#2 ที่กระทู้นี้ palm_s5 : M ชายครัย โดย palm_s5 อังคาร เม.ย. 27, 2010 11:03 am

จานดำ จานแดง จานเหลือง จานส้ม ฯลฯ ^ ^ ที่ผ่านมา sat. tv ของแกรมมี่ยังอยู่ในช่วงทดลองออกอากาศอยู่เลยครับ  เค้าบอกว่าเรทค่าโฆษณาที่คิดอยู่ตอนนี้ยังถูกพอๆกับspotวิทยุเท่านั้นเองเพื่อเรียกลูกค้า   ทำให้รายได้ส่วนนี้ยังมีกะติ๊ดเดียว แต่ในอนาคตจะปรับเป็นเท่าไหร่  ยังไง  ผมเองก็รอดูอยู่เหมือนกันครับ  ตอนนี้เลยยังไม่มีหุ้น    (เห็นราคา NBC ของคุณ damiano แล้วอิจฉาจัง  :D ) ปีที่ผ่านมาแกรมมี่ลงทุนทำสตูดิโอใหม่รองรับsat.tvไประดับเก้าหลัก  แปลว่าเค้าคงคาดหวังอนาคตตรงนี้ไว้พอสมควร...(มั้ง) โดย palm_s5 ศุกร์ เม.ย. 02, 2010 11:37 am

จานดำ จานแดง จานเหลือง จานส้ม ฯลฯ ^ ^ เรื่องคุณภาพของช่องผมก็ไม่รู้ว่ามันดีจริงป่าว  เพราะผมเองก็ไม่ใช่แฟนครับ  :D แต่ผมแค่คิดนะครับว่า  สินค้าที่จับตลาดรากหญ้า+ตจว.เช่นเพลงลูกทุ่ง  ขนาดตลาดมันใหญ่มาก    อีกอย่าง...ผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังคงเสพงานจากold mediaในสัดส่วนค่อนข้างสูง ส่วนเรื่องของตัวcontentเอง  แกรมมีก็มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งทั้งเพลงลูกทุ่งและไม่ลูกทุ่ง    เมื่อมีmediaของตัวเองแล้ว  ในอนาคตการพึ่งพิง Free TV ในการโปรโมทก็คงจะน้อยลงด้วย โดย palm_s5 พฤหัสฯ. เม.ย. 01, 2010 4:32 pm

จานดำ จานแดง จานเหลือง จานส้ม ฯลฯ GRAMMY เห็นมีคนถามถึงช่อง ACTS Channel บ่อยๆ โฆษณาก็เยอะนะมีตลอด รายการก็เอาของเก่ามาไม่ต้องลงทุน ชอบ Grammy เหมือนกันครับ  ผมว่าเค้าได้ช่องทางเอาของเก่ามาหารายได้ใหม่ที่ดีเลย นอกจาก Acts อีกช่องที่ผมว่าศักยภาพสูงมากคือ FAN TV จำได้ว่า ตอนไป Company Visit     irเค้าคุยว่าเดี๋ยวนี้ Lifestyleของคนต่างจังหวัดที่เคยเปิดFMฟังเพลงลูกทุ่งขณะขายของหรือทำงานบ้าน  เริ่มเปลี่ยนมาเปิด FAN TV แทนละ โดย palm_s5 พุธ มี.ค. 31, 2010 3:56 pm

สัมนาใหญ่ไทยวีไอ เต็มแล้วครับ !!!!ไม่รับโอนเงินแล้วนะครับ โอนเงิน+PM ไปแล้วครับ ขอจอง1ที่   กลุ่มอสังหา.ครับ ขอบคุณมากครับ  :D โดย palm_s5 พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2010 4:23 pm

พบอีกหนึ่งสุดยอดVI กับ IH..คเชนทร์ moneytalkdaily พฤหัส24ธค ขอบคุณมากครับ  คุณsai  :D โดย palm_s5 ศุกร์ ธ.ค. 25, 2009 8:40 pm

TCCC ผมเคยขาดทุนกับตัวนี้เหมือนกันครับเมื่อปีที่แล้ว  :( จุดที่ควรระวังคือเรื่องสต็อคครับ  ผมคิดว่าทางบริษัทเก็งกำไรราคาวัตถุดิบเกินไป  ราคาขายปุ๋ยก็มักถูก.พานิชย์กดไว้ แถมบางที ชอบมี offerประหลาดๆโผล่มาทีละ 2 ล้านหุ้นอีก โดย palm_s5 เสาร์ ธ.ค. 19, 2009 6:58 pm

วิถีชีวิตวิธีลงทุนแบบวีไอ โดย โจ ลูกอิสาน....ที่ต้องอ่าน ขอบคุณมากครับ  :bow: โดย palm_s5 ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 8:52 pm

สติเป็นของสำคัญ http://www.design-emotion.com/2009/10/13/philips-design-and-abn-amro-team-up-to-create-an-emotion-mirroring-system-for-online-traders/ ^ ^ ตลาดผันผวนแบบนี้น่าซื้อไอ้ Rationalizerนี่มาใช้กันซักเครื่องนะครับ เผื่อจะช่วยเตือนสติ  มองเห็นอารมณ์ตัวเอง Desiger เค้าเข้าใจคิดดีแท้ ^^ โดย palm_s5 ศุกร์ ต.ค. 16, 2009 2:47 pm

New Bull Market confirmed !!!! http://www.cnbc.com/id/31706523 อีกหนึ่งมุมมองด้านลบครับ  จาก Nassim Taleb โดย palm_s5 จันทร์ ก.ค. 06, 2009 10:57 pm

LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ ^ ^ "Scientist do not yet completely understand how this behavior has continued over the century , when so many of the greedy แมงเม่าs die." โดย palm_s5 อาทิตย์ พ.ค. 24, 2009 11:53 pm

LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ http://www.youtube.com/watch?v=VWuiGWkd7mM พวกมากก็ลากกันไป  ...แต่จะไปถึงไหนกันนะ  :roll: โดย palm_s5 อาทิตย์ พ.ค. 24, 2009 11:31 pm

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป คุณฮงครับ เลข 1-5 ที่วงไว้ในตารางคืออะไรเหรอครับ :roll:   พยายามนึกตาม แต่ยังไม่ค่อยเก็ท โดย palm_s5 ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 11:07 pm

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป สรุปประเด็นคือ หนังสือเล่มนี้บอกเราว่า ในตลาดเก็งกำไร  ฝ่ายด้านที่ชนะจะคาดการณ์จิตวิทยาและความคิดของคนหมู่มากในตลาดว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่จะมีreaction(ด้วยการตัดสินใจโดยใช้ทฤษฎีต่างๆหรือการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต)ไปในทิศทางไหน  แล้วก็เข้าไปtake actionในทางตรงกันข้าม   หลังจากนั้นราคาซึ่งจะเคลื่อนไปในทิศทางที่คนหมู่มากขาดทุนนั้นจะไปชี้นำให้เกิดข่าวสารและเหตุผลต่างๆที่ทำให้คนหมู่มากเริ่มเปลี่ยนความคิดมาในทางตรงกันข้าม  เมื่อถึงจุดที่คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาคิดและทำไปในทิศทางเดียวกันหมด  ก็จะเกิดเป็นจุดวกกลับอีกรอบ วนเป็นLoopไปอย่างนี้เรื่อยๆ โดย palm_s5 ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:13 pm

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป 2.ราคาในตลาดเก็งกำไร จะเคลื่อนไปในทิศทางที่คนหมู่มากขาดทุน ในตลาดเก็งกำไร  แม้การตัดสินใจนั้นๆจะตั้งอยู่บนเหตุผลและการวิเคราะห์ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์หรือตรงตามpatternของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตทุกอย่าง  แต่ถ้าคนส่วนใหญ่คิดและทำไปในทิศทางเดียวกันหมด  ผล(ราคา)ก็จะออกมาในทิศทางตรงกันข้าม     ขอยกข้อความมาจากกระทู้ ข้อคิดจาก Sir John TempletonของคุณWEBนะครับ กระบวนการคัดเลือกหุ้นมีความซับซ้อน  นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่อาจลงมือทำแบบเดียวกับนักลงทุนคนอื่นๆได้  ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่การลงทุนมีความแตกต่างไปจากอาชีพอื่นๆ  ตัวอย่างเช่น  ถ้าหมอสิบคนให้ความเห็นเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรค  การปฏิบัติตามความเห็นส่วนใหญ่น่าจะให้ผลดี  หรือหากวิศวกรสิบคนเห็นชอบกับการออกแบบสะพาน  เราก็น่าจะสร้างสะพานตามแบบนั้น  ในทางตรงกันข้าม ถ้านักวิเคราะห์สิบคนบอกให้เราซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง การซื้อหุ้นตัวนั้นอาจจะเป็นความผิดพลาดได้.... โดย palm_s5 ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:09 pm

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป 1. ราคากำหนดสถานการณ์-ข่าวสาร ในหนังสือบอกว่าราคามักจะมาก่อนเหตุผลเสมอ  ที่เป็นเช่นนี้เพราะในแต่ละช่วงเวลามีข้อมูลข่าวสารทั้งด้านดีและไม่ดีเกิดขึ้นรอบตัวเรา  ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลงก็สามารถจะหาเหตุผลมาอธิบายได้เสมอแต่เรามักจะมองด้านนั้นก็ต่อเมื่อราคาเคลื่อนไปในทิศทางนั้นแล้ว  จึงมักจะเกิดเหตุการณ์ เหตุซ้ำแต่ผลไม่ซ้ำ นอกจากนี้ราคาที่ขึ้นหรือลงก็สามารถที่จะไปกำหนดให้เกิด สถานการณ์และเหตุผลที่สอดคล้องกับทิศทางของราคาได้ ในจุดนี้ผมคิดว่าค่อนข้างคล้ายกับแนวคิดของ Soros   ผมขอยกข้อความจากในหนังสือของเค้านะครับ The new paradigm I am proposing differs from the old one in two important respects. First, I contend that financial markets never reflect the underlying reality accurately; they always distort it in some way or another and the distortions find expression in market prices. Second, those distortions can, occasionally, find ways to affect the fundamentals that market prices are supposed to reflect โดย palm_s5 ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:07 pm

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป สรุปมาให้สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านนะครับ ทฤษฎีในหนังสือเล่มนี้กล่าวถึงตลาดเก็งกำไร (ตลาดหุ้น ,อัตราแลกเปลี่ยน, ตลาดโภคภัณฑ์, อสังหา)  ไว้หลักๆประมาณนี้ครับ 1. ราคากำหนดสถานการณ์-ข่าวสาร 2. ราคาในตลาดเก็งกำไร จะเคลื่อนไปในทิศทางที่คนหมู่มากขาดทุน โดย palm_s5 ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:04 pm

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป ขอบคุณคุณฮงด้วยนะครับ  เป็นกระทู้ที่ดีช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ  ที่discuss กันเรื่องการใช้การวิเคราห์เชิงมหภาคมาประยุกต์กับการลงทุน    ผมเองพึ่งได้ลองเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ไปเมื่อเทอมที่แล้ว  ส่วนตัวก็กำลังคลำหาทางประยุกต์มาใช้ในเรื่องของTimingในการลงทุนอยู่เหมือนกัน (ยากเหลือเกิน -_-) พอดีเมื่อเดือนก่อนผมได้อ่านบทความเรื่อง What good are Economist anyway? ของ Business week  ผมเลยชักเกิดความไม่มั่นในใจเศรษฐศาสตร์ขึ้นมา ประกอบกับไม่นานมานี้ผมพึ่งมีโอกาสได้อ่านหนังสือ เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง ของคุณพิชัย จาวลา เป็นหนังสือเก่าเมื่อปี 46  มุมมองในหนังสือค่อนข้างแตกต่างจากทั่วไปพอสมควร   เลยอยากถามเพื่อนๆในเวบที่เคยอ่านอ่านหนังสือเล่มนี้น่ะครับว่ามีความคิดเห็นยังไงกันบ้างกับทฤษฎีในหนังสือเล่มนี้ โดย palm_s5 ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:03 pm

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป " Foreign investors sold net 25 billion baht worth of shares on Dec. 19 , the most since at least Jan. 4, 1999, when Bloomberg started tracking the data. They were net sellers of 523 million baht worth of shares when the SET slumped 7.6 percent in the three trading days following bomb blasts in Bangkok on New Year's Eve that killed three people." โดย palm_s5 ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 12:12 am

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป ฝรั่ง net sell 25,000 ล้าน http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601109&sid=aa8brE0lh10w&refer=home สถาบัน net sell 3,000 ล้าน (อันนี้ไม่ค่อยชัวร์นะครับ แค่คุ้นๆว่าวันนั้นรายย่อยซื้อตั้ง28,000ล้านแน่ะ) โดย palm_s5 ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 12:02 am

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป พี่ว่าข้อจำกัดใหญ่ของ Top-down เลยก็คือ... มันยากเกินไปครับ ข้อมูลมันมีอยู่ไม่จำกัด แล้วแต่จะหยิบยกตัวไหนมาพูด... เห็นด้วยกับพี่ picatos บอกนะว่า การวิเคราะห์สิ่งที่ผ่านมาแล้วนั้นง่าย เพราะข้อมูลมีเต็มไปหมด.. ถ้าหุ้นลงก็หาข้อมูลแย่ๆมาใส่ หุ้นขึ้นก็หาข้อมูลดีๆมาใส่ แต่การวิเคราะห์อนาคตนี่แบบ Top-down นี่แหละที่ยาก แต่ถามว่าไม่มีประโยชน์รึเปล่า.. ก็เปล่าครับ.. มีประโยชน์แน่ๆสำหรับคนที่หยิบมาใช้ได้เป็น ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ที่ผมใช้อยู่นั้นมัน เป็นแนวไหนกันแน่ เคยคิดว่าตัวเองใช้ bottom up แต่หลายๆครั้งเราก็ยกเอา Top-down มาใช้ .. เพียงแต่การใช้ Top-down ของผมนี่เอามาวิเคราะห์พื้นฐานธุรกิจมากกว่าที่จะเอามาวิเคราะห์ Fund Flow นอกจากเรื่องข้อมูลที่มีอยู่ไม่จำกัดแล้ว  Reactionของตลาดต่อข้อมูลนั้นๆก็อาจจะไม่เกิดซ้ำแบบเดิมก็ได้นะครับ  ถึงแม้จะเป็นเหตการณ์ลักษณะเดียวกัน  การคาดเดาความคิดของmassที่มีต่อข้อมูลก็เป็นอีกประเด็นที่ค่อนข้างยากนะครับหากจะวิเคราะห์อนาคต :roll: โดย palm_s5 จันทร์ พ.ค. 11, 2009 9:49 pm

หุ้น ขึ้นหิ้ง TCB  24.50 คับ   ตัวนี้เยอะสุดในพอร์ทด้วย (-_-)" โดย palm_s5 จันทร์ ต.ค. 27, 2008 7:42 pm

ธุรกิจของ AMD กับ inTel ในหนังสือ Value Investing หลักสูตรมหาลัยโคลัมเบีย ที่คุณพรชัยแปลไว้ มีบทที่พูดถึง2บริษัทนี้อยู่ครับ  อธิบายละเอียดดี  แต่ข้อมูลอาจเก่าไปหน่อยนะครับ ตลาดหลักในตอนนั้นคงมีแต่พวกPC  เรื่องส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบันคงจะแตกต่างไปจากตอนนั้นแล้ว โดย palm_s5 อาทิตย์ ต.ค. 05, 2008 3:18 pm

ขอประเดิมpostแรกครับ ขอตอบตามความเห็นของผมนะครับ   ผมคิดว่า ... บ้าน ก็คือ บ้าน น้ำมัน ก็คือ น้ำมัน ทอง ก็คือ ทอง หุ้น(กิจการ) ก็คือ หุ้น โดยที่มีมนุษย์เป็นผู้ประเมินราคาให้กับสิ่งเหล่านี้ แต่ที่ผ่านมามันมีการสร้างภาพลวงตาของมูลค่า(ราคา)ของสินทรัพย์ต่างๆขึ้นมา  โดยที่มูลค่าที่สิ่งเหล่านี้ถูกประเมินมันอาจจะไม่สมดุลกับสภาพความเป็นจริงของปริมาณเงินในระบบที่จะสามารถรองรับได้   ถึงตอนนี้เมื่อทุกคนเริ่มตระหนักว่ามันไม่เหมาะสม   ก็เลยมีการประเมินมูลค่าที่ว่าขึ้นมาใหม่ให้ต่ำลง  และมันคงจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อราคาและมูลค่าที่แท้จริงเข้าสู่จุดสมดุล   (ผมชอบความเห็นของคุณ  iron_bridge เหมือนกันครับ  อยากรู้เหมือนกันว่าช่วยปั๊มกันขนาดนี้แล้วสุดท้ายลูกโป่งจะเหลือลูกแค่ไหน) เงินหายไปไหน ? ผมว่า... เงินมันไม่ได้หายไปไหนมั้งครับ  แต่สิ่งที่หายไปมันคงจะเป็นแค่ภาพลวงตาของมูลค่า(ที่ถูกประเมินไว้สูงจนเกินไป)   ใครเป็นคนได้กำไร เงิน รอบนี้ไปเยอะๆ ? ใน "รอบนี้"  คนที่ได้กำไรไปเยอะๆคงเป็นคนที่รู้ตัวก่อนคนอื่นแล้วออกจากวงจรนี้ไปก่อนที่มันจะแตก  (เพราะคนที่อยู่จนมันแตกคงขาดทุนหมดเนอะ  ไม่ว่าจะลงทุนในอะไร  :cry:  รวมถึงตัวผมด้วย) แต่ "รอบหน้า" หวังว่าจะเป็นชาวVIในที่นี้ทุกๆคนนะครับ(รวมผมด้วย :D)   ที่จะได้กำไรจากการประเมินมูลค่าที่ผิดอีกแล้ว(ประเมินไว้ต่ำเกินไป :roll: )ของคนส่วนมากในตอนนี้ โดย palm_s5 พฤหัสฯ. ต.ค. 02, 2008 1:39 am