หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Chachacha
เดี๋ยวเจอกัน
Joined: พุธ มี.ค. 17, 2004 9:33 am
68
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Chachacha
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
ค่ากับข้าว...
ผมได้แค่ 2,700 ก็คงแค่ค่าน้ำชาล่ะสิ :cry:
โดย
Chachacha
พุธ ก.ย. 01, 2004 6:29 am
0
0
ถ้าคุณแต่งหนังสือหุ้น 1 เล่ม
กลยุทธ์จับหมูเข้าเล้า สำหรับมือใหญ่หัดเทรด ครับ น่าจะขายได้ดี
โดย
Chachacha
จันทร์ ส.ค. 16, 2004 1:57 am
0
0
ผมคิดว่า RATCH ไม่น่าจะเติบโตมากกว่านี้แล้ว
ถ้าไม่อยากถือยาวผมคิดว่าควรเก็บ RATCH ไว้จนถึงปีหน้าครับ แต่เรื่องการเจริญเติบโตนั้น จริงอยู่ที่กำลังการผลิตใช้เกือบเต็มที่แล้ว แต่ว่าการคำนวณรายได้ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่ค่าที่ใช้นั้น เป็นค่าที่มีการเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งน่าจะช่วยให้ RATCH มีกำไรเพิ่มขึ้นได้ เรื่อย ๆ แต่ไม่แรง ก็แล้วแต่คนตัดสินใจครับ เพราะเนื่องจาก PPA ของ RATCH เป็นสัญญาที่ยังอยู่ในระยะยาว ถือว่าเป็นหุ้นที่ปลอดภัยมากตัวหนึ่ง อย่างว่า ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนก็ไม่มากครับ คิดจะถือก็ต้องศึกษาแล้วทำใจกันหน่อยกับตัวนี้
โดย
Chachacha
พฤหัสฯ. ก.ค. 29, 2004 5:12 pm
0
0
ขายหุ้นไม่ถึง100หุ้นผ่านบัญชีทางอินเตอร์เน็ต ทำยังงัยครับ
ได้ครับ แต่ต้องตั้งราคาต่ำกว่าปกติเยอะหน่อย เพื่อให้มีคนซื้อครับ ผมเคยแล้ว ขาย apc-w1 50 หุ้น :lol:
โดย
Chachacha
เสาร์ ก.ค. 24, 2004 5:55 am
0
0
สำหรับคนถือยาวเท่านั้น: อยากให้หุ้นตัวไหน ลดราคากันมั่งครับ
ไม่เอามาก ขอ RATCH ที่ 30 ได้มั๊ยครับ
โดย
Chachacha
อาทิตย์ ก.ค. 18, 2004 8:21 am
0
0
ใกล้จะปิดงวดครึ่งปีแล้ว ผลการดำเนินงานของแต่ละคนเป็นอย่างไร
ของผมติดลบ 4.67% ล่ะครับ
โดย
Chachacha
พุธ มิ.ย. 16, 2004 11:41 am
0
0
ขอความเห็น minor & wg
สำหรับผมรู้สึกไม่ดีกับ WG ตรงที่มีเงินเยอะเกินไปนี่แหละครับ จะว่าปลอดภัยดี ก็ดี แต่รู้สึกเหมือนเสียโอกาสที่น่าจะมีการเจริญเติบโตอย่างน้อย 10-15% ต่อปีนี่แหละครับ (ถึงแม้ว่ามีแนวโน้มจะทำได้ แต่มันรู้สึกตะหงิด ๆ ไงก็ไม่รู้ครับ) แต่ยังไงก็เตรียมเก็บแน่ๆ แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีเงิน :(
โดย
Chachacha
จันทร์ มิ.ย. 14, 2004 9:05 am
0
0
Re: ทำงานประจำ กับการลงทุนในตลาดหุ้น
เข้าตลาดตอน 300-400 จุด จนปัจจุบัน พอร์ตหร่อยหรอ ยังดีที่มีเงินเดือนมาช่วยเสริม แค่ 2 เหตุผลนี้ก็มากพอที่จะไม่ควรลาออกจากงานแล้วครับ ไม่คุ้มอย่างยิ่งครับ 1. คุณเข้าตั้งแต่ 300 แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำกำไรได้ 2. พอร์ตคุณร่อยหรอ ต้องพึ่งเงินเดือนเข้าช่วย ศึกษาให้มากกว่านี้ครับ ไม่มีคำว่าสายสำหรับตลาดหุ้น ถ้ากลัวสาย ระวังจะเสียครับ
โดย
Chachacha
จันทร์ มิ.ย. 07, 2004 10:25 am
0
0
เปลี่ยนเป็น egcomp แล้วครับพี่ๆ
ฝากถามด้วยครับว่า "รายรับค่าความพร้อมจ่ายที่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นตามสัญญา PPA ได้เป็นไปตามที่ประมาณการณ์ไว้" นะครับ หมายความว่าอย่างไร แล้วประมาณไว้ว่าอย่างไร เพราะเห็นรายงานกี่ที ๆ ก็บอกแค่นี้ เลยไม่รู้เลยว่าประมาณอย่างไร :lol:
โดย
Chachacha
อาทิตย์ มิ.ย. 06, 2004 5:06 am
0
0
ลองทายซิว่าราคาหุ้น เบริกไชร์ ของอาจารย์บัฟเฟตมีราคาเท่าไร
ไม่ทราบครับ :cry:
โดย
Chachacha
พฤหัสฯ. มิ.ย. 03, 2004 12:04 pm
0
0
ขอเช็คชื่อสมาชิกกล่มสีขาวหน่อยครับ
กำลังจะมีได้เปล่าครับ คือว่ารอทุนอยู่ ใกล้แล้ว ๆ :wink:
โดย
Chachacha
ศุกร์ พ.ค. 21, 2004 8:23 am
0
0
ดัชนี 555.5 ความจริงอาจเกิดขึ้น
ฝรั่งเค้าไม่คิดอย่างนั้นนะสิครับ คนไทย 555.55 = ฮ่า ๆ ๆ จุด ฮ่า ๆ (มีความสุข หรือ หุ้นตกจนเพี้ยน) ฝรั่ง 555.55 = ไฟว์ ไฟว์ ไฟว์ ดอท ไฟว์ ไฟว์ ??? (เล่นมันเลย เผาแมงเม่าให้ตาย)
โดย
Chachacha
จันทร์ พ.ค. 17, 2004 4:32 pm
0
0
หุ้นที่ลงทุนแบบ VI มาปีเศษ แต่ตอนนี้ขาดทุนแล้ว !!!
หุ้น VI ไม่ใช่ว่าจะเป็นหุ้นที่ดีได้ตลอดไปนะครับ เมื่อถึงเวลาที่สมควร หรือราคาที่สำควร มันก็กลายเป็นหุ้นไม่ดีพอ และควรจะรีบเอาออกจากพอร์ต ได้เหมือนกัน และที่น่าจะสำคัญกว่านั้น ไม่ว่าหุ้นจะดีไม่ดี หรือต่อให้ดีขนาดไหน เราก็ไม่มีทางรู้ครับว่า คนที่ถือหุ้นเดียวกับที่เราถือ หุ้นที่เราคิดว่าราคาถูกมาก ดีมาก ๆ คนกลุ่มนั้นจะคิดเหมือนกันกับเราหรือเปล่า เรื่องพวกนี้ก็เป็นความเสี่ยงระดับหนึ่งครับ แต่ส่วนตัวผมคิดว่า หุ้นใด ๆ ถ้าผมเลือกที่จะซื้อเข้าพอร์ตแล้ว ผมกำลังพยายามคิดว่า การที่หุ้นราคาตก คือโอกาสครับ (ในเงื่อนไขที่ การตกของราคาไม่ได้เกิดจากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ) และถ้าผมไม่รีบที่จะต้องใช้เงินที่นำไปซื้อหุ้นนั้นในเร็ว ๆ นี้ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลกับการผันผวนของราคาหุ้นครับ ไม่ได้หมายความว่าผมทำได้แล้วนะ แต่กำลังฝึกใจอยู่ครับ
โดย
Chachacha
จันทร์ พ.ค. 17, 2004 4:21 pm
0
0
อยากรู้จังว่า ดัชนี ลงจาก 790 มา 580 นี่
แหม ผมอยากรู้ว่าหุ้นดีตัวไหนที่ราคาลงมาน่าสนใจมากกว่าครับ Q1-47 ดุเดือดไม่แพ้ Q4-46 เลย
โดย
Chachacha
จันทร์ พ.ค. 17, 2004 4:19 pm
0
0
ถ้าระยะฟักตัวของตลาดนานถึง
ผมว่าโอกาสมาแล้ว
โดย
Chachacha
จันทร์ พ.ค. 17, 2004 12:58 pm
0
0
ตลาดหุ้นคงที่ไม่ลงไม่ขึ้น vi ได้ประโยชน์กว่าหรือเปล่าคับ
ผมคิดว่า vi ไม่ได้จำเป็นจะต้องซื้อหุ้นปันผล หรือซื้อแล้วถือยาวนะครับ น่าจะแล้วแต่ว่าแต่ละคนคิดอย่างไรมากกว่า หลัก ๆ ก็คือ ทำไงก็ได้ให้ได้ผลตอบแทนเยอะและความเสี่ยงน้อย มั๊ง
โดย
Chachacha
อาทิตย์ พ.ค. 16, 2004 11:03 am
0
0
ถามพี่เจ๋งหน่อยครับQ1egcomp น่าจะเป็นเท่าไหร่ครับ
รายจ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้นน่าจะเป็นการประเมินมูลค่าหุ้นลดลงในตลาดที่ EGCOMP ถืออยู่มากกว่าครับ (ลดลงจาก 31 ธันวาคม 46) แต่ไม่ยืนยันนะ เพราะไม่แน่ใจเหมือนกัน หรือไม่ก็ตาม Research ของ Kimeng ที่บอกว่าตั้งสำรองของ แก่งคอย 2 ไว้ 500Mil.B. ผมเข้าใจว่า egcomp ตั้งไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2546 นะครับ =) งั้นคงเป็นอย่างแรกมั๊งครับ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่รู้แล้ว แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นรายจ่ายหลัก ๆ นะ เพราะมันพุ่งสูงเกินไป
โดย
Chachacha
อาทิตย์ พ.ค. 16, 2004 1:32 am
0
0
เอามาอวดกันหน่อย หุ้นโปรดของใครทำงานได้ดีสมใจบ้าง
RATCH กับ EGCOMP ทำงานได้ตามเป้าหมายครับ :)
โดย
Chachacha
อาทิตย์ พ.ค. 16, 2004 1:29 am
0
0
ทำไมปันผลบางบริษัทไม่ถูกหักภาษี
ได้ BOI หรือเปล่าครับ แหม ไม่หักภาษีเนี่ยน่าจะเป็นข่าวดีมากกว่านะครับ ถ้าอยากได้ที่โดนภาษีเยอะ ๆ ทำไมไม่เลือก PTTEP ไปซะเลย 50%
โดย
Chachacha
เสาร์ พ.ค. 15, 2004 2:17 pm
0
0
ถามพี่เจ๋งหน่อยครับQ1egcomp น่าจะเป็นเท่าไหร่ครับ
รายได้เพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแรงกว่ามากครับ ถ้าผมเข้าใจถูก รายจ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้นน่าจะเป็นการประเมินมูลค่าหุ้นลดลงในตลาดที่ EGCOMP ถืออยู่มากกว่าครับ (ลดลงจาก 31 ธันวาคม 46) แต่ไม่ยืนยันนะ เพราะไม่แน่ใจเหมือนกัน หรือไม่ก็ตาม Research ของ Kimeng ที่บอกว่าตั้งสำรองของ แก่งคอย 2 ไว้ 500Mil.B. ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า ก็ลองหา ๆ กันเองนะครับ ไม่รู้ก็ควรขาย สรรพากรกำลังคำณวนภาษี ที่เบี้ยวมาเป็น 10 ปี ทั้งปีผลประกอบการจะลดลงจากปีที่แล้วถึง 20% ระวังโดนหลอกไปรับของแพง เห็นด้วยครับ ถ้าไม่แน่ใจ หรือมีตัวอื่นที่ผลตอบแทนที่ดีกว่า ควรจะย้ายครับ เพราะ EGCOMP ตอนนี้มีปัญหาอยู่ 2-3 อย่างที่ยังไม่กระจ่าง เช่น ปัญหาใหญ่อย่าง กรณี VAT หรือความสามารถในการทำกำไรที่มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากรายได้หลักจะต้องเริ่มเสียภาษี 15% แต่การที่ผลประกอบการปี 47 น่าจะลดลง 20% เป็นตัวเลขที่น่าจะมีการประเมินกันไว้แล้ว และยอมรับได้สำหรับราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมันครับ ส่วนเรื่องภาษีเงินได้ เคยพูดไปแล้วครับว่า ตอนนี้ REGCO ซึ่งเป็นรายได้ที่ใหญ่สุดของ EGCOMP เริ่มเสียภาษี 15% แล้ว เห็นได้จากรายจ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้นกว่า 120 ล้านบาท (รวม) และ กันยา 47 นี้ KEGCO ก็จะเริ่มเสียแล้วเหมือนกันครับ แต่สองจุดนี้อาจจะสามารถชดเชยได้ด้วยการเริ่มรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น และรายจ่ายที่น้อยลงของโครงการลงทุนอื่น ยังไงซะ เกรแฮมบอกไว้ว่า จะเลือกหุ้น ควรจะดูเอง ดังนั้น ข้อมูลนอกเหนือจากนี้ก็ไปค้นเอาในงบการเงินกันเอาเองละกันนะครับ และเช่นเคย ผมขออภัยถ้าข้อมูลบางส่วนผิด แต่ไม่รับผิดชอบในกรณีซื้อแล้วติดดอยนะครับ :lol: :lol:
โดย
Chachacha
เสาร์ พ.ค. 15, 2004 2:11 pm
0
0
ได้เช็คปันผลwg แล้วคับ ลงวันที่20/5/2547
แหม ขนาด WG ยังไม่มีสภาพคล่องเนีย น่าอิจฉาจังเลยนะครับ ที่ทุนมากขนาดนั้น ส่วนตัวผม เงินทั้งพอร์ตยังมีไม่พอจะซื้อ WG ข้าม Spread ได้เลย :cry:
โดย
Chachacha
พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2004 7:39 pm
0
0
เงิน 10,000 บาท กับ internet trading ????
ถ้ามีหมื่นนึงอย่าเล่นดีกว่าครับ ในแง่ของการหวังผลกำไรระยะสั้นนะ เพราะว่าได้ไม่คุ้มเสียครับ ถึงแม้ว่า จะได้ return ถึง 20% ต่อปี ซึ่งถือว่ามาก ก็ยังแค่ 2,000 บาท เทียบกับเวลาที่เสียไปในการติดตามหุ้น รวมถึงอื่น ๆ แล้ว ไม่คุ้มอย่างยิ่งครับ แม้ว่ามี 100,000 ผมยังมองว่า return 20,000 ต่อปีนั้น (มากแล้วนะ) ยังไม่คุ้มค่าเหนี่อยเลย สู้เอาเวลาที่เสียให้หุ้น ไปทุ่มให้กับการทำงานดีกว่าครับ เว้นเสียแต่ว่าต้องการหาความรู้ เป็นเกณฑ์หลักเผื่อภายภาคหน้ามีเงินลงทุนเยอะกว่านี้ ก็อีกเรื่องหนึ่งครับ แต่ตลาดหุ้น ไม่มีคำว่าสายสำหรับการลงทุน แต่มีคำว่าเสีย รอคนที่ใจร้อน อยู่ตลอดเวลาครับ
โดย
Chachacha
พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2004 7:34 pm
0
0
ควรลงทุนตัวไหนดีสำหรับคนเงินทุนน้อย
ตัวไหนก็เหมือนกันครับ ถ้าคุณไม่มีเงินพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสิทธิที่ประชุมได้มากพอ เพราะยังไงก็ต้องตามตลาดอยู่แล้วว่าหุ้นเราเค้าจะเอาขึ้นเอาลง หุ้นดีก็ลงได้ หุ้นห่วยก็ขี้นได้ มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่ถ้าอยากจะถือยาวจริง ๆ ก็ควรทำการศึกษาให้ดีครับ โดยมีปัจจัยหลัก ๆ นิดหน่อยคือ 1. มีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 2. ราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีไม่สูงเกินไป (ไม่ควรเกิน 2 มากสุดไม่เกิน 3) 3. ความสามารถในการแย่งชิงตลาดสูง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (ถ้าสูง แล้วมีแนวโน้มลดลง ก็แสดงว่าคุณมีแนวโน้มได้ บ้านบนดอยครับ) 4. อย่าซื้อหุ้นเพราะคนอื่นบอกว่าดี ควรศึกษาเองให้เข้าใจ หรือ อย่าซื้อเพราะทนไม่ได้ที่เห็นหุ้นขึ้นไม่หยุด ทั้งนี้และทั้งนั้น อย่าลืมเหลือเงินติดพอร์ต 30% เพื่อความสบายใจ เงินในตลาด 100 บาท กับ 1,000,000 บาท ต่างกันตรงเลข 0 สี่ตัวครับ แต่ 1,000,000 กับ 10,000,000,000 ต่างกันตรง อำนาจในการบริหารและตัดสินใจด้วย
โดย
Chachacha
พุธ พ.ค. 12, 2004 1:42 pm
0
0
ตามความคิดของ VI ท่านคิดว่าการลงของหุ้นในเวลานี้ ......
VI ทั้งหลายแหล่สงสัยกำลังทำงานหาเงินมาซื้อของถูกต่อ ตอนนี้เลยไม่ค่อยเห็นกันเท่าไหร่
โดย
Chachacha
จันทร์ พ.ค. 10, 2004 3:48 pm
0
0
สมมติ นะครับ สมมติ....
ผมขอ RATCH
โดย
Chachacha
เสาร์ พ.ค. 08, 2004 6:18 pm
0
0
ทำไม EGCOMP กับ RATCH ลงสวนตลาดครับ
ก่อนจะซื้อทุกครั้งควรจะคิดให้หนักก่อนครับ ว่า พอใจผลประกอบการและ return ณ ราคานั้น ๆ หรือเปล่า เพื่อที่ว่าเวลาซื้อแล้ว จะได้ไม่มาต้องนั่งกุมขมับเตรียม cutloss ครับ แถมยิ่งถ้าราคาลง ก็ได้ของที่ถูกลงในคุณภาพเท่าเดิมอีก แต่ยังไงก็ไม่ควรทุ่มหมดหน้าตักครับ ควรจะเหลือเงินติดไว้ตลอดอย่างน้อย 33% นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผมครับ
โดย
Chachacha
เสาร์ พ.ค. 08, 2004 2:43 am
0
0
ทำไม EGCOMP กับ RATCH ลงสวนตลาดครับ
อย่าคิดมากเลยครับ ลงแค่ 1 บาท กับ 25 สตางค์ คิดซะว่าวันก่อนมันก็ขึ้นสวนตลาดเหมือนกันครับ คิดซะว่าได้หุ้นราคาถูกลงครับ เว้นแต่หมดกระสุนแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ดี หุ้นมันก็ต้องวิ่งไปที่มูลค่าที่สมควรอยู่แล้วครับ
โดย
Chachacha
เสาร์ พ.ค. 08, 2004 12:57 am
0
0
อยากทราบว่าบริษัทไหนมี net profit margin สูงที่สุดในตลาด
psl 38.51 % TTA 29.14 ที่น่าแปลกคือ ratch 15.15 % ??? ตรงนี้เป็นข้อต่างของ RATCH กับ EGCOMP ครับ พี่เจ๋ง เพราะถ้าดูจากรายได้ทั้งค่าความพร้อม และค่าพลังงานแล้ว ok ว่า EGCOMP 32% แต่ RATCH 15% แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า EGCOMP รายได้ IPP เกือบทั้งหมดน่าจะมาจากค่า AP เท่านั้น แต่ RATCH จะมาจากค่า พลังงานด้วย ซึ่ง profit margin ต่ำมาก ๆ (EGCOMP ไม่มีส่วนนี้ เพราะค่าเชื้อเพลิง EGAT เป็นผู้รับผิดชอบ) สรุปง่าย ๆ ก็คือ ตามความเข้าใจผม ถ้า RATCH คิด Profit Margin เหมือน EGCOMP, RATCH จะมี PM อยู่ที่ประมาณ เกือบ 40-50% ครับ ไม่ใช่ 15% แต่เสียตรงที่ RATCH มีกำลังผลิตติดตั้งเยอะกว่า แต่รายได้ค่า AP ไม่ได้มากไปกว่า EGCOMP เท่าไหร่เลยครับ แต่ข้อได้เปรียบของ RATCH ที่เหนือ EGCOMP ก็คือ กำไรต่อหุ้น ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ EGCOMP อาจทำได้ที่สุดแค่เสมอตัวครับ (อย่างน้อยก็หายไปเยอะจากภาษี 15%) อันนี้ไม่ได้มองในแง่ของราคา ณ ปัจจุบันนะครับ บางที ข้อมูลพวกนี้ก็บอกความจริง แต่ไม่ได้บอกหมดเท่านั้นเองครับ
โดย
Chachacha
พฤหัสฯ. พ.ค. 06, 2004 11:27 am
0
0
หนี้สินในงบการเงินของ EGCOMP จาก settrade โกหกหรือครับ
จริง ๆ แล้วไม่เยอะเลยนะครับ กับหนี้แค่นี้
โดย
Chachacha
อังคาร พ.ค. 04, 2004 1:02 pm
0
0
การไหลลงของราคา เกิดจากเงินของรายใหญ่ หรือรายย่อย
ผมว่านี่แหละคือผลเสียของการ cut loss โดยเฉพาะคนที่เล่นแบบเก็งกำไร ส่วนสำหรับ VI ในความคิดผม ไม่น่าจะมีคำว่า cut loss อยู่ เพราะว่า VI ไม่น่าจะขายหุ้นเมื่อราคาตกเพราะข่าวร้ายภายนอก น่าจะมีแต่เก็บเพิ่มด้วยซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าดันไปซื้อเอาตัวที่ไม่ควรจะซื้อเท่านั้นเอง หรือใจไม่แข็งพอ กอปรกับสายป่านสั้น ทำนองนี้ :lol: ส่วนเรื่องสภาพคล่องมันก็มีทั้งดีและเสียนะครับ บางทีหุ้นขึ้นสามสี่ร้อยจุด พี่แกขึ้นกะเค้าแค่ 5% อย่างเนี้ย :cry: ชาวบ้านเค้าขึ้นกัน 100-200% อย่างนี้มันก็เสียโอกาสเหมือนกัน
โดย
Chachacha
ศุกร์ เม.ย. 30, 2004 1:29 pm
0
0
ข้อดีของหุ้น VI ตอนตลาดติดลบ
เห็นด้วยว่าไม่ค่อยลง แต่ไม่เห็นด้วยว่าเป็นข้อดีครับ :( มันแล้วแต่ว่าคนคิดยังพอมีก๊อกสองเหลือหรือเปล่ามากกว่านะครับ :lol:
โดย
Chachacha
ศุกร์ เม.ย. 30, 2004 1:22 pm
0
0
อนาคตกับธรกิจจ่ายไฟฟ้า
รถยนต์ โรงไฟฟ้า เครื่องบิน เค้ายังใช้กันเป็นสิบปี ถ้าไม่กะลงทุนระยะยาวมาก (มากกว่าร้อยปี) ผมว่ายังไม่ต้องคิดเรื่องนี้หรอกครับ :)
โดย
Chachacha
พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2004 10:29 am
0
0
ข่าวล่าสุด EGCOMP
ถ้าเป็นจริงผมคงต้อง ทุบกระปุก ขายบ้าน และก็ RATCH มาเฉลี่ยซื้อแล้วล่ะ เพราะติดอยู่สูงมากเลย :?
โดย
Chachacha
จันทร์ เม.ย. 26, 2004 8:22 am
0
0
การหามูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐาน
ผมเคยอ่านหนังสือของ Buffet หรืออ่านที่นี่แหละ จำไม่ได้ เค้าบอกไว้น่าสนใจ ส่วนตัวผมเลยให้การเทคนิคประมาณมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานของกิจการไว้ที่ 2 จุดครับ คือ (ความคิดเห็นส่วนตัว) 1. ราคาแนวรับ - ผมจะใช้มูลค่าของส่วนของผู้ถือหุ้นกิจการจริง ๆ หรือถ้ากิจการไหนดีมีกำไรเรื่อย ๆ ผมจะให้ P/E แค่ไม่เกิน 6 หรือ BV เป็นจุดรับ เสมือนว่า ถ้าหุ้นตกมาในราคานี้แล้ว ผมสามารถซื้อทั้งบริษัท แล้วสามารถขายทรัพย์สินทุกอย่างออกตลาดได้ในราคาที่มากกว่า (ก็ต้องมีความรู้เรื่องการดูงบดุลและต้องทราบรูปแบบการลงบัญชีของบริษัทด้วยครับ) 2. ราคาเป้าหมาย - ผมเคยอ่านว่า มูลค่าของบริษัทสามารถดูได้จาก "ถ้าเราต้องการทราบมูลค่าของบริษัท A ณ เวลา B ให้ดูว่า จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ในเวลา B ถึงจะสามารถสร้างกิจการให้มีทุกอย่างเหมือนกับ A ได้ทัดเทียมกัน" นี่แหละคือมูลค่าของ A ที่เป็นเป้าหมายของผม เช่น ผมถือ EGCOMP ผมคาดว่า ทึ่ราคา BV=49 คือจุดที่ไม่น่าจะลงไปถึง ดังนั้น ถ้าหุ้นลงมาถึงจุดนี้ ผมก็จะไม่ขาย แต่จะซื้ออีกให้มากเท่าที่จะมากได้ ตราบใดที่ความสามารถในการทำกำไรของกิจการยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เช่นเดียวกัน จากข้อมูลบางแหล่งบอกว่า ถ้าจะลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ต้องลงทุนประมาณ 6-7แสน USD ต่อ MW ก็เทียบกับ EGCOMP ที่ราคาประมาณ 90-100 บาท ดังนั้น ถ้า EGCOMP ขึ้นมาถึงที่ราคานี้ ผมก็ต้องคิดถึงเรื่องการขายออก แล้วหาตัวอื่นที่ undervalue กว่า EGCOMP มาเป็นตัวแทน นี่แหละครับ วิธีหามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานแบบผม มีแนวรับแนวต้านด้วย :)
โดย
Chachacha
ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 10:21 pm
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
Kimeng ออก Research มาทั้ง EGCOMP กับ RATCH ไล่เลี่ยกันเลย แต่ไม่มีซื้อซักอันแค่ถือกับทยอยสะสม :? ลองไปอ่านกันดูครับ ตัดสินใจกันตามใจชอบ ส่วนผมตัดไปแล้วว่า เอามันทั้งสองอันเลย EGCOMP - 30% RATCH - 30% CASH - 30% 10% - เผื่อเอาไว้ให้ตื่นเต้น :lol: แต่ว่าต้นทุนรู้สึกว่าจะสูงกว่าราคาตลาดหน่อย ๆ แฮะ :lol:
โดย
Chachacha
ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 2:04 pm
0
0
รบกวนขอคำแนะนำจากทุกท่านด้วยครับ
พอร์ตคุณรู้สึกว่าอาการโคม่าแล้ว อาจจะต้องกระตุ้นด้วยไฟฟ้า EGCOMP 8)
โดย
Chachacha
ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 8:06 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
ประมาณการรายได้ของ egcomp ในโรงไฟฟ้าขนอมและระยองครับ เป็นพาราโบลาครับ จะมีรายได้สูงสุดในปี 2006 ครับ ส่วนปี 2004 2005 รายได้จะใกล้เคียงกับปี 2003 ครับ ส่วนปี 2007 รายได้จะตกลงประมาณ 25 % จากปี 2006 ครับ จากประมาณการของบริษัทครับ ไม่รวมโรงอื่นและรายได้จากโรงอื่นนะครับ ค่อนข้างตรงนะครับ ดูจากปี 1998 เป็นต้นมาประมาณการใกล้เคียงตลอดครับ ลองดูกันแล้วกันนะครับ เป็นการคาดการณ์ของคุณ yoyosun เองหรือว่าได้ข้อมูลมาจากที่ไหนครับ ถ้านำมาจากที่อื่นบอกแหล่งให้ด้วยได้เปล่า ขอบคุณมากครับ ขอเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ อันนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว คือผมลองศึกษาเทคนิคดูบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าใครคิดอยากจะได้ EGCOMP แต่ยังไม่กล้าซื้อ กลัวอยู่บนตีนเขา ( 71 คงไม่ใช่ยอดดอย ) ตามเทคนิคผม (ย้ำว่าของผม) แนะนำให้รอแถว ๆ 68-69 ถ้ามันจะลงไปนะครับ แต่ถ้าไม่ลงตัดสินใจเอาตามสบายเลยครับว่าอยากเป็นเจ้าของที่ราคาไหน อ้อ! แต่ถ้าลงมากกว่านั้น ผมไม่รับผิดชอบนะครับ :lol: แล้วอีกอย่างหนึ่งครับ EAAPinm = {DFCin x FXnm/28 x Xin/100} + DFCin x (1-Xin/100) + EFCin+ IRCin +SBCin +{MMPCin x FXnm/28} x (MUVn-2 /MUV base ) + (MMSCin + OMCi1 + GACi1) x (TCPI n-2/TCPIbase) จากสูตรค่า EAAP ที่น่าจะเป็น main หลักของรายได้น่ะครับ ผมขอย่อคร่าว ๆ ให้ดูง่าย ๆ ว่าอย่างนี้ครับ EAAP = ค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงิน+ผลตอบแทนเงินลงทุน 19%+ ค่าเบี้ยประกัน+ค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อมผลิตไป+ค่าอะไหล่โดยอ้างอิงกับดัชนีราคาผู้ผลิต+ค่าแรงและค่าบริหารอ้างอิงกับดัชนีราคาผู้บริโภค พอจะง่ายขึ้นเปล่าครับ
โดย
Chachacha
พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 9:36 am
0
0
Oh!!!! พระเจ้า tr , egcomp เกิดอะไรขึ้น
จะมีรายได้สูงสุดในปี 2006 ครับ ส่วนปี 2004 2005 รายได้จะใกล้เคียงกับปี 2003 ครับ ส่วนปี 2007 รายได้จะตกลงประมาณ 25 % จากปี 2006 เป็นการคาดการณ์ของคุณ yoyosun เองหรือว่าได้ข้อมูลมาจากที่ไหนครับ ถ้านำมาจากที่อื่นบอกแหล่งให้ด้วยได้เปล่า ขอบคุณมากครับ
โดย
Chachacha
พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 9:35 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
มาถึงจุดนี้กันแล้วผมว่าหลาย ๆ คนที่ถือ EGCOMP หรือ RATCH คงจะหายใจกันได้คล่องคอขึ้นมาหน่อย แต่ผมไม่อยากให้ประมาทกันเกินไปนัก เพราะว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องระวัง ทั้งเรื่องรายได้กำไรนี่แหละ และก็เรื่องภาษีอีกต่างหาก แถมยังมีปัญญาเรื่อง VAT ที่ทุกอย่างยังไม่ลงตัว ยังไงก็ระวัง ๆ ความเสี่ยงในจุดนี้ไว้หน่อยละกันนะครับ จริง ๆ ผมอยากจะลองศึกษารายละเอียดเรื่อง PPA ของ KEGCO ให้มากกว่านี้ แล้วหาว่า ตัวแปรไหนคือสาเหตุที่ทำให้รายได้ที่คำนวณได้ของ KEGCO ในปี 46 ลดลง จากปี 45 มากกว่าครับ เพราะจะเป็นประโยชน์มากถ้าต้องการเอาไปพยากรณ์ค่าต่าง ๆ ในปีหน้า แต่คิดว่า ถึงแม้ไม่น่าจะเกินความสามารถในการทำความเข้าใจ แต่ว่าคงเกินความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลส่วนนี้มากกว่าครับ ขอเวลาศึกษาอีกหน่อย ข้อความต่อไปจะขอเปิดประเด็นวิแคะเรื่องรายได้-ค่าใช้จ่าย และกำไรในปี 47 ครับ
โดย
Chachacha
จันทร์ เม.ย. 19, 2004 9:09 am
0
0
อิอิ ถือแป๊ปเดียว กำไรเกือบ 10 % นี่ขนาดยังไม่เลิกประท้วงนะ
ถึงแม้ว่าหลาย ๆ อย่าง RATCH จะดีกว่า EGCOMP แต่ สำหรับ ratch ก็น่าถือกว่า egcomp ครับ ถ้าตอนนี้อยู่ที่ ราคา 28 บาทไม่ใช่ราคา 38 บาท :P เห็นด้วยล้าน % เลยครับ แต่ยังไงก็จะเก็บเพิ่มไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่ยังมีทุนอยู่ :)
โดย
Chachacha
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 10:02 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
ดังนั้นถ้า say ว่า egcomp ไม่ทำอะไรเลย นั่งเฉยๆ กับทั้ง ขนอมและ ระยอง ( ซึ่งปัจจุบันก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น!!! ) ถึงแม้รายได้จะลดลง แต่กำไรไม่น่าจะลดลงนาครับ 8) ที่สารธยายมาเนี่ยไม่ได้ต้องการให้เห็นคล้อยตามนะ เพราะเป็นเพียงความเห็นของผมส่วนตัวล้วนๆ Bingo! เลยครับ นี่แหละ ที่ผมนึกอยู่ในใจแต่ยังไม่ได้บอกไปในข้อความข้างบนว่า "ถึงแม้รายได้จะลด แต่มันไม่ได้หมายความว่ากำไรจะลดลงไปด้วย" เนื่องจาก ในสมการ cost-plus ของสัญญามันเอาต้นทุนมาเป็นฐานคำนวณอยู่แล้ว ดัชนีต่าง ๆ ที่นำมาใช้คำนวณก็มีค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังบวกกับอัตราผลตอบแทนการลงทุนที่ 19% อีก ก็สามารถอธิบายเหตุผลที่ว่าทำไมที่ขนอมรายได้ลดง แต่อัตราต้นทุนลดลงมากกว่า ทำให้กำไรกลับเพิ่มขึ้น แถมที่ระยอง ต้นทุนลดลง แต่รายได้กลับเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก 2 เด้งเลยครับ ถึงว่าทำไมปีนี้ยอดกำไรพุ่งซะ ถึงจุดนี้ ผมไม่กังวลเลยว่า รายได้จะคว่ำจะหงายยังไง ตรงที่พี่ FITCH ยกข้อความที่ผมพูดถึงเรื่อง กราฟรายได้ว่าจะเป็น hyper ตรงจุดนั้นผมไม่ได้กังวลมากมายแล้วครับ ว่ามันจะเป็นหรือไม่เป็น เพราะกราฟกำไร มันไม่ได้คว่ำด้วยซะหน่อย ได้แต่ลุ้นว่ามันจะเป็นเท่าไหร่เท่านั้นแหละครับ ถ้าไม่โดนค่าอะไรแปลก ๆ มาซะก่อน อย่างเดียวที่เป็นเป็นข่าวร้ายคือ การต้องเสียภาษี 50% ของมูลค่าปกติ เริ่มตั้งแต่ปีนี้ ของ REGCO และ สิ้นกันยานี้ ของ KEGCO เท่านั้นแหละครับ นี่แหละที่จะเป็นตัวที่จะฉุดให้กำไรปีนี้ของ EGCOMP ลดลง แต่ผมว่าไม่มากมายอะไรหรอกครับ
โดย
Chachacha
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 9:06 am
0
0
อิอิ ถือแป๊ปเดียว กำไรเกือบ 10 % นี่ขนาดยังไม่เลิกประท้วงนะ
ดูๆแล้วความเสี่ยง ทั้งหมดอยู่ที่การแปรรูป ส่วนเรื่องรายได้ ไม่ต้องห่วงเพราะเป็นระบบ Cost Plus Basis ในหลักการคือ กฟผ. เป็นผู้รับภาระต้นทุนทุกรายการที่เกิดขึ้น ดังนั้น บฟผ. จะไม่ถูกผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงปัจจัยภายนอกมากนัก ......................................................................... คำถาม ทำไม กฟผ. ต้องการขาย บฟผ.ให้ banpu ? .......................................................................... คำถามต่อมา กฟผ. จะซื้อ Ratch ไปทำไม ? .......................................................................... มีอะไรที่ทำให้ Ratch เป็นที่ต้องการมากกว่า กฟผ. ? .......................................................................... แล้วเกม ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หลังจากล้ม ดีล ? ........................................................................... เหตุที่ กฟผ ต้องการขาย บฟผ ให้ Banpu อาจเพราะประสิทธิภาพในการทำงานของ RATCH ที่มากกว่ามั๊งครับ และต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ถ้าตัดใจเลือก 1 ใน 2 นี้ ผมว่าใคร ๆ ก็เลือก RATCH ครับ (ไม่คิดว่าราคาในตลาด RATCH ตอนนี้ต้นทุน สูงกว่า EGCOMP) และสัญญาซื้อขายไฟ RATCH ก็เหลือยาวกว่า EGCOMP มากด้วยครับ อีกทั้งเรื่องภาษีที่ EGCOMP จะต้องเริ่มจ่ายแล้ว แต่ RATCH ผมไม่ทราบนะ ต้องดูอีกทีนึง แต่ยังไงซะ ปีนี้ก็กำไรทั้งคู่น่ะแหละครับ แต่อย่างหนึ่งที่ผมคิดอยู่คือ ถ้าเทียบรายได้แบบตัว ๆ ระหว่าง RATCH กะ EGCOMP แล้ว คิดเฉพาะรายได้ที่มาจากค่าความพร้อมจ่ายไฟเท่านั้น Z (AP) ในสมมติฐานที่ว่ารายได้ทั้งหมดของ REGCO มาจาก AP เหมือน KEGCO สรุปว่า EGCOMP ได้ตั้งเกือบ 10,000 ล้านบาท แต่ RATCH ได้ประมาณ 12,000 พันล้านเหมือนกันทั้ง ๆ ที่กำลังผลิตมากกว่าตั้งเยอะ อันนี้ก็น่าสนใจนะครับ 2 ตัวนี้มักจะมีข้อดีข้อเสียขัดกันไป ๆ มา ๆ อยู่เรื่อยเลย ตัดสินใจลำบากว่าจะเอาตัวไหนดี
โดย
Chachacha
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 2:28 am
0
0
ผู้รู้ช่วยตอบที เรื่องกราฟ volumn กับ price หน่อยครับ
1. แมงเม่าเก่าทำใจไม่ได้ ที่หุ้นตกเลยต้องซื้อเฉลี่ย ในขณะที่แมงเม่าใหม่ก็เข้ามาซื้อเก็งกำไรหวังราคาขึ้นกลับไปที่ high โดยที่ทั้งคู่ cut-loss ไม่เป็น 2. แม่งเม่าเก่าช้อนหักและหมดกระสุน ขณะที่แมงเม่าใหม่กระสุนเริ่มจะหมด ทั้งคู่ cut-loss ไม่เป็นเช่นเคย 3. เจ้ามือเพิ่งเก็บของครบ และกำลังปั่นราคาโดยออกข่าวดี ในขณะแม่งเม่าเริ่มได้กลิ่นไฟ กระพือปีกมาร่วมแจมด้วยความเร็วสูง (ต่างตรงที่ a เจ้ามือกำลังทิ้ง c เจ้ามือกำลังปั่น) 4. ผมเล่นเทคนิคไม่เป็นครับ :cry: :lol: :lol: :lol: :lol:
โดย
Chachacha
พุธ เม.ย. 14, 2004 12:16 pm
0
0
คิดยังไงกับเรื่องกระจายหุ้น ไฟฟ้า-ประปา เข้าตลาดฯ บ้างครับ
ผมอ่านใน 56-1 ของ EGCOMP เค้าบอกเรื่อง Ft ไว้อย่างนี้ครับ สูตรค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยค่าไฟฟ้าส่วนหนึ่งจะแปรผันตามต้นทุนเชื้อเพลิงและอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเรียกว่าสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Fuel Adjustment Charge หรือ Ft) ที่มีการประกาศเปลี่ยนแปลงทุก 4 เดือน http://www.egat.or.th/epd/index-1.html รายละเอียดทั้งหมดของค่า Ft ครับ ถ้าไม่อยากปวดหัว อย่าเปิดไปดูเลย
โดย
Chachacha
พุธ เม.ย. 14, 2004 11:56 am
0
0
จริงหรือไม่ที่คนพูดว่า กิจการที่ดี ไม่เข้าตลาด กิจการที่เข้า
ผมว่ามันก็มีอยู่แล้วและเป็นส่วนมากด้วย ยิ่งสมัยนี้ไม่ต้องพูด เกือบทั้งหมดก็เป็นแบบนั้นมั๊งครับ ในวงธุรกิจ ทุกคนทำทุกอย่างส่วนมากก็จบลงที่ "เพื่อเงิน" ทั้งนั้น แต่บริษัทที่ดี ๆ ก็มีครับ ก็แล้วแต่ใครจะพยายามหากันไป ผู้บริหารเอานิดเอาหน่อย ก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เถอะครับ ตราบใดที่ยังคงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจได้ดีอยู่เรื่อย ๆ ก็ยังคงเป็นบริษัทที่น่าร่วมวงด้วยครับ อย่างเช่น EGCOMP กับ RATCH :lol: :lol: :lol:
โดย
Chachacha
พุธ เม.ย. 14, 2004 8:33 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
สวัสดีปีใหม่ไทยครับทุกท่าน หายหัวไปสองสามวัน ไม่ได้ไปไหนเลยครับ นอกจากเลิกงานก็เอาแต่อ่าน ๆ หาข้อมูลของ EGCOMP นี่แหละครับ ปวดหัวจัง กำลังคิด ๆ อยู่เนี่ยว่า เทียบกับเงินลงทุนแล้ว รู้สึกว่าจะไม่คุ้มค่าเหนื่อยซะแล้วสิครับ ฮา ๆๆ แต่ก็ดี คิดซะว่าได้ความรู้เพิ่มเติมครับ มาต่อจากกันดีกว่าครับ วันนี้ผมขอเอาเรื่องการขายและต้นทุนมาดูกันละกัน ดูนี่ก่อนเลยครับ ข้อมูลจากปี 46 ครับ รายได้ที่ EGCOMP ได้จาก REGCO และ KEGCO เท่ากับ 63.39% จากรายได้ทั้งหมดครับ มีข้อมูลข้างล่างครับ -------------------------- KEGCO -------------------------REGCO-------------- --------------------45---------------46---------------45------------46--------- Max. Capacity MkW-Hr -------5998------------6843-----------10018--------10103------- Usage --------- 5528------------6133------------6201----------5811------- Sale -------------4358------------3796------------4605----------5947------ (Mil.B) Cost of S. ------1684-------------907-------------1813---------1312----- Profit (S-C)-----2674-----------2889-----------2792----------4635------ เป็นไงครับ ตอนนี้เรารู้แล้วว่า ขนอมน่ะ ใช้ไฟเกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว จะว่าเต็มแล้วก็ได้ครับ แต่ว่า ระยอง เพิ่งใช้ไปแค่ 60% กว่าเองครับ ยังพอใจชื้นได้หน่อย แต่ปัญหาที่ผมอยากให้ดูตอนนี้ ไม่ใช่ที่ระยองครับ เราตัดไปได้เลย ... เพราะมันอยู่ที่ ขนอม ครับ เห็นเปล่าครับว่า กำลังการผลิตที่ส่งให้ EGAT เพิ่มขึ้นจาก 5528 MegaWatt-Hr ไปเป็น 6133 แต่ว่า รายรับที่ได้มานั้นกลับลดลงถึง 562 Mil.Baht เพราะอะไรครับ???? PPA อ๊ะเปล่า?? ถึงแม้ว่าจะบอกว่า ต้นทุนลดลงมากกว่า และได้กำไรเพิ่มขึ้นด้วย ( สองร้อยกว่าล้าน) ที่ผมอยากจะแจ้งให้ทราบก็คือ ผมสงสัยว่าทำไม เงินที่ได้รับ จาก EGAT ลดลง ทั้ง ๆ ที่ ขนอมส่งไฟให้ EGAT เพิ่มมากขึ้น คำตอบที่น่าจะเป็นคำตอบเดียวก็คือ Power Purchase Agreements น่ะเองครับ เพื่อยืนยันว่า PPA เป็นตัวทำให้อัตราค่าไฟของ KEGCO ลดลง ทั้ง ๆ ที่ส่งผลิตและส่งไฟไปให้ EGAT มากขึ้น ผมมีหลักฐานเป็นรายงานอยู่บ้างครับ 1. ในรายงาน 56-1 ของ EGCOMP ไฟล์ egcompto.doc หน้า 18 ครับ บอกว่า รายได้ลดลง "รายได้ค่าไฟฟ้า จำนวน 9,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 779 ล้านบาท หรือร้อยละ 9 โดยแบ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจาก บฟร. 1,341 ล้านบาท ในขณะที่รายได้ค่าไฟฟ้าของ บฟข. ลดลง 562 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสูตรค่าพลังไฟฟ้า ในลักษณะ Cost Plus หรือต้นทุนบวกกำไรส่วนเพิ่มที่ให้แก่ ผู้ประกอบการ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และเป็นไปตามที่ได้ประมาณการไว้แล้ว" 2. EGCOMP 56-1 เช่นกันครับที่บอกว่า ปริมาณไฟฟ้าที่ส่งให้ EGAT เพิ่มขึ้น (ดูจากตารางข้างบนได้ครับ) ทีนี้ ผมก็ต้องดูว่า ในเมื่อรายได้มันลดลงเนี่ย เพราะอะไรถึงลดลง ก็เลยไปดูที่รายงานของ KEGCO และแล้ว ฝันที่เป็นจริงก็เกิดขึ้นครับ โครงสร้างรายได้ของ ขนอม เป็นอย่างนี้ครับ รายได้จากการขาย ปี 45 และ 46 (ล้านบาท) 1. รายได้ค่าพลังไฟฟ้า ---------4,345.754--------3,782.942------- 2. รายได้ค่าพลังงานไฟฟ้า---------12.293------------12.761------ รายได้อื่น จิ๊บจ้อยครับ อย่าไปสนใจมัน หมายความว่าไง ??? ค่าพลังไฟฟ้า และค่าพลังงานไฟฟ้า ???? ทำไมต่างกันสุดกู่ อย่างที่เรารู้กัน ค่าพลังไฟฟ้า ก็คือค่าความพร้อมน่ะเอง ส่วนค่าพลังงานไฟฟ้า ก็คือ ค่าปริมาณที่ได้รับจาก EGAT แต่เหตุผลที่ ค่าพลังงานไฟฟ้าแทบจะไม่มีเลยนั้น มันถูกคำนวณจากค่าต้นทุนเชื้อเพลิงด้วย ซึ่งก็คือก๊าซธรรมชาติที่ได้รับ ซึ่งต้นทุนส่วนนี้ EGAT เป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดน่ะเอง มันถึงเป็นที่มาของไอ่ VAT หมื่นล้านอะไรนั่นน่ะครับ งั้นก็หมายความว่า รายได้เกือบทั้งหมดมาจากค่าความพร้อมจ่ายน่ะสิ ??? อืม ผมก็ว่างั้นครับ :? งั้น ค่าความพร้อมจ่ายนี้แหละ คือต้นตอปัญหา PPA ทั้งหมดของเรา ???? อืม ผมก็ว่างั้นครับ :lol: งั้นเราจะรู้ได้ไงว่า ค่าความพร้อมจ่ายนี้ เค้าคิดกันอย่างไรในสัญญา .... โชคดีครับ ที่มันมีบอกในรายงานประจำปีของ KEGCO มันเป็นอย่างนี้ครับ ค่าความพร้อมจ่ายพลังไฟฟ้า (Availability Payment AP) ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุนคงที่ในการลงทุนในโรงไฟฟ้าประกอบด้วย - การชำระคืนเงินกู้ (รวมถึงเงินต้น, ดอกเบี้ย และ ค่า Fee ต่าง ๆ) - ค่าบำรุงรักษาหลัก (รวมทั้งค่าชิ้นส่วนและบริการ) - ค่าใช้จ่ายคงที่ในการบริหารงานทั่วไปและการบำรุงรักษา - ค่าเบี้ยประกัน - ภาษี - ผลตอบแทนผู้ลงทุน (IRR on Equity) ซึ่งเท่ากับร้อยละ 19 AP คำนวณจาก AP = FAP - DRA - DSN - DDF FAP = ความพร้อมจ่ายเต็ม DRA = ค่าปรับจากความพร้อมจ่ายที่ลดลง DSN = ค่าปรับจากการลดกำลังการผลิต ในระยะเวลาอันสั้นโดยไม่มีการบอกล่วงหน้า DDF = ค่าปรับเนื่องจากความล้มเหลวในการจ่ายกระแสไฟฟ้า FAP คำนวณจาก FAP = DCC x BAC x W x N DCC = กำลังการผลิตพึ่งได้ (ปกติจะมีการประเมินทุก ๆ 6 เดือน) BAC = อัตราค่าความพร้อมจ่ายพื้นฐานคำนวณจากค่าใช้จ่ายคงที่ของโครงการ (EAAP) หารด้วย DCC และจำนวนชั่วโมงพร้อมจ่ายตามสัญญา (CAH) W = ค่าน้ำหนักของช่วงเวลาการคิดชำระเงิน (ค่า W จะสูงระหว่าง Peak Period) N = จำนวนช่วงเวลาการคิดชำระเงิน จากการที่กระทรวงการคลังได้มีประกาศปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยเปลี่ยนจากระบบตะกร้าเงินมาเป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว (Managed Float) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ทำให้ค่าเงินบาทลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของ บฟข. ซึ่งมีหนี้เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐบางส่วน แต่มีรายได้ทั้งหมดเป็นเงินบาท ที่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน บฟข. จึงมีรายได้เงินบาทไม่เพียงพอ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ถือเป็นกรณี Change in Law ดังนั้น กฟผ. จึงได้มีการลงนามเอกสารแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ลงวันที่ 30 มกราคม 2541 ทั้งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2540 เป็นต้นไป โดยได้มีการแก้ไข ค่าความพร้อมจ่ายคาดหมายประจำปี (Expected Annual Availability Payments EAAP) เฉพาะภาระค่าใช้จ่ายส่วนที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ได้แก่ Debt Financing Charge (DFC) ตามสัดส่วนภาระหนี้ต่างประเทศในแต่ละปี และ Major Maintenance Parts Charge (MMPC) ซึ่งเป็นค่าอะไหล่อุปกรณ์ที่เป็นเงินตราต่างประเทศด้วยอัตราแลกเปลี่ยนวันสุดท้ายของแต่ละเดือน โดยให้ใช้ฐานอัตราแลกเปลี่ยนที่ 28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ตลอดอายุสัญญาที่เหลือ โดยใช้สูตรการคำนวณ ดังนี้ EAAPinm = {DFCin x FXnm/28 x Xin/100} + DFCin x (1-Xin/100) + EFCin+ IRCin +SBCin +{MMPCin x FXnm/28} x (MUVn-2 /MUV base ) + (MMSCin + OMCi1 + GACi1) x (TCPI n-2/TCPIbase) DFCin = ค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงิน (หน่วย : ล้านบาท) สำหรับปีสัญญาที่ n EFCin = ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (หน่วย : ล้านบาท) สำหรับปีสัญญาที่ n IRCin = ค่าเบี้ยประภัย (หน่วย : ล้านบาท) สำหรับปีสัญญาที่ n SBCin = ค่าใช้จ่ายสำหรับ Stand by Service (หน่วย : ล้านบาท) สำหรับปีสัญญาที่ n MMPCin = ค่าอะไหล่ที่ใช้ในการบำรุงรักษาหลัก (หน่วย : ล้านบาท) สำหรับปีสัญญาที่ n MMSCin = ค่าแรงงานในการบำรุงรักษาหลัก (หน่วย : ล้านบาท) สำหรับปีสัญญาที่ n OMCi1 = ค่าใช้จ่ายในการผลิตและบำรุงรักษาหลักคงที่ (หน่วย : ล้านบาท) สำหรับปีสัญญาที่ 1 GACi1 = ค่าใช้จ่ายในการบริหาร (หน่วย : ล้านบาท) สำหรับปีสัญญาที่ 1 MUVn-2 = ดัชนีราคาผู้ผลิตสำหรับปีสัญญาที่ n-2 โดยใช้ค่าที่ประกาศจากทาง Price Index Division ของ World Bank MUVbase = ดัชนีราคาผู้ผลิตสำหรับปี 2537 โดยใช้ค่าที่ประกาศจากทาง Price Index Division ของ World Bank TCPIn-2 = ดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับปีที่ n-2 ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ TCPIbase = ดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับปี 2537 ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ FXnm = อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในวันทำการสุดท้ายของแต่ละงวดการแจ้งหนี้ m สำหรับปีสัญญาที่ n (บาท/ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งใช้ค่าเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อและอัตราขายในวันดังกล่าว ซึ่งประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทย Xin = สัดส่วนเงินตราต่างประเทศต่อค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมทั้งหมดของโรงไฟฟ้า สำหรับปีสัญญาที่ n ผมก็เลยคิดว่า อัตราค่าความพร้อมจ่ายพื้นฐานคำนวณจากค่าใช้จ่ายคงที่ของโครงการ (EAAP) ที่เป็นที่มาของ BAC ที่นำไปใช้คำนวณ ค่าความพร้อมจ่ายเต็ม (FAP) ซึ่งเป็นที่มาของรายได้ นี่แหละครับ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ ค่าของรายได้ที่คำนวณเกิดการผันผวน เป็นสาเหตุให้ รายได้จากการขายของ ขนอม น้อยลง แม้ว่าปริมาณการจ่ายไฟจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ดู ๆ ไปดูเหมือนว่า ค่า EAAP เนี่ย จะแปรผันโดยตรงกับปริมาณค่าใช้จ่ายในการดูและรักษาโรงไฟฟ้านะครับ หมายความว่า ถ้าค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ค่า EAAP ก็จะสูงขึ้น เป็นผลให้ FAP สูงขึ้น ทำให้เงินที่ EGAT จะต้องจ่ายให้ KEGCO มากขึ้น หรือเปล่า งั้น ปริมาณรายได้หลัก ก็แปรผันโดยตรงกับปริมาณค่าใช้จ่ายหลัก น่ะสิ งั้นกราฟรายได้ระฆังคว่ำหรือกราฟไฮเพอร์ที่ว่าถ้าเป็นจริง แสดงว่าค่าใช้จ่ายหลักของ KEGCO จะลดลงทุก ๆ ปีงั้นเหรอ ฮา ๆ ๆ ๆ ???? เป็นไปได้ครับ แต่ใครจะรู้ล่ะ ถ้าไม่ใช่วงใน?? ผมก็ไม่รู้นะ นี่แหละครับ Cost-Plus Pricing Model ของเค้า สรุปก็คือ จะพยากรณ์รายรับของ KEGCO เราต้องดูนี่ครับ 1. ค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อม 2. ดัชนีราคาผู้ผลิต - ผู้บริโภค (ดูได้ที่เวบกระทรวงพาณิชย์ครับ) 3. อื่น ๆ (แบบว่าหาเอาหน่อยละกัน) อีกอย่างหนึ่งก็คือ เรื่องภาษีครับ อย่าลืมว่า ปี 47 นี้ REGCO ต้องจ่ายภาษี 50% ของภาษีปกติ และหลังจากกันยายนปีนี้ KEGCO ก็ต้องจ่าย 50% ของภาษีปกติเหมือนกันนะครับ ไม่ได้รับยกเว้นแบบปีที่ผ่านมาอีกแล้ว... ก็บวกลบคูณหารกันเองละกันครับ ถ้างงหรืออยากรู้มากกว่านี้ ไปหา download รายงานของ KEGCO ได้จากเวบ กลต. ครับ ปล. ผมไม่รับประกันความถูกต้องใด ๆ ของข้อมูลนะครับ ควรพิจารณากันเอาเอง เพราะข้อมูลทั้งหมดมาจากการวิเคราะห์เองของผม และข้อมูลจริงจากรายงานควบคู่กันไป แต่ถ้าท่านใดมีข้อโต้แย้ง หรือมีข้อมูลนอกเหนือที่บอกว่า ความคิดเห็นของผมผิดจากความเป็นจริง ยินดีรับฟังด้วยความขอบคุณครับ ในฐานะผมก็ถือหุ้น EGCO ด้วยเหมือนกัน
โดย
Chachacha
พุธ เม.ย. 14, 2004 4:51 am
0
0
พี่ค่ะขอความเห็นค่ะ 56-1 กับ รายงานประจำปีต่างกันตรงไหนค่ะ
รายงานประจำปีจะบอกพวก งบดุล กับหมายเหตุประกอบงบ และข้อมูลของกิจการที่สำคัญในรอบปีหรือที่อาจจะเกิดขึ้นครับ แต่ 56-1 จะบอกภาพรวม และข้อมูลที่ลึกกว่า ถ้าจะซื้ออะไร หรืออยากดูสภาพกิจการ รายงานประจำปีบอกได้ครับ แต่ถ้าอยากรู้ว่ากิจการทำอะไร เป็นอย่างไร 56-1 จะมีมากกว่าครับ ลองไป download มาอ่านก็ได้ครับ หาจาก www.set.or.th เอาบริษัทเล็ก ๆ เช่น WG, F&D จะดูง่ายครับ ไม่เหมือน บ. ใหญ่ ๆ อ่านแล้วตาลายครับ
โดย
Chachacha
จันทร์ เม.ย. 12, 2004 11:33 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
พูดไปพูดมา ลืม RATCH ไปเลย เอาไว้ EGCOMP กระจ่างมากกว่านี้จะขอลุยเรื่อง RATCH มั่งครับ ผมว่าการอ่านรายงานของทั้งคู่ ที่ทำธุรกิจแทบจะเหมือนกัน ก็ดีครับ เหมือนไม่ฟังความฝ่ายเดียว พี่เจ๋งครับ เรื่องหนี้ EGCOMP เยอะน่ะ ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวปีนี้เค้าจะจ่ายหนึ้แค่หุ้นกู้กะเงินกู้อีก 5 พันกว่าล้านครับ งบสิ้นปีนี้หนี้ลดลงเยอะครับ แต่คาดว่า ไม่ว่าจะคิดแบบพี่ว่ากำไรจะมากกว่า 11.41 หรือคิดแบบผมว่า กำไรจะน้อยกว่า 11.41 สิ่งที่ผมมั่นใจก็คือ ปันผลปีหน้าคงไม่มากกว่าปีนี้แน่ ๆครับ ฮา ๆ ๆ ก็ดีครับ เพราะหนี้แต่ละตัวดอกสูงเหลือเกิน ไม่ต้องจ่ายปันผลเลย แต่เอาเงินไปเพิ่ม Equity ผมยิ่งชอบครับ
โดย
Chachacha
อาทิตย์ เม.ย. 11, 2004 9:14 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
ขอโทษครับ มั่วอีกแล้ว แก้บรรทัดนี้ครับ แต่ ok ครับ ที่รายได้น้อยลง ต้นทุนก็น้อยลงตาม และรายได้ที่เพิ่มขึ้นก็เริ่มมาแล้วจาก IPP ทั้งหลายครับ ถึงแม้ว่า บฟข. (หรือ บขร. จำไม่ได้ครับ) จะต้องเริ่มจ่ายภาษีเงินได้ 50% ของอัตราปกติ แล้วก็ตาม หลังจากสัญญาที่ได้ยกเว้นเพิ่งสิ้นสุดเมื่อปีที่แล้ว ไม่ใช่ IPP ครับ IPP คือ บฟร บฟข อยู่แล้วครับ ขอแก้เป็น SPP ครับ คือ GEC, TLP Cogen, APB และ ร้อยเอ็ดกรีนครับ เพิ่มขึ้นมา 3.2 พันล้านครับ แต่ที่แย่คือ ต้นทุนก็เพิ่มมา 3 พันล้านครับ สรุปว่า ได้เพิ่มแค่ 2 ร้อยล้าน สิ่งที่น่าสนใจคือ ต้นทุนที่ลดลง แต่รายได้เพิ่มขึ้น ของ IPP ต่างหากครับ
โดย
Chachacha
อาทิตย์ เม.ย. 11, 2004 9:07 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมข้อมูลเรื่องรายได้ของ EGCOMP อยู่ครับ ว่าจะเพิ่มขึ้นจากไหนและจะลดลงอย่างไร ถ้าเสร็จแล้วจะลองเอามาคุยกันดูครับ หลังจากอ่าน Form 56-1 จบเมื่อกี้ได้ข้อมูลใหม่ ๆ เยอะครับ เช่น กำลังการผลิตของ EGCO ยังไม่ได้ใช้เต็ม 100% แต่สมมติฐานเรื่อง PPA ยังไม่ตกครับ เพราะตอนหนึ่งของรายงานบอกว่า รายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้ารายใหญ่ (IPP) คือ บฟร. และ บฟข. จำนวน 9,972 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ค่าไฟฟ้า จำนวน 9,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 779 ล้านบาท หรือร้อยละ 9 โดยแบ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจาก บฟร. 1,341 ล้านบาท ในขณะที่ รายได้ค่าไฟฟ้าของ บฟข. ลดลง 562 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสูตรค่าพลังไฟฟ้า ในลักษณะ Cost Plus หรือต้นทุนบวกกำไรส่วนเพิ่มที่ให้แก่ ผู้ประกอบการ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และเป็นไปตามที่ได้ประมาณการไว้แล้ว แต่ ok ครับ ที่รายได้น้อยลง ต้นทุนก็น้อยลงตาม และรายได้ที่เพิ่มขึ้นก็เริ่มมาแล้วจาก IPP ทั้งหลายครับ ถึงแม้ว่า บฟข. (หรือ บขร. จำไม่ได้ครับ) จะต้องเริ่มจ่ายภาษีเงินได้ 50% ของอัตราปกติ แล้วก็ตาม หลังจากสัญญาที่ได้ยกเว้นเพิ่งสิ้นสุดเมื่อปีที่แล้ว ก็ OK ครับ ทุกอย่างยังไปได้สวยและ PPA ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ว่าแต่มีใครทราบเปล่าครับว่า Cost Plus เนี่ย เค้าคำนวนอย่างไร และทำไมต้องบอกในรายงานว่า รายได้ค่าไฟฟ้าของ บฟข. ลดลง 562 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสูตรค่าพลังไฟฟ้า รายได้ลด มันไปเกี่ยวอะไรกับสูตรค่าพลังไฟฟ้าครับ ทั้ง ๆ ที่ต้นทุนการผลิตมันก็ลดลงด้วย มันน่าจะเกี่ยวกับปริมาณที่ กฟผ. ต้องการให้ผลิดลดลงไม่ใช่เหรอครับ ใครมีข้อมูลนี้ช่วยเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ ผมหาไม่ได้เลย
โดย
Chachacha
อาทิตย์ เม.ย. 11, 2004 9:01 am
0
0
64 โพสต์
of 2
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
Chachacha
กลุ่ม:
สมาชิก
งานอดิเรก:
Investment.
ความถนัด:
I'm just Student
ที่อยู่:
Bangkok.
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พุธ มี.ค. 17, 2004 9:33 am
ใช้งานล่าสุด:
เสาร์ ก.ย. 18, 2004 2:31 pm
โพสต์ทั้งหมด:
68 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
เดี๋ยวเจอกัน
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว