Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 2/2563 จอง 1ที่ครับ โดย 015 เสาร์ ก.ค. 18, 2020 8:07 pm

Re: เมื่อหมีมา :mrgreen: เห็นหัวข้อpost รีบเข้ามาอ่านเลย ขอบคุณพี่มากครับ สำหรับข้อคิด โดย 015 จันทร์ พ.ค. 09, 2011 12:17 pm

Re: สวัสดี ทักทาย จาก ทีมงานชุดใหม่ครับ ห้องร้อยหุ้น หายไปไหนครับ โดย 015 อังคาร พ.ย. 23, 2010 8:59 pm

value trader เล่าประสพการณ์วันแดงเดือด แล้ว มีความเห็นอย่างไรกับการทำธุีรกรรม shortsales ครับ -วันอังคารที่ 13 shortsale 286 ลบ. -วันศุกร์ที่ 16 อีก 682 ลบ. โดย 015 อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 9:52 pm

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ พี่ลูกอิสาน ครับ  งบ lanna ออกแล้ว พี่มอง lanna ปีนี้  กำลังการผลิต ถ่านหินที่จะผลิตได้ประมาณเท่าไหร่ครับ โดย 015 เสาร์ พ.ค. 16, 2009 8:59 am

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ ขอบคุณพี่ลูกอิสานมากครับ โดย 015 ศุกร์ เม.ย. 10, 2009 6:12 pm

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ ขอความเห็นพี่เกี่ยวกับลานนา เพิ่มหน่อยครับพี่  จาก 56-1 เขียนไว้ว่า แม้ปริมาณอุปสงค์เอทานอลจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2551 ตามปริมาณความต้องการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวข้างต้นก็ตามแต่ก็ไม่ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมเอทานอลลดความรุนแรงแต่อย่างใดเนื่องจากยังคงมีอุปทานเอทานอลส่วนเกิน (EXCESS  SUPPLY) อยู่ในตลาดจำนวนมากโดยมีกำลังผลิตเอทานอลรวมทั้งอุตสาหกรรม ณ วันสิ้นปี 2551 จำนวน 1.925 ล้านลิตรต่อวันในขณะที่ความต้องการใช้เอทานอลโดยเฉลี่ยในปี 2551 มีเพียง 0.922 ล้านลิตรต่อวัน จึงทำให้ผู้ประกอบการเอทานอลบางรายส่งออกเอทานอลไปจำหน่ายยังต่างประเทศเพื่อลดแรงกดดันจากการแข่งขันในประเทศที่รุนแรง โดยมีปริมาณเอทานอลที่ส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศในปี 2551 ทั้งสิ้น 30,693,500 ลิตร อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงกำลังผลิตเอทานอลของผู้ประกอบการรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีก 7 รายในปี 2552 ซึ่งมีกำลังผลิตเอทานอลประมาณ 1.89 ล้านลิตรต่อวันจะทำให้กำลังผลิตเอทานอลรวมทั้งอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 3.815 ล้านลิตรต่อวันภายในสิ้นปี 2552   ผมสงสัยว่า ทำไม lanna จึงเร่งลงทุนโรงงานเอธานอลแหล่งที่ 2 อีก 1800 ลบ. กำลังการผลิตประมาณ 200,000ลิตร/วันภายใน ปี52พี่มีความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไรบ้างครับ  หรือว่าลานนามีจุดขายที่ดีเด่นกว่าคู่แข่งรายอื่นทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะขายไม่ได้ครับ โดย 015 พฤหัสฯ. เม.ย. 09, 2009 9:01 pm

เปรียบเทียบ Tom Yam Kung Crisis กับ Hamburger Crisis สินเชื่อบ้านธนาคารในบ้านเราส่วนใหญ่กำหนด เงื่อนไขการผ่อนชำระ เท่ากันทุกงวด ถึงแม้ว่าช่วง1-5ปี อาจคิด ดอกเบี้ยต่ำคงที่  แต่ก็มีบางแห่งที่กำหนดเงื่อนไขการผ่อนชำระ เป็นขั้นบันได ภายใต้ข้อสมมุติฐาน ว่าลูกค้าอายุงานมากขึ้น ก็เงินเดือนเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า หรือเป็นเทคนิคการแข่งขัน กันระหว่างธนาคาร โดย 015 จันทร์ ก.ย. 22, 2008 9:03 pm

npl เพิ่ม 10,000.-ล้านบาท จะทำให้หุ้นลด อีก กี่ % ที่พี่เขียนมา เป็นเกณฑ์เดิมครับพี่  เพื่อนผมว่าเกณฑ์ใหม่เป็น บาเซิลทู หรืออะไรประมาณนั้นซึ่งทำให้ bank ต้องสำรองเพิ่มตามเกณฑ์ใหม่ หลังจากหักหลักประกันแล้ว ต้องสำรองเต็ม แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า ธปท.บับคับใช้ โดยทะยอยตามปีหรือเปล่าครับพี่   ทั้งนี้ตามที่ผมอ่าน saa ของ Broke มีบางธนาคาร ที่ตั้งสำรองเพิ่มเผื่อไว้ทุกเดือน(โดยไม่เกียวกับว่า NPL เพิ่มหรือลด) โดย 015 จันทร์ ก.ค. 07, 2008 7:50 pm

npl เพิ่ม 10,000.-ล้านบาท จะทำให้หุ้นลด อีก กี่ % ในกรณีสินเชื่อมีหลักประกันทั่วๆไป  (ไม่นับรายใหญ่) ปกติ bank ปล่อยสินเชื่อประมาณ 80% ของราคาประเมินหลักประกัน ดังนั้นหาก Bank ปล่อยสินเชื่อ 100 บาท ก็มีหลักประกัน 125 บาท หาก เป็น NPL (ค้างเกิน 3 เดือน) ธนาคารต้องตั้งสำรอง โดยหักหลักประกันได้ 50-62% ผมให้ 62% ก็นำหลักประกันมาหักได้ 77.5 บาท แสดงว่าธนาคารต้องตั้งสำรอง 23.5 บาท  ซึ่งหากธนาคารปล่อยสินเชื่อในสัดส่วนที่สูงกว่า 80% หากเป็น NPL ก็ต้องสำรองมากกว่า 23.5%   ..........อันนี้ผมถามเพื่อนที่ทำ bank มันอธิบายผมอย่างนี้ ครับ ซึ่ง เพื่อนมันบอกว่า ธ.ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่น่าจะใช้เกณฑประมาณนี้ ครับพี่ โดย 015 จันทร์ ก.ค. 07, 2008 6:35 pm

npl เพิ่ม 10,000.-ล้านบาท จะทำให้หุ้นลด อีก กี่ % เป็นการมองในแง่ร้ายนะครับ ซึ่งอาจะไม่สมเหตุสมผลว่าจะเป็นไปได้แบบพี่ว่า  เพียงแต่หากอยากรู้ว่าเงินเฟ้อที่ฝรั่งกลัว นะ จะกระทบกับ value กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ของไทยซักขนาดไหน  แต่จริงๆแล้ว ผมถามเพื่อนที่อยู่ bank ธนาคารบางแห่งก็มี NPL รายใหม่ เฉลี่ยเดือนละ 3-4 ร้อยล้านอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ายอด %NPL ไม่ขยับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปล่อยสินเชื่อได้ในสัดส่วนที่สูงกว่า อีกส่วนหนึ่ง ก็มี npl เก่าที่แก้ได้ไป  ที่แน่ๆ NPL ใหม่ ต่อปี 3-4 พันล้านบาท มีความเป็นไปได้สูง  ทั้งนี้หากเงินเฟ้อขยับไปมากกว่านี้ ปีหน้าก็กน่าคิดเหมือนกันนะครับพี่ โดย 015 จันทร์ ก.ค. 07, 2008 7:42 am