หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
kmphol
Joined: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 12:59 pm
417
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - kmphol
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: อจ.นิเวศน์สุดยอดครับ
นับถืออาจารย์อย่างสูงครับ
โดย
kmphol
พุธ ธ.ค. 11, 2013 2:34 pm
0
0
Re: ธุรกิจทำง่าย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เคยเห็น7-11 ตอนราคา 10 บาท มาเปน 20 มาเปน 30 แต่ก็ไม่เคยซื้อมัน เพราะติว่ามันแพง พีอีสูง ไปซื้อตัวอื่นถูกกว่ามีตั้งเยอะ แต่ความจริงคือมันเปนหุ้นที่แพงตลอดเวลา จนต้องมาซื้อมันตอน 40 ถือมาถึงวันนี้แล้วก็ไม่คิดว่าจะขายมันจนกว่ามันจะครบ 10,000 สาขา ค่อยดูว่าจะขายดีป่าว และดีใจที่ถือมันมาจนวันนี้ จุดแข็งของ 7-11 1.เน้นขายของกิน เปนครัวสะดวกกินให้กับทุกบ้าน (ของกินเปนสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกบ้าน ผมเลือกทำเลบ้านที่หาของกินได้สะดวกโดยไม่สนว่าหมุ๋บ้านจะมี สโมสร สระน้ำ ฟิตเนส หรือป่าว เพราะเราต้องกินวันละ3มื้อ โดยอาจออกกำลังกายแค่เดือนละครั้ง) ทุกวันนี้เวลาผมหิวจะเลือกเข้า7-11เปนหลัก ก็เลยฉีกตัวเองออกจากคู่แข่ง ที่เปนแนวของซุปเปอรมาเกต พวก โลตัสเอกเพรส, ทอปเดลี่, มินิบิกซี, 108, family mart, Vshop etc ซึ่งกลุ่มพวกนี้แข่งกันให้ตาย ก็ยังหาผู้ชนะได้ยาก 2.มีโรงเรียนที่ป้อนคนมาทำงานให้แบบเปนกะ24 ชม ซึ่งไม่มีคู่แข่งที่ไหนมี (การ มีc-store เกิน1000สาขา เรื่องหาคนมาทำงาน24 ชม เปนปัญหาที่จัดการยากมาก) 3.เปนธุรกิจที่โตตามความหนาแน่นของประชากร ยิ่งคนย้ายมาอยู่กันอย่างกระจุกตัวมากเท่าไหร่ สาขา7-11 ก็เปิดได้เท่านั้น (สำมโนประชากรล่าสุดเฉลี่ย1ครอบครัว มี2.9คน แสดงว่าต่อไปครอบครัวจะเล็กลงไปอีก คนจะอยู่แบบกระจุกตัวเพื่อแชร์ facilityมากขึ้น เช่นอยู่ในเมือง อยู่คอนโด) ที่ไหนประชากรหนาแน่นต่ำ7-11 จะไม่ไปเปิด แต่ทีไหนที่มีประชากรหนาแน่นเพิ่มขึ้น 7-11เปิดเพิ่มได้ตามdensityที่เพิ่มขึ้น 4. มี CP ครัวของโลก เปนแบคอัพใหญ่ ที่ไม่มีคู่แข่งที่ไหนมี 5.ต่อรองกับซับพลายเออรได้มากด้วยจำนวนสาขาแบบทิ้งคู่แข่ง 6. ด้วยจำนวนสาขาขนาดนี้ สามารถแข่งขายปลีกสินค้าได้ทุกชนิดกับ ค้าปลีกทุกราย เมื่อก่อน7-11 ไม่ได้ขายหนังสือเด๋วนี้ก็ขาย ต่อไป อาจเห็น7-11ขาย มือถือ ยา ตั๋วเครื่องบิน รถไฟ รถทัวร์ หนัง คอนเสริต consumer products อื่นได้ทุกชนิด ที่ผมพอจะคิดออกว่า7-11 มันเหนือกว่าคู่แข่งยังไงก็มีเท่านี้ ทุกวันนี้ผมถือ7-11 โดยไม่เคยได้ดูงบมันเลย ดูแค่ว่ามันขยายสาขาได้ตามเป้ารึป่าวเปนหุ้นที่ผมหลับตาถือแบบยาวยาวได้เลย เพราะมั่นใจว่าสักวันมันต้องมี10,000 สาขา
โดย
kmphol
พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2012 6:33 pm
0
0
Re: โปรแกรม Streaming Pro ใครใช้แล้วมีปัญหาค้างหรือหลุดบ่อยบ
หลุดบ่อยตอนใช้อินเตอเนตผ่าน3จีครับ ใช้เนตที่บ้านไม่ค่อยหลุดครับ ปัญหาหลุดส่วนหนึ่งอาจมาจากอินเตอเนตของเราเองด้วย
โดย
kmphol
ศุกร์ ส.ค. 05, 2011 10:47 pm
0
0
Re: มาทายกันเล่นๆไหมครับ ลงรอบนี้จะจบที่ดัชนีเท่าไรดี
เดาว่าลงได้ 20-50% ของ high ล่าสุดครับ
โดย
kmphol
เสาร์ มิ.ย. 11, 2011 4:25 pm
0
0
Re: BAFS ....ดร.เข้า 4 ล้านหุ้น....ช่วยแสดงความเห็นหน่อยครั
ดูเทปมันนี่ทอลคที่คุยกับผูบริหารล่าสุด Bafs ต้นทุนส่วนใหญ่เปนfixed cost ถ้ายอดเติมน้ำมันเพิ่ม กำไรจะโตกว่ายอดขายเยอะ แคชโฟลวของbafs ดีมาก ค่าเสื่อมเปนหนึ่งในสามของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ธุรกิจผูกขาด โตได้ตามการขยายสนามบิน แต่ใช้เงินลงทุนเพิ่มไม่มากนัก เอาแค่ค่าเสื่อมมาลงทุนก็เพียงพอแล้ว อนาคตbafs อาจมีโอกาสให้บริการในสนามบินเพิ่มขึ้นในบางแห่งที่ปัจจุบันไม่ได้ให้บริการ สายการบินลุกค้าหลัก(การบินไทยและแอรเอเซีย) มีการเพิ่มจำนวนเครื่องอีกหลายลำ bafs ก็โตตามจำนวนเครื่องบินและเที่ยวบินที่เพิ่ม แนวโน้มอนาคตคนมีเงินมากขึ้น ก็อยากเดินทางแบบสบายมากขึ้น ก็นั่งเครื่องบินมากขึ้น ประเด็นดีดีข้างต้นคงเปนเหตุจูงใจให้ ดร bafsจนเปนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ปล ผมมีหุ้นตัวนี้ด้วยครับ
โดย
kmphol
พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 4:14 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
พึ่งได้เอกสารตอบข้อหารือจากสรรพากรมาครับ เอามาแบ่งกันดู
โดย
kmphol
พุธ เม.ย. 06, 2011 12:13 pm
0
0
Re: วิธีการโพสไฟล์ในกระทู้ [ เชิญทดลองในกระทู้นี้ได้เลยครับ
ลองดูครับ
โดย
kmphol
พุธ เม.ย. 06, 2011 12:08 pm
0
0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
จากประสบการณ์ของผม ผมคิดว่าเราจะหาหุ้นลงทุนได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนักลงทุนมีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพอร์ตของนักลงทุนก็โตมากขึ้น ในขณะที่มีบริษัทที่ดีๆเข้ามาจดทะเบียนเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ในช่วงวิกฤตเมื่อสองปีก่อน ราคาหุ้นหลายบริษัทก็ลดลงไม่มากนัก ต่างจากวิกฤตครั้งก่อนๆที่นักเก็งกำไรจะเทขายหุ้นทุกบริษัท เพราะคิดแต่เพียงว่า ขายวันนี้ เพื่อซื้อถูกกว่าในอนาคต แต่ยุคสมัยนี้ขายแล้วอาจตกรถ เพราะจะมีนักลงทุนที่มีเงินเย็น พร้อมที่จะซื้อหุ้นแล้วอดทนรอ แน่นอนว่า ดัชนีแถวนี้ ราคาหุ้นส่วนใหญ่มีราคาไม่ถูกเมื่อพิจารณาด้วยหลักเกณฑ์ง่ายๆ คงต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทมากขึ้น เพื่อที่จะค้นหาบริษัทที่จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตมากๆ ขอบคุณพี่ฉัตรชัยสำหรับคำเตือนครับ
โดย
kmphol
อาทิตย์ เม.ย. 03, 2011 12:37 pm
0
0
Re: มองตลาดหุ้นแบบ VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณอาจารย์ครับ แสดงว่า VI ก็ควรสนใจสภาพตลาดโดยรวมเหมือนกันครับ
โดย
kmphol
อังคาร มี.ค. 08, 2011 4:02 pm
0
0
Re: งานเฮฮาประสาวีไอ Q1/54 ตอน แพ้ศึก อย่าแพ้สงคราม (12มีค)
ถ้ามีที่เหลือ ขอจอง 1 ที่ครับ
โดย
kmphol
อังคาร มี.ค. 08, 2011 1:25 pm
0
0
Re: เคล็ดลับ VI คือ แค่การลงทุน หรือ การใช้ชีวิตทั้งชีวิต ?
ผมไม่คิดว่า vi เป็นคนตะหนี่ถี่เหนียว แต่เราจะจ่ายเงินกับสิ่งที่คุ้มค่าเท่านั้น เช่น สุขภาพ การศึกษา การช่วยเหลือสังคม แทนที่จะเดินทางรอบโลก ซื้อเครื่องบิน รถสปอร์ตแพงๆ สร้างคฤหาสร้อยห้องแต่อนิจจาใช้นอนแค่ห้องเดียว เหล่านี้ใช้เงินมหาศาลแต่สร้างความสุขเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแถมได้ประโยชน์แค่ตัวเราคนเดียว :roll: วิธี vi อาจจะเรียนรู้กันได้และได้ผลดีในระยะนึง แต่ระยะยาว วิถี vi แบบจิตวิญญาน จะทำได้ดีกว่าเพราะมันออกมาจากจิตใจ ขอเสริมนิดหนึ่ง VI ไม่ใช่คนตระหนี่ถี่เหนียว แต่ VI ก็ไม่ใช่คนที่ต้องเอาเงินทุกบาทที่หาได้ใส่เข้าไปในหุ้น โดยไม่ยอมเอาเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็น ใช้ในสิ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตของเราและคนในครอบครัวเราดีขึ้น ต้นปี53 ผมเอาเงินครึ่งพอรท ไปซื้อบ้านเดี่ยวใหม่จ่ายสดทั้งก้อน(ซื้อสดเพราะไม่ชอบมีหนี้)ให้ตัวเองและครอบครัวได้อยู่ ผมรู้แก่ใจดีว่าเงินอยู่ในหุ้นยังไงก็โตเร็วกว่าอยู่ในบ้าน แต่ผมทำแบบนั้นเพื่อคุณภาพชีวิตคนในครอบครัว แม่ผมอายุ65แล้ว แกเคยอยู่แต่ตึกแถว ทาวนเฮาส์ แกอยากมีบ้านมีพื้นที่ไว้ปลูกต้นไม้เยอะเยอะ บ้านเดี่ยวใหม่ก็ทำเลดี เข้าซอยไม่ลึก มีรถสาธารณะผ่าน หาซื้อของกินก็ง่าย คุณภาพชีวิตแกดีขึ้นกว่าอยู่ที่เดิมแน่นอน ตัวผมอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน เพราะมีรถขับแต่คนอื่นในครอบครัวเขาขับไม่เปน ถ้าผมรอให้ตัวเองมีซัก100ล้านก่อนค่อยซื้อ แม่ผมคงไม่มี่โอกาสได้เข้ามาอยู่ในบ้านใหม่กับผม คงต้องอยู่บ้านเดิมที่คุณภาพชีวิตด้อยกว่าบ้านปัจจุบัน ผมว่าคนเรามีเงินแล้ว ต้องรู้จักใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้คุณภาพชีวิตของเราและครอบครัวดีขึ้น ไม่ใช่มีไว้เพื่อให้มันงอกเงยออกไปมากที่สุด โดยลืมไปซึ่งการใช้มันให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตสูงสุด VI จึงต้องรู้จักผสมผสานการใช้จ่ายเพื่อชีวิต และใช้จ่ายเพื่อการลงทุน ให้เกิดความสมดุลย์ในชีวิต ไม่ใช่แค่ชีวิตนี้ขอมีตัวเลขในพอรทที่สวยหรู แต่ส่วนอื่นอื่นของชีวิตกลับไม่มีอะไรดีขึ้น แบบนี้จะมีเงินไปเพื่ออะไร
โดย
kmphol
อาทิตย์ มี.ค. 06, 2011 2:02 pm
0
4
Re: Fair Value ที่คำนวณจากโบรกเกอร์เชื่อได้มั๊ยครับ
วิธีการคำณวณ Fair Value ที่แฟร์ที่สุดคือ ให้ปิดราคาตลาดปัจจุบัน ทิ้งไปซะก่อน เหมือนว่าหุ้นตัวนี้ไม่ได้ list ในตลาด ไม่มีราคาตลาดให้อ้างอิง และเราก็ไม่รู้ราคาตลาดขณะนี้ แล้วใช้วิธีคำนวนมูลค่า ที่เหมาะสมกับประเภทกิจการนั้น คำนวนออกมาได้มูลค่าหุ้นที่ควรจะเปนตามความคิดของเรา แล้วค่อยเอามาเทียบกับราคาตลาดว่ามันอยู่ในฐานะน่าลงทุนหรือไม่ บทวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ผมว่าเขาคำนวนราคาโดยอ้างอิงมาจากราคาตลาดปัจจุบัน มันจึงไม่น่าเรียกว่า fair value เพราะว่าวิธีคิดมันไม่แฟร์ เหมือนการดูเฉลยคำตอบ แล้วค่อยมาหาวิธีคิดว่า มันควรจะคิดยังไงให้ได้ใกล้คำตอบที่สุด แล้วก็เชียร์ซื้อ เชียร์ขายไปให้ตัวเองได้ค่าคอม สังเกตได้จากเวลาที่สภาพตลาดเปลี่ยนไป พื้นฐานกิจการบางที่ไม่ได้เปลี่ยน แต่ fair value ของนักวิเคาระห์กลับเปลี่ยนไปได้ตามสภาพตลาด
โดย
kmphol
พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2011 3:21 pm
0
1
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
วันนี้โทรไปถามสรรพากรมาอีกที... เค้าบอกว่า ถ้าชื่อคณะบุคคล มีชื่อเรา กับคนอื่นๆ อยู่แล้ว ก็เอาเงินปันผล กับภาษีที่ได้มาหาร 2 แล้ว เอาไปยื่นของบุคคลธรรมดาแต่ละคนได้เลย... แล้วตกลงควรยื่นแบบไหนดีครับ ยื่นแบบเดิมในนามคณะบุคคล หรือ บุคคลธรรมดา หาร2 คุณ picatos มีเอกสารที่สรรพากรแจ้งบอกให้ หาร2 ได้เลย อย่างเปนทางการมั้ยครับ เกรงว่าบางที่ ข้อมูลที่call center ให้โดยวาจา อาจไม่ใช่แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องก็ได้ เวลามีปัญหา ประชาชนคนบริสุทธิ์ใจ อาจเปนคนผิด เพราะไม่มีอะไรมาอ้างอิงว่าถูก ลองยื่นแบบ คุณ vivitawin ยื่นแบบเดิมแบบกระดาษดูก็ดีนะครับ ได้คืนครบ ประเทศไทยแค่อยู่คนละจังหวัด แต่อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน การใช้อำนาจรัฐหลายมาตรฐานแบบนี้ มันน่าเกลียดเกินไป
โดย
kmphol
พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2011 1:39 pm
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
ลงทุนผิดพลาด ต้องโทษตัวเอง ไม่ใช่ไปโทษ หุ้น แนวคิดการลงทุน ผู้บริหาร เวปบอรด คนให้ข้อมูลในเวปบอรด นักวิเคราะห์ เพื่อนที่แนะนำหุ้น สภาพตลาด โชคชะตา etc คนเราที่ทำได้คือการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขตัวเอง การคิดเปลี่ยนแปลงและแก้ไขคนอื่นหรือสิ่งแวดล้อมให้ปรับเข้าหาตัวเรา เปนเรื่องที่เปนไปไม่ได้ All we are just dust in the wind คนเราทุกคนจริงแล้ว ก็เปนเพียงธุลีในสายลม ซึ่งไม่สามารถฝืนกฎธรรมชาติได้ ผู้ให้ข้อมูลเท็จอาจจะมีส่วนผิด แต่ว่า นักลงทุนก็ควรที่จะพิจารณาตัวเองด้วยนะครับ ว่าทำไมเราถึงเลือกเชื่อข้อมูลนั้นโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบ หรือ ศึกษาให้แน่ใจเสียก่อนว่าเราเข้าใจธุรกิจนั้นจริงๆ บริหารความโลภให้พอดีกับความรู้ของตัวเองครับ ขอเสนอแนะให้เวปโพสต์ คำเตือนตัวโตโต เห็นกันก่อนเข้าเวปแบบจังจังว่า ทางเวปไม่มีการรับรองความถูกต้องของ ข้อมูล ความเห็นที่โพสต์โดยสมาชิก เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวเป็น ข้อมูล ความเห็นส่วนบุคคล ของสมาชิกนั้น ซึ่งไม่มีการตรวจสอบ รับรองความถูกต้องใดใดจากทางเวป โปรดใช้วิจารณญาณในการใช้ข้อมูล บทวิเคราะห์ทุกฉบับ เวลานักวิเคราะห์ ออกทีวี เขายังมีคำเตือนแบบนี้ให้เห็นกันแบบชัดชัดเลย ทั้งที่บุคคลเหล่านี้มีการ qualified and verified จากตลาดหลักทรัพย์แล้ว แต่ user ในไทยวีไอ บางทีก็ไม่มีตัวตน หาตัวตนไม่ได้ เปนใครมาจากไหนก็ไม่รู้ ทำไมทางเวปไม่มีการเตือนกันแบบตัวโตโต ก่อนให้ user เข้ามาดูข้อมูล อย่าลืมนะครับว่า แมงเม่ามันมีอยู่ทุกที่บนโลกใบนี้ แมงเม่าพันธุ์ใหม่ในตลาดหุ้นไทยเรียกว่า แมงเม่าวีไอ มันคงไม่มีเวปไหนในโลกนี้หรอกครับ ที่ทุกคนที่เข้ามาใช้ข้อมูลแล้วต้องได้ตังค์ออกไปทุกคน หรือถ้ามันมีการรับรองผลตอบแทนมันคงเป็นเวปที่ exclusive เฉพาะมากมาก ไม่ใช่ free service แบบที่ไทยวีไอ มีบริการให้แบบไม่หวังผลตอบแทนใดใดจากนักลงทุน
โดย
kmphol
อังคาร มี.ค. 01, 2011 2:22 pm
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
ลงทุนผิดพลาด ต้องโทษตัวเอง ไม่ใช่ไปโทษ หุ้น แนวคิดการลงทุน ผู้บริหาร เวปบอรด คนให้ข้อมูลในเวปบอรด นักวิเคราะห์ เพื่อนที่แนะนำหุ้น สภาพตลาด โชคชะตา etc คนเราที่ทำได้คือการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขตัวเอง การคิดเปลี่ยนแปลงและแก้ไขคนอื่นหรือสิ่งแวดล้อมให้ปรับเข้าหาตัวเรา เปนเรื่องที่เปนไปไม่ได้ All we are just dust in the wind คนเราทุกคนจริงแล้ว ก็เปนเพียงธุลีในสายลม ซึ่งไม่สามารถฝืนกฎธรรมชาติได้
โดย
kmphol
อังคาร มี.ค. 01, 2011 12:50 pm
0
0
Re: social network เปลี่ยนโลกได้ แล้วมันมีผลกับการลงทุนเพียง
มี social network ทำให้ การไหลของข้อมูลข่าวสารจะเร็วมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของโลกนับจากนี้ ในทุกด้าน ทั้งสังคม วัฒนธรรม แนวคิด การลงทุน etc จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากกว่าโลกใบเดิมอีกหลายเท่าตัว ผู้ที่รับข้อมูลข่าวสาร จึงต้องใช้วิจารณญาณมากขึ้นในการนำข้อมูลนั้นไปใช้ เพราะะข้อมูลมันเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเหลือเกิน ข้อมูลขยะก็เยอะ ข่าวสารเปนพิษก็แยะ เราจึงต้องปรับตัวเลือกรับเฉพาะสิ่งดีดี ใช้วิจารณญาณ โดยไม่มีอคติใดใด
โดย
kmphol
อังคาร มี.ค. 01, 2011 12:36 pm
0
0
Re: คำสอน ดร.นิเวศน์
ขอบคุณครับ :D
โดย
kmphol
ศุกร์ ก.พ. 25, 2011 12:33 pm
0
0
Re: ทองคำ (Gold) ยังถือเป็น commodity อยู่หรือเปล่าครับ
ทองเป็นเงินอีกสกุลหนึ่ง ที่เรียกว่าเงินสกุล ทอง ซึ่งทองกับUSD แปรผกผันกันอยู่ ทองเป็นเงินสกุลเดียวที่มีการปรับค่าขึ้นตามเงินเฟ้อ แม้ว่ามันจะไม่ให้ดอกเบี้ย ปันผล ระหว่างที่ถือ แต่การถือทองคำแท่งในเมืองไทยมีข้อดีที่มีการhedge ความเสี่ยง ด้วยราคาทองเปนUSD กับฺ BAHT exchange rate ซึ่ง2ปัจจัยนี้มันแปรผกผันกันอยู๋ ทำให้ราคาทองเป็นบาทมีการป้องกันความเสี่ยงไม่ให้ขึ้นหรือลงมากเกินไป
โดย
kmphol
พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 3:12 pm
0
0
Re: ทำไม SHIN รีบร้อนจ่ายปันผลจัง จ่ายงวด 01/01/11-31/03/11
แบบนี้เรียกถอนทุน แบบไม่ขายหุ้นครับ :8)
โดย
kmphol
ศุกร์ ก.พ. 18, 2011 12:44 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
อ่านดูแล้ว มาตรา 1118 กับ มาตรา 56 วรรคสอง มันขัดแย้งกันอยู่ บอกให้ทำกันไปคนละอย่าง ทั้งสองมาตราก็อยู่ในระดับประมวลกฏหมายเหมือนกัน ผมอ่านดูแล้วไม่มีอะไรขัดแย้งกันครับ ในมาตรา 1118 นั้นบอกว่าถ้าจัดตั้งคณะบุคคลแล้วจะต้องตั้งตัวแทนคือผู้จัดการเพียงคนเดียวเพื่อจะได้มีอำนาจในการจัดการ ใครที่เคยตั้งคณะบุคคลคงเข้าใจ มาตรา 1118 ปปพ แพ่งพาณิชย์ บอกว่าต้องตั้งให้คนใดคนหนึ่งใช้สิทธิในฐานะที่เปนผู้ถือหุ้น (ไม่ได้บอกว่าให้ตั้งคนใดคนหนึ่งเปนผู้จัดการ ซึ่งผู้จัดการ กับผู้ใช้สิทธิ มันอยู่กันคนละฐานะกัน) ซึ่งสิทธิในที่นี้ สรรพากรหมายถึงสิทธิในการรับเครดิตปันผล เครดิตปันผลจึงต้องตกเปนของบุคคลใดบุคคลหนึ่งในคณะบุคคลเท่านั้น จะตกเปนของคณะบุคคลไม่ได้ แต่ มาตรา 56 รัษฎากร บอกว่า เงินได้จากมาตรา 40(4)ซึ่งก็คือเครดิตปันผล เป็นเงินได้ ของคณะบุคคล ไม่ถือเปนเงินได้ของบุคคลที่อยู่ในคณะบุคคล บุคคลในคณะบุคคลจึงไม่ต้องยื่นเพื่อเปนเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีอีก มันขัดแย้งกันตรงที่ มาตราหนึ่งบอกว่าเปนสิทธิ(เปนเครดิตปันผลเปนเงินได้)ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งบุคคลเดียวในคณะบุคคล แต่อีกมาตราบอกว่า มันเปนเงินเงินได้ของคณะบุคคล ซึ่งไม่ใช่เงินได้ของบุคคลหนึ่งในคณะบุคคล บุคคลหนึ่งในคณะบุคคลจึงไม่ต้องยื่นเพื่อเเปนเงินได้พึงประเมินเพือเสียภาษีอีก
โดย
kmphol
ศุกร์ ก.พ. 18, 2011 12:18 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
แต่ถ้าห้างหุ้นส่วนหรือคณะบุคคลนั้นมีภาษีค้างชำระ ให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือบุคคลในคณะบุคคลทุกคนร่วมรับผิดในเงินภาษีที่ค้างชำระนั้นด้วย ตามกฎหมาย นิติบุคคล หมายถึง บุคคลประเภทหนึ่งที่มิใช่บุคคลธรรมดา แต่เป็นบุคคลที่กฎหมายรองรับ เว้นแต่สิทธิและหน้าที่ซึ่งโดยสภาพพึงมีพึงได้เป็นได้เฉพาะแก่บุคคลธรรมดา ก็เช่น สิทธิ์ในการเลือกตั้งจะไม่มีเหมือนคนธรรมดา ซึ่ง ห้างหุ้นส่วนสามัญก็อยู่ในจำพวก นิติบุคคล ตามมาตรา 1015 และมาตรา 1064 ครับ[/quote] แล้วตกลงคณะบุคคลตามกฏหมายถือว่า 1.เปนบุคคลธรรมดาอีกบุคคลหนึ่ง ที่ถือว่าเปนปันเจกบุคคล(Individual)แยกจากอิสระจากบุคคลธรรมดาที่ร่วมก่อตั้งคณะบุคคลนั้น 2.เปนกลุม่ของบุคคลธรรมดา(บุคคลธรรมดาหลายคน) ที่ไม่ได้มีฐานะเปนปันเจกบุคคล(Individual)แยกจากอิสระจากบุคคลธรรมดาที่ร่วมก่อตั้งคณะบุคคลนั้น 3.เปนนิติบุคคล คณะบุคคลมีฐานะเปนแบบไหนครับ งงมากครับ มีข้อกฎหมายไหนที่ระบุฐานะของคณะบุคคลได้บ้างครับ จะได้นำไปโต้แย้งกับสรรพากรได้
โดย
kmphol
พุธ ก.พ. 16, 2011 1:16 pm
0
0
Re: ลงทุนทำธุรกิจในฝัน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณ ดร มากครับที่แชร์ประสบการณ์ล้มเหลว ความล้มเหลวจากการลงทุนทำธุรกิจในฝัน ทำให้ ดร มองเรื่องความเสี่ยงเป็นหลักใหญ่ ในการลงทุน
โดย
kmphol
อังคาร ก.พ. 15, 2011 2:50 pm
0
0
Re: มีเรื่องนึงที่ผมสงสัยและคิดมานานแต่หาคำตอบที่ถูกต้องไม่ไ
ตั้งแต่ลงทุนในบริษัทจดทะเบียบฐานะผู้ถือหุ้นรายย่อยมา สิ่งที่ได้มาตลอดคือ 1.ปันผล 2.เครดิตภาษีปันผล 3.อนาคตของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ไม่ว่าทางดีหรือร้าย (สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ได้กำไรหรือขาดทุนจากการถือหุ้น) 4.ความคล่องตัวในการตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไปจากบริษัทนี้ คือไม่ต้องทนเมื่อเห็นว่ามันไม่ใช่ธุรกิจที่ดี ไม่เหมือนการไปทำธุรกิจเอง ความคล่องตัวแบบนี้แทบไม่มีเลย จะดีไม่ดีอย่างไรก็ต้องทนจนถึงที่สุดเพราะมันเป็นของเรา (สิ่งนี้เป็นจุดเด่นที่ผมเลือกทำธุรกิจผ่านตลาดทุน เราลงแค่ทุนอย่างเดียว ไม่ต้องลงแรงกาย ไม่ต้องลงแรงใจ ความเสี่ยงต่ำกว่าลงทุนทำธุรกิจเองมากมาก :D ส่วนที่คิดว่าตัวเองไม่เคยได้รับเลยในฐานะผู้ถือหุ้นรายย่อย คือความเป็นเจ้าของ เพราะเราไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการในสิ่งที่เราต้องการได้เลย เพราะจริงแล้วเราเป็นเพียงแค่หุ้นส่วนส่วนน้อยที่ไม่มีสิทธิจะทำอะไรได้เพราะจำนวนหุ้นที่เราถืออยู่มันน้อยเกินไปที่จะทำได้ เลยไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของเลยสักบริษัท เมื่อจะไปจากบริษัทก็ไปเลยไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากไปเมื่อไรก็ไป จะกลับมาเมื่อไรก็มา คล่องตัวกว่าเจ้าของมากมาก :lol:
โดย
kmphol
อาทิตย์ ก.พ. 06, 2011 12:45 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
คนที่บริหารภาษี กับ คนที่เลี่ยงภาษี ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน ก็คือ ทำให้ตนเองเสียภาษีน้อยลง แต่ คนที่บริหารภาษี ทำให้ตนเองเสียภาษีน้อยลง โดยใชัช่องทางของกฏหมายที่กำหนดให้ทำได้ เช่น ตั้งคณะบุคคล, ซื้อ ltf, rmf, life insurance, etc ส่วน คนที่เลี่ยงภาษี ทำให้ตนเองเสียภาษีน้อยลง โดยการทำผิดกฎหมาย เช่น ปลอมใบกำกับภาษี, สร้างยอดขาย-ค่าใช้จ่ายเท็จ, etc ส่วน ใครที่อยากเสียภาษีเยอะเยอะ เพื่อช่วยรัฐเอาไปพัฒนาประเทศ และแบ่งค่าคอมมิชชั่นให้นักการเมืองส่วนหนึ่ง ก็ทำโดย ไม่พยายามจะบริหารภาษี, ไม่ขอภาษีคืน, ทำบัญชีแบบตรงไม่ตรงมา, หารายได้ให้มากมากแล้วงดยื่นค่าลดหย่อนที่ตัวเองลดหย่อนได้, ซื้อขายหุ้นจดทะเบียนโดยไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์ etc จะได้ช่วยรัฐให้มีงบประมาณไปพัฒนาประเทศมากขึ้น ทุกคนมีสิทธิเลือกได้ว่าจะทำแบบไหน แต่ตัวคุณเองต้องเป็นคนรับผลในสิ่งที่คุณทำ จะไปบอกว่าคนที่พยายามบริหารภาษีตัวเองเปนคนไม่ดี ไม่ช่วยชาติ คงไปบอกแบบนั้นไม่ได้ เพราะโดยปกติของคนทุกคนคือไม่ชอบจ่ายภาษีเยอะ ถ้าใครผิดปกติชอบจ่ายภาษีเยอะเยอะ ก็ทำแบบที่ผมแนะนำได้เลยครับ :o ชอบ post ของคุณ kmphol แต่ขอเพิ่มความเห็นดังนี้ ครับ 1. จ่ายภาษีถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย และ เจตนารมย์ คือ การบริหารภาษี 2. จ่ายภาษีถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย แต่ เจตนารมย์ คือ การเลี่ยง หรือ หนีภาษี 3. จ่ายภาษีโดยกระทำผิดกฎหมาย อันนี้เรียก โกงภาษี ครับ ข้อ 1 กับ ข้อ 3 ไม่มีปัญหาในการตีความ กระทำผิดข้อ 3 คือ โกงภาษี จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งแพ่งและอาญาได้ ไอ้ที่สร้างปัญหา คือ ข้อ 2 ว่าทำได้ หรือ ไม่ได้ วันนี้ตีความว่าถูก พรุ่งนี้อาจผิดได้ อยู่ที่จะยึดตัวบท หรือ เจตนารมย์ ของกฎหมาย เดิมที สรรพากรก็ยอมรับคณะบุคคล และเป็นเจ้าหน้าที่บางคนก็เป็นผู้ชี้ช่องให้ทำด้วยซ้ำ ตอนทำกันน้อย ๆ ผู้รู้ก็เหมือนฉลาดกว่าคนอื่น ผู้ไม่รู้ก็เสียภาษีเต็ม ๆ พอทำกันมาก ๆ เข้า (จริง ๆ ก็ปล่อยมาตั้งกว่า 10 ปี)ก็เห็นว่า คนยิ่งทำยิ่งเยอะ รัฐขาดรายได้ก็มาตีความใหม่ อยากให้กรมสรรพากรบูรณาการ เรื่องภาษีสักที ก็ดี ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ จะออกมาอย่างไรก็ได้ ขอให้เป็นธรรมกับทุกอาชีพในวงกว้าง และ ถือปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน เพราะวันนี้ ยังมีความลดหลั่น หรือ 2 มาตราฐานอีกมาก (คุยได้อีกเยอะจริง ๆ) และที่สำคัญมากกว่าคือ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเงินภาษีของเขาถูกนำไปทำประโยชน์อย่างคุ้มค่า ครับ เพราะเชื่อเหลือเกินว่ามีคนไม่น้อยกลุ่มหนึ่งรู้สึกไม่เต็มใจเสียภาษี (หรือ ทำบุญทำทานก็ตาม) ก็มาจากประเด็นดังกล่าวครับ ตอนนี้สรรพากรก็เริ่มฉลาดขึ้น ที่จะตั้งกติกา ป้องกันคนที่ต้องการเลี่ยงภาษีแบบถูกกฎหมายแล้วครับ เช่น ห้ามบุคคลตั้งคณะบุคคลที่มีประเภทเงินได้เดียวกันเกิน1คณะ เพราะมันเข้าข่ายกระจายรายได้ ให้จ่ายภาษีน้อยลง ก็คงต้องค่อยค่อยให้เวลาสรรพากรเขาค่อยค่อย พัฒนาความฉลาดขึ้น เพื่อที่จะเก็ภาษีมาพัฒนาประเทศให้มากขึ้น อย่างเรื่องขอคืนเครดิตภาษีคณะบุคคล หลับมาเป็นสิบปี ปีนี้เพิ่งตื่นมางัดกฎหมายที่มีอยู่แล้วมาใช้ควบคุม แต่ก็ทำแบบไม่ได้เรื่อง ไม่มีการเตือน ไม่มีการแจ้งแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องลว่งหน้า ให้กับประชาชนที่เสียภาษีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ได้วางแผน ได้มีทางออกกันล่วงหน้า เหมือนเป็นการแกล้งประชาชนให้ไม่มีทางออกชัดชัด :( แบบนี้เรียกฉลาดแบบไม่ครอบคลุมปัญหาทั้งหมด
โดย
kmphol
อาทิตย์ ก.พ. 06, 2011 12:11 pm
0
0
Re: โพสเตือนเมื่อไหร่
เตือนเมื่อความเห็นที่ปรากฎอยู่ตรงหน้ามันผิดไปจากข้อมูลที่เรามีอยู่ ผิดไปจากความเห็นในมุมมองที่เรามีอยู่ จริงแล้วคำเตือนของเรามันก็เพียงแค่ความเห็นความเห็นหนึ่ง ที่ทุกคนมีสิทธิเลือกที่จะเชื่อหรือไม่ อย่างไรก็ได้ ดีกว่ามาพูดทีหลังว่า รู้อยู่แล้วหละว่ามันเป็นอย่างนี้ แต่ที่ไม่เตือนไม่บอกก็เพราะว่า.......
โดย
kmphol
พุธ ก.พ. 02, 2011 2:43 pm
0
0
Re: จัดเรียง หุ้นที่ รายได้จากการขาย ต่อ ทรัพย์สิน สูงๆ
ขอบคุณครับพี่ครรชิต :bow: เสียสละคิดค้น และเอามาแบ่งปันน้องน้องอีกตามเคย
โดย
kmphol
พุธ ม.ค. 26, 2011 1:48 pm
0
0
Re: ถึงเวลาพิสูจน์ mos แล้วครับว่ามีกันมากแค่ไหน
เคยผ่านบทพิสูจน์แบบนี้มาแล้วครับ เจออีกกี่ครั้งก็ไม่หวั่น ระลึกไว้เสมอครับว่า ตอนหุ้นลงสิ่งที่เจ็บใจที่สุดไม่ใช่เพราะว่า หุ้นที่เราถืออยู่มันลง แต่เจ็บใจเพราะเราไม่มีเงินสดไว้ซื้อตอนมันลง เราไม่มีปัญญาจะคว้าโอกาสนั้น เราปล่อยให้โอกาสมันผ่านไปโดยทำอะไรไม่ได้นอกจากดูหุ้นตัวเองลง
โดย
kmphol
จันทร์ ม.ค. 24, 2011 4:16 pm
0
0
Re: โอนหุ้นระหว่างกัน
ถามอดีตนายกคงไม่ได้ เพราะแกโอนจนโดนภาษีแบบเต็มเม็ดเลยครับ ผมว่าถาม รมว คลัง ดีกว่าครับ แกขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษีสักบาท นอกจาก VATของค่าคอม นี่สิผู้รู้ตัวจริง
โดย
kmphol
จันทร์ ม.ค. 24, 2011 2:28 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
โทรไปถาม TSD call center มาแล้วครับ สรุปว่าปีนี้คณะบุคคลขอคืนเครดิตภาษีหุ้นปันผลไม่ได้แน่นนอนครับ เพราะสรรพากร บอกว่าให้ใช้ใบปันผลที่ออกในนามบุคคลที่อยู่ในคณะบุคคลเท่านั้นในการขอเครดิตภาษีคืนของบุคคลนั้นตามลิงค์ที่สรรพากรชี้แจงไว้ http://faq.rd.go.th/call_center_inter/show/faq1.php?id=409791&caption=1 แต่ TSD บอกว่าออกย้อนหลังแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นนามบุคคลที่อยู่ในคณะบุคคลไม่ได้ เพราะว่าชื่อที่ใช้ในใบปันผลต้องเป็นชื่อเดียวจำนวนหุ้นเดียวกันกับชื่อและจำนวนหุ้นในวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นก่อนรับปันผล เพราะว่ากฏหมายของตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้อย่างนั้น ประชาชนตาดำดำก็ก้มหน้ารับกรรมต่อไป เพราะหน่วยงานราชการรู้และปฏิบัติไม่เปนในแนวทางเดียวกัน :cry:
โดย
kmphol
จันทร์ ม.ค. 24, 2011 12:20 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
ผลการจัดศักดิ์ของกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร 1. การออกกฎหมายที่มีศักดิ์ของกฎหมายต่ำกว่าจะออกได้โดยอาศัยอำนาจจากกฎหมายที่มีศักดิ์สูงกว่าหรือตามที่กฎหมายศักดิ์สูงกว่าให้อำนาจไว้ 2. กฎหมายที่มีศักดิ์ต่ำกว่าซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจของกฎหมายศักดิ์สูงกว่า จะออกมาโดยมีเนื้อหาเกินกว่าขอบเขตอำนาจที่กฎหมายศักดิ์สูงกว่าให้ไว้มิได้ มิฉะนั้นจะใช้บังคับมิได้เลย 3. หากเนื้อหาของกฎหมายมีความขัดแย้งกัน ต้องใช้กฎหมายที่มีศักดิ์สูงกว่าบังคับ ไม่ว่ากฎหมายศักดิ์สูงกว่านั้นจะออกก่อนหรือหลังกฎหมายศักดิ์ต่ำกว่านั้น ถามนิดหนึ่งครับว่า ถ้า พระราชบัญญัติ กับ ประมวลกฎหมาย มีเนื้อหาที่ขัดกัน ไม่เป็นในแนวทางเดียวกับ จะยึดกฎหมายใดเปนหลักในการใชัปฏิบัติครับ
โดย
kmphol
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 1:22 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
คนที่บริหารภาษี กับ คนที่เลี่ยงภาษี ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน ก็คือ ทำให้ตนเองเสียภาษีน้อยลง แต่ คนที่บริหารภาษี ทำให้ตนเองเสียภาษีน้อยลง โดยใชัช่องทางของกฏหมายที่กำหนดให้ทำได้ เช่น ตั้งคณะบุคคล, ซื้อ ltf, rmf, life insurance, etc ส่วน คนที่เลี่ยงภาษี ทำให้ตนเองเสียภาษีน้อยลง โดยการทำผิดกฎหมาย เช่น ปลอมใบกำกับภาษี, สร้างยอดขาย-ค่าใช้จ่ายเท็จ, etc ส่วน ใครที่อยากเสียภาษีเยอะเยอะ เพื่อช่วยรัฐเอาไปพัฒนาประเทศ และแบ่งค่าคอมมิชชั่นให้นักการเมืองส่วนหนึ่ง ก็ทำโดย ไม่พยายามจะบริหารภาษี, ไม่ขอภาษีคืน, ทำบัญชีแบบตรงไม่ตรงมา, หารายได้ให้มากมากแล้วงดยื่นค่าลดหย่อนที่ตัวเองลดหย่อนได้, ซื้อขายหุ้นจดทะเบียนโดยไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์ etc จะได้ช่วยรัฐให้มีงบประมาณไปพัฒนาประเทศมากขึ้น ทุกคนมีสิทธิเลือกได้ว่าจะทำแบบไหน แต่ตัวคุณเองต้องเป็นคนรับผลในสิ่งที่คุณทำ จะไปบอกว่าคนที่พยายามบริหารภาษีตัวเองเปนคนไม่ดี ไม่ช่วยชาติ คงไปบอกแบบนั้นไม่ได้ เพราะโดยปกติของคนทุกคนคือไม่ชอบจ่ายภาษีเยอะ ถ้าใครผิดปกติชอบจ่ายภาษีเยอะเยอะ ก็ทำแบบที่ผมแนะนำได้เลยครับ :o
โดย
kmphol
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 1:17 pm
0
0
Re: คุณคิดว่ามันโง่ไหม
ไม่โง่หรอกครับ ผมก็เคยทำแบบนั้นกับTdex เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะครับ tdex เปนหลักทรัพย์ตัวเดียวที่ผมกล้าใช้มาร์จินครับ เพราะ ความผันผวนรายวันต่ำกว่าหุ้นรายตัวมาก โอกาสโดนฟอรซเซลก็ต่ำกว่ามาก(ถ้าเราเฉลี่ยซื้อ) ราคาก็ลงได้วันละไม่เกิน10% เพราะโดนเซอกิตเบรคเกอร์คุมไว้ ยิ่งซื้อตอน set50 อยู่ต่ำต่ำ pe ต่ำกว่า10 ถือได้ยาวหน่อย โอกาสขาดทุนแทบไม่ไมีเลยครับ ผลตอบแทนก็ไม่แพ้ตลาดด้วย tdex มีข้อเสียอย่างเดียวที่ผมนึกออกคือ เครดิตภาษีปันผลไม่ได้แบบหุ้นรายตัว ทำให้เราเสียประโยชน์ตรงนั้นไป
โดย
kmphol
ศุกร์ ม.ค. 21, 2011 3:13 pm
0
0
Re: ห้างหุ้นส่วน กับ คณะบุคคล เสียภาษีเหมือนบุคคลธรรมดาหรือเ
และแล้วปีภาษี53 นี้ คณะบุคคลก็มีปัญหาในการขอคืนเงินปันผล แบบที่ผมเตือนไว้ มีใครลองยื่นอุทธรณ์กับสรรพากรดูแล้วบ้างครับ ผลเปนไงบ้างครับ
โดย
kmphol
ศุกร์ ม.ค. 21, 2011 2:50 pm
0
0
Re: อย่าจับจังหวะตลาด:ValueWay มนตรี นิพิฐวิทยา
น่าจะเป็น ซื้อตอนตลาดแย่แย่ ขายตอนตลาดดีดี
โดย
kmphol
ศุกร์ ม.ค. 21, 2011 2:15 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรา 1118 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1118 อันหุ้นนั้น ท่านว่าจะแบ่งแยกหาได้ไม่ ถ้าบุคคลมีจำนวนแต่สองคนขึ้นไปถือหุ้น ๆ เดียวร่วมกัน ท่านว่าต้องตั้ง ให้คนใดคนหนึ่งในจำนวนนั้นแต่คนเดียวเป็นผู้ใช้สิทธิในฐานเป็นผู้ถือหุ้น อนึ่ง บุคคลทั้งหลายซึ่งถือหุ้น ๆ เดียวร่วมกัน ต้องร่วมกันรับผิดต่อบริษัท ในการส่งใช้มูลค่าของหุ้น มาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 53 หุ้นนั้นจะแบ่งแยกมิได้ ถ้าบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปจองหุ้น หรือถือหุ้น หุ้นเดียวหรือหลายหุ้นร่วมกัน บุคคลเหล่านั้นต้องรับผิดร่วมกันในการส่งใช้เงินค่าหุ้นและเงินที่สูงกว่ามูลค่าหุ้น และต้องแต่งตั้งให้บุคคลในจำนวนนั้นแต่เพียงคนเดียวเป็นผู้ใช้สิทธิใน ฐานะเป็นผู้จองหุ้นหรือผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี มาตรา 56 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล มีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วเกินจำนวนตาม (1) ให้ผู้อำนวยการหรือผู้จัดการยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินในชื่อของห้างหุ้นส่วนหรือคณะบุคคลนั้นที่ได้รับในระหว่างปีภาษีที่ล่วงมาแล้วภายในกำหนดเวลาและตามแบบเช่นเดียวกับวรรคก่อน การเสียภาษีในกรณีเช่นนี้ ให้ผู้อำนวยการหรือผู้จัดการรับผิดเสียภาษีในชื่อของห้างหุ้นส่วนหรือคณะบุคคลนั้นจากยอดเงินได้พึงประเมินทั้งสิ้น เสมือนเป็นบุคคลธรรมดาคนเดียวโดยไม่มีการแบ่งแยก ทั้งนี้ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือบุคคลในคณะบุคคลแต่ละคนไม่จำต้องยื่นรายการเงินได้ สำหรับจำนวนเงินได้พึงประเมินดังกล่าวเพื่อเสียภาษีอีก แต่ถ้าห้างหุ้นส่วนหรือคณะบุคคลนั้นมีภาษีค้างชำระ ให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือบุคคลในคณะบุคคลทุกคนร่วมรับผิดในเงินภาษีที่ค้างชำระนั้นด้วย ( พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2527 ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปีภาษี 2528 เป็นต้นไป ) ( ดูคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 24/2536 ) ( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 28) ) อ่านดูแล้ว มาตรา 1118 กับ มาตรา 56 วรรคสอง มันขัดแย้งกันอยู่ บอกให้ทำกันไปคนละอย่าง ทั้งสองมาตราก็อยู่ในระดับประมวลกฏหมายเหมือนกัน คงต้องให้ศาลเปนผู้ตัดสินแล้วหละครับ แต่ถ้าต้องไปทำแบบที่สรรพากรแนะนำ http://faq.rd.go.th/call_center_inter/show/faq1.php?id=409791&caption=1 ตลาดหลักทรัพย์คงยุ่งตาย5555555เลย แต่อย่างว่าก็เปนความผิดของตลาดตลาดหลักทรัพย์แหละ ชอบทำอะไรขัดกับ ปม แพ่งและพาณิชย์ ทำไปได้ตั้งหลายมาตรา เช่น 1117 ,1118 และน่าจะมีอีกหลายมาตรา
โดย
kmphol
ศุกร์ ม.ค. 21, 2011 1:59 pm
0
0
Re: ขายหุ้นหลบ XD
เคสผมตรงข้ามเลยครับ จะซื้อเพื่อเอา xd มากกว่า เพราะต้องการเครดิตภาษี สมมุติว่า ปันผล100 บาท จากกำไรส่วนที่เสียภาษีนิติบุคคล30% เราขอเครดิตภาษีได้(30/70)*100=42.85 บาท เท่ากับสรรพากรจ่ายเงินปันผลเพิ่มให้เราอีก42.85 บาท รวมแล้วเรารับปันผล 142.85 บาท (ถ้าเราไม่เลือกยื่นปันผลเป็นเงินได้ เราจะรับปันผลเพียง 90 บาท เพราะถูกหัก ณ ที่จ่ายไป10บาท) ถ้ารายได้เราต่ำไม่อยู่ในข่ายที่เสียภาษี เราก็รับปันผลมาก่อน 90 บาท พอสิ้นปียื่นขอคืน สรรพากกรก็คืนให้เรามาอีก52.85 บาท) ควรเอา xd หรือป่าวจึงขึ้นกับตัวบุคคล ว่าเขาเสียภาษีอัตราเท่าไร คุ้มหรือไม่ที่จะยื่นปันผลเปนเงินได้มาคิดภาษีปลายปี
โดย
kmphol
เสาร์ ม.ค. 08, 2011 1:46 pm
0
0
Re: พรปีใหม่จาก ดร.ไพบูลย์และรายการ Money Talk ครับ
ขอบคุณ และสวัสดีปีใหม่อาจารย์ ทั้ง4ท่านครับ คำอวยพรของอาจารย์ ไพเราะ เสนาะหู และแฝงไว้ด้วยข้อคิดการลงทุนที่ยอดเยี่ยมมากครับ ผมจะนำคำอวยพรและคำสอนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด :lol: ครับ
โดย
kmphol
จันทร์ ธ.ค. 27, 2010 2:50 pm
0
0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณครับ ชอบการเปรียบเทียบของอาจารย์มากครับ เห็นภาพชัดดีจริงจริง
โดย
kmphol
จันทร์ ธ.ค. 13, 2010 11:46 am
0
0
Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"
สำหรับผม หุ้น VI คือ หุ้นอนาคตธุรกิจดี ในราคาที่ลงทุนได้ หุ้นอนาคตธุรกิจดี คือหุ้นที่เรามีความเข้าใจในตัวธุรกิจ ว่าอนาคตมันจะดีขึ้นได้อย่างไร กำไรมันจะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร มันเปนไปได้แค่ไหนที่ธุรกิจมันจะดีขึ้นอย่างที่เราคิด ในราคาที่ลงทุนได้ คือ เราต้องรู้ว่าเราคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนนี้แค่ไหน ราคาปัจจุบันเปนเท่าไร มันคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่ที่ราคาเท่าไร
โดย
kmphol
เสาร์ ธ.ค. 11, 2010 2:33 pm
0
0
Re: พี่ๆเพื่อนๆถือหุ้นกี่ตัว และ top3 คิดเป็นกี่ %
ถือ 10 ตัว ทอปไฟว์คิดเปน 80เปอเซนของพอรต ครับ
โดย
kmphol
ศุกร์ ธ.ค. 10, 2010 2:34 pm
0
0
Re: หุ้นตัวเล็ก VS หุ้นตัวใหญ่ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ปีนี้เห็นวีไอ หุ้นเล็ก วิ่งกระจายหลายร้อยเปอร์เซน ได้ฟังแล้วก็อยากได้แบบเขาเหมือนกัน แต่มาลองนั่งคิด นั่งนึกถึงคำที่ ดร นิเวศน์ สอนไว้ เดี๋ยวนี้ก็เลยเฉยเฉย ใครจะได้อะไร หลายร้อยเปอรเซนแค่ไหน ก็เรื่องของเขา แค่เราลงทุนแล้วรู้สึกสบายใจ ความเสี่ยงต่ำ เน้นเรื่องการอย่าขาดทุน มากกว่าการหวังผลตอบแทนสูงสูง เน้นเรื่องการบริหารความเสี่ยงมากกว่าบริหารผลตอบแทน เน้นเรื่องความสุขในการลงทุน มากกว่าความไม่สบายใจจากการลงทุน ขอรวยช้าช้า แบบปีละ10-15เปอเซนต์ แต่อนาคตรวยได้แน่นอน ดีกว่าต้องมานั่งเสี่ยงสูงสูงบนความไม่สบายใจเพราะว่าอยากรวยเร็ว จากหุ้นเล็ก เก็งกำไร ขอขับรถช้าช้า แล้วถึงที่หมายแน่นอน คงดีกว่าขับรถเร็วเร็ว แล้วแหกโค้งตายก่อนถึงที่หมาย
โดย
kmphol
ศุกร์ ธ.ค. 10, 2010 2:22 pm
0
0
Re: 1เด้ง 2เด้ง 3เด้ง 5เด้ง 10เด้ง
นักลงทุนคุยกัน เมื่อก่อน - พี่ถือตัวไหนครับ (ผมจะซื้อด้วย) เดี๋ยวนี้ - พี่เล็งๆตัวไหนครับ (ผมจะซื้อตัดหน้า) เมื่อก่อน - ตัวนี้พี่รอเก็บราคาเท่าไหร่ครับ (ขอMOS ปลอดภัย) เดี๋ยวนี้ - ตัวนี้พี่ตั้งเป้าราคาเท่าไหร่ครับ (โลภอยากรวยด้วย) เมื่อก่อน - พี่ว่าตัวไหนธุรกิจดี ราคาไม่แพงครับ เดี๋ยวนี้ - พี่ตัวไหนกำลังจะวิ่งครับ... ช่วงนี้ตลาดอยู่ในภาวะขาขึ้น การเก็งกำไรอาจได้รับผลตอบแทนมากกว่าการลงทุน สิ่งที่นักลงทุนคุยกัน จึงเปลี่ยนไปเปนแบบที่พี่เด่นว่าไว้
โดย
kmphol
เสาร์ ธ.ค. 04, 2010 5:43 pm
0
0
ถ้ามีคนสนใจ จะเรื่มเล่นหุ้นในวันนี้ พี่ๆเพื่อนๆ มีคำแนะนำใด
เล่นตอนนี้ได้ ถ้าชอบที่จะตกจากที่สูง
โดย
kmphol
ศุกร์ พ.ย. 12, 2010 1:49 pm
0
0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
มีเพือนมาขอคำแนะนำเหมือนกันครับผมก็แนะนำว่า ตลาดมันอยู่ที่สูงแบบนี้ ถ้าไม่ให้เสี่ยงมากก็ค่อยค่อย baht cost average ไปดีกว่า ถ้าคิดจะลงทุน แต่ถ้าเข้ามาเก็งกำไรก็ต้องคัทลอสให้เปน
โดย
kmphol
จันทร์ พ.ย. 08, 2010 1:29 pm
0
0
หุ้น VI ไม่ขึ้น ขึ้นแต่ตระกูล ป. กับแบงค์ เอาไงดีครับพี่น้อง
[quote="Pu"]แล้วทำไม จขกท. ถึงคิดว่า PTT (และบริษัทในเครือ) แลหุ้นธนาคาร ไม่ใช่หุ้นที่ VI ถือละครับ
โดย
kmphol
เสาร์ พ.ย. 06, 2010 12:48 pm
0
0
Asset Allocation:ValueWay มนตรี นิพิฐวิทยา
ทั้งหมดนี้เพื่อเน้นบริหารความเสี่ยงมากกว่าการบริหารผลตอบแทน ชอบประโยคนี้ของพี่มนจังเลยครับ
โดย
kmphol
พฤหัสฯ. พ.ย. 04, 2010 4:42 pm
0
0
ขออำลาครับ
ขอบคุณพี่หมอสำหรับความเสียสละที่มีให้กับสังคมนี้ครับ
โดย
kmphol
จันทร์ พ.ย. 01, 2010 3:35 pm
0
0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
ตอนที่เกิดวิกถตสิ่งที่เจ็บใจที่สุดคือ มีแต่ราคาหุ้นที่เน่าลงคามือเต็มปอด แต่กลับไม่มีเงินสดไว้ตักตวงโอกาสตรงนั้น ค่าเสียโอกาสมันมหาศาลกว่าปันผลของกิจการที่ถืออยู่มากนัก จะใช้มาร์จินก็ผิดหลักการลงทุนที่ตัวเองวางไว้ ถึงตอนนี้ก็เลยถือหลักต้องเตรียมเงินสดบางส่วน ไว้รับวิกถตบ้าง ตอนที่เรารู้สึกว่าเริ่มหนาวแล้ว(หุ้นมันอยู่ที่สูงก็เลยหนาว)เหมือนการเตรียมเสบีนงไว้รับพายุที่จะมาเมือไรไม่รู้แต่รู้ว่าสักวันมันต้องมา แต่ก็ยังยึดถือหลักการลงทุนต่อเนื่องในกิจการแบบระยะยาวอยู่ ไม่คิดจะออกจากตลาด และพอรตหุ้นต้องโตขึ้นทุกปี และขอโตมากมากในปีที่เกิดวิกถตในตอนที่หุ้นถูกแบบสุดสุดด้วยการใส่แคชเข้าไปในปีนั้น เพื่อการเติบโตทวีคูณในอนาคต ตอนที่หุ้นอยู่ในที่สูงขอโตอย่างพอเพียงก็เพียงพอแล้วครับ
โดย
kmphol
ศุกร์ ต.ค. 29, 2010 1:29 pm
0
1
ห้างหุ้นส่วน กับ คณะบุคคล เสียภาษีเหมือนบุคคลธรรมดาหรือเปล่า
ผมว่า รุ่นพ่ วีไอ เจอบท หมาหยอกไก่ครับ หากเอาทนายมาแย้งอาจได้ยินคำพูดที่ว่า ไปถามหัวหน้ามาแล้วหัวหน้าบอกเครดิตได้ กรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว คือไม่ได้เครดิตภาษี หากเป็นเมืองนอกคงหาทนายที่เก่งที่สุดค่าตัวแพงๆ มาฟ้องเพ่งกับเจ้าหน้าที่ที่ทำให้เสียหาย และเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด รวมทั้งค่าทนายด้วยครับ รู้สึกว่าทางสรรพากรเขาจะตอบกลับมาเปนหนังสืออย่างเปนทางการว่าไม่คืนภาษีจากปันผลให้คณะบุคคลที่ลงชื่อโดยหัวหน้าสรรพากรเขตครับ ผมให้ข้อมูลก็เพื่อเตือนเพื่อนวีไอที่วางแผนคืนภาษีผ่านคณะบุคคลว่าสรรพากรอาจแย้งแล้วไม่คืนให้แบบนี้ในปี53ก็ได้ ส่วนใครที่ไม่ยอมรับการไม่คืนภาษีให้แบบนี้ก็คงต้องไปฟ้องศาลเอาเอง อาจชนะหรือแพ้ผมก็ไม่รู้ได้ แต่สำหรับผมที่รู้ข้อมูลตรงนี้ผมก็วางแผนภาษีสำหรับปี53ใหม่ก็เท่านั้นเอง เพราะปี52 คณะบุคคลของผมก็ได้ภาษีคืนตามปกติ ปี53นี้ผมได้เตรียมตัวสำหรับเคสแบบนี้ไว้แล้ว เลยเอามาฝากเตือนกันครับ :o
โดย
kmphol
พฤหัสฯ. ต.ค. 21, 2010 11:32 am
0
0
ห้างหุ้นส่วน กับ คณะบุคคล เสียภาษีเหมือนบุคคลธรรมดาหรือเปล่า
ขอถามครับ หสม ขอคืนเครดิตภาษีในนาม หสม ได้ป่าวครับ เพราะต่อไปนี้คณะบุคคลจะขอคืนขอคืนเครดิตภาษีในนามคณะบุคคลไม่ได้อีกแล้ว ต้องขอคืนในนามบุคคลที่อยู่ในคณะบุคคลนั้นที่ได้รับสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้น ขอทราบที่มาของข้อมูลครับ มีรุ่นพี่วีไอท่านหนึ่งที่คณะบุคคลเขาไม่ได้รับคืนภาษีปี52 โดยสรรพากรขุดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาแย้งเรื่องเครดิตภาษีคืนของคณะบุคคลดังนี้ครับ มาตรา 1118 อันหุ้นนั้น ท่านว่าจะแบ่งแยกหาได้ไม่ ถ้าบุคคลมีจำนวนแต่สองคนขึ้นไปถือหุ้น ๆ เดียวร่วมกัน ท่านว่าต้องตั้งให้คนใดคนหนึ่งในจำนวนนั้นแต่คนเดียวเป็นผู้ใช้สิทธิในฐานเป็นผู้ถือหุ้น อนึ่ง บุคคลทั้งหลายซึ่งถือหุ้น ๆ เดียวร่วมกัน ต้องร่วมกัน...รับผิดต่อบริษัทในการส่งใช้มูลค่าของหุ้นดูเพิ่มเติม แล้วสรรพากรท่านก็สรุปว่า บุคคลในมาตราข้างต้นต้องเปนบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเท่านั้น แต่คณะบุคคลถือเปนบุคคลมีจำนวนแต่สองคนขึ้นไป ดังนั้นเงินปันผลที่ปันผลให้คณะบุคคล จึงต้องตั้งให้คนใดคนหนึ่งในคณะบุคคลเปนผู้ใช้สิทธิในฐานผุู้ถือหุ้นขอเครดิตภาษีคืน จะขอเครดิตภาษีคืนในนามคณะบุคคลไม่ได้ สรุปว่าสรรพากรเพิ่งตื่น แล้วก็ตื่นแบบฉลาดขึ้นมากด้วยที่หาวิธีไม่คืนเครดิตภาษีให้คณะบุคคลได้แบบถูกกฎหมาย สรรพากรท่านว่าที่เคยคืนไปแล้วก็ให้แล้วกันไป แต่ต่อไปจะไม่คืนให้อีกเลี้ยวนะจาบอกให้ :roll:
โดย
kmphol
พุธ ต.ค. 20, 2010 3:53 pm
0
0
346 โพสต์
of 7
ต่อไป
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
kmphol
กลุ่ม:
สมาชิก
ความถนัด:
Own business
ที่อยู่:
BKK
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 12:59 pm
ใช้งานล่าสุด:
เสาร์ ส.ค. 13, 2022 7:13 pm
โพสต์ทั้งหมด:
417 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.02% จากโพสทั้งหมด / 0.07 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว