หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Newbee
รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย
Joined: พุธ ก.ย. 15, 2004 8:06 am
148
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Newbee
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
จิบเบียร์ Q2 5 กย. 2551 ตอนของถูกเต็มตลาด
จองหนึ่งที่ครับ
โดย
Newbee
พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 12:36 pm
0
0
vote ผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับ Webและสมาชิก มากที่สุดในแต่ละQ
พี่ฉัตรชัย ครับ
โดย
Newbee
พุธ พ.ค. 28, 2008 7:42 am
0
0
จิบเบียร์แกล้มงบการเงิน
ขอบคุณทีมงานมากๆครับ กลับถึงบ้านตีเกือบสามแนะ สนุกมากๆๆๆๆๆ ไตรมาสหน้ามีอีก....
โดย
Newbee
อังคาร ส.ค. 21, 2007 4:58 pm
0
0
ศุกร์ที่17สค.จิบเบียร์แกล้มงบการเงิน Q2/2007
กำลังจะออกจากที่ทำงาน เย็นๆ เจอกันคับๆๆๆๆๆ :lol: :lol:
โดย
Newbee
ศุกร์ ส.ค. 17, 2007 3:42 pm
0
0
ขอแสดงความยินดีสำหรับหนังสือ ทฤษฎีเกมส์ พิมพ์ครั้งที่ 8
ขอแนว เสดสาด หรือ เรื่องของหุ้นในมุมมองของ fund manager ชื่อหนัวสือ เอาตัวรอดด้วยทฤษฎีเกมส์ ISBN : 974-93077-o-4 ผู้แต่ง : นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
โดย
Newbee
อังคาร ส.ค. 07, 2007 7:39 pm
0
0
ศุกร์ที่17สค.จิบเบียร์แกล้มงบการเงิน Q2/2007
ไปด้วยค๊าบ... พี่พอใจ...
โดย
Newbee
อังคาร ส.ค. 07, 2007 4:55 pm
0
0
รับสั่งจอง Value Investing : From Graham to Buffett ฉบับแปล
จองหนึ่งเล่มครับ
โดย
Newbee
เสาร์ ส.ค. 04, 2007 10:34 pm
0
0
ลงทุนในหุ้นที่ๆคุณไปรับประทานอาหาร
อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับร้าน OISHI กับ OISHI GRAND (ยังเปิดอยู่หรือเปล่า) และ ยอดขาย จำนวนคนเข้าเป็นอย่างไรบ้าง ไปกิน OISHI ครั้งสุดท้ายเกือบสองปีแล้ว...
โดย
Newbee
พฤหัสฯ. ก.ค. 19, 2007 9:56 pm
0
0
จิบเบียร์แกล้มงบการเงิน
เอา RATCH EPS Q2=1.42 บาท (เดาล้วนๆ...) อยากดื่มเบียร์ ฟรี...
โดย
Newbee
พุธ ก.ค. 18, 2007 1:13 pm
0
0
นักลงทุน VI กับ การให้รางวัลชีวิต !!!!
ส่วนใหญ่ให้รางวัล กับ ชีวิตและ ครอบครัว โดยพาไปเที่ยว บางครั้งก็ไปอบรมหาความรู้ใหม่ๆ นอกจากนี้ทุกๆวันเกิดของทุกปี ก็จะหารางวัลพิเศษๆ ให้ตัวเองเหมือนกัน
โดย
Newbee
อังคาร ก.ค. 17, 2007 1:34 pm
0
0
ลงชื่ออบรมหลักสูตรบัญชีพื้นฐาน
มาการันตรี อาจารย์มน(ผู้ให้จริงๆ) ได้นำวิชาที่อาจาร์มอบให้ มาใช้ในการลงทุน มีเงินไปลง Biz Model Meeting และ ได้จิบเบียร์ด้วย มันเยี่ยมจริงๆครับ
โดย
Newbee
เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 4:43 pm
0
0
workshop วิเคราะห์หุ้นตาม BIZ MODEL
สนใจ IRC กับ AEONTS เหตุผล - IRC ทนร้อน ทนหนาว มาได้นานพอควร ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่มีกำไรลดลงบ้าง และ อยู่ยงคงกระพัน หุ้นราคาตกไม่มาก เพราะอะไร - AEONTS สนใจใน บัตรอิเล็คทรอนิคส์ ยังไม่เข้าใจธุรกิจมากนัก ยอดขายโตต่อเนื่อง กำไรดี แม้มีเหตุการณ์หลายอย่าง ที่เกิดขึ้น (ที่ไม่เข้าใจอีกอย่างคือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบจากตัวลูกหนี้การค้า หรือเป็นเพราะ บัตรอิเล็คทรอนิคส์ จะต้องเป็นแบบนี้...)
โดย
Newbee
พุธ มิ.ย. 27, 2007 3:21 pm
0
0
คนที่ไปงาน vs คนที่สั่งซื้อดีวีดี
ชอบเหตุผลทั้งสามข้อ ของพี่พอใจ และ ชอบงานจิบเบียร์ตอนเย็นดูเป็นกันเองดี การที่มีworkshop ก้ทำให้รู้จักหุ้นที่หลากหลายประกอบเหตุผลอีกมากมาย สุดท้ายอยากเห็นหน้าตัวเองใน ดีวีดี ของงานทีวีไอ
โดย
Newbee
อาทิตย์ มิ.ย. 24, 2007 4:56 pm
0
0
แล้วจะขายตอนไหนดี++++
:roll: สุดยอดเลยครับ ได้ข้อสรุปของกูรู หลายๆท่าน
โดย
Newbee
พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 8:36 pm
0
0
แล้วจะขายตอนไหนดี++++
พี่ chartchai madman ขอบคุณมากๆ ครับ เยี่ยมจริงๆ ครับ
โดย
Newbee
จันทร์ มิ.ย. 18, 2007 8:50 pm
0
0
เกษียณรวย (?) ด้วย DCA
[quote="chatchai"] ผมไม่เข้าใจว่า
โดย
Newbee
จันทร์ มิ.ย. 18, 2007 12:50 pm
0
0
เกษียณรวย (?) ด้วย DCA
จากกราฟคิดอีกแบบได้หรือว่า ถ้าเราซื้อหุ้นใน set ที่มี weight สูงๆ กับตลาดสามสี่ตัว แล้วซื้อด้วยวิธี Dollar cost average อย่างสมำเสมอ ก็จะได้ผลงานที่มีผลตอบแทน 10% กว่าๆ (ม่รู้ว่าจะถูกหรือเปล่า คิดเฉยๆ ไม่ได้ลงมือทำ ) แต่วิธีนี้ต้องใช้วินัยในการจัดกรสูงมากๆๆๆ
โดย
Newbee
อาทิตย์ มิ.ย. 17, 2007 9:36 pm
0
0
Quick Ratio สำคัญไฉน??
[quote="chatchai"]ถ้าจะพิจารณาเรื่องสภาพคล่อง
โดย
Newbee
ศุกร์ มิ.ย. 15, 2007 10:27 pm
0
0
Re: NinjaTurtle
ถ้าโหดลดเองได้ก็จัดการเลยครับ ตาม URL พี่มนให้ไว้ แต่ถ้าติดอยากให้ส่งให้>>>>ช่วยบอกผมด้วยว่าจะให้ส่งไปที่ไหน
โดย
Newbee
ศุกร์ มิ.ย. 15, 2007 3:08 pm
0
0
NinjaTurtle
พี่นินจาเต่าครับ ขอ file ด้วยครับ
โดย
Newbee
พฤหัสฯ. มิ.ย. 14, 2007 11:45 pm
0
0
แล้วจะขายตอนไหนดี++++
ขอบคุณพี่ๆ ที่แนะนำครับ คราวนี้คงได้ขายของแพงบ้างแล้ว :lol: :lol: :lol:
โดย
Newbee
พฤหัสฯ. มิ.ย. 14, 2007 11:36 pm
0
0
ดาวจรัสแสง แห่ง TVI Meeting
[quote="por_jai"]เมื่อไหร่ จะมาละครับ
โดย
Newbee
พฤหัสฯ. มิ.ย. 14, 2007 1:36 pm
0
0
เครือข่ายการลงทุน
1.จบวิศวะ อิเล็ค 2. ทำงานด้านโรงกลั่น 3.ถนัดชอบอ่าน และ ลอกการบ้าน
โดย
Newbee
อังคาร มิ.ย. 12, 2007 12:06 am
0
1
Re: แนะนำตัว
จบ ปริญญาหลายใบทางโยธาครับ ปัจจุบันทำงานจับฉ่าย ชำนาญทางด้านคาราโอเกะครับ ขนาดทำงานจับฉ่าย น๊ะเนี้ย ยังเสียงดีขนาดนี้
โดย
Newbee
อังคาร มิ.ย. 12, 2007 12:03 am
0
0
ความหมาย กับ ความต่าง capital Insentive กับ labour Intensive
ขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยให้ความรู้ครับ พี่ por_jai เอาแบบง่ายขึ้นมาอีกหน่อย ที่ทำงานพี่ newbee ที่ไทยออยล์ ผมถือว่าเป็น capital intensive ครับ คือเฉพาะถังความดันที่พี่ซื้อจากบริษัทของผม (ว่าเข้านั่น) ลูกนึงก็เป็นร้อยๆล้านแล้วครับ ไม่มีcapital จะทำได้ไง ส่วน labour intensive ชัดๆในอดีตก็ เสื้อผ้านี่แหละครับ อย่างอีกบริษัทนึงของผม(ว่าไปนั่น)ที่ตอนแรกทำท่อทองแดงอยู่อย่างเดียว ตอนนั้นก็ labour intensive เห็นๆเลย เห็นภาพเลยครับพี่ ตอนเห็นหน้าพี่ นึกว่าประมาณ 35-40 พอทราบว่าลูกชายจะ 19 แล้ว ทำไมหน้าเด็กจังเลยพี่ ขอถามเคล็ดลับบ้างครับ :lol: ผมว่าเคล็ดหนุ่มเสนอดีกว่า ตัวหุ้นอีกครับ คาราวะอีกครั้ง ขอบคุณ พี่เก๋า พี่ woody พี่ sunrise และทุกๆ ท่านด้วยครับ
โดย
Newbee
จันทร์ มิ.ย. 11, 2007 1:06 pm
0
0
สัมมนา Creating Blue Ocean Business สร้างธุรกิจแนวคิด mai
สำหรับศิษย์รุ่นที่สอง ต้องเตรียมตัวอะไรบ้างครับศิษย์พี่ ก่อนที่ได้เจอกับ อาจารย์ต่อไป...
โดย
Newbee
จันทร์ มิ.ย. 11, 2007 12:13 am
0
0
แล้วจะขายตอนไหนดี++++
บางครั้ง... ในฐานะ VI ฝึกหัด ก็ยังคาดการณ์เกี่ยวกับ Trend ประเมินมูลค่ายังไม่เก่งนัก สรุปคือ ขายหมูบ่อยๆๆ :lol: อยากทราบประเด็นเพิ่ม ตรงที่ พื้นฐานเปลี่ยนวิเคราะห์ด้านใดบ้างครับ...
โดย
Newbee
จันทร์ มิ.ย. 11, 2007 12:09 am
0
0
..สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าร่วมงาน meeting เช่นเดียวกับผม
มีไฮไลท์ อีกงานที่ร้านนาทอง คนเต็มห้องบรรยากาสอบอุ่น หลักจากที่บางคนจิบน้ำ พี่ๆบางท่านจิบเบียร์ ก็คุยกันเรื่องหุ้นที่น่าสนใจ กลยุทล์ต่างๆ แมเคล็ดลับอีกมากมาย ขอบคุณอาจารย์ พี่ๆน้องๆ ทุกๆ ท่านครับ ขอให้จัดอีกชอบมากๆๆๆ
โดย
Newbee
เสาร์ มิ.ย. 09, 2007 11:43 pm
0
0
สัมมนาการวิเคราะห์ธุรกิจเพื่อการลงทุน รอบ 2
การอบรมรอบสองในวันที่ 23 มิ.ย. เต็มหรือยังครับ ถ้ายังไม่เต็มขอจองหนึ่งที่ครับ โอนเงินไปให้วันจันทร์ครับ
โดย
Newbee
เสาร์ มิ.ย. 02, 2007 10:31 am
0
0
จะขายทิ้ง 1 ตัว TOP กับ RRC ขายตัวไหนดี
แนะนำให้ขาย RRC ครับ เพราะรู้สึกไม่ทันไร ประชุมปีนี้จะให้ออก ESOP ซะแล้ว (เข้าตลาดมาไม่ถึงปีดี) TOP มี ESOP พร้อม IPO อยู่แล้ว RRC กำลังออก มองธุรกิจดีกว่าว่าเป็นอย่างไร RRC เป็น PURE โรงกลั่นมี UNITs ที่เป็น conversion TOP มีปิโตรเคมี โรงกลั่น ไฟฟ้า ซึ่งเป็น Cycle เหมือนกันแต่ ระยะเวลาต่างกัน
โดย
Newbee
เสาร์ เม.ย. 28, 2007 11:40 am
0
0
ไปประชุมผู้ถือหุ้นกันมา บริษัทเค้าแจกของที่ระลึกบ้างเปล่า?
AHC ไม่มีของแจก ได้ความรู้สึกดีๆ กลับมา ฮิฮิ
โดย
Newbee
อังคาร เม.ย. 24, 2007 1:36 pm
0
0
ถามพี่สุมาอี้ ทำไมจะออก GB 4 แสนล้าน ??
ฝากถามครับ จำนวน Bond ที่ ธปท ออกมาตั้งแต่เกิดวิกฤต คงมากมายอยู่ ภาระดอกเบี้ยก็คงมากตามไปด้วย แล้วรัฐ จะมีวิธีการจัดการอย่างไร นอกจากใช้วิธีขึ้นภาษี???
โดย
Newbee
พุธ เม.ย. 11, 2007 4:54 pm
0
0
เอาละครับ
ผมโหวตให้พี่หมอ 1 เสียงครับ เป็นประธาน พี่สุมาอี้ เป็นทีมงาน ครับ แบบว่าโลภนิดหน่อย
โดย
Newbee
ศุกร์ มี.ค. 16, 2007 3:19 pm
0
0
ขอเปิดประเด็นเรื่อง Biz Modelต่อ
มาสมัครเรียนครับ แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม http://www.businessthai.co.th/content.php?data=410224_Smart%20SMEs
โดย
Newbee
ศุกร์ มี.ค. 16, 2007 10:17 am
0
0
ต้องการหุ้นเด็ดแบบ "ฟันธง" เชิญทางนี้
งานนี้กลับมาใช้ login ชื่อ CK เลยเหรอเนี่ย แสดงว่าถึงเวลาแล้ว ผมคงได้ข้อมูลดี ไปวิเคราะห์อีกเพียบ
โดย
Newbee
อาทิตย์ มี.ค. 04, 2007 10:32 pm
0
0
การดำเนินธุรกิจ(Business Model) ควรพิจารณาอย่างไร
ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านครับ ได้ความรู้อีกเพียบ แต่ก็รอ อาจารย์ใหญ่มาชี้แนะเพิ่มครับ แต่ตัวผมเองก็ต้องหาความรู้เพิ่มเติมด้วย กลัวอาจารย์ดุ ฮิฮิ
โดย
Newbee
อาทิตย์ มี.ค. 04, 2007 10:28 pm
0
0
มาสารภาพความผิด เรื่อง stpi
การเชียร์แบบมีเหตุมีผล ซึ่งถ้ามีการเชียร์ออกนอกหน้า ไม่มีเหตุผล ก็ต้องสร้างวัฒนธรรมให้มีการแย้งได้ มันคงยากที่จะบอก ว่าอันไหนมีเหตุผล อันไหนออกนอกหน้า บางครั้งผู้เขียนอาจไม่ได้สื่ออย่างที่เราเข้าใจก็ได้ ห้ามด่ากลับ หรือประชดประชัน อันนี้เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
โดย
Newbee
เสาร์ มี.ค. 03, 2007 10:04 pm
0
0
"สอนจับปลา แทนการให้ปลา" อาจจะถึงเวลาแล้วครับ
เห็นด้วย กับพี่ ETO ครับ อยากเสนอคือ นำกระทู้เก่าๆของพี่ฉัตรชัยที่พูดถึง FCF และ Ratio ต่างๆ รวมทั้ง กระทู้ที่พี่ฉัตรชัยกล่าว(ในงาน TVI ที่ ดร.นิเวศ มาพูด...) โดยทำเป็น link ไว้ มันอาจไม่ใช่กระทู้ที่ฮิต แต่ผมว่าอาจจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย (คิดถึงกระทู้เก่าๆๆๆ...)
โดย
Newbee
พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 10:25 pm
0
0
value stock ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
PB อยู่ในตลาดที่กำลังโต บริษัทมีนวัตกรรมใหม่ให้กับสินค้าอยู่เสมอ และกลายเป็นสินค้าที่ครองใจผู้บริโภคส่วนใหญ่เอาไว้ได้ ย้อนไปเมื่อปลายปี 45 PB ได้เข้าตลาดมาสร้างสีสัน ซึ่งจากนั้นบริษัทก็ประกาศผลประกอบการเพิ่มขึ้น 4 ไตรมาสตลอดปี 46 ชะงักไปเล็กน้อยใน Q1/47 (กำไรตกลงแค่ 2%) จากนั้นก็เดินหน้าเป็นกระทิงอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุด จะดอกเบี้ย น้ำมัน หรือเงินเฟ้อ ก็ฉุดบริษัทไว้ไม่ได้ กำไรได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 11 ใน Q4/49 และมีแนวโน้มว่ามันยังไม่หยุด ถ้าเรายืนอยู่กับผู้ชนะในระยะยาวเราจะได้รับผลตอบแทนเช่นนี้ แล้วคิดอย่างไร กับ PR เห็นว่าขยายการผลิตอยู่ เคยถืออยู่ ส่วนตัวเริ่มชอบ น้ำมันพืช ที่มีอยู่ 2 ตัว คือ LST และ TVO แต่กำลังดูใจกันอยู่ LST มีปัญหาเรื่อง จำนวนเปอเซ็นต์ทีถือของลำสูง TVO กังวลเรื่องราคากากถั่วเหลือง
โดย
Newbee
พุธ ก.พ. 28, 2007 1:10 pm
0
0
หุ้นตัวไหน เป็นหุ้นตัวแรกที่คุณซื้อครับ
CPF กับ AMATA CPF เพราะคำว่าครัวโลก AMATA ที่ 3.9 บาท เพราะขับรถผ่านเห็นกำลังขยาย ขายไปนานแล้ว
โดย
Newbee
พุธ ก.พ. 14, 2007 9:07 pm
0
0
เห็นคนจบการศึกษามากจังคับ
ดูรายการของ TVบูรพา น่าจะเป็นรายการ "กบนอกกระลา" คุณหมอจบใหม่เรียนตั้งหลายปี ทำงานที่โรงพยาบาลรัฐที่สงขลาเงินเดือนประมาณ 9 พันกว่าบาทเองรวมเบี้ยเลี้ยงที่อยู่เวรอีกนิดหน่อย ตรวจคนไข้บางวันเกือบร้อยคน ผมว่าถ้าแก้คงต้องทำหลายๆอย่าง รวมทั้งระบบเงินเดือน การศึกษา บาง ม.คนจบ MBA MPA รับปริญญาเกือบ 500-600 คน :lol:
โดย
Newbee
อังคาร ม.ค. 30, 2007 12:58 pm
0
0
ผมเห็นข้อดีเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ของความปั่นป่วนน่ากลัวช่วงนี้
ไม่ใช่คาดหวังแต่ "คนดี" ขี่อัศวินม้าขาวเข้ามา ไม่ต้องสนใจระบอบ เกลียดใครก็ทำลายระบอบเพื่อเอามันออกไป ให้ "คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี" ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เข้าสู่วงจรเดิมๆเหมือนที่จอมพลบางคนและ รสช และ ฯลฯ ก็เคยเข้ามาอย่างอัศวินม้าขาวเพื่อ ""ปราบคนไม่ดี" มาก่อน แต่สุดท้ายก็ลงเอยอย่างคนละเรื่องเช่นเคย เป็น วงจรอุบาทว์ ไปเรื่อยๆ ชอบครับ ตอนรัฐบาลชุดที่แล้ว ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ตรงไหน ยังมีคนตรวจสอบได้บ้าง แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะตรวจสอบอย่างไร ใช้งบอะไรบ้าง เท่าไหร่หรือไม่จำกัดก็ไม่รู้ จะร่างรัฐธรรมนูญ หรือ Copy ก็ไม่อาจทราบได้ ผู้รู้ท่านบอกว่า...เหมือน... "กบเลือกนาย" "เตะหมูเข้าปากหมา"
โดย
Newbee
จันทร์ ม.ค. 15, 2007 12:42 pm
0
0
* * * จิบกาแฟ แล เศรษฐกิจ * * *
อีกแบบ ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10511 จาก "ชิลีโมเดล" ถึง "ธปท.โมเดล" มาตรการสกัดเงินร้อนจาก ตปท. ไฉนตลาดหุ้นไทยโดนลวกจนสุก? ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างหนัก อันเนื่องมาจากปัจจัยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้เงินทุนต่างประเทศไหลออกจากตลาดสหรัฐอเมริกา ทะลักเข้ามาลงทุนในตลาดแถบเอเชียแทน ซึ่งประเทศไทยก็ถือเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ประสบภาวะเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาอย่างหนัก จนส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไม่หยุด จากระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์มาแตะระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ จนทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในฐานะผู้กำกับดูแลโดยตรง จำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการขั้น "รุนแรง" นั่นคือ การประกาศเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2549 ในการดูแลเงินทุนนำเข้าระยะสั้น เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท เนื้อหาหลักของมาตรการ คือ การควบคุมการนำเงินดอลลาร์สหรัฐมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทผ่านสถาบันการเงิน โดยลูกค้าที่ประสงค์จะนำเงินดอลลาร์สหรัฐมาแลกเป็นเงินบาท ในวงเงินที่เกินกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะต้องถูกหักเงินจำนวน 30% มาเก็บไว้ที่ธปท. เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อพิสูจน์ว่า เงินดังกล่าวนำเข้ามาอยู่ในเมืองไทยเพื่อลงทุนจริง ๆ ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไรเงินบาท โดยลูกค้าจะได้รับเงินบาทแลกเปลี่ยนไปเพียง 70% ของวงเงินทั้งหมด ต่อเมื่อครบกำหนด 1 ปีจึงจะมาพิสูจน์แล้วจะได้รับเงินที่เหลืออีก 30% คืนไป นั่นหมายความว่า หากลูกค้ารายนั้น ๆ ขอเงินคืนก่อนครบ 1 ปี จะได้รับเงินคืนเพียง 2 ใน 3 ของเงินที่ถูกหักไว้ ซึ่งธปท.ระบุว่า ผลประโยชน์ที่ได้รับมา จะใช้เพื่อประโยชน์ของรัฐและสาธารณชนต่อไป ปฏิกริยาต่อมาตรการดังกล่าว แสดงให้เห็นอย่างรุนแรงในวันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 19 ธันวาคม 2549 ดัชนีตลาดหุ้นร่วงลงกว่า 100 จุด จนทำให้ต้องหยุดพักการซื้อขาย 30 นาทีตามเกณฑ์เซอร์กิต เบรกเกอร์ ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาเกือบ 1 บาท มาแตะที่ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ มาตรการดังกล่าวไม่ใช่มาตรการที่ธปท.คิดขึ้นเอง แต่เป็นมาตรการที่ประเทศชิลีเคยนำมาใช้เพื่อสกัดกั้นการทะลักเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศในช่วงปี 2533 ส่งผลให้ค่าเงินเปโซของชิลีแข็งค่าขึ้น ขณะที่ราคาสินทรัพย์ภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก อันเนื่องจากมาจากเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุน ทำให้ทางการหวั่นเกรงว่า การกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศที่มีมากเกินจริง อาจนำมาซึ่งภาวะฟองสบู่ได้ ซึ่งประกาศใช้มาตรการคุมการนำเข้าเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศเมื่อปี 2534 ประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการด้านภาษี เรียกเก็บภาษี (Stamp Tax) สำหรับเงินกู้จากต่างประเทศระยะสั้น ที่อัตรา 1.20% 2.มาตรการกันเงินทุนระยะสั้นไว้ส่วนหนึ่งมาฝากไว้กับทางการ (Unremunerated Reserve Requirement) โดยเริ่มต้นทางธนาคารกลางของชิลีกำหนดให้นำเงินส่วนหนึ่งของเงินกู้จากต่างประเทศที่เป็นระยะสั้น มาฝากไว้ที่ธนาคารกลางเป็นเวลา 1 ปี ในอัตรา 20% ของเงินกู้ทั้งหมด แต่ปรากฎว่า ในช่วงแรกมาตรการไม่ค่อยได้ผลในการควบคุมการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น ปีต่อมาทางธนาคารกลางชิลีจึงได้ปรับเพิ่มการกันเงินจาก 20% เป็น 30% ต่อมาปี 2541 หลังวิกฤตต้มยำกุ้งที่เริ่มจากประเทศไทยลามไปสู่ตลาดทั่วโลก ทางธนาคารกลางชิลีจึงได้ปรับลดอัตราการกันเงินดัวงกล่าวจาก 30% เหลือ 10% ผลดีของมาตรการดังกล่าว ทำให้เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศของชิลิ ปรับเป็นเงินทุนระยะยาวมากขึ้น โดยสัดส่วนเงินทุนเคลื่อนย้ายระยะยาวเพิ่มจากระดับ 23% เมื่อปี 2533 เป็น 62% ในปี 2540-2541 ช่วยลดปัญหาความไร้เสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจของชิลี เนื่องจากเงินทุนระยะสั้นจะมีความผันผวนมากกว่าเงินทุนระยะยาว นอกจากนี้ ประเทศชิลียังมีรายได้ ในรูปของภาษีที่เรียกเก็บ และรายได้จากอัตราดอกเบี้ยจากการนำเงินที่กันเอาไว้ไปฝากหาประโยชน์ รวมแล้วมีรายได้ถึง 355 ล้านเหรียญสหรัฐ ในทางตรงข้าม มาตรการดังกล่าวก็ส่งผลเสียเช่นเดียวกัน กล่าวคือ การกันเงินส่วนหนึ่งของเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนสูงขึ้นกว่า 20% และที่สำคัญคือ ผลกระทบต่อตลาดหุ้น โดยตลาดหุ้นชิลีในขณะนั้นก็ปรับลดลงเช่นเดียวกัน แต่ไม่รุนแรงเป็น 100 จุดเหมือนตลาดหุ้นไทย นั่นเป็นเพราะโดยพื้นฐานของการลงทุนในตลาดหุ้น จะมีสัดส่วนการลงทุนระยะสั้นไม่ถึง 1 ปีมากกว่าการลงทุนระยะยาวเพื่อหวังผลตอบแทนในรูปเงินปันผล ทำให้เมื่อเงินทุนต่างประเทศเห็นโอกาสในการนำเงินเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น นอกเหนือจากการซื้อตราสาร และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้ว การลงทุนซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหลักที่จะหาประโยชน์ได้รวดเร็ว และคล่องตัวกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น ดังนั้น เมื่อถูกสกัดด้วยมาตรการกันเงินส่วนหนึ่งของมาฝากไว้ที่ธนาคารกลาง ก็ทำให้เงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาหาประโยชน์ในระยะสั้น ต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น และไม่คล่องตัว ไม่สามารถหาประโยชน์ได้เต็มร้อย ตลาดหุ้นก็ย่อมเป็น "ด่านแรก" ที่จะได้รับผลลบ เมื่อนักลงทุนต่างชาติตื่นตระหนก เทขายหุ้นเพื่อนำเงินทุนระยะสั้นกลับคืนไป แต่คำถามที่ว่า ตลาดหลักทรัพย์ตอบสนองมาตรการครั้งนี้อย่างหนัก โดยปรับลดลงอย่างรุนแรงกว่า 100 จุด จนต้องหยุดพักการซื้อขายเป็นเวลา 30 นาทีตามเกณฑ์เซอร์กิต เบรกเกอร์ เมื่อดัชนีหุ้นปรับลดลงถึงระดับ 10% ซึ่งเป็นครั้งแรกของตลาดหุ้นไทย หมายความว่า ตลาดหุ้นไทยมีเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศทะลักเข้ามาลงทุนมากกว่าตลาดหุ้นชิลี ใช่หรือไม่? หรือว่า ตลาดหุ้นไทยไร้เสถียรภาพ? นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) "มาตรการของธปท.เป็นสิ่งที่เหมาะสมและจำเป็นต้องดำเนินการ เพราะหากธปท.ไม่ออกมาตรการดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจมีปัญหาจากการเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยถือว่าไม่มีความรุนแรงเกินไปเพราะที่ผ่านมาทางการได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อดูแลค่าเงินบาท แต่ยังมีช่องทางในการเก็งกำไรค่าเงินบาท หากยังปล่อยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นจะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เก็งกำไรค่าเงินบาทเช่นเดียวกับช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ส่วนการปรับลดลงของราคาหุ้น ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้นเป็นเงินที่เข้ามาเก็งกำไร ดังนั้นเมื่อธปท.ออกมาตรการสกัดการเก็งกำไร นักเก็งกำไรจึงต้องมีการขายหุ้นออกเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา" นายตรรก บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) "มาตรการของธปท.ที่ประกาศใช้เป็นวิธีที่สามารถยับยั้งการเก็งกำไรค่าเงินบาทได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งดีกว่ามาตรการทางภาษี เพราะธปท.ต้องการระงับการเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่มาตรการภาษีเป็นเรื่องระยะยาวและซับซ้อน อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการดังกล่าวค่อนข้างมีต้นทุนที่สูงกว่าการดำเนินการด้านอื่น ซึ่งคาดหวังว่าธปท.จะไม่ใช้มาตรการนี้นานเกินไปและประกาศยกเลิกเมื่อค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เหมาะสม" นายตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ "ในทางเศรษฐศาสตร์ มาตรการดังกล่าวไม่ใช่สิ่งผิด และเหมาะสมสำหรับการดูแลเงินทุนระยะสั้นที่เข้ามาเก็งกำไร แต่ปัญหาคือ เป็นมาตรการที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้ผู้ต้องการเงินบาท และทำให้ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบด้วย เพราะเงินที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่เป็นเงินระยะสั้น ซึ่งธปท.น่าจะปรับปรุงมาตรการใหม่ โดยปรับลดเงินที่ถูกหักสำรองลงเหลือ 3-5% และมุ่งไปที่เงินที่ถือครองไม่เกิน 3-6 เดือนจะดีกว่า" นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการสภาหอการค้าไทย "หอการค้าไทยพอใจกับมาตรการนี้ ซึ่งเป็นมาตรการที่ได้ผล โดยขณะนี้ค่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงไป 40-50 สตางค์แล้ว ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นนั้น เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้น เป็นการปรับฐานดัชนีไปในตัวและส่งผลดีในระยะยาว เพราะหากภาคการส่งออกเดินหน้าต่อไปได้ เศรษฐกิจไทยก็จะดีขึ้น และมีผลต่อการลงทุนของต่างชาติในอนาคต "คนเล่นหุ้นคงต้องไม่ชอบมาตรการนี้ แต่สำหรับภาคส่งออกที่มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรวมอยู่ด้วย ก็จะได้ผลดี" นายอภิศักดิ์ เกี่ยวการค้า ผู้จัดการฝ่ายบริหารการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) "มาตรการของธปท.มีผลกระทบค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ยังไม่เคยมีการควบคุมเงินทุนไหลเข้ามาก่อน มีเพียงการควบคุมเงินทุนไหลออกเท่านั้น ซึ่งมาตรการนี้ทำให้ขั้นตอนการไหลเข้าของเงินทำได้ไม่สะดวกหรือเป็นคอขวดเพราะต้องขออนุญาตธปท.ก่อน"
โดย
Newbee
พุธ ม.ค. 03, 2007 9:23 pm
0
0
* * * จิบกาแฟ แล เศรษฐกิจ * * *
ผมยังมิอาจวิเคราะห์ได้ว่า นโยบายของ ธปท ถูกหรือผิด แต่การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญภายในชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมงเป็นเรื่องไม่น่ากระทำ เพราะการจะทำสิ่งที่สำคัญและกระทบกับหลายๆสิ่ง ควรจะวิเคราะห์ในแน่นอนก่อน และ อีกเรื่องคือ ในวันนั้นแม่ทัพที่สำคัญในการทำศึกกับไม่ได้อยู่ในที่ควรจะอยู่ กับไปทำธุระสำคัญที่ต่างจังหวัด มองเห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพที่จะพึ่งพิงได้ในยามยาก "มติชนรายสัปดาห์เรียกว่า นโยบายล่มปากอ่าว" "เอาความเห็นอีกแบบมาให้อ่าน" ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10511 ขจัดนักทุบค่าเงินบาท คอลัมน์ ทวนน้ำขวางโลก พิเชียร คุระทอง อย่าเพิ่งด่วนสรุปติเรือทั้งโกลนตำหนิธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างทันทีทันใดโทษฐานที่ออกมาตรการหวังสกัดนักเก็งกำไรค่าเงินบาทระยะสั้นจนส่งผลให้หุ้นไทยราคาร่วงรูดลงมาแบบถล่มทลายมากมายเป็นประวัติการณ์ ย้อนหลังไปในช่วงกลางปี พ.ศ.2540 ที่ฐานะการเงินการคลังของเราป่วยด้วยโรคที่เสียดสีกันว่าเป็นโรคต้มยำกุ้ง ไทยเราได้ประกาศให้ค่าเงินบาทของเราอ่อนลงตามความเป็นจริง จากที่เคยตรึงค่าเงินไว้ที่ 26 บาท แลกได้ 1 ดอลลาร์อเมริกัน ไทยได้ยอมปล่อยให้ค่าเงินบาทอ่อนลงไปตามกลไกตลาดซึ่งในช่วงนั้นต้องใช้เงินถึง 50 กว่าบาท จึงจะแลกได้ 1 ดอลลาร์ ช่วงนั้นคนที่ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกต้องเรียกลูกกลับมาเรียนเมืองไทยกันมากมายเพราะสู้ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าไม่ไหว ความผิดพลาดครั้งนั้นเกิดจากภาคธุรกิจเอกชนกู้เงินนอกเข้ามาใช้จนเกินตัวและธุรกิจบางภาคประสบความล้มเหลวจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดและประกอบกับเงินสำรองต่างประเทศของเราลดน้อยลง จากฐานะทางการเงินของชาติที่ง่อนแง่นลงเช่นนี้ คนหนึ่งที่มองเห็นก็คือพวกกองทุนต่างประเทศทั้งปวงที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ กองทุนเหล่านี้ก็ฉวยโอกาสเก็งกำไรค่าเงินทันทีด้วยการทิ้งเงินบาทซื้อดอลลาร์ กองทุนที่ถือหุ้นในตลาดไทยก็รีบขายหุ้นเพื่อเอาเงินบาทไปซื้อดอลลาร์ พวกเขาต้องรีบทำในขณะที่ใช้เงินบาทเพียง 26 บาท ยังแลกได้ 1 ดอลลาร์ เพราะถ้าช้าเกินไปให้ทางฝ่ายไทยลดค่าเงินบาทไปก่อนแล้วพวกเขาต้องใช้เงินบาทมากขึ้นจึงจะแลกได้ 1 ดอลลาร์ การทิ้งหุ้นของกองทุนต่างชาติทำให้หุ้นไทยร่วงติดต่อกันเหลือไม่ถึงครึ่งของดัชนีที่ขึ้นไปพันกว่าจุด แน่นอนความผิดพลาดในครั้งนั้นเป็นเพราะตัวเราเองทั้งธุรกิจภาคเอกชนและทางการไทยที่ไม่ดูแลฐานะการเงินการคลังให้ดีแต่กลับประมาทและย่ามใจ แต่ในส่วนของกองทุนจากต่างประเทศซึ่งเป็นนักเก็งกำไรค่าเงินข้ามชาติไปด้วยในตัวนั้น พวกเขาเป็นผู้ที่ลงดาบสองด้วยการรุมกันทุบหุ้นและทุบค่าเงินบาทจนฐานะทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเราถึงล้มละลาย ต้องซมซานกราบกรานไปกู้ไอเอ็มเอ็ฟที่ทำตัวเหมือนนายเงินออกมาตรการมากำราบเข้มงวดกับเราอย่างหนัก หลังจากความผิดพลาดในครั้งนั้นประเด็นหนึ่งที่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์พูดถึงกันอย่างมากคือ ไทยเราจะจัดการอย่างไรกับนักเก็งกำไรค่าเงินข้ามชาติในอนาคต ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็คือถ้าค่าเงินแข็งนักเก็งกำไรข้ามชาติก็สามารถเก็งกำไรได้และค่าเงินอ่อนนักเก็งกำไรก็สามารถทำกำไรได้เช่นกัน วิธีจัดการกับนักเก็งกำไรค่าเงิน ซึ่งรวมทั้งกองทุนจากต่างประเทศด้วยที่ได้มีการพูดถึงกันมากที่สุดในช่วงหลังโรคต้มยำกุ้งก็คือ วิธีการแบบชิลีซึ่งประเทศชิลีได้รับบทเรียนจากการทุบค่าเงินจากนักเก็งกำไรข้ามชาติก่อนไทยเรา ประเทศชิลีใช้วิธีการดัดหลังนักเก็งกำไรค่าเงินระยะสั้นด้วยการกักเงินนักลงทุนเหล่านี้ไว้จำนวนหนึ่ง ถ้าหากพวกเขานำเงินมาลงทุนเกิน 1 ปี พวกเขาก็จะได้เงินเหล่านี้คืนไปทั้งหมดแต่ถ้าหากพวกเขาลงทุนไม่ถึงปีเงินที่ถูกกักไว้ก็จะถูกหักไว้ส่วนหนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้นำมาตรการแบบชิลีมาบังคับใช้ในวันที่ 19 ธันวาคมที่เพิ่งผ่านมานี้เอง ในยามที่ค่าเงินบาทของเราเริ่มแข็งขึ้นเพราะฐานะเงินสำรองต่างประเทศของเรามากขึ้น เศรษฐกิจของเราดีขึ้นและเงินดอลลาร์อเมริกันอ่อนลง ภาวะเช่นนี้ทำให้กองทุนต่างประเทศและนักเก็งกำไรค่าเงินเห็นโอกาสที่จะนำเงินนอกเข้ามาขายซื้อเงินบาท ซึ่งจะทำให้เงินบาทของเราแข็งขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นโอกาสให้พวกเขาทำกำไรได้ในอนาคตข้างหน้าทั้งใกล้และไกล มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนดให้ผู้ที่นำดอลลาร์เข้ามาแลกเกิน 20,000 ดอลลาร์ขึ้นไปจะถูกกักไว้ร้อยละ 30 และจะได้คืนทั้งหมดในอีก 1 ปีขึ้นไป แต่ถ้ามาเอาคืนก่อนครบ 1 ปีก็จะถูกหักไว้ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 10 นั่นเอง ผลก็เป็นดังที่เกิดขึ้นในข่าว คือหุ้นไทยร่วงครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ แต่ไม่ใช่เรื่องที่คนไทยเราส่วนใหญ่ต้องตื่นตูมตกใจตามแต่อย่างใด เพราะฐานะทางการเงิน การคลังของเรายังดีอยู่ ผิดกับช่วงโรคต้มยำกุ้งกันอย่างลิบลับ สำหรับตลาดหุ้นแล้วในระยะยาวน่าจะทำให้ตลาดเราไม่หวือหวาฮวบฮาบด้วยการสกัดกั้นนักลงทุนระยะสั้นหรือนักเก็งกำไรระยะสั้นจากต่างประเทศออกไป และมีนักลงทุนแท้หรือนักลงทุนระยะยาวและค่าเงินบาทของเราก็เคลื่อนไหวตามความเป็นจริงมากขึ้นคือปลอดจากการบงการของนักเก็งกำไรค่าเงินระยะสั้นที่สามารถสร้างภาพลวงตาได้
โดย
Newbee
พุธ ม.ค. 03, 2007 8:25 pm
0
0
AHC : โรงพยาบาลเอกชล น่าลงทุนมั้ยครับ ??
โรงพยาบาลที่น่าจะเป็นคู่แข่งของ AHC ที่ศรีราชามีอยู่ถึงสองโรงพยาบาล คือ พญาไท ศรีราชา เครือ PYT กับ สมิติเวช ศรีราชาในเครือของ BGH โรงพยาบาล พญาไท รับลูกค้าทั่วไป และ มีแผนกประกันสังคม แยกออกมาต่างหาก(รวมกับห้องฉุกเฉิน) คนจะผุกพล่าน และ หนาตาในช่วงเช้า ตั้งแต่เปลียน ผ.อ. คนใหม่ ก็ดูดีขึ้นมาก เข้าไปเหมือนไป resort เลยมีพนักงานแต่งชุดไทย ต้อนรับอย่างดี ขณะนี้ก็เปิดแผนก ทันตกรรมเพิ่มอยู่นอกโรงพยาบาล(ในเขตศรีราชา) ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นประกันสังคม ประกันสุขภาพ และ คู่สัญญาตามบริษัทเอกชนต่างๆ มีโมษณาและกิจกรรมประชาสัมพันธ ค่อนข้างดีตาม cable ที่จอดรถแน่นตลอด ต้องจอดซ้อนคัน คนรอคิว ตามห้องตรวจค่อนข้างมากโดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น ถ้าหาหมอเฉพาะทาง เช่น หู คอ ประมาณ 1400-1500 บาท หวัดธรรมดาประมาณ 500-700 บาท โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีราชา รับลูกค้า Premium ขึ้นมา และ ลูกค้าต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลี (แต่ยังบริการไม่ค่อยดี) ตอนนี้ขยายงายอย่างต่อเนื่อง เช่น ซื้อที่จอดรถใหญมากๆ และ ขยายปีกด้านข้างเป็น ศูนย์เฉพาะทาง ห้องทำฟันเพิ่มหลายห้อง แผนกเด็ก แผนกสตรี ถ้าหาหมอเฉพาะทาง เช่น หู คอ ประมาณ 1500-1700 บาท หวัดธรรมดาประมาณ 800-900 บาท ตรวจครรภ์ประมาณ 800-1000 บาท ไม่รวมอุลตา เด็ก 500-600 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมของคู่แข่ง
โดย
Newbee
อังคาร พ.ย. 14, 2006 8:43 pm
0
0
AHC : โรงพยาบาลเอกชล น่าลงทุนมั้ยครับ ??
โรงพยาบาลเซาท์เธินซีบอร์ด คงเปิดไม่ทันในไตรมาสนี้แน่เลย เห็นบอกว่ายังปรับปรุงอยู่ ส่วนเมืองชล คลีนิคเยอะมากๆๆๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นคู่แข่งได้ไหม นอกจากนี้ตึกใหม่ของโรงพยาบาลชลบุรีก็ใกล้เสร็จแล้ว น่าจะรับคนใข้ได้มากพอควร คนบางส่วนคงเลือกไปรักษาที่นั่น ป.ล. มีไว้ติดport นิดหน่อยครับ
โดย
Newbee
ศุกร์ พ.ย. 10, 2006 9:51 pm
0
0
เมื่อไร MCOT จะกลับมาครับ
ประโยชน์ของส่วนรวม ประชาชนคงเป็นผู้บอกว่า MCOT มีประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือไม่ รายการหลายรายการให้ความรู้ประชาชนหรือไม่ คงไม่ใช่กลุ่มแกนนำบางกลุ่มที่จะมาตัดสิน หรือต้องให้พวกกลุ่มเหล่านั้นกลับมาจัดรายการจึงจะเรียกว่ามีประโยชน์ต่อส่วนรวม แหลมคมมากเลยครับพี่ ใครๆ ก็อ้างถึงประโยชน์ส่วนรวมทั้งนั้น ผมว่าทำแล้วค่อยมาพูดดีกว่า 555
โดย
Newbee
พุธ พ.ย. 08, 2006 8:34 pm
0
0
รายชื่อบริษัทที่ได้บรรษัทภิบาลดีเลิศ และดีมาก ประจำปี 2549
SCC สงสัยเหมือนกันว่าอยู่ในระดับไหน
โดย
Newbee
จันทร์ ต.ค. 30, 2006 7:52 pm
0
0
เหล็กเริ่มมาแล้วนะคับ
ส่ง STEEL ด้วยเพราะอยู่ในวัยกระเตาะ!!!
โดย
Newbee
อาทิตย์ ต.ค. 29, 2006 9:02 pm
0
0
PTL มีแนวโน้มจะเป็นหุ้น Turn Around ได้ไหมครับ
ราคา feed/ ปิโต น่าจะสูงอยู่ มาร์จินน่าจะยังต่ำ ดูนานๆ ก่อนดีกว่าครับ
โดย
Newbee
ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 9:04 pm
0
0
76 โพสต์
of 2
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
Newbee
กลุ่ม:
สมาชิก
ความถนัด:
Engineer
ที่อยู่:
Cholburi
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พุธ ก.ย. 15, 2004 8:06 am
ใช้งานล่าสุด:
อังคาร ม.ค. 10, 2012 9:49 am
โพสต์ทั้งหมด:
148 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว