หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
akekarat
Joined: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2004 6:26 pm
1746
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - akekarat
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ
ผมเห็นด้วยที่จะรับสมัครสมาชิกโดยมีการเก็บข้อมูลตัวตนที่แท้จริง แต่ผมไม่เห็นด้วยอย่างแรงเรื่องการบังคับเก็บค่าสมัคร จริงอยู่มันเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก (สำหรับสมาชิกเกือบทุกคน) แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องของเงิน มันอยู่ที่เรื่องของวัตถุประสงค์มากกว่า ผมคิดว่า น่าจะเปิดรับเป็นบริจาคตามความศรัทธา่น่าจะดีกว่า รายได้ของสมาคม น่าจะมาจากการจัดกิจกรรม ที่ผู้เข้าร่วมจ่ายด้วยความสมัครใจ ไม่ควรจะมาจากการบังคับจ่ายจากค่าสมาชิกแบบนี้ หากจะมีเหตุผลที่ว่า ต้องเก็บเงินเพื่อกรองคนในระดับหนึ่ง ผมว่าไม่เกี่ยว เพราะการเปิดเผยตัวตนของสมาชิก ก็เป็นการคัดกรองที่มากพออยู่แล้ว แต่หากการเก็บเงิน มีสาเหตุมาจากสมาคมมีค่าใช้จ่าย และมีเงินไม่เีพียงพอ อันนี้ก็เข้าใจได้ ผมก็คงไม่ขอเข้าไปล่วงเกินอะไร
โดย
akekarat
พุธ มิ.ย. 27, 2012 1:53 pm
0
47
Re: คิดยังไงกับ General Mandate ครับ
ผลดี/เสีย อยู่ที่ธรรมาภิบาลของผู้บริหารครับ เหมือนกับเราหยิบเอาลูกกระสุนใส่ปืน ยื่นใส่มือตำรวจหรือโจร
โดย
akekarat
อังคาร มี.ค. 20, 2012 5:51 pm
0
3
Re: DTAC ปันผลเยอะขนาดนี้หมายความว่าอย่างไร
เทเลนอร์ก็คงเหมือนเทมาเซ็กคือ เขาจะดูดเงินจากบริษัทเพื่อเอาทุนคืน พอดูดจนครบก็เท่ากับได้dtacมาฟรีๆ หมดความเสี่ยง ทีนี้จะทําอะไรก็ได้ ขายต่อถูกๆหรือถือดูดปันผลไปเรื่อยๆ dtacจะมีอนาคตหรือไม่เขาก็ไม่เดือดร้อน ธุรกิจที่มี barrier แข็งขนาดนี้ รายได้+กำไรขนาดนี้ ถ้าคุณเป็นเจ้าของ จะยอมปล่อยไปง่ายๆเหรอครับ? ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง จะดูดเงินมาขนาดนี้เรื่อย ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหานี่ครับ
โดย
akekarat
ศุกร์ ธ.ค. 16, 2011 11:25 am
0
0
Re: อีก 20 ปี ผมจะมีเงิน 10 ล้านบาท จะเป็นไปได้ไหมครับ
ไม่ต้องรอนานถึงขนาดนั้นหรอกครับ
โดย
akekarat
พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2011 1:40 pm
0
0
Re: น้ำท่วมในโรงงานที่เราถือหุ้นอยู่ถือว่าพื้นฐานเปลียนหรือไ
อยู่ที่ฐานะทางการเงินด้วยครับ ถ้ามีเงินสำรองมากพอ ก็สามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าฐานะทางการเงินค่อนข้างง่อนแง่น แล้วโดนเข้าไปอีก อาจจะกลับมาไม่ได้เลยก็เป็นไปได้
โดย
akekarat
พุธ ต.ค. 12, 2011 2:52 pm
0
1
Re: ผมจะมีพันล้าน
35 ปี 40 ปี 60 ปี ไกลเกินไปเยอะครับ อย่าลืมว่า วิกฤติต้มยำกุ้งเพิ่งผ่านมาแค่ 15 ปี และ subprime เพิ่งผ่านมาแค่ 3 ปี ที่สำคัญ การคำนวณแบบทบต้น มีจุดด้อยอย่างหนึ่งคือ ตั้งแต่ระยะเวลาเริ่มต้น จนถึงจบ จะไม่มีการนำเงินออกมาใช้จ่ายหรืออะไรเลย ตัวเลขทบต้นถึงจะเป็นอย่างที่คำนวณ ... ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วทั้งในแง่บวกหรือลบ ดังนั้น การคำนวณแบบทบต้น สำหรับผม มันเป็นแค่ guide ให้เห็นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2-3 ปีสุดท้าย หากขาดทุนปีละซัก 20% ... คุณคิดว่าตอนจบ จะเหลือเงินเท่าไหร่
โดย
akekarat
พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 12:31 pm
0
1
Re: มนุษย์เงินเดือน ที่กำลังมุงสู่ความเป็นไททางการเงิน
อย่าจำกัดจำเขี่ยเพื่อเอาเงินมาลงทุนเกินไปนักครับ ก่อนที่จะลงทุนเพื่อความเป็นไททางการเงินอย่างที่คุณว่า ต้องลงทุนกับสุขภาพกาย สุขภาพจิต เสียก่อน ทานอาหารดีมีคุณภาพให้เพียงพอ ทำงานพอเหมาะ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพ ไม่เช่นนั้น ผลตอบแทนการลงทุนที่ทำมาทั้งชีวิต อาจจะต้องนำไป cutloss กับ BH BGH KDH ฯลฯ
โดย
akekarat
อาทิตย์ ก.ย. 11, 2011 10:30 pm
0
2
Re: ข้อเสนอแนะ จัดกฏระเบียบเวปใหม่ เพื่อ Thai Vi คงอยู่ตลอดไ
ผมว่าระบบการเข้าไปมีสิทธิอ่านหรือโพสในห้องหรือกระทู้ที่ค่อนข้างจะ sensitive เช่น ร้อยคนร้อยหุ้น ควรจะให้สิทธิแก่สมาชิกโดยใช้ระบบ invite จากสมาชิกเดิมที่มีสิทธิ หรือสมาชิกใหม่ที่ไม่รู้จักใครอาจจะ request เข้าให้ mod พิจารณา ตรงนี้จะช่วยกรองคุณภาพผู้เข้ามีส่วนร่วมได้ดีกว่าการให้สิทธิแบบนับจำนวนโพสต์ นะครับ แต่ข้อเสียคือสมาชิกใหม่ หรือนักลงทุนหน้าใหม่ จะเสียสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ ทางแก้คือ อาจจะกำหนดว่า สมาชิก TVI ทุกคนสามารถเข้าถึงห้องร้อยคนร้อยหุ้นได้ แต่สมาชิกที่มีสิทธิจะ post ข้อมูลลงในแต่ละกระทู้ของห้องนั้น จะจำกัดสิทธิเฉพาะผู้ที่ได้รับการ invite หรือผู้ที่ทำการ request ไปที่ mod ... แล้วได้รับการพิจารณาว่าปลอดภัยและมีความรู้เพียงพอแล้วเท่านั้น เพื่อที่จะคัดกรองว่า คนกลุ่มนี้น่าจะให้ข้อมูลดี ๆ และไม่เข้าไปชงมาม่าในกระทู้อย่างแน่นอน เช่น สมมติว่าต่อไปนี้ห้องร้อยคนร้อยหุ้น จะจำกัดสิทธิให้ post ได้เฉพาะสมาชิกที่ได้รับรองคุณภาพแล้วเท่านั้น วิธีการก็คือ เริ่มต้นจากให้สิทธิเฉพาะ mod และสมาชิก vip ที่ให้คุณกับเวบในอดีต ก่อน แล้ว คนกลุ่มนี้ก็ invite ให้กับสมาชิกท่านอื่น ๆ ที่ตนรู้จักหรือเห็นว่ามีคุณสมบัติดีพอ ค่อย ๆ กระจายกันไปเรื่อย ๆ ทีนี้ กลุ่มของสมาชิกที่น่าจะเรียกได้ว่ามีสิทธิ post ใน ร้อยคนร้อยหุ้น ก็น่าจะถูกคัดกรองมาอย่างมีคุณภาพระดับหนึ่ง ส่วนสมาชิกหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก ก็ให้เข้าไปอ่าน ๆ อย่างเดียวก่อน ให้ post ได้เฉพาะหน้าหลัก จนถึงวันที่สมาชิกท่านนั้นต้องการจะมีสิทธิในร้อยคนร้อยหุ้นบ้าง แต่ยังไม่มีใคร invite ก็ให้ request มาที่ mod mod ก็จะพิจารณาว่า สมาชิกท่านนี้ มีคุณสมบัติ มีความน่าเชื่อถือเพียงพอที่จะให้ post ได้แล้วหรือยัง ถ้าได้ก็ ok จัดไป แต่ถ้าไม่ได้ ก็อาจจะ pending สิทธิในการ request ให้กลับไปอ่านหนังสืออีกซัก 3 เดือน ทีนี้ ในห้องร้อยคนร้อยหุ้นก็จะมีแต่ความเห็นที่เป็นประโยชน์ ไม่มี emocon หรือ +1 หรือ กราบ ชาบู ฯลฯ พร่ำเพรื่อ และจำนวน post ก็ไม่มากเกินไปจนมีแต่น้ำท่วมทุ่งเต็มกระทู้ของหุ้นแต่ละตัว ทีนี้ หากบางคนได้รับการ invite หรือ mod ให้สิทธิในการ post ในห้องร้อยคนร้อยหุ้นแล้ว เกิดทำตัวชงมาม่า หรือ post อะไรที่ไม่เหมาะสม จะทำอย่างไร ... ง่าย ๆ เพราะตอนนี้ในเวบก็มีระบบ +1 อยู่แล้ว ก็สามารถคัดกรองตรงนี้ได้ว่า หากสมาชิกที่มีสิทธิในการ post ในร้อยคนร้อยหุ้น แต่กลับใช้สิทธิไปในทางที่ก่อให้เกิดผลเสีย หรือใช้การ post พร่ำเพรื่อไม่เกิดประโยชน์ ก็จะถูกสมาชิกท่านอื่น ๆ ให้ -1 เอง หากโดน -1 มาก ๆ เข้า จนถึงจำนวนแต้มที่กำหนดไว้ ก็ให้สิทธิการ post หลุดออกไป และหากต้องการมีสิทธิเข้ามา post ใหม่ ก็จะต้องหาคน invite หรือ request เข้ามาใหม่ แต่อาจจะถูก ban อย่างน้อยซักกี่เดือนก็ว่ากันไป ก่อนจะเข้ามามีสิทธิใหม่ได้ ให้เอาเวลาที่ถูก ban ไปปรับปรุงทัศนคติในการ post ไม่ให้ post อะไรที่คนอื่นจะมาแจก -1 ได้บ่อย ๆ จริง ๆ ก็คิด ๆ ไปอย่างงั้นแหละครับ ระบบทำจริง ๆ คงยากน่าดู ตอนนี้ mod ก็น้อยใจกันหมดแล้ว ไม่รู้จะเหลือคนทำได้หรือเปล่า :mrgreen:
โดย
akekarat
เสาร์ ก.ย. 03, 2011 3:28 am
0
7
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
สงสัยจะโดนกันทั้งสำนัก มีเครื่องมือก็ขอเอาคืนหน่อย เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าจัดหนัก :mrgreen:
โดย
akekarat
พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2011 4:00 pm
0
2
Re: ออกมาลงทุนเต็มเวลา
ผมเห็นด้วยเรื่องการออกจากงานประจำเมื่อมีสินทรัพย์จากการลงทุนมากพอนะ ซัก 20 ล้านขึ้นไปกำลังดี แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องที่จะออกมาเป็นนักลงทุนเต็มเวลา เพราะผมไม่เห็นว่าการลงทุน โดยเฉพาะในหุ้น จะใช้เวลามากมายอะไรขนาดนั้น เหตุผลที่ควรจะออกมาจากงานประจำ ก็อย่างเช่น (ไม่ต้องมีทุกข้อนะ) - อายุพอสมควรที่จะเกษียณได้ เช่น ซัก 45 ขึ้นไป ที่เหลือก็ใช้เวลาไปเที่ยว เยี่ยมลูกหลาน หาความสุข - หากอายุน้อย ก็ออกมาดูแลครอบครัว ดูแลรับส่งลูกไปเรียน มีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น - ออกมาทำงานที่ใจรัก ไม่ต้องทนกดดันกับความคาดหวังในหน้าที่การงานประจำ อย่างผมก็ออกจากงานประจำมา 3 ปีกว่า ๆ แล้ว แต่ก็ไม่ได้ออกมาโดยไม่มีอะไรรองรับ ถึงแม้ยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว แต่ก็ยังพอมีงานอะไรทำบ้าง เช่น ช่วยกิจการของญาติ จริง ๆ แล้วการทำงานโดยไม่ได้อยู่ภายใต้ภาระกดดันทางการเงิน สามารถทำให้ประสิทธิภาพของงานออกมาได้ดีมากจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีเวลาว่างมากเกินไป นั่งดูหุ้นไปวัน ๆ โดยไม่ได้ทำอะไรเลยก็มี ส่วนข้อดีก็เช่น อยากไปเที่ยวไหนก็ไปได้ทุกวัน ไม่ต้องรอวันหยุดยาว หน้าเทศกาลไปแย่งกินแย่งใช้กับคนอื่น เราเที่ยวเวลาคนอื่นทำงาน เราพักผ่อนอยู่บ้านเวลาคนอื่นไปเที่ยวกัน อันนี้ชอบมาก ๆ ประมาณนั้น
โดย
akekarat
จันทร์ ส.ค. 22, 2011 2:13 pm
0
3
Re: โห จ่ายปันผล มากกว่าราคาพาร์
จริง ๆ ราคาหุ้นเทียบราคาพาร์มันก็บอกอะไรได้ลึกซึ้งนะครับ เช่นถ้าราคาหุ้นมากกว่าราคาพาร์มาก ๆ จนกระทั่งแม้แต่ปันผลก็ยังมากกว่าพาร์ แสดงว่าหุ้นตัวนี้มีการเจริญเติบโตมาอย่างมากมายในช่วงเวลาที่ผ่านมา เช่น SCC แต่ถ้าหุ้นที่แม้แต่ราคาหุ้นยังน้อยกว่าราคาพาร์ ก็ไม่ได้บอกอะไรไปมากกว่ามันเป็นหุ้นเน่าตัวนึง ...
โดย
akekarat
เสาร์ ส.ค. 13, 2011 10:48 pm
0
0
Re: อยากเล่า ! บทเรียนการผ่าน Subprime
หลัง subprime ก็มีคนบ่น ๆ ว่ารอวิกฤติงวดหน้า จะจัดหนัก อย่างโน้น อย่างนี้ ก็เลยอยากทราบว่า แล้ววันนี้ คุณมีแผนแล้วหรือยัง หากไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ก็อยู่กับความจริง ที่รู้เส้นทางข้างหน้าดีกว่า เช่น ผลประกอบการ ปัจจัยบวก ปัจจัยลบ พื้นฐานบริษัท ดีกว่าจะมานั่งคิดว่า วันนี้ใช่วิกฤติแล้วหรือยัง ควรจะขายดี หรือว่าซื้อดี น้ำบางที่ในทะเล เราไม่รู้หรอกครับว่าลึกไม่ลึก ถ้าเราไม่ได้ลงไปเดิน จะรู้ว่าลึก บางทีก้เดินจากฝั่งมาไกลเกินไป ยากจะกลับฝั่ง เพราะฉะนั้น เราจึงไม่ควรเสี่ยงเดินไปโดยที่เราไม่รู้ไงครับ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ "ไม่สามารถย้อนกลับได้" หลักการของ VI อย่างหนึ่งคือ ทำในสิ่งที่รู้ อย่างที่ Buffet บอกว่า เค้ายินดีที่จะซื้อหุ้นราคาแพงขึ้นในเวลาที่ทุกอย่างเคลียร์ ดีกว่าที่จะซื้อหุ้นตัวเดียวกันในราคาถูกกว่านั้น ในขณะที่บางอย่างยังไม่รู้ชัด
โดย
akekarat
พุธ ส.ค. 10, 2011 4:01 am
0
2
Re: อยากเล่า ! บทเรียนการผ่าน Subprime
หลัง subprime ก็มีคนบ่น ๆ ว่ารอวิกฤติงวดหน้า จะจัดหนัก อย่างโน้น อย่างนี้ ก็เลยอยากทราบว่า แล้ววันนี้ คุณมีแผนแล้วหรือยัง หากไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ก็อยู่กับความจริง ที่รู้เส้นทางข้างหน้าดีกว่า เช่น ผลประกอบการ ปัจจัยบวก ปัจจัยลบ พื้นฐานบริษัท ดีกว่าจะมานั่งคิดว่า วันนี้ใช่วิกฤติแล้วหรือยัง ควรจะขายดี หรือว่าซื้อดี
โดย
akekarat
อังคาร ส.ค. 09, 2011 4:01 pm
0
7
Re: fundamental สำคํญกับ VI ไหมครับ
VI ที่ไม่มี Fundamental ก็ไม่ต่างอะไรกับต้มมาม่าโดยไม่ใส่น้ำนั่นแหละครับ
โดย
akekarat
อังคาร ส.ค. 09, 2011 3:59 pm
0
4
Re: ตอนปี 2008 บริหาร port ยังไงกันบ้าง
ตอนปี 2008 ผมนั่งมองหุ้นในมือ "ราคา" ร่วงลงเรื่อย ๆ ๆ จนพอร์ตติดลบเกือบ 50% โดยผมยังไม่ได้ขายอะไรซักตัว ในเวลานั้น ณ แต่ละช่วงเวลา ผมไม่รู้หรอกว่าวันต่อไปหุ้นมันจะลงอีกหรือเปล่า แต่ผม "รู้สึก" ว่า มันน่าจะลงไปอีก ตามอารมณ์ตลาด สิ่งที่ผมทำคือ พยายามหาสาเหตุต่าง ๆ เพื่อมา support ว่า นอกจากอารมณ์ที่ไม่อยากถือหุ้นของผู้ถือหุ้นปัจจุบัน ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ในเชิงพื้นฐานกิจการ ปัจจัยภายนอกอะไรหรือเปล่า ที่จะทำให้ fair value ของหุ้นเรา เป็นอย่างราคาของมัน พยายามหาแล้วหาอีก หาแล้วหาอีก ก็ยังไม่เจอสาเหตุที่จะทำให้กิจการ "มีกำไร" น้อยลงไปกว่าปีก่อน ๆ อาจจะเจอบ้าง บางปัจจัย ที่กระทบกับบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ แต่เมื่อวิเคราะห์ลงละเอียด ก็พบว่า น่าจะเป็นระยะสั้น มากกว่าระยะยาว จนสุดท้าย ในขณะที่หุ้นในมือราคาร่วงลงไปเรื่อย ๆ ผมก็ได้ข้อสรุปว่า ในระยะ 3-5 ปีถัดจากนี้ "บริษัท ไม่ได้รับผลกระทบจาก subprime อย่างมีนัยสำคัญ หรือหากมี ก็เป็นเพียงระยะสั้น และน่าจะแก้ไขปัญหาได้" ผมก็เลย ซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พยายามรีดเงินที่มีอยู่จากทุกทาง เพื่อนำมาซื้อหุ้นที่ถืออยู่ ณ เวลานั้น หุ้นหลาย ๆ ตัวมี PE ประมาณ 2-3 และ Dividend Yield ประมาณ 20% หากรวมเครดิตภาษี น่าจะอยู่ที่ 25% ตามผลวิเคราะห์ ที่ชี้ชัดว่ากิจการจะไม่ได้รับผลกระทบจาก subprime มากนัก และ div ณ ตอนนั้นที่ 20% ตามที่ว่า สุดท้าย ราคาหุ้น ก็กลับมายืนที่เดิม ในปริมาณที่มากขึ้นหลายเท่าตัว และเมื่อเวลาผ่านไปในปี 2009 - 2010 ราคาหุ้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกำไรที่เพิ่มขึ้น มันก็เลยเป็นบทเรียนสอนให้รู้ว่า สิ่งที่คาดเดาไม่ได้ อย่างอารมณ์ตลาด ที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นในมือ ไม่ว่าจะเป็นในด้านบวก หรือด้านลบ มันเป็นโอกาสทั้งคู่ ... ถ้าเราไม่ตื่นตูมไปตามกัน แต่ต่อให้ตลาดกระทิง ... หากมีปัจจัยอะไรที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นในมืออย่างชัดเจน ก็ต้องตัดใจให้ขาดที่จะปล่อยหุ้นตัวนั้นออกไปจากพอร์ตเช่นกัน ไม่งั้นจะยิ่งเจ็บ เมื่อเราขาดทุน ในขณะที่ใคร ๆ ก็กำไรกัน
โดย
akekarat
อาทิตย์ ส.ค. 07, 2011 2:04 am
0
7
Re: ถ้าตลาดลงสุดๆ ล้างพอร์ทกันหรือไม่ครับ?
มันอยู่ที่คุณมองที่ตัวบริษัท หรือราคาหุ้น
โดย
akekarat
อาทิตย์ ส.ค. 07, 2011 1:51 am
0
1
Re: มูลค่ากิจการ กับ ส่วนของผู้ถือหุ้น
เรื่องแบบนี้พูดยากครับ มันมีหลาย ๆ ปัจจัย เช่นมูลค่ากิจการ หรือ Market Cap หลาย ๆ ครั้งมันสะท้อนความสามารถในการทำกำไร แต่ส่วนของผู้ถือหุ้น คือสินทรัพย์ ที่หักหนี้สินออกไปแล้ว ทีนี้ก็อยู่ที่ว่า ตลาดจะให้มูลค่าของบริษัท โดยอิงพื้นฐานจากอะไร - ความสามารถในการทำกำไร โดยให้ราคาอิงกับค่าเฉลี่ยของตลาด - ส่วนของผู้ถือหุ้น หรือสินทรัพย์ที่มีอยู่ ... แล้ว hidden assets ฯลฯ ล่ะ? - หรือว่าแค่(ทำ)ให้มูลค่ากิจการสูง ๆ เพราะเจ้ามืออยากหาเงินใช้ ???
โดย
akekarat
อังคาร ส.ค. 02, 2011 1:06 am
0
0
Re: ชวนคุยค่ะ ^^
ผมคิดคล้าย ๆ กับพี่ฉัตรชัยครับ ว่าถ้าจะวัดผลแนวทางการลงทุนแบบ VI ของเราแล้ว ต้องวัดผลจากผลประกอบการ เพราะถ้าผลประกอบการเป็นไปตามที่เราวิเคราะห์ ก็หมายความว่าเราประเมินธุรกิจได้อย่างถูกต้อง บางบริษัทผลประกอบการออกมาดี แต่ราคาหุ้นไม่วิ่งไปไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราผิด หรือบางบริษัทผลประกอบการไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง แต่หุ้นวิ่งเด้งแล้วเด้งอีก ก็ไม่ได้หมายความว่าเราเก่งเป็นเซียน
โดย
akekarat
ศุกร์ ก.ค. 29, 2011 3:11 pm
0
0
Re: ถ้าไม่มีตลาดหุ้น เราจะทำอะไร
ประเทศไทยโชคดีที่อยู่ในภูมิประเทศเกษตรกรรม ต่อให้ไม่มีการจ้างงานก็ไม่อดตาย ถ้าทำมาหากินเป็น ส่วนถ้าไม่มีตลาดหุ้นจะไปทำอะไร ... พวกที่ทำงานหลักทรัพย์คงคิดหนัก เพราะงานประจำก็ไม่มีทำ :wink:
โดย
akekarat
ศุกร์ ก.ค. 29, 2011 8:10 am
0
0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
อย่างไรก็ตาม ถ้าวิกฤติคราวหน้ามา ผมคิดว่าผมจะไม่ทนจนขาดทุนมากๆ ไม่ทนจนกำไรกลายเป็นขาดทุนหรอก ถ้าต้องเผ่น ผมก็จะเผ่น เราโชคดีที่วิกฤติคราวนี้จบเร็ว คราวหน้าจะจบเร็วแบบเดียวกันหรือเปล่าผมไม่รู้ ปัญหาคือส่วนมากแล้ว พอถึงเวลาจริง ๆ เราไม่รู้ว่า ณ เวลานั้น คือวิกฤติหรือเปล่าน่ะสิครับ อย่างตอน subprime ... ช่วงครึ่งปีหลังก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้สึกว่ามันคือวิกฤติที่แย่จริง ๆ หรือขนาดพอหลังจากวิกฤติไปแล้ว ก็คงไม่มีใครคิดว่าปี 2009 จะเป็นปีทองของหลาย ๆ คน ดังนั้นคำถามคือ มันเป็นไปได้หรือครับ ที่จะรู้ว่าเมื่อใหร่ควรจะรอก่อน หรือเมื่อไหร่ที่ควรจะเผ่น เพราะคนที่รู้จริงแบบนั้น คงไม่เจ็บตัวเหมือนที่หลาย ๆ คนเจ็บตัวตอน subprime หรอกครับ
โดย
akekarat
อังคาร ก.ค. 26, 2011 11:07 pm
0
1
Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า
มั่นใจมานานแล้วครับ ว่าผมไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แต่ว่าการลงทุนเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมมีเงินและเวลาไปทำในสิ่งที่เกิดมาอยากจะทำ
โดย
akekarat
อังคาร ก.ค. 19, 2011 2:54 pm
0
0
Re: หุ้นที่กำไรสูงสุดใน พอร์ท ถือมานานกี่ปี ครับ
SNC ครับ ถือตั้งแต่ประมาณ 10 บาท (หลังจากเพิ่มทุน) แต่สะสมหนัก ๆ ช่วง 6 บาท กับ 3 บาทจนต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4.67 บาท
โดย
akekarat
อังคาร ก.ค. 19, 2011 2:50 pm
0
0
Re: *** นักเล่นหุ้น นักธุรกิจ นักการเมือง ต้องอ่าน ***
ในระยะสั้น ราคาหุ้นสามารถผันผวนไปตามอำนาจเงินได้ แต่ในระยะยาว ผลประกอบการจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ถ้าต้องการลงทุน หรือเก็งกำไรในระยะสั้น ก็พอจะเข้าใจตามทฤษฏีนี้ได้ แต่ในระยะยาว ผมว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากการคาดเดาอารมณ์ผู้อื่นไปเรื่อย โอกาสมันมีทั้งได้ และเสีย โดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ต่างกับการลงทุนโดยใช้พื้นฐานและเหตุผล เว้นเสียอย่างเดียว ที่จะทำให้ประโยคข้างบนไม่เป็นความจริง คือฝ่ายบริหารไม่มีธรรมาภิบาลต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม ทำให้ผลประโยชน์ที่เกิดจากผลประกอบการ ไม่สามารถสะท้อนลงมาที่ผู้ถือหุ้นได้
โดย
akekarat
อาทิตย์ พ.ค. 29, 2011 12:39 pm
0
0
Re: ขออนุญาติเสนอแนะ
คือผมคิดว่า ราคาหุ้นมันไม่ได้การันตี 100% ว่าจะสะท้อนถึงพื้นฐานของหุ้นน่ะสิครับ ถ้าใครมีหุ้น ABC เชียร์หุ้นตัวนี้ แล้วราคาหุ้นมันขึ้น จะมาบอกว่าหุ้นตัวนี้ดี ก็ใช่ที่ หรือหากใครมีหุ้น XYZ เชียร์หุ้นตัวนี้ แล้วราคาหุ้นมันตก จะมาบอกว่าหุ้นตัวนี้ไม่ดี ก็ไม่ถูก เพราะราคาหุ้นมันอยู่ที่อำนาจเงิน แต่ผลประกอบการสิ เป็นตัวบอกพื้นฐานที่แท้จริงของหุ้นแต่ละตัว ดังนั้น การเอาราคาหุ้นขึ้นหรือลง มาตัดสินเจตนาของคนโพสต์ ผมว่ามันยังไม่สามารถทำได้อย่างถูกต้อง แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าช่วยในเรื่องการตัดสินใจว่าคนนี้เคยมา กำลังมา หรือกำลังจะไปไม้ไหนได้ในระดับหนึ่ง
โดย
akekarat
อังคาร พ.ค. 17, 2011 2:18 pm
0
0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
ผมว่าเดี๋ยวนี้พิมพ์อะไรก็คิดให้มาก..ส่วนตัวผมมีหลุดก็หลายครั้ง แต่ผมจะพิมพ์บรรทัดต่อมาว่าวานให้ mod ช่วยลบทีบางทางมัน ละอายขึ้นมาเอง..ไม่ได้เอนเอียงแต่คิดว่ายังไง mod ก็คงมีจำนวน น้อยกว่าสมาชิกเยอะ..บ้างครั้งทำอะไรให้ตรงใจใครให้หมดทุกคน คงยากเราผู้เป็นสมาชิกบางครั้งก็ควรให้โอกาสซึ่งกันและกัน.. อย่ามองอะไรให้มันเป็นเรื่องใหญ่กันไปหมด.. :D :D :D พิมพ์ไปเลยครับ อย่าได้แคร์ ถ้ามั่นใจว่าไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง คนเราไม่ได้เก่งไม่ได้ดีมาตั้งแต่เกิด มันต้องมีผิดพลาดกันได้บ้าง ที่สำคัญเวลาความเห็นไม่ตรงกัน ก็ควรใช้เหตุผล มากกว่าอารมณ์ครับ อยู่ร่วมกันในสังคม อะไรนิดอะไรหน่อยควรให้อภัยกันจะดีที่สุด
โดย
akekarat
จันทร์ พ.ค. 16, 2011 3:34 pm
0
0
Re: มีใครสังเกตบ้าง แนวคิด value investment ในบ้าน tvi เรา..
ส่วนมากคนที่โพสต์เตือนในแง่ร้าย มักจะโดนกองเชียร์จัดหนักอยู่แล้วครับ หลัง ๆ ก็เลยไม่ค่อยมีใครอยากโพสต์ เพราะคงรู้สึกว่าเปลืองตัว มีแต่เสมอตัวกับเสีย เท่าที่ผมเห็นสมาชิกเก่า TVI ที่ยังกล้า ๆ มาโพสต์เตือนให้ระวังหุ้นแต่ละตัว โดยไม่หวั่นกระแสเชียร์ หรือปรามพฤติกรรมการออกความเห็นหรือให้ข่าวแบบไม่มีที่มาที่ไป แล้วยังทำอยู่เรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน มีคนเดียวคือพี่ฉัตรชัย
โดย
akekarat
จันทร์ พ.ค. 16, 2011 11:51 am
0
0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
อันนี้ผมชี้แจงไปแล้วนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจ ผมบอกอีกครั้งก็ได้ครับ ที่ผมพูดถึงเรื่อง ธรรมาภิบาล ผู้ถือหุ้น สาระสำคัญอยู่ที่พฤติกรรมครับ ไม่ใช่เรื่อง คำนิยาม อะไร จะมีหรืิอไม่มี ไม่ใช่สาระสำคัญ กรณี เช่น คุณ ก อาจซื้อ JAS ไว้ในปริมาณ มาก รวมทั้ง ใช้ มาร์จิ้นเต็ม คุณ ก ก็มีความเสี่ยงมาก หากคุณ ก บังเอิญ เข้าร่วมวงสนทนาใดๆ พบว่า เริ่มมีกระแสความเห็นต่างว่า JAS จะตก 70% อีก กระแสเห็นว่าจะมีมูลค่า เพิ่มขึ้นอีก 30% คุณ ก เห็นว่าตนเองมีความเสี่ยงมาก เพราะ ก่อนหน้านี้เห็น เหมือนกันหมดว่า JAS จะต้องขึ้นแน่ๆ ดังนั้น คุณ ก จึงตัดสินใจขายหุ้นออกมา ผมไม่ได้ตำหนิ คุณ ก แต่อย่างใด หรือ คุณ ก จะบอกใครๆ ว่าได้ขายล้างพอร์ต หมดแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนกรณีที่ ผมพูดถึงนั้น คือ กรณี มีการรวมตัวกัน เทขาย เพื่อให้เกิด Snow Ball Effect จากการ Force Sell โดยมีเจตนา ซึ่งไม่มีใครพิสูจน์ ข้อเท็จจริงได้ นอกจากผู้กระทำเท่านั้น ซึ่ง หากท่านมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ไม่ต้องเดือดร้อนใจใดๆ ชัดเจนไหมครับ ซึ่งหากทำให้ท่านใด เสียหายเพราะ ความไม่ชัดเจน ผมก็ขออภัยไปแล้ว กรุณาแยกแยะด้วยครับว่า การพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อหาความเห็นต่าง ความเห็นร่วม และ ตัดสินใจ ซื้อ หรือ ขาย นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ การพูดคุยแล้วพร้อมใจกันกระทำการใดๆ โดยมีเป้าประสงค์และ เกิดผลกระทบในวงกว้างเป็นการกระทำโดยเจตนานั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ชัดเจนนะครับ สุดท้าย ผมรับผิดชอบเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผมซื้อ และ ขายหุ้น ครับ ไม่เคยโทษใคร เหตุการณ์ Black Monday แทบจะไม่มีผลกับพอร์ตผมด้วยซ้ำ แค่คนรู้จักเจ็บตัวไปบ้าง ปัญหาคือ คุณ หรือ ผม หรือ ใครก็ตาม ....... มีสิทธิอะไรในการไปกำหนดให้ใครมีพฤติกรรมการลงทุน ในอย่างที่คิดว่า "ดี" และ "ถูกต้อง" ครับ ??? ไม่มีสิทธิเลยนะครับ ..... ใครจะลงทุนอย่างไร จะซื้อ จะขาย อย่างไร มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของคนเหล่านั้น ที่ความถูกผิด จะถูกกำหนดด้วยกฏหมายที่กำหนดโดย กลต. สุดท้าย คุณไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ฉัตรชัย เพื่อน ๆ ในนี้ และผมสื่อหรือครับ พี่ฉัตรชัยบอกว่า คุณไม่ควรไปวิจารณ์ใคร โดยปราศจากหลักฐาน หรือใช้แค่การคิดไปเอง ผมบอกคุณว่า อะไรที่เราควบคุมไม่ได้ ก็ไม่ควรไปยุ่ง ทีนี้คุณก็จะไม่มีผลกระทบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะบอกเจ้าว่าอย่าปั่น JAS ... คุณก็แค่ไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับหุ้นตัวนี้ ก็เท่านั้น อย่าไปพยายามควบคุมคนอื่นเลยครับ ควบคุมตัวเราเองนั่นแหละ ดีที่สุด ง่ายที่สุดแล้ว ด้วยความหวังดีนะครับ ถ้าตรงไหนทำให้รู้สึกไม่ดี ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยครับ
โดย
akekarat
อังคาร พ.ค. 10, 2011 8:29 pm
0
1
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
ผมรู้สึกว่า ชักจะไปกันใหญ่แล้ว ที่เวปแห่งนี้ เดิมเคยเป็นที่แบ่งปันข้อมูลความรู้กันด้วยนํ้าใจไมตรี ประสาเพื่อนพ้องพี่น้อง ผู้สูงวัยผู้เยาว์ ไม่มีการตําหนิด่าทอเสียดสีกัน แต่พอข่าวเทพviหลายท่านรวยเป็นร้อยล้านพันล้านอย่างรวดเร็ว คนใหม่ๆก็เข้ามมากมาย ไม่มีใครมาแลกเปลี่ยนข้อมูลวิเคราะห์พื้นฐานกันแล้ว ทุกคนตั้งใจเข้ามาลอกการบ้านเซียนอย่างเดียว แต่พอไม่สมประสงค์ไม่ได้ข้อมูล ไม่ได้กําไรเหมือนเซียนก็ด่าว่า กลุ่มเซียนร่วมกันปั่นหุ้น ซื้อขายพร้อมกันล่อให้แมงเม่าติดดอย ทั้งที่ไม่มีหลักฐานข้อมูลอะไร เซียนทั้งหลายเบื่อหน่ายหยุดโพสไปหมดแล้ว ทั้งหมอสามัญชนคุณลูกอีสานฯลฯ อุตส่าห์แบ่งปันข้อมูลตัวเองไม่ได้อะไรมีแต่ถูกด่าเสียดสี ผมว่าคนเหล่านี้ไม่ต้องเล่นเวปนี้ก็รวยอยู่ดี แต่สมาชิกคนอื่นๆเสียประโยชน์กันหมด การได้พูดคุยกับผู้มีปัญญาย่อมช่วยให้เราฉลาดขึ้น อยากขอร้องให้หยุดพูดจาเสียดสีท่านอื่นๆเสียที อยากด่าเซียนขอร้องเชิญห้องสินธรเถอะครับ อย่ามาทําให้เวปนี้เป็นสินธร2เลย ไม่มีใครได้ประโยชน์อะไรเลย พี่ drsp เขียนได้ดีมากครับ แต่ท่าทางจะยากในทางปฏิบัติ :wink:
โดย
akekarat
อังคาร พ.ค. 10, 2011 1:13 pm
0
0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
อ่านแล้วก็แปลกใจ ... ในความเห็นผม ธรรมาภิบาลผู้ถือหุ้น ไม่มีหรอกครับ เว้นเสียแต่ผู้ถือหุ้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท เช่น เป็นผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจ แต่แบบนั้นเค้าเรียกว่า ธรรมมาภิบาลในส่วนของผู้บริหาร เสียมากกว่า ทุกคนไม่ว่าจะถือหุ้น 100 หุ้น หรือ 200 ล้านหุ้น ก็มีสิทธิที่จะซื้อเพิ่ม หรือขายล้างพอร์ตทั้งนั้น ไม่ว่าจะภายในระยะเวลาใด 1 ชั่วโมง 1 วัน หรือ 1 เดือน จะขายเท่าไหร่ จะซื้อเท่าไหร่ มันก็สิทธิของเค้า โดยไม่จำเป็นต้อง "แจ้ง" ผู้ใดล่วงหน้า และก็ไม่ควรที่จะมีใครมีสิทธิที่จะไป "ตำหนิ" การตัดสินใจของคนเหล่านั้น แม้ว่าการซื้อขายของคนเหล่านั้น จะทำให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ในด้านทิศทางราคาหุ้น เว้นเสียแต่การซื้อขายอยู่ในกฏเกณฑ์ที่ต้องแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ดังนั้น การที่ใครจะตำหนิคนที่ซื้อ หรือขายหุ้น ด้วยเหตุผลเพียงว่า เค้ามีหุ้นเยอะ เป็นเซเลบมีชื่อเสียง หรือมีอำนาจชี้นำ ผมอยากให้คุณถามคำถามตัวเองคำเดียวว่า "คุณมีความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจซื้อ-ขายหุ้นที่คุณถืออยู่ มากพอแล้วหรือยัง"
โดย
akekarat
จันทร์ พ.ค. 09, 2011 11:05 pm
0
2
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
เห็นก่อนหน้านี้วิเคราะห์ธุรกิจเอย Forward PE กันได้อลังการงานสร้างมาก ๆ ไหนปังตอลงวันเดียว กลายเป็นเจ้าฮะ ๆ ๆ ๆ กันไปซะแล้ว เคยมีใครจัดมาเลยมั๊ยครับ ว่า Fair Value ในระดับ PE ที่ทุกคนเห็นตรงกันน่ะ จะให้ราคา JAS ที่กี่บาทต่อหุ้น นั่นแหละคือราคาที่ปลอดภัยสำหรับปีนี้แล้ว ส่วนใครที่ชอบ Forward PE ถ้าเจ้าฮะท่านโบกมือลา ลงจากรถไปแล้วล่ะก็ เตรียมถือยาว ๆ เป็น Verylong Investor กันได้เลยนะครับ ถือไปยันปีที่ Forward กันนั่นแหละ เพราะมันจะกลายเป็นหุ้น "ถูกเรื้อรัง" ไปในทันที ซื้อด้วยพื้นฐาน ขายด้วยพื้นฐาน ซื้อตามเจ้า ขายก็ดูเทคนิคหน่อยนะครับ (ถ้าไม่ซี้กับเจ้า)
โดย
akekarat
เสาร์ พ.ค. 07, 2011 2:33 am
0
0
Re: เรื่องภาษีปันผลหุ้น
น่าเสียดายนะครับ ถ้ายื่นขอคืนภาษีน่าจะได้คืนหลายแสนอยู่นะ ไม่ลองลงทะเบียนไปกรอกเล่น ๆ ดูล่ะครับ ว่าจะได้คืน หรือเสียเพิ่มประมาณเท่าไหร่ ถ้าได้คืนก็ดี แต่ถ้าต้องเสียเพิ่ม อยู่เฉย ๆ ก็ได้ครับ
โดย
akekarat
จันทร์ พ.ค. 02, 2011 2:27 pm
0
0
Re: ระหว่าง LTF กับ หุ้น VI
ไม่ต้องเลือกครับ...ซื้อ LTF แปลว่า ต้นทุนที่คุณซื้อมี MOS ทันที 30% จากเงินคืนภาษีได้คืน แล้วเอาเงิน 30% ที่ได้คืนนี่แหละไปซื้อหุ้น VI ที่ต้องการ โดยถือว่าหุ้น VI ที่ได้มานี่ ได้มาฟรี ! จริง ๆ แล้วคือ 42.8571% ครับ มาจาก เงินต้นที่เหลือหากไม่ได้ลดหย่อน 70% และกำไรที่ประหยัดภาษีได้ 30% = 30*100/70 = 42.8571% ต่อ 3 ปี 2 วัน
โดย
akekarat
จันทร์ พ.ค. 02, 2011 2:14 am
0
0
Re: ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมเพิ่มเวลาเทรดหุ้นอีก 1 ชั่วโมง
เช้าเร็วขึ้น 30 นาที บ่ายเปิดเร็วขึ้น 30 นาที
โดย
akekarat
พฤหัสฯ. เม.ย. 28, 2011 6:54 pm
0
0
Re: อิทธิพลของviเทียบกับขาใหญ่ที่ปั่นหุ้น
จริง ๆ แล้วผมว่าในยุคสมัยนี้ การแห่ซื้อตาม VI คนดังที่มีชื่อติดโผผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็คงไม่ต่างอะไรกับสมัยก่อน ที่คนในตลาดมักแห่ซื้อหุ้นที่ เพิ่มทุน แตกพาร์ แจกวอร์ ทำอะไรโดยขาดความรอบคอบ ก็คงต้องมีได้บ้างเสียบ้าง เป็นค่าเล่าเรียน ค่าประสบการณ์ จะมาบอกให้ VI ขาใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงหุ้นตัวเองเลย ก็คงไม่ใช่หรอกครับ เพราะเท่าที่เห็น ๆ ที่ขาใหญ่เค้าบอก ๆ กัน ก็เพราะเราเองที่ไปอยากรู้อยากเห็นเองซะมากกว่า หรือไม่ก็เอาข้อมูลเปิดเผยมาแสดงให้ดูกันเอง ทั้ง ๆ ที่เค้ายังไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลยมั๊ง จริง ๆ ปัญหานี้คงไม่เกิด ถ้าแต่ละคนสามารถรับผิดชอบกับการตัดสินใจซื้อขายของตัวเองได้ แต่เผอิญมันไม่ใช่ ดังนั้นเรื่องแบบนี้ก็คงต้องมีต่อไปเรื่อย ๆ แหละ
โดย
akekarat
อาทิตย์ เม.ย. 24, 2011 4:11 am
0
0
Re: VI ควรรู้สึกยังไงกันครับเมื่อหุ้นที่คุณถือตกแบบไม่มีสาเห
ถ้ามีเงิน จะรู้สึกดี ถ้าไม่มีเงิน จะรู้สึกเซ็ง แต่อย่างว่า เป็น VI ซื้อหุ้นกินปันผล มีเงินทีไร ก็อยู่ได้ไม่นานซักที มือไวเอาไปซื้อหุ้นหมด ถ้าจังหวะดี ๆ หุ้นที่ถืออยู่ตกมาแบบไม่ทราบสาเหตุ พอดีกับมีเงินเข้ามาให้ซื้อ ก็จะรู้สึกดีมาก ๆ ครับ :mrgreen:
โดย
akekarat
ศุกร์ เม.ย. 22, 2011 10:33 pm
0
0
Re: สอบถามครับ ระหว่าง RATCH กับ EGCO เป็นคุณ จะเลือกตัวไหน
วิเคราะห์แล้ว เลือก EGCO ครับ
โดย
akekarat
อังคาร เม.ย. 12, 2011 9:46 am
0
0
Re: ถ้าหุ้นที่ซื้อราคาขึ้นไป เราจะควรซื้อเพิ่มมั้ย?
ถ้าผลประกอบการมี growth ก็ซื้อครับ แต่ถ้าผลประกอบการทรง ๆ มีแนวโน้มลดลง ก็ถือ หรือขาย แต่อุตส่าห์เลือกหุ้นทั้งที จะไม่เลือกตัวที่ดี ๆ ที่สามารถถือเก็บกินผลประโยชน์ไปเรื่อย ๆ บ้างหรือครับ
โดย
akekarat
อาทิตย์ เม.ย. 10, 2011 4:58 pm
0
0
Re: พี่ๆมีเทคนิคกันอย่างไรให้ port โต ครับ
ขยันอ่าน
โดย
akekarat
อาทิตย์ เม.ย. 03, 2011 6:13 pm
0
0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
Value Investment ไม่ได้อยู่ที่ราคาหุ้น หรือ SET Index แต่อยู่ที่ตัวคุณเองครับ ว่าให้มูลค่า ให้ราคา มุมมองกับหุ้นแต่ละตัวในตลาดอย่างไร ตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้ทุกคนเสมอครับ ไม่มีเร็วไป ช้าไป ไม่เชื่อลองถามคนที่ซื้อเมื่อ 15 ปีที่แล้วครับ
โดย
akekarat
เสาร์ เม.ย. 02, 2011 4:41 pm
0
0
Re: อิทธิพลของviเทียบกับขาใหญ่ที่ปั่นหุ้น
เคยได้ยินมั๊ยครับ "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตอบสนอง" ไม่ว่าจะเป็น เจ้ามือ เซียน เทพ ขาใหญ่ vi แมงเม่า หรือ มือใหม่ เจ้ามือ หากคิดจะปั่นหุ้น หากพลาด ก็คงไม่พ้นถูกประนาม หรืออาจถึงขั้นติดคุก เซียน เทพ ขาใหญ่ทั้งหลาย หากมีเจตนาไม่ดี ก็คงไม่พ้นถูกติฉินนินทาลับหลังโดยหมดข้อแก้ตัว เงินไม่ได้ช่วยให้มีความสุขสบายใจ viแห่ตาม แมงเม่า หรือมือใหม่ หากสุ่มสี่สุ่มห้า โลภ เคาะขวาไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็ขาดทุน จ่ายค่าหน่วยกิตกันไป ใครทำอะไรไว้ ผลนั้นย่อมตอบสนองตนเองครับ โดนอะไรมา ไม่ต้องไปโทษใคร โทษตนเองครับ
โดย
akekarat
พฤหัสฯ. มี.ค. 31, 2011 12:28 am
0
0
Re: ทำไมเต่าถึงชนะกระต่าย??
เพราะมวลชนชอบเชียร์บอลรอง แช่งทีมแชมป์
โดย
akekarat
พุธ มี.ค. 30, 2011 3:11 pm
0
0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
หุ้นตัวไหน ก็ถูกปั่นได้ทั้งนั้นแหละครับ ไม่จำเป็นว่าจะเป็นหุ้น undervalue หรือ overvalue ถ้าไม่เชื่อ บอกหุ้นมาเลย 1 ตัวที่คุณคิดว่าไม่มีทางเป็นหุ้นปั่นแน่ ๆ พร้อมเงินซัก 300-400% ของ Market Cap. ปัจจุบันของหุ้นตัวนั้น และบัญชีหุ้น 4-5 บัญชี (ที่ไม่ใช่ชื่อผม 555) แล้วเดี๋ยวจะทำเป็นหุ้นปั่นให้ดู ส่วนปั่นแล้วจะติดดอยหรือตกเหวตอนจบ ก็อีกเรื่องหนึ่ง จะ JAS หรือ WG หรือ SCNYL ก็ปั่นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้ามีเงินซะอย่าง
โดย
akekarat
อังคาร มี.ค. 29, 2011 3:20 am
0
0
Re: สรุปงานสัมนา 28/3/11 สัมนาพิเศษของ thaiVI ครับ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ท่านใดต้องการเสริมได้ก็ยินดีครับ นี่ถ้าผมไม่ใช่พวกเกรียนที่ที่บางคนเรียก นี่คงทำให้ไม่ได้นะเนี่ย 555 เมื่อไหร่คุณแชมป์จะได้ขึ้นไปนั่งบนเวทีบ้างครับ :wink:
โดย
akekarat
อังคาร มี.ค. 29, 2011 12:12 am
0
0
Re: พี่ๆที่เล่นหุ้นอย่างเดียวมีพอร์ทเท่าไหร่ถึงเล่นหุ้นเป็นอ
ไม่จำเป็นต้องเอาเวลามาลงทุนเป็นอาชีพหรอก เพราะว่าถ้าคุณศึกษาจริง ๆ คุณจะรู้ว่าการลงทุนมันไม่จำเป็นต้องใช้เวลาประจำ และไม่ได้ใช้เวลามากมายอะไรเลย อย่างมากปีละ 4 ครั้ง เว้นเสียแต่คุณอยากเล่นแบบ trading ก็อีกเรื่องหนึ่ง
โดย
akekarat
อาทิตย์ มี.ค. 27, 2011 12:06 am
0
0
Re: ทำไมบางบริษัทเก็บเงินสดไว้เยอะ?
เก็บเอาไว้เผื่อโน่นเผื่อนี่ไงครับ ถ้าปันผลออกไป เดี๋ยวผู้ถือหุ้นก็คงลืม ตัวเองก็ไม่ได้อะไร เกิดวันใดวันหนึ่งต้องใช้เงินขึ้นมา ต้องไปกู้ไปอะไร เสียดอกอีก หรือถ้าหาเงินไม่ได้ ก็เสียโอกาส ปวดหัวอีก ... ฝ่ายบริหารบางบริษัทจึงมักเก็บเงินสดไว้เยอะ ๆ เอาไว้กันเหนียวไงล่ะครับ
โดย
akekarat
เสาร์ มี.ค. 26, 2011 12:23 am
0
0
Re: ข้อมูลสำคัญ ที่หาได้เฉพาะในงานประชุมผู้ถือหุ้น
สำหรับผม เวลาไปประชุมผู้ถือหุ้น สิ่งที่ต้องได้กลับมา คือ ข้อมูลธรรมมาภิบาล และทัศนคติของผู้บริหารที่มีต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยครับ บางทีก็ต้องกล้า ๆ เสี่ยงกล้า ๆ แรงในที่ประชุมหน่อย อาจจะได้เห็นอะไรดี ๆ บางตัวฟังแล้วอาจจะต้องเคาะขวากลางที่ประชุม หรือบางตัวอาจจะต้องขายทุกราคา ...
โดย
akekarat
พฤหัสฯ. มี.ค. 24, 2011 2:50 am
0
0
Re: ทำไมเงินเฟ้อแล้วหุ้นต้องตก
ผมคิดว่า การสนทนา คือการแสดงความเห็น และรับฟังความเห็น ถ้าเรามีธงปักอยู่แต่ละฝั่งอยู่แล้ว อย่าคุยดีกว่าครับ ไม่มีประโยชน์เลย เพราะเราคาดหวังให้อีกฝ่าย เชื่ออย่างที่เราคิด เท่านั้น เราแค่อยากชี้นำ ไม่ได้อยากเปิดรับฟังความเห็น
โดย
akekarat
อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 2:50 pm
0
0
Re: ทำไมเงินเฟ้อแล้วหุ้นต้องตก
เงินเฟ้อ ถ้าพ่อค้าไม่สามารถผลักราคาให้ผู้บริโภคได้ รายได้ก็จะลดลง เงินเฟ้อ ถ้าพ่อค้าสามารถผลักราคาให้ผู้บริโภคได้ ปริมาณการซื้อก็จะลดลง ยังไม่นับรวม ดอกเบี้ยขึ้น ต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ฯลฯ แต่รายได้ลดลง พอเห็นภาพยังครับ ง่าย ๆ
โดย
akekarat
อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 1:53 pm
0
0
Re: เห็นหุ้นขึ้นแล้วเครียด
หุ้นขึ้นก็เครียด หุ้นลงก็เครียด หุ้นนิ่งก็เครียด ... สรุปเครียดเพราะน้ำมันแพงใช่มั๊ยครับ งั้น แก๊สโซฮออล์ผิด จะ 40 แล้วนี่ :mrgreen:
โดย
akekarat
อังคาร มี.ค. 08, 2011 11:28 pm
0
0
Re: คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนจริงๆ
อย่าสักแต่พุ่งเข้าหาเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุน จนสูญเสียสิ่งรอบตัวและประสบการณ์ชีวิตในเวลาปัจจุบัน ชีวิตไม่ได้มีแค่เป้า ยังมีมือ เท้า แขน ขา หน้าตา และหัวใจ ๕๕๕
โดย
akekarat
เสาร์ มี.ค. 05, 2011 1:03 am
0
0
1036 โพสต์
of 21
ต่อไป
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
akekarat
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ที่อยู่:
Bangkok
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อาทิตย์ ก.ย. 19, 2004 6:26 pm
ใช้งานล่าสุด:
อาทิตย์ เม.ย. 02, 2017 12:31 pm
โพสต์ทั้งหมด:
1746 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.09% จากโพสทั้งหมด / 0.24 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว