หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม มีความเสี่ยงอะไรมั่งครับ ? ขออนุญาตวิเคราะห์ความเสี่ยงของหุ้นกลุ่มดังกล่าวตามความรู้ของตนเองนะครับ     ความเสี่ยงภายในประเทศ          - นโยบายภาครัฐ          - ความมีเสถียรภาพของรัฐบาล          - การก่อการร้ายภายในประเทศ          - การระบาดของโรคต่างๆ          - ศักยภาพการแข่งขันของประชาชน (คุณภาพของประชาชน)            เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ กับประเทศคู่แข่ง          - การเปลี่ยนแปลงทางภูมิประเทศทำให้สาธารณูปโภคขั้นพี้นฐาน            ของอุตสหกรรมได้รับผลกระทบ          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ          - กฎเกณฑ์ ระเบียบต่างๆ ของประเทศในเรื่องการลงทุนระหว่าง            ประเทศ       ความเสี่ยงภายนอประเทศ          - บรรยากาศการลงทุนระหว่างประเทศ          - อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีบทบาทในการ            ลงทุนระหว่างประเทศ          - การก่อการร้ายระหว่างประเทศ          * ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ       สำหรับราคาน้ำมันที่ผันผวนเป็นตัวแปรที่มีผลกระทบระยะสั้นๆต่อการ       ตัดสินใจของประเทศผู้ลงทุน โดย benedict ศุกร์ ต.ค. 21, 2005 1:17 pm

คิดยังไง กับ หมอดูที่เอาโหราศาสตร์มาทำนายหุ้นว่าจะขึ้นจะลง ขอแจมด้วยอีกคน เผอิญ ศึกษามาบ้างเล็กน้อย ไม่ลึกซึ้งน่ะครับ โหราศาสตร์ เป็นการคำนวณการเดินทางของดวงดาวบนท้องฟ้า ซึ่งนักโหราศาสตร์ เห็นตรงกันว่าดวงดาวแต่ละดวง รวมทั้งดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ ต่างมีอิทธิพล และพลังงาน ส่งผลให้เกิดปรากฎการณ์มากมายทั้งกับปัจเจกบุคคล ประเทศ และโลก ทั้งนี้การคำนวณดังกล่าว ได้อาศัยวิชาสถิติเป็นพื้นฐาน ซึ่งวิชาสถิติที่ใช้ก็เป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งมีค่าความแปรปรวน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แต่ ค่าความแปรปรวนของโหราศาสตร์ ค่อนข้างจะสูง เนื่องจากว่า ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่ผลกระทบนั้นมีมากกว่า การวิเคราะห์อื่นๆ ซึ่ง สมมติฐานที่ตั้งไว้นั้น มีปัจจัยที่ตั้งไว้ค่อนข้างจำกัด ผมใช้ความรู้ทางโหราศาสตร์ในการ คาดการณ์ สถานะการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ โดยใช้ ดวงเมืองเป็นหลัก โดยอาศัยลัคนาของดวงเมืองเท่านั้น นอกนั้น จะดูดาวจรที่เดินไปตามราศีจักร ซึ่งแต่ละดาวจรจะมีอิทธิพลส่งผลให้เกิดแนวโน้ม ปรากฏการณ์ต่างๆ กับประเทศ โดยรวม ยกตัวอย่างเช่น ในต้นเดือนตุลาคม 2548 นี้ ดาวพฤหัส จะย้ายจากราศี กันย์ ซึ่งในราศีจักรนั้นถือว่าเป็นเรือนวินาศ เข้าสู่ราศี ตุลย์ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับ ลัคนาของดวงเมือง ภาษาหมอดูเรียกว่า เล็ง ดวงเมือง คุณสมบัติของดาวพฤหัส ถือเป็นดาว ศุภเคราะห์ เป็นดาวผู้ใหญ่ หากลงเรือนที่ให้คุณต่อลัคนา จะส่งผลดี  ในกรณีนี้ ราศีตุลย์ เป็นเรือนที่เล็ง กับ เรือนลัคนาของดวงเมือง ซึ่งส่งผลดีให้กับดวงเมือง จากความรู้อันน้อยนิดของผมทางด้านนี้  ผมคาดการณ์ไว้ว่า อิทธิพลของดาวพฤหัสจะส่งผลให้ สภาพเศรษฐกิจของบ้านเมือง จะเข้าสู่ภาวะปกติ ถึงดีอีกครั้ง รัฐบาล ตลอดจนปั้ญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะคลี่คลาย ส่งผลรวมให้เสถียรภาพของประเทศดีขึ้น ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อตลาดหลักทรัพย์โดยรวม ประกอบกับราหู เข้าสู่ วินาศ ของเรือนลัคนา ตั้งแต่ต้นปี จึงนับเป็นคุณต่อประเทศ แต่ติดตรงดาวเสาร์ ที่ทำให้ผู้นำเหนื่อยหน่อย กับปัญหากวนใจที่เกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ ผมคาดว่าอาจได้เห็น 750 จุด หลังสิ้นเดือนกันยายน นี้แน่นอนครับ เผลอๆ ไปถึง 800 จุด อาจเป็นไปได้ โดย benedict ศุกร์ ก.ย. 09, 2005 6:11 pm

เพื่อนๆคิดอย่างไรกับการหนีเข้ามาเลย์ของ131ไทยมุสลิม เห็นกระทู้น่าสนใจดีครับ ค่อนข้างอ่อนไหวนะครับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหากข้อมูลที่ได้มาจากสื่อต่างๆ ประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะรัฐกลันตัน ซึ่งมี สัมพันธภาพที่ดีกับไทยมาโดยตลอดคงจะอึดอัดใจพอสมควร คงไม่ขอแสดงความคิดเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะข้อมูลทั้งฝ่ายสื่อ ฝ่ายรัฐต่างไม่ชัดเจน แต่ที่ค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดเห็นที่แสดงในสื่อต่างๆ ของระดับบริหาร สถานะการณ์ที่เกิดขึ้นเกินความสามารถของรัฐบาลไทยแล้วครับ โดย benedict พุธ ก.ย. 07, 2005 2:09 pm

ความจริงผมว่าแกรมมี่น่าเปลี่ยนแนวธุรกิจ ทำไปแล้ว และล้มไม่เป็นท่า อย่าง มะหมี่สำเหร็จรูป Forme และเครื่องสำอาง UStar น่ะ  แตกสายธุรกิจที่ใหม่ๆ ที่ไม่สันทัด เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ คงต้องหันไปเอาดีในจุดแข็งที่ตนถนัดอยู่น่ะครับ  โดยเจาะไปยังกลุ่มตลาดเทคโนโลยี่ มากขึ้น เป็นไปในลักษณะ เทคโนเอนเตอร์เทนเม้นท์ แต่ก้อมีข้อเสีย ตรงที่ว่า ใช้ต้นทุนสูง และการเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดย benedict ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 10:06 am

ช่วยตอบหน่อยค่ะ silent period คืออะไรคะ คำตอบมีเป็นภาษาอังกฤษ ร้อยคนร้อยหุ้น บ้านอมตะน่ะครับผมจะก็อบมาให้ครับ Silent Period This is a period in which major shareholders or the company's staff who subscribe to IPO shares at a lower price are4 barred from selling the stock. The aim is to alleviate selling pressure . [/b] โดย benedict ศุกร์ ส.ค. 26, 2005 3:50 pm

เขาว่าอสังหาริมทรัพย์ปีนี้อยู่ที่ดวง คเห็นตั้งกระทู้แล้วไม่ใครเข้ามาแจม เลยขออนุญาต เสนอความเห็นส่วนตัวต่อกลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย - แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจต่อการซื้อที่อยู่อาศัย มาก ประกอบกับ ราคาที่อยู่อาศัยที่เป็นโครงการใหม่ๆ มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจาก วัตถุดิบราคาสูงขึ้น จึงทำให้เกิดการชะลอตัวต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ถึงแม้ จะมีความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่ จึงทำให้เกิดสภาพ Over supply ในช่วงขณะหนึ่ง แต่ทั้งนี้ เรื่องดอกเบี้ย ประกอบกับนโยบายภาครัฐ ที่ส่งเสริมให้ผู้บริโภคหัน มาให้ความสนใจกับบ้านพักอาศัยมือสองเพิ่มขึ้นนั้น ประกอบกับราคาบ้านใหม่มี ราคาขยับตัวสูงขึ้น อันสืบเนื่องจากวัตถุดิบ จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจ ของผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ - สภาพดังกล่าวข้างต้น จะเป็นอยู่ช่วงขณะหนึ่ง คาดว่า ในไตรมาส สอง ถึงสาม ของปี 2548 นี้ เจ้าของโครงการที่อยู่อาศัยจะปรับกลยุทธ โดยเน้นไปยังตลาดระดับ กลาง ถึง ล่าง เพิ่มขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง แต่การแข่งขันดัง กล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อราคาที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด ดังนั้น โครงการใหญ่ๆ จะได้ เปรียบในการเข้าหากลุ่มเป้าหมายมากกว่าโครงการเล็กๆ โดยเฉพาะต้นทุน ที่ดิน และวัสดุก่อสร้าง ดังนั้นอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มที่อยู่อาศัยปี 2548 นี้ ถึงแม้จะไม่บูมเหมือนเมื่อปี 2546 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายภาครัฐ แต่ความต้องการที่อยู่อาศัย ของคนเมือง ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธการตลาดของแต่ละบริษัทในการเจาะเข้า หากลุ่มเป้าหมาย สำหรับ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ความเห็นส่วนตัวผมยังมองเห็นอนาคตที่ค่อนข้างสดใส อันเป็นผลสืบเนื่องจาก นโยบายภาครัฐ ที่กระตุ้นให้เกิดการลงทุนระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน อีกทั้งภูมิประเทศของประเทศไทย อยู่ในอันดับสาม รองจาก จีนและอินเดีย ที่เป็นประเทศที่น่าลงทุนในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการได้เปรียบเรื่องภูมิประเทศ ประเทศไทยจำต้องพัฒนาบุคคลากรให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ทั้งด้านเทคโนโลยี่ และการศึกษา อย่างต่อเนื่อง ประเภท เห็นน้ำทะเลลดลงฮวบฮาบแล้วทะเล่อวิ่งเข้าไปเก็บหอย ปลา ปู บนทรายแล้วโดนคลื่นโถมทับจนชีวิตวอดวายไปหมื่นกว่าคนนั้น จะต้องไม่มีในอนาคตน่ะครับ แล้วมันเกี่ยวกันไหมเนี่ย! โดย benedict อังคาร ม.ค. 04, 2005 10:10 pm

AMATA ทำนิวไฮไปแล้วครับ ขอแจมด้วยคนครับ ไหนๆ ก้อดูแลหุ้นตัวนี้อยู่ในห้องร้อยคนร้อยหุ้น คาดว่าก่อน สิ้นปีนี้น่าที่จะมีข่าวขายที่ดินเข้ามาอีกครับ อาจไม่ใช่ล็อตใหญ่นัก แต่จะทำให้ยอดขายเกินเป้าหมายที่ปรับขึ้นมาจาก 800 ไร่ เป็น 900 ไร่ เมื่อกลางปี เบ็ดเสร็จแล้วอาจถึง 1000 ไร่ เห็นว่ากำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับนักลงทุนไต้หวันและจะสามารถสรุปการขายได้ หากราคายังสามารถยืนอยู่ที่ระดับนี้ได้โดยไม่มีการปรับฐานในช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือนนี้ อาจจะเห็นไปแตะที่ 17-18 บาทน่ะครับ นึกไม่ถึงเหมือนกันครับ เล่นเอาผมแปลกใจพอสมควร เสียดายอย่างเดียวครับมีในพอร์ตน้อยไปหน่อยน่ะครับ โดย benedict อังคาร ธ.ค. 16, 2003 9:42 pm

GRAMMY ในทางธุรกิจ เรียกว่า seynergy ครับ การใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยกรขององค์กรร่วมกันให้เกิดประโยชนสูงสุด มีหลายบริษัทฯ ใช้วิธีการนี้ไม่ทางตรงก้อทางอ้อมน่ะครับ ผมว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีลักษณะที่เรียกว่า Conglomerate อย่างแกรมมี่ ทั้งนี้การนำศิลปินในสังกัดของแกรมมี่ มาเป็น Presentor ให้กับ ธุรกิจส่วนตัวที่ตนเองเป็นผู้ถือหุ้นอยู่แต่ในขณะเดียวกัน เท่าที่ทราบ ศิลปินเหล่านั้นก้อเป็นผู้ถือหุ้นใน ธุรกิจส่วนตัวดังกล่าวด้วย ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ได้ประโยชน์ทั้งสามฝ่าย ทั้ง แกรมมี่เองในเชิงภาพพจน์ของศิลปินในสังกัด ทั้งตัวศิลปิน และ ธุรกิจส่วนตัวน่ะครับ ขอแถมอีกนิดเถอะครับ เรื่องภาพยนต์ กำไรที่เกิดขึ้นจากเรื่อง เพื่อนฉัน หรืออะไรเนี่ยน่ะครับ ความเห็นส่วนตัว คงพอที่จะล้างขาดทุนจากภาพยนต์ก่อนหน้านี้และสำรองไว้สำหรับเรื่องที่จะตามมา Timeing ของภาพยนต์เรื่อง เพื่อนฉัน ที่ลงโรงช่วงนี้ ค่อนข้างเหมาะเจาะและลงตัวครับ เพราะตลาดกำลังเฝือเต็มทีกับภาพยนต์ประเภท แอ็คชั่น ทั้งไทยและเทศ อีกทั้งเป็นภาพยนต์แนวใสๆ ดูแล้วให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนต์ที่ลงโรงอยู่ในขณะนี้ จะเรียกว่า ฟลุ๊คก้อได้ครับ คงไม่ว่านะ โดย benedict พุธ ต.ค. 15, 2003 9:41 pm

กองทุนวายุภัคย์1 ลงทุนในหุ้น เท่าที่ติดตามข่าวสารน่ะครับ 70% จะลงทุนในหุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นหุ้นทุนที่เป็นองค์รัฐวิสาหกิจที่แปรรูปและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และที่กำลังดำเนินการแปรรูปเป็นบริษัทมหาชน และอยู่ในระหว่างการจดทะเบียนเข้าตลาด ส่วนอีก 30% นั้นจะเป็นการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียน โดยทั้งนี้ ยังคงมีการประกันผลตอบแทนจากการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนที่ 3% อยู่ ซึ่ง รายละเอียดดังกล่าวกำลังหาบทสรุปอยู่ครับ โดย benedict พุธ ต.ค. 15, 2003 7:27 pm

GRAMMY ครั้งแรกที่ผมเข้าตลาดฯ เมื่อปีที่แล้วมี่ grammy อยู่ในพอร์ตไว้สำหรับกระจาย ความเสี่ยง ได้รับปันผลมาอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่เรื่องราคาหุ้นสิครับ ตอนนี้ กลับไปราคาเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว เหมือนกับบริษัทฯ ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ถึงแม้จะมีการขยายไลน์ธุรกิจ การตัดขาดทุนโดยการขายกิจการที่ไต้หวันไป ทั้งนี้ผมมองว่า รายได้หลักของ grammy คือธุรกิจเพลงน่ะครับ ซึ่งจะเห็นว่ารายได้ในส่วนนี้ของแกรมมี่ยังทรงตัวอยู่ ประกอบกับมีรายได้ในส่วนอื่น จากการปราบปราม ซีดีเถื่อน และจากบริษัทย่อยที่ grammy เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ ข่าวเรื่อง ศิลปินในสังกัดกำลังชักแถวเปลี่ยนสังกัด แม้นจะไม่เป็นทางการแต่ผมมองว่ากระเทือน grammy อยู่พอสมควร เพราะทุกวันนี้ grammy ไม่มีศิลปิน ใหม่ๆ ออกมา รายได้ส่วนหนึ่งที่ได้เป็นกอบเป็นกำคงจะเป็นคอนเสริตจากศิลปินเดิมๆ ส่วนศิลปินที่เคยมีผลงาน เงียบหายและเปลี่ยนสังกัดไปตั้งบริษัทฯ ตนเองกันเป็นแถว ไม่ก้อเปลี่ยนไปอยู่สังกัดอื่น ยิ่งในปีนี้ grammy หันมาผลิตภาพยนต์หลังจากที่ประสพความสำเร็จในปีที่แล้วในเรื่อง ขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนสิบเอ็ด แต่ดูเหมือนทุกเรื่องของ grammy จะขาดทุน ผมเลยตัดสินใจทิ้งตัวนี้ไปเมื่อเร็วๆ นี้น่ะครับ ถึงแม้นพื้นฐานจะดี แต่ผมว่า grammy เริ่มจะห่างสิ่งที่ตนเองทำได้ดีที่สุดแล้วครับ อีกประการหนึ่ง เรื่องการทำกำไรกับหุ้น grammy นั้น ผมไม่คิดว่า grammy เป็นหุ้นทุนสำหรับการเก็งกำไรได้ เนื่องจากการขยับตัวของราคาไม่เป็นไปตามทิศทางของตลาดที่ควรจะเป็น ค่อนข้างแปลกใจเหมือนกันครับ ว่าหุ้นในสังกัดของ grammy อย่าง gmmm ที่ผมถืออยู่ ก้อมีลักษณะเดียวกัน การขยับขึ้นลงของราคาจะเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องการประกาศผลประกอบการทุกไตรมาส ราคาจะมีการขยับตอบรับข่าวสาร และหลังจากนั้นจะถอยกลับมาที่ราคาเดิม บิ๊กลอต ที่มีการซื้อขายนั้น ผมคาดว่าคงจะเป็นบิ๊กล็อตที่ลงทุนไว้เพื่อรับเงินปันผลในงวดที่จะประกาศครั้งต่อไปน่ะครับ และคาดว่าคงลงทุนเพื่อการกระจายความเสื่ยง อันเป็นผลสืบเนื่องจาก ราคาที่ไม่ผันผวนมากไปกับทิศทางของตลาดโดยรวมน่ะครับ โดย benedict จันทร์ ก.ย. 15, 2003 7:15 pm

GRAMMY ข่าวไม่เป็นทางการของ แกรมมี่น่ะครับ - Right CD ระบาดในกลุ่มนักศึกษา ซึ่งถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ และคาด ว่าจะมีผลกระทบกับรายได้โดยรวมของบริษัท เนื่องจากรายได้หลักของ GRAMMY ขึ้นอยู่กับธุรกิจเพลงครับ - ศิลปินเริ่มขยับตัวย้ายสังกัดกันเป็นแถว อันเป็นผลจาก แกรมมี่ มุ่งเน้น การปราบปราม ซีดี เถื่อน ขยายไลน์ธุรกิจ จนลืมศิลปินไปเลย จะเห็นว่า หลังๆ นี้ ศิลปินของแกรมมี่ ออกมาน้อยมาก สอง-สามเดือน ถึงจะมีออก มาสักคนสองคนน่ะครับ โดย benedict ศุกร์ ก.ย. 12, 2003 9:47 pm

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า " หุ้นมีไว้ขาย แต่เมียมีไว้เก็บ &qu หุ้นเค้ามีไว้ให้สะสม เมียมีไว้เพื่อให้เกิดทำถามว่า ทำไม มากกว่มั้งครับ :D โดย benedict เสาร์ มิ.ย. 21, 2003 11:52 am

การ set up font สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องตัวหนังสือเล็กไป :oops: :lol: :shock: :arrow: :twisted: :?: โดย benedict เสาร์ มิ.ย. 21, 2003 11:49 am