STPI จะแซง CPALL ได้หรือเปล่า วันนี้เขียวอีกแล้ว ขึ้นวันละนิดทุกวัน กำไรดี ขนาดนี้ 60 บาท ยังถูกไปเลย นี้หรือเปล่า ที่เขาเรียกว่า bias อย่าชะล่าใจสำหรับธุรกิจรับเหมาน่ะครับ TRC ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วน่ะ โดย killyz พุธ พ.ค. 19, 2010 9:12 am

ความสำเร็จ VS ความสุข ตอนกินข้าวเที่ยงที่ทำงาน บิ๊กใส่ปิ่นโตจากบ้านไปใช่ไหม โดย killyz เสาร์ พ.ค. 15, 2010 9:36 am

วันจันทร์ ที่10/05/53 เป็นวันทดสอบ VI กลุ่ม A   แอฟริกาใต้    เม็กซิโก            อุรุกวัย           ฝรั่งเศส       กลุ่ม B   อาร์เจนตินา   ไนจีเรีย             เกาหลีใต้         กรีซ       กลุ่ม C   อังกฤษ        สหรัฐอเมริกา       แอลจีเรีย        สโลวีเนีย       กลุ่ม D   เยอรมนี       ออสเตรเลีย         เซอร์เบีย        กานา       กลุ่ม E   ฮอลแลนด์     เดนมาร์ก           ญี่ปุ่น            แคเมอรูน       กลุ่ม F   อิตาลี          ปารากวัย           นิวซีแลนด์       สโลวะเกีย       กลุ่ม G   บราซิล        เกาหลีเหนือ        ไอเวอรี่โคสต์     โปรตุเกส       กลุ่ม H   สเปน         สวิตเซอร์แลนด์     ฮอนดูรัส        ชิลี ปัญหา PIGS ร้ายแรงจริงครับ วิเคราะห์ดูแล้ว Italy กับ Spain  น่าจะดีกว่าเจ้าอื่น ความเห็นส่วนตัวครับ โดย killyz จันทร์ พ.ค. 10, 2010 4:40 pm

แดงเต็มเลย 555 ไม่ได้มาเกทับนะครับ ยังเขียว (ชั่วคราว) ทุกตัว :lol: มีเหลือง มีแดง และเขียว บ้าง โลกสีสดใส :D แบบนี้ที่เค้าเรียกว่า "หลากสี" ใช่ไหมครับ โดย killyz พุธ เม.ย. 28, 2010 2:06 pm

ทำไงกับหุ้น SSC ดี โดน SP ตั้งกะทู้แบบนี้ ระวังจะ โดน  SP (Suspect) น่ะครับ  :P โดย killyz อังคาร เม.ย. 20, 2010 7:37 pm

ถึงแฟนๆจูบิลี่ อ่านชื่อกะทู้คิดว่ามี โพสต์รูป CFO Summer Collection หรือโปรโมชั่นของสินค้า jubile ในช่วงสงกรานต์ ขอบคุณครับ พี่หมอ โดย killyz พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2010 4:10 pm

เส้นทางสาย VI ผมรหัส 46 ครับ ต้องเรียกพี่สิครับเนี่ย : D พี่น้อง มช ผมวิศวะ รหัส 46 ครับ   แบบนี้ก็รุ่นเดียวกับเพื่อน AF6 สิครับ โดย killyz พุธ เม.ย. 07, 2010 8:58 am

:D หุ้นอะไรในบ้านเราที่ทำธุรกิจ .com บ้างหรอครับ???? CSL ธุรกิจสมุดหน้าเหลืองออนไลน์และคอนเทนต์ โดย killyz เสาร์ มี.ค. 27, 2010 2:48 pm

มุมมองลงทุนสไตล์ Sai [quote="leksmile"][quote="damiano"][quote="leksmile"][quote="เด็กเลี้ยงไม้"]มาส่งเสี้ยงเรียกร้องด้วยครับ เริ่มจาก 100000 ตอนนี้จะ 8 หลัก โดย killyz อังคาร มี.ค. 23, 2010 3:46 pm

มุมมองลงทุนสไตล์ Sai 1.พี่ sai เคยตีแตกหุ้นตัวไหน เพราะเหตุใดถึงทำให้พี่มั่นใจแล้วเลือก 2.พี่ sai เคยโดนหุ้นตัวไหนตีหัวแตก เพราะเหตุใดทำให้พี่พลาดครับ 3.เวลาที่พี่ขาดทุนมากๆ ทำยังไงให้จิตใจสงบนิ่งและยึดมั่นในหลักการได้ ขอซูฮกให้เซียนโกะ หัวพ่อค้าตั้งแต่เกิด  ผู้สู้ชีวิต  :bow: โดย killyz ศุกร์ มี.ค. 19, 2010 9:13 am

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ 1.หุ้นประเภทไหนใน ตลท ที่พี่โจมีน้ำหนักมากที่สุดในพอตคิดเป็นกี่ %   ทำไม ถึงคิดว่าหุ้นประเภทนี้ควรให้ความน่าสนใจ 2.หุ้นประเภทไหนใน ตลท ที่พี่โจมีน้ำหนักน้อยที่สุดในพอตคิดเป็นกี่ %   ทำไม ถึงคิดว่าหุ้นประเภทนี้ถึงไม่น่าสนใจ 3.กลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงของพี่โจ เคยอ่านมาแล้วทราบว่า   ถือหุ้นค่อนข้างเยอะ แต่ทำไมผลตอบแทนถึงได้มากกว่าปกติ   สำหรับคนใช้กลยุทธ์ถือหุ้นหลายตัว (10-20 ตัว) เพราะ   การถือหุ้นหลายตัวลดทั้งความเสี่ยงและผลตอบแทนลงด้วยเช่นกัน 4.ช่วยยกตัวอย่างหุ้นและกลุ่มอุตสาหกรรมในไทยตามทีปีเตอร์ ลินซ์ บอกไว้ทีครับ 4.1 หุ้นโตช้า : อุตสาหกรรมอะไรบ้าง เช่นอะไร ทำไมถึงจัดไว้ในกลุ่มนี้ 4.2 หุ้นแข็งแกร่ง 4.3 หุ้นโตไว 4.4 หุ้นวัฏจักร 4.5 หุ้นฟื้นตัว 4.6 หุ้นทรัพย์สินแฝง ขอบคุณครับ ขอให้ลูกพี่โจสุขภาพแข็งแรงและเป็นลูกที่ดีครับ โดย killyz พุธ มี.ค. 17, 2010 2:13 pm

ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง PS กับ SIRI ใช่ไหมครับ กิจการที่อยู่อุตสาหกรรมเดียวกัน ยอดขายใกล้กัน ใช่ว่าจะทำกำไรได้เท่ากันและมีอัตราเติบโตของกำไรเท่ากัน ดูทรัพย์สินรวม หนี้สินและส่วนผู้ถือหุ้นด้วยน่ะครับ กิจการลงทุนเยอะแต่กำไรน้อยกว่ากิจการที่ลงทุนน้อย โดย killyz พุธ มี.ค. 17, 2010 1:49 pm

มุมมองลงทุนสไตล์ Sai จุติเทพเซียนโกะ sai รบกวน mod ย้ายเข้าห้องกระทู้คุณค่าทีน่ะครับ ขอทราบประวัติในการเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นน่ะครับ ทำไมถึงสนใจลงทุนในหุ้น แล้วค้นพบแนวทางและหลักการได้อย่างไร โดย killyz อังคาร มี.ค. 16, 2010 7:59 pm

ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด เสมือนโลกใบนี้ นับถือศาสนาเดียวกันหมด ใช้กฏหมายเดียวกัน เป็นเพียงอุดมคติ ไม่ใช่ความจริง Only Ideal ,Not Real โดย killyz จันทร์ มี.ค. 15, 2010 1:47 pm

มือใหม่ ตีแตก และความเสี่ยง เสี่ยงทั้งคู่ !! ถ้าไปมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่ใช่ภรรยา และไม่สวมถุงกุ๊ปแก๊ป :8) คร๊าบ... เจ้านายทำการบ้านแล้วให้ภรรยาตรวจก็ไม่เสี่ยงครับ แต่ถ้าทำการบ้านกับคนอื่นแล้วถ้าภรรยารู้ก็เสี่ยงครับ สรุปแล้ว ความเสี่ยงหนึ่งเดียวของเจ้านายคือ ภรรยารู้ (ต่อให้ใส่ถุงก็ไม่รอด) ส่วนลูกน้องไม่มีความเสี่ยงเหมือนเจ้านายครับ เพราะไม่มีครอบครัว แต่มีความเสี่ยงที่จะเสียสุขภาพและเงินทอง ตอนนี้ผมอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกแล้วครับ โดย killyz ศุกร์ มี.ค. 12, 2010 11:09 am

หุ้นปันผล (stock dividend) มีข้อดีข้อเสียอย่างไร คัดลอกจาก settrade.com Dividend VS Value Stock คนจำนวนมากในตลาดหุ้นมักจะเข้าใจผิดคิดว่า Value Stock หรือหุ้นคุณค่าก็คือหุ้นที่มีการจ่ายปันผลที่ดี ยิ่งปันผลสูงเมื่อเทียบกับราคาหุ้นมากเท่าไรหุ้นนั้นก็เป็นหุ้น Value มากขึ้นเท่านั้น บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดไม่คึกคักโบรกเกอร์และหนังสือพิมพ์ก็จะนำเสนอหุ้นที่จ่ายปันผลงามที่สุด 10-20 อันดับ และแนะนำว่าเป็นหุ้นที่น่าลงทุน บางครั้งผมเองก็เคยพูดว่า ปันผลเป็นคำตอบสุดท้าย นั่นคือมีหุ้นที่จ่ายปันผลดีบางตัวน่าสนใจเข้าข่ายเป็น Value Stock และต่อมาก็พิสูจน์ว่าสิ่งนั้นเป็นจริง คือหุ้นที่จ่ายปันผลดีเหล่านั้นทำกำไรให้กับคนที่ถืออย่างงดงาม พูดไปพูดมามาก ๆ เข้าคนจำนวนไม่น้อยก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าหุ้น Value ก็คือหุ้นปันผล และคิดว่าผมในฐานะ Value Investor พันธุ์แท้ ชอบลงทุนซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลงามและจะถือเก็บเพื่อกินปันผลเป็นหลักโดยไม่สนใจกำไรจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น นั่นเป็นความเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะคำว่า Value Stock นั้น ความหมายก็คือเป็นหุ้นที่มีคุณค่าสูงกว่าราคาหุ้นมาก โดยที่คุณค่านั้นคิดจากความสามารถในการทำกำไรและ / หรือการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทในอนาคตระยะยาว ส่วน หุ้นปันผล ที่พูดกันนั้นมักจะเป็นปันผลที่จ่ายในปีที่แล้วหรือปีที่กำลังถึงเมื่อเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน ความแตกต่างระหว่างหุ้นปันผลกับ Value Stock นั้นชัดเจนก็คือ ใน Value Stock เราพยายามหาความสามารถในการทำกำไรหรือเงินสดในระยะยาวของบริษัทซึ่งจะต้องวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ มากมายตั้งแต่เรื่องของภาวะอุตสาหกรรม การตลาด การผลิต การบริหารงาน และการเงินของบริษัท ความได้เปรียบเสียเปรียบของบริษัทเทียบกับคู่แข่งและอื่น ๆ อีกมาก ในขณะที่หุ้นปันผล ดูเฉพาะการจ่ายปันผลปีที่แล้วปีเดียวเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันซึ่งเป็นข้อมูลของอดีตที่ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรเลย ในสายตาของ Value Investor แล้ว ปันผลเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งหรือเป็นคุณค่าของหุ้นที่นำมาพิจารณาประกอบกับองค์ประกอบอื่นอีกหลาย ๆ อย่าง บางคนคิดว่าผลตอบแทนจากปันผลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางคนก็เฉย ๆ ส่วนผมเองนั้น ผมคิดว่าปันผลเป็นเพียง ผลตอบแทนของการรอคอย นั่นก็คือ เวลาผมซื้อหุ้นที่เป็น Value Stock นั้น ผมซื้อเพราะผมเชื่อว่าเป็นกิจการที่ดีราคาถูก แต่ผมไม่รู้ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปเมื่อไร บางครั้งผมต้อง รอคอย นานมาก ซึ่งถ้าในระหว่างนั้นผมไม่ได้อะไรตอบแทนเลยผมก็จะรู้สึกแย่มากและก็ทำใจได้ยาก ดังนั้น หุ้นที่มีการจ่ายปันผลน้อยนิดเมื่อเทียบกับราคาหุ้นจึงเป็นหุ้นที่ผมไม่ชอบเลย แต่ผมเองก็ไม่ชอบและมักจะไม่สนใจหุ้นที่จ่ายปันผลอย่างงดงามมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้น เช่น จ่ายถึง 10% ของราคาหุ้นที่เรียกกันว่าหุ้นปันผล เหตุผลไม่ใช่เพราะผมรังเกียจปันผลหรือคิดว่านี่เป็นผลตอบแทนที่น้อยเทียบกับการขึ้นของราคาหุ้น แต่เป็นเพราะว่า หุ้นปันผล เหล่านั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลมาก ชั่วคราว นั่นก็คือ จ่ายมากเฉพาะปีที่ผ่านมา แต่อนาคตคงไม่สามารถที่จะจ่ายได้เท่าเดิมเนื่องจากกำไรของบริษัทในอนาคตจะลดลง เพราะฉะนั้น หุ้นปันผล ของวันนี้ อาจจะกลายเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลน้อยในวันข้างหน้า บริษัทบางแห่งทำกำไรปีที่แล้วได้ 8 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผล 8 บาทต่อหุ้นเหมือนกันเพราะไม่มีความจำเป็นต้องเก็บกำไรเอาไว้ลงทุนต่อ ราคาหุ้นของบริษัทที่ซื้อขายในตลาดเท่ากับ 100 บาท ดังนั้นผลตอบแทนปันผลเท่ากับ 8% คนพูดว่านี่คือหุ้นที่จ่ายปันผลดีมากเป็นหุ้นปันผล อีกบริษัทหนึ่งกำไร 10 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นเท่ากับ 100 บาทเท่ากัน แต่จ่ายปันผลเพียง 3 บาท เพราะต้องนำกำไรส่วนที่เหลืออีก 7 บาทต่อหุ้นไปลงทุนขยายงานต่อ คำนวณดูแล้วผลตอบแทนปันผลเพียง 3% แต่มองดูแล้วบริษัทนี้น่าจะดีกว่าบริษัทแรกและมีคุณค่ามากกว่า เพราะบริษัทน่าจะเติบโตมากกว่าเพราะมีการลงทุนขยายกิจการ และราคาหุ้นเมื่อคิดจากค่า PE ก็ถูกกว่า คือเท่ากับ 10 เท่า (100/10) ในขณะที่บริษัทแรกนั้นค่า PE เท่ากับ 12.5 (100/8) หุ้นที่จ่ายผลตอบแทนปันผลสูงนั้นคงจะไม่เลวร้ายดังตัวอย่างข้างต้นเสมอไปแต่หุ้นหลายตัวก็มีลักษณะดังกล่าว ดังนั้นก่อนที่จะซื้อหุ้น ปันผล ควรที่จะศึกษาตัวบริษัทอย่างถี่ถ้วนเสียก่อนว่าปันผลที่ได้รับนั้นจะไม่ลดลงในอนาคต ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง การได้ปันผลงามก็ไม่มีประโยชน์ เพราะในวันที่เราได้รับปันผล ราคาหุ้นกลับลดลงมากกว่า ปันผลดีกลายเป็นกับดัก และนี่ไม่ใช่หุ้น Value ที่เราเสาะแสวงหาเลย โดย killyz อังคาร มี.ค. 02, 2010 8:17 pm

อยากทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆชาว VI เริ่มลงทุนตอนอายุเท่าไหร่ครับ? ตอน ป.2 ไปซื้อนมเม็ดมา 1 กระปุก แล้วแบ่งขายเป็นเม็ดล่ะบาท สุดท้ายก็เลิกขาย เพราะอาจารย์มาเตือน  :)  (ค้ากำไรเกินควร) นึกแล้วตลกตัวเอง ไม่น่าจะขายได้ แต่ก็ขายจนหมดกระปุกได้ โดย killyz เสาร์ ก.พ. 27, 2010 4:10 pm

กลัวอะไรกัน ผบ.ทบ.   :) โดย killyz พฤหัสฯ. ก.พ. 25, 2010 1:39 pm

เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน เมื่อเช้าผมเพิ่งได้รับเมล์ตอบกลับจากอาจาร์ยวรศักดิ์ 2 เรื่อง 1 เรื่องค่าสอนครับ เห็นแล้วช็อคครับพี่น้อง แพงกว่าของ อ วิศรุต 2 เท่า และเกินกว่าที่ผมคาดไว้อีกครับ (สงสัยเป็นเพราะ customised course + ความดัง) จำนวนที่รับ : 80 คนสูงสุด เนื่องจากค่าสอนแพงมากจึงต้องรับคนเพิ่มครับ ถ้าเป็นสัก 60 คน แล้วเพิ่มค่าอบรมเป็น 6000 บาท แทนได้ไหมครับ สถานที่อบรมยังที่เดิมใช้ได้ไหมครับ แต่จะมีปัญหาคนสมัครเดิมๆ จะยอมรับราคานี้ได้ไหม ต้องลองถามกันดู โดย killyz พุธ ก.พ. 24, 2010 2:47 pm

กิมเอ็ง จะเก็บ 50 บาทต่อวัน ทุกบัญชีแม้ว่าจะไม่มีการเทรด พูดง่ายๆ คือ เก็บค่าคอมทุกรายการซื้อขาย โดยขั้นต่ำที่ 50 บาท โดย killyz พุธ ก.พ. 17, 2010 5:00 pm

เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน พี่ส้มเขียวหวาน เห็นว่า ถ้าคนเกิน 40 คนแล้วจะทำให้การจัดอบรมได้ไม่เต็มที่ ก็ควรจะต้องบอกคนที่สมัครทีหลังว่า ขอให้เป็นโอกาสหน้า เพราะว่าการอบรมครั้งนี้เต็มแล้ว และให้จองสำรองแทนจนถึงวันก่อนวันอบรม เผื่อในกลุ่มคนที่สมัคร 40 คนแรกขอยกเลิกก่อน อะไรก็ไม่แน่นอนครับ ตอนแรกที่พี่ส้มเขียวหวานประกาศ ช่วงแรกก็ขาดคนที่เข้าอบรม อีกทั้งยังบอกจำนวนคนที่ต้องการในการอบรมแล้วด้วย ถ้าการจัดอบรมครั้งนี้สำเร็จต้องขอบคุณพี่ส้มเขียวหวาน โดย killyz อังคาร ก.พ. 16, 2010 4:45 pm

เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน จากจำนวนที่สมัครเข้าอบรมก็ใกล้เคียงกับจำนวนที่ห้องอบรมรองรับได้ คนที่ยังไม่ชัวร์และสมัครหลังจากนี้ ให้เป็นสำรองที่นั่งแทนก็ได้น่ะ เพื่อจะได้ไม่เสียโอกาสแก่คนที่มาอบรมได้ชัวร์แต่มาสมัครทีหลังน่ะครับ โดย killyz อังคาร ก.พ. 16, 2010 11:23 am

เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน พี่ส้มเขียวหวาน น่าจะสรุปจำนวนคนเข้าและรายชื่อที่เข้าแน่นอนได้แล้วครับ แล้วถ้าจำนวนเกินไปที่ห้องอบรมจะรองรับได้ ก็ลองหาห้องอบรมที่ใหญ่ขึ้น และแจ้งจำนวนคนที่เข้ารับอบรมได้ เพื่อให้สิทธิ์แก่คนที่มาสมัครก่อน ห้องอบรมที่ แกรนด์ มิราเคิล รองรับได้กี่คนครับ อีกทางหนึ่งก็แบ่งรอบในการอบรมครับ  คงรบกวนพี่ส้มเขียวหวานอีก และดูแล้วอาจารย์วรศักดิ์น่าจะยุ่งมากและมีเวลาน้อย เรื่องค่าอบรม ควรจะให้มีการโอนก่อนเพื่อยืนยันการเข้าอบรมหรือไม่ โดย killyz อังคาร ก.พ. 16, 2010 10:10 am

ขอคำแนะนำหุ้นธุรกิจบันเทิงครับ พี่แมว ควรหาหนังสือด้านการลงทุนมาอ่านให้มากๆก่อนน่ะครับ เลือกแบบเล่มอ่านง่ายๆ และใกล้ตัว ตีแตก และเล่มอื่นๆ ของ อ.นิเวศน์ เหมชิวากร survival kit เล่มเล็กสีเขียว ของ นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ หนังสือพวกนี้จะสอนวิธีให้พี่เข้าใจและวิเคราะห์ธุรกิจด้วยตัวเองเบื้องต้น สำหรับผม ความเสี่ยงคือความไม่รู้ ส่วน work ผมมองว่า ธุรกิจนี้พึ่งผิงบุคคลากรรุ่นเก่ามากเกินไป จะสร้างรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนก็ยาก อีกทั้งยังขึ้นกับรายการใหม่ๆ ที่ทำ ว่าจะฮิตติดตลาดหรือไม่ ทำให้สปอนเซอร์สนใจ และฐานะทางการเงินของสปอนเซอร์อีก แล้วยังเจอรายการของลูกท่านหลานเธอมาแย่งเวลาออกอากาศ มีปัจจัยภายนอกหลายย่างที่ควบคุมยาก ตอนแรกก็สนใจ เพราะผมชอบรายการของ work อยู่หลายรายการ เช่น ชิงร้อยชิงล้าน อัจฉริยะข้ามคืน แต่ตอนหลังก็มาเข้าใจว่า การเป็นเจ้าของธุรกิจ กับลูกค้า มีความแตกต่างกันมาก โดย killyz จันทร์ ก.พ. 15, 2010 5:31 pm

เป็น VI แล้ว FCF น้อยลง?? [quote="wansomwang"]แสดงว่าผมไม่ได้บ้า เพราะมีคนเป็นเหมือนผมมากกว่าหนึ่งคน ฮ่าๆๆ โดย killyz เสาร์ ก.พ. 13, 2010 4:15 pm

ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ ประมาณว่าต้องเจอหลอกมาเยอะๆก่อน :P   ไม่เจอไม่ได้หรือครับ  ถ้าอยากจะหา forward eps ให้ใกล้เคียง ฉัน(ผู้บริหาร)ไม่ใช่ผีจะมาหลอกเธอ(แมงเม่า)ได้ไง  :twisted: โดย killyz ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 3:49 pm

เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน ไว้จะให้คำตอบอีกที ตอนที่ได้รู้วันที่แน่นอนก่อนได้ไหมครับ ถ้าตอบตอนนี้ ผมคงบอกว่าไม่ชัวร์ แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้มี เอกสารแจ้งว่า มีการอบรมในวันเวลาช่วงนี้ เพราะต้องใช้แนบกับใบลาด้วย ถ้าเกิดตรงกับวันทำงาน โดย killyz พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2010 1:39 pm

เล่นหุ้นปีนี้ 'อย่าไล่-รอร่วง' ค่อยๆ ซื้อ เพิ่งเคยได้ยินชื่อ เสี่ยวิลลี่ ครับ เขาเป็น ใคร มาจากไหน ทำอะไรมาก่อนครับ ใช่ ที่เป็นเจ้าของรายการ ร่วมกับ เสนาเปิ้ลและเสนาหอย ใช่ไหมครับ โดย killyz พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2010 1:22 pm

เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน ผมขอทราบ วันเวลาที่แน่นอนด้วยครับ ส่วนสถานที่เรียน ถ้าใกล้รถไฟฟ้าจะดีมากครับ ถ้าตรงกับวันทำงานก็ไปไม่ได้ครับ เสาร์สัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน  :( ถ้าไม่มี note book ไปแต่ตัว แล้วจะทำ work shop อย่างไรครับ โดย killyz พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2010 9:46 am

เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน ผมคงไปไมได้ครับ เพราะมาดูแล้วตรงกับเสาร์ทำงานพอดีเลยครับ โดย killyz พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2010 8:49 am

เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน น่าสนใจครับ แล้วมีเป็นตารางเรียนไหม ว่าจะสอนหัวข้ออะไร และเริ่มสอนตอนกี่โมง ให้เตรียมสมุดกับปากกาไปก็พอใช่ไหมครับ เสร็จจากงานจิบเบียร์ก็มาอบรมต่อเลย โดย killyz จันทร์ ก.พ. 01, 2010 12:22 pm

ช่วงที่หาหุ้นถูกไม่ได้เอาเงินไปพักไว้ไหน Si Lu Ren ตัวจริง มีปีกสีขาวด้วยไหมครับ โดย killyz ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 5:34 pm

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ พี่โจ และดีใจด้วยที่มีความสุขกับการเลี้ยงเด็กๆ โดย killyz พุธ ม.ค. 27, 2010 8:14 am

มีเงินน้อยเป็น VI ไม่ได้ จริงหรือไม่ ขอบคุณพี่ฟู มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง มีแนวโน้มเป็นกระทู้ที่อาจจะมาเทียบเคียงกระทู้ของบรรดาเซียนได้ ผมอยากให้พี่เล่าถึงประสบการณ์ในการวิเคราะห์ ซื้อหุ้นตัวแรกที่พี่เริ่มเข้าใจในแนวทาง VI และช่วยยกตัวอย่าง หุ้นที่ตีแตก กับหุ้นที่ตีหัวแตก โดย killyz พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 9:38 am

ถาม!!! ทำไมSETบ้านเราถึงอยู่ที่700กว่าๆ ทั้งที่ต่างชาติไปไกล พี่วี....มุมมองน่าสนใจครับ พี่ซาอิ....จริงๆครับทำไมเราเทียบอินโดไม่ได้???? ผมว่าเดี๋ยวคงได้เห็น ดัชนีเวียดนาม100 แล้ววิ่งมาคู่คี่ และสุดท้ายก็นำหน้าSETไปในไม่ช้า......ชัวร์ๆๆๆๆๆ ขนาดเรื่องที่ลาวมี3Gแล้ว แต่ไทยยังไม่มีนี่ยังรับไม่ค่อยได้เลยนะครับT^T สมัยก่อน เคยเรียกเพื่อนที่ทำอะไรเชยๆ เฉิ่มๆ ว่า ลาว ในอนาคต คนลาวอาจจะเรียกเพื่อนที่ทำอะไรเชยๆ เฉิ่มๆ ว่า ไทย (มั้ง) โดย killyz พุธ ม.ค. 20, 2010 7:16 pm

มีเงินน้อยเป็น VI ไม่ได้ จริงหรือไม่ อยากฟังด้วยอีกเสียงครับ จะได้ยืนยันว่า หลักการของ VI ไม่ได้ขึ้นกับเงินทุนในตอนแรกอย่างเดียว ขึ้นกับระยะเวลาและผลตอบแทนด้วย มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจะได้มีแนวทาง โดย killyz จันทร์ ม.ค. 18, 2010 9:12 am

++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++ วิธีคิดแบบ ดร.นิเวศน์ไงครับ คนที่คิดว่า นักเศรษฐศาสตร์ เหมือน หมอดู.... 555 ถ้าคิดแบบเดียวกับปู่บัฟเฟตหรืออาจารย์ มันน่าขำหรือครับ ถ้าคุณทำนายเศรษฐกิจได้แม่นยำอย่างที่พูดจริงก็คงรวยไปนานแล้ว ไม่ต้องมาเชียร์หุ้นเงาทั้งหลาย ให้เปลืองตัวหรอกครับ การพยากรณ์ส่วนมากสามารถบ่งบอกถึงนักพยากรณ์มากกว่าอนาคต โดย killyz ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 5:02 pm

เงินบาทสุดแข็ง แถมต่างชาติขายสุทธิทุกวัน มีเสียวแน่งานนี้ การลงทุนก็มีความเสียว อยู่แล้วน่ะครับ โปรดสังเกตคำเตือนก่อนจะลงทุน โดย killyz ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 11:00 am

เมื่อเงินเฟ้อกำลังจะกลับมา ถึงเวลาของสินค้าคอมมอนีตี้ ฟังแล้วสนุกดีครับ เหมือนฟังนักวิเคราะห์จากหลาย บลจ. ที่บอกว่า ปี51 เผาหลอก ปี 52 เผาจริง แต่ความจริงปรากฏว่า ตลาดหุ้นวิ่งเป็นกระทิง นักลงทุนได้ผลตอบแทนหลายเท่าตัว บางคนที่ขาดทุนปี 51 มาได้จากปี 52 คืนแถมกำไรเพียบ ตลาดอสังหาที่ว่าจะซบเซา ก็แข่งกันสร้าง เหมือนผมกำลังอ่าน คอลัมน์โชคชะตาและทำนายราศี โดย killyz พุธ ม.ค. 13, 2010 12:08 pm

จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ 2 แล้วตกลงพี่จะผมจินตนาการถึงอะไรครับ จำนวนน้ำประปาที่ใช้ในอนาคตหรือ ผู้ที่ใช้น้ำประปาที่มากขึ้นเป็นใครหรือ ผมหาความสัมพันธ์ของหัวข้อกับเนื้อหาไม่เจอครับ โดย killyz พุธ ม.ค. 13, 2010 9:03 am

รายได้จากอาชีพหลัก VS รายได้จากเงินลงทุน [quote="McDull"] ถ้าต้องการเป๊ะๆ อาจต้องขายวิญญาณให้ปีศาจนะครับ โดย killyz อังคาร ม.ค. 12, 2010 8:29 pm

เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้ หรือถ้าเทียบกับปันผลย้อนหลังก็ยังให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจอยู่ดี ปัญหาคือ ถ้าคุณคิดว่ามันรอดคุณก็จะซื้อแต่ถ้าไม่เชื่อว่ามันจะทำได้คุณก็ไม่ซื้อ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์หลายตัวทำกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งๆที่อยู่ในช่วงอเมริกาโดนเล่นงาน แล้วก็มีการกระทบไปทั่วโลก พอดีว่าผมเชื่อว่ามันจะรอดผมก็ซื้อ อย่ามองข้ามพวกบริษัทสร้างบ้าน ที่รอดตายจากวิกฤติปี 40 นะครับ ผมหมายความว่า ระวังการมองปันผลเป็นหลักเพราะจะติดกับดักหุ้นวัฏจักรได้ เพราะเคยสนใจปันผลและ p/e ที่ต่ำจากกลุ่มปิโตรเคมีและกลุ่มเรือ โดยดูปันผลในอดีตหารู้ไม่มันเป็นกับดัก สิ่งที่ผมจะสื่อมีเท่านี้ครับ สิ่งที่สำคัญในการวิเคราะห์คือความรู้ในบริษัทและอุตสาหกรรมที่คุณจะลงทุน ถ้ามองปันผลและค่า ratio ไว้ก่อน ก็ได้ครับ หวังว่าท่านไม่เจอขาลงพอดี   :twisted: โดย killyz อังคาร ม.ค. 12, 2010 9:29 am

ขอคำแนะนำค่ะ เรื่องขายอสังหาริมทรัำพย์ เอาเงินมาลงทุนในหุ้น [quote="sakkaphan"]ผมก็กำลังจะขายคอนโดแล้วเอาเงินมาลงทุนในหุ้นเนื่องจากคิดแล้วว่าผลตอบแทนดีกว่า เหตุผลง่ายๆแต่ทำได้จริงมั้ยไม่รู้แต่ผมรับความเสี่ยงได้ต้องลอง :lol: ปล. ผม 21 ผมเด็กสุด :P โดย killyz อังคาร ม.ค. 12, 2010 8:54 am

เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้ [quote="[v]"][quote="killyz"][quote="[v]"]ผมถามว่า ตอนหุ้นลงหนักๆ ที่ปันผลมากกว่า 20-30 % มีใครได้ซื้อเก็บไว้รึปล่าว ถ้ามีก็คนนั้นหล่ะ ที่จะกำเงินล้าน โดย killyz อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 8:32 pm

คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม? ดังนั้น VI ก็คือคนที่มีความมั่งคั่งบนความทุกข์และคราบน้ำตาของผู้อื่น" ฟังแล้วเหมือน VI เป็นฝ่ายอธรรมยังไงไม่รู้ แบบนี้ฝ่ายธรรมะคือเหล่าแมงเม่าและนักเก็งกำไรที่ตามกระแสคนอื่นน่ะสิครับ ผมว่า VI คือคนชนกลุ่มน้อย(แห่งหมู่บ้านเกรแฮมและดอดส์ หรือหมู่บ้านอาจารย์นิเวศน์และพี่โจลูกอีสาน) เป็นตัวของตนเอง มีความคิดอิสระ  และไม่ตามกระแสฝูงชนแต่อาจจะตามเซียน โดย killyz อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 5:11 pm

เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้ [quote="[v]"]ผมถามว่า ตอนหุ้นลงหนักๆ ที่ปันผลมากกว่า 20-30 % มีใครได้ซื้อเก็บไว้รึปล่าว ถ้ามีก็คนนั้นหล่ะ ที่จะกำเงินล้าน โดย killyz เสาร์ ม.ค. 09, 2010 8:19 pm

ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ [quote="VI พันธุ์ทาง"]ดูผลตอบแทนของพี่ๆแล้ว โดย killyz เสาร์ ม.ค. 09, 2010 4:07 pm

คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม? นานาจิตตังครับ การลงทุนก็เป็นงานสุจริตอย่างหนึ่งน่ะครับ ในแบบ ภงด. 90 ยังมีให้กรอกรายได้จากปันผลเลย แต่ทำไมเล่นหวยใต้ดิน แทงบอล เล่นไพ่ ถึงไม่ถูกรังเกียจมั่งหนอ ทั้งที่เป็นการพนันและผิดกฏหมาย แล้วไม่จ่ายภาษีอีก คนก็เล่นเยอะขึ้น ถ้ามัวแต่ฟังความเห็นของคนรอบข้างจะเหมือนนิทาน เรื่อง พ่อลูกกับลา น่ะ ผลความสำเร็จของปราชญ์รุ่นก่อน ก็ทำให้เป็นที่ประจักษ์แล้วมิใช่หรือ จงเชื่อมันในหลักการและปรัชญาการลงทุน โดย killyz ศุกร์ ม.ค. 08, 2010 1:32 pm

มาฟังคำเตือนจากท่านอาจารย์ของพวกเรากันครับ [quote="winkung"][quote="moonchild"][quote="DevilCupid"][quote="nandeandw"][quote="sai"][quote="phakphum"][quote="Blueblood"][quote="สามัญชน"] หมายถึงหุ้นราคา 10 บาท เมื่อกำไรของกิจการโต 15 % ราคาหุ้นก็ขยับเพิ่มขึ้น 15% ทำให้เราได้กำไร 15% อันนี้เป็นตัวอย่าง ซื้อที่ fair value โดย killyz พฤหัสฯ. ม.ค. 07, 2010 9:38 am

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ จุดเด่นของบริษัทนอกจากผู้บริหารน่ารักแล้ว :oops: เป็นครั้งแรกที่ผมวิเคราะห์ได้ตรงกับพี่โจ  :) รู้สึกเหมือนเข้าใกล้วิถีเซียนแล้วมั่ง โดย killyz พฤหัสฯ. ม.ค. 07, 2010 9:17 am