หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
bangkokwu
Joined: อังคาร พ.ย. 30, 2004 8:47 pm
71
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - bangkokwu
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า
บริษัทที่มีรายได้จากการเป็น public facility อย่างทางด่วน รถไฟฟ้า พวกนี้มีความเสี่ยงเรื่องการเมืองครับ เพราะในการขึ้นราคาค่าบริการ มักไม่ได้ตามสัญญาหรอกครับ ดังนั้นผมว่าถึงมองระยะยาวก็ยังเสียวอยู่ดี
โดย
bangkokwu
พฤหัสฯ. ม.ค. 25, 2007 5:41 pm
0
0
ประเทศไหนโลกที่มีวิธีการแก้ปัญหาความจนได้ดีที่สุดคับ
ภาษีที่เก็บจากการบริโภคก็คือภาษีมูลค่าเพิ่มไงครับ ภาษีมูลค่าเพิ่มแท้จริงแล้วคือภาษีอัตราถดถอย เพราะ จะรวยจะจน จะหาเงินได้มากน้อยเท่าไหน ถ้าจะเอากันจริงๆ ถ้าแค่ประทังชีวิตให้รอด ก็บริโภคเท่าๆกันแหละครับ อันนี้เก็บอยู่แล้วครับ ภาษีอีกอันที่เก็บแต่คนจนก็คือ หวยครับ เพราะหวยนั้นในทางความน่าจะเป็นเป็นการไม่สมเหตุผลเลยที่จะซื้อ (คุณสุมาอี้คงอธิบายให้ฟังได้ดี) แต่คนจนก็ยังเล่นหวย เพราะอาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่จะรวยได้ ... ฉะนั้นผมมองว่าปัจจุบัน ภาษีก็กึ่งๆ อัตราถดถอยอยู่แล้วครับ
โดย
bangkokwu
พุธ ม.ค. 24, 2007 10:18 pm
0
0
ประเทศไหนโลกที่มีวิธีการแก้ปัญหาความจนได้ดีที่สุดคับ
ผมคิดว่าภาษีที่สำคัญยิ่งกว่า ภาษีเงินได้แบบก้าวหน้า (Progressive Income Tax Rate) ก็คือ ภาษีมรดก (เข้าใจว่าภาษาอังกฤษ Estate Tax) นะครับ การสนับสนุนให้การสะสมทุนข้าม Generation นั้น คิดดูดีๆแล้ว คงจะพอมองออกว่า ไม่ส่งเสริมให้มีการใช้ทุนอย่างมีประสิทธิภาพครับ ในแนวคิดนี้เรามองว่า ควรให้โอกาสคนทุกคนพอๆกัน โอเค ถ้าคุณเกิดมาโชคดี พ่อแม่รวย คุณก็อาจได้แต้มต่อ มีคนส่งเรียนโรงเรียนดีๆกว่าลูกคนอื่นๆ แต่ปัจจุบัน ครอบครัวคนจนโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานก็ยังแทบไม่ครบ (ถึงจะเรียนฟรี แต่เค้ามีค่าเสียโอกาสสูง คือต้องออกไปช่วยพ่อแม่ทำงาน ไม่งั้นไม่พอกิน ก็เลยตกลงว่ายังไม่ทันจบก็ออกซะแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะไปสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยดังได้หรือเปล่า) ลูกของคนรวย ไม่จำเป็นว่าต้องหาเงินได้เก่งเหมือนพ่อแม่ การอนุญาตให้ส่งต่อทุนข้าม Generation ทำให้ Capital Allocation วิปริตไป และในพร้อมๆกันนั้น ก็เป็นการ disincentivize ลูกคนรวยๆ เหล่านี้ด้วยครับ คือเกิดมารวยขนาดนั้นแล้ว ไม่รู้จะดิ้นรนเพิ่มขึ้นไปอีกทำไม (จริงๆถ้าเกิดมาไม่รวยขนาดนี้ อาจได้ดึงเอาความสามารถออกมาใช้ได้ด้วย เพราะจะมีแรงขับดันในชีวิตมากกว่า) ฉันใดก็ฉันนั้น ลูกของหมอ อาจจะเป็นหมอที่ไม่เก่ง แต่อาจเป็นศิลปินฝีมือเลิศ ลูกของพ่อค้า อาจค้าขายไม่ได้เรื่อง แต่อาจทำอาหารเก่ง ... คนเราเก่งไม่เหมือนกัน บางคนอาจร้องเพลงเก่ง ขับเครื่องบินเก่ง ฯลฯ ถ้าเกิดเราไม่สนับสนุนให้เกิดการบิดเบือนโดยการไม่คิดการสะสม และ สืบทอด ก็น่าจะดีนะครับ ประเทศพัฒนาแล้วเค้ามองจุดนี้เป็นสำคัญกันทั้งนั้น ปัญหาเรื่อง absolute poverty จึงน้อยกว่าเรา (บางคนอาจแย้งว่า เรื่อง wealth distribution เค้าก็ไม่ดีนัก แต่ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญกว่า wealth distribution คือ จำนวนคนที่เป็นคนจนจริงๆ มากกว่าครับ) Warren Buffett กล่าวไว้ว่า You should leave your kids enough to do anything but not enough to do nothing .
โดย
bangkokwu
พุธ ม.ค. 24, 2007 8:54 pm
0
0
ทำไมเมืองไทยต้องมีกม.ห้ามต่างชาติถือหุ้นเกิน 51%
จำสมัยที่เมืองไทยมีเบียร์ขายหลักๆอยู่แค่ยี่ห้อเดียวได้ไหมล่ะครับ แม้ผมจะไม่ดื่มเบียร์ แต่ผมเชื่อว่าคอเบียร์ทั้งหลายต้องชอบแน่ๆที่เดี๋ยวนี้เลือกดื่มได้ตรงตามรสนิยมมากขึ้น หรือแม้แต่สมัยก่อน แบบเรียนสอนภาษาอังกฤษยังมีเจ้าเดียว ของกระทรวงศึกษา (English Is Fun ผมยังจำได้ว่าเรียนตอน ป. ห้า ป. หก) ไม่มีใครมาแข่ง ถึงได้มีตำราคุณภาพต่ำออกมาให้เด็กๆเรียนกัน เรียนภาษาอังกฤษกันเป็นปีๆ ก็ยังไม่กระดิกหู Let the consumers vote with their wallet please!
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ ม.ค. 14, 2007 12:12 pm
0
0
ทำไมเมืองไทยต้องมีกม.ห้ามต่างชาติถือหุ้นเกิน 51%
คิดง่ายๆว่าต่างชาติมีเงินเยอะกว่าเรามาก เช่น ผมเป็น บ.ต่างชาติ ผมซื้อ advanc+ucom ก็โขกราคามือถือสัก 5 บาท/นาที ถ้าทำแบบนี้กับหลายๆบริษัทมันจะเป็นยังไง ไม่ต้องต่างชาติก็ได้นี่ครับ ถ้าผมมีเงินเยอะๆ ผมก็ อาจจะ ทำได้อย่างที่คุณบอกครับ ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้คู่แข่งทั้งทางตรง (True, Hutch) และทางอ้อม (Fixed Line - TOT, True, TT&T) สวนหมัดกลับแย่งส่วนแบ่งตลาด นี่คือความสวยงามของการมีการแข่งขันครับ
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ ม.ค. 14, 2007 12:06 pm
0
0
สังเกตุTICON 2-3วันที่ผ่านมา ปิดกระโดดหลายช่อง น่าสงสัย
ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็อาจจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่หรือเปล่าครับที่จะออกมาประกาศว่าจะซื้อเพิ่ม แต่ Rojana เป็น บ.จดทะเบียน มีผู้ถือหุ้นของตัวเองเหมือนกัน มองในแง่นี้ก็ถือว่าสมเหตุผลที่จะต้องออกมาบอกทุกคนว่า ต้องการลงทุนเพิ่ม เพราะวิเคราะห์แล้วว่าดี ประเด็นของคุณสุมาอี้คืออะไรครับ ???
โดย
bangkokwu
พุธ ม.ค. 10, 2007 9:46 pm
0
0
อยากทราบรายละเอียดของการคิดเครดิตภาษี
สถิติการคืนภาษีของสรรพากร เร็วสุดยอดอีกเช่นเคย (ถ้าเรารีบยื่นช่วงที่คนอื่นยังไม่ทำ) ผมยื่นไปสองใบ 1. ส่วนตัว 2. คณะบุคคล เอกสารประกอบ ก็เป็นพวกใบเงินเดือน RMF/LTF ก็พิมพ์จาก internet แล้วก็พวก ภงด. ที่ได้เวลาได้เงินปันผลครับ 1 ม.ค. ยื่นทางอินเตอร์เน็ท 9 ม.ค. ได้รับ SMS แจ้งว่าส่งเช็คออกมาแล้วเมื่อ 8 ม.ค. 10 ม.ค. คิดว่าเย็นนี้กลับไปที่บ้านคงมีเช็ครออยู่ที่ตู้ไปรษณีย์
โดย
bangkokwu
พุธ ม.ค. 10, 2007 10:31 am
0
0
ผมอยากเห็นนโยบายนี้อย่างถาวรในไทยจัง(โว้ย)
คนคิดแบบเราออกมาทะเล่อทะล่าตอนนี้ก็จะถูกตราหน้าว่าเป็น คลื่นใต้น้ำน่ะสิครับ ไม่ทราบคุณ Freemindd ได้อ่าน TKNS หรือยัง? ผมสั่งซื้อหนังสือไป ได้รับก่อนรัฐประหารประมาณสองสัปดาห์ ใช้เวลาอ่านประมาณสามคืนจบ แล้วก็เกิดเหตุการณ์ ไม่แปลกใจที่มุมมองต่อโลกของตัวเองเปลี่ยนไปชนิดกลับหัวกลับหาง
โดย
bangkokwu
พุธ ม.ค. 10, 2007 10:15 am
0
0
ผมอยากเห็นนโยบายนี้อย่างถาวรในไทยจัง(โว้ย)
ควรจะมีภาษีมรดกด้วย การสนับสนุนให้การส่งต่อความร่ำรวยข้ามรุ่น โดยไม่มีการเก็บเข้าส่วนกลางเพื่อนำไปทำประโยชน์ส่วนกลางในระยะยาว (เช่นสนับสนุนการศึกษา หรือ สาธารณสุขขั้นพื้นฐาน) ก่อให้ ผู้รับความร่ำรวยไม่มีความกระตือรือร้นที่จะทำมาหารับประทาน (ซึ่งส่งให้ผลิตภาพมวลรวมต่อสังคมดีขึ้น) นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ไม่ส่งเสริมให้มีความเคลื่อนไหวทางชนชั้น (social mobility) กล่าวคือ เกิดมาจนยังไง ก็จนต่อไปเจ็ดชัวคน และเกิดมารวยยังไง ก็รวยต่อไปอีกเจ็ดชั่วคน ทั้งๆที่คนชั่วคนที่สองถึงเจ็ดของทั้งสองฝั่ง อาจมีความสามารถและศักยภาพที่ไม่แตกต่างกันเลยหากพิจารณาโดยเนื้อแท้
โดย
bangkokwu
อังคาร ม.ค. 09, 2007 8:38 pm
0
0
se-ed
ผมจำได้เลาๆ แต่ไม่แน่ใจว่า Treasury Stocks ทางบริษัทเหมือนเคยจะบอกว่าคงไม่ขายคืน น่าจะเป็นลดทุนนะครับ
โดย
bangkokwu
อังคาร ม.ค. 09, 2007 8:03 pm
0
0
กฎหมายที่ออกมาทั้ง30% ทั้งnominee ผลดีผลเสียคืออะไรครับ?
คิดดูสิว่านอกจาก SHIN, กลุ่มคุณเจริญแล้ว มีใครอีกที่ CASH RICH พอที่จะมาซื้อกิจการพวกนี้ได้ ... แล้วจะถึงบางอ้อ ...
โดย
bangkokwu
อังคาร ม.ค. 09, 2007 4:19 pm
0
0
ถ้าได้ผู้บริหารจากเครือซีเมนต์ไทยมาช่วยชาติสักคน
ทางนั้นเค้าก็มี่ภาระกิจที่ สำคัญกว่า ย้ำ สำคัญกว่า คือเพื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ครับ (CPB)
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 08, 2007 9:16 pm
0
0
อยากทราบรายละเอียดของการคิดเครดิตภาษี
เวลายื่นทางอินเตอร์เน็ทผมก็เจอปัญหาเดียวกันครับ กล่าวคือ ไม่มีช่องให้กรอกปันผลจากส่วนที่ได้รับยกเว้นภาษี (ถ้ากรอกว่า เสียภาษี 0% มันจะขึ้น alert ขึ้นมาว่าห้ามกรอกเลข 0) ดังนั้น ผมก็เลยต้องทำอย่างที่คุณ somchaiu ทำครับ หวังว่าคงจะไม่มีปัญหาเหมือนกัน จากประสบการณ์สองสามปีที่ผ่านมา เวลายื่นทางอินเตอร์เน็ทนี้ได้คืนภาษีเร็วมากๆ จำได้ว่าปีที่แล้ว ผมยื่นวันปีใหม่ ประมาณไม่เกินวันที่เจ็ดหรือแปด มกราคม ก็ได้เช็คมาที่บ้านแล้ว
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 01, 2007 5:14 pm
0
0
การเก็บภาษี Day Trading
คนที่ไม่ชอบคงเป็นพวก โบรกเกอร์ (ซึ่งได้ค่าฟีแพงๆมาตั้งนาน) เป็นการเรียกเก็บภาษีจากบรรดานักเก็งกำไร ซึ่งเป็นคนมีสตางค์ เฉลี่ยกับภาษีหวย ที่เรียกเก็บจากคนจน รัฐบาลเศรษฐกิจพอเพียง น่าจะนำไปพิจารณานะครับ !
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ ธ.ค. 24, 2006 10:20 pm
0
0
เสียค่าคอมไปเท่าไหร่กันบ้างแล้วเอ่ยปีนี้
หากเทรดเท่ามูลค่าพอร์ต ค่าธรรมเนียมซื้อขายก็ควรจะประมาณ 0.21 - 0.25% ของมูลค่าพอร์ต ของผม ปีนี้เทรด 2/3 ของมูลค่าพอร์ต ค่าธรรมเนียมของผมก็ประมาณ 0.14% ของมูลค่าพอร์ทครับ (เพราะใช้อินเตอร์เน็ทเทรดดิ้ง) ถือว่าไม่กินไปในอัตราผลตอบแทนนัก
โดย
bangkokwu
ศุกร์ ธ.ค. 15, 2006 10:03 pm
0
0
ATMกับสลิป
มองในแง่ต้นทุนของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แล้ว การเก็บค่าธรรมเนียมการถอนข้ามเครือข่ายถือเมื่อใช้เครื่องเอทีเอ็มเกินกี่ครั้งๆต่อเดือนครั้งละสามบาทนั้นไม่แพงนะครับ เพราะระหว่างธนาคารกันเองก็มีการเก็บเงินกันจริง แพงกว่าสามบาทด้วยซ้ำ แต่ละธนาคารจึงพยายามเพิ่มจำนวนเครื่องเอทีเอ็มกันเต็มที่ไงครับ สำหรับค่าธรรมเนียมบัญชีกระแสรายวัน นั่นก็อีก ถ้าเทียบกับที่สหรัฐฯแล้ว ต้องบอกว่าถูกว่ากันอย่างไม่น่าเชื่อ การที่ธนาคารไทยเก็บค่าธรรมเนียมพวกนี้ได้น้อย เค้าก็จะเลี่ยงไปเก็บค่าธรรมเนียมอื่นๆที่อาจจะ sensitive กับลูกค้าน้อยกว่าครับ
โดย
bangkokwu
อังคาร ธ.ค. 05, 2006 7:09 am
0
0
เราจดทะเบียนตั้งคณะบุคคลเพื่อลดหย่อน/CR.ภาษีหุ้น ได้ไหมครับ
หมายเหตุ: ส่วนตัวผมเห็นว่า การลงทุนในหุ้นน่าจะลงทุนในชื่อบุคคลคนเดียวจะได้ประโยชน์มากกว่าคณะบุคคล เนื่องจากสามารถหักลดหย่อนได้มากกว่า ยกเว้นว่า บุคคลคนเดียวนั้นมีรายได้สูงมากกว่า4ล้านบาท จึงจะน่าพิจารณาถึงคณะบุคคล[/color] เรียนถามคุณKao ว่า บุคคลคนเดียวจะได้ประโยชน์มากกว่าคณะบุคคล เนื่องจากสามารถหักลดหย่อนได้มากกว่า นี่เป็นอย่างไรครับ เพราะเท่าที่ผมเข้าใจ การตั้งคณะบุคคล แม้จะหักลดหย่อนได้ไม่มากเท่าบุคคล แต่การนำเงินได้ไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ จะทำไม่ต้องโดนภาษีอัตราสูงๆในอัตราภาษีก้าวหน้า ไม่ว่ารายได้ปรกติจะถึงสี่ล้านหรือไม่ก็ตาม
โดย
bangkokwu
เสาร์ พ.ย. 25, 2006 6:48 pm
0
0
ไทยรัฐ vs ซีเอ็ด
ไทยรัฐนี่คือมาเฟียตัวจริงแท้ๆทีเดียว ใครเคยอ่านประวัติผู้ที่เกี่ยวข้องคงพอทราบว่าอิทธิพลของค่ายนี้ขึ้นไป สูง ถึงแค่ไหน
โดย
bangkokwu
ศุกร์ พ.ย. 03, 2006 7:09 am
0
0
MBKหนาวค่าเช่า 20 ปี 2 หมื่นล.
พื้นที่บริเวณนั้นเต็มไปด้วยศูนย์การค้า ที่จุฬาฯก็คือที่ที่ได้รับตกพระราชทานมา ถ้าคิดหารายได้ทางอื่นได้ (เช่นขึ้นค่าเล่าเรียน เพราะพวกที่เรียนจุฬาฯก็ลูกคนมีตังค์ทั้งนั้น ส่วนคนไม่มีตังค์ ก็ควรหาระบบให้ทุนการศึกษาเค้าให้ไม่เดือดร้อน) ก็น่าจะเอาพื้นที่ทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับสาธารณะชนบ้าง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ศูนย์การค้า ยกตัวอย่างห้องสมุดจุฬาฯ ก็ภาษีประชาชนทั้งนั้น ทำเป็นห้องสมุดประชาชนก็จะช่วยสร้างองค์ความรู้ให้กับสังคมไทย ไม่ใช่จำกัดความรู้ให้อยู่แต่กับปัญญาชนคนมีปัญญาสอบเข้าได้ (เพราะพ่อแม่มีตังค์ไปเรียนกวดวิชา) ผมเลือกเรียนจุฬาฯเพราะถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพดี ที่สำคัญค่าเล่าเรียนก็ถูก ไม่ได้เกี่ยวกับว่ามีสโลแกนถูกใจวัยรุ่นหรือไม่ครับ
โดย
bangkokwu
พฤหัสฯ. พ.ย. 02, 2006 9:15 pm
0
0
MBKหนาวค่าเช่า 20 ปี 2 หมื่นล.
เกียรติภูมิจุฬาฯ คือ อะไรน้า จบจุฬาฯเหมือนกัน ถ้าไอ้สโลแกนข้างบนมันมีไว้พูดอวดหรูๆ และไม่จริงก็เลิกมาพูดป่าวประกาศหลอกตัวเองและผู้คนซะเถิด
โดย
bangkokwu
พฤหัสฯ. พ.ย. 02, 2006 8:32 pm
0
0
วันก่อนเข้าร้านหนังสือ...ไม่รู้จะประทับใจดีเปล่า
ผมว่าคาดหวังกันสูงไปหน่อยนะครับว่า ที่ว่าถ้าบอกว่า วอเรน บัฟเฟต แล้วเค้าจะต้องรู้ว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน เหมือนคนในนี้ ส่วนใหญ่ก็รู้จักนักสังคมวิทยา นักภาษาศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ ฯลฯ ไม่หมดทุกคนเหมือนกัน
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ ส.ค. 20, 2006 9:23 am
0
0
CP7-11
http://www.economist.com/images/20060805/CSF970.gif
โดย
bangkokwu
จันทร์ ส.ค. 14, 2006 5:48 pm
0
0
CP7-11
[img]http://www.economist.com/images/20060805/CSF970.gif[img][/img]
โดย
bangkokwu
จันทร์ ส.ค. 14, 2006 5:47 pm
0
0
CP7-11
[/img]http://www.economist.com/images/20060805/CSF970.gif ข้อมูลจาก The Economist เมื่อสองสัปดาห์ก่อนครับ เผอิญเพิ่งมีโอกาสได้พลิกดู
โดย
bangkokwu
จันทร์ ส.ค. 14, 2006 5:46 pm
0
0
คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้น เมื่อ ...
คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้น เมื่อดูชาวบ้านชาวเมืองทำตัวเป็นเด็กสวน(ตลาด)
โดย
bangkokwu
อังคาร พ.ค. 23, 2006 10:01 pm
0
0
คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้น เมื่อ ...
ผมรู้ตัวว่าผมบ้าหุ้น เมื่อพบว่าดีใจทุกทีที่เงินเดือนออก เพราะไม่มีเงินสดติดบัญชีเงินฝากเลย แต่กลับมีหุ้นในพอร์ตเป็นล้าน
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ พ.ค. 21, 2006 5:38 pm
0
0
ขอสำรวจการถือเงินสดในระยะนี้หน่อย
ประมาณ 1.231245343% ครับ แค่พอใช้เดือนชนเดือน (แน่ใจว่าประมาณ ???)
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ พ.ค. 21, 2006 5:35 pm
0
0
คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้น เมื่อ ...
คูณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้น เมื่อเวลาที่เพื่อนถามว่าทำไมไม่ไปโดดบันจี้จั๊มพ์ด้วยกันแล้วคุณบอกว่า มันไม่มี Margin of Safety คูณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้น เมื่อเวลาที่เพื่อนคนเดิมชวนเล่นพนันบอล เวิร์ลด์คัพ 2006 แล้วคุณบอกว่าขอคิดดูก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าอยู่ใน Circle of Competence ของตัวเองหรือเปล่า
โดย
bangkokwu
เสาร์ พ.ค. 20, 2006 12:02 pm
0
2
การประชุมผู้ถือหุ้น SE-ED
ไม่ทราบว่า เพื่อนผู้ถือหุ้นมองเรื่องผลตอบแทนกรรมการยังไง ผมว่า จ่ายน้อยไปสักหน่อยนะครับ เกรงว่าจะถูกคู่แข่งดึงตัวได้ ถ้าเป็นไปได้น่าจะมีการผูกกับผลประกอบการ ถ้าจะให้ดี น่าจะผูกกับผลประกอบการย้อนหลังด้วย
โดย
bangkokwu
เสาร์ เม.ย. 29, 2006 9:04 am
0
0
ทำไมราคา CP7-11 ขึ้นมาเยอะจังครับ
คุยกับเพื่อน ที่มีญาติทำงานอยู่ โลตัสที่เมืองจีน เค้าบอกว่า ธุรกิจที่เมืองจีนของโลตัสก็ดี ไม่รู้ว่าเชื่อได้แค่ไหน
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 30, 2006 10:26 pm
0
0
SE-ED Killer !!!!
ทำให้นึกถึง DK ที่ Seacon Square ด้วยครับ ถ้าทำตามใจตัวเจ้าของมากๆ กลัวจะเจ๊งเหมือนกันนะครับ
โดย
bangkokwu
ศุกร์ ส.ค. 05, 2005 8:21 am
0
0
True ตั้งอะควาเรียม ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่กรุงเทพ
ฮ่า ฮ่า เข้ามาขำ diWORSification
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ พ.ค. 22, 2005 8:27 pm
0
0
ไม่ทราบแต่ละท่าน เคยคิดมูลค่าของตัวท่านหรือไม่ ว่ามี PE
ผมเสนอว่าการประเมินราคา (P) เนื่องจากเป็น Human Capital อาจจะต้องอาศัยจากเงินที่ลงทุนไป ซึ่งในที่นี้เท่าที่พอจะนึกออกไปก็คือเงินลงทุนในด้านการศึกษา แล้วก็เวลาที่ได้ลงใน Human Capital นั้น (ซึ่งน่าจะเป็นอายุ) ตัวอย่างดังนี้ หนึ่ง ส่วนเงินลงทุน คิดจากค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาทั้งหมด สอง ส่วนเงินลงทุนที่วัดไม่ได้ นับจากอายุตั้งแต่วัยที่ทำงานได้จนมาถึงปัจจุบัน คูณกับเงินได้ขั้นต่ำที่คนที่ได้รับการศึกษาระดับปรกติพึงจะได้รับ P = หนึ่ง + สอง
โดย
bangkokwu
อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:03 pm
0
0
ถามเรื่องชาเขียว
ชาเขียวบางชนิดมีการใส่ผงชา ซึ่งป่นมาจากใบชาเพิ่ม เพื่อเพิ่มให้รสชาดเข้มข้นครับ จึงทำให้ดูขุ่นครับ อีกอย่างก็คือว่า การทำชาเขียวบรรจุขวด เค้าคงต้องกรองผงชาออกให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ตกตะกอนและทำให้ดูไม่น่ากิน และถ้าเกิดมีติดไป เมื่ออยู่ในน้ำ จะทำให้ชาออกสีแดงแทนที่จะเขียวได้ครับ สังเกตว่าถ้าเอาชาเขียวชงน้ำร้อนค้างคืนไว้ ถ้าไม่กรองใบออกน้ำชาเขียวจะเปลี่ยนสีเป็นแดงเลยครับ ชาเขียวแบบพื้นฐานมีสามอย่างคือ (เรียงจากถูกไปแพง) Bancha Sencha Matcha แบบที่เสิร์ฟในร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่เดาว่าน่าจะเป็นแบบแรกหรือแบบที่สอง สำหรับชาเขียวผสมข้าวคั่วนั้น แต่เดิมมีต้นกำเนิดมาจากการที่ชาราคาแพงจึงใส่ข้าวคั่วซึ่งถูกกว่ามากเข้าไป เพื่อให้ชงได้จำนวนมากขึ้น เรียกว่าเป็น ชาเขี่ยวคนจน แต่เห็นโออิชิเอามาขายกลายเป็นว่าแพงกว่าแบบปรกติไปได้ อย่างนี้เขาเรียกว่าพลังของการโคด สะ นา
โดย
bangkokwu
พุธ มี.ค. 23, 2005 9:22 pm
0
0
vi กะการใช้ชีวิต
ผมใช้รถมือสอง แต่นั่งรถเมล์ไปทำงานพอๆกับขับรถไปทำงานเพราะถือว่านอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้วยังทำให้ไม่ลืมด้วยว่าคนส่วนใหญ่ในเมืองนี้ประเทศนี้ใช้ชีวิตกันอย่างไร เคยอ่านบทความ ดร.นิเวศน์เปรียบนักลงทุนกับคนกินเจ ผมแม้จะไม่ได้กินเจแต่ผมละเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่รู้เกี่ยวกันหรือไม่ ส่วนมือถือที่ใช้อยู่ก็ได้เครืองมาฟรีจากไทยโมไบล์ (ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ๊งไปหรือยัง)
โดย
bangkokwu
พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2005 9:54 pm
0
0
..
ขอบคุณพี่ invisible hand ที่มาช่วยให้ความกระจ่างครับ :)
โดย
bangkokwu
อังคาร ม.ค. 25, 2005 7:51 am
0
0
..
ผมว่าอาจไม่ถึงกับหลักธรรมาภิบาลนะครับ แต่ที่ผมก็สงสัยด้วยก็คือว่า ในเมื่อโดย Nature ของ Property Fund Type I นี้เป็น Equity คือ Ticon สามารถโอนถ่ายความเสี่ยงไปยังผู้ถือหุ้นในกองทุน Property Fund นี้ได้แล้ว (หรืออีกนัยหนึ่ง ผู้ถือหุ้นกองทุนดังกล่าวจะไม่ได้รับประกันรายได้แน่นอน) ทำไมนักลงทุนถึงเลือกที่จะลงทุนใน Property Fund แทนที่จะลงทุนในบริษัทเองโดยตรงล่ะครับ ใครพอช่วยตอบที ในมุมของผู้ถือหุ้น Ticon ผมว่าการออก Property Fund นี้ดีมากๆ แต่ในทางกลับกันพยายามนึกว่าทำไมคนถึงจะลงทุนใน Property Fund แต่ก็ยังให้คำตอบตัวเองยังไม่ได้เหมือนกัน
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2005 10:09 pm
0
0
เห็นช่วงนี้พูดถึงเรื่องการศึกษา เลยขอถามว่า
ต้องดูนะครับว่าเรียนสาขาอะไร หากเป็น เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ หรืออะไรที่เป็นกว้างๆ อย่างนี้ไม่ต้องจบมาโดยตรงก็ได้ ลองไปดูประวัตินักเศรษฐศาสตร์ดังๆ ไม่ได้จบป.ตรีด้านเศรษฐศาสตร์เป็นส่วนใหญ่หรอก อย่าง Krugman ก็จบ History หรือหลายๆคนก็จบปริญญาตรีสาขาทั่วไป (อย่างที่เรียกกันว่า Liberal Arts) MBA ส่วนใหญ่ก็จะจบสาขาอื่นมา ถ้าเป็น วิศวกรรมศาสตร์ แพทย์ หรืออะไรที่เป็นเฉพาะทางและเชิงเทคนิคมากๆนั่นก็ย่อมแน่นอนว่าจำเป็นจะต้องมีพื้นฐานมาก่อน (ซึ่งก็คงจะต้องดูจากดีกรี) และอย่างในอเมริกา คนที่เรียน Law หรือ Journalism พวกนี้ต้องได้ First Degree มาก่อนโดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสาขาใด เพราะเขาถือว่าพวกที่จะอยู่ในวิชาชีพนี้ ต้องมี Maturity และไม่ได้รู้อยู่แต่สาขาเดียว คือไม่ได้เป็น Specialist แท้ๆ
โดย
bangkokwu
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2005 11:53 am
0
0
วันนี้คุณยื่น ภงด.90 กันหรือยัง
ยื่นตั้งแต่ต้นเดือนแล้วครับ ถ้าสิบห้าวันจริง สัปดาห์หน้า ผมคงได้เงินแล้ว :) ผมได้คืนเยอะพอๆกับเงินเดือนเดือนนึงเลยนะครับ
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 10, 2005 9:00 pm
0
0
รถยนต์
ผมเคยอ่านหนังสือการบริหารที่พูดถึงความสำเร็จของ Ford Breaktrhrough ครั้งสำคัญของ Ford ก็คือ การผลิต Model T ในราคาที่คนทั่วไปสามารถซื้อหามาใช้ได้ เกณฑ์ที่เขากล่าวตอนนั้นก็คือ ราคารถ Model T ต่ำกว่าเงินเดือนเฉลี่ยทั้งปี ตรงนี้เองผมนำมาเป็นหลักในการใช้จ่ายในเรื่องการซื้อรถ นั่นก็คือจะไม่ใช้รถยนต์มูลค่าสูงกว่าเงินเดือนที่ได้รับทั้งปีเด็ดขาด คิดดูว่ากว่าร้อยปีมาแล้วที่ Ford นำ Model T ออกสู่ตลาด มาบัดนี้วิทยาการก้าวหน้าไปมากแค่ไหน แต่ประเทศไทยเราก็ยังผลิตรถยนต์ (ซึ่งมีโรงงานประกอบอยู่ในประเทศเราแท้ๆ) ได้ในราคาที่นับว่าแพงมากเมื่อเทียบกับรายได้ที่เราหามาได้
โดย
bangkokwu
พุธ ม.ค. 05, 2005 9:25 pm
0
0
จากการอ่านหนังสือ จิตวิทยาการลงทุน / ภาษีจากกำไรจากราคาหุ้น
ขอบคุณคุณ house อีกทีครับที่เข้ามาตอบ ผมยังไม่ค่อยกระจ่างเท่าไหร่ ตามความเข้าใจผมนี่ กองทุนรวมนั้นหากมีการจ่ายปันผลจะนำมาเครดิตภาษีไม่ได้ แต่ในทางกลับกันรายได้จากปันผลตรงนี้ต้องถูกคิดภาษีด้วย ตรงนี้ทำให้สรุปได้ไหมว่าหากลงทุนในกองทุนรวม ไม่ควรเลือกกองทุนที่จ่ายปันผล หากอยากได้ปันผลควรใช้วิธีขายกองทุนออกไปบางส่วนเอง (เข้าใจว่า บลจ.วรรณทำอย่างนี้ คือขายกองทุนบางส่วนคืนให้ผู้ถือโดยอัตโนมัติ แต่ไม่จ่ายปันผล ใช่ไหมครับ) รายงานของทาง TDRI อยู่ที่นี่ครับ เผื่อท่านอื่นๆสนใจ http://www.info.tdri.or.th/reports/published/i23/content.pdf
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 03, 2005 7:44 pm
0
0
อยากรุ้รายชื่อ เศรษฐีหุ้น 500 อันดับครับ มีใครทราบบ้าง
นิตยสาร การเงินการธนาคาร ฉบับ ธค. 2547 หน้าปกลูกสาวนายกฯ
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 03, 2005 7:35 pm
0
0
จากการอ่านหนังสือ จิตวิทยาการลงทุน / ภาษีจากกำไรจากราคาหุ้น
ขอบคุณครับคุณ House ผมลองเข้าไปอ่านส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงแล้ว อันนี้มาจากบทสรุปนะครับ 10.1 สรุปผลการศึกษาการออมการลงทุน โครงสร้างภาษีเงินได้ของไทย มีลักษณะที่มีความไม่เป็นกลางในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามากกว่านิติบุคคล โดยภาระภาษีในรายได้ประเภทต่างๆ จากการลงทุนทางการเงินของนิติบุคคลจะเท่ากันเป็นส่วนใหญ่ ความแตกต่างสํ าคัญของภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ บริษัทจํ ากัดที่มิได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะไม่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนํ ารายได้จากเงินปันผลมาคํ านวณเป็นรายได้ ทํ าให้มีภาระภาษีของเงินปันผลสูงกว่าบริษัทจดทะเบียน ส่วนบุคคลธรรมดามีภาระภาษีที่แตกต่างกันในรายได้จากการลงทุนหลายประเภท เนื่องจากมีข้อยกเว้นในการเสียภาษีหลายประการ กรณีภาระภาษีเงินได้จากเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกํ าไรเปรียบเทียบกับเงินได้กํ าไรจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ การจ่ายเงินปันผลมีภาระภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาระหว่างร้อยละ 5-37 ในขณะที่เงินได้กํ าไร จากการขายหลักทรัพย์จดทะเบียนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งสภาพความไม่เท่ากันของภาระภาษีเช่นนี้อาจทํ าให้เกิดการบิดเบือนเพื่อไม่เสียภาษีเงินได้ โดยการขายหลักทรัพย์ก่อนการจ่ายเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกําไร ซึ่งปกติราคาหลักทรัพย์จะสูงขึ้นในช่วงก่อนการจ่ายเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกํ าไร เพื่อได้ประโยชน์จากกําไรจากการขาย โดยไดร้ ับการยกเว้นภาษีเงินได ้ และซื้อคืนกลับมาเมื่อมีการจ่ายปันผลแล้ว ในราคาที่ต่ำ กว่าราคาที่ขายไปในตอนแรก (โดยปกติราคาหลักทรัพย์จะลดลงเมื่อมีการจ่ายปันผลแล้ว) ซึ่งธุรกรรมเช่นนี้จะทํ าให้ไม่มีภาระภาษีเงิน ได้จากการลงทุนเลย โครงสร้า้งภาษีเงินได้ลักษณะนี้ ผลู้ งทนุ จะไดป้ ระโยชนน์ อ้ ยลงหากกองทนุ ใหผ้ ลตอบแทนเปน็ สว่ นแบง่ ก าํ ไรเพราะผู้รับมีภาระภาษีสูงกว่ากรณีที่ได้กํ าไรจากการขายหน่วยลงทุน กองทุนให้ผลตอบแทนในรูปเป็นกํ าไรจากการขายหนว่ ยลงทนุ จะเป็นประโยชนแ์ กผ่ ลู้ งทนุ มากกวา่ โดยการที่กองทุนไม่จ่ายส่วนแบ่งกํ าไรแต่น าํ เงนิ ไปลงทนุ ใหผลตอบแทนทดี่ จี ะท าํ ให NAV สงู ขนึ้ นักลงทุนมีก าํ ไรจากการขายหน่วยลงทุน การศึกษาพบว่าโครงสร้างภาษีไม่มีความแตกต่างของกลุ่มตราสารการเงินประเภทเดียวกัน (ตราสารหุ้น ตราสารหนี้ตราสารการเงิน) ความแตกต่างเป็นไปตามประเภทของรายได้จากตราสารต่างๆ ที่มีภาระต่อผู้ออมผู้ลงทุนต่างกัน โครงสรา้ งภาษเี งินได้เอื้อต่อการลงทุนในรูปของดอกเบี้ยในตลาดเงิน มากกว่าการลงทุนเพื่อให้ได้เงินปันผลในตลาดหุ้น โดยภาระภาษีตราสารหนี้และเงินฝาก คือร้อยละ 5-15 สํ าหรับบุคคลธรรมดา ในขณะที่รายได้ประเภท เงินปันผลต้องเสียภาษีร้อยละ 5-37 เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยด้านอื่นๆ เช่นการคํ้ าประกันเงินฝากของรัฐบาล ความเสยี่ งและปัญหาด้านความไม่สมมาตรของข่าวสารข้อมูล (Asymmetric Information) จากการลงทนุ ในตลาดหนุ้ จึงไม่น่าแปลกใจที่การลงทุนในรูปเงินฝากจะมีสัดส่วนที่สูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นมาก ผมลองมานั่งนึกดูแล้วผมว่าบทสรุปนี้ไม่ค่อยถูกต้องนักนะครับ ยกตัวอย่างนะครับ ผมในฐานะนักลงทุน มีหุ้นอยู่หนึ่งตัวราคา 110 บาท ซึ่งประกาศจ่ายเงินปันผลแล้ว 10 บาท สมมติว่าพรุ่งนี้จะ XD วันนี้ผมมีทางเลือกสองทางนะครับ (สมมติว่าผมตัดสินใจแล้วว่าผมต้องการเป็นผู้ถือหุ้นนี้ในระยะยาว) คือ 1. ขายหุ้นไปที่ 110 แล้ว วันพรุ่งนี้ซื้อคืนที่ 100 บาท กรณีนี้ เหมือนผมได้ปันผลเสมือน 10 บาททันที ไม่ต้องจ่ายภาษีใดๆ 2. ผมถือต่อไป ไม่ขาย กรณีนี้ เมื่อถึงวันรับเงิน ผมจะได้เงินปันผล ซึ่งถูกหักไว้ 1 บาท จึงได้รับเงินสดมา 9 บาท อย่างไรก็ดี ผมจะต้อง (1)จ่ายภาษีจากเงินปันผลที่ได้รับ และ (2)ได้รับเครดิตภาษีคืนดังนี้ [ขอสมมติว่า marginal tax rate ของผมเป็น 20% และบริษัทจ่ายภาษีนิติบุคคลในอัตรา 30%] (1)จ่ายภาษีจากเงินปันผลที่ได้รับ 10บาท x 20% = 2 บาท (2) ได้รับเครดิตภาษีคืน10บาท x 30%/70% ~ 4.28 บาท สรุปในกรณีที่สองแล้ว ผมจะได้เงินปันผล หักภาษี บวกกลับผลประโยชน์จากเครดิตภาษีเท่ากับ 10 -2 + 4.28 = 12.48 บาท ซึ่งมากกว่ากรณีที่หนึ่ง เป็นจำนวน 2.48 บาท (ถึงแม้ผมจะเสียภาษีในอัตรสูงสุด อัตรา 37% ก็ยังได้มากกว่า 10 บาท (ซึ่งไม่ต้องเสียภาษีเลยเพราะเป็นเงินปันผลเสมือน) ตราบใดที่บริษัทจ่ายภาษีในอัตราปรกติที่ 30%) ขอความรู้หน่อยครับว่าผมคิดผิดตรงไหนหรือเปล่า? ความรู้เรื่องการคำนวณเครดิตภาษีผมก็อ่านมาจากใน TVI ห้อง Value Account นี่แหละครับ ในการลงทุนของผมผมมองผลประโยชน์ตรงนี้มาตลอด พอมาอ่านเจอรายงานของ TDRI ชิ้นนี้เข้าเลยชักไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจผิดมาตลอดหรือเปล่า [/u]
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 03, 2005 3:58 pm
0
0
จากการอ่านหนังสือ จิตวิทยาการลงทุน / ภาษีจากกำไรจากราคาหุ้น
คุณ house ผมเข้าไปที่ tdri เจอแต่สารบัญของรายงานชุดนั้น (2544) คุณ house มี รายงานเต็มพอส่งให้ได้ไหมครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 03, 2005 1:57 pm
0
0
ใครยังต้องการ gmail บ้างคะ มีสำหรับ 7 คนคะ
ถ้ายังเหลือ ขอด้วยครับผม ขอบคุณครับ
โดย
bangkokwu
จันทร์ ม.ค. 03, 2005 10:42 am
0
0
รายงานตัวด่วน ใครล่าปันผลเพื่อเครดิตปันผลบ้างครับ
ผมพยายามประหยัดภาษีด้วยวิธีนี้อยู่เหมือนกันเพราะเงินเดือนผมไม่มากยังเสียภาษีแค่ bracket แรกเท่านั้นทำให้ไ้ด้ประโยชน์จากวิธีนี้มากกว่าไปลงทุนใน RMF หรือ LTF มีนาคมนี้คิดคร่าวๆแล้วจะได้คืนประมาณสองหมื่นกว่าบาท ผมได้ปันผลทั้งปีประมาณแค่ 5% ของเงินลงทุน อย่างนี้นับว่าน้อยหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจว่าที่คุณวัวแดงล่าปันผลนี่คือมีการพยายามโยกซื้อขายหุ้นด้วยหรือเปล่า ประมาณว่าพอจ่ายแล้วก็ขายออกไปซื้อตัวอื่นที่กำลังจะจ่ายต่อไปแล้วก็ทำอย่างนี้หลายๆรอบ เพราะถ้าคิดกลับกันว่าได้ 5% เหมือนกัน แสดงว่าเงินลงทุนคุณวัวแดงนี่เป็น เลขแปดหลักทีเดียวเลย
โดย
bangkokwu
พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 7:53 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
bangkokwu
กลุ่ม:
สมาชิก
ที่อยู่:
122nd & Broadway
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
เว็บไซต์:
เข้าชมเว็บไซต์
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร พ.ย. 30, 2004 8:47 pm
ใช้งานล่าสุด:
พุธ ม.ค. 02, 2019 8:35 am
โพสต์ทั้งหมด:
71 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว