Re: สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เริ่มต้นได้ไม่นานครับ(ใครก็ดูได้) 5555 จริงครับ ลายมือผมขยุกขยุย และลายเส้นก็ไม่ได้สวย กำลังค่อยๆปรับปรุงอยู่ครับ วาดมากๆก็ดีขึ้น ลายมือนี่แก้ยาหนหน่อยนะ โดย Warantact เสาร์ เม.ย. 12, 2014 8:36 pm

Re: สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เริ่มต้นได้ไม่นานครับ(ใครก็ดูได้) ห้องมือใหม่มันหายไปไหนอ่าครับ โดย Warantact พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2014 12:43 am

Re: การอ่านงบการเงินภาค 2 ครับ มันมีตอนอื่นด้วยนะครับ ทำเป็นเพจการเงิน เลยไม่ได้มีแต่เรื่องหุ้น มีดอกเบี้ย บัตรเครดิต ที่ดิน อสังหาล้มละลาย เห็นไม่ตรงกรุ๊ปเลยไม่ได้เอามาโพสครับ โดย Warantact อาทิตย์ มี.ค. 23, 2014 11:59 am

Re: การ์ตูนเกี่ยวกับเรื่องส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยครับ อืม ไม่เชิงครับ มันเป็นการประเมินคร่าวๆมากกว่า อย่างแรกเรทของหุ้นกู้ที่วัดด้วยวิธีการปัจจุบันไม่สามารถเชื่อถือได้ เราต้องประเมินบริษัทเองครับ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ตอนวิกฤตซับพรามโลน สินทรัพย์อันนั้นถูกประเมินด้วยเกรด A นะครับ แต่มันก็เจ๊งดูด ถ้าพิจารณาอย่างนั้นก็พอใช้ได้เหมือนกันเพราะ หุ้นกู้ให้แค่4.5% ถ้ามีการลงทุนอื่นที่ให้ผลตอบแทน9% ทำไมเราถึงยังเอา4.5อยู่ บางทีเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลแต่บางทีก็เป็นเรื่องถูกต้อง เพราะ9%นี้เป็น9%ในอดีต เราต้องประเมินดูอีกทีครับ วิธีที่เกรแฮมแก้ปัญหาต้องประเมินเจาะลึกนี้คือใช้การปูพรม คือเขาจะซื้อหุ้นหลายตัวมากที่มี E/P สูงๆ บางตัวอาจไม่เป็นตามคาด แต่ส่วนใหญ่จะวิ่งเข้าหาค่าเฉลี่ยทำให้ผลรวมออกมาดี โดย Warantact เสาร์ ต.ค. 05, 2013 11:22 am

Re: อุตสาหกรรมน้ำมันพืช โหลด TSTE กับ AIมาแล้วครับ ขอบคุณมาก สองบริษัทนี้ผมดูคร่าวๆไม่รู้เลยว่าขายน้ำมันปาล์มด้วย โดย Warantact พฤหัสฯ. ม.ค. 03, 2013 9:22 pm

Re: อุตสาหกรรมน้ำมันพืช เวลาผมประเมินแยกส่วน LST กับ UPOIC แบบนี้พอใช้ได้รึเปล่าครับ UPOIC กำไร 260ล้าน เป็นของ LST70% หรือ 182ล้าน LST กำไร200ล้าน มาจากUPOIC 182ล้าน แสดงว่ามันมีกำไรโดยตัวเองแค่ 18ล้าน มันคิดยังงี้หรือเปล่าครับ โดย Warantact พฤหัสฯ. ม.ค. 03, 2013 9:18 pm

Re: อุตสาหกรรมน้ำมันพืช อ่านครบของทั้งห้าบริษัทแล้วครับ cpi tvo lst upoic uvan ได้ความว่า upoic กับ uvan คล้ายกันมาก tvo ขายกากถั่วมากกว่าน้ำมันถั่วอีก ตลกดี lst ถือ upoic เพียบ และกำไรของตัวเองในธุรกิจอื่นแทบไม่ได้เรื่องเลย อยากได้หุ้นupoic ซื้อผ่านตัวนี้ได้ cpi กำไรแย่กว่า upoic กับ uvan เพราะดันทำธุรกิจจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตลกดีแฮะ 55555 โดย Warantact พุธ ม.ค. 02, 2013 12:24 am

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร คำตอบแรก เอาแบบตรงๆเลยคือการ ย้ายโรงงานครับ เปลี่ยนทั้ง"พื้น" และ "ฐาน" เป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญทางธุรกิจ พื้นฐานเปลี่ยนคือ เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก โดยความสำคัญนั้นมากกว่าหรือเทียบเท่ากับการย้ายหรือสร้างบ้านใหม่ทีเดียว ไม่เกี่ยงว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นเรื่องอะไร ยกตัวอย่าง ปตท เมื่อวานนี้ และ ปตท วันนี้ ราคาที่ขึ้นลง ไม่เกี่ยวกับพื้นฐานที่เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น ธุรกิจมันแทบจะเหมือนกันเลย ราคาเปลี่ยนขนาดไหนไม่เกี่ยว หรือ เกี่ยวน้อย บริษัทเปลี่ยนผู้บริหาร สมมติ ธนาคาร กรุงหมี ผลประกอบการงั้นๆ ตามธนาคาร กสิกรทุย และ ทนพานิช ไม่ทัน ทางบอร์ดจึงมีมติเปลี่ยนผู้บริหารสูงสุด โดยเอาฝรั่งคนใหม่เข้ามา อันนี้อาจทำให้พื้นฐานเปลี่ยน ธุรกิจยาง ซบเซามานาน ผู้ประกอบการพากันออกจากตลาด เศรษฐกิจมีปัญหา คนชะลอการซื้อรถ ความต้องการตกต่ำ สุดท้ายคนกลับมาซื้อรถ ยางขาดตลาด ราคายางขึ้นพรวด อย่างนี้พื้นฐานเปลี่ยน ชั่วคราว ไม่นานก็เหมือนเดิม แอปเปิ้ล สตีฟตาย พื้นฐานเปลี่ยน ผู้บริหารใหญ่เปลี่ยน ความต้องการเปลี่ยน ตลาดเปลี่ยน คู่แข่งเปลี่ยน สินค้าทดแทนเปลี่ยน และอื่นๆอีกหลายอย่าง แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องส่งผลกระทบแบบใหญ่ๆ เพราะฐานเป็นอะไรที่อยู่ล่าง รองรับทั้งธุรกิจ ถ้าไม่แรงจริง ฐานไม่ขยับ โดย Warantact พุธ ส.ค. 01, 2012 11:33 pm

Re: ผมคิดว่าค่า PEG มีเกินสามสิบสอง EBITDA มันห่วยแตกเพราะ มันเป็นกำไรก่อนตัดค่าเสื่อมราคา สมมติว่างี้ โรงงาน ซื้อเครื่องจักรราคา100ล้าน ถามว่าบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเท่าไร ใครตอบว่า100ล้าน ผิดครับ มันถือเป็นสินทรัพย์ทุนต้องค่อยๆกระจายค่าใช้จ่ายไปในปีที่ใช้งาน สมมติตัดค่าเสื่อมห้าปี ในบัญชีจะมีค่าใช้จ่ายลอยมา ปีละ20ล้าน แต่ค่าใช้จ่ายจริงๆคือ 100ล้านปีแรก และ0บาท ในอีก4ปี หากเราใช้EBITDA คือเอาค่าเสื่อมราคาปีละ20ล้านออก โดยอ้างว่าไม่ได้จ่ายเป็นเงินสด เราจะเห็นภาพผิดๆว่าธุรกิจดีเกินจริงต่อเนื่องกันหลายปี โดยลืมไปว่า พอปีที่6เครื่องจักรมันก็พังต้องซ่อมต้องซื้อ ตัววัดตัวนี้เลยเป็นตัววัดที่ไร้ประสิทธิภาพมาก เหมือนขายสินค้า แล้วบอกเจ้าของว่า ถ้าเราไม่นับต้นทุน ถือว่าสินค้าเรากำไรดีมาก 55555 โดย Warantact พุธ พ.ค. 30, 2012 9:41 pm

Re: ธุรกิจที่ดีกว่าค่าเฉลี่ย ค่า P/E ตลาดจะเป็นเท่าไรไม่สนครับ เพราะในระยะยาวมากๆๆ ผลตอบแทนจะอยู่แถวๆ 7-8-9-10-11-12 อยู่ในช่วงนี้ทั่วโลก ในตลาดหุ้นที่มีสภาพกลางๆพอใช้ ซึ่งตลาดไทยก็เป็นเช่นนั้น ส่วนหุ้นคุณภาพที่ราคาไม่แพงเกินไป คือไม่เกิน1.5เท่าของbook อันนี้มันบังเอินตรงกับการคำนวณคร่าวๆของผมพอดี โดยหลักนี้มีมาตั้งแต่สมัยเกรแฮมแล้ว โดยเขียนไว้ชัดเจนในอินเทลิเจนท์นานแล้ว ตอนแรกๆก็ไม่เข้าใจทำไมต้อง1.5 พออ่าน56-1กับงบการเงินมากๆเข้าถึงเริ่มเห็น อันนี้ก็แค่สกรีนคร่าวๆเฉยๆ จะลงลึกก็ต้องไปดูลึกๆอย่างที่ทุกท่านว่า หุ้นที่จ่ายปันผล100%คิดง่าย อย่างหุ้นช่องสาม ผลตอบแทนก็คือ6%เลย เพราะไม่ลงทุนซ้ำ ยกเว้นกรณีROEในอนาคตสูงขึ้นได้มากๆ ไอเจ้า6%นี้มันก็อาจมากขึ้น โดย Warantact อังคาร พ.ค. 22, 2012 10:49 am

Re: ธุรกิจที่ดีกว่าค่าเฉลี่ย ในสูตรที่ใช้ ไม่สนpay out ครับ เพราะสาเหตุแรก เราไม่ได้ใช้PE เราดูPB เมื่อเราเอา ROE มาหาร PB เราจะได้ผลตอบแทนคร่าวๆต่อปี ยกตัวอย่างเป็นบริษัทให้เห็นเลยดีกว่า สมมติว่าวาโก้ พอเราดูปุ๊ป http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=WACOAL&language=th&country=TH เราจะเห็นทันทีว่าบริษัทนี้มีคุณภาพต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แต่มีความมั่นคงสูง คือROEวิ่งอยู่แถวๆ 8 ตลอด ราคาซื้อขายตอนนี้ประมาณbookพอดี ผลตอบแทนที่คุณได้คือ ประมาณ 8% ถ้าจะดูPay out คร่าวๆด้วยก็ไม่ยาก ผมใช้วิธีลัดคือ เอา PE คูณกับอัตราผลตอบแทนปันผลเลย ของวาโก้คือ 12*5 ประมาณ 60% หมายความว่า ผลตอบแทนคร่าวๆที่เราจะได้ราวๆ 8%นี้ 5% เป็นปันผล อีก3%จะไปรวมในbook แค่นี้หละครับ สูตรนี้ จุดอ่อนก็คืออย่างที่ทุกคนว่า หากเจอพวกโภคภัณท์รอบใหญ่ อย่าง PTL ตัวเลขROEเฉลี่ยจะสูงมาก ทำให้ดูว่าเป็นของถูก ถึงจะเป็นจุดอ่อนแต่มันก็ไม่ใช่จุดตาย เพราะเรามีการกระจายลงไป10บริษัท ทำให้การวิเคราะห์ผิดมีความเจ็บปวดน้อยลงบ้าง 10ตัว ผิดไป2 ถูก2 งั้นๆ6 ผลตอบแทนรวมน่าจะออกมา OK อยู่แถวๆหรืออาจมากกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อยครับ โดย Warantact จันทร์ พ.ค. 21, 2012 11:39 am

Re: อยากให้มีการประเมินมูลค่าของ CPALL เต็มมูลค่าแล้วครับ PE40เท่า ถือได้ ขายได้ ซื้อแล้วกอดไม่คุ้ม ถ้าเป็นสายเกรแฮม PEเกิน25ก็ร้องยี้แล้ว สายฟิชเชอร์25ยังซื้อได้ แต่ต้องศักยภาพจริงๆ บริษัทที่ขยายไประดับโลกได้อย่างโค้ก บัฟเฟตซื้อตอนPE20ได้ แต่40คงไม่ ราคานี้ ถ้าอยากได้กำไรระยะยาวมากๆ cpallก็ต้องโตไวกว่าโค้กสองเท่า ผมว่ารอได้ก็รอเหอะ เด๋วมันก็ร่วง โดย Warantact อังคาร พ.ค. 08, 2012 9:29 pm

Re: ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ ถ้าตอบให้ตรงตามคำถามกระทู้ก็คงต้องลดค่า "หมาก" ครับ เพราะหมากแพง 5555 โดย Warantact พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2011 11:30 pm

Re: คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้น เมื่อ ... คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่ออ่านรายงานประจำปีกว่าร้อยฉบับ คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่ออ่านเกรแฮมจบในส้วมมากกว่า5รอบ คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อคุณสอนเพื่อนเลือกหุ้นผ่านงบการเงินเกินสิบคน คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อทุกคนรอบตัวคุณบอกว่าคุณบ้าหุ้นและพร้อมถมเงินลงไปกับความบ้าของคุณ ฮ่าฮ่า คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อคุณได้กำไรแหลกลานในขณะหุ้นขึ้นและพอเวลาหุ้นลงคุณก็ยังกำไรนิดหน่อย คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อชั้นในสือในบ้านคุณมีหนังสือหุ้นมากกว่าซีเอ็ดถ้าไม่นับเล่มที่ซ้ำกัน และทุกเล่มคุณอ่านแล้วมากกว่าหนึ่งรอบ คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อคุณพบว่าไฟแนนซ์ในมหาวิทยาลัยมันสอนมั่ว คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อคุณปั่นจักรยานไปทำงานและกินข้าวที่บ้าน เพื่อเอาเงินมาซื้อหุ้น คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อรายได้คุณมากกว่าเพื่อนห้าเท่า รายจ่ายน้อยกว่าห้าเท่า และนำส่วนต่างทั้งหมดไปซื้อหุ้น คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อเอกสารปันผลส่งมาแทบทุกเดือน คุณรู้ตัวว่าคุณบ้าหุ้นเมื่อคุณทำวิจัยเรื่องหุ้นเพื่อจบปริญญา โดยใช้เอกสารอ้างอิงมากกว่าที่อาจารย์ต้องการ โดย Warantact พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2011 11:25 pm

Re: หุ้นกับโรงหนัง ไม่ใช่หุ้นโรงหนังนะฮิฮิฮิ หนังเรื่องคอนโดของนาย ก ก็สนุกนะฮิฮิ โดย Warantact พุธ พ.ย. 02, 2011 11:25 am

Re: เลือกโบรกเกอร์ยังไงครับ หลักสำคัญคือ 1. ใกล้บ้าน เพราะดำเนินเอกสารสะดวก มีไรถามได้ เวลาจะเพิ่มบริการไม่เสียเวลาชีวิต 2. ไม่ตัดโค้ด พวกโบรคดังๆ ถ้าเราไม่เทรดเกิน1เดือน ซึ่งviเทรดไม่บ่อยอยู่แล้ว เขาจะระงับโค้ดเรา ทำให้เวลาจะซื้ออีกที ต้องไปทำเรื่องวุ่นวาย เสียเงิน เสียเวลา 3. ค่าขั้นต่ำ อันนี้ไม่ค่อยสำคัญ ถ้าซื้อขายเกิน20000บาทต่อครั้ง ค่าขั้นต่ำก็ไม่มีผล 4. ซื้อสัตย์ บริการดี สำคัญมาก ดูได้บ้างจากงบการเงินและเอกสารที่ส่งมาบ้าน หรือไปดูที่สำนักงาน โบรคที่ไม่ตัดโค้ดคือ ktzmico ผลพอใจกับบริการ แต่สาขาน้อย หายาก จะทำไรทีต้องไปสาขาใหญ่ที่ศาลาแดงตลอด โบรคที่เพื่อนผมใช้คือกสิกร หน้าจอเทรดสวย ใช้ง่าย เจ้าอื่นไม่รู้ โดย Warantact ศุกร์ ต.ค. 21, 2011 10:11 pm

Re: หุ้น VI มันไม่มีหรอก.. มีแต่การลงทุนแบบ VI จริงๆมันก็มีนะ เป็นแค่ความหมายที่พอใช้ ไม่เป๊ะ หุ้นใดๆก็ตาม ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่า"ที่แท้จริง" ถือว่าใช่หมด ส่วน หุ้นใดๆก็ตาม ที่มีราคาสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง ถือว่า"ไม่ใช่" ต่อให้หุ้นมันดีเลิศเลอพระเจ้าขนาดไหนก็ตาม ผมเห็นตามเว็บบอร์ดทั้งไทยวีไอและพันทิพย์ คนก็ลอกเซียนกันไป แล้วก็ขาดทุนก็โทษว่าแนวทางไม่ดี เซียนหลอก พวกนี้แค่พวกชอบโทษคนอื่น ตอนราคาสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงดันซื้อ บอกธุรกิจดี บ้าๆบอๆ ประเมินธุรกิจเป็นรึเปล่าก็ไม่รู้ หากดูงบการเงิน อ่านรายงาน อ่าน56-1 ดูข่าวย้อนหลัง ดูงบย้อนหลัง ดูธุรกิจเทียบเคียง และระบุมูลค่าออกมา ถ้าดูอย่างนี้ ระยะยาวไม่มีขาดทุน โดย Warantact อังคาร ต.ค. 04, 2011 11:29 pm

Re: อยากดูกราฟความสัมพันธ์ค่าเงินบาท กับดัชนีตลาดหุ้นไทย ไม่เชื่อก็ต้องค้นคว้าเองครับ ง่ายๆ ผมเห็นด้วยว่า ในหลายๆครั้งมหาลัยก็ออกงานวิจัยงี่เง่าออกมา ผมเองก็ต้องทำก็เลยรู้ว่าทำไมมันออกมางี่เง่าแบบนั้น จะเชื่ออะไรก็ต้องพิจรณาว่ามันตรงกับความจริงไหม ถ้าอยากรู้ว่ามันสัมพันธ์กันจริงไหมก็ต้องลากกราฟดู พอดูกราฟแล้วเห็นชัดว่ามันไม่สัมพันธ์มันก็ไม่สัมพันธ์ ส่วนอเมริกาที่เจ๊ง ผมว่ามันเกี่ยวกับความโลภบวกความโง่ของคนมากกว่า โดยจุดกำเนิดแล้วอนุพันธ์เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ของมันอยู่ อย่างเช่นเงินบาท ถ้ามองให้ลึกถึงจุดกำเนิดแล้ว มันก็เป็นอนุพันธ์ของทอง(ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ใช่) สัญญาบางอย่างสามารถใช้ประโยชน์ในการล๊อคราคาวัตถุดิบเพื่อเป็นประโยชน์กับ ภาคการผลิตได้ อีกเรื่อง ยกตัวอย่าง หนังสือพุทธศาสนา โดยปกติแล้วไม่ใช่เครื่องมือการพนัน ไม่บรรทัดก็ไม่ใช่เครื่องมือการพนัน แต่พอเอาไม่บรรทัดใส่หนังสือ แล้วมาเล่นแทงหน้าคู่คี่กัน มันก็กลายเป็นการพนัน แล้วมาโทษว่าเป็นความผิดของหนังสือศาสนาและไม้บรรทัด ผมว่ามันไม่ค่อยตรงเท่าไร คำตอบว่ามันสัมพันธ์กันไหม มันก็มีกว้างๆสามคำตอบ ไม่สัมพันธ์ สัมพันธ์บ้าง สัมพันธ์กันสุดๆเหมือนเป็นอย่างเดียวกัน เราสามารถตัดคำตอบสุดท้ายออกไปได้เลย คำตอบที่เหลือก็คือ สัมพันธ์บ้าง กับไม่สัมพันธ์กันเลย หากคำตอบเป็นสองข้อนี้ การดูค่าเงินเพื่อทำนายดัชนีก็ไม่มีประโยชน์เท่าไร โดย Warantact พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2011 11:19 pm

Re: อยากดูกราฟความสัมพันธ์ค่าเงินบาท กับดัชนีตลาดหุ้นไทย เพื่อนเพิ่งทำวิจัยเรื่องนี้เพื่อจบโทไปครับ โชคดี ถามได้ถูกจังหวะมาก ผลวิจัยคือ ไม่มีความสัมพันธ์ครับ โดย Warantact พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2011 9:16 pm

Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้ กองทุนร้อยละ70แพ้ดัชนี นี่อาจเป็นผลที่ทำให้กองทุนพวกนั้นแพ้ดัชนีก็ได้มั้งครับ ไม่รู้สิ โดย Warantact พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2011 8:47 pm

Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้ ซื้อเพราะกองทุนเล่นเทคนิคัลครับ โดย Warantact พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2011 8:40 pm

Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้ จนปัจจุบันนี้ผมก็ยังงงอยู่เลยว่าไปซื้อหุ้นตัวนี้กันมาได้ยังไง ดูบุ๊คก็ไม่มีอะไรวิเศษ ทรัพย์สินซ่อนเร้นก็ไม่ได้มีไรมาก ราคาขายเกินบุ๊ค ดูกำไรในอดีตก็ไม่มีอะไรวิเศษ กำไรแทบไม่มี ดูการเติบโตก็ไม่มีอะไรวิเศษ เพราะยังไม่เห็น ราคาไปนู่นแล้ว ดูROEก็ไม่มีอะไรวิเศษ 10 ดูp/e ก็ไม่ได้บอกว่าถูก ดูp/bvก็ไม่ได้บอกว่าถูก ดูความทนทางต่อการแข่งขัน มันก็ไม่ได้เทพมาก ดูอำนาจในการขึ้นราคาก็ไม่มี พอร์ทลงทุนของบริษัทก็เต็มไปด้วยขยะ จนทุกวันนี้ผมยังงงอยู่เลยว่า คนที่ซื้อที่p/e40 คิดอะไร? โดย Warantact พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2011 7:52 pm

Re: Update: Tesco ในญี่ปุ่น จะคนที่ไหนมันก็คน กำไรไปไหนก็ไปที่คน จะไปเกี่ยงทำไมคนประเทศไหน ซื้อร้านคนไทยก็ใช่ว่าโลกเราจะดีขึ้น ถ้าซื้อร้านฝรั่งแล้วฝรั่งรวย เราไปถือหุ้นฝรั่งก็ได้นี่? โดย Warantact พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2011 7:46 pm

Re: อยากรู้ครับว่านักลงทุนแนว VI ดูกราฟกันด้วยรึเปล่าครับ สายคลาสสิคจริงๆไม่ดูครับ โดย Warantact อังคาร ส.ค. 30, 2011 10:15 pm

Re: รีเสิร์จประหลาดที่น่าสนใจ คงผ่านแล้วหละครับ รู้สึกผ่านทุกคนแหละ ของเพื่อนนะ ไม่ใช่ของผม ของผมก็น่าจะผ่าน โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 29, 2011 10:09 pm

Re: รีเสิร์จประหลาดที่น่าสนใจ นอกจากผลแล้วผมไม่มีข้อมูลอะไรทั้งนั้นน่ะครับ ถ้าติ๊ต่างว่าผลนี้ถูกต้อง ต่างชาติที่เล่นเทคนิคัลจะมีจำนวนมากทีเดียว ผมว่าเป็นได้ เพราะธุรกิจในประเทศการที่เป็นนักลงทุนต่างชาติ ไม่อาจเข้าใจใกล้ๆได้ หลายเจ้าจึงใช้วิธีเทคนิคัล โดยเทคนิคัลนั้น จะส่งสัญญาณซื้อเมื่อ ราคาปรับขึ้น วอลุ่มขึ้น เจ้าไหนจะดู macd หรือ แท่งเทียน หรือ สโลสโต อะไรก็ว่าไป เพราะฉะนั้นรีเสิร์จนี้ถ้าจริงจะแสดงได้ดีเลยว่า การซื้อขายของต่างชาติ "ไม่ได้เป็นไปตามพื้นฐานกิจการ แต่เป็นเพียงการส่งโมเมนตัมของราคาให้แรงขึ้น" ใครดูฟันด์โฟลวก็ ดูๆไว้ละกันครับ เพราะไอฟันด์นั่นมันก็ดูเราเหมือนกัน กร๊ากกกก โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 29, 2011 8:25 pm

Re: รีเสิร์จประหลาดที่น่าสนใจ มันไม่ใช่รีเสิร์จผมครับ รีเสิร์จคนอื่นในคลาส เขาบอกผลมาเฉยๆ ตัวแปรอะไรนั้นผมไม่รู้เลย ส่วนตัวผมทำเรื่องอื่นครับ โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 29, 2011 1:24 pm

Re: รีเสิร์จประหลาดที่น่าสนใจ ไม่มีข้อมูลให้ดูครับ ผมจำผลมาเฉยๆ เห็นว่าน่าสนใจดี ไม่ได้ใส่ใจอยากรู้วิธีหรือเฟรมเวิร์คอะไรที่ว่านั้นด้วย เห็นว่าไม่มีสาระเป็นประโยชน์กับแนวทางที่ใช้อยู่ เห็นว่าข้อมูลอาจมีประโยชน์ในแง่ช่วยให้ใจสงบมากขึ้นเวลาดัชนีแกว่งแรง สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่(มั้ง) เลยมาแปะไว้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำยังไง ถ้าคณะกรรมการให้ผ่าน คงพอไหวระดับนึง ไม่ถึงกับผิดหมด โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 29, 2011 11:47 am

Re: การคำนวณD/E ครับปกติ ค่าD นี้เราควรเอาเฉพาะหนี้ที่มีดอกเ ใช้หนี้ที่มีดอกเบี้ย+สัญญาฟิวเจอร์ กับรายการผูกพันนอกงบดุลครับ โดย Warantact ศุกร์ ส.ค. 26, 2011 10:18 am

Re: เวลาที่คุณจะซื้อหุ้น คุณจะซื้อตอนไหน ตอนประเมินมูลค่าเสร็จแล้วพบว่าคุ้ม โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 22, 2011 12:33 pm

Re: การนำหลักการguru VI มาใช้กับ SET มีอะไรที่ปรับเปลี่ยนบ้า มีเจ้าก็ดี ง่ายดี เราไม่สนทิศทาง เราสนแต่ราคา ถ้าการที่หุ้นถูกทุบทำให้ไหลลง ถ้ามันลงแล้ว มูลค่ามากกว่าราคาก็ซื้อ ถ้าไม่ก็ไม่สน ถ้ามันโดนลากขึ้นไป ก็ดูว่าเกินมูลค่ายัง เกินก็ขาย จะลากต่อก็ชั่งมัน ตลาดหุ้นไทยทั้งตลาดมีขนาดเล็กกว่าบริษัทแอปเปิ้ลด้วยซ้ำ(จากของ ดร.) ใครมาซื้อนิดๆมันก็พุ่งแล้วครับ กลับกัน ขายหน่อยๆมันก็ลงแล้ว โดย Warantact เสาร์ ส.ค. 20, 2011 9:24 am

Re: ถ้า SET ลดลงเกิน 40-50% แล้วเงินสดเราหมดหน้าตัก VIต้องทำ มาจิ้น ที่บ้านญาติมิตร ใครๆระดมได้เอามาลงให้หมด ถ้ามันลงไปครึ่งจริง ได้ปันผลปีละ10% กำไรเละอยู่แล้ว โดย Warantact อังคาร ส.ค. 16, 2011 11:41 pm

Re: ชาว VI เล่นมาร์จินกันมั่งมั้ย? ผมไม่เคยใช้มาจิ้น ดอกเบี้ยปีละ5%เองเหรอครับ งั้นถ้าผมได้ปันผล6% เท่ากับว่าผมกู้มากินฟรีเลยสิ ถ้าผมใช้เงินตัวเอง100 มาจิ้น30 ยังงี้ไม่กำไรเละเทะเหรอครับ? เพราะยังไงก็ไม่โดนคอล โดย Warantact อังคาร ส.ค. 16, 2011 11:31 pm

Re: ชาว VI เล่นมาร์จินกันมั่งมั้ย? ผมไม่เคยใช้มาจิ้น ดอกเบี้ยปีละ5%เองเหรอครับ งั้นถ้าผมได้ปันผล6% เท่ากับว่าผมกู้มากินฟรีเลยสิ ถ้าผมใช้เงินตัวเอง100 มาจิ้น30 ยังงี้ไม่กำไรเละเทะเหรอครับ? เพราะยังไงก็ไม่โดนคอล โดย Warantact อังคาร ส.ค. 16, 2011 11:31 pm

Re: เด็กๆมาคุยกันครับ ผมมือใหม่21 ขอไม่เกิน 30 ซัก 18-25 กำล KWC งบดีครับ แต่ไม่มีสภาพคล่อง ราคามันก็ค่อยๆไป โดย Warantact อังคาร ส.ค. 16, 2011 12:27 pm

Re: Apple VS Exxon/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ตอนผมดูคราวที่แล้ว aapl ยังpe 20เท่าอยู่เลย แสดงว่ากำไรโตมากจริงๆ โดย Warantact อาทิตย์ ส.ค. 14, 2011 5:12 pm

Re: หุ้นที่ไม่มี ROE หรือส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบในหน้า SET มีโอกาศประมาณ90กว่าๆ%ที่หุ้นนี้จะไม่เหลือค่าอะไรเลย และมีโอกาสไม่ถึง10% ที่จะกลายเป็นหุ้นฟื้นตัวสุดยอด โดยเฉลี่ยแล้วการลงทุนในหุ้นพวกนี้จะนำผลขาดทุนมาให้มากกว่ากำไร โดย Warantact อาทิตย์ ส.ค. 14, 2011 12:46 pm

Re: เด็กๆมาคุยกันครับ ผมมือใหม่21 ขอไม่เกิน 30 ซัก 18-25 กำล อ่าว ผมก็เกษตร แต่26แล้ว กลายเป็นห้องเกษตรไปแล้ว 5555 kwc ดูดีนะครับ งบดุลแข็งแกร่งขึ้นตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี กำไรโตขึ้นทุกปี บริษัทโตในอัตราเร่ง ดูคร่าวๆแล้วดีทุกอย่างเลย (ผมไม่มีหุ้นนะ) เด๋วไปดูหน่อยดีกว่า แฮะๆๆ โดย Warantact พุธ ส.ค. 10, 2011 12:40 am

Re: คิดแล้วก็แปลกดี โห กระทู้ VIจริงๆ ในเวปไทยวีไอ! ไม่เจอนานแล้วนะเนี่ย 5555 เห็นด้วย โดย Warantact พุธ ส.ค. 10, 2011 12:32 am

Re: Net profit increase but revenue decrease? โอ้ ตัวนี้งบดูยากกะยากเพราะเป็นรับเหมา ประเมินมูลค่ายาก ผมเลยไม่เคยประเมินตัวนี้ ขออภัยด้วย โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 08, 2011 10:58 pm

Re: สอบถาม แนวลงทุน มือใหม่ ที่งบน้อย ครับ น้อยถึงหลักพันให้ซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่มพูนความรู้ และหารายได้ทางอื่นเพิ่มครับ แล้วมันจะมากขึ้นๆเอง ค่อยๆใส่ๆสะสม เดี๋ยวก็เป็นแสนเป็นล้าน โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 08, 2011 12:07 am

Re: Net profit increase but revenue decrease? ตัวไหนครับ บอกเลย จะได้ดูตรงๆเลย ที่ยอดขายลงเรื่อยๆ แต่จิ้นเพิ่มก็เห็นปลาทาโร่นี่หละ โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 08, 2011 12:04 am

Re: ถ้าตลาดลงสุดๆ ล้างพอร์ทกันหรือไม่ครับ? ลงสุดก็มาจิ้นสิ จะมาล้างอะไรกัน ล้างมันต้องล้างตอนขึ้นสุดๆ โดย Warantact จันทร์ ส.ค. 08, 2011 12:02 am

Re: แนวคิดที่ Paradox ของ VI (ขอความเห็นจากพวกเราด้วยครับ) ซื้อหุ้นเหมือนทำธุรกิจ คิดเหมือนเจ้าของกิจการ เอาหละ เจ้าของกิจการเขาขายบริษัททิ้งไหมเวลามีข่าวว่าหุ้นจะลง? หากไปถามเจ้าของกิจการบริษัทนอกตลาด เขาก็จะตอบว่า "จะบร้าหรือ กิจการอั๊วดีๆ ขายทิ้งทำไม" หากไปถามเจ้าของกิจการในตลาดบริษัทที่มีผลประกอบการดี คนที่เล่นหุ้น "จะบร้าหรือ มันลงก็ซื้อคืนดิ ลากๆทุบๆสนุกสนาน" หากไปถามเจ้าของกิจการที่ไม่สนหุ้น "หุ้นก็ส่วนหุ้น ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ ลองลงแบบปี2008ดิ จะซื้อให้ให้ใจ ลง3%นี่เด็กๆ" สรุป ผมมองว่า ถ้ามันลงสนั่นหวั่นไหวจริงๆ ตรงนั้นก็มาจิ้นได้ไม่กลัว ถ้ากลัวก็ไม่ต้องใส่เงินลงไปเพิ่ม ตลาดถล่มเป็นเวลาเอาเงินญาติๆทั้งหลายมาใส่ลงไป แล้วคืนให้พวกเขาตาโตในอีกสองปี ตอนนี้ทำกำไรโชว์ไปก่อน โดย Warantact อาทิตย์ ส.ค. 07, 2011 11:34 pm

Re: แนวคิดที่ Paradox ของ VI (ขอความเห็นจากพวกเราด้วยครับ) ซื้อหุ้นเหมือนทำธุรกิจ คิดเหมือนเจ้าของกิจการ เอาหละ เจ้าของกิจการเขาขายบริษัททิ้งไหมเวลามีข่าวว่าหุ้นจะลง? หากไปถามเจ้าของกิจการบริษัทนอกตลาด เขาก็จะตอบว่า "จะบร้าหรือ กิจการอั๊วดีๆ ขายทิ้งทำไม" หากไปถามเจ้าของกิจการในตลาดบริษัทที่มีผลประกอบการดี คนที่เล่นหุ้น "จะบร้าหรือ มันลงก็ซื้อคืนดิ ลากๆทุบๆสนุกสนาน" หากไปถามเจ้าของกิจการที่ไม่สนหุ้น "หุ้นก็ส่วนหุ้น ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ ลองลงแบบปี2008ดิ จะซื้อให้ให้ใจ ลง3%นี่เด็กๆ" สรุป ผมมองว่า ถ้ามันลงสนั่นหวั่นไหวจริงๆ ตรงนั้นก็มาจิ้นได้ไม่กลัว ถ้ากลัวก็ไม่ต้องใส่เงินลงไปเพิ่ม ตลาดถล่มเป็นเวลาเอาเงินญาติๆทั้งหลายมาใส่ลงไป แล้วคืนให้พวกเขาตาโตในอีกสองปี ตอนนี้ทำกำไรโชว์ไปก่อน โดย Warantact อาทิตย์ ส.ค. 07, 2011 11:34 pm

Re: อัตราส่วนทางการเงิน เอาตัวหลักๆก่อนนะครับสำหรับมือใหม่ ดู d/e ก่อน เอาหนี้รวมหารทุน ดูในเวปsetง่ายดี ดูด้วยตาหยาบๆก็ได้ ถ้าหนี้มีน้อยกว่าครึ่งของทุน ขอบอกว่าธุรกิจนี้เจ๊งยากมาก โอกาสที่เราจะขาดทุน100%จากหุ้นตัวนั้นๆมีต่ำลง เป็นการลดความเสี่ยงหนึ่งระดับ ตัวต่อไป S/A ยอดขายต่อสินทรัพย์ หรือใช้ S/E ก็ได้ เป็นยอดขายต่อทุน ดูว่าทุนที่เจ้าของเอามาลง 100บาท จะสร้างยอดขายได้กี่บาท ถ้า อัตราส่วนนี้มากกว่า 1 โดยทั่วไปก็ถือว่าเจ๋ง แต่น้อยกว่าไม่ได้แปลว่าไม่ดีนะ ต่อไป ROE แปลว่า ตังที่เจ้าของเอามาลงทุนในบริษัท จะเรียกเงินกำไรกลับมาได้ปีละเท่าไร เช่น roe 15% แปลว่า เอาตังมาลงทุนกับที่นี่ปีละ100 จะได้กำไร15% ต่อไปว่าด้วยเรื่องราคา ประกอบกับข้างบน p/e ดูตรงๆอย่างนี้บอกว่า ถ้ากำไรของบริษัทเท่าเดิมทุกปี ต้องใช้เวลากี่ปีเราถึงรวยขึ้นสองเท่า ถ้า10ก็แปลว่า10ปี ตัวเลขนี้มีดีตรงที่ ถ้าเราเอา100ตั้ง แล้วหารด้วยp/e เราจะได้ผลตอบแทนเป็น%ต่อปีมา คล้ายๆ ดอกเบี้ยแบงค์ ดูง่าย p/b แปลว่าราคาหุ้น เทียบกับส่วนที่เป็นของเจ้าของ ของบริษัท ถ้าต่ำกว่า1แปลว่าถูกมาก ต่ำกว่า1.5แปลว่าค่อนข้างถูก ยกเว้นบริษัทที่ปั้นบัญชีขึ้นมา หรือบริษัทที่ทรัพย์สินต่ำกว่าความจริง p/b กรณีที่ถ้าp/eต่ำ อาจเป็นเพราะกิจการเป็นวัฏจักร ดีขึ้นชั่วคราวทำให้ p/eต่ำลง การดูp/b จะป้องกันการโดนหลอก ผลตอบแทนปันผล ดูว่ากำไรที่ได้ บริษัทยอมจ่ายให้ผู้ถือหุ้นไหม ถ้าได้สัก3%ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว โดยทั่วไปถ้ากระจายการลงทุนในหุ้นผ่านเกณท์นี้มากกว่า10ตัว แต่ไม่เกิน30ตัว ผลตอบแทนในระยะยาวจะดีมากครับ แต่อาจจะน่าเบื่อหน่อย โดย Warantact เสาร์ ส.ค. 06, 2011 10:36 pm

Re: โห SET INDEX ตกมากเหลือเกิน... ตกมากเหรอครับ? 40 จาก 1150 ไม่มากหรอกครับ ไม่ประมาณ3%เท่านั้นเอง ผมก็แปลกใจนะครับ เห็นคนตกใจกันว่าเพราะงั้นเพราะงี้ เวลาเดินไปห้าง เจอป้ายลด3% ไม่น่าจะตื่นเต้นกันนะ ถ้าลด30%นี่ถึงจะน่าเดินเข้าไปดู ถ้าลด50%นี่น่าสนมาก แต่ลด3%นี่ผมว่าเฉยๆนะ โดย Warantact เสาร์ ส.ค. 06, 2011 8:13 pm

Re: ครึ่งปีหลังกับการ TURN AROUND ของกลุ่ม PROPERTY ???????? ตอนหกเดือนที่แล้วไปทำอะไรกันอยู่ กลุ่มอสังหาถูกเป็นขี้ ราคาต่ำกว่าbookเยอะแยะ คนซื้อช่วงนั้นฟันไปต่ำๆก็50%แล้ว จำได้เลย ตอนนั้นมีแต่ข่าวฟองสบู่อสังหา ฟองสบู่ไร คนเห็นทั้งประเทศ มันต้องใสๆ มองไม่เห็น ตอนนี้พอราคาวิ่งขึ้นบอกเทิร์นอะราว ข่าวหนอข่าว ไม่เคยนำตลาดเลย 5555 โดย Warantact พฤหัสฯ. ส.ค. 04, 2011 9:50 pm

Re: รบกวนถามพี่ๆว่า มีวิธีอย่างไรในการดูว่าหุ้นovervalueบ้าง ง่ายๆก่อนนะ ถ้าธุรกิจงั้นๆ ผลตอบแทนธรรมดา roe 8-12% อันนี้ถ้า pe เกิน10เขาว่าแพง ถ้าดีหน่อย ถ้า pe เกิน 15 เขาว่าแพง ถ้ากิจการสุดยอดเลย pe เกิน 20 ส่วนมากก็มักจะแพงแล้ว แถวๆนี้น่ะ คือ pe ของมันสูงกว่า roe ของมัน แต่อย่าไปยึดกับมันมาก ไอตัวที่แพงแบบผิดธรรมชาติไปเลยก็ดูง่ายนะ ไม่ได้บอกไบ้หรืออะไรนะครับ แปะไว้เป็นกรณีศึกษา ว่า มันดูเหมือนแพง จริงๆแพงป่าว ไปพิจรณาเอง http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=KAMART&language=th&country=TH http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=SABINA&language=th&country=TH http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=CAWOW&language=th&country=TH http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=JAS&language=th&country=TH โดย Warantact พุธ ก.ค. 27, 2011 1:29 am

Re: "เลิกดูงบการเงิน" ดูครับ ยังไงก็ดู แต่พอดูไปนานๆดูไปเยอะๆแล้วเวลาที่ใช้ในการดูจะลดลงมาก อัตราส่วนทางการเงินต่างๆหลายๆตัว เดี๋ยวนี้ผมก็คิดเอาในหัว กะๆเอา บริษัทมันก็มีงบอยู่สามแบบ 1ใสๆดูง่ายๆ กำไรมาเรื่อยๆ 2กำกวม ซับซ้อน แต่ยังมีกำไร 3ขยะ ไอพวกอันแรกเนี่ย เวลาดู ดูปื้ดๆ โดย Warantact พุธ ก.ค. 27, 2011 1:20 am