หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
TB
Joined: ศุกร์ ม.ค. 14, 2005 10:40 pm
99
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - TB
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: Chandler's Brother ตำนานนักลงทุนอีกบทนึง
ขอบคุณสำหรับบทความดีดี ครับ
โดย
TB
จันทร์ ก.ย. 05, 2011 2:05 am
0
0
Re: ประชุมผู้ถือหุ้น พาคนอื่นไปด้วยจะน่าเกลียดมั๊ยครับ
ถ้าไม่แน่ใจโทรเช็คบริษัทก่อนก็ดีครับ LRH ไม่อนุญาติให้มีผู้ติดตามไม่ว่าจะไม่มีสิทธิออกเสียง หรือถามใดใดทั้งสิ้น
โดย
TB
พฤหัสฯ. เม.ย. 07, 2011 8:16 pm
0
0
เสนอหุ้นประเทศญี่ปุ่น
http://www.toyota.co.jp/en/ir/stock/outline.html ส่วนมากที่ website ของเกือบทุกบริษัท จะมี link for investors หรือ company information อยู่ครับ ถ้าไม่รู้ web ของบริษัทว่า dot อะไรต่อท้าย อาจจะเริ่ม search ชื่อบริษัท บวกกับ คำว่า stock quote เช่น isuzu stock quote ใน google แล้วดูใน list ที่ขึ้นมาหา website investing.businessweek click ก็จะมี รายละเอียดครับhttp://investing.businessweek.com/research/stocks/snapshot/snapshot.asp?ticker=7202:JP แต่หุ้นใหญ่ที่ list หลายตลาด ต้องดู symbol เป็นหลัก เช่นหุ้นญี่ปุ่นก็จะมีตัวเลข 4 หลัก เช่น 7202 บริษัทข้างบน หรือ ชื่อบริษัท + majorshareholders ใน google แต่บางทีวิธีนี้ก็ไม่ขึ้นครับ ผมใช้ทั้งสองวิธี
โดย
TB
ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 3:19 pm
0
0
!! ดาวน์โหลดเอกสารที่แจกในงานสัมมนา Thaivi#2 ได้ที่นี่ !!
ขอบคุณครับ
โดย
TB
อาทิตย์ พ.ค. 16, 2010 2:37 am
0
0
กลุ่มยานยนต์มีตัวไหนน่าสนใจบ้างคะ
แต่อย่าง STANLY นี่ ไม่น่าจะโดนใช่ไหมครับ เพราะแทบไม่มีคู่แข่ง แล้วเรื่องที่บอกว่าค่ายรถญี่ปุ่น ไม่ค่อยเปลี่ยน supplier นี่ เป็นจริงหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ :)[/quote] ไม่จริงครับ ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนก็คงเป็นบริษัทรูปที่บริษัทรถยนตร์เข้าไป ถือหุ้นพอสมควร (เป็นบริษัทในเครือ) แต่บริษัทใน SET ไม่เข้าข่ายนี้ครับ
โดย
TB
อังคาร ม.ค. 12, 2010 11:52 pm
0
0
ขอคำแนะนำค่ะ เรื่องขายอสังหาริมทรัำพย์ เอาเงินมาลงทุนในหุ้น
ปล ปีนี้ครึ่งปีแรก เป็นช่วงที่มองแนวโน้มที่ยาก เพราะจะมีข่าวดีและร้าย ปะปนกันไป upside downside ใกล้เคียงกัน บริษัทที่มีพื้นฐานแข่งแกร่งอาจมีผลตอบแทน น้อยกว่าหุ้นเก็งกำไร ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังไงก็มีผลตอบแทนที่ดีกว่าแน่นอนครับ เอาประสบการณ์ของการลงทุนที่พยายามเห็นหุ้นเก็งกำไรให้ชนะ set ได้ไม่คุ้มเหนื่อยครับ เสียเวลาและเสียสุขภาพจิต เมื่อเปรียบเทียบกับอีก port ที่เลือกจากหุ้นที่กองทุนและสถาบันชอบถือ หรือกองทุน index fund ต้องถือ และเลือกลงทุนในเวลาและราคาที่เหมาะสม (จะยากก็ตรงนี้ แต่ก็ไม่ยากที่จะชนะตลาด)
โดย
TB
อังคาร ม.ค. 12, 2010 11:42 pm
0
0
ขอคำแนะนำค่ะ เรื่องขายอสังหาริมทรัำพย์ เอาเงินมาลงทุนในหุ้น
กระทู้ที่ทำให้รู้ว่า ในweb นี้มีคนใจดีมีความรู้เยอะจริงๆ ชื่นชมทุกท่านที่เข้ามาระดมความคิดเพื่อน้องเค้า ครับ (ต้องกลับไปทบทวนตัวเอง ว่าอายุ 20 กว่า ยังสนใจแต่ การเกร็งกำไร มากกว่ามองไปข้างหน้าและมีเป้าหมายอย่างจริงจัง ขอให้ลงทุนโดยมีสติ เผื่อใจและเผื่อทุน ในกรณีที่เกิดขึ้นมาในรอบ สามปีที่ผ่านมา ให้บทเรียนค่อนข้างเยอะ ลองหารูปแบบของการลงทุน ที่เหมาะกับความเสี่ยงที่ตัวคุณเองยอมรับได้ และจะไม่เสียใจทีหลัง อาจจะเริ่มลงทุนจาก prop fund ที่มีหลายคนแนะนำ และเป็นรูปแบบที่ตัวคุณเอง มีความเข้าใจบ้างอยู่แล้ว ขอให้โชคดีครับ
โดย
TB
อังคาร ม.ค. 12, 2010 11:22 pm
0
0
กล้าๆกลัวๆ แต่สอยน้อง MINT มาแล้วครับ
ถ้าพูดถึงหุ้นโรงแรม คิดถึงกูรูท่านหนึ่ง คุณม้าเฉียว ไม่ทราบว่ามีโอกาสเข้ามาอ่าน อยู่บ้างไหมครับ เห็นเคยพูดว่า จะเขียนหนังสือไม่ทราบพิมพ์ออกมาแล้วหรือยัง จะได้ติดตามอ่าน ยอมรับว่าได้รับมุมมองใหม่ๆ ไปวิเคราะห์หุ้นอีกหลายๆบริษัท ปัจจุบันเริ่มสะสม mint มาจำนวนหนึ่งสักพักแล้วครับ แต่ปัจจัยในประเทศ high season q 4 ถึง q 1 ต้นปีหน้าไม่น่าจะมี growth จึงไม่คิดว่าต้องเร่งซื้อเท่าไหร่ ไม่ทราบว่ามองแง่ลบมากไปหรือเปล่า
โดย
TB
พุธ ต.ค. 15, 2008 12:30 am
0
0
บริษัทที่ซื้อหุ้นคืน เดี๋ยวนี้ยังมีอีกไหมครับ
ถ้าจำไม่ผิด AIS ก็มีรายการนี้เหมือนกัน ซื้อแถวราคาประมาณ 30 บาท หลังจากนั้นไม่นาน ราคาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุดขายกลับลงกระดานหรือลดทุน ขอโทษที่เขียนขึ้นมาลอยๆ เพราะไม่ทราบว่าช่วงปีไหน วานผู้รู้ช่วยวิจารณ์ตัวนี้ด้วยครับ
โดย
TB
ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 12:47 am
0
0
หุ้น asia (เอเซีย โฮเต็ล เป็นหุ้นเก็งกำไร)หรือ พื้นฐานดีครับ
ถ้า Value ที่จะเป็น Take Over Target ก็ไม่เลวสำหรับทรัพย์สินที่มีอยู่ แต่ถ้าโดยรวม มองที่บรรทัดสุดท้ายกำไรของบริษัท คงต้องใช้เวลาอีกพัก ใหญ่
โดย
TB
อังคาร พ.ย. 20, 2007 12:37 am
0
0
ใครจะได้เป็นพาร์ทเนอร์ใหม่ ของ เมอร์ริล ลินซ์
ผลบวกที่เกิดขึ้นกับ ASL ที่มีก็น่าจะเป็นแค่เงินค่าใบอนุญาติของ APEX เดิมที่มีมูลค่าประมาณ 350-500 ล้านบาท MERRILL LYNCH คงจะเข้ามาทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยตนเอง เหมือน UBS หรือ CSFB ที่รับเฉพาะลูกค้าของตนเอง ซึ่งบางทีก็มีสถาบันไทยส่ง order ผ่านบ้าง มากกว่าที่จะเป็น Partner ใหม่กับใครเพราะปัจจุบัน PHATRA ก็เป็นทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งในเมืองไทย ถ้าจะลงทุนที่ราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับ volและ Mkt share ที่เพิ่มขึ้นในตลาดที่มี vol ค่อนข้างสูงมากนี้ก็ต้องอยู่ในวิจารณญาณของคุณเองครับ ASL-R ณ วันที่ 05/04/2550 ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ # NVDR Issues % of Total NVDR Issues % of Total OutStanding Shares in Underlying Stock 1. MR.WU KO FU 16,500,000 10.02 0.39 2. MISSHUY KIA LO 11,378,000 6.91 0.27 3. CIMB-GK SECURITIES PTE.LTD. 7,500,000 4.56 0.18 4. BANK JULIUS BAER & CO. LTD 6,200,000 3.77 0.15 5. MISSWU, CHIEH-HSUAN 6,000,000 3.64 0.14 6. MR.WU, KO-FU 5,500,000 3.34 0.13 7. MRS.SHIUH, LEE CHING LUCY 5,425,000 3.30 0.13 8. MR.WUNG, YUN FA 4,500,000 2.73 0.11 9. MRS.YANG, FENG-HSUEH 4,400,000 2.67 0.10 10. KIM ENG SECURITIES PTE. LTD. 4,250,000 2.58 0.10 11. MR.HUANG CHIN-SEN 4,000,000 2.43 0.10 12. MR.MIKE EDWARD STOKMAN 3,590,000 2.18 0.09 13. MR.SUDHIR KUMAR MITTAL 3,500,000 2.13 0.08 14. MR.WU, MING-HSIEN 3,160,000 1.92 0.08 15. MR.JEAN G.A. DE GERLACHE DE GOMERY 3,000,000 1.82 0.07 16. MR.HON HUNG CHAN 3,000,000 1.82 0.07 17. MR.RANG-YUEN SUEN 3,000,000 1.82 0.07 18. MR.YEH, CHING-TSUNG 2,300,000 1.40 0.05 19. MERRILL LYNCH,PIERCE,FENNER & SMITH INC. 2,300,000 1.40 0.05 20. MRS.CHEN JIANHUA 2,240,000 1.36 0.05 21. MISSCHAN SIU CHUN VIANNA 2,024,000 1.23 0.05 22. MISSLO HUY KIA 2,000,000 1.21 0.05 23. MRS.SEOW LENG HO 2,000,000 1.21 0.05 24. MR.CHEN MING-HUNG 2,000,000 1.21 0.05 25. MR.SIMON MORRIS GEROVICH 2,000,000 1.21 0.05 26. MR.CHUA KIM HUAT 2,000,000 1.21 0.05 27. MR.LIU, WEN-PING 1,850,000 1.12 0.04 28. MR.WU, CHUNG-CHEN 1,731,000 1.05 0.04 29. MR.CHUNG-PEI SU 1,700,000 1.03 0.04 30. MR.CHIA-YU SUN 1,500,000 0.91 0.04 31. MRS.CHOU, CHAN-PIN 1,400,000 0.85 0.03 32. MR.CHENG MANYIU 1,400,000 0.85 0.03 33. MRS.WU KUNG, HAI-YEN 1,315,000 0.80 0.03 34. MR.TU, MAO-SHEN 1,250,000 0.76 0.03 35. MRS.SU, HSUEH-FEN 1,110,000 0.67 0.03 36. MR.CHEN, TAI-LONG 1,100,000 0.67 0.03 37. MR.HSU CHIN-LANG 1,100,000 0.67 0.03 38. MR.OSWALD REGINALD HALL 1,100,000 0.67 0.03 39. MR.WANG, TA-YEN 1,000,000 0.61 0.02 40. นายเจ้อหลง แซ่ไช่ 1,000,000 0.61 0.02 41. MR.CHU WEN-PO 1,000,000 0.61 0.02 42. UBS SECURITIES PTE. LTD. 1,000,000 0.61 0.02 43. MISSCHANG CHU-MEI 1,000,000 0.61 0.02 44. MISSLEUNG YUK HING ELLIS 1,000,000 0.61 0.02 45. MR.JINGMING SAE-HENG 1,000,000 0.61 0.02 46. MR.LEE CHIN CHENG 1,000,000 0.61 0.02 47. MR.MA CHENG-YI 1,000,000 0.61 0.02 48. MR.GREGORY IAN BARTON 918,000 0.56 0.02 หมายเหตุ Major NVDR holders and related information as of book-closing for the shareholders' meeting of the underlying shares (XM). ส่วนที่คุณ landland พูดว่ามีการเข้ามาซื้อ asl มากขึ้น NVDR ล่าสุดก็ไม่มีตัวเลขอะไรที่เป็นสาระสำคัญ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ตามข้อมูลที่เห็น)
โดย
TB
ศุกร์ ก.ค. 27, 2007 12:25 am
0
0
ใครก็ได้ ช่วยผมด้วยเถอะครับ
ใช้สิทธิพาดพิงครับ :mrgreen:
โดย
TB
จันทร์ มิ.ย. 18, 2007 2:34 am
0
0
หุ้นโฆษณาไม่เวิร์คเหรอครับ
ส่วน MACO ก็อาจจะมีรายได้มากขึ้นจากการที่ย้ายสายการบินบางส่วนกับมา เพราะเห็นว่าป้ายส่วนใหญ่ยังว่างอยู่ แต่ราคาแถวนี้ผู้บริหารยังขายอยู่สงสัย คงต้องรอให้เริ่มซื้อกลับกันมาสเตอร์ แอด (MACO) ธวัช มีประเสริฐสกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 24/11/2549 23/11/2549 1,000,000 4.65 ขาย มาสเตอร์ แอด (MACO) ธวัช มีประเสริฐสกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/12/2549 08/12/2549 1,000,000 4.34 ขาย มาสเตอร์ แอด (MACO) ธวัช มีประเสริฐสกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 13/12/2549 12/12/2549 800,000 4.25 ขาย มาสเตอร์ แอด (MACO) วิชิต ดิลกวิลาศ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 27/12/2549 22/12/2549 49,960 3.54 ซื้อ
โดย
TB
พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 11:36 pm
0
0
หุ้นโฆษณาไม่เวิร์คเหรอครับ
สำหรับ MATCH ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่หรือ เปล่า เพราะในลักษณะธุรกิจโฆษณา น่าจะมีความอิสระในการทำงาน ถึงจะ สร้างผลงานที่มีแนวคิดใหม่ๆ เพราะสังเกตจากธุรกิจที่กรุงเทพโทรทัศน์และ วิทยุและบีบีทีวี เข้าไปถือหุ้นใหญ่อย่าง ESTAR หรือ MEDIAS มี performance ที่ถดถอย ผมไม่ได้มองว่า กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุและบีบีทีวี ไม่เก่ง แต่อาจจะไปแทรกแซงการทำงานของผู้บริหารเดิมมากเกินไป
โดย
TB
พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 11:26 pm
0
0
หุ้นอหังสาตอนนี้ตัวไหนน่าสนใจบ้างครับ......
LH ถ้า Property ต่อให้นักวิเคราะห์ Broker ใหญ่ๆ Consensus แนะนำ Hold to Sell เพราะว่า PE สูง ผลประกอบการไม่โตตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ทุกครั้งที่ตลาดหรือหมวดขึ้นยังไงตัวนี้ก็ขึ้นแทบทุกครั้ง QH ความสำเร็จจากการทยอยขาย asset ให้ property fund และ ดีขึ้นจากบ้านราคาถูกแบรนด์ใหม่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง แต่ต้องดูปัจจัยที่แบงค์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยปล่อยกู้บ้านราคาถูก (1-3 ล้าน)ถ้าไม่ใช่กรุงไทย อาคารสงเคราะห์ หรือออมสิน หวังว่า SCB ที่นโยบายขยายพอร์ดสินเชื่อในปีนี้ค่อนข้างเยอะอาจจะมาสนใจปล่อยลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น LH Bank ก็ค่อนข้างเข้มงวดในการปล่อยสำหรับลูกค้าจะขอกู้ที่มีแนวโน้มที่จะซื้อเพื่อเก็งกำไร ถ้ารับเหมาไม่ว่ารัฐบาลนี้หรือต่อไป ก็ต้องเดินนโยบายรถไฟฟ้าต่อ ส่วนตัวสนใจรับเหมาครับ ไม่แนะนำตัวไหนเป็นพิเศษเพราะเทรดตัวใหญ่เกือบทุกตัว (ขึ้นขาย ลงซื้อบางส่วนปรับต้นทุนเพื่อถือยาวระดับ 2-3 ปี)
โดย
TB
พุธ มี.ค. 14, 2007 12:57 am
0
0
SAMART and SIM
คำว่ากลุ่มสามารถ ตอนนี้น่าจะรวมไปถึง samtel ascon และล่าสุด pro ด้วยมั้ยครับ เป็นการร่วมลงทุนกันครับ คุณFrankie http://www.settrade.com/simsImg/news/2006/06029822.t06 เรื่อง ร่วมลงทุนในสัญญาจ้างบริหารจัดการขยะ ในบริเวณท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ เรียน กรรมการและผู้จัดการ / ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ ทราบว่า เอสพีเอส คอนซอร์เตียม (SPS Consortium) ("SPS") มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยาม เวสท์แมเนจเม้นท์ คอนซัลแทนท์ จำกัด โดยมีสัดส่วนการลงทุนร่วมทำงานในอัตราร้อยละ 60 30 และ 10 ตามลำดับ และทั้ง 2 รายที่ร่วมทุน ไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันตาม ประกาศของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SPS ได้ลงนามในสัญญาการจ้างบริหารจัดการขยะในบริเวณท่าอากาศสุวรรณภูมิ กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ("ทอท") เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2549 โดยมี รายละเอียดของสัญญาสรุปได้ดังนี้ 1. SPS เป็นผู้บริหารจัดการขยะในพื้นที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ("ทสภ") ในลักษณะครบวงจรตั้งแต่การก่อสร้าง จัดหาระบบอุปกรณ์ พัฒนาระบบการจัดการ ขยะ การเก็บขน การคัดแยก และการกำจัดขยะ เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ ทอท แจ้งให้เริ่มดำเนินงาน 2. มูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 607 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณขยะใน แต่ละวัน โดยมีปริมาณขั้นต่ำตามสัญญา 40 ตัน ต่อวัน ในอัตราตันละ 1,500 บาท สำหรับ ขยะทั่วไป และ 3,400 บาท สำหรับขยะมีอันตรายและขยะติดเชื้อ ในระยะเวลา 3 ปีแรก และอัตราค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 10 เมื่อต้นปีที่ 4 และปีที่ 8 3. ทอท เป็นผู้จัดหาและอนุญาตให้ SPS ใช้พื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ในพื้นที่ บริเวณ ทสภ และ อาคารสถานีรับขยะ พร้อมเครื่องจักรอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วในอาคารดังกล่าว เพื่อใช้เป็นสถานที่บริหารจัดการขยะ โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ และค่าเช่าอาคาร 4. อาคารสิ่งปลูกสร้างและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการจัดการขยะทั้งหมด จะ ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ ทอท เมื่อสัญญาสิ้นสุด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายเกรียงไกร เลิศศิริสัมพันธ์) รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีการเงินและบริหารสำนักงาน
โดย
TB
จันทร์ มี.ค. 12, 2007 1:05 am
0
0
SAMART and SIM
อันนี้แหล่งที่มาจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2197 04 มี.ค. - 07 มี.ค. 2550 http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=T012197a&issue=2197 วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น รับเซ็งลี้ ธุรกิจ ตระกูลชินวัตร เป็นเพราะครอบครัว "วิไลลักษณ์" กับ ครอบครัว "ชินวัตร" มีสายสัมพันธ์กันมายาวนานไล่เรียงตั้งแต่ เชิดชัย วิไลลักษณ์ ผู้พ่อของ "วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์" กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งสองคนช่วยเหลือเกื้อกูลกันตั้งแต่สมัยที่ เชิดชัย บุกเบิกธุรกิจจานดาวเทียม ครั้งนั้นอดีตนายกทักษิณ ลงทุนในกิจการดาวเทียมได้เข้ามาถือหุ้นในธุรกิจจานดาวเทียมของกลุ่มสามารถ หากแต่มาถึงรุ่นลูกคือ วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ เข้ามาบริหารธุรกิจแทน เชิดชัย วิไลลักษณ์ พร้อมกับลงทุนก้อนโตในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้ชื่อ บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด หรือ ดีพีซี ให้บริการภายใต้ชื่อ "Hello 1800" มีอันต้องประสบปัญหาการลงทุนและตัดใจขายธุรกิจ ซึ่งบุคคลที่เข้ามาซื้อกิจการ ดีพีซี ก็ไม่ใช่ใครอื่นนั้นคือครอบครัว "ชินวัตร" ซึ่งก่อนหน้านั้นยังถือครองหุ้นในบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้นครอบครัว "ชินวัตร" ประสบปัญหาชีวิตกรณีขายหุ้นให้กับกองทุนเทมาเสกโฮลดิ้งจากประเทศสิงคโปร์ จุดชนวนให้กองทัพพันธมิตรยกพลขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จนต้องกระเด็นจากอำนาจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจของครอบครัวอดีตนายกฯทักษิณ ตลอดจนเครือญาติ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าครอบครัว "วิไลลักษณ์" เป็นครอบครัวลำดับต้น ๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนกรณีที่ บริษัท พอร์ทัลเน็ท จำกัด ใน เครือคอมลิงค์ฯ ซึ่งเป็นบริษัทของน้องสาวอดีตนายกฯทักษิณ กลุ่มสามารถก็เข้าไปซื้อกิจการทั้งหมด หรือก่อนนั้นก็เคยยื่นมือเข้าไป รับซื้อหุ้นบริษัท ทราฟฟิก คอนเนอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) ของ"เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กลุ่มสามารถมีรายชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นเช่นเดียวกัน ที่สำคัญไปกว่านั้นกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ออกมาทวงคืน "ดาวเทียมไทยคม" ปัจจุบันตกไปเป็นสมบัติของกองทุนเทมาเสกโฮลดิ้ง จากประเทศสิงคโปร์ ชื่อของกลุ่มสามารถก็ปรากฏเด่นชัดขึ้นมาทันทีว่าสนใจที่จะเข้าไปร่วมทุน ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งตัวเลข และ ผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ลงตัวเชื่อได้เลยว่า "วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์" บิ๊กบอสกลุ่มสามารถคอร์ปฯ ยอมควักกระเป๋าเข้าไปถือหุ้นใน บมจ.ชินแซทเทิลไลท์ จากกองทุนเทมาเสกโฮลดิ้งก็ได้ อย่างนี้เขาเรียกว่าบุญคุณต้องทดแทน ไม่ขอวิจารณ์เกี่ยวกับ Hello 1800 แต่อยากให้ดูบทวิเคราะห์ของโบรกต่างๆที่พูดถึงกรณีบริษัทเข้าไปเจรจาซื้อบริษัท พอร์ทัลเน็ท จำกัด ใน เครือคอมลิงค์ฯ น่าจะพิมพ์ผิดเป็น MLINK มากกว่าว่าบริษัทจะมี synergy อะไรบ้าง หรือ Shin Sat ทีสามารถเป็นลูกค้ารายใหญ่รวมถึง Shin Sat ที่ถือบริษัท CSL ทางอ้อมที่ทำธุรกิจสมุดหน้าเหลืองซึ่งอาจจะมาเสริมธุรกิจของ Bug 1113 หรือ ธุรกิจ internet ความเร็วสูง ซึ่งก็เป็นธุรกิจเดียวกันกับที่ SAMART ทำอยู่ ส่วนตัวไม่ค่อยสนใจเรื่องรายการระหว่างกันที่ดูแล้วไม่มีความผิดปรกติเรื่องราคา (บริษัทหนึ่งได้ประโยชน์และอีกหนึ่งบริษัทหรือรายย่อยเสียประโยชน์) ASCON เห็นว่ามีการสร้างโรงไฟฟ้าที่เขมรและธุรกิจอื่นๆมีการก่อสร้างพอสมควรก็น่าที่จะมี Synergy TRAF อาจจะเรื่องลิขสิทธิ football ช่วงนั้นที่มีการร่วมมือกับ Siam sport ผิด ถูก อย่างไรขออภัยด้วย (อาจจะมี BIAS เพราะถือในเครือนี้เกือบทุกตัวเพราะคิดว่า ศึกษาและติดตามมาพอสมควร)
โดย
TB
จันทร์ มี.ค. 12, 2007 12:58 am
0
0
SAMART and SIM
อันนี้ก๊อปเค้ามาให้อ่านเผื่อจะเป็นประโยชน์ครับ http://www.telewizmall.com/board/news/news5.php/2006/08/08/238.html เจาะยุทธศาสตร์วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ สยายปีกสามารถคอร์ป หลังมั่นใจว่าปีนี้กลุ่มสามารถจะทำรายได้เกินกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ เปิดยุทธศาสตร์การเติบโตที่ยั่งยืนเริ่มตั้งแต่ปลายปีนี้ต่อต้นปีหน้า ประเดิมปรับแผนธุรกิจรุกบริการเซอร์วิสโพรวายเดอร์ ด้วยการขอไลเซนส์กทช. แตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี พัฒนาบุคลากร ให้ไร้รอยต่อด้านแนวคิดระหว่างระดับบนกับระดับล่าง ครึ่งปีหลังกลุ่มสามารถ? หลังจากดูแนวโน้มหลายๆอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลง กลยุทธ์ใหม่เพื่อเตรียมสำหรับต้นปีหน้า ครึ่งปีหลังกิจกรรมการตลาดคงไม่เปลี่ยนมาก ถ้าเป็นไอ-โมบายก็เน้นเรื่องโทรศัพท์มือถือที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ จะออกหลายรุ่นช่วงปลายปีนี้ ไตรมาส4จะมีมือถือที่ไม่เหมือนใคร แต่สิ่งสำคัญที่เตรียมไว้คือจะรุกหนักการเป็นเซอร์วิส โพรวายเดอร์ เพราะกทช.เปิดกว้างมากขึ้นในการเช่าโครงข่าย มี VoIP แล้ว แต่เราจะไม่เข้าไปลงทุนเน็ตเวิร์กใหญ่ๆ คงอาศัยแอปพลิเคชั่น ที่มีอยู่ในเครือมาใช้ประโยชน์ ปลายปีจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากเพื่อเอาไปใช้ต้นปีหน้า ตอนนี้เตรียมแผนสำหรับปีหน้าแล้ว ส่วนผลประกอบการรวมๆแล้วปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะไม่ค่อยซัพพอร์ตเท่าไหร่ แต่จากการที่ไปขยายการลงทุนต่างประเทศซึ่งมีการเติบโตที่ค่อนข้างดีกว่าที่คิด ถ้าแยกพูดแต่ละกลุ่ม โดยที่ไอ-โมบายเน้นมือถือและจะไปขยายตัวสามารถมัลติมีเดียมากขึ้น จะเห็นชัด 1-2เดือน มีเว็บไซต์ใหม่ๆ เป็นการอินทริเกตแอปพลิเคชั่นแล้ว แต่ก่อนขายมือถือก็มีคอนเทนต์ใส่เข้าไป แต่ตอนนี้จะมีแอปพลิเคชั่นใหม่ๆใส่เข้าไป ไม่ใช่แค่มือถือฟังเพลง กระตุ้นให้คนอยากเปลี่ยนมือถือ และต่อไปเน้นบริการที่จะทำให้มีรายได้สม่ำเสมอมากขึ้น ไอ-โมบาย ขาหนึ่งเป็นมือถือ ขาหนึ่งเป็นคอนเทนต์ อีกขาเป็นการลงทุนต่างประเทศ ต่อไปจะมีขาที่ 4 คือการเป็นเซอร์วิสโพรวายเดอร์ หารายได้ประจำ อย่างไทยโมบายที่มีรายได้เข้ามา ต่อไปจะมีมากขึ้นรูปแบบใกล้ลงตัวแล้ว อยู่ระหว่าง Approach หาพันธมิตร จะชัดเจนในไตรมาสสี่ถือเป็นนโยบายของกลุ่มสามารถที่ต้องหารายได้ลักษณะประจำ ระยะยาวไม่ใช่แค่เทรดดิ้งหรือประมูลงาน เพราะถึงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี แต่ผลประกอบการดี ก็ทำให้เราตุนความได้เปรียบตรงนี้เพื่อรอโอกาสสำหรับการก้าวกระโดดอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราไม่ได้มองแค่ก้าวกระโดดในประเทศ แต่มองก้าวกระโดดในต่างประเทศ วิชั่นสามารถไม่ได้มองแค่ Domesticอีกต่อไปแล้ว แต่จะมอง Global มากขึ้น มอง Regional มากขึ้น ซึ่งพิสูจน์ว่าเราทำได้ ธุรกิจต่างประเทศกลับฟื้นตัวได้เร็วกว่า อย่างมาเลเซียไปลงทุน 2 ปี ปีแรกขาดทุนแต่ปีสองกำไรแล้วถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ตอนนี้มีกำไรทุกเดือน หรืออินโดนีเซียเพิ่งเริ่มมิถุนายน แต่ปีหน้าจะเริ่มมีกำไร หรือแอร์ทราฟิกคอนโทรล ปีแรกก็มีกำไรเลย ผลประกอบการของไอ-โมบายก็ดี เติบโตเรื่อยๆ แต่เราระมัดระวังในการทำตลาดพอสมควร ควบคุมค่าใช้จ่าย พยายามสร้างแบรนด์ให้เป็นที่นิยมมากขึ้น ปัจจุบันลงทุนอีก 20 กว่าล้านบาทเปิดศูนย์บริการในต่างจังหวัดมากขึ้น ขายเดือนละแสนกว่าเครื่องต้องดูเรื่องบริการให้ดี ตอนนี้ไอ-โมบาย มีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 359 แห่งทั่วประเทศ i-mobile shop 74 สาขา consignment outlet (ฝากขาย) 137 แห่ง ไอ-โมบาย แฟรนไชส์ ช็อป 46 สาขา ไอ-โมบาย แฟรนไชส์ คิออส 102 จุด สำหรับ i-mobile shop (74 สาขา) มีศูนย์ซ่อม/บริการลูกค้า (Service center) จำนวน 18 สาขาส่วนสาขาอื่นๆ ลูกค้าสามารถส่งเครื่องซ่อมได้ (Drop-off point) โดยสาขานั้นๆ จะส่งต่อไปยังศูนย์ซ่อม มือถือไอ-โมบายขายดีมากตอนนี้? คอนเซ็ปต์ไอ-โมบายช่วงหลัง จากที่เราอยู่กับผู้บริโภค ไม่ใช่เป็นการที่ผู้ผลิตเอาสินค้ามาติดยี่ห้อเราเหมือน OEM แต่จะบอกโรงงานต่างๆว่าเราต้องการอะไร แล้วให้ผลิตตามสเปก อย่างตอนนี้ออกรุ่น 8 ล้านพิกเซล ซึ่งแนวทางนี้ถือว่าประสบความสำเร็จพอควรเหมือนบอกผู้ผลิตว่าอยากได้โทรศัพท์มือถือแต่เท่าเอ็มพี 3 เราใกล้ชิดตลาด ต้องเอาความต้องการผู้บริโภคเป็นตัวนำ ไม่ใช่เอ็นจิเนียร์มานำ ซึ่งปลายปีนี้จะออกอีก 10 กว่ารุ่น จับตลาดแมส ระดับราคา 3 พันบาทมากขึ้นต่อไปจะมองตลาดต่างประเทศพวกตลาดเกิดใหม่ไม่ยึดติดกับแบรนด์ และไม่ใช่ในภูมิภาคนี้อย่างอัฟริกา อินเดีย สายธุรกิจอื่น มีแผนอย่างไรบ้าง? แซมเทล ทำด้านไอทีเทเลคอม งานประมูลก็ทำไปเรื่อยๆ ในครึ่งปีหลังก็มีงานประมูลรัฐวิสาหกิจ 2-3 พันล้านบาท แต่ต้องมองหารายได้ที่จะเป็นระยะยาว อีก 1-2 เดือนจะเห็นบริการใหม่ๆส่วนด้านด้านโทรคม จะเข้าไปขอไลเซนส์กทช.หลายอันเหมือนกันอย่าง VoIP กำลังศึกษารูปแบบอยู่เพราะต้องไปอาศัยเครือข่ายกสท ในช่วงต้น แต่รูปแบบบริการต้องฉีกออกไป ต้องประสานงานกับไอ-โมบายที่มีมือถือ มีคอนเทนต์ มีอะไรใหม่ๆ มาใช้ตรงนั้น ส่วนสามารถคอร์ป ครึ่งปีหลังจะมีงานด้าน Waste Management หรือ Waste to Energy 2-3 โครงการน่าจะเสร็จ โครงการที่สุวรรณภูมิก็ดังไปแล้ว แต่ไม่ได้มีอะไร จริงๆแล้ว เราพูดมาตั้งปีหนึ่งแล้วว่าสามารถจะเข้าสู่ธุรกิจพวกนี้ ไม่ใช่อยู่ดีๆกระโดดจากโทรคมไป อย่างเราทำแอร์ทราฟิกคอนโทรล หรือทำโรงไฟฟ้าที่เขมรก็ทำแล้ว ลงทุนตั้งพันล้าน และการที่เข้าประมูลที่สุวรรณภูมิเราก็ไม่ได้เข้าคนเดียว เป็นคอนซอร์เตี้ยมมีบริษัท โปรเวสต์ มีธรรมสรณ์ ที่ทำธุรกิจนี้อยู่แล้ว ซึ่งมองว่าธุรกิจนี้มีอนาคตแล้วคู่แข่งขันไม่เยอะ ต่อไปบ้านเมืองมันต้องมีพวกนี้เยอะ ไม่ใช่กำจัดขยะอย่างเดียว ต่อไปขยะอิเล็กทรอนิกส์อีก พวกมือถือเละ ๆ จะทำอย่างไร จอมอนิเตอร์จะเอาไปทำอะไร เกิดอะไรกับมลภาวะซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของเราว่าต่อไปจะทำอะไร ไม่ใช่หยุดแค่ตรงนี้ แต่จะเป็นสิ่งที่ให้ทำธุรกิจต่อเนื่องอีกหลายอย่าง หรือแม้กระทั่งโรงไฟฟ้า ไม่ได้มองแค่พลังงานน้ำมันหรือถ่านหิน แต่มองถึงพลังงานทดแทน เช่นพลังงานแสงอาทิตย์แต่ระบบไม่ใช่แบบโซล่าตรอน อีกอันที่ทำต่อเนื่องคือเรื่องบรอดคาสติ้ง ซึ่งสามารถวิศวกรรมทำจาน ต้องหาทางทำอย่างไรให้ทีวีเมืองไทยมีช่องดูเยอะๆ มีอีกหลายหน่วยงานอยากมีทีวีของตัวเอง ซึ่งจะทำให้จานขายได้ ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของสามารถต้องทำต่อไป แต่ต้องให้มีการเติบโตต่อไป อีกไม่กี่เดือนจะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง สามารถคอร์ปแตกตัวไปมาก? เป็นนโยบายที่สามารถต้องไปหาธุรกิจใหม่ทำที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี แต่ไอ-โมบาย หรือแซมเทล ต้องเลี้ยงตัวเองได้ หาเงินทุนเอง ต่อไปเมื่อเราจัด Waste กับ Energy พ่วง Utilities ได้แล้ว ก็ต้องไปเลี้ยงตัวเอง ต่อไปธุรกิจอื่นๆอย่างคอลเซ็นเตอร์ ปัจจุบันอยู่ใต้สามารถ 100% ตอนนี้ดีขึ้นมากมีรายได้ปีละ 500 ล้านบาท ต่อไปเป็นพันๆล้าน ทำให้เป็นอันดับหนึ่งได้หรือไม่ ต้องแยกออกไป หาทุนเอง เป็นการกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนธุรกิจของสามารถ แต่เราไม่ได้แตกตัวไปโดยไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี อย่างอุตสาหกรรมอาหารหรือเกษตร แต่ไม่ได้ลิมิตตัวเองเฉพาะโทรคมอีกต่อไป ซึ่งต้องดูว่ามีการใช้เทคโนโลยีเป็นเมนหลักหรือไม่ ทีมบริหารสามารถแข็งแรงขนาดไหน? ต้องเติมอีกเยอะ บุคลากรเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงคน วัฒนธรรม เพราะแต่ละธุรกิจไม่เหมือนกันเลย โดยเฉพาะการบริหารคน แต่สามารถดีอย่างหนึ่งเพราะมีความคล่องตัวในการเปลี่ยนแปลง พร้อมปรับตัวได้เร็ว ไม่ได้เป็นองค์กรที่เชื่องช้า ผสมผสานองค์กรที่เป็นแบบแฟมิลี่ กับมืออาชีพ ไม่ได้อิงแบบใดแบบหนึ่งเกินไป ข้อดีอีกอย่างคือคนส่วนใหญ่อยู่มานาน รักองค์กร พร้อมที่จะต่อสู้ เพื่อความก้าวหน้า ตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ผมว่าคนยังอยู่มากกว่าครึ่ง ที่อยู่กันมาเป็นสิบๆปี แต่เราต้องปรับปรุงคุณภาพผู้บริหารเราอีกเยอะเช่นความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างคุณสมชายที่อยู่เขมร ตอนนี้ต้องไปเรียนรู้เรื่อง Waste เรื่องโรงไฟฟ้า ต้องหูตากว้างไกลพร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ได้ยึดติดอยู่ในกรอบ ต้องสร้างความคิดใหม่ๆให้พนักงานและผู้บริหาร ลงทุนเรื่องเทรนนิ่งเรื่องระบบไปมากแล้ว ซึ่งถือว่าสามารถแข็งแรงขึ้นกว่าเมื่อก่อน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็ยังไม่พอใจน่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้อีกเยอะ เพราะองค์กรเราใหญ่ขึ้นมากมีพนักงาน 4 พันคนแล้ว ต้องทำโมเดลใหม่ ท้าทายผู้บริหารมากขึ้นไม่ได้มีแบบโบนัสปกติ ต้องมี intensive อะไรอีกหลายอย่าง ต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนองค์กรมาก ในการเข้าสู่ธุรกิจอีกหลายแบบ บุคลากรเป็นส่วนที่สำคัญ ตอนนี้เงินทุนเป็นส่วนที่สำคัญรองลงมาแล้ว เพราะสามารถเน้นเรื่องอินโนเวชั่น จะทำอย่างไรให้พนักงานมีความคิดอ่านของตัวเอง สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆออกมา ไม่ใช่อยู่แต่เดิมๆรอเจ้านายสั่ง ต้องสร้างวัฒนธรรมใหม่ๆ ปีหน้าเน้นเรื่อง Synergy แต่ละอันก็มีข้อดี ทำอย่างไรให้มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน ได้มากที่สุดทั้งแง่ธุรกิจและภายในองค์กรด้วยกันเอง พยายามไม่ให้นึกว่าเป็นซิม หรือเป็นแซมเทล ทุกคนเป็นพี่น้องกันนามสกุลเดียวกัน ตอนนี้มีอะไรหนักใจบ้าง? ทำไม่ทัน เพราะตอนนี้มีช่องห่างระหว่างผู้บริหารระดับสูงกับระดับล่าง ซึ่งต้องเติมในส่วนของผู้บริหารระดับกลางให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นมันจะตามไม่ทัน ในความคิดอ่านผู้บริหาร เพราะต้องทำให้คนระดับกลางเข้าใจทิศทางบริษัท ต้องปรับตัวเองอย่างไร เพราะองค์กรโตเร็ว ต้องให้เวลาพูดคุยกับผู้บริหารมากขึ้น ถึงแม้ผลประกอบการจะดีขนาดเกิน 2.5 หมื่นล้านบาท ที่ต้องถือว่าประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งแต่วิกฤตหรือตั้งแต่ก่อตั้ง แต่จะทำอย่างไรให้รักษาได้นานที่สุด ครึ่งปีหลังทุกคนต้องทำงานหนักกว่าครึ่งปีแรก ในแง่ความสัมพันธ์การเมืองกับงานประมูล? เราทำงานประมูลมาเป็นสิบๆปี ไม่ว่าจะประมูลจานดาวเทียม ประมูลสนามบิน ถ้าพูดตรงๆก็ด้วยความสามารถ ด้วยราคา แต่ในเมืองไทยก็มีเรื่องพูดกันไปหลายอย่าง แต่เราพยายามทำให้ถูกต้อง เรื่องคอนเน็กชั่นที่พูดกัน ไม่ได้เฉพาะงานประมูล เมืองไทยส่วนใหญ่รู้จักมักคุ้นกัน ใครทำอะไร ไม่ใช่รู้จักแค่นักการเมืองกลุ่มนั้นกลุ่มนี้คนเดียว ความที่อยู่ในงานประมูล ก็จะถูกมองว่ามีคอนเน็กชั่นบ้าง อะไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่ เราก็ไม่เคยประมูลแล้วราคาแพงกว่า รัฐก็ได้ประโยชน์ ไม่เคยถูกต่อว่าแพงกว่าเอาเปรียบ ไทยโมบายได้มาแต่ขาดทุนด้วย ถ้ามีคอนเน็กชั่นดี รู้จักเจ๊โน้น เจ๊นี้ ทำไมผมตกหัวเหว่ย งานซีดีเอ็มเอ ผิดสเปกเลย ตกคนแรกเลย เรายังจะไปฟ้องศาลปกครองขอความยุติธรรม แต่พอเปิดราคามาแล้ว ถูกกว่าที่คิดตั้งเยอะแยะ ก็ไม่จำเป็นต้องไปฟ้อง เพราะรัฐได้ประโยชน์ เราก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นให้โครงการล่าช้า ถ้าผมเส้นดีจริงๆ งานนั้นก็ต้องได้แล้วตั้ง 7-8 พันล้าน เราก็อยากได้ การต้องรู้จักคนในวงการนี้ต้องมีแน่นอน เพราะให้ความยุติธรรมกับเราได้ แต่ต้องประมูลงานได้ด้วยความสามารถของเราเองด้วย ไม่ใช่ชนะเพราะคอนเน็กชั่นอย่างเดียว
โดย
TB
จันทร์ มี.ค. 12, 2007 12:29 am
0
0
ถ้า รัฐมนตรีคลังคนใหม่ผ่อนปรนมาตรการ 30% และอื่นๆ
ขอบคุณคุณ thawattt สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ :bow:
โดย
TB
พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2007 10:32 pm
0
0
อยากเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัทไหนมากที่สุด
ขอเป็น SAFARI (หลังปรับโครงสร้างหนี้ ) ถึงบางคนจะว่าเป็นการทรมานสัตว์ก็ตาม อยากให้สภาพกับไปดีเหมือนเมื่อก่อนครับ
โดย
TB
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 5:20 pm
0
0
ทำไม ไทยสตีลเคเบิล นิ่งสนิทนานจัง ชักลังเล
นึกว่าวันนี้ TSC ขึ้นมากกว่าทุน คุณChartchai จะลงป้ายซะอีก เห็นวันก่อนน่าก่อนแตะ 9 บาทบอกว่าใกล้จะได้ลงดอย ถ้า 9 บาทเป็นยอดดอย คนซื้อสัปดาห์แรกๆคงอยู่บนก้อนเมฆ :cry:
โดย
TB
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 4:51 pm
0
0
ทำไม ไทยสตีลเคเบิล นิ่งสนิทนานจัง ชักลังเล
แนวโน้มการจ่ายปันผลน่าจะสูงขึ้น(ปี 50)เนื่องจากกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทได้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีก็น่าที่จะชดเชยกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการย้ายโรงงาน และ โรงงานที่ตั้งเดิมจากการที่บริษัทให้สัมภาษณ์ว่ามีผู้สนใจเช่าหลายรายน่าที่จะเป็นรายได้เสริมต่อบริษัทอีกจำนวนหนึ่ง
โดย
TB
พุธ ก.พ. 28, 2007 1:14 am
0
0
+ยอมรับกันมาครับ ใครเคยเก็งกำไร Warrant+
TRAF SICCO ซื้อ W แปลงเป็นแม่เมื่อ Discount MIDA กับ MATCH ได้มาฟรีๆ แต่ตัวแรกตัวแม่ยังขาดทุนรวมกำไรตัวลูกอยู่ 5 % SCIB cover warrant กำไรมากที่สุดเพราะซื้อได้จังหวะตอนกลับตัว BAY-w1 กับ ASP w1 กำไรปานกลาง นอกเหนือจากที่พูด KMC Tisco-c1 และอื่นๆ อีก 2-3 ตัวที่หมดอายุไปแล้วขาดทุนตัวละประมาณ 25-30% จนเกือบจะเข็ด แต่ไม่เลิกสักที ช่วงนี้ดูเฉพาะ Bay-w1 แต่ไม่วายอยากเอาชนะ MIDA หวังว่าคงไม่โดนอีก 30% (อย่างน้อยก็ตีตั๋วรออีก 2 ปี)
โดย
TB
จันทร์ ก.พ. 05, 2007 11:10 pm
0
0
erawan คิดว่าไงคับ
ตอนนี้เราซื้ออนาคต erawan กันมั้งครับ erawan ตอนนี้มี GHEB, JWM, ที่สมุยเพิ่งเปิด, Amarin Tower, Ploenchit Center, IBIS ที่แถวๆอนุสาวรีย์ชัย นอกนั้นรู้สึกยังไม่เปิด มี IBIS อีก 10 ที่ มีอะไรอีกนะ?? Courtyard ที่เมื่อก่อนให้สถานฑูตอเมกาเช่า เอามาทำใหม่อยู่ ที่วิทยุ holiday inn ที่พัทยา รู้สึกว่ามีเยอะเต็มไปหมด แต่ยังไม่ สร้าง/เปิด ขอโทษครับ holiday inn ที่พัทยา รวมอยู่ด้วยหรือครับ (หรือว่าผมตกข่าว)ในแบบรายงานประจำปี ไม่มีรายละเอียด ถ้ามีก็ขอประทานโทษด้วยครับ
โดย
TB
ศุกร์ ก.พ. 02, 2007 9:08 pm
0
0
หุ้นพื้นฐานในอดีตที่กลายเป็นหุ้นปั่น<หุ้นเน่า>ในปัจจุบ
ถ้าคิดได้ทันทีตอนนี้ก็ CEI เมื่อก่อนพื้นฐานดีแน่นอน กำไรต่อปีประมาณ หลายร้อยล้านบาท ปันผล OK เทรดกันเป็นสองสามร้อยก่อนแตก PAR หลายกองทุนก็มีใน Port อีกหนึ่งตัวน่าจะเป็น TEM ไทยเอนจินฝรั่งสนใจธุรกิจกันมาก ขอซื้อเป็น BIG LOT Property BLAND, TYONG, CNT กองทุนหลายกองต้องมีใน PORT เพราะ MKT CAP ของ Property เมื่อก่อนใหญ่กว่านี้มาก
โดย
TB
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 8:44 pm
0
0
HMPRO ทำไมลงเยอะค่ะ
สำหรับ MAKRO คงต้องถามนโยบายรัฐและนโยบายผู้ถือหุ้นฝั่งเนเธอร์แลนด์ด้วยว่าจะขยาย ตลาดเพิ่มหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐ walmart ก็มีทั้ง Walmart (ปลีก)และ Sam(ส่ง)ก็ไปได้ดีทั้งคู่ ขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับประชากรในบริเวณนั้น แต่ปัจจุบันไม่ทราบว่า ฝั่งสยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) ผู้ถือหุ้น 55.01 % เป็น cp อยู่หรือเปล่า http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/datafile/FS/030320050101T03.doc นอกจากนี้ ในระหว่างไตรมาสที่หนึ่งของปี 2548 บริษัทย่อยในต่างประเทศ (CPFI) ได้ขายเงินลงทุนบางส่วนในบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (MAKRO) แก่บุคคลภายนอก โดยมีกำไรจากการขายเงินลงทุนตามงบการเงินรวมเป็นเงินประมาณ 87 ล้านบาท ในระหว่างไตรมาสที่สองของปี 2548 บริษัทย่อยในต่างประเทศ (BKPH) ได้ทำสัญญาเพื่อจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ MAKRO จำนวน 17.5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 60 บาท เป็นเงินรวม 1,050 ล้านบาทให้กับบริษัท สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MAKRO และไม่เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกันกับบริษัท ทั้งนี้ กำไรจากการขายเงินลงทุนดังกล่าวตามงบการเงินรวมมีจำนวนประมาณ 812 ล้านบาท
โดย
TB
พุธ ม.ค. 17, 2007 1:20 am
0
0
ข้อเด่น ข้อด้อย ของประเทศไทยคืออะไร
ถ้าถามคนต่างชาติที่มองเราว่า จุดเด่นของประเทศไทย มีอะไรบ้าง สิ่งที่ได้ รับได้ฟังมามีมากมายจนจดจำไว้ไม่หวาดไม่ไหว ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศ ภูมิ อากาศ อาหารการกิน ค่าครองชีพราคาถูก ทรัพยากรธรรมชาติ ศาสนา ขนบ ธรรมเนียมประเพณี นิสัยใจคอของคนไทยส่วนใหญ่พื้นฐานเป็นคนดี ฯลฯ ส่วนข้อเสีย ก็สั้นๆว่า ไม่ค่อยรักษาหรือเห็นความสำคัญของสิ่งดีดี ต่างๆที่มี อยู่ ที่นานาประเทศเฝ้ามองอย่างคำพูดว่า เสียดายแทน
โดย
TB
พุธ ม.ค. 17, 2007 12:50 am
0
0
มีหุ้นตัวไหนที่น่าเติบโตได้สองหลัก ?
ถ้าโตจากสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีจากการย้ายโรงงานได้ไม๊ครับ หมวดยานยนตร์มีแน่ๆ หนึ่งตัว ทั้งโตมากกว่า 10% และมีแนวโน้มไปยืนสอง หลัก ปัจจุบันมากกว่าราคาจองไม่มาก เงินปันผลจากราคาปัจจุบันประมาณ4%
โดย
TB
เสาร์ ต.ค. 21, 2006 12:32 am
0
0
ธุรกิจสอนดนตรี ทำไม ถึงไม่มีวันตายคับ
หลายวันก่อน อ่าน China Daily โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในจีน กำลังจะไปจดทะเบียนที่ตลาด S&P หรือ NASDAQ นี่ละครับ ถ้าหาเจอจะนำมาลงให้นะครับ ไม่รู้ว่าอาจารย์สงวนอยากจะเข้าตลาดมั่งหรือเปล่า นึกถึงสมัยเรียน ม ปลาย ขนาดเรียนกับวีดีโอยังแทบจะไม่มีที่นั่ง
โดย
TB
อังคาร ก.ย. 05, 2006 12:36 am
0
0
3 บริษัท ที่มีเงินสดมากกว่าหนี้ทั้งหมด
ระวัง GOOD GOVERNANCE โดยเฉพาะ-----จุฬางกูร-------- หุ้นดีอย่างKPNมีใครแอบมองอยู่บ้าง DANGEROUS STOCK ได้รับการแปลงโฉมก่อนเข้าตลาดจากวิชัย ทองแตง THIS STOCK IS SIMILAR TO INOX :( :( :( :( http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=18847 คุณ wisut ครับผมส่วนตัวแล้วสงสัยว่ามีอคติอะไรกับหมวดยานยนตร์หรือเปล่าครับ หุ้น KPN ผมไม่ทราบว่าคุณตอบผิดกระทู้หรือเปล่าที่บอกว่าบริษัทเค้าไปเกียวพันกับ คุณวิชัย ทองแตง ส่วนTSC ก็บอก ปัญหา good governance ถึงแม้ว่าบอร์ดมีเป็นบอร์ดเสรีที่เสนอความคิดอะไรก็ได้ แต่ผมเห็นว่าที่นี่เป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ที่สุดบอร์ดหนึ่งที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการลงทุน ฉะนั้นเวลา Post อยากให้ตรวจสอบข้อมูลสักหน่อย ไม่อยากให้นักลงทุนท่านอื่นๆ เข้าใจในบริษัทนั้นๆ ผิดไป ขอบคุณครับ ส่วนตัวชอบเนื้อหาที่คุณ post ในหลายๆกระทู้แต่หมวดยานยนตร์ยังติดใจกับการฟันธงของคุณ ถ้าผม post เนื้อหาที่ไม่ถูกใจใครก็ขอโทษด้วยครับ
โดย
TB
อังคาร ก.ค. 18, 2006 1:34 pm
0
0
3 บริษัท ที่มีเงินสดมากกว่าหนี้ทั้งหมด
อะไรทำให้ต้องระวังครับ เหตุผลทางการเมือง? หรือได้รับหุ้นจองมากไปครับ ขอคำแนะนำด้วยครับคุณ Wisut
โดย
TB
จันทร์ ก.ค. 17, 2006 12:20 am
0
0
3 บริษัท ที่มีเงินสดมากกว่าหนี้ทั้งหมด
ปัจจุบัน Nippon Cable System เปลี่ยนชื่อเป็น Hi-Lex Corporation ครับ ร่วมมือกันมาประมาณ 20 ปี มีความร่วมมือโดยเริ่มมีการซื้อ part บางส่วนจาก TSC น่าติดตามว่าหลังจากเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากการย้ายเข้านิคม สัดส่วนในการส่งออกจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด และนโยบายปันผลช่วงที่ได้สิทธิ BOI จะมีแนวโน้มมากขึ้นแค่ไหน ปัจจุบัน EPS 1.19 ปัน 40 สตางค์ HI-LEX CORPORATION, formerly Nippon Cable System Inc., is a Japan-based company that is mainly engaged in the manufacture and sale of control cables and peripheral equipment. The Company's main products include control cables for motorbikes, automobile industrial machinery, housing equipment, ships and others. Its products encompass push-pull cables, window regulators, window opener cables, steering systems, push-pull actuators, catheters and guide wires. The Company sells the products in Japan, as well as overseas markets along with its subsidiaries and associated companies. The Company is also involved in the development, manufacture and sale of control cable-manufacturing machines. Headquartered in Hyogo, It has 21 subsidiaries and six associated companies in the country, Korea, China, Vietnam, Thailand, Indonesia, India, Mexico, Brazil, the United States and the United Kingdom.
โดย
TB
อาทิตย์ ก.ค. 16, 2006 12:55 am
0
0
3 บริษัท ที่มีเงินสดมากกว่าหนี้ทั้งหมด
ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 04/04/2549 ประเภทการปิดสมุด : XM จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 825 % การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 99.93 ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น 1 นายสรรเสริญ จุฬางกูร 83,115,000 31.99 2 NIPPON CABLE SYSTEM, INC. 70,000,000 26.94 3 นายชูทอง พัฒนะเมลือง 16,997,400 6.54 4 นางอรสา พัฒนะเมลือง 12,000,000 4.62 5 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 10,470,800 4.03 6 นายสง่า วีระวัฒกานนท์ 8,000,000 3.08 7 นายไชยทัศน์ ไชยพิภัทรสุข 6,690,000 2.58 8 นายดำรงค์ กุลธนพงศ์ 6,000,000 2.31 9 นายยัสวินเดอร์ซิงห์ พิชิตสิงห์ 3,245,000 1.25 10 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด 3,000,000 1.15 11 นายเชิดชัย ลีลานภาพรรณ์ 1,700,000 0.65 12 กองทุนเปิด แมกซ์บาลานซ์ 1,638,400 0.63 13 บริษัท แมกซ์ ประกันชีวิต จำกัด โดย บลจ.นครหลวงไทย จำกัด 1,484,900 0.57 14 นายสมาน สิทธิชัยวิเศษ 1,415,000 0.54
โดย
TB
อาทิตย์ ก.ค. 16, 2006 12:39 am
0
0
ติดเครืองแล้วหรือ TSC เห็นหนังสือพิมพ์ลงวันนี้ post today
คุณ nanakorn ครับบริษัทยังสร้างโรงงานใหม่ยังไม่เสร็จครับ แต่บริษัทแจ้งให้ทราบถึงแผนงานว่าจะย้ายประมาณปลายปีนี้ไปที่ อมตะนคร ซึ่งจะได้ BOI ซึ่งน่าจะสะท้อนในผลการดำเนินการ ปี 50 ครับ
โดย
TB
ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 3:29 pm
0
0
ติดเครืองแล้วหรือ TSC เห็นหนังสือพิมพ์ลงวันนี้ post today
บริษัทจัดให้นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนเข้าเยี่ยมชมเมื่อต้นอาทิตย์ รวมช่วงเช้า และ บ่าย 2 กลุ่มตามลำดับประมาณ 40 ท่านครับ คงจะมี paper ทยอยออกมาปลายอาทิตย์นี้จนถึงอาทิตย์หน้าครับ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเคย cover ตัวนี้หรือไม่ ช่วงเข้าตลาดเห็นมีแค่ประมาณ 4-5 บริษัทออกบทวิเคราะห์ (ทั้งใน settrade และ thaiquest รวมทั้งจาก โบรคอื่น ) ส่วนใหญ่ถ้าตัวนี้ผมอ่านของ kimeng ละเอียดและไม่ over forecast และเขียน update สม่ำเสมอครับ
โดย
TB
ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 3:21 pm
0
0
ขอแรงเพื่อนๆเป็นกำลังใจให้หน่อยด้วยการลงชื่อ
ร่วมลงชื่อด้วยคนครับ
โดย
TB
อาทิตย์ พ.ค. 28, 2006 2:08 pm
0
0
กลับมาดูหุ้นในดวงใจ
ขอบคุณที่เข้ามาตอบครับ คุณ Jeng จะพยายามศึกษาหุ้นกลุ่มนี้จากคำแนะนำต่างๆ ในบอร์ด เพราะยังเชื่อว่าเศรษฐกิจประเทศในระยะกลางอุตสาหกรรมที่จะแข่งขันกับต่างประเทศได้อาจจะเป็นธุรกิจประเภทนี้อีกทั้งใกล้ทำเลรถไฟฟ้า ถึงแม้ว่าจะมี supply เข้ามาในตลาดอีกมาใน 2 ปีข้างหน้า
โดย
TB
จันทร์ พ.ค. 08, 2006 2:44 am
0
0
กลับมาดูหุ้นในดวงใจ
บริษัทเพิ่งมีการเพิ่มทุนไปไม่นานที่ 2.6 หลังจากนั้นราคาวิ่งเป็นจรวด (ถึงแม้ว่าจะมาทั้งหมวด) แต่ก็น่าแปลกใจที่ราคาขึ้นมาจาก 1.5 เมือสิงหาคมปีที่ผ่านมา จนมาราคาล่าสุด 4.38 ใช้เวลาแค่ 8 เดือน คนที่ใส่เงินเพิ่มทุนมาที่ราคานี้คงเป็นนักลงทุนระยะยาวมาก ไม่รู้มีสมมติฐานอะไรที่เรามองข้ามไปบ้างครับ หวังว่าพี่ๆ ยังคงมีหุ้นตัวนี้อยู่นะครับ ผมลงทุนตั้งแต่ราคาจองแล้วซื้อเพิ่มหลายครั้งจนท้อ คิดจะ cut หลายครั้งแต่อยากรอจนกว่า โรงแรม four point ที่หัวหินและ The Crown ที่สุขุมวิทเปิดปีนี้ แต่ปัจจุบันจากราคาเฉลี่ยใน port ช่วงนั้นขาดทุนมากกว่า 40 % จนเป็นกำไรขายออกที่ราคา 3 - 3.3 บาทครึ่งหนึ่งของ Port เพื่อทำกำไร ที่เหลืออยากทำตามความตั้งใจที่มีไว้ ถึงตัวนี้จะมีกำไรค่อนข้างมากแต่ port โดยรวมยังติดตัวแดง :( ฝากขอคำแนะนำจากพี่ๆ โดยเฉพาะ คุณ Jeng ที่ตามตัวนี้มานานและ คุณม้าเฉียว ที่เป็น Guru ท่านหนึ่งทางด้านโรงแรม ไม่ทราบว่าคุณม้าเฉียวมีบทความลงในหนังสือหรือเขียน pocket book ออกมาบ้างหรือยังครับ
โดย
TB
อาทิตย์ พ.ค. 07, 2006 2:25 pm
0
0
กลับมาดูหุ้นในดวงใจ
F 53-4) แบบรายงานการเพิ่มทุน บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) วันที่ 4 พฤษภาคม 2549 ข้าพเจ้าบริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)("บริษัทฯ") ขอรายงานมติคณะ กรรมการครั้งที่ 3/2549 เมื่อ 4 พฤษภาคม 2549 ระหว่างเวลา 13.00 น. ถึง 14.00 น.เกี่ยวกับการ เพิ่มทุน / จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังต่อไปนี้ 1.การเพิ่มทุน ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จาก 1,001,200,000 บาทเป็น 1,251,200,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 250,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท 2.การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้จัดสรรหุ้นสามัญ จำนวน 250,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 2.1 รายละเอียดการจัดสรร จัดสรรให้แก่ จำนวนหุ้น อัตราส่วน ราคาขาย วัน เวลา หมายเหตุ (เดิม:ใหม่) ต่อหุ้น (บาท) จองซื้อ และชำระ เงินค่าหุ้น บุคคลในวงจำกัด 250,000,000 - ราคาเสนอขาย ให้คณะกรรม ราคาตลาดคำนวณ (ผู้ลงทุนโดย หุ้นละ4.85บาท การบริษัทฯ จากราคาปิดถัว เฉพาะเจาะจง) ซึ่งเป็นราคาที่ พิจารณา เฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก และ/หรือ สูงกว่าราคา กำหนดใน ของหุ้นของบริษัทฯ นักลงทุนประเภท ตลาด ภายหลัง ย้อนหลัง 15 วัน สถาบัน และ/ ทำการติดต่อกัน หรือนักลงทุน ก่อนวันที่มีมติคณะ ที่มีลักษณะเฉพาะ กรรมการตั้งแต่ ตามประกาศ วันที่ 7 เม.ย. ก.ล.ต. 2549 ถึงวันที่ 3 พ.ค.2549 ซึ่งเท่ากับราคา หุ้นละ 4 บาท 3.กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน กำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ/วิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2549 ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 เวลา 14.30 น. ณ ห้องบอลลูม เอ ชั้น 7 โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท โดยกำหนดวันปิด สมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นของบริษัทฯ เพื่อสิทธิในการเข้า ร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2549 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จ 4.วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ 5.ประโยชน์ที่บริษัทฯ จะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสร้างรายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ 6.ตารางระยะเวลาการดำเนินการในกรณีที่คณะกรรมการมีมติให้เพิ่มทุน / จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน รายการดำเนินการ วันที่ดำเนินการ - ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2549 4 พฤษภาคม 2549 - ส่งแบบรายงานการเพิ่มทุนพร้อมแจ้งมติการ ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2549 4 พฤษภาคม 2549 - กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1 / 2549 19 พฤษภาคม 2549 - ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 / 2549 31 พฤษภาคม 2549 - จดทะเบียนเพิ่มทุนจดทะเบียนตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ภายใน 14 วันนับจากวันที่ที่ กับนายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดกระทรวงพาณิชย์ ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติอนุมัติ บริษัทฯ ขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ ลายมือชื่อ................................กรรมการผู้มีอำนาจ ลงลายมือชื่อแทนบริษัทฯ (พงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์) ตำแหน่ง ประธานกรรมการ ลายมือชื่อ................................กรรมการผู้มีอำนาจ ลงลายมือชื่อแทนบริษัทฯ (อมรินทร์ นฤหล้า) ตำแหน่ง กรรมการ
โดย
TB
อาทิตย์ พ.ค. 07, 2006 1:50 pm
0
0
กลับมาดูหุ้นในดวงใจ
ขอแก้ตัวมา Post ในกระทู้ที่ถูกต้องนะครับ วันที่ 4 พฤษภาคม 2549 เรื่อง ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2549 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ได้จัดประชุมคณะกรรมการ บริษัทฯ ครั้งที่ 3/2549 วันที่ 4 พฤษภาคม 2549 นั้น บริษัทฯขอแจ้งสรุปมติที่สำคัญของการประชุมดังกล่าว ดังนี้ 1. คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2549 เมื่อ วันที่ 21 มีนาคม 2549 2. คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัท ข้อ 19 และข้อ 34 โดย เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติต่อไป 3. คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติแต่งตั้งกรรมการบริษัทฯเพิ่มเติมอีก 4 ท่านคือ (1) Mr.Keith Greengrove (2) นายผดุงพันธ์ จันทโร (3) นายพิเชษฐ์ มหันต์สุคนธ์ และ (4) นางมณฑิรา นฤหล้า ทั้งนี้ให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาต่อไป 4. คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 1,001,200,000 บาท เป็น 1,251,200,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท 5. คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เพื่อให้ สอดคล้องกับการเพิ่มทุนของบริษัท 6. คณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้บริษัทฯจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250,000,000 หุ้น แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง โดยเสนอขายในราคาหุ้นละ 4.85 บาทซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาตลาด(โดยเป็นราคาเสนอขายที่สูงกว่าราคาตลาด ซึ่งคำนวนราคาโดยใช้ราคาปิดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยย้อน หลัง 15 วันทำการติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2549 ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2549 ก่อนวันที่คณะกรรมการของบริษัทมีมติเพื่อกำหนดราคาเสนอขายหุ้นและให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติ การเพิ่มทุน ซึ่งราคาตลาดจากการคำนวณดังกล่าวเท่ากับราคาหุ้นละ 4 บาท) ทั้งนี้ มอบหมายให้คณะกรรมการหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการมีอำนาจในการกำหนดและ/ หรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว และให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป 7. คณะกรรมการบริษัทฯมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้บริษัทฯออกหุ้นกู้แปลงสภาพวงเงินไม่เกิน 1,250 ล้านบาทหรือ เทียบเท่า อายุของหุ้นกู้ไม่เกิน 5 ปี โดยจะออกต่อเมื่อบริษัทฯไม่สามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250 ล้านหุ้น แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจงตามที่อนุมัติไว้ในวาระที่ 6 หรือเสนอขายแล้วแต่มีการจองซื้อหุ้น ไม่ครบตามจำนวน โดยนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือไปจัดสรร เพื่อรองรับการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ทั้งนี้ มอบหมายให้คณะกรรมการหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการมีอำนาจในการกำหนด และ/หรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าว และให้นำเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป 8. คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2549ในวันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2549 เวลา 14.30 น. ณ ห้องบอลล์รูม เอ ชั้น 7 โรงแรมเวสทิน แกรนด์สุขุมวิท และ กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นของบริษัทฯ ในวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2549 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ เพื่อใช้สิทธิในการเข้าร่วมประชุมและออกเสียงสำหรับการประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2549 โดยมีวาระการประชุมดังต่อไปนี้ วาระที่ 1 พิจารณาและรับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปีผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2549 วาระที่ 2 พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัท ข้อ 19 และ ข้อ 34 วาระที่ 3 พิจารณาแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติม วาระที่ 4 พิจารณาการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท วาระที่ 5 พิจารณาแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4 เรื่องทุนจดทะเบียน วาระที่ 6 พิจารณาการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จากการเพิ่มทุนจดทะเบียน วาระที่ 7 พิจารณาการออกหุ้นกู้แปลงสภาพวงเงินไม่เกิน 1,250 ล้านบาทหรือเทียบเท่า วาระที่ 8 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี) จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์) ประธานกรรมการ
โดย
TB
อาทิตย์ พ.ค. 07, 2006 1:50 pm
0
0
มันกลับมาสูบเงินอีกแล้ว เดอะ โคโค่
Glow Energy signs Baht 2 billion loan agreement with Mizuho Bank and Yen 8.1 billion syndicated loan agreement with Calyon February 21, 2005 (Bangkok): Glow Energy Plc (Glow Energy), the Thai company of Tractebel Electricity & Gas International (Tractebel EGI), announced today that it had signed a Baht 2 billion facility agreement with Mizuho Bank and a Yen 8.1 billion (approximately Baht 3 billion) syndicated facility agreement with Calyon. Glow Energy Plcs CEO Peter Termote said in a statement that the Baht 2 billion loan is a fixed interest rate loan with a bullet repayment in December 2006 and that the Yen 8.1 billion loan is a floating interest rate syndicated loan with a bullet repayment in December 2011. Glow Energy will also enter into a currency and interest rate swap agreement with Calyon to swap Yen into Baht. Mr. Termote also added that Glow Energy had, in December 2004, completed the purchase of Glow Co Ltd. from its parent company. This transaction was effected in order to rationalize the Glow Groups legal holding structure and, with its completion, Glow Energy has become the flagship of the Tractebel EGI power generating assets in Thailand. Following this transaction, Tractebel EGI remains Glow Energys major shareholder. After purchasing Glow Co. Ltd, Glow Energy changed its name from Glow SPP Plc. to Glow Energy Plc. to reflect its new business structure. This structure now includes power producers and utility providers which generate and supply electricity to the Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT) under Thailands SPP (Small Power Producer) and IPP (Independent Power Producer) programmes, as well as electricity, steam, processed water and other related products and services to large industrial customers principally located in the Map Ta Phut area. Tractebel EGI is a business unit of the SUEZ group, one of the largest international industrial and services groups in the world For more information about Glow Group please go to www.glow.co.th. จาก http://www.egi.tractebel.com ครับ
โดย
TB
จันทร์ มี.ค. 14, 2005 1:08 am
0
0
ซื้อหุ้นเบียร์ ส่งเสริมอบายมุขหรือไม่
แล้วถ้า Loxley หรือบริษัทอื่นประมูลหวย online ได้ จะทำให้ถูกแบนจากเพื่อนบางคนในboardนี้หรือเปล่าครับ
โดย
TB
พฤหัสฯ. ก.พ. 17, 2005 5:56 pm
0
0
ไม่ได้เชียร์นะ "แมกกาซีนไทยขาขึ้น ปี48 โตกว่า 4,000 ล้า
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล ไม่ทราบคุณคัดท้ายสนใจหุ้นหมวดนี้อยู่หรือครับระหว่าง G3M กับ NMG สำหรับ nation เคยล้มเหลวกับ"ลลนา" มาก่อน เลยทำให้ครั้งนี้ร่วมลงทุน แต่เตรียมงบลิขสิทธิ์และการตลาดไว้ค่อนข้างมาก (ไม่รู้ว่าจะเปิดตัวได้ระเบิดเหมือนกับคมชัดลึกหรือเปล่า) กังวลว่าจะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเหมือนตอนทำธุรกิจ dot com หลายสิบล้านกับ thailand.com และธุรกิจอื่นๆที่ต้องตัดเป็นหนี้เสีย ส่วน G3M ข้อมูล pubishing ไม่ค่อยได้ตามครับไม่ทราบว่าธุรกิจจากแกรมมี่ต้นอ้อเป็นอย่างไรบ้าง รบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลายครับ เห็นDr T เคยโพสต์ว่าธุรกิจหนังสือเป็นธุรกิจที่ยากผมขอทราบเหตุผลด้วยครับ (เห็นตอบในกระทู้ธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยหรือธุรกิจที่อยากเป็นเจ้าของนี่หละครับ ขอบคุณ
โดย
TB
พุธ ก.พ. 02, 2005 12:26 am
0
0
เพื่อนๆคิดว่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทไหนมีความเสี่ยง
และพึ่งได้ฟังการลงทุนที่ประเทศจีนมีการลงทุนpackaging เป็นกระดาษแข็งไม่ใช่โฟมหรือพลาสติก หลังจากศึกษาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว แนวโน้มส่วนใหญ่มองวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วิสัยทัศน์ดีครับมองข้ามชอต แล้วรู้สึกว่าจะชวนมาร่วมลงทุนที่ไทยก่อนแล้วค่อยร่วมที่จีน มีการทดสอบไม่ผลีผลาม ชอบครับแต่ไม่มีสภาพคล่อง ตอบ คุณปรัชญา ครับ สำนักทรัพย์สินฯ ก็ไม่แน่เสมอไปครับ เคยคิดแบบนี้สมัยเงินทุนธนสยาม DS หรือ SAMCO สัมมากร เข้ามาตอบกระทู้แรกขอคำแนะนำและสวัสดีทุกคนครับ
โดย
TB
ศุกร์ ม.ค. 28, 2005 6:21 pm
0
0
เพื่อนๆคิดว่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทไหนมีความเสี่ยง
เป็นคำถามที่ตอบได้ยากมากครับกว่าจะให้หุ้นที่มาเทียบกับ ปูนใหญ่ ในความคิดส่วนตัวอย่างเดียวนะครับน่าจะเป็น TF : ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ เพราะว่า เป้าหมายลูกค้าทุกระดับ brand ที่แข็งแกร่ง (ถึงแม้ส่วนแบ่งตลาดอาจจะลดลงบ้างช่วงหลัง) เป็นสินค้าบริโภคไม่ใช้อุปโภค ฉะนั้นถ้าเศรษฐกิจทั่วโลกชลอตัว อาจจะส่งออกไม่ได้หรือ ถ้าโรงงานเสียหายน่าจะหาเครื่องจักรชดเชยได้ง่ายกว่า เครื่องสำหรับการแปรรูปปูน กระดาษ หรือเคมีนะครับ สังเกตจาก tsunami or the day after tomorrow บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น่าจะขายดี
โดย
TB
ศุกร์ ม.ค. 28, 2005 6:08 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
TB
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
ศุกร์ ม.ค. 14, 2005 10:40 pm
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
99 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว