Re: พูดคุยแลกเปลี่ยนการยื่นภาษี ปีภาษี 2559 ขอเล่าประสบการณ์ การขอเงินคืนภาษี ผ่านระบบพร้อมเพย์ https://pantip.com/topic/35993203 โดย c อังคาร ม.ค. 10, 2017 1:19 pm

Re: พูดคุยแลกเปลี่ยนการยื่นภาษี ปีภาษี 2559 เร็วจัง ในกระทู้นี้ได้รับอนุมัติเงินคืนภาษีแล้ว https://pantip.com/topic/35973007 โดย c อังคาร ม.ค. 03, 2017 6:32 pm

Re: นาทีทอง มีตัวไหนลงมาจากจุดสูงสุดเยอะๆมั่งครับ ดูจากมูลค่าหุ้นดีกว่าครับ หามูลค่าหุ้นแล้วดูว่าต่างจากราคาตลาดมากน้อยแค่ไหน ตัวที่ลงมากๆอาจจะเป็นหุ้นที่แพงอยู่ก็เป็นได้ โดย c จันทร์ ส.ค. 24, 2015 12:27 pm

Re: นาทีทอง 12.02น. -49.70จุด 1,315.91 จากต้นปี1497.67 SETลบไปแล้ว12% โดย c จันทร์ ส.ค. 24, 2015 12:03 pm

Re: จากเฟส คุณกวี ชูกิจเกษม กสิกรครับ https://we45.settrade.com/brokerpage/011/StaticPage/StockScreen.xls โดย c จันทร์ มิ.ย. 29, 2015 9:29 pm

Re: สถานการณ์วิกฤติการเงินกรีซ กรีซเครียดหนัก! สั่งปิดธนาคารทั่วประเทศ ถอนเงินจากตู้ATMได้แค่วันละ 60 ยูโร (ชมคลิป) วิกฤติการเงินกรีซเครียดหนัก...นายกฯ อเล็กซิส ซีปราส จำต้องออกมาประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน พร้อมกับกำหนดให้ประชาชนสามารถถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้แค่เพียงวันละ 60 ยูโรเท่านั้น ขณะที่ธนาคารทั่วประเทศปิดทำการนานเป็นสัปดาห์ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าวิกฤติการเงินในประเทศกรีซที่กำลังตึงเครียดอย่างหนัก หลังธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) ประกาศไม่ขออัดฉีดเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเข้าสู่ระบบการธนาคารของกรีซอีกต่อไปว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 58 ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส แห่งกรีซได้มีแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศ ประกาศธนาคารกลางกรีซได้ออกมาตรการควบคุมเงินทุนในประเทศ และกำหนดให้ประชาชนสามารถถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้แค่เพียงวันละ 60 ยูโร (2,264 บาท) ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (อังคารที่ 30 มิ.ย.) ขณะที่ธนาคารทั่วประเทศกรีซปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์นี้ (29 มิ.ย.) เป็นเวลาถึง 1 สัปดาห์เต็ม จนถึงวันที่ 7 ก.ค. เพื่อป้องกันผู้คนเกิดความตื่นตระหนกแห่ถอนเงินจนธนาคารล้ม ข่าวแจ้งว่า นอกจากจะมีการปิดธนาคารทั่วประเทศกรีซแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศกรีซก็ปิดทำการในวันจันทร์นี้เช่นกัน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีซีปราส ซึ่งมีสีหน้าอิดโรยมากจนเหมือนกับ ‘ซอมบี้’ ระหว่างออกแถลงการณ์ทางทีวี ยังได้เรียกร้องให้ชาวกรีซอยู่ในความสงบขณะกำลังเผชิญกับช่วงเวลายากลำบาก แต่ชาวกรีซจะสามารถเอาชนะวิกฤติครั้งนี้ได้ในเร็ววัน พร้อมกันนั้นนายกรัฐมนตรีกรีซยังให้คำมั่นสัญญาเงินฝากในธนาคารของประชาชนยังคงปลอดภัยและจะมีการจ่ายเงินเดือนตามปกติ ทั้งนี้ นับตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินในกรีซเข้าสู่ภาวะตึงเครียด เนื่องจากรัฐบาลกรีซยืนกรานไม่รับแผนมาตรการควบคุมทางการเงินของ ‘เจ้าหนี้’ คือ สหภาพยุโรป(อียู), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จนทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อนำมาคลี่คลายวิกฤตการเงิน โดยรัฐบาลกรีซเลือกจะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินผ่านการลงประชามติว่าจะรับแผนมาตรการควบคุมการเงินของกลุ่มเจ้าหนี้หรือไม่ในวันที่ 5 ก.ค.ในขณะที่ กรีซมีกำหนดเวลาจะต้องชำระหนี้ 1,600 ล้านยูโร หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท ให้แก่ไอเอ็มเอฟในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ มิเช่นนั้น เสี่ยงที่จะโดนขับพ้นจากกลุ่มยูโร จนเป็นเหตุให้วิกฤติการเงินในกรีซตึงเครียดหนักกว่าเดิม และทำให้มีประชาชนจำนวนมากแห่ไปถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มจนเงินเกลี้ยงตู้. http://www.thairath.co.th/content/508210 โดย c จันทร์ มิ.ย. 29, 2015 6:49 pm

Re: คิดยังไงกับ SET ที่ P/E 19 เท่า อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร บรรยากาศของตลาดหุ้นในช่วงนี้ ถ้าจะให้ผมบรรยายด้วยคำเพียง 3 คำ ผมคิดว่าคำที่เหมาะสมที่สุดก็คือ “อึ้ง-ทึ่ง-เสียว” เพราะเหตุการณ์ เรื่องราว และสถานะของหุ้นจำนวนไม่น้อยทำให้ผมเกิดความรู้สึกวนเวียนอยู่ในสามอาการดังกล่าวนั่นก็คือ “อึ้ง” เพราะเรื่องราวที่ปรากฏเป็นข่าวหรือบริษัทมีการกระทำหรือได้ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกว่ามันท้าทายจริยธรรมและความเชื่อปกติของสังคมนักลงทุนมากจนทำให้เรา “พูดไม่ออก” หรือ “ไม่กล้าพูด” หรือ “ไม่อยากพูด” ผม “ทึ่ง” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นหลายอย่างนั้น มัน “แหกกฎเกณฑ์” หรือทฤษฎี หรือมันเกินไปจาก “ประสบการณ์”หรือ “ภาวะปกติ” ที่ผมคุ้นเคยไปมาก และสุดท้าย มัน “เสียว” เพราะหลาย ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นหรือเป็นข่าวนั้น ดูเหมือนว่ามันน่ากลัวหรือดูมีความเสี่ยงสูง แต่คนก็เข้าไปทำกันอย่าง “บ้าคลั่ง” ราวกับว่ามันมีแต่ได้กับได้ในขณะที่ผมดูแล้วมันมีอันตรายสูงและตัวเอง “เสียว” จนต้องพยายามลดความเสี่ยงลง ที่จริงผมเคยเจอสถานการณ์แบบ อึ้ง-ทึ่ง-เสียว มาแล้วในช่วงที่ตลาดหุ้นบูมสุด ๆ ในช่วงประมาณปี 2536 ถึง 2538 อาการหลาย ๆ อย่างในตลาดหุ้นในช่วงนั้นก็คล้าย ๆ กับในช่วงนี้ ความแตกต่างดูเหมือนว่าจะเป็น “รายละเอียด” ของเหตุการณ์และความรุนแรงของแต่ละเรื่อง นอกจากนั้น ความแตกต่างอีกข้อหนึ่งที่สำคัญก็คือ ในช่วงนั้น เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตเร็วมากระดับ 7%-10% ต่อปี จนทุกคนคิดว่าเรากำลังเป็น “เสือ” ทางเศรษฐกิจของเอเชีย ในขณะที่ปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยกำลัง “มีปัญหา” และน่าจะเติบโต “รั้งท้าย” ในเอเชีย อย่างไรก็ตาม คนต่างก็คิดว่าเราน่าจะกำลัง “ฟื้นตัว” ในขณะที่ช่วงปี 2536-2538 นั้น เราโตอย่าง “ไร้คุณภาพ” เป็น “ฟองสบู่” ทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร อาการในตลาดหุ้นนั้น คล้ายคลึงกัน สิ่งที่ยังไม่รู้ก็คือ มันจะจบเหมือนกันหรือไม่? เรื่องที่ทำให้ “อึ้ง” นั้น ค่อย ๆ ทยอยออกมาเป็นระยะ หลาย ๆ เรื่องก็จะเกี่ยวข้องกับคน “นอก” ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับหุ้นและตลาดหุ้นในทางใดทางหนึ่งหรือนักลงทุนโดยเฉพาะที่เป็นรายใหญ่ในตลาดหุ้น ในอดีตนั้น เราก็จะพบเหตุการณ์เช่นว่าคนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูงในวงราชการที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับตลาดเงินตลาดทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นที่มีแผนจะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือมีนักการเมืองบางคนมาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นบางตัวอะไรทำนองนี้แต่ก็ไม่มีใครจะพูดอะไรเพราะมันเป็น “สิทธิ” อันชอบธรรมของทุกคนตราบที่เขาไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือกฎเกณฑ์อะไรของตลาด ประเด็นที่ทำให้คน “อึ้ง” นั้น อยู่ที่ว่า “ดีล” หรือเงื่อนไขที่ได้มานั้น บางทีมันก็ “ดีเกินไป” และคนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องเป็นอย่างนั้น ใครได้ประโยชน์และใครเสียประโยชน์ และถ้าเป็นคนอื่นเขาจะได้เงื่อนไขแบบนั้นหรือไม่ ประเด็นที่สำคัญยังอยู่ที่ว่าไม่มีใครหรือหน่วยงานไหนที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือขัดขวางการดำเนินการอะไรอย่างจริงจัง ว่าที่จริงพวกเขาก็อาจจะทำอะไรไม่ได้จริง ๆ และเขาก็อาจจะไม่อยากทำเพราะเหตุผลสารพัดที่ไม่อยากจะพูด นั่นก็คือ พวกเขาก็ “อึ้ง” เหมือนกัน ในช่วงปัจจุบันนั้น ผมเองก็คิดว่ามันมีหลายเรื่องที่ผมรู้สึกว่ามัน “แปลก” และมีความไม่ชอบมาพากล แต่ในเมื่อมัน “ไม่ผิดกฎเกณฑ์อะไร” ผมก็ได้แต่เก็บความคิดและความรู้สึกเอาไว้ และนี่ก็คือความหมายของคำว่า “อึ้ง” เรื่องน่า “ทึ่ง” ที่ผมเห็นนั้นมีมากมาย ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเรื่องที่ “ไม่น่าเป็นไปได้” โดยสามัญสำนึกหรือโดยประสบการณ์ “ปกติ” นี่เป็นสิ่งที่มักปรากฏขึ้นในยามที่ตลาด “ไม่ปกติ” โดยเฉพาะในยามที่ตลาดบูมมาก ๆ เป็น “ฟองสบู่” ในอดีตนั้น สิ่งที่เห็นชัดเจนและเป็นเรื่องน่าทึ่งก็คือราคาหุ้นขนาดเล็กโดยเฉพาะที่เป็นหุ้น IPO นั้น มีราคาที่สูงมากเกินกว่าผลประกอบการที่ทำได้ไปมากจนไม่น่าเชื่อ และราคาที่ปรับขึ้นมานั้น ส่วนมากก็ปรับขึ้นตั้งแต่วันแรก ๆ ของการเข้ามาซื้อขายในตลาด ในช่วงเร็ว ๆ นี้หุ้น IPO มีความน่าทึ่งยิ่งกว่าในช่วงปี 2536-2538 เพราะหลายตัวปรับขึ้นถึง 200% ในวันแรกนอกจากนั้น หุ้นตัวเล็กที่มีเรื่องราวน่าสนใจก็มีราคาสูงมากจนไม่น่าเชื่อ ค่า PE เฉลี่ยของหุ้น MAI ที่เป็นหุ้นตัวเล็กนั้น สูงถึง 60-70 เท่า และที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ปริมาณการซื้อขายของหุ้นตัวเล็กที่มีมูลค่าตลาดเพียงหลักพันล้านบาทนั้น บ่อยครั้ง สูงกว่าหุ้นตัวใหญ่ระดับแสนล้านบาท นอกจากเรื่องของราคาและปริมาณการซื้อขายของหุ้นขนาดเล็กที่ “กลบรัศมี” หุ้นตัวใหญ่แล้ว ความน่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ ในช่วงที่ตลาดหุ้นบูมหนักนั้น เราก็มักจะพบความน่าทึ่งอีกเรื่องหนึ่งก็คือ มักจะมีรายการ “หนูกินช้าง” หรือ “ปลาเล็กกินปลาใหญ่” ในอดีตนั้น เราเห็นบริษัทเงินทุนเอกธนกิจพยายามเทคโอเวอร์ธนาคารไทยทนุที่เป็นธนาคารที่ใหญ่กว่ามาก แม้แต่ในต่างประเทศอย่างในตลาดสหรัฐเองนั้น เวลาที่ตลาดหุ้นบูมหนักในบางครั้งเราก็จะเห็นความน่าทึ่งแบบนี้ที่ปลาเล็กหรือหุ้นบริษัทเล็กที่ “ร้อนแรง” เทคโอเวอร์บริษัทใหญ่หรือกินปลาใหญ่ที่อ่อนแอ ในช่วงเร็ว ๆ นี้เราก็เริ่มได้ยินข่าวแบบนี้บ้างแล้วในตลาดหุ้นไทย เรื่องน่าทึ่งอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การเป็นเศรษฐี “ช่วงข้ามคืน” ของคนหลาย ๆ คนโดยเฉพาะที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นครั้งแรกหรือในหุ้นเล็กที่ “มีการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งทำให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นไป “มโหฬาร” ภายในระยะเวลาอันสั้น ความร่ำรวยของคนหลายคนในช่วงเวลาอันสั้นนั้นผมคิดว่าเป็นเรื่องน่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการที่ถ้าเขาไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาด เหตุผลก็เพราะว่า หลายบริษัทนั้น ไม่ได้มีกำไรอะไรมากมายนักและมีขนาดเล็ก ถ้าอยู่นอกตลาดก็อาจจะเป็นแค่บริษัทขนาดเล็กธรรมดา ๆ ที่เจ้าของไม่สามารถที่จะเป็นมหาเศรษฐีได้อย่างแน่นอน ความ “เสียว” นั้น น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเป็นส่วนตัวมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของสังคมนักลงทุนไทย เหตุเพราะว่านักลงทุนส่วนใหญ่ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเช่น นักวิเคราะห์ โบรกเกอร์ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต่างก็ยังมองว่าตลาดหุ้นไทยและหุ้นส่วนใหญ่นั้น ยังแข็งแรงดีอยู่ ราคาหุ้นโดยส่วนรวมก็ยังไม่แพงเทียบกับเพื่อนบ้านแม้ว่าบางคนจะดูว่าหุ้นตัวเล็กมีราคาสูงเกินไปเป็น “ฟองสบู่” แต่ถ้ามีปัญหาก็คงไม่กระทบกับหุ้นทั้งตลาด เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ สภาพของเศรษฐกิจ การเงิน สังคม การเมืองและตลาดหุ้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรน่าวิตก ค่า PE ตลาดหุ้นไทยที่สูงถึง 19 เท่าและพอ ๆ กับจุดสูงสุดในช่วงวิกฤติตลาดหุ้นรอบที่แล้วก็อาจจะไม่ได้แปลว่าหุ้นไทยมีราคาแพง เหตุผลก็เพราะอัตราดอกเบี้ยในช่วงนั้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ที่ต่ำติดดิน ดังนั้น PE 19 เท่าจึงไม่ถือว่าแพง แต่ถ้ายังคิดว่าแพงก็มีเหตุผลว่าคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนในเวลานี้ก็สูงกว่าในอดีต ดังนั้น สรุปว่าตลาดหุ้นไทยไม่น่ากลัว สิ่งที่ผมกังวลนั้น เกิดจากเหตุการณ์และสถานการณ์หลาย ๆ เรื่องที่โอกาสจะเกิดขึ้นอาจจะไม่สูงแต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วก็มี “ศักยภาพ” ที่จะทำให้เกิดอาการช็อกได้กับตลาดหุ้น ตัวอย่างเช่นเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ถ้ายังแย่อยู่แบบปีนี้ ผลก็อาจจะรุนแรงได้เพราะมันอาจจะเปลี่ยน “ความเชื่อ” ของนักลงทุนว่าหุ้นจะดี เช่นเดียวกับด้านของการเมือง ถ้าทุกอย่างไม่ได้ “ลงตัว” ปัญหาก็อาจจะรุนแรงได้ ประเด็นสำคัญก็คือ ทุกครั้งที่หุ้นปรับตัวขึ้นมามากและดัชนีหุ้นขึ้นไปเร็วและสูงกว่ามาตรฐานระยะยาวแล้ว โอกาสที่มันจะปรับตัวลงแรงก็มักจะมีสูงขึ้นเมื่อตลาดหุ้นประสบปัญหา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ประกอบกับสัญญาณของความ “อึ้ง” และ “ทึ่ง” ดังที่กล่าว ผมจึงรู้สึก “เสียว” จนบอกไม่ถูก http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=58408 โดย c จันทร์ ธ.ค. 08, 2014 3:09 pm

Re: มุมมองการลงทุนของผมครับ (ลูกหิน) ผมอ่านแล้ว คุณลูกหินไม่ใช่น้องใหม่ในวงการvi เลย คุณลูกหินนี่มุมมองขั้นเทพชัดๆ โดย c จันทร์ ส.ค. 18, 2014 3:11 pm

Re: งาน SET in the City คน Thai VI ก็ไปเป็นวิทยากรหลายท่านเห ขอบคุณมากครับ โดย c พฤหัสฯ. พ.ย. 15, 2012 3:03 pm

Re: มือใหม่ครับ ช่วยแชร์ประสบการณ์ทำยังไง ให้พอร์ตโต ผมเริ่มจากเงิน 1 แสน แต่จะเติมเงินทุกเดือน ... เป้าหมาย แค่อยากมีปันผลพอใช้จ่าย( คาดว่าปีละ 200,000-300,000 คงพอครับ ) ก่อนอายุ 40 ปี( อีก 10 ปี ) โดยไม่ต้องทำงานประจำครับ ... แต่เงิน 1 แสน ดูจะยากเย็นเหลือเกินครับ รบกวนมาช่วยแชร์ประสบการณ์ แนวทาง เพื่อเป็นอีกหนึ่งไอเดียในการลงทุนครับ ขอบคุณครับ คุณ specialonez ตั้งใจว่าจะเติมเงินเดือนละเท่าไรหรอครับ :D ออมเงินเพื่อมาลงทุนเยอะๆ และลงทุนได้ผลตอบแทนดีต่อเนื่อง พลังผลตอบแทนทบต้นจะช่วยคุณ specialonez เอง :wink: เงินเดือนผมไม่เยอะเท่าไหร่ครับ คิดว่าจะหาหุ้นตัวที่ราคาไม่เกิน 10 บาท ตอนนี้กำลังหาอยู่ครับ :) ทำไมถึงต้องหาหุ้นตัวที่ราคาไม่เกิน 10 บาท ??? โดย c จันทร์ ก.ย. 24, 2012 11:35 pm

Re: เส้นทางนักเล่นหุ้น วัยรุ่นเงินล้าน อยากให้มา comment มากกว่ามาโหวตลบเฉยๆ มือใหม่ได้รู้ว่าไม่ควรทำตาม โดย c จันทร์ มี.ค. 05, 2012 2:41 pm

Re: พฤหัสนี้ พบวีไอportใหญ่ นพ.พงษ์ศักดิ์ ใน moneytalk เพิ่มลิงค์สำรองครับ http://www.mediafire.com/?ibbet5qsqy8dtkw หรือ http://www.megaupload.com/?d=MB1O3CVS โดย c เสาร์ ธ.ค. 04, 2010 11:30 am

Re: พฤหัสนี้ พบวีไอportใหญ่ นพ.พงษ์ศักดิ์ ใน moneytalk ขอบคุณมากครับ คุณRookieVI โดย c ศุกร์ ธ.ค. 03, 2010 6:41 pm

Re: กำไรปีละ 20% ก็ดีมากแล้ว (สืบเนื่องจากกระทู้ 5 เด้ง) ขอบคุณครับที่ให้พล่ามมาตั้งนาน ถ้า ทางทีมงานคิดว่ารก ก็รบกวนลบทิ้งด้วยครับ ขอบคุณครับ +100 ผมไม่ใช่ทีมงาน ไม่รกครับ มีประโยชน์มากๆครับ โดย c อังคาร พ.ย. 30, 2010 10:35 pm

Re: เจิมเว็ปใหม่ http://upload.tarad.com/images2/21/47/214714215f73a25ba7cfa6ec8f91c59d.png โดย c จันทร์ พ.ย. 29, 2010 8:48 pm

Re: เจิมเว็ปใหม่ ท่าน admin ผม Search TOP ยังไม่เจอเหมือนเดิมอ่ะครับ แง่ๆๆๆ T_T " ผมหาเจอครับ Search แล้วอยู่หน้า2ครับ โดย c จันทร์ พ.ย. 29, 2010 8:38 pm

Re: เจิมเว็ปใหม่ ผม Search หา TOP ไม่เจออะครับ ท่าน Admin ช่วยด้วยนะ ไปหาใน List แล้วลายตามากๆๆๆ ครับ http://board.thaivi.org/search.php?st=0&sk=t&sd=d&sr=topics&keywords=top&fid%5B%5D=4&start=50 โดย c พฤหัสฯ. พ.ย. 25, 2010 10:34 am

ออกมาแล้วครับ ระงับการประมูล 3 G (6) วกกลับมาที่มาตรฐาน 4G ที่ยังไม่สรุปออกมา คาดกันว่าจะ finalized ได้ในปีหน้า (ตอนนี้4Gยังไม่มีในโลก ที่ใช้ LTE-WiMAX กันมัน 3.9Gทั้งนั้น) about 7 hours ago via TweetDeck . (5) และหลังจากเริ่มมี 4G ใช้ ก็นับระยะเวลาไปอีก 10 ปี ก็คงจะมี 5G ใช้ในราวปี 2020 ล่ะ... ส่วนตอนนี้โปรเจค 5G ยังเป็นแค่ Research Paper อยู่ about 7 hours ago via TweetDeck . (4) ซึ่งโปรเจค R&D ของ 4G ถูกเริ่มมาเมื่อราวๆปี 2001-2002 ซึ่งจะครบช่วงระยะเวลา 10 ปีภายใน 1-2 ปีนี้ก็จะได้ใช้กัน about 7 hours ago via TweetDeck . (3) จะเห็นว่ามีการใช้เวลาในพัฒนามาตรฐานของ 2G (GSM) และ 3G (IMT-2000/UMTS) จะกินระยะเวลาที่ประมาณ 10 ปีหลังจากที่เริ่มโปรเจค R&D about 7 hours ago via TweetDeck . (2) มือถือในยุคแรก 1G (NMT) นั้นถูกเปิดตัวในปี 1981... จากนั้น 2G (GSM) เริ่มต้นเมื่อปี 1992... จากนั้น 3G (W-CDMA/FOMA) ก็โผล่มาในปี 2001 about 7 hours ago via TweetDeck . (1) ที่เค้าวางเป้ากันว่า 5G จะมาปี 2020 มีมาจากการมองย้อนกลับไปในอดีต ซึ่งจะพบว่าแต่ละ Generation ของมือถือ ถูกเปิดใช้งานในทุกๆ 10 ปี ที่มา http://twitter.com/ninetak โดย c พฤหัสฯ. ก.ย. 23, 2010 7:51 pm

ออกมาแล้วครับ ระงับการประมูล 3 G (15) ผมคิดว่า กทช. พยายามออกกติกาในเรื่องการ Roaming ด้วยความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ประกอบกิจการ 3G รายใหม่และประชาชนผู้รับบริการครับ about 6 hours ago via TweetDeck . (14) การให้แยกบริการออกมาเป็น MVNO ก็เพื่อมิให้มีปัญหากับสัญญาสัมปทาน รวมถึงการใช้ฐานลูกค้าเดิมสร้างความได้เปรียบต่อผู้ประกอบกิจการรายใหม่ about 6 hours ago via TweetDeck . (13) ผู้ประกอบกิจการรายเดิม (2G) จะต้องดำเนินการในรูปแบบของผู้ประกอบกิจการที่ไม่มีโครงข่ายของตนเอง Mobile Virtual Networks Operator: MVNO about 6 hours ago via TweetDeck . (12) กรณีที่มีเหตุผลอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องความคลอบคลุมของโครงข่าย เช่น ต้องการให้บริการการสื่อสารที่ดีกว่าของเทคโนโลยี 3G กับลูกค้า about 6 hours ago via TweetDeck . (11) ผู้ประกอบกิจการ 2G ประกอบกิจการมานานนับสิบปีมีโครงข่ายคลอบคลุมอย่างเพียงพอจึงไม่มีเหตุที่จะ มา Roaming บนโครงข่ายที่สร้างขึ้นมาใหม่ about 6 hours ago via TweetDeck . (10) กทช. ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการ 2G Roaming บนโครงข่ายของผู้ประกอบกิจการรายใหม่ (3G) เนื่องจากไม่มีเหตุของความไม่คลอบคลุมของโครงข่าย about 6 hours ago via TweetDeck . (9) เจตนารมย์ในการกำหนดดังกล่าวของ กทช. กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการ 2G ต้องอนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการรายใหม่ (3G) Roaming ในช่วงการสร้างโครงข่าย about 6 hours ago via TweetDeck . (8) การกำหนดก็เพื่อแก้ปัญหาการครอบคลุมของโครงข่ายและประโยชน์ของผู้รับบริการ และเป็นข้อกำหนดที่เป็นสากลดำเนินการโดยทั่วไปในหลายประเทศ about 6 hours ago via TweetDeck . (7) ดั้งนั้นในระหว่างที่ 3G ขยายโครงข่ายและยังไม่คลอบคลุม จึงกำหนดให้ผู้ให้ประกอบกิจการ 2G อนุญาตให้ลูกค้าของ 3G Roaming บนโครงข่ายของตนเอง about 6 hours ago via TweetDeck . (6) ทั้งนี้เนื่องจากรายใหม่ที่ได้รับใบอนุญาต 3G จะเริ่มสร้างโครงข่ายโดยจะต้องคลอบคลุม 80% ของประชากรภายใน 4 ปี ตามข้อกำหนดในประกาศ กทช. about 6 hours ago via TweetDeck . (5) ในประกาศ กทช.ได้กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการรายเดิม (2G) จะต้องอนุญาตให้ผู้รับบริการของผู้ประกอบกิจการรายใหม่ (3G) Roaming บนโครงข่ายของตนเอง about 6 hours ago via TweetDeck . (4) การ Roaming จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่มีโครงข่ายครอบคลุม เพื่อให้การบริการไม่กระทบต่อประชาชนผู้ให้บริการ about 6 hours ago via TweetDeck . (3) อีกตัวอย่าง โครงข่าย TOT 3G ซึ่งมีโครงข่ายเฉพาะ กทม และปริมณฑล ดังนั้นเมื่อลูกค้า ออกนอกพื้นที่จึงต้อง Roaming บนโครงข่าย 2G ของ บมจ.AIS about 6 hours ago via TweetDeck . (2) เช่น การเดินทางไปต่างประเทศที่ผู้ประกอบกิจการของไทยไม่มีโครงข่ายเราต้อง Roaming เพื่อใช้โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศนั้นๆ about 6 hours ago via TweetDeck . (1) การ Roaming คือ การที่ลูกค้าของโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหนึ่งไปใช้โครงข่ายของผู้ประกอบกิจการ รายอื่นในพื้นที่ที่ตนเองไม่มีโครงข่ายให้บริการ about 6 hours ago via TweetDeck ที่มา twitter.com/ninetak โดย c พฤหัสฯ. ก.ย. 23, 2010 7:39 pm

ออกมาแล้วครับ ระงับการประมูล 3 G มือถือ 3G เวลารับสัญญาณ หน้าจอจะแสดง 3G ในพื้นที่ที่มี 3G ถ้าตรงนั้นมี 2G จะแสดงสัญญาณ 2G แล้วใช้ 3G ไม่ได้ แต่ 3G ไม่โรมมิ่งไปบน 2G ที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า เมื่อ 3G ออกนอกพื้นที่ของตัวเอง ก็จะกลายเป็นที่ทับกระดาษ CAT ใช้ข้อมูลตรงนี้มาสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนครับ - 3G roaming 2G เพื่ออย่างน้อยก็ยังโทรคุยได้ แม้จะใช้ความสามารถของ 3G นอกพื้นที่ตัวเองไม่ได้ - 2G roaming 3G เพื่อ? เมื่อ 2G roaming มาก็ใช้ได้เท่าเดิม แล้วยังมาแย่งสัญญาณของ 3G ที่น้อยกว่าอีก เพราะเพิ่งเริ่มเปิดใช้ roaming ไม่ใช่ connecting roaming = ขอใช้เครือข่าย connecting = เชื่อมต่อสัญญาณ ผมอธิบายไม่ค่อยเก่งครับ น่าจะพอให้เห็นภาพได้ว่า 3G มีลักษณะยังไง แล้ว CAT เอาจุดไหนมาสร้างปัญหา จากคุณ : amameera     เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 53 23:53:52   ถูกใจ : เค็มจังตังค์อยู่ครบ, Ont_Happy, Kenshin, p.chit, Buddykung ที่มา http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T9698048/T9698048.html โดย c พฤหัสฯ. ก.ย. 23, 2010 7:34 pm

ออกมาแล้วครับ ระงับการประมูล 3 G [quote="jeew"]ที่จริงแล้ว.ผมก็เชื่อว่าทางเทคนิคการโรมมิ่งจาก2G ไป 3G ทำได้ ...แต่ผมสงสัยว่า กทช.ไปออกข้อกำหนดเรื่อง ผู้ให้บริการ 3G สามารถ Roaming บน 2G ได้ โดย c พฤหัสฯ. ก.ย. 23, 2010 7:31 pm

ทำไมกดหัวข้อแล้วมี pop up โฆษณา ครับงง ใช่แบบนี้หรือเปล่าครับ http://www.google.co.th/#hl=th&source=hp&q=http%3A%2F%2Fyour-review.net%2Fa%2Fadframe.php+&aq=f&aqi=&aql=&oq=&gs_rfai=&fp=d67b5af453de002e .\ ใช่เลย เหมือนกันปะครับ ใช่ครับ เครื่องผมหายแล้ว วิธีแก้ตามลิงค์ข้างบนครับ โดย c อังคาร ส.ค. 24, 2010 12:19 pm

ทำไมกดหัวข้อแล้วมี pop up โฆษณา ครับงง ใช่แบบนี้หรือเปล่าครับ http://www.google.co.th/#hl=th&source=hp&q=http%3A%2F%2Fyour-review.net%2Fa%2Fadframe.php+&aq=f&aqi=&aql=&oq=&gs_rfai=&fp=d67b5af453de002e โดย c อังคาร ส.ค. 24, 2010 12:03 pm

ประชาสัมพันธ์รายการ Money Talk ครับ tnn2 ที่พี่นริศจะออกรายการ เข้าใจว่าไม่มีทาง net ครับ ตอนนี้กำหนดคร่าวๆเป็นวันพฤหัสที่ 2 กย 4 ทุ่ม และวันศุกร์ที่3 กย 9 โมงเช้าครับ ส่วนรายการสด tnn24 ผมไม่แน่ใจครับ จะสอบถามให้อีกทีครับ ช่อง tnn24 http://tv.truelife.com/tvonline-player.jsp?channel_id=tnn โดย c อาทิตย์ ส.ค. 22, 2010 8:02 pm

Berkshire Buys Burlington in Buffetts Biggest Deal S&P เล็งลดเครดิต"เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ Posted on Thursday, November 05, 2009               สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เตรียมลดอันดับเครดิตบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ หลังจากเบิร์กเชียร์เข้าซื้อกิจการบริษัท เบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสร้างทางรถไฟขนาดใหญ่ เป็นเงินมูลค่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ จะส่งผลให้สภาพคล่องและเงินทุนในธุรกิจประกันของเบิร์คเชียร์ ทำให้เบิร์คเชียร์อาจถูกลดอันดับเครดิตลงจากระดับปัจจุบันที่ระดับ AAA ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เบิร์กเชียร์ถูกมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และฟิทช์ เรทติ้งส์ ลดอันดับเครดิตมาแล้ว เนื่องจากการลดลงของมูลค่าตราสารที่เกี่ยวข้องกับราคาหุ้นในตลาดส่งผลให้บริษัทขาดทุนรายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ขณะที่ธุรกิจประกันซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเบิร์คเชียร์ถูกลดขนาดลงในปีนี้ เพื่อรักษาฐานเงินทุนเอาไว้ ด้านนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ให้เหตุผลของการเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ ว่า เขามั่นใจในอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯจึงเปิดทางให้เบิร์คเชียร์ทุ่มซื้อด้วยเงินสดจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาถึง 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เพื่อถือครองหุ้น 77.4% ในเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ   http://www.moneychannel.co.th/Menu6/NewsUpdate/tabid/89/newsid491/100966/Default.aspx โดย c พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 4:50 pm

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้ ขอบคุณมากครับ พีโย โดย c พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 11:20 am

ดร. นิเวศน์กำลังกลุ้มใจเรื่องอนาคตรายการ Money Talk Daily นอกจากการ Vote รายการแล้ว ก็เข้าไปที่เมนู แนะนำติชมรายการ  เขียนติชมรายการ หรือ ถามคำถามเกี่ยวกับการลงทุน ซึ่ง ทางรายการ จะตอบคำถามในวันจันทร์ครับ โดย c พุธ ต.ค. 07, 2009 11:22 pm