Re: นายตลาดหุ้นไทยทำไมอารมณ์แปรปรวนขนาดนี้ เห็นอารมณ์ตอนนี้แล้วคิดถึงผับชื่อดังถูกไฟไหม้ บางคนก็ตายเพราะสำลักควัน ขาดอากาศหายใจ ไฟคลอก ฯ ซึ่งก็น่าเวทนาอยู่แล้ว แต่บางคนก็วิ่งแย่งคนอื่นๆ ออกจนถูกเหยียบตาย ก็มาก หากอดทน มีสติ เอาผ้าชุบน้ำอุดจมูก หายใจ ได้สักเฮือก รอให้คนแย่งกันจนหมด และปลอดภัยก่อนค่อย ออกไปน่าจะดีกว่า มีชีวิตเหลือรอด ช่วยมูลนิธิเก็บศพ ได้กุศลอีก... :8) โดย อนัตตา ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 12:19 pm

Re: ช่วยอธิบาย Operation twist หน่อยครับว่ามันคืออะไร ส่งแล้ว: พฤหัส, 22 กันยายน 2011 9:26 เรื่อง: ผิดหวังผลประชุม FED นักลงทุนทิ้งหุ้นมะกันร่วงเกือบ 3% ผิดหวังผลประชุม เฟด นักลงทุนทิ้งหุ้นมะกันร่วงเกือบ 3% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ร่วงหนัก กว่า 2.49 % หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกเพียงมาตรการตรึงดอกเบี้ย แต่ไม่มีการอัดฉีดเม็ดเงินใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง... หลังเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันเมื่อช่วงค่ำวานนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา เฟด ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ใน และประกาศใช้มาตรการ Operation Twist ด้วยการใช้เงินมูลค่า 4 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุการไถ่ถอน 6-30 ปี พร้อมกับขายพันธบัตรอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่า ในวงเงิน 4 แสนล้านดอลลาร์เท่ากัน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิ.ย. 2555 โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม มาตรการดังกล่าว ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน เนื่องจากไร้มาตรการอัดฉัดเม็ดเงินก้อนใหม่ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยตรง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการใช้ QE3 ตามที่ได้มีการคาดหมายกันก่อนหน้านี้ และนักลงทุนเชื่อว่า มาตรการใหม่นี้จะไม่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้น ทำให้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 283.82 จุด หรือ 2.49% ปิดที่ 11,124.84 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 35.33 จุด หรือ 2.94% ปิดที่ 1,166.76 จุด ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 52.05 จุด หรือ 2.01% ปิดที่ 2,538.19 จุด แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดระบุว่า "มาตรการ Operation Twist จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง และจะช่วยให้สภาวะด้านการเงินมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยคณะกรรมการเฟดจะดำเนินทบทวนทั้งในเรื่องของขนาดและองค์ประกอบของการถือครองพันธบัตรเป็นระยะๆ และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม" เฟดระบุว่า "จากข้อมูลที่รวบรวมได้นับตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนในเดือนส.ค.พบว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างเชื่องช้า แลมีความเสี่ยงหลายด้านที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจเผชิญกับภาวะขาลง ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวนั้นรวมถึงภาวะตึงตัวในตลาดการเงินทั่วโลก ส่วนตลาดแรงงานยังคงอ่อนแอ และอัตราว่างงานอยู่ในระดับที่สูงมาก ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นบ้างในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า แต่คาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น" โดย อนัตตา พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 10:04 am

Re: มนุษย์เงินเดือน ที่กำลังมุงสู่ความเป็นไททางการเงิน ผมเคยทำผิดพลาดไปเมื่อก่อน ที่เคยเป็นมนุษย์เงินเดือน มัวแต่คิดเรื่องหุ้น แอบใช้ทรัพยากรณ์ของบริษัทเพื่อหาประโยชน์ เข้าตัว ใจไม่สงบ งานที่รับผิดชอบไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อทำผิดก็ได้แต่คิดในใจว่า "กูไม่ง้อหรอก กำไรหุ้นกูมากกว่า ทำงานทั้งปีเสียอีก" ทำให้ขาดจิตสำนึกรับผิดชอบในงานที่ทำ อย่างน่าเกลียด เมื่อผมได้มาทำงานของตัวเองผมก็จึงย้อนกลับไปนึกเสียใจ ในสิ่งที่เคยทำ และผมเชื่อว่าทุกวันนี้ผมกำลังชดใช้กรรม ในสิ่งใดๆ ที่ผมได้ก่อเอาไว้ และก้มหน้ารับมันอย่างดุษฎี ที่ทำไปเมื่อก่อนเพราะความไม่รู้ ถ้ารู้งี้คงไม่กล้าทำ อย่าคิดว่า เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่มีคนเห็น แต่ผมว่าใจเรามันบันทึกสิ่ง ชั่วร้ายนั้นเอาไว้ และสักวันมันจะย้อนกลับมาเอาทั้งต้นทั้งดอกคืน... หวังว่าคงเป็นประสบการณ์ให้เพื่อนๆ นลท. ที่คิดจะทำก็อย่าทำแบบผม นะครับ หรือใครที่ไม่เคยทำก็ดีแล้ว ขอให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป โดย อนัตตา อาทิตย์ ก.ย. 11, 2011 9:42 pm

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ ผมเคยทำงานที่มีลูกน้องเกือบ 10 คน (เป็นพวกโปรแกรมเมอร์อะไรอย่างเงี้ย) ทำไปต้องทำทั้งเสาร์ทั้งอาทิตย์ วันๆ ต้องคอยนั่งเฝ้าลูกน้อง คอยสร้างกำลังใจลูกน้อง หาเงินมาจ่ายเงินเดือน เหนื่อยสุดๆ สุดท้ายก็ต้องมาคุยกับลูกค้า ลูกค้าเค้าก็เบี้ยว ยกเลิกโครงการ ที่ลงทุนไปก็เสียเปล่า ต้องเชิญลูกน้องทั้งหมดออก เสียเงินไปหลายเหมือนกัน แถมเวลาให้กับครอบครัวก็ไม่มี ตอนนี้ทำด้วยมีลูกน้องคนเดียวที่ไว้ใจได้ (เป็นญาติกัน) ที่เหลือจ้างเอาเป็นงานๆ ได้โครงการเล็กกว่าแต่ก็มีความสุขมากกว่า มีเพื่อนมาชวนไปลงทุนใหญ่ๆ กำไรเยอะ (ตามที่มันบอก) ผมไม่เอาดีกว่า พออยู่พอกินของผมอย่างงี้แหละ :P บ่นไปเรื่อยๆ เกี่ยวกันกับหัวข้อกระทู้มั้ยเนี่ย ใจนึงผมก็อยากจะล้างไพ่เหมือนกันครับพี่เอ๋ย แต่มันเหมือนขี่หลังเสือแล้วไม่กล้า ลงหรือยังลงไม่ได้ ต้องขี่หลังมันไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ผมว่าแนวทางที่พอเพียงกับความต้องการของตัวเองนั้นเหมาะสมที่สุด บางคน ที่เขาทำธุรกิจใหญ่ๆ ได้ก็ต้องยอมรับว่าเขาเหล่านั้นเก่งจริงๆ แต่มันอาจจะไม่ เหมาะกับอีกหลายคนที่ชอบชีวิตเรียบง่ายก็เป็นได้ โดย อนัตตา พุธ ส.ค. 31, 2011 8:58 pm

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ @ พี่ปรัชญา สบายแล้วล่ะครับพี่ ชีวิตพอเพียง ผมเองก็อยากจะทำเกษตรพอเพียง แต่ยังติดภาระกิจทางโลกอยู่ครับ ต้องทำไปหยุุดไป ที่ดินดันไปจับมา แบบร้อนจี๋เลย ไม่รู้จะรอดหรือเปล่า :mrgreen: ดูจาก location ผมก็ น่าจะรู้ว่าที่ไหน Location: Rayong - วังน้ำเขียว กำลังอยู่ในความสนใจ ถ้ามีเอกสารสิทธิ์คงไม่น่าจะมีปัญหา ปัญหาทุกอย่างมีทางออกครับ ขอให้ผ่านเหตการณ์ครั้งนี้ด้วยดี การลงทุนมีความเสี่ยงครับ ขอบคุณครับพี่ คือตั้งใจทำเกษตรจริงๆ ครับ ไม่ได้เอามาเก็งกำไร หรือทำรีสอร์ทใดๆ ทั้งสิ้น ปลูกต้นไม้เยอะกว่าเดิมมาก (เมื่อก่อน เป็นพืชเชิงเดี่ยวและที่ดินว่างเปล่า) เรื่องนี้อ่อนไหว มีกองแช่ง มากกว่ากองเชียร์ครับ ที่ตรงนั้นมีทั้งถูกและผิดกฎหมาย เอาเป็นว่าผมก็ let it be ละกัน คืนก็คืน ไม่คืนก็ทำต่อไป และขณะนี้ ผมคิดว่าจริงๆ แล้ว แค่การมีสติและสมาธิอยู่กับการหายใจทิ้งไปวันๆ กลับนำพามาซึ่งความสุขที่ยิ่งใหญ่มากกว่า การแสวงหาเงิน และแสวงหาความสุขจากสิ่งต่างๆ ที่งดงาม ปราณีต ที่เคยประสบมาทั้งหมด... เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับคุณ picatos แต่คนเราส่วนใหญ่ไม่เห็นว่าเป็นเช่นนั้น โลกถึงได้วุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ไง สำหรับผมแล้วเห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง แต่ก็ฝึกฝนทุกวัน วันละเล็กละน้อยสะสมแต้มไป เคยคุยกับพระวัดเขาแผงม้าท่านนึงบอกว่ามันเหมือน เราตักน้ำใส่ตุ่มก้นลึกด้วยช้อนกาแฟ แรกๆ เราแทบจะไม่รู้สึกหรอกว่าน้ำที่เราใส่เข้า ไปมันมากน้อยแค่ไหน จนกว่าที่มันใกล้จะถึงปากตุ่มนู่นแหละเราถึงจะร้องอ๋อ...มันเป็นจั่งซี้ เรียนคุณอนัตตา ผมบังอาจเสนอแนะนะครับ หวังว่าคงไม่ว่ากัน ลองจ้างที่ปรึกษาบัญชี ซิครับ เพื่อนผมและผม ใช้มาแล้วได้ผล แต่เราต้องยอมลงไปทำและเรียนรู้ด้วยตัวเอง จะว่าไป ผมได้เงินกลับคืนมากกว่าที่จ่ายค่าที่ปรึกษาในแต่ละปี ซึ่งถือว่าคุ้มครับ อย่าเรียกว่าบังอาจเลยครับ แนะนำมาได้เต็มที่ ตอนนี้ผมก็กำลังทำเช่นนั้นอยู่ครับ ขอบคุณครับ โดย อนัตตา จันทร์ ส.ค. 29, 2011 3:03 pm

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ @ พี่ปรัชญา สบายแล้วล่ะครับพี่ ชีวิตพอเพียง ผมเองก็อยากจะทำเกษตรพอเพียง แต่ยังติดภาระกิจทางโลกอยู่ครับ ต้องทำไปหยุุดไป ที่ดินดันไปจับมา แบบร้อนจี๋เลย ไม่รู้จะรอดหรือเปล่า :mrgreen: ดูจาก location ผมก็ น่าจะรู้ว่าที่ไหน รู้สึกว่าค่าแรง 300 จะเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติจริงๆ แฮะ มีธุรกิจไหนอีกบ้างครับ ที่มีผลกระทบ นอกจากสิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป และบริการ @คุณprakarnb บัญชีนี่สำคัญจริงๆ ครับยอมรับเลย ถ้านับเงินที่เสียไปมาจ้าง พนง.บัญชีได้ตั้งหลายคน แต่ด้วยความขี้เหนียวเล็กๆ น้อยๆ เลยเข้าทำนองเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย :'O ตอนนี้กำลังหาทางปลดพนง.บัญชีที่ปรึกษาคนเก่าอยู่เหมือนกัน แต่ต้องทำแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่นเพราะกลัวเขากลั่นแกล้งทีหลัง เพราะเธอเป็นคนที่รู้จุดอ่อนเรามากที่สุด ... 8-) โดย อนัตตา จันทร์ ส.ค. 29, 2011 9:37 am

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ คำว่าเถ้าแก่ น่าจะแปลงว่า คนมีหน้าที่รับผิดชอบงานและคนงาน ชีวิตพ่อค้าตั้งแต่รายเล็กถึงรายใหญ่ไม่ต่างกัน บางคนอาจจะได้นาทีทองงานใหญ่ บางรายก็เดือดร้อน ผมอยู่บ้านนอกนะ เปิดร้านค้าเล็กๆน้อยๆ หางานเลี้ยงลูกน้อง เหมือนทำแบ่งผลกำไร ได้มาก็แบ่งกัน ช่วงนี้แรงงานไทยแพง ไม่รับผิดชอบงาน มาสาย แว๊บบ่อยๆ ปัญหาสารพัด การรับงานถ้าผิดนัดไม่ตรงเวลา สุดท้ายถูกปรับ และลูกค้าเลิกเชื่อถือ ทำลายอาชีพตัวเองจากลูกน้อง คำโบราณจีน ขุนพลตายเพราะทหารเลว เลิกไปหลายอาชีพแร๊ะ กำไรก็มีลูกน้องมาแบ่ง เวลาทำงานขาดทุนหาคนช่วยไม่เจอ ก็ขอให้กำลังใจ ชีวิตเถ้าแก่ทุกคนสู้ต่อ เผื่อโอกาสจะเข้าข้างท่าน ส่วนผมโอกาสเป็นเถ้าแก่หมดลงแล้ว หมดไฟด้วย พี่ปรัชญาคงไม่ต้องเป็นเถ้าแก่แล้วล่ะครับ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สบายกว่าเยอะ ใช่ไหมครับ :D โดย อนัตตา อาทิตย์ ส.ค. 28, 2011 11:49 am

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ คนเป็นเถ้าแก่ปัญหา ที่ต้องกุมขมับ คือสรรพากรเรียกตรวจภาษีครับ ใครเจอเข้าไป จะรู้ดี :wall: :wall: :wall: เรื่องนี้ผมก็เคยโดนอีก :wall: เนื่องจากความไม่ประสาในข้อกฎหมาย ว่าด้วยลักษณะของการประกอบธุรกิจ บวกกับที่ปรึกษาบัญชีมักง่าย เห็นว่าเราไม่รู้ก็ไม่ยอมเตือน (หรืออาจจะไม่รู้เหมือนกัน) ทำให้โดน ภาษีย้อนหลังไปเจ็ดแสนกว่าบาท เอาเข้าไปซิครับ มีอะไรที่ผมยังต้องจ่าย อีกบ้าง...เนี่ยๆๆๆๆๆๆ :'O รายละเอียดไม่ขอพูดถึงนะครับ แต่ถ้าใครอยากทราบเป็นอุทาหรก็ pm มาบอก จะเล่าให้ฟังถึงความไม่รู้ ที่ทำให้ต้องเสียตังค์แบบโง่ๆ โดย อนัตตา อาทิตย์ ส.ค. 28, 2011 11:46 am

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ นี่คือความรับผิดชอบและภาระ (กิจ) ที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นเถ้าแก่ครับ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เสมือนตามดูลมหายใจน่ะครับ เจ้าของกิจการคือ ดินแดนแห่งความใฝ่ฝันของคนกลุ่มใหญ่มากมายนะครับ ตอนนี้เราได้เดินมาตามฝันแล้ว (ซึ่งใครอีกหลายคนอยากจะมายืนอยู่ตรงนี้) ขอให้คิดถึงวันแรกแห่งความฝันของเราที่เริ่มกิจการนี้นะครับ มุ่งมั่นและสู้เพื่อฝันต่อไป ถ้าต้องเปียก ก็จงเล่นน้ำฝนให้สนุก อย่าบ่นว่าน้ำเค็ม เมื่อคิดจะเล่นทะเล ครับ ขอเป็นกำลังใจนะครับ ^^ จากเถ้าแก่อีกหนึ่งคน ดูเพิ่มสร้างกำลังใจได้ที่เวปผมนะครับ http://www.ceoken.com โอ้โห...พี่เคนนี่สุดยอดจริงๆ เลยครับ ต่างกับผมราวฟ้ากับเหว :bow: ว่างๆ จะขอคำปรึกษาบ้างนะครับ โดย อนัตตา อาทิตย์ ส.ค. 28, 2011 11:36 am

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ จริงครับคุณหมอ เมื่อก่อนผมก็เคยเป็นผู้ว่าจ้าง รู้สึกเลยครับว่า คำว่า "ผู้รับเหมา" มันคือคำๆ นึงในพจนานุกรม แปลว่า "ไม่จริง ไม่ซื่อ ผิดนัด มาทำงานสาย ทิ้งงาน" พอตัวเองมาทำเองก็พยายามเปลี่ยนสิ่งที่เคยเชื่อเสียใหม่ ซึ่งก็คิดว่า ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ การทำสัญญารัดกุมนั้นเป็นนโยบายอยู่แล้วครับ แต่การทำงานจริงมันประกอบด้วยหลายอย่าง ถ้าตึงไปงานก็ไม่เดิน ถ้าหย่อนไปงานก็ล่าช้า หลายปัจจัยเข้ามากระทบโดยที่เราไม่สามารถ ควบคุมได้ ก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปให้จบงานตามสัญญา ปัญหากับลูกค้ามีแน่นอนครับ แต่ก็ไม่กับทุกเจ้า บ้างก็ดีใจหาย บ้างก็....หายเหมือนกัน ส่วนปัญหาเรื่องลูกน้องนี่มีสม่ำเสมอครับ ใครบริหารคนได้เก่งๆ นี่ผมขอคาราวะงามๆ เลยว่าคือยอดคนจริงๆ โดย อนัตตา เสาร์ ส.ค. 27, 2011 8:59 pm

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ ทำ wholesale photo lab ครับ ไม่มีลูกจ้างครับ ทำกันเองในบ้านเลยไม่มีปัญหาเรื่องค่าแรง ปัญหาที่เจออย่างเดียวคือ Red ocean ครับ ตัดราคากันกระจุย สิ้นเดือนนี้ผมจะตัดส่วนที่ Super red ออกไปครับ ไม่คุ้มทำต่อแล้ว คงเหลือแต่ส่วนที่ Red ปกติ :wall: เมื่อก่อนสิ่งเหล่านี้เป็น knowhow ที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงยาก นึกถึงสมัยอัดรูปจากฟิล์มใบละ5-6 บาท ผมว่ากำไรมากพอดู สมัยนี้มันเปลี่ยนไปเยอะมาก ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องภาพมากนัก สามารถซื้อปริ้นเตอร์ดีๆ สักตัวก็ทำอัลบั้มส่วนตัวได้แล้ว แถมมีโปรแกรมสำเร็จรูป สามารถออกแบบรูปเล่มให้อัตโนมัติอีก ธุรกิจงานพิมพ์ผมมองไม่ออกจริงๆ ว่าจะขยายหรือปรับเปลี่ยนกลยุทธ ยังไงให้ธุรกิจโตได้ คุณซุนเซ็ก มีไอเดียยังไงครับ ใช่ครับ เจอปัญหาตลอด ฝึกพนักงานแม่บ้าน นัดเจ้าของงาน เผื่อส่งมอบ เตรียมสัญญาเรียบร้อย วันส่ง พนักงานไม่มา หรือพนักงานมา แล้วส่ง อีกวันหาย ตอนนี้แก้ได้หมดแล้ว คือ รับมากองไว้ที่บริษัทเลยครับ พร้อมส่ง หากส่งแล้วมีปัญหา ส่งคนใหม่เลย แต่ก็มีปัญหาจุกจิกอย่างอื่น นานๆเจอที เช่น แหวนเพชรหาย ซึ่งตรวจสอบยากมาก ว่าหายที่ไหน หายจริงหรือเปล่า เป็นต้น พี่เจ๋งน่าจะแตกไลน์ธุรกิจได้นะครับ เช่นทำน้ำยาล้างจานเองหรือทำน้ำยาทำความสะอาด ผมเคยเห็นในทีวีเขาทำน้ำยาล้างจานจากน้ำหมักชีวะภาพ เทรนด์รักษาสุขภาพน่าจะมา ได้เรื่อยๆ ค่อยๆ นำเสนอกับลูกค้า แรกๆ อาจจะฟรี ถ้าเกิดลูกค้าติดใจก็ค่อยๆ ปล่อยของ เกิดการแนะนำปากต่อปาก ไม่แน่อาจจะ กลายเป็นธุรกิจหลักไปก็ได้ :B โดย อนัตตา เสาร์ ส.ค. 27, 2011 11:31 am

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ งานรับเหมามีดีที่มาร์จิ้นสูง คล้ายๆ กับงานฝีมือครับ เรียกราคาได้ ตามความพอใจ หากลูกค้ารับราคาได้ก็ดีไป บางช่วงที่งานพีคๆ กำไร ขั้นต้น 50% up แต่ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ก็คือเรื่องการ control คน ผมว่าพี่เจ๋งก็น่าจะเจอปัญหาคล้ายๆ กันคือความไม่สม่ำเสมอ ความไม่รับ ผิดชอบ ของคนงาน บ่อยครั้งทำให้เราเสียลูกค้าไป หรือโดนด่า เพราะ วันดีคืนร้ายเขาหรือเธออาจจะหายไปเฉยๆ ก็มี หุ้นรับเหมาจึงเป็นหุ้นที่คาดเดายากอย่างที่พี่ว่า ขนาดผบห.เองบางครั้งยัง ตอบไม่ได้เลยว่าปีนี้จะได้งานอะไรบ้าง การคาดการณ์จึงยากมากหากไม่มี อินไซด์ เคยทำเทรดดิ้งพักนึงแต่ไปไม่รอดเพราะสายป่านสั้นไป การทำเทรดดิ้งได้ดี คือต้องมีเงินหน้าตักเยอะๆ (เป็นเงินเย็นด้วย) การซื้อเงินสดสามารถต่อรอง กับผู้ผลิตได้มาก การแข่งขันจึงสามารถทำได้ หากซื้อเครดิต ก็ไม่ต่างอะไร กับผู้ขายรายอื่นๆ ทำให้ต้องดั้มพ์ราคาสู้กันสุดท้ายรายย่อยก็ตายเรียบ... โดย อนัตตา เสาร์ ส.ค. 27, 2011 9:13 am

Re: ใครเป็นเจ้าของธุรกิจมาแชร์กันหน่อยดิ ผมทำรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในโรงงานอุตฯ และห้างสรรพสินค้า ตอนนี้ก็ทำของเซ็นทรัลพระรามเก้าอยู่ครับ ฟังอาจจะดูดี แต่...อาชีพ นี้ต้องผจญกับการความเสี่ยงของการจ่ายเงินล่าช้า ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของ งานที่โด่งดังก็ยังมีปัญหา หากจะรักษาชื่อเสียง งานไม่เสีย ไม่ทิ้งงาน บ่อยครั้งต้องควักเนื้อตัวเอง ปัญหาอีกอย่างที่ทำให้บริษัทผมติดกับดักก็คือการเบี้ยวเงินจากผู้ว่าจ้าง โดนไป 2 รายผมแถบจะต้องปิดบริษัท รายแรกฟ้องร้องคดีความ หลายปี เพราะเขาเล่นแง่ดึงเกมส์ใช้ความอึด สุดท้ายผมอึดไม่พอต้องยอมแฮร์คัทหนี้ บางส่วนออกไป เรียกว่ากำ...ดีกว่ากำ... รายที่2 หนักกว่า ยอดเงินประมาณ 3 ล้าน ทำงานให้ในฐานะเพื่อนกัน ไม่ต้องมี เอกสารการออก P.O. สุดท้ายผมโดนเชิดไปทั้งหมด ไปถามก็บอกไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ...ผมเข้าใจเลยว่าอารมณ์อยากยิงคนมันเป็นไง :mrgreen: นี่ยังไม่รวมรายยิบย่อยอีกจำนวนนึงที่ตอนนี้ก็ยังตามๆ กันอยู่ อยากจะบ้าตาย ไม่แปลกใจเลยที่ลงทุนไป 5-6 ปียังไม่มีปันผล แค่รอดมาได้ก็บุญแล้ว อยากจะขาย ทิ้งก็ไม่มีคนอยากซื้อ ต้องยอมทำประคองกันไป ปัญหาอีกอย่างคือช่วงซับไพรม์ไม่มีงานโปรเจคเลย ต้องปลดคนงานไปส่วนนึง วิ่งหางานจนขาขวิด ดิ้นรนจนต้องรับงานก่อสร้างก็ต้องทำ...ไม่มั่นใจว่าวิกฤติรอบ ต่อไปจะมาเมื่อไหร่ ถ้ามาเร็วผมตายก่อนใครเลย ส่วนค่าแรง 300 นั้นไม่กระทบเพราะคนงานที่ระยองเขารับกันเกิน 300 มานานแล้วครับ คนงานผมรับ 350-600 แต่ลักษณะงานอย่างผมต้องทำใจเพราะหาคนเป็นงานยากมาก บางทีต้องง้อให้มาทำงาน รับคนไม่เป็นงานมาทำ พอฝึกอยู่กับเราเป็นงานนิดหน่อยก็ย้าย งานไปอัพค่าแรงซะอีก..เฮ้อ..เหนื่อย ต้องหาคนใหม่อีก ยังมีอีกเยอะครับพี่เจ๋ง ปัญหาผมมีเพียบเลย อิอิ... โดย อนัตตา ศุกร์ ส.ค. 26, 2011 11:11 pm

Re: บททดสอบครั้งสำคัญสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ ปอดเขียวๆ กลายเป็นแดงซะงั้น ไม่ขายครับ รับเพิ่มอย่างเดียวจนนิ้วขาดหมด :mrgreen: สงสัยต้องกลับไปปั้มเงินมาสู้ใหม่สะแล้ว :evil: เป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ โดย อนัตตา อังคาร ส.ค. 09, 2011 10:22 am

Re: ใช้โปรแกรม Efiancethaiเพื่อป้อนราคาปิดเข้าใน Excel ได้ไห เท่าที่ใช้มาไม่เคยเห็นฟังก์ชั่นนี้นะครับ แต่มีโบร้กบัวหลวงให้บริการข้อมูลผ่าน excel ได้ครับ เราสามารถสร้างหน้าจอบน excel ได้เอง หรือจะใช้ template ที่เขามีให้ก็ได้ http://www.bualuang.co.th/iExcel โดย อนัตตา เสาร์ ส.ค. 06, 2011 8:33 am

Re: ทำไมถึงเกิด Panic Sell??? เป็นช่วงที่วิชาดูจิตใช้ได้ผลจริงๆ :) โดย อนัตตา ศุกร์ ส.ค. 05, 2011 3:03 pm

Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ อยากได้ความรู้เรื่องนี้เหมือนกันครับ หาหนังสืออ่านไม่ได้เลย แต่เท่าที่ผมใช้ก็คือ D/E ratio เทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ดูดอกเบี้ย MLR ว่ายังจะมีสเปรดเหลือพอหรือไม่ ดูหนี้สงสัยจะสูญ ดูลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ดูการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ประมาณนี้ล่ะครับ การ forecast คงหนีไม่พ้นจากการดูพอร์ตสินเชื่อแล้วประเมินการเติบโตออกมาให้เป็นตัวเลข ส่วนการ ประเมินมูลค่า ผมก็พยายามศึกษาหลายวิธี แต่ที่จะใกล้เคียงกับที่ผมคาดไว้น่าจะเป็น DDM โดยวิธีของ Gordon Growth ครับ ลองทำ DCF แล้วมันเข้ารกเข้าพงไปเลย :oops: ผิดถูกยังไงชี้แนะด้วยนะครับ ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องนี้ได้ไม่นาน พอดีมีน้องท่านนึง pm มาถามว่าผมใช้โมเดลอะไรในการวัดมูลค่าหุ้น ตอนนั้นผมตอบไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องไปหาความรู้เพิ่มเรื่องนี้แล้วแหละ ใช้ DDM ผมคิดว่าอาจมีปัญหา เพราะบริษัทที่ผมจะวิเคราะห์ ปี 52 ปันผลประมาณ 40% ของกำไร แต่ปี 53 ปันผลเกือบ 70% ของกำไร แบบนี้ผมใช้ตัวไหนดีครับ งั้นคงต้องลองหลายๆ วิธีแล้วจึงนำมาเปรียบเทียบกันดูว่าตัวไหนที่ไกล้เคียงความเป็นจริงมากกว่ากัน เช่นลองหาค่าเฉลี่ยเรขาคณิตให้ได้อัตราปันผลก่อนแล้วจึงนำไปเข้าสูตร Gordon Growth หรือใช้วิธี multible growth model ลองดูอีกวิธี ผมว่าถ้าค่าที่คำนวณได้มันออกมาเป็นตัวเลขที่ไม่เกินความเป็นจริง ก็น่าจะใช้ได้นะครับ โดย อนัตตา จันทร์ ก.ค. 25, 2011 6:51 pm

Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ ลืมอีกตัวนึงคือ Return on Total Capital (ROTC) เทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกันด้วยครับ โดย อนัตตา เสาร์ ก.ค. 23, 2011 10:11 pm

Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ อยากได้ความรู้เรื่องนี้เหมือนกันครับ หาหนังสืออ่านไม่ได้เลย แต่เท่าที่ผมใช้ก็คือ D/E ratio เทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ดูดอกเบี้ย MLR ว่ายังจะมีสเปรดเหลือพอหรือไม่ ดูหนี้สงสัยจะสูญ ดูลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ดูการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ประมาณนี้ล่ะครับ การ forecast คงหนีไม่พ้นจากการดูพอร์ตสินเชื่อแล้วประเมินการเติบโตออกมาให้เป็นตัวเลข ส่วนการ ประเมินมูลค่า ผมก็พยายามศึกษาหลายวิธี แต่ที่จะใกล้เคียงกับที่ผมคาดไว้น่าจะเป็น DDM โดยวิธีของ Gordon Growth ครับ ลองทำ DCF แล้วมันเข้ารกเข้าพงไปเลย :oops: ผิดถูกยังไงชี้แนะด้วยนะครับ ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องนี้ได้ไม่นาน พอดีมีน้องท่านนึง pm มาถามว่าผมใช้โมเดลอะไรในการวัดมูลค่าหุ้น ตอนนั้นผมตอบไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องไปหาความรู้เพิ่มเรื่องนี้แล้วแหละ โดย อนัตตา เสาร์ ก.ค. 23, 2011 9:36 pm

Re: ANTHONY BOLTON พูดเรื่อง DCF ว่าอย่างงี้แล้วท่านๆว่าอย่ ผมว่าทำไว้ก็ดีนะครับ ตอนนี้ผมทำใส่ไว้ใน excel เวลาวิเคราะห์หุ้น ก็เปลี่ยนตัวแปรนู่น นี่ นั่น ออกมาเป็นราคาปัจจุบัน พองบฯออกก็เอาค่าจริง มาใส่ ไว้คอยมอนิเตอร์สุขภาพหุ้นไปด้วย มีติดตัวไว้ดีกว่าครับ โดย อนัตตา พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2011 10:02 am

Re: นักลงทุน VI ต่างแดน สวัสดีครับพี่ๆ ชาวต่างแดน ขอแจมกระทู้ด้วยคน ไม่ได้อยู่ต่างแดน แต่ก็เคยถูกส่งไปทำงานต่างแดนช่วงสั้นๆ มาบ้าง วนๆ เวียนๆ แถวญี่ปุ่่นกับสิงคโปร์นี่แหละครับ เกือบๆจะได้ไปทัวร์ยุุุโรป แต่โดนบล็อกจากผู้มีอำนาจก่อนจึงต้องทานแห้วไป :mrgreen: กำลังติดตามเรื่องคาร์บอนแท็กเหมือนกันครับ ไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบอะไรกับโปรเจค LNG มากน้อยแค่ไหน โดย อนัตตา พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2011 9:54 am

Re: อ่านรายงานประจำปี / งบการเงินมากๆกันอย่างไรครับ ? ใช้จอ LCD ต่อพ่วงกับ notebook แล้วอ่านบนจอแอลซีดีครับ ใหญ่สะใจ ไม่ปวดตา นั่งเก้าอี้นานเมื่อยหลังก็เปลี่ยนไปนอนอ่าน ยังได้เลยครับ รับรองการอ่านงบฯ จะเป็นเรื่องสนุกสนาน ชอบใหญ่แค่ไหนก็เลือกขนาดตามชอบได้เลย :B โดย อนัตตา พฤหัสฯ. ก.ค. 07, 2011 6:33 pm

Re: ค่าเสียโอกาส หรือ SAP ที่เจอกับตัวเองคือ 1. ระยะสั้นดูดี แต่ระยะยาวแล้วสู้ถือเฉยๆ ไม่ได้ ความภูมิใจที่ได้เงินจากการ sap เล็กๆ น้อยๆ สู้ความเจ็บใจที่ขายหมูไม่ได้ 2. เสียเวลานั่งเฝ้าหน้าจอ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า โดย อนัตตา พฤหัสฯ. ก.ค. 07, 2011 10:08 am

Re: สุกี้ฮอทพอท (HOTPOT) เตรียมเข้าตลาดหุ้นตุลาคมนี่้ บางสาขาบริการแย่มากๆครับโดยเฉพาะสาขาแหลมทองระยอง แย่ยังไงครับ ผมก็เคยไปที่นั่นแต่ไม่ค่อยได้สังเกตุว่าดีหรือแย่ โดย อนัตตา จันทร์ ก.ค. 04, 2011 9:22 pm

Re: ไม่ทราบว่าเราจะหาค่า risk premium ตลาดหุ้นไทยได้จากไหนคร โทรหามาร์เลยครับ ง่ายดี ไม่เกิน 3 นาทีก็ได้ตัวเลข :oops: โดย อนัตตา เสาร์ มิ.ย. 25, 2011 10:30 pm

Re: สุกี้ฮอทพอท (HOTPOT) เตรียมเข้าตลาดหุ้นตุลาคมนี่้ เท่าที่โพสท์มาส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ แต่ผมกลับเบื่อ mk ตอนนี้ตกลงกันในครอบครัวว่าต่อไปคงเลือก hotpot/ shabushi สังเกตุตามห้างในพท.ระยอง พัทยา สองร้านนี้จะคนแน่นมาก ต้องจองคิว ส่วนเอ็มเคไม่ต้องจองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว โดย อนัตตา ศุกร์ มิ.ย. 17, 2011 8:26 am

Re: พอร์ตคุณเคยติดลบสูงสุดเท่าไหร่ แล้วเอาตัวรอดอย่างไร เคยลบไป 30 กว่าเปอร์เซนต์ แต่เป็นเงินจำนวนมาก เมื่อก่อนไม่เคยคิดจะคัทลอส แต่คราวนี้ไม่ไหวจริงๆ มองไม่เห็นอนาคต ต้องตัดใจเฉือนเนื้อร้ายออก เป็นประสบการณ์ที่เจ็บจนต้องจำไปอีกนานกับ...RCL โดย อนัตตา ศุกร์ มิ.ย. 10, 2011 9:20 am

Re: รอบสอง-อุตสาหกรรมรถยนต์น่าสนไหม? การปล่อยลอยตัวก๊าซ lpg/ cng ก็มีประเด็น แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าคงมีเพดาน ราคาที่ต่ำกว่าน้ำมัน เพราะถ้ารัฐบาลไหนทำก๊าซให้ราคาสูงเท่ากับน้ำมัน คงกระทบกับฐานเสียงอย่างมากเพราะคนที่ติดตั้ง lpg ส่วนมากจะเป็นแท็กซี่ หรือคนที่มีความจำเป็นต้องประหยัดจริงๆ ซึ่งน่าจะเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย ดูตัวอย่างง่ายๆ แค่ราคาดีเซลทุกวันนี้ก็ยังอุ้มอยู่เลย (อาจจะเป็นช่วงใก้ลเลือกตั้ง) อีกอย่างนึงที่สังเกตุได้ง่ายๆ คือเต้นท์รถมือสองงอกออกมายังกะดอกเห็ด โดยเฉพาะที่ระยอง และจังหวัดใหญ่ๆ ก็มีมากเช่นกัน ผมมีเพื่อนเป็นเจ้าของ เต็นท์รถก็บอกว่าธุรกิจนี้ยังโตได้อีก และกำไรงาม แต่ต้องใช้เงินทุนเยอะ ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างให้น้ำหนักกับบริษัทลิสซิ่งรถมือสองมากครับ จะหมู่หรือจ่า เดี๋ยวสิ้นปีคงรู้กัน :D โดย อนัตตา เสาร์ พ.ค. 07, 2011 9:23 pm

Re: รอบสอง-อุตสาหกรรมรถยนต์น่าสนไหม? ตอนนี้ รถยนต์มือสองเป็นที่นิยมกันเพิ่มขึ้นแล้ว เพราะว่ารถยนต์จากค่ายรถยนต์ส่งมอบกันไม่ได้ ณ ตอนนี้ แถมด้วย ผู้นำเข้ารถยนต์โดยตรงที่ไม่ใช่ค่ายรถยนต์ ก็มีสต็อกไม่มากเท่าไร ทำให้เกิดการขาดแคลนขึ้น ณ ตอนนี้ :) ผมกำลังจะมองมุมนี้พอดี ระหว่างรอรถใหม่อาจจะลองถอยรถมือสองมาขับก่อน ขายต่อก็ไม่เจ็บตัวมาก บางคนเสมอตัวหรืออาจจะกำไรด้วยซ้ำถ้าเข้าใจธุรกิจ มีหุ้นลีสซิ่งรถมือสองที่ยังมี MOS อยู่หลายตัว ถ้าเป็นไปตามที่ผมคาด upside ยังเหลือ 30-50% แต่นายตลาดมักให้ pe หุ้นกลุ่มนี้น้อยไปหน่อย แต่ถ้ากำไรมาตามนัด ผมว่าอะไรก็หยุดไม่อยู่ โดย อนัตตา เสาร์ พ.ค. 07, 2011 9:30 am

Re: วิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากเว็บ thaivi ถ้าเห็นข้อ 5 ได้จริงก็ดีครับพี่ ทำเพิ่มอีก 2 ข้อก็เป็นโสดาบันแล้ว :D โดย อนัตตา อาทิตย์ ธ.ค. 12, 2010 10:38 pm

1 ล้านบาทแรกในชีวิต "เงินล้านก็เหมือนกางเกงใน ควรมีติดตัวไว้ แต่ไม่ควรเอามาโชว์" :D โดย อนัตตา จันทร์ ต.ค. 25, 2010 8:29 pm

เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว(๒๕ต.ค.๒๕๕๓) ตอน เลิฟมีเลิฟมายบุ๊คส์ หนังสือเล่มแรกที่พลิกชีวิตผมคือ "คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก" :bow: ขอคาราวะท่านอาจารย์จริงๆ โดย อนัตตา จันทร์ ต.ค. 25, 2010 9:56 am

ถือหุ้นในกิจการอาจจะผิดศีล ถ้าเห็นแล้วว่าหุ้นตัวไหนเข้าข่ายผิดศีลก็หลีกเลี่ยงไปซะ ผมก็ใช้วิธีนี้เหมือนกันครับ เรื่องนี้ใครเชื่อก็เชื่อ ใครไม่เชื่อก็ ไม่ว่ากัน สุดท้ายก็ไปวัดกันตอนจิตสุดท้ายก่อนตายอีกที ว่าใครจะไปไหน  :D โดย อนัตตา เสาร์ ต.ค. 23, 2010 7:32 pm

คอร์สบัญชีพื้นฐานสำหรับนักลงทุน 6 - 7 พ.ย. 2553 ขอจอง 1 ที่ครับ  :D โดย อนัตตา ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 4:33 pm

วันนี้ เข้า hotmail.com, yahoo Finance ไม่ได้เลย มันล่มหรือ ณ เวลา 09:15 ผมเข้า yahoo mail ได้ตามปกตินะครับ น่าจะเป็นปัญหาจากผู้ให้บริการ (TOT) อ่ะครับ โดย อนัตตา พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:17 am

ขอปรึกษาเรื่องการจดทะเบียนนิติบุคคลครับ ผมกลับมองอีกมุมนึง ถ้าย้อนอดีตได้ผมคงเลือกลงทุนด้วยตัวเอง ไม่ร่วมหุ้นกับใคร... อาจจะมีธุรกิจที่ร่วมหุ้นแล้วเจริญรุ่งเรือง แต่ไม่ใช่ในกรณีที่ผมเคยเจอ ผมจึงแนะนำว่า อย่าร่วมหุ้นเลยครับ ทำอะไรก็ได้ที่เราเป็นเจ้าของคนเดียว จะดีเลวอย่างไรก็เป็นผลจากการกระทำเราเองไม่ต้องโทษใคร โดย อนัตตา พุธ ก.ย. 22, 2010 6:06 am

ดอกเบี้ยผ่อนบ้านกับการลงทุน แนะนำให้ ทำ Re-finance ครับ ตอนนี้ยังมีโปรโมชั่นดีๆ อยู่บ้างเช่น SCB และ UOB มีออปชั่นให้เลือกหลากหลาย เช่นหกเดือน/ หนึ่งปี แรก ดอกเบี้ย 0.x-1.xx % หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ผมเคยทำเมื่อประมาณสองปีที่แล้วเทียบกับ ธอส. จะประหยัดดอกเบี้ย ได้ประมาณ 6.25% /yr. ในปีแรก และช่วงนี้เราก็ผ่อนแบบเต็มพิกัด ที่กำลังเราจะทำได้ เงินต้นจะลดลงเร็วมาก ปีหลังๆ จะเหลือเงินต้นน้อย ดอกเบี้ยก็จะจ่ายไม่เยอะ แม้อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นก็ตาม แถมมีส่วนให้เรากู้เพิ่ม ตามสัดส่วนเครดิตที่เรามีและตามมูลค่าสินทรัพย์ เราก็เอาที่กู้เพิ่มนี้ไปลงทุนต่อไง  :D สมมติส่วนกู้เพิ่ม 500,000 จ่ายดอกเบี้ย 1% /year แล้วคุณคิดว่า สามารถนำเงิน 500,000 นี้มาสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 1% หรือไม่...น่าคิดนะ โดย อนัตตา ศุกร์ ก.ย. 03, 2010 2:10 pm

Re: เบื่องานจะลาออกมาลงทุนหุ้นคุณค่าแต่กลัว.... มีใครเบื่องานประจำอยากลาออกมาลงทุนหุ้นอย่างเดียว แต่กลัว 1. กลัวไม่มีสังคม 2. กลัวเงินที่ลงทุนในหุ้นไม่พอเลี้ยงชีพ เพราะความไม่แน่นอนตลาด ตอนนี้ถืือ cpall กับ hmpro 3. กลัวไม่เป็นที่ยอมรับของเพื่อนที่เคยรู้จัก เวลาถามว่าทำงานอะไร โดยเฉพาะคนโสดมีใครกลัวจนไม่กล้าเปลี่ยนแปลงไหมคะ ยอมอดทนทำงานประจำต่อไป - ก็ไปเข้าสังคมใหม่ซิครับ - กินอยู่อย่างพอเพียงกับรายได้ - เพื่อนมันต้องอิจฉาเราสิ...เพราะเรามีเวลาว่างอย่างไร้ขีดจำกัด โดย อนัตตา ศุกร์ ส.ค. 20, 2010 8:56 am

พบตัวจริงเสียงจริง SAI จากเด็กวินสู่วีไอ ยอมรับในความขยันเลยครับ :cool: โดย อนัตตา พุธ ส.ค. 11, 2010 9:44 pm

ชาว ThaiVI มีค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละเท่าไหร่ เอาตัวอย่างลุุงคนนี้มาให้ดูกันครับ ผมว่าแกเท่ห์ดี http://www.youtube.com/watch?v=exb21yBqT18&feature=relat ed โดย อนัตตา จันทร์ ส.ค. 09, 2010 1:30 pm

ชาว ThaiVI มีค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละเท่าไหร่ เห็นได้ชัดว่ากระทู้นี้มันขัดๆ กับกระทู้สอบถามเรื่อง ขนาดของพอร์ต ยังไงไม่รู้นะ กระทู้นี้รายจ่ายก็ไม่ค่อยจะสูงเป็นส่วนใหญ่ แต่ไหงกระ ทู้โน้นบอกว่าต้องการพอร์ต 100 ล้าน เป็นส่วนใหญ่ มันแสดงถึงกิเลส ที่โตกว่าความจำเป็นพื้นฐานหรือเปล่าเอ่ย... หรือคนที่โหวตร้อยล้านกระทู้โน้น ไม่มาโหวตกระทู้นี้ โดย อนัตตา จันทร์ ส.ค. 09, 2010 9:07 am

คุณคิดว่า เล่นหุ้นสไตล์ไหนเหมาะกับคุณและตลาดหุ้นไทย? แบบผสมผสานให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง แน่นอนว่าต้องมีแนวทางของปรมาจารย์บ้าง แต่ท้ายที่สุดผมว่าต้องกลั่นกรองให้เหมาะกับตัวเอง โดย อนัตตา เสาร์ ส.ค. 07, 2010 5:03 pm

เงินเก็บเท่าใหร่ถึงจะถือว่ามีอิสรภาพทางการเงินสำหรับคุณครับ ผมดู Poll แล้วผมตกใจมากเลยว่าผลโหวตที่เยอะที่สุด คือ มากกว่า 100 ล้าน... แสดงว่า คนเดี๋ยวนี้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงมากเลยนะครับ...​ ถึงต้องมีเงินมากกว่า 100 ล้าน ถึงจะเรียกว่ามีอิสรภาพทางการเงิน สำหรับผมมากกว่า 15 ล้าน ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว... ประหยัดหน่อย ขับรถ eco car กินข้าวแกง กินก๋วยเตี๋ยว ไปวันๆ ... เที่ยวทั่วไทย ไม่ง้อต่างชาติ :cool: โดย อนัตตา พฤหัสฯ. ส.ค. 05, 2010 2:30 pm

ต้นไม้เพิ่งโต อย่ารีบเด็ดยอด : เพิ่งโต อย่ารีบซื้อความสุข อยากให้ดึงส่วนดีๆ ของแต่คนมาใช้อะครับ แล้วสร้างเป็นวิถีของตนเอง :wink: เก้ากระบี่เดียวดาย เพลงกระบี่ไม้ตายนับหลายพันกระบวนท่า ล้วนเป็นแต่ละสุดยอดวิชาของแต่ละค่ายสำนัก แต่สุดท้ายต้องพ่ายแพ้แก่เคล็ดวิชาที่ไร้กระบวนท่า เก้ากระบี่เดียวดาย คืออะไรกันแน่ มันย่อมไม่ใช่กระบวนท่ากระบี่ที่ผู้คนต้องเสาะหา เพื่อฝึกปรือ มันล้วนเป็นแค่เคล็ดวิชาด่อสู้กับ กระบวนท่าต่างๆ มุ่งหาจุดอ่อนคู่ต่อสู้เพื่อโจมตี เมื่อคู่ต่อสู้หลบหลีกป้องปัด โจมตีจุดอ่อนจากการ ป้องปัดนั้น ต่อเนื่องไปเช่นนี้ โดยอาศัยหลัก ทุกกระบวนท่าย่อมมีจุดอ่อน ผู้ใช้เก้ากระบี่เดียวดาย มุ่งโจมตีจุดอ่อนคู่ด่อสู้ ไม่มีการกำหนดท่วงท่าตายตัว เมื่อคู่ต่อสู้ฟันกระบี่ 1 กระบวนท่า เก้ากระบี่เดียวดาย ก็ตอบโต้ตรงจุดอ่อน 1 กระบวนท่า คู่ต่อสู้ฟันกระบี่ 10 กระบวนท่า เก้ากระบี่เดียวดายก็ตอบโต้โจมตี จุดอ่อน 10 กระบวนท่านั้น มันย่อมต้องมีความว่องไว เบาพริ้วดั่งสายลม อ่อนไหวแปรผันดังสายน้ำ เหตุนี้จึงได้รับชัยชนะทุกครั้งไป สุดยอดกระบวนท่า คือ ไร้กระบวนท่า สุดยอดกระบี่ คือไร้กระบี่ เหล็งฮู้ชงขอคาราวะผู้อาวุโสฮวงฯ :lol: โดย อนัตตา อังคาร ก.ค. 27, 2010 8:22 am

มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ หนักสุดก็คือเจ้งกับ บริษัทตัวเองครับ เงินต้นก็ไม่ได้คืน แถมมาโดนภาษีย้อนหลังอีก  เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุด สำหรับผม จำไว้เลยว่า ถ้าจะตั้งบริษัท อย่าหุ้นกับใคร และอย่าให้คนอื่นมาบริหารแทน ส่วนหุ้นที่เจ็บหนักสุดคือ PSL ไปซื้อตอน 35.5 ตั้งแต่ปี 07 จนบัดนี้ยัง ไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา ตัดสินใจเฉือนเนื้อร้ายทิ้งเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ อาการเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว :( โดย อนัตตา เสาร์ ก.ค. 17, 2010 4:09 pm

ผลจาก "ปิดห้องร้อยคนร้อยหุ้น Effect" คนแอบอ่านก็เผ มูลค่าก็ใช้ได้นะ กำลังโตไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ http://bizinformation.org/th/www.thaivi.com แต่เดี๋ยวช่วงตลาดหมี มาประเมินกันใหม่ คาดว่าจะหายหน้าหายตาไปพอสมควร  :shock: โดย อนัตตา พุธ ก.ค. 14, 2010 9:00 am

ขอความเห็นครับ ถ้าเป็นผมคงลุยไปโลด ทุกวันนี้ยังใช้บริการดอกเบี้ย ร้อยละ 20 อยู่ ถ้าได้ร้อยละ 4 นี่คงขอเต็มแม็คไปเลย   :lol: แต่ก็ระวัง ถ้ากล้าเล่นกับไฟ ก็มีโอกาสโดนไฟลวกได้ ยกตัวอย่างที่ผมเคยกู้มาซื้อ SVI เพื่อเอาปันผล 0.95 B. เมื่อส.ค. ปีที่แล้ว ราคาหุ้นตอนนั้นถูกไล่ขึ้นไป และผมซื้อได้ที่ราคา ~2.6 คิดง่ายๆ ผมได้เงินปันผล ~36% ดอกเบี้ยเงินกู้แค่ 20% ยังไงก็คุ้มถ้าถือยาวๆ หลังปันผลหุ้นก็ตกมาต่ำสุดประมาณ 1.9 จากนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ สูงสุดประมาณ 2.16 (ถ้าจำไม่ผิด) ราคาในพอร์ตผมติดลบทางบัญชี แต่ถ้านำปันผลมาหักลบ ก็ยังมีกำไรมากกว่าดอกเบี้ยเงินกู้นิดหน่อย เนื่องจากมีความมั่นใจในหุ้นผมจึงไม่คิดจะ ขายเอาส่วนต่าง จึงถือมาเรื่อยๆ และใช้เงินที่เข้ามาใหม่ทยอยซื้อเพิ่ม ไม่ถึงปี ตอนนี้ราคามาอยู่ที่ 3.0 B. ก็แฮ็ปปี้ด้วย ประการฉะนี้ล่ะครับท่านผู้ชม โดย อนัตตา จันทร์ ก.ค. 12, 2010 11:20 am

กรุณาวิจารณ์ Portfolio ของผมให้ด้วยครับ [quote="panwa"]เป้าหมายจะนำมาจากที่โบรกต่างๆ วิเคราะห์หุ้นครับ โดย อนัตตา พฤหัสฯ. ก.ค. 01, 2010 4:21 pm

เป็นไปได้ไหมครับที่ผมจะหาเลี้ยงชีพจากตลาดหลักทรัพย์ ผมว่ายังไม่น่าจะพอนะ เพราะล้านเดียว ถ้าเข้าแบบสุ่มสี่สุ่มห้า อาจจะหายไปเกินครึ่งในพริบตา ไม่มีโอกาสแก้ตัวเพราะติด หุ้นเต็มมือ งานก็ไม่มีทำ เงินใหม่ก็ไม่มีเข้ามา สุดท้ายก็ต้อง กลับไปทำงานอีกรอบ เตือนด้วยความหวังดีสำหรับมือใหม่อย่าเพิ่งรีบร้อน ผมว่าหา ประสบการณ์สัก 5-8 ปี ให้ผ่านวิกฤติสักรอบ สองรอบน่าจะ มีภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น ผมว่าตลาดปีกลายกับปีนี้ทำกำไรได้ ไม่ยาก มือใหม่เข้ามาคิดว่าเล่นหุ้นไมหมูขนาดนี้เนี่ยก็เลยคิด อยากจะออกจากงานประจำมาเล่นหุ้น เมื่อแปดปีที่แล้วผมก็เคยคิดเหมือนกัน ตอนนั้นได้มาเยอะ คิดว่าตัวเจ๋ง ที่แท้มันก็แค่สามล้อถูกหวย ไม่รู้จักวิธีรักษาเงิน พอเจอวิิกฤติเข้าไปก็เจ้งไม่เป็นท่า ตอนนี้จึงคิด ว่าคนที่เจ๋งจริงต้องอยู่รอดทั้งช่วงขาขึ้นและขาลงครับ โดย อนัตตา ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 2:49 pm

ตั้งเป้าหมาย retire ที่อายุเท่าไหร่ และ พอร์ตใหญ่แค่ไหน ผมมันคน Low Profile ใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท ก็อยู่ได้สบายๆ จริงๆ แล้วรวมกับเงินที่ให้แม่เดือนละ 10,000 ที่เหลือให้ผมใช้จริงๆ ก็แค่ 15,000 บาทเอง ฉะนั้นปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายของการทำงานประจำ ตามที่ผมเคยโพสไว้เมื่อต้นปี........................ ครึ่งปีหลังจากนี้ผมทำตัวสบายๆ สอน น้องๆ ที่จะมารับงานต่อ ถ้าสังเกตุดีๆ login ผมจะอยู่ใน TVI ตลอดเพราะผมไม่ค่อยมีอะไรทำแล้ว อยากจะรู้เหมือนกันว่ารสชาติชีวิตที่เป็นนักลงทุนอย่างเดียวมันจะเป็นยังไง แค่จินตนาการว่าตื่นแต่เช้าเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตรงหุบเขา อาบน้ำแต่งตัว ออกไปวิ่ง สูดโอโซน กลับมาเล่นฟิตเนสเล็กน้อย กินข้าวที่แม่เตรียมไว้ (เจริญจริงๆ ) อาบน้ำ เตรียมตัวไปนั่งอ่านงบการเงิน ค้นหาหุ้นเงา เบื่อก็ลง มาเดินดูต้นไม้ หมู หมา กา ไก่ หลังมื้อกลางวันก็หลับสักงีบใหญ่ๆ ก็ไม่มีใครว่า ตื่นพร้อมกับตลาด 14.30 น. มาอ่านหนังสือต่อ เข้าเว็ป TVI และอื่นๆ ตกเย็นๆ เริ่มมึนๆ ก็ออกไปขี่จักรยาน ไปหาซื้อกับข้าวมาทำอาหารเย็น (ให้แม่ทำให้กินอีก) นั่งดูทีวีกับครอบครัวสักพัก 20.30 น. ก็เริ่มอ่านหนังสือต่อ ช่วงค่ำก็แล้วแต่ ว่าใจอยากจะอ่านอะไรก็อ่าน ก่อนนอนสวดพาหุงฯ หรือเดินจงกรมสักสิบนาที ก็เข้านอน..... ทั้งหมดคือภาพที่ผมจินตนาการไว้ และมันกำลังจะเป็นจริงในอีกไม่กี่เดือน ข้างหน้านี้ แต่ก็เผื่อใจไว้บ้าง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็พร้อมจะกลับมา ทำงานประจำเพราะเรี่ยวแรงยังเหลือ ผมเริ่มจากศูนย์จริงๆ จะกลับไปศูนย์ ใหม่ก็ไม่แปลก ชีวิตเคยอยู่กลางดิน กินกลางทราย ได้แค่นี้ก็บุญนักหนา ผมเคยไปจับฉลากเข้าปฎิบัติธรรมที่สวนสันติธรรมไว้ ได้เข้าพักปี 54 เมื่อปี 51 ยังคิดๆ ว่าตรูจะหาเวลาไปได้ยังไงว้า....งานก็เยอะ ยุ่งก็ยุ่ง ลูกค้าโทร ตามจะทำไง งานมีปัญหาใครจะดูแล......ฯลฯ ตอนนี้คงไม่ต้องกังวลแล้ว ขอให้นักลงทุนทั้งหลายจงสู้ต่อไปครับ โดย อนัตตา จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:31 pm