Re: ลงทุนปีละหมื่นเป็น"เศรษฐีร้อยล้าน"ได้/วิบูลย์ พึงประเสริ ผลตอบแทน 20%ทนต้น ระยะ 40 กว่าปี นี่มันสถิติของบัฟเฟตนะครับ ผมว่ายากเกิน สำหรับคนทั่วไป ส่วนตัวแล้วผมว่าตั้งเป้าสัก 12-15% ก็พอแล้ว แต่ว่าขยันทำงาน เก็บออม หาเงินมาลงทุนให้มากกว่าปีละหมื่นสี่ โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ ก.ค. 06, 2012 1:06 pm

Re: การลงทุนแบบฝากเงิน ลองเข้าไปแวะดูแนวคิด 7LTG ของคุณสุมาอี้สิครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 จันทร์ มิ.ย. 11, 2012 1:21 pm

Re: Greece ครั้งนี้ เลวร้ายขนาดไหน หาพื้นไม่เจออีกแล้ว ผมเข้าใจและเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับว่า MOS สำคัญมาก แต่ผมคิดว่าหลังจากซื้อแล้วต้องลืมต้นทุนครับ คนที่มี MOS ไม่มี MOS ต้องตัดสินใจ โดยไม่สนว่าตัวเองมีราคาทุนที่ซื้อมาเท่าไร ควรพิจารณาเฉพาะราคาขณะนั้น กับมูลค่าในใจเราเสมอ ความเห็นส่วนตัวครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 พุธ พ.ค. 16, 2012 12:46 pm

Re: Greece ครั้งนี้ เลวร้ายขนาดไหน หาพื้นไม่เจออีกแล้ว เห็นบางความเห็นคุยเรื่อง Mos ผมเห็นด้วยครับว่าต้องคำนึงเรื่อง Mos ตอนเข้าซื้อ แต่พอซื้อไปแล้ว Mos ของแต่ละคนจะเท่าไร ก็ควรตัดสินใจเหมือนกัน เช่นหุ้นบางตัว สมมติราคา 37 บาท คนที่ซื้อมาที่ราคา 6 บาท หรือ 40 ก็ไม่ควรจะตัดสินใจต่างกัน หลังจากซื้อไปแล้วควรลืมต้นทุน ถ้าจะคิดราคาทุน ก็ควรยึดเอาราคา ณ ปัจจุบันเป็นจุดตัดสินใจ โดย เหยี่ยวเดือน9 อังคาร พ.ค. 15, 2012 5:55 pm

Re: ชอบไอเดียการวิเคราะห์แบบนี้กันไหมครับ ไม่ชอบครับ ไม่เห็นด้วยครับ มูลค่าของกิจการนั้นมีลักษณะเป็นไดนามิก เมื่อผ่านเวลาและเรื่องราวต่างๆ มูลค่าของกิจการก็เปลี่ยนไป การยึดกับราคาในอดีตอย่างตอน IPO ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุผล โดย เหยี่ยวเดือน9 เสาร์ เม.ย. 28, 2012 12:46 am

Re: คุณเริมใช้ margin กันเมื่อไหร่ครับ? ใช้หลัง ซัพไพรม์ ไม่นานครับ (ค่อนข้างจะโชคดี) ตอนนั้นมันอยากซื้อหุ้นมากๆ แต่เงินตัวเองหมด ใช้เพราะคิดว่าหุ้นมันไม่น่าจะตกไปได้อีกแล้ว ใช้แล้วติดครับ แรกๆกะว่าพอหุ้นขึ้นได้สักระดับนึง จะปลดมาร์จินออก แต่พอมันขึ้นมาจริงๆ กลายเป็นว่ายังใช้มาร์จินมาโดยตลอด ถ้าจะใช้ ต้องคิดไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ ว่าถ้าเกิดเหตุไม่เป็นไปตามที่คาดแล้วจะรับมือยังไง โดย เหยี่ยวเดือน9 จันทร์ ม.ค. 30, 2012 11:06 pm

Re: ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ ความน่าเชื่อถือประมาณ The Sun ในวงการฟุตบอล โดย เหยี่ยวเดือน9 เสาร์ ม.ค. 21, 2012 11:06 pm

Re: Monday Puzzle ขอบคุณ คุณโหน่งมากครับ อ่านสนุกและให้หลักคิดที่ดีครับ ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเราใช้เรื่อง prisoner of dilemma ก็อธิบายพฤติกรรมของนักลงทุนบางส่วนได้ดีนะ โดย เหยี่ยวเดือน9 อังคาร ก.ย. 27, 2011 3:03 pm

Re: คำชี้แจงข่าวลือ SVOA-IT (ยืมที่ในส่วนนี้หน่อยนะครับ) ขอบคุณ คุณ วรันศ์ บัฟเฟต สำหรับข้อมูล(ที่ผมคาดอยู่แล้ว ว่าเค้าน่าจะตอบกลับมาแบบนี้) แต่แล้วเราจะอธิบายเหตุการณ์ข้างล่างนี้ได้อย่างไรครับ?? ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10920300/I10920300.html (^_^) พูดถึงการทาย eps. หลายปีก่อน คุณสามัญชน เคยตั้งกระทู้ ให้เพื่อนๆลองคาดการณ์ eps. ของบริษัทอะไรก็ได้แล้วแต่จะเลือกมา คนที่ทายได้ใกล้เคียงสุด จะได้รางวัล(รู้สึกว่าคุณสามัญชนจะออกค่าร่วมงานจิบเบียร์ให้) ปรากฎว่า มีเพื่อนสมาชิกที่ทายถูกเป๊ะ ถึงขั้นทศนิยมหลักที่สองเลยนะครับ และไม่ใช่คนเดียวด้วย โดย เหยี่ยวเดือน9 พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2011 9:21 pm

Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้ ก็ไม่แปลกนะ การเพิ่มจาก 2% ไป 4% ผลตอบแทนไม่ได้เพิ่ม 2% นิ มันเพิ่ม 100% ต่างหาก ดังนั้นมันถึงทุ่นเวลาทบต้นได้เร็วกว่า การเพิ่มจาก 18% ไป 20% โดย เหยี่ยวเดือน9 พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2011 6:40 pm

Re: โอ้ว...ทำไมยุโรปทิ้งดิ่งอย่างนั้นละครับ? กลซ้อนกลครับ 1ในแทคติค ของพวกคนยิว อุบายแยบยล พายุที่ดูเหมือนสึนามิแต่ไส้ในกลวง มาค์โมเบียส บอกไทยจะเป็น สปอตของเงินไหลเข้า ผมว่า จริง รอบนี้ คงมีใครหย่อนสะพานให้เมกากะจีนบุกไทยแน่นอน รอบนี้คงจะทุบก่อน ก่อนจะออกคิวอี3 ให้เงินไหลเข้าไทย คงประมาณไตร4/54-1/55 คงจะบดกัน ระยะหนึ่งก่อนดันไปสูงสุดฟ้า ถ้าเทียบเซทไทยกับอินโด อินโดไป10เท่าแล้ว จากตอนแฮมบ้านเราแค่ 1 เท่า วิธีการคือ ขายหน่วยลงทุนในประเทศที่ดัชนีขึ้นเกิน 10 เท่ามาลงกระจุกดันเซทประเทศ ที่ขึ้นเพียง1เท่า มองแบบนี้นะครับ ในฐานะเหาฉลาม จากตอนแฮม ทำไมถึงว่า set ไทยขึ้นมาเพียง 1 เท่าละครับคุณ chukieat30 ในเมื่อมันขึ้นจาก 380 กว่าจุด มา 1000 กว่าจุด โดย เหยี่ยวเดือน9 จันทร์ ก.ย. 05, 2011 11:13 pm

Re: "เหยี่ยว กวาง และ เสือ "...ควันหลงจากประเด็นสุด Hot ของ ไฟป่า มาแดงมาก กวาง เสือ เก้ง ฮายีน่า ตายเรียบ เหยี่ยวไม่ตายสินะครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 จันทร์ ก.ย. 05, 2011 3:03 pm

Re: มีหุ้นตัวใหนที่คล้าย ๆ ตัวนี้บ้างครับ จะลงทุนหุ้นปันผล ต้องพิจารณาให้ดีว่า มันจะเป็นหุ้นปันผล หรือเป็นหุ้นเคยปันผลนะครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 จันทร์ ก.ย. 05, 2011 11:04 am

Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้ JAS PE 23 เท่า ปันผล 0.8 % นี่ยังดีนะ 23 เท่า ก่อนหน้านี้เล่นกัน 50 เลยทีเดียว เจอฟอเวิด pe 1 อีกหุ้นอะไรถูกแบบนี้ แถมเซียนถือเพียบ สบายใจได้ ตอนปีที่แล้ว ช่วงราคาประมาณ 1.5 มี pe 4 ไตรมาสย้อนหลังอยู่ที่ 50 เท่า ตอนนี้ ราคา 2.36 แต่ pe ลดลงเหลือ 23 เท่า ก็ไม่เลวนะ นั่นซิครับ พวกค้าปลีกค้าส่งยังมี PE มากกว่าอีก เเต่คงไม่มีใครเอาไปเทียบกันมั้งครับ :mrgreen: ใช่ครับ คงเอาไปเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว ผมก็ไม่ได้บอกนะครับ ว่า PE ณ ขณะนี้ ถูกหรือแพงไป ทั้งในแง่ตัวมันเอง หรือเทียบกับบริษัทอื่น เพียงแต่ผมอยากจะให้มองว่า การที่ราคาใน 1 ปีขึ้นมาเกือบ 60% จาก 1.5 เป็น 2.36 แต่ PE กลับลดลงมามากจาก 50 เหลือ 23 เท่า แสดงว่า EPS โตขึ้นมากนะครับ บางความเห็นโจมตีบริษัทแบบสาดเสียเทเสียเลย ราวกับว่ามันเป็น junk company ซะงั้น Jas นี่ผมเห็นมีดราม่าแบบนี้หลายรอบแล้ว ครั้งปีที่แล้วก็แรงพอกัน คือตอนที่ตกจาก 2 บาทมาประมาณ 1.2 บาท ตอนนั้นก็ออกมาอัดกันแรงๆแบบนี้เหมือนกัน รอบนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะจบยังไงนะครับ แต่ผมว่านะ สิ่งนึงที่เห็นได้จากรอบที่แล้วก็คือ คนที่ขายเพียงเพราะเชื่อคำเตือนลอยๆ ก็เสียหายได้เหมือนกับการซื้อเพราะการเชียร์แบบไม่มีเหตุผล เหมือนกัน ครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 เสาร์ ก.ย. 03, 2011 7:53 pm

Re: ข้อเสนอแนะ จัดกฏระเบียบเวปใหม่ เพื่อ Thai Vi คงอยู่ตลอดไ ครับ มันก็คงยากแหละ เรื่องโพสข้อเสีย แต่เรื่อง ทำให้ห้องร้อยคนร้อยหุ้นมองไม่เห็น คิดว่าอย่างไรครับ เพราะมีจริงๆนะครับ โพสโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดันกระทู้ เท่านั้น แต่สาระไม่ค่อยมีอะไร และน้องๆใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามา ถ้าจะเลือกดูหุ้น ก็ต้องเลือก หุ้นมีคนเข้ามาสนใจเยอะ จริงมั๊ย แล้วจะรู้ได้ไงว่ามีคนสนใจเยอะ คำตอบ ก็ต้องมีคนเข้ามาตอบเยอะๆ แต่จริงๆ การตอบเยอะ ไม่ได้แปลว่า หุ้นตัวนั้น ยังน่าซื้ออยู่นะครับ ราคาอาจจะเกินมูลค่าไปแล้ว หากเทียบกับการไปจ่ายตลาดยามเช้า แล้วจะได้ของดี น้องๆต้องเข้าไปศึกษาหุ้นที่มีคนตอบน้อยๆครับ ซึ่งมือใหม่ ไม่น่าจะรู้ตรงนี้ครับ เห็นด้วยกับไอเดียนี้ครับ จะได้ดันกระทู้ไม่ได้ อีกอย่างที่เห็นด้วยก็คือ จำได้เหมือนกับว่า คุณ Jeng เคยเสนอให้มี ค่า PE โชว์ที่มุมของหน้าจอเลย นั่นก็น่าจะดีครับ หากอ่านข้อมูลหุ้นตัวไหนอยู่ ก็มีค่า PE ของหุ้นตัวนั้นโชว์ ไว้เตือนสติ โดย เหยี่ยวเดือน9 เสาร์ ก.ย. 03, 2011 1:29 am

Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้ JAS PE 23 เท่า ปันผล 0.8 % นี่ยังดีนะ 23 เท่า ก่อนหน้านี้เล่นกัน 50 เลยทีเดียว เจอฟอเวิด pe 1 อีกหุ้นอะไรถูกแบบนี้ แถมเซียนถือเพียบ สบายใจได้ ตอนปีที่แล้ว ช่วงราคาประมาณ 1.5 มี pe 4 ไตรมาสย้อนหลังอยู่ที่ 50 เท่า ตอนนี้ ราคา 2.36 แต่ pe ลดลงเหลือ 23 เท่า ก็ไม่เลวนะ โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ ก.ย. 02, 2011 5:18 pm

Re: กระทู้ในพันทิพย์ "ไทวิเสื่อม" เฮ้อ ดูเหมือนจะเสียทีมงานคนดีๆอย่างคุณ picatos ไปอีกคนแล้ว ใครที่คิดว่ากระทู้นี้ไม่มีผลเสียอะไร ผมไม่เห็นด้วยนะครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ ก.ย. 02, 2011 4:20 pm

Re: วัวหายล้อมคอก ตามที่คุณ Jeng เสนอว่าให้มีปุ่มเพื่อคนอ่านแสดงความเห็นว่า คนนี้ เชียร์หรือทุบนั้น มีจุดอ่อนที่ควบคุมการโหวตไม่ได้ บางคนมีหลายล็อคอิน มีพวกมากก็ตามให้มาช่วยโหวต สุดท้ายเดี๋ยวก็มีการตอบโต้กันอีก ผมคิดว่า ถ้าจะทำอย่างนั้นจริง ก็เปิดห้องสำหรับโพสต์ในด้านไม่ดี ขนานกันไปเลยดีมั้ยครับ ประมาณว่า ห้องร้อยคนร้อยหุ้น (สำหรับคนชอร์ตหุ้น) โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ ก.ย. 02, 2011 8:48 am

Re: พี่ๆชาววีไอมีใครใช้พวกEbook Readerอ่านข้อมูลหุ้นบ้างครับ ผมใช้ Kindle DX ครับ (แต่ผมไม่ใช่ วีไอ นะ) โดย เหยี่ยวเดือน9 อาทิตย์ ส.ค. 14, 2011 3:22 pm

Re: มือใหม่ครับ ถามว่าหุ้นจะขึ้นได้ไงครับถ้าไม่มีคนสนใจ คำกล่าวที่ว่า สุดท้ายแล้วราคาหุ้นก็จะเดินไปในทิศทางเดียวกับ กำไรหรือผลการดำเนินงานของบริษัท นั้น สมมติเวลาผ่านไปหลายๆปี กิจการเติบโตดี แต่หุ้นราคาไม่ไปไหน เป็นไปได้ไหมครับ เพราะราคาจะขึ้นได้เนื่องจากเกิดการซื้อขาย ถ้าไม่มีคนสนใจหุ้นตัวนี้ ราคามันก็ไม่ขึ้นน่ะสิครับ หรือว่าถ้ากิจการดีจริงๆ สุดท้ายก็จะมีคนแห่มาซื้อกันเองเหรอครับ มือใหม่น่ะครับ ยังไม่ค่อยเข้าใจจริงๆครับ ขอบคุณทุกคำตอบนะครับ ลองยกตัวอย่างให้ดูสักบริษัทได้มั้ยครับ บริษัทที่กำไรเติบโตทุกปี หลายๆปี แต่ราคาไม่ไปไหน โดย เหยี่ยวเดือน9 อังคาร มิ.ย. 14, 2011 11:07 pm

Re: ดีครับ เวลาหามูลค่าหุ้น มีใครชอบใช้DCFบ้างมั้ยครับ ผมก็กำลังศึกษาอยู่ นอกจากหนังสือคุณสุมาอี้แล้ว (ภาษาไทย) ยังมีหนังสือของ TSI ชื่อ "การประเมินมูลค่าตราสารทุน" ละเอียดกว่าของคุณสุมาอี้ครับ ผมจำไม่ได้ว่าซื้อมาจากไหน คิดว่าร้านหนังสือใหญ่ๆ น่าจะมี ร้าน B2S สาขาตรงตลาดหลักทรัพย์มีแน่ๆครับ หรือไม่ก็รองานสัปดาห์หนังสือก็ได้ครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 อังคาร มิ.ย. 07, 2011 10:07 pm

Re: ดีครับ เวลาหามูลค่าหุ้น มีใครชอบใช้DCFบ้างมั้ยครับ แม้จะใช้ยาก และไม่ได้กับหุ้นบางประเภท แต่ผมคิดว่าควรที่จะศึกษาไว้ครับ เพราะการศึกษาเกี่ยวกับกระแสเงินสดอิสระของบริษัท มันก็คือการศึกษาทั้งหมดของตัวบริษัท สุดท้ายแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ใช้มัน แต่ก็ทำให้เรารู้แล้วก็มองอะไรได้กว้างขึ้นเยอะครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ พ.ค. 27, 2011 11:16 pm

Re: %คิดลดกระแสเงินสดที่เหมาะสมเวลาใช้คำนวนDCF เป็นเท่าไรดีค คือผมกำลังร้อนวิชาเรื่องมูลค่าที่แท้จริงน่ะครับ :mrgreen: เคยแต่ใช้PE ก็เลยลองมานั่งคิดDCFเล่นๆ พบว่า%คิดลดตรงนี้เปลี่ยนใช้ 5%,10%,15%ก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนหมดครับ ถ้าใช้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่เราอยากได้อย่างพี่Chatว่า แล้วมันจะใช่มูลค่าเงินสดอนาคตของหุ้นตัวนั้นหรือครับ ใจผมคิดเองเอยากใช้เงินเฟ้อเพราะเป็นมูลค่าเงินเราที่จะลดลงจริงๆ แต่มันก็ไม่เห็นเค้าใช้กัน แล้วWACCนี่จะหาได้จากไหนอ่ะครับ ใช้อัตราเงินเฟ้อ มันจะน้อยไปครับ ไม่คุ้มกับความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด แล้วไม่สะท้อนโครงสร้างของบริษัทด้วย (แต่ละบริษัท โครงสร้างกับความเสี่ยงไม่เท่ากัน ถ้าใช้อัตราเงินเฟ้อมาเป็นตัวคิดลดเหมือนๆกัน มันก็ดูไม่เหมาะเท่าไร) อีกอย่างที่สำคัญคือ เราคงคาดอัตราเงินเฟ้อของหลายๆปีข้างหน้าไม่ได้ ยากเกินไป ส่วนการหา WACC ก็ลองหาหนังสือการเงินสักเล่มมาอ่านดูก็ได้ครับ น่าจะหาได้ไม่ยาก โดย เหยี่ยวเดือน9 จันทร์ พ.ค. 23, 2011 10:45 pm

Re: JAS [เฉพาะวันที่ 24 - 25 FEB 2011] เชิญคุยกันที่นี่ชั่วค นี่ไงครับ ไม่เห็นต้องลบแบบหูดับตับไหม้ ท่านก็สามารถใช้เหตุผลจริงๆอีกฝั่งแล้วหาหลักฐานยันข้อมูลได้ แมงเม่าจะได้อ่านทั้งสองฝั่ง ที่ย่อมดีกว่าให้แมงเม่าไปหาเสพข้อมูลที่อื่น modก็ไม่จำเป็นต้องใช้การลบลูกเดียว แล้วบอกว่าไม่เคยลบให้หาหลักฐาน ประเด็นอื่นไม่มี comment ครับ แต่เฉพาะข้อ 5 ที่กล่าวโจมตีธรรมมาภิบาลผู้บริหาร มันผิดกฎชัดเจนมากครับ ทาง mod ลบไปก็ถูกต้องแล้วครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 9:49 pm

Re: อยากทราบวิธีหาหุ้น peต่ำสุด ให้1คะแนน และ roe ต่ำสุด ให้ ลองอ่านหนังสือชื่อ the little book that beat the market ดูครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 9:58 am

Re: ถามเกี่ยวกับ .400 จากหนังสือ แก่นแท้ของบัฟเฟตต์ สถิติของคนตี เขาจะนับอัตราการตีลูกโดนต่อ 1 พันครั้งครับ(batting average)อย่างที่คุณโจว เอิน ไหล อธิบายไปแล้ว .400 ก็คือ ตีลูกโดน 400 ครั้งในพันครั้ง มีสำนวนการชมเชยคนที่ทำงานดีด้วยว่า "He is batting one thousand" ประมาณว่า คุณนี่เก่งจริงๆ ตีพันครั้ง ถูกพันครั้ง ส่วนนักตีที่เก่งที่สุดในโลกของเบสบอลจริงๆ เขายกให้ ไท คอบบ์ครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ ก.พ. 04, 2011 1:24 am

Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น อยากถามความเห็นครับว่า ถ้าต้องการเอามาอ่าน 56-1 ซื้อ Kindle แบบ จอใหญ่ หรือ จอเล็กดีกว่ากันครับ อยากเริ่มลองใช้มั่งครับ ถ้าเอามาอ่าน pdf เป็นหลัก ต้องจอใหญ่ 9.7" เท่านั้นครับ ถ้าจอเล็ก 6" จะอนาถมาก เนื่องจากการขยายฟอนต์กับซูมเข้า-ออก ของ kindle ทำได้ยากมาก(หน้าจอก็ไม่ใช่ touch screen ด้วย) โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ ก.พ. 04, 2011 12:34 am

Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คินเดิลยังไม่มี อีบุค ภาษาไทยใช่ไหมครับ หรือมีแต่น้อยอยู่หรือเปล่าครับ ไม่เคยใช้ครับ หากมีไฟล์ภาษาไทยมากพออยากซื้อมาลองใช้บ้างจัง เราสามารถส่งไฟล์ของเราให้ทาง amazon แปลงเป็น format สำหรับ kindle ได้(เสียค่าบริการ) แต่ kindle อ่าน pdf file ได้ครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้ว ผมมักจะแปลง file ที่ผมต้องการเป็น pdf file แล้วก็อ่านผ่าน kindle e-book ในไทยที่ปล่อยๆกันอ่านนี่ ก็เป็น pdf file ครับ อย่างพวก 56-1 หรืองบการเงินนี่ แต่ก่อนผม print ออกมาทีเปลืองกระดาษมาก จัดเก็บก็ยาก แต่เดี๋ยวนี้ผมแปลงเป็น pdf แล้วเก็บเข้า kindle เลยก็สะดวกดี โดย เหยี่ยวเดือน9 พฤหัสฯ. ก.พ. 03, 2011 11:17 pm

Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เหตุที่ amazon ขาย e-book ได้มากกว่า หนังสือเป็นเล่มได้ ก็เพราะ amazon ผลิตไอ้เจ้า amazon kindle ออกมานี่แหละ ใครที่ยังไม่เคยลอง kindle ถ้าลองใช้ดูจะพบว่า มันใกล้เคียงกับหนังสือจริงๆมาก ผมเองถ้าอ่านไปนานๆ จะลืมตัวว่า อ่านจากอุปกรณ์อิเลคทรอนิคอยู่ ส่วนในไทยผมว่าตลาด e-book เกิดยากเพราะปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์นะ โดย เหยี่ยวเดือน9 พฤหัสฯ. ก.พ. 03, 2011 10:20 pm

คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ [quote="chatchai"]ผมว่าความคิดที่ยังยึดติดต้นทุน เป็นความคิดที่ไม่สมเหตุสมผล หลักการขายของผม โดย เหยี่ยวเดือน9 พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2010 10:10 pm

คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ ไม่เคยคิดครับ โดยส่วนตัวผมมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล โดย เหยี่ยวเดือน9 พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2010 2:28 pm

หุ้นปันผล แบงค์ห้าร้อย 2 ใบ มีมูลค่าเท่ากับ แบงค์พัน 1 ใบ ครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 จันทร์ พ.ย. 01, 2010 11:46 pm

อยากให้มีหนังสือ vi ลงibooks บ้านเรามีปัญหาเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์เยอะ ถ้าจะมีตลาดe book จริง ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญอย่างนึง ที่อเมริกาe book โตมากแล้ว ปัจจุบันamazon ขายหนังสือที่เป็นe book ได้มากกว่าหนังสือที่เป็นรูปเล่มเสียอีก อุปกรณ์อย่างkindle ได้ยินมาจากเพื่อนที่อยู่ที่โน่นบอกว่าพกกันเกลื่อน เรื่องราคา e book ถูกกว่าหนังสือเป็นเล่มครับ อย่างของamazon จะถูกกว่าเยอะมาก โดย เหยี่ยวเดือน9 พุธ ก.ย. 22, 2010 8:55 am

สงสัยเรื่องมูลค่าหุ้นที่แท้จริง ผมคิดว่า ความหมายของมูลค่าหุ้นที่แท้จริงที่ดีที่สุด(มั้ง) คือ มูลค่ากระแสเงินสด(อิสระ)สุทธิในอนาคตทั้งหมดที่บริษัทจะหามาได้ครับ ปล.ราคาxจำนวนหุ้นคือ market cap. ครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 พุธ ก.ย. 15, 2010 10:47 pm

หุ้นถูก เต็มตลาด TUF นี่ถือว่ายังถูกไหม กับ แบรนด์อันดับ 1 ของโลก ในการขายปลาทูน่า ราคาประมาณ 64 บาท ดูเหมือนจะสูง แต่ถ้าคิดเป็นเงินดอลล่าร์ แค่ ประมาณ 2 ดอลล่าร์เอง คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ไม่เห็นด้วยครับ ไม่งั้นถ้าแตกพาร์เท่านึง อย่างนี้ราคาก็เหลือครึ่งนึง งั้นหุ้นก็ถูกลงมา น่าลงทุนมากขึ้น โดยพื้นฐานไม่เปลี่ยนเลยสิครับ ติงนิดนึง ไม่ว่ากันนะครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 อังคาร ส.ค. 31, 2010 3:52 pm

คิดผลตอบแทนยังไงดีครับ ถ้าเอาแบบละเอียดยิบ ต้องเอาผลตอบแทนจากการลดหย่อนภาษีมาคิดรวมด้วยครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 อังคาร ส.ค. 31, 2010 2:53 pm

เคยเห็นหุ้นตัวนึงเมื่อนานมาแล้วขึ้น CM แปลว่าอะไรหรือครับ CM = call market หุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย CM หมายถึงซื้อ - ขายได้ตอนช่วง call market ครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 พุธ มี.ค. 24, 2010 10:39 pm

ดันโด สู่ kelly formula เจตนาผมมันประมาณความเห็นของคุณ poppoกับคุณpeacedevครับ ถ้าโพสต์ไม่เคลียร์  ขออภัยครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 10:05 pm

ดันโด สู่ kelly formula [quote="nanchan"][quote="เหยี่ยวเดือน9"]ต่อให้เป็นยอดอัจฉริยะ คำนวณ prop. ในการลงทุนได้อย่างแม่นยำ แต่ edge/odds มันก็ยังมีข้อจำกัดกับหุ้นอยู่ดี ถ้าเจอหุ้นที่น่าลงทุน สัก 3 ตัว แล้วเคลลีให้ลงทุนแต่ละตัวที่ โดย เหยี่ยวเดือน9 อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 9:50 pm

ดันโด สู่ kelly formula นอกจากนี้การลงทุนในหุ้นยังต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลตอบแทน (ต่างจาก gambling) ระหว่างนั้นราคาหุ้นมัน dynamic อยู่ตลอด ค่าที่ได้จากเคลลี ก็จะเปลี่ยนตามราคาอยู่ตลอดเวลาไปด้วย ถ้าเราต้องคอยปรับพอร์ตตามตลอดเวลาก็ไม่น่าจะเวิร์ค ผมถึงคิดว่า เราสรุปเอาแต่แก่นที่ว่าลงทุนหนักๆกับสิ่งที่เรามั่นใจมากๆก็พอ ไม่จำเป็นต้องจริงจังกับค่าที่ได้จากสูตรของเคลลีมากนัก โดย เหยี่ยวเดือน9 เสาร์ ม.ค. 16, 2010 7:11 pm

ดันโด สู่ kelly formula ต่อให้เป็นยอดอัจฉริยะ คำนวณ prop. ในการลงทุนได้อย่างแม่นยำ แต่ edge/odds มันก็ยังมีข้อจำกัดกับหุ้นอยู่ดี ถ้าเจอหุ้นที่น่าลงทุน สัก 3 ตัว แล้วเคลลีให้ลงทุนแต่ละตัวที่  90%  85%  และ 80% กรณีอย่างนี้จะทำยังไง ถ้าคุณจริงจังกับค่าที่ได้จากสูตร แล้วอยากลงทุนทั้ง 3 ตัว คุณต้อง leverage เงินทุน 2.55 เท่า แต่ถ้าทำแบบนี้ ผลตอบแทนก็จะเปลี่ยน เพราะคุณต้องแบกรับภาระเงินกู้ด้วย ก็ต้องไปคำนวณเคลลีใหม่ แต่การ leverage มากๆแบบนี้ ควรที่จะทำหรือ? หรือถ้าจะบอกว่า งั้นลงทุนตัวเดียวคือตัวที่สูตรบอกให้อัดลงไป 90% แต่ปัญหาคือค่าจากสูตรที่มากกว่าคือการลงทุนที่ดีกว่าจริงหรือ? สมมติว่า 1.มีการลงทุนที่คุณได้ผลตอบแทนแน่ๆ โดยถ้าชนะจะได้ ผลตอบแทน 1%   ไม่มีโอกาสแพ้เลย 2.มีโอกาสชนะ 90%  โอกาสแพ้ 10%  ถ้าชนะ ได้ผลตอบแทน 200%  แต่ถ้าแพ้ เสีย 2% กรณีแรกเคลลีจะให้เราอัดเงินทั้งหมดลงไป 100% ส่วนกรณีที่ 2  เคลลีให้เราลงทุนประมาณ 90% ถ้าต้องเลือกตัวเดียว  คุณจะเลือกตัวไหน ถ้าเป็นgambling ที่ bet ได้เรื่อยๆ โดยแต่ละครั้ง prop. คงที่  ต้องเลือกทางแรก แต่ถ้าเป็นหุ้น   ทางแรกจะยังดีกว่ารึเปล่า โดย เหยี่ยวเดือน9 เสาร์ ม.ค. 16, 2010 7:04 pm

เทพ รุ่งธนาภิรมย์ พอพูดถึงคุณเทพ  คำว่าหุ้นปันผลก็จะลอยมาเลย แต่จริงๆนอกจากดูปันผล  คุณเทพยังให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านอื่นๆประกอบด้วย มองว่าแนวทางคุณเทพเน้นปันผลอย่างเดียว เป็นเรื่องที่เข้าใจไม่ถูกต้อง แต่เรื่องที่มัวแต่พะวงกับต้นทุนเดิม กับการเอากำไรมาเล่นแล้วสบายใจ 2 เรื่องนี้เป็นส่วนที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างมาก มัวแต่คิดต้นทุนเดิม จะทำให้ติดกับดักทางจิตวิทยาและตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย ส่วนการเอากำไรมาเล่นแล้วสบายใจจะทำให้ effort และความแหลมคมของการลงทุนลดทอนลงไป โดย เหยี่ยวเดือน9 เสาร์ ม.ค. 16, 2010 6:22 pm

ดันโด สู่ kelly formula คงไม่ต้องจริงจังกับค่าที่ได้จาก kelly formula นักหรอกครับ สรุปแค่ว่าเดิมพันหนักๆกับสิ่งที่เรามั่นใจมากๆ เหมือนกับ เบสบอลของปู่บัฟ ,7 โปกเกอร์ของลินซ์,ตีแตกของ ดร.นิเวศน์ สรุปแค่นี้ก็น่าจะพอ เดิมทีสูตรของเคลลี มันเหมาะกับการ bet ในสิ่งที่เรารู้ prob.ค่อนข้างแน่ bet แล้ว betอีกได้ โดย prob.ค่อนข้างคงที่ในแต่ละครั้งที่เราbet ซึ่งมันมีข้อจำกัดและแตกต่างค่อนข้างมากกับหุ้น โดย เหยี่ยวเดือน9 เสาร์ ม.ค. 16, 2010 9:59 am

เทพ รุ่งธนาภิรมย์ เทพ รุ่งธนาภิรมย์ นี่เป็นใครครับ555+ อยากรู้การเติบโตของขนาดพอร์ทของแกครับ ค่าของคนอยู๋ที่ผลของงาน ผมต้อนก่อนว่าเน้นปันผลสามารถทำกำได้ขนาดไหน.....ถ้าดีจริง ถึงจะเชื่อครับ.... คุณเทพเป็นนักลงทุนระดับคุณภาพท่านนึงครับ งานเขียนของคุณเทพผมก็คิดว่าดีเข้าขั้น คิดเหมือน เห็นต่างอย่างไรก็โพสต์แสดงในส่วนของความคิดเห็นดีกว่า โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 10:31 pm

เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้ ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2% 80 เท่าเลยเหรอ แค่ 8 เท่ามั้งครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 10:26 pm

เทพ รุ่งธนาภิรมย์ ทำไมครับ? ขายหุ้นเพราะกำไรมาเยอะแล้ว เป็นหนึ่งในเหตุผลที่แย่มากในการขาย ต้นทุนเดิมคือ sunk cost ไม่ควรมีผลในการตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้น แต่ผมก็เข้าใจประเด็นในหนังสือที่ต้องการจะสื่อนะครับ โดย เหยี่ยวเดือน9 พุธ ม.ค. 13, 2010 9:39 pm

เทพ รุ่งธนาภิรมย์ ผมเคยอ่านหนังสือ หุ้นห่านทองคำ มีอีก ประเด็นหนึ่้งที่น่าสนใจ คือ ถ้าหุ้น ขึ้นไป 100% เขาจะขาย แค่ครึ่งเดียว เพื่อทำให้ ต้นทุนหุ้นที่เหลืออยู่เป็น 0 เรียกว่าได้ห่านมาฟรีๆ จากนั้น จะถืออย่างสบายใจ เพราะต้นทุนเป็น 0 แต่ผมยังไม่เคยมีหุ้นที่ขึ้นไปถึง 100% นี่สิ ผมก็เคยอ่านหนังสือของคุณเทพ ประเด็นนี้แหละที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างที่สุด โดย เหยี่ยวเดือน9 พุธ ม.ค. 13, 2010 8:38 pm

นิคมอุตสาหกรรม กับสวนอุตสาหกรรม ต่างกันอย่างไร เอาเท่าทีผมเข้าใจนะครับ(ผิด ถูกอย่างไรไม่ขอยืนยัน) นิคมอุตสาหกรรม จะอยู่ภายใต้การดูแลของ การนิคมอุตสาหกรรม และต้องปฏิบัติตามพรบ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย     สวนอุตสาหกรรม หรือ เขตอุตสาหกรรมชื่ออื่นๆ เจ้าภาพอาจจะเป็ยเอกชน หรือ ส่วนงานของจังหวัด ท้องถิ่น   โดยไม่ได้อยู่ภายใต้การนิคมฯ  ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของการนิคมฯ เพียงแต่ต้องยื่นขออนุญาตตามพรบ.โรงงาน โดย เหยี่ยวเดือน9 อังคาร ธ.ค. 08, 2009 10:50 pm

Mint - Asset Light 1.1 ใช่ และ D/E จะลดลงมากด้วย 1.2 ใช่  ถ้า sssg ไม่ตก  แนวโน้มจะเป็นอย่างนั้น 1.3 เหมือน 1.2 (รายได้เป็น fee + ส่วนแบ่งซึ่ง base on เป็นเปอร์เซนต์ของรายได้) 1.4 ใช่ ถ้าเป็นอย่าง 1.1 - 1.3 2. เห็นด้วยครับ 3.มี แต่ถ้าใช้แนวทางนี้มากๆ ก็ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ ซึ่งจะขัดกับ แผนการลดเงินลงทุน 4. ผมคิดว่าไม่ถึงกับเป็นวัฏจักร  (แล้วถ้าเป็นวัฏจักร แล้ว pe เท่าไรจึงเรียกว่าสูง ) ตอนนี้ pe 27 เท่า  สูงกว่าตอนต้นปี ซึ่งต้นปีมี pe ประมาณ 14 เท่า จะบอกว่าซื้อตอนนี้ดีกว่าต้นปี หรือไม่ โดย เหยี่ยวเดือน9 พุธ พ.ย. 25, 2009 11:18 pm

Mint - Asset Light อ้าว ไม่ใช่โรงแรมแล้วเหรอ โดย เหยี่ยวเดือน9 พุธ พ.ย. 25, 2009 10:43 pm