หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
ShexShy
Joined: อังคาร ก.พ. 08, 2005 8:57 am
577
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - ShexShy
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
บริษัท วอเทอร์ เน็ท จำกัด (มหาชน) นี้ออกจากตลาดแล้วหรือครับ
:oops: อ้าว ยังไม่เข้าหรือครับเนี่ย ขอบคุณมากเลยครับ :o
โดย
ShexShy
พฤหัสฯ. พ.ค. 21, 2009 6:34 pm
0
0
ได้สถานที่จัดงานจิบเบียร์ Q2:5กย2008 แล้วครับ
ยังพอมีที่นั่งเหลืออยู่รือเปล่าครับ จะขอจอง 2 ที่ครับ มีผม และ เพื่อนผม 2nd_Wind ครับ ผมเองยังไม่เคยมาร่วมเลยครับ แต่เพื่อนเขาเคยเข้าร่วมแล้วครับ :o
โดย
ShexShy
อังคาร ก.ย. 02, 2008 12:08 pm
0
0
เครือข่ายการลงทุน
- ได้ปริญญาตรีวิศวะไฟฟ้าครับ ... กำลังหาโอกาสต่อโท MBA อยู่ครับ - ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของบริษัทแห่งหนึ่ง - ชอบผู้หญิงสวย น่ารัก คุยเก่งครับ ... :lol: ...
โดย
ShexShy
อาทิตย์ ส.ค. 31, 2008 12:40 am
0
0
ในขณะที่เรากำลังผลิตสินค้าจากวัตถุดิบใหม่ใหม่ทำไม
เทคโนโลยี มาก่อน และ ที่สำคัญ กฎหมายที่จะมารองรับครับว่าสามารถทำได้ โดยไม่ผิด กฎหมาย ...
โดย
ShexShy
อังคาร พ.ค. 13, 2008 10:48 pm
0
0
เห็นมีข่าวว่าจีน,ญี่ปุ่น จะตั้งกองทุนเหมือน temasek ?
[quote="สุมาอี้"]งี้พี่ไทยก็ the slowest to act อีกแล้ว (ตามเคย)[/quote] คงเป็นเพราะกลัวครับ ... กลัวโดนด่า กลัวโดนว่า กลัวม็อบ etc... ความกลัวทำให้ไม่กล้าทำอะไร แม้กระทั่งคิดที่จะทำ .. :o
โดย
ShexShy
ศุกร์ ก.ค. 27, 2007 12:57 am
0
0
ทีม Moderator ชุดใหม่ครับ
ยินดีด้วยครับ ขอให้ทำงานกันอย่างราบรื่นครับ เป็นกำลังใจให้ครับ :o
โดย
ShexShy
พุธ เม.ย. 04, 2007 12:10 pm
0
0
ช่วยมาวิเคราะห์ผลดี ผลเสีย ของ JTEPA หน่อยครับ
ที่น่าระวังก็เรื่องการขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่สามารถทำได้ ถ้าแจ้งก่อน 1 ปี คงจะมีการเจรจาต่องรองกันไปเรื่อย ๆ ล่ะครับ ตอนนี้ให้เงื่อนไขเราเซ็นต์ ก่อน แล้ว ต่อไป ก็ขอเปลี่ยนแปลง โดยใช้แรงภายใน ภายนอก บวกการกดดันเรื่องการลงทุน เงื่อนไขก็จะเปลี่ยนไปตามกรณีว่าใคร แข็งกว่า ต่อรองได้ดีกว่า :o
โดย
ShexShy
พุธ มี.ค. 28, 2007 11:45 pm
0
0
ข้อมูลคดีไอทีวีตั้งแต่ปี 42 -49 แล้วจะรู้ความจริง
อย่างนี้ Detac หรือ True ก็อยู่บนความเสี่ยง ถ้าเราเป็น Dtac หรือ True ไม่น่าประมาทเรื่องนี้นะครับ น่าจะมีวิธีแก้ไขให้มันถูกต้องซะ เช่น ส่งเรื่องให้ศาลปกครอง วินิจฉัย แทนที่จะต้องรอ ให้หน่วยงานของรัฐ เอาเข้ามติ ครม. คือ พยายามใช้ อำนาจศาลสั่ง หน่วยงานของ รัฐ เพราะ เดี๋ยว นี้ เกียร์ว่างเยอะ เพราะ เอกชน คงยากที่จะสั่ง รัฐ ได้ (ถ้าไม่เส้นใหญ่ จริง นะ) ผู้ถือหุ้น ก็น่าจะตั้งกระทู้ ถามผู้บริหารว่า ประเด็นเรื่องนี้ ควรจะจัดการอย่างไร ไม่ควรปล่อยให้อยู่เฉย ๆ ไม่งั้น .. เดี๋ยวเป็นเรื่องเหมือน ITV มันจะได้ จบ :o
โดย
ShexShy
ศุกร์ มี.ค. 09, 2007 12:04 pm
0
0
ข้อมูลคดีไอทีวีตั้งแต่ปี 42 -49 แล้วจะรู้ความจริง
คุยต่อ ... ขอบคุณ คุณ triathlon ที่ตอบคำถามครับ ครั้งนี้คงคุยในประเด็นที่บอกว่า เรื่องนี้ทำให้เกิดปัญหาทางกฏหมายตามมาเพราะสัญญาสัมปทานทั้งหมดของรัฐ เวลาแก้ไข ไม่เคยนำกลับเข้า ครม อีก ถ้าศาลถือเรื่องนี้เป็นแนวปฏิบัติ จะทำให้เกิดเรื่องสองมาตรฐานในการบังคับใช้กฏหมายไทย หลายท่านอาจมองผลประโยชน์ของรัฐนำ แต่ในทางทฤษฎี เรื่องนี้ถือเป็น "มหาชนทางแพ่ง" คือรัฐเข้ามาทำสัญญากับเอกชน ดังนั้น แม้ต้องรักษาผลประโยชน์ของรัฐ แต่ต้องคำนึงถึงการคุ้มครองภาคเอกชนด้วย ในอนาคต หากมีโครงการใหญ่ในไทยอีก กลุ่มนักลงทุน ธนาคารที่จะสนับสนุนโครงการของรัฐบาลไทย จะมองระบบกฏหมายไทยว่ามีสองมาตรฐานและมี political risk ทีสูงมาก ที่ผ่านมา แม้กฏหมายบางเรื่องเราจะล้าหลัง แต่ส่วนมากเป็นประเด็นปลีกย่อย แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่กระทบถึงหลักเกณฑ์ และพื้นฐานในการบังคับใช้กฏหมายเลน อันนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ อาจจะมองที่ระบบ และการรักษาระบบ at any cost มากไป) ถ้าจะยก case อย่าง ITV นี้มาศึกษา ผมยังมองว่า มันยังอยู่ในกรอบของ กฎหมาย ที่มีการเขียนไว้แล้ว risk ที่เกิดขึ้น คือ ไม่รู้ว่า เนื้อหาของ คำชี้ขาด ของอนุญาโตตุลาการ นั้น อยู่ในขอบเขต อำนาจหรือไม่ ... คราวนี้ สมมติ ดูว่า ศาลปกครอง บอกว่า เนื้อหาของ คำชี้ขาด อยู่ในอำนาจของ อนุญาโตตุลาการ ... สปน. ก็คงไม่มีสิทธิ์ ไปยึด สัปทาน หรือเปล่าครับ? และ บางทีเป็นการทำให้เห็นแน่ชัดว่า อนุญาโตตุลาการ มีขอบเขต ของ อำนาจคำสั่ง ไม่ใช่ จะกำหนด อะไรก็ได้ อนุญาโตตุลาการ ไม่ใช่ พระเจ้า ที่จะสั่งอะไรก็ได้ สั่งอะไร ต้องทำหมด ทั้ง ๆ ที่อยู่นอกเหนืออำนาจ อย่างนี้ คู่กรณี อย่าง สปน. กับ ITV จึงควรที่จะ พิจารณาให้ดี ในการเลือก อนุญาโตตุลาการ ถ้ามองในมุมมองของความชัดเจน ทางอำนาจตามกฏหมาย ยังเห็นเป็นแง่บวก (นอกจาก จะมีคนบอกว่า ศาล สั่งให้ตัดสินอย่างไรก้ได้ ซึ่ง หลายคน มีความเชื่อส่วนตัว ว่าอย่างนั้น) นักลงทุน ในไทย โดยเฉพาะ การทำสัปทาน กับรัฐ จะได้เห็นช่องทาง กรณ๊ที่ไม่เห็นด้วยกับอนุญาโตตุลาการด้วย เราในฐานะ นักลงทุน จะได้พิจารณา ว่าพวกบริษัท ที่ไม่เคยนำ สัญญา ที่แก้ไขเข้า ครม. นั้น อะไรที่เป็นความเสี่ยงเรื่องพวกนี้บ้าง ... :o
โดย
ShexShy
พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2007 9:58 pm
0
0
ข้อมูลคดีไอทีวีตั้งแต่ปี 42 -49 แล้วจะรู้ความจริง
ทำไมไอทีวีไม่ฟ้องศาลให้ถึงที่สุด เพราะ พรบ อนุญาโตตุลาการกำหนดว่า สัญญาที่มีข้อตกลงให้ใช้อนุญาโตตุลาการ ห้ามศาลรับฟ้อง ห้ามศาลรับฟ้อง เพราะกฏหมายต้องการให้ใช้อนุญาโตตุลาการแทนศาล แล้วทำไม สปน. ส่งให้ศาลได้ครับ :? อย่างนี้ ITV ก็มีทางออกไม่ใช่หรือครับ ว่า สปน. ส่งให้ ศาลไม่ได้ สปน. ก็ไม่น่าจะมีสิทธิ์ มาระงับ ช่องสัญญาณ ITV และ อีกกรณี ของ ช. การช่าง ทำไม เรื่องถึง เข้าศาล จนไปถึง ศาลฎีกาได้ครับ :?
โดย
ShexShy
พุธ มี.ค. 07, 2007 10:52 pm
0
0
ข้อมูลคดีไอทีวีตั้งแต่ปี 42 -49 แล้วจะรู้ความจริง
[quote="triathlon"]กรณีที่บอกว่า สปน ไม่ยอมรับคำตัดสินเท่ากับคำขี้ขาดอนุญาโตตุลาการไม่ผูกพัน ดีคะ คิดแบบนี้ก็ดี งั้นดิฉันหรือเอกชนคนไทยคนไหนก็ได้ ผิดสัญญาแล้วแพ้ในชั้นอนุญาโตตุลาการแล้วไม่ยอมรับ คำชี้ขาดก็ไม่มีผลผูกพัน ทั้งๆที่ กฏหมายไทยเอง (พรบ อนุญาโตตุลาการ พศ ๒๕๓๐) ระบุว่าคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการมีผลผูกพัน ที่คุณ "เพื่อน" บอว่าไอทีวีรู้ตัวว่าผิดเลยไม่ฟ้องสปน กลับ ไม่จริงคะ ไอทีวียื่นเรื่องข้อพิพาทต่อสำนักงานอนุญาโตตุลาการ กระทรวงยุติธรรมแล้วหลายสัปดาห์ เรื่องค่าปรับแสนล้าน ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ นี่แหละ ที่มาของว่าที่ "ค่าโง่ไอทีวี" ในอนาคต ข้อที่ว่าเรื่องค่าสัมปทานสูงมาก ค่าปรับสูงมากไปเซ็นทำไม อย่าลืมว่าในสัญญาระบุค่าสัมปทานที่สูงก็จริง แต่ก็ให้สิทธิ ไอทีวีว่า ถ้าหลังจากรัฐให้สัมปทานไอทีวี แล้ว รัฐ หรือหน่วยงานหน่วยใดหน่วยหนึ่งของรัฐ ไปให้สัมปทานใหม่ หรือต่ออายุสัมปทานโทรทัศน์ในค่าสัมปทานที่ต่ำกว่าที่ไอทีวีจ่าย หรือ อนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการเคเบิ้ลทีวีโฆษณาได้
โดย
ShexShy
พุธ มี.ค. 07, 2007 10:34 pm
0
0
ตกลง ทีวีของไอ ...
สมมติ ปี 38 ผ่านมติ ครม. ก็ถือว่า สิ่งที่ อนุญาโตตุลาการ ออก คำสั่งตัดสินมา ถูกต้อง ใช่หรือเปล่าครับ ศาล ก็ไม่มีสิทธ์ ค้าน อนุญาโตตุลาการ ... หรือมีเงื่อนไขอื่น หรือเปล่าครับ ที่ศาล มีสิทธิ์ ยกเลิก คำสั่ง ของอนุญาโตตุลาการ ... :o
โดย
ShexShy
พุธ มี.ค. 07, 2007 10:42 am
0
0
...ถ้าวันพรุ่งนี้ ถ้า ITV ต้องเหลือแต่ชื่อ...
[quote="ปรัชญา"]ผมมองเหมือนเคยเกิดกรณีการปิด56ไฟแนนท์ แล้วก็มาเปิดได้2แห่ง วิธีการก็คงไม่หนีกันเท่าไหร่ บริษัทถูกยึดสัมปทาน
โดย
ShexShy
พุธ มี.ค. 07, 2007 12:52 am
0
0
พักหลังหุ้น VI ทําแปล่ง แปล่ง !!!
[quote="chatchai"]อยู่ที่เจตนา
โดย
ShexShy
จันทร์ ก.พ. 26, 2007 12:39 am
0
0
พักหลังหุ้น VI ทําแปล่ง แปล่ง !!!
ให้หุ้น กำไรไม่โต ก็ dilute มาสู่สัดส่วน pe เดิม ให้หุ้น กำไรโต ก็คูณมูลค่าหุ้นด้วย pe ถ้ากำไรลด ก็ ... บริษัทที่ให้หุ้น แล้วมีแนวโน้ม กำไรโต ... ผู้ถือหุ้นเดิมก็ได้ผลตอบแทนเป็น capital gain จากตลาด (เหมือนเสี่ยงโชค เลย ถ้าไม่รู้ว่า กำไรปีต่อไปจะเป็นอย่างไร) บริษัท ที่ให้ความสำคัญกับมูลค่าหุ้น ถ้าบอกว่า ไม่สนใจผู้ถือหุ้นรายย่อย ดูใจร้ายไปหน่อย เพราะ ถ้าหุ้นขึ้น รายย่อย ที่มีหุ้น ก็มีกำไรด้วย และการเพิ่มหุ้นในแง่ดี ก็คือ free float ในตลาด (แปลงหุ้นเป็นเงินได้ง่าย) สุดท้าย ก็ไม่รู้ว่าดี หรือไม่ดี รอวัดกันที่ผลการดำเนินงาน q1 นั้นล่ะครับ ช่วงนี้ก็ลุ้น ๆ ๆ และ ทำการบ้านเยอะ ๆ ครับ ... :o ..
โดย
ShexShy
อาทิตย์ ก.พ. 25, 2007 11:53 pm
0
0
ชี้แจงเหตุไม่เข้าใจที่ผ่านมา
Ok ครับ :o เป็นกำลังใจให้คนทำงาน ครับ สังคม มันมีคนหลาหลายขึ้น ความปวดหัวย่อมมีมากขึ้น สิ่งที่มอบให้ได้ตอนนี้ ก็เป็นกำลังใจ ครับ :o
โดย
ShexShy
อาทิตย์ ก.พ. 25, 2007 1:50 pm
0
0
...TEAM แจกโชค 2 ชั้น...
กำไร 305 ล้าน ถ้าปันผล 90% ของกำไรก็ 270 ล้าน แต่ตอนนี้มีเงิดสด 215 ล้าน ไม่พอที่จะจ่ายปันผล 90% ก็เลยลดมา 40% และจ่ายอีกเป็นหุ้นแทน ทำให้มีเงินสดเหลือที่จะบริหาร 95 ล้าน แทนที่จะต้องกู้เงินมาจ่ายปันผล ในแง่ผู้ถือหุ้นเดิม น่าจะดี เพราะ ได้หุ้นเพิ่ม อยากได้เงินก็ขายในตลาด แทน เพราะ บริษัทไม่มีเงินให้ ต้องสำรองไว้ เป็นเงินสดหมุนเวียนบ้าง :o
โดย
ShexShy
อังคาร ก.พ. 20, 2007 2:18 pm
0
0
ฉิ่ง เวิ้น อี๋ เซี้ย เรื่อง CK ครับผม
http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/16/WW10_WW10_news.php?newsid=5091 [quote] ศาลฎีกายกฟ้องค่าโง่ทางด่วน 6 พันล. 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 08:45:00 "คำพิพากษาศาลฎีกา"ยกฟ้อง กรณีกิจการร่วมค้า บีบีซีดี ฟ้องการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ชำระเงินค่าปรับกว่า 6 พันล้านบาท กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : จากปัญหาการส่งมอบที่ดินการก่อสร้างทางสายบางนา-บางพลี-บางปะกง ล่าช้า ซึ่งกลับคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่ชี้ขาดตามอนุญาโตตุลาการ ให้กทพ.จ่ายค่าปรับ ที่เรียกกันติดปากว่า "คดีค่าโง่ทางด่วน" มีรายละเอียดดังนี้ คดีนี้ กิจการร่วมค้า บีบีซีดี (บิลฟิงเกอร์ เบอร์เกอร์ เอจี ที่ 1 บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ที่ 2 วัลเทอร์ เบา เอจี ที่ 3) ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยชำระเงินค่าปรับ เนื่องจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยส่งมอบพื้นที่ใช้ในการก่อสร้างทางสายบางนา-บางพลี-บางปะกง ล่าช้า รวมเป็นเงิน 6,039,493,254 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามข้อกำหนดในสัญญาจ้างออกแบบรวมก่อสร้างโครงการทางด่วนสายบางนา-บางพลี-บางปะกง การทางพิเศษแห่งประเทศไทยผู้ถูกฟ้องคดีคัดค้านว่า การดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการไม่ชอบด้วยกฎหมาย สัญญาดังกล่าวทำขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาโดยมีพฤติการณ์ฉ้อฉลหลายประการ และในขณะนั้นผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยบางคนถือหุ้นอยู่ในบริษัท ช.การช่างฯ ฝ่ายผู้ฟ้อง โดยซื้อในราคาจองก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ และขายไปภายหลังลงนามในสัญญา และมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนได้รับสิทธิจองหุ้นในราคาต่ำกว่าราคาตลาดทำให้ได้ประโยชน์ในส่วนต่างของราคาซื้อเมื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อันมีลักษณะให้ประโยชน์ ตลอดจนการลงนามจ้างวิศวกรที่ปรึกษาขัดต่อมติของคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีพฤติการณ์ฉ้อฉลและคัดค้านด้วยเหตุอื่นอีกหลายประการ ขอให้ยกฟ้อง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้พิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยผู้ถูกฟ้องยกข้อต่อสู้ว่า สัญญาอนุญาโตตุลาการทำขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาร่วมกิจการร่วมค้า บีบีซีดี ผู้ฟ้องมีพฤติการณ์ฉ้อฉลหลายประการ ซึ่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้วินิจฉัยข้อต่อสู้ดังกล่าวว่า นิติกรรมหรือสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างกิจการร่วมค้า บีบีซีดี ผู้ฟ้อง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ถูกฟ้อง หากมีการทำขึ้นเพราะกลฉ้อฉล ผลในทางกฎหมายอย่างมากก็เป็นเพียงโมฆียะในเมื่อไม่ปรากฏว่ามีการบอกล้าง สัญญาจึงชอบด้วยกฎหมายและฟังไม่ได้ว่าเป็นสัญญาที่เกิดจากกลฉ้อฉล ศาลฎีกา เห็นว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทยผู้ถูกฟ้องเป็นหน่วยงานทางปกครองที่จัดตั้งขึ้นโดยกฎหมายฝ่ายมหาชน สัญญาจ้างเหมาออกแบบรวมก่อสร้างโครงการทางด่วนสายบางนา-บางพลี-บางปะกง ที่กิจการร่วมค้า บีบีซีดี ผู้ฟ้อง กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ถูกฟ้องการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ถูกฟ้อง ทำโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายในฐานะหน่วยงานทางปกครองที่เป็นองค์กรนิติบุคคล การใช้อำนาจของผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งกระทำการในนามการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ถูกฟ้อง จะผูกพันการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ถูกฟ้องต่อเมื่ออยู่ภายใต้หลักความชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำนาจดังกล่าวจะต้องมิใช่เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือมีการบิดผันอำนาจทางหนึ่งทางใดอีกด้วย ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ถูกฟ้องอุทธรณ์ในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 ซึ่งเป็นกฎหมายที่จัดตั้งการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ผู้ถูกฟ้องย่อมยกขึ้นกล่าวอ้างได้ และเมื่อข้อเท็จจริงแห่งคดีรับฟังได้ ก่อนลงนามในสัญญาจ้างเหมาออกแบบก่อสร้างโครงการทางด่วนฯ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในขณะนั้นได้รับผลประโยชน์จากฝ่ายผู้ฟ้องในรูปสิทธิซื้อหุ้นของฝ่ายผู้ฟ้องในราคาต่ำกว่าราคาตลาดจำนวน 10,000 หุ้น และสิทธิซื้อหุ้นของบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 70,000 หุ้น ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด และผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในขณะนั้นได้ดำเนินการให้มีการลงนามในสัญญาจ้างเหมาออกแบบร่วมก่อสร้างโครงการทางด่วนฯให้จงได้ ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นมีปัญหาความไม่พร้อมหลายประการ จนเป็นเหตุให้ถูกนำไปใช้เป็นข้ออ้างในการขยายระยะเวลาและเรียกร้องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในเวลาต่อมา ทั้งได้ยืนยันการส่งมอบพื้นที่และให้ผู้ฟ้องเริ่มงาน อันเป็นผลให้ผู้ฟ้องมีสิทธิได้รับเงินเพื่อใช้เริ่มงานก่อสร้าง จำนวน 1,977,000,000 บาท และเป็นการเริ่มนับของกำหนดเวลาแล้วเสร็จของการดำเนินการก่อสร้าง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ายังไม่พร้อมที่จะส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้ฟ้อง ซึ่งเป็นการกระทำโดยไม่คำนึงว่า ผู้ถูกฟ้องหรือรัฐจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบสักเพียงใด ผิดปกติวิสัยของเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ เมื่อพิจารณาประกอบกับประโยชน์ที่รับจากการจองหุ้นดังกล่าวแล้ว น่าเชื่อว่าผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในขณะนั้นต้องการจะช่วยเหลือผู้ฟ้องโดยเห็นแก่ประโยชน์ที่ฝ่ายผู้ฟ้องจัดให้ จึงถือว่าการใช้อำนาจในฐานะผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในขณะนั้นที่ลงนามในสัญญาจ้างเหมาดังกล่าวเป็นการปฏิบัติมิชอบด้วยกฎหมาย ขณะเดียวกันบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ฝ่ายผู้ฟ้องเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ดังกล่าว เจ้าหน้าที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง และเจ้าหน้าที่ของรัฐคนอื่นๆ ได้ซื้อหุ้นในฐานะผู้มีอุปการะคุณโดยให้โควตาตามลำดับตำแหน่ง รวมทั้งการจัดสรรหุ้นบริษัทในเครือให้มีสิทธิซื้อก่อนทำสัญญาจ้างเหมาออกแบบร่วมก่อสร้างโครงการทางด่วนฯ ถือว่าผู้ฟ้องได้ให้ประโยชน์แก่ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในขณะนั้น และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อจูงใจให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการทำสัญญาดังกล่าวโดยเอื้อประโยชน์แก่ผู้ฟ้อง กรณีจึงต้องถือว่า ในการทำสัญญาดังกล่าวของผู้ฟ้อง ผู้ฟ้องใช้สิทธิโดยไม่สุจริตอีกด้วย สัญญาจ้างเหมาออกแบบร่วมก่อสร้างโครงการทางด่วนฯ ซึ่งเกิดจากการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่มีผลผูกพันผู้ถูกฟ้อง หากศาลบังคับให้ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการย่อมเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาจึงพิพากษากลับ ให้ยกคำฟ้องของผู้ฟ้อง [/quote] ผมว่าเราได้รู้อะไรมากขึ้นกับกรณีนี้นะครับ บริษัท ที่มีรายได้จากการประมูล หน่วยงานของรัฐ คงต้องพิจารณา เรื่องการให้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน แก่คนในวงราชการมากขึ้นล่ะครับ หรือ หาวิธีการอื่น นักลงทุนที่จะซื้อหุ้น ก็ต้องระวังข้อกฏหมายนี้ด้วยสิ ที่สำคัญมีหลักฐาน ว่าร่วมกัน คอรัปชั่น ในสัญญานี้ รายได้จากงานประมูลนี้ จะถือว่าเป็นรายได้ โดยมิชอบหรือเปล่าครับ? :o
โดย
ShexShy
ศุกร์ ก.พ. 16, 2007 10:30 am
0
0
คิดอย่างไรกับการจะเปิดใช้สนามบินดอนเมือง
มองในแง่ของการมี 2 สนามบิน ดี ที่ มีสำรองเผื่อ ฉุกเฉิน อีก 1 สนามบิน อย่างกรณีที่ เครื่องบิน ที่ การบินไทย ต้องไปลงจอดที่ อู่ตะเภาก่อน ... การมี สองสนามบิน นี้ก็จะป้องกันได้ การรองรับ การเป็น ฮับ ก็จะเพิ่มมากขึ้น เช่น ความ เป็น ศูนย์ ของ อาเซียน ถ้าสังเกตุ ดูแผนที่ ... ถ้านักท่องเที่ยว อย่างมาเที่ยวที่ อาเซียน ให้ครบ ก็แวะ มาเมือง ไทย แล้ว ต่อไปยัง ประเทศ ใกล้ ๆ ได้ง่ายมาก 1-2 ชม. ก็ ถึง เวียดนาม พม่า ลาว สิงคโปร์ etc... สุวรรณภูมิ ก็อาจจะรองรับไม่พอ และ ทำให้ สุวรรณภูมิ ยังไม่ต้องเร่ง ขยายมากนัก ค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขึ้น แต่ ดู ๆ ไป น่าจะคุ้มกว่า ยังเฉย ๆ กับการตัดสินใจครั้งนี้ ยังไม่เห็นข้อเสีย อะไรที่รุนแรง ครับ :o
โดย
ShexShy
พุธ ก.พ. 07, 2007 12:57 pm
0
0
เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????
ถอนเงินออกเร็ว โดนเก็นค่าเข้ามา 10% หรือเปล่าครับ? ผมเอาเงินเข้ามา 100 หัก ไป 30 เหลือ 70 ภายใน 1 ปี ต้องให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก กี่ % ถึงจะ ได้กำไร ??? :o
โดย
ShexShy
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:22 pm
0
0
ทำไมเมืองไทยต้องมีกม.ห้ามต่างชาติถือหุ้นเกิน 51%
เอกชนไทย ดีกว่า เอกชนต่างชาติ อย่างไร เอาเป็นว่าในมุมมองของผม คือ ใช้กฎหมายไทย บังคับได้ ต่างชาติ ถ้าทำผิดที่เมืงไทย อาจจะต้องมีเรื่อง สัญญาระหว่างประเทศ (อันนี้ต้องอาศัยผู้รู้) เรื่อง ทำไมต้องมี กฎหมายที่ห้ามการถือครอง เป็น สัดส่วนเกิน 49% นั้น มันก็มีข้อดีของมัน โดยเฉพาะ ในเรื่องความมั่นคง ก็เลยเห็นว่า เขาจำแนก กลุ่ม ธุรกิจ ที่จำเป็น และ ไม่จำเป็น ส่วนจะจำแนก ได้เหมาะสมหรือไม่นั้น ก็คงขึ้นอยู่กับ กึ๋น ของรัฐบาล มากกว่า การที่มีอะไรที่ชัดเจน เรื่องนิยามของ นอมินี นั้น ผมยังมองในแง่บวก แต่สิ่งที่มองได้ในแง่ลบ คือ สมมติ กรณี รัฐบาลชุดนี้หมดวาระแล้ว คิดว่า รัฐบาลชุดต่อไปจะแก้ กฎหมายนี้ใหม่หรือไม่ ? .... :o ...
โดย
ShexShy
พุธ ม.ค. 10, 2007 12:20 am
0
0
บ่าย วันนี้มีการประท้วงหน้าตลาดหลักทรัพย์
มาร์ ล้นตลาด เลยบีบให้ออกทางอ้อม ... กดดันให้เหลือ มาร์ ที่เก่ง ๆ ที่สามารถให้คำปรึกษา ได้นะครับ เดี๋ยวนี้ หลายคนคงนิยม Trade ผ่าน Internet มากขึ้น เพราะ ศึกษาเองได้ + อื่น ๆ ไม่จำเป้นต้องใช้ มาร์ เท่าไรนัก อาจจะเป็นรงผลักดันมาจากการคาดการว่าการซื้อขายแบบ day trade ลดลง และ volume จะน้อยลง จริง ๆ ThaiVi ที่นี้ มีผล อยู่ไม่น้อยนะเนี่ย เปลี่ยน แนวคิด ทัศนคติ การลงทุนได้หลายคนเลยละครับ .. ระวังเขาจะมาประท้วง ThaiVI นะครับ :lol: ... ...
โดย
ShexShy
พุธ ธ.ค. 27, 2006 5:43 pm
0
0
ผมคิดว่าพวกเราน่าจะฟ้อง ธปท.นะครับ
รอสักระยะ แล้วผล มันออกมาไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ดูว่า ชาวบ้าน บ่นเรื่องข้าวของแพงขึ้นหรือเปล่า ตกงานมากขึ้นหรือเปล่า .. ถ้าดี จะเป็นตัวอย่างให้กับ ตลาดหุ้น ในอีกหลายประเทศ ที่อาจจะทำตาม ถ้าไม่ดี ก็เป็นตัวอย่างให้อีกหลายประเทศ ไม่อยากทำตาม ... เห็นมีคนบอกว่า เป็นวิธีการที่ อาเจนตินา เคยทำ ... มีรายละเอียดต่างกันอย่างไรครับ ใครรู้ บ้าง ... :o แต่วิธีนี้ เหมือนป้องกัน เงินร้อนไหล เข้าออก เร็วเกินไป ไม่รู้ ว่าป้องกัน การฟอกเงินได้หรือเปล่า ...
โดย
ShexShy
อังคาร ธ.ค. 19, 2006 7:34 pm
0
0
อัตราการเติบโตของบริษัท
สมมติ รายได้เท่าเดิม กำไรเท่าเดิม เงินสดมากขึ้น ข้อ ค. บอกว่าโตขึ้น .... สมมติ รายได้ลด กำไรลด (ไม่ได้ขาดทุน) ข้อ ค. ก็บอกว่าโตขึ้น เพราะ เงินสดมากขึ้น ... งั้นถ้าเรียก ข้อ ค. ใหม่ว่า เป็นการสะสมเงินสด ... ข้อ ค. ติดลบเมื่อ เงินสดลดลง เช่น ปันผล ลงทุน ... อย่างนี้ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ :o
โดย
ShexShy
พฤหัสฯ. พ.ย. 16, 2006 1:25 am
0
0
Re: ใครเคยทำธุรกิจกับจีน ไต้หวัน ด้วยภาษาอังกฤษมั้ยครับ
วันนี้ทำสถิติใหม่ คุย 1 ชั่วโมง ได้ 2 เรื่อง (ประเภทคำตอบ Yes/No) โทรคุย 3 ฝ่าย โรงงานจีนแดง, Center ไต้หวัน ผมอยู่เมืองไทย ถามไป 1 ประโยค ไต้หวันแปลให้จีนแดงฟังประมาณ 10 นาที สรุปไม่รู้เรื่อง ถามใหม่ แปลใหม่ ..... อาจจะเป็นเหตุผลที่ Electronics ในเมืองไทยยังอยู่ได้ก็เป็นได้ครับ ราคาอาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ถ้างานมันซับซ้อนมากๆ แต่คุยไม่รู้เรื่องซักทีคนจ้างก็เจ๊งได้ง่ายๆครับ การใช้ e-mail ก็ช่วยได้บ้างครับ ถึงจะช้าบ้าง แต่ แน่นอน ว่าเราต้องการพูดอะไรไป ป้องกันคนฟังไม่รู้เรื่องครับ เพราะ มีบันทึก ไม่รู้เรื่องก็ย้อนอ่านใหม่ได้ หรือบางที ก็ภาษาใบ้ครับ ชี้โน่น ชี้นี้ มีรูปประกอบ ก็พอพยักหน้าได้ ว่าเข้าใจตรงกัน แต่ทางโทรศัพท์ นี้ ลำบากครับ กว่าจะอธิบายให้เข้าใน บางทีก็งงเองไปด้วย ...
โดย
ShexShy
อังคาร พ.ย. 14, 2006 11:32 pm
0
0
10 เดือนนี้ ชนะตลาดกันได้เยอะมั้ยครับ ขอแอบถามเซียนๆ
มีใครซื้อ TEAM ก่อน ประกาศ เพิ่มทุน บ้างครับ ถ้าใครถือ ไว้ ตอนนี้ก็ 200 กว่า ๆ เปอร์เซ็นต์ ครับ :o
โดย
ShexShy
ศุกร์ พ.ย. 03, 2006 5:34 pm
0
0
MBKหนาวค่าเช่า 20 ปี 2 หมื่นล.
ขึ้นอยู่กับการทำเจรจามากกว่า ละมั้งครับ ไม่น่าจะถึงหรอกครับ เพราะ ถ้ามากขนาดนั้น MBK ถ้าไม่ขายของแพงขึ้นก็อยู่ไม่ได้ แต่ปีละ 150 ล้าน ก็ถือว่าถูกมากนะครับ (เทียบกับเวลานี้) เพราะ ถ้าเกิดมีการประมูลเช่าที่ 150 ล้านนี้ สู้ไม่ได้หรอกครับ เรื่องสัญญา การยก อาคารนี้ ก็ เป็นธรรมดาของการเช่าที่ครับ ที่แน่ ๆ MBK ย่อมต้องหาทางหารายได้จากที่อื่น มาเสริม เรื่องกำไรที่หายไป. :o
โดย
ShexShy
พฤหัสฯ. พ.ย. 02, 2006 7:28 pm
0
0
จิงๆ แล้ว หุ้น ต่างจากเงินอย่างไร
เงิน กับ หุ้นเป็น สินทรัพย์ เหมือนกัน แต่ ธรรมชาติ ต่างกัน เงิน เป็นสินทรัพย์ ที่มูลค่าไม่มีทางเพิ่มขึ้น (เทียบกับสกุลเงินเดียวกัน) หุ้น สามารถเป็นสินทรัพย์ ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ (รวมถึงสินทรัพย์ ตัวอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงิน) .. จำ เขามาอีกทีครับ ...
โดย
ShexShy
จันทร์ ต.ค. 16, 2006 9:32 pm
0
0
หุ้นกลุ่มเหล็ก.....
มีใครสนใจ BSBM หรือเปล่าครับ ... :o
โดย
ShexShy
พุธ ต.ค. 04, 2006 11:51 pm
0
0
Dear Economist
ขอแจมด้วยคนครับ Dear Economist ทำไม เห็นแต่คนขอหวยจัง เพราะ อะไร ถ้าไม่มีหวยแล้ว ข้าวของมันจะถูกลงบ้างไม๊ ถ้ามันถูกลงจริง จะได้รณรงค์ให้ คนบ้าหวย เลิกซื้อหวย กลับบ้านนอกเห็นทุ่งนา ข้าวเขียวขจี ดี ทำไง มันยังจะคงอยู่อย่างนี้เรื่อยไปได้น้อ ขอบคุณครับ :o
โดย
ShexShy
เสาร์ ก.ย. 16, 2006 12:23 am
0
0
แหล่งพลังงานในอีก 30 ปีข้างหน้า
น่าสนใจครับ เพราะ ถ้าจริง ก็เป็น ความรู้ใหม่สำหรับผม ยังไงจะลองค้นข้อมูลที่เป็น journal ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ดูให้ครับ ถ้ามีเวลา :o
โดย
ShexShy
อังคาร ก.ย. 05, 2006 12:48 pm
0
0
แหล่งพลังงานในอีก 30 ปีข้างหน้า
[quote="สามัญชน"]ปัจจุบันมีการค้นพบจนสามารถเปลี่ยนสสารเป็นพลังงานได้ และแม้มนุษย์จะยังไม่สามารถเปลี่ยนพลังงานกลับมาเป็นสสาร
โดย
ShexShy
อังคาร ก.ย. 05, 2006 10:42 am
0
0
Thai VI Fund
เรื่องตั้งมูลนิธิ หรือ กองทุนนี้ คงมีเรื่อง บัญชี เข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อรายงาน กรมสรรพากร นะครับ ส่วนเรื่องใบหุ้นนี้ของใคร คงเป็นไปได้ 2 อย่างคือ บุคคล กับ นิติบุคคล (กรณีซื้อหุ้นนะครับ) ก็คงมีเรื่อง ภาษี บัญชี ที่ต้องรายงาน อีกจิปาถะครับ อนาคตคงมีค่อนข้างแน่ละครับ คุณ Mom Money เป็นคนตัดสินใจลงทุนอย่างนี้ Port น่าจะโตวันโตคืน .. (6% ต่อเดือน :o ) หรือ ถ้าไม่อยากเข้าระบบ => ปล่อยกู้นอกระบบครับ ...( :lol: )
โดย
ShexShy
จันทร์ ก.ย. 04, 2006 11:48 pm
0
0
รบกวนถามเรื่องเช่าซื้อรถจักรยานยนต์หน่อยครับ
มอเตอร์ไซค์ ประหยัดน้ำมัน เป็นไงบ้างครับ พอจะเห็นความแตกต่างบ้างหรือเปล่าครับ หรือ ใช้ NGV กับ รถมอเตอร์ไซค์ หรือ มอเตอร์ ไซค์ ที่บรรทุก ดี ปลอดภัย คิดเรื่อยเปื่อยน่ะครับ :o
โดย
ShexShy
อังคาร ส.ค. 29, 2006 11:05 pm
0
0
ประเทศที่ขาดดุลค่าเงินถึงมักจะอ่อนแต่ทำไมเวลาอเมริกาขาดดุล..
ผมคิดว่าสุดท้ายถ้าสหรัฐแก้ปัญหาขาดดุลไม่สำเร็จเพราะประเทศเอเชียไม่ยอมปล่อย ผลตอบแทนตลาดพันธบัตรสหรัฐจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกดดันเศรษฐกิจภายในสหรัฐให้ตกต่ำ แล้วกำลังซื้อของสหรัฐก็จะอ่อนยวบลงเอง ทำให้การขาดดุลลดลงในที่สุด ซึ่งจริงๆ แล้วผมว่าดีกว่าการให้จีนลอยตัวหยวนอย่างเฉียบพลันเสียอีก เพราะจะเป็น soft landing มากกว่า สงสัยครับ ... ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ ทำไมการที่ผลตอบแทน พันธบัตร สูงขึ้น ทำให้ เศรษฐกิจตกต่ำ ได้ครับ ... ใช่เพราะ มีแต่การลงทุนใน พันธบัตร จนไม่มีการลงทุนใน ภาคเศรษฐกิจจริง หรือเปล่าครับ :o
โดย
ShexShy
อาทิตย์ ก.ค. 23, 2006 3:33 am
0
0
กล่าวถึง itv.....
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000086190 เรื่องนี้ ท่าทางจะยาวครับ :o
โดย
ShexShy
อังคาร ก.ค. 04, 2006 4:36 pm
0
0
คนไทยทำไมผลิตเครื่องเสียง เครื่องเล่น DVD
เพราะ ง่ายครับ คือ ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่อง ความปลอดภัยเหมือนรถยตร์ ไม่ต้องอาศัยประสบการณ์ มากมาย และ คนไทยมีคนเก่งเรื่อง electronics เยอะอยู่แล้ว และ ถ้าจะให้ง่ายขึ้นอีก คือ นำเข้ามาตีตรายี้ห้อ เท่านั้นเอง มาตราฐานที่บังคับ ก็ไม่ได้ยากเหมือนของรถยนตร์ โอกาสเกิด จึงง่ายกว่า รถยนตร์ยี้ห้อไทยครับ :o
โดย
ShexShy
อังคาร มิ.ย. 27, 2006 9:43 am
0
0
## ทำไมประเทศไทย ไม่ผลิตรถยี่ห้อของตัวเอง คะ ##
ขอ comment ว่ายากมากครับ คือ ผลิตแล้ว ให้สามารถขายแข่งได้ ผมเชื่อว่า ถ้าเราทำรถมาดี สักพักก็จะมีคนบอกว่า นี่รถดี ราคาถูก (แต่กว่าจะบอกว่าดี ได้ ก็ต้องใช้เวลา ทดลอง และโอกาส ซึ่งคนไทย ยังไม่ค่อยให้โอกาสกันเท่าไร และ ที่แย่กว่านั้นอีก พอให้โอกาส มักจะเอาเปรียบกัน ไม่พัฒนา) มาตราฐานการผลิต การตรวจสอบ ยังสู้ บริษัทที่เขาอยู่มานานไม่ได้ครับ พวกนี้ต้องอาศัย Knowhow และ Technology ซึ่ง อาจจะต้องอาศัยการร่วมทุนมากกว่า อย่างรถไทยรุ่ง Adventure ผมว่า ออกแบบสวยนะ แต่เครื่องยนตร์ ยังไม่ใช่ของคนไทย แต่ Brand เป็นของคนไทย ... แต่ไม่รู้ว่าจะสู้ได้อีกเท่าไร เพราะ ยังแพงอยู่ :o
โดย
ShexShy
อังคาร มิ.ย. 27, 2006 9:40 am
0
0
อ่านแล้วน่าคิดทำไม ถึงไม่ลดดอกเบี้ย เพื่อสู้เงินเฟ้อ
กระทู้นี้ได้ความรู้เยอะขึ้นอีกมากเลยครับ คุณภาพของการลงทุนของบ้านเรายังไม่ดีเท่าไรนัก คือ ผมมองว่า การลงทุนของบ้านเรายังเป็นการลงทุนที่ได้ผมตอบแทนที่ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ย ซึ่ง เป็นการลงทุนที่มี margin ค่อนข้างน้อย เช่น ลงทุนในการตั้งบริษัทซื้อมาขายไป ลงทุนสร้างโรงงานที่ยังไม่มี know how ของตัวเอง ซึ่ง การลงทุนในรูปแบบนี้ มูลค่าเพิ่มจะมีน้อย แล้วพอต้องมาเทียบกับอัตราดอกเบี้ย ก็แทบจะต้องคิดความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า การมองอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้านาน ๆ ถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องดูให้ดี ๆ เพราะต้องดูสถานการณ์ ต่างประเทศอยู่เนื่อง ๆ (ไม่เฉพาะ อเมริกา) แถมหลัง ๆ ก็มีเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอีก การที่ต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเพิ่มการลงทุนในรูปแบบนี้ ... ไม่เป็นการสร้างเสถียรภาพเท่าไรนัก เพราะ พออัตราดอกเบี้ยขึ้น กำไรลดในสัดส่วนที่สูง หรือ อาจถึงขั้นขาดทุนได้ ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะ ถ้าเรามองดูอดีต อัตราดอกเบี้ย จะขึ้นลงค่อนข้างเร็ว (จาก 0.5 มา 5 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาไม่กี่ปี ไม่ถึง 10 ปี) การลงทุนที่ไม่มีคุณภาพนี้ จะทำให้ทุนย้ายได้เร็วขึ้น (เพราะ สามารถขายทิ้ง และไปสร้างระบบที่อื่นได้ไม่ยาก เหมือน ต่างคนก็ย้ายฐานไปผลิตที่จีน) ส่งที่จะทำให้การลงทุนมีคุณภาพคือ การใส่ Know How เพื่อเพิ่ม Margin ให้มีสัดส่วนที่ดอกเบี้ยมีผลน้อยมาก และเป็นการ Protect การย้ายฐานการผลิต การให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง จะทำให้คนคิดถึงการลงทุนที่มีคุณภาพมากขึ้น แต่ถ้าคนไทยเรา คิดไม่ออก ว่าจะลงทุนอะไร ก็ฝากเงินไว้ก่อน ... การหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยในระดับสูง ก็จะส่งผลให้ธนาคาร มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องได้ (ไม่มีเงินมาจ่ายดอกเบี้ย เพราะไม่มีใครกู้มาลงทุนกัน) ระบบทุนนิยม จึงต้องหาอะไรมาช่วยให้เกิดการหมุนเวียนเงินเสมอ เช่นตลาดหุ้น พันธบัตรรัฐบาล etc. ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือ ช่วยให้เกิด การหมุนเงิน ไปเรื่อย ๆ (จนบางครั้งช่วยดีเกินไป จนทำให้ Real Sector ไปไม่ทัน จนกลายเป็นการเก็งกำไรไป) การให้อัตราดอกเบี้ยที่เหมาะมกับ สภาวะของแต่ละประเทศจึงดีกว่า
โดย
ShexShy
พุธ มิ.ย. 21, 2006 1:01 am
0
0
ประเทศไหนโลกที่มีวิธีการแก้ปัญหาความจนได้ดีที่สุดคับ
ประเทศที่มีคนขยัน ใช้ความรู้ที่มี ให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ใช้ทรัพยากรที่มีได้อย่างคุ้มค่า ต้องทำให้คนในประเทศนั้น ๆ เป็นอย่างนี้ ประเทศถึงเจริญ มีความรู้ ความขยัน มีความดี สามารถเผชิญกับทุกปัญหา ได้อย่างไม่ต้องกังวล... :o
โดย
ShexShy
ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 12:48 am
0
0
ปัญหาของเงินเฟ้อ คือน้ำมันแพง พลังงานแพงหรือเปล่า
สาเหตุของเงินเฟ้อ ที่ น่ากลัวที่สุด คือ ฐานเงินเพิ่มขึ้นครับ :o
โดย
ShexShy
พุธ มิ.ย. 07, 2006 2:41 am
0
0
ขอแรงเพื่อนๆเป็นกำลังใจให้หน่อยด้วยการลงชื่อ
:o ให้ 1 เสียงครับ :o
โดย
ShexShy
จันทร์ พ.ค. 29, 2006 1:06 am
0
0
ถึงเวลาจะมีห้อง เทคนิก หรือยัง
ไม่เห็นด้วยที่จะแยกห้องครับ ... (พูดตรง ๆ คือ ทุกเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนก็อยู่ในห้องนี้ล่ะครับ หาง่ายดี) เพราะ บางสิ่งบางอย่างเราแยกไม่ออกว่า อันนี้เทคนิค หรือ vi ดี ถ้าใครอยากจะ Post เรื่องเทคนิค ก็ให้เป็นกระทู้หนึ่งในนี้ (อาจจะพิเศษหน่อยที่มีการปักหมุดก็ได้นะครับ ใครอยากคุยเรื่องเทคนิค ก็เข้ากระทู้นั้นเลย) จะได้อยู่ด้วยกัน ที่ห้องเดียว ใครอยาก search ข้อมูลอะไร ก็ ใช้ วิธีการ search (อาศัยเทคนิค .. นิดหน่อยเป็นเครื่องมือในการค้นหา) เสนอแนะนิดหน่อยครับ ... :o
โดย
ShexShy
จันทร์ พ.ค. 29, 2006 12:44 am
0
0
เขาว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้น บริษัทนำเข้ากำไรเพิ่ม กัน15%
ไม่ทั้งปีครับ ผู้ที่ซื้อต่อ จะต่อรองราคาเรื่องค่าเงิน หรือ ออกเงื่อนไขใหม่ เช่น กำหนดให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ. วันที่นำเข้าสินค้า เป็นต้น ได้กำไรจากสัญญาที่ค้างอยู่ ... :o
โดย
ShexShy
จันทร์ พ.ค. 08, 2006 1:18 am
0
0
เห็นอะไรมั้ย?
ผมไม่เห็นสาเหตุทั้งสิบนะ
โดย
ShexShy
อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 6:17 pm
0
0
เห็นอะไรมั้ย?
ทำไมอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบแล้วดอกเบี้ยถึงขึ้นครับ และ ทำมันอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ดอกเบี้ยถึงขึ้นครับ ... รบกวนคุณ chaichai อธิบายเป็น step ด้วยครับ จะได้ช่วยให้ความรู้กับหลายๆ คนที่นี้ด้วยครับ :o ในความคิดผมอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพราะ ความต้องการเงินของธนาคารมีมากขึ้น ส่วนทำไมธนาคารถึงต้องการเงินมากขึ้นนั้น มันมีหลายสาเหตุ แต่ทุกสาเหตุจะส่งผลให้ธนาคารมีสภาพคล่องลดลง จึงต้องการเงินเพื่อให้มีเงินไว้ เพียงพอต่อการใช้จ่ายหลาย ๆ อย่าง เช่น การปล่อยกู้เพื่อการลงทุนในอนาคตเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การที่มีหนี้เสียมากขึ้น ทำให้เงินหายไป จึงต้องมีการเตินเงินเข้ามาหรือ เงินหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร เป็นต้น :o ผมว่าที่คุณ ShexShy ตอบมานี่ก็ครอบคลุมดีแล้วนิครับ เงินหนีไปอยู่ที่อื่น หรือ ดูดเงินที่อื่นมาที่ธนาคาร เพราะให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร หรือ ธนาคารแบบเดียวกันแต่ที่อื่นให้ดีกว่า[/quote] ประเด็นต่อมาคือ ทำไมเงินถึงหนีไปอยู่ที่อื่น อะไรเป็นสาเหตุให้เงินหายไปครับ (เป็นการลงลึกไปถึงรายละเอียด) ถ้ามันมี 10 สาเหตุ อะไรเป็นสาเหตุหลัก ส่งผลต่อมายังอัตราดอกเบี้ยได้กี่ % :o
โดย
ShexShy
อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 4:46 pm
0
0
เห็นอะไรมั้ย?
1. อัตราดอกเบี้ยแท้จริงติดลบ 2. อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ทำไมอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบแล้วดอกเบี้ยถึงขึ้นครับ และ ทำมันอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ดอกเบี้ยถึงขึ้นครับ ... รบกวนคุณ chaichai อธิบายเป็น step ด้วยครับ จะได้ช่วยให้ความรู้กับหลายๆ คนที่นี้ด้วยครับ :o ในความคิดผมอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพราะ ความต้องการเงินของธนาคารมีมากขึ้น ส่วนทำไมธนาคารถึงต้องการเงินมากขึ้นนั้น มันมีหลายสาเหตุ แต่ทุกสาเหตุจะส่งผลให้ธนาคารมีสภาพคล่องลดลง จึงต้องการเงินเพื่อให้มีเงินไว้ เพียงพอต่อการใช้จ่ายหลาย ๆ อย่าง เช่น การปล่อยกู้เพื่อการลงทุนในอนาคตเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การที่มีหนี้เสียมากขึ้น ทำให้เงินหายไป จึงต้องมีการเตินเงินเข้ามาหรือ เงินหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร เป็นต้น :o
โดย
ShexShy
อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 3:40 pm
0
0
นิตยสารสรรพากร รายได้Q1/2549
ปีที่แล้ว 295 725 ล้านบาท ปีนี้ 305 936 ล้านบาท การเติบโตของรายได้ => (305936 - 295725)/295725 = 3.45% เป้าที่ตั้งไว้ 300 642 ล้านบาท สามารถทำได้เกินเป้า (300642 - 295725)/295725 = 1.67% <= น่าจะเป็นการตั้งเป้าแบบที่ยังไงก็บอกว่าผ่านตามเป้าหมาย คือ ไม่ได้คิดถึงการเติบโตทางเศรษกิจ ด้วยเลย รายได้นี้น่าจะพอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเช่น เงินเดือนข้าราชการ โครงการที่อนุมัติแล้ว และเป็นรายจ่ายผูกพัน อื่น ๆๆ แต่ ไม่น่าพอสำหรับการลงทุนโครงการใหญ่ ๆ หรือ ไม่มีเงินพอสำหรับการลงทุน ถ้าจะลงทุนต้องกู้ไปลงทุน :o
โดย
ShexShy
อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 1:30 pm
0
0
เห็นอะไรมั้ย?
สนุกดีครับ กระทู้นี้ ถามคุณ 007-S ตอนต่อคิว นอกจากต่อว่าเขาแล้ว ก้ปล่อยให้เขาลัดคิวอย่างนั้นหรือเปล่าครับ? คุณ chatchai ครับ ติดสินบนยาม นี้ เราควรทำอย่างไรครับถึงไม่ให้เกิดการติดสินบนยามอีก? การผลักดัน เราเริ่มที่เราเองได้ แต่ เราจะขยายวงได้อย่างไร ทำอย่างไร ใครคนใหนจะมาฟังเราคอยจำจี้จ้ำใช ห้ามโน่น ห้ามนี้ ญาติก็ไม่ใช่ ใครกัน ที่บอกปุ๊บ เสียงดัง ต้องมีคนฟัง ใครกัน ที่เป็นตัวอย่างได้อย่างดี เรามีแรงน้อย ก็ทำตามแรงที่มี ใครมีแรงมากก็ช่วยผลักได้มากหน่อย ... แต่ยังไงก็ต้องช่วยกัน และ เสริมว่า ไม่ใช่บอกว่า ก็ข้าพเจ้าออกแรงแล้ว ทำตามหน้าที่ก็หมดเรื่องแล้ว ... ... เรื่องการเงิน ถามหน่อยครับ ว่าทำไมช่วงนี้ดอกเบี้ยขึ้น เพราะ อะไร มันมีการส่งผลกันเป็นทอด ๆ (เอาหัวโขนการเมืองออกเหมือนคุณลูกอิสานบอกด้วยนะครับ) มาหาต้นตอสาเหตุของดอกเบี้ยที่ขึ้นดีมั้ยครับ .... มุมมองด้านอื่นๆ ของตัวเลขที่นำมาอ้าง ผมได้โพสต์ไว้ในกระทู้แล้ว แต่ขอสรุปสั้นง่ายๆ อย่างนี้ครับ 1.รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศมาแล้วประมาณ 5 ปี แล้วทุกปีใช้จ่ายพยุงเศรษกิจอย่างนี้หรือเปล่า ถ้าใช่แสดงว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ก็ต้องถามว่าแล้วปี 2004 ละครับ ทำไมใช้จ่ายน้อย 2.การใช้จ่ายเหล่านี้ ผันผวนไปตามเมกะโปรเจคหรือเปล่า ซึ่งคงไม่สามารถสร้างกันได้ทุกปี ถ้าปีไหนมีการสร้าง ตัวเลขก็ต้องกระโดดขึ้นเป็นธรรมดา 3.การใช้จ่ายเหล่านี้ อยู่ในกรอบงบประมาณ หากรัฐหารายได้เพียงพอรายจ่าย เราจะไปกังวลทำไมกับตัวเลขเหล่านี้ 4.การใช้จ่ายเหล่านี้เพื่อกระตุ้นเศรษกิจหรือสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนหรือเปล่า ตอบคำถามตามความเห็นของผม 1. ทุกปีใช้พยุงครับ รายจ่ายของรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ของการเติบโตของ GDP การที่รัฐบาลไม่มีรายจ่ายเลย GDP บางส่วนจะหายไป และต้องชดเชยด้วยการผลิตภาคเอกชนที่ไม่ได้ป้อนให้รัฐบาล ส่วนปี 2004 ใช้จ่ายเรื่องอะไรบ้างครับ (การชดเชยราคาน้ำมันนี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายของรัฐบาลหรือไม่ครับ และ เป็นการพยุงเศรษฐกิจหรือไม่ ... ถ้าไม่นับรวมว่าเป็นการพยุงเศรษฐกิจ นี้มันก็เหมือนกับการเล่นบัญชีนะครับ) 2. เมกะโปรเจคยังไม่ได้ทำเลยนะครับ ตลอด 5 ปีของการบริหาร ผมเรียกว่าใช้จ่ายกันแบบไม่มีประสิทธิภาพ ตอนนี้ต้องมาดูว่าจะต้องไปกู้เงินมาทำงานเมกะพวกนี้อีกเท่าไร (ยิ่งกู้ตอนร้อนเงิน ไม่รู้ดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นอย่างไร และที่สำคัญสิ่งนี้เป็นหนี้สาธารณะ) 3. ใช่ครับอยู่ในกรอบงบประมาณขาดดุล (คือ รัฐบาลกู้มาใช้จ่าย ... จะสมดุลได้ตามเป้าที่วางไว้หรือเปล่านี้ชักไม่แน่ใจ) 4. ความสามารถในการแข่งขัน แย่ลง (ต้นทุนการจัดการแพงขึ้น และ คุณภาพคนทำงานของเราไม่ได้ดีขึ้นกว่าเก่าเท่าไรนัก) และที่สำคัญ ความขยันน้อยลง , คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น คือ สัดส่วนรายได้ กับค่าใช้จ่ายแย่ลง อัตราเงินออมลดลง หมายความว่า ความเสียงด้านการเงินของแต่ละคนมากขึ้น (ไม่รู้ว่าตัวนี้จะรวมอยู่ในการประเมินด้านคุณภาพด้วยหรือเปล่า) เหมือนสมการบัญชี บอกว่าทรัพสินย์ ของเรามากขึ้น แต่ที่มาของทรัพย์สินนั้นไม่ได้มาจากส่วนทุน แต่มาจากส่วนของหนี้สิน ส่งผลให้รายจ่ายมากขึ้น ถ้าทรัพยสินย์ สามารถสร้างรายได้คุ้มกับรายจ่ายนี้ก็ดีไป แต่ถ้าทำให้รายจ่ายมากกว่าหนี้สิน นี้รอสักพัก น้ำลดตอก็จะผุด **** เรื่องการใช้จ่ายของสิ่งที่คุ้มค่า และ เป็นตัวอย่างให้รัฐบาลได้อย่างดีที่สุดอย่างนึงก็คือ โครงการขยายอ่างเก็บน้ำที่กุยบุรี โดย พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ท่านทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ในการนี้ด้วย จะเห็นว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก สร้าง GDP ให้ประชาชนแถบนั้นได้อย่างมหาศาล คือ เพียงแค่ปีเดียวก็คุ้มทุนแล้ว สิ่งนี้เป็นตัวอย่าง ที่ดีสำหรับทุกคนที่ได้มาเป็นรัฐบาลที่ต้องคิด และ ต้องเดินตามราอยพระบาทในเรื่องนี้ ไม่ใช่ลงทุนอย่าง CTX ... **** :o
โดย
ShexShy
อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 5:14 am
0
0
ผมลองทำกราฟวิเคราะห์ความต้องการใช้ไฟฟ้าของเมืองไทย
เป็นเรื่องของการทำสำรองเพื่อครับ ยิ่งมีสำรองน้อย โอกาสที่ไฟจะตกก็จะสูงครับ และ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการกระจายโหลดของแต่ละประเทศครับ เรื่อง 60-40 ผมจำได้ลาง ๆ ตอนสมัยเรียนครับ ตอนนี้ที่ประเทศไทย ไม่รู้เป็นเท่าไรครับ รู้แต่ว่า ตอนที่เรียนอยู่ ประมาณ 70-30
โดย
ShexShy
จันทร์ พ.ย. 28, 2005 10:37 am
0
0
106 โพสต์
of 3
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
ShexShy
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร ก.พ. 08, 2005 8:57 am
ใช้งานล่าสุด:
จันทร์ มิ.ย. 07, 2021 7:54 am
โพสต์ทั้งหมด:
577 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.03% จากโพสทั้งหมด / 0.08 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว