หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
nemsdaddy
Joined: พุธ พ.ย. 25, 2009 7:11 am
108
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - nemsdaddy
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
ชาวVI ล้างพอร์ตหรือเปล่าครับเวลาหุ้นขาลงแบบนี้
ผมเห็นด้วยกับหลายท่านในที่นี้ว่า การลดพอร์ตควรทำตอนที่หุ้นพุ่งขึ้นไปมาก ๆ และนักวิเคราะห์หลายค่ายออกมาคาดการณ์ว่าดัชนีจะขึ้นไปถึงระดับนั้น ระดับโน้น ใคร ๆ ก็อยากซื้อหุ้นเพิ่ม เมื่อนั้นแหละเป็นจังหวะล้างพอร์ตใช้หนี้มาร์จิ้นและถือเงินสดไว้กินดอกเบี้ยถูก ๆ ไปก่อนเพื่อรอโอกาสอย่างสบายใจ จังหวะแบบนี้ขายออกไปจะมีคนรับซื้อไว้ตลอด เราขายแล้วใครซื้อน่ะหรือครับ ก็มวลชนคนที่จะติดดอยในอีกไม่ช้าไม่นานนั่นไงครับ ผมจำได้แม่นเลยครับ มีอยู่ช่วงหนึ่งหลังปฏิวัติ 19 กันยา 49 ดร.ศุภวุฒิสายเชื้อออกมาพูดว่าหุ้นจะไป 800-900 จุด บรรยากาศน่าลงทุนไปหมด ไม่นานหุ้นก็เริ่มตกลงและมาตกมาก ๆ ตอนหม่อมอุ๋ยเข็นมาตราการสกัดกั้นทุนนอกไม่ให้บาทแข็งเกินไปออกมาใช้ แล้วตอนไหนที่จะซื้อล่ะครับ ก็ตอนหุ้นตกมาก ๆ อย่างตอนนี้ไงครับ ทยอยเก็บไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ เพราะยังไงก็จะมีคนทนไม่ไหวที่หุ้นตกแล้วไม่ไปไหนเสียทีทยอยล้างพอร์ตออกมาให้เราดักซื้อถูก ๆ ได้เรื่อย ๆ ตอนนี้ใช้เงินสดที่รออยู่นั่นแหละครับเอาออกมาซื้อ จนกระทั่งสัญญาณด้านบวกเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ คนจะขายน้อยลง ตอนนี้หุ้นจะเริ่มไต่ขึ้น ขณะไต่ไปนี้เราก็ทยอยเก็บต่อด้วยเงินกู้มาร์จิ้นครับ เงินกู้มามีดอก ดังนั้นต้องเอามาใช้เฉพาะตอนห้นวิ่งขึ้นไปครับ ไม่งั้นดอกกินหมด พอเราซื้อมาแล้วหุ้นวิ่งขึ้น เงินที่สามารถกู้ได้ก็จะเพิ่มเป็นเงาตามตัว ทำไปเรื่อย ๆ จนข่าวดีล้นตลาด มีคนมาบอกอีกว่าหุ้นจะขึ้นไปถึงตรงโน้น ตรงนั้นอีก เราก็ทยอยขายใช้หนี้มาร์จิ้น ทำแบบนี้เป็นรอบ ๆไปครับ สำหรับคำถามที่ว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าหุ้นตกลงมามากแล้วหรือยัง คำตอบคือดูที่หลักฐานการ over sold ในกราฟทางเทคนิค แบบว่าพวก RSI , SKD ตกลงมาแกร่วอยู่ด้านล่าง สลับขึ้นบนเป็นระยะแต่จะย้ำบริเวณด้านล่างถี่ ๆ นั่นแหละคือย่ำอยู่ในกรอบ over sold ถ้ามองดูกราฟในช่วงนี้จะพบว่า ดัชนีอยู่ต่ำกว่า เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันค่อนข้างมาก ตราบใดที่ดัชนียังอยู่ใต้เส้น 200 dy MA มาก ๆ ถึงจะดีดขึ้นก็จะไม่มีแรงพอที่จะเลยขึ้นไปได้ จนกว่าดัชนีจะเคลื่อนไปใกล้เส้น 200 day MA แล้วเท่านั้นจึงจะมีแรงพอกระโดดพ้นขึ้นไปได้ครับ ดังนั้นการเป็น VI แบบไม่ดูจังหวะเลยจะพบด้วยตัวเองว่าตอนหุ้นตกมาก ๆ ราคาต่ำกว่ามูลค่ามาก ๆ เราจะไม่มีเงินสดไว้ซื้อหุ้นเพิ่มเลยครับ
โดย
nemsdaddy
พุธ ก.พ. 17, 2010 10:51 pm
0
0
วิเคราะห์มูลค่าหุ้นคร่าว ๆ ตามแบบ มาร์ค โมเบียส
ระหว่างรอต้องมีเงินสดในมือ นี่ควรต้องมีอยู๋กี่%หรอครับ? เพราะถ้าน้อยไปก็ไม่มีประโยชน์ มากเกินไปก็เสียโอกาส ตอบคุณ picklife: ผมเคยอ่านมาว่าเซียนบางคนถือเงินสดรอโอกาสประมาณ 40% ครับ ผมเองยังทำแบบนั้นไม่ได้ คือถืออยู่ 0% ทุกทีครับ แต่ถ้าทำตามสูตรพระพุทธเจ้า ท่านให้ลงทุน 50%ของเงินที่มี เอาไว้ใช้ประจำวัน สงเคราะห์ญาติ ทำบุญบริจาคทาน 25% อีก 25%กันสำรองฉุกเฉินครับ ใครทำได้ย่อมส่องสว่างเพียงกองไฟครับ รายละเอียด search คำว่า สิงคาลกสูตร อ่านดูได้ครับ อันนี้เพิ่งรู้ครับ....สินทรัพย์-หนี้ ไม่เท่ากับ BVหรอกหรอครับ???? ถามพี่ๆว่าเพราะอะไรครับ? ตอบคุณ picklife: มันก็อันเดียวกันนั่นแหละครับ บางคนเรียก NAV แต่ใช้ว่า สินทรัพย์-หนี้ หารด้วยจำนวนหุ้น เด็ก ม.ต้น ก็คำนวณต่อได้ครับ ทำอะไรให้ง่ายเข้าไว้ ทำนองเจ้าสัว ป. สี่ ดีที่สุดครับ ผมเห็นด้วยกับคำที่ว่า พูดง่ายแต่ทำยาก ถูกต้องที่สุดครับ ทำยากจริง ๆ ไม่งั้นมวลชนคงรวยกันเละแล้วครับ แต่โชคร้ายที่มวลชนจะขาดทุนเสมอ เพื่อให้ผู้ชนะส่วนน้อยกำไรไงครับ อยากสอบถามคุณ nemsdaddy ว่าการหามูลค่าหุ้นจากสินทรัพย์สุทธิ (หักหนี้สินแล้ว) หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมด นั้นเพียงพอสำหรับการดูว่าบริษัทนั้นดี โดยส่วนตัวผมเองอาจจะดูว่าไม่เหมาะสมเท่าไหร่เนื่องจากยังมีเรื่องของคุณภาพของกิจการเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ตอบคุณ peodpeod55: ถูกต้องครับ ต้องดูอะไรอีกหลายอย่างโดยเฉพาะคุณภาพของผู้บริหาร แต่ข้อมูลจากการคำนวณง่ายๆ ที่ผมลองทำดูจะให้ภาพหลังฉาก ตัดภาพลวงตาจากสื่อต่าง ๆ ออกไป ส่วนนักลงทุนจะมองข้อมูลและตัดสินใจไปทางใดขึ้นอยู่กับแต่ละคน จริงๆแล้วผมเชื่อว่าคนเรามองต่างมุม ตัดสินใจต่างกันเพราะกรรมให้ผลกับแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำบุญบ่อยๆ (อย่าอธิฐานขอโน่นนี่แบบค้ากำไรเกินควร แบบข้าวทัพพีเดียวแต่หวังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทำบุญเพื่อลดความเห็นแก่ตัวดีกว่าครับ) ยกตัวอย่างจากตาราง หุ้น PS พฤกษา มูลค่าตามงบการงิน (ซึงเป็นอันเดียวกันกับ BV อย่างที่คุณpicklife ว่านั้นแหละ) ประมาณ 5 บาท แต่ราคาปัจจุบันประมาณ 18 บาท นักลงทุนแบบ VI คนไหนกล้าบอกว่าหุ้นถูกบ้างครับ ผมดูกราฟแล้วยิ่งสูงยิ่งหนาว ราคาห่างจากเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแบบฟ้ากับเหว ยังไงก็ต้องปรับตัวลงมา แต่ถ้ามันยังขึ้นต่อเราจะไปเสียดายทำไม แต่ถ้าดูจากข่าวจะอดทนไม่ซื้อ PS ได้ยากจริง ๆ เพราะตอนนี้มีข่าวแทบทุกวัน กำไรแบบฟ้าถล่ม ไปเจาะตลาดอินเดีย มัลดีฟ น่าซื้อมาก แต่ช้าก่อน ตารางเตือนเราว่าอย่าประมาทเพราะหุ้นเกินมูลค่าไปแล้วเกินสามเท่า จะเสี่ยงอีกหรือ ถ้ามันขึ้นไปอีกแล้วเราไม่ได้ซื้อก็ไม่น่าต้องทุกข์ร้อนอะไร น่ายินดีกับคนที่เขามีหุ้นนี้อยู่เสียอีก วิธีนี้ใช้ได้ ถ้าพื้นฐานกิจการในอนาคตยังไม่เปลี่ยน ตอบคุณ Financial Engineer: ใช่ครับ เพราะเหตุนี้จึงต้องอัพเดทข้อมูลใหม่ทุกครั้งที่มีรายงานการดำเนินงานแต่ละไตรมาสออกมา โดยปรับตัวเลขเป็นแบบเต็มปี ซึ่งเว็บ settrade.com ทำไว้ให้อยู่แล้ว ใครเข้าเน็ตเป็นย่อมทำเองได้ จากตาราง ตัวที่โอกาสกำไร จากราคาวิ่ง บางตัว ก็น่าลุ้น เอาไว้ตีแตก บางตัว คล้ายๆเทิร์นอะราวด์ ตัวที่ติดลบ เสี่ยงราคาจะร่วง ก็เป็นหุ้นดีๆ ที่คนคาดหวังอย่าง บ้านปู ปูนใหญ่ พฤกษา dcc โฮมโปร ซีเอ็ด ...... ดูแล้วเหมือนการวิเคราะห์เชิงราคา ดูโอกาสทำกำไร จากแคปปิตอลเกน มากว่าการดูคุณภาพของกิจการ ตอบคุณ bladew124: ครับ ข้อมูลส่วนแรกเป็นข้อมูลตามงบการเงิน เอามาสัมพัทธ์กับราคาปัจจุบัน ท่านต้องทำการบ้านต่อเองโดยใช้ตารางเป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้หลงไปกับภาพลวงตาครับ บางท่านอาจจะใช้ข้อมูลในตารางมาใช้สังเกตพฤติกรรมของหุ้นที่ท่านสนใจอยู่ก็ได้ เช่นผมสนใจ CK อยู่ก็รู้ว่าตอนนี้หุ้นตกลงมาจากจุดสูงสุดก่อนปีใหม่ประมาณ 7 บาท มาเหลือประมาณ 5 บาทในตอนนี้ เมื่อดูตามมูลค่าจากงบการเงินในตาราง มูลค่ามีแค่ 3.75 บาท เราก็คอยสังเกตว่ามันจะลงต่อไปอีกหรือไม่ อย่างไร แต่ตอนนี้โบรกเกอร์บางแห่งประมาณเป้าหมายไว้ 8.90 บาท คำนวณโดยผลรวม DCF ของบริษัทย่อยทั้งหมด พอสังเกตไปนาน ๆ เราจะเริ่มรู้นิสัยหุ้น (นิสัยของคนที่ลงทุนใน CK) จะเริ่มรู้ว่าเมื่อไรควรเข้าซื้อ เมื่อไรควรแปลงเป็นเงินสด เป็นต้น ผมเองกำลังเริ่มพัฒนาทักษะพวกนี้อยู่ครับ ผมจะคอยเพิ่มหุ้นไปเรื่อย ๆ จนครบทุกตัวในตลาด ตามแต่เวลาจะอำนวยครับ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อยครับ
โดย
nemsdaddy
พฤหัสฯ. ก.พ. 11, 2010 6:12 pm
0
0
เมื่อเกจิอาจารย์พากันออกมาฟันธงว่า... SET จะลง
ผมได้อ่าน "เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ของคุณพิชัย แล้ว (พิมพ์ครั้งที่ 3) มีบางบทในหนังสือที่คุณพิชัยทำนายอนาคตผิด เรื่องว่า คนอเมริกันรู้ล่วงหน้าแล้วว่า ตลาดหุ้นจะร่วงมากและจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อเรียนรู้จากประเทศในเอเชียแล้วจึงหาทางป้องกัน โดยทำนายว่าจะไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นในสหรัฐอเมริกา (แต่คุณพิชัยคาดผิด เพราะได้มองคนอเมริกันในแง่ดีเกินไป โดยไม่คาดคิดว่า คนอเมริกัน สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ก็จัดอยู่ในประเภท mass ด้วย และจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม การกระทำและการแก้ปัญหาของสถาบันการเงิน ของรัฐบาลสหรัฐ และประชาชนทั่วไปซึ่งสุดท้ายนำไปสู่วิกฤต ได้เป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ทำไว้ก่อนหน้านั้น โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง) แต่เนื้อหาส่วนอื่น ๆ นอกนั้นให้แง่คิดที่ดีมาก และผมเห็นด้วยที่ว่า mass คือผู้ที่ขาดทุนตลอด เป็นหนังสือที่มีประโยชน์มากครับ ในปัจจุบันผมเองได้เริ่มประยุกต์ใช้แนวคิดนี้ในการลงทุนจริงของผมแล้ว ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถติดตามได้ที่ http://thailandstockinvestment.blogspot.com และศึกษาการหาจังหวะลงทุนจากวีดีโอสอนฟรี ที่ http://sites.google.com/site/freetechnicalanalysistutorial
โดย
nemsdaddy
พุธ ม.ค. 20, 2010 11:50 pm
0
0
streaming program?
สมัครเป็นสมาชิก Settrade.com ก็น่าจะใช้ได้แล้วนี่ครับ
โดย
nemsdaddy
พุธ พ.ย. 25, 2009 8:46 am
0
0
ส่งเงินเข้าโบรกเกอร์ในอเมริกาต้องทำยังไงคะ
ไม่ทราบว่าได้ยื่นแบบ W-8 BEN ไว้กับโบรกเกอร์แล้วหรือยัง คือแบบฟอร์มนี้จะเป็นเอกสารยืนยันว่าเรามีสัฐชาติไทย ไม่ได้อาศัยอยู่ในสหรัฐ และไม่ได้มีกิจการหรือธุรกิจใด ๆในประเทศนั้น เป็นเพียงนักลงทุนรายบุคคลเท่านั้น ถ้ายังไม่ได้ยื่นเอกสารนี้ให้สรรพากรสหรัฐ (ยื่นเป็นเอกสารกระดาษที่มีลายเซ็นจริงทางไปรษณีย์ ผ่านเคลียริ่งเฮาส์ของโบรกเกอร์) จะไม่สามารถทำรายการอะไรได้เลย และเอกสารนี้ต้องยื่นใหม่ทุก 2 ปี ลองอีเมล์ไปถามว่าเป็นเพราะเรื่องนี้หรืเปล่า ครับ
โดย
nemsdaddy
พุธ พ.ย. 25, 2009 8:44 am
0
0
กระทู้หุ้นต่างประเทศ
ผมลงทุนในหุ้นของสหรัฐอยู่ครับ เปิดบัญชีมาตั้งแต่ 1997 ซื้อขายด้วยตัวเองทางอินเตอร์เน็ต www.tradingdirect.com ค่าคอมครั้งละ 9.95 USD ตอนนี้ถือหุ้นอยู่ตัวเดียวคือ Google (GOOG) ไม่ดูตัวอื่นเลย เพราะดูหลายตัวไม่ไหว คนไทย หรือคนทั่วโลกต่างรู้จัก Google ทั้งนั้น ดังนั้นจึงสามารถถือไว้ได้ระยะยาวมาก ๆ ได้ ไม่ทราบว่าเข้าตามหลักการ VI หรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมปักหลักอยู่กับ GOOG แล้วสบายใจ สองสามวันดูราคาทีนึงก็ไม่เดือดร้อนครับ ผมอยู่กับโบรกเกอร์เจ้านี้มาหลายปี ตอนนี้แปลงบัญชีเป็นแบบ Margin แล้วที่ถือ GOOG อยู่ตอนนี้ เป็นเงินตัวเอง และเงินกู้ margin loan ประมาณครึ่งต่อครึ่งครับ ดอก 3.75 % คุ้มกว่าใช้เงินตัวเองทั้งหมด เนื่องจากมีบางส่วนเป็นเงินกู้ ผมเลยใช้ technical analysis เข้ามาช่วยหาจังหวะการเข้าซื้อ และขายหุ้นตัวนี้เป็นบางส่วนเพื่อจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยตามรายทางที่หุ้นไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ใจเย็น ๆ ครับ จริงๆ แล้วจิตวิทยาลงทุนไม่ว่าในตลาดไทย หรือในตลาดสหรัฐ ก็มีลักษณะคล้ายกัน ผมแนะนำให้ศึกษาจากหุ้นในตลาดสหรัฐ เพราะมีจำนวนหุ้นให้เรียนรู้เยอะมาก คุณสามารถเปิดดูวีดีโอสอนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคพร้อมตัวอย่างจริง ได้ที่ Free technical analysis tutorial http://sites.google.com/site/freetechnicalanalysistutorial สำหรับหุ้นสหรัฐ ผมใช้ดูกราฟหุ้นใน finance.yahoo.com โดยตั้งค่าโปรแกรมดังนี้ 2 yr 3-day chart, Candle stick, Overlay volume, Slow stochastic, Relative strength (RSI), Bollinger band และ MACD วินัยการลงทุน: - ซื้อเฉพาะเมื่อ RSI มีค่าต่ำ (ประมาณ 30) และกำลังเริ่มเพิ่มขึ้น อย่าฝืนซื้อตอน RSI มีค่าสูงมากแล้ว (ประมาณ 70) - ซื้อเมื่อมีการสร้างฐาน (consolidate) มาแล้วระยะหนึ่ง โดยดูจาก Bollinger band คอดและพร้อมจะบานออก นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นในวินัยการลงทุนดังกล่าว เมื่อได้เห็นตัวอย่างความเป็นไปของกราฟหุ้นจำนวนมากจนเคยชินทำให้เข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ ได้อย่างไม่ยากนัก เอาไว้ผมสะสมกราฟที่ได้บันทึกไว้ได้มากกว่านี้หน่อย จะเอามาแชร์ให้ดูว่า จังหวะการเข้าซื้อและขายของ GOOG เป็นอย่างไร
โดย
nemsdaddy
พุธ พ.ย. 25, 2009 8:20 am
0
0
ช่วยเล่าประสบการณ์ที่เคยลงทุนหุ้นเมืองนอกหน่อยครับ
ผมลงทุนในหุ้นของสหรัฐอยู่ครับ เปิดบัญชีมาตั้งแต่ 1997 ซื้อขายด้วยตัวเองทางอินเตอร์เน็ต www.tradingdirect.com ค่าคอมครั้งละ 9.95 USD ตอนนี้ถือหุ้นอยู่ตัวเดียวคือ Google (GOOG) ไม่ดูตัวอื่นเลย เพราะดูหลายตัวไม่ไหว คนไทย หรือคนทั่วโลกต่างรู้จัก Google ทั้งนั้น ดังนั้นจึงสามารถถือไว้ได้ระยะยาวมาก ๆ ได้ ไม่ทราบว่าเข้าตามหลักการ VI หรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมปักหลักอยู่กับ GOOG แล้วสบายใจ สองสามวันดูราคาทีนึงก็ไม่เดือดร้อนครับ ผมอยู่กับโบรกเกอร์เจ้านี้มาหลายปี ตอนนี้แปลงบัญชีเป็นแบบ Margin แล้วที่ถือ GOOG อยู่ตอนนี้ เป็นเงินตัวเอง และเงินกู้ margin loan ประมาณครึ่งต่อครึ่งครับ ดอก 3.75 % คุ้มกว่าใช้เงินตัวเองทั้งหมด เนื่องจากมีบางส่วนเป็นเงินกู้ ผมเลยใช้ technical analysis เข้ามาช่วยหาจังหวะการเข้าซื้อ และขายหุ้นตัวนี้เป็นบางส่วนเพื่อจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยตามรายทางที่หุ้นไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ใจเย็น ๆ ครับ จริงๆ แล้วจิตวิทยาลงทุนไม่ว่าในตลาดไทย หรือในตลาดสหรัฐ ก็มีลักษณะคล้ายกัน ผมแนะนำให้ศึกษาจากหุ้นในตลาดสหรัฐ เพราะมีจำนวนหุ้นให้เรียนรู้เยอะมาก คุณสามารถเปิดดูวีดีโอสอนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคพร้อมตัวอย่างจริง ได้ที่ Free technical analysis tutorial http://sites.google.com/site/freetechnicalanalysistutorial สำหรับหุ้นสหรัฐ ผมใช้ดูกราฟหุ้นใน finance.yahoo.com โดยตั้งค่าโปรแกรมดังนี้ 2 yr 3-day chart, Candle stick, Overlay volume, Slow stochastic, Relative strength (RSI), Bollinger band และ MACD วินัยการลงทุน: - ซื้อเฉพาะเมื่อ RSI มีค่าต่ำ (ประมาณ 30) และกำลังเริ่มเพิ่มขึ้น อย่าฝืนซื้อตอน RSI มีค่าสูงมากแล้ว (ประมาณ 70) - ซื้อเมื่อมีการสร้างฐาน (consolidate) มาแล้วระยะหนึ่ง โดยดูจาก Bollinger band คอดและพร้อมจะบานออก นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นในวินัยการลงทุนดังกล่าว เมื่อได้เห็นตัวอย่างความเป็นไปของกราฟหุ้นจำนวนมากจนเคยชินทำให้เข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ ได้อย่างไม่ยากนัก เอาไว้ผมสะสมกราฟที่ได้บันทึกไว้ได้มากกว่านี้หน่อย จะเอามาแชร์ให้ดูว่า จังหวะการเข้าซื้อและขายของ GOOG เป็นอย่างไร นอกจากนี้ผมยังเคยเปิดบัญชีกับ KGI Hongkong กะว่าจะเข้าลงทุนในหุ้นจีน แต่เงินที่โอนไปเปิดบัญชีน้อยไปไม่พอซื้อขายได้เต็มล็อต เลยยังไม่เคยมีประสบการณ์ในตลาดจีน แต่ KGI Hongkong มีพนักงานการตลาดที่ดีมาก โทรจากฮ่องกงเข้ามือถือเราเลย เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับบัญชีของเราไม่กลัวเปลืองเงินค่าโทรศัพท์เลย นี่ขนาดว่าเงินในบัญชีของเราน้อยมาก (640 HKD) ยังไม่ทิ้งเราเลย ประทับใจมาก
โดย
nemsdaddy
พุธ พ.ย. 25, 2009 8:19 am
0
1
อยากลงทุนในหุ้นต่างประเทศต้องทำยังไงคับ
ผมลงทุนในหุ้นของสหรัฐอยู่ครับ เปิดบัญชีมาตั้งแต่ 1997 ซื้อขายด้วยตัวเองทางอินเตอร์เน็ต www.tradingdirect.com ค่าคอมครั้งละ 9.95 USD ตอนนี้ถือหุ้นอยู่ตัวเดียวคือ Google (GOOG) ไม่ดูตัวอื่นเลย เพราะดูหลายตัวไม่ไหว คนไทย หรือคนทั่วโลกต่างรู้จัก Google ทั้งนั้น ดังนั้นจึงสามารถถือไว้ได้ระยะยาวมาก ๆ ได้ ไม่ทราบว่าเข้าตามหลักการ VI หรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมปักหลักอยู่กับ GOOG แล้วสบายใจ สองสามวันดูราคาทีนึงก็ไม่เดือดร้อนครับ ผมอยู่กับโบรกเกอร์เจ้านี้มาหลายปี ตอนนี้แปลงบัญชีเป็นแบบ Margin แล้วที่ถือ GOOG อยู่ตอนนี้ เป็นเงินตัวเอง และเงินกู้ margin loan ประมาณครึ่งต่อครึ่งครับ ดอก 3.75 % คุ้มกว่าใช้เงินตัวเองทั้งหมด เนื่องจากมีบางส่วนเป็นเงินกู้ ผมเลยใช้ technical analysis เข้ามาช่วยหาจังหวะการเข้าซื้อ และขายหุ้นตัวนี้เป็นบางส่วนเพื่อจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยตามรายทางที่หุ้นไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ใจเย็น ๆ ครับ จริงๆ แล้วจิตวิทยาลงทุนไม่ว่าในตลาดไทย หรือในตลาดสหรัฐ ก็มีลักษณะคล้ายกัน ผมแนะนำให้ศึกษาจากหุ้นในตลาดสหรัฐ เพราะมีจำนวนหุ้นให้เรียนรู้เยอะมาก คุณสามารถเปิดดูวีดีโอสอนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคพร้อมตัวอย่างจริง ได้ที่ Free technical analysis tutorial http://sites.google.com/site/freetechnicalanalysistutorial สำหรับหุ้นสหรัฐ ผมใช้ดูกราฟหุ้นใน finance.yahoo.com โดยตั้งค่าโปรแกรมดังนี้ 2 yr 3-day chart, Candle stick, Overlay volume, Slow stochastic, Relative strength (RSI), Bollinger band และ MACD วินัยการลงทุน: - ซื้อเฉพาะเมื่อ RSI มีค่าต่ำ (ประมาณ 30) และกำลังเริ่มเพิ่มขึ้น อย่าฝืนซื้อตอน RSI มีค่าสูงมากแล้ว (ประมาณ 70) - ซื้อเมื่อมีการสร้างฐาน (consolidate) มาแล้วระยะหนึ่ง โดยดูจาก Bollinger band คอดและพร้อมจะบานออก นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นในวินัยการลงทุนดังกล่าว เมื่อได้เห็นตัวอย่างความเป็นไปของกราฟหุ้นจำนวนมากจนเคยชินทำให้เข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ ได้อย่างไม่ยากนัก เอาไว้ผมสะสมกราฟที่ได้บันทึกไว้ได้มากกว่านี้หน่อย จะเอามาแชร์ให้ดูว่า จังหวะการเข้าซื้อและขายของ GOOG เป็นอย่างไร นอกจากนี้ผมยังเคยเปิดบัญชีกับ KGI Hongkong กะว่าจะเข้าลงทุนในหุ้นจีน แต่เงินที่โอนไปเปิดบัญชีน้อยไปไม่พอซื้อขายได้เต็มล็อต เลยยังไม่เคยมีประสบการณ์ในตลาดจีน แต่ KGI Hongkong มีพนักงานการตลาดที่ดีมาก โทรจากฮ่องกงเข้ามือถือเราเลย เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับบัญชีของเราไม่กลัวเปลืองเงินค่าโทรศัพท์เลย นี่ขนาดว่าเงินในบัญชีของเราน้อยมาก (640 HKD) ยังไม่ทิ้งเราเลย ประทับใจมาก
โดย
nemsdaddy
พุธ พ.ย. 25, 2009 8:04 am
0
0
ขอคำแนะนำเรื่องการวิเคราะห์เทคนิคค่ะ
วีดีโอของ ป. ดัชนี ผมไม่ทราบว่าหาซื้อได้ที่ไหน แต่ช่วงนี้ ป. ดัชนี มาออก Money Channel บ่ายวันอังคารหรือวันศุกร์นี่แหละ ไม่แน่ใจครับ จริงๆ แล้วจิตวิทยาลงทุนไม่ว่าในตลาดไทย หรือในตลาดสหรัฐ ก็มีลักษณะคล้ายกัน ผมแนะนำให้ศึกษาจากหุ้นในตลาดสหรัฐ เพราะมีจำนวนหุ้นให้เรียนรู้เยอะมาก คุณสามารถเปิดดูวีดีโอสอนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคพร้อมตัวอย่างจริง ได้ที่ Free technical analysis tutorial http://sites.google.com/site/freetechnicalanalysistutorial สำหรับหุ้นไทย ผมใช้โปรแกรมวาดกราฟหุ้น ZLiberty ของ KTZMICO ซึ่งใช้ได้ดีทีเดียวครับ ผมชอบตั้งค่าโปรแกรมดังนี้ 2 yr daily, Candle stick, Volume, Slow stochastic, Relative strength (RSI), Bollinger band และ MACD วินัยการลงทุน: - ซื้อเฉพาะเมื่อ RSI มีค่าต่ำ (ประมาณ 30) และกำลังเริ่มเพิ่มขึ้น อย่าฝืนซื้อตอน RSI มีค่าสูงมากแล้ว (ประมาณ 70) - ซื้อเมื่อมีการสร้างฐาน (consolidate) มาแล้วระยะหนึ่ง โดยดูจาก Bollinger band คอดและพร้อมจะบานออก นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นในวินัยการลงทุนดังกล่าว เมื่อได้เห็นตัวอย่างความเป็นไปของกราฟหุ้นจำนวนมากจนเคยชินทำให้เข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ ออกอย่างไม่ยากนัก
โดย
nemsdaddy
พุธ พ.ย. 25, 2009 7:39 am
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
nemsdaddy
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
งานอดิเรก:
Stock valuation and technical analysis
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
เว็บไซต์:
เข้าชมเว็บไซต์
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พุธ พ.ย. 25, 2009 7:11 am
ใช้งานล่าสุด:
เสาร์ พ.ย. 28, 2015 6:31 am
โพสต์ทั้งหมด:
108 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว