หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
วรันศ์ บัฟเฟต
value trap
Joined: อังคาร ก.พ. 02, 2010 4:59 pm
1679
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - วรันศ์ บัฟเฟต
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่Thaiviจะให้สมาชิกทั่วไปเข้าห้อ
ผมว่า อะไรที่แก้ไขแล้ว หวังว่าจะดี แต่ผลลัพธ์ ออกมาอาจะไม่ดีก็ได้ เช่น ปุ่ม + - เว็บบอร์ด ต้องการข้อมูลสองทาง ด้านบวก ด้านลบ ใครให้ข้อมูลด้านลบ โดน กระหน่ำกด - นี่แหละ ตัวปัญหาที่แท้จริง พนันได้เลย หากเอาปุ๋ม - ออก เหลือแต่ปุ๋ม + รับรอง คนโพสเพิ่มขึ้น 333 % เห็นด้วยครับ ขอออกความเห็นในฐานะผู้ใช้บริการ thaivi มาระดับนึงนะครับ (จะโดนฝังกลบไหมเนี่ย T-T ) ฟังค์ชั่น "ควบคุมเนื้อหา" ที่แจ้งแอดมินให้ลบข้อความไม่เหมาะสมมีอยู่แล้ว (เครื่องหมายตกกะใจ) ตามเงื่อนไข ที่เข้าข่ายเหล่านี้: 1.ราคาเป้าหมาย 2.เทคนิคอล 3.เกรียน 4.อื่นๆ (spam) ถ้าเป็นกรณีอื่นๆที่ ลักษณะของการโพสต์อยู่ในกรอบและเนื้อหาของการชี้แจงตรรกะ การให้ข้อมูล หรือการวิเคราะห์ ไอ้พวกเชียร์หุ้นก็กดบวกให้พวกกันเองเว่อไป ดาราเว็บบอร์ดโพสต์อะไรก็รับ + ไปแล้วเต็มๆ ถ้าไม่พอใจใครก็รุมตี๊บด้วยการกดลบรัวๆ ไม่เป็นกลางพอ นี่ยังไม่รวมพวกเซียนรุ่นโหดมาโพสต์กดบวกเชียร์เพื่อลากหุ้นหรือออกของ ในมุมกลับพวกมาโพสต์ลบเกินไว้ทุบหุ้นก็เหมือนกัน คงเถียงไม่ได้กดบวกกดลบเป็นเครื่องมือการ "manipulate" ที่ใครๆก็น่าจะมองออก.... เฮโล่เอฟเฟคไปได้เรื่อย.... เอาจริงๆนะใครเจ๋งไม่เจ๋ง เทพไม่เทพ ของจริงของปลอมไม่ต้องมาพึ่งกดบวกกดลบหรอกครับ คนอ่านรู้ในใจกัน ถ้าคนอ่านมีสติและไม่มีไบแอสนะ... "respect is earned" เซียนหลายๆท่านรุ่นก่อนๆไม่เห็นจะต้องพึ่งกดบวกกดไลค์ ผมเคารพหลายท่านจะตาย ไม่เคยเจอหน้ากัน เห็นแค่สำนวนก็ซึ้งในความรู้ความสามารถแล้ว แต่เซียนบางท่านถึงทุกวันนี้ก็ได้แต่รวยไลค์ไม่รวย respect ไม่ได้มีเจตนาพาดพิงใครนะแค่ความเห็นส่วนตัวผม เรื่องปรกติธรรมดาของสังคม อยากเสนอว่าถ้าเจอกันครึ่งทางรวมฟังค์ชั่นทั้งสอง (1.แจ้งลบข้อความ ใช้สำหรับแจ้งเนื้อหาที่ไม่เข้าข่ายตามสาระที่สังคมออนไลน์แห่งนี้ต้องการหรือระบุไว้ 2.กดบวกกดลบ ใช้สำหรับความชอบไม่ชอบส่วนตัว) ไว้ด้วยกัน ก็กลายเป็นให้กด report นี่หละเหมือนให้สมาชิกติ๊กเหตุผลในการกดลบ (แต่อาจจะเพิ่มเหตุผลเข้าไปใน list มากกว่านี้ ช่วยกันระดมความคิดทำ drop down list ก็ได้ผมคนนึงที่จะช่วยคิดให้) แต่ที่ผมเสนอคือเฉพาะให้แอดมินเห็นผลกดลบนะ จะได้รู้ว่าเหตุผลที่อยากให้ลบหรือฝังโพสต์ลงดินคืออะไร ถ้ามันเป็นกรณีข้อ 1 แอดมินก็ลบเหมือนเดิมตามฟังค์ชั่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ในกรณีที่เป็นข้อ 2 แอดมินก็จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วเจตนาคนกดลบคืออะไร คนกดลบอาจจะแค่หมั่นไส้ก็เป็นได้ซึ่งผมว่ามากพอสมควรเลยหละ ไม่รู้นะ ถ้าเป็นแบบนี้ผมว่าอย่างน้อยก็กรองคุณภาพการกดลบได้ ส่วนด้านการกดบวกจริงๆไม่ต้องมีหรอก คนอ่านน่าจะรู้อยู่ในใจว่าคนโพสต์แม่มของจริงหรือไม่จริง หรือถ้าจะต้องมีจริงๆแบบให้เครดิตคนโพสต์หน่อยจะได้มีกำลังใจ อุตสาห์แชร์ความคิดข้อมูลเป็นวิทยาทาน แนะนำฟังค์ชั่นให้เฉพาะเจ้าของโพสต์คนเดียวเห็นค่าบวก ไม่ต้องให้โลกรับรู้ จะได้ไม่มีเรื่องการใช้กดบวกกดลบเป็นเครื่องมือ ผมว่าเจ้าของโพสต์รู้ว่ามีคน appreciate มากมายเห็นคนเดียวก็อิ่มใจแล้วหละ อีกมุมผมเข้าใจว่าทางเว็ปก็มีเจตนาให้ขั้นตอนทั้งหมดไม่เป็นภาระสำหรับท่านแอดมินทั้งหลายเกินไป ตามที่กล่าวมาอาจจะเป็นการไปหางานเพิ่มให้แอดมินโดยใช่เรื่อง ผมก็ไม่อยากจะรบกวนท่านแอดมินทั้งหลายเพราะรู้ว่าเวลามีค่า แต่หัวใจของบอร์ดประเภทพวกนี้ เท่าที่ผมเล่นๆมาของตปท. บอรด์ที่เป็นคอมมิวนิตี้ที่อบอุ่นทุกที่ ส่วนของแอดมินนี่สำคัญมากขาดไม่ได้ ทุกคเป็นไอดอลเลย ส่วนตัวผมว่าแอดมินทุกคนที่นี้ก็ทำงานสุดยอดแล้ว เสียสละอย่างมาก เป็นไอดอลผมเหมือนกัน ถ้ามองว่าเป็นข้อเสนอที่ทำให้ยุ่งยากมากเรื่องลำบากชีวิตขึ้นมากผมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมแค่เชื่อว่ามันมีจุดสมดุลระหว่างความต้องการของกลุ่มทางสังคมทุกกลุ่มที่ดีกว่านี้ ทางออกที่ดีกว่ามีเสมอ ว่าไหมครับ
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. ก.ค. 31, 2014 12:23 am
0
6
Re: ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่Thaiviจะให้สมาชิกทั่วไปเข้าห้อ
thaivi goooooooooooooooooooddddddddddddddddd :mrgreen: (จาโดนไหมเนี่ยตรู)
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พุธ ก.ค. 30, 2014 11:23 pm
0
1
Re: ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมจากบทความ SPELT ของอาจารย์นิเวศน์
จากบทความของอาจารย์นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=57701 พออ่านจบก็รู้สึกว่ามันคุ้นกับ SPELT มากเลยเหมือนเคยเห็นเมื่อสมัยเรียนกับ PESTLE Analysis จำได้ว่าตอนเรียนมันมี Analysis เยอะมากทั้ง PESTLE (อาจารย์ผมเรียก PESTEL) / Five Forces / Value Chain / SWOT / TOWS คิดว่าทั้งสองตัวมันคือตัวเดียวกัน ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกไหมครับ แต่ต่างกันตรงที่ตัว E หายไปหนึ่งตัวคือ Environment เลยอยากสอบถามพี่ๆว่า แล้วเจ้าตัว Environment มีความสำคัญมากน้อยอย่างไรในการวิเคราะห์ครับ หรือว่าในปัจจุบันนิยมใช้ SPELT แทนแล้วหรือเปล่าครับ ปล. พอได้อ่านแล้วรู้สึกว่าลืมๆไปบ้างเหมือนกัน จะไปหาหนังสือมาอ่านก็ไม่รู้ให้รุ่นน้องไปกี่มือแล้ว :'O root เดียวกันครับ ผมตอบในห้องไว้หละ SPELT นี่เป็น conventional macro environment analysis framework ครับ เริ่มจาก PEST ก่อนและมี variation ออกไปหลายรูปแบบทั้ง SLEPT, SPELT (เพิ่ม legal) PESTEL, PESTLE (เพิ่ม environment) STEEPLE (เพิ่ม ethics) STEEPLED (เพิ่ม ethics + demo) STEER (socio-cultural + technological + conomic + ecological + regulatory)
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อังคาร ก.ค. 01, 2014 1:15 am
0
1
Re: SPELT/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
SPELT นี่เป็น conventional macro environment analysis framework ครับ เริ่มจาก PEST ก่อนและมี variation ออกไปหลายรูปแบบทั้ง SLEPT, SPELT (เพิ่ม legal) PESTEL, PESTLE (เพิ่ม environment) STEEPLE (เพิ่ม ethics) STEEPLED (เพิ่ม ethics + demo) STEER (socio-cultural + technological + conomic + ecological + regulatory)
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อังคาร ก.ค. 01, 2014 1:13 am
0
7
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
อย่ามองสั้นนักสิครับ พลังแสงอาทิตย์แพงสุดแต่แผงก็อยู่ได้นานสุดๆเช่นกัน มีรับประกัน 25ปีด้วย สิบปีแรกที่ได้แอดเดอร์ดูเหมือนว่ารัฐต้องซื้อไฟแพง แต่ถ้าเอาราคารับซื้อหลัง10ปีมาถัวก็น่าจะพอทนนะครับ รัฐพลาดที่ไปกำหนดแบบแอดเดอร์ทำให้ภาระไปอยู่ในค่า ft เค้าจึงกำลังเปลี่ยนราคาและวิธีการรับซื้ออยู่ ให้ราคาต่ำลงแต่ระยะเวลานานขึ้นผมว่าทุกฝ่ายคงจะรับได้ พวกใหญ่ๆที่ cod ไปแล้วหรือแน่ๆก็ adder basis หมดปะครับ adder 8 บาทเลยนะ ถ้าไม่มี adder แล้ว TOU + ft ได้ไม่กี่บาท ลองคิดดูว่าหายไปเท่าไหร่
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อังคาร ก.ค. 01, 2014 1:05 am
0
1
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
พี่ Power มอง EA กับมาร์เก็ตแค็ป 7 หมื่นล้านเช่นไรครับ ขอบพระคุณครับ ถ้าถามผมเรื่องตัวธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท ผมจะตอบตามข้อเท็จจริงที่พอรู้ แต่ถ้าถามผมถึงตัวหุ้นEA ผมจะตอบตามประสบการณ์และความรู้สึกล้วนๆนะครับ เมื่อ4-5ปีก่อนหน้านี้ มีคนมีกระตังคนหนึ่ง มาบอกผมว่ามีคนชวนเค้าให้ร่วมลงทุนในบริษัทใหม่แห่งหนึ่ง ที่กำลังจะทำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คนที่ชวนเค้าบอกว่าธุรกิจนี้ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง30-40% เค้าถามความคิดเห็นจากผม ผมก็บอกเค้าตามข้อเท็จจริงที่ว่า ธุรกิจนี้ถ้าทำแบบตรงไปตรงมา ไม่มีทางทำผลตอบแทนได้สูงเช่นนั้น ที่ผมเคยทำเองยังได้ผลตอบแทนการลงทุนไม่ถึง15%เลย ดังนั้น30-40%จึงไม่น่าเป็นไปได้ เค้าหัวเราะไม่เชื่อผม เค้าบอกคนชวนเค้ามั้นใจมากว่าทำได้ ผมก็บอกเค้าให้ระวังอย่าโลภมากนัก ยิ่งเจ้าของที่มาชวนก็ชื่อเสียงไม่ดีมาก่อน ยังไงถ้าได้กำไร2-300%ก็น่าพอใจได้แล้ว ตอนนั้นทราบมาว่าเค้าลงเงินไปหลายสิบล้านบาทอยู่เหมีอนกัน ที่ต้นทุนหุันละ50สตางค์ จากนั้นมาสามปี บริษัทนั้นได้เข้าจดทะเบียนในตลาดในชื่อEA ที่ราคาIPOที่5.50บาทต่อหุ้น เจอคนนั้นอีกที โคตรดีใจมากที่เค้าไม่ได้เชื่อผม ต่อมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ทานข้าวกับผู้ใหญ่กรมสรรพากรท่านหนึ่งที่ชอบเล่นหุ้น ท่านบอกท่านเล่นEAอยู่ ตอนนั้นราคาประมาณ8บาท มีคนบอกท่านว่าจะทำไปถึง20บาท ท่านถามความเห็นผม ผมเลยรีบบอกว่าอย่าเชื่อผมเลยครับ เพราะ5.50บาทผมยังว่าแพงเกินไปแล้วเลย แล้วก็เล่าเรื่องข้างบนให้ท่านฟัง มาวันนี้EAก็กำลังจะถึง20บาทแล้ว มาด้วยอะไรก็ไม่ทราบ แต่มั่นใจมากว่าไม่ใช่ด้วยพื้นฐานความเป็นจริงของธุกิจ แต่ต้องยอมรับว่า เจ้าของคุมความโลภของผู้ร่วมลงทุนได้ดีมากจริงๆ ไม่มีใครแตกแถวเลย แม้แต่ในช่วงภาวะตลาดที่ไม่ดี ก็ไม่มีใครทิ้ง จำนวนหุ้นfree floatน้อย เลยเลี้ยงราคาง่าย ตอนนี้ก็เลยยอมรับความจริงแล้วว่าเราคงไม่มีวันรวยแบบคนอื่นได้แน่ๆ ไม่ใช่เพราะมีโมหาคติแบบคุณEnergy_Eakนะครับ แต่เป็นเพราะเรารู้ความจริงมากเกินไป เลยทำให้ไม่กล้าลงทุน เพราะดันไปเชื่อว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามพื้นฐานที่แท้จริงของตัวธุรกิจ แต่สุดท้ายความจริงก็คือว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามความเชื่อของคน มีคนเชื่อว่าราคาIPO5.50บาทนั้นถูกแสนถูก มีคนเชื่อว่าธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และลมจะเป็นMega Trend มีคนเชื่อว่าไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด ราคาห้นจะขึ้นไปถึง20บาท สุดท้ายถ้ามีคนเชื่อมากกว่าคนไม่เชื่อ ราคาหุ้นมันก็ขึ้นตามครับ ไม่ต้องไป สนใจเรื่องพื้นฐานหรอก ผู้รู้ทั้งหลายเช่นผมก็เป็นแค่พวกหมาเห่าทวนลมทั้งนั้น สู้พวกตดใส่ไม้ขีดไฟไม่ได้หรอกครับ 555 ขอบคุณครับพี่ ผมก็ว่า market cap มันเท่า egco, ratch หละ กะลังจะทัน glow ทั้งๆที่ขนาดและเสถียรภาพของพลังงานต่างกันมากโข แก๊ประหว่างพลังงานทดแทนกะพลังงานหลักมันชักจะผิดเพี้ยน ถ้ามองประสิทธิภาพของแผงโซล่าร์เซลล์ทั้งหมด (ประเภทและอายุของแผงในมุมพื้นที่ของแผงทั้งหมดมองเป็นสัดส่วนของกำลังไฟฟ้าที่ผลิตได้ต่อความเข้มรังสีแสงอาทิตย์ตามมุมที่แสงตกกระทบและทำเล) มีตัวแปรที่ทำให้ความไม่แน่นอนสูง วันนี้เป็นอย่างงี้วันหน้าจะเป็นยังไง ผมว่ามูลค่ามาเร็วเกินไปเมื่อเทียบกับ traditional energy resources ที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อังคาร มิ.ย. 24, 2014 12:18 pm
0
7
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
ขออนุญาติแปะลิงค์ของคุณ energy EAK ครับ ได้มีโอกาสดูแล้วครับ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเพียงแค่มุมมองของนักลงทุนท่านหนึ่ง ที่มั่นใจและเชื่อว่าธุรกิจที่เขาลงทุน เป็นธุรกิจที่ดีและมีอนาคต ซึ่งความจริงอาจไม่ต่างจากคนที่เชื่อว่าโครงการจำนำข้าวเป็นสิ่งที่ดี แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ว่าไม่เป็นเช่นนั้น จะต่างกันก็ตรงแค่ นักลงทุนชิงขายหุ้นได้ก่อนแค่นั้นเอง 555 พี่ Power มอง EA กับมาร์เก็ตแค็ป 7 หมื่นล้านเช่นไรครับ ขอบพระคุณครับ :wink:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
เสาร์ มิ.ย. 21, 2014 12:43 am
0
1
Re: เกิดเหตุปฏิวัติ
อย่าลืมปีหน้าเมกาขึ้นดอกเบี้ย ....... รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบอนด์ตลาดเกิดใหม่และเงินที่เข้ามา carry trade ในตลาด equity ตั้งแต่ 2009 ผมว่าไม่น่าจะง่ายซะทีเดียว อย่างแรกฝรั่งไม่โง่ ประเทศเค้ารวมถึงประเภทพัฒนาแล้วอีกมากมายผ่านอะไรมาเยอะกว่าเรามาก ดูตามสถิติย้อนหลังกลุ่มนลท.ที่ return ดีสุดก็ยังฝรั่ง อะไรถึงทำให้คิดว่าฝรั่งไม่เข้าใจสถานการณ์การเมืองบ้านเราและแพนิคขายทิ้ง น่าจะพอรู้กันแล้วว่าเวลาตลาดไทย crash หนักๆยาวๆหนะแทบจะไม่ได้มาจากการเมืองเลยสักครั้ง ของไม่ดีมันทิ้งของดีมันโดดเข้าใส่หละ ขายสะสมไว้เท่าไหร่ปีที่แล้วหละ
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 12:08 am
0
5
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
gap ผลตอบแทนตลาดเกิดใหม่ที่มีกะ US ก็น้อยลง :mrgreen: risk free rate สูงขึ้น required return สูงขึ้น เงินที่อื่นจะไหลไปไหน จะเกิดอะไรขึ้นหนอ ต้องขอดูลูกแก้วก่อน :mrgreen:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อาทิตย์ พ.ค. 18, 2014 10:38 pm
0
0
Re: มาหาโอกาสในการเติบโตกันดีกว่า...
^^ พี่ yoko ศักดิ์สิทธ์มาก เห็นผลทันใด ดับไปทันที :B
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
ศุกร์ พ.ค. 16, 2014 11:41 pm
0
3
Re: สรุปผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1/2557
ขนาดโดนแบบนี้ มีธนาคาร 2 แห่งสามารถประกาศผลประกอบการระหว่างกาล ได้มากกว่า ปีที่แล้ว tisco ???
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. เม.ย. 17, 2014 12:57 am
0
3
Re: รอบที่แล้ววิกฤติต้มยำกุ้ง ถ้าเกิดอีกชื่อ วิกฤติผัดไท
วิกฤตปูเผา :B หิวเลยยย
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พุธ ก.พ. 19, 2014 11:52 am
0
12
Re: TASCO-W3 โอ้ว แม่เจ้า 1400% ใน 6 วัน
สงสัยปั่นหุ้นจะจับยากจริง หาหลักฐานไม่ได้เลย มองไม่ออก ไม่รู้เลยว่าปั่น หรือไม่ก็ต้องรออ่านข่าว 5 ปีข้างหน้า :twisted: :twisted: :twisted:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อังคาร ก.พ. 11, 2014 12:32 am
0
1
Re: การ" Valuation หุ้น "มีความยุ่งยาก สำหรับเพื่อนๆมากแค่ไห
ก็ไม่รู้สินะ................ เพราะลอกเซียนครับ :idea: http://informaticasimples.net/wp-content/uploads/2012/02/9gag-face-17.png
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. ม.ค. 30, 2014 3:46 pm
0
3
Re: รวมข่าว ปั่นหุ้น
ข่าวปี 2554 กลต. ก่อตั้งมา 20 ปี จับปรับได้แค่ 26 คดี ทราบแล้วเปลี่ยน :| ก.ล.ต.ชี้ กม.หุ้น ช่องโหว่เพียบ-ไม่สามารถเอาผิด บจ.ทุจริตได้ แฉกลโกง 2 รูปแบบ รองเลขาธิการ ก.ล.ต.ชี้ กม.หุ้นมีช่องโหว่เพียบ ไม่สามารถเอาผิด บจ.ทุจริตได้ เผยตั้งแต่ก่อตั้งมานาน 20 ปี เชือดได้แค่ 10% พร้อม แฉกลโกง 2 รูปแบบ ทั้งผู้บริหารทำเอง และจ้างนอมินีโกง นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) กล่าวในการประชุมนิติศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 8 เรื่องการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐและเอกชน โดยยอมรับว่า ระบบการบังคับใช้กฎหมายของไทยในการดำเนินการกับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ทุจริต ยังไม่เข้มข้นในสายตาต่างชาติ และไม่สามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษได้มากนัก พร้อมกันนี้ รองเลขาธิการ ก.ล.ต.ได้ยกตัวอย่างในกรณีของ ก.ล.ต.ซึ่งก่อตั้งมาแล้ว 20 ปี สามารถกล่าวโทษความผิดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เพียง 260 คดีเท่านั้น โดยไม่รวมการเปรียบเทียบปรับ หรือเฉลี่ยเพียงเดือนละ 1 คดี ซึ่งจากทั้งหมดสามารถลงโทษได้เพียง 26 คดี หรือคิดเป็น 10% จากจำนวนคดีทั้งหมด “มีแค่ 10% ที่สามารถเปรียบเทียบปรับได้ อีก 54% ยกฟ้องหรือต้องยุติการตรวจสอบ เพราะข้อมูลไม่เพียงพอ และอีก 36% ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ” นายชาลี กล่าว ทั้งนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหา คือ การบังคับใช้กฎหมายให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากกฎหมายของไทยยังมีช่องโหว่อยู่มาก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการทุจริตในบริษัทจดทะเบียนสามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีใหญ่ คือ การทุจริตโดยตัวผู้บริหารเอง และการติดสินบน หรือการเอื้อประโยชน์ให้ผู้อื่นทุจริตเงินบริษัท ซึ่งการทุจริตทั้ง 2 รูปแบบมีวิวัฒนาการที่แยบยลมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การปล่อยกู้ให้กับตัวเอง และการทำบัญชีเท็จ ซึ่งเป็นวิธีการโยกเงินออกจากบริษัทที่ง่ายที่สุด นอกจากนี้ ยังรวมถึงการใช้นอมินีในการทุจริต ซึ่งตรวจจับได้ยากมาก ซึ่งการตรวจสอบการทุจริตในกรณีเหล่านี้ต้องอาศัยผู้ร่วมตรวจสอบหลายฝ่าย ทั้งคณะกรรมการบริษัท ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน รวมถึงตัวผู้ถือหุ้นเอง ที่จำเป็นต้องเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อตรวจสอบความเป็นไปของบริษัท
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. ม.ค. 23, 2014 10:25 am
0
1
Re: รวมข่าว ปั่นหุ้น
ขอบคุณครับน่าจะเป็นประมาณ 0.0000001% ของที่โดนจับ เหลือต้องจับมาลงโทษอีก 99.999999% แต่ก็เก่งและน่ายินดีมากครับที่ไม่ปล่อยให้พวกนี้ลอยนวล :cool:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พุธ ม.ค. 22, 2014 10:20 pm
0
4
Re: บริษัทไหนที่ ซีอีโอ และผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาติบ้างครับ
ขอบคุณมากครับ ขอเพิ่ม ทีทีซีแอล มีบริศัทอิเลข อีกบริษัท ชื่อติดอยู่ที่ปาก hana รึป่าวครับ
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
เสาร์ ม.ค. 18, 2014 5:28 pm
0
0
Re: บริษัทไหนที่ ซีอีโอ และผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาติบ้างครับ
อืมขออภัยที่ผมลิตส์มาอาจไม่ใช่ ceo เป็นต่างชาติทั้งหมดแต่น่าจะมีต่างชาติเป็นกรรมการบริหาร ตกหล่นไงขออภัยด้วยคับ
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
เสาร์ ม.ค. 18, 2014 4:49 pm
0
0
Re: บริษัทไหนที่ ซีอีโอ และผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาติบ้างครับ
เท่าที่คิดออกนอกเหนือจากที่เพื่อนๆระบุมานะครับ ccet delta tapac stanly ah tcb gyt yuasa cpr hft advanc intuch dtac fancy tiw alucon tsth inox hemraj rml bjchi ptl glow thcom mint wacoal mega sis bay cimbt mbket zmico uobkh tr
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
เสาร์ ม.ค. 18, 2014 4:47 pm
0
2
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
แหม่ ชอบและรอมานานครับกระทู้แบบนี้ รบกวนโพสชื่อหุ้นพร้อมเหตุผลที่มันควรจะราคามากกว่านี้เพื่อให้มีพื้นฐานรองรับบ้างจะดีมากครับ จะได้ไม่ผิดจุดประสงค์ของเวบ (อนึ่ง ซื้อแล้วดอย ซื้อแล้วหน้าซีด ห้ามว่ากันใดๆ นะครับ เงินใครเงินมันดูแลกันเอง) เอาแบบสรุปไวๆ นะครับ ผมเสนอ Simat ตัวเร่ง FTTX อย่างที่รู้กันดี / ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นยังขลุกขลัก /ลูกค้าใน FB บ่นกระจาย แต่ลองดู service mind ของลูกค้าเทียบกับเจ้าอื่นๆ ซะก่อน / barrier ค่อนข้างต่ำ Preb ตัวเร่งคือโครงการ tempo grand ซึ่งตอนนี้ติดเรื่อง EIA อยู่ / บริษัทเป็นรับเหมาด้วย ตอนนี้ผู้รับเหมาขาดแคลน บริษัทได้ประโยชน์เต็มๆ / ผู้ว่าจ้าง advance เงินให้มาใช้ก่อนเยอะแยะ (ดูกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกเทียบกับทั้งปีที่แล้วซะก่อน) / คนยังไม่รู้จัก built land เท่าไหร่ อาจไม่เชื่อมั่นใน brand ศึกษากันเพิ่มเติมก่อนเยอะๆ นะครับ เผื่อผมมั่ว หลอกมาดอยเป็นเพื่อน :B หลายๆตัวไอ้ที่มันขึ้นไปจุดสูงสุดจนตอนนี้ลงมาแล้วเทียบกับจุดนั้นเกิน 50% จุดสูงสุดที่ทำไว้อาจไม่สมเหตุสมผลก็ได้ครับมีบ่อยไป ดังนั้น reference point อ้างอิงจากราคาสูงสุดมันจะออกแนวไม่ value เท่าไหร่นะ บางตัวก็ปั่นไป เล่นข่าวที่สร้างความหวังเกินจริงเป็นเครื่องมือนักล่าชั้นดี หลายๆตัวที่เขียนมาในนี้ ความเห็นผมว่าเข้าข่ายเยอะเลย ไม่ได้อยากขวางทางทีนคนเชียร์หุ้นนะ ยังไงตามสมควรก็ต้องเทียบฐานผลประกอบการระยะยาวที่คิดออกมาเป็นมูลค่าพื้นฐานอยู่ดีรึป่าว หลายตัวแค่เก็งการเปลี่ยนแปลงยังไม่ทันเปลี่ยนจริงหรือบางตัวเห็นศักยภาพแค่ปีเดียวแต่สรุปกันไปว่าดีไป 10 ปี เชียร์กันบน life time value ออกมาได้แล้วซะงั้น ท้ายสุดผมเห็น 8-9 ใน 10 ตกรางเละประจำ ยุคสมัยนี้ชอบเร็วทันใจ กำไรหมุนหลายรอบ เข้าใจเป็นทั้งเจ้าทั้งเม่า ผมว่าตั้งแต่ตลาดลงมาแรงๆหลายๆคนน่าจะรู้ตัวแล้วว่าก่อนหน้านี้มีภาวะตลาดที่เป็นบวกช่วยไว้เยอะ ยังไงก็ระมัดระวังเพราะหลายๆคนก็ยังเหมือนเดิม เข้ามาอ่านเสร็จดูชื่อ log in เห็นว่าเซียน ซัดตามเลย เซียนโพสต์ไม่แต่แปลว่าเค้าซื้อ ไม่ได้แปลว่าเค้ามีหุ้น หรือ ไม่ได้แปลว่าเค้าจะมาบอกตอนขาย ก็เรื่องเดิมๆ ระวังกันด้วย ผมว่าถ้าจะ keep theme เดิม สมัยก่อน admin จะมาไล่ให้ไปโพสต์ในร้อยคนร้อยหุ้นแทน เห็นกะทู้แบบนี้ปกติพอเชียร์ไปเรื่อยๆเริ่มเยอะจะโดนแบน
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อาทิตย์ ม.ค. 12, 2014 1:53 pm
0
13
Re: เพื่อนชาว vi มีใคร cutloss หุ้น เนื่องจากเหตุการทางการเม
ผมว่าบางคนถ้าวิเคราะห์มาดีแล้ว cut hand แทน cut loss อาจจะดีกว่า อิอิอิ ล้อเล่นนะคับ อยู่เฉยๆหรือเคลื่อนไหวถ้าวิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว ทำตามระบบและแนวทางที่คิดว่าถูกต้องอย่างเคร่งครัดก็โอเค อย่าซ้ายๆขวาๆจะสับขาหลอกตัวเอง
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. ม.ค. 09, 2014 3:15 am
0
1
Re: Goldman ถึง JPMorgan สั่งขายหุ้นตลาดเกิดใหม่ !!!
PE S&P 500 ตอนนี้ จะ 19 เท่าแล้ว SET 13 เท่า กว่าๆ มอง 19 ชน 13 ดื้อๆลยคงไม่ได้นะครับ ส่วนประกอบของดัชนีซึ่งคือรายบริษัท คุณภาพและฐานของ E ที่นำมาคิด ลองดูความแตกต่างของจำนวน supercompany ประเภทของบริษัทต่างๆ ที่บ้านเราไม่มีไม่เก่ง หลายๆอุตที่เชิงคุณภาพมีศักยภาพสูงกว่า ขนาดของความก้าวหน้า ขนาดแต่ละบริษัทที่มูลค่ามหาศาลรองรับกลุ่มทุนใหญ่ๆได้ (บ้านเรา big cap เป็นได้แค่ mid-small cap บ้านเค้า เค้าซื้อไปก็เท่านั้นคิดเป็นเศษหลายทศนิยมของพอร์ท)
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พุธ ม.ค. 08, 2014 1:36 pm
0
3
Re: มองตลาดในปี 57 กันอย่างไร
ใครมีหุ้นเยอะก็มุมนึง เงินสดเยอะก็มุมนึง อิอิอิ ชัดเจนเปลี่ยน
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ ม.ค. 06, 2014 1:46 am
0
7
Re: กำลังซื้อผู้บริโภคภายในประเทศ
ไม่น่าจะใช่นะครับ นักการเมืองก็แค่ส่วนนึง จุดที่ drive ทุกอย่างจริงๆคือ aggregate competitiveness และของเราก็ไม่ได้สุดยอดหรืออะไร พัฒนาผสมชะลอบ้างไปเรื่อยๆครับ เป็นธรรมชาติ อีกอย่างการเมืองเกือบทุกประเทศในระดับนโยายที่ออกมาก็มีปัญหาหมดนะ มากน้อยอีกเรื่อง ผมว่ามองเป็นกลางดีกว่า ไม่มีอะไรดีร้อย ชั่วร้อย นั่นคือธรรมชาติ ธรรมดา ปรกติ :mrgreen:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. ธ.ค. 26, 2013 4:05 am
0
4
Re: พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราร
ถ้าประชานิยมชั่วคราวนี่มีเคือง :evil:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. ธ.ค. 26, 2013 4:01 am
0
0
Re: ทำไมผมจึงลงทุนในหุ้นไทย (Buy Thailand, I am)
ถ้าประเทศไทยไม่คอรัปชั่น gdp จะโตไม่น้อยกว่า ปีละ 8% โดยรัฐบาลพยายามปรับกลไกรตลาดให้เหมาะสม เป็นประโยชน์ ต่อคนส่วนมากในประเทศนี้ พี่ blueplanet เอามาจากไหนคับ ปีละ 8% candle sit รึป่าวอ่ะ
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ ธ.ค. 23, 2013 11:52 pm
0
0
Re: Discount Rate เท่าไรดีครับ ?
ส่วนถ้าตามสแตนดารด์จะใช้ไฟแนนเชี่ยวโมเดลก็ wacc หรือ capm แต่ผมว่ามันเป็น guideline ตัวแปรมากกว่า ไม่มีพอดีหรอก
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ ธ.ค. 23, 2013 3:11 pm
0
1
Re: Discount Rate เท่าไรดีครับ ?
เพิ่ม บางคนใช้ expected return แต่ผมว่าถ้ามองพื้นๆ risk free rate ที่ไม่ต้องคิดมากเอาเงินไปลงได้ return ตามนั้นจริงแน่ๆก็พอแล้ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความ conser ของแต่ละคนด้วย
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ ธ.ค. 23, 2013 3:06 pm
0
2
Re: Discount Rate เท่าไรดีครับ ?
risk free rate ที่สูงที่สุดที่เราเข้าถึงได้จริงที่รองรับจำนวนเงินที่เราจะลงทุนจริงๆ discount rate คือการมองหา best risk free alternative คับ ส่วนใหญ่จะใช้ govt bond เพราะ dcf เป็น long term projection แต่ถ้าเรามองว่าเราปรับไปมาได้ระหว่างรอบ 3-5 ปี เช่น (ไปซื้อ corp bond ก่อนแล้ว switch) ทำ dynamic rate (dynamic ระหว่าง asset type) ก็ได้ครับ
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ ธ.ค. 23, 2013 3:05 pm
0
2
Re: The honeymoon period is over.
ไป honeymoon ที่ประเทศอื่นแทนละกัน :ep:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พุธ ธ.ค. 11, 2013 3:43 pm
0
2
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
@ K.Plant ที่สำคัญน่าจะเป็นวิธีการบันทึกบัญชีครับว่ารายการไหนลงบัญชีแบบไหน ส่วน inven turnover นั้นคือตัวตั้งของ inven days (จำนวนวัน / turnover) ที่สำคัญก่อนจะเทียบต้องมั่นใจว่าการลงบัญชี apple to apple (ถ้าตัว input ไม่แม่น ก็ garbage in garbage out) อีกอย่างนะต้องเช็คให้แต่ใจว่า cost basis ที่ใช้คิดมูลค่า inven กับ cogs ต้องวิธีเดียวกันนะครับถึงจะหารกันได้ และตัว cogs ก็ต้องไปดูด้วยว่าบันทึกมามีรายการอะไรบ้างนอกจากสินค้า อาจจะมีค่าเสื่อม labor หรือ non-material charges อื่นๆ ว่าง่ายๆตัวตั้งตัวหารต้องคิดวิธีเดียวกันเป๊ะ ผมคิดว่าตรงนี้ยากหน่อยจึงไม่แนะนำให้ดู inven turnover เพราะจะ mislead ได้ ขอบคุณ คุณ "วรันศ์ บัฟเฟต" ครับ ผมสงสัยแบบที่คุณวรันศ์ บอกเลยครับว่า โดยปกติ "ต้นทุนสินค้าขาย" มันจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆรวมอยู่ด้วยไม่ได้มีเพียงค่าใช้จ่าย สินค้าที่ขายออกไป แล้วผมมั่นใจว่าบริษัทแต่ละบริษัทมีวิธีการกำหนดต้นทุนสินค้าขาย ไม่เหมือนกัน(เพราะบริษัทผมบางปีหัวข้อนี้เป็นต้นทุนผลิต พออีกปีนึงคนทำบัญชีโยกไป เป็นค่าใช้จ่ายบริหารซะงั้น!!) แต่ผมลองมาคิดดูแล้ว ถ้าเราใช้เทียบหลายๆปี โดยใช้เกณฑ์ เดียวกันในการคำนวนคิดว่าน่าจะเห็นภาพเป็นแนวโน้มได้หนะครับ อย่างตอนนี้ผมคำนวน ย้อนหลังเปรียบเทียบไป 5 ปี ได้ turnover อยู่ 12 รอบ หรือ day 30 วัน แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากเมื่อก่อนนะครับ อันนี้ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือว่าจะเป็น "garbage in garbage out" แบบที่คุณ "วรันศ์" บอกนะครับนี่...^^) ระวังการเทียบระหว่างบริษัทหรือตัวเลข industry benchmark และระวังการเปลี่ยนวิธีการลงบัญชีของบริษัทระหว่างปีครับ ขอให้บรรทัดฐานเดียวกันก็พอได้ :8)
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พุธ ธ.ค. 11, 2013 2:50 pm
0
1
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
แหม กดตอบเสร็จนึกได้พอดี เวลาหาค่าควรดูรายปีอย่างเดียวเพราะอาจจะมี seasonal effect ทำให้การดูไม่เต็มปีแล้ว extrapolate ผลออกมาไม่ตรงความเป็นจริง
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พุธ ธ.ค. 11, 2013 2:50 am
0
1
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
@ K.Plant ที่สำคัญน่าจะเป็นวิธีการบันทึกบัญชีครับว่ารายการไหนลงบัญชีแบบไหน ส่วน inven turnover นั้นคือตัวตั้งของ inven days (จำนวนวัน / turnover) ที่สำคัญก่อนจะเทียบต้องมั่นใจว่าการลงบัญชี apple to apple (ถ้าตัว input ไม่แม่น ก็ garbage in garbage out) อีกอย่างนะต้องเช็คให้แต่ใจว่า cost basis ที่ใช้คิดมูลค่า inven กับ cogs ต้องวิธีเดียวกันนะครับถึงจะหารกันได้ และตัว cogs ก็ต้องไปดูด้วยว่าบันทึกมามีรายการอะไรบ้างนอกจากสินค้า อาจจะมีค่าเสื่อม labor หรือ non-material charges อื่นๆ ว่าง่ายๆตัวตั้งตัวหารต้องคิดวิธีเดียวกันเป๊ะ ผมคิดว่าตรงนี้ยากหน่อยจึงไม่แนะนำให้ดู inven turnover เพราะจะ mislead ได้ อีกข้อ ค้าส่ง ค้าปลีก สำคัญดูรายสินค้าครับ อันนี้มองในงบไม่เจอ ต้องขุดเอาเองหาสินค้า fast - slow - non moving item พวกนี้ ฝ่ายบริหาร inven จัดซื้อ บริษัทน่าจะมีครับ แต่คุยกะ ir จะประสานให้จริงจังรึป่าวไม่รู้นะครับ อันนี้ความสามารถส่วนบุคคลในการวิ่งหาข้อมูล :mrgreen: นึกออกจะมาเพิ่มครับ :8)
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พุธ ธ.ค. 11, 2013 2:49 am
0
2
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
ดูเป็น time series หลายๆปีครับ และดูเป็นการเปลี่ยนแปลงระหว่างปี ดู year beginning inventory ดู cogs ระหว่างปี ดู year end inventory จะช่วยได้มากขึ้นอีกถ้าเข้าใจ stocking policy หรือ นโยบายจัดซื้อของบริษัท และสำคัญกว่าอีกคือก่อนดูตัวเลขจากงบมันขึ้นอยู่กับกิจการด้วยต้องดูว่า inven อันไหนบริษัทบันทึกอย่างไรเป็น raw mat, WIP, FG และอะไรสะท้อน inventory ที่สอดคล้องกับการขาย (ที่รับรู้เป็น revenue) อะไรสอดคล้องกับการผลิตเพื่อขาย ถ้าดูแต่ตัวเลขพวกค้าปลีกก็จะดูง่ายกว่าพวก oem ต้อง map ตัวเลขให้ถูกต้องครับ คิดออกแค่นี้ตอนนี้
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ ธ.ค. 09, 2013 6:33 pm
0
3
Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ
ถ้าดูจากหัวข้อแปลว่า npl จะถามหาหรอ :wall:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
ศุกร์ ธ.ค. 06, 2013 12:17 am
0
0
Re: ปีนี้ตลาดIPO ของเราระดมทุนไป 1.2 แสนล้าน มาดูว่าเกิดอะไร
:cool: :cool: เป็นกระทู้ที่ดีมากเลยครับ เสิรมนะ ในความเห็นผม ipo ก็คือการระดมทุนชนิดนึงเท่านั้นของบริษัทที่ยังไม่เคย go public ("initial" po) การเข้ามาใน marketplace จริงๆแล้วเพิ่มเรื่องอื่นอีกเช่นเรื่อง credit & reliability (เพราะเข้าหาทุนได้ง่าย) แต่ท้ายสุดหาเงินทุนก็มีสองแบบ equity หรือ debt financing ซึ่งการระดมทุนมีมากมายหลายชนิดดังนั้นจริงๆแล้ว multiplier effect ที่เกิดจาก business activity มีมากมาย ปีนึงแค่ PO ทั่วไปก็เยอะ equity financing นอกตลาดก็มี ส่วนตัวมองว่า ipo อย่างเดียวอาจจะไม่สะท้อนทั้งหมด เพราะดูปีต่อปีส่วน ipo อย่างเดียวอาจจะสูงแต่ภาพรวมของ financing activity อาจจะต่ำก็เป็นได้
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
ศุกร์ ธ.ค. 06, 2013 12:15 am
0
3
Re: มีธุระกิจไหนบ้าง ที่จะโตไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องลงทุนใหม่
ต้องเป็นธุรกิจ"เสือนอนกิน" ผมว่าต้องเป็นธุรกิจที่มีรายได้จาก"ค่าธรรมเนียม" "ค่าผ่านทาง" ปรับขึ้นนิดเดียว รายได้ส่วนที่เพิ่มขึ้นหลังหักภาษีถูกผลักไปเป็นกำไรสุทธิ -ค่าผ่านทาง BTS BMCL BECL -ค่าธรรมเนียมประมูลรถ Auct(เเต่เฮียเเกเล่นลดค่าธรรมเนียมเพราะการเเข่งขันโหด อันนี้จะเป็นอีกเรื่อง) -ค่าธรรมเนียมต่างๆของ AOT ปรับนิดส์เดียวรวยทั้งขาเข้าขาออก คุยกันเรื่อง investment capex แต่อย่าลืม maintenance capex เด้อ กินกระแสเงินสดเหมือนกัน
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
เสาร์ พ.ย. 16, 2013 1:45 pm
0
4
Re: New All time high !!!!
Same same store ที่ลองไล่ๆดู ก็เริ่มฟื้นตัวกันนะครับ ในงบ KTC ค่าธรรมเนียม ที่เกิดจากการรูดบัตร ก็โต 13% ไม่รู้ฟื้นตัวแบบจริง หรือ หลอก คงต้องรอดู Q4 เพื่อ confirm SSS ฟื้นตัวที่ว่านี่กิจการไหนหรอ ส่วนงบ KTC นี่ทรงจาก QoQ จาก Q2, ส่วน Q2 YoY ก็โตพอๆกัน ผมว่าดูขนาดพอร์ทจะแม่นยำกว่าดูรายได้ค่าธรรมเนียมนะ ส่วนพอร์ทโตน้อยมากเลย ก็ยังดีโตนิดนึงส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล ส่วนพอร์ทบัตรเครดิตหดนิดเดียว เห็นอิออนอีกเจ้าให้ข่าวว่ากังวลแต่จะทำให้โตตามเป้า อิออน ส่วนปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองที่อาจจะส่งผลต่อการดำ เนินธุรกิจนั้น อาจมีผลกระทบ บ้างเนื่องจากประชาชนมีการชะลอการใช้จ่ายจากความกัง วลปัญหาทางการเมือง ส่วนด้านอื่นไม่มีปัญหา มั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน. อีกอย่างผมห่วงตัวเลขของรัฐที่ประกาศตอนนี้เพราะกระแสการเมืองแรงเชื่อได้รึป่าว คงไม่มีสอดไส้นะ ปกติผมก็จะหาข่าวอ่านเอามาแปะในบอร์ดแชร์อยู่แล้ว เท่าที่หาข่าวส่วนมากที่ตัวผู้ประกอบการให้ไว้ต่างๆก็ยังว่าสโลว์อยู่ ผมเห็นด้วยว่าต้องรอดู Q4 หวังว่าการเมืองจะไม่กระทบมาก เล่นอะไรกันไม่รู้ เริ่มแย่อยู่แล้วซ้ำเติมอีก
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
เสาร์ พ.ย. 16, 2013 4:21 am
0
2
Re: ในภาวะการณ์แบบนี้ ยังมีใครรอลุ้นผลประกอบการ Q3 ไม๊
ระยะสั้นตามข่าว ระยะยาวตามผลประกอบการ นะครับ ก็หวังว่าสถานการณ์จะไม่เกิดเหตุให้กระทบผลประกอบการระยะกลางถึงยาวครับพี่ชู :mrgreen:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ พ.ย. 11, 2013 4:00 pm
0
0
Re: ในภาวะการณ์แบบนี้ ยังมีใครรอลุ้นผลประกอบการ Q3 ไม๊
งบ q3 สะท้อนอดีตไปแล้วครับ ก็ต้องดูในรายละเอียดว่าที่ผ่านมาเป็นยังไง แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นของปัจจุบันที่อาจกระทบอนาคต ผมคิดว่าถ้าจบไม่สวยมีโอกาสกระทบพื้นฐานประเทศหลายๆด้านครับ ดังนั้นขึ้นอยู่กับ scenario ของ outcome ต่างๆ อาจจะมีกลุ่มกิจการที่ถูกกระทบได้ครับ ถามว่ากลุ่มไหนระยะสั้นระยะยาวผมก็บอกไม่ได้เหมือนกันต้องรอดูตอนจบ ส่วนตอนนี้ผมว่าน่าจะยังไม่มีอะไร ดูห่างๆอย่างห่วงๆ :8)
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ พ.ย. 11, 2013 3:59 pm
0
0
Re: รวยหุ้นด้วย "Let Profit Run" "ภาววิทย์ กลิ่นประทุม"
ใครจะไม่อยากนำเงินไปเก็บไว้ในแบงก์ละ “ดอกเบี้ยเงินฝากสูงถึง 12 เปอร์เซ็นต์” สมมุติ คุณนำเงินไปฝากไว้ 1 ล้านบาท แล้วปล่อยให้ดอกเบี้ยทบต้นไปเรื่อยๆ เหมือนปล่อยให้เงินทำงาน เมื่อคุณอายุ 60 บาท จะมีเงินออมมากถึง 1,000 ล้านบาท เขายกตัวอย่าง คุณภาววิทย์แกคูณเลขผิดเปล่าคับ ไม่ผิดครับ แต่ต้องให้พ่อฝากให้ตั้งแต่วันเกิดครับ :mrgreen: วันเกิดนี่คือตั้งแต่เป็นตัวอ่อนใช่ไหมครับ วันคลอดไม่ได้นะหายไปหลายร้อยล้านเลย :ep:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ พ.ย. 04, 2013 9:22 pm
0
2
Re: คลัง เล็ง รีด VAT –ภาษีที่ดิน
เหอะๆ ออกข่าวทุกวัน เก็บหลายอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ คลังถังแตกรีดภาษีชาเขียว-ขึ้นแวต1% วันที่ 28 ตุลาคม 2556 17:42 คลังถังแตกเตรียมเก็บภาษีชาเขียว-สิ่งแวดล้อม-ล็อตเตอรี่ ปี"57 จ่อขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 1% หวังเพิ่มรายได้ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมือง นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ว่าที่ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมทบทวนโครงสร้างการจัดเก็บภาษีในสินค้าบางรายการ โดยเฉพาะภาษีสรรพสามิตสินค้าเครื่องดื่มชาเขียวสำเร็จรูป จากก่อนหน้านี้ที่กระทรวงการคลังเคยทำการศึกษาไว้แล้วแต่ยังไม่ได้มีการจัดเก็บภาษีจากสินค้าดังกล่าว เนื่องจากผู้ผลิตให้เหตุผลของการขอยกเว้นภาษีไว้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศที่ทำไร่ชา เพราะผู้ผลิตชาเขียวจะใช้ใบชาในประเทศเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้า ทั้งนี้ จากการที่กรมสรรพสามิตได้ขอความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ช่วยตรวจสอบวัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มชาเขียวที่วางจำหน่ายในท้องตลาดโดยทั่วไปแล้ว กลับพบว่าชาเชียวสำเร็จรูปส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของใบชาเขียวในปริมาณที่น้อยมาก ซึ่งต่างจากที่ผู้ประกอบการเคยนำมาใช้เป็นเหตุผลเพื่อขอยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตเพราะอ้างว่าต้องการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกชาในประเทศ กระทรวงการคลังจึงเตรียมพิจารณาจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในสินค้าเครื่องดื่มชาเขียวสำเร็จรูปในเร็วๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ภายในปีงบประมาณ 57 ซึ่งในขั้นตอนการดำเนินการสามารถออกเป็นประกาศจากอธิบดีกรมสรรพสามิตก็จะมีผลบังคับใช้ได้แล้ว "ที่เราศึกษาไว้ ตามหลักจะมีเกณฑ์ว่า ชาเขียวที่เรายกเว้นภาษีให้เพราะช่วยเหลือเกษตรกร แต่พอเรามาดูส่วนผสมของชาเขียวที่นำมาใช้ผลิต พบว่ามีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก เราส่งให้ อย.ดูแล้วพิสูจน์แล้วว่ามันมีส่วนผสมของชาน้อยมาก ดังนั้นความจำเป็นที่ผู้ประกอบการอ้างว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรอาจฟังไม่ขึ้น ตอบสังคมไม่ได้" นายรังสรรค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังจะพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีประเภทอื่นด้วย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เนื่องจากเห็นว่ายังมีความจำเป็นจะต้องปรับเพิ่มขึ้น จากที่จัดเก็บในปัจจุบัน 7% ซึ่งหากปรับเพิ่มขึ้น 1% จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 50,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี จะต้องพิจารณาช่วงเวลาให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งจำเป็นต้องหารือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญต้องขึ้นกับนโยบายรัฐบาลด้วย ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะเข้าไปดูการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสิ่งแวดล้อม และภาษีสรรพสามิตสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะเข้าไปพิจารณาพร้อมกันและจะพยายามหาข้อสรุปให้ได้ภายในปีงบประมาณ 2557 ว่าที่ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า ส่วนการปรับขึ้นสรรพสามิตน้ำมันดีเซลนั้น ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดจะปรับเพิ่ม เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ ต.ค. 28, 2013 6:10 pm
0
0
Re: มองภาพนี้แล้วคิดอย่างไร
เหอะๆเจอตัวเจ้ามือแล้ว แอบมาวาดรูปอยู่นี่เอง :mrgreen:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
จันทร์ ต.ค. 28, 2013 4:55 pm
0
0
Re: คลัง เล็ง รีด VAT –ภาษีที่ดิน
?????? ยังไง รังสรรค์สงสัยไม่ได้อ่าน status ของพี่คิตตี้ "คลัง" เอาแน่ขึ้นภาษี "ชาเขียว" 10% "รังสรรค์" ย้ำขึ้นแวต 8% แต่ต้องหาจังหวะที่เหมาะสมก่อน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2556 19:39 น. "รังสรรค์" ลั่นเอาแน่ขึ้นภาษี "ชาเขียว" หลังเข้านั่งเก้าอี้ปลัด "คลัง" อย่างเป็นทางการ แย้มเก็บอัตรา 10% เหมาะสมสุด คาดสร้างรายได้อีกหลายพันล้าน เล็งจับมือ "อย." สอบคุณสมบัติปริมาณชาที่แท้จริง ป้อนกันพ่อค้าอ้างเกษตรกรขอเว้นภาษี ย้ำขึ้นแวต 8% แต่ต้องหาจังหวะที่เหมาะสมก่อน ส่วนภาษีน้ำมันดีเซลยังไม่กล้าแตะ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังอย่างเป็นทางการแล้ว จะทบทวนภาษีหลายประเภทที่ศึกษาไว้เป็นเวลานาน โดยเฉพาะภาษีสรรพสามิตน้ำชาเขียว เพราะเห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันมีความเหมาะสมในการเตรียมจัดเก็บภาษีแล้ว โดยศึกษาไว้ที่ร้อยละ 10 ของมูลค่าสินค้า จากที่ปัจจุบันยกเว้น เพราะที่ผ่านมาเป็นแนวคิดส่งเสริมการใช้สินค้าเกษตรกร โดยเมื่อเก็บภาษีคาดว่าจะทำให้กรมสรรพสามิตมีรายได้เข้ามาหลายพันล้านบาทต่อปี นายรังสรรค์ กล่าวว่า กรมสรรพสามิตได้ประสานความร่วมมือไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติเครื่องดื่มชาเขียวที่ขายในท้องตลาด พบว่าส่วนใหญ่มีส่วนผสมของชาเขียวน้อยมาก ดังนั้น ข้ออ้างในการยกเว้นภาษี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจึงฟังไม่ขึ้นอีกแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องหารือกับผู้ประกอบการใหม่อีกรอบ เพราะได้หารือร่วมกันมาแล้ว คาดว่าจะสรุปแนวทางการจัดเก็บภาษีได้ในเร็วๆ นี้ โดยใช้ประกาศคำสั่งของอธิบดีก็สามารถดำเนินการได้ คาดว่าเริ่มจัดเก็บภาษีได้ภายในปีงบประมาณ 2557 นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีประเภทอื่นด้วย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพราะเห็นว่ายังมีความจำเป็นจะปรับเพิ่มขึ้นจากที่จัดเก็บในปัจจุบันร้อยละ 7 จากเดิมเคยศึกษาไว้ หากปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 50,000 ล้านบาท แต่ต้องดูเวลาให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น ต้องหารือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญต้องขึ้นกับนโยบายรัฐบาลด้วย นายรังสรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ถือเป็นนโยบายรัฐบาลที่คงอัตราไว้ และคาดว่าคงไม่ได้ปรับขึ้นเร็วๆ นี้ เพราะจะดูเพียงฐานะการคลังและการหารายได้ของรัฐบาลไม่ได้ คงต้องดูปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย ปัจจุบันยังมีเงินคงคลังจำนวนมากนับแสนล้านบาท สามารถรองรับการเบิกจ่ายได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
อาทิตย์ ต.ค. 27, 2013 11:58 pm
0
0
Re: คลัง เล็ง รีด VAT –ภาษีที่ดิน
รมตคลังออกมาบอกแล้วว่ากรณ์พูดไม่จริง555 เห็นแล้วหละ เหมือนกะเรื่องภาษีของฟุ่มเฟือยเลยที่สร้างกระแสมากมายแล้วก็ออกมาเซย์โน แต่ว่าไปท่านเองก็ลีลาไว้ลายไม่เบา ต้องรอดูกันต่อไป เห็นเล่นหลายรอบแล้วเรื่องนี้
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
ศุกร์ ต.ค. 25, 2013 10:55 pm
0
0
Re: คลัง เล็ง รีด VAT –ภาษีที่ดิน
โหพี่บลูจัดหนัก ถ้าทำเวปแฉที่นี่คงโดนเก็บครับ :cry:
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
ศุกร์ ต.ค. 25, 2013 4:32 pm
0
0
Re: อะไรต่อมิอะไรมันก็ขึ้นราคา
บางอย่างก็ลดราคาจนเว่อร์นะครับ พี่ปรัชญา :mrgreen: เมื่อกี้ผมไปห้างแห่งนึงมา มีรถ honda ของดีลเล่อร์เจ้านึงมาขาย เห็นโปรโมชั่นแล้ว ตกใจมากทีเดียว ผ่อน 84 เดือน ประกันชั้น1 ดอกเบี้ย 0% ของแถมอีกเพียบ รับรถได้เลย :shock: เซ็งมากมาย ผมเพิ่งผ่อนรถหมด 5 ปีที่แล้วว่าโคตรถูกแล้ว ผ่อน 60 เดือน ดอกเบี้ย 3.3% ของแถมไม่มี รอรถ 2 เดือนกว่าจะได้ :wall: โอ้ผ่อนยาวมากเลยครับ ตลาดน่าเป็นห่วงลดราคาเป็นตลาดคอมพิวเตอร์พีซี ตลาดคอมอันนั้นเพราะมันมีเรื่องการเปลี่ยนของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวด้วยหละคับ ส่วนรถ บ้าน ก็เพราะเพิ่งผ่านช่วงกระตุ้นไป แต่บริโภคทั่วไปนี่สิน่าเป็นห่วง ผมอ่านข่าวมันไม่ใช่แค่การพูดภาพรวม ผู้ประกอบการค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภครายบริษัทบ่นกันหมด
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
ศุกร์ ต.ค. 25, 2013 3:24 pm
0
0
Re: อะไรต่อมิอะไรมันก็ขึ้นราคา
แต่บางอย่างไม่แน่อาจต้องปรับลงเพราะ supply-demand ครับ ห่วงภาระหนี้ฉุดกำลังซื้อบ้านไตรมาส4 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ห่วงภาระหนี้ ฉุดกำลังซื้อบ้านช่วงไตรมาส 4 คาดตลาดปีนี้เติบโตไม่เกิน 5% นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ยอมรับว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2556 ยังน่าเป็นห่วงในเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภค เพราะปัญหาเรื่องหนี้สิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการซื้อและโอนบ้าน รวมทั้งมีสัญญาณว่า ธนาคารจะไม่เร่งรีบปล่อยสินเชื่อบ้านมากนัก เพราะส่วนใหญ่ปล่อยสินเชื่อบ้านได้ตามเป้าหมายแล้ว จึงอาจทำให้ตลาดไตรมาส 4 ปีนี้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะต้องเหนื่อยมากขึ้น โดยคาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้จะเติบโตได้ไม่เกิน 5% ส่วนตลาดบ้านเดี่ยวยังชะลอตัวต่อเนื่อง แต่ทาวน์เฮาส์มีการเติบโตที่ดีมาก ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย บอกว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้คงต้องลุ้นโครงการคอนโดมิเนียมใหญ่ๆ ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทในย่านรังสิตของผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งหากมียอดขายที่ดี ก็จะส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
ศุกร์ ต.ค. 25, 2013 1:23 pm
0
0
Re: คลัง เล็ง รีด VAT –ภาษีที่ดิน
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000133012
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. ต.ค. 24, 2013 12:35 pm
0
0
Re: คลัง เล็ง รีด VAT –ภาษีที่ดิน
อารายกัน ไหนว่า 8% “กรณ์” โพสต์เฟซบุ๊กอัด “คลัง” เตรียมขึ้นแวตเป็น 10% รีดเงินคนทั้งประเทศเพื่ออุ้มคนรวย อดีตขุนคลัง “กรณ์ จาติกวณิช” โพสต์เฟซบุ๊ก ซัดแนวคิด “คลัง” จ่อขึ้นภาษี “แวต” จาก 7% เป็น 10% เท่ากับชดเชยลดภาษีนิติบุคคลอุ้มคนรวย ถือเป็นการรีดเงินคนทั้งประเทศ ยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำ แนะเลิกจำนำข้าวแทน นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Korn Chatikavanij กรณีที่ กระทรวงคลัง เตรียมเสนอรัฐบาลขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหวังเก็บภาษีเพิ่มอีก 5 หมื่นล้านบาท พร้อมปัดฝุ่นกฎหมายจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ว่า กระทรวงการคลัง ออกมาพูด 2 เรื่องสำคัญ เรื่องแรกคือ การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10% เรื่องที่ 2 คือ การออกใบอนุญาตให้นิติบุคคลปล่อยสินเชื่อรายย่อยได้ “เพื่อทดแทนการกู้นอกระบบ” เอาเรื่องแรกก่อน ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังไปลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 20% ทำให้รายได้หายไปประมาณ 200,000 ล้านบาท ซึ่งกลายเป็นรายได้เพิ่มเติมของคนรวย และต่างชาติ เพราะหุ้นส่วนใหญ่จะอยู่ในมือคนรวย และต่างชาติ รัฐมีหน้าที่ช่วยนักธุรกิจให้รวยขึ้น แต่ไม่ใช่ด้วยการลดภาระเขาในการช่วยแบ่งปันให้แก่คนยากคนจน เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องหารายได้จากทางอื่น ซึ่งทุกๆ 1% ภาษีมูลค่าเพิ่มเท่ากับรายได้ภาษีเกือบ 60,000 ล้าน ถ้าเพิ่ม VAT เป็น 10% ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าๆ กับที่รัฐบาลลดภาษีให้นายทุนและคนรวย แต่เป็นการเก็บชดเชยจากประชาชนทุกคน สุทธิแล้วรายได้รัฐไม่แตกต่างมากจากเดิม แต่ความเหลื่อมลํ้าเพิ่มขึ้นมาก ส่วนวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีก็คือ การลดภาระค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง ยกเลิกการจำนำข้าว และชดเชยโดยตรงให้ชาวนา เราก็จะประหยัดเงินภาษีไปได้ปีละกว่า 200,000 ล้านบาท ถ้าทำอย่างนี้ก็จะไม่ต้องเพิ่มภาระให้ประชาชนแม้แต่บาทเดียว เรื่องที่ 2 ขอเป็นพรุ่งนี้ครับ
โดย
วรันศ์ บัฟเฟต
พฤหัสฯ. ต.ค. 24, 2013 12:34 pm
0
0
506 โพสต์
of 11
ต่อไป
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
วรันศ์ บัฟเฟต
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร ก.พ. 02, 2010 4:59 pm
ใช้งานล่าสุด:
จันทร์ ก.ย. 08, 2014 10:26 pm
โพสต์ทั้งหมด:
1679 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.09% จากโพสทั้งหมด / 0.31 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
value trap
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว