Re: พอร์ตอภิมหาเศรษฐี/ คนขายของ ขอบคุณมากครับ โดย dr.momo เสาร์ ม.ค. 10, 2015 6:59 am

Re: เปิดจอง Com Visit BCH วันจันทร์ที่ 29 กย. 57 เวลา 10.00น จอง 1 ที่ครับ โดย dr.momo จันทร์ ก.ย. 29, 2014 10:00 am

Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..." ผมเข้ามาอ่านบทความนี้โดยที่ไม่รู้เลยว่าเป็นของพี่เตา จากที่ผมรู้จักคนๆนี้เป็นการส่วนตัว ผมอยากอธิบายความคิดของเขาที่ผมรู้ ที่ผมเห็นผ่านการพูดคุยโดยตรงให้พี่ๆฟังเหลือเกิน เฮ้อออออ :| :| ถ้าไม่รบกวนเกินไป อยากให้ลองแชร์ผ่านข้อความในนี้ดูครับ จากประสบการณ์ของผม ถ้าความคิดคือ 100 การจะถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือออกมาได้ครบ 100 เป็นเรื่องยากและที่สำคัญ ง่ายต่อการตีความไปในทิศทางต่างๆ อย่างไรก็ตาม กระทู้นี้เป็นกระทู้หนึ่งที่มีคุณภาพในเชิงของการตีความและมุมมองครับ ได้ประโยชน์มากจริงๆ โดย dr.momo เสาร์ ก.ย. 06, 2014 10:47 am

Re: ประชาสัมพันธ์ Company Visit (MC) ไปวิสิทวันที่ 24 มีค. 5 ลงชื่อไปด้วยครับ โดย dr.momo ศุกร์ มี.ค. 21, 2014 10:09 pm

Re: จาก 1640 ท่านถือหุ้นกี่เปอร์เซนต์ครับ เหลืออยู่แค่ 5% ครับ ต้องบอกว่า โชคดีสุดๆ เหตุผลคือ ผมมองทุกอย่างเป็นความเสี่ยงครับ ถ้าความเสี่ยงสูง เราก็ถอยออกมาได้ ยอมเสียโอกาส แต่ไม่ยอมขาดทุนครับ ที่สำคัญกำไรปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่วางแผนไว้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรีบอะไร ตอน Subprime ก็ทำแบบนี้ อาจเสียโอกาสไปบ้าง แต่รอจังหวะเหมาะๆ ดีกว่า (สุดท้าย ผมคิดว่าบอกไม่ได้หรอกครับว่าคิดถูกหรือคิดผิด จนเหตการณ์มันเฉลยออกมา) โดย dr.momo อังคาร มิ.ย. 25, 2013 8:18 am

Re: ความเสี่ยง กับการเดินเท้า เห็นด้วยมากที่สุดครับ เร็วๆ นี้ ผมเพิ่งคิดได้ ในเรื่องที่คล้ายๆ กับที่คุณหมอเล่าเลย คือผมเป็นคนที่ เวลาเลี้ยวรถออกจากที่จอดรถ แล้วมีรถขวางอยู่ ผมจะเสี่ยง ขับออกไปทุกครั้ง ซึ่งหลายครั้ง คนที่ยืนมองอยู่จะบอก ว่าใกล้มากถึงใกล้ที่สุด แล้วผมก็ไม่คิดอะไร จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมตัดสินใจถอยหลัง แล้วขยับรถอีกครั้ง แล้วนึกสะท้อนในใจตัวเองว่า แค่ถอยหลังนิดเดียวเอง เทียบไม่ได้เลยกับความเสี่ยงที่เราฝืนเลี้ยวรถออกไป แล้วเกิดชนขึ้นมา เป็นสิ่งเล็กๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนช่วงนี้ของผมเลยก็ว่าได้ โดย dr.momo เสาร์ มี.ค. 02, 2013 7:19 pm

Re: หลักสูตรอบรม การลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 2 เดือนมกราคม อยากลงอีกรอบหนึ่งมาก....แต่มาคิดดูแล้ว แบ่งให้คนที่ยังไม่ได้อบรมได้เข้าบ้างดีกว่า :o โดย dr.momo ศุกร์ ธ.ค. 07, 2012 7:52 am

Re: ฉัตรชัย วงแก้วเจริญวิเคราะห์หุ้น 'รวย'! จากงบการเงิน พี่ฉัตรชัยสุดยอดมากครับ นับถือหมดใจ โดย dr.momo อังคาร ต.ค. 23, 2012 7:05 pm

Re: #1 สรุปอบรม 6/10/55 แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ดร.นิเวศ สุดยอดมากครับ ขอบคุณเช่นกันครับ โดย dr.momo พุธ ต.ค. 10, 2012 12:52 pm

Re: 'ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ'นักถอดงบการเงิน 'ผู้ปราดเปรื่อง' ต้องบอกว่า พี่ฉัตรชัย ทำให้ผม "รู้สึกตัว" ว่า 9 ปีที่ผ่านมา ตัวเองโชคดีแค่ไหนครับ ตอนนี้ตั้งใจว่า จะไม่ซื้อหุ้นตัวใด ถ้ายังไม่ได้ทำในสิ่งที่พี่ฉัตรชัยสอนมาเสียก่อนครับ ขอขอบคุณด้วยใจจริง โดย dr.momo พุธ ต.ค. 10, 2012 7:59 am

Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ เข้าใจว่าเป็นคำพูดของ Buffet นะครับ ความหมาย ก็คงประมาณว่า ผู้ขายคอมโมกำหนดราคาเองยาก ทำให้มาร์จินน้อย ในขณะที่สินค้าที่เป็นแบรนด์เนม จะมีมาร์จินสูง ถึงแม้ว่าต้นทุนที่เป็นคอมโมอาจผันผวนตามราคาตลาด แต่บริษัทที่ขายสินค้าเป็นแบรนด์ก็น่าจะปรับราคาได้ ซึ่งทำให้มีผลกระทบน้อย ดังนั้นบริษัทที่ซื้อวัตถุดิบเป็นคอมโมและขายสินค้าที่เป็นแบรนด์จึงน่าจะได้เปรียบในระยะยาวครับ โดย dr.momo อังคาร ต.ค. 09, 2012 12:00 pm

Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ มาช่วยเพิ่มเติมบางส่วนนะครับ - เวลาซื้อหุ้น ให้ซื้อโดยมีทัศนคติว่าจะไม่ขายเลย - ค่าตัวเลขต่างๆ เป็นตัวเลขที่เป็นจริงเฉพาะช่วงเวลาหนึ่งๆ แต่ไม่มีอะไรมาการันตีว่ามันจะเป็นจริงตลอดไป (เช่นค่า P, E, G) - ซื้อบริษัทโดยการดูจาก Market Cap ว่าถ้าต้องซื้อทั้งบริษัทด้วยราคาดังกล่าว มันถูกหรือแพงไปหรือไม่ - ในระยะยาว บริษัทที่ดี จะโตแค่ 10-15% - ไม่มีบริษัทที่โต >20-30% ตลอดไป - อย่าดูถูก "Mr. Market" - บริษัทที่ซื้อวัตถุดิบเป็น Commo แต่ขายสินค้าเป็น Brand name จะได้เปรียบ - GDP ต้องคิดรวมเงินเฟ้อด้วย เช่นโต 4% + เงินเฟ้อ 3% ดังนั้นบริษัทที่ดีควรโตมากกว่า 7% - Retail is detail สิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจค้าปลีก คือการ Control และ Logistic - ธุรกิจที่ดี ไม่ควรต้องลงทุนหนักๆ บ่อยๆ โดย dr.momo จันทร์ ต.ค. 08, 2012 8:34 am

Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 1/2 ความรู้สึก อยากบอกว่า 2 วันที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นได้ชัดมากๆ นอกเหนือไปจากความรู้ที่มากมายแล้ว ก็คือความตั้งใจของอาจารย์ที่มาถ่ายทอดความรู้ครับ แต่ละท่านใส่ใจ ใส่รายละเอียด มากันอย่างเต็มที่ครับ ขอขอบคุณด้วยใจจริง โดย dr.momo จันทร์ ต.ค. 08, 2012 8:24 am

Re: หุ้นในพอร์ตของคุณ PE เท่ากับเท่าไรครับ ของผมก็ประมาณนี้ครับ 62% pe 40 เท่า 20% pe 5 เท่า 18% pe 16 เท่าครับ อ้างอิงจาก pe ปัจจุบันตาม set นะครับ ตอนซื้อ pe น้อยกว่านี้ครับ โดย dr.momo พุธ ก.ย. 19, 2012 5:15 am

Re: รายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมอบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นท หมายเลข 33 โอนเงินและ PM เรียบร้อยครับ โดย dr.momo อังคาร ก.ย. 11, 2012 4:24 pm

Re: รับสมัครหลักสูตรอบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 สมัครเรียน โดย dr.momo อังคาร ก.ย. 11, 2012 9:00 am

Re: ภาษี เงินปันผล ของคณะบุคคล เคยศึกษาเรื่องการจัดตั้งคณะบุคคลมานิดหน่อยครับ ว่าตามตรง ก็เรื่องภาษีที่จะจ่ายน้อยลง เพราะฐานรายได้จะเริ่มคิดใหม่ และเท่าที่ทราบ เหมือนที่คุณ miracle พูดนะครับ เพิ่มเติมคือปัจจุบันไม่ให้ตั้งคณะบุคคลแล้ว แต่จะให้ตั้งเป็น หสม. แทนครับ นอกจากคนที่ได้จัดตั้งไปแล้ว (สุดท้ายผมก็ไม่ได้จัดตั้งนะครับ) ส่วนแบบฟอร์ม พอดีอยู่ในคอมพ์ที่ทำงาน แล้วผมไม่ได้เข้าออฟฟิศครับ ดังนั้นคุณ Picatos ถามอากู๋ได้เลยครับ มีให้ดาวน์โหลดครับ ส่วนระเบียบการจัดตั้ง เขาก็จะขู่พอสมควรว่าไม่ใช่การจัดตั้งเพื่อเลี่ยงภาษีครับ โดย dr.momo พฤหัสฯ. ก.ย. 06, 2012 11:39 am

Re: ***เปิดจองงานสัมมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไอ 9/9/2555*** จองสัมมนา โดย dr.momo พฤหัสฯ. ส.ค. 30, 2012 9:15 am

Re: ระหว่าง ขุดหุ้น กับ ลอกหุ้น อันไหน รวยระยะยาว กว่ากัน ย้อนกลับไปประเด็นของกระทู้ สิ่งหนึ่งที่ผมทำเสมอในการขุดหุ้น นอกเหนือจากการไล่อ่าน 56-1 คือการอ่านร้อยคนร้อยหุ้น ของบริษัทที่สนใจ ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายครับ มันเหมือนกับเรานั่ง time machine ย้อนกลับไปอ่านความคิดและอารมณ์ ของคนในแต่ละช่วงเวลา อ่านข่าว ผบห. และสิ่งที่เขาทำ มันคือ Timeline ของบริษัทแทบจะทั้งหมด ปล. ไม่รู้คิดไปเองไหม แต่นี่เป็นกระทู้ที่ให้ความรู้สึก คล้ายกับบรรยากาศเก่าๆ เลยครับ พี่ๆคุยกัน ชอบจริงๆ โดย dr.momo พุธ ส.ค. 01, 2012 9:45 pm

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร ถ้างั้นเพื่อความสนุก ขอยืมกระทู้พี่โดม ใช้ในการเล่นเกมส์ทายปัญหากันหน่อยนะครับ มาช่วยกันทายครับว่า หุ้นพวกนี้ ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา พื้นฐานอะไรเปลี่ยนหรือไม่ และ เปลี่ยนแบบนี้ จะยั่งยืนมากน้อยแค่ไหน ดีไหมครับ GFPT STA CHOTI CFRESH CPF MALEE OISHI หมายเหตุ หุ้นที่ผมเลือกมาส่วนใหญ่ แล้ว จะมี ราคาหุ้น ทำจุดสูงสุดใหม่ พร้อมกับ ผลกำไรของบริษัทที่ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน แต่อยากให้ discuss ในแง่ของพื้นฐานเท่านั้นนะครับ ขอเลือก OISHI เพราะศึกษามาเล็กน้อย (ถือว่าช่วยสร้างกระแสให้คนมาตอบเยอะๆ ละกันครับ) คิดว่าพื้นฐานข้อ 1, 4 กับข้อ 5 เปลี่ยนครับ ความเห็นคือ ธุรกิจโออิชิ แบ่งออกเป็น สองส่วนหลักคือ ร้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เทรนด์ของร้านอาหารญี่ปุ่น คนนิยมทานอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ผู้บริโภคมีกำลังจ่าย ร้านอาหารญี่ปุ่นก็เลยขายดี ของโออิชิที่ขายดีสุดก็คือ ชาบูชิ จะเห็นว่าคนแน่นแทบจะทุกสาขา การเปิดสาขาใหม่ด้วยการขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้า ก็ทำให้มีลูกค้าเพิ่มและรายได้เพิ่ม ความเสี่ยงคือคู่แข่งก็เยอะขึ้นด้วยเช่นกัน ร้านอาหารเปิดใหม่เต็มไปหมด ผู้บริโภคมีทางเลือก ถ้าจะเข้าร้านหนึ่งแล้วคนแน่นมาก ถ้าไม่ได้อยากทานจริงๆ ก็ไปทานร้านอื่นได้ เทรนด์ของเครื่องดื่ม จากเดิมที่คาดว่า ชาเขียวถึงจุดอิ่มตัว ปรากฏว่าเปลี่ยนไป ตลาดยังโตอยู่ คนนิยมดื่มชาเขียวมากขึ้น ประกอบกับการลาออกของคุณตันและการเกิดอิชิตันทำให้เกิดการแข่งขัน ส่งผลให้ขนาดของตลาดชาเขียวเติบโตขึ้น นอกจากนี้ โออิชิ ยังมีความพยายามที่จะออก Product ใหม่ๆ ความพยายามที่จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากเครื่องดื่มน้ำดำ เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากตลาดใหม่ๆ เช่นตลาดสาหร่าย เป็นต้น ซึ่งถ้าทำสำเร็จจะส่งผลให้พื้นฐานด้านการตลาดเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น การ Synergy กับบริษัทในเครือ เช่นบริษัทเสริมสุข น่าจะส่งผลดีในเรื่องของ Logistics และเครือข่ายร้านขายปลีก การเปิดห้าง Gateway ซึ่งเน้นความเป็น Japanese Mall ส่วนความเสี่ยงคือ บริษัทจะทำได้อย่างที่คาดหรือเปล่า การเกิดคู่แข่งสำคัญเช่นอิชิตัน ที่แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปเรื่อยๆ การแย่งส่วนแบ่งตลาดสาหร่ายของเถ้าแก่น้อย ก็ไม่ได้ง่าย การเกิดสงครามราคา ทำให้ Margin ลดลง เป็นต้น ส่วนคำถามที่ว่าจะยั่งยืนแค่ไหน ผมคิดว่าโลกทุกวันนี้ เป็นโลกของปลาใหญ่กินปลาเล็ก Economy of Scale, Synergy of Business ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจเข้มแข็ง บริษัทเล็กๆ อย่างไรก็สู้ด้วยยากครับ นอกเสียจากเกิดเมกะเทรนด์ใหม่ ที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยตรง แล้วผู้บริหารปรับตัวไม่ทัน เหมือนอย่างที่เกิดกับโนเกีย,โกดัก,หรือโซนี่ ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเกิดกับธุรกิจอาหารหรือเครื่องดื่มครับ โดย dr.momo จันทร์ ก.ค. 30, 2012 2:48 pm

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร พื้นฐาน - ปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ ที่ทำให้ธุรกิจมีผลกำไร ผลกำไรเติบโต และเติบโตอย่างยั่งยืน พื้นฐานเปลี่ยน - หมายถึงปัจจัยพื้นฐานที่ว่า "เปลี่ยนไป" ทำให้ธุรกิจ มีผลกำไรลดลง หรือขาดทุน ปัจจัยที่ทำให้พื้นฐานเปลี่ยน - ก็น่าจะเป็นสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ เช่น คู่แข่ง กฏหมาย วัตถุดิบ สินค้าทดแทน ผู้ส่งมอบ พฤติกรรมลูกค้า รวมถึงสภาพแวดล้อมในบริษัทเองเช่น พนักงาน นโยบายของบริษัท และอื่นๆ อีกมากมาย โดย dr.momo ศุกร์ ก.ค. 27, 2012 2:33 pm

Re: กระทู้ในดวงใจของผม http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=10998 งาน tvi โดย dr.momo พุธ ก.ค. 18, 2012 10:03 pm

Re: กระทู้ในดวงใจของผม http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=46674&hilit=การหาหุ้น+10+เด้ง ช่วยแปะ โดย dr.momo พุธ ก.ค. 18, 2012 10:01 pm

Re: ระหว่าง ขุดหุ้น กับ ลอกหุ้น อันไหน รวยระยะยาว กว่ากัน สำหรับผม การขุดหุ้น หรือ ลอกหุ้น คงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะบอกว่า อันไหนจะทำให้ รวย "ระยะยาว" ผมคิดว่า ปัจจัยที่สำคัญกว่า คือความรู้ในบริษัทที่จะ "ลงทุน" มากกว่าครับ จากประสบการณ์ ความรู้ ทำให้เรามั่นใจ และตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง --------- ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่ การขุดหุ้น - หุ้นนั้นคนยังไม่รู้จัก ราคาอาจจะต่ำกว่ามูลค่ามาก MOS เยอะ การลอกหุ้น - คนรู้จักเยอะแล้ว หรือมีคนเข้าไปเก็บเยอะแล้ว ราคาก็อาจจะเริ่มสูงแล้ว MOS ต่ำลง --------- การขุดหุ้น - เรามีความรู้มากพอที่จะหาหุ้นด้วยตนเอง การลอกหุ้น - เราต้องให้คนอื่นมาบอกหุ้นเราก่อน แล้วเราจึงเริ่มศึกษา (ถ้าไม่มีคนบอกเราล่ะ) --------- เปรียบแบบนี้ได้ไหม การขุดหุ้น - เราเขียนโปรแกรมเองตั้งแต่เริ่มต้นได้ การลอกหุ้น - เราทำได้แค่ศึกษาคำสั่งของโปรแกรมที่คนอื่นเขียนไว้ก่อน --------- อย่างไรก็ตาม การได้เห็นว่าคนอื่นหรือคนเก่งกำลังสนใจหุ้นตัวไหน มันทำให้ขอบเขตในการค้นหามันแคบลงเหมือนกัน ว่ากันตามตรง ผมซื้อหุ้นครั้งสุดท้ายตั้งแต่เดือนมกราคม อยู่เฉยๆ ไม่ได้ซื้อขายมาจนถึงตอนนี้ เพราะขุดหุ้นที่ถูกใจ มี MOS ที่เหมาะสมไม่เจอเลย --------- ปล.อยู่ว่างๆ ขุดกระทู้สมัยเก่าๆ ที่คนเก่งๆ คุยกัน อ่านแล้วอิจฉาบรรยากาศสมัยนั้นจริงๆ โดย dr.momo พุธ ก.ค. 18, 2012 2:34 pm

Re: ถ้ามองหาหุ้นที่จะลงทุนที่มั่นใจมากๆ ไม่ได้ จะทำยังไง เรื่อง passion เกี่ยวกับหุ้นที่ถือของคุณ pak นี่ ผมว่าเป็นที่ 1 เลยครับ โดย dr.momo อาทิตย์ ก.ค. 15, 2012 1:37 pm

Re: รบกวนถามหน่อยครับ ค่าเบต้า beta นี้คำนวณยังไงเหรอครับ แต่ก่อนรู้แค่เบต้า คือความสัมพันธ์ของตลาดกับราคา เพิ่งถึงบางอ้อ ว่ามันคือ regression นั่นเอง โดย dr.momo อาทิตย์ ก.ค. 15, 2012 12:30 pm

Re: ไม่รู้จะโพสอะไร เพราะ ไม่รู้จะโพสต์อะไร เพราะคิดว่าสิ่งที่เราจะโพสต์ เราก็อ่านมาจากในนี้เอง แล้วจะโพสต์ไปทำไม อายเขาครับพี่ โดย dr.momo จันทร์ ก.ค. 09, 2012 2:10 pm

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ ผมทำระบบรับสมัครออนไลน์ให้ สนใจไหม ไม่คิดค่าใช้จ่ายครับ อยากช่วยเหลือ โดย dr.momo พุธ มิ.ย. 27, 2012 12:49 pm

Re: หุ้นตัวไหนที่คุณถือแล้วรู้สึก สบายใจที่สุด (Ver. 2012) ตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆ ไม่มีหุ้นตัวไหนที่ถือแล้วสบายใจเลย เพราะตอนถือ ก็จะวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงเยอะ แต่พอขายก็จะวิเคราะห์ถึงข้อดีเยอะ แล้วต้องไปซื้อกลับมาใหม่ ยิ่งลงทุนไปนานๆ ยิ่งรู้ซึ้งมากขึ้นๆ และเริ่มสบายใจมากขึ้นๆ หุ้นที่ถือก็นานขึ้นๆ ครับ สรุป หุ้นในพอร์ตทุกตัวเป็นหุ้นที่ถือแล้วสบายใจที่สุดครับ โดย dr.momo พุธ มิ.ย. 27, 2012 8:11 am

Re: ผมผู้ซึ่งประเมินผิดตลอดการ ขอบคุณ ทุกคนที่ขียนถึงผม สกดชื่อผม เรียกชื่อผม ไม่ว่าจะชื่นชม ตำหนิ หรือแม้แต่เรียกชื่อผมแบบไม่บวกไม่ลบก็ตาม แต่ลึกๆแล้วผมก็ชอบคนยกยอ ชมเชย ศรัทธาผมมากกว่า ทำให้รู้สึกว่าตัวเองฉลาด เก่ง และพองดี ที่คุณฮัมดัม บอกว่า ผมขาด spelling checker ผมไม่เข้าใจว่า spelling checker เป็น คน หรือ soft ware หรือ การกระทำของผม คิดอยู่นานว่าจะแสดงความเห็นดีไหม สุดท้ายตัดสินใจได้ เมื่อเห็นเรื่อง spelling checker เรื่อง spelling checker ถ้าผมเข้าใจความหมายของพี่ humdrum ไม่ผิด ผมมีประสบการณ์หนึ่ง ที่น่าจะเปรียบเทียบได้ ผมเคยมีเจ้านายคนหนึ่ง ซึ่งประสบความสำเร็จเร็วมาก เก่ง และผมสนุกมากที่จะทำงานด้วย การทำงานทุกวันมีแต่การเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความเห็น แล้วก็สร้างผลงาน ทุกคนรอบตัวต่างชื่นชม ยกยอ เจ้านายผมมากมาย เวลาผ่านไปประมาณ 10 ปี วันหนึ่งผมได้ตระหนักว่า ผมไม่สามารถแลกเปลี่ยนความเห็นกับเขาได้อีกแล้ว เนื่องจากความเห็นเขาจะต้อง "ถูกเสมอ" เขาว่าคนทุกคนรอบตัวเขาต่าง "ไม่ฉลาด ไม่รู้จักคิด" ความคิดเห็นที่ตรงข้ามกับเขา จะถูกเขาแย้ง ต่อว่า หรือเหน็บแนมไปอีกนาน เขาจะ "สอน" ทุกคนให้ทำแบบที่เขาคิดเสมอ โดยไม่รู้ตัวว่าหลายคนได้เริ่มตีตัวห่างจากเขา เหลือแต่คนที่ทุกวัน พูดจาชมเชย ยกยอเขา ผมคิดว่า เขาขาด spelling checker ครับ ปล. ผมไม่ได้หมายความว่า คุณ blueplanet มีนิสัยเป็นแบบอดีตเจ้านายผมนะครับ แล้วข้อเปรียบเทียบนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจจะสื่อใดๆ ถึงตัวคุณ blueplanet เลย (ขอชี้แจงไว้ก่อน) เพียงแค่จะสื่อถึงความหมายของคำว่า spelling checker ในความคิดผมเท่านั้น ด้วยความปรารถนาดี โดย dr.momo ศุกร์ มิ.ย. 08, 2012 7:49 am

Re: มาแชร์ประสบการณ์"เสียค่ายกครู"ครั้งแรกกัน N-park ประมาณ 8 บาท ขาย 6 บาท สมัยตอนที่ยังเก็งกำไรอยู่ พรรคพวกบางคนที่ซื้อพร้อมกัน ยังถือถึงตอนนี้ โดย dr.momo ศุกร์ มิ.ย. 08, 2012 6:39 am

Re: ถ้าคุณมีโอกาส ออกรายการ money talk 1.ปัจจุบันทำงานอะไร เป็นผู้บริหารหน่วยงานไอทีในองค์กรเอกชนเล็กๆ แห่งหนึ่ง 2.ลงทุนมานานแค่ไหน น่าจะสักปี 45-46 3.มีจุดเริ่มต้นในการลงทุนอย่างไร อ่านหนังสือตีแตก จำได้ว่า ตอนเปิดบัญชีหุ้น เที่ยวสอนใครต่อใคร เรื่องการลงทุน แนวความคิดเรื่องการเป็นเจ้าของบริษัท ตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่จะลงทุนในบริษัทที่ตัวเองเชี่ยวชาญ โอนเงินเข้าไปครั้งแรก สองหมื่นบาท ตอนจะกด submit คำสั่งซื้อครั้งแรก เปลี่ยนใจซื้อตาม หุ้นที่คนเชียร์ในเว็บกระทิงเขียว แล้วก็นั่งมองว่า เมื่อไรหุ้นจะขึ้นสักที ไม่ต้องบอก ก็คงทราบผลนะครับ หลังจากนั้น ก็มาคิดว่า เราต้องหาอาวุธติดตัว ศึกษาเทคนิคดีกว่า น่าจะเรียนรู้ง่ายดี ก็ลงทุนอยู่พักหนึ่ง ได้บ้างเสียบ้าง จุดเปลี่ยนอยู่ที่ มีคนรู้จัก บอกราคาหุ้นบริษัทแห่งหนึ่ง ออกแนว insider ตอนแรกก็ไม่เชื่อ ปรากฏว่าถูกเป๊ะๆ ให้ซื้อเมื่อไร ขายเมื่อไร แม่นอย่างกับมีเวทมนต์ ก็เริ่มซื้อตาม พอร์ตก็เริ่มโตขึ้น ก็เริ่มโอนเงินเข้าไปมากขึ้น เอาทองที่อยู่ในบ้านทั้งหมดไปขาย เอามาลงหุ้น พอร์ตเริ่มโตหลายแสน สุดท้ายจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วงปี 47 แถวๆ นั้น รู้แต่ว่า ข่าวร้ายต่อเนื่อง จะ cut loss พี่ที่เป็น insider บอกว่าอย่าเพิ่ง ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ (พี่ยังปล่อยของไม่หมด อันนี้มารู้ตัวทีหลัง) สุดท้ายคืนเขาหมด ทั้งกำไรและทุนไปครึ่งหนึ่ง เลยกลับมาเริ่มใหม่ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เทคนิคเราก็พอรู้นี่หว่า dsm ก็อ่านมาเยอะ ก็มาซื้อๆ ขายๆ กะบริษัทสื่อสารเจ้าหนึ่ง ก็ได้กำไรคืนมานิดหน่อย สุดท้ายไปเรียน ป. เอก เลยซื้อบริษัท isp เจ้าหนึ่ง แล้วทิ้งไว้ปีกว่าได้ ปรากฎว่ามาดูอีกที กำไรแฮะ ได้ทุนคืน เลยขายล้างพอร์ต แล้วก็เกิด subprime (ดวงดีจริงๆ) วันหนึ่ง หยิบหนังสือ พ่อรวย ตอนเงิน 4 ด้านมาอ่าน เกิดได้คิด ไปค้นหนังสือตีแตกมาอ่านอีกรอบ แล้วก็ตะลุยซื้อหนังสือการลงทุนมาอ่าน อ่านเว็บ thaivi แล้วก็เริ่มลงทุนใหม่อีกรอบ จนถึงบัดนี้ 4.นักลงทุนที่เป็นแรงบันดาลใจ และ ยึดเป็นแนวทาง จริงๆ ต้องบอกว่ายังลองผิดลองถูกอยู่เลย แต่พยายามทำตาม ดร.นิเวศน์ ลินซ์ บัฟเฟต ฟิชเชอร์ และ พี่ๆ เพื่อนๆ มากมายใน thaivi ขึ้นอยู่ว่าตอนนั้นจะนึกเรื่องอะไรได้ เหอๆ 5.หนังสือที่ชอบ จริงๆ ก็ชอบทุกเล่มที่อ่านแนว VI แต่ที่จะย้อนไปอ่านบ่อยๆ จะเป็นหนังสือ ของ อาจารย์ ดร.นิเวศน์ ขึ้นอยู่ว่าหยิบเล่มไหนได้ 6.พอร์ทเป็นชื่อใคร ชื่อตัวเองครับ แต่กำลังเปิดอีกพอร์ตเป็นชื่อภรรยา ตั้งใจจะเอาไว้ซื้อบริษัท ที่จะยกให้ลูกครับ พอร์ตตัวเอง เอาไว้ลองผิดลองถูก พอเจอบริษัทไหนที่คิดว่าดีแน่ mos มากพอ จะซื้อในพอร์ต ของภรรยา แล้วไม่ขายเลย จบล่ะ ขอบคุณที่อ่านครับ โดย dr.momo พฤหัสฯ. พ.ค. 24, 2012 8:16 pm

Re: R35: ทำงานหนักแต่เงินน้อย ขอบคุณครับ สรุปได้ดีมากครับ อยากเพิ่มเติมว่า ทัศนคติ มีผลที่จะทำให้คนเป็นแบบไหน เช่นกันนะครับ อย่างผม อ่านตีแตก กะพ่อรวยสอนลูก หลายปีก่อนมาก น่าจะสัก 10 ปีได้ สุดท้าย ก็ยังอยู่ในวังวนการเก็งกำไร และหนูถีบจักรมาหลายปี จนวันหนึ่ง ประมาณปี 52 จะเข้าห้องน้ำ นึกอะไรไม่รู้ เดินไปหยิบหนังสือพ่อรวย ตอนเงินสี่ด้านมาอ่านอีกรอบ แล้วก็เหมือนมีสายฟ้ามาแล่บในหัว รีบกลับไปค้นหนังสือตีแตกมาอ่านใหม่ แล้วก็ลงทุนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ด้วยความตั้งใจ จะให้เงินทำงานแทนเรา สรุป ดวงก็มีผลนะ 55 ถ้าวันนั้นหยิบหนังสือเล่มอื่น ก็คงไม่มีวันนี้ โดย dr.momo พุธ พ.ค. 23, 2012 8:15 pm

Re: มีไหมครับคนที่เริ่มลงทุนในหุ้นจากเงินหลักหมื่นงอกเงยเป็น ได้แน่นอนครับ เพราะผมเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน สำหรับผม สิ่งสำคัญอันดับแรก คือการควบคุมความโลภ และความกลัวครับ อันดับสองคือความรู้ ต้องหมั่นศึกษา และอย่าหยุดศึกษานะครับ อันดับสามคือ ต้องมีศรัทธาครับ ศรัทธาในการลงทุนแบบ VI และสิ่งสุดท้ายคือ ไม่มีอะไรได้มาโดยง่ายนะครับ คนสำเร็จมีหลักร้อย แต่คนล้มเหลวอาจมากกว่านี้หลายเท่า เป็นกำลังใจให้ครับ โดย dr.momo อาทิตย์ พ.ค. 20, 2012 8:52 pm

Re: ร้านก๋วยเตี๋ยวกับการลงทุนแบบ Value Investment ร้านก๋วยเตี๋ยวจะประสบความสำเร็จต้องอร่อย เพราะไม่อย่างนั้น ต่อให้ทำเลดี คนอื่นก็มาเปิดข้างๆ ได้ แต่ถ้าอร่อย อยู่ที่ไหนคนก็ไปเสาะหา การเติบโตจะเน้น same store sell แต่มีข้อจำกัดที่กำลังการผลิตของคน และจำนวนที่นั่ง ถ้าอยากให้ดี ต้องสร้างกระบวนการที่ทำซ้ำให้ได้ แล้วขยายสาขา ขายเฟรนไชส์ วัตถุดิบมีอายุ กักตุนมากไม่ได้ มีความเสี่ยงสูง ฉะนั้นเพิ่มมาร์จิ้นวิธีนี้เสี่ยงอยู่เหมือนกัน กลุ่มเป้าหมายแตกต่าง ขึ้นอยู่กับการวาง positioning ร้านข้างทาง ร้านติดแอร์ มาร์จิ้นน่าจะต่างกัน หลังจากเปิดไปได้สักระยะ ผลประกอบการน่าจะคาดการณ์ได้ง่าย ปันผลน่าจะแน่นอน ยกเว้นต้องการขยายสาขา โดย dr.momo อาทิตย์ พ.ค. 13, 2012 8:01 pm

Re: ลงทุน หรือ เก็งกำไร เป็นคำถามที่ผมถามตัวเองตลอดเช่นกัน และคำตอบก็เปลี่ยนไปตามเวลา แต่คำตอบที่คิดไว้ตอนนี้ คือ ผมเก็งกำไร โดยใช้แนวคิดการลงทุนครับ ถ้าราคาที่ซื้อ เติบโตไปเรื่อยๆ ตามผลประกอบการ ผมก็ถือไปเรื่อยๆ ครับ จะกี่ปีก็ช่าง แต่ถ้าอยู่ดีๆ นายตลาดมาให้ราคาของสามปีข้างหน้า ผมก็ขายครับ เพราะเท่ากับผมได้กำไรเวลา และผมเชื่อว่า "เวลา" ที่ผมได้มานั้น สามารถเอามาหา หุ้นตัวอื่นได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ต้องยอมรับด้วยว่า ราคาที่คำนวณขึ้นมันไม่แน่นอน เราคิดว่าเราประเมินถูก แต่หลายครั้ง หุ้นที่เราขายมันก็ขี้นไปต่ออีกเยอะ ผมว่าตัวแปรมันเยอะครับ เราไม่มีทางบอกได้ว่าเรามีข้อมูลครบ บางบริษัท เราเอาสิ่งที่เราคิด วิเคราะห์ ไปคุยกับเพื่อนที่เป็น ผบห. เขายังหัวเราะ แล้วบอกว่า เขาเองยังไม่รู้เท่าเราเลย ก็ตลกดี โดย dr.momo พฤหัสฯ. เม.ย. 26, 2012 8:22 pm

Re: ฟองสบู่ทะเลใต้/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ขอบคุณ ท่าน ดร.นิเวศน์ ฯ และ ท่าน เจ้าของกระทู้ ครับ ขอบคุณครับอาจารย์. และเจ้าของกระทู้. สำหรับผม แปลกใจนิดหนึ่ง อาจารย์ มักสรุปและให้สติตอนจบของบทความฤาว่าบทสรุปของบทความนี้ คือว่าแม้นทานเซอร์ไอแซกนิวตัน เก่งแค่ไหนก้อพลาดได้. ดังนั้นคนที่ว่าเจ๋งๆๆรวมถึงตัวเราด้วยหากพลาดก้อไม่ต้องเสียใจนะคร๊าบๆๆ ผมว่า ท่านอาจารย์กำลังบอกว่า ตอนนี้ก้คือการเล่นบนฟองสบู่ ซึ่งผมเอง ก้คิดเช่นนั้น ฟองสบู่ในอนาคต :mrgreen: :mrgreen: ผมไม่เห็นด้วย ที่ว่า คุณ Chukieat ว่า ท่านอาจารย์กำลังบอกว่า ตอนนี้ก้คือการเล่นบนฟองสบู่ เพราะยังมีหุ้นหลายตัวที่ยัง undervalue อยู่ครับ และ นักลงทุน ส่วนใหญ่ก็ยัง ดู P/E P/BV Yield Growth MOS etc ประกอบ ถ้าฟองสบู่ นักลงทุนจะไม่สนใจอัตราส่วนต่างๆเลยครับ หุ้นดีคือหุ้นขึ้น หุ้นเลว คือหุ้นลง โดยไม่สนใจพื้นฐานแล้ว ฟองสบู่หรือไม่คงตอบตอนนี้ชัดๆ ไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ พวกค่าต่างๆ ที่เป็นตะแกรงร่อนหุ้นของผม มันหย่อยยานลงไปกว่าเดิมเยอะ MOS ตอนนี้ ก็ไม่เท่าเมื่อก่อนแน่ๆ เพราะหาหุ้นยากขึ้น อ่านบทความนี้แล้วได้ทบทวนตัวเองดีครับ โดย dr.momo พุธ เม.ย. 11, 2012 6:06 am

Re: จงเลือกธุรกิจที่ง่ายต่อความเข้าใจ โดย พี่มน Montri Nipit เพราะสังคม..ประเมินค่า..ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย..ไว้สวมใส่ หากสังคม..วัดค่า..ที่ภายใน คนจะสร้าง..แต่จิตใจ..ที่ใฝ่ดี ------------- ชอบครับ ขออนุญาตลอกไปเผยแพร่ใน fb แล้วก็ขอบคุณสำหรับบทความครับ โดย dr.momo พฤหัสฯ. เม.ย. 05, 2012 12:44 pm

Re: จัดพอร์ตตามความนิยมของ ชาว Thaivi (Stock with most repli ส่วนตัวผมจะไม่เข้าไปดูหุ้นที่เป็นที่นิยมเลย เพราะคิดเอาเองแบบมั่วๆ ว่าเมื่อคนเห็นเยอะแล้ว แสดงว่าราคาน่าจะเข้าใกล้มูลค่า หรือเกินมูลค่าไปแล้ว ปัจจุบันถืออยู่ 4 ตัว ตัวที่ผลตอบแทนมากที่สุด มี reply อยู่น้อยกว่า 10 หน้า ถือมาสองปีกว่า MOS > 200% เห็นว่าธุรกิจยังไปได้เรื่อยๆ ก็ถือไปเรื่อยๆ ที่เหลืออีก 3 ตัวเพิ่ง Swap มาไม่นาน มี reply < 10 หน้า MOS < 10% reple < 30 หน้า MOS < 20% reply < 60 หน้า MOS < 15% โดย dr.momo พุธ มี.ค. 28, 2012 7:56 am

Re: คิดว่าการลงทุนแนว VI ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ตอบคำถาม จขกท "คิดว่าการลงทุนแนว VI ในอนาคตจะเป็นอย่างไร" ผมว่ามันก็คงเป็นแบบนี้ละครับ แต่อาจจะมีการแตกแขนงแนวความคิดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น แต่แกนหลักก็คงคล้ายๆ เดิม ถ้านักลงทุนแบบ VI เยอะๆ ตลาดก็คงคล้ายๆ กับที่ จขกท. ให้ความเห็นไว้ แต่ผมคิดว่าเป็นไปได้ยาก ถ้าตราบใดที่คนยังมีความโลภและกลัวครับ โดย dr.momo เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:15 pm

Re: คุณภาพของสมาชิกที่ใช้ร้อยคนร้อยหุ้นลดลงอย่างน่าใจหาย คงต้องให้เวลาเป็นผู้รักษามั้งครับ โลกออนไลน์มันปรับตัวไปเรื่อยๆ ตามสมาชิกหรือกลุ่มคนที่อยู่ในชุมชนนั้นๆ การกำหนดกฎเกณฑ์ ก็คงช่วยได้แค่บางส่วน แต่คงไม่สามารถเป็นไปได้ดังใจทั้งหมด คนส่วนใหญ่พูดในสิ่งที่ต้องการพูด และเลือกฟังหรือรับรู้ในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ การเปลี่ยนผู้อื่นจึงทำได้ยาก ดังนั้นเลือกทำสิ่งที่ง่ายกว่า คือการเปลี่ยนตัวเองดีกว่าครับ ผมนับถือพี่ๆ หลายคนมากที่เป็นผู้ให้ เพราะเขาคิดจะ "ให้" โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร ถามตัวเองสักนิดก็ดีครับ ถ้าความสุขของเราคือการ "ให้" ก็ทำไปเถิดครับ เพราะทำแล้วมีความสุข แต่ถ้าความสุขของเราคือการให้คนมาชื่นชมจากการ "ให้" ของเรา ก็อาจผิดหวังบ้าง เมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นไปดังใจ ด้วยความปรารถนาดีครับ โดย dr.momo พุธ พ.ย. 02, 2011 9:04 pm

Re: The Buffett Lift การลงทุนในหุ้น BYD ของ Warren E.Buffett +1 Like ครับ ไม่ได้ติดตามข่าว พึ่งรู้ว่า Byd ผลประกอบการแย่ โดย dr.momo เสาร์ เม.ย. 30, 2011 6:32 am

Re: จะซื้อ "ตีแตก" มาอ่านเป็นเล่มแรก .. คิดถูกมั๊ยครับ ??? ผมคิดว่า อ่าน พ่อรวยสอนลูก ตอนเงินสี่ด้านก่อนครับ เพื่อปรับทัศนคติ แนวคิด หลังจากนั้น ก็มา หนังสือของ ดร.ทุกเล่ม, warrent, lynch, จิตวิทยาการลงทุน ที่คุณพรชัยแปล, ส่วนของ เบน เกรแฮม กับ ฟิชเช่อร์ นี่ไว้หลังๆ ครับ เนื่องจากอ่านเข้าใจยาก แต่ต้องอ่านเหมือนกัน ทุกวันนี้ ยังหยิบตีแตกแล้วก็หนังสือเล่มอื่นๆ มาทวนอ่านอย่างสม่ำเสมอครับ หลายเรื่องเคยคิดว่าเข้าใจแล้ว พออ่านใหม่ ก็มีความเข้าใจที่แตกต่างออกไปอีกครับ เล่าเพิ่มเติมว่า ผมอ่านตีแตกเล่มแรกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว แล้วก็เริ่มเล่นหุ้น ตั้งใจลงทุนแบบซื้อธุรกิจ ปรากฏว่า พอเข้าตลาดไม่เท่าไร ก็เริ่มเก็งกำไร เล่นเทคนิคครับ ความโลภเข้าสิง ฮ่าฮ่า ตอนหลังมาอ่านพ่อรวยสอนลูก จึงคิดได้ครับ กลับมาอ่านตีแตกอีกรอบ หลังจากนั้น ก็ลงทุนอย่างเดียวเรื่อยมา กำไรไม่เยอะ แต่ก็อยู่มาเรื่อยๆ ครับ โดย dr.momo พฤหัสฯ. เม.ย. 21, 2011 8:02 am

Re: จะซื้อ "ตีแตก" มาอ่านเป็นเล่มแรก .. คิดถูกมั๊ยครับ ??? ผมคิดว่า อ่าน พ่อรวยสอนลูก ตอนเงินสี่ด้านก่อนครับ เพื่อปรับทัศนคติ แนวคิด หลังจากนั้น ก็มา หนังสือของ ดร.ทุกเล่ม, warrent, lynch, จิตวิทยาการลงทุน ที่คุณพรชัยแปล, ส่วนของ เบน เกรแฮม กับ ฟิชเช่อร์ นี่ไว้หลังๆ ครับ เนื่องจากอ่านเข้าใจยาก แต่ต้องอ่านเหมือนกัน ทุกวันนี้ ยังหยิบตีแตกแล้วก็หนังสือเล่มอื่นๆ มาทวนอ่านอย่างสม่ำเสมอครับ หลายเรื่องเคยคิดว่าเข้าใจแล้ว พออ่านใหม่ ก็มีความเข้าใจที่แตกต่างออกไปอีกครับ โดย dr.momo พฤหัสฯ. เม.ย. 21, 2011 7:57 am

Re: เำบื่อมาม่า! มานั่งทบทวนแนวคิดของตัวเองดีกว่า เยี่ยมยอดมากครับ โดย dr.momo จันทร์ ก.พ. 14, 2011 7:44 am

Re: เกินมูลค่าแค่ไหน จึงขาย ขอบคุณพี่ๆ ทั้งหลายอีกครั้งครับ สาเหตุที่ผมถามคำถาม เนื่องจากผมมีความคิดดังนี้ครับ ในความคิดของผม ผมว่าคนเราทุกคนมีอารมณ์ทั้งสิ้น ซึ่งเราก็รู้อยู่ว่า การลงทุนนั้น การใช้อารมณ์จะนำมาสู่การตัดสินใจผิดพลาด (อันนี้เรื่องอื่นๆ ก็คงเหมือนกัน) วิธีการที่ทำให้เราสามารถลดไม่ให้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องได้มากที่สุด ก็คือการนำระบบเข้ามาใช้ เช่นการคำนวณมูลค่าจาก รายได้/กำไรของบริษัท (ทั้งในอดีตและอนาคต) หรือวิธีการอื่นๆ เพื่อที่เราจะได้กระทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็น ขั้นตอนและลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด ปัญหามันอยู่ตรงที่ บางครั้งเราเอาอารมณ์มาบิดเบือนระบบ เช่นตอนเราซื้อเราดูอดีตของบริษัท รายได้/กำไรย้อนหลัง ดูคุณภาพ แล้วก็ ประมาณการรายได้/กำไรของบริษัทในอนาคต การเติบโตของบริษัท ช่วงหุ้นตก ก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก เพราะตั้งใจจะลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ขายเป็นระยะเวลาหลายปี แล้ววันหนึ่ง หุ้นที่ลงทุน เกิดมีราคาสูงขึ้นโดยสาเหตุอะไรไม่รู้ (นายตลาด/เจ้ามือ/รายใหญ่) รวมกับข่าวต่างๆ นาๆ แล้วเราก็เกิดหวั่นไหว จนเริ่มเกิดความกลัว กลัวว่ามูลค่าพอร์ตที่โตขึ้นมามากนั้น จะหายไป... การตั้งคำถาม ได้อ่านคำตอบของพี่ๆ หลายคน ซึ่งจริงๆ หลายๆข้อ ก็เคยได้อ่านจากหลายๆ ที่แล้ว แต่ผมว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้รับคำย้ำเตือนจากพี่ๆ อีกครั้ง ทำให้สงบขึ้น กลับมามองเหตุผลมากขึ้นครับ นี่คือคำตอบที่ผมได้รับครับ โดย dr.momo อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 10:49 pm

Re: เกินมูลค่าแค่ไหน จึงขาย ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่มาแบ่งปันครับ หลังจากอ่านประมาณ 4 รอบแล้วคิด....ผมว่าผมได้คำตอบที่ผมต้องการแล้วครับ โดย dr.momo ศุกร์ ม.ค. 28, 2011 10:28 pm

ใกล้ครึ่งปีแล้ว เพื่อน ๆ เป็นไงกันบ้างครับ ด้วยความที่เป็น VI มือใหม่ เลยตั้งเป้าแค่ 10% ต่อปี แต่ปีนี้ทำได้ 16% แล้วครับ สิ่งที่เกินเป้ามากที่สุดคือ ลงทุนได้อย่างมีความสุขมากขึ้นเยอะ หลงไปดูหน้าจอ ตามราคาหุ้นมา 4-5 ปี ไม่ได้อะไรเลย โดย dr.momo จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:34 pm

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล [email protected] ขอบคุณมากครับ  :D โดย dr.momo อังคาร เม.ย. 27, 2010 2:04 pm