หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
witweew
Joined: พฤหัสฯ. มี.ค. 17, 2005 9:15 pm
236
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - witweew
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: คุณธันวา อดีตนายกสมาคมthaiviหวนคืนสังเวียนธุรกิจ
วันที่ 21 มกราคม 2558 11:11 ทีโอทีพลิกกำไรพันล้านเล็งขึ้นเงินเดือน 6.5% โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ บอร์ดทีโอทีฟุ้งทำงานครบ 5 เดือนปรับผลประกอบการจากขาดทุน7,800 ล้านบาท พลิกมีกำไร พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ประธานกรรมการ (บอร์ด) กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดวานนี้ (20 ม.ค.) ว่า ผลการดำเนินงานของทีโอทีประจำปี 2557 มีกำไรสุทธิประมาณ 1,000 ล้านบาท รายได้รวมสัมปทาน 42,000 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการที่คาดว่าจะมีผลขาดทุน 7,800 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลจากรายได้จากการให้บริการของทีโอที เพิ่มขึ้น 800 ล้านบาท และจากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารค่าใช้จ่ายทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายดำเนินงานต้นทุนบริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ซึ่งปรับลดลงได้ 1,500 ล้านบาท การบริหารการลงทุนให้คุ้มค่า ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการลงทุน รวมทั้งค่าเสื่อมราคาลดลง 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังบริหารจัดการด้านภาษีและค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เพิ่มอีก 3,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิปี 2557 ดังกล่าวเป็นตัวเลขกำไรเบื้องต้นที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการด้วยค่าทรัพย์สินจากสถานีฐานที่โอนมากจากคลื่น 900 และโครงข่ายคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งปัจจุบันทีโอที อยู่ระหว่างการจัดทำแผนธุรกิจเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินดังกล่าว แต่หากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พิจารณาให้ทีโอทีตั้งการด้อยค่าของทรัพย์สินข้างต้น อาจส่งให้ผลการดำเนินงานขาดทุนได้ เป็นผลขาดทุนบัญชีจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของการลงทุน 3จีซึ่งสตง.น่าจะสรุปกลับมาให้ภายในสิ้นเดือนม.ค.นี้ หากยังเหลือกำไรจะพิจารณาจ่ายโบนัสพนักงาน และขึ้นเงินเดือน 6.5% ถ้าไม่มีกำไรจะไม่จ่ายโบนัส แต่ต้องขึ้นเงินเดือนเป็นขวัญและกำลังใจพนักงาน สำหรับกำไรสุทธิประจำปี 2557 เมื่อเทียบกับปีที่ 2556 จะมีกำไรสุทธิลดลงโดยมีสาเหตุสำคัญจากผลกระทบจากการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคม ประกอบกับปี 2557 ส่วนแบ่งรายได้จากการร่วมการงานลดลง ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากกรณีทีโอทีต้องนำส่งส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินการตามสัญญาสัมปทานตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 มาตรา 84 ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เขา ระบุอีกว่า สำหรับเป้าหมายและทิศทางธุรกิจของทีโอทีปี 2558 คณะกรรมการทีโอที ได้กำหนดโรดแมพ เพื่อเพิ่มประสิทธิผลองค์กรของทีโอทีในระยะเวลา 1 ปี โดยจะต้องมีโครงสร้างธุรกิจซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่จะทำให้ทีโอทียืนได้ด้วยตัวเองในระยะยาวและแข่งขันในธุรกิจอุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้ ตามมติ คนร. กำหนดกลุ่มธุรกิจ 6 สายงานก็ยอมรับว่าต้องหารือกับพันธมิตรเพื่อให้ได้สตราทิจิก พาร์ทเนอร์ แต่ยอมรับว่ายังไม่คืบหน้ามากนัก เพราะต้องการความรอบคอบ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ได้สั่งให้ฝ่ายบริหารไปจัดทำประมาณการณ์การผลการดำเนินงานปี 2558 ใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่เคยประเมินไว้ว่าขาดทุน 10,000 ล้านบาท แต่หลังจากการปรับต้นทุนใหม่ ยึดแนวทางของปีที่แล้วเป็นต้นแบบก็น่าจะทำให้ทีโอทีพลิกมามีกำไรได้ นอกจากนี้ ทีโอที ยังกำหนดโรดแมพเพื่อเป็นเครื่องมือของภาครัฐที่สำคัญในการผลักดันและพัฒนาประเทศไปสู่ดิจิทัล อีโคโนมี่ และสนับสนุนการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง และสร้างความมั่งคงของภาครัฐ ทั้งนี้ ตามกฎหมายใหม่ 8 ฉบับที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และผ่านร่างกฎหมายแล้ว ทีโอทีได้เตรียมความพร้อมปรับโครงสร้างรองรับถ้ารูปแบบชัดเจนออกมาเป็นสากลมากขึ้น
โดย
witweew
พฤหัสฯ. ม.ค. 22, 2015 9:49 am
0
3
Re: มาม๊า สรุปผลการลงทุนในปี 2556 กัน
+17.56% ไม่รวมปันผล ปีนี้ได้หุ้นโรงพยาบาลกับประกันชีวิตมาช่วยไว้ตอนต้นปี ปี 2013 ก็เลยยังเป็นปีที่ได้ผลตอบแทนอยู่ในระดับน่าพอใจ :)
โดย
witweew
พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2014 1:48 pm
0
2
Re: วิธีการโพสไฟล์ในกระทู้ [ เชิญทดลองในกระทู้นี้ได้เลยครับ
ทดลอง :wink:
โดย
witweew
ศุกร์ ต.ค. 25, 2013 11:51 am
0
0
Re: งบกำไรขาดทุน หาดูจากไหนครับ
อยากดูงบกำไรขาดทุน เลือก tab ด้านล่างของ Excel ครับ จะเห็นมีแยกเป็น tab เอาไว้เลยครับ :D
โดย
witweew
พุธ ส.ค. 29, 2012 4:57 pm
0
0
Re: งบกำไรขาดทุน หาดูจากไหนครับ
ผมหาดูจากเวป sec.or งบมันอยู่ใน หมายเหตุประกอบงบการเงิน ใช่ไหมครับ แต่ทำไมตัวเลขมันไม่ตรงกันกับเวป set ละครับ ต้องตรงกันครับ จากลิงค์นี้ ใส่ชื่อย่อบริษัทไปโหลดได้เลยครับ http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin2/cgi-bin/findFS.php?lang=t&ref_id=74&content_id=1 ขอบคุณนะครับ คือผมเข้าไปดูงบการเงินมันบอก แต่สินทรัพย์อะครับ ผมอยากได้ที่บอก กำไรขั้นต้น ยอดขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร อะไรแบบนี้อะครับ มึครับ ลองหาดู ไม่อยู่ล่างๆ ก็อยู่คนละ sheet กัน รบกวนหน่อยนะครับ ผมจะหางบการเงิน siam ไตรมาส3 มันมี ปกหน้า + รายงานผู้สอบบัญชี,งบการเงิน,หมายเหตุประกอบงบการเงิน ไม่ทราบงบกำไรขาดทุนมันอยู่ตรงไหนครับ พอดีมือใหม่ รบกวนหน่อยนะครับ ตาม link นี้เลยครับ http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin2/cgi-bin/resultFS.php?from_page=findFS&lang=T&cmb_comp_id=0298
โดย
witweew
พุธ ส.ค. 29, 2012 4:55 pm
0
0
Re: ความเห็นส่วนตัวกับ500บาท
500 บาท x10,000 คน = 5,000,000 บาทต่อปี ไม่ต้องเล่นหุ้นแล้ว ถ้ามีคนสมัครแล้วมีเงินเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนั้น ผมไม่กังวลหรอกครับ สมาคมคงจะเอาเงินส่วนนั้นไปทำประโยชน์อื่นๆให้กับสังคมมากขึ้นเช่นกัน เช่น อาจจะเชิญวิทยากรชั้นนำด้านการลงทุนมาให้ความรู้กับนักลงทุนและผู้สนใจทั่วไปโดยไม่คิดเงินก็ได้ หรือจะไปร่วมเป็น sponsor ให้รายการของอาจารย์ไพบูลย์ผมก็ว่าดีนะ การให้และการเสียสละแก่ผู้อื่นก่อน แม้จะไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆกลับมา อย่างน้อยใจเราก็เป็นสุขแล้วครับ :D
โดย
witweew
อังคาร ก.ค. 03, 2012 3:15 pm
0
2
Re: เชื่อว่าสมาชิกจำนวนมากอาจไม่ทราบข้อเท็จจริงบางอย่าง
วันนี้ไปสมัครมาแล้วครับแบบ 5 ปี สำหรับผมไม่ได้คิดอะไรมากเลย แค่รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปคือการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆของ ThaiVI เพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันใช่ไหมครับ แต่ผม surprise ตรงมีหนังสือหายากแจกให้ด้วย 1 เล่ม ตอนแรกว่าจะไม่เอาเพราะผมมีหนังสือเล่มนี้แล้ว แต่คิดอีกทีผมว่าจะเอาไปบริจาคให้ห้องสมุดที่บริษัทดีกว่า :wink:
โดย
witweew
อาทิตย์ ก.ค. 01, 2012 10:12 pm
0
3
Re: จะบริโภคข่าว "ได้ดี" "ต้องมี"งบการเงินเป็นพื้นฐาน
ผมชอบทำบ่อยๆนะ ตอนแรกก็ดูเหมือนจะเสียเวลา แต่ทำไปเรื่อยๆมันเหมือนกับเราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ยิ่งเอาความเห็นของนักลงทุนที่ลงทุนแล้วประสบความสำเร็จหรือลงทุนแล้วผิดพลาดมาประกอบด้วย ทำให้เราสามารถนำข้อดีหรือข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาวิเคราะห์ ยิ่งทำมากๆยิ่งเริ่มรู้ Business Model ต่างๆ รู้ถึงกลยุทธ์ที่ผู้บริหารตัดสินใจ บางครั้งก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ของนักลงทุนในสมัยนั้น ยิ่งเรียนรู้เยอะก็ยิ่งสนุก ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตเป็นข้อเตือนใจเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นในอนาคต
โดย
witweew
อังคาร มิ.ย. 26, 2012 10:21 am
0
0
Re: แบบสอบถาม(อีกแล้ว)
พยายามจะตอบแบบสอบถามแล้ว แต่ผมไม่รู้จัก options เลยครับ ไม่กล้าตอบมั่ว แต่จะส่ง link ไปให้เพื่อนๆท่านอื่นช่วยตอบก็แล้วกันนะครับ :wink:
โดย
witweew
เสาร์ ก.ย. 03, 2011 11:20 pm
0
0
Re: ให้น้ำหนักในการลงทุน อะไรเป็นอันดับต้นๆ
กำไรบริษัทต้องเติบโตขึ้นเท่านั้น อย่างน้อยต้องเติบโตมากกว่าเงินเฟ้อด้วยครับ ส่วนอื่นๆเป็นส่วนประกอบเพื่อดูว่า กำไรบริษัทจะเติบโตได้อย่างไร ถ้าบริษัทไหนกำไรไม่โต ราคาไม่ไปไหนหรอกครับ :wink:
โดย
witweew
เสาร์ ก.ย. 03, 2011 11:13 pm
0
0
Re: ข้อเสนอแนะ จัดกฏระเบียบเวปใหม่ เพื่อ Thai Vi คงอยู่ตลอดไ
ขอเสนอความคิดเห็นเพื่อบ้านของพวกเราบ้างครับ 1. ผมเห็นด้วยกับพี่เจ๋งเรื่องเก็บเงินค่าสมาชิกครับ แต่ว่าการเก็บเงินค่าสมาชิกเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้เราได้สมาชิกที่มีคุณภาพ ผมจึงขอเสนอเพิ่มเติมในการเก็บค่าสมาชิกไปเลย XXXX บาท แต่จะมี course อบรมหลักการลงทุนให้กับสมาชิกเพื่อจะได้มีความรู้การลงทุนแบบ VI อย่างถูกต้อง 2. ขอเสนอให้สมาชิกมีวันหมดอายุครับ (เช่น สมาชิกมีอายุ 2 ปี) แต่จะสามารถรักษาอายุสมาชิกได้ต้องมีการ post ความคิดเห็นบ้างอย่างน้อยปีละ XX post (อันนี้ ผมเองก็ไม่ค่อยได้ post ซะด้วยสิ 5555 :oops: ) โดยหากรักษาสมาชิกได้ 2 ครั้ง จะได้รับสภานภาพสมาชิกถาวรไป ส่วนบางท่านที่เป็น Founder, GURU สามารถได้รับการ invite เพื่อเป็นสมาชิกกิติมศักดิ์ได้ 3. ห้องอื่นๆสามารถให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาอ่านความคิดเห็นได้ แต่ห้องร้อยคนร้อยหุ้นจำกัดไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น รวมทั้งควรยกเลิก Hit Rate และระบบแจ้งเตือนว่ามีคนมา post อะไรใหม่ๆออกไป สุดท้ายขอให้กำลังใจ MOD ของเราและผู้เกี่ยวข้องอื่นทุกท่าน ที่เสียสละเพื่อพวกเรามาตลอดนะครับ หากมีสิ่งใดที่ผมพอจะช่วยเหลือได้ โปรดแจ้งมาเลยครับ :wink:
โดย
witweew
เสาร์ ก.ย. 03, 2011 11:04 pm
0
0
ถือหุ้นในกิจการอาจจะผิดศีล
ผมเองปัจจุบันก็ไม่ซื้อหุ้นในกลุ่มพวกนี้เลย แต่ก่อนเคยถือน้องไก่อยู่ แต่พอนั่งทำ projection เรื่องรายได้ อยากให้รายได้โตมากๆ นึกขึ้นได้ว่า ถ้ารายได้เพิ่มมากขึ้นหมู ไก่ จะตายเพิ่มกี่ล้านตัวเนี่ยะ รู้สึกไม่สบายใจเลยขายหมดเลย พอขายไปแล้วราคา CPF วิ่งขึ้นฟ้าไปเลย มันรู้สึกสบายใจแบบเจ็บใจยังไงก็ไม่รู้ :lol:
โดย
witweew
อาทิตย์ ต.ค. 24, 2010 1:32 am
0
0
ถามเรื่องการยื่น ภงด90 กรณีมีปันผลจากหุ้น กองทุนรวมและLTF
ผมเองก็ไม่ได้เอาเงินปันผลจาก LTF ไปคำนวณรวมในรายได้มา 4 ปีแล้ว ยังไม่เกิดปัญหาใดๆ :)
โดย
witweew
พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 12:24 am
0
0
Re: วิธีคิดผลตอบแทน แบบเงินต้นไม่เท่าเดิม คิดอย่างไงครับ
ทราบว่าการคิด วิธีคิดผลตอบแทน ของการลงทุน แบบเงินต้นไม่เท่าเดิมคิดอย่างไงครับ คือสมมุติว่าเราลงเงินครั้งแรก 600,000 บาท ณ.วันที่ 15 มี.ค.2552 แล้วเราแล้วเราใส่เงินเพิ่มตลอดคือเพิ่มเงินสดทั่งสิ่น 3,195,000 บาท ณ.วันที่ 15 ต.ค.2553 คือประมาณ 1 ปี 8 เดือน แต่จำนวนเงิน ณ.วันที่ วันที่ 15 ต.ค.2553 เรามีเงินในพอร์ตทั่งสิ้น รวมเงินปันผลด้วย 5,320,000 บาท แล้วเรามีผลตอบแทน จากการลงทุน เท่าไรครับ ผมลองคิดผลตอบแทนทบต้นตามตัวอย่างของคุณ ko_hisashi ดูนะครับ แต่เนื่องจากผมไม่ทราบว่าการเพิ่มเงินสด 3.195MB นี่เพิ่มวันไหน ผมก็ขอสมมติว่าเพิ่มเงินสดเป็นจำนวนเงินเท่าๆกันทุกวันที่ 15 เป็นจำนวน 18 ครั้ง ก็จะเพิ่มเงินเดือนละ 177,500 บาทพอดีเลย เมื่อใส่สูตรจะได้ผลตอบแทนทบต้นตั้งแต่เริ่มลงทุนวันที่ 15 มี.ค. 2009 - 15 ต.ค. 2010 = 42.19% ต่อปี :) A B C 1 Date Cash ผลตอบแทนทบต้นตั้งแต่เริ่มลงทุน 2 15-Mar-09 -600,000 3 15-Apr-09 -177,500 4 15-May-09 -177,500 5 15-Jun-09 -177,500 6 15-Jul-09 -177,500 7 15-Aug-09 -177,500 8 15-Sep-09 -177,500 9 15-Oct-09 -177,500 10 15-Nov-09 -177,500 11 15-Dec-09 -177,500 12 15-Jan-10 -177,500 13 15-Feb-10 -177,500 14 15-Mar-10 -177,500 15 15-Apr-10 -177,500 16 15-May-10 -177,500 17 15-Jun-10 -177,500 18 15-Jul-10 -177,500 19 15-Aug-10 -177,500 20 15-Sep-10 -177,500 21 15-Oct-10 5,320,000 42.19% =XIRR(B2:B21,A2:A21)
โดย
witweew
พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 12:19 am
0
0
วิธีคิดผลตอบแทน แบบเงินต้นไม่เท่าเดิม คิดอย่างไงครับ
แล้วถ้าจาก ตย ของคุณwitweew XIRR ที่ได้ก็คือ IRRที่คิดแบบทบต้นแล้ว ซึ่งเปน อัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปี ใช่ไหมครับ แต่ไม่ทราบว่า XIRR ที่คิดได้นี้ คิดทบต้นรายอะไร รายวัน เดือน หรือไตรมาส ครับ XIRR ที่คิดได้เป็น อัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปี โดยคิดแบบรายวัน เลยครับ ลองเปลี่ยนตัวเลขเฉพาะวันที่โดยไม่ต้องเปลี่ยนเดือนก็ได้จะเห็นเลยว่าผลตอบแทนมันจะเปลี่ยนไป โดยผลตอบแทน XIRR ตามตัวอย่างเดิมที่ผมให้ไว้จะเป็นการคิดผลตอบแทนแบบทบต้นต่อปีตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มลงทุน โดยผลตอบแทน 26.93% จะมีความหมายว่า ตั้งแต่ผมลงทุนวันที่ 1-Oct-09 จนถึงวันที่ 27-Aug-10 (ประมาณ 11 เดือน) ผมได้ผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยปีละเท่ากับ 26.93% นั่นเองครับ แต่สำหรับใครที่อยากคิดผลตอบแทนแบบปีต่อปีด้วย (อารมณ์อยากรู้ว่าปีนี้ผลตอบแทนเราเท่าไหร่) ตอนใส่สูตรก็คลุม cell เฉพาะวันที่ของปีนั้นๆก็พอ ตัวอย่างเช่น A B C 1 Date Cash ผลตอบแทน 2 1-Oct-09 -200,000 -->ใส่เงินลงทุน 200,000 3 31-Dec-09 210,000 21.62% --> =XIRR(B2:B3,A2:A3) ผลตอบแทนทบต้นปี 2009 4 1-Jan-10 -210,000 --> ยกยอดเงินลงทุนปีที่แล้วมา 5 27-Jul-10 -100,000 --> ใส่เงินลงทุน 100,000 6 27-Aug-10 350,000 28.91% --> =XIRR( B4:B6,A4:A6 ) ผลตอบแทนทบต้นปี 10 ตั้งแต่วันที่ 1-Jan ถึง 27-Aug ซึ่งหากบันทึกข้อมูลการนำเงินเข้าออกสม่ำเสมอลงใน EXCEL การใช้วิธีนึ้คิดผลตอบแทนผมว่าก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกดีครับ :)
โดย
witweew
พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 12:03 am
0
0
วิธีคิดผลตอบแทน แบบเงินต้นไม่เท่าเดิม คิดอย่างไงครับ
[quote="kmphol"]ได้ลองใช้ของใหม่ (1) XIRR คิดผลตอบแทนของผมตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงสิ้นเดือน กย ได้เท่ากับ 50.91%ต่อปี แต่ถ้าใช้วิธี เดิมที่ใช้อยู่คือ (2)IRR รายเดือน=3.83%ต่อเดือน เทียบเป็รายปีเท่ากับ3.83*12= 45.96%ต่อปี แต่ถ้าลองคิดแบบ (3) ผลรวมเงินที่ได้จากตลาดหุ้น(ขายหุ้น)ตั้งแต่ต้นปีรวมกับมูลค่าพอรทตอนสิ้นเดือน กย
โดย
witweew
จันทร์ ต.ค. 11, 2010 12:59 am
0
0
วิธีคิดผลตอบแทน แบบเงินต้นไม่เท่าเดิม คิดอย่างไงครับ
ผมใช้ function XIRR ในโปรแกรม EXCEL เป็นการคำนวนผลตอบแทนแบบทบต้น โดยอักษร A, B, C และ 1, 2, 3 เป็น Column & Row ในโปรแกรม EXCEL นะครับ A B C 1 Date Cash ผลตอบแทน 2 1-Oct-09 -200,000 -->ใส่เงินลงทุน 200,000 3 31-Dec-09 210,000 21.62% --> =XIRR(B2:B3,A2:A3) 4 1-Jan-10 -210,000 --> ยกยอดเงินลงทุนปีที่แล้วมา 5 27-Jul-10 -100,000 --> ใส่เงินลงทุน 100,000 6 27-Aug-10 350,000 26.93% --> =XIRR(B2:B6,A2:A6) กรณีเพิ่มเงินลงทุนให้ใส่วันที่และใส่เครื่องหมายเป็น - ลงไป ถ้ามีการถอนเงินออกไปเที่ยวเล่น ก็ให้ใส่วันที่และก็ใส่ค่าเป็น + พอถึงสิ้นปีหรือวันที่เรานึกครึ้มใจอยากคำนวณผลตอบแทน ก็ให้ใส่วันที่นั้นๆแล้วก็ใส่มูลค่า port ทั้งหมดของเรา โดยในตัวอย่างผมลองคำนวณวันที่ 31-Dec-09 และ 27-Aug-10 ซึ่งจะได้ผลตอบแทน ผลตอบแทนปี 09 = 21.62% และผลตอบแทนทบต้นตั้งแต่เริ่มลงทุนถึงวันที่ 27 Aug 10 คือ 26.93% และกรณีเริ่มต้นปีใหม่ ก็ให้ยกมูลค่า port ของปีที่แล้วมาใส่อีกปีนึงครับ ตัวอย่างคือวันที่ 31-Dec-09 port มีมูลค่า 210,000 บาท พอขึ้นวันที่ 1-Jan-10 ผมก็ยกยอดมาเลยแต่กลับตัวเลขเป็น -210,000 ก็เหมือนกับผมเอาเงินทั้งหมดมาลงทุนใหม่ครับ :P
โดย
witweew
ศุกร์ ต.ค. 08, 2010 3:31 pm
0
0
วิธีการหาผลกำไรเฉลี่ยในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ในความหมายของคุณ witweew คือการนำ EPS ทั้ง 7ปี บวกกันแล้วหาร 7ใช้ไหมครับ เช่น (1.12+1.15+1.21+1.15+1.01+1.11+1.12 )=7.87/7=1.124 เราจะได้ ผลกำไรเฉลี่ยออกมาเท่ากับ 1.124 ใช่ไหมครับผมเข้าถูกหรือป่าวครับ ใช่แล้วครับ ผมใช้วิธีหาค่าเฉลี่ยแบบนี้แหละ แต่ผมเองไม่ได้สนใจค่าเฉลี่ย EPS เลย ผมจะสนใจการเติบโตของ EPS อย่างต่อเนื่องมากกว่า ซึ่งหากข้อมูลตามตัวอย่างที่ยกมา ผมจะไม่สนใจบริษัทนี้เท่าไหร่ครับ เพราะ EPS ทำไมจึงไม่มีการเติบโตเลย ดำเนินการมา 7 ปี ทำไม EPS ไม่ไปไหนเลย การหาค่าเฉลี่ย ปกติผมจะใช้สำหรับการหาค่าเฉลี่ยจาก ROE และ ROA แต่ผมจะพิจารณาดูรายละเอียดแต่ละปีเปรียบเทียบกันอย่างต่อเนื่อง ผมจะไม่ชอบประเภทปีนึงสูง ปีนึงต่ำ ผมชอบ EPS ที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง, ROE และ ROA สูงอย่างสม่ำเสมอครับ (เรื่องนี้อ่านได้จากหนังสือ The new Buffettology) :wink:
โดย
witweew
ศุกร์ ส.ค. 27, 2010 10:01 pm
0
0
วิธีการหาผลกำไรเฉลี่ยในรอบหลายปีที่ผ่านมา
แย่ละ กลับมาอ่านอีกที ผมไม่ได้อ่านให้ดีว่าต้องการหาผลตอบแทนต่อหุ้นเฉลี่ย (EPS) ผมดันไปแปลความว่าต้องการทราบผลตอบแทนการลงทุนของ port 55555 ปล่อย cpf ตัวเบ้อเริ่มเลย การคำนวณ EPS เฉลี่ย ผมใช้วิธีการหารเฉลี่ยเลยครับ แต่ผมจะตัดเอาปีที่ผิดปกติออก และ EPS ผมจะใช้ EPS ที่ผมตัดเอากำไรพิเศษออกแล้วด้วยครับ ขออภัยด้วยครับ ว่าแล้วเชียวนั่งประชุมไป แอบอ่าน board มันเป็นนิสัยไม่ดี บาป 5555 :wink:
โดย
witweew
ศุกร์ ส.ค. 27, 2010 3:08 pm
0
0
วิธีการหาผลกำไรเฉลี่ยในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ผมใช้ function XIRR ในโปรแกรม EXCEL เป็นการคำนวนผลตอบแทนแบบทบต้น โดยอักษร A, B, C และ 1, 2, 3 เป็น Column & Row ในโปรแกรม EXCEL นะครับ A B C 1 Date Cash ผลตอบแทน 2 1-Oct-09 -200,000 -->ใส่เงินลงทุน 200,000 3 31-Dec-09 210,000 21.62% --> =XIRR(B2:B3,A2:A3) 4 1-Jan-10 -210,000 --> ยกยอดเงินลงทุนปีที่แล้วมา 5 27-Jul-10 -100,000 --> ใส่เงินลงทุน 100,000 6 27-Aug-10 350,000 26.93% --> =XIRR(B2:B6,A2:A6) กรณีเพิ่มเงินลงทุนให้ใส่วันที่และใส่เครื่องหมายเป็น - ลงไป ถ้ามีการถอนเงินออกไปเที่ยวเล่น ก็ให้ใส่วันที่และก็ใส่ค่าเป็น + พอถึงสิ้นปีหรือวันที่เรานึกครึ้มใจอยากคำนวณผลตอบแทน ก็ให้ใส่วันที่นั้นๆแล้วก็ใส่มูลค่า port ทั้งหมดของเรา โดยในตัวอย่างผมลองคำนวณวันที่ 31-Dec-09 และ 27-Aug-10 ซึ่งจะได้ผลตอบแทน ผลตอบแทนปี 09 = 21.62% และผลตอบแทนทบต้นตั้งแต่เริ่มลงทุนถึงวันที่ 27 Aug 10 คือ 26.93% และกรณีเริ่มต้นปีใหม่ ก็ให้ยกมูลค่า port ของปีที่แล้วมาใส่อีกปีนึงครับ ตัวอย่างคือวันที่ 31-Dec-09 port มีมูลค่า 210,000 บาท พอขึ้นวันที่ 1-Jan-10 ผมก็ยกยอดมาเลยแต่กลับตัวเลขเป็น -210,000 ก็เหมือนกับผมเอาเงินทั้งหมดมาลงทุนใหม่นะแหละครับ หวังว่าพอจะช่วยเพื่อนๆได้บ้างนะครับ หากอ่านแล้วไม่เข้าใจผมขอโทษด้วยครับ แอบเขียนตอนนั่งประชุมอยู่ครับ :wink:
โดย
witweew
ศุกร์ ส.ค. 27, 2010 2:03 pm
0
0
เบื่องานจะลาออกมาลงทุนหุ้นคุณค่าแต่กลัว....
ผมเองก็เคยเบื่องานครับ ต้องอดทนกับมันมาก รู้สึกว่าชีวิตมันแย่มากเลยที่ต้องตื่นมาเืพื่อไปทำงานที่เราไม่ชอบ เจอแต่ปัญหาทั้งวัน เงินเดือนก็ใช่ว่าจะเยอะ แล้วความเบื่อความเครียดมันก็จะออกมาที่ใบหน้าเราครับ อารมณ์ก็จะออกแนวอารมณ์ร้าย ครอบครัวก็เริ่มไม่สบายใจ เพื่อนๆ และเพื่อนร่วมงานก็เริ่มไม่ค่อยอยากพูดด้วย จนกระทั่ง ผมอ่านเจอบทความนึง รู้สึกว่าจะเป็นของหนูดีเขียนนะครับ ถ้าจิตใจเรามัวแต่คิดว่าเราเบื่องานเกลียดงาน ชีวิตคุณจะจมอยู่กับความทุกข์ตลอด ถ้าคุณหลีกหนีมันไม่ได้ ก็ให้ลองคิดกลับเลยครับ ตื่นมามองหน้ากระจกแล้วยิ้มให้ตัวเอง บอกกับตัวเองว่า วันนี้ดีจังจะได้ไปทำงานแล้ว เรารักงานนี้มาก เราจะทำงานนี้ให้ดีที่สุด จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานให้ดีที่สุด ทุกวันนี้ ผมรู้สึกว่างานมันก็น่าเบื่อเหมือนเดิมแหละแต่ผมมีความสุขมากขึ้น งานที่ำทำก็ได้ผลดีขึ้น ตำแหน่งและเงินเดือนมันก็มาเอง เพื่อนร่วมงานก็ช่วยเหลือกันดี เพราะเราก็ช่วยเหลือเขา ช่วยกันไปช่วยกันมา บรรยากาศทำงานก็ดีขึ้นมาก ความสุขมันก็มาเองครับ (แถมรู้สึกว่า port ลงทุนโตขึ้นเร็วซะด้วย 555) จากแต่ก่อนเคยคิดว่าอยากลาออกมาเล่นหุ้น แต่เดี๋ยวนี้ กลับคิดว่าถ้าออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียวชีวิตผมคงเหงาและน่าเบื่อเหมือนกันนะ :wink:
โดย
witweew
ศุกร์ ส.ค. 20, 2010 2:05 pm
0
0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
Thank you very much krub :wink:
โดย
witweew
เสาร์ ก.ค. 17, 2010 11:59 pm
0
0
เงินปันผลที่ได้รับปี51 นำมาขอเครดิตภาษีเดือน มี.ค.53 ได้ไหม
คุ้นๆกับคำถามนี้เหมือนกันเลยค้นมาให้ครับ ต้องขอบคุณคำตอบจากคุณ Kao ด้วยครับ :wink: http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?p=266500&sid=f78c9a856be1de5a26722f64042aff25
โดย
witweew
พุธ มี.ค. 10, 2010 12:00 am
0
0
อยากถามหนังสือดีๆที่ควรอ่านคับในการเร่มต้นทุกอย่าง
อ่านแล้วนึกย้อนหลังถึงตัวผมเองตอนวันแรกที่เริ่มลงทุนครับ ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แต่ว่าตัวเองทำงานหนักมาก ทำยังไงถึงจะสบาย (รวย) ซักที แต่ตอนนั้นตลาดหุ้นในความคิดผมเป็นบ่อนการพนันครับ แต่เห็นคนเขาเล่นกัน แต่สมัยเรียนตำราบอกว่าเป็นแหล่งลงทุน ผมเลยเริ่มศึกษาข้อมูลก่อนเข้าตลาดหุ้น โดยหนังสือที่ผมเริ่มอ่าน เรียงลำดับจากตั้งแต่ที่ผมเริ่มต้นวันแรกเลยนะครับ 1. พ่อรวยสอนลูก (หนังสือปลุกใจเสือป่า :lol: ) 2. ความมั่งคั่งใครบ้างไม่อยากมี (หนังสือของตลาดหลักทรัพย์) 3. ก้าวแรกสู่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ (หนังสือของตลาดหลักทรัพย์) 4. นักลงทุนผู้ชาญฉลาด 5. อยากรวยต้องรู้ เล่ม 1 - 4 (ซื้อเล่มละ 20 บาทเอง เพราะตอนนั้นเขาส่งเสริมการลงทุนกันเลยลดราคาจากเล่มละ 140 มั๊ง) 6. กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 คุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์ (ผมซื้อเล่มละ 20 บาทเหมือนกัน) 7. การวิเคราะห์หลักทรัพย์ โดยใช้ปัจจัยพื้นฐาน (หนังสือของตลาดหลักทรัพย์) 8. เทคนิคการวิเคราะห์งบการเงินบริษัทจดทะเบียน (หนังสือของตลาดหลักทรัพย์) --> เล่มนี้ recommend สำหรับวิธีการอ่านงบการเงินครับ 9. ตีแตก กลยุทธ์การเล่นหุ้นในภาวะวิกฤต (เล่มเปิดโลก Value Investment สำหรับผมเลย อ่านหลายรอบมากจนหนังสือหลุดเป็นชิ้นๆ หนังสือคลาสสิกปกเก่าด้วยครับ ภูมิใจจัง) 10. กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า Value Investing Made Easy (อ่านแรกๆรู้สึกยากเหมือนกัน) 11. ลงทุนอย่าง...วอร์เรน บัฟเฟตต์ The new buffettology 12. เหนือกว่าวอลสตรีท (อ่านแล้ว สุดยอดจริงๆครับ เหนือคำบรรยาย) 13. กุญแจ 5 ดอกการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (เล่มไม่ใหญ่มาก แต่อ่านจับใจความนานพอสมควร) 14. คู่มือแก้ปัญหาการเงิน (กว่าจะอ่านจบ ท้อใจไปหลายรอบ) หลังจากนั้นก็มีเล่มอื่นๆตามมาอีก เช่น The essential Buttett, กำไรหุ้นแบบเซียนวอลสตรีท, อ่านก่อนรวยถาวรกว่า, วิถีเซียนหุ้นมูลค่า Value Way, The intelligent investor, Common Stock Uncommon Profit, วิถีแห่งเต๋า วอเร็น บัฟเฟตต์, Warren Buffett and the interpretation of Financial Statements, ลงทุนแบบจอห์น เนฟฟ์, The warren buffett CEO เล่ม 1 - 2, หนังสือบัญชีของดร.ภาพร, หลักการบัญชีขั้นต้น 1 - 2 ของดร.วรศักดิ์, วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง, บทเรียนจากนักลงทุนชั้นนำของโลก, นักลงทุนดันโด, หนังสือทุกเล่มของคุณสุมาอี้ (เยอะครับ เล่มเล็กๆน่ารักดี แต่เล่มแรกน่าจะเป็น วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง เล่มนี้ผมเปิดจนหนังสือหลุดเป็นชิ้นเหมือนกัน), เทมเปิ้ล boxing, งบกระแสเงินสดไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป, เลือกหุ้น เล่นหุ้น ประเมินราคาหุ้นด้วยตัวคุณเอง ฯลฯ เอาเท่าที่ผมพอจำได้เท่านี้แล้วกันนะครับ (ผมคิดว่าคนใน web นี้อ่านหนังสือเล่มที่ผมพิมพ์มาทั้งหมดนั่นแล้วหล่ะครับ) แต่เล่มที่ผมชอบที่สุดกลับเป็นเล่มนี้ครับ "What I Learned Before I Sold to Warren Buffett" ส่วน Topic ที่ผมชอบมากที่สุดของ Thai VI ก็คือ กระทู้ ตระแกรงร่อนหุ้นของคุณวิบูลย์ครับ จำได้ว่าอ่านไปเกือบ 2 ปีกว่าจะจบ โดยเฉพาะ 3 เดือนแรก อ่านแล้วโน้ตตรงที่ไม่เข้าใจไว้ แล้วก็ไปหาหนังสือมาอ่าน ผมถือคติว่าถ้าไม่เข้าใจอย่าปล่อยผ่านไปครับ :wink:
โดย
witweew
จันทร์ มี.ค. 01, 2010 6:54 pm
0
0
อะไรคือ Margin of safety ครับ
เขียนมายืดยาว บทสรุปของผมก็คือ ค่า Intrinsic Value นั้น มันเป็นค่าใน "จินตนาการ" ของคนที่คำนวณมันขึ้นมา ประโยชน์ของแนวคิดของค่า Intrinsic Value นั้น จริงๆ แล้วอยู่ที่ว่า มันบอกว่า หุ้นจะมีค่ามากถ้ากิจการมีการเติบโตสูง และอย่างมั่นคงต่อไปเป็นเวลานาน เช่นเดียวกัน มันบอกว่าในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำมูลค่าของหุ้นจะสูงขึ้น และสุดท้ายก็คือ อย่าดูแคลนเงินปันผลในการพิจารณาหรือหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น ขอบคุณมากครับที่เอาบทความนี้กลับมาให้อ่านอีกครั้ง :wink:
โดย
witweew
จันทร์ มี.ค. 01, 2010 6:22 pm
0
0
อยากทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆชาว VI เริ่มลงทุนตอนอายุเท่าไหร่ครับ?
ผมเริ่ม วันอาทิตย์ที่ 15 มี.ค. 2552 แต่เป็นวันคล้ายวันประสูติเจ้าแม่กวนอิมครับ แต่ผมเริ่ม ซื้อหุ้น ตั่งแต่วันที่ จันทร์ที่ 16 มี.ค. 2552 ครับ จะ 16 วันก็ 1ปีเต็มแล้วครับ อายุ 25 ปีครับ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยะว่าวันที่ 15 มี.ค. เป็นวันประสูติเจ้าแม่กวนอิม แฟนผมเกิดวันที่ 15 มี.ค. เหมือนกันเลย มิน่าละผมทั้งนับถือเจ้าแม่กวนอิมมาก และเกรงใจแฟนมากกกเช่นกัน :lol: ส่วนผมเริ่มลงทุนในหุ้นปั๊บ ซึนามิก็เข้าไทยเลยครับ :wink:
โดย
witweew
จันทร์ มี.ค. 01, 2010 6:20 pm
0
0
วันอังคารนี้ ตลาดจะมีทิศทางเป็นอย่างไร
ส่วนตัว ผมไม่กังวลกับตลาดเลยครับ (พูดจริงๆนะ) แต่หยุด 3 วันมานี่ ผมอ่านงบการเงินและวิเคราะห์แนวโน้มอนาคตบริษัทที่ผมสนใจอย่างหนักเลยครับ โดยก็ลองประมาณดูว่าหากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น จะกระทบบริษัทอย่างไรบ้างเผื่อไว้เหมือนกัน ประมาณการณ์ผลประกอบการ เงินปันผล และอื่นๆ วันพรุ่งนี้ หากบริษัทใดมีราคาลงมาในช่วงที่ผมคิดว่าน่าลงทุน รับรองผมไม่อยู่เฉยแน่นอน :wink:
โดย
witweew
จันทร์ มี.ค. 01, 2010 6:15 pm
0
0
สอบถามเรื่อง dividend yield ครับ
น่าจะใช้ราคาเฉลี่ยครับ แต่ผมว่าเราหา Dividend Payout Ratio ที่บริษัทจ่าย แล้วคาดการณ์ปันผลในอนาคตจะดีกว่านะครับ :wink:
โดย
witweew
จันทร์ มี.ค. 01, 2010 6:10 pm
0
0
เก็บตก งานเปิดตัวหนังสือ เล่นหุ้นในภาวะวิกฤติ ของดร.นิเวศน์
ขอบคุณมากครับ แต่เอ่อ! avatar ของคุณ Hughes กะคุณ Sorawut นี่เป็นคู่แข่งกันหรือเปล่าครับ :wink:
โดย
witweew
พุธ ม.ค. 27, 2010 10:41 pm
0
0
มีเงินน้อยเป็น VI ไม่ได้ จริงหรือไม่
เยี่ยมจริงๆครับ ขอปูเสื่อรอฟังต่อด้วยคน :wink:
โดย
witweew
เสาร์ ม.ค. 23, 2010 12:36 am
0
0
คำเตือน โปรดระวัง!!!!!
วันเดียวกัน คณะกรรมการบริหารชมรมฯ ได้อนุมัติแนวปฏิบัติในการนำเสนอข่าวและภาพข่าวของสมาชิกชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เพื่อใช้บังคับต่อเว็บไซต์สมาชิกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยแนวปฏิบัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ อาทิ ให้สมาชิกพึงยึดมั่นและปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.2541 โดยเคร่งครัด ,สมาชิก พึงเคารพและให้การยอมรับเนื้อหาข่าวหรือภาพข่าวที่ผลิตโดยสมาชิกด้วยกัน การนำเสนอซ้ำข่าวหรือภาพข่าวดังกล่าว สมาชิกต้องอ้างอิงถึงแหล่งที่มา เวลาในการนำเสนอ รวมทั้งสร้างจุดเชื่อมโยง (link) ของข่าว หรือภาพข่าวนั้น กลับไปยังเว็บไซต์ของสมาชิกที่เป็นผู้ผลิตข่าวหรือภาพข่าวด้วย, สมาชิก พึงเคารพและให้การยอมรับข้อมูลข่าวสารหรือภาพข่าวที่ผลิตโดยแหล่งข้อมูลอื่น โดยการคัดลอกข้อความใดจากหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ต้องบอกที่มาของข้อความนั้น เป็นต้น ทั้งนี้ การไม่ปฏิบัติตามแนวปฏิบัตินี้ อาจนำไปสู่การพ้นสมาชิกภาพของสมาชิก ตามความในข้อ 9.4 แห่งข้อบังคับชมรมฯ ผมอ่านแล้วเข้าใจว่า ถ้าผมทำตามข้อความสีแดงข้างบน จะถือว่าเป็นการทำถูกต้องตามกฎแล้วใช่หรือเปล่าครับ :wink:
โดย
witweew
ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 10:24 pm
0
0
สุดยอดหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดในโลกที่ท่านต้องอ่าน
10 เล่มที่ผมอ่านแล้วอ่านอีก และรู้สึกว่าได้นำมาใช้งานตลอดเวลาที่ลงทุน 1. กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า 2. One up on Wall Street 3. Common Stocks and Uncommon Profits 4. เทคนิคการวิเคราะห์งบการเงินบริษัทจดทะเบียน 5. The Essential Buffett 6. อ่านก่อน...รวยถาวรกว่า และ วิถีเซียนหุ้นมูลค่า Value Way (2 เล่มนี้ ขออนุญาตรวมเป็นเล่มเดียวนะครับ) 7. กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ 8. Value Investing Made Easy 9. ตีแตก กลยุทธ์การลงทุนในภาวะวิกฤต 10. โคนัน --> เล่มนี้อ่านแล้วต้องพยายามทำตัวให้เป็นนักสืบวิเคราะห์บริษัทให้ละเอียดรอบคอบ :wink:
โดย
witweew
พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 7:50 pm
0
0
อยากเล่าให้อ่าน ไม่ซีเรียสคะ
[quote="Hughes"]ซื้อ B2S ดีกว่าครับ อิๆๆๆ มี starbucks ด้วยนะ
โดย
witweew
อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 11:14 pm
0
0
Invester Day 16/1/53
[quote="miracle"][quote="witweew"]วันนี้ ชอบวลีเด็ดของอาจารย์มากครับ Search for the obvious คำนี้ผมจะจำไว้ใช้ตลอดชีวิตเลยครับ
โดย
witweew
อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 11:05 pm
0
0
คุณให้คะแนนความยากง่ายในการลงทุนปีนี้เท่าใดครับ
ผมให้ 5 ครับ เพราะแม้ว่าผมจะเห็นบริษัท (หุ้น) บางตัวมีราคาที่น่าสนใจในการลงทุน แต่ผมยังไม่เห็น catalyst ที่จะปลดปล่อยมูลค่าของบริษัทเลยครับ :wink:
โดย
witweew
อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 9:40 pm
0
0
รู้รึป่าว ?
ขอบคุณมากๆครับ ได้ความรู้จริงๆ แต่ผมเคยเห็นสินค้าบางตัวมันไม่บอก T อะไรเลย อันนี้ หมายความว่าอะไรเหรอ? และขอแจมบ้าง แต่อันนี้เป็นความรู้เก่าสมัยผมทำงานเป็น merchandiser ในห้าง supercenter (ประมาณ 15 ปีแล้ว) แต่ปัจจุบันก็ยังเห็นมีแปะป้ายกันอยู่ ถ้าใครรู้แล้วก็อ่านผ่านๆไปก็แล้วกันนะครับ BIG-C ถ้าราคาลงด้วย 4 นี่เป็นของ clearance ส่วน lotus รู้สึกว่าจะเป็นเลข 7 :wink:
โดย
witweew
อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 2:48 am
0
0
เทพ รุ่งธนาภิรมย์
ผมเองถือว่า อ.เทพ เป็นอาจารย์คนแรกของผมเลยครับ บทความอ่านเข้าใจง่ายมากๆ เหมาะเป็นหนังสือเริ่มลงทุนเล่มแรกๆ แต่ผมมักจะเห็นคนตีความการลงทุนของแกใน 2 เรื่องที่แตกต่างกันคือ 1. การคำนวณเงินปันผล - ส่วนใหญ่จะเอาค่าเงินปันผลในอดีตมาคำนวณหรือไม่ก็เอาค่าเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับมาคำนวณ แต่มักจะไม่ได้ตรวจสอบว่าทำไมบริษัทจึงจ่ายเงินปันผลเท่านั้น จริงๆแล้ว อ.เทพ ให้หลักการลงทุนแบบเข้มข้นมากๆ โดยเราจะต้องดูตัวธุรกิจ อนาคตของธุรกิจ และคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของกำไร แล้วค่อยมาดูว่าจะจ่ายปันผลได้เท่าไหร่ ซึ่งหากลองคิดดูแล้วจะเห็นว่า เป็นหลักการลงทุนแบบ VI นั่นแหละครับ แต่เน้นเพิ่มตรงที่ต้องมีการจ่ายเงินปันผลออกมาในอัตราที่เราพอใจด้วย 2. เรื่องของการตกแต่งสวนแห่งเสรีภาพ - อ.เทพว่า ให้ขายหุ้นออกไปบ้างเพื่อลดต้นทุน (ผมว่าคล้ายๆกับคลายเครียดเรโช) ซึ่งอันนี้ ก็เหมือนหลักการลงทุนแบบ VI เหมือนกันครับ คือถ้าราคาหุ้นเกินมูลค่าหรือพื้นฐานกิจการเปลี่ยน (หรือเห็นราคาหุ้นมันวิ่งสูงมาก สำหรับนักลงทุนใหม่ๆ ใจมันสั่นเหมือนกันนะครับ :oops: ) ก็ให้ขายหุ้นออกไปบ้าง (แต่ถ้าแบบ อ.Buffett จะไม่ขายเลย) ซึ่งผมเข้าใจว่า อ.เทพต้องการยกตัวอย่างให้ดูง่ายไว้เท่านั้นครับ (แต่ผมจำไม่ได้นะว่าอ.บอกว่าได้ 100% แล้วให้ขาย หรือน่าจะเป็นการยกตัวอย่างเท่านั้นครับ) ทุกวันนี้ ผมเองก็ยังใช้วิธีการลงทุนแบบห่านทองคำอยู่ในบางบริษัท ซึ่งในความรู้สึกของผม เป็นการลงทุนที่เข้มข้นกว่าแบบ VI ด้วยซ้ำเพราะนอกจากจะต้องตรวจสอบคุณภาพบริษัทแล้ว ยังต้องดูเงินปันผลเพิ่มด้วย และเท่าที่ผ่านมา ผมกล้าบอกเลยครับว่า ผมยังไม่เคยขาดทุนจากการใช้วิธีนี้เลยครับ ตัวอย่างเช่น SE-ED, S&P :wink:
โดย
witweew
อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 2:41 am
0
0
Invester Day 16/1/53
วันนี้ ชอบวลีเด็ดของอาจารย์มากครับ Search for the obvious คำนี้ผมจะจำไว้ใช้ตลอดชีวิตเลยครับ :wink:
โดย
witweew
อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 2:10 am
0
0
ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดทุน...มีเรื่องกังวลใจหนึ่งเรื่อง มาเรียน
[quote="winkung"] win-win
โดย
witweew
ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 11:29 pm
0
0
อยากหาที่เรียนเกี่ยวกับการอ่านงบการเงินหน่อยครับ
แนะนำ และเชียร์ให้เรียนกับพี่มนครับ พี่เขาสอนให้แบบสุดๆไปเลย จำได้ว่าตอนนั้นผมไปเรียนกันที่ First Hotel พี่มนสอนไปดมยาดมไป :lol:
โดย
witweew
ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 10:29 pm
0
0
1 ม.ค. 53 การเปิดเสรีการค้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน(อาฟตา)
ผลกระทบต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างครับ บริษัทต่างชาติรอถล่มก่อสร้างไทย วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553 โพสต์ทูเดย์ ชี้รับเหมาไทย เป็นรองต่างชาติหลังเปิดเสรี แนะรัฐตั้งสถาบันพัฒนาองค์ความรู้ เข็นสภาวิชาชีพดูแลมาตรฐาน ผู้รับเหมา นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า แม้จะเปิดเสรีทางการค้าและภาคบริการแล้ว แต่สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างนั้นถือว่ายังไม่มีความ แข็งแรง เนื่องจากภาคธุรกิจนี้ยังไม่มีการผลักดันให้เกิดสถาบัน เพื่อมาอบรมให้ความรู้กับผู้ที่จะมาดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงการตั้งสภาวิชาชีพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง ที่จะเป็นหน่วยงานที่ให้ใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และภาคการเงินที่จะต้องเป็นหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้การสนับสนุนการให้สินเชื่อ เพื่อให้บริษัทรับเหมาเหล่านั้นสามารถทำงานได้คล่องตัวขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการผลักดันเพื่อให้เกิดสถาบันที่จะอยู่ในการกำกับของกระทรวงอุตสาหกรรม แต่สำหรับสภาวิชาชีพนั้นยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามากำกับดูแล ขณะที่หน่วยงานที่สนับสนุนภาคการเงินสำหรับการก่อสร้างนั้นต้องอาศัยการผลักดันของกระทรวงการคลังในการสนับสนุน ซึ่งหากหน่วยงานหลักทั้ง 3 แห่ง เกิดขึ้นเร็ว จะเป็นการผลักดันให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของไทยสามารถรับงานยังต่างประเทศได้ง่ายขึ้น หากเปรียบเทียบกันเฉพาะ 3 ประเทศหลัก ระหว่างไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของไทยถือว่าอ่อนแอที่สุด เนื่องจากยังไม่มีการกำหนดและควบคุมมาตรฐานวิชาชีพ ในขณะที่สิงคโปร์กับมาเลเซียถือว่าธุรกิจรับเหมาของเขาแข็งแรงมาก นายอังสุรัสมิ์ กล่าว ด้านนายกฤษดา ตัณฑ์วิไล กรรมการบริหาร สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ มองว่า บริษัทรับเหมาเอกชนต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อให้สามารถออกไปรับงานก่อสร้างในต่างประเทศ โดยคาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้าจะรู้ว่าการแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้นเพียงใด โดยจะเห็นการรวมกันของบริษัทรับเหมาก่อสร้างข้ามชาติ เข้ามารับงานก่อสร้างในไทยมากขึ้น ขณะที่บริษัทรับเหมาในไทยก็จะรวมตัวกันไปรับงานในต่างประเทศด้วยเช่นกัน แต่จะเห็นการรวมตัวกับบริษัทต่างชาติเข้าประมูลงานก่อสร้างในไทยมากกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องแรงงานก่อสร้างที่จะต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย เนื่องจากแรงงานมีความรู้ที่ต่างกัน และอัตราค่าจ้างแรงงานที่แตกต่างกัน นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ให้ความเห็นว่า การเปิดเสรีการค้าภาคบริการซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้างด้วยนั้น จะส่งผลต่อการก่อสร้างอาคารสูง คอนโดมิเนียม หรือโครงการขนาดใหญ่ ที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างจากต่างประเทศจะเข้ามามากขึ้น และทำให้บริษัทรับเหมาไทยจะต้องปรับตัวในแง่ของการพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้าง ขณะที่ผู้รับเหมารายกลาง รายเล็กไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะบริษัทรับเหมาใหญ่ๆ คงจะไม่สนใจรับงานขนาดเล็กอยู่แล้ว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คงจะได้ประโยชน์จากการนำเข้าด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างของบริษัทต่างชาติมาใช้ในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในการก่อสร้างอาคารสูงประเภทคอนโดมิเนียม และคาดว่าจะมีการแข่งขันด้านราคาเกิดขึ้นบ้าง เพราะบริษัทต่างชาติจะมีต้นทุนที่ถูกลงจากการเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว
โดย
witweew
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2010 2:31 pm
0
0
งานวิจัย เปรียบเทียบผลตอบแทน VI กับค่าเฉลี่ยตลาดหลักทรัพย์
ตอบให้เรียบร้อยแล้วครับ :)
โดย
witweew
พุธ ธ.ค. 09, 2009 12:43 am
0
0
ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ
ลุงยาม สมมติว่าซื้อหุ้น A ตัวละ 100 ซื้อมา 500 ตัวเป็นเงิน 50000 เวลาต่อมาหุ้น A ราคาขึ้นไปที่ 200 (สมมติ) ผมทำการขายไป 250 หุ้น ได้เงินมา 50000 เหลือหุ้น 250 หุ้นใน port โดยผมถือว่า 250 หุ้นนี้เป็นหุ้น ที่มีต้นทุน 0 บาท แล้วเก็บปันผลยาว จนกว่าพื้นฐานจะเปลี่ยน โดยที่ไม่สนใจ่ว่าราคาจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหรือไม่ เพราะต้นทุนต่ำมาก แต่ก่อนผมก็เคยคิดแบบนี้ครับ (ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดน่าจะมาอ่านมากจากตำราเล่มเดียวกัน "กลยุทธ์การลงทุนหุ้นห่านทองคำ") ปรากฎว่า หลังจากที่ผมขายหุ้น A ที่ผมเฟ้นหามาอย่างดี ออกไปครึ่งหนึ่ง วันนี้ หุ้น A ตัวนั้น ราคาบวกเพิ่มไปอีกไม่รู้กี่เท่าแล้วครับ ได้ปลอบใจตัวเองนะว่า ยังดีเหลืออีกตั้งครึ่ง แต่มันทำให้ผมนึกเลยว่าวันนั้นทำไมผมถึงซื้อหุ้นตัวนี้มา? :lol:
โดย
witweew
จันทร์ ต.ค. 26, 2009 1:36 pm
0
0
? ขอถามคุณ chatchai เรื่องการยื่นภาษีครับ
สอบถามพี่ฉัตรชัยหรือผู้รู้ท่านอื่นๆ เพิ่มเติมครับว่า ดอกเบี้ยที่ได้รับจากพันธบัตรรัฐบาล สามารถเอามาลงเป็นเงินได้พึงประเมินใน ภงด. 90 เพื่อขอคืนภาษีได้หรือไม่ครับ สาเหตุอันเนื่องมาจาก หญิงสาวคนหนึ่งมีดอกเบี้ยที่ได้รับจากพันธบัตรรัฐบาล (เสียภาษีณ.ที่จ่าย 15%) และได้มีการทำประกันชีวิตซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้ รวมทั้งยังมีคุณแม่ที่เข้าเกณฑ์สามารถขอคืนภาษีลูกกตัญญูได้อีก 3,000 บาทต่างหาก แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าหญิงสาวรายนี้มีรายได้จากเงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครับ เลยทำให้ไม่สามารถขอคืนภาษีในส่วนของประกันชีวิตและลูกกตัญญูได้เลยซักบาทเดียว คิดแล้วน่าเสียดายครับ ผมเลยขอสอบถามครับว่า หากหญิงสาวรายนี้จะเอาดอกเบี้ยที่ได้รับจากพันธบัตรรัฐบาลไปคำนวณรวมเป็นเงินได้พึงประเมิน เพื่อขอคืนภาษีจะได้หรือไม่ครับ :roll:
โดย
witweew
พุธ ม.ค. 17, 2007 9:54 pm
0
0
หุ้นที่เครดิตภาษีได้/ไม่ได้
S&P 25
โดย
witweew
อังคาร ก.พ. 28, 2006 11:27 pm
0
0
คุณมนตรีเก็บตกสำหรับคนที่ยังสนใจเรียน "บัญชีพื้นฐาน
แหมนึกไม่ถึงว่าจะมีคนใน web ไปเจอผมที่ธนาคารนะเนี่ยะ :shock: ผมไปโอนเงินเองแหละครับ ต้องรีบโอนรีบจองไว้ก่อนกลัวว่าเดี๋ยวจะลืม ส่วนผู้หญิงน่ารักข้างๆเนี่ยะ แฟนผมเองครับ เลือกแฟนคนนี้ได้ตามวิธีการแบบเน้นคุณค่าเลยนะครับ ฮ่า ฮ่า :lol: แต่วันที่เรียนเนี่ยะแฟนผมไม่ได้ไปเรียนด้วยนะครับ ผมไปเรียนคนเดียว :P
โดย
witweew
จันทร์ ม.ค. 23, 2006 10:33 pm
0
0
คุณมนตรีเก็บตกสำหรับคนที่ยังสนใจเรียน "บัญชีพื้นฐาน
กำลังอยากขอร้องให้พี่มนตรีจัดอบรมอีกซักรอบพอดีเลยครับ ขอจองสมัครเรียน 1 ที่ครับ :lol: email address:
[email protected]
จะเตรียมตัวไปเรียนอย่างตั้งใจเลยครับ
โดย
witweew
พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 9:36 am
0
0
แนวทางในการลงทุนแบบ Dividend Investor (ต่อจากกระทู้คุณ Mon)
รูปแบบการลงทุนเหมือนกันครับ แต่ขอเพิ่มตรงต้องมีการตัดตกแต่งสวนแห่งเสรีภาพดด้วยครับ :P
โดย
witweew
ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 2:14 pm
0
0
วันนี้ฟังเค้าวิจารณ์ บลจ. แล้วก็ชักจะเห็นด้วย
เป็นเพราะผู้ถือหน่วยลงทุนขอถอนหน่วยลงทุนออกจากกองทุนหรือเปล่าครับ จึงทำให้กดดันกองทุนให้จำเป็นต้องขายหุ้นออกเพื่อหาเงินมาชำระคืน
โดย
witweew
อังคาร เม.ย. 26, 2005 9:53 am
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
witweew
ระดับ:
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พฤหัสฯ. มี.ค. 17, 2005 9:15 pm
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
236 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.03 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว