หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
melbourne
Joined: อาทิตย์ พ.ค. 16, 2010 3:28 pm
75
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - melbourne
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ทำไมผมจึงลงทุนในหุ้นไทย (Buy Thailand, I am)
คุณ melbourne คับ ผู้เขียนคงนำเสนอเป็นไอเดียน่ะคับ อย่างข้อ 1. ก็เป็นอย่างที่ คุณ melbourne ว่า ว่าคงจะเอา dividend yield เฉลี่ยของตลาดหุ้น มาเทียบกับ ดอกเบี้ยฝากประจำ นี่ต้องดูเรื่องความเสี่ยงประกอบด้วย มาเทียบกันตรงๆดูจะไม่เหมาะสม ดอกเบี้ยจ่ายแน่นอน ส่วน dividend yield ขึ้นกับผลกำไรสุทธิ และนโยบายการจ่ายเงินปันผล ส่วนข้อ 2. ก็ใช้อัตราส่วนกลับของ pe คือ ep มาเป็นตัววัดความน่าสนใจของผลตอบแทนตลาดหุ้น เทียบกับ ผลตอบแทนของพันธบัตร ซึ่งก็ควรเป็นตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอย่างน้อยก็ 5-10 ปีขึ้นไปจะเหมาะสมกว่า แล้วก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า แม้ค่า pe หรือ ep ของตลาดในอดีต หรือ ปัจจุบัน อาจจะไม่ได้สะท้อนค่า pe หรือ ep ในอนาคต แต่ถ้าคิดให้ละเอียดขึ้น ก็จะได้ว่าเปรียบเทียบ ep กับ ผลตอบแทนของพันธบัตร คงจะไม่พอ ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวตอนนี้คงประมาณ 4.5% + ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นของตลาดหุ้น 6.5-6.7% รวมกันตัวเลขที่เหมาะสมคร่าวๆที่สะท้อนความเสี่ยงและผลตอบแทนที่นักลงทุนรับได้ประมาณ 10-11% (ซึ่งล้อไปกับอัตราการทำกำไรสุทธิในการทำธุรกิจโดยเฉลี่ย ซึ่งก็แล้วแต่นักลงทุนแต่ละท่านด้วยเช่นกัน ว่าจะมีวิธีการคิดแบบไหนถึงจะพอใจ ซึ่งอันนี้ผมตั้งไว้เป็นโมเดลคร่าวๆที่ผมพอใจ) ถ้าจะเทียบ ep น่าจะเทียบกับส่วนนี้มากกว่า โดยอาจจะรวม dividend yield เฉลี่ยของตลาดหุ้นมาบวกด้วย เช่น หุ้น pe 20 เท่า ep 5% ปันผล 2% รวมกันได้ ยิลต์ 7% ก็ยังถือว่าน้อยกว่า ผลตอบแทนที่นักลงทุนต้องการ 10-11% หุ้น pe 10 เท่า ep 10% ปันผล 4% รวมกันได้ ยิลต์ 14% มากกว่า 10-11% ถือว่าน่าสนใจ หรือ pe ต่ำลงไปยิ่งน่าสนใจ แต่อย่าลืมว่าสุดท้าย ep หรือ pe ก็ไม่ใช่ตัวบอกที่แน่นอนว่า ราคาหุ้นเหมาะสม หรือ ราคาหุ้นจะขึ้นไปได้ หรือ เป็นหุ้นดี มีคุณภาพ มีการเติบโตดี บางที หุ้นที่ ep สูงๆ 20% ยังไม่รวมปันผล ซึ่ง มี pe แค่ 5 เท่า อาจจะเป็นหุ้นที่ไม่เติบโต ไม่น่าสนใจ หรือ เป็นหุ้นวัฏจักร ณ. จุดสูงสุดก็ได้ และกำไรกำลังจะลดลง หรือ เป็นหุ้นที่มีกำไรพิเศษเข้ามาแค่ครั้งเดียว ทำให้ค่า pe ดูต่ำไป หรือ ep ดูสูงไปก็ได้ หรือ หุ้นที่ pe ดูสูง ep ต่ำ แต่อาจจะมีการเติบโตดีในอนาคต หรือ มีการลดลงของกำไรชั่วคราว ทำให้ pe ต่ำลง ep สูงขึ้นก็ได้ หรือ หุ้นที่ pe สูง ep ต่ำ เพราะนักลงทุนให้ความนิยมมาก ดันราคากันจนเกินความสามารถในการเติบโตของกำไร ก็เป็นไปได้อีก เพราะฉะนั้น คงต้องมาดูกันไปตามเหตุปัจจัย การลงทุนจึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์คับ เห็นด้วยนะครับ ผมถึงเขียนเป็นออกแนวdisclaimerหน่อยๆเผื่อนักลงทุนมือใหม่หน่ะครับ
โดย
melbourne
พฤหัสฯ. ธ.ค. 26, 2013 3:53 pm
0
1
Re: ทำไมผมจึงลงทุนในหุ้นไทย (Buy Thailand, I am)
ผมขออนุญาติเขียนเป็นdiscliamerนิดนึงนะครับ ผมคิดว่า การเอาdividend yield มาเทียบกับ ดอกเบี้ยออมทรัพย์ นี่ต้องพูดเรื่องความเสี่ยงเสมอนะครับ จขกท พูดถึงดอกเบี้ยฝากประจำที่เกือบจะไม่มีความเสี่ยงคือประมาณ 2.5% เอามาเทียบกับdividend yiledที่ประมาณ3% คนที่อาจจะเป็นมือให้ต้องพึงระวังนะครับ เพราะ3-2.5=0.5 หมายถึงส่วนชดชเยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนในตลาดทุนว่า0.5%นี่เพียงพอหรือไม่+/-ความผันผวนในdividend (ไม่นับรวมcapital gainเพราะเข้าใจว่าจขกท ต้องการให้ถือยาว เพราะฉะนั้นคนที่มีนิสัยคัทลอสบ่อยๆควรระวังจุดนี้เช่นกัน) ส่วนเหตุผลข้อที่สองผมอ่านแล้วยังงงๆอยู่ ใครเข้าใจรบกวนชี้แนะด้วย
โดย
melbourne
อังคาร ธ.ค. 24, 2013 5:16 pm
0
4
Re: ในภาวะการณ์แบบนี้ ยังมีใครรอลุ้นผลประกอบการ Q3 ไม๊
ต้องใช้คำว่าจำใจเลยหรือครับ
โดย
melbourne
จันทร์ พ.ย. 11, 2013 2:16 pm
0
0
Re: มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นในใจคุณ
:B 34 บาท หลายเด้งแล้วนะครับ :mrgreen:
โดย
melbourne
จันทร์ พ.ย. 04, 2013 7:34 pm
0
0
Re: รวยหุ้นด้วย "Let Profit Run" "ภาววิทย์ กลิ่นประทุม"
รวย หุ้น ด้วย "การเขียนหนังสือ และเปิดคอร์สสอนเล่นหุ้น" "ภาวเวอร์ กลิ่นกระเทียม" :mrgreen:
โดย
melbourne
จันทร์ พ.ย. 04, 2013 7:32 pm
0
32
Re: อะไรคนแน่น?
คนกิ่นอิ่มๆ ครับ แน่นชัวร์ :B
โดย
melbourne
จันทร์ พ.ย. 04, 2013 7:29 pm
0
2
Re: สอบถามแฟนๆBuffet
จากที่อ่านของคุณguhungry postนี่ตามประสางูๆปลาๆ Buffetขาย Put option อายุ15-20ปี ที่exercise price 1300 ได้ค่าpremium 100-150ล้าน ขณะที่ขาดทุนสูงสุด(ดัชนีเท่ากับ0)แค่1000ล้าน เท่ากับ10เท่าของพรีเมี่ยมที่มีระยะเวลาinvest15ปี ก็นับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าจริงๆ ข้อสงสัยคือ ไอคนที่ซื้อputไปนี่คิดอะไรอยู่ถ้าputอายุ1-5ปีก็ไม่แปลกที่จะbet ว่าดัชนีลง หรือว่าเค้าใช้black-scholes pricingกันแน่ คือผมไม่เข้าใจว่าคนซื้อเค้าคิดอะไรถึงให้premiumเยอะขนาดนี้
โดย
melbourne
พฤหัสฯ. มี.ค. 14, 2013 4:47 am
0
0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
ขอบคุณครับๆๆๆๆ :P
โดย
melbourne
พุธ ธ.ค. 26, 2012 8:35 am
0
0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
ถ้าไม่ทำforwardกับธนาคาร ก็สามารถใช้USD futureในการป้องกันความเสี่ยงได้ คือถ้าเกิด จขกท take long position ในเงินเยน ตามหลักก็ควรจะtake shot positionในเงินเยนเพื่อป้องกันความเสี่ยงของกระแสเงินสด แต่ถ้าเราไม่มีjpy futureให้ short แล้วเราไปtake shot positionในusdได้ไหม? คำตอบคือ ได้ แต่ต้องมีการปรับอัตราส่วนในการถือครอง เพราะเราทราบว่าค่าเงิน usdและ jpyนั้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่่จะไม่เท่ากันจึงต้องหาอัตราส่วนในการถือครองusd futureเพื่อให้longกับshortหักลบเท่ากันพอดี ซึ่งมันก็มีสูตรในการคำนวนหลักในการคำนวนก็ใช้ค่าสถิติเพื่อหาว่าเราควรจะมีshort positionในusdเท่าไหร ซึ่งจะมีความเสี่ยงที่หลงเหลือก็คือความผันผวนของusdและjpyไม่เป็นไปตามที่คาด(จากค่าสถิติ) ซึ่งมีโอกาสเกิดได้น้อยมากเพราะราคาfutureของค่านั้นเคลื่อนไหวตามของค่าเงินตลาดfutureของค่าเงินไม่สามารถถูกปั่นได้โดยตรง(เพราะผู้ปั่นจะเสียหายหนักเพราะโดนarbitrageแน่นอน)ถ้าจะปั่นต้องปั่นจากต้นน้ำคือ ค่าเงิน ซึ่งคงไม่มีใครปั่นค่าเงินได้โดยง่าย มันไม่เหมือนราคาหุ้นราคาผู้ปั่นราคาหุ้นสามารถอ้างถึงปัจจัยต่างๆของกิจการ เพื่อให้มันรับกับราคาที่ถูกปั่นขึ้นไปได้ แน่นอนว่าใช้ค่าสถิติในภาวะปกติทั่วไปหรือโดยมากก็ใช้ได้ดีเยี่ยมและส่วนใหญ่ในตลาดก็ใช้กัน เพราะมีคนส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะมีโอกาสใช้futureในการป้องกันunder lying assetตัวเดียวกัน ถ้าหากตลาดพัฒนาเราก็เชื่อว่าจะมีการออกfutureของjpy เพื่อมาป้องกันความเสี่ยงให้คนแบบ จขกท โดยเฉพาะ แต่ ณ จุดนี้ ตลาดยังทำแค่ usdเพื่อให้คนมารวมกันซื้อขายที่จุดเดียวก่อน(เพราะถึงมี jpy futureก็มีคนใช้น้อยมากๆอยู่ดี) นี่ก็เป็นข้อเสียของfutureที่ต่างกับforward (ข้อดีเข้าออกง่ายกว่า forward) หรืออาจจะเลือกoptionก็ได้(ถ้ายอมรับค่าpremiumไหว) โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าหากการใช้ usd future นั้นหากนำไปปฎิบัติจริงก็น่าจะมีประสิทธิภาพพอสมควร แต่ล่ะด้านดีเสียต่างกันอยู่ที่อันไหนเหมาะล่ะครับ แล้วสรุปว่าทำไม จขกท ไม่อยากทำforwardกับธนาคารล่ะครับ
โดย
melbourne
เสาร์ ธ.ค. 15, 2012 7:20 pm
0
0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
ลองสมมติแบบนี้นะครับ ถ้าผมตกลงว่าจะรับแลกเงินเยนของคุณในราคา40บาทต่อร้อยเยนทุกเดือน คุณพอใจไหมครับ ถัาคุณพอใจเราเซ็นสัญญกันว่าจะแลกเงินกันทุกเดือนเป็นเวลา2ปีในเรทนี้ อย่านี้เราเรียกสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบforward ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจส่่วนใหญ่ก็ใช้กัน เช่น KFC ทำforwardตกลงจะซื้อไก่กับcpโลละ80บาท แบบนี้จะมีประโยชน์กันKFCมากเพราะKFC สามารถล็อกราคาขายแน่นอนที่37บาท/ชิ้น และมีต้นทุนที่แน่นอนที่ไก่โลละ80บาท คงเห็นได้ว่าจะมีประโยชน์ในการบริหารงานมากเรียกง่ายๆว่าhedgingครับ คงรู้ต่อไปว่าKFC จะเสียประโยชน์ถ้าราคาไก่สดลดลงถูกไหมครับเพราะคุณต้องซื้อไก่โลละ80แต่ในตลาดโลละแค่75แต่KFCคงไม่สนใจแน่นอนเพราะต้องการfocusไปที่ยอดขายหรือการขยายงานมากกว่า แต่ว่าการทำforwardต้องมีคู่สัญญา2ฝ่ายและมีความเสี่ยงที่คู่สัญญาจะผิดสััญญา การทำforwardส่วนใหญ่จึงต้องมีขนาดที่ใหญ่และต้องอาศัยความน่าเชื่อถือของคู่สัญญา สัญญาforwardจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆกับประชาชนทั่วไป ดังนั้นตลาดการเงินจึงพัฒนาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบfutureขึ้นเพื่อตอบสนองการป้องกันความเสี่ยงในลักษณเดียวกันแบบforwardแต่ในรายละเอียดจะแตกต่างซึ่งเราสามารถป้องกันความเสี่ยงได้จริงๆ นี่คือจุดผิดพลาดที่หลายๆคนมองว่าfutureสร้างขึ้นมาเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่รากของมันจริงๆคือการป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาแบบเดียวกับที่forwardทำ แต่ไม่อาจเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายได้ชัดเจนแบบforwardนั่นเอง แต่ผมยังนอนยันว่ามันมีความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงอยู่จริง ถ้าเกิด จขกท รับเงื่อนไขได้และต้องการล็อกกระแสเงินสดเป็นเงินบาท ไม่แน่ว่าท่านอาจเหมาะกับการป้องกันความเสี่ยงแบบนี้ก็เป็นได้
โดย
melbourne
เสาร์ ธ.ค. 15, 2012 1:47 pm
0
0
Re: คิดว่า EST จะสู้กับ PEPSI ได้ดีขนาดไหน
อ่านดูแล้วผมว่าหลายๆคนประเมินพลังของระบบ logistic น้อยไปนะครับ ตย.ของ pizza hut กับ the pizza ก็เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าแบรนด์ไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง และแบรนด์ใหม่ที่มี logistic พร้อมรบอยู่แล้ว ก็ชนะแบรนด์เก่าที่ไม่พร้อมในเรื่อง logistic ได้ จากยอดขายเดิมของ pepsi ที่เป็นของขวดแก้วตั้ง 60% ดังนั้นผมกล้าฟันธงเลยว่ายอดขายปีหน้า pepsi แพ้ est แน่นอน แต่งานนี้ถ้า coke วางแผนดีๆคงขยับมาร์เก็ตแชร์ได้พอสมควรทีเดียวครับ นั่นสิ แต่ว่าช่วงนั้นก็1แถม1กันกระจุยกระจาย โปรโมชั่นกันสุดๆ อีกอย่างตอนนั้นมีพิซซ่าฮัทแข็งอยู่แบรนด์เดียวด้วยแหละ ช่องว่างทางการตลาดก็มีมากกว่าน้ำดำถ้าไม่มีแต่อย่างว่าแหละ เครือข่ายทั่วประเทศคือแต้มต่อที่สำคัญที่สุดของestแล้ว อยู่ที่การชิงจังหวะกันหมัดต่อหมัดละทีนี้
โดย
melbourne
จันทร์ พ.ย. 05, 2012 1:34 pm
0
0
Re: เรียนคณะอะไรดีครับ ถ้าเราต้องการจะใกล้ชิดเรื่องการลงทุน
ผมเรียนบริหารธุรกิจเอกการเงินอยู่ครับ ถ้าจขกทใช้คำว่า"ใกล้ชิด"คงต้องเรียนการเงินน่าจะใกล้ชิดที่สุดครับ รองมาก็คงเศรษฐศาสตร์ แต่ผมบอกเลยนะความเห็นส่วนตัว เรียนการเงินมันช่วยเปิดมุมมองอีกด้านนึงคือผมว่ามันต่างจากไทยวีไอเอามากๆ เวลาวิเคราะห์อะไรก็ต้องใช้สมมุติฐานในการศึกษาสร้างmodelมาศึกษา ถ้าอยากเปิดเปิดมุมมองก็แนะนำให้เรียนถ้าจะเอามาประยุกต์ผมก็ว่าคงทำได้ไม่ดีเท่าไหรนักหรอกเพราะมันยากที่จะทำให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น(ในที่นี้ผมว่า1+1=1เท่าเดิมถ้าเอามาผสมกัน)แต่ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการลงทุงผมว่าไม่จำเป็นเท่าไหรนักแต่รับประกันว่าถ้าเรียนจะรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้นครับ
โดย
melbourne
จันทร์ พ.ย. 05, 2012 5:37 am
0
0
Re: SPEED READING ใครทำได้??
ถ้าผมอ่านไดซักครึ่งนึกของจขกทก็ดีใจจะแย่ล่ะ5555
โดย
melbourne
จันทร์ พ.ย. 05, 2012 5:25 am
0
0
Re: คิดว่า EST จะสู้กับ PEPSI ได้ดีขนาดไหน
ขนาดเซอร์ricard brandson(คุณตันร่างอวตาร555)ว่าแข็งๆแล้ว ยังถอนตัวจากตลาดน้ำดำเลย ผมว่ายากนะตอนนี้ก็มีอยู่3ล่ะ ยิ่งมาทีหลังถ้าของไม่แรงจริงmarket shareคงนิดเดียว ไม่รู้ว่าจะใช้กลยุทธ์อย่างไรคงต้องมาแนวbig colaล่ะถ้าให้ผมทายแต่ถ้าเลือกวางตัวในระนาบเดียวกับPepsi cokeผมว่างานช้างกว่า(ความเท่มันต่างกันเกิน) ต้องรอดูว่าจะเลือกอันไหน อย่างบิ๊กโคล่าก็มีดีกรีเป็นผู้สนับสนุนFA cup ไรงี้สร้างความน่าเชื่อถือได้ดี estจะทำอย่างไรให้อยู่ในระนาบเดียวกันหรือเหนือกว่า แต่งานนี้ดูแล้วเจ้าสัวเจริญคงต้องเดินเกมรุกหนักแน่ แผนการใหญ่โตดี ดีก็รุ่งไปเลย อาจต้องหากลยุทธ์คล้ายขายเหล้าพ่วงเบียร์ไม่งั้นอยู่ยาก กลยุทธ์ต้องแรงจริง ต้องมัดมือชกให้ได้หละ งานนี้ไม่มีกลางๆ ชิวๆหยวนๆกันหละ ต้องรอดูครับว่าจะชิงส่วนแบ่งได้แค่ไหน
โดย
melbourne
จันทร์ พ.ย. 05, 2012 5:21 am
0
0
Re: ซื้อหุ้นง่ายกว่าเซ้งร้านก๋วยเตี๋ยว ใครก็ทำได้
เค้าอาจไม่ได้มองที่ความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างเดียวก็ได้มั้ง คนเราทำอะไรที่ชอบก็มีความสุขเน้อ
โดย
melbourne
พุธ ต.ค. 03, 2012 3:04 pm
0
0
Re: ผมขอเสนอให้เอา บวกลบ ออกไปเหอะ
ปัญหาคือปุ่มบวกนี่มันมีMoral Hazardนี่ซิประเด็น เห็นโพสไหนกดบวกเยอะๆก็กดมั่ง มันเป็นRight for wrong reasonหรือป่าว Thaiviไม่ใช่Facebookผมว่าบวกลบนี่มันก่อbiasทางความคิดผู้เสพได้นะ โดยรวมข้อเสียมากกว่าข้อดีนา
โดย
melbourne
จันทร์ ต.ค. 01, 2012 5:53 am
0
0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
ขอถามเพื่อนๆพี่ๆนิดนึงครับ ช่วงนี้มีใครพบเจอกลุ่มคนที่มีแนวคิดแบบที่คุณบลูกล่าวถึงบ้างไหม ถ้ามีแล้วเยอะหรือไม่ ผมรู้สึกว่าคุณบลูค่อนข้างจะเจาะจงลงไปเลยทีเดียวน่าจะสังเกตุง่ายนะครับ พอดีผมไม่เคยเจอคนแบบนี้กับตัวมาก่อน แต่ผมเชื่อเหมือนคุณบลูว่ามีคนกลุ่มนี้อยู่จริงๆ แต่ผมก็สงสัยว่าที่คุณบลูเจอมานี่จำนวนมันเพิ่มขึ้นมากจนต้องนำมาเป็นประเด็น(ส่วนตัวเชื่อว่าคุณบลูต้องเจอมากับตัวเห็นมากับตาเรื่องอะไรซักอย่างแน่นอนและเชื่อด้วยว่าประเด็นนี้สำคัญ)???? เลยอยากลองสอบถามข้อเท็จจริงจากพี่ๆดูครับ
โดย
melbourne
อาทิตย์ ก.ย. 30, 2012 12:06 pm
0
3
Re: เพื่อนๆ VI ที่รักมั่นใจหรือว่าตามบัฟเฟ็ตแล้วจะมาถูกทาง
สรุปแล้วคิดว่าbuffetปล่อยหมดจริงหรอ
โดย
melbourne
พฤหัสฯ. ก.ย. 27, 2012 10:56 am
0
0
Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ
Test
โดย
melbourne
พฤหัสฯ. ก.ย. 27, 2012 9:37 am
0
0
Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ
Test
โดย
melbourne
พฤหัสฯ. ก.ย. 27, 2012 1:49 am
0
0
Re: ผมว่า VI ในห้องนี้กำลังอยู่ใน red ocean
มันคงเป็นแค่คำเตือนของจขกท. อยู่ที่ผู้ฟังจะรับนำส่วนดีมาใช้รึป่าว เพราะถ้าคิดว่ามันเป็นคำเตือนแล้วเราจะเถียงกันทำไม
โดย
melbourne
อาทิตย์ ก.ย. 23, 2012 4:58 am
0
0
Re: รายชื่อแบ่งกลุ่มอบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
การเหมาว่าเด็กจบใหม่ที่ต้องการจะอบรมนั้นจะทำให้เด็กฝันเฝื่องไม่ยอมทำงานจะดีหรอครับ จะไม่คัดกรองหน่อยหรือครับ จะไม่มีเด็กที่ต้องการความรู้จากท่านอาจารย์เลยหรือครับ ก็ยอมรับเลยว่าเด็กที่ฝันเฝื่องมันมีแยะ แต่เหมารวมแล้วตัดสิทธิ์คนที่ตั้งใจจริงไปเลยจะคุ้มสำหรับสังคมนักลงทุน? มันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเปล่าต้องช่วยกันตอบนะครับ จะไม่มีบทเรียนหรือกุศโลบายดีๆที่สามารถปลูกฝังความคิดที่ถูกต้องเลยหรอครับ ต้องให้เด็กอ่านในเวปแล้วพบว่าตนเองอยากลองร่วมอบรมสักครั้งแต่พบว่าตนเองถูกจำกัดสิทธิ์เพราะว่าตนเองฝันเฝื่อง????????แล้วเช่นนี้เด็กๆจะตอบตนเองว่าอย่างไร??????อ้อโอเคๆผมฝันเฝื่องไปรออายุถึงดีกว่า แบบนี้หรอครับ มันเป็นผลดี?????????ต่อใครครับ ปล่อยให้ค้างคาใจไปเรื่อยๆเลยสินะ (คล้ายๆพ่อแม่ที่สอนลูกโดยไม่ใช้เหตุผลหรือความเข้าอกเข้าใจเลยนะครับ จะจำกัดอายุกันดื้อๆเลยก็ได้ครับไม่มีใครว่าแต่การมองแบบเหมารวมนี่มันจะดีหรือครับ มันจะคล้ายๆแบ่งแยกนะครับ เพราะอย่างน้อยเด็กก็ยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เราควรสนับสนุนกับร่วมปลูกฝังความคิดที่ถูกต้องไม่มากก็น้อย เหมือนที่buffetปลูกฝังความคิดดีๆไม่ให้เราหลงไปกับตลาด ปล่อยค้างคามันเป็นผลเสียนะครับเหมือนอาการคันนะครับ) มิได้มีเจตนาตำหนิ เพียงต้องการร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อโอกาสที่ดีของสังคมไทย น้อมรับทุกคำติชม ต้องการทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนรุ่นหลังด้วยใจบริสุทธิ์
โดย
melbourne
เสาร์ ก.ย. 22, 2012 12:52 am
0
1
Re: จิตวิทยาการ Let profit runs (หลังเลือกหุ้นด้วยพืนฐาน ถูก
(1)เลือกบริษัทดี + (2)มีจิตแน่วแน่ เป้าหมายชัดเจนถือได้ไม่หวั่นไหว = สำเร็จ คุณพิชัยมักเน้นแค่ตัวหลังของ equation คนเข้าใจผิด ขาดข้อแรก และไปทำข้อ 2 อาจเจ็บตัวได้ คิดว่าเจตนาของเค้าน่าจะต้องการสื่อในประเด็นที่แตกต่างทำให้การสื่อสารออกมาแบบนี้ คงไม่ได้ตั้งใจให้นักลงทุนเน้นแต่ข้อหลัง เหนืออื่นใดนี่มันตอนที่2ครับ มันมีภาคแรกด้วย จขกทน่าจะอ้างอิงด้วยนะ เดีี๋ยวมีคนจะจับใจความผิด(แต่หัวกระทู้ก็บอกอยู่แล้วนิ..........แก้ตัวแทนจขกท ฮา) แอบแซว อย่าคิดมากนะครับ อิอิ และเจตนาน่าจะต้องการให้นักลงทุนที่ดีให้ความสำคัญของทั้ง2ข้อเท่าๆกัน แต่การสื่อสารอาจออกมาเหมือนเน้นแบบหลังมากกว่าหรือเป็นเราได้ยินเรื่องการเลือกบริษัทที่ดีบ่อยกว่ามากๆจนชินเลยทำให้ไม่ได้ดูองค์รวมของสิ่งที่ต้องการสื่อ(มีbias)หรืออาจเป็นเพราะทั้ง2อย่างผสมกัน ปล ทั้งหมดเป็น คหสต โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้
โดย
melbourne
พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 7:32 am
0
1
Re: "คุณสมบัติการเป็นนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ" 1คน 1ข้อ
เล่นในเกมส์ของตัวเอง(รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร)
โดย
melbourne
พุธ ก.ย. 19, 2012 9:24 pm
0
3
Re: CEO ไทย ท่านไหนเก่งกว่าหรือพอๆ กับ Steve Jobs บ้างครับ?
คนไทยคนไหนเก่งกว่าjobหรอ คิดว่าคงมีคนไทยหลายๆคนเก่งกว่าjobในหลายๆด้านอยู่ว่าเราดูด้านไหน ประเด็นคงอยู่ที่ว่าคนไหนจะรักในผลิตภัณฑ์เท่าjobมากกว่า นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าทำให้jobแตกต่างจริงๆ เค้าตั้งใจและฝืนมากในการถล่มโลกทั้งใบด้วยproductชิ้นเดียว ลองยกตัวอย่างสิครับว่ามีสินค้าอะไรที่สามารถ ถล่มโลกได้ยังงี้ มันเป็นโจทย์ที่ยากมากๆสำหรับคนทำนะครับ(ลองคิดถ้าเป็นเรานะครับ เราจะผลิตอะไรให้คนทั้งโลกปลื้มดี? เราก็คงคิดconceptได้บ้างอันที่จริงผมว่าทุกคนคงเคยคิดแหละ แต่คนที่ทำได้จริงๆในกรณีนี้นะถึงควรเอามาเทียบกับjob ไม่งั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเอาjobไปเทียบในด้านที่มีหลายคนทำได้ดีกว่าเค้าเช่นการจัดการองกรณ์ การตลาด การบริหาร บลาๆๆๆ) ความรักและความเป็นศิลปินของเค้าน่าจะเป็นkey มากกว่านะครับ
โดย
melbourne
พุธ ก.ย. 19, 2012 2:25 am
0
1
Re: George Soros กล่าวไว้ว่า....
ผมเห็นด้วยกับการแปลความหมายแบบคุณiamkomครับ Discounting the obvious น่าจะหมายถึงตลาดdiscountในสถานการณ์นั้นยังไง Betting on the unexpected น่าจะหมายถึงพนันลงไปในข้างที่ตลาดคาดไม่ถึงหรือสนาการณน่าจะเกิดแน่ๆแต่ตลาดไม่ให้มูลค่ามัน แล้วเราก็จะได้เงินจากกระบวนการนี้ เช่นในcaseที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าตลาดกำลังมีประสิทธิภาพอยู่(ณ ราคาดุลยภาพ) แต่โซรอสมองว่าจุดนี้ห่างจากจุดดุลยภาพมาก(โซรอสไม่เชื่อว่าตลาดมีประสิธทิภาพ)และกำลังถีบห่างไปเรื่อย(เพราะความเข้าใจผิดของมนุษย์)เข้าก็จะเข้าไปเก็งกำไรและในที่สุดตลาดก็ไม่สามารถฝืนความจริงต่อไปตลาดก็หันหัวลงทุกคนส่ายหน้า น่าจะประมาณนี้อ่านจากgorge soros on lectureครับ ผมชอบคำๆนึงในหนังสือโซรอสยังตราตรึงในใจถึงวันนี้ เมื่อดนตรียังบรรเลงผู้คนก็ยังเต้นต่อไป(แม้หมดแรงแล้ว) ปล ผมชื่นชอบวิธีการของโซรอส(โซรอสเน้นหนักในตลาดเงินจะเอามาคิดเป็นหุ้นๆต้องดูดีๆหน่อย)เอามากๆเพราะมีทั้งการเมืองจิตวิทยาเศรษฐศาสตร์อยู่มาก แต่ที่ชอบมากที่สุดกับโซรอสคือเค้าเล่นกับความผิดพลาดของมนุษย์(ซึ่งเกิดขึ้นเสมอและไม่มีวันหายไปเป็นความจริงอันนิรันดร์)ได้สุดยอดจริงๆ ปล2 ไม่มีเงินคำพูดไม่มีน้ำหนัก ................ฮา
โดย
melbourne
พุธ ก.ย. 19, 2012 2:08 am
0
1
Re: ฟรี ! แบ่งปันสรุปหุ้นรายตัว ย้อนหลัง 15 ปี ง่าย
^ ^ ^ แก้เมลล์ด้านบน เป็น
[email protected]
ขอบคุณอีกทีครับ
โดย
melbourne
อังคาร ก.ย. 18, 2012 8:27 pm
0
0
Re: ฟรี ! แบ่งปันสรุปหุ้นรายตัว ย้อนหลัง 15 ปี ง่าย
ขอด้วยคนครับ
[email protected]
เยี่ยมจริงๆครับ จขกท ขอบคุณครับสำหรับความตั้งใจอันดี
โดย
melbourne
อังคาร ก.ย. 18, 2012 8:25 pm
0
0
Re: พี่ๆเริ่มสืบหาหุ้นหลายเด้งกันอย่างไร
สวัสดีครับ ผมไม่ได้ถามแบบกวนๆ นะครับ ทำไมถึงคิดว่าจะต้องเจอหุ้นหลายเด้งด้วยครับ? ทำไมถึงไม่คิดว่าจะเลี่ยงหุ้นแย่ๆ ได้อย่างไรครับ? ผมไม่ได้เก่งเรื่องลงทุนนะครับ เพียงแต่ผมเคยอ่านหนังสือมาบ้างเล็กๆ น้อยๆ โดยตามสถิติของตลาด 30 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12% นะครับ และก็เป็นการเฉลี่ยด้วย หมายความว่า บางปีอาจขาดทุนจำนวนมากและบางปี ก็จะกำไรหลายเด้ง ก็เป็นได้ แต่โดยรวมแล้วเท่าที่บอกนะครับ คราวนี้ มาถึงคำถามว่า ทำไมถึงค้นหาหุ้นหลายเด้งกัน มันไม่ได้ง่ายนะครับ อาศัยฝีมือ จังหวะ และโชค ด้วยครับ บางทีเราอ่านในบอร์ดแล้วมีคนได้กำไร เป็นหลายๆ เด้งกัน ผมอยากจะบอกว่า มันมีอีกด้านนึงนะครับ ถ้าเคยอ่าน บทความของ ดร.นิเวศน์ จะมีหัวข้อนึง คือ "คนตายไม่ได้พูด" ลองหาอ่านดูครับ ครับ ทำไมถึงคิดว่าต้องเจอหุ้นหลายเด้งด้้วย ตอบ เพราะผมคิดว่าจะถือหุ้นซัก5ถึง7ตัวเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อความสนุกในการติดตาม หนึ่งในหุ้นตัวที่ผมถือก็จะมีหุ้นโตเร็วมูลค่่าประมาณ15-20%ของพอร์ต นอกนั้นก็เป็หุ้นแข็งแกร่งหมดเลย ส่วนที่ทำไมต้องเจอหุ้นหลายเด้งเพราะอยากเพิ่มโอกาสแบบที่ผมคิดว่าไม่เสี่ยงมากจนเกินไป ทำไมถึงไม่คิดว่าจะเลี่ยงหุ้นแย่ๆได้อย่างไร ตอบ ขอบคุณครับที่เตือน ผมก็อ่านหนังสือของ mary buffetอยู่ แล้วไอหุ้นแข็งแกร่งเนี่ยหนังสือหลายๆเล่มก็ อธิบายได้ครบถ้วนในระดับหนึ่งหรือเรื่องstrategyของbusinessมันมีเยอะแล้วผมก็อ่านอยู่ แต่เรื่องของ หุ้นโตเร็วนี่ผมอยากรู้เพราะได้อ่านหนังสือของlynchว่าเค้าเสาะหาหุ้นจากเรื่องใกล้ตัว คล้ายๆกับที่ดร.นิเวศน์ เดินห้างรึป่าว เลยอยากสอบถามถึงที่มาของแนวคิดการหาหุ้นแบบนี้ของแต่ล่ะคนว่าหาจากที่ไหนบ้าง เริ่ม จากตรงไหนกันเอ่ย ที่ผมสนใจหมายถึงวิธีที่เจอของแต่คนว่าเริ่มจากความบังเอิญเช่น เพื่อนขอหาช่วยดูให้ หน่อย หรือไปเจอproductในห้าง หรือเจอด้วยความพยายามจากการว่าหาจากงบไปเรื่อยๆ อะไรแบบนี้ เผื่อจะได้ideaมากขึ้นเกี่ยวกับหุ้นโตเร็วครับ
โดย
melbourne
จันทร์ ก.ค. 16, 2012 7:08 am
0
0
Re: ขอถาม้รื่องbacklogครับ
ขอบคุณครับแล้วจากประสบกาณร์นี่ ข้อมูลจากแต่ล่ะแหล่งนี่แม่นขนาดไหนครับ กรณี บริษัทมีงาน Backlog ในมือ (เท่ากับว่ารับงานมาแล้วครับ) คาดว่าจะได้ (งาน Backlog อีก...เท่านั้นเท่านี้) คำว่าคาดว่าจะได้นี่ยังต้องไปประมูลสู้เพื่อเอางาน และยังไม่แน่ว่าจะได้งานหรือเปล่าครับ ข้อมูลแต่ละแห่ง เรื่องBacklogจะตรงกันทุกบริษัท(เพราะนักวิเคราะห์ได้เข้าพบผู้บริหารและนำมาวิเคราะห์) ส่วนการคาดแต่ละแห่ง เป้าหมายราคาจะไม่เท่ากัน เมื่อเราอ่านแล้วต้องมาคิดคำนวนเองเพื่อเปรียบเทียบบทวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ระดับไหนครับ เรื่องความแม่นยำนี่ของแต่ละโบรก ไม่กล้าเอ่ยถึง เพราะกรณีบริษัทนั้นรับงานต่างประเทศ จะมีตัวแปลงกำไรมากขึ้นหรือน้อยลง จะมีค่าเงินมาเกี่ยวข้องตามปริมาณครับ ขอบคุณครับ
โดย
melbourne
อาทิตย์ ก.ค. 01, 2012 5:51 pm
0
0
Re: บทกวีเก่าๆที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง
อีกทีนะครับ ทุกคนยินดีจ่าย500ครับ แต่คำถามคือจากกระทู้ การจัดตั้งสมาคมการลงทุน(เน้นคุณค่า)แห่งประเทศไทยและการรับสมัคร ในหัวข้อวัตถุประสงค์ของสมาคม เป็นหน่วยงานเพื่อสมาชิกในการพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล แนวคิดในแนวทางการลงทุนเน้นคุณค่า และเป็นหน่วยงานที่ทำประโยชน์ของสังคม สมาคมจะนำรายได้จากค่าสมาชิก รายได้จากกิจกรรมต่างๆเมื่อหักค่าใช้จ่ายไปใช้ในกิจกรรมเพื่อผู้ด้อยโอกาสเเละอื่นๆ มันขัดแย้งครับ เป็นหน่วยงานเพื่อสมาชิก!!!!!!!!! แล้วมีความคิดอย่างไรกับคนที่ไม่เป็นสมาชิกล่ะ หรือว่ายังไม่ได้คิดหรือคิดในใจ แล้วมุมมองสำหรับสังคมการลงทุนล่ะไม่เห็นมีบอก อย่าบอกนะครับว่าเรื่องอย่างนี้ไม่ต้องบอก เพราะเราดูบริษัทเราดูวิสัยทัศน์ด้วยครับ ถ้าคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องบอกในวิสัยทัศน์หรือไม่จำเป็นต้องแสดงออก ก็เหมือนเราละเลยสังคมการลงทุนครับ ผมอ่าน10รอบแล้วยังมองไม่เห็นวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนักลงทุนหน้าใหม่เลยครับ รู้สึกเหมือนประเทศเทศเราไม่ต้องการนักลงทุนหน้าใหม่หรืออย่างไร แน่นอนคำตอบคือ ไม่ใช่ แต่คุณแสดงออกอย่างไรครับเพราะแม้แต่ในวิสัยทัศน์ยังไม่มีเลยครับ หรือว่ามันไม่ได้อยู่ในวิสัยทัศน์ครับ(หรือคิดในใจ) ผมแค่อยากให้มีคนสนใจหรือใส่ใจบ้าง ในบรรยากาศแบบนี้ เหมือนจะละเลยคุณค่าบางอย่างไปเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลยจริงๆ ส่วนเรื่อง500ไม่500หรือยังไงนั้นเป็นเรื่องทางปฏิบัติ ผมคิดว่าผู้บริหารมีความสามารถอยู่แล้ว ผมแค่อยากเห็นอย่างน้อยในเชิงนโยบายเท่านั้นเอง ตัวผมเองจ่าย500อยู่แล้วแต่ผมเรียกร้องเพื่อคนรุ่นหลัง อีกครั้งอย่างน้อยในเชิงนโยบาย อยากเห็นหัวข้อสำหรับสังคมนักลงทุนหรือนักทุนหน้าใหม่ทุกปีเท่านั้นเอง
โดย
melbourne
อาทิตย์ ก.ค. 01, 2012 2:43 pm
0
3
Re: ขอถาม้รื่องbacklogครับ
ยกตัวอย่าง (ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อหรือเชียร์ให้ขาย) QLT รายงานกำไรงวด Q1/55 เท่ากับ 22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 29% YoY เป็น 97 ล้านบาท แต่บริษัท มีภาระต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้นจากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นตัวกดดัน ซึ่งทำให้แม้เรา จะคาดว่ารายได้ของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตตามภาวะการลงทุนที่ขยายตัวและมีโอกาสจากการ เกิด AEC ในปี 2558 แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าระยะสั้นจะถูกกดันจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของ ต้นทนแรงงานและความเปราะบางของภาวะเศรษฐกิจโลก เราจึงคงคำแนะนำเพียง ถือ กำไรงวด Q1/55 เพิ่มขึ้น YoY เล็กน้อย คาดทั้งปีกำไรทรงตัวจากปีก่อน QLT รายงานกำไรงวด Q1/55 เท่ากับ 22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปีก่อน แม้ว่าบริษัทมีรายได้จากการให้บริการ (NDT และ Inspection) เพิ่มขึ้นกว่า 29% YoY เป็น 97 ล้านบาท แต่บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลง YoY ราว 2% จาก 37% เป็น 35% ซึ่งเรา คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากภาระต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และจาก งาน Opportunity Day วานนี้ (6 มิ.ย.) ผู้บริหารเปิดเผยว่ายังคงตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2555 ไว้ที่ราว 5-10% YoY ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2555 โดย ณ สิ้นงวด Q1/55 บริษัทมีงาน Backlog ในมือคิดเป็นมูลค่าราว 260 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปี 55 ~200 ล้านบาท ทั้งนี้ เรายังคงคาดกำไรสุทธิปี 2555 ของ QLT เท่ากับ 90 ล้านบาท ทรงตัวจากปีที่แล้ว แม้เราจะคาด รายได้เพิ่มขึ้น 8% YoY แต่คาดว่าบริษัทจะถูกกดดันจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของต้นทุนแรงงาน เตรียมแผนรุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านรองรับการเกิด AEC ในอีก 3 ปีข้างหน้า ฯลฯ ข้อมูลตัดมาบางส่วนไม่สมบูรณ์ ผู้สนใจควรศึกษาเพิ่มเติม จากทางบริษัท http://www.kks.co.th/search_test.php ขอบคุณครับแล้วจากประสบกาณร์นี่ ข้อมูลจากแต่ล่ะแหล่งนี่แม่นขนาดไหนครับ
โดย
melbourne
อาทิตย์ ก.ค. 01, 2012 11:03 am
0
0
Re: opp day นี้ไม่ได้มีทุกบริษัทหรอครับ
อย่างนี้บริษัทจะได้อะไรในการนำข้อมูลมาเปิดเผยหรอครับ เพราะที่ผมดูบริษัทบางบริษัทก็เปิดเผยกลยุทธ์ในอนาคตแล้วแบบนี้ผลเสียไม่มากกว่าผลดีหรอครับ เพราะมาopp dayมันไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อกำไรของบริษัท ขอบคุณครับ
โดย
melbourne
เสาร์ มิ.ย. 23, 2012 5:01 am
0
0
ถามเรื่องการคิดมูลค่าหุ้น ของบริษัทที่ถึออยู่ในตลาดอ่ะครับ
จขกท. กำลังจะสอบใช่ป่าว อยู่ปีไรครับ
โดย
melbourne
เสาร์ ต.ค. 02, 2010 9:49 pm
0
0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
เอ่อ นี่ใช่ the reflexivityของโซโรอสรึป่าว เห็นreflexกันใหญ๋
โดย
melbourne
อังคาร ก.ย. 21, 2010 9:47 pm
0
0
ทำไมบริษัทหรือผู้บริหาร จึงต้องดูแลราคาหุ้น?
แล้วถ้าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ซึ่งไม่ได้มีผลได้ผลเสียจากราคาหุ้น ไม่คิดจะขายหุ้นอยู่แล้ว การเทคโอเวอก็จะไม่เกิด อย่างนี้จะมีกลไลอื่นไหมครับที่ช่วยรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
โดย
melbourne
เสาร์ ก.ย. 11, 2010 4:02 pm
0
0
ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย
อยากให้คิดกันได้ยังงี้ทุกคนเนอะ ก็ไมมีใครขายหุ้นก็ไม่ตก
โดย
melbourne
อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 9:47 pm
0
0
บทวิเคราะห์ของบริษัทใด แม่นที่สุด!!!!!
แล้วบทวิเคราะห์ของtrinityหาดูได้ที่ไหนหรอครับ แล้วถ้าไม่เป็นลูกค้าจะได้บทวิเคราะห์เหมือนลูกค้าได้ยังไง
โดย
melbourne
พฤหัสฯ. ส.ค. 19, 2010 9:55 pm
0
0
จุดประสงค์ที่แท้จริงของ"ตลาดหลักทรัพย์"
ถ้าผมเข้าไปซื้อหุ้นตอนนี้ หุ้นที่ผมไปซื้อจะได้เลินจากผมไปรือเปล่าครับ
โดย
melbourne
พฤหัสฯ. ส.ค. 12, 2010 5:25 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
melbourne
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อาทิตย์ พ.ค. 16, 2010 3:28 pm
ใช้งานล่าสุด:
พุธ ก.พ. 05, 2020 1:51 pm
โพสต์ทั้งหมด:
75 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว