หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
SAFARI
Joined: พฤหัสฯ. เม.ย. 07, 2005 2:54 pm
158
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - SAFARI
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
มีบริษัท ใน set ที่ผลิต + ขาย ปุ๋ย ไหมครับ
หาบทวิแคะของTCCCไม่ได้เลยอ่ะครับ เพื่อนๆพี่ๆท่านใดมี ช่วยแปะให้อ่านหน่อยได้มั้ยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย
SAFARI
พุธ เม.ย. 23, 2008 4:20 pm
0
0
ร.พ. ไหนน่าลงทุนสุด
ทำหุ้นรพ.เอเชียอาคเนย์ทะยานหลังท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เฟื่องฟู โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 มิถุนายน 2550 20:48 น. นักวิเคราะห์มองการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์กระตุ้นให้หุ้นของโรงพยาบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถีบตัวสูงขึ้นเพราะนักลงทุนเล็งเห็นอนาคตอันสดใสของธุรกิจนี้ มูลค่าของภาคธุรกิจดังกล่าวในภูมิภาคนี้สูงกว่าในอเมริกาเหนือถึง 40% ขณะที่รัฐบาลก็เน้นพัฒนาการท่องเที่ยวดังกล่าวหวังดึงดูดคนไข้เงินหนานำรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำ อูมูห์ มุชตาร์ ต้องทนทรมานหลังจากเข้ารับการผ่าตัดอย่างลวกๆในอินโดนีเซีย แต่ก็ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ไม่กี่วันหลังจากนั้น แพทย์ที่สิงคโปร์ก็เอาก้อนนิ่วออกจากไตของมุชตาร์ได้ มุชตาร์เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จำนวน 1,300,000 คน ที่ในแต่ละปีได้เดินทางจากทั้งเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ มายังสิงคโปร์ ประเทศไทย และมาเลเซีย เพื่อรับการรักษา เนื่องจากไม่มั่นใจคุณภาพของโรงพยาบาลในประเทศตนหรือไม่ก็มองว่าค่าใช้จ่ายแพงเกินไป การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในเอเชีย และคาดว่าจะเติบโตจากปัจจุบันที่มีมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 4,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี2012 แต่สำหรับนักลงทุนแล้ว หุ้นในกิจการภาคบริการรักษาพยาบาลดูจะเป็นภาคธุรกิจที่แพงมากแล้ว โดยภาคธุรกิจนี้ในเอเชียมีมูลค่าสูงกว่าในอเมริกาเหนือและยุโรปราว 40% ในปีนี้ หุ้นของบริษัทโรงพยาบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังเช่น ราฟเฟิลส์ เมดิคัล ในสิงคโปร์ และบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ได้พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เศรษฐกิจในภูมิภาคก็เฟื่องฟู อีกทั้งรัฐบาลก็เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่กำลังเติบโต
โดย
SAFARI
พุธ มิ.ย. 20, 2007 10:17 pm
0
0
เอาแล้วไงประกาศยกเว้นการหัก 30 % ถ้าลงทุนในตลาดหุ้น
หม่อมรวยเละครับ ชักเข้าชักออกขนาดนี้ ประเทศไทยจะเป็นไงเนี่ย
โดย
SAFARI
อังคาร ธ.ค. 19, 2006 8:10 pm
0
0
หม่อม อุ๋ย จะแถลงว่าจะแก้ไขยังไง วันนี้ เวลา 18.00 คับ
เหมือนเรื่องหวยแหละครับ คิดกันเอาเอง แก้ไขหรือแก้ตัวครับ :evil: :evil:
โดย
SAFARI
อังคาร ธ.ค. 19, 2006 6:19 pm
0
0
ตอนนีสถานะการณ์เรือตุ้ ในมุมมองของคนที่ทำงานในสายเรือครับ
ข้อมูลแบบนี้หายากครับ เป็นประโยชน์แก่นักลงทุนทุกท่านครับ
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ย. 21, 2006 3:03 pm
0
0
AHC : โรงพยาบาลเอกชล น่าลงทุนมั้ยครับ ??
ขอบคุณ คุณnaris ครับ :D
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ย. 14, 2006 9:01 am
0
0
AHC : โรงพยาบาลเอกชล น่าลงทุนมั้ยครับ ??
เอ แล้วเค้าลงบัญชีเป็นต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย ในปีหน้าทั้งหมดเลยหรือเปล่าครับ รบกวนด้วยครับ
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ย. 14, 2006 8:34 am
0
0
หุ้นอสังหา ในความเห็นคุณInvisible Hand
เห็นว่าช่วงที่น้ำมันลด ดอกเบี้ยลด น่าจะเป็นSentiment ที่ดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์พอสมควร อย่างที่คุณIHว่าไว้ เลยไปลองหาดูว่าพอมีตัวไหนเข้าเกณฑ์ที่คุณIHบอก ผมว่าน้อง ป. เนี่ยน่าจะมาวินนะครับ เพื่อนๆเจอตัวอื่นหรือเปล่าครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2006 9:56 am
0
0
หุ้นอสังหา ในความเห็นคุณInvisible Hand
4 ควรจะพิจารณาแนวโน้มของ market share ของบริษัทนั้นๆ ด้วยครับ บริษัทที่มี market share ต่ำ แต่แนวโน้มมี market share เพิ่มขึ้น จะน่าสนใจกว่าบริษัทที่มี market share สูงแต่แนวโน้มคงที่หรือลดลงครับ เพราะบริษัทที่มี market share คงที่จะต้องโตตามภาวะตลาดเท่านั้น แต่บริษัทที่มี market share เพิ่มขึ้นจะสามารถโตได้มากกว่าตลาดในกรณีตลาดดี และโตได้ระดับหนึ่งช่วงตลาดไม่ดี ดังนั้นคงจะต้องติดตามกิจกรรมทางการตลาดของแต่ละบริษัทด้วยครับว่าช่วงนี้แต่ละ brand เป็นขาขึ้นหรือขาลง 5 ควรจะหาโอกาสเยี่ยมชมโครงการเพื่อพิจารณาคุณภาพของสินค้าด้วยครับ หลายบริษัทอาจจะมีโฆษณาที่ดี ทำเลที่ตั้งโครงการดี แต่คุณภาพบ้านอาจจะไม่ดี เช่น วัสดุไม่ดี งานก่อสร้างแย่ หรือการออกแบบไม่ practical เช่น ดูสวยแต่อยู่จริงไม่ไหว โครงการเหล่านี้อาจจะขายดีในช่วงสั้นๆ แต่ในระยะยาวๆ บริษัทเหล่านี้จะมีความนิยมของ brand ที่ลดลงครับ ดังนั้นหากเราจะลงทุนในบริษัทไหนเราควรหาโอกาสไปเยี่ยมโครงการโดยทำทีที่จะซื้อบ้านในโครงการนั้นๆ ซึ่งเราจะมีโอกาสที่จะได้ชมคุณภาพของบ้าน และคุณภาพพนักงานขายด้วยครับ บางบริษัทบ้านน่าอยู่ สร้างดี แต่พนักงานหน้าไม่รับแขกทำเหมือนบริษัทเค้ากำลังแจกบ้านฟรีอยู่ก็มีครับ หากเป็นบริษัทที่น่าสนใจในการลงทุนบริษัทนั้นๆ ควรจะมีบ้านที่เราเห็นแล้วก็รู้สึกอยากซื้อ อยากอยู่เอง และรู้สึกว่าอยู่ได้จริงๆ เพราะหากเราดูแล้วรู้สึกว่าบ้านคุณภาพไม่ดีเราเองยังไม่อยากซื้อก็ต้องกลับมาคิดอีกทีครับว่าบริษัทนั้นๆ น่าสนใจจริงหรือไม่ แต่ก็คงต้องใช้วิจารณญาณด้วยครับ เช่น บางคนไปดูโครงการที่ขาย 8 แสนบาทแล้วติโน่นตินี่ รู้สึกว่าคุณภาพไม่ดี ทำไมไม่มีอ่างอาบน้ำ ชั้นบนทำไมไม่เป็นไม้ปาร์เก้ ( ยกตัวอย่างให้เวอร์ๆ หน่อยครับ ) บางทีอาจจะต้องเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างราคากับสิ่งที่ได้รับด้วยครับ ดังนั้นการไปดูหลายๆ โครงการทั้งโครงการที่เราสนใจและคู่แข่งในราคาและทำเลใกล้ๆ กัน ก็ช่วยได้มากครับ ไม่ต้องกลัวครับว่าเค้าจะคิดว่าเราไม่ได้ไปซื้อบ้านจริงๆ เพราะบางทีคนที่คิดซื้อบ้านจริงๆ กับคนดูเพื่อสำรวจตลาด คำถามไม่เหมือนกันพนักงานขายก็พอดูออกครับ แต่พนักงานขายของบริษัทที่ดีจะถูก train มาให้ต้อนรับและดูแลลูกค้าเท่าเทียมกันหมดไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่มาซื้อจริงๆ กับลูกค้าที่มีสำรวจตลาด เพราะพนักงานขายอาจจะตัดสินใจด้วยสายตาไม่ได้ถูกทุกครั้งก็ได้ หลายครั้งลูกค้าที่พนักงานขายรู้สึกว่ามาดูจริงๆ อาจจะมาสำรวจก็ได้ แต่ลูกค้าที่พนักงานขายรู้สึกว่ามาสำรวจอาจจะเป็นลูกค้าจริงๆ ก็ได้ หรือลูกค้าที่พนักงานขายรู้สึกว่าไม่น่ามีเงินมาซื้อบ้านโครงการนี้ ( เช่น แต่งตัวธรรมดา ) อาจจะมีเป็นเศรษฐีประเภทผ้าขี้ริ้วห่อทองก็ได้ ดังนั้นบริษัทที่ดีควรจะสอนให้พนักงานขายไม่ตั้งศาลเตี้ยตัดสินลูกค้าด้วยตัวเองครับ 6 ดู p/e ด้วย ผมคิดว่าหากเป็นหุ้นอสังหาฯ ที่มี market share เพิ่มไม่มากแล้ว ก็ไม่ควรมี p/e สูงเกิน 12 เท่า ( บวกลบ ) เพราะว่าอสังหาฯ เป็นธุรกิจที่ยอดขายแต่ละปีเริ่มจาก 0 ตอนต้นปี กำไรปีนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับกำไรปีหน้าหรือปีต่อๆ ไป ดังนั้นหากช่วงที่ p/e สูงมากๆ เช่น 15 เท่า 20 เท่า แล้วเราไปซื้อหุ้นช่วงนั้นก็เท่ากับว่าเราสมมุติว่าหุ้นตัวนั้นต้องทำกำไรแบบเดิมให้ได้อีก 15 ปีเราจะคืนทุน ซึ่งเป็นไปได้ยากเครับเพราะธุรกิจอสังหาฯ มีช่วงที่ดีและแย่สลับกัน การทำกำไรแบบเดิมทุกปีคงทำได้ยาก ช่วงที่เราควรซื้อหุ้นอสังหาฯ ที่ p/e สูงๆ ได้จะต้องเป็นช่วงที่เริ่มฟื้นตัวจากความตกต่ำสุดๆ แล้วจริงๆ เช่น หุ้น LH ตอนปี 2545 ราคาตอนนั้น 2-3 บาท มี p/e สูง แต่ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด และมี market share เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเป็นเจ้าแรกที่สร้างบ้านก่อนขาย ทำให้เมื่อมองย้อนกลับจะเห็นว่าราคาตรงนั้นน่าซื้อแม้ p/e จะสูงก็ตามครับ ลองกรองหุ้นอสังหาฯ ตามตะแกรงดังกล่าวดูนะครับ คิดว่าน่าจะพอมีหุ้นที่น่าสนใจในราคาปัจจุบันอยู่บ้างเหมือนกันครับ
โดย
SAFARI
พุธ ต.ค. 18, 2006 12:20 pm
0
0
งบtnh ออกช้าจังคับ
ลองประมาณกำไรกันคร่าวๆนะครับ 2549 กำไร 53.74 ล้าน กำไรต่อหุ้น 0.30 2550 กำไรโตจาก2ส่วน คือ ภาษีที่ลดลงจาก30% เป็น 20%เท่ากับกำไรจะโตประมาณ 15% ส่วนที่สองคือ growthของตัวโรงพยาบาล ถ้าซัก20-30% อย่างที่ลุงขวดว่าไว้ 20% growth ดังนั้นกำไรก็น่าจะ=53.74*1.15*1.2=74.16ล้าน EPS=0.412 Price 4.1 PE=9.95 PE กลุ่มโรงพยาบาล แล้วแต่ใครจะให้นะครับ สำหรับผมประมาณ15เท่า Target Price ของปีหน้าก็น่าจะประมาณ 6บาท ในภาวะอย่างนี้โรงพยาบาลก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย และให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจอย่างที่เราเห็นจากโรงพยาบาลตัวอื่นๆนะครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 3:23 pm
0
0
งบtnh ออกช้าจังคับ
บทสัมภาษณ์ลองอ่านกันดูครับ นายแพทย์เจริญ มีนสุข กรรมการผู้อำนวยการแพทย์ บริษัทไทยนครินทร์ จำกัด ( มหาชน ) TNH อาชีพหมอเป็นอาชีพที่ไม่ว่าใคร ต่างก็ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆเหมือนกันว่าอยากจะเป็นหมอ เหตุผลข้อแรกเลยทำให้คนหายจากอาการเจ็บป่วย เวลาที่เรารักษาคนให้หาย สิ่งแรกที่ผู้เป็นหมอได้รับก็คือ ความอิ่มเอมปิติในหัวใจ แถมยังได้บุญด้วย ( อันนี้ผลพลอยได้นะ ) เข้าเรื่องดีกว่าวันนี้คอลัมน์ Management's Lifestyle เรามีคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ และชำนาญในด้านการรักษาคนไข้มานับไม่ถ้วน ขอเชิญทุกท่านรู้จักกับนายแพทย์เจริญ มีนสุข กรรมการผู้อำนวยการแพทย์ บริษัทไทยนครินทร์ จำกัด ( มหาชน ) หรือ TNH ไปพร้อมๆกันก่อนค่ะ รู้จักกับนายแพทย์เจริญกันก่อน นพ.เจริญเรียนจบคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็ไปเป็นคุณหมออยู่โรงพยาบาลของจ.นครราชสีมาได้ 1 ปี หลังจากนั้นก็ไปบินลัดฟ้าไปหาความรู้เพิ่มเติมต่อที่เมืองนอก โดยไปเรียน Diploma Tropical Medicine and Hygiene ,University Liverpool , UK และ Diploma America Board of Internal Medicine และมาต่อที่ Diploma America Board of Gastroenterology รวมแล้วใช้ชีวิตในการเรียนที่เมืองนอก 8 ปี และหลังจากนั้นก็กลับมาที่เมืองไทย มาเป็นหมอที่รพ.เปาโล และเปิดคลินิคส่วนตัวควบคู่ไปด้วย ด้วยจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะ ผมและเพื่อนได้คุยกันว่า เราน่าจะตั้งโรงพยาบาลของตัวเองซัก 1 แห่ง และด้วยความที่ เรามีความรู้ในเรื่องของการรักษา ทางด้านอายุรกรรมและทางเดินอาหารอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนก็มีความรู้ในเรื่องของการบริการ เนื่องจากว่าเค้าเรียนมาทางด้านของโรงแรม และโรงพยาบาลที่เราก่อตั้งขึ้นมาก็อยู่ในสังกัดของเอกชน ถ้าเราทำแล้วดี มันก็น่าจะเป็นเอกชนที่ดี ก็เลยถือเอาฤกษ์งามยามดีก่อตั้งโรงพยาบาลไทยนครินทร์ขึ้นมาจนเป็นโรงพยาบาลเอกชนอันดับต้นๆจนถึงทุกวันนี้ การเป็นหมอในภาครัฐบาล กับภาคเอกชน จริงๆการรักษาก็คงจะคล้ายๆกัน แต่แตกต่างกันที่ความสะดวกในการบริการ ถ้ามารักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว แต่ถ้าไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐบาลมันอาจต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานหน่อย เนื่องจากว่าโรงพยาบาลรัฐบาลคนไข้เยอะมาก มันก็ต้องรอคิวในการพอหมอ กว่าจะได้กลับบ้านก็นาน เราอยู่ได้เพราะการรักษาพยาบาลที่เน้นให้ความสะดวกรวดเร็วกว่ารัฐบาล อย่างสมัยก่อนไม่มีนะโรงพยาบาลเอกชน กว่าจะได้พบหมอต้องใช้เวลาในการรอตั้ง 3 วัน เพราะต้องไปรอรับบัตรคิว ด้วยเหตุนี้มันถึงทำให้โรงพยาบาลเอกชนโตขึ้น จรรยาบรรณในอาชีพหมอ ผมว่าทุกอาชีพเหมือนกันหมด จริยธรรมต้องบวกกับคุณธรรม ถึงจะออกมาเป็นจรรยาบรรณ ยกตัวอย่างเช่น การเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลที่แพงเกินกว่าความเป็นจริงก็ถือว่าผิดจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพแล้ว ตลอดเวลาที่รักษาคนไข้มานั้น เราในฐานะที่เป็นหมอ หน้าที่ของเราคือ การรักษาคนไข้ หลักของการเป็นหมอก็คือ จะทำอย่างไรก็ได้ที่จะทำให้คนไข้รอด มันก็หนักใจทุกรายนะ แต่มันคือหน้าที่ เราต้องทำให้เต็มที่ที่สุด ถ้ารู้ว่าคนไข้ไม่ไหว .. พอเราเรียนจบมา มันก็ต้องมีการรักษาคนไข้แบบจริงๆ ก็ตื่นเต้น แต่ก็รู้สึกว่าสนุกดี เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย คิดแค่เพียงว่าจะรักษาอย่างไรให้เค้าหายเท่านั้นพอ ถ้าเค้าหายจากอาหารที่เป็น แล้วเค้าเดินออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เค้าแค่พูดคำว่าขอบคุณ แค่นี้มันก็ทำให้เรามีความสุขได้แล้ว แต่มันก็มีบางรายที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยใจ บางทีเรารู้อยู่แล้วว่าคนไข้ไม่ไหวแล้ว เราก็ต้องบอกกับทางญาติคนไข้ตามตรง เค้าตามตรง ถ้าเค้าจะไปเราก็ไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้ ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน แต่เราก็ถือว่าทำหน้าที่ของการเป็นหมอได้สมบูรณ์แบบแล้ว หลักการบริหารงาน หลักการบริหารงานของผู้บริหารหลายคนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมใดก็ตาม เฉกเช่นเดียวกับนายแพทย์เจริญ ที่ก็มีหลักในการบริหารงานเป็นของตัวเอง ซึ่งคุณหมอเปิดเผยว่า " ในการบริหารงานทั่วไปมันต้องใช้ ไหวพริบในการบริหาร แต่ในหลักของการพยาบาลมันไม่เหมือนกับอุตสาหกรรมอย่างอื่น มันเป็นเรื่องของวิชาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ที่ไทยนครินทร์เรามีหมออยู่ประมาณ 200 ท่านทั้งแบบที่เป็น Full time และ Part time ส่วนพยาบาลก็มีรองรับคนไข้พอสมควรประมาณ 300 คน ส่วนที่เหลือก็จะเป็นพนักงานออฟฟิศต่างๆ หมอและพยาบาลนับว่าเป็นกลไกสำคัญอย่างมากของโรงพยาบาล เพราะว่ามันเป็นของคู่กัน ไม่สามารถขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ นิยามในการบริหารงานของผมคือ เมตตา ซื่อสัตย์ ยุติธรรม ต่อทั้งผู้ถือหุ้น หมอ พยาบาล พนักงานทั้งหมด หลักการนี้สามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง ทุกคนที่เข้ามาเรา เราก็มีความเมตตากับเค้าทุกคน ที่สำคัญเราต้องมีความหวังดี และซื่อสัตย์ ยุติธรรมต่อเค้าด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ไหนไม่มีความยุติธรรมที่นั่นอยู่ไม่ได้ " หลักที่ใช้ในการดำรงชีวิต คนเราขอให้คิดอยู่อย่างเดียวว่า ทุกคนเกิดมาก็ต้องเจอปัญหา แต่ถ้าเราเครียดกับปัญหา ก็จะไม่มีทางหาความสุขในชีวิตได้ แต่จริงๆแล้วธรรมชาติในโลกนี้ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ถ้าไม่มีทางออกก็ไม่ได้เรียกว่าปัญหา ถ้าเจอปัญหาเราต้องอย่าไปเครียด หาทางออกให้ได้ มันจะทำให้เราเครียดน้อยลง การดูแลสุขภาพของตัวเอง หลายคนคงเข้าใจว่าคนที่เป็นหมอ สุขภาพก็คงจะดีกว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ประกอบอาชีพหมออยู่แล้ว แต่ทุกคนคิดผิด เนื่องจากว่า อาชีพหมอนั้นไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว อย่างคนไข้มีผ่าตัดด่วนตอนตี 3 เราก็ต้องมา มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากว่ามันคือความเป็นความตาย หมอเลยมีสุขภาพที่แย่ที่สุด เพราะเราไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลตัวเอง กินข้าวก็ไม่เป็นเวลา พักผ่อนก็ไม่เพียงพอ ฟังดูเหมือนว่าอาจจะหาข้อดีจากอาชีพหมอไม่ได้เลย แต่ผมกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น ทุกครั้งที่ช่วยให้คนไข้หายจากโรคอะไรก็แล้วแต่ เราจะเกิดความปิติในหัวใจ ความเหนื่อยที่เกิดขึ้นก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ว่าตอนนี้พออายุเพิ่มมากขึ้น เราต้องเริ่มหันมาดูแลสุขภาพตัวเองให้มากกว่านี้แล้ว เพราะอายุมากแน่นอนตามกฎธรรมชาติ มันก็เสื่อมไปตามกาลเวลา ร่างกายมันก็ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม เราเองต้องเจียดเวลามาดูแลร่างกายของเราบ้างก่อนที่มันจะเสื่อมโทรมไปมากกว่านี้ ผมจะยึดหลัก 4 อ คือ 1. อาหาร ต้องทานข้าวให้เป็นเวลา และต้องทานให้ครบ 5 หมู่ และไม่ทานให้อิ่มมากจนเกินไป 2. อากาศ ต้องหาเวลาไปฟอกปอดบ้าง เพราะอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในกรุงเทพมลพิษมากมาย มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ถ้ามีเวลาว่าง ก็ควรจะไปต่างจังหวัด เพื่อไปฟอกปอดบ้าง มันก็จะทำให้ก็สุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม 3. การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทุกวันนี้ผมก็หาเวลาไปออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 วัน ไม่ว่าจะเป็นจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ แต่สำหรับคนที่มีอายุมาก กีฬาว่ายน้ำเป็นสิ่งที่เหมาะที่สุด แต่สำหรับกอล์ฟนี่ไม่แตะเลย เนื่องจากว่าเป็นคนแพ้แดด แล้วกอล์ฟเป็นกีฬากลางแจ้ง ก็เลยไม่มีโอกาสได้เล่น ส่วนอ.สุดท้ายก็คือ อารมณ์ ทำอย่างไรไม่ให้เครียดเท่านั้นพอ แล้วเราจะแข็งแรงเองทั้งภายใน และภายนอก ถ้าคนไทยทุกคนยึดหลัก 4อ. ได้ คุณภาพชีวิตของคนไทยก็จะเพิ่มขึ้น ไม่ต้องมีใครเจ็บใครป่วย มันก็จะส่งผลต่อประเทศชาติบ้านเมืองคือ เมืองไทยก็พัฒนามากขึ้น และรัฐบาลก็ไม่ต้องมาจ่ายเงินให้คนป่วย บริการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือบริการประกันสังคม อาจไม่มีคนเข้าไปใช้บริการเลยก็ได้ กับครอบครัวที่ต้องดูแลและประคบประหงมเป็นอย่างดี อาชีพหมอเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยมีเวลา หมอเหมือนกรรมกรที่ทำด้วยมือ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่มีเงินเก็บ เราผ่าตัดคนไข้แต่ละรายก็จะได้ค่าผ่าตัดตรวจคนไข้ 300-500 บาท เพราะฉะนั้นที่คนทั่วไปว่ากันว่า คนที่เป็นหมอแล้วจะรวย ความจริงแล้วไม่ใช่เลย สมัยก่อนน่ะใช่ แต่สมัยนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะสมัยก่อนค่าแรงของหมอจะเป็นเงินเดือน แต่สมัยนี้ถ้าไม่ได้รักษาคนไข้ก็ไม่ได้เงิน และพอถึงเวลาที่เราต้องเกษียณอายุไป ในส่วนของบำเหน็จบำนาญก็ไม่มีให้ ซึ่งต่างกับราชการที่เค้ามี แต่ผมก็ไม่ห่วงครอบครัวแล้ว เนื่องจากว่าลูกๆเค้าก็โต เรียนจบกันหมดแล้ว เค้ามีทางเดินเป็นของตัวเอง เราในฐานะเป็นพ่อ-แม่ ก็แค่แนะนำ และให้คำปรึกษาแก่เค้าเท่านั้นเอง แต่มันก็จะมีบ้างที่วันเสาร์-อาทิตย์ก็จะนัดทานข้างกันพร้อมหน้าพร้อมตา การตอบแทนสังคม โรงพยาบาลไทยนครินทร์เป็นโรงพยาบาลเอกชน หลายๆคนบอกว่าค่ารักษาพยาบาลแพง แต่จริงๆแล้วเราไม่ได้คิดราคาแพงขนาดนั้น ถ้าจะดูที่กำไร เราไม่เยอะเลย แต่ที่ต้องคิดราคาค่อนข้างสูงกว่ารัฐบาล เนื่องจากว่าต้นทุนมันไม่เท่ากัน ผมจะเล่าให้ฟังว่า มีคนไข้คนหนึ่งเค้ารักษาตัวอยู่ที่รพ.เปาโล เค้าประสบอุบัติเหตุรถชน คนแถวนั้นก็ใจบุญพาเค้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอก็ตรวจอาการแล้วพบว่าเลือดคั่งในสมอง เราก็ทำการผ่าตัดสมองให้ และให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ปัญหาที่รพ.เจอก็คือ 1) ไม่สามารถเก็บค่ารักษาพยาบาลได้ เนื่องจากคนไข้ไม่มีญาติพี่น้อง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ายา ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์ ทางรพ.ก็ต้องรับผิดชอบ แต่เราก็สืบไปสืบมาก็ได้ความว่า คนไข้คนนี้มีญาติพี่น้องอยู่ที่จ.อุดรธานี เราก็เลยตัดสินใจเอาคนไข้ไปส่งให้ที่ญาติเค้า สิ่งที่เราทำไปทั้งหมดมันเรียกว่า การตอบแทนสังคมด้วยหรือเปล่า เพราะเราก็ไม่สามารถเก็บค่ารักษาพยาบาลกับคนไข้คนนี้ได้ แต่เราก็ต้องช่วยให้เค้ามีชีวิตรอด เนื่องจากว่ามันเป็นหน้าที่ของหมอ คือไม่ว่าคนไข้จะรวย หรือว่าจนมา เราก็ต้องช่วยเหลือเค้าให้เท่าเทียมกัน นอกจากนี้เรายังมีการทำบุญทอดกฐินตามวัดต่างๆด้วย ที่เราเน้นไปในเรื่องของศาสนาก็เพราะว่า ผมเชื่อว่าศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี และเราก็ยังมีการไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาพยาบาลให้คนรายได้น้อย , จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ นั่นก็เป็นการตอบแทนสังคมอีกทางหนึ่งด้วยเหมือนกัน ผมคิดว่าการตอบแทนสังคมมันทำได้หลายทางครับ คลินิคแพทย์แผนจีน ... บริการใหม่ของ TNH เรามีหมอแพทย์แผนจีนที่มีความเชี่ยวชาญ และชำนาญอยู่และมีผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นหมอที่มาจากประเทศจีนเลย การรักษาของแพทย์แผนจีนเค้าจะมีการปรับสมดุลของร่างกาย แล้วมันจะค่อยๆรักษาโรคที่มีอยู่ให้หายไปเอง แต่บางคนก็บอกว่ามันหายช้า กว่าการรักษาแผนปัจจุบันซึ่งมันจะหายเร็วกว่า แต่ก็อยากให้คนไทยหันมาลองรักษาโรคด้วยการแพทย์แผนจีนกันดู แต่ก็มีคนไข้ที่เวลามารักษาแล้ว จะเรียกหาแพทย์แผนจีนมากกว่าการรักษาแผนปัจจุบัน เนื่องจากเค้าไม่อยากให้ร่างกายเค้าได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายเยอะ จุดเด่นที่แข็งแรง โรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง จะมีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ในเรื่องของการบริการที่ดี การรักษาทุกแห่งก็เหมือนกันหมด เพราะหมอที่รับเข้ามารักษา ต้องเป็นหมอที่มีความเชี่ยวชาญ จุดเด่นของเราก็เหมือนที่อื่นคือ บริการที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และจุดเด่นของเราอีกด้านหนึ่งก็คือ การบริหารภายในต้องดี หมอ พยาบาล อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องมือต้องให้ครบ และทางโรงพยาบาลก็ต้องมีสถานที่ตั้งที่ดี กับไทยนครินทร์ตอนนี้ก็ถือว่าเราก็มีความพร้อมอยู่พอสมควร เรามีความก้าวหน้ามาโดยตลอด เพราะดูจากคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆประมาณ 700-800 คนต่อวัน ก็ถือว่ามีการเติบโตที่ดีทีเดียว เป็นห่วงสุขภาพของคนไทย ส่วนใหญ่สมัยก่อนคนไทยจะเป็นโรคติดเชื้อกันมาก แต่สมัยนี้เป็นโรคเสื่อมมากขึ้นแล้ว เนื่องจากร่างกายใช้ส่วนต่างๆมากขึ้น เช่น โรคไขข้อ มันจะเกิดขึ้นเวลาที่เราเดิน และโรคเสื่อมเส้นหัวใจก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพราะหัวใจของคนเราต้องใช้งานตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว เพราะฉะนั้นหัวใจจึงรับหน้าที่ในการทำงาหนักมาก เมื่อหัวใจทำงานหนักขึ้น เส้นเลือดหัวใจก็ต้องเสื่อม เราก็เลยตั้งศูนย์โรคหัวใจขึ้นมาเพื่อที่จะรองรับโรคต่างๆ ฝากถึงผู้ถือหุ้น โรงพยาบาลจัดได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ถือว่าบริหารงานได้ยากมาก เนื่องจากเราขายการบริการ เพราะฉะนั้นคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการกับเราส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลูกค้าที่เจ็บไข้ได้ป่วยทั้งนั้น เราเองต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากร เครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ เพราะฉะนั้นจะเป็นการบริหารที่ยุ่งยากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ถ้าเรามีการบริหารจัดการภายในที่ดีและมีสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลที่ดี ผมคิดว่าจะเกิดความเสี่ยงน้อย เมื่อมากเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ แต่เราโชคดีที่เรามีสถานที่ตั้งที่ดี และเราก็คิดว่าเราจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 9:50 am
0
0
ตกลง เป๊ปซี่ ดีที่สุดจริงหรือเปล่าครับ ... SSC .......Q1/49
ผมว่าพ่อค้าจะปรับราคาทั้งทีคงไม่ยอมให้กำไรน้อยกว่าเดิมแน่ครับ เพราะปรับแต่ละทีทั้งลำบากและใช้เวลาถึง8ปี ปรับบาทนึงน่าจะเผื่อเงินเฟ้อไปหลายปีเหมือนกันน่ะครับ :twisted: :evil: พี่ปรัชญาพูดน่าคิดเหมือนกันน่ะนี่ :shock:
โดย
SAFARI
จันทร์ พ.ค. 15, 2006 10:08 pm
0
0
หุ้นที่ฝากความหวังไว้กับ Property Fund ผมว่าน่าเป็นห่วงนะ
อย่างที่คุณhansomeว่าไว้แหละครับว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์แบบ Free Hold ค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหม่ของนักลงทุนไทย แต่สำหรับต่างชาติแล้วถือว่ามีกันมานานแล้ว และด้วยผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมากขึ้นเรื่อยๆในระยะยาว เป็นเหตุผลหนึ่งของการเลือกลงทุนใน Property Fund ครับ เพราะนักลงทุนต่างชาติเองก็เป็นห่วงเรื่อง Reinvestment cost เช่นกันครับ หากต้องเปลี่ยนประเภทการลงทุนไปไปมามา ผมว่าปัญหาของไทคอนตอนนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ว่า จะสามารถสร้างโรงงานให้เช่าได้มากเพียงพอเพื่อที่จะรองรับความต้องการในอนาคตมากกว่าครับครับ :twisted: :twisted:
โดย
SAFARI
อาทิตย์ พ.ค. 14, 2006 12:34 pm
0
0
หุ้นที่ฝากความหวังไว้กับ Property Fund ผมว่าน่าเป็นห่วงนะ
เท่าที่ทราบมาProperty Fund ที่ขายหมดกองที่ผ่านมาเกิดจากการออกRoad show ของไทคอน และมีกองทุนต่างชาติสนใจเป็นจำนวนพอสมควร จึงขายหมดรอบนี้ครับ ส่วนผู้ถือหุ้นเดิมก็มีการซื้อเพิ่มบ้างแต่เป็นสัดส่วนไม่มากครับ ในส่วนของ margin จากการขายโรงงานครั้งล่าสุดก็ได้ผลกำไรที่ดีขึ้นอยู่ที่ประมาณ 50% ซึ่งดีกว่าครั้งก่อน ผมว่าถ้าไทคอนทำได้แบบนี้ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยก็ขึ้นมาตลอดก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรน่ะครับ นอกจากนี้ไทคอนยังปรับราคาค่าเช่าขึ้นตามภาวะเงินเฟ้ออีกด้วย โดยรวมแล้วจึงไม่น่าที่จะกระทบกับออกProperty Fund ในอนาคตครับ
โดย
SAFARI
อาทิตย์ พ.ค. 14, 2006 12:31 am
0
0
หุ้นที่ฝากความหวังไว้กับ Property Fund ผมว่าน่าเป็นห่วงนะ
หยั่งงี้น่าจะเป็นผลดีกับ TFUND มากขึ้นเพราะนักลงทุนเริ่มเข้าใจความแตกต่างของ Property Fund ที่ออกมา สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน Property Fund
โดย
SAFARI
เสาร์ พ.ค. 13, 2006 6:38 pm
0
0
คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??
ไอที ขายสินค้าเงินสด ลูกค้าต้องเอาเงินมาซื้อของที่ร้าน ดังนั้นลูกค้าจึงน่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไป หรือพนักงานบริษัทที่ เจ้านายให้มาหาซื้อของเกี่ยวกับไอที เพราะต้องการบิลVAT ไปเบิกบริษัทได้ ผมว่าเรื่อง same store sale คงจะมีการเติบโตที่ดี เพราะปีที่แล้วเปิดสองสาขา โดยที่สาขาพารากอนยังไม่คุ้มทุน ก็ยังสามารถทำกำไรของไตรมาสแรกโตได้ขนาดนี้ ผมว่าเรื่องการจัดการสินค้าและสต๊อกทำได้ดีทีเดียวครับ
โดย
SAFARI
ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 10:49 pm
0
0
กินชาเขียวไปแล้วจะหน้าเขียวมั้ยครับ Q1/49 ..Oishi
คุณนริศครับ ราคาขายของเป๊ปซี่ที่ขายส่งให้ร้านค้าอย่างขวดที่ขายปลีกอยู่7บาท เป็นราคาเท่าไหร่ครับ พอจะบอกได้มั้ยครับ
โดย
SAFARI
ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 6:44 pm
0
0
..นวนคร ... วิ่งมาตั้งไกล ... วิ่งเพราะอะไร??...NNCL Q1/49
กำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อยในช่วงไตรมาส 1/2549 ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2548 จำนวน 36.44 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 40.59 สาเหตุสำคัญเนื่องจากรายได้ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้เช่าลดลงร้อยละ 63.43 จากการที่บริษัท ขายโรงงาน 1 โรงงาน ที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่เป็นสิทธิการเช่า เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2548 ซึ่งเป็นการโอนขายโรงงาน 1 โรงงาน พร้อมที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท นอกจากนั้นการที่บริษัทมีการขยายธุรกิจและการลงทุนอย่างรวดเร็ว ในระหว่างปี 2548 ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมทั้งค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี รายได้ค่าเช่ารับและค่าบริการ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.37 จากไตรมาส 4/2548 หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.06 จากไตรมาส 1/2548 (ภายหลังการขายโรงงานจำนวน 39 โรงงาน ให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนในไตรมาส 2/2548) บริษัทขอเรียนเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 11 เมษายน 2549 บริษัทได้ขายอสังหาริมทรัพย์ให้แก่กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ไทคอน จำนวน 44 โรงงาน มูลค่า 1,982 ล้านบาท ซึ่งรายการดังกล่าวจะแสดงในงบการ เงินไตรมาส 2/2549 ของบริษัท
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 10:06 pm
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
thank in advance
[email protected]
โดย
SAFARI
จันทร์ ก.พ. 06, 2006 9:09 pm
0
0
จะเลือกอันไหนดีกว่ากันครับ
อนาคตดี ธรรมาภิบาลดี ราคาตำกว่าพื้นฐาน
โดย
SAFARI
พุธ พ.ย. 23, 2005 5:23 pm
0
0
อิฐมวลเบา Q-CON-SUPER เปิดศึกราคา ร่อแร่ ทั้งคู่
อิฐมวลเบามีคุณสมบัติ ในแง่กันความร้อน กันเสียง ได้ดีกว่าอิฐมอญครับ เพราะโครงสร้างโพรงอากาศในอิฐมวลเบาเป็นโพรงอากาศ (void) ที่ไม่ต่อเนื่องกัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ที่เลียนแบบกันยาก เท่าที่ผมทราบเห็นว่าคงเป็น คิวคอนที่ทำได้ดีครับ ในส่วนความแข็งแรงของโครงสร้างบ้านหรืออาคารคงไม่เกี่ยวเพราะ บ้านเรายังใช้ระบบเสาคานอยู่ ซึ่งเป็นตัวรับน้ำหนักโดยตรง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องว่าจะตอกผนังติดรูปหรือภาพแขวน เท่าที่ทราบในความเป็นจริงแล้ว Strength ของอิฐมวลเบาไม่แพ้ผนังอิฐมอญเลยครับ อย่างไรก็ตามตรงนี้ลองเช็คข้อมูลด้าน ความแข็งแรง strength กับทางผู้ผลิตได้ครับ เพราะเห็นว่าเค้าวิจัย และพัฒนาด้านนี้อยู่เหมือนกัน นอกจากข้อดีที่ว่ามา ผนังอิฐมวลเบา ต้องใช้ปูนพิเศษเฉพาะ ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะ ผนังอิฐมวลเบา นอกจากประหยัดต่อขนาดโครงสร้างแล้ว การทำงานก็รวดเร็ว ประหยัดค่าแรง และไม่ต้องใช้ช่างฝีมือเหมือนกับผนังอิฐมอญครับ ผนังอิฐมอญถ้าฝีมือไม่ดี เอียงไม่ได้ระนาบก็มีให้เห็นเยอะแล้วครับ สุดท้ายผมว่าราคาต่อตารางเมตร ของอิฐมอญ ลงมาใกล้เคียงกับผนังอิฐมวลเบา เนื่องจากสงครามราคา น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ได้ของดีราคาถูกน่ะครับ
โดย
SAFARI
ศุกร์ พ.ย. 18, 2005 5:27 pm
0
0
ล้างพอร์ตดีมั๊ยเพื่อนๆ >> ทหารรักษาพระองค์ออกมาแล้ว
แหม ไม่ถึงกับต้องทะเลาะกันหรอกครับ แค่แสดงความคิดเห็นเอาข้อมูลที่พบเจอมาเล่าให้ฟังน่ะครับ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับบริษัท ประเทศไทย ที่เราร่วมเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยกันอยู่น่ะครับ ถ้ายังไงผมไม่ได้กล่าวพาดพิงท่านสมาชิกน่ะครับ อย่าเอาผมไปร่วมวงทะเลาะนะครับ :D
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 2:32 pm
0
0
ล้างพอร์ตดีมั๊ยเพื่อนๆ >> ทหารรักษาพระองค์ออกมาแล้ว
ผมเองทราบเรื่องวัดพระแก้ว จากข่าวว่า สำนักพระราชวังเซ็นอนุญาตวันที่11 เมษายน และในหนังสือก็เขียนไว้ว่าให้องคมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ... เข้าร่วมพิธี แต่วันทำรัฐบาลทำพิธีจริงเป็นวันที่ 10เมษายน ซึ่งถือว่ายังไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต รวมทั้งวันนั้นไม่มีองคมนตรีเข้าร่วมพิธี และนายกยังถือวิสาสะไปเป็นประธานในพิธีเอง รวมถึงเรื่องการแต่งกายที่ไม่ให้เกียรติสถานที่ ผมเองเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่บังควรต่อการกระทำอย่างยิ่ง ดังเช่น พล.อ.วิมล วงศ์วานิชให้ความเห็นไว้เมื่อวานนี้ พล.อ.วิมล กล่าวว่า ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ มีหน้าที่จงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ จะนำมายุ่งเกี่ยว พัวพัน หรือเป็นเครื่องมือของใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ผมเองเคยเป็น ผบ.พล.1 รอ. มาก่อน หลักหรือปรัชญาของทหารกองพลที่ 1 ก็คือจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องเป็นหลักของบ้านเมือง เป็นหลักของแผ่นดิน มีหน้าที่รับใช้บ้านเมือง ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของใคร สิ่งที่คุณสนธิพูดต้องใช้ปัญญาเป็นเครื่องตัดสินว่าอะไรถูกต้อง อะไรไม่ถูกต้อง จะนำกำลังออกมาในลักษณะเช่นนี้ไม่ได้ อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีต ผบ.พล.1 รอ.ระบุ ผมเองคิดว่าสิ่งดีๆที่คุณทักษิณทำเป็นเรื่องดีครับถึงแม้จะไม่เข้ารูปเข้ารอย แต่ก้เป็นการเริ่มต้นที่ดี ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ชื่นชอบในช่วงสมัยแรกหรอกครับ แต่ประเด็นคือกรรมดีที่ทำไม่สามารถหักล้างกับกรรมชั่วได้ครับ ส่วนเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ มาจากรัฐบาลชวนจริงครับ แต่รู้สึกเค้าจะมีเงื่อนไข อยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เอาทุกอย่างไปขายได้ครับ แต่อย่างไรก้ตามทักษิณประกาศว่าจะยกเลิกกฎหมายขายชาติ ตอนเลือกตั้ง แต่แล้วก็ผิดคำพูดเช่นเคยครับ เป็นเพราะสายส่งจะเป็นทุกอย่างในอนาคตของกิจการโทรคมนาคมครับ ทางเดียวที่จะฮุบได้ คือต้องเข้าตลาดครับ ถึงวันนั้น แม้แต่ราคามือถือ 25สตางค์คงไม่มีให้เราเห็นแล้วล่ะครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 12:46 pm
0
0
ทำไมไม่มีคนพูดถึงหุ้นตัวนี้เลย น่าจะเป็นหุ้นที่คุณ loso พูดถ
ผมเห็นด้วยเรื่องการพัฒนาของจีนซึ่งอาจจะยังตามเราไม่ทัน แต่เนื่องจากเราเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จีนจะทำได้ 1ปี หรือ10ปี ผมเองเห็นความไม่ค่อยแน่นอนตรงนี้สักเท่าไหร่ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่เราติดตามไม่ค่อยได้ครับ แบรนด์อาจจะไม่สำคัญในเวลานี้ครับ แต่ตราบใดที่บริษัทยังไม่สามารถสร้างจุดแข็งให้กับตัวเองในเรื่องแบรนด์ ลอยัลตี้ ได้แล้วผมว่าอนาคตคงมีความเสี่ยงในด้านความสามารถในการทำกำไรครับ ตามปกติแล้วการค้าขายอัญมณีใช้ความเชื่อใจของร้านค้าเป็นหลักครับ เพราะคนซื้อก็ซื้อตามคำแนะนำคนรุ่นเก่าๆที่แนะนำว่าร้านนี้ของดีจริง ดังนั้นหากเกิดการเปลี่ยนผู้ผลิต(supplier)โดยร้านค้า ผมว่ายากเหมือนกันที่คนซื้อจะดูออก ยกเว้นชำนาญจริงๆ ผมเองมีพื่อนนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนเยอะซึ่งเค้าบอกกันว่าปัจจุบันนี้จีนเลียนแบบของ สวยและดูมีราคามากครับ แต่ราคาจะสูงหน่อย ซึ่งคนไทยไม่ค่อยนำเข้ามาครับเพราะคนไทยเจอของจีนก้คิดอย่างเดียวว่าต้องถูกและไม่ดีครับ ทั้งที่จริงๆแล้วเค้าทำได้มากกว่านั้นมากครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 12:29 pm
0
0
ล้างพอร์ตดีมั๊ยเพื่อนๆ >> ทหารรักษาพระองค์ออกมาแล้ว
ผมเป็นคนนึงที่ชอบเคยชื่นชมชื่นชอบทักษิณมาก เรียกว่าใครว่าอย่างไรก็เห็นว่าชั่วโมงนี้ไม่มีใครเจ๋งกว่าอีกแล้ว และเฉยๆกับคุณสนธิ แต่หลังจากเรื่องราวคอร์รัปชั่นต่างๆเข้าหู ไม่ใช่จากอ่านข่าว แต่มาจากคนใกล้ชิดที่เจอกับตัวเอง ก่อนที่สนธิจะมาพูดด้วยซ้ำ เลยเริ่มติดตามจนถึงเรื่อง CTX อะไรคือไม่มีใบเสร็จแล้วจะจัดการ รวมถึงเรื่องวัดพระแก้ว แล้วยังเรื่องกฟผ. ที่เด็กยังคิดออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ผมว่าคงไม่มีความชอบธรรมเท่าไหร่ กับเรื่องราวเหล่านี้ ปตท.ที่ว่าจะถือหุ้น 75% ก็เหลือ 51% ผมว่าถ้าประเทศไทยเป็นบริษัทที่พวกเราถือหุ้นกันอยู่ เราคงไม่อยากได้ผู้บริหารที่ไม่มีธรรมาภิบาล ขายทรัพย์สินที่ทำกำไรได้ดี ออกไป เพราะนั่นหมายถึงปันผลของพวกเราก็ได้น้อยลง ผมแค่ลองเทียบนิดๆหน่อยๆพอเห็นภาพน่ะครับ รวมถึงเศรษฐกิจที่ว่าดี ถามคนที่เป็นพ่อค้าได้เกือบทุกคนครับว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจแย่ขนาดไหน ดีเฉพาะกลุ่มไหน แล้วภาคใต้คนต้องตายไปเท่าไหร่ ผมว่าลองคิดว่าเราเป็นนายก เราคงต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คงยากที่จะบอกตัวเองว่าทุกวันนี้คนตายในภาคใต้ไม่ใช่เพราะปากหรือการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดของตัวเอง อยู่เหมือนกันน่ะครับ หลอกใครก็หลอกได้ แต่ผมว่าเค้าหลอกตัวเองไม่ได้หรอกครับ ความเห็นส่วนตัวครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 12:14 pm
0
0
ทำไมไม่มีคนพูดถึงหุ้นตัวนี้เลย น่าจะเป็นหุ้นที่คุณ loso พูดถ
ดูจาก 56-1 แล้ว ทางบริษัทต้องอาศัย relationship ในการทำการค้ามากกว่าอย่างอื่น รวมทั้งการลดค่าใช้จ่ายก็ดูเหมือนจะไม่เห็นผลเท่าไหร่ ดูจากปริมาณ จำนวนชิ้นงาน/จำนวนพนักงาน ตั้งแต่2546 ลดลงเรื่อยๆ ผมเองไม่แน่ใจว่า คู่แข่งอย่างจีน เวียตนาม อินเดีย ทำให้กำไรจาการขายไม่สามารถปรับขึ้นได้ง่ายแล้ว แถมยังไม่สามารถลดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้ง การที่ไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง อนาคตอาจจะค่อนข้างเหนื่อยสำหรับบริษัท หากผมเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อน ช่วยแชร์ได้ครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2005 11:39 am
0
0
SNC ชี้แจงข่าวการจ่ายเงินปันผลและผลกำไรQ2/48
ดูแรงบิด2-3วันนี้ น่าจะได้เฮมากกว่าโฮนะครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 5:01 pm
0
0
เหมืองถ่านหิน ในจีนระเบิดอีกแล้วครับ
คุณ CK ครับ.....ผมว่าผู้ได้ประโยชน์ตัวจริงน่าจะเป็นเจ้าของเหมืองนะครับ กรณีน้องอั่ม นำเข้ามาจำหน่ายไม่ใช่เหรอครับ กรณีนี้น่าจะทำให้ต้นทุนซื้อวัสดุของน้องอั่มสูงขึ้นมากกว่านะครับ แต่ราคาขายจะปรับสูงตามได้รึปล่าวไม่ค่อยแน่ใจ จะได้ประโยชน์ระยะสั้นจากสต็อกเก่าในราคาต้นทุนเก่า(เหมือนTPCรึปล่าว....จำขึ้นใจจริงๆ.... ) ผิดถูกยังไงต้องขออภัยนะครับ ความรู้ยังน้อยค่อยๆศึกษาครับ เอ แล้วถ้าขาใหญ่ในประเทศไม่ขึ้นราคาแล้ว น้องอั้มเราจะขึ้นได้มั้ยเนี่ย โดยเฉพาะถ้าตลาดโลกขึ้น ต้นทุนผู้นำเข้าก็เพิ่ม แต่ราคาขายต้องตามขาใหญ่ เพิ่มไม่ได้ :shock:
โดย
SAFARI
ศุกร์ มิ.ย. 10, 2005 12:33 pm
0
0
เหมืองถ่านหิน ในจีนระเบิดอีกแล้วครับ
เอ แล้วทำไมน้องอั้ม ถึงถูกขายถล่มจัง หลายวันแล้วนะเนี่ย ขอความมั่นใจจากสาวกหน่อยครับ :D
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 3:35 pm
0
0
thaivi.com น่าจะใส่เกม online หมากฮอส หมากรุก หมากล้อม
อยากเล่นหมากฮอสครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 11:22 am
0
0
TRIPLE DOUBLE
น้ำมันขึ้นราคาแบบนี้ TCB คงดูไม่ดีหรือเปล่าครับ ซึ่งสวนทางกับUMSยิ่งราคาน้ำมันขึ้นมาก คนก็พยายามลดต้นทุนพลังงาน ซึ่งถ่านหินเป็นทางเลือกหนึ่งที่คนนิยมใช้กัน ผมไม่แน่ใจว่าการบริหารจัดการที่ดีของTCB จะทำให้ไตรมาส2 ดีเหมือนไตรมาส 1 ได้หรือเปล่าครับ
โดย
SAFARI
จันทร์ มิ.ย. 06, 2005 5:40 pm
0
0
plt ประกาศผลประกอบการหรือยังคะ
ตกลงว่า งบดีหรือไม่ดีครับเนี่ย กำไรลดลงนิครับ :?:
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ค. 24, 2005 10:09 am
0
0
TFUNDเป็นเพียงแค่เครื่องมือทางการเงิน หรือไม่
ผมว่าการให้ข่าวคงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเมื่อมีเรื่องหรือเครื่องมือทางการเงินที่ทำให้พื้นฐานบริษัทเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะทางดีหรือร้าย ทางบริษัทคงต้องออกมาชี้แจง แล้วถ้ามีคนสนใจเยอะ บรรดานักวิเคราะห์ต่างๆ ก็คงไล่ตามหาข้อมูลมาเขียน มาลงข่าว ทพให้ดูเหมือนว่าการออกข่าวเยอะเกินไปหรือเปล่า แต่โดยส่วนตัวผมว่า ที่คนอื่นทำเยอะกว่านี้เยอะเลยนะครับ 8)
โดย
SAFARI
ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 2:25 pm
0
0
TFUNDเป็นเพียงแค่เครื่องมือทางการเงิน หรือไม่
ผมคิดว่าคุณ IH เพียงยกตัวอย่างง่ายๆ เพื่อให้เห็นภาพนะครับ แต่ในความเป็นจริงเมื่อเวลาผ่านไปต้นทุนต่างๆในการสร้างโรงงานคงต้องเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราขึ้นราคาขายไม่ได้นะครับ บางทีอาจจะคิดไปถึงว่าขึ้นราคาแล้วใครจะมาเช่า อันนี้ก็คงต้องต้องมาดูความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุน และ after services ของบริษัทว่า competitve กว่าคู่แข่งมากแค่ไหน ซึ่งรายละเอียดในการวิเคราะห์ คงมีมากกว่าตึกแถวนะครับ แต่ตัวอย่างตึกแถวคงง่ายเพื่อให้เห็นภาพคร่าวๆของการออกTFUND น่ะครับ
โดย
SAFARI
ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 12:17 pm
0
0
TFUNDเป็นเพียงแค่เครื่องมือทางการเงิน หรือไม่
กำไรไตรมาส 1 ออกมา 89.7 ล้านบาทครับ หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น หากใช้จำนวนหุ้น fully diluted 562 ล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปีก่อน ที่มีกำไร 72 ล้านบาท โดยเหตุผลหลักมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนโรงงานให้เช่าที่เพิ่มขึ้น ก็ยังไม่มีอะไรตื่นเต้นมากครับ เพราะว่ายังไม่รวมรายได้จากการขายโรงงานเข้ากองทุนซึ่งจะเข้ามาไตรมาส 2 ไตรมาส 1 ที่ผ่านมามีขายโรงงานให้ลูกค้า 1 โรงงาน ได้ gross margin 43% ซึ่งน้อยกว่า gross margin ของการขายโรงงานเข้ากองทุน ซึ่งอยู่ที่ 50.3% ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าการออก prop fund ทำให้ ticon ขายโรงงานได้ margin ดีกว่าครับ ที่น่าแปลกใจคือ SG&A ของบริษัทลดลงจาก 29.9 ล้าน เป็น 29.8 ล้าน แม้จะลดลงไม่มากนัก แต่ก็แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีทีเดียว แม้ว่าขนาดธุรกิจจะเพิ่มขึ้นมาก จากประมาณการว่า ticon จะขายโรงงานให้ลูกค้าได้ไตรมาสละ 1 โรงงาน และเมื่อบวกกำไรจากการขายโรงงาน 39 แห่งเข้ากองทุน จะได้ว่า fully dilted eps ปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.4 บาทต่อหุ้นครับ อาจจะมีเพื่อนๆ หลายคนสงสัยว่าการออก prop fund จะเป็นเพียงเครื่องมือทางการเงินที่กระตุ้นราคาหุ้นแต่ไม่ได้ทำให้พื้นฐานเปลี่ยนหรือเปล่า ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ ผมขอสมมุติโดยใช้ตัวเลขใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงแล้วกันนะครับ ยกตัวอย่างว่า หากเรามีเงิน 50 ล้านบาท สร้างตึกแถว โดยมีต้นทุนต่อห้องๆ ละ 2.5 บาท โดยจะสามารถสร้างได้ 20 ห้อง ( ขออนุญาตใช้ตึกแถวแทนโรงงานเพื่อให้ดูเข้าใจง่าย ) แต่เราไม่ได้มีความต้องการขายตึกแถวออกไป จึงหาผู้เช่า และใช้เวลาไม่นานนักหาผู้เช่าได้เต็ม ดังนั้น ด้วยเงินตั้งต้น 50 ล้านบาท และหากเราไม่ต้องการกู้ธนาคาร เราก็จะไม่สามารถสร้างตึกแถวให้เช่าได้อีก เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี เราก็จะมีตึกแถวให้เช่าจำนวน 20 ห้อง กรณีนี้เป็นกรณีที่ 1 ในกรณีที่ 2 เมื่อเราหาผู้เช่าได้ทั้งหมด 20 ห้องแล้ว เราตัดสินใจขายตึกแถวพร้อมสัญญาเช่าจำนวน 12 ห้องๆ ละ 4.2 ล้านบาท ให้กับนักลงทุนที่ต้องการรายได้จากค่าเช่าที่แน่นอน ดังนั้นเราจะได้เงินกลับมา 12*4.2 = 50 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับเงินลงทุนตั้งต้น และหลังจากขายตึกไป 12 ห้อง เราก็จะมีตึกแถวให้เช่าเหลือ 8 ห้อง ในปีต่อมา เรานำเงินที่ได้จากการขายตึกแถว 12 ห้อง จำนวน 50 ล้านบาท ลงทุนสร้างตึกแถวที่ต้นทุนห้องละ 2.5 ล้านบาท ได้อีก 20 ห้อง และทำการหาผู้เช่า และหลังจากนั้นก็ทำแบบเดิม คือ ขายตึกแถวพร้อมสัญญาเช่าไปอีก 12 ห้อง เพื่อเอาทุน 50 ล้านบาทกลับมา จึงมีตึกแถวที่ยังไม่ได้ขายไป 8 ห้อง รวมกับของเดิมในปีก่อน 8 ห้อง ดังนั้น ณ สิ้นปีที่ 2 เราจะมีตึกแถวให้เช่ารวมทั้งสิ้น 16 ห้อง และในปีที่ 3 และปีต่อๆ ไปก็จะทำแบบเดิมไปเรื่อยๆ คือ สร้างขึ้นมา 20 ขายออกไป 12 และเก็บไว้ 8 ในกรณีที่ 2 เราจะเห็นว่าในแต่ละปี เราจะมีตึกแถวที่ให้เช่าเก็บไว้ปีละ 8 ห้อง เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี เราจะมีตึกแถวให้เช่าจำนวน 80 ห้อง ซึ่งมากกว่าในกรณีแรกถึง 4 เท่า ทั้งๆ ที่ใช้ทุนเริ่มต้น 50 ล้านบาทเท่ากัน กรณีที่ 2 เปรียบเทียบได้กับการออก property fund นั้นเอง เพราะการออก property fund Ticon จะยังถือหุ้นใน property fund จำนวน 33% ซึ่งหาก ticon สร้างโรงงานเพิ่มจำนวน 100 โรงงาน และขายโรงงานทั้งหมด 100 โรงงานเข้า property fund ที่ ticon ถือหุ้น 33% ก็เท่ากับว่า ticon ขายโรงงานไปจริง 67 โรงงานและเก็บไว้ 33 โรงงานครับ ดังนั้นหากเปรียบเทียบกรณี 1 และ 2 เป็นหุ้น 2 ตัวที่ทำธุรกิจเดียวกัน หุ้นที่ดำเนินนโยบายแบบกรณีที่ 1 ก็จะไม่สามารถเพิ่มจำนวนสินทรัพย์ให้เช่าได้ หากต้องการเพิ่มก็จะต้องเพิ่มทุน แต่กรณีที่ 2 หุ้นดังกล่าว จะสามารถเพิ่มสินทรัพย์ให้เช่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องเพิ่มทุนครับ ดังนั้นผมเชื่อว่าการกระทำในกรณีที่ 2 น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้นมากกว่าครับ แม้ว่ากรณีที่ 1และ 2 ผู้บริหารอาจจะมีความสามารถทางการก่อสร้าง บริหารที่เท่ากัน แต่เมื่อมีความสามารถทางการเงินที่ต่างกัน ก็ทำให้อนาคตของบริษัทต่างกันได้ คำถามของผมที่มักจะถามหากได้คุยกับ MD ของบริษัทตัวต่อตัว ก็คือ CFO ของบริษัทมาจากสาย accounting หรือ finance เพราะบริษัทเล็กๆ ส่วนใหญ่ CFO จะมาจาก account ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ควรจะเป็นอย่างนั้นเพราะบริษัทเล็กยังไม่มีความซับซ้อนทางการเงินนัก แต่บริษัทขนาดใหญ่และยิ่งต้องการขยายไปเรื่อยๆ การจัดการและวางแผนทางการเงินถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากทีเดียวครับ
โดย
SAFARI
ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 10:56 am
0
0
OGC กำไรไตรมาสแรก 2.70 บาท/หุ้น
พรุ่งนี้อย่าแย่งกันซื้อนะครับ เดี๋ยวเหมือน SNC 555 :D
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2005 9:59 pm
0
0
SNC ครับ ลุงขวด คุณYOYO MR.BIG ท่านอื่นด้วยครับ
ไม่ทราบว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2 ยังสามารถทำได้ดีเหมือนไตรมาส1หรือเปล่าครับ seasonal มีผลกับธุรกิจนี้มากน้อยอย่างไรครับ รบกวนด้วยครับ
โดย
SAFARI
พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2005 10:19 am
0
0
SNC ครับ ลุงขวด คุณYOYO MR.BIG ท่านอื่นด้วยครับ
ถ้าคิดว่าราคาทองแดงหลังหมดสัญญาเป็น 3400 บาท/ตัน ราคาจะขึ้นประมาณ 20% ผมไม่แน่ใจว่า ทางบริษัทสามารถ pass on ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ เพราะในระยะยาวแล้ว Economy of scale คงไม่ยั่งยืนเท่าการปรับราคาผลิตภัณฑ์ได้
โดย
SAFARI
พุธ พ.ค. 11, 2005 3:16 pm
0
0
ไม่ทราบงบ SNC ออกหรือยังครับ
ขอบคุณลุงขวดมากครับ
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ค. 10, 2005 2:43 pm
0
0
พี่ mon money คะ รบกวนถามหน่อยค่ะ
สงสัยต้องรบกวนคุณ peaceful ช่วยไขความกระจ่างที่ กระทิงเขียวด้วยครับ
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ค. 10, 2005 2:11 pm
0
0
ไม่ทราบงบ SNC ออกหรือยังครับ
ผมลองดูคร่าวๆ ไตรมาส1และ2น่าจะได้ 0.45 ส่วนสองไตรมาสหลัง คงต้องเผื่อเรื่องทองแดงไว้นิดนึง ให้ไตรมาส3-4รวมกัน 0.25 รวมกันทั้งปี คร่าวๆประมาณ 0.7 ถ้าให้ PE 8 เท่า ราคาก็น่าจะเป็นที่พอใจของชาวVIนะครับ ถ้าท่านใดว่าน้อยเกินไป ขอเชิญมาช่วยสร้างความมั่นใจ เรื่องราคาทองแดง ไตรมาส3-4จะเป็นพระคุณยิ่งครับ
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ค. 10, 2005 2:04 pm
0
0
ไม่ทราบงบ SNC ออกหรือยังครับ
ขอบคุณ คุณCK และลุงขวด สำหรับข้อมูลครับ ผมว่าผลประกอบการไตรมาสนี้น่าจะเป็นตัวบอกความสามารถของผู้บริหาร ในด้านการบริหารวัตถุดิบ โดยเฉพาะทองแดงได้ดีทีเดียวนะครับ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับแฟนพันธ์แท้ คงต้องติดตามกันต่อไป ถ้ามีข้อมูลอะไร ขอความกรุณาช่วยแชร์แฟนพันธุ์ทางอย่างผมด้วยนะครับ
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ค. 10, 2005 1:31 pm
0
0
ไม่ทราบงบ SNC ออกหรือยังครับ
แหมสองวันก่อนยังแย่งกันซื้อ ทำไมวันนี้แย่งกันขายแล้วล่ะ
โดย
SAFARI
อังคาร พ.ค. 10, 2005 12:05 pm
0
0
## TICON ยังดีอยู่ไหมคะ ไม่ได้ตามเลยค่ะ ##
พื้นฐานแน่นขนาดนี้ ยังโดนทุบซะอ่วม เจ้ามือโหดน่าดู หวังว่าชาว vi ยังคงมั่นคงตามพื้นฐานที่แน่นหนา เหมือนเดิมนะครับ :D
โดย
SAFARI
พุธ เม.ย. 27, 2005 3:27 pm
0
0
## TICON ยังดีอยู่ไหมคะ ไม่ได้ตามเลยค่ะ ##
เก็บมาฝากจากกระทิงเขียว โดยคุณInvisible Hand ตามที่บริษัทได้แจ้งตลาดก็คงได้ทราบกันแล้วนะครับว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทคอน หรือ TFUND ก็ขายหมดแล้ว ดังนั้นกำไรที่เกิดจากการขายสุทธิก็จะประมาณ 424 ล้านบาท และเมื่อรวมกำไรจากการดำเนินงานก็จะได้กำไรสุทธิโดยประมาณของปี 48 ที่ 724 ล้านบาท หรือ กำไรต่อหุ้น 1.38 บาท ( สมมุติฐานว่ามีหุ้นใหม่ที่เกิดขึ้นจากการ convert warrant จำนวน 10 ล้านหุ้น ) คาดว่าเงินปันผลที่บริษัทจะจ่ายในปีนี้น่าจะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.8 ถึง 1.0 บาทครับ แต่อย่างไร ประมาณการกำไรต่อหุ้น 1.38 บาท เป็นกำไรที่เกิดจาการขายสินทรัพย์เข้า property fund เพียงครั้งเดียวในปีนี้ แต่ไม่ได้รวมถึงโอกาสที่อาจจะมีการขายสินทรัพย์เข้า property fund ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นอีกในครึ่งปีหลัง เงินที่บริษัทได้รับจากการขาย property fund ประมาณ 1,150 ล้านบาท TICON จะนำไปลงทุนในโรงงานขนาด 1,500-5,000 ตร.ม. ให้เช่า ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิม และลงทุนในการสร้างโรงงานหรือคลังสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งเป็นธุรกิจที่ ticon ไม่เคยทำมาก่อนเพราะเคยติดข้อจำกัดด้านเงินทุน นอกจากนี้ ticon มีแผนที่จะดำเนินธุรกิจในลักษณะ buy and lease back คือ เข้าไปซื้อโรงงานจากเจ้าของโรงงานเดิม แล้วให้เช่ากลับ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีธุรกิจนี้เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ticon ถูกแรงขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาวะตลาดที่ไม่ดี ข่าวลือที่ว่า property fund จะขายไม่หมด รวมไปถึงแรงขายจากนักลงทุนที่ต้องการ sell on fact เพราะที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรข่าว property fund และมองว่าการออก property fund เป็นเพียงแค่ one time ช่วงที่ผ่านมา แรงขายชนะแรงซื้อ จึงทำให้ราคาลงมาโดยตลอด ซึ่งก็หมายความว่าปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังมองว่าการขายสินทรัพย์เข้า property fund จะเกิดขึ้นครั้งเดียว ซึ่งหากเรามองว่าปีที่ผ่านมา ticon สามารถเพิ่มลูกค้าได้ 39 โรงงาน และขายสินทรัพย์เข้า prop fund ไป 39 โรงงานเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้โรงงานลดลงเพราะจำนวนที่ขายไปเท่าที่เพิ่มมาในปีก่อน ใน 2 เดือนแรกของปี 48 นี้ ticon มีลูกค้าเพิ่ม 14 โรงงาน ( เดือนละ 7 ถ้าบรรญัตไตรยางค์ก็จะได้ปีละ 84 ) ซึ่งหากคิดแบบ conservative คือ ทั้งปี 48 ticon มีลูกค้าเพิ่มได้ 50-60 โรงงาน การขายโรงงานเข้า prop fund จำนวน 40-50 โรงงานในปีหน้า ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมาก และนี่ยังไม่รวมโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่ผมเล่าไว้ข้างต้นคือการสร้างโรงงานขนาดใหญ่และธุรกิจ buy and lease back ดังนั้น in the short term, stock price is a market voting, in the long term, stock price is a market weighting. ก็คงต้องรอดูยาวๆ ครับว่า ticon จะทำให้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้า prop fund เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นทุกปีได้หรือไม่ หลายคนอาจจะมองว่าการออก prop fund คือการจบ story ของหุ้น และ sell on fact แต่ผมมองว่ามันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของ story ที่ยาวนานครับ เงิน 1150 ล้านบาท ที่ได้ไป บวกกับความสามารถในการก่อหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากฐานของ equity ที่เพิ่ม ทำให้ ticon น่าจะมีเงินลงทุนในปีนี้อย่างน้อย 2,000 ล้านบาท ซึ่งเงินตรงนี้ทำอะไรได้เยอะทีเดียวครับ
โดย
SAFARI
ศุกร์ เม.ย. 22, 2005 6:54 pm
0
0
ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับความรู้ด้าน TICON Property Fund
สุดท้าย ราคาคงต้องวิ่งตามกำไรต่อหุ้นให้ทันอยู่แล้วล่ะครับ ยังห่างอีกหลายเด้งเลย
โดย
SAFARI
ศุกร์ เม.ย. 08, 2005 4:37 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
SAFARI
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
งานอดิเรก:
Stock and Travel
ความถนัด:
Engineer
ที่อยู่:
Bangkok
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พฤหัสฯ. เม.ย. 07, 2005 2:54 pm
ใช้งานล่าสุด:
เสาร์ พ.ค. 22, 2021 12:30 pm
โพสต์ทั้งหมด:
158 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว