หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
jarupit
Don't have destiny ,have only intention !
Joined: พฤหัสฯ. ก.ค. 08, 2010 6:33 pm
30
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - jarupit
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
รบกวนพี่ๆหน่อยครับพอดีจะเข้าเศรษฐศาสตร์ม.ธรรมศาสตร์
โอ้ววว นานๆจะเจอเศรษฐศาสตร์ มธ. พี่ติดสอบตรงเข้ามาครับ แต่ตอนนี้อยู่ปี4 แล้ว (แก่) แต่ดูเหมือนว่าน้องจะเตรียมตัวดีกว่าพี่ตอนนั้นซะอีก คณิตศาสตร์ = เข้าใจแนวข้อสอบถูกต้องแล้วครับ ตอนนั้นพี่เตรียมตัว คือ ทำข้อสอบเอนทรานย้อนหลัง หลายๆปี เอาง่ายๆว่า ความรู้คณิตศาสตร์ ม.ปลาย ถ้าปึ้ก ก็ทำได้ ข้อสอบเป็นอัตนัย เขียนแสดงวิธีทำ ลายมืออ่านออกง่าย และต้องเคลียร์นะ (คิดซะว่าคนตรวจไม่รู้เรื่องคณิตศาสตร์มาก่อน) จำได้ว่ามีข้อนึง เป็นข้อปราบเซียน ยากมากๆ ทำไม่ได้ ต้องปล่อยโล่ง คณิตศาสตร์สำคัญมาก ต้องทำให้ได้มากที่สุด เค้าวัดกันตรงนี้ อังกฤษ = จายากไปไหน เกินความรู้เด็กม.ปลาย อย่างพี่ (ทำได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่ต้องซีเรียสมาก คนอื่นทำไม่ได้เยอะ) พี่ก็ทำไม่ค่อยได้ อาศัยเอาศัพท์ง่ายๆที่รู้ มาปะติดปะต่อ ให้พอเป็นเรื่องราว ก็พอไปได้บ้าง ไทย = ย่อความ - เค้าจามีโจทย์มาให้ 3 บรรทัด แล้วเว้นที่ว่างให้เราย่อ ประมาณ 2 บรรทัด ...จำได้ว่าตอนนั้นยังย่อความไม่เป็นเลย ไม่รู้ผ่านมาได้ไง ส่วนเรียงความ จำได้ว่า หัวข้อเป็นเรื่องทั่วไปนะ (เป็นประเด็นพูดคุยเกี่ยวกับสังคม ช่วงก่อนสอบ) ไม่ใช่เศรษฐศาสตร์ เค้าแค่อยากวัดลำดับความคิด การใช้เหตุผลของเรา ส่วนคำศัพท์เศรษฐศาสตร์ พี่คิดว่า เค้าน่าจะเอาแค่คำที่เราเรียนช่วง ม.ปลาย นะ แต่พี่ก็ไม่รับประกัน ว่าเค้าจะเปลี่ยนแนวข้อสอบยังไงรึเปล่า (ผ่านมา4ปีแล้ว) เอาเป็นว่า ทำให้เต็มที่ ดีที่สุด แบ่งเวลากับข้อสอบให้ดี ได้ข่าวว่า อีกไม่กี่วันจะสอบแล้ว (พี่ก็สอบ final ช่วงนี้เหมือนกัน) โชคดีนะครับ ^^ ขอบคุณณ ครับบ
โดย
jarupit
เสาร์ ต.ค. 02, 2010 5:38 pm
0
0
รบกวนพี่ๆหน่อยครับพอดีจะเข้าเศรษฐศาสตร์ม.ธรรมศาสตร์
สอบตรงรึเปล่าครับ ถ้าสอบตรงลงคณะเดียวกันเลยครับ อื้มมมมม
โดย
jarupit
ศุกร์ ต.ค. 01, 2010 5:21 pm
0
0
รบกวนพี่ๆหน่อยครับพอดีจะเข้าเศรษฐศาสตร์ม.ธรรมศาสตร์
คำศัพท์เกี่ยวกับ เศรษฐศาสตร์ การปล่อยเสรี = Liberalization แนวคิดหรือนโยบายที่เปิดโอกาสให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผลิตและการค้าเป็นไปอย่างเสรี ไม่มีการผูกขาดตัดตอนโดยรายหนึ่งรายใด ในแง่ของการปล่อยเสรีภายในประเทศก็ คือ การยกเลิกระบบผูกขาด ส่งเสริมให้มีการแข่งขันกันอย่างเต็มที ในระดับสากล ก็คือการส่งเสริมการค้าเสรี ลด หรือ ขจัดอุปสรรคหรือข้อกีดขวางทางการค้าทั้งที่อยู่ในรูปของภาษีและไม่ใช่ภาษี หนี้สิน = Liability โดยปกติมักหมายถึง หนี้ทางการเงิน คือจำนวนเงินที่บุคคลหรือหน่วยธุรกิจมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องชำระให้แก่บุคคลอื่น รายการที่ถือว่าเป็นหนี้สินทางบัญชี ได้แก่ เจ้าหนี้การค้า ค่าใช้จ่ายและภาษีค้างจ่าย หุ้นกู้ เงินกู้ เป็นต้น เงินเฟ้อขั้นสูง = Hyperinflation ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มขึ้นในอัตราสูงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าปกติ (สูงกว่าร้อยละ 20 ต่อปี ) ถ้าสูงมากๆ เช่น ร้อยละ 100 ต่อปี อาจเรียกว่า เงินเฟ้อย่างรุนแรง การแปลงหนี้ = Funding ในความหมายเดิม หมายถึงการเปลี่ยนหนี้ที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา แต่ในปัจจุบันใช้ในความหมายที่กว้างกว่า ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนสถานะจากการก่อหนี้ในระยะสั้นมาเป็นหนี้ในระยะปานกลางหรือระยะยาวเช่น การเปลี่ยนจากการออกตั๋วแลกเงินมาเป็นการออกพันธบัตร เป็นต้น ตลาดเสรี = Free market ตลาดสินค้าหรือบริการที่มีการปล่อยให้พลังของอุปสงค์และอุปทานหรือกลไกตลาด เป็นตัวกำหนดราคาและปริมาณการซื้อขายอย่างเสรี โดยปราศจากการแทรกแซงใด ๆ จากรัฐบาล ระบบเศรษฐกิจที่ส่งเสริมตลาดเสรีเรียกว่าระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี ราคาล่วงหน้า = Forward price ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือเงินตรา ที่กำหนดเอาไว้ในการตกลงซื้อขายล่วงหน้า เป็นราคาที่ผู้ซื้อจะต้องจ่าย ณ วันส่งมอบหรือวันที่ได้ตกลงกัน สำหรับราคาล่วงหน้าของการซื้อขายเงินตราต่างประเทศมีชื่อเรียกเฉพาะว่า อัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า ราคาล่วงหน้าของสิ่งของชนิดเดียวกันอาจแตกต่างกันตามเวลาที่ส่งมอบและการต่อรองของผู้ซื้อขาย และราคานี้มักจะแตกต่างกับราคาซื้อขายทันที ซึ่งเป็นราคาที่ต้องส่งมอบกันในปัจจุบัน การเชื่อมโยงไปข้างหน้า = Forward linkage การที่หน่วยผลิตหรืออุตสาหกรรมหนึ่งมีความสัมพันธ์กับหน่วยผลิตหรืออุตสาหกรรมอื่นในลักษณะที่ผลผลิตของหน่วยผลิตหรืออุตสาหกรรมดังกล่าว ถูกนำไปใช้เป็นปัจจัยการผลิตของหน่วยผลิตหรืออุตสาหกรรมอื่น ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมทอผ้ามีการเชื่อมโยงไปข้างหน้ายังอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น ความสัมพันธ์ในลักษณะตรงกันข้ามนี้เรียกว่า การเชื่อมโยงไปข้างหลัง อัตราการแลกเปลี่ยนล่วงหน้า = Forward exchange rate อัตราการแลกเปลี่ยนหรือราคาของเงินตราสกุลหนึ่งๆ กับเงินตราต่างประเทศที่ได้มีการตกลงแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายกันไว้ล่วงหน้า โดยมีการระบุจำนวนและวันเวลาที่จะส่งมอบกันเป็นที่แน่นอนอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้านี้อาจแตกต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนทันทีที่เกิดขึ้น ณ วันซื้อขายเดียวกัน การตกลงซื้อขายเงินตราในอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า ก็เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกันก็ได้กลายมาเป็นเครื่องมืออันหนึ่งในการเก็งกำไรจากการซื้อขายเงินตราต่างประเทศของนักเก็งกำไรด้วยเช่นกัน การแปลงสภาพหนี้ = Debt conversion การออกหุ้นหรือพันธบัตรใหม่เพื่อทดแทนหุ้นหรือพันธบัตรเก่าที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ทั้งนี้เพื่อลดภาระหนี้ให้น้อยลง การแปลงสภาพหนี้ยังหมายถึงการเปลี่ยนหุ้นกู้แปลงสภาพไปเป็นหุ้นสามัญ ซึ่งทำให้ฐานะของผู้ถือเปลี่ยนจากการเป็นเจ้าหนี้บริษัทไปเป็นเจ้าของบริษัท หนี้ = Debts จำนวนเงินหรือทรัพย์สินอื่นจำนวนหนึ่งที่บุคคลหนึ่งมีข้อผูกพันว่า จะจ่ายให้แก่อีกบุคคลหนึ่ง หนี้อาจเกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงิน การซื้อสินค้าหรือบริการด้วยเงินเชื่อหรือเงินผ่อน เราอาจแบ่งประเภทของหนี้ตามประเภทลูกหนี้ เป็นหนี้สาธารณะ และหนี้เอกชน หรือแบ่งตามแหล่งของผู้เป็นเจ้าหนี้ เป็นหนี้ภายในประเทศ และหนี้ต่างประเทศ หุ้นกู้ = Debenture พันธบัตรหรือตราสารหนี้ ระยะยาวที่บริษัทออกให้แก่ผู้ถือเพื่อเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงินของบริษัทจากเจ้าของเงินทุน หุ้นกู้นี้มักมีการกำหนดระยะเวลาในการชำระคืนและอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน ไม่ว่าบริษัทจะมีกำไรหรือขาดทุน ดังนั้นเพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ถือจะได้รับการชำระหนี้คืน การออกหุ้นกู้จึงต้องมีมูลค่ารวมไม่เกินทุนที่ชำระแล้วของบริษัท กรณีที่รัฐบาลเป็นผู้ออกตราสารชนิดนี้นิยม เรียกว่า พันธบัตร เงินแพง = Dear money ภาวะที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยในอดีต เนื่องจากอุปทานของเงินมีน้อยเมื่อเทียบกับอุปสงค์ของความต้องการถือเงิน ภาวะที่ตรงกันข้ามกับเงินแพงเรียกว่า เงินถูก ต้นทุนค่าเสียหาย = Damage cost ต้นทุนที่เกิดจากการก่อให้เกิดความเสียหาย โดยปรกติมักใช้จำเพาะกับความเสียหายจากการก่อมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การคิดต้นทุนค่าเสียหายเป็นตัวเงินค่อนข้างจะยุ่งยากในทางปฏิบัติ เพราะยากต่อการตีค่าของความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น การตีค่าความตาย การบาดเจ็บ การสูญเสียป่าไม้ สัตว์ป่า หรือแหล่งน้ำ เป็นต้น ต้นทุนค่าเสียหาย การปรับภาษีที่พรมแดน = Bonder tax adjustment การเพิ่มหรือลดอัตราภาษีทางอ้อม เช่น ภาษีการค้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่เรียกเก็บจากสินค้าออกของประเทศภาคีตามกฎของGATT ทั้งนี้ก็เพื่อให้ระบบภาษีที่จัดเก็บภายในประเทศไม่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าผ่านพรมแดนของประเทศนั้น ๆ ผลตอบเเทนจากพันธบัตร = Bond yield ผลตอบแทนที่ผู้ถือพันธบัตรจะได้รับจากพันธบัตรนั้น ผลตอบแทนที่ได้อาจจะอยู่ในรูปของอัตราดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด หรือผลตอบแทนจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายในกรณีที่ผู้ถือขายพันธบัตรนั้นให้แก่บุคคลอื่น ผลตอบแทนส่วนหลังนี้เรียกว่า ผลกำไรจากมูลค่าทุน ตลาดพันธบัตร = Bond market สถานที่หรือช่องทางในการตกลงซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนพันธบัตร อาจจะมีการตกลงซื้อขายพันธบัตรนั้นเฉพาะภายในประเทศโดยผ่านตัวแทนนายหน้า ที่ทำหน้าที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หรืออาจมีการซื้อขายกันระหว่างประเทศ ตลาดพันธบัตรระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงคือ ตลาดพันธบัตรยูโร คลังสินค้าทัณฑ์บน = Bonded warehouse สถานที่ที่ใช้เก็บสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยที่ยังไม่มีการชำระภาษีนำเข้า ทั้งนี้ก็เพื่อรอให้มีการชำระภาษีให้เสร็จสิ้นเสียก่อน หรือในกรณีที่ผู้ผลิตได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่นำมาผลิตเพื่อการส่งออก ในช่วงที่นำเข้ามาในประเทศจะต้องผ่านคลังสินค้าทัณฑ์บนนี้เสียก่อนเช่นกัน พันธบัตร , ตราสารหนี้ = Bond ตราสารทางการเงินที่ออกโดย รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน หรือองค์กรระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะกู้ยืมเงินจากบุคคลอื่น โดยวิธีนำตราสารดังกล่าวออกขาย ผู้ออกพันธบัตรนั้น สัญญาว่าจะจ่ายเงินกลับคืนพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือเมื่อกำหนด พันธบัตรเป็นตราสารที่สามารถโอนหรือเปลี่ยนมือกันได้ พันธบัตรที่ออกโดยเอกชนนิยมเรียกว่า หุ้นกู้ ซึ่งหุ้นกู้บางประเภทสามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ในภายหลัง ตามเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ ตลาดมืด = Black market ตลาดที่มีการซื้อขายสินค้าในราคาที่ผิดกฎหมาย เกิดจากผลการควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐบาล เช่น การกำหนดราคาขั้นสูงของสินค้า อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา เป็นต้น ในกรณีนี้จะก่อให้เกิดการขาดแคลนหรือเกิดอุปสงค์ส่วนเกินขึ้น หากไม่สามารถควบคุมหรือควบคุมได้ไม่ทั่วถึงจะทำให้มีการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนกันในราคาหรืออัตราที่สูงกว่ารัฐบาลกำหนดไว้ เงินเฟ้อคืบคลาน = Creeping inflation การสูงขึ้นของระดับราคาโดยทั่วไปที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และต่อเนื่อง ซึ่งดูจะไม่รุ่นแรงในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้ว อาจจะทำให้ระดับราคาทั่วไปเพิ่มขึ้นมากจนอาจจะมีผลให้การลดอำนาจซื้อของเงินลงเรื่อยๆ ประเทศเจ้าหนี้ = Creditor nation ประเทศที่มีการลงทุนและให้กู้ยืมเงินแก่ต่างประเทศมากกว่าที่ต่างประเทศมาลงทุน หรือให้กู้ยืมแก่ประเทศนั้น นั่นก็คือ ประเทศที่การกู้ยืมสุทธิหรือเจ้าหนี้สุทธิมีค่าเป็นบวก ตัวอย่างเช่น ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดในโลก การจำกัดสินเชื่อ = Credit restriction มาตรการที่ใช้จำกัดหรือลดปริมาณการขยายสินเชื่อของธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่น ซึ่งอาจจะเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านตลาดหรือนโยบายอัตราดอกเบี้ย โดยปราศจากการแทรกแซงโดยตรงใดๆ การปันส่วนสินเชื่อ = Credit rationing การจัดสรรการให้สินเชื่อโดยใช้มาตรการที่ไม่ใช่ราคา ในกรณีที่เกิดอุปสงค์ส่วนเกินในตลาดสินเชื่อเมื่ออุปสงค์สำหรับสินเชื่อมากกว่าอุปทานของสินเชื่อจะทำให้ขาดแคลนสินเชื่อ แต่แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามกลไกราคา กลับมีการใช้มาตรการอย่างอื่นผ่านสื่อกลางทางการเงินเพื่อให้สินเชื่อตกแก่บุคคลต่างๆ ตามที่ต้องการ ซึ่งอาจจะอาศัยการออกพระราชบัญญัติหรือกฏระเบียบอื่นๆ โดยหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุด พฤติกรรมผู้บริโภค = Consumer behavior การตัดสินใจและกระทำการใด ๆ ของผู้บริโภคซึ่งเป็นหน่วยเศรษฐกิจมูลฐาน เกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ เพื่อการบริโภคส่วนบุคคล แต่ไม่ใช่เพื่อการผลิตหรือนำไปขายต่อ การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นการศึกษาในแขนงของเศรษฐศาสตร์จุลภาค เพื่อให้ทราบว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมในการซื้อหรือบริโภคสินค้าและบริการต่างๆ อย่างไรภายใต้สภาวการณ์ต่างๆ ผู้บริโภค = Consumer ผู้ที่ใช้ประโยชน์จากสินค้าหรือบริการขั้นสุดท้าย เพื่อตอบสนองความต้องการโดยตรงของบุคคลผู้นั้นโดยทั่วไป ผลที่ได้รับจากการบริโภคคือ อรรถประโยชน์หรือความพอใจ ผู้บริโภคอาจจะเป็นปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล ครัวเรือน และอาจหมายถึงรัฐบาลด้วยก็ได้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า การซื้อสินค้าหรือบริการนั้นจะต้องไม่ใช่เป็นการนำไปผลิตหรือขายต่อ เกมที่ผลรวมคงที่ = Constant -sum game การแข่งขันด้วยการใช้กลยุทธ์ต่างๆ ระหว่างคู่แข่งขันที่ทำให้ผลรวมของผลตอบแทนที่คู่แข่งขันได้รับ มีจำนวนคงที่เสมอไม่ว่าแต่ละฝ่ายจะใช้กลยุทธ์ใดหรือมีผลได้หรือเสียเท่ากันหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าผลตอบแทนที่คู่แข่งขันได้รับรวมกันแล้วไม่คงที่ ก็เรียกเกมประเภทนี้ว่าเกมส์ที่ผลรวมไม่คงที่ ตลาดแข่งขัน = Competitive market ตลาดที่มีผู้ซื้อและผู้ขายรายย่อยๆ จำนวนมาก แต่ละรายจะทำการผลิตและขายสินค้าอย่างเป็นอิสระต่อกัน ไม่มีผู้ซื้อหรือผู้ขายรายใดมีอิทธิพลเหนือตลาด หรือไม่มีการสมรู้ร่วมคิด เพื่อกำหนดราคาหรือปริมาณสินค้าในตลาดได้ กระแสเงินสด = Cash ratio ปริมาณสุทธิของเงินสดที่หมุนเวียนอยู่ในมือของหน่วยธุรกิจหนึ่งๆ ซึ่งก็คือ จำนวนเงินสดที่ได้รับ ลบด้วยจำนวนเงินสดที่จ่ายไปจากการดำเนินกิจกรรมใดๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง กระแสเงินสดนี้จะแสดงถึงงบรายจ่าย ที่เป็นเงินสดจริงๆ ของกิจการ การไหลออกของเงินทุน = Capital outflow การที่เงินทุนของประเทศหนึ่งมีการเคลื่อนย้ายไปยังประเทศอื่น เช่น การนำเงินไปลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ การลงทุนในหลักทรัพย์ของต่างประเทศ การให้กู้ยืมแก่ต่างประเทศ เมื่อมีการไหลออกของเงินทุนจะมีการบันทึกในด้านรายจ่ายในบัญชีดุลการชำระเงินของประเทศนั้น ๆ คำที่ตรงกันข้ามกับคำนี้ คือ การไหลเข้าของเงินทุน การเคลื่อนย้ายทุน = Capital movement การไหลเข้าออกของเงินทุนระหว่างประเทศทั้งในส่วนของภาคเอกชนและรัฐบาล ทั้งที่เป็นการลงทุนทางตรงและการลงทุนทางอ้อม การไหลเข้าออกของเงินทุนนี้มีการบันทึกไว้ในบัญชีเงินทุน ซึ่งเป็นบัญชีย่อยของบัญชีดุลการชำระเงิน ผลขาดทุนจากมูลค่าทุน = Capital loss การที่ทรัพย์สินประเภททุนอันได้แก่ บ้าน ที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่น ๆ มีราคาลดลง ทำให้ราคาที่ขายได้น้อยกว่าราคาที่ซื้อมา ซึ่งเป็นกรณีตรงกันข้ามกับผลกำไรจากมูลค่าทุน บัญชีการเงิน = Capital and finance account รายการแสดงการไหลเข้าออกของเงินทุนระหว่างประเทศของประเทศหนึ่งๆ ทั้งในภาครัฐบาลและภาคเอกชน ซึ่งเงินทุนดังกล่าวอาจเป็นการลงทุนทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาล การซื้อหุ้น การฝากเงินกับธนาคารหรือการให้กู้ยืม เป็นต้น บัญชีเงินทุนนี้เป็นบัญชีย่อยบัญชีหนึ่งในบัญชีดุลการชำระเงิน การสะสมทุน = Capital accumulation มีความหมายเดียวกันกับคำว่า การสร้างทุน หมายถึงการเพิ่มปริมาณ สินค้าทุน เช่น อาคารโรงงาน เครื่องจักร เครื่องมืออุปกรณ์ เป็นต้น ซึ่งเท่ากับการลงทุนมวลรวม ในสินทรัพย์ประเภททุนหักด้วยค่าเสื่อมราคา หรือที่เรียกว่าการลงทุนสุทธิ การสะสมทุนที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความสามารถที่หน่วยผลิตหรือประเทศนั้นจะผลิตสินค้าและบริการได้มากขึ้นในอนาคต การขาดดุลงบประมาณ = Budget deficit ภาวะที่รายจ่ายในปีหนึ่งๆ มากกว่ารายได้ในปีนั้น โดยทั่วไปมักจะนำมาใช้อธิบายสถานการณ์ที่รายได้ของรัฐบาลอันได้แก่ รายรับจากภาษี และรายรับอื่นที่รัฐบาลหามาได้มีน้อยกว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ของรัฐบาล ภาวะที่ตรงกันข้ามเรียกว่า การเกินดุลงบประมาณ นายหน้า = Broker ผู้เป็นตัวกลางให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกัน หรือเป็นตัวแทนให้แก่ผู้ซื้อหรือผู้ขายในการซื้อขายสินค้าเงินตรา หรือหลักทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนจากการทำหน้าที่ดังกล่าวตามสัดส่วนของมูลค่าซื้อขาย การซื้อขายสินค้าบางประเภทหรือบริการบางประเภท กฎหมายกำหนดให้กระทำผ่านนายหน้าเท่านั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ การซื้อขายกรมธรรม์ประกันชีวิต เป็นต้น ในกรณีของตลาดหลักทรัพย์ เมื่อพูดถึง "นายหน้า" มักหมายถึง บริษัทสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ อุดมภาพแบบพาเรโต = Pareto opimal ภาวะที่เกิดการจัดสรรทรัพยากรหรือผลผลิตได้ทำให้สังคมได้รับสวัสดิการสูงสุดแล้ว เมื่อบรรลุภาวะนี้แล้ว จะไม่สามารถทำให้บุคคลหนึ่งดีขึ้นโดยมิทำให้อีกบุคคลหนึ่งเลวลงได้อีก การจัดสรรทรัพยากรดังกล่าว จึงมีประสิทธิภาพสูงสุดตามแนวคิดของวิลเฟรโด พาเรโต นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาเลียน ภาวะเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัยกลไกตลาดโดยมีโครงสร้างตลาดแบบแข่งขันสมบูรณ์เท่านั้น ไม่มีของฟรี = No free lunch เป็นสำนวนที่บ่งบอกให้ทราบว่า ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดที่เราได้มาฟรีๆ โดยไม่มีต้นทุนหรือไม่ต้องแลกกับสิ่งอื่น เพราะทรัพยากรในโลกนี้มีจำกัด การได้มาซึ่งสิ่งหนึ่งจะต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่ง หรือ ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง ทุกครั้งที่ตัดสินใจใช้ทรัพยากรจึงต้องมีการ แลกได้แลกเสีย เกิดขึ้นเสมอ ตลาดผู้ขายน้อยราย = Oligopoly เป็นรูปแบบหนึ่งของตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ ตลาดผู้ขายน้อยรายมีลักษณะที่สำคัญดังนี้ 1. จำนวนผู้ผลิตเพียงไม่กี่ราย โดยที่สินค้าหรือบริการของผู้ผลิตแต่ละรายมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณทั้งหมดในตลาด 2. สินค้าหรือบริการของผู้ผลิตแต่ละรายอาจมีลักษณะเหมือนกันหรือแตกต่างกันก็ได้ แต่สามารถใช้ทดแทนกันได้ 3. ผู้ผลิตรายใหม่อาจถูกกีดกันหรือมีอุปสรรคต่อการเข้าสู่ตลาด หากมีการแข่งขันในตลาดประเภทนี้ก็มักจะเป็นการแข่งขันที่ไม่ใช้ราคา แต่ก็มีหลายกรณีที่ผู้ผลิตหรือผู้ขายแต่ละรายร่วมมือกัน เพื่อร่วมกันกำหนดราคาหรือปริมาณสินค้าในตลาด แบบจำลองที่อธิบายพฤติกรรมของหน่วยผลิตในตลาดประเภทนี้จึงมีหลายแบบ การตลาด = Marketing การดำเนินกิจกรรมในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งที่เกี่ยวกับการนำเสนอสินค้าและบริการ เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ จนถึงขั้นการนำสินค้าหรือบริการนั้นไปถึงมือของผู้บริโภค เช่น การสร้างภาพลักษณ์ด้วยมาตรฐานสินค้าและหีบห่อ การโฆษณาชวนเชื่อ การขายและการส่งเสริมการขาย การวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความล้มเหลวตลาด = Market failure การที่ระบบตลาดหรือกลไกราคาไม่สามารถทำหน้าที่ในการจัดสรรทรัพยากรชนิดหนึ่ง ๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดหรือบรรลุซึ่งสวัสดิการสูงสุดได้ ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้ 1. โครงสร้างตลาดเป็นแบบผูกขาด 2. สารสนเทศไม่สมบูรณ์ 3. สินค้านั้นเป็นสินค้าสาธารณะ 4.เกิดผลกระทบภายนอก จากการผลิตหรือการบริโภคสินค้าในกรณีที่เกิดความล้มเหลวของตลาด มักมีข้อเสนอให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงการจัดสรรทรัพยากรนั้นๆ พลังตลาด = Market forces แรงผลักดันของอุปทานตลาดที่เกิดจากฝ่ายผู้ผลิตหรือผู้ขาย และแรงผลักดันของอุปสงค์ตลาด ที่เกิดจากฝ่ายผู้บริโภคหรือผู้ซื้อในตลาดหนึ่งๆ โดยที่แรงผลักดันทั้งสองนี้ ส่งผลให้มีการปรับตัวของระดับราคาและ /หรือปริมาณการซื้อขายจนสมดุลกัน นักเศรษฐศาสตร์สำนักคลาสสิกมีความเชื่อว่าในระยะยาวพลังตลาดจะช่วยผลักดันให้ระบบเศรษฐกิจเข้าสู่สภาวะสมดุลและก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการแทรกแซงรัฐบาล ความพึงใจในสภาพคล่อง = Liquidity preference ความพอใจที่ปัจเจกบุคคลหรือประชาชนมีต่อปริมาณเงินที่ถือเอาไว้ในมือ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปของความต้องการถือเงินนั้นไว้เพื่อใช้จ่ายในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนั้น คำนี้จึงมีความหมายเดียวกันกับคำว่า อุปสงค์สำหรับเงิน เศรษฐศาสตร์เชิงบรรทัดฐาน = Normotive economics หมายถึงการศึกษาวิเคราะห์และแสดงทัศนะทางเศรษฐศาสตร์ที่อิงอยู่กับบรรทัดฐานหรือวิจารณญาณส่วนบุคคล ดังนั้น สิ่งที่นำเสนอหรืออธิบายจึงมักจะเกี่ยวข้องกับการตัดสินว่าปรากฏการณ์หรือพฤติกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ ดีหรือไม่ดี และ ควรหรือไม่ควร เศรษฐศาสตร์เชิงสัจจะ = Positive economics หมายถึง เศรษฐศาสตร์ที่ครอบคลุมหรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือข้อความที่อธิบายถึงปรากฎการณ์ใดๆ ที่เคยเป็น หรือกำลังเป็นอยู่ หรือจะเป็นในอนาคต ซึ่งสามารถพิสูจน์ความถูกต้องของเนื้อหาหรือข้อความนั้นได้โดยอาศัยประจักษ์พยานจากข้อเท็จจริง โดยหลักแล้วเนื้อหาหรือข้อความที่เป็นเศรษศาสตร์เชิงสัจจะจะต้องปราศจากซึ่งวิจารณญาณส่วนบุคคล ความโน้มเอียงในการบริโภคหน่วยท้าย = Marginal propensity to consume : MPC หมายถึง ค่าใช้จ่ายในการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อระดับรายได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหนึ่งหน่วย เช่น ถ้ารายได้เพิ่มขึ้น 100 บาท การบริโภคเพิ่มขึ้น 80 บาท ค่าความโน้มเอียงในการบริโภคหน่วยท้ายในที่นี้เท่ากับ 0.8 การแปรรูปกิจการเป็นของรัฐ = Nationalization การที่รัฐบาลเข้าไปถือครองและควบคุมกิจการที่แต่เดิมเป็นของเอกชนให้มาอยู่ภายใต้การดำเนินงานโดยรัฐ เหตุผลการแปรรูปกิจการเป็นของรัฐมีหลายประการ เช่น เพื่อป้องกันการผูกขาดในธุรกิจขนาดใหญ่ของเอกชน หรือเข้าไปประคับประคองธุรกิจที่เอกชนดำเนินการแล้วล้มเหลวให้สามารถดำเนินการต่อไปได้หรือเป็นนโยบายทางการเมืองที่ต้องการให้กิจการต่างๆตกมาเป็นของรัฐ เช่น นโยบายของรัฐบาลในประเทศที่เป็นสังคมนิยม การแปรรูปในอีกลักษณะหนึ่งที่ตรงกันข้ามกับวิธีนี้ คือ การแปรรูปเป็นของเอกชน เศรษฐศาสตร์การพัฒนา = Development economics เป็นสาขาหนึ่งของวิชาเศรษฐศาสตร์ที่นำเอาทฤษฎีทางด้านเศรษฐศาสตร์มาอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศที่มีระดับการพัฒนาต่างๆ กัน โดยพิจารณาที่ลักษณะและสาเหตุและยังเป็นการศึกษาถึงแนวคิดและปัจจัยที่สนับสนุนและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา รวมทั้งนำเอาความรู้ทางเศรษฐศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับประเทศด้อยพัฒนาอีกด้วย การหนีภาษี = Tax evasion การที่ผู้เสียภาษีพยายามหลบหนีหรือละเว้นหน้าที่ในการเสียภาษีตามข้อบัญญัติของกฎหมาย เพื่อตนเองจะได้ไม่ต้องเสียภาษีทั้งหมดหรือบางส่วน โดยความพยายามนี้ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย การเลี่ยงภาษี = Tax avoidance วิธีการที่ผู้เสียภาษีพยายามทำให้ตนเองเสียภาษีให้น้อยลงหรือจ่ายภาษีเฉพาะที่จำเป็นโดยไม่ผิดกฎหมายเนื่องจากผู้เสียภาษีได้อาศัยช่องโหว่ของกฎหมายที่อาจจะยังไม่มีข้อห้ามหรือข้อกำหนดที่ชัดเจน หรือมีข้อยกเว้นไว้ให้ ต่างจากการหนีภาษีซึ่งมีเจตนาที่จะไม่เสียภาษีทั้งที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามข้อกำหนดของกฎหมายทุกประการ Last Updated ( Monday, 09 July 2007 ) การเสนอซื้อต่อผู้ถือหุ้นทั่วไป = Tender offer หมายถึง การที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลคณะหนึ่ง แจ้งแก่บรรดาผู้ถือหุ้นโดยทั่วไปหรือผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ทราบถึงความประสงค์ที่จะซื้อหุ้นของกิจการหรือบริษัทหนึ่งๆ โดยระบุจำนวนหุ้น ราคาและระยะเวลาที่ต้องการจะรับซื้อไว้อย่างขัดเจน การเสนอซื้อต่อผู้ถือหุ้นทั่วไปมักถูกนำมาใช้เมื่อผู้เสนอซื้อต้องการถือหุ้นเพิ่มเติมให้ครบตามสัดส่วนที่ต้องการ หรือเมื่อต้องการจะเข้าไปมีอำนาจควบคุมการบริหาร หรือ การครอบงำกิจการ ในบริษัทหนึ่งๆ โดยปกติแล้วราคาที่เสนอซื้อหุ้นต่อผู้ถือหุ้นทั่วไปมักจะสูกกว่าราคาตลาด ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้ผู้ถือหุ้นทั่วไปยินดีขายหุ้น นั้นให้แก่ผู้เสนอซื้อ ตัวแทนถือทรัพย์ = Nominee บุคคลหรือสถาบันผู้ได้รับการแต่งตั้งหรือได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนในการถือและดูแลหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นใดแทนผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งจะต้องมีการโอนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นใดแทนผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งจะต้องมีการโอนหลักทรัพย์ให้แก่ตัวแทนถือหลักทรัพย์ แต่ตัวแทนจะไม่ได้รับประโยชน์ในรูปของดอกเบี้ย จากหลักทรัพย์นั้นเพียงแต่จะได้รับค่าธรรมเนียมในการดูแลตามอัตราที่ได้ตกลงกัน ผู้ดูแลและรักษาทรัพย์สิน (Custodian) เป็นตัวอย่างหนึ่งของตัวแทนถือหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม มีผู้ลงความเห็นว่า ตัวแทนถือหลักทรัพย์อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือที่ส่อในทางทุจริตได้ เช่น การผ่องถ่ายทรัพย์สิน การซุกหุ้น การถือหุ้นเกินกำหนด และการปั่นหุ้น เป็นอาทิ ความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ = Conflict of interest ผลประโยชน์ทับซ้อนหมายถึง ความขัดแย้งหรือไม่ลงรอยกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ขององค์กรหรือส่วนรวม ตัวอย่างเช่น นักธุรกิจที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอาจมีความขัดแย้งกันระหว่างผลกำไรของบริษัทที่ตนเองเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติ จากการตัดสินใจดำเนินมาตรการบางอย่างผ่านกลไกของรัฐ หุ้นสามัญ = Common Stock คือตราสารที่แสดงความเป็นเจ้าของกิจการ โดยผู้ถือหุ้นสามัญมีสิทธิเรียกร้องต่อบริษัทเป็นรายสุดท้ายหลังจากเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นประเภทอื่น ผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นสามัญได้รับอยู่ในรูปเงินปันผล เฉพาะกรณีที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผล ซึ่งได้มาจากกำไรจากการประกอบการ หุ้นบุริมสิทธิ์ = Preferred Stock คือตราสารที่มีลักษณะกึ่งหนี้และกึ่งเจ้าของ (Hybrid) ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์จะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลก่อนผู้ถือหุ้นอื่นและมีสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของบริษัทก่อนผู้ถือหุ้นสามัญแต่หลังเจ้าหนี้ หุ้นกู้ด้อยสิทธิ = Subordinated Debenture คือหุ้นกู้ที่มีสิทธิในการได้รับชำระหนี้คืนเป็นอันดับรองจากหุ้นกู้ หุ้นกู้ = Corporate Debenture คือตราสารทางการเงินที่บริษัททั่วไปออกเพื่อกู้เงินระยะยาว (มากกว่า 1 ปี) โดยบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะจ่ายผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยตามระยะเวลาและอัตราที่กำหนดและปกติเป็นการกู้เงินที่ไม่มีหลักประกันแต่บางครั้งก็มีผู้ออกเงินกู้ชนิดมีหลักประกัน พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ = State Enterprise Bond คือตราสารทางการเงินที่รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ออกเพื่อนกู้ยืมเงินระยะยาว (มากกว่า 1 ปี) พันธบัตรรัฐบาล = Government Bond คือตราสารทางการเงินที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ออกเพื่อนเป็นการกู้เงินระยะยาวมากกว่า 1 ปี มีอายุการชำระเงิน งวดการจ่ายดอกเบี้ย และอัตราดอกเบี้ยกำหนดไว้แน่นอน บัตรเงินฝาก = Certificate of Deposits: CDs คือตราสารที่ธนาคารออกให้แก่ผู้ฝากเงิน เพื่อเป็นหลักฐานการรับฝากเงินและเพื่อแสดงสิทธิของผู้ทรงตราสารที่จะได้รับเงินฝาก เมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้ โดยทั่วไปสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน = Promissory Note คือ ตราสารทางการเงิน ซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ออกตั๋ว ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้เงิน จำนวนหนึ่งให้ ผู้รับเงิน ที่ใช้กันทั่วไปในประเทศคือ ตั๋วเงินที่บริษัทเงินทุนและบริษัทเครดิตฟองซิแอร์เป็นผู้ออกเพื่อนระดมเงินจากประชาชนทั่วไป ตั๋วแลกเงิน = bill of exchange คือ ตั๋วเงินชนิดหนึ่งเป็นตราสารแสดงสิทธิแห่งหนี้ มักใช้ในการซื้อสินค้าหรือกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคารโดยทั่วไปสามารุซื้อขายเปลี่ยนมือได้ ตั๋วเงินคลัง = Treasury bill คือ หลักทรัพย์ที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังออกมาเพื่อกู้ยืมระยะสั้น อายุไม่เกิน 1 ปี ในการขายตั๋วเงินคลังการะทรวงการคลังได้มองหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดการแทน โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อตั๋วเงินคลังได้โดยการประมูลซื้อหรือโดยการเสนอซื้อจากธนาคารแห่งประเทศไทย ตราสารหนี้ = Fixed Income Security คือ ตราสารเพื่อการกู้ยืมเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวโดยผู้กู้หรือผู้ออกตราสารจ่ายผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยและมีกำหนดการจ่ายชำระคืนเงินต้นที่แน่นอน ผู้ถือตราสารจะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของกิจการที่ออกตราสารนั้น หามาได้แต่ไม่รู้ ผมโง่อังกฤษ มากกกก
โดย
jarupit
ศุกร์ ต.ค. 01, 2010 4:55 pm
0
0
สำรวจ(ความสูง?)อายุของชาวTHAIVI ครับ
18 เต็มมพรุ่งนี้ครับบบ
โดย
jarupit
พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2010 1:59 pm
0
0
TVI มีตติ้งภาคใต้ ไตรมาส 2/2553
ทานข้าวเช้าแล้วยังครับบ
โดย
jarupit
เสาร์ ส.ค. 28, 2010 8:48 am
0
0
TVI มีตติ้งภาคใต้ ไตรมาส 2/2553
พี่ๆครับ เจอกันพุ่งนี้ครับ ทำไงดีไม่รู้จักใครเลย 55+ รับไหว้ผมด้วยนะครับ :roll:
โดย
jarupit
ศุกร์ ส.ค. 27, 2010 5:09 pm
0
0
TVI มีตติ้งภาคใต้ ไตรมาส 2/2553
ผมนำทางได้ครับ ถ้าใครสะดวกให้ผม ช่วยได้ครับ
โดย
jarupit
จันทร์ ส.ค. 16, 2010 8:14 pm
0
0
TVI มีตติ้งภาคใต้ ไตรมาส 2/2553
ไม่มีใครตอบผมเลยย งั้นผมจอง 1 ที่ครับ ต้องบอกรายละเอียด อะไรบ้าง
โดย
jarupit
จันทร์ ส.ค. 16, 2010 9:59 am
0
0
TVI มีตติ้งภาคใต้ ไตรมาส 2/2553
พี่ครับผมไม่รู้จักพี่สักคนเลยครับ ถ้าจะไปต้องทำยังไงบ้า่งครับ รบกวนพี่ๆ ชี้แนะด้วยครับบ
โดย
jarupit
อาทิตย์ ส.ค. 15, 2010 6:52 pm
0
0
TVI มีตติ้งภาคใต้ ไตรมาส 2/2553
พี่ครับผมไม่รู้จักพี่สักคนเลยครับ ถ้าจะไปต้องทำยังไงบ้า่งครับ
โดย
jarupit
อาทิตย์ ส.ค. 15, 2010 8:37 am
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
ขอด้วยครับบบบบ
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
jarupit
ศุกร์ ก.ค. 16, 2010 6:12 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
ผมเข้าใจว่าเงินที่ขอพ่อคงไม่ใช่น้อยๆพ่อเลยไม่ให้ ตอนผมทำกิจการนู่นนี่ของตัวเองสมัยเด็กๆพ่อแม่ผมก็ไม่เคยให้เงินเหมือนกัน ผมก็ใช้เงินเก็บตัวเอง เปิดพอร์ตผมก็ใช้เงินเก็บตัวเอง ผมคิดว่าถ้าอยากจะเปิดพอร์ตตอนนี้ใช้เงินเก็บตัวเองซัก5000-10000นี่ก็น่าจะมีถึง ผมว่าพ่อแม่น่าจะยอมเพราะเป็นเงินเก็บตัวเอง แต่ถ้าอยู่ๆไปขอเป็นแสนเป็นล้านผมเชื่อว่าไม่มีใครให้หรอกครับ ผมยังไม่ได้พูดถึงจำนวนเงินเลยครับ ผมแค่บอกให้พ่อลงทุนด้วย เพราะพ่อกำลังกู้ซื้อบ้านใหม่ สภาพคล่องเลยน้อย บอกไม่มีตังแต่จะเอาบ้านน ตอนนี้ผมมีตังเก็บ 1900 บาทครับ 55 ตอนมีตังเป็นช่วงเกเร ผมใช้หมดครับ กับพ่อแม่ผมไม่หวงตังด้วย วันไหนคนมาเก็บค่าไฟค่าน้ำ ถ้าผมอยู่บ้านผมควักตังตัวเองจ่ายครับ กิเลสผมมันเยอะครับ ผมเลยอยากรวย แต่มั่นใจว่าผมก็มีความอดทนบ้าง ตอนนี้ผมเลิกเที่ยวแล้ว ผมก้เจอปัญหามาพอควร เค้าก้ไม่ได้ห้ามเลยทีเดียวว แต่ให้เรียนจบก่อน
โดย
jarupit
พุธ ก.ค. 14, 2010 12:45 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
ผมเข้าใจว่าเงินที่ขอพ่อคงไม่ใช่น้อยๆพ่อเลยไม่ให้ ตอนผมทำกิจการนู่นนี่ของตัวเองสมัยเด็กๆพ่อแม่ผมก็ไม่เคยให้เงินเหมือนกัน ผมก็ใช้เงินเก็บตัวเอง เปิดพอร์ตผมก็ใช้เงินเก็บตัวเอง ผมคิดว่าถ้าอยากจะเปิดพอร์ตตอนนี้ใช้เงินเก็บตัวเองซัก5000-10000นี่ก็น่าจะมีถึง ผมว่าพ่อแม่น่าจะยอมเพราะเป็นเงินเก็บตัวเอง แต่ถ้าอยู่ๆไปขอเป็นแสนเป็นล้านผมเชื่อว่าไม่มีใครให้หรอกครับ ผมยังไม่ได้พูดถึงจำนวนเงินเลยครับ ผมแค่บอกให้พ่อลงทุนด้วย เพราะพ่อกำลังกู้ซื้อบ้านใหม่ สภาพคล่องเลยน้อย บอกไม่มีตังแต่จะเอาบ้านน ตอนนี้ผมมีตังเก็บ 1900 บาทครับ 55 ตอนมีตังเป็นช่วงเกเร ผมใช้หมดครับ กับพ่อแม่ผมไม่หวงตังด้วย วันไหนคนมาเก็บค่าไฟค่าน้ำ ถ้าผมอยู่บ้านผมควักตังตัวเองจ่ายครับ กิเลสผมมันเยอะครับ ผมเลยอยากรวย แต่มั่นใจว่าผมก็มีความอดทนบ้าง ตอนนี้ผมเลิกเที่ยวแล้ว ผมก้เจอปัญหามาพอควร เค้าก้ไม่ได้ห้ามเลยทีเดียวว แต่ให้เรียนจบก่อน
โดย
jarupit
พุธ ก.ค. 14, 2010 12:43 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
[quote="simpleBE"]อยากลงทุนแต่พ่อไม่เข้าใจ ก็ต้องหาสาเหตุุว่าทำไมพ่อถึงห้าม พ่อห้ามเพราะคิดว่าเป็นการพนัน
โดย
jarupit
อังคาร ก.ค. 13, 2010 6:08 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
อ่านแล้วเห็นอนาคต :8) ... เป็นไงบ้างพี่ อนาคตผมมม
โดย
jarupit
อังคาร ก.ค. 13, 2010 5:40 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
อ่านแล้วเห็นอนาคต พี่ทำนายให้ผมหน่อยน่ะ เอาแบบไม่เวอร์น่ะ กะมีกิ๊ก สัก4 คน ผมจะดูแลได้ไม๊เนี่ย 55+
โดย
jarupit
จันทร์ ก.ค. 12, 2010 8:04 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
[quote="MindTrick"]คล้ายเรื่องในหนังสือ Rich dad poor dad ของน้อง rich dad คือพ่อแฟน ประวัติเก่า เราไม่ดี เราลบด้วยคำพูดไม่ได้ ต้องลบด้วยผลลัพท์ โชว์การกระทำดีๆ ให้เห็น เป็นผมๆจะเก็บตังอย่างน้อยสัก1-2หมื่น ขอฝากตังเข้าพอร์ตพ่อแฟน แล้ว ลงทุน โดยข้อดี คือ 1.น้องจะเลือกหุ้นรอบคอบมาก..ไม่งั้น ซื้อๆขายๆ บ่อย เค้าจะรำคาญเด็ก ทั้งที่บอกว่าจะใช้แนววีไอ ...พลอยหวงลูกสาวไปอีกด้วย 555 2.ได้โค้ชใกล้ชิดจริงๆ...เพราะพ่อแฟนเก่งกว่าเรา ห่วงเราล้ม แอบเฝ้าดูเรา 3.ถ้าพอร์ตโต เผลอๆ ได้ทั้งลูกสาว ได้ทั้งเงินทุนให้ช่วยบริหาร ...เป็นจริงได้นะ แต่ต้องพิสูจน์ยาวหน่อย เข้าทางพ่อนี่ล่ะครับ
โดย
jarupit
จันทร์ ก.ค. 12, 2010 8:01 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
[quote="Lu Xun"]อายุ 18 น่าจะเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าพ่อไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องคุยเรื่องนี้ เฉยๆไว้ก่อนครับ เค้าห้ามเพราะว่าเค้าไม่เข้าใจ จึงเป็นห่วง ระหว่างนี้ถ้ายังไม่มีรายได้อะไร ก็เก็บเงินค่าขนมไว้ให้ได้สัก 10,000 บาท เมื่อคิดว่าตัวเองพร้อมก็มาเปิดพอร์ตลงทุนตามที่พี่ ส.สลึงแนะนำได้เลย - ตั้งใจเรียน - ประหยัด อดออม ต้องยอมมีชีวิตที่ต่างจากวัยรุ่นคนอื่นทั่วไป คนอื่นเดินห้าง..เราหาข้อมูล คนอื่นดูหนัง..เราดูหนังสือ คนอื่นเที่ยวผับ กินเหล้า...เราไปงานสัมมนา คนอื่นอยากได้รถ อยากได้สาว...เราอยากให้พอร์ทโต - เรียนมหาวิทยาลัย มีเวลาเหลือเยอะ ก็ไปหารายได้เพิ่มครับ งาน Part-Time มีมากมาย (ไม่ต้องอายครับ) แล้ววันนึงน้องก็ทำให้พ่อเห็นว่าสิ่งที่น้องทำมันมีเหตุมีผล และเป็นแนวทางที่ถูกต้อง อดทน 12 ปี หลังจากนี้ แล้วน้องจะมีชีวิตที่คนอื่นต้องอิจฉาแน่นอน พ่อแม่เองก็คงภูมิใจ โชคดีนะครับ
โดย
jarupit
จันทร์ ก.ค. 12, 2010 7:58 pm
0
0
Re: สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
เพราะพ่อผมมีนิสัยไม่เหมือนใครครับ และผมก้มีนิสัยเหมือนลูกทุกคนครับ คือ ต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ครับ จำเป็นครับ ถ้าผมจะเริ่มลงทุนตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ จะบอกให้ครับ ว่าตอน14 ผมเคยค้าขาย เงินเป็นหมื่นๆครับ เงินผมเองครับ :lol:
โดย
jarupit
จันทร์ ก.ค. 12, 2010 7:51 pm
0
0
Re: สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
จะลงทุน ? ทำไมต้องรอให้พ่อเข้าใจ ? ไม่จำเป็นเลยครับ ปล. ไม่ใช่น้า Lynch ผมก็เลยไม่รู้ครับ :) ? เพราะพ่อผมมีนิสัยไม่เหมือนใครครับ และผมก้มีนิสัยเหมือนลูกทุกคนครับ คือ ต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ครับ จำเป็นครับ ถ้าผมจะเริ่มลงทุนตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ จะบอกให้ครับ ว่าตอน14 ผมเคยค้าขาย เงินเป็นหมื่นๆครับ เงินผมเองครับ :lol: :lol: :wink: :wink: ดีน่ะครับที่ไม่ใช่ลุงลินซ์ ถ้ายังไม่อ่านไม่ว่าครับ แต่ถ้าอ่านแล้วผมขอก้าวร้าวน่ะครับว่า กวน....
โดย
jarupit
เสาร์ ก.ค. 10, 2010 5:23 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
ถ้าน้องตั้งใจจริงขนาดนั้นพี่คิดว่าน้องคงได้อ่านกระทู้ของคุณลูกอิสานในคลังกระทู้คุณค่าแล้ว ลองหาโอกาสไปร่วมงานจิบกาแฟภาคใต้ดูนะครับ เชื่อว่าน้องจะได้รับมุมมองดีๆ มากมายเลยทีเดียว ส่วนเรื่องตาหัวหงอกน่ะ พิมพ์มาเต็มๆ ย่อหน้าได้ไหมครับ จะได้ช่วยกันดู ขอบคุณครับ กระทู้ดีๆมีเยอะแยะเลยครับ อ่านได้นิดเดียวเอง มันเยอะมากหลายคนด้วย ยังไม่กล้าอ่านเท่าไหร่กลัวติด อ่านของพี่สุยศักดิ์ อยู่เพราะยังตามทัน เด๋วปิดเทอมนี้คงจะได้อ่าน ถ้าไม่อยาก เอ็นติด 55+ ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่า จะศึกษาอย่างจริงจัง หรือเผื่อไว้เรียนหนังสือ ก่อน
โดย
jarupit
เสาร์ ก.ค. 10, 2010 10:57 am
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
^^ น้องไม่ได้ทะเยอทะยานอย่างเดียวครับ ดื้อด้วย แต่นี่แหละคือคุณสมบัติที่จะไม่ทำให้เป็นแมงเม่า ตอบข้อ1นะครับ ผมเห็นด้วยกับพี่ปตอ.นะครับ เอดิสันจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับการประดิษฐ์มากแค่ไหน มันก็ไม่ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับนะครับ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ยิ่งถ้าอยากเป็นที่ยอมรับด้วยแล้ว คุณต้องประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดครับ ไม่ใช่เอาความพยายามมานำเสนอ ไม่มีใครมาทนฟังหรอกครับ "คุณต้องสำเร็จก่อน จึงจะมีคนฟังขั้นตอนของคุณ" ตอบข้อ2 ดีแล้วครับที่ไม่สนใจตลาด แต่ราคาหุ้นที่น้องพีชจะซื้อ มันอาจจะสูงเกินมูลค่าก็ได้นะครับ ยังไงระวังตรงนี้ด้วย เพราะพี่เองก็มีเงินสดเหลืออยู่ คันไม้คันมือแต่ยังไม่กล้าซื้อครับ ตอบข้อ3ครับ เยี่ยมมาก ที่จะไม่ท้อ แต่.... ถ้าโลงศพมาตั้งอยู่ข้างหน้า น้ำตาอาจจะไหลได้นะครับ ลองย้อนกลับไปอ่านกระทู้ที่โพสๆกันไว้เมื่อปลายปี2008ดูครับ หลายๆคนที่ว่าเซียนยังต้องให้กำลังใจกันเองเลยครับ หนังสือที่น้องอ่านทุกเล่ม พี่อ่านจบสามรอบมาก่อน4เดือนที่แล้วอีกครับ^^ ตอบข้อ4ครับ แน่ใจเหรอ???? ตอบคำถามพิเศษ เพราะน้องเคยเกเรมาไงครับ การจะพิสูจน์ตัวเองมันเลยต้องใช้เวลานิดหน่อย ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ขอบคุณพี่ chowbe76 มากครับ ถ้าโลงศพมาตั้งอยู่ข้างหน้า น้ำตาอาจจะไหลได้นะครับ ไหลแน่นอนครับ เรื่องบางเรื่องที่ผมเจอมาหลายครั้ง ผมยังหลั่งน้ำตาได้ทุกครั้งก็มีครับ เรื่องพ่อผมครับ มีอะไรจะโม้ครับ ตีแตกผมอ่าน 2 รอบแล้วครับ เย้้้ๆๆๆๆ พี่ครับของลุงลินซ์ พิมพ์ผิดเยอะมาก แล้วพวกหนังสือแปลผมว่า บางประโยคอ่านแล้วเข้าใจยากกมากก เปรียบเทียบอะไรก้ไม่รู้ ทำไงดีๆ ช่วยเผิดลุงลินซ์ แล้วแปล ย่อหน้าสุดท้าย หน้า179 ให้หน่อยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
โดย
jarupit
ศุกร์ ก.ค. 09, 2010 8:09 pm
0
0
สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ
ตอนเอดิสันประดิษฐ์หลอดไฟเขาทำยังไงให้คนเชื่อล่ะครับ ไม่ใช่แค่พูด ต้องพิสูจน์ และต้องใช้เวลาหลายปีครับ แม้แต่ผมเองถ้าเจ๊งหุ้นไปวันนี้ก็มีคนรอซ้ำเติมอยู่เพียบครับ ถ้ากังวลแค่เพราะเปิดพอร์ตไม่ได้ ก็รอหน่อยก็ได้ครับ อีก 2 ปีเอง หาความรู้แน่นๆ ลองหัดวิเคราะห์ หัดหาข้อมูล ฝึกฝนจิตใจ ไม่ต้องรีบร้อนครับ ดีซะอีกที่น้องมีเวลาคิดและเตรียมตัว ถ้าเข้ามาตอนนี้เพราะเห็นแค่ว่าตลาดมันกำลังขึ้น มันกำไรง่าย น้องเจ๊งแน่ครับ ลองหาข้อมูลจากคลังกระทู้คุณค่าดูก่อนครับ จะเห็นว่าคนที่เก่งๆ น่ะเค้าทำการบ้านกันแค่ไหน น้องอาจจะท้อไปเลยก็ได้ ขั้นตอนการทำกำไรมันไม่ได้มีแค่การซื้อขายครับ ถ้ายังไม่รู้จะทำไรน้องลองโหลดงบการเงิน กับ 56-1 มาประเมินราคาหุ้นเล่นๆ ดูซัก 10 - 20 ตัวก็ได้ครับ แล้วน้องจะรู้ว่าเวลาเตรียมตัวแค่ 2 ปี เผลอๆ จะน้อยเกินไป สุดท้าย ยินดีต้อนรับครับ :welcome: จะขอบอกข้อมูลตัวเองก่อนว่า ผมเป็นคนเกเร ผมกินเหล้าสูบบุหรี่ ผมโดนไล่ออกจากรร.ตอนม 4 เทอม 2 ผมเคยติดยาเสพติด ผมก้าวร้าว ทำให้พ่อผมไม่คิดว่าผมจะทำอะไรได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่เคยทิ้งการเรียน ผมมีความทะเยอทะยาน ผมต่างจากเด็กคนอื่น ผมสะสมพระเครื่อง ตั้งแต่เด็กๆ ประถม 2 ณ ตอนนี้ ม.6 ยังดูอยู่ และผมชอบค้าขาย และผมคิดว่ ผมสามารถประสบความสำเร็จจากหุ้นได้ 100% พี่เข้าใจผิดผมด้วย โอ๊ยเซ็งครับ 1.ตอนเอดิสันประดิษฐ์หลอดไฟเขาทำยังไงให้คนเชื่อล่ะครับ ไม่ใช่แค่พูด ต้องพิสูจน์ และต้องใช้เวลาหลายปีครับ แม้แต่ผมเองถ้าเจ๊งหุ้นไปวันนี้ก็มีคนรอซ้ำเติมอยู่เพียบครับ ไม่ได้แค่พูดครับ ผมอ่านหนังสือ ทุกวันครับ(หนังสือหุ้น) ตอบเรื่องลุงลินซ์ ด้วยครับถ้าพี่อ่าน 2.ถ้ากังวลแค่เพราะเปิดพอร์ตไม่ได้ ก็รอหน่อยก็ได้ครับ อีก 2 ปีเอง หาความรู้แน่นๆ ลองหัดวิเคราะห์ หัดหาข้อมูล ฝึกฝนจิตใจ ไม่ต้องรีบร้อนครับ ดีซะอีกที่น้องมีเวลาคิดและเตรียมตัว ถ้าเข้ามาตอนนี้เพราะเห็นแค่ว่าตลาดมันกำลังขึ้น มันกำไรง่าย น้องเจ๊งแน่ครับ ผมไม่ยักจะรู้ว่าตลาดมันกำลังขึ้นครับ อิอิ ผมมัวแต่นั่งดูงบการเงินบริษัทหลายๆบริษัททุกวันครับ สาเหตุที่สนใจเพราะ พ่อแฟนผมเค้าเล่นแล้วรวย ผมเลย google เลยครับ ไปๆมาๆเจอเ็ว็บนี้ครับ โดนครับ 5เดือนก่อนหน้านี้ไม่รู้เลยครับว่าซื้อขายยังไง 3.ลองหาข้อมูลจากคลังกระทู้คุณค่าดูก่อนครับ จะเห็นว่าคนที่เก่งๆ น่ะเค้าทำการบ้านกันแค่ไหน น้องอาจจะท้อไปเลยก็ได้ ขั้นตอนการทำกำไรมันไม่ได้มีแค่การซื้อขายครับ ไม่ท้อแน่ครับ นิสัยเอาแต่ใจไม่มีเหตุผลของปะป๊าผม ทำผมกับพี่ผม เป็นโรคมือจีบแล้วครับ ผมเครียดเป็นทุนเดิมอยุ่แล้วครับ ชินแล้ววว 4 เดือนมานี้อ่าน ตีแตก ดันโด มั่งคั่งอย่างบัฟเฟตต์ ไปแล้ว ตอนนี้อ่านลุงลินซ์อยู่ครับ แล้วของอาจารย์เบนเกรแฮม รออยู่ ก็พอรู้ว่าผมจะทำเงิน(กำไร)จากธุรกิจ ที่ผมจะเป็นเจ้าของครับ อิอิ 4.ถ้ายังไม่รู้จะทำไรน้องลองโหลดงบการเงิน กับ 56-1 มาประเมินราคาหุ้นเล่นๆ ดูซัก 10 - 20 ตัวก็ได้ครับ แล้วน้องจะรู้ว่าเวลาเตรียมตัวแค่ 2 ปี เผลอๆ จะน้อยเกินไป ไม่น้อยไปแน่ครับสำหรับการเริ่มต้น ยิ่งถ้าผมเรียนรามมมมม ฮ่าๆๆ ปล.คำตอบอาจจะห้วนๆน่ะครับ ไม่งั้นผมคงไม่ทะเลาะกับครูที่ปรึกษาผมทุกคน อิอิ แล้วผมอยู่หาดใหญ่ครับ วัน 16 ที่จะถึงนี้ มีสัมนาการลงทุน ที่โรงแรมได้มอนท์ พ่อไม่ให้ไปครับ พ่อบอกว่าต้องหยุดเรียนไปไม่ได้ เซ็งครับ บอกว่าเรียนให้จบก่อนแล้วค่อยไปทุ่มเทกับมัน(หุ้น) ทั้งที่ผมเกเรมาทุกรูปแบบแล้ว ทำไมพ่อผมถึงไม่ปล่อยผมไปสักทีเนี่ยยย รบกวนขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนต่อมหาลัยจากพี่ๆด้วยครับ ขอบคุณพี่ Anti-Aircraft มากๆครับ
โดย
jarupit
ศุกร์ ก.ค. 09, 2010 6:46 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
jarupit
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ที่อยู่:
ดินแดนแห่งความรัก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พฤหัสฯ. ก.ค. 08, 2010 6:33 pm
ใช้งานล่าสุด:
พุธ ต.ค. 23, 2013 1:30 am
โพสต์ทั้งหมด:
30 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
Don't have destiny ,have only intention !
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว