หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
jantorsang
Joined: ศุกร์ ก.ค. 09, 2010 1:11 pm
154
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - jantorsang
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
^ แสดงความยินดีด้วยครับจะได้เป็นอิสระจากหนี้บ้านแล้ว :D
โดย
jantorsang
จันทร์ ธ.ค. 15, 2014 4:44 pm
0
2
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
ช่วงที่หุ้นโดนสาดมา หางๆโวลุ่ม โอกาสเยอะมากครับ :)
โดย
jantorsang
จันทร์ ธ.ค. 15, 2014 4:23 pm
0
1
Re: หุ้นอะไรที่คิดว่าหุ้นอะไรที่ เป็นดาวเด่นและดาวร่วงในอีก
ประเด็นทุกวันนี้ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การคาดการณ์เทรนด์ล่วงหน้าโดยเฉพาะ5ปี สำหรับผมมันยากเหลือเกิน อย่าว่าแต่5ปีเลยแค่ล่วงหน้า2-3ปี ผมก็ยอมรับว่าเกินความสามารถผม ดังนั้นส่วนตัวผมเห็นว่าในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะลงทุุนแนวไหนก็ตามสิ่งที่กลายเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งของผมคือ "การบริหารความเสี่ยง เข้าใจในการเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับแนวทฤษฎีเดิมแต่ก็ยังคงแก่นแท้ตัวตนของเรา" คือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ เมื่อก่อนก็สำคัญมากเดี๋ยวนี้ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นอีกครับ ยิ่งแนววีไอที่จะถือลงทุนนานมากๆยิ่งต้องมีใส่ใจในการบริหารความเสี่ยงมากครับ เพราะไม่ว่าเราจะ อ่านมากเท่าไร ติดตามมากเพียงไหน ความเสี่ยงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และบ่อยครั้งกว่าในอดีต ความไม่ประมาทเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดครับ ข้างล่างเป็น e-book เจาะเทรนด์โลก 2015 โดย TCDC ครับ http://www.tcdc.or.th/src/20548/eBook-%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-2015-%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2-TCDC-%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B8-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5-%E0%B8%AA%E0%B8%B5-%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C-
โดย
jantorsang
เสาร์ พ.ย. 08, 2014 11:07 am
0
14
Re: สิ้นสุดยุคทองของ VI/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
อ่านบทความของท่านอาจารย์นี้แล้วให้อารมณ์เหมือนกำลังอาลัยเพื่อนเก่าที่ใกล้จะจากไปหรือกำลังเสื่อมมนต์ขลังลงทุกทีๆเลยครับ ก่อนอื่นส่วนตัวผมอ่านหนังสือของท่านอาจารย์มาตั้งแต่เริ่มลงทุนใหม่ๆ รวมทั้งหนังสือแนว VI ของท่านอื่นๆ เท่าที่ผมจะสามารถหาอ่านได้แต่ผมกลับเชื่อเรื่องตลาดมีเหตุผลนะซึ่งไม่รู้ว่าความหมายเดียวกับตลาดมีประสิทธิภาพหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่า ณ ขณะใดๆขณะหนึ่งนั้น ราคาของหุ้นในขณะนั้นเหมาะสมแล้วมีเหตุมีผลโดยสมบูรณ์แล้วของมันอยู่ (และความรู้สึกส่วนตัวผมถือว่าตลาดเป็นอาจารย์ผมท่านนึงเลยนะครับที่ให้บทเรียนให้ผมได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา) เพียงแต่ว่านักลงทุนแต่ละคนก็จะมีหลักการส่วนตัวของแต่ละคนเข้ามาใช้ทำนายราคาในอนาคตเมื่อเทียบกับสภาวการณ์แวดล้อมปัจจุบัน ใครถูกใครผิดใครแม่นยำอย่างไรเวลาจะเป็นผู้แสดงคำตอบ ผมคิดว่าหลักการVI นั้นมีเพียงประโยคเดียวสั้นๆเท่านั้นคือ “ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ได้รับ ขายเมื่อราคาสูงกว่ามูลค่าที่ได้รับ” เช่นเดียวกับแนวทางเทคนิคอลที่ก็เป็นเพียงประโยคเดียวสั้นๆเท่านั้นเช่นกันคือ “ซื้อเมื่อราคาดูเหมือนว่าจะขึ้น ขายเมื่อราคาดูเหมือนว่าจะลง” อันนี้ก็เหมือนกับประโยคทองอันนึงของท่านปลานิลจิ๋วแห่งพันทิปที่บอกว่า ”ถ้ามันเป็นอย่างที่เราคิดเราก็จะเล่นกับมัน” ส่วนการอธิบายเทคนิคการเล่นการลงทุนต่างๆตามหลักการประโยคข้างต้นรวมทั้งระยะเวลาในการถือครองหุ้นนั้นมันเป็นเพียงการแปรผันตามตัวตน ประสบการณ์ ความชำนาญ สังคม รวมทั้งสภาวการณ์ของประเทศของโลกของตลาดหุ้นเท่านั้น ในฐานะที่ผมเกิดและเติบโตในประเทศนี้ เห็นวิวัฒนาการของเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษารวมทั้งนิสัยใจคอของผู้คนรวมทั้งของตนเอง เมื่อมาเทียบเคียงสังเกตตลาดก็ไม่แปลกใจถึง ลักษณะความเป็นไปของบริษัทในตลาด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ผมคิดว่าแก่นแท้ของ VI ก็จะยังคงอยู่และใช้ได้ไปอีกนานเท่านานตราบใดที่ตลาดทุนแห่งนี้ยังใช้เป็นแหล่งระดมทุนอยู่ เพียงแต่วิธีการใช้ที่เหมาะสมจะถูกปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามความเปลี่ยนแปลงของตลาด ของเศรษฐกิจประเทศ และผลตอบแทนที่แต่ละคนจะได้รับจะมากน้อยก็ยังคงขึ้นกับว่าวิธีการที่เหมาะสมที่ใช้กับตลาดในช่วงนั้นเหมาะหรือขัดแย้งกับลักษณะตัวตน ความชำนาญของบุคคลนั้นหรือไม่ สุดท้ายผมยกย่องท่านอาจารย์อย่างสูงเสมอมา แม้ว่าในบางครั้งบางคราวอาจมีบ้างที่ผมไม่เห็นตามที่ได้อ่านหนังสือของท่านอาจารย์ซึ่งนั่นไม่สำคัญเลย แต่ผมพบว่าเมื่อผมอ่านหนังสือของท่านอาจารย์ไปเรื่อยๆเหมือนผมได้รับการฝึกฝนจากท่านอาจารย์ให้ “เข้าใจในการเปลี่ยนแปลง” อันนำมาซึ่งวิกฤตและโอกาสอันหาได้ยากในหนังสือของท่านอื่น กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ
โดย
jantorsang
อังคาร ต.ค. 21, 2014 2:49 pm
0
3
Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)
ขอบพระคุณคุณ Nevercry.boy เช่นกันนะครับสำหรับความเอื้อเฟื้อข้อมูลและการวิเคราะห์ ที่มีให้กับผมและเพื่อนนักลงทุนตลอดมา ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
โดย
jantorsang
พฤหัสฯ. ส.ค. 07, 2014 10:22 am
0
1
Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)
ขออธิบายเพิ่มเติมคำว่า เทรนด์ตลาด นะครับ เดี๋ยวเพื่อนๆจะเข้าใจผิดว่าผมให้หาวิธีคาดเดาตลาดว่าจะขึ้นลงกี่จุด สำหรับผมแล้วนั่นเสียเวลาและได้รับประโยชน์น้อย คำนี้ผมหมายถึงตลาดเป็นหุ้นตัวนึงให้รับรู้ถึง “มูลค่าตลาด” ดุจเดียวกับนักลงทุนแนววีไอใช้ระลึกถึงมูลค่าหุ้นครับ คำว่า “มูลค่า” จากการที่ผมได้ “สัมผัส” กับหนังสือของท่านอาจารย์ ผมสรุปรับรู้เฉพาะตนว่า เป็นประโยคเดียวสั้นๆ แฝงนัยยะจุดแข็งจุดอ่อนของกิจการนั้นๆพร้อมกันทีเดียว ผมขอยุติแต่เพียงนี้นะครับ เพราะผมตระหนักได้ว่าอาจเป็นการรบกวนแนวทางของเว็บ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทาง เฉพาะตนของเพื่อนนักลงทุนด้วยกัน วลีที่ผมระลึกถึงบ่อยๆคือ “กระบี่อยู่ที่ใจ วิกฤติเป็นคมด้านนึงของกระบี่ หากระบี่ของเราให้พบแล้วจะเจอโอกาสไปพร้อมกัน ในด้านตรงข้ามก็เป็นเช่นเดียวกัน ซึ่งที่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นโอกาสหรือวิกฤติล้วนเป็นสิ่งที่ใจเราระบุค่ามันเอง ถ้าเราวางกระบี่มันจะไม่มีทั้งโอกาสและวิกฤติ” “เมื่อมีใครคนนึงกำหนดเกมอยู่แล้วเกมดำเนินไปเช่นนั้น ถ้าอยากให้เกมเปลี่ยนไปซักเล็กน้อย ก็เพียงแต่โยนกรวดเล็กๆ ลงไปในบ่อน้ำ” “หุ้นไม่มีหัวใจ มันจึงรักใครไม่เป็น” ของท่าน โกศล ไกรฤกษ์ สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นแนวทางใดในการลงทุนก็ตาม ต้องมุ่งสู่ผลของคำว่า “จำกัดความเสี่ยง” ตรงกับวลีของท่าน ทพ. ยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม ปรมาจารย์คนนึงวงการหุ้น ที่ว่า “ไม่รู้คือเสี่ยง รู้คือไม่เสี่ยง” แล้วถ้า “จำกัดความเสี่ยง” คือเหตุ ผลคือ “อย่ายอมขาดทุน” วลีอมตะของท่านปรมาจารย์วอเรน บัฟเฟต์ ขอบคุณครับ
โดย
jantorsang
พุธ ส.ค. 06, 2014 10:43 am
0
6
Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)
แนวทางการลงทุนส่วนตัวผมผมคิดว่าเราจะประสบความสำเร็จแค่ไหนขึ้นกับ การที่เราทำตัวเป็นผู้สังเกตความเปลี่ยนแปลงในองค์ความรู้ 4 ประการนี้ได้แก่ ความรู้ ประสบการณ์การลงทุน เทรนด์ตลาด และตัวตนของเรา
โดย
jantorsang
จันทร์ ส.ค. 04, 2014 10:36 am
0
2
Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)
ขอบคุณคุณ pavilion ครับที่เตือนเพื่อนๆได้ถูกต้องแล้วครับว่าอย่าเชื่อเพียงแต่ได้อ่านหรือได้เห็น ขอบคุณคุณ dome@perth ครับ มันเป็นเช่นนั้นจริงครับ ผมขอรับพลังที่มอบมาจากคุณ pavilion แทนเพื่อนๆหลายคนแล้วขอแปรเป็นเรื่องราวถ่ายทอดบ้างนะ ครับ ถือเป็นเกร็ดไอเดียนิดหน่อยละกันนะครับ ข้อความอาจกระโดดไปกระโดดมาถือว่าฟังเพื่อนเล่าสบายๆละกันนะครับ (ชีวิตจริงผม เป็นคนเก็บตัว ไม่เข้าสังคมเลยไม่มีเพื่อนนะครับ ไม่เคยฟังสัมมนาหุ้นที่ไหนเลยที่มีคนเยอะๆ) ส่วนตัวผมไม่ใส่ใจไม่ให้น้ำหนักเกี่ยวกับเรื่องดวงเลย ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่มนุษย์สมมติขึ้นแทนเหตุปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นที่มนุษย์ไม่เข้าใจ ถ้าเราเชื่อในมุมมองนี้หมายถึงเราจะเป็น"ผู้ถูกกระทำ" เราถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว แต่ผมเชื่อว่าเราเป็น "ผู้กระทำ" ถึงแม้เราจะกำหนดไม่ได้ตามหลักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแต่เรากระทำได้ตามแนวทางแห่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เปลี่ยนมุมคิดชีวิตก็เปลี่ยน และนั่นเป็นเหมือนเครื่องปรุงแนวทางการลงทุนของผมไปด้วย เดี๋ยวอาจมาต่อนะครับ ขอแวะทำงานหน่อยนึงครับ
โดย
jantorsang
จันทร์ ส.ค. 04, 2014 10:19 am
0
5
Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)
ขอแชร์บ้างนะครับ เก็บไว้เป็นอนุสรณ์ในชีวิต เริ่มศึกษาจริงจังเข้าตลาดหุ้นตอนต้นปี 53 ครับ ด้วยเงินทุนประมาณห้าแสนกว่าบาท เข้าแต่หุ้นปันผล เป็นหลัก พอกลางปี 54 พอร์ตโตประมาณสามเท่ากว่าเป็นประมาณล้านแปด คิดว่าโชคดีมากกว่า เพราะตลาดหุ้นขึ้นมามาก ระหว่างนั้นก็พยายามศึกษาว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้หุ้นตัวนึงราคาขึ้นมาก พอเลยกลางปี 54 มีเรื่องที่ต้องใช้เงินเลยขายหุ้นออกจนพอร์ตเหลือแค่ประมาณสองแสนแปดหมื่น เลยคิดว่าต้องเปลี่ยนสไตล์การลงทุนใหม่ช่วงน้ำท่วมใหญ่พอดี จนขนาดพอร์ตเข้าประมาณแปดหลักต้นๆ ตอนนี้พอใจแล้วครับด้วยวิถีชีวิตที่ใช้เงินไม่มาก คิดว่าต่อไปนี้คงไปเรื่อยๆมากกว่าเพราะแรงกระตุ้นมอดไปเรื่อยๆครับทั้งหมดแทบจะไม่เติมเงินเพิ่มไปในพอร์ตเลยเพราะช่วงเข้าตลาดหุ้นจริงจังเป็นช่วงเปลี่ยนงานพอดีเงินเดือนได้น้อยมากแต่แลกกับเวลาว่างดูหุ้นได้เกือบทั้งวันไม่เครียดสมอง ปลอดโปร่งสบายๆน่ะครับ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ท่านที่เพิ่งเริ่มต้นให้พบแนวทางเฉพาะของตนเองโดยเร็วนะครับ :D ขอบคุณครับ
โดย
jantorsang
เสาร์ ส.ค. 02, 2014 2:47 pm
0
13
Re: หากเป็นเรื่องจริง เสียภาพพจน์บริษัทจดทะเบียนนะแบบนี้
ขอสรรเสริญคุณ Tibular ครับ
โดย
jantorsang
จันทร์ ก.ค. 28, 2014 10:55 am
0
2
Re: สมาชิกใหม่ รบกวนขอความรู้
เริ่มศึกษาอย่าเพิ่งตั้งคำถามด้วย keyword "ราคา" ก่อนครับจะทำให้สับสนและหลงทางนานได้ครับ ให้เริ่มด้วย keyword " มูลค่า " ก่อนครับ แนะนำว่าให้พยายามหาซื้อหนังสือของท่านอาจารย์ ดร. นิเวศน์ เท่าที่จะหาซื้อได้ทั้งหมดนะครับ แล้วตะลุยอ่านเลยครับสองรอบ หนังสือท่านอาจารย์อ่านเพลินดีด้วยนะครับ แล้วจขกทจะเริ่มเข้าใจ แล้วอย่างอื่นจะค่อยๆตามมาเองนะครับ
โดย
jantorsang
พฤหัสฯ. ก.ค. 24, 2014 9:06 pm
0
6
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
ผมมองว่าทั้งหมดมันเป็นผลพวงมาจากการค่อยๆยกระดับของประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้นะครับ จากการที่เคยเป็นประเทศด้อยพัฒนายากจนมากตอนนี้ผู้คนมีความรู้มากขึ้นการศึกษาดีขึ้นมาก ปริญญาโทเป็นเรื่องปกติไปแล้วเริ่มผ่านยุคการสร้างเนื้อสร้างตัวจากรุ่นปู่ย่า พ่อแม่ ประเทศยกระดับขึ้น เริ่มมองตลาดกว้างขึ้นจากกระแสโลก กระแสเออีซี ประเทศเพื่อนบ้านยังด้อยพัฒนากว่าเรา เริ่มเปลี่ยน บทบาทจากผู้รับเป็นผู้ให้ จากลูกจ้างเป็นนายทุน ถ้าใครเกาะกุมตลาดหุ้นตอนนี้ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ได้ จะยกระดับชีวิตตัวเองได้อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว แต่ผมไม่ได้หมายความว่าบริษัททุกบริษัทที่ทำอย่างที่จขกทเอ่ยถึงจะดีและน่าลงทุนไปหมดนะครับ ขอบคุณครับ
โดย
jantorsang
พฤหัสฯ. ก.ค. 24, 2014 11:10 am
0
3
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
ชอบข้อความที่คุณ nevercry ตอบนะครับ สมกับชื่อ "nevercry" เลยครับ เห็นใจและเข้าใจนะครับรีบทำใจแล้วเริ่มต้นใหม่เถอะครับ วันข้างหน้ายังต้องพบอะไรอีกมากครับ ความจริงก่อนขายหุ้นให้สูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุดนะครับแล้วผ่อนออกให้สุดเช่นกันทำ 3 ครั้งครับ หุ้นที่เราคิดว่าพื้นฐานดีเพียงแต่อาจรอบางอย่าง หรือสถานการณ์บางอย่างไม่เอื้ออำนวย จะขายก็ขายได้นะครับ แต่อย่าขายหมดให้ขายบางส่วน มันก็จะเหมือนเราซื้อ option ไว้นะครับ วันข้างหน้าถ้าราคาลงต่ำกว่าเราก็มาซื้อกลับได้ หรือถ้าราคาขึ้นไปเราก็ยังเหลือบางส่วนไว้นะครับ หลักการก็คล้ายคุณอาคลายเคลียดน่ะแหละครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ :)
โดย
jantorsang
อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2014 9:55 am
0
5
Re: ...หุ้นปั่น...
^ ^ ที่น่ากลัวกว่าคือผู้บริหารที่กล้ามาออก opp day แต่จุดประสงค์เพื่อเซ็งลี้หุ้นให้เจ้าของที่แท้จริง ที่อยู่เบื้องหลังอีกที ตีปี๊บจุดเด่น อำพรางจุดด้อยอย่างแนบเนียนครับ อันนี้นักลงทุนตกหลุมพรางเยอะกว่าครับ ผมแค่มาเพ้อเจ้อนะครับ ไม่มีอะไร :8)
โดย
jantorsang
เสาร์ มิ.ย. 07, 2014 1:58 pm
0
11
Re: ศาสตร์เกี่ยวกับศูนย์การค้า ศาสตร์การกระตุ้นความรู้สึกคน
ขอบคุณครับ :)
โดย
jantorsang
อาทิตย์ เม.ย. 27, 2014 8:33 am
0
0
Re: ประชาสัมพันธ์ Company Visit (MC) เปิดจองวันที่ 8 มีค. 10
จอง 1 ที่ครับ
โดย
jantorsang
เสาร์ มี.ค. 08, 2014 5:51 pm
0
0
Re: ...ข้อคิดจากหนังสือการลงทุนที่หายากและราคาแพงที่สุด...
ขอบคุณมากครับ :D
โดย
jantorsang
ศุกร์ มี.ค. 07, 2014 11:22 am
0
2
Re: ยื่นแบบภาษีเงินได้ ปีภาษี 2556 กันหรือยังครับ
^ เป็นเหมือนกันเลยครับ เลยไม่รู้ว่าเข้าไปรึยัง และรบกวนเพื่อนๆหน่อยครับถ้าได้ปันผลจากกองทุนหุ้นปันผลด้วยนี่ ต้องกรอกหน้าไหนครับ เพราะพอกรอกหน้าเดียวกับที่รับปันผลจากบริษัทระบบจะไม่รับครับ (ทุกปีผมกรอกหน้าเดียวกันก็ไม่มีปัญหานะครับเพิ่งมีปีนี้นี่แหละครับ) ขอบคุณครับ
โดย
jantorsang
พุธ ม.ค. 01, 2014 1:57 pm
0
1
Re: จอง PTG Company Visit
ใช้สิทธิ์จอง 1 ที่ครับ
โดย
jantorsang
พุธ มิ.ย. 12, 2013 9:08 am
0
0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ดลบันดาลให้คุณธีหายป่วย สุขภาพร่างกายแข็งแรงดังเดิมด้วยนะครับ
โดย
jantorsang
พฤหัสฯ. ม.ค. 03, 2013 2:47 pm
0
0
Re: ปัญหาทางความคิด/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ไม่ว่าจะแนวคิดไหน สำคัญเริ่มแรกคือรู้จักตนเองก่อนครับ จากนั้นค่อยเรียนรู้ในสิ่งที่ตนชอบที่ตนถนัดเพื่อให้เชี่ยวชาญให้รู้จริง สิ่งสุดท้ายเพื่อให้ชนะใจตนเองครับ :D
โดย
jantorsang
อาทิตย์ ก.ค. 08, 2012 9:47 am
0
0
Re: ความเห็นส่วนตัวกับ500บาท
สนับสนุนความคิดเห็นคุณ nut776 ครับ
โดย
jantorsang
อาทิตย์ ก.ค. 01, 2012 2:15 pm
0
0
Re: ผมขอเสนอเรื่องห้องร้อยคนร้อยหุ้น
ด้วยความเคารพนะครับ ขออนุญาตเห็นแย้งคุณโดมนิดนึงครับตรงห้องร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ ความเห็นส่วนตัวผม ห้องร้อยคนนั้นไม่ใช่เพียงบรรทัดสุดท้ายงบกำไรขาดทุนแน่นอนนะครับ เพราะถ้าเราสนใจหุ้นบริษัทไหน การอ่านตั้งแต่หน้าแรกเราจะได้เห็นประวัติศาสตร์ของบริษัทนั้นเลยทีเดียว หลายคนโพสสิ่งที่เป็นประโยชน์ไว้มาก บางคนมีการคำนวณให้เราพินิจพิเคราะห์เป็นตัวอย่าง บางคนโพสข่าวของหุ้น ผู้บริหาร เมื่อเราย้อนอ่านบางทีเราก็จะทราบถึงนิสัยผู้บริหารบ้างเหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนรายย่อยแทบไม่มีโอกาสได้พบ ห้องนี้ยังเป็นเหมือนที่ให้นักลงทุนหลากหลายได้อัพเดตพูดคุยสนทนากันโดยไม่ต้องออกมาเดินทางพบปะเห็นหน้ากัน (ส่วนใหญ่คงติดหน้าที่การงานน่ะครับ) แน่นอนบางช่วงเมื่อหุ้นขึ้น นักลงทุนก็มาโพสดีใจ บางช่วงหุ้นตก ก็มาโพสเสียใจ ตกใจ แต่เมื่อเราลองอ่านย้อนทวนเราจะค่อยๆซึมซับสิ่งที่เรียกว่าเป็นเหมือนลักษณะเฉพาะของตัวหุ้นนั้นๆ ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกันก่อนที่ผมจะลงทุนในหุ้นตัวไหน สำหรับผมแทบจะไม่มีสิ่งที่ไร้สาระเลยครับ ลองคิดดูนะครับเมื่อกาลเวลาผ่านมาเป็นสิบปีจะทรงคุณค่าขนาดไหน แต่แน่นอนว่าเป็นดาบสองคมดังนั้นก่อนที่เราจะเชื่อ หรือไม่เชื่อเราก็ต้องมีความรู้พื้นฐานมาอย่างดี (ซึ่งก็หาอ่านได้จากห้องอื่นๆอย่างที่คุณโดมว่าไว้ ห้องอื่นก็สำคัญเช่นกัน) เพื่อใช้คัดกรอง ห้องนี้สำหรับผมเป็นเหมือนการนำเอาหลักวิชาที่เราได้ร่ำเรียนมาจากห้องอื่นหรือที่อื่นมาประยุกต์ใช้จริงนะครับ ดังนั้นห้องนี้สำหรับผมแล้วสำคัญมากๆนะครับ ในเรื่องของการจัดตั้งสมาคม การแก้ไขระเบียบการเข้าใช้ห้องร้อยคนจนถึงตอนนี้ผมเห็นด้วยกับคณะกรรมการและทีมงานทุกประการครับ และคิดว่ายุติธรรมดีแล้วด้วยครับ ที่เหลือก็ให้กาลเวลาเดินไปจนเห็นข้อพิสูจน์ ขอให้กำลังใจคณะกรรมการและทีมงานทุกท่านสำหรับจิตสาธารณะนะครับ และผมยินดีจะเข้าเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของสมาคมครับ :D ขอบคุณครับ
โดย
jantorsang
เสาร์ มิ.ย. 30, 2012 2:30 pm
0
3
Re: คำถามดังๆ ตั้งสมาคมเพื่ออะไร
ผมขอบรรยายความรู้สึกภายในบ้างนะครับในฐานะนักลงทุนรายย่อยคนหนึ่งในเวบแห่งนี้ เริ่มแรกเลยผมรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างนะครับเนื่องจากรู้สึกเหมือนผู้จัดตั้งนำเอาห้องร้อยคนร้อยหุ้นมาเป็นตัวประกันบีบให้เข้าสมาคมเลยครับ(สำหรับผมแล้วห้องนี้สำคัญที่สุดในเวบนี้ครับเพราะเหมือนเป็นแหล่งให้นักลงทุนได้มาพบปะพูดคุยกันเพียงแต่ไม่ได้เห็นหน้ากันเท่านั้นเองดังนั้นจึงเป็นแหล่งรวมความรู้ ความรู้สึกของหุ้นแต่ละบริษัทที่สำคัญที่สุดของประเทศเลยทีเดียว ใครอยากรู้ประวัติศาสตร์หุ้นตัวไหนให้มาดูมาอ่านได้ที่ห้องนี้ครับ) แต่ในขณะเดียวกันผมก็เข้าใจถึงปณิธานอันยิ่งใหญ่และยาวไกลดั่งพญาอินทรีของคณะผู้จัดตั้งด้วยครับว่าการก่อตั้งสมาคมนั้นเป็นก้าวย่างที่สำคัญอย่างยิ่งและจำเป็นต้องมีเพราะช่วยยืนยันการมีตัวตนมีที่ยืนในสังคมของนักลงทุนแนวคุณค่าซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเผยแพร่แนวคิดการลงทุนเน้นคุณค่าให้แพร่หลายในประเทศไทย(ซึ่งถ้าใครได้อ่านหนังสือหรือฟังสัมมนาของท่านดร.นิเวศน์จะทราบว่าท่านมีอุดมการณ์ในเรื่องนี้มานานมากแล้ว โดยส่วนตัวผมขอสรรเสริญในจิตสาธารณะนี้ของอาจารย์และผู้ก่อตั้งทีมงานทุกท่านด้วยครับ) ดังนั้นเมื่อผมลดทอนอคติส่วนตัวลงไปผมก็ต้องยอมรับว่าเงินเพียง500บาทต่อปีนั้นไม่ได้มากมายเลยครับกับการมีส่วนร่วมในระยะเริ่มก่อตั้งสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่าเพื่อให้สมาคมลงหลักปักฐานให้ได้ แต่อย่างไรก็ตามผมเข้าใจความรู้สึกในรายย่อยบางคนด้วยกันครับว่าเหตุไรจึงไม่มีความรู้สึกของการมีส่วนร่วมเพราะเหมือนไม่ได้มีอะไรใหม่ขึ้นมาแถมยังต้องเสียเงินอีกเพื่อแลกกับการที่ให้มีสิทธิ์เข้าห้องได้ทั้งที่นักลงทุนรายย่อยหลายคนก็ถือว่าตัวเองมีส่วนในห้องร้อยคนนั้นเหมือนกัน เพราะสิทธิพิเศษที่สมาคมกำหนดขึ้นนั้นตย.เช่น company visit ,meeting เป็นต้น นักลงทุนหลายคนนั้นได้ประโยชน์น้อยมากเนื่องจากติดขัดในเรื่องของเวลานั่นเองที่ต้องมีการงานในด้านอื่นอีก ดังนั้นทำให้นักลงทุนหลายคนไม่รู้ถึงประโยชน์ของการจัดตั้งสมาคม ซึ่งในเบื้องต้นเพื่อลดทอนความรู้สึกนี้ผมขอเสนอทางทีมงานให้ทำหนังสือในวาระพิเศษการถือกำเนิดของสมาคมเน้นคุณค่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย(ก่อนการรวมaec) อาจเป็นหนังสือเกี่ยวกับแนวคิดความรู้ ความรู้สึก การคำนวณการลงทุนหุ้นที่ท่านอาจารย์แต่ละท่านในคณะกรรมการใช้ตีแตกซึ่งอาจจะยกมาท่านละบริษัทก็ได้ หนังสือเล่มนี้ไม่ต้องฟรีหรอกครับแต่เปิดให้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นได้ซื้อ จะเห็นได้ว่าสมาคมที่ประสบความสำเร็จล้วนต้องมีวารสารที่สื่อสารให้ความรู้กับสมาชิกทั้งนั้นครับ(เพราะสมาชิกบางท่านจะไม่มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของสมาคมเลย)เช่นสมาคมสถาปนิกสยาม ,สมาคมค้าทองคำ เป็นต้น ซึ่งถ้าทำได้ต้องขอปรบมือขอบพระคุณมากๆเลยครับ แต่ในระยะยาวแล้วถ้าอยากให้คนรุ่นใหม่ๆมาเป็นสมาชิกให้มากขึ้นซึ่งสำคัญยิ่งต่อรากฐานของสมาคมในอนาคตคงต้องมีกิจกรรมพิเศษที่น่าดึงดูดมากขึ้นครับ(เพราะคนเหล่านั้นเนื่องจากยังไม่ได้เป็นสมาชิกจึงยังไม่เห็นข้อดีของห้องร้อยคนร้อยหุ้นนะครับเมื่อให้ต้องเสียเงินเข้าสมาคมจึงอาจยังไม่เห็นความจำเป็น) ในส่วนรายชื่อคณะกรรมการทุกท่านประวัติความเป็นมาแต่ละท่านสำหรับผมแล้วเคลียร์อย่างยิ่งไม่มีอะไรให้น่าเคลือบแคลงเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มตั้งไข่ของสมาคมเช่นนี้ โอกาสนี้จึงอยากให้นักลงทุนหลายๆท่านเห็นแก่จิตสาธารณะอันเป็นกุศลของอาจารย์และทีมงาน ลดทอนอคติในเรื่องเงินหรือกรณีห้องร้อยคนร้อยหุ้นช่วยกันสนับสนุนรากฐานเริ่มต้นของสมาคมโดยการช่วยกันสมัครสมาชิกกันเถอะครับ และหลายคนก็อย่าเลิกโพสในห้องร้อยคนเลยครับ ผมยังต้องการความรู้จากพวกท่านนะครับ อิอิ ขอบพระคุณทีมงานและสมาชิกทุกท่านที่ได้สละเวลาอ่านข้อความอันยืดยาวนี้ครับ
โดย
jantorsang
ศุกร์ มิ.ย. 29, 2012 1:27 pm
0
8
Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ
ผมขอบรรยายความรู้สึกภายในบ้างนะครับในฐานะนักลงทุนรายย่อยคนหนึ่งในเวบแห่งนี้ เริ่มแรกเลยผมรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างนะครับเนื่องจากรู้สึกเหมือนผู้จัดตั้งนำเอาห้องร้อยคนร้อยหุ้นมาเป็นตัวประกันบีบให้เข้าสมาคมเลยครับ(สำหรับผมแล้วห้องนี้สำคัญที่สุดในเวบนี้ครับเพราะเหมือนเป็นแหล่งให้นักลงทุนได้มาพบปะพูดคุยกันเพียงแต่ไม่ได้เห็นหน้ากันเท่านั้นเองดังนั้นจึงเป็นแหล่งรวมความรู้ ความรู้สึกของหุ้นแต่ละบริษัทที่สำคัญที่สุดของประเทศเลยทีเดียว ใครอยากรู้ประวัติศาสตร์หุ้นตัวไหนให้มาดูมาอ่านได้ที่ห้องนี้ครับ) แต่ในขณะเดียวกันผมก็เข้าใจถึงปณิธานอันยิ่งใหญ่และยาวไกลดั่งพญาอินทรีของคณะผู้จัดตั้งด้วยครับว่าการก่อตั้งสมาคมนั้นเป็นก้าวย่างที่สำคัญอย่างยิ่งและจำเป็นต้องมีเพราะช่วยยืนยันการมีตัวตนมีที่ยืนในสังคมของนักลงทุนแนวคุณค่าซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเผยแพร่แนวคิดการลงทุนเน้นคุณค่าให้แพร่หลายในประเทศไทย(ซึ่งถ้าใครได้อ่านหนังสือหรือฟังสัมมนาของท่านดร.นิเวศน์จะทราบว่าท่านมีอุดมการณ์ในเรื่องนี้มานานมากแล้ว โดยส่วนตัวผมขอสรรเสริญในจิตสาธารณะนี้ของอาจารย์และผู้ก่อตั้งทีมงานทุกท่านด้วยครับ) ดังนั้นเมื่อผมลดทอนอคติส่วนตัวลงไปผมก็ต้องยอมรับว่าเงินเพียง500บาทต่อปีนั้นไม่ได้มากมายเลยครับกับการมีส่วนร่วมในระยะเริ่มก่อตั้งสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่าเพื่อให้สมาคมลงหลักปักฐานให้ได้ แต่อย่างไรก็ตามผมเข้าใจความรู้สึกในรายย่อยบางคนด้วยกันครับว่าเหตุไรจึงไม่มีความรู้สึกของการมีส่วนร่วมเพราะเหมือนไม่ได้มีอะไรใหม่ขึ้นมาแถมยังต้องเสียเงินอีกเพื่อแลกกับการที่ให้มีสิทธิ์เข้าห้องได้ทั้งที่นักลงทุนรายย่อยหลายคนก็ถือว่าตัวเองมีส่วนในห้องร้อยคนนั้นเหมือนกัน เพราะสิทธิพิเศษที่สมาคมกำหนดขึ้นนั้นตย.เช่น company visit ,meeting เป็นต้น นักลงทุนหลายคนนั้นได้ประโยชน์น้อยมากเนื่องจากติดขัดในเรื่องของเวลานั่นเองที่ต้องมีการงานในด้านอื่นอีก ดังนั้นทำให้นักลงทุนหลายคนไม่รู้ถึงประโยชน์ของการจัดตั้งสมาคม ซึ่งในเบื้องต้นเพื่อลดทอนความรู้สึกนี้ผมขอเสนอทางทีมงานให้ทำหนังสือในวาระพิเศษการถือกำเนิดของสมาคมเน้นคุณค่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย(ก่อนการรวมaec) อาจเป็นหนังสือเกี่ยวกับแนวคิดความรู้ ความรู้สึก การคำนวณการลงทุนหุ้นที่ท่านอาจารย์แต่ละท่านในคณะกรรมการใช้ตีแตกซึ่งอาจจะยกมาท่านละบริษัทก็ได้ หนังสือเล่มนี้ไม่ต้องฟรีหรอกครับแต่เปิดให้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นได้ซื้อ จะเห็นได้ว่าสมาคมที่ประสบความสำเร็จล้วนต้องมีวารสารที่สื่อสารให้ความรู้กับสมาชิกทั้งนั้นครับ(เพราะสมาชิกบางท่านจะไม่มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของสมาคมเลย)เช่นสมาคมสถาปนิกสยาม ,สมาคมค้าทองคำ เป็นต้น ซึ่งถ้าทำได้ต้องขอปรบมือขอบพระคุณมากๆเลยครับ แต่ในระยะยาวแล้วถ้าอยากให้คนรุ่นใหม่ๆมาเป็นสมาชิกให้มากขึ้นซึ่งสำคัญยิ่งต่อรากฐานของสมาคมในอนาคตคงต้องมีกิจกรรมพิเศษที่น่าดึงดูดมากขึ้นครับ(เพราะคนเหล่านั้นเนื่องจากยังไม่ได้เป็นสมาชิกจึงยังไม่เห็นข้อดีของห้องร้อยคนร้อยหุ้นนะครับเมื่อให้ต้องเสียเงินเข้าสมาคมจึงอาจยังไม่เห็นความจำเป็น) ในส่วนรายชื่อคณะกรรมการทุกท่านประวัติความเป็นมาแต่ละท่านสำหรับผมแล้วเคลียร์อย่างยิ่งไม่มีอะไรให้น่าเคลือบแคลงเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มตั้งไข่ของสมาคมเช่นนี้ โอกาสนี้จึงอยากให้นักลงทุนหลายๆท่านเห็นแก่จิตสาธารณะอันเป็นกุศลของอาจารย์และทีมงาน ลดทอนอคติในเรื่องเงินหรือกรณีห้องร้อยคนร้อยหุ้นช่วยกันสนับสนุนรากฐานเริ่มต้นของสมาคมโดยการช่วยกันสมัครสมาชิกกันเถอะครับ และหลายคนก็อย่าเลิกโพสในห้องร้อยคนเลยครับ ผมยังต้องการความรู้จากพวกท่านนะครับ อิอิ ขอบพระคุณทีมงานและสมาชิกทุกท่านที่ได้สละเวลาอ่านข้อความอันยืดยาวนี้ครับ
โดย
jantorsang
ศุกร์ มิ.ย. 29, 2012 11:43 am
0
4
Re: กลยุทธ์ยามหุ้นแพง/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เพิ่มเติมวิกฤติกรณีที่สองที่นักลงทุนโกหกตัวเองก็อย่างเช่น ตอนต้มยำกุ้งครับ
โดย
jantorsang
อังคาร พ.ค. 22, 2012 3:41 pm
0
0
Re: กลยุทธ์ยามหุ้นแพง/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เมื่อมาอ่านข้อความข้างบนซ้ำผมพบว่าอาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจเจตนาผิดว่าผมชักชวนให้ขาย ซึ่งไม่ใช่เช่นนั้น ผมเพียงแต่มีเจตนาอยากให้เพื่อนนักลงทุนอย่าได้ประมาทหรือวางใจกับวิกฤติที่เกิดขึ้น ควรที่จะต้องมีแผนสำรองไว้ กรณีถ้ามีสิ่งใดผิดจากสิ่งที่เราคาดคิดไว้ โดยส่วนตัวผมถือไว้เต็มพอร์ตและไม่คิดที่จะขายเพื่อเปลี่ยนเป็นเงิน แต่ก็ได้มีการคิดเพื่อหาเตรียมเงินสำรองไว้ซื้อหุ้นด้วยกรณีถ้าตลาดหุ้นตกลงมาอย่างรุนแรงครับ :)
โดย
jantorsang
จันทร์ พ.ค. 21, 2012 9:44 pm
0
0
Re: กลยุทธ์ยามหุ้นแพง/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ข้อความข้างบนนั้นผมพยายามอธิบายว่า ในวิกฤติที่คาดคิดไว้แล้วอาจแฝงไว้ด้วยสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ หรือ ในวิกฤติที่คาดคิดไว้แล้วแต่ในใจนักลงทุนอาจโกหกตัวเองหรือยังไม่ยอมรับความจริงทำให้ไม่ทันตั้งรับกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นอยู่ก็ได้ครับ
โดย
jantorsang
จันทร์ พ.ค. 21, 2012 5:51 pm
0
1
Re: กลยุทธ์ยามหุ้นแพง/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
"วิกฤติมักจะเกิดขึ้นตอนที่ไม่มีใครคาดคิด" ผมขอเพิ่มเติมความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับประโยคข้างต้นนิดนึงครับ ผมเห็นว่าเรื่องวิกฤตินั้นมีอีกสองกรณีที่อาจเกิดขึ้นคือ กรณีแรกวิกฤติเป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดอยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้นซึ่งตลาดหุ้นก็ตอบสนองในทิศทางขาลงอยู่แล้วเพียงแต่ในระยะแรกลงยังไม่หนักซึ่งนักลงทุนก็คาดว่าคงไม่มีอะไร แต่แล้วผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายหลังจู่ๆวิกฤติก็หนักกว่าที่คิดไว้มากทำให้ตลาดหุ้นลงอย่างหนัก ตย.ก็เช่นซับไพรม์ที่ผ่านมาที่ตอนเริ่มแรกดูเหมือนไม่มีอะไรตลาดหุ้นก็ลงเล็กน้อยเท่านั้น กรณีสองคือวิกฤติเป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดไว้หมดอยู่แล้วแต่ในใจลึกๆแล้วทุกคนมักจะคิดว่าไม่น่าเกิดขึ้นจริงนะซึ่งตลาดหุ้นช่วงแรกอาจตอบสนองในทางลงแต่ไม่มากเท่าไรซึ่งมีนักลงทุนคอยช้อนตั้งรับเป็นระยะๆ แต่ปรากฏในภายหลังว่าวิกฤติมันเกิดขึ้นจริงอย่างกะทันหันในทางเลวร้ายทำให้นักลงทุนตกใจเทขายราคาหุ้นทรุดลงอย่างรวดเร็วรุนแรงทันที(แต่กรณีนี้ราคาหุ้นคงทรุดไม่นาน) ผมหวังว่าวิกฤติกรีซ สเปน และอาจลามไปที่อื่นๆอีก คงไม่เป็นอย่างกรณีที่สองนะครับ :)
โดย
jantorsang
จันทร์ พ.ค. 21, 2012 5:42 pm
0
1
Re: รบกวนสมาชิกThaiviช่วยตอบแบบสอบถามด้วยค่ะ/งานวิจัย การตัด
ตอบให้เรียบร้อยแล้วครับผม :D
โดย
jantorsang
เสาร์ มี.ค. 03, 2012 12:47 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
jantorsang
ระดับ:
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กลุ่ม:
สมาชิก
งานอดิเรก:
hoon
ความถนัด:
len hoon
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
ศุกร์ ก.ค. 09, 2010 1:11 pm
ใช้งานล่าสุด:
พุธ ก.ค. 26, 2023 8:44 pm
โพสต์ทั้งหมด:
154 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.03 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว