หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
121
Joined: พฤหัสฯ. เม.ย. 28, 2005 10:59 am
843
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - 121
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ผลิตภัณฑ์กระดาษ SCG แกร่งจริง หรือ แค่เก่งในบ้าน
สื่อหย่ายยยย...vs....ปูนใหญ่
โดย
121
ศุกร์ ส.ค. 26, 2011 9:24 pm
0
0
คิดไงกับข่าว เฮียปอจะเทค คาร์ฟูร์
สร้าง โมเดล (ใหม่) ปตท. ซื้อ "คาร์ฟูร์" ต่อยอด "น้ำมัน" สัมภาษณ์ ข่าวคราว ของการประกาศขายกิจการ "คาร์ฟูร์" ในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยปรากฏชื่อของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยกระแสข่าวระบุว่า ปตท.เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่จะเข้าร่วมประมูลซื้อในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวยังไม่มีการชี้แจงในรายละเอียดจาก ปตท.แต่อย่างใด ล่า สุด "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธาน เจ้า หน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ถึงประเด็นดังกล่าว - จุดเริ่มต้นการประมูลซื้อคาร์ฟูร์ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ขณะนี้บริษัท ปตท.ยังไม่ได้ยื่นประมูลซื้อห้างคาร์ฟูร์ ปตท.ยังเป็นเพียง nonbuyer แต่ผมยอมรับว่าบริษัท ปตท.สนใจธุรกิจรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตอยู่แล้ว ในขณะนี้เราเพียงแต่ ตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่เราจะเข้ามาเล่นในธุรกิจนี้ เราเห็นว่าทางคาร์ฟูร์เขาจะขายก็มานั่งดูว่า ถ้าเราซื้อเราจะทำประโยชน์อะไรได้บ้างจากธุรกิจนี้ ตอนนี้ก็ตั้งทีม ขึ้นมาเพิ่มเติม ล่าสุดก็ได้เดินทางไปดูรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตที่ประเทศฝรั่งเศส ก็ไปดูว่าถ้าเรามีมันจะเชื่อมโยงกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่ ปตท. มี อยู่อย่างไร ตอนนี้รอเพียงแค่ว่าทางคาร์ฟูร์จะประกาศอย่างเป็นทาง การว่าจะขาย มีข้อเสนอที่ชัดเจนอีกครั้ง ทางบริษัท ปตท.ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป คือการเข้าไป register ว่าจะขอประมูล จากนั้นถึงค่อยยื่นข้อเสนอว่าจะประมูล - จะเชื่อมโยงธุรกิจกันอย่างไร ปตท. มีจิฟฟี่อยู่แล้ว ส่วนของ จิฟฟี่ก็อยู่ในส่วนของจิฟฟี่ ยกตัวอย่าง ถ้าเราได้ห้างคาร์ฟูร์มาจริง ส่วนหนึ่งคือการซัพพอร์ตสินค้าต่าง ๆ ให้กับร้านจิฟฟี่ด้วยซ้ำไป ธุรกิจมันลิงก์กันได้ ไม่ได้ถือว่ามาแข่งหรือทับเส้นกันแน่นอน วันนี้ธุรกิจน้ำมันล้วน ๆ ก็เห็นกันอยู่ว่าค่าการตลาดมันน้อย แต่ธุรกิจบริการต่าง ๆ ภายในสถานีบริการน้ำมันกลับทำรายได้ให้ค่อนข้างมาก เรายังมองถึงพื้นที่ด้านหน้าห้างคาร์ฟูร์ในบาง location ที่ดี ๆ อาจจะตั้งเป็นสถานีบริการน้ำมันเลยด้วยซ้ำไป มันก็มีความเป็นไปได้นะ คือลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการได้ทั้งเติมน้ำมันและซื้อสินค้า เมื่อเราไปดูโมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ร่วมกับสถานีบริการน้ำมันในแถบ ยุโรป ก็รู้สึกว่ามันน่าจะไปด้วยกันได้ ปตท.ก็มองว่ามันเป็นโอกาสหนึ่งเท่านั้น - เงื่อนไขคาร์ฟูร์บังคับหรือไม่ว่าต้องซื้อสาขาทั้งในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ตอนนี้เขายังไม่ได้สรุปเงื่อนไขออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ความจริงรายละเอียดต่าง ๆ ยังสามารถเจรจากันได้ บริษัท ปตท.ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งหมด ความจริงโมเดลมันเหมือนกับตอนที่บริษัท ปตท.ประมูลซื้อจิฟฟี่ คือเมื่อเรายื่นประมูลไป ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เราจะซื้อแค่เฉพาะในประเทศไทย ส่วนที่เหลือเราจะซื้อทำไม ปตท.เองก็คงไม่ไปทำธุรกิจค้าปลีกสินค้าแบบนี้ทั้งในมาเลเซีย หรือว่าสิงคโปร์ ซึ่งสมมติว่า ปตท.ประมูลคาร์ฟูร์ได้ ค้าปลีกของบริษัท ปตท.จะมีความเข้มแข็งมาก มีศูนย์กระจายสินค้าอย่างทั่วถึงครอบคลุมความต้องการของลูกค้าด้วย ที่สำคัญคือเราจะได้ทั้งคนทำงานที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก นั่นเท่ากับว่าจะมาเสริมในเรื่องนี้ให้กับ ปตท.ด้วย - จะเหมือนเมื่อครั้งประมูลซื้อจิฟฟี่หรือไม่ ความเข้มข้นในการประมูล คงไม่เท่ากัน คือถ้าบริษัท ปตท.ไม่ชนะประมูลครั้งนี้ก็คงไม่เป็นไร เราคงยื่นประมูลในแบบที่ ปตท.รับได้ ไม่ถึงขั้นต้องชนะประมูลให้ได้ ขณะเดียวกัน เรายังมีทีมงานด้านบริหารธุรกิจค้าปลีกมาจากคราวที่ ปตท.ซื้อจิฟฟี่อยู่แล้ว ปตท.ไม่ใช่ว่าจะต้องกว้านซื้อทุกอย่างมาไว้ในมือ แต่ ปตท.พิจารณาก่อนว่าเมื่อได้มาแล้วจะต่อยอดไปพร้อมกับสิ่งที่เรามีอยู่อย่าง ไรมากกว่า เร็ว ๆ นี้คงจะเห็นความชัดเจนขึ้นเมื่อ ปตท.ตัดสินใจเข้าร่วมประมูลซื้ออย่างเป็นทางการ
โดย
121
พฤหัสฯ. ส.ค. 26, 2010 10:33 am
0
0
คิดไงกับข่าว เฮียปอจะเทค คาร์ฟูร์
อิอิ :D ...แล้วทามมาย ไม่เห็นเหมือน ราคาตัวอื่นๆ ที่ว่าจะจีบ คาร์ฟูร์ อืมม์.... :lol:
โดย
121
พุธ ส.ค. 25, 2010 10:59 am
0
0
N-park ราคา 0.03 บาทแล้ว
ขายได้ วันไหน มาบอกบ้างนะครับ :wink:
โดย
121
จันทร์ เม.ย. 26, 2010 11:29 am
0
0
ไม่ทราบว่าจะหากราฟราคาน้ำมันย้อนหลังปี 07-09 จากไหนครับ
ส่วนผมดูจากที่นี่ http://futuresource.quote.com/charts/charts.jsp?s=CL&o=&a=M&z=800x550&d=LOW&b=CANDLE&st=
โดย
121
พุธ ก.พ. 24, 2010 4:21 pm
0
0
ดูไบ ประกาศชักดาบครับ....
พลวัต ปราสาททรายดูไบ ปราสาททรายดูไบ ------------- ตึกที่สูงที่สุดในโลกจะเปิดให้บริการในดูไบใน 5 สัปดาห์นี้เท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปบนดาดฟ้าบนชั้น 124 จะได้เห็นตึกที่สร้างเสร็จแค่ครึ่งหนึ่ง และเห็นไซต์งานก่อสร้างอันว่างเปล่า ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วอ่าวเปอร์เซียในเวลานี้ เศรษฐกิจที่เคยบูมของเมืองดูไบ ได้ฟุบลงแล้ว ภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีตึกที่ทำลายสถิติและสถาปัตยกรรมแปลกๆได้ล่มสลายลง โครงการประมาณ 400 โครงการ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ได้ถูกยกเลิก ปิดตัวลง หรือต้องล่าช้าเมื่อบริษัทพัฒนาที่ดินพยาบยามที่จะจัดการกับราคาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้ปรับตัวลงถึง 60% ก่อนหน้านี้ ผู้ที่มาอาศัยในระยะยาว และแม้แต่รัฐบาลดูไบ มักไม่ยอมรับว่า สถานการณ์จะมีความรุนแรงขนาดนั้น แต่แล้วมันก็ปะทุออกมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเมื่อบริษัทดูไบ เวิลด์ กลุ่มบริษัทของรัฐบาลสหรัฐอาหรับ อีมิเรตส์ เผยว่า กำลังหาทางพักหนี้เป็นเวลา 6 เดือน การเปิดเผยของดูไบ เวิลด์ ทำให้ตลาดสินเชื่อถึงกับช็อกไปเลย เพราะบริษัทนี้มีความยิ่งใหญ่มากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มดูไบ เวิลด์ เป็นเจ้าของบริษัท Nakheel บริษัทพัฒนาที่ดินที่ทำโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า Palm Jumeirah ซึ่งเชื่อว่า เดวิด แบ็กแฮม และแบรด พิตต์ เป็นสองเซเล็บที่ไปซื้อวิลล่าในโครงการนี้ หนี้สินของดูไบ เวิลด์ จำนวน 60,000 ล้านดอลลาร์ เท่ากับเกือบสามในสี่ของหนี้ทั้งหมดของรัฐบาล ความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจจะมีปัญหาในการชำระหนี้ จึงทำให้ตลาดสินเชื่อช็อกเป็นธรรมดา หลังข่าวแพลมออกมา Credit default swaps หรือต้นทุนในการรับประกันการผิดนัดชำระหนี้ของดูไบ พุ่งขึ้นประมาณหนึ่งในสี่ หรือ 1% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอาหรับอีมิเรตส์ ประกาศเพียงสั้นๆว่า จะปรับโครงสร้างดูไบ เวิลด์ ก่อนที่ทุกคนจะไปพักผ่อนเป็นเวลาสามวัน ทิ้งให้นักลงทุนและเจ้าหนี้ให้อู้อื้อตาลายอยู่ข้างหลัง ในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับดูไบ เวิลด์ และรัฐดูไบ แต่หากมีการเลหลังขายสินทรัพย์ต่างๆที่นั่น ก็คงจะมีสินทรัพย์ให้นักลงทุนเลือกมาก ดูไบ เวิลด์ ยังเป็นเจ้าของบริษัท พีแอนด์โอ พอร์ต ซึ่งได้เข้าไปถือสิทธิ์เมื่อสามปีก่อนในราคา 3,900 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ยังได้ลงทุนกับกลุ่มคาสิโน เอ็มจีเอ็ม มิราจในลาสเวกัส และได้ลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์เพื่อเข้าไปถือหุ้นใน บาร์นีย์ ห้างสรรพสินค้าในนิวยอร์ก สหรัฐอาหรับ อีมิเรต มีเมืองหลวงอยู่ที่อาบูดาบี แต่เมืองหลวงกลับไม่โด่งดังเท่าดูไบ นอกจากดูไบจะรวยกว่าอาบูดาบี แล้ว ยังสามารถสร้างชื่อเสียงด้านการเงินให้กับภูมิภาคในอ่าวปอร์เชียทั้งหมดได้ด้วย อย่างไรก็ดี เมืองที่เคยรุ่งโรจน์กำลังประสบกับความลำบากอย่างรุนแรง มีเรื่องเล่าในปีนี้ว่า รถยนต์สปอร์ตคันหรู ถูกจอดทิ้งอยู่ตามที่สนามบินดูไบ เพราะเจ้าของซึ่งเป็นชาวต่างชาติพากันหลบหนีกฏหมายล้มละลายที่มีความรุนแรง วิกฤติการเงินกำลังทำให้เป็นปัญหาของดูไบรุนแรงมากขึ้น ตลาดการเงินในภูมิภาคกำลังถูกตรวจสอบ กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติที่เคยเที่ยวไล่ซื้อสินทรัพย์ต่างๆไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็น หุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นเดมเลอร์ ได้ขาดทุนอย่างหนัก ก่อนหน้านี้ จุดขายของดูไบต่อคนทั่วโลกคือ เป็นสถานที่ที่ตะวันตกและตะวันออกสามารถทำธุรกิจได้ในระหว่างกลางวันและกลางคืน สำหรับชาวซาอุ และชาวอิหร่าน ดูไบเป็นถ้ำแห่งความปิติของอาละดิน และสำหรับนายแบงก์ตะวันตก ดูไบคือโอเอซิสปลอดภาษีที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับชาวบ้านที่นั่น ค่าครองชีพไม่เคยถูกเลย ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้นำเข้าทั้งนั้น แม้แต่คนงานก่อสร้าง สำหรับผู้ปกครองนครดูไบ ปัญหาที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น นครรัฐแห่งนี้กำลังหาทางเลื่อนการชำระหนี้พันธบัตรอิสลาม เงินที่บริษัทNakheel ติดหนี้รัฐอยู่นั้น อยู่ในรูปตราสารการเงิน sukuk ซึ่งนักวิชาการอิสลามเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อทำตามข้อห้ามในบัญญัติของศาสนาอิสลามเกี่ยวกับการชำระดอกเบี้ยเป็นเงิน เมื่อตอนที่ราคาน้ำมันแพงขึ้น ฐานะการเงินของนครดูไบสดใส แต่การคุ้มครองผู้ถือพันธบัตรด้วย sukukนั้น ไม่เคยถูกทดสอบในศาลใดๆ เพราะทนายความและนายแบงก์ตะวันตกได้รับข้อมูลมาว่า ผู้ปกครองในอ่าวเปอร์เซีย จะยอมจ่ายเงินมากกว่า ที่จะผิดนัดชำระหนี้ให้ขายหน้า หรือมีการทะเลาะกันในหมู่เจ้าหนี้ แต่ในตอนนี้ การยกย่องถึงความใจกว้างของผู้ปกครองในอ่าวเปอร์เซียร์กำลังจะถูกทดสอบ มีรายงานว่า ดูไบได้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอาบู ดาบี แต่ คาราวานทะเลทราย จะมาถึงก่อนที่ปราสาททรายดูไบจะพังครืนไปก่อนหรือไม่ ไม่มีใครรู้ ข่าวหุ้นวันที่ 27 พ.ย. 2552
โดย
121
ศุกร์ พ.ย. 27, 2009 11:24 am
0
0
Berkshire Buys Burlington in Buffetts Biggest Deal
พลวัต รถไฟ กับ โลกหลังวิกฤต รถไฟ กับ โลกหลังวิกฤต บทความวันนี้ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับรถไฟไทย ซึ่งมองไม่เห็นอนาคตเอาเสียเลย แต่เป็นเรื่องของรถไฟที่อเมริกา เมื่อวานนี้ มหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรน บัฟเฟต ได้ตัดสินใจให้บริษัทเพื่อการลงทุนหุ้นของเขาBerkshire Hathaway เข้าซื้อหุ้นบริษัทเดินรถไฟ Burlington Northern Santa Fe ด้วยเงินลงทุนมากถึง 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯในรูปทั้งเงินสดและใบหุ้น ถือเป็นดีลธุรกิจใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ใหญ่กว่าเมื่อเข้าซื้อกิจการในโคคา-โคล่า เมื่อนานมาแล้วด้วยซ้ำ ถ้าหากไม่ลืมข้อเท็จจริงกัน ผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของ Berkshire Hathaway ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไมโครซอฟท์ของบิลล์ เกตส์ นั่นเอง นี่มิใช่ครั้งแรกของการลงทุนในกิจการรถไฟของวอร์เรน บัฟเฟต สองปีก่อน เขาก็เคยลงทุนเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่ง และเริ่มมีกำไรกลับคืนมา กิจการรถไฟครั้งนั้นวิ่งผ่านเส้นทางมิดเวสท์ของอเมริกาซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งเอธานอลสำคัญของอเมริกาในขณะนี้เสียแล้ว หลังจากมีการลงทุนแปลงข้าวโพดเป็นเอธานอลกันมหาศาลในช่วงราคาน้ำมันแพง ทำไมกิจการรถไฟ(ไม่นับรถไฟไทย)ถึงกลับมากลายเป็นธุรกิจแห่งอนาคตสำหรับนักลงทุนอย่างบัฟเฟต? คำตอบมีอยู่ว่า มันเป็นการเดิมพันอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯว่าจะฟื้นตัวแน่นอน คำพูดของกลุ่มทุนแสวงหากำไรอย่างบัฟเฟตนี้ หากมาพูดในเมืองไทย มีหวังพวกเอ็นจีโอ และพวกคลั่งคุณธรรม รวมทั้งสื่อเกลียดทุนนิยมแบบเกลียดตัวกินไข่ทั้งหลาย ได้รุมถล่มจมดินแน่นอน เพราะไม่สบอารมณ์และไม่สอดรับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง แต่ที่อเมริกา ได้รับการยกย่องไปทั่วเมืองว่า นี่คือ การตัดสินใจที่สร้างเกณฑ์มาตรฐานใหม่ให้กับสังคมหลังยุควิกฤตกันทีเดียว กระบวนทัศน์แบบอเมริกาที่ดูเหมือนจะไปด้วยกันไม่ได้เลยกับของไทยอย่างที่บัฟเฟต กระทำนั้น เกิดจากกระบวนการเรียนรู้ และความเข้าใจต่อระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมที่หยั่งรากลึกไม่เท่าเทียมกันชัดเจนยิ่งนัก โมเดลของการออกแบบเศรษฐกิจอเมริกาซึ่งได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญและกลายเป็นฐานรากของปรัชญาเศรษฐกิจของคนอเมริกันนั้น เชื่อในพลังมนุษยนิยมของปัจเจกบุคคล และวิสาหกิจเอกชนเป็นฐานรากในการสร้างสังคม ไม่ใช่ให้รัฐเป็นพลังขับเคลื่อนชี้นำ กิจการรถไฟของอเมริกานับแต่เริ่มต้น ก็คือต้นแบบวิสาหกิจอเมริกันที่ชัดเจน เครือข่ายรางรถไฟและกิจการขนส่งทางรถไฟของอเมริกานั้น ขับเคลื่อนด้วยกลุ่มทุนที่เรียกว่า "เศรษฐีนักปล้น" หรือ robber barons มาตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว จากภาคตะวันออก เคลื่อนไปจนสิ้นสุดที่ฝั่งตะวันตก คำว่าเศรษฐีนักปล้นที่เคียงคู่มากับกิจการรถไฟของอเมริกา หมายถึงการที่กลุ่มทุนรวมตัวกันเสนอตัวขอสัมปทานผูกขาดกิจการรถไฟจากรัฐบาลกลางของอเมริกา จากนั้นก็ระดมทุนจากตลาดหุ้น ดำเนินการก่อสร้างและหาประโยชน์จากระบบภายใต้กติกาที่ชัดเจน ซึ่งมีทั้งแง่บวกและลบต่อเศรษฐกิจ แต่เขาถือว่าผลบวกมีมากกว่าลบ การก่อสร้างทางรถไฟในอเมริกาถือเป็นตำนานระดับโลกของการขนส่งที่รัฐมีบทบาทน้อย และยังเป็นตำนานของการนำแรงงานจีนจากเมืองจีนเข้ามาเป็นแรงงานหลักในการก่อสร้างอย่างจริงจัง คำว่า เศรษฐีนักปล้น ของกิจการรถไฟอเมริกา จึงไม่ได้มีความหมายเลวร้ายมากมายดังที่มีคนพยายามสร้างภาพ โดยเฉพาะเมืองไทย ที่มีนักวิชาการเพี้ยนแปลงความหมายนี้เป็นคำที่มีความหมายทางการเมืองว่า "ทุนสามานย์"(เพื่อให้หมายเจาะจงถึงทักษิณ ชินวัตร และพวก) กิจการรถไฟอเมริกาในอดีต คือสัญญะของการเคลื่อนตัวสร้างเครือข่ายการขนส่งทางบกทั่วประเทศอย่างมีความหมาย จากภาคตะวันออกไปสู่ตะวันตก ทำนองเดียวกับ การรถไฟในเอเชีย กลายเป็นสัญญะของความทันสมัยและการเป็นตะวันตกของชาติและอาณานิคมต่างๆ วันนี้ กิจการรถไฟในอเมริกาที่เคยซบเซามาต่อเนื่อง เพราะถูกถนนและกิจการรถยนต์เข้าแย่งชิงธุรกิจ เริ่มกลับมามีความสำคัญรอบใหม่กันอีกแล้ว และกิจการรถไฟ ก็เป็นธุรกิจที่พึ่งพาทุนเป็นหลัก การที่รัฐบาลอเมริกันไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการรถไฟ แต่ปล่อยให้เอกชนตัดสินใจลงทุนเอง จึงเป็นการสานต่อปรัชญาทุนนิยมเก่าแก่ของตนเองอย่างมีความหมาย วอร์เรน บัฟเฟต กำลังจะกลายเป็นเศรษฐีนักปล้นรุ่นใหม่ของกิจการรถไฟอเมริกา เขาเชื่อมั่นว่า การลงทุนของเขาจะทำกำไรสวยงาม เพราะในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำนี้ การซื้อกิจการมีต้นทุนต่ำ เขาเคยซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ของกิจการหลายแห่งที่ล้มลงและซวนเซเมื่อปีก่อนด้วยเงินสูงถึง 1.451 หมื่นล้านดอลลาร์ และตอนนี้รับเงินปันผลผสมกับส่วนต่างราคาหุ้นที่วิ่งฉิวของบริษัทอย่าง Wrigley, General Electric และ Goldman Sachs ก็กำไรมหาศาลเกินคุ้มแล้ว การเดิมพันใหม่นี้ เขาก็เชื่อว่า จะดีกว่าเดิมเสียอีก เพราะหากเศรษฐกิจฟื้นตัวเมื่อใด สินค้าที่จะใช้บริการก็จะมากมายมหาศาล นั่นหมายถึงการลงทุนใหม่ที่จะเพิ่มหัวรถจักร และเพิ่มความเข้มข้นของบริการให้รวดเร็ว จะติดตามมาอย่างมีระสิทธิภาพมากขึ้น พูดกันตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม หรืออ้างคุณธรรมแบบคนอย่างหมอประเวศ หรือ อาจารย์ระพี หรือ คุณอานันท์ หรือคุณชวน เป็นวัฒนธรรมแบบคาวบอยอเมริกันของแท้ ใช้ในสังคมกำมะลอได้ยากยิ่งนัก แต่เป็นการยืนยันธาตุแท้ว่าทุนนิยมอเมริกันนั้น สามารถจะกลับมาแข็งแกร่งได้ หลังการเจ็บป่วยเข้าไอซียูมาแล้ว ในความน่าสนใจของโมเดลการลงทุนในกิจการรถไฟของอเมริกานับแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันก็คือ เมื่อเอกชนเป็นผู้ตัดสินใจลงทุน เป้าหมายหลักของกิจการก็คือ ขานรับความเข้มแข็งทางธุรกิจและเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ส่วนเป้าหมายรองลงไปคือการสร้างเครือข่ายยุทธศาสตร์ทางทหาร ความมั่นคง หรือ อื่นๆ ดูจะถูกซ่อนเอาไว้มิดชิด กุญแจสำคัญที่ถือเป็นหลักของกิจการรถไฟ ก็คือ การสนองตอบความต้องการในเรื่อง"ความเร็ว"ของการไหลเวียนสินค้าและผู้คนที่มีต้นทุนต่ำที่สุด และดูเหมือนว่า เมื่อสิ้นสุดยุคของรถยนต์ หรือการขนส่งทางถนนที่แสนจะสิ้นเปลืองผ่านไปแล้ว นักคิดและธุรกิจจำนวนมาก ก็เริ่มมองเห็นว่ารถไฟหรือขนส่งระบบรางคือแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่เป็นคำตอบเบ็ดเสร็จสำหรับการขนส่งทางบกอันสำคัญยิ่ง จะขาดเสียไม่ได้ เรื่องนี้ เป็นวิสัยทัศน์ และปรัชญาสำคัญสำหรับการออกแบบเศรษฐกิจและการเมืองของชาติในอนาคตอย่างหนึ่ง ซึ่งชาติต่างๆนับแต่ญี่ปุ่น ยุโรป และจีน ได้เดินล่วงหน้าไปมากแล้ว โดยมีอเมริกาตามมาติดๆ
โดย
121
พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 3:26 pm
0
0
PTTEP ที่มอนทารา ไหม้
ว่าด้วย วิสัยทัศน์ ของ .สผ เห็นอย่างไรกับเหตุผล ตามไปที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8502207/I8502207.html ทางเทคนิคอย่างหนึ่งเหวแรกที่ 125จะอยู่หรือเปล่า
โดย
121
อังคาร พ.ย. 03, 2009 3:42 pm
0
0
คิดว่ารอบนี้จะลงซักกี่จุดครับ
ไงๆ แถว 560 ขอเล่นเอาเด้งแก้คันมือติ๊ด.....นึง
โดย
121
พฤหัสฯ. มิ.ย. 18, 2009 4:28 pm
0
0
ก๊าซธรรมชาติ - commodity ที่ถูกที่สุด ณ เวลานี้
ปั้น!ค่าผ่านท่อก๊าซ มหากาพย์แอลพีจี ปมคาใจ...กรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติอนุมัติปรับขึ้นอัตราค่าผ่านท่อก๊าซให้กับ ปตท. จากเดิมเก็บที่ 19.75 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 21.76 บาทต่อล้านบีทียู ปรับเพิ่มขึ้น ล้านบีทียูละ 2.01 บาท "ไม่ต้องพูดถึงเรื่องปรับขึ้นราคา เอาแค่อัตราที่ใช้ปัจจุบัน ก็ถือว่าเป็นเรื่อง ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว" สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค บอก คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนดให้ค่าผ่านท่อเป็นค่าคงที่ตลอดอายุโครงการ ทำให้แต่ละปี ปตท.ได้กำไรส่วนเกินไปปีละกว่า 2,500 ล้านบาท สารี บอกว่า ที่ผ่านๆมา มีการประมาณการตัวเลขการใช้ก๊าซน้อยกว่า การใช้ที่เกิดขึ้นจริง ผลก็คือ การกำหนดราคาค่าผ่านท่อสูงเกินจริง "เม็ดเงินส่วนต่างนี้ ปตท.ได้ไป นับเป็นเงินหลายหมื่นล้าน" สมมติว่า ถ้าจะปรับราคาค่าผ่านท่อก๊าซกันจริงๆ สารี บอกว่า ปตท.ควรปรับลดมากกว่าปรับเพิ่ม ด้วยเหตุผลหลัก 2 ประการ ประการแรก ปตท.คิดอัตราผลตอบแทนการลงทุน (Return ofEquality : ROE) สูงกว่าค่ามาตรฐาน คิดถึงร้อยละ 18 ทั้งที่ควรคิดเพียงร้อยละ 14 ประการต่อมา การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาว 40 ปี ไว้ในอัตราคงที่ ร้อยละ 10.5 ในความเป็นจริง...อัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดตลอดเวลา คิดค่าผ่านท่อบนฐานอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินจริงขนาดนี้ ทำให้ ปตท.ได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ คำนวณกันเล่นๆ หากปรับลดอัตราผลตอบแทนการลงทุนเป็นร้อยละ 14 อัตรา ดอกเบี้ยตามที่ควรจะเป็นร้อยละ 5.75 มูลค่าก๊าซจะลดลงมากถึง 3,800 ล้านบาท ค่าบริการต้นทุนคงที่ (Demand Charge) เป็นสัดส่วนส่วนใหญ่ของราคาค่าส่งท่อก๊าซ จะลดลงจากเดิม 19.40 บาท...เป็น 13.13 บาทต่อล้านบีทียูเท่านั้น น่าฉงนสงสัยเข้าไปใหญ่...ตัวเลขฐานราคาที่สูงลิ่ว ทำให้ค่าผ่านท่อก๊าซแพงเกินจริง ใครเป็นคนรังสรรค์ปั้นแต่ง สิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคเสียหายมากที่สุดของการปรับขึ้นราคาผ่านท่อก๊าซ คือ ปตท.มีการปรับมูลค่าท่อก๊าซใหม่สูงถึง 60,000 ล้านบาท ทั้งที่มูลค่าจริงที่เหลืออยู่มีเพียง 32,000 ล้านบาท "ที่ผ่านมา มีการจ่ายมูลค่าท่อตรงส่วนนี้ไปแล้ว" สารี ว่า "คิดง่ายๆเหมือนเราจ่ายเงินซื้อของไปหมดแล้ว สมมติว่า 100 บาท แต่มีการประเมินว่าของนั้น มีมูลค่าอีก 50 บาท ก็มาเก็บเงินเรา 50 บาทอีกรอบ" จับตาไปที่ ปตท. ยังไม่ได้คืนทรัพย์สินที่ใช้อำนาจมหาชนหามาได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติ อดคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ปตท.เอาทรัพย์สินประชาชนมาหากำไรกับประชาชน "ชัดเจนว่าเอาเปรียบประชาชน เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้" ดังนั้น การที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อนุมัติอัตราค่าผ่านท่อก๊าซให้ ปตท.จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ทั้งด้วยเหตุผลและทั้งด้วยเรื่องไม่รักษาผลประโยชน์ของสาธารณชน ผลพวงสำคัญที่จะตามมาอีกระลอก ค่าแอฟที (Ft) จะเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น"แน่นอนว่า ผู้บริโภคจะได้รับอานิสงส์ด้วยความเศร้าใจไปเต็มๆ" แผนพลังงานแห่งชาติ กพช. PDP 2007 พ.ศ.2551-2564 ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 โดยกำลังผลิตติดตั้ง ในปี 2551 อยู่ที่ 29,140 เมกะวัตต์ ให้เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่อีก 30,155 เมกะวัตต์ และปรับลดโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ออกจากระบบ 7,502 เมกะวัตต์ ทำให้เหลือกำลังผลิตสุทธิ 51,793 เมกะวัตต์ "ต้องถือว่าเป็นแผนพลังงานอัปยศ เป็นผลงานชิ้นโบดำที่นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ควรจะยกเลิกไปโดยเร็วที่สุด" สารี ว่า ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ แทนที่จะปรับลด...เลื่อนโครงการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆออกไป กลับยืนยันที่จะให้มีการเซ็นสัญญาสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ใส่เข้าไปในระบบโดยไม่จำเป็น โรงไฟฟ้าในระบบ 3 หมื่นเมกะวัตต์ สูงกว่าความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่แล้วถึง 7,300 เมกะวัตต์ ผู้ได้ประโยชน์จากแผนนี้หนีไม่พ้น ปตท.มี รายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติได้มากขึ้น ก๊าซธรรมชาติ ถือเป็นเชื้อเพลิงหลักไม่น้อยกว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์ ของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด เหตุผลไฟฟ้าไม่พอใช้ ถ้าจริงก็คงไม่ต้องปลดโรงไฟฟ้าเก่าออกไป สร้างเพิ่มใหม่อย่างเดียวก็พอ แล้วเหตุที่ต้องปลดออกพร้อมสร้างใหม่เป็นเพราะอะไรกันแน่? ใคร?เอื้อประโยชน์ให้ใคร หรือว่าเป็นเพราะมีผู้ใหญ่ระดับนโยบายพลังงานบางคน มีเอี่ยวเข้าไปนั่งเก้าอี้บริหาร บริษัท ปตท. และบริษัทสร้างโรงไฟฟ้าเอกชนหลายแห่ง จึงทั้งผลักทั้งดันให้เกิดโรงไฟฟ้าใหม่ๆในแผนพลังงานฉบับนี้ การปลดโรงไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ไม่ว่าโรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าลานกระบือ โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี โรงไฟฟ้าหนองจอก โรงไฟฟ้าบางปะกง ถึงจะอ้างเหตุผลถึงเวลาอันควร คุณภาพเสื่อมถอย จะซ่อม ปรับปรุงก็ไม่คุ้มค่าก็ตาม แต่...ทุกโรงก็เป็นเงินภาษีประชาชนที่สร้างขึ้นมา สารี บอกอีกว่า ก่อนหน้าที่แผนพีดีพีฉบับนี้จะได้รับความเห็นชอบ มีการเร่งรีบเซ็นสัญญาอย่างลับๆในปี 2551 กับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ บริษัทสยาม อีเนอร์จี อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติพาวเวอร์เจนเนอเรชั่น ซัพพลาย อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี สองโครงการนี้ บริษัท กัลฟ์จีพีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 99.9% "ทั้งๆที่การใช้ไฟฟ้าชะลอตัวลงอย่างชัดเจน และประชาชนในพื้นที่โครงการแสดงตัวคัดค้านจนเกิดความขัดแย้งรุนแรงในชุมชน... ที่สำคัญทั้งสองโครงการยังไม่ผ่านการเห็นชอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่ยังนำมาใส่ในแผน...ผลักโรงไฟฟ้าเงินภาษีประชาชนออกจากระบบต่อไป" สารี ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น การลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่จะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าล้นเกินความต้องการ ขณะที่เศรษฐกิจประเทศไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้มากขนาดนั้น จะทำให้โรงฟ้าใหม่ที่สร้างขึ้น เป็นเพียงโกดังเก็บเครื่องปั่นไฟฟ้า ขณะเดียวกัน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ในฐานะผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน รับซื้อก๊าซจาก ปตท.ยังต้องจ่ายค่าซื้อไฟฟ้า...ค่าก๊าซธรรมชาติอยู่ต่อไป "ด้วยเงื่อนไขสัญญาทาส เสียค่าโง่แบบผูกขาด ไม่ใช้ก็ต้องจ่าย" ค่าโง่...ทั้งหมดนี้ จะถูกผลักมาอยู่ในรูปค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ ท้ายที่สุดก็หนีไม่พ้นประชาชนต้องรับผิดชอบ ปตท.มีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์ขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซธรรมชาติ 2.01 บาท หรือไม่? สารี บอกว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ ปตท.ต้องคืนท่อก๊าซทั้งหมดให้กับรัฐ เนื่องจากได้มาด้วยการเวนคืนโดยอาศัยอำนาจรัฐ ถือเป็นสาธารณสมบัติ ของแผ่นดิน แต่ ปตท.ทำการคืนทรัพย์สินเพียง 16,136.22 ล้านบาท ...ยังต้องคืนทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก 32,613 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินที่ได้มาก่อนการแปรรูปเป็น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) วันที่ 1 ตุลาคม 2544 ขณะที่ ปตท.ประเมินต้นทุนค่าท่อเพื่อใช้ในการคำนวณขอขึ้นราคาค่าผ่านท่อสูงถึง 90,000 ล้านบาท...เป็นการประเมินเผื่อไว้สำหรับการต่อราคา แต่การขึ้นราคาค่าผ่านท่อก๊าซครั้งนี้ ประชาชนต้องรับภาระค่าไฟฟ้าสูงถึงปีละ 4,500 ล้านบาท "ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ อยู่ท่ามกลางแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจาก ปตท.ที่มีต่อก๊าซแอลพีจี เพื่อให้รัฐปล่อยลอยตัวตามราคาน้ำมัน" ช่างแตกต่างสวนทางกับก๊าซเอ็นจีวี ปตท.ระบุชัดเจนในสูตรคำนวณค่าผ่านท่อก๊าซจะทยอยปรับราคาขึ้นตามลำดับหากได้รับการอนุมัติ ก๊าซเอ็นจีวีจะขึ้นจาก 8.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็นปีละ 1 บาท ต่อกิโลกรัม วังวนมหากาพย์ก๊าซแอลพีจีเมืองไทยเป็นเช่นนี้ ปฏิเสธให้คิดไม่ได้ว่า มีใครตั้งใจหารับประทาน บนหลังคนไทยทั้งประเทศ. นสพ.ไทยรัฐโดย ทีมข่าวข่าวหน้า 1 24 พฤษภาคม 2552, 16:26 น. tags:
โดย
121
จันทร์ พ.ค. 25, 2009 11:18 am
0
0
เผื่อเพื่อนๆในนี้ใครสนใจข่าว ตอนนี้จีนกำลังฟื้นผมเลยเอามาให้
ขอบคุณ ครับ :lol: save ไว้ก่อน :P อ่านที่หลัง :roll:
โดย
121
จันทร์ พ.ค. 04, 2009 3:43 pm
0
0
ของที่ระลึกจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
ของป๋าแดง เป็น อุปกรณ์ชุดตัดเล็บ ครับ
โดย
121
อังคาร เม.ย. 28, 2009 10:38 am
0
0
ช่วงนี้ ใครชอบค้าปลีกบ้าง
รู้สึกว่านายกของเรา ตอนนี้ก็ชอบค้าปลีก ....จากข่าวหุ้น สบายดี เทสโก้ สื่อเมืองไทยที่ติดตามคณะนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ไปลอนดอนและอังกฤษ คงจะมุ่งให้ความสำคัญกับประเด็นพูดเรื่องอ๊อกซฟอร์ด มากเสียจนลืมไปว่า ข้อตกลงร่วมระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับรัฐบาลไทยนั้น มีความสำคัญกับผลประโยชน์ทางธุรกิจของบางบริษัทของอังกฤษในไทยอย่างมาก มากกว่าละครน้ำเน่าเรื่องการปราศรัยที่อ๊อกซฟอร์ดหลายเท่า ปรากฏการณ์ที่ถูกซ่อนเอาไว้ใต้พรม ซึ่งสื่อไทยผู้ไร้เดียงสา ไม่เคยคิดจะตามให้ทัน หรือ คิดจะใส่ใจ กลับมีความสำคัญกับธุรกิจค้าปลีกจำนวนมากของไทยที่กำลังร่อแร่รอวันเลิกกิจการเพราะแข่งขันสู้ต่างชาติไม่ได้ เทสโก้ คือบริษัทอังกฤษที่ได้รับประโยชน์โดยตรงมากที่สุด จากการเดินทางไปเยือนอังกฤษของคณะนายกรัฐมนตรีไทยครั้งนี้ จะบอกกันตามตรงว่า งานนี้เป็นการ"ขายชาติ"ให้กับเทสโก้ ก็อาจจะแสลงหูคนที่อ้างว่ารักชาติ และรักความถูกต้องอย่างสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องยอมกันละผลพวงของการตกลงที่นายกรัฐมนตรีไทยไปเยือนบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง โดยการจัดการของนายควินตัน มาร์ก เควล ทูตอังกฤษประจำไทย แม้ไม่ได้ประกาศเป็นทางการ คือ การที่รัฐบาลไทยชุดนี้ จะไม่เสนอร่างกฎหมายค้าปลีก ที่ควบคุมการขยายตัวของห้างประเภทดิสเคาท์สโตร์ของบริษัทต่างชาติที่เทสโก้ เป็นผู้ถือครองส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในยามนี้ ไปอีกยาวนาน จนกว่าสิ้นสุดอายุของรัฐบาลชุดนี้ หรือตลอดไป ตราบเท่าที่พรรคประชาธิปัตย์ยังมีสส.ค่อนข้างมากในรัฐสภา ไม่เชื่อก็ติดตามกันต่อไปเถอะครับ ประเด็นปัญหาเรื่องการค้าปลีกของไทยที่ได้รับผลกระทบจากการรุกเข้ามาของห้างค้าปลีกต่างชาตินำโดยเทสโก้ของอังกฤษ จนกระทั่งในปัจจุบัน เครือข่ายของห้างนี้ มีขนาดใหญ่เป็นที่หนึ่งของเครือข่ายเทสโก้ในระดับโลก(ไม่นับสหราชอาณาจักร) ด้วยจำนวนพื้นที่ขายมากกว่า 8.5 แสนตารางเมตร หรือ 9.1 ล้านตารางฟุต เทสโก้เมืองไทย เริ่มต้นการสร้างเครือข่ายดิสเคาท์สโตร์ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า โมเดิร์น เทรด เน้นการขายของที่ลดราคา(จากความสามารถในการควบคุมต้นทุนด้านลอจิสติกส์ และการบริหารสต๊อกสินค้า ภายใต้ ห่วงโซ่อุปทาน)ด้วยการเข้าถือหุ้น และซื้อหุ้นต่อจากกลุ่มซีพีที่มีปัญหาการเงินหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดในบริษัทเอกชัย ดิสตริบิวชั่น จำกัด เจ้าของกิจการเครือข่ายเทสโก้ โลตัส ปัจจุบัน นอกจากสาขาขนาดใหญ่แล้ว สาขาย่อยยังถูกลดขนาดลงหลายรูปแบบ นับร้อยกว่าสาขา เพื่อให้เข้าสูตร"แตกเพื่อโต" แทรกตัวเข้าไปในชุมชนค้าปลีกทุกแห่งที่เห็นว่ามีศักยภาพ กลายเป็นโมเดลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ไม่เพียงเท่านั้น เทสโก้เมืองไทยยังเป็นธุรกิจที่ทำกำไรสูงสุดของเทสโก้ทั่วโลกอีกด้วย การขยายตัวอย่างรุนแรงของเทสโก้ในเมืองไทย เกิดขึ้นหลังจากไทยมีปัญหาวิกฤตต้มยำกุ้ง 2540 โดยรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนในขณะนั้น ได้แก้ไขกติกาปรับลดเงื่อนจากการเข้ามาดำเนินธุรกิจค้าปลีกของต่างชาติ โดยยกเลิกประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 281 (ปว. 281) ซึ่งมีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิคนต่างด้าวในการประกอบธุรกิจบางประเภท พร้อมทั้งได้ออกพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาบังคับใช้ โดยการกำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำในการดำเนินกิจการค้าปลีกไว้แค่ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสเข้ามาลงทุนในกิจการค้าปลีกค้าส่งเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังได้มีการแก้ไขกฎหมายให้คนต่างชาติสามารถถือครองที่ดินในไทยได้ จึงส่งผลให้กลุ่มทุนต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องและมากมายในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ในยามที่ความอ่อนแอของธุรกิจค้าปลีกไทยทั้งที่เป็นอยู่เดิมและที่เกิดจากผลพวงของวิกฤตเศรษฐกิจดำรงอยู่ ดิสเคาท์สโตร์ของเทสโก้ จึงเป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนการเติบโตที่แลกด้วยการล่มสลายของกิจการค้าปลีกท้องถิ่นรายย่อยและรายกลาง หากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ไทยไม่ผิดพลาด จะพบว่า พบว่าโดยหลังจากป? 2541 ส่วนแบ่งตลาดของร้านค้าปลีกรายย่อยเริ่มปรับตัวลดลงรุนแรงจาก 70% เหลือเพียงไม่เกิน 35% หรือต่ำกว่าในปัจจุบัน ขณะที่สัดส่วนของร้านค้าปลีกสมัยใหม่มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 30% ในปี 2542 เป็นร้อยละ 65 และยังไม่มีแนวโน้มจะหยุด ผู้ค้าปลีกท้องถิ่นของไทย มีการรวมตัวกันเป็นสมาพันธ์ต้านค้าปลีกต่างชาติ รวมทั้งการเสนอผ่านการค้าไทยเพื่อให้รัฐบาลเข้าแทรกแซงมิให้ห้างดิสเคาท์สโตร์ขยายตัวอย่างรุนแรง แต่ดูเหมือนยิ่งเคลื่อนไหว ยิ่งไม่ได้ผล ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาลประชาธิปัตย์ แต่ไม่มีใครใส่ใจ จนกลางช่วงของรัฐบาลทักษิณจึงกลายเป็นประเด็นใหญ่ระดับประเทศ นับแต่ความพยายามสร้างเงื่อนไขให้ชะลอหรือหยุดการขยายสาขา ตลอดจนการแก้ไขกฎหมายค้าปลีกเสียใหม่ หรือนำกฎหมายผังเมืองมาใช้ แต่ก็ไม่ได้ผล แถมบางช่วง รัฐมนตรีพาณิชย์บางคนเช่นนายวัฒนา เมืองสุข กลับให้ท้ายห้างค้าปลีกต่างชาติเสียเอง เทสโก้ ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากแรงต่อต้านดังกล่าว และก็ไม่ได้ดำเนินการโดยลำพัง แต่อาศัยมือของรัฐบาลอังกฤษยื่นเข้ามาช่วยเหลืออีกแรง นายควินตัน มาร์ก เควล ได้กลายเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของเทสโก้ในการล้อบบี้รัฐบาลไทยให้ชะลอการออกกฎหมายค้าปลีกใหมอย่างเอาเป็นเอาตาย การเคลื่อนไหวของนายเควล เกิดขึ้นมาหลายปีต่อเนื่องกัน รวมทั้งการเชื้อเชิญ เจ้าชาย แอนดรูว์ ดยุค ออฟ ยอร์ก มาเยือนเพื่อช่วยโปรโมทเทสโก้ไทยด้วย การเคลื่อนไหวอย่างนี้ เสมือนหนึ่งการทูตเพื่อการค้าแบบลัทธิพาณิชย์นิยมในหลายร้อยปีก่อนของพวกนักล่าอาณานิคมยุโรปไม่มีผิด ข้ออ้างของนายเควล กับเทสโก้คือ ไทยไม่จำเป็นต้องเร่งออก พ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่งแต่ควรหารือกับเอกชนที่อยู่ในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น เทสโก้ และอื่นๆ ก่อนออก พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยอ้างว่า มีมูลค่าการลงทุนถึง 6,000 ล้านเหรียญ และจ้างงานคนไทยถึง 3.6 หมื่นคน ความพยายามของนายเควล นับแต่รัฐบาลทักษิณ เรื่อยมาจนถึงรัฐบาลสุรยุทธ์รัฐบาลสมัครและรัฐบาลสมชาย ก่อนที่จะลนลานไปล้อบบี้แสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงหัวกระไดบ้านนับแต่วันแรกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการทูตแบบถึงลูกถึงคนของอังกฤษที่คนไทยไม่ได้เห็นมานานแล้ว และเป็นเกมผลประโยชน์แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยระหว่างเทสโก้ของอังกฤษ กับ พรรครัฐบาลของไทย โดยมีทักษิณ ชินวัตรเป็นเหยื่อของเกมนี้ในฉากหน้า แต่เป็นชัยชนะของเทสโก้ในฉากหลัง น่าเสียดายที่ละครลิงหลอกเจ้านี้ คนที่เสียหายมากกว่าทักษิณ ชินวัตร ก็คือ ร้านค้าปลีกและค้าส่งของไทยที่อยู่ในนามสมาพันธ์ต่อต้านค้าปลีกต่างชาติ ที่ตามไม่ทันเกมผลประโยชน์เช่นนี้ จึงต้องจ่ายค่าโง่แพงเป็นพิเศษ เหตุเพราะประเมินความสัมพันธ์ทางผลประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์กับห้างเทสโก้ของอังกฤษต่ำเกินไปนั่นเอง
โดย
121
จันทร์ มี.ค. 16, 2009 4:30 pm
0
0
ดร.นิเวศน์ วิเคราะห์หุ้นแบบ VI บทความ
ขอบคุณครับกับความรู้พื้นฐานพวกนี้
โดย
121
จันทร์ มี.ค. 09, 2009 4:26 pm
0
0
แนะนำทีครับอยากถือยาวแบบVi ระหว่าง PTT กับ SCC
พี่ปอ ราวๆ 100 พี่ปูน ก็ 40 ผมรออยู่.... เชื่อมั๊ยครับ... :D ถ้าชอบของแถมผมแถมพี่แอ็ดให้ที่ 40
โดย
121
ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 4:09 pm
0
0
ผมมีข้อสงสัยครับเพ่งสังเกตุเห็น ขอถามห้องนี้ครับ
ผมไม่ได้ trade ทาง internet ครับ ชื้อขายก็โทรคุยกับเจ้าหน้าที่เขานะ
โดย
121
อังคาร ก.พ. 10, 2009 3:13 pm
0
0
ผมมีข้อสงสัยครับเพ่งสังเกตุเห็น ขอถามห้องนี้ครับ
seamicoไม่มีขั้นต่ำนะครับถ้าไม่ผิด ใช้หลังสุดก็ ตุลาที่ผ่านมา
โดย
121
ศุกร์ ก.พ. 06, 2009 3:30 pm
0
0
10 เทรนด์แห่งอนาคต
ขออภัยที่สงสัย good food นี่ เป็นยังไงครับ :?:
โดย
121
พุธ ม.ค. 14, 2009 10:34 am
0
0
เล่าเรื่องสัมปทานมือถือ
กระทู้ดีได้ความรู้....ขอบคุณครับ ผมสงสัยมานานว่า.... ทำไมคลื่นมือถือทุกๆค่าย ใช้เสาสัณญานเดียวกันไม่ได้หรือครับ ถ้าได้จะประหยัดทัพยากรขนาดไหนเนี่ย... :roll:
โดย
121
อังคาร ม.ค. 13, 2009 3:49 pm
0
0
คุณคิดว่ากำไรไตรมาสที่ 4 ของหุ้นตัวไหน จะสูงกว่าไตรมาสที่ 3
โดยส่วนตัวแล้ว.... มาม่าสิครับ หนาวๆอย่างนี้ผมกินเพิ่มหลายเท่า :lol: จากที่ไม่ค่อยกินเลย
โดย
121
จันทร์ ธ.ค. 22, 2008 3:35 pm
0
0
สมาคมฯแถลงข่าวกรณี secc โกงนักลงทุน
แล้ว picnic ด้วยครับ โบรคไหนเอากลับมาเข้าตลาด... :?:
โดย
121
ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 3:06 pm
0
0
คุณ ih ครับ ภาค 13-14
ผมก็ขอบคุณเช่นกัน
โดย
121
จันทร์ ธ.ค. 15, 2008 4:22 pm
0
0
มีอะไรจะทำให้ เลิกใช้มือถือกันบ้างครับ
แล้ว smart phone หรือ wi max ที่จะมา ยังจะใช้เครือข่ายมือถือเจ้าเดิมๆ แบบเดียวกับ netbook ในตอนนี้หรือเปล่าครับ คือผมเน้นที่ อินเตอร์เน็ตผ่ายมือถือครับ
โดย
121
พุธ ธ.ค. 03, 2008 3:49 pm
0
0
เคยอ่านหนังสือการลงทุนเล่มหนึ่ง ประเทศไม่มีวันล่ม
ถ้าแตกตัวเป็นประเทศใหม่ๆ แบบยุโรปตะวันออก หรือรัสเซีย นี่ถือว่าล้มเปล่าครับ...ในความเห็น อ้อ...ก่อนนี้พวกนี้คงไม่มีตลาดหุ้นเนาะ อืมม์....อาจดูได้จากค่าเงิน ของโซเวียต ตอนนั้นเป็นไงนะ.....ใครรู้บ้างประวัติศาตร์ช่วงนั้น คิดไปคิดมาน่าสนใจแฮะ :roll:
โดย
121
อังคาร ธ.ค. 02, 2008 4:18 pm
0
0
มาดูประวัติ Timothy F. Geithner แค่ประกาศชื่อ
นี่แบบไทยๆ ง่ายๆ วิจารณ์อีกนิด ... จาก ข่าวหุ้น 25 พย. ทิม เกธเนอร์ มือใหม่หัดขับ บารัก โอบาม่า กำลังเล่นเกมเสี่ยงใหม่ เมื่อเขาประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีคลังอายุแค่ 46 ปี ทิโมธี เกธเนอร์ เทคโนแครตอาชีพ เข้ารับงานใหญ่เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจอเมริกาที่กำลังย่ำแย่ วอลล์สตรีทขานรับชื่อของเกธเนอร์อย่างดีเยี่ยมในทันที เมื่อดัชนีหุ้นรีบาวด์กลับหลายร้อยจุดในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะมีความคุ้นเคยกับชื่อดังกล่าวได้ดี เนื่องจากเคยเป็นประธานเฟดฯสาขานิวยอร์ก (ซึ่งเป็นเฟดฯสาขาที่มีอิทธิพลมากที่สุดในบรรดาเฟดฯของรัฐต่างๆ)มาก่อน ไม่เพียงเท่านั้น ตามประวัติแล้ว เกธเนอร์ก็เคยอยู่ในทีมงานที่ประสบความสำเร็จในการจัดการกับด้านการคลังมาแล้วภายใต้รัฐมนตรีคลัง 2 คนของพรรคเดโมแครต คือ โรเบิร์ต รูบิน กับ ลอเรนซ์ ซัมเมอร์ ในยุคของบิล คลินตัน คำถามก็คือว่า บทบาทที่เคยอยู่เบื้องหลังของเกธเนอร์ เมื่อมาอยู่ข้างหน้า จะดีเด่นเหมือนคนที่เคยทำสำเร็จมาแล้วหรือไม่? ยังเป็นโจทย์ที่ต้องติดตามดูกันต่อไป แต่ก็นับว่า โอบามา ถือเป็นคนที่กล้าหาญมากในการตัดสินใจเลือกคนหนุ่มขนาดนี้เข้ามารับตำแหน่งสำคัญยิ่งในคณะรัฐบาล ตามประวัติเกธเนอร์ ไม่มีพื้นฐานความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์เอาเสียเลย เพราะเรียนปริญญาตรีทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านเอเชียศึกษาจากวิทยาลัยดาร์ทมัธ และต้องติดตามพ่อที่ทำงานให้กับมุลนิธิฟอร์ดไปตระเวนหลายประเทศนอกอเมริกา เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย ไทย จีน และ ซิมบับเว ก่อนที่จะกลับไปเรียนต่อปริญญาโทที่จอห์น ฮ็อปกินส์ในสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลังจากจบปริญญาโท เกธเนอร์เข้าทำงานให้กับทีมงานของเฮนรี่ คิสซิงเกอร์ เป็นเวลานาน 3 ปี และ ย้ายไปทำงานให้กับหน่วยงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯใน ค.ศ. 1988 จากนั้นก็ได้ใช้ความสามารถในการสร้างสัมพันธ์ส่วนตัวที่เกงฉกาจเกินวัย เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้บริหารงานสำคัญในกระทรวง การคลัง ตั้งแต่แผนกนโยบายการคลังและการเงิน จนขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ และผู้ช่วยรัฐมนตรีคลังด้านกิจการระหว่างประเทศในยุคของโรเบิร์ต รูบิน ว่ากันว่า เขาเป็นหนึ่งในทีมงานที่ศึกษา และวางแผนออกมาตรการให้กับทางการอเมริกันและไอเอ็มเอฟในการกู้วิกฤตของเอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีใต้ หลังจากเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งที่ลุกลามขึ้นใน ค.ศ. 1997 แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า เขามีส่วนคัดค้านการเข้ามาช่วยไทยของสหรัฐฯมากน้อยเพียงใด ความสัมพันธ์อันแน่นหนาทางการเมืองเช่นนี้ ทำให้เขาเข้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือ Council for Foreign Relations (CFR) องค์กรที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งของกลุ่มทุนและเทคโนแครตอเมริกัน แล้วในต้นปีค.ศ. 2546 เขาก็ได้เข้าเป็นประธานเฟดฯสาขานิวยอร์ค ที่มีอายุน้อยที่สุด ต่อจากประธานคนเก่า บิล แมคโดนัฟ พร้อมกับรับตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการFOMC ของเฟดฯ ผลก็คือให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระบบการเงินการคลังอันดับสามรองลงมาจากรัฐมนตรีคลังและประธานเฟดฯเลยทีเดียว ตำแหน่งแห่งอำนาจของเกธเนอร์ยังพุ่งต่อไม่หยุด เมื่อ 2 ปีก่อน เขากลายเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาที่เรียกว่า Group of Thirty ในทำเนียบขาวด้วย นอกเหนือจากเส้นสายอันแน่นหนาทางการเมืองนี้แล้ว เขายังมีสายสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีเยี่ยมกับคนเหล่านี้ ผู้ซึ่งคาดกันว่า จะมาเป็นทีมงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวหรือกระทรวงการคลังอย่าง อี. เจอราลด์ คอร์ริแกน กรรมการบริหารปัจจุบันของโกลด์แมน แซคส์ จอห์น เธอิน ซีอีโอ.ปัจจุบันของเมอร์ริล ลินช์ พอล โวล์คเกอร์ อดีตประธานเฟด ปีเตอร์ ปีเตอร์สัน อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ และ เจมส์ ดีมอน ประธานธนาคาร เจพี มอร์แกนปัจจุบัน บทบาทล่าสุดก่อนหน้านี้ 3 เดือน คือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังมาตรการช่วยเหลือกรณีแบร์ สเติร์น ล้มละลาย โดยการให้กู้ยืมของเฟดฯมูลค่า 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ เจ พี มอร์แกน เพื่อเข้าไปซื้อกิจการของแบร์ สเติร์น อีกต่อหนึ่ง สายสัมพันธ์ และพฤติกรรมจากการทำงานของเกธเนอร์ ทำให้คนเป็นจำนวนไม่น้อยยอมรับว่า เขามิใช่คนหนุ่มไร้ประสบการณ์อย่างเด็ดขาด แต่คำถามที่ตามมาก็คือว่า แวดวงแห่งสายสัมพันธ์ดังกล่าว ก็ไม่ต่างอะไรกันกับสายสัมพันธ์ของเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังที่ล้มเหลวในปัจจุบันของบุช จูเนียร์นั่นเอง...แล้วจะทำอะไรได้ดีกว่าพอลสันได้อย่างไรกัน? คำตอบคงต้องวัดกันที่ผลงานเป็นรูปธรรมหลังวันที่ 22 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไปว่า รัฐมนตรีคลังที่ไม่ได้มีความรู้พื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ แต่มีผลงานรูปธรรมในฐานะเทคโนแครตในกระทรวงการคลังมาโชกโชนคนนี้ จะรับมือกับปัญหาได้มากน้อยและดีเพียงใด หรือจะเป็นแค่มือใหม่หัดขับธรรมดา?........................
โดย
121
อังคาร พ.ย. 25, 2008 4:01 pm
0
0
ค่าเงิน น้ำมัน แบบนี้
ผมรอ 55...... :lol:
โดย
121
พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 3:25 pm
0
0
ใครมีธุรกิจ internet ในมือ ลองอ่านไหมครับ
ผมก็มีเรื่องสดๆ...ร้านnet เมื่อเช้าลองไป load ข้อมูลจากร้านnet เพราะไวกว่าที่บ้าน...ปรากฎว่าได้ของแถม ติดมากับ flash drive ลบยังไงก็ไม่ออก format ก็ไม่หาย หรือต้องทิ้ง drive ไปเลยเนี่ย :lol: pc ที่บ้านก็รวน กว่าจะ restore ได้....เข็ดเลย :8) ผมก็ว่าจะสาบส่งด้วยคน :roll:
โดย
121
พุธ พ.ย. 12, 2008 3:45 pm
0
0
มีใคร ปลูกต้น ตะกู บ้างครับ
ขายไม่ออก ไม่ถึงกับซวย อะไรหรอกครับ แถวบ้านผมมี คนปลูกกันอยู่ ผมว่าตามความรู้สึก โตเร็วกว่ายูคานะ รึอาจหลอกตา เพราะใบมันใหญ่
โดย
121
พุธ พ.ย. 05, 2008 4:19 pm
0
0
cpall
ทางเทคนิค อย่างหนึ่ง ที่ 7 บาท นี่ น่าสน อ้างอิงกับ set ที่ 350
โดย
121
อังคาร ต.ค. 28, 2008 4:02 pm
0
0
ตลาดน้ำมันล้มครืน - ไม่นานเกินรอ
ขอบคุณครับ..สำหรับบทความดีๆ อีกครั้ง
โดย
121
จันทร์ ก.ย. 22, 2008 4:21 pm
0
0
ดัชนีหุ้น กับ GDP
แล้ว sp500 คิดยังไง ครับ :lol:
โดย
121
จันทร์ ก.ย. 22, 2008 4:13 pm
0
0
พี่ๆกูรูๆทั้งหลาย ช่วยแนะนำหน่อยคะ
ถ้าสนใจ หุ้น มาก ก็ สมควรไปหา....หนังสือ ...temple boxing มาอ่าน เพื่อจะรู้เขาส่วนหนึ่ง สำคัญ กว่านั้น คือรู้เราให้มากๆครับ
โดย
121
พุธ ส.ค. 20, 2008 11:26 am
0
0
จริงหรือเปล่า หุ้นที่เราซื้อเป็นตัวแรกในชีวิตมักจะขาดทุน
ของผมตัวแรกกำไร..... และมันกลายเป็น....ตัวล่าสุด ที่ทำให้ขาดทุนทางบัญชีไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะเป็นตัวสุดท้ายด้วยหรือเปล่า .....ใหญ่จริงนะ :lol:
โดย
121
อังคาร ก.ค. 15, 2008 1:21 pm
0
0
Strong Brand Stock
มาม่า แข็งแกร่งกว่า ไวไว ยำยำ จริงหรือ ผมไม่แน่ใจ ในความรู้สึก
โดย
121
ศุกร์ ก.ค. 11, 2008 3:49 pm
0
0
Admin Thaivi ช่วยแก้ Web Page ให้สามารถ Save ได้หน่อยครับ
ใช่ครับ save ยาก ถึง ยากต้องทน
โดย
121
พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 3:49 pm
0
0
ทองคำ
เท่าที่ผมรู้ต้นทุนการผลิต ของเจ้าคาทุ่ง...ไม่ถึง600 เหรียญเลยนะครับ :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
โดย
121
ศุกร์ มิ.ย. 27, 2008 3:59 pm
0
0
SCC ยังพอเป็นหุ้นคุณค่าได้ไหมครับ หากเน้นลงทุนระยะยาว 3 ปี
ว่าตามที่พอรู้....ถ้าตรง190 กว่าๆเอาไม่อยู่นี่ ผมจะรอที่ ส่วนลดอีก 50% และถ้าผมรู้ว่าปูนใหญ่เป็นที่หนึ่งในด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์...จริง ผมจะรอ....ที่ตรงนั้น
โดย
121
อังคาร มิ.ย. 24, 2008 4:11 pm
0
0
NNCL กำลังรอจังหวะขึ้นหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ...อืมม์ฮึ
โดย
121
พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2008 10:47 am
0
0
คิดไปคิดมา
ครับ...ผมก็ได้คุณเจ๋งสั่งสอน ที่เว็บก่อนที่นี่ หุ้นสหพัฒน์ไม่แน่ใจว่าตัวไหนแน่ มาเดียงสาว่าหุ้นไม่คล่องคอ นี่จะขายยังไง ดีที่ค่าครูแค่ค่าคอม. นับเป็นบทเรียนแรกๆของการ cut ขอบคุณจากใจจริงครับ...อิอิ :wink:
โดย
121
ศุกร์ พ.ค. 09, 2008 3:44 pm
0
0
มาม่าห่อเล็กลง ราคาเท่าเดิม 5 บาท
มาม่า ยังไม่ขึ้นราคาเป็น 6 บาท เหรอครับ เดินดูในห้างเห็นแพ็ค 10 ซองก็ขึ้นราคาไปแล้วนี่ ซอง 5 บาท น้ำหนักข้างซองลดลงด้วยหรือเปล่าครับ อืมม์....อากาศร้อน ได้แต่น้ำเปล่าลูบท้อง..... :cry:
โดย
121
อังคาร เม.ย. 15, 2008 11:56 am
0
0
เห็นแล้ว วิน+วอร์
วอร์ลูกก็มีเพดานนะครับ ดูเหมือนคิดมาจาก เพดานของแม่ก่อน แล้วก็มาหาของลูกต่ออีกที..... ....ถ้าไม่ผิดนาครับ :lol:
โดย
121
ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 11:09 am
0
0
ท่ามกลางวิกฤติน้ำมันแพง แต่เป็นแสงสว่างของเศรษฐกิจไทย
ขอขอบคุณข้อมูล ของคุณริว :shock:
โดย
121
อังคาร เม.ย. 08, 2008 10:39 am
0
0
บันทึกไว้ ใครแม่น
มาให้กำลังใจครับ สรุปผลได้แล้วกรุณามาบอกกันบ้างนะครับ
โดย
121
ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 12:15 pm
0
0
วิกฤตตลาดทุนที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 60 ปี
ยังไม่ได้อ่าน เดี๋ยวอ่าน แต่ขอขอบคุณก่อนครับ
โดย
121
พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 2:50 pm
0
0
ทำไมเงินบาทจึงจะแข็งค่าต่อไป ... ศุภวุฒิ สายเชื้อ
กลับมาตามอ่านเหมือนเดิม ด้วยความคิดถึง ขอบคุณครับ
โดย
121
จันทร์ ม.ค. 21, 2008 10:32 am
0
0
ผมผิดปกติหรือเปล่า?
อาการคล้ายผมแฮะ ช่าง....เนี่ย รวมถึงอาการอื่นๆก็ใกล้เคียงกัน เบื่อๆ...อยากๆ เฮ้อ.....
โดย
121
อังคาร ม.ค. 08, 2008 9:59 am
0
0
KEST ยังเหนียวรั้งแชมป์แชร์สูงสุดปี 50
อืมม์.... เหตุของการฟอร์มตัวสวยกว่า'แนนท์ อื่นๆ :shock:
โดย
121
ศุกร์ ธ.ค. 28, 2007 5:54 am
0
0
- ลิมิตเข้าใกล้ ====> ศูนย์ -
ไม่จริงคับ....เราฆ่าตัวเราเอง จากลูกไทยพานิชย์ ผ่านลูกนครหลวง ฉากจบไม่ใกล้สูญเพราะมีแม่ค้ำ แม้ก่อนจบได้ดูหนังบู๊ น่าสนใจลูกกรุงศรี จะถูกตบเมื่อไร อีก3 เดือน :?:
โดย
121
ศุกร์ ธ.ค. 28, 2007 5:43 am
0
0
ผถห.PTTหนาว! ศาลฯพิจารณาคดีแปรรูปนัดแรก30 พ.ย.นี้
เวลาจะลงหาเหตุให้ถูกที มันกี่รอบแล้วนี่ที่เล่นข่าวนี้
โดย
121
พฤหัสฯ. พ.ย. 22, 2007 6:27 am
0
0
ได้ UMS-W1 มาฟรีๆ แล้วต้องเสียภาษีมั้ยครับ
ดูเหมือนไม่ต้องเสียหรอกครับ เพราะไม่ใชเงินโดยตรง...มั้ง :shock:
โดย
121
พุธ พ.ย. 21, 2007 5:59 am
0
0
193 โพสต์
of 4
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
121
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พฤหัสฯ. เม.ย. 28, 2005 10:59 am
ใช้งานล่าสุด:
จันทร์ มี.ค. 31, 2014 2:50 pm
โพสต์ทั้งหมด:
843 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.04% จากโพสทั้งหมด / 0.12 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว