Re: ขอเด็ดๆ 1 ตัว ส่งหุ้นเข้าประกวดด้วย เผื่อจารย์โยชอบ ตามจารย์โยไป หุ้นอะไร - KTC ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ (เป้าหมายไม่ต้องนะคิดเองได้) - 74 ทำธุรกิจอะไรขอสั้นๆ - บัตรเครดิต (รายได้จากค่าธรรมเนียมรูดบัตรเก็บจากร้านค้า กับ ได้จากดอกเบี้ยยอดค้างจ่าย) ย้อนหลัง 3 ปีรายได้และกำไรเป็นยังไง - มีการทำ big bath (blood bath ?) หนึ่งครั้ง ล้างบัญชีเก่าๆ จากนั้นกำไรก็ดีขึ้นเป็นลำดับจากการลดค่าใช้จ่าย รายได้เพิ่งจะมาเติบโตหลังๆนี้เอง มีอะไรปัจจัยอะไรเร่งให้ธุรกิจเติบโตดีบ้างมั๊ย - ยอดการใช้จ่ายของประชาชนที่กลับมา, การเติบโตตามขนาดเศรษฐกิจประเทศ, การใช้บัตรแทนเงินสดมากขึ้น (เพื่อความสะดวก, เพื่อโปรโมชั่น ส่วนลด) ปีนี้ปีหน้ารายได้กำไรคาดว่าเป็นเท่าไหร่ เอาแบบไม่เว่อร์นะ คิดให้ conservative ไว้ก่อน - เอาตามผบห ว่าใน oppday ก็น่าจะโต 15% ไปได้เรื่อยๆ อีก 3-5 ปีข้างหน้าเห็นภาพบริษัทเป็นยังไง - ก็น่าจะโตได้จากสองแกน คือ โตตามประเทศ กับ โตจากการใช้บัตรแทนเงินสด น่าจะเติบโตตามเป้า ผบห ปีละ 15% ไปได้เรื่อยๆ คู่แข่งเยอะมั๊ย บริษัทมีจุดแข็งยังไงเทียบกับคู่แข่ง - คู่แข่งเพียบ ฟัดกันนัว จุดแข็งคือบริหารเป็นเอกเทศจากธนาคาร ทำให้ปรับตัวได้ไว ทำโปรโมชั่นต่างๆได้คล่องตัว อำนาจการต่อรองกับลูกค้าและ supplier เป็นยังไง - ลูกค้าเลือกบัตรได้ทุกแบงค์ อำนาจต่อรองมีไม่มาก ต้องวัดกันที่โปรโมชั่นและพันธมิตรที่หามาได้ ส่วน supplier ถ้ามองในแง่เงินกู้ที่กู้มา ช่วงนี้ดอกต่ำ ก็เร่งออกตั๋วมาลดต้นทุน แต่ถ้ามองด้านร้านค้า เป็นสิ่งที่ต้องทำคู่กับ การหาลูกค้าไป ถ้าลูกค้าเยอะ อำนาจต่อรองก็เยอะขึ้น ถ้าพันธมิตรร้านค้าเยอะขึ้น ลูกค้าก็อยากมา ต้องทำควบคู่ เป็นสิ่งที่ท้าทาย ผบห ความเสี่ยงอะไรที่ควรต้องติดตามบ้าง - พรบ บัตรเครดิต จะมีหัวข้อที่ไม่เข้าท่าแบบ ดอกเบี้ยเดือนแรกห้ามเก็บ โผล่มาหรือไม่ หรือจะกลับไปทำเรื่องเก็บหนี้ไม่เป็นธรรรม กับ ห้ามดอกเกินเกณฑ์ ตามเดิม (ซึ่งบริษัทไม่เดือดร้อนในเรื่องนี้เพราะทำตามเกณฑ์) ความเสี่ยงต่อมา ก็หนี้เสีย ต้องคุมให้อยู่ ถ้าคุมไม่อยู่ ก็ blood bath อีกรอบแน่ กระแสเงินสดดีป่าว ในอนาคตต้องลงทุนเยอะมั๊ย - กระแสเงินสด ดีมาก อนาคตไม่น่าจะต้องเพิ่มทุนอะไร เพราะ D/E ลดลงเรื่อยๆ เรื่องการลงทุน(ขยายพอร์ท) ตามตัวเลข ที่ผบห ให้ ถ้ากำไร ปีละ 1500 ล้าน ปันผล 600 ก็เหลือ กำไรสะสมเข้า E ของบริษัท 900 แปลว่า สามารถขยายพอร์ทได้ 6-7000 ล้าน โดยไม่ทำให้ D/E เพิ่มขึ้น ซึ่งก็น่าจะ ได้ตามเป้า ผบห ปันผลประมาณกี่ % ของกำไร - 40% กลุ่มผู้บริหารถือหุ้นอยู่ประมาณกี่ % - ผู้บริหาร เป็นผู้บริหารมืออาชีพ เท่าที่แสดงใน SET ไม่มีชื่อติด ผู้ถือหุ้น โดย airazoc จันทร์ ก.ย. 08, 2014 12:36 pm

Re: App Thaivi สำหรับ apple ,android ในคอมผมใช้ Chrome Browser นะครับ ให้ google คำว่า RSS feed reader น่าจะขึ้นมาอันแรกเลย ที่เป็นของ chrome web store กด เข้าไป แล้ว install เลยครับ ลงเสร็จจะมีปุ่ม feed ขึ้นตรงมุมบนขวาของ Chrome กดปุ่มนั้นแล้วกด add board.thaivi.org ได้เลย ใน feed จะเรียงกระทู้ที่ update ล่าสุดจากใหม่ไปเก่าจากทุกห้องให้ครับ ถ้าใช้ app บน android หรือ IOS ก็ลองลงดูหลายๆตัวก็ได้ครับ ชอบ interface ของตัวไหนก็ลงตัวนั้น (Keyword สำหรับ search ก็ RSS Reader) แล้ว add board.thaivi.org หรือถ้าหา feed ไม่เจอ ลอง board.thaivi.org/feed.php น่าจะเจอครับ โดย airazoc จันทร์ ต.ค. 07, 2013 9:14 am

Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต อยากถามคนที่มีพอร์ต 9 หลักว่า กังวลกับหลักฐานการถือหุ้นไม๊คะ อย่างเงินฝากธนาคารเราก็มีสมุดฝากเงิน หุ้นกู้ก็มีใบหุ้น กองทุนก็มีสมุดกองทุน แต่หุ้นในพอร์ต เราสั่งพิมพ์ statement เองทุกสิ้นเดือน (เลือกรับเอกสารทางเมล์) แล้วเงินเป็นร้อยล้าน มีหลักฐานแค่กระดาษแผ่นเดียว (อยากรู้จริงๆค่ะ) อย่าง อ. นิเวศ มีหุ้น cpall เป็นพันล้านบาทแล้วก็เก็บไว้ยาวๆ อ. ขอใบหุ้นมาเก็บไว้บ้างไหม แล้วใบหุ้นที่ขอมา เวลาขายหุ้นไปแล้ว ต้องเอาไปคืนไหม แล้วใบหุ้น กะ ข้อมูลที่ TSD อันไหนใช้ยืนยันเจ้าของได้จริงกว่ากัน ถ้าความเข้าใจของผมไม่คลาดเคลื่อน เวลาไปขอ ใบหุ้นมา หุ้นจะหายไปจากพอร์ทนะครับ เวลาอยากจะขาย ต้องเอากลับไปฝากเข้าระบบใหม่ โดยเอาใบหุ้นไปฝากที่ TSD โดย airazoc ศุกร์ ส.ค. 16, 2013 10:07 pm

Re: App Thaivi สำหรับ apple ,android ถ้าทำเป็น App ราคานี้ถูกมากครับ โดย airazoc เสาร์ ส.ค. 10, 2013 10:00 am

Re: App Thaivi สำหรับ apple ,android ใช้พวก feed reader เข้าได้หมดอยู่แล้วครับ ตั้ง alert , follow topic ได้หมด โดย airazoc พฤหัสฯ. ก.ค. 25, 2013 5:25 pm

Re: รถคันแรกซัดกำลังซื้อไตรมาส 2 ยังซบ คาดลากยาวตลอดปี ไปเยี่ยมพี่โดมที่เพิร์ทมา พบว่าที่นั่นโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์พากันปิด แล้วย้ายมาสั่งผลิตจากไทยเป็นจำนวนมาก กิจการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยอาจจะน่าลงทุนก็ได้ครับ ยิ่งตลาดมองกลุ่มรถยนต์ไม่ดี อาจจะมีโอกาสได้ของดีราคาถูก ลองติดต่อ IR หรือไป วิสิทดูนะครับ :mrgreen: โดย airazoc ศุกร์ มิ.ย. 07, 2013 8:41 pm

Re: Financial ratios from morningstar.com ตรงช่อง quote ข้างบน ใส่ XBKK:ชื่อหุ้น ลงไปก็ได้ครับ เช่นอยากดู PM ก็ใส่ XBKK:PM ลงไปในช่อง quote จะได้หุ้น PM ของไทยมา ถ้าลืมใส่ XBKK: นำหน้า จะได้หุ้น Philip Morris มาแทน โดย airazoc พฤหัสฯ. พ.ค. 30, 2013 9:27 am

Re: วิธีการลอกหุ้นที่ผมใช้ประจำ ฮ่าๆ แรงถีบยังไม่พอ ช่วงนี้ยังขี้เกียจอยู่ (จริงๆ คือขี้เกียจตัดแปะ สไลด์น่ะครับ) แปะไว้ก่อนละกันนะ หายขี้เกียจจะกลับมาลงตัวอย่างละเอียดให้นะ จุ้บุๆ โดย airazoc พฤหัสฯ. พ.ค. 09, 2013 12:51 am

Re: ขั้นตอนการหาหุ้นคุณภาพซักตัว ขอเนียนโฆษณาหน่อย อิ อิ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=53464 เขียน concept ไว้พักนึงละ ไม่มีแรงถีบให้เขียน detail ต่อซะที โดย airazoc พุธ พ.ค. 08, 2013 10:06 pm

Re: ขอคำแนะนำว่าควรที่จะนำเงินไป ลงทุนอย่างไร ต่อไปคะ ลองดูพวก structured note ของพวก Swiss Bank ที่เป็น Private Bank ก็ได้นะครับ มีพวก Term ที่เป็น capital protected เยอะแยะ เลือกแบงค์ที่เก่าแก่ๆ และ leverage ต่ำๆ ไม่ล้มแน่ๆ ก็จบ Yield ปีละ 7-15% มีเยอะครับ แล้วแต่ condition อย่างน้อย เงินต้นไม่หาย :B โดย airazoc จันทร์ มี.ค. 25, 2013 10:49 am

Re: เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นหลักทรัพย์ ถ้าลองมองข้อมูลวอลุ่มการซื้อขาย ไตรมาส 4 ของ 2012 กับ ไตรมาส 1 ของ 2013 บางโบร้กมีวอลุ่มเทรดมาขึ้นถึงเกือบสองเท่า ธุรกิจหลักทรัพย์นั้น รายจ่ายสำคัญก็คือ 1>เงินเดือน,ค่าบริหาร,ค่าเช่าอาคาร 2>ส่วนแบ่งค่าคอมที่ให้มาร์และสายงาน ในส่วนที่ 1 นั้นค่อนข้างคงที่ ดังนั้นหากรายได้ในส่วนธุรกิจหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นสองเท่า กำไรไม่ได้เพิ่มขึ้นแค่สองเท่านะครับ อาจจะมีหลายคนเก็งในเรื่องนี้จึงเข้าไปเลือกโบร้กที่เชื่อว่าผลประกอบการจะโตขึ้นมากๆ เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ แย่งกันเก็บหุ้นจนบางตัวราคาขึ้นไปสูง แต่อย่าลืมอ่านงบให้ดี เพราะกำไรจาก proptrade, รายได้อื่นๆ , ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของแต่ละโบร้กแตกต่างกัน ขอให้อ่านให้รอบคอบ โบร้กนึงกำไรโตดี ไม่ได้แปลว่าโบร้กอื่นๆ จะกำไรโตด้วย ศึกษากิจการให้รอบคอบนะครับ โดยเฉพาะราคาช่วงนี้ ขอให้ประสบความสำเร็จและมีความสุขในการลงทุนครับ โดย airazoc อังคาร มี.ค. 12, 2013 9:33 am

Re: ผมอยากโดนตบกะโหลก(กะทู้สำนึกผิด) ลองผ่านไปสักสามวิกฤติครับ ใหญ่เล็กปนๆกันไป ถ้ายังอยู่ได้ไม่ขาดทุน ก็น่าจะมาถูกทางแล้วครับ โดย airazoc เสาร์ ก.พ. 09, 2013 10:11 pm

Re: ทำอย่างไรจะรู้ว่าวันนี้มีใครมา post ในห้องร้อยคนร้อยหุ้น ถ้าอยากรู้ทุกครั้งที่มีคนมาโพสอะไรใน ร้อยคนร้อยหุ้น ให้เข้าหน้าร้อยคนร้อยหุ้นครับ ตรงหน้ารวมกระทู้เลย มองด้านบนเหนือกระทู้ปักหมุด ด้านซ้าย จะมีคำว่า "Subscribe Forum" กดเข้าไปทีเดียว ต่อไป ทุกๆครั้งที่มีคนโพสอะไรในร้อยคนร้อยหุ้น จะมีเมล์ไปบอกครับ แต่วิธีนี้ ท่านจะได้เมล์วันละเป็นร้อยฉบับเลยทีเดียว ผมขอแนะนำว่า ถ้าท่านอ่านไปทำไป เผลอกด Subscribe ไปแล้ว ที่ตำแหน่งเดิมจะมีคำว่า "unSubscribe Forum" ให้กดครับ สามารถกดยกเลิกได้ ผมแนะนำเข้าเข้าไปในกระทู้หุ้นตัวที่อยากติดตาม แล้วกด Subscribe Topic แทน (อยู่ตำแหน่งเดียวกับ subscribe forum แหละครับ แต่อยู่ในกระทู้หุ้นแต่ละตัว) แบบนี้จะมีเมล์ไปทุกครั้งที่มีคนมาโพสในหุ้นตัวนั้นๆที่อยากติดตาม จะลดปริมาณเมล์ที่ท่วม mailbox ลงได้ครับ ลองดูนะครับ :B โดย airazoc จันทร์ ก.พ. 04, 2013 8:41 am

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด เสียภาษีครับ ถ้าซื้อขายทองแท่งบ่อยๆจนสรรพกรจับผิดสังเกตุได้ แต่ทองรูปพรรณไม่เสียภาษี อ๋า ... ความรู้ใหม่จริงๆ เพิ่งทราบว่า เก็งกำไรทองคำแท่ง เสียภาษี ขอบคุณมากครับ จะลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูว่าอะไรเสียเท่าไหร่ยังไงบ้างครับ :oops: โดย airazoc พุธ ม.ค. 02, 2013 9:56 pm

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด ซื้อทองแล้วขายได้กำไร เสียภาษีด้วยเหรอเนี่ย โดย airazoc อาทิตย์ ธ.ค. 30, 2012 9:43 pm

Re: กรณีนี้ผู้ถือหุ้นต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วยหรือครับ 1> หากเป็นบริษัทที่ยังชำระทุนจดทะเบียนไม่เต็ม สามารถบังคับให้ ผู้ถือหุ้นนำเงินมาชำระทุนจดทะเบียนให้เต็มเพื่อใช้หนี้ต่างๆได้ แต่ถ้าชำระเต็มแล้ว ผู้ถือหุ้นไม่มีภาระหน้าที่ใดๆ ที่จะต้องชำระแล้วครับ 2> หากมีการเอาผิด ทางกฎหมายต่างๆ เช่นคดีแบบมีคุก ต้องโดนค่าปรับ หรือ คดีที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้อื่น ที่ไม่ได้เป็นไปตามการดำเนินงานปกติ คนที่จะโดนฟ้องคือกรรมการ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นครับ (สมมติทำโรงงาน แล้วโรงงานปล่อยน้ำเสีย ชาวบ้านเดือนร้อน เวลาฟ้อง ฟ้องบริษัท และกรรมการครับ ไม่สามารถตามไปฟ้องผู้ถือหุ้นได้) โดย airazoc พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2012 7:59 am

Re: ขายก่อนงบออก........... ? อันนี้ดูแปลกๆ จริงๆด้วยครับ โดย airazoc พฤหัสฯ. พ.ย. 08, 2012 7:19 am

Re: ***เปิดจองงานสัมมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไอ 9/9/2555*** จองสัมนาครับ โดย airazoc พฤหัสฯ. ส.ค. 30, 2012 9:09 am

Re: ตัดมาจาก เว็บ กลต.Investor Alert List ผมขออนุญาต คิดต่าง ผมกลับคิดว่านักวิเคราะห์ที่เขียนบทวิเคราะห์ไม่มีเหตุผล เช่น "แนะนำขาย เพราะขึ้นมาเยอะแล้ว" โดยไม่มี Valuation Model ที่มีเหตุผล หรือ บทวิเคราะห์ที่เชียร์ซื้ออย่างมีพิรุธ ทั้งๆที่ sector นั้นเป็นขาลง โดยไม่มีเหตุผลน่าเชื่อถือ เหล่านี้ต่างหากที่ กลต ควรกวดขัน เพราะ นักวิเคราะห์ที่อยู่กับ บริษัทหลักทรัพย์เหล่านี้ เหมือนมีตราประทับ ให้ประชาชนเชื่อถือกว่าบุคคลทั่วไป เพราะได้รับการรับรอง หากเขียนอะไรก็ได้ออกมาประชาชนก็เชื่อ แม้หลายอย่างเขียนโดยขัดเหตุผล หากวิเคราะห์ไปผิดทาง เกิน 6-70% ของที่เขียนมา ผมว่าควรจะสั่ง suspend ห้ามเขียนสักระยะ ให้ไปฝึกวิชามาก่อนจึงจะถูก ไม่ใช่ ฟันธง แล้ว ธงหัก ก็ฟันใหม่ได้เรื่อยๆ ไม่มี consequence ในทางกลับกันผมว่าเวปที่ให้ความรู้ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น ควรจะมีเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี เวลาจะพิสูจน์เองว่า ใครเป็นของจริง ของปลอม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวปไซท์เหล่านี้นั้น ไม่มีตราประทับว่าเป็นเวปไซท์ ของโบร้ก หรือ ที่ปรึกษาการลงทุน ที่ถูกต้องเป็นทางการ ประชาชนย่อมควรมีวิจารณญาณ ว่าไม่ใช่อ่านแล้วเชื่อทันที ควรมองจากผลงาน ความสามารถที่ผ่านมา ว่าวิเคราะห์ถูกต้องหรือไม่ ถ้าเป็นเวป ประเภท หลอกคนไปสัมนาคนละหลายๆหมื่น ไปถึงสอนเทรด option ที่ใกล้หมดอายุ และ ไม่มีสภาพคล่อง แล้วลากให้ดู บอกว่า ทำกำไร 10 เท่าใน 1 วัน อันนี้ผมว่าควรจะไล่จับให้หมด แต่ถ้าเวปหรือ blog ไหนประสบความสำเร็จ วิเคราะห์อะไรก็ถูก มองแนวโน้มอุตสาหกรรมต่างๆ ถูกต้อง 7-80% ขึ้นไป ผมคิดว่า กลต ควรจะส่งเสริมด้วยซ้ำไม่ใช่ไปไล่ปิดเขา การที่ไล่ปิด ไล่บังคับ ไม่ให้คนพูดหรือถกกันเรื่องหุ้นโดยไม่มี License นั้น จะทำให้คนที่มีความรู้จริงๆ ประสบความสำเร็จแล้ว และสอนหลักการลงทุน และ Valuation ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ทำงานในโบร้ก ไม่ยอมเปิดเวปเผยแพร่ความรู้ และยิ่งทำให้คนที่เปิดเวปที่ให้ความรู้ที่คลาดเคลื่อนในปัจจุบัน ไม่มีคู่แข่ง และทำให้ประชาชนไม่มีตัวเปรียบเทียบ ว่าของจริง การทำ Valuation ที่ถูกต้อง เป็นอย่างไร ก็จะยิ่งหลงเชื่อเวปไซท์เหล่านี้ยิ่งกว่าเดิม คนที่วิเคราะห์เก่งๆ ประสบความสำเร็จ พอร์ท ร้อยล้าน พันล้าน ใครจะไปนั่งเป็นนักวิเคราะห์อยู่ตามโบร้ก หากเราบอกว่า ถ้าไม่ใช่นักวิเคราะห์ตามโบร้กหรือที่ปรึกษาการลงทุน แล้วห้ามพูด ผมว่า คนเหล่านี้เขาก็ไม่พูด รวยคนเดียว เงียบๆ ไม่ก็คุยกับเพื่อนๆ อยู่ในกลุ่มก็ได้ คนที่เสียประโยชน์ ที่อดเรียนรู้วิชา กลับกลายเป็นประชาชนส่วนใหญ่ ที่ต้องโดนปิดหูปิดตา ต่อไป ผมคิดว่า ตลาดนี้ควรจะ Free Speech ครับ และหากใครมีเจตนาปลุกปั่น เชียร์ซื้อ-ขาย โดยหวังผลประโยชน์ หรือ ก่อความเสียหายชัดเจน กลต ก็ค่อยตรวจสอบ และกล่าวโทษ โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 27, 2012 10:03 am

Re: RSS Feed ของ ThaiVI มีคำถามให้น้องเบสท์ปวดหัวอีกแล้ว คือมันสามารถดึงมาอ่านได้โดยที่ไม่ต้องสมัครเป็นสมาชิก แบบนี้ก็หมายความว่าไม่จำเป็นต้องล็อกอินก็อ่านได้ แต่ผมชอบจริงๆนะ พี่อินทรีย์ทองครับ สำหรับไอแพดผมใช้ xfeed แจ๋วจริงๆ ลองหาดูในแอฟสโตร์นะครับ หลังจากเดือนตุลา ผมเข้าใจว่า ทางแอดมินของสมาคม จะ lock feed ให้ต้อง login ก่อนจึงจะดูได้ครับ การดู RSS feed ก็สามารถตั้งให้ต้อง login จึงจะดูได้ เช่นกัน คิดว่าทีมงานคงจะจัดการไปในทางนั้นให้ตรงกับนโยบายของเวปครับ โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 20, 2012 6:45 pm

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย เจ๋งมากครับพี่หมอมุข :B โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 20, 2012 2:35 pm

Re: ขออนุญาต test โพสแล้ว login หลุด ไม่หลุดแฮะ โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 20, 2012 2:06 pm

Re: ขออนุญาต test โพสแล้ว login หลุด ทดสอบ โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 20, 2012 2:05 pm

Re: เกิดอะไรขึ้นกับหลังไมค์ของ ทีวีไอครับ กลับมาครบถ้วนแล้วมั้งครับ โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 20, 2012 1:55 pm

Re: เวลาที่โชว์มันรวนครับ test again 13.53 โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 20, 2012 1:54 pm

Re: เวลาที่โชว์มันรวนครับ test โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 20, 2012 1:53 pm

Re: สำรองที่นั่ง"ย้อนรอยตำนาน VI" ไตรมาส 2/2555 จำนวน 250ที่ 2 ที่ครับ โอนแล้ว หมายเลขอ้างอิง TRTR120806137660886 ครับ จำนวนเงิน (บาท) 2,161.79 โดย airazoc จันทร์ ส.ค. 06, 2012 9:37 am

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ มีประเด็นหนึ่งที่ผมเห็นด้วยกับคุณ Rocker และขอนำเสนอทีมงานในอนาคตไว้ และเป็นเรื่องซีเรียสในสายตาผมคือ Privacy ของสมาชิกครับ ต้องขอให้ดูแล Privacy เกี่ยวกับ Identity ของสมาชิกสมาคมทุกคน เป็น priority สูงสุด หากไม่มีหนังสือจากราชการที่เกี่ยวข้อง ห้ามใครเปิดดูข้อมูลเด็ดขาดว่า login ไหนเป็นใคร ซึ่งเท่าที่สอบถาม ก็ได้มีการดำเนินการพอสมควรแล้ว คือ Admin ที่สมาคมจ้างนั้น มาเพื่อทำระบบ และดูแลตามกฎอย่างแท้จริง ไม่ได้ลงทุน ไม่รู้ว่าใครเก่ง ใครไม่เก่ง ทำระบบ และ ลบ/แบน สิ่งที่ผิดรุนแรงตามกฎอย่างเดียว (เช่นหมิ่น, การเมือง เป็นต้น) ส่วนการ discuss เท่าที่สอบถามดู ก็น่าจะเปิดกว้างกว่าเดิม เพราะทีมงานชุดต่อไปไม่ต้องพลอยติดร่างแหไปด้วยแล้ว เพราะถ้ามีการฟ้องร้อง ดำเนินคดี ทางสมาคมก็แค่จัดส่งชื่อผู้กระทำไปให้ กลต หรือ ตำรวจ ทีมงานเสี่ยงน้อยลง ก็ปล่อยให้โพสได้เสรีมากขึ้น หากมีการดูแล Privacy ที่ดี ก็น่าจะช่วยให้คลายใจลงไปได้เรื่องจะไปจีบอะไรกันเพราะคนดูแล ไม่ใช่ผู้มีผลประโยชน์ และแทบจะไม่ทราบด้วยซ้ำว่าคนไหนเก่ง คนไหนไม่เก่ง แต่ก็มีเรื่องที่ผมอ่านแล้วไม่สบายใจ และไม่เห็นด้วยคือข้อความใน quote นี้ มีเรื่องขอระบายหน่อย นะครับ อย่าโกรธนะครับ ถ้าโกรธ ก็ นับ 1 2 3 4 ยุบ หน๋อ พอง หน๋อ เอานะ :B ทราบมาว่า คนที่ต้องการจัดตั้ง สมาคม คือ อาจารย์ ไพบูลย์ ซึ่งสิ่งผมสงสัย คือ กรรมการ ต่างเป็น เศรษฐี 100 1000 ล้าน รวยล้นฟ้า หากมองอีกมุม ทําไมไม่มีใครเสนอตัวอุปถัมภ์ สมาคม เลยหรือ ครับ ซึ่งเงินอุปถัมภ์ นั้นก็ไม่ได้จํานวนมากเลยเทียบกับอุดมการณ์ในการจัดตั้งของท่าน ครับ เนื่องจากผมรู้จักคนที่รวยมาจากทั้งธุรกิจ หรือ หุ้น นะครับ แต่ที่ผมเริ่มรู้สึกคือ ผมรู้สึกว่าทําไม เศรษฐี หุ้น นั้นค่อนข้างขี้เหนียวมากครับ ไม่เหมือนนักธุรกิจหรือคนค้าขาย ที่ ช่วยกัน อุปถัมภ์ วัด โรงเรียน หรือ ต่างๆ ด้วยกัน ไม่รู้เพราะคิดเรื่อง Opportunity Cost มากไปหรือ Future Value ว่าเงินส่วนที่จะ อุปถัมภ์นั้น จะงอกเป็นเท่าไหร่ เป็นต้น ไม่รู้สิแค่รู้สึกว่า นักลงทุนไม่ค่อยกล้าบริจาคหรือ spend เหมือนนักธุรกิจ อาชืพค้าขาย :D ผมว่าอันนี้ไม่แฟร์ครับ ในความเป็นจริง พี่ๆกรรมการเหล่านั้นบริจาคเงินสร้างวัด อุปถัมป์มูลนิธิช่วยเหลือผู้ด้วยโอกาส ช่วยเหลือโรงพยาบาลชนบท และอื่นๆ เป็นจำนวนมหาศาลต่อปี ซึ่งจะให้เขาทำแล้วมาคอยโพสโพทะนาว่าไปทำบุญมางั้นหรือครับ บางอย่างหากเราไม่ได้สัมผัสโดยตรง เราไม่รู้หรอกครับว่าจริงๆแล้วเขาให้สังคมมากกว่าที่เราเห็นเพียงไหน พี่ๆเหล่านี้ กี่รุ่น กี่ยุค สละเวลา และ ทุนทรัพย์ มากมายโดยไม่ได้อะไรตอบแทนกลับไป เพื่อสร้าง ThaiVI มาจนถึงวันนี้ และวันนี้เมื่อทีมบริหารเวปเขาตัดสินใจว่าจะจัดตั้งเป็นสมาคม และ สมาคมควรจะมีการเก็บเงินสมาชิกเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสมาคม และรู้อยู่แล้วว่าต้องมีเสียงคัดค้าน แต่เมื่อเลือกทางนี้ก็แสดงว่ามองว่าทางนี้ดีที่สุด และคนที่ตัดสินใจ ดูจากรายชื่อแล้วก็น่าจะรู้ดีกว่าผมและมีประสบการณ์มากกว่าผมกันทุกคน ผมก็เชื่อว่าพี่ๆคงคิดมาดีแล้ว การจะไปบอกว่าขี้เหนียวไม่เสียสละ แล้วไปบังคับให้เขาเสียสละมากกว่าเดิมทั้งๆที่เขาก็เสียสละอยู่แล้ว อันนี้ผมว่าไม่แฟร์ครับ มันเหมือนเขาทำสมาคมมา และบอกว่าถ้าจะเป็นสมาชิกสมาคม เสียปีละ 500 นะ เราไม่อยากจ่ายเลยไปเรียกร้องว่าให้เขาเสียสละแทนเรา แทนที่เราจะเลือกว่า เราเห็นค่าในการเป็นสมาชิกพอที่จะจ่ายหรือไม่ อยากให้ลองอ่านที่ผมเขียนไปในหน้า 3 คือ ผมไม่เชื่อครับว่าคนละ 500 บาทจะทำให้สมาคมร่ำรวย หรือ ทำให้กรรมการ มีผลประโยชน์อะไรขึ้นมา เผลอๆ ก็ไม่พอใช้ดำเนินการอยู่ดี และ การกรองคน กับการเก็บเงินก็เป็นคนละเรื่องกัน และค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินงานสมาคมนั้นไม่ได้มีแค่เวป ที่ server ตัวละเกือบๆแสน ค่า co-lo เดือนละสองพันกว่า อีกต่อไป ยังมีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่กว่านั้นมากอีกหลายรายการต่อปี เป็นแค่ไอเดียจากมุมของผมคนเดียวนะครับ โดยส่วนตัวผมคงสมัครสมาชิกสมาคมและจ่าย 500 เช่นกันครับ โดย airazoc พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2012 7:50 am

Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ ขอตอบในมุมมองของ แอดมินที่กำลังจะหมดวาระนะครับ (เผลอแป้บเดียวสองปีแล้วหรือนี่ รู้ตัวอีกที สมาคมตั้งเสร็จ จ้างแอดมินมาดูแลแทนผมแล้ว) เรื่องที่ถกเถียงกันนี้ต้องขอเสนอให้มองแยกกันให้ชัดเจนเด็ดขาดเป็นสองประเด็นครับ 1> เรื่องค่าสมาชิก เครื่อง server ของ ThaiVI ในตอนนี้ทั้ง hardware และค่า co-lo ผมเป็นคนจ่ายครับ ซึ่งหลังจากสมาคมตั้งเสร็จนี้ ทั้ง Domain Name จะถูกชี้ไปยังเครื่องใหม่ ซึ่งเครื่องใหม่จะ clone ระบบ ปัจจุบันไปรัน ค่า server ตัวใหม่ และค่า co-location นั้นเมื่อรันอยู่บน server ที่เป็นของสมาคม แต่สมาคมเป็นนิติบุคคลที่ไม่มีรายได้ประจำใดๆ ก็จำเป็นต้องหารายได้มาจ่ายค่าระบบครับ จะให้อยู่ๆใครมาจ่ายเงินให้สมาคมฟรีๆ ทั้งๆที่ตั้งเป็นสมาคมแล้ว ก็คงแปลกๆ นอกจากนี้ เมื่อตั้งเป็นสมาคม รายจ่ายของ web ก็กลายเป็นส่วนน้อยไปเลย เพราะต้องมีค่าเช่าสถานที่ของที่ทำการ ค่าจ้างพนักงานบัญชี และธุรการในการอำนวยความสะดวกให้สมาชิก ซึ่งสมาชิกสามารถแวะไปหาความรู้ได้ มีหนังสือ มี 56-1 ให้ศึกษา มีหลักสูตรต่างๆที่สมาคมจะจัดทำให้ความรู้ คนที่รับเป็นกรรมการสมาคมให้นั้น ก็เสียสละเวลามาทำประโยชน์ให้สมาคมอย่างมาก ทั้งๆที่ไม่ได้อะไรตอบแทน อย่าคิดว่ากรรมการเหล่านั้นเบิกเงินไปใช้ส่วนตัวได้นะครับ ทุกอย่างต้องจ่ายในนามสมาคม ออกใบเสร็จสมาคม ผมคิดว่าค่าสมาชิก 500 เผลอๆ สมาคมอาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ กรรมการอาจจะต้องบริจาคซ้ำเข้าไปอีกให้สมาคมอยู่ได้ 2> เรื่องการคัดกรองสมาชิก การคัดกรองสมาชิก ทำโดยต่อไปใช้บัตรประชาชนสมัคร แล้วผูกกับ login เป็นระบบยืนยันตัวตนป้องกันคนป่วน อย่างที่สมาชิกหลายๆท่านเสนอ โดยเมื่อสมัครสมาชิกสมาคม ก็จะได้ผูก login หรือ ขอ login ใหม่เพื่อใช้เข้าเวป หากมีการโพสข้อมูลปลอม หรือ ปลุกปั่นไม่ว่าทางใด หาก กลต ต้องการตรวจสอบ ก็สามารถส่งชื่อให้ได้ทันทีที่มีหนังสือเรียก ทำให้สามารถปล่อยให้โพสได้เสรีมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะคราวนี้ทุกคนรับผิดชอบคำพูดตัวเอง ทางทีมงานที่ดูแลเวปต่อจากผม ไม่ต้องมากลัวติดร่างแหไปด้วย เพราะคราวนี้รู้แล้วว่าจะส่งชื่อใครให้ กลต ถ้ามีการทำผิดกฎ ทั้งนี้อยากให้เพื่อนๆทุกท่านมองสองประเด็นนี้แยกกันให้เด็ดขาดชัดเจนครับ จะเห็นถึงความตั้งใจของบรรดาพี่ๆกรรมการทั้งหลายที่เสียสละทำงานให้สมาคม รวมถึง อาจารย์ทุกท่านที่สละเวลามาให้ความรู้ และวางหลักสูตรรากฐาน ที่จะให้สมาชิกได้ศึกษาความรู้เป็นแนวทางในการประเมินคุณค่าหุ้นด้วยตนเองได้ ขอให้ประสบควาสำเร็จและมีความสุขในการลงทุนครับ โดย airazoc พุธ มิ.ย. 27, 2012 9:29 pm

Re: เปิดโผ10หุ้นเด้งเร็ว ... เขียนข่าวได้เก่งมาก เดี๋ยวนี้นสพ บางสำนักเขียนข่าวไม่ค่อยรับผิดชอบครับ บางคนโทรไปคุยเล่นกับนักลงทุน ทำทีเป็นถามหุ้นว่าซื้ออะไรดี อยากซื้อหุ้นบ้าง นักลงทุนบางท่านก็ใจดีบอกไป กลายเป็นเอาไปลงนสพ ซะงั้นก็มี บางทีก็เขียนเชียร์หุ้นบางตัว แล้วเอาคำพูดที่ไม่เกี่ยวกันเลยของนักลงทุนดังๆ ไปเขียนปนๆไว้ข้างๆกันให้เข้าใจผิด การกระทำของนักเขียนหลายๆคน น่าเกลียดครับ โดย airazoc อังคาร มิ.ย. 12, 2012 11:30 pm

Re: อิสรภาพทางการเงิน และ อิสรภาพทางการงาน จริงๆแล้ว อิสรภาพทางการเงิน กับ ทางการงาน มักจะมาคู่กันเป็นส่วนใหญ่ครับ คือเมื่อมี passive income (เช่นเงินปันผล) มากพอจะใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องอนาทรร้อนใจกับรายได้แล้วไม่ว่าจะมีวิกฤติอะไรหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่จะตามมาคือ อิสรภาพในการเลือกงานที่จะทำ (หรือจะเลือกไม่ทำงานแล้วก็ได้) การทำงานที่อยากทำ โดยไม่สนใจว่าจะได้รับค่าจ้างเท่าไหร่ หรือมีตำแหน่งไหนในองค์กร ไม่ต้องนั่งชเลียร์หัวหน้า สามารถพูดสิ่งที่ใจคิด และวิจารณ์งานอย่างที่ควรจะเป็นโดยไม่ต้องมานั่งกลัวว่าจะโดนประเมินงานไม่ดี ความสุขในการทำงานจะเพิ่มพูนอย่างเห็นได้ชัดครับ เมื่อได้ทำงานที่อยากทำ อย่างที่อยากทำ ไม่ใช่ทำงานที่ต้องทำ ผมคิดว่าอิสรภาพทางการงานน่าจะเป็นแบบนี้ มากกว่าที่จะไม่ต้องทำงาน แน่นอนว่าคนที่ทำงานเพราะต้องทำ และไม่มีอะไรที่อยากทำมากกว่าอยู่บ้านสบายๆ ก็มีอยู่ เมื่อมีอิสรภาพ บางคนก็เลือกอยู่บ้านอ่านหนังสือ ท่องเที่ยว ทำกิจกรรมกับคนในครอบครัว ไม่อยากออกไปผจญรถติด หรือประชุมให้เครียดอีกแล้ว ก็เป็นสิทธิที่จะเลือก อิสรภาพทางการเงินนั้น มอบโอกาสในการเลือกสิ่งที่จะทำให้เท่านั้น ไม่ได้กำหนดว่าต้องเลิกทำงานครับ ขอให้ทุกท่านมีอิสรภาพในการเลือก และมีความสุขกับการลงทุนครับ โดย airazoc จันทร์ พ.ค. 28, 2012 6:46 pm

Re: รวมประโยคเด็ดที่อ่านแล้วรู้สึกว่าหุ้นมันน่าซื้อเพิ่มขึ้น ยุคนี้ต้องนี่เลย "ผลประกอบการเติบโตแบบ snowball" หุ้นบางตัวเป็น commo ยังมีคนบอกว่า snowball ด้วย แต่คำนี้ได้ยินครั้งไหน ต้องไปเปิด 56-1 กับข่าวประกาศอ่านทุกทีว่ามันไปทำอะไรมา บริษัทนี้ โดย airazoc จันทร์ พ.ค. 28, 2012 9:06 am

Re: สิ่งที่ได้จากงาน Algorithm Trading AT นั้นมีจุดแข็งมากๆ หลายๆอย่างครับ แต่ก็มีจุดอ่อนที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ด้วย บรรดากองทุนหลายๆกอง จริงๆมีการใช้ AT มาเป็นระยะเวลานานแล้ว นานจนมีคนสร้าง testing algorithm เพื่อทดสอบ behavior ของ AT ของกองทุนและ reverse engineer หาค่าจุดตัดซื้อขายต่างๆของกองทุน และสร้าง algorithm ขนานเพื่อทำลาย และ หากำไรจาก algorithm ของกองทุนได้ ตัวอย่าง เก็บหุ้นให้พอเพียง แล้วเทขายให้ AT ของกองทุน cut แล้วเก็บกลับมาในราคาถูก แล้วกระชากกลับขึ้นไปให้กองทุน follow buy โดนเข้าไปวันเดียวหลายๆรอบ นี่กองทุนก็ล้มได้นะครับ แถมไม่มีคนนั่งเฝ้าด้วย ตอนโดนก็ไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกที ตอนกลับมาดูสรุปสิ้นวัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง อย่าให้โดนเข้ากับตัว high frequency trading แบบนี้ สามารถทำกำไรได้จำนวนมากก็จริง แต่การถือยาวในกิจการที่มีความสามารถในการแข่งขันชัดเจน ก็ทำกำไรได้ไม่แพ้กันครับ ไม่มีความเสี่ยงจากการถูกดักจับกินด้วย กิจการถ้ามันดี มันก็ต้องขึ้น ระหว่างทางจะมี noise ก็อย่าสนใจมาก ถ้าสิ่งที่คิดคำนวนไว้ถูกต้อง เดี๋ยวราคามันก็ perform ของมันเองครับ สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับ AT ก็มีเหมือนกัน เช่น การตั้ง order ทิ้งไว้ หากราคาขึ้นไปเกินแฟร์ ให้ขายทิ้งบางส่วน หากราคากลับลงมาใน price band ที่ผมพอใจ และมีการขายไปแล้ว ให้ซื้อกลับด้วยเงินเท่าเดิม วิธีนี้จะทำให้ได้หุ้นเพิ่มขึ้นทีละน้อย ในหุ้นที่มั่นใจว่าดีจริงในระยะยาว ซึ่งผมก็จะไม่กำหนดจุด cut (เพราะหุ้นดีราคายังไม่เกิน fair ลงมาจะขายทำไม) หรือ follow buy (ถ้าจะวิ่งก็วิ่งไปมีพอแล้ว ไม่ไปร่วมสร้าง automated volume) แบบนี้ก็จะทำให้สิ่งที่ต้องดูแลเกี่ยวกับหุ้น ลดลงไปได้อีก สามารถได้เวลาคืนจากการ monitor หุ้นที่ราคาใกล้ถึง fair ลงไปได้มาก เวลาเกิน fair ไปพอควร ก็ไม่ต้องเฝ้าจอขาย เวลาย่อตัวกลับลงมาต่ำกว่า fair ก็ไม่ต้องนั่งรอซื้อคืน เอาเวลาไปอ่านหนังสือ เดินห้าง ดูหนัง ชีวิตมีความสุขมากกว่าครับ แน่นอนว่า algorithm ที่จะเขียนสำหรับการใช้งานแบบ VI กับ การเป็น High Frequency Trader นั้นก็คงต่างกัน เพราะรูปแบบการถือครองหุ้นก็จะต่างกัน ก็ต้องปรับใช้ให้ตรงกับจริตตนเอง สำหรับ VIหากใช้ AT ได้อย่างถูกจริตแล้ว ก็จะช่วยให้ภาระลดลง และมีความสุขมากขึ้น ในระหว่างที่เฝ้ารอให้กิจการเติบโตแต่หากใช้ผิดจริตแล้ว แทนที่จะได้เวลาคืนมา ก็จะเสียเวลาเฝ้ามากขึ้นแทน แน่นอนว่า สำหรับ HFT หากใช้ถูกจริต ก็จะทำกำไรจากความผันผวนได้มหาศาลเช่นกัน แต่ถ้าผิดจริต ก็เจ๊งอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ และมีความสุขกับการลงทุนครับ โดย airazoc จันทร์ พ.ค. 28, 2012 8:33 am

Re: Five Forces mode by hongvalue ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ โดย airazoc พุธ พ.ค. 09, 2012 8:31 am

Re: แชร์มุมมองเกี่ยวกับคำว่า "อย่าโลภเกินความรู้" *** แน่นอนว่า การอัดตัวเดียวแถมมาจิ้นเข้าไปด้วย ถ้าคิดถูก เป็นไปตามคาด ก็จะรวยเร็วกว่ามาก และเราอาจจะเห็นคนทำสำเร็จมาแล้วเยอะแยะ แต่จริงๆแล้วคนที่ออกจากตลาดไปและไม่มีโอกาสกลับมาเล่าให้เราฟัง มีมากกว่านั้นอีกเยอะ ถึงแม้จะมั่นใจแค่ไหนว่าเรารู้ในกิจการนั้นจริงๆ ผมก็แนะนำว่ามีสัก 50% ก็น่าจะพอนะครับ (ท่านที่บริหารมาจิ้นเก่งๆ อาจจะถือมากกว่านี้และใช้มาจิ้นร่วมด้วย เป็นความสามารถอีกรูปแบบหนึ่งที่ผมไม่มี แต่ถ้าเพื่อนสมาชิกมีความสามารถดังกล่าวก็ถือว่าอยู่ในขอบเขตที่ผมไปไม่ถึงครับ อาจจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าผม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมควรยอม และยินดีกับเพื่อนสมาชิกด้วย) ผมเคยถือตัวเดียว 200% ของเงินที่มี ผมนอนไม่หลับครับ ผมสงสัยนะครับ หลัง ๆ ดูเหมือนมีการยอมรับการใช้มาร์จิ้นกันมากขึ้น อยากถามนะครับเพราะผมเองก็ไม่เคยเล่นมาร์จิ้นและไม่คิดที่จะเล่น สมมติ 1) นลท. A เลือกหุ้น 10 ตัว ถูก 8 ตัว หมายถึงผลประกอบการดี ราคาหุ้นวิ่งขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ 2) นลท. B เลือกหุ้น 10 ตัว ถูก 5 ตัว แต่มูลค่าพอร์ตโดยรวมกำไรมากกว่านลท. A เนื่องจากมีการใช้มาจิ้น อยากทราบว่าแบบนี้ความเห็นของสมาชิก เราจะตัดสินได้ยังไงว่าใครมีฝีมือมากกว่ากันครับ A ควรจะมีฝีมือดีกว่า B เพราะโดยเนื้อแท้สามารถเลือกหุ้นได้เก่งกว่า B ที่อาจจะเก่งน้อยกว่า แต่ "กล้าเสี่ยง" มากกว่า หรือจะคิดว่า B เก่งกว่า A เพราะถึงแม้จะเลือกหุ้นถูกน้อยกว่าแต่ "กล้าเสี่ยง" มากกว่า ผมคิดว่าการลงทุน เราไม่ต้องคิดว่าใครเก่งกว่าใครน่าจะสบายใจกว่าครับ ทุกคนมีปัจจัยและความสามารถในการรับความเสี่ยงต่างกัน พยายามมองสิ่งที่เราขาดอยู่เป็นหลักดีกว่าครับ ถ้าผมเป็น A แล้วผมคิดว่าไม่ใช้มาจิ้นแล้วผมสบายใจ และมีความสุขมากกว่า กินได้นอนหลับ ผมก็คงไม่ใช้มาจิ้นอยู่อย่างนั้นแหละครับ พัฒนาความรู้ในการหาหุ้นต่อไปเรื่อยๆ สบายใจกว่า ไม่ต้องรีบ แต่ถ้าผมสามารถรับความเสี่ยงได้และมีเวลาพอจะบริหารมาจิ้น ผมก็ต้องพัฒนารูปแบบ และความสามารถในการทำ risk management ให้มากๆ ก่อนจะใช้ ถ้าผมเป็น B ผมจะลดการใช้มาจิ้นครับ แล้วไปพัฒนาการวิเคราะห์หุ้นให้ accuracy rate สูงกว่านี้เยอะๆก่อน ค่อยกลับมาใช้มาจิ้นเท่าเดิม (จากที่คุณ leky ว่ามา ผมถือว่า B เป็นคนที่บริหารมาจิ้นเก่งมาก เพราะเรทการเลือกหุ้นถูก 50% แต่กำไรเยอะกว่า A ได้ ผมขอมองว่าอยู่ในระดับที่ไม่ต้องไปพัฒนามาก ถ้าเทียบกับการหาหุ้นที่ต้องพัฒนาอีก) การลงทุนไม่ต้องพยายามไปเก่งกว่าใครหรอกครับ เราแค่ลงทุนของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆก็พอ โดย airazoc พุธ พ.ค. 02, 2012 9:04 am

Re: แชร์มุมมองเกี่ยวกับคำว่า "อย่าโลภเกินความรู้" ขอโทษครับพิมพ์ชื่อผิด :oops: คุณ"airazoc"เเละ"Diamond Dust" ขอถามต่อนะครับ ถ้าเกิดหุ้นที่เรามีความรู้พอสมควร เราคำนวณว่า"เกินมูลค่า"เเล้วขายออกไป เพื่อนๆยังติดตามบริษัทเหล่านั้นใกล้ชิดหรือไม่?เเละจะกลับมาซื้ออีกหรือไม่? ถ้าราคาหุ้นขึ้น มาพร้อมกับพื้นฐานธุรกิจที่ดีขึ้น ขอบคุณครับ กิจการที่เคยศึกษาละเอียดแล้วครั้งหนึ่งนั้น มันก็เหมือนขี่จักรยานแหละครับ รู้แล้วก็รู้เลย แม้จะร้างราไม่ได้ติดตามไปนาน แต่ถ้าเราไปพบข่าว หรือข้อมูลตลาดอะไรที่พัวพันกับจุดสำคัญพื้นฐานกิจการ เราก็จะจำได้และกลับบ้านมาเปิด excel เอาตัวเลขหยอดดูได้อย่างรวดเร็วครับ นี่เป็นข้อได้เปรียบของคนที่ทำการบ้านมามากๆ คือเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นในตลาดก็จะรู้ตัวได้ไว ว่าดีหรือไม่ดีกับหุ้นกลุ่มไหน ตัวไหนเป็นพิเศษ ทำให้เข้าศึกษาเพิ่มเติมได้อย่างรวดเร็ว ไม่เสียเวลาหาข้อมูลเบื้องต้นนานๆ แน่นอนว่าเมื่อยังเป็นมือใหม่อยู่ ก็จะทำได้ช้าหน่อย แต่มันเป็นการปรับพื้นฐานครับ เมื่อรู้เยอะขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์ พิจารณาหุ้นจนมั่นใจว่าจะซื้อเท่าไหร่ดี ก็จะสั้นลงเรื่อยๆ ตัดสินใจได้ไว และมีเหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆครับ หุ้นที่เคยผ่านตาแล้วก็ติดตามได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ โดย airazoc พุธ พ.ค. 02, 2012 8:49 am

Re: แชร์มุมมองเกี่ยวกับคำว่า "อย่าโลภเกินความรู้" ผมขอถามนิดนึงครับ ถ้าเราเห็นธุรกิจตัวนึง มีการรับorderสั่งซื้อเพิ่มขึ้น หรือประมูลงานได้มากขึ้น เรารู้เเน่ๆว่าบริษัทนั้นต้องมีตัวเลขกำไรดีขึ้น ผลตามมาก็คงทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเเน่นอน เเต่...เรายังไม่เข้าใจตัวพื้นฐานของบริษัทอย่างละเอียด รู้เเค่ว่าบริษัทขายอะไร มีสินค้าเเบบไหน ลูกค้าอยู่ที่ไหน เเต่ยังไม่รู้ลึกถึงขั้นปัจจัยที่ทำให้Demandสินค้าเหล่านั้นเพิ่ม หรือยังไม่เข้าใจ"จุดตาย"ที่ทำให้พื้นฐานของบริษัทนั้นเปลี่ยนอย่างเเน่ชัด อย่างนี้เราควรซื้อหุ้นของบริษัทนี้ไหมครับ? เเละถือว่าเป็นการโลภเกินความรู้หรือไม่? ถ้าผมรู้ตามที่คุณ torpongpak ว่ามานี้ คือรู้แค่คร่าวๆผมจะทำแบบนี้ครับ 1> ซื้อมา 100 หุ้น แล้วรอไป AGM เพื่อถามให้ละเอียดมากขึ้นในเรื่อง ความเสี่ยงของกิจการ และปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของบริษัท ว่ามีอะไรบ้าง จะติดตามได้อย่างไร + ไป Oppday ถ้าเขามา 2> ถ้าผมมีความรู้พอสมควรเกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆแล้ว และคิดว่าเป็นขาขึ้นที่ทุกบริษัทใน sector นั้นได้ประโยชน์อยู่แล้ว ผมจะกดมาก่อน 1-5% ของพอร์ทเอามาติดตาม และกดดันตัวเองมากขึ้นให้หาข้อมูล 3> ถ้าผมคิดว่าผมมองออกแล้วว่า สิ่งที่ดูดีขึ้นนั้น มันดีขึ้นอย่างถาวร และไม่มีปัจจัยหรือคู่แข่งที่จะมาทำให้สิ่งนั้นหายไปง่ายๆ ผมก็จะเริ่มซื้อ 5% 10% 15% ของพอร์ทตามความมั่นใจ ขึ้นกับว่าผมหาทางติดตาม parameter ที่ส่งผลโดยตรงกับผลประกอบการของบริษัทได้ละเอียดแค่ไหน ( Parameter เช่น ยอดผู้ใช้บริการ, ยอดสั่งซื้อ, ราคาตลาดโลก, ต้นทุน, อื่นๆ ) และผมเข้าใจโมเดลของการคำนวน EPS แค่ไหน ว่าแต่ละ parameter ขยับแล้วจะส่งผลต่อ bottom line อย่างไร (ถ้าซื้อถึงจุดนี้ควรจะมี Excel ส่วนตัวสำหรับประเมินกำไร และ มูลค่ากิจการนั้นๆ เป็นของตัวเองแล้วนะครับ ทำเป็น ตารางให้สามารถลองหยอดตัวเลขเปลี่ยนค่าไปมาดู จะทำเห็นช่วงราคาที่ซื้อได้ และซื้อไม่ได้ ในกรณี parameter มีค่าต่างๆกัน ถ้าไม่มีโมเดลที่จะใช้คำนวน ก็ควรหยุดซื้อที่ 10% ของพอร์ทเถอะครับจะได้ไม่เสี่ยงมาก) 4> ถ้าผมเข้าใจกิจการอย่างถ่องแท้ อาจจะเพราะอยู่ในสายงาน และติดตามปัจจัยสำคัญขอธุรกิจนั้นได้อย่างใกล้ชิด ผมก็จะเริ่มมี 25% 50% ตามลำดับ เพราะหากมีอะไรเกิดขึ้นในตลาดของกลุ่มธุรกิจที่เราถือหุ้นอยู่ อย่างน้อยเราก็สัมผัสได้ก่อน รู้ก่อนว่าพื้นฐานกิจการของกลุ่มนี้เปลี่ยน และสามารถหนีตายได้ทัน แต่ถ้าอยู่ในกลุ่มที่ผมติดตามตลาดใกล้ชิดไม่ได้ หรือไม่รู้ว่าจะตาม parameter ต่างๆได้ทันท่วงทีอย่างไร ได้ข้อมูลแบบ secondary อีกที ผมก็จะตัดใจ ถือไม่เกิน 15% *** แน่นอนว่า การอัดตัวเดียวแถมมาจิ้นเข้าไปด้วย ถ้าคิดถูก เป็นไปตามคาด ก็จะรวยเร็วกว่ามาก และเราอาจจะเห็นคนทำสำเร็จมาแล้วเยอะแยะ แต่จริงๆแล้วคนที่ออกจากตลาดไปและไม่มีโอกาสกลับมาเล่าให้เราฟัง มีมากกว่านั้นอีกเยอะ ถึงแม้จะมั่นใจแค่ไหนว่าเรารู้ในกิจการนั้นจริงๆ ผมก็แนะนำว่ามีสัก 50% ก็น่าจะพอนะครับ (ท่านที่บริหารมาจิ้นเก่งๆ อาจจะถือมากกว่านี้และใช้มาจิ้นร่วมด้วย เป็นความสามารถอีกรูปแบบหนึ่งที่ผมไม่มี แต่ถ้าเพื่อนสมาชิกมีความสามารถดังกล่าวก็ถือว่าอยู่ในขอบเขตที่ผมไปไม่ถึงครับ อาจจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าผม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมควรยอม และยินดีกับเพื่อนสมาชิกด้วย) ผมเคยถือตัวเดียว 200% ของเงินที่มี ผมนอนไม่หลับครับ โดย airazoc อังคาร พ.ค. 01, 2012 3:19 pm

Re: แชร์มุมมองเกี่ยวกับคำว่า "อย่าโลภเกินความรู้" สักวันหนึ่งหวังว่าผมจะได้มีโอกาสเป็นตัวอย่างในการหมดตัวจากการไม่โลภเกินความรู้ให้พี่ airazoc ดู จะได้พิสูจน์ว่า black swan มีจริง ขอให้วันนั้นไม่มาถึงครับ :B หงส์ดำ น่ากลัวไปจริงๆ โดย airazoc จันทร์ เม.ย. 30, 2012 1:25 pm

Re: กระทู้ในพันทิพย์ "ไทวิเสื่อม" เราห้ามปากใครไม่ได้หรอกครับ เขามีสิทธิวิจารณ์ในพื้นที่ของเขา เวป ThaiVI ทำมาให้คนมาหาความรู้ ไม่ได้ให้มาหาเรื่อง หากมีคนมาโพสพยายามปั่นป่วนในเวป ทางสตาฟก็คงแบนทิ้งไป หลายครั้งมีคนพยามโพสแขวะเซเลป หรือ ทีมงาน โดยอ้างว่า นำเสนอข้อมูลด้านลบ จริงๆแล้ว การนำเสนอข้อมูลด้านลบ กับ การหาเรื่องพาดพิงผู้อื่นนั้นเห็นถ้าใช้ตรรกะสักนิดจะพบว่าแยกออกได้ไม่ยาก ผมยกตัวอย่างกระทู้หนึ่งในอดีตที่ ผบห ขายหุ้นมาตลอดเป็นปี แล้วไม่แจ้ง ความเห็นที่จะถูกลบ หรือ แบน ก็คือ "ผบห เลวจริงๆ" , "ผบห ขี้โกงแบบนี้ ขอแช่ง" เป็นต้น ความเห็นที่จะถูกกดถูกใจ ให้คะแนนบวก ได้แก่ "การขายหุ้นของ ผบห โดยไม่แจ้ง ผิดตามข้อบังคับตลาด ข้อ X มีความผิดฐาน Y มีโทษ Z , ผู้ที่คิดว่าได้รับความเสียหายให้ติดต่อที่ AAAA" เป็นต้น หรือหลังๆก็จะมี "นาย A เซเลป วีไอ ปั่นหุ้น ซื้อมาทุน X บาท ลากจนถึง Y บาท" อันนี้โดนแบนแน่นอน แต่ถ้าโพสว่า "นาย A ถือตั้งแต่ก่อนหุ้นขึ้นเครื่องหมาย XM ดังนั้น ทุนย่อมไม่เกิน X บาทแน่นอน และราคาปัจจุบัน ขึ้นมามากแล้ว บนความคาดหวังว่า กิจการจะโตเพราะ A,B,C ขอให้คิดให้ดี upside มีหรือไม่ ทุนเราไม่เท่ากัน อย่าแห่ตามเซียนโดยไม่คิด" อันนี้จะได้รับคะแนนบวก จากทีมงานแน่นอนเช่นกัน แน่นอนว่า การดำเนินการของทางทีมงาน ย่อมถูกใจคนบางกลุ่ม และไม่ถูกใจคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่เข้ามาแขวะคนโน้นคนนี้ เมื่อโดนลบ หรือ แบน ก็ย่อมไม่พอใจ แต่หากมาทะเลาะ โวยวายกันในเวป ก็คงต้องเชิญออกไป จะไปโวยวายอยู่เวปอื่น เราคงไปห้ามไม่ได้ เราตามไปกวาดบ้านให้คนอื่นไม่ได้ แต่เราต้องการให้บ้านเราสะอาดครับ หากเซเลปเหล่านั้น มีพฤติกรรมในการปั่นหุ้นจริงๆ ทาง กลต ก็คงเชิญไปสอบถามแล้ว เพราะ กลต ก็ไม่ได้เป็นง่อย ตาบอด ผมเคยคุยกับพี่ท่านหนึ่ง ที่หาหุ้นราคาต่ำผิดปกติ เจอในอดีตเมื่อหลายปีก่อน แกกดไปคนเดียว 10 ช่อง ซื้ออยู่คนเดียว เจอกลต เรียก ก็แค่อธิบายว่าทำไมถึงซื้อ ใช้เหตุผลอะไร ถ้าฟังไม่ขึ้น ก็โดนกล่าวโทษเอง ถ้าฟังขึ้น กลต ก็ไม่ว่าอะไร พี่ท่านที่ว่า จนบัดนี้ก็ยังถือหุ้นตัวดังกล่าวอยู่ แม้ราคาจะขึ้นมาเกินสองเท่าแล้วก็ตาม บางตัวขึ้นเยอะๆ แกก็ขายไป กลต ก็เลิกไปยุ่งกะพี่แกแล้ว เพราะแกก็ซื้อของแก ขายของแก เรื่องของแก ไม่ได้ปั่นแล้วปล่อยข่าวเท็จอะไร ทางทีมงานขอย้ำอีกครั้งว่า สามารถโพสได้ทั้งด้านดี และ ด้านร้ายของหุ้นทุกตัว แต่ขอให้มีเหตุผลประกอบ ไม่ยกเมฆ หรือพูดลอยๆ และไม่พาดพิงผู้อื่นให้ได้รับความเสียหายโดยไร้หลักฐาน ผมว่าเซียนเองก็อยากให้มีคนมาท้วงแง่ร้ายของหุ้นตัวเองเหมือนกัน จะได้รู้ว่าตัวเองคิดผิดหรือไม่ โปรดช่วยกันทำให้เวปของเรามีแต่โพสคุณภาพ ดราม่าน้อยๆ ไม่ต้องกลัวจ่าพิชิต เวปดราม่าจะตกงาน เขามีแหล่งหาดราม่าของเขาอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเพิ่มแหล่งเก็บเกี่ยวดราม่าให้เขาก็ได้ครับ :B ขอให้ท่านสมาชิกที่ใช้เวลาหาความรู้และลับความแหลมคมในการวิเคราะห์หุ้นทุกท่าน ประสบความสำเร็จ และมีความสุขในการลงทุนครับ โดย airazoc ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 9:15 pm

Re: Login ไม่ได้ครับ เรียนคุณ Paul vi และ admin ขออภัยที่มาตอบล่าช้าครับ ช่วงนี้แอดมินไม่ค่อยอยู่บ้าน ออกไป AGM ทุกวัน ในกรณีที่เป็น SMS User ต้องขอให้แจ้ง หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนมาด้วย เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของ account ตัวจริงครับ โดยอาจจะ censor สองตัวสุดท้ายเอาไว้ก็ได้ครับ เช่น แจ้งว่า login noppawan หมายเลขโทรศัพท์ 08133314XX ทางทีมงานจะค้นข้อมูลให้ หากตรวจสอบถูกต้องจะส่ง PM พาสเวิร์ดใหม่ ไปให้ครับ โดย airazoc ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 9:07 am

Re: สัญญาเช่าดำเนินงานกับสัญญาเช่าการเงิน กรุณาถามในกระทู้ที่จัดไว้ให้ถามนะครับ โดย airazoc อังคาร เม.ย. 10, 2012 8:19 am

Re: งบกระแสเงินสด ผมชอบดูงบกำไรขาดทุนก่อน แล้วไปดู กระแสเงินสดว่าทิ้งช่วงหายไปไหม อ่ะครับ อยากขอหลักสังเกตครับ ว่าในกรณีไหนที่เราควรตั้งข้อสงสัยว่า งบนี้จงใจปลอมให้นักลงทุนเข้าใจผิด กลัวเจอบริษัทแต่งงบ book กำไร แต่เงินไม่มาซะที แล้วไม่รู้เท่าทัน กรณีไหนที่ยอมรับได้ ที่เงินสดเข้ามาทีหลัง กรณีไหนที่รับไม่ได้ น่ะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ โดย airazoc ศุกร์ มี.ค. 30, 2012 9:39 pm

Re: เคยเป็นกันไหมครับ ไม่รู้จะซื้อตัวไหนดี มันราคาแพงไปหมด ถ้าเริ่มตัน ไม่รู้จะซื้ออะไร ลองบอกมาร์ครับว่าที่โบร้กไปวิสิทบริษัทไหนขอไปด้วย โหลด 56-1 ของบริษัทที่ยังไม่รู้ว่าประกอบกิจการอะไรมาอ่านวันละ สองแห่ง หาเพื่อนเป็นกลุ่มนัดกินข้าวแชร์ไอเดียกัน (แนะนำว่าในกลุ่มควรมี คนจากหลายสายอาชีพ วิศวะ หมอ ทนาย นักบัญชี นักธุรกิจ และอื่นๆ เพื่อให้ได้มุมมองรอบด้านต่อธุรกิจนั้นๆ) ถึงไม่ได้หุ้นใหม่ๆให้ซื้อ แต่ทั้งหมดนี้จะทำให้เข้าใจกลไกเศรษฐกิจ และรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น กิจการไหนจะได้ประโยชน์ และรู้ว่า จะมองเห็นขาขึ้นขาลงของธุรกิจแต่ละกลุ่มได้อย่างไร ลองดูครับ ขอให้ประสบความสำเร็จและมีความสุขกับการลงทุน โดย airazoc ศุกร์ มี.ค. 30, 2012 6:20 pm

Re: งบกระแสเงินสด ผมว่า บ่อยครั้งของพี่ฉัตรหมายถึง เราพบเห็นได้บ่อยครั้งในตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่ได้หมายถึงบริษัทเดียวบ่อยๆ ใช่หรือเปล่าครับ เช่นบางบริษัทมีกำไรพิเศษ หรือ ขาดทุนพิเศษหนนึงเพราะเหตุการณ์บางอย่าง ถ้าไปติดตามดูแล้วพบว่าน่าจะเกิดหนเดียวจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็ว่าน่าจะตัดออกตอนที่ประเมินมูลค่ากิจการครับ แต่ถ้าบริษัทเดิม มีรายการพิเศษมาบ่อยๆ (แบบหุ้นยอดฮิตตัวนึงในอดีต ผมเห็นรายการพิเศษตั้งสำรองมาทุกไตรมาส แถมเติบโตอย่างต่อเนื่องตามรายได้ด้วย) ผมก็เอามาคิดเป็นรายการปกติเลยครับ ปลอดภัยไว้ก่อน ถ้าบริษัทเลิกพิเศษเมื่อไหร่ ก็แจคพอต ถ้าไม่เลิก เราก็ price in เรื่องนี้ไว้แล้ว โดย airazoc พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2012 8:19 am

Re: การปรับโครงสร้างหนี้ กำไร??? ผมเข้าใจว่า บริษัทที่มีกำไร แล้วลดทุน น่าจะมีในกรณีที่ บริษัทมีโครงการซื้อหุ้นคืนครับ ตัวอย่างที่จำได้แม่นๆก็ JAS ที่เคยทำ ซื้อหุ้นคืน แล้วลดทุนในส่วนหุ้นที่ซื้อคืนทิ้งไปเลย ทำให้เกิน effect คือ EPS ต่อหุ้นที่เหลืออยู่ก็จะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าอยู่ๆ ประกาศลดพาร์ แบบลดกันหมดทุกคนที่ถือ ทั้งๆที่มีกำไรสะสม อันนี้ก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันครับ ถ้าใครเคยเจอ ฝากขอข้อมูลด้วยครับ น่าจะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ว่าทำไปทำไม (-__-'') ส่วนบริษัทที่ขาดทุนแล้วลดทุน ส่วนใหญ่ที่ผมเคยเจอจะเป็นบริษัทที่กำลัง turn around แต่ยังมีขาดทุนสะสม เลยปันผลไม่ได้ ก็ลดทุนทิ้งไปเลย ให้มีส่วนเกินทุน มาปันผลได้ เริ่มกันใหม่ ฟ้าเปิด คนกล้าลงทุน โดย airazoc พุธ มี.ค. 28, 2012 8:28 pm

Re: Warrant (ใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้น) หมวดว่าด้วยการอ่านและการตีความตัวเลขต่างๆในงบการเงิน ท่านสามารถถามปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อต่างๆในหมวดได้ *โปรดจำกัดถามเพียงในแง่ตัวเลขบัญชี ถ้าถามเรื่องการลงทุน เช่น ตัวไหนคุ้มกว่ากัน หรือ อะไรถูกแพง สมาชิกที่เป็นนักบัญชีจะไม่ตอบท่านนะครับ โปรดถามในห้อง Value Investing แทนจะตรงจุดกว่า* โดย airazoc อังคาร มี.ค. 27, 2012 10:19 pm

Re: บทความความรู้ด้านบัญชี ขอบคุณ อ. ภาพร มากครับ ที่ให้ความกรุณากับเวปเราในการมาช่วยชี้ทางสว่างในการอ่านงบบัญชีที่เป็นหนามยอกอกพวกเรามาทุกยุคทุกสมัย ได้ความรู้จาก อาจารย์ในด้านนี้ น่าจะทำให้การวิเคราะห์พื้นฐานกิจการของชาว VI เราเฉียบคมขึ้นอีกมาก ขอบคุณมากๆครับ :bow: โดย airazoc อาทิตย์ มี.ค. 25, 2012 10:21 pm

Re: วิธีดู 59-2 วันปัจจุบัน เข้าใจว่า error มาตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ. ครับ และดูเหมือนจะไม่รู้ตัว ไม่ได้มาแก้ไขอะไร ไม่รู้จะแจ้งที่ไหนเหมือนกัน ขอบคุณ คุณ multipleceilings ที่นำวิธีมาแบ่งปันครับ ขอให้ได้หุ้น ceiling หลายๆตัวตามชื่อครับ :B โดย airazoc พุธ มี.ค. 21, 2012 7:18 am

Re: บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทางอินเตอร์เน็ต ถ้าเอาไปแสดง Financial Statement เพื่อขอ วีซ่า หรือสมัครงาน บริษัทต่างชาติที่ต้องใช้ financial statement ก็ใช้ statement ที่โบร้กส่งมาก็พอครับ แต่ถ้าเอาไปค้ำประกันซื้อบ้าน หรือกู้เงิน ต้องไปถอนออกมาเลย แบบที่คุณ ส สลึง ว่า คือเอาออกจากตลาดไปเลย ออกมาเป็นใบหุ้น แล้วเอาไปหุ้นไปวางค้ำครับ โดย airazoc พุธ มี.ค. 14, 2012 12:44 am

Re: เส้นทางนักเล่นหุ้น วัยรุ่นเงินล้าน ผมไม่แน่ใจว่าข้อความของผมต่อไปนี้ ผิกกฎหรือไม่ ถ้าผิด mod ลบได้เลยนะครับ ถ้าพักเอาบรรดาเซียนๆ VI ชาวเราที่สอนฟรีเอาไว้ก่อน เพราะดูเหมือนเขาจะเน้นทาง trading system เป็นหลัก ดูเหมือนเป็นหลักสูตรสร้าง Trader มากกว่า ก็ขอยกตัวอย่างที่ใกล้เคียงกว่าเดิมนิดนึง ผมก็ขอยกตัวอย่าง Trader ชื่อก้องโลก ท่านนึง ก็แล้วกันครับ คุณ M (ขอสงวนชื่อจริง) นั้นมีชื่อเสียงระดับโลก (เป็นที่รู้จักดีในหลายๆเวป) และทำกำไรไปแล้วเป็นพันล้าน ทุกวันนี้ก็ low profile ไม่เคยจัดคอร์สเก็บเงินจากใคร เวลาสอน ก็สอนฟรี แต่ประเด็นที่ผมอยากยกใน rep นี้ ไม่ใช่เรื่องสอนฟรี แต่เป็นเรื่องระยะเวลาในการสอน คนระดับ พี่ M จะสอน trader สักคน ให้เวลาปรับพื้นฐาน เป็นปี แล้วค่อยๆสอนทฤษฎี ทั้ง trading system และ วิธี คิด system แล้วค่อยปฎิบัติ กินเวลาเบ็ดเสร็จ สองปีจะสำเร็จหรือเปล่ายังไม่รู้ ทนไม่ได้ ก็เลิกกลางทางกันไปก็มี การที่จะบอกว่า เรียนไม่กี่วัน ออกไปสำเร็จได้เลย ผมว่าทำใจเชื่อได้ยากนะครับ เพราะตอนที่ผมเรียนเพื่อเป็น VI ก็ใช้เวลาหลายปีกว่าจะพอจะเป็นโล้เป็นพาย หรือ พี่ M สอน trader ก็ใช้เวลาเป็นปีๆ เหมือนกัน ไม่ว่าจะสายไหน ก็มีความยากลำบากในการเรียนรู้ และมีประเด็นที่ต้องฝึกฝน หาประสบการณ์ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่อะไรที่อยู่ๆ จะทำได้ง่ายๆ ในไม่กี่วัน จากมุมมองแคบๆ ของแอดมินคนนึงนะครับ ผมอาจจะผิดก็ได้ หากโพสของผม เกี่ยวเนื่องกับ trading system และไม่เหมาะสม รบกวน mod ลบได้เลยครับ โดย airazoc อังคาร มี.ค. 06, 2012 12:37 am