Re: ณ เวลานี้ ยังพอจะหาหุ้นคุณค่าได้อีกมั้ย ตอบคุณ nut776 npm อยู่ที่ประมาณ 5.3 % ครับ โดย kosol พุธ ก.พ. 13, 2013 3:12 pm

Re: ณ เวลานี้ ยังพอจะหาหุ้นคุณค่าได้อีกมั้ย ตอบคุณ nut776 ผมคิดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกันครับ แต่ตอนนี้ผมได้เปลี่ยนไปซื้อตัวใหม่ที่ดีกว่าแล้วครับ ที่ขายเพราะว่าผมลงทุนในหุ้น 100 % ทำให้ไม่มีเงินสด จำเป็นต้องมีการขายตัวเก่าและซื้อตัวใหม่แทน กะว่าถ้าเกิดวิกฤติขึ้นคงต้องนำเงินออมมาลงทุนเพิ่มบวกกับเงินลงทุนที่ใส่มาทุกเดือนอยู่แล้ว ก็น่าจะได้ของดีราคาถูกกับเขาบ้าง แต่ปัญหาก็คือไม่รู้ว่าวิกฤติจะมาเมื่อไร :wall: อิอิ โดย kosol อังคาร ก.พ. 12, 2013 2:05 pm

Re: ณ เวลานี้ ยังพอจะหาหุ้นคุณค่าได้อีกมั้ย ก็อย่างที่เข้าใจคงไม่ผิดครับ แต่ผมพยายามหาแล้วและเปรียบเทียบกับตัวอื่นแล้ว ตัวนี้สบายใจกว่าที่จะถือลืม ตัวที่ปั่นผลด้วยเงินสดก็หนี้เยอะมากครับและก็แพงเกินไป MOS เหลือน้อยมากเลยต้องเลือกตัวนี้ แต่จะเป็นตัวเดียวกันหรือป่าวอันนี้ขอละไว้ครับ หรือไม่ผมคงจะวิเคราะห์ผิดก็เป็นไปได้ครับ อีก 3 ปี ค่อยมาดูอีกครั้งครับ :roll: โดย kosol พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2013 2:54 pm

Re: ณ เวลานี้ ยังพอจะหาหุ้นคุณค่าได้อีกมั้ย ผมว่ามีครับแต่น้อยมาก ๆ ต้องใช้เวลาในการหาสักหน่อย ผมพึ่งเจอและเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมดูคราว ๆ ตามคำแนะนำของ ดร.นิเวศน์ ที่ให้ดูวิธีหุ้นหลายเด้ง เช่น 1.Market Cap. ของบริษัทเทียบกับยอดขาย (บ.มียอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปีนี้ 3 ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 1300 ล้านบาท แต่ Market Cap.ของบ.มีแค่ 500 ล้านบาท) 2.หนี้สิน บ.มีหนี้สินน้อยมาก โดยหนี้สินที่ต้องจ่ายในปีนี้แค่ ล้านกว่าบาท เทียบกับกำไรที่ 60 ล้านบาท น่าจะไม่มีปัญหา 3.ROE โตเฉลี่ย 17% ต่อปี 4.บ.มีการซื้อหุ้นคืน 5 .บ.มีเงินสดเยอะครับ ประมาณ 350 ล้านบาทเมื่อเทียบกับ หุ้นของบริษัท ที่ 170 ล้านหุ้น ทำให้มีเงินสดติดอยู่กับหุ้นที่ 2.05 บาท/หุ้น แต่ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 3.12 บาท/หุ้น เท่ากับว่าผมซื้อหุ้นจริง ๆ แค่ 1.07 บาท/หุ้นเท่านั้นเอง และเมื่อไปอ่านรายงานประจำปีก็พบว่าเป็นผู้นำในธุรกิจ แถม CEO ยังถือหุ้นถึง 24% ผมชอบบริษัทที่มีผู้บริหารถือหุ้นในเปอร์เซ็นต์ที่มีความหมาย ผมว่าแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจแล้วครับ :P โดย kosol พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2013 10:37 am

Re: เอาบทความมาฝากให้อ่านกันครับ เกี่ยวกับเรื่อง Business Mo รบกวนขอด้วยครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย kosol เสาร์ ม.ค. 26, 2013 5:37 pm

Re: เอาบทความมาฝากให้อ่านกันครับ เกี่ยวกับเรื่อง Business Mo รบกวนด้วยครับ ขอบคุณครับ [email protected] โดย kosol อาทิตย์ ต.ค. 07, 2012 6:40 pm

Re: รบกวนถามเกี่ยวกับการประเมินมูลค่ากิจการ และราคาที่ควรจะเ แรก ๆ จะดูยากหน่อยครับในการหามูลค่า แต่พอนาน ๆ ไปมีความรู้เพิ่มมากขึ้นเข้าใจตัวธุรกิจมากขึ้น เดี๋ยวมันจะตกผลึกเองครับโดยที่เราไม่รู้ตัวเอง ไม่ต้องรีบร้อนครับ เพราะแรก ๆ ผมก็เป็น แต่พอนาน ๆ ไป สมองมันจะทำหน้าทีของมันเอง ส่วนตัวผมหากหามูลค้าหุ้นได้แล้วส่วนตัวผมจะดูเปรียบเทียบกับ Market Cap ของหุ้นตัวนั้น ๆ จะไม่ค่อยชอบดูราคาหุ้น เพราะมันทำให้ผมไม่เห็นภาพใหญ่ ธรรมชาติคนเราถูกสอนมาแต่เด็กว่า ของ 1 บาทจะถูกกว่าของ 10 บาท ซึ่งมันคือความจริง (แต่มันใช้กับหุ้นไม่ได้อิอิ) และอย่าลืม margin of safety ครับ สำคัญมาก ๆ (ตอนเริ่มแรก ๆ ผมชอบไปหาข้อมูลว่าเซียนเก่ง ๆ ซื้อบริษัทอะไร พอเจอผมก็เข้าไปทำความเข้าใจว่าทำไมเขาถึงเลือกเป็นเจ้าของบริษัทนี้ แต่ไม่ได้ซื้อตามนะครับ เพราะข้อมูลตอนนั้นกับปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้วหรือบางตัวท่านก็ขายไปนานแล้ว ผมแค่อยากทราบวิธีการคิดเลือกลงทุนของเขาเท่านั้น แล้วค่อยมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง) **การลอกการบ้านที่ดี ต้องคิดตามไปด้วยว่าคนเก่งของห้องเขามีวิธีการคิดแก้โจทย์การบ้านยังไง ไม่ใช่สนใจแคคำตอบอย่างเดียว** โดย kosol อังคาร เม.ย. 17, 2012 8:59 pm

Re: ใครอ่าน วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ และการตีความงบการเงิน บ้างครับ อ่านจบหลายรอบแล้วครับ แต่การพิมพ์ครั้งแรกมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างครับ แต่ล่าสุดเห็นว่ามีการตีพิมพ์ครั้งที่ 3 และได้แก้ไขข้อผิดพลาดนั้นแล้วครับ ผมไม่ทราบ จขกท.อ่านเล่มที่มีการตีพิมพ์ครั้งล่าสุดหรือป่าวครับ ผมว่าสามารถใช้ได้กับตลาดหุ้นไทยครับ แต่อาจจะไม่เข้าทุกหัวข้อที่ วอร์เรน ตั้งเกณฑ์ไว้นะครับ แต่สมมติมีอยู่15ข้อ ถ้าเข้าสัก10-13ข้อ ผมว่าสุดยอดแล้วครับ แต่ส่วนตัวผม ๆชอบเอากฏเกณฑ์จากหลาย ๆ ท่านมาเป็นตะแกรงร่อนหุ้น เช่น วอร์เรน,ปีเตอร์ ลิน,เกรแฮม,ดร.นิเวศน์,แล้วก็พี่ ๆ ในเว็บไทยวีไอ สุดท้ายผมจะได้บริษัทไม่เกิน 5-7 แห่ง หลังจากนั้นผมค่อยเจาะลึกลงไปแต่ละบริษัท จนพอจะเข้าใจในบริษัทนั้น ๆ แล้วค่อยมาดูราคาหุ้นอีกทีหนึ่งว่าจะซื้อหรือรอโอกาศซื้อต่อไป หวังว่าจะมีประโยชน์บางนะครับ โดย kosol เสาร์ ม.ค. 29, 2011 11:15 am

Re: สถานการณ์แบบนี้ ควรซื้อดีไหมค่ะ มันก็แล้วแต่ MOS ของแต่ละคนครับ แต่อย่าลืม MOS สำคัญมาก ๆ นะครับ ถึงเราจะวิเคราะห์บริษัทดีแค่ไหน หรือเป็นบริษัทที่ได้เปรียบในการแข่งที่ยังยืนดีแล้วก็ตาม ถ้าเราไม่มี MOS มันก็ไม่ไหวนะครับและสุดท้าย ราคาที่เราจ่ายกำหนดผลตอบแทนของเราครับ ผมก็รออยู่2-3ตัวเหมือนกันแต่ MOS ของแต่ละตัวยังไม่มากพอ ผมก็ต้องอดทนรอต่อไป เราต้องมีความอดทนและระเบียบวินัยสูงครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ ถ้าม้นยังไม่มีการลงทุนไหนที่เข้าเกณฑ์ที่ผมตั้งไวผมก็เลือกที่จะอยู่เฉย ๆ ดีกว่าครับ โดย kosol อังคาร ม.ค. 25, 2011 12:09 pm

Re: วิเคราะห์หุ้น เปรียบเทียบ ROE และกำไรสุทธิ แต่อย่าลืมประวัติความสม่ำเสมอของแต่ละอันย้อนหลังนะครับอย่างน้อยก็5-10ปีทั้ง NPM, หนี้สิน,ROE ในส่วนตัวผมชอบความสม่ำเสมอมากกว่าครับ ที่สำคัญต้องเข้าใจในตัวธุรกิจจริง ๆ โดย kosol อังคาร ม.ค. 18, 2011 12:56 pm

Re: แนะนำมือใหม่หน่อยครับ ขอเพิ่มเติม คุณ poonpoon7นิดหนึ่งครับ หนังสือที่เกี่ยวกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ ทุกเล่มเลยนะครับ โดย kosol จันทร์ ม.ค. 17, 2011 11:54 am

Re: สอบถามเรื่องการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ตอนผมเปิดไม่ได้ใช้ครับใช้ ๆ แต่ statement ย้อนหลัง 3 เดือน โดย kosol พฤหัสฯ. ม.ค. 13, 2011 2:41 pm

Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู สุดยอดเลยครับคุณ Renne ผมขอนับถือครับ ผมว่า ฟิลิป ฟิชเชอร์ อ่านแล้วมึนจริง ๆ ครับ ผมต้องอ่านหลาย ๆ รอบถึงจะเข้าสมอง ผมว่าถ้าใครอย่างศึกษาเชิงคุณภาพต้องฟิลิป ฟิชเชอร์ เลยครับ โดย kosol ศุกร์ ม.ค. 07, 2011 11:58 am

Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ชมผมนะครับ สงสัยผมอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับวอร์เรน บัฟเฟตต์หลายรอบมากเกินไปจนบ้าไปแล้ว 55555ล้อเล่นนะครับ ขำ ๆ ๆ ที่ผมอนทนมากขนาดนี้ก็เพราะว่าเงินแต่ละบาทที่ผมเก็บสะสมจากเงินเดือน+โบนัสในแต่ละปีนั้นมันก็ไม่เยอะอะไรขืนถ้าผมไม่ระมัดระวังในการลงทุนแต่ละครั้งเกิดเสียหายมา คงไม่มีใครช่วยผมได้เลย อีกอย่างผมต้องส่งทางบ้าน+ใช้หนี้กยศ.แถมยังต้องเก็บเงินไว้แต่งงานด้วย ผมเลยต้องอนทนและวางแผนดี ๆ ไม่งั้นต่อไปลำบากแน่ ๆ ครับ โดย kosol ศุกร์ ม.ค. 07, 2011 10:10 am

Re: โบรกดีๆ นี่ต้องเป็นยังไง แบบไหนครับ แนะนำผมหน่อย ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกันครับว่าเจ้าไหนดี แต่ที่ใช้อยู่เป็นของเคที ซีมีโก้ ถ้าพูดถึงเรื่องความรวดเร็วในการบริการก็มี 2 เรื่องที่ผมเจอมากับตัวคือ 1.การเปิดบัญชี ใช้เวลาแค่วันเดียว เจ้าหน้าที่แค่โทรมาถามจะเปิดบัญชีแบบไหน 2.การโอนเงินเข้า ผมใช้บริการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์(SIPS)ใช้เวลาไม่ถึง10นาทีก็สามารถซื้อขายได้แล้ว ตอนแรกยังไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ50บาทต่อวันแต่เดียวนี้เห็นว่าเกือบทุกบริษัทเริ่มมีแล้ว สุดท้ายที่ผมเลือกโบรกเกอร์นี้เพราะว่าไม่กำหนดเงินฝากขั้นในการฝากแต่ละครั้ง เพราะบางเจ้าต้องมีขั้นต่ำที่ 50000บาทขึ้นไป ซึ่งผมก็เป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปที่คงไม่มีเงินเยอะแค่ฝากครั้งละ2-3หมื่นบาทก็ดีแล้ว http://www.settrade.com/S09_StaticRedirect.jsp?txtPage=OpenAccount/compare_member.html ลองไปตามลิงค์นี้ดูครับ ไว้เปรียบเทียบแต่ละโบรกเกอร์ที่ให้บริการหวังว่าจะเป็นประโยชน์บางนะครับ โดย kosol ศุกร์ ม.ค. 07, 2011 9:47 am

Re: หาอ่านงบการเงินจากไหน ตาม link นี้เลยครับ ส่วน 56-1มันจะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้ครับ http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin2/cgi-bin/find56.php?lang=t&ref_id=&content_id=1 โดย kosol พฤหัสฯ. ม.ค. 06, 2011 4:38 pm

Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู เอาวิธีการของตัวผมเองแล้วกันนะครับ ผมจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปซื้อหนังสือมาอ่านก่อนดีกว่าครับ เช่น ตีแตก ของท่านดร.นิเวศน์ และที่เกี่ยวกับ วอร์เรน บัฟเฟต อ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอเริ่มเข้าใจแล้วค่อยไปลองลงทุนจริง ๆ ขนาดผมศึกษามาเป็นปีแล้วยังไม่ได้ซื้อสักตัวเลย แต่ผมเปิดบัญชีซื้อขายและโอนเงินเข้าไปรอไว้แล้ว ต่อไปแค่ อนทน รอโอกาสดี ๆ สักครั้งผ่านเข้ามา หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ โดย kosol พฤหัสฯ. ม.ค. 06, 2011 4:30 pm

Re: มือใหม่ขอครับปรึกษาพี่ๆหน่อยครับ ผมก็มือใหม่เหมือนกันครับ คุณ always_the_blues ส่วนตัวผมเองผมจะถามตัวเองก่อนว่ายังไม่เข้าใจในเรื่องใด ผมจะแบ่งเป็น 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ1.เชิงคุณภาพ 2.เชิงปริมาณ ผมคิดว่าเชิงปริมาณเราทุกคนน่าจะมีความสามารถใกล้เคียงกันในการคิดคำนวณเพราะมันเป็นสมการคณิตศาสตร์ที่เราเคยเรียนมา แต่เรื่องคุณภาพผมคิดว่าตัวผมเองยังอ่อนอยู่ ส่วนเรื่องหนังสือนั้นผมว่าถ้าเริ่มอ่านไปเรื่อย ๆ จะเริ่มรู้ตัวว่าหนังสือแบบไหนควรจะหามาอ่าน ก็ลองหาในเว็บนี้ดูครับ แต่ขอเตือนว่าต้องมีวินัยและความอดทนสูงมาก ๆ โดยเฉพาะ Intelligent Investor อ่านแล้วมันจริง ๆ ครับ เนื้อหามันหนักแน่นดีมากครับ ส่วนตัวผมนั้นชอบ วอร์เรน บัฟเฟต กับ ดร.นิเวศน์ ตอนนี้ก็พยายามจะเก็บให้ครบทุกเล่ม หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ โดย kosol พุธ ธ.ค. 29, 2010 5:00 pm

มือใหม่อยากได้ขอเสนอแนะจากพี่ ๆ ขอถามเรื่องนักลงทุนเชิงรับที่เขียนไว้ในหนังสือ Intelligent Invester edition เล่มล่าสุดสีแดง มีใครเคยนำหลักกการในหนังสือไปประยุกต์ใช้บางครับ ช่วยแชร์ประสบการณ์ได้หรือเปล่าครับ เพราะผมลองแล้วมันก็ใช้ได้ดีเลยครับ โดย kosol อังคาร พ.ย. 16, 2010 5:21 pm

มือใหม่อยากได้ขอเสนอแนะจากพี่ ๆ ขอขอบคุณ haehae ที่ช่วยขยายความและเตือนสติให้กระจ่างมากขึ้นครับ ผมต้องสะสมความรู้และประสบการณ์อีกเยอะครับ ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะใครมีไรเพิ่มเติมก็เต็มที่เลยนะครับ โดย kosol อังคาร พ.ย. 16, 2010 5:12 pm

มือใหม่อยากได้ขอเสนอแนะจากพี่ ๆ ผมก็หวังให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกันครับคุณ boat37564 แต่ผมว่าวิกฤติหรือตลาดหมีอย่าพึงมาช่วง ปีหรือ2ปีนี้เลยเพราะทุนยังน้อยอยู่ เสียได้โอกาสคืออยากจะซัดหมัดเดียวอยู่เลย โดย kosol อังคาร พ.ย. 16, 2010 1:58 am

มือใหม่อยากได้ขอเสนอแนะจากพี่ ๆ ขอบคุณมากครับพี่ ๆ แต่สงสัยคำว่า **จขกท.**มันย่อมาจากอะไรครับ งง ตอนนี้ก็เริ่มได้สติบ้างแล้วครับ ต่อไปนี้คงต้องทำงานและเก็บเงินมาลงทุนไปเรื่อย ๆ จนกว่าพอร์ตโตสัก 8 หลักค่อยล่าออกจากงานดีกว่า ผมต้องทำให้ได้ โดย kosol จันทร์ พ.ย. 15, 2010 2:51 pm

มือใหม่อยากได้ขอเสนอแนะจากพี่ ๆ คุณ O_CHAY ครับเริ่มต้นเหมือนกันกับผมเลยครับ 555555555มีเพื่อนแล้ว ผมก็เริ่มจากพ่อรวยสอนลูก โดย kosol พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2010 5:18 pm

มือใหม่อยากได้ขอเสนอแนะจากพี่ ๆ ผมต้องการแค่นี้แหละครับ เพราะตัวเราเองไม่รู้ว่าตังเองเป็นยังไง ต้องให้คนอื่นมาบอกและกล่าวตักเตือนบ้าง ขอบคุณมากครับ โดย kosol ศุกร์ พ.ย. 05, 2010 7:02 pm

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล อยากได้มากครับ ขอด้วยคนนะครับ [email protected] โดย kosol ศุกร์ ต.ค. 08, 2010 2:56 pm

ขอถามเรื่อง สินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิกับเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ ขอบคุณมากครับ โดย kosol พุธ ต.ค. 06, 2010 8:11 am

ขอถามเรื่อง สินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิกับเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ แสดงว่าผมเข้าใจถูกแล้วใช่ไหมครับ ส่วน สินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิ(Net Current Asset) หายังไงครับเอาอะไรมาบวกลบกัน โดย kosol อังคาร ต.ค. 05, 2010 4:31 pm

รบกวนขอถามพี่ ๆ เรื่อง สินทรัพย์สุทธิกับมุลค่าตามบัญชี นี่ก็ถือว่าเป็นคำชมที่ดีที่สุดในรอบปีนี้เหมือนกันครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ แต่มันก็ยากเหมือนกันครับในการควบคุมตัวเอง โดยเฉพาะช่วงนี้55555 แต่ผมอ่านหนังสือของท่านปู่ วอร์เรน บอกว่า นักลงทุนที่ดีต้องสามารถควบคุมตัวเองให้ได้ ตอนนี้แค่อดทนรอเท่านั้นครับ มันขึ้นแรงก็ตกแรงเหมือนกัน555 โดย kosol จันทร์ ต.ค. 04, 2010 7:01 pm

รบกวนขอถามพี่ ๆ เรื่อง สินทรัพย์สุทธิกับมุลค่าตามบัญชี เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ให้ความรู้ครับ ตอนนี้กำลังอ่าน อ่าน อ่าน และหัดวิเคราะห์ให้มากที่สุดครับ แต่ยังไม่ลงทุนจริง ๆ เพราะรู้สึกว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เข้าใจดี โดย kosol จันทร์ ต.ค. 04, 2010 5:56 pm

ต้นไม้เพิ่งโต อย่ารีบเด็ดยอด : เพิ่งโต อย่ารีบซื้อความสุข รบกวนด้วยครับ [email protected] โดย kosol พุธ ก.ย. 29, 2010 11:19 am

วิธีการหาผลกำไรเฉลี่ยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในความหมายของคุณ witweew คือการนำ EPS ทั้ง 7ปี บวกกันแล้วหาร 7ใช้ไหมครับ เช่น (1.12+1.15+1.21+1.15+1.01+1.11+1.12 )=7.87/7=1.124 เราจะได้ ผลกำไรเฉลี่ยออกมาเท่ากับ 1.124 ใช่ไหมครับผมเข้าถูกหรือป่าวครับ โดย kosol ศุกร์ ส.ค. 27, 2010 3:17 pm

วิธีการหาผลกำไรเฉลี่ยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น หากในช่วง12เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 3 บาท แต่ตลอดช่วง  6 ปีก่อนหน้า บริษัทมีผลกำไรเฉลี่ยเท่ากับ 50 สตางค์   ที่ PE 25 เท่า การใช้กำไรต่อหุ้นในปีปัจจุบันที่ 3 บาท จะทำให้เราได้ราคาหุ้นออกมา เท่ากับ 75 บาท แต่ถ้าใช้ผลกำไรเฉลี่ยในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา (นำกำไรทั้งหมดซึ่งเท่ากับ 6 บาท(3หาร.50)มาหารด้วย 7 จะได้กำไรเฉลี่ยเท่ากับ 85.7 สตางค์ต่อหุ้น) โดยราคาหุ้นจะอยู่ที่เพียง 21.43 บาทเท่านั้น ***นี้คือเนื่อหาส่วนหนึ่งในหนังสือครับซึ่งผมอยากรู้ว่าวิธีการหา ผลกำไรเฉลี่ยว่า หาเหมือนกันกับที่ผมได้พูดไปก่อนหน้านี้หรือป่าวครับ โดย kosol ศุกร์ ส.ค. 27, 2010 3:11 pm

ปรึกษาครับว่าจะซื้อบ้านดีมั้ย และบ้านเป็นหนี้สินหรือเป็นทรัพ ผมว่าบ้านเป็นได้ทั้งสองอย่างในตัวมันเองครับ ถ้าไปกู้มาซื้อบ้านแล้วให้เช่าเงินเก็บค่าเช่าลบเงินที่ต้องจ่ายทางธนาคารแล้ว สมมติเหลือแสดงว่าบ้านเป็นทรัพย์สินและหากไม่เหลือแสดงว่าพี่กำลังจนลงเรื่อย ๆ  แต่ถ้าอยู่เองเป็นหนี้สิน10000เปอร์เซ็นต์ครับ ไม่มีทรัพย์สินตัวไหนหรอกที่คอยกัดกินเงินจากกระเป๋าเราทุกเดือน เพราะถ้าเป็นทรัพย์สินจริงมันต้องคอยดูดเงินเข้ากระเป๋าเรามากกว่า หรือที่ผมเรียกว่าหนี้ดีนั้นเอง แต่ไม่ใช่ไม่อยากให้มีบ้านนะ แต่เราควรมีตอนที่เราพร้อมหรือมีรายได้จากที่อื่นมาจ่ายค่าผ่อนบ้าน  แต่ถ้าคุณทำได้สักวันคุณจะสบายครับ โดย kosol เสาร์ ส.ค. 21, 2010 3:43 pm

สนใจเรื่องหุ้น ผมก็อยากให้บ้างบริษัทเข้าตลาดเหมือนกันแต่เขาไม่ยอมเข้า ขอบคุณทุกท่านที่ให้มุมมองใหม่ ๆ ในการลงทุน โดย kosol อังคาร ส.ค. 10, 2010 8:31 am

สนใจเรื่องหุ้น http://image.ohozaa.com/show.php?id=9e89d5acb6f09638424e5f07a47ec75d ขออภัยครับอัพรูปผิดครับ โดย kosol จันทร์ ส.ค. 09, 2010 11:38 am

สนใจเรื่องหุ้น ขอขอบคุณทุกท่านมากครับโดยเฉพาะ คุณ Renne และ Damaino ที่แบ่งปั่นประสบการณ์ให้กับผม ส่วนเรื่องงบการเงินนั้นผมก็ไม่รู้ว่าใช่ได้จริงหรือเปล่าตอนนี้คงมีแค่เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ แต่ผมลองเข้าไปวิเคราะห์งบการเงินบริษัทที่ท่าน วอร์เรน ถืออยู่พบว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ผ่านหมดเลย เช่น Moody   และ P&G แต่พอมาใช้กับเมืองไทยมันไม่เข้าทุกข้อ ผมว่ามันน่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าตลาดอเมริกา เกิดก่อนเราหรือไม่ก็เหตุผลอื่นซึ่งนี้ผมเดาเอา 55 แต่ถ้าอ่านงบการเงินบริษัทไหนไม่เข้าใจซับซ้อนผมก็ไม่ไปยุ่งกับมัน ส่วนเรื่องบริษัทที่เกี่ยวกับไอทีนั้น ผมคงไม่ขอเข้าไปใกล้ดีกว่า เพราะวอร์เรนเองก็ไม่เคยลงทุนในบริษัทไอทีเหมือนกัน ขนาดท่านมีประสบการณ์มาก่อนเราท่านยังไม่ลงทุนเลย แล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องไม่เชื่อท่านด้วย **คือผมพึ่งจบปริญญาตรีเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และตอนนี้กำลังเตรียมเก็บเงินเพื่อลงทุนซึ่งเงินเก็บผมได้แบ่งเป็น 3 กอง ๆ ละเท่า ๆ กัน คือ 1.เงินออม 2.เงินลงทุน 3.เงินบริจาค ผมสักวันหนึ่งผมขาดทุนก็ยังเงินอีก 2 กอง ไว้ให้ผมใช้ยามจำเป็น และผมข้องใจและไม่เข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับการลงทุนแบบ VI เพราะผมเข้าไปอ่านบางกระทู้เห็นมีประมาณว่าตัวอย่างเช่น ผมถือหุ้นบริษัทนี้อยู่คุณคิดว่าผมควรขายมันไหม หรือว่าราคามันกำลังขึ้นมันควรซื้อไหม ผมเลยคิดว่าคนเหล่านี้เขาใช้ VI จริง ๆ หรือเปล่า เหมือนเขาไม่ได้วิเคราะห์ให้ละเอียดและก็มาวิตกกังวลที่หลัง ผมว่าลักษณะเหมือนนักเก็งกำไรเลย ไม่เห็นเขาพูดถึงธุระกิจของบริษัทนั้นเลยว่าทำอะไร เห็นพูดถึงแต่ราคาเท่านั้นเองผมเลยงงครับ  ผมเลยอยากถามให้หายสงสัยกันครับ โดย kosol จันทร์ ส.ค. 09, 2010 9:13 am

สนใจเรื่องหุ้น ขอขอบคุณ DAMAINO มากครับที่ช่วยแนะนำ แต่ที่ผมว่าไปนั้นผมได้มาจากหนังสือของ วอร์เรน บัฟเฟ็ตฟ์ ครับ ซึ่งในหนังสือบอกว่าเป็นวิธีเดียวกันกับที่บัฟเฟ็ตฟ์ใช้ครับ ผมไม่ได้พยายามคิดเองแต่ผมแค่อยากลองพิสูจน์ดูว่าสิ่งที่บัฟเฟ็ตฟ์ใช้อยู่นั้นมันใช้ได้ผลกับบ้านเราหรือเปล่า เลยอยากแช่ความรู้และรับฟังข้อคิดเห็นของท่านที่มีประสบการณ์ทั้งหลาย เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจลงทุน ขอขอบคุณ DAMAINO อีกครั้งหนึ่งครับ โดย kosol เสาร์ ส.ค. 07, 2010 1:22 pm

สนใจเรื่องหุ้น รบกวนช่วยยกตัวอย่างข้อมูลเชิงคุณภาพกับข้อมูลเชิงปริมาณสักตัวอย่างได้ไหมครับ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ขอขอบคุณทุกท่านนะครับมีอะไรก็ช่วยแนะนำด้วยนะครับจักเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง...และรบกวนอีกเรื่องไม่ทราบว่าท่านใดรู้บ้างครับว่าดร.นิเวศน์ ถือหุ้นอะไรบ้างตอนนี้ เห็นว่าท่านเป็นวีไออันดับหนี่งของเมืองไทย อยากจะเดินตามรอยท่านครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ โดย kosol เสาร์ ส.ค. 07, 2010 1:14 pm

สนใจเรื่องหุ้น รบกวนถามคุณ DFFOOL ว่าผมต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง แต่ตอนนี้อยากเปิดบัญชีซื้อขายให้ได้ก่อน อยากให้แนะว่าควรเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ไหนดีครับคือผมไม่รู้ว่าจะไปเปิดกับโบรกเกอร์ไหนดี เผื่อจังวะดี ๆ จะได้ซื้อของดีในราคาลด 50 % เพราะว่า 4 บริษัทที่คัดไว้ตอนนี้มีค่า P/E ประมาณ 10 กว่า ซึ่งถือว่าน้อยนะ และอีกอย่างตอนนี้ตลาดกำลังขึ้นผมว่าอีกไม่นานสักวันมันต้องตกลงแน่ ๆ ตอนนั้นแหละครับที่ผมจะเข้าไปยุ่งกับตลาด ผมจะอดทนรอจนกว่าจะถึงวันนั้น รบกวนหน่อยนะครับ โดย kosol เสาร์ ส.ค. 07, 2010 12:32 pm

สนใจเรื่องหุ้น ต้องขอบคุณทุกคนนะครับ ที่คอยแบ่งปั่นประสบการณ์แต่ขอตอบคุณ croyoty มันไม่ใช้เกมครับมันเป็นแค่การจำลองพอร์ตการลงทุนเฉย ๆ ซิ่งทุกอย่างเหมือนจริงหมด แต่ยกเว้นแค่เรื่องเงินครับ ซึ่งหุ้นทั้ง 10 ตัวนั้นผมได้วิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วครับไม่ใช้อยากซื้อก็ซื้อครับและผมก็ใช้เวลาวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทต่างเป็นเวลาปีกว่าแล้วผมจึงตัดสินใจซื้อกะว่าจะถือไว้ตลอดและจะไม่ขายเลยอย่างพิสูจน์ดูว่าที่ไหนหนังสือเขาเขียนไว้มันใช้ได้จริงหรือเปล่าเฉพาะอเมริกากับเมืองไทย ขอบคุณทุก ๆ ท่านอีกครั้งหนึ่งครับ โดย kosol เสาร์ ส.ค. 07, 2010 9:22 am

สนใจเรื่องหุ้น ต้องขอขอบคุณ Renne มากครับ ผมใช้เกณฑ์การวิเคราะห์งบการเงินย้อนไปจนถึงปี พ.ศ.2544 ครับ ดูทั้ง 3 งบทั้ง กำไรขาดทุน,งบดุลและก็งบกระแสเงินสดตามลำดับครับก็มีรายละเอียดตามนี้ครับ -งบกำไรขาดทุน 1.ส่วนต่างกำไรขั้นต้น 40%หรือมากกว่ายิ่งสูงยิ่งดี 2.ค่า SGA/กำไรขั้นต้น ยิ่งต่ำยิ่งดี 3.ค่าเสื่อมราคา/กำไรขั้นต้น ยิ่งต่ำหรือไม่มีเลยยิ่งดี 4.ดอกเบี้ยจ่าย/กำไรจากการดำเนินกิจการ ห้ามเกิน 10% ยิ่งต่ำยิ่งดี 5.กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ 6.กำไรสุทธิ/รายได้รวม ต้องมากกว่า 20 %ยิ่งสูงยิ่งดี 7.กำไรต่อหุ้น ต้องเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ -งบดุล 1.เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ต้องเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ 2.สินค้าคงเหลือสุทธิ ต้องสอดคล้องกับกำไรสุทธิ 3.ที่ดินอาคารและอุปกรณ์สุทธิ ต้องจับตาดูอย่างระมัดระวัง 4.การลงทุนระยะยาว  ดูซิว่าผู้บริหารเก่งแค่ใหนในเรื่องการจัดการเงินของบริษัท 5.หนี้ัสินระยะยาวที่จะครบกำหนดใน1ปี บริษัทที่ยังยืนจะพยายามมีให้น้อยหรือไม่มีเลย 6.หนี้ระยะยาว เหมือนกับข้อ 5 บริษัทที่ยังยืนไม่กู้เงินมาลงทุน 7.อัตราหนี้สิน/ส่วนผู้ถือหุ้น ต้องห้ามเกิน 0.80 ยิ่งต่ำยิ่งดี 8.หุ้นบริสิทธิ์ บริษัทที่ยังยืนจะไม่มีหุ้นบุริมสิทธิ์ 9.กำไรที่ยังไม่ได้จัดสรร เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอห 10.หุ้นทุนซื้อคืน ถ้าเห็นมีประวัติการซื้อหุ้นคืน เป็นสิ่งที่ดีเพราะบริษัททำกำไรได้มากจนไม่รู้่ว่าจะเอาเงินไปทำอะไรจึงไปซื้อหุ้นคืนทำให้ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเพิ่มสูงขึ้น 11.ผลตอบแทนสำหรับส่วนผู้ถือหุ้น ต้องมากกว่า 20 % ยิ่งสูงยิ่งดี -งบกระแสเงินสด 1.ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับทุน เช่น สินทรัพย์ถาวร สินทรัพย์ไม่มีตัวตน 2.ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับทุน/กำไรสุทธิ ต้องเท่ากับ 50 % หรือน้อยกว่ายิ่งต่ำยิ่งดีครับ **สังเกตุว่าผมจะเน้นของความสม่ำเสมอ การเดินทางไม่จำเป็นต้องราบรื่น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ผมจะดูตั้งแต่ปี2544จนถึงปัจจุบันครับ รบกวนท่านผู้มีประสบการณ์ช่วยวิจารณ์ด้วยครับไม่ต้องเกรงใจครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า **แต่ล่าสุดผมมีแค่ 4 บริษัทจาก 10 บริษัทที่ผมจะลงทุนด้วยเงินจริง ๆ ครับ โดย kosol เสาร์ ส.ค. 07, 2010 9:10 am