คนเก็งกำไรอยากเปลี่ยนเป็น VI ยากเย็นจริงๆ ราคาตามปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ ครับ  ไม่ใช่ราคาตามอารมณ์ตลาด โดย ด๊กดิงด่าง อังคาร ก.ค. 08, 2008 7:28 pm

หุ้นใครเจอ vicious cycle บ้างครับ สถานการณ์กำหนดความคิด สถานการณ์เปลี่ยน  ความคิดคนเปลี่ยน ตอบให้ตรงคำถาม  ผมคงไม่แน่ใจ ตอนนี้กินยาทัมใจอยู่ ถ้ารู้ความต้องการที่แท้จริงของคนส่วนใหญ่ได้  ผมคงรวยกระเถิบ ขำ ขำ  ครับ โดย ด๊กดิงด่าง อังคาร ก.ค. 08, 2008 6:56 pm

ศัพท์หุ้นวันละคำ แบบปลอบใจมั่ง " สงครามยังไม่จบ  อย่าพึ่งนับศพทหาร  วิญญาณมาบอก " โดย ด๊กดิงด่าง เสาร์ พ.ย. 24, 2007 8:07 am

ใครว่า นักลงทุน vi ได้น้อยกว่าเก็งกำไร ตำนานผมไม่กลัว  กลัวตำไม่เสร็จ  5 5 5 โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ พ.ย. 23, 2007 12:44 pm

ใครว่า นักลงทุน vi ได้น้อยกว่าเก็งกำไร ลองมั่ง อิ อิ VS เรือลาดตระเวนขนาดเล็กติดปืนกล  เครื่องไม้เครื่องมือไม่มากนัก  คล่องแคล่วว่องไว  หลบหลีกและเข้ากระทำแบบประชิดตัว  ถ้าพลาดก็โดนสวนหมดสภาพได้ง่าย  พื้นที่หวังผลระดับร้อยเมตรพันเมตร ฝ่ายตรงข้ามมองเห็นได้ง่าย ไม่ต้องการข้อมูลมากนักเพราะออกทำการตามสถานการณ์เฉพาะหน้า  โต้คลืนลมแรงไม่ค่อยได้  มีโอกาสเกยตื้นได้ง่ายหากพลขับไม่ไวพอ  ถูกสร้างขึ้นมาใช้งานจำนวนมาก  แต่เหลือรอดกลับอู่ไม่มาก ส่วน VI เป็นเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์  มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือหลากหลายครบครัน ติดอาวุธนำวิถี  พิสัยต่อตีระดับร้อยระดับพันกิโลเมตร  ค่อยๆคลืบคลานกินพื้นที่แบบว่าศัตรูไม่iรู้ตัว  แต่มีข้อมูลพื้นที่หวังผลเพียบ  กว่าจะออกทำการใช้เวลาเตรียมการนานเพราะต้องวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนค่อนข้างเป็นวิทยาศาสตร์มากหน่อย  บ่ยั่นคลื่นยักษ์ใดๆ  ถูกสร้างขึ้นมาไม่กี่สิบลำ  รอดกลับฐานทัพเกือบทั้งหมด  ไอ้ลำที่ไม่รอดเพราะเชื้อเพลิงนิวเคลียร์(ไฟ)หมดกลางทาง ลมพัดไปทางไหนก็ไม่ไป  เพราะจมอยู่ใต้น้ำ  5 5 5 โดย ด๊กดิงด่าง พฤหัสฯ. พ.ย. 22, 2007 8:37 pm

ฟลออีกแล้ว เมื่อไหร่ รายย่อยจะสำนึกกันนี่ นึกถึงฟลอร์โชว์ที่เคยดูครั้งแรกๆตอนวัยรุ่น เสียวและตื่นเต้นดี  ไม่รู้เทียบได้หรือปล่าว โดย ด๊กดิงด่าง จันทร์ พ.ย. 19, 2007 11:45 am

ขอคำปรึกษาเรื่องเงินลงทุนครับ ตามประสพการณ์ที่เคยผ่านมา  ผมคิดว่าการเป็นหนี้เป็นทุกข์อันดับสองรองจากการเจ็บป่วยเลยนะครับ โดยเฉพาะหนี้ในทรัพย์สินที่เราชำระไปแล้วบางส่วนและมีมูลค่าสูงเช่นบ้าน  ซึ่งคนทั่วไปคงมีโอกาสมีได้ไม่เกิน1-2 หลังในชีวิต  และถ้าเราทั้งเจ็บป่วยและเป็นหนี้ด้วยก็คงยิ่งลำบาก  ไม่เจตนาจะทำให้กังวลนะครับเพียงแต่มองในกรณีแย่ที่สุดที่อาจเกิดได้กับชีวิตคนเราเพราะเจ็บป่วยเป็นเรื่องเกิดได้กับทุกคน ปัญหาคือไม่รู้ว่าเมื่อไร  อยากให้มองให้กว้างกว่าเรื่องผลตอบแทนเป็นตัวเงินว่าวิธีไหนจะประหยัดกว่ากัน   ที่ผมทำมาก็คือ  ใช้หนี้บ้านให้หมดเร็วที่สุดโดยกำหนดระยะเวลาผ่อนหมดให้ชัดเจนว่าอีกกี่ปี  โดยเหลือเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่าที่จำเป็น(นอกเหนือจากเงินก้อนที่กันไว้ยามฉุกเฉินหากขาดรายได้ชั่วคราว)และจัดเรื่องการลงทุนไว้เป็นอันดับถัดมา การซื้อบ้านก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง หากอยู่ในทำเลที่ดีราคาอาจเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าผลตอบแทนในการลงทุนที่ทำได้จากวิธีอื่น(เช่นหุ้น ฯลฯ) ที่สำคัญเราได้กำไรจากการอยู่อาศัย  ความภาคภูมิใจ เป็นที่พบปะของญาติพี่น้องได้ ฯลฯ  ถ้าเรากำจัดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในเรื่องที่เราคาดไม่ถึงหรือควบคุมไม่ได้ที่อาจทำให้เราชำระหนี้(ก้อนใหญ่)ไม่หมดออกไปให้เร็วที่สุดน่าจะดีกว่า  เพราะนอกเหนือจากเรื่องเจ็บป่วยก็ยังมีเรื่องอืนๆอีก เช่นเศรษฐกิจไม่ดีรายได้เราอาจลดลง   วันที่ผมส่งเงินงวดสุดท้ายพร้อมกับปลดจำนองออกจากธนาคารเป็นอีกวันหนึ่งที่ผมมีความสุขมากในชีวิต  รู้สึกตัวเบาเลยมากเลยละ จากประสพการณ์ล้วนๆครับ โดย ด๊กดิงด่าง อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2007 8:11 pm

หุ้นดาวเทียม เป็นโกรทสต๊อคหรือไม่ สงสัยเป็น ghost stock มากกว่า  หลอกหลอนอยู่เรื่อย เดี๋ยวยึดเดี๋ยวไม่ยึด หรือไม่ก็เป็น goat stock เพราะเวลาผู้มีอำนาจทะเลาะกันก็จะมาลงที่หุ้นพวกนี้ โดย ด๊กดิงด่าง อาทิตย์ พ.ค. 20, 2007 8:57 pm

tmt ทำไม ไม่มีใครพูดถึงเลยคับ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว โทรไปถามคุณสมเจตน์ กรรมการบริหารเมื่อกี้  ปรากฏว่าผมเดาผิดตรงที่บอกว่ารอเครื่องจักรใหม่ผลิตได้ก่อน แต่คุณสมเจตน์บอกว่าเครื่องจักรเก่าจากพระราม 3 เริ่มผลิตได้แล้วเป็นส่วนใหญ่  ส่วนของใหม่กำลังทะยอยติดตั้งอยู่  โรงงานที่ผมเห็นมีสองอาคารขนาดเท่าๆกัน  คงแยกเครื่องจักรเก่ากับใหม่ โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ มี.ค. 09, 2007 5:40 pm

tmt ทำไม ไม่มีใครพูดถึงเลยคับ น่าจะปีนี้แหละครับคุณฮอท  ดูจากรายงานการใช้เงินที่เพิ่มทุนส่วนใช้สร้างโรงงานใช้หมดแล้ว เหลือส่วนของเครื่องจักรบางส่วน  ผมผ่านหน้าทางเข้าโรงงานใหม่ที่วังน้อยบ่อยๆ ก็เห็นพัฒนาการของตัวโรงงานก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆจนสมบูรณ์ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว(มองจากภายนอกระยะประมาณ 500เมตร)  ถ้าเดาก็คงเหลือส่วนของเครื่องจักรใหม่บางส่วนกับการย้ายเครื่องจักรเก่าจากพระราม 3 ซึ่งคิดว่าคงต้องรอให้ของใหม่ผลิตได้ก่อน ในรายงานประจำปี 48 ก็วางแผนให้โรงงานใหม่เสร็จในไตรมาส 4/49 ดูจากการใช้เงินที่เพิ่มทุนคงจะล่าช้ามาไตรมาส 1/50 โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ มี.ค. 09, 2007 5:27 pm

หม่อมอุ๋ยลาออก!! รัฐบาลสมานฉันท์  ฮา ๆ โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ก.พ. 28, 2007 11:50 am

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ???? คิดดูอีกที  แทนที่แบ็งค์ชาติจะเอาเงินไปต่อสู้ค่าเงิน  ก็เอามาปล่อยกู้ให้ประชาชนทำแบบผมว่าดีกว่า เป็นผลดีกับreal sector ด้วยแม้จะไม่ใช่ในประเทศเดี๋ยวก็ย้อนกลับมาคืนอยู่ดี  แทนที่จะเอากระดาษไปแลกกระดาษ เงินตั้งสองสามแสนล้าน กู้ได้กี่คนน่ะ โดย ด๊กดิงด่าง พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:19 pm

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ???? แหมท่านคัดท้าย ผมก็ประชดนิดหน่อย  แต่ว่าที่จริงมันก็น่าจะดีนะ  เรามีเงินมากขึ้นก็หาความสุขดิ เวลามีเงินมีทองคนก็เข้าหา ไม่เป็นตัวของตัวเอง  ทำไงจะแก้ได้ ก็กลับไปจนเหมือนเดิมนั่นแหละ โดย ด๊กดิงด่าง พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:10 pm

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ???? คนไทยไม่ว่ารวยว่าจนช่วยๆกัน ไปเที่ยวต่างประเทศ  ซื้อสินค้าแบรนด์เนมของนอก  สั่งรถหรูๆแพงๆเข้ามาใช้  สินค้าฟุ่มเฟือยจากนอกเยอะๆ  ทำแบบก่อนปี40  ช่วยได้มั้ยครับ โดย ด๊กดิงด่าง พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 9:51 pm

ผล------- มาตรการหมาจนตรอก ขออนุญาตเสริมเพราะโดนพาดพิง  อิ อิ เราเป็นประเทศเปิดอย่างไรเสียการถูกกระแสพัดพามันเลี่ยงไม่พ้นอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะเลือกฝืนหรือตามกระแสมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่เรารู้จักตนเองแค่ไหน  ประเมินตนเองไว้ตำแหน่งใดในสถานการณ์รอบข้าง ผมเชื่อว่านักบริหารยุคหลังนี่ส่วนใหญ่จะยึดแนวทางทันกระแส(ปรับตัวเพื่อความอยู่รอดทั้งระยะสั้นและยาว)หรือนำกระแส(เป็นผู้กำหนดกระแสเสียเอง เช่นเป็นผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ)มากกว่าที่จะตามหรือฝืนกระแส เพราะมีแต่จะเสียโอกาสเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ อยู่ในฐานะเป็นเบี้ยล่าง ถ้ามองแบบแยกส่วนเฉพาะเรื่องแบบค่าเงินบาทนี่  ผมมองว่าแบ็งค์ชาติทำถูกแค่ประเดี๋ยวเดียว อีกไม่นานก็ต้องเปลี่ยน  ปัญหามันอยู่ตรงทำแบบแยกส่วนนี่แหละ  ถ้าเราไม่มีการบริหารความอยู่รอดแบบองค์รวมเพื่อสลับสับเปลี่ยนระหว่างส่วนที่ได้เปรียบกับเสียเปรียบของส่วนต่างๆในสังคม  ที่ทำไปผลก็คงเหนื่อยเปล่า(ขาดทุน-เสียเวลาและโอกาส) อย่างเรื่องน้ำท่วมผมมีแนวคิดว่า  ถ้าผู้คนในพื้นที่เสี่ยงสร้างบ้านแบบลอยน้ำได้แบบเรือนแพก็คงลดปัญหาไปได้  แต่ที่ผ่านมาเอาแต่สร้างกำแพงกันน้ำเหมือนแบ็งค์ชาติสู้ค่าเงินแต่ก็เอาไม่อยู่และบางทีน้ำยังอ้อมมาหลังกำแพงเสียอีก เราไม่ได้เป็นอะไรตามที่เรารู้สึกซักเท่าไร  แต่เราเป็นอะไรตามที่คนอื่นเขามองในสัดส่วนที่มากขึ้น  ยกเว้นเราจะอยู่คนเดียว โดย ด๊กดิงด่าง พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 1:11 pm

เวปเรา positioning แบบนี้ดีแล้วใช่มั้ยครับ? เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว พาน้องชายไปซื้อของแถวสำเพ็ง ผมรออยู่กับหลานหกขวบ ที่อาคารจอดรถตรงธนาคารธนชาติ พาหลานเดินเล่นจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นสองของส่วนพลาซ่า สักพักหลานร้องบอกไม่อยากอยู่เมืองจีนอยากกลับเมืองไทยเล่นเอาขำในคำพูดของหลานที่รู้จักจำแนกความรู้สึกของเขา(หลานเพิ่งไปครั้งแรก) เพราะที่ชั้นสองมีแต่คนจีนแก่ๆไปนั่งดื่มน้ำชากันคุยแต่ภาษาจีนแถมสินค้าที่วางก็ออกจีนๆทั้งนั้นสีแดงๆด้วย  ต่างจากชั้นล่างที่ขายเสื้อผ้าสากลทั่วไปและมีซูเปอร์ฯโลตัสด้วย พูดมาเสียยาวสรุปว่าผมเห็นแบบคำตอบท่านคาโปตอนท้ายที่ว่าบุคลิกของสังคมมาจากประชากรของสังคม  เปลี่ยนบ่ได้ดอก  คนที่โพสท์มาตั้งนานคงลงตัวแบบถาวรไปแล้ว โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ม.ค. 17, 2007 10:19 pm

ข้อเด่น ข้อด้อย ของประเทศไทยคืออะไร ขอมองต่างมุมเรื่องคอรัปชั่นหน่อยนึง ที่ผ่านๆมาแต่ยุคโบราณเราสร้างกฎระเบียบมากมายด้วยพื้นฐานความคิดที่ว่าคนมักจะโกง ทุจริต ขี้เกียจ คือวางกฎไว้ลงโทษความผิดพลาดที่เกิดจากด้านมืดของคน สังคมเราไม่ค่อยสร้างสิ่งจูงใจด้านบวกที่มองคนในแง่ดีพร้อมจะให้กำลังใจคนทำดีเช่นที่คุณเจ๋งบอกในคำตอบต้นๆว่าทำไมหนังสือพิมพ์ไม่ลงรูปคนทำบุญตักบาตรลงแต่รูปโป๊กับข่าวฆ่ากันตาย เพิ่งมามียุคหลังๆนี่เองที่การให้รางวัลการทำดีถูกนำมาใช้สร้างแรงจูงใจในสังคม จำได้ลางๆว่าสมัยเรียนอยู่ที่มีทฤษฎีการบริหารที่มองคนแบบทฤษฎีเอ๊กซ์ที่มองคนในแง่ร้ายจะสร้างแต่ความเสียหาย กับทฤษฎีวายที่มองคนในแง่ดีว่าคนสามารถยกระดับหรือพัฒนาได้ ผมมองว่าปัญหาคอรัปชั่นมีรากเหง้าส่วนหนึ่งมาจากการใช้ทฤษฎีเอกซ์ในการจัดการสังคมมากเกินไปซึง่น่าจะมาจากชนชั้นปกครองเป็นผู้ออกกฎฯจึงต้องเข้มงวดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองไว้และตกทอดมาเรื่อยๆทำให้มีการออกกฎระเบียบอะไรที่หยุมหยิมจนขยับตัวไม่ได้ เมื่อกระแสการแข่งขันตามแนวทางของทุนนิยมคลืบคลานเข้ามากฎระเบียบต่างๆจึงล้าสมัย(รวมถึงทัศนคติของผู้คนที่ตกอยู่ภายใต้กฎระเบียบก็ฝังรากลึกด้วยความรู้สึกที่ว่ากลัวผิดระเบียบอย่างแรง)ทำให้กฎเกณฑ์ต่างๆไม่เอื้ออำนวยให้กับสังคมยุคใหม่การคอรัปชั่นจึงเกิดขึ้น  เพราะมิฉนั้นก็จะเกิดความเสียเปรียบในการแข่งขันกับผู้แข่งขันอื่นที่มาจากพื้นฐานกฎระบียบที่เอื้ออำนวยมากกว่า เช่นต่างชาติ หรือผู้คู่แข่งที่มีจุดแข็งกว่า จำได้สมัยรัฐบาลนายกอานันท์หนึ่งมีการเริ่มแก้กฎเกณฑ์บางอย่างของทางราชการให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น  โดยภาพรวมคือเปลี่ยนบทบาทของรัฐจากผู้ควบคุมมาเป็นผู้กำกับดูแล  คือจากทฤษฎีเอ๊กซ์มาเป็นวายมากขึ้นทำให้ปัญหาคอรัปชั่นลดลงไป  ภาคสังคมก็มีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งที่จริงก็คือก่อนเปลี่ยนกับหลังเปลี่ยนภาคสังคมก็ปฏิบัติเหมือนกันเพียงแต่ก่อนนั้นมันผิดกฎฯ เลยต้องจ่าย สรุปแบบสายตาเอียงๆของผม  อยากจะบอกว่าประเทศไทยที่เจริญมาได้ขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะมีคอรัปชั่น ถ้าไม่คอรัปชั่นก็เหลือแต่เช้าชามเย็นชามอย่างเดียว  แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คอรัปชั่นให้หมดนะครับที่ผ่านมาส่วนหนึ่งเพราะกฎฯ มันขวางทางอยู่ เด็กๆรุ่นใหม่ก็จะได้รับการเลี้ยงดูในสัดส่วนที่ให้กำลังใจในการทำความดีมากกว่าจะดุด่าหรือลงโทษซึ่งต่างกับสมัยผมเด็กๆเจอไม้เรียวประจำเยย  บางครั้งยังงงๆว่าแค่นี้ก็โดนด้วยหรือ ไม่รู้ว่าคนที่มายึดอำนาจเที่ยวนี้เป็นพวกใช้ทฤษฎีไหน โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ม.ค. 17, 2007 9:58 pm

ข้อเด่น ข้อด้อย ของประเทศไทยคืออะไร ตอนเด็กๆไปอยู่กับปู่ย่าตายายซึ่งทำไร่ทำนาช่วงปิดเทอมบ่อยๆ  ยืนยันตามคุณเจ๋งบอก  คนบ้านนอกชนบทไทยแท้ๆนี่ชอบทำบุญมีความโอบอ้อมอารีย์รักใคร่กลมเกลียวช่วยเหลือกัน ไม่มักมากไม่มองคนอื่นแบบหวาดระแวง  เวลาผมไปถึงบ้านตาบ้านยายจะมีคนออกมาทักทายเยอะมากยกมือไหว้ไม่หวัดไม่ไหวอบอุ่นจริงๆ สังคมชนบทอิงอยู่กับการเกษตรซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ทำมาหากินได้พออยู่รอด มีอะไรเหมือนๆกันไม่แตกต่างไม่แข่งขันกันมาก จึงไม่ค่อยมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่พอกระแสบริโภคที่ผ่านสื่อต่างๆเข้าไปด้วยอิทธิพลของทุนนิยมไม่จำกัดนี่แหละทำให้สังคมชนบทเริ่มแตกแยก พัฒนาการไปคนละทิศละทางไม่ว่ารวยขึ้นจนลงมีอิทธิพลมากหรือเป็นเบี้ยล่างถูกรังแก สมัยนั้นผู้ใหญ่ในชุมชนก็เพียงพอที่จะปกป้องปกครองให้สงบสุขได้แล้ว ทุกวันนี้เอาไม่อยู่เพราะปัญหามันเยอะความต้องการมันแยะ ต้องพึ่งกลไกภายนอกที่ดูเหมือนว่าจะขลังแต่เอาเข้าจริงก็แย่พอๆกัน บทบาทของกำนันและผู้ใหญ่บ้านลดลงอย่างมากเพราะต้องดูท่าทีอำนาจหลัก ก็หวังการกลับมาให้ความสำคัญกับหลักศาสนาอย่างเดียวที่จะทำให้กลับมาดีเหมือนเดิม ขอเพียงให้ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ น้ำท่าป่าไม้ มีพอก็พอมีหวังครับ โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ม.ค. 17, 2007 11:45 am

ข้อเด่น ข้อด้อย ของประเทศไทยคืออะไร ข้อเสีย ขี้เกรงใจ ขี้โมโห  ใช้อารมณ์มากกว่าปัญญา   ปากว่าตาขยิบ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เฮไหนเฮนั่น ไม่รู้จักคำว่าระบบระเบียบ คิดแต่เรื่องไกล้ตัว เป็นหนี้เป็นสินง่ายๆ  ฯลฯ ที่ว่ามานี่ผมเคยเป็น กำลังเป็น กำลังแก้ อยู่ รวมๆแล้วเราคิดไกลๆ  วางแผนระยะยาวไม่เก่ง ไม่ค่อยหาความรู้ใหม่ๆ คิดวิเคราะห์แล้วสรุปนำไปปฏิบัติไม่ค่อยเก่ง พลาดอยู่เรื่อยความแม่นยำต่ำ โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ม.ค. 17, 2007 9:22 am

เคยมีใครฉุกคิดเรื่องนี้มั้ยครับ เรื่อง gasohol95 แค่เงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้นผมก็เอาด้วยแล้ว ไอ้เรื่องแตกต่างกับเบนซิน95บ้างนิดหน่อยมันแค่ปัญหาทางเทคนิคในการบริหารจัดการ ถือว่าจิ๊บจ๊อย โดย ด๊กดิงด่าง อังคาร ม.ค. 16, 2007 12:47 pm

มุมมอง อาจารย์ศุภวุฒิ สายเชื้อ สายวิเคราะห์ บล ภัทร ครบใจความหลักๆเลยครับ ผมละอยากให้แกได้เป็นรมต.เศรษฐกิจบ้างจังเลย แต่รัฐบาลเลือกตั้งน่ะ โดย ด๊กดิงด่าง อังคาร ม.ค. 16, 2007 12:31 pm

ทำไมเขาปิดข่าว ที่บ้านผม เมื่อสามปีก่อนตรงสี่แยกใหญ่ๆมีคัทเอาท์ "ปลูกอ้อยวันนี้เป็นเศรษฐีในวันหน้า" รู้สึกจะหายไปแล้ว ข้อ 7 ของคุณหมอเข้าข่ายกู้ชาตินะครับ โดย ด๊กดิงด่าง จันทร์ ม.ค. 15, 2007 11:08 am

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร หรือว่าแบ๊งค์ชาติรู้ทันว่าพวกนี้ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์  แอบเอามาเก็งค่าเงิน กรรมประเทศไทย โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 9:23 pm

ถ้าคุณเป็นคนต่างชาติ กำลังจะมาลงทุนทำกิจการในไทย ควบคุมทิศทางเงินทุนของตัวเองไม่ได้จะมาหรือ อันเก่าจะไปขายใคร ยังงงๆอยู่ โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 9:11 pm

ถามคุณ สุมาอี้ เรื่องการแข็งค่าเงิน นะครับ คำตอบของท่านแม่ทัพตรงกับที่ผมเคยนึกๆอยู่เมื่อนานมาแล้วที่เคยดูหนังเรื่องหนึ่ง(จำรายละเอียดไม่ได้) พระเอกของเรื่องเป็นคนดีมากสมบูรณ์ทุกอย่าง ทุกคนที่แวดล้อมเขาก็อาศัยเชื่อเสียงและตัวตนของเขาหาประโยชน์เข้าตัว แต่ไม่นานมีใครคนหนึ่งในนั้นพบว่าที่จริงแล้วเขาไม่ได้มีดีสักเท่าไร ปากต่อปากทุกคนปิดกันให้แซด เพื่อไม่ให้ความจริงปรากฏ เพื่อให้ผลประโยชน์ของแต่ละคนคงอยู่ ไม่รู้โลกเป็นเช่นนี้หรือไม่  บางทีก็ต้องแกล้งโง่(ไม่ได้ว่าท่านแม่ทัพนะครับ) โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 8:49 pm

ถามคุณ สุมาอี้ เรื่องการแข็งค่าเงิน นะครับ ถามคุณสุมาอี้เพิ่มเติม ทำไมประเทศต่างๆจึงยอมซื้อพันธบัตรอเมริกา ทั้งๆรู้ว่าขาดดุลบ/ชเดินสะพัด หรือคิดว่าค่าเงินดอลไม่มีวันอ่อนง่ายๆ โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 8:28 pm

คุณเป็นคนเจ้าคิด เจ้าแค้นหรือเปล่า !!!! ก็แสดงไปตามบทบาททางโลก ยังต้องกินต้องใช้ บ้านต้องเช่าข้าวต้องซื้อนิ ถ้าปล่อยให้เพื่อนร่วมโลกทำผิดเสียหายร้ายแรงลอยนวล สังคมจะเป็นเช่นไร   จะว่าไปวันนี้พอร์ตผมก็ติดลบแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์กว่าๆ เทียบกับวันก่อนแดงเดือด  ฮาๆ โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 10:17 pm

ผลกระทบจากมาตราการนี้ อยู่ในขอบเขตความรู้ของเราหรือไม่ ถ้ามองระยะยาวคิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับพัฒนาการในเชิงโครงสร้างมากกว่าว่าเราสามารถยกระดับความสามารถในการแข่งขันที่ไม่ต้องอิงกับเรื่องค่าเงินได้แค่ไหน(เทคโนโลยี่ ประสิทธิภาพการบริหารจัดการขององค์กรธุรกิจ คุณภาพสินค้า อุตสาหกรรมต่อเนื่อง ฯลฯ) ค่าเงินสุดท้ายคงจบลงที่ศักยภาพโดยรวมของประเทศมากกว่า  เพราะอย่างไรสินค้าที่เราผลิตก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอยู่ เพียงแต่ความเสี่ยงใหม่ที่เกิดขึ้นทำให้ราคาของกิจการเราถูกลง(p/e) โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 10:02 pm

ใกล้ปีใหม่แล้ว พวกเรามาร่วมกันอวยพร ให้กับเว็บไซด์ TVI อยากอวยพรเป็นกลอนแต่ไร้ความสามารถ  จำได้ว่าเวบนี้มีนักกลอนเยอะเหมือนกัน ขอให้ทุกท่านประสพความสำเร็จทุกๆด้านตลอดปีใหม่ด้วย เทอญ โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 8:49 pm

ผม งง กับคำว่า "vi" แล้ว คุณค่าของสิ่งต่างๆเกิดจากการเปรียบเทียบครับ  ที่รู้ว่าสูงเพราะมี่อันที่ต่ำกว่า ที่รู้ว่ายาวเพราะมีอันที่สั้นกว่า ที่รู้ว่ามีค่าเพราะมีคนยอมรับ ถ้าหุ้นไทยไม่มีใครสนใจก็ไม่มีค่า  ยกเว้นซื้อขายกันเอง ตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้ อนาคตยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เพราะต้องอิงกับต่างชาติ ผมคิดได้แค่นี้ โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 7:58 pm

ลดค่าเงิน ผมยังมองว่าเขาเจตนาดี เพียงแต่ไม่รอบคอบ  อย่าลืมนะว่าเศรษฐกิจเรายังพึ่งพาการส่งออกมากกว่าเศรษฐกิจภายใน ค้าขายได้เงินดอลมากขึ้นก็จริงแต่ค่าเงินมันอ่อนลงเรื่อยๆมันก็แค่ทรงกับทรุด เพราะเท่ากับว่าเงินดอลเก่าที่สะสมไว้มันก็ลดค่าไปเรื่อยเท่ากับว่าเหนื่อยเปล่า แถมยังเสื่อมลงกว่าเพื่อนบ้านซะอีก ทีจริงมีวิธีที่ควรทำคือใช้โอกาสที่เงินบาทแข็งสะสมสินค้าทุนเช่นวัตถุดิบราคาแพงหรือเครื่องจักรไฮเทคจากต่างประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต(ไมใช่ความคิดผมร๊อกของอาจารศุภวุฒิ สายเชื้อตะหาก) แต่อย่างว่ามันก็ไม่ได้กับทุกกลุ่ม รัฐควรมาเป็นตัวกลางผ่องถ่ายตรงนี้แต่จะหวังอะไรกับรัฐบาลอาสาจริยธรรมสูงละ ผมนึกถึงคำพูดของท่านชวลิตที่พูดถึงกรณีแต่งตั้งนายทหารเข้าบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ว่าทหารสู้นักธุรกิจเอกชนไม่ได้หรอก แล้วเห็นจริงเลย โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 7:49 pm

เห็นด้วยครับ เสนอให้ท่านอุ๊ย ลาออกครับ ตอนเด็กๆถูกพ่อดุ  ทำได้อย่างเสียอย่าง มึงนั่งอยู่เฉยๆดีกว่า โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 7:20 pm

ผลกระทบจากมาตราการนี้ อยู่ในขอบเขตความรู้ของเราหรือไม่ คนรู้น้อยอย่างผมก็ดูเอาจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น  แต่ต้องมองให้ครบทุกด้านว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 7:15 pm

หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง เห็นใครๆก็บ่นเศรษฐกิจไม่ดี ผมว่าทักกี้เค้าคงมีแผนแล้วว่าวงจรเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร  ก่อหนี้ช่วงแรกแล้วอัดด้วยกระบวนการกระตุ้นแบบต่างๆในลักษณะเสริมศักยภาพ  เศรษฐกิจมันก็น่าจะเดินไปได้ แต่มาสะดุดอย่างนี้ก็มีหวังเละ  เศรษฐกิจมันคงสั่งไม่ได้ในเวลาชั่วข้ามคืน  นีแหละข้อเสียของการเมืองที่ไม่มั่นคงเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 7:04 pm

ลดค่าเงิน น่านดิผมยังสงสัยว่าที่อ่อนลงนี่  มาจากความเชื่อมั่นหรือมาตรการกันแน่ แต่อย่าลืมนะครับท่านผู้ว่าบอกว่านี่เป็นการผ่อนผันสำหรับตลาดทุนเพราะเห็นว่าสามารถจัดการได้(แยก บ/ช เงินเข้าว่าตลาดทุนหรือตลาดเงิน) แสดงว่าความเสี่ยงยังมีอยู่  เหอ ๆ โดย ด๊กดิงด่าง ศุกร์ ธ.ค. 22, 2006 6:55 pm

เห็นด้วยครับ เสนอให้ท่านอุ๊ย ลาออกครับ แผลถลอกที่โหนกแก้ม เททิงเจอร์ใส่โดนลูกตา แทนที่จะชุบสำลีเช็ดเอา อยู่ไปก็เด๋อด๋า โดย ด๊กดิงด่าง พฤหัสฯ. ธ.ค. 21, 2006 9:34 am

อย่าไปห่วงคนเล่นหุ้น วลีของ รมว.คลัง ผมหมายถึงความคิดแบบศักดินา  ที่มองคนอื่นต่ำกว่าตัวเองเลยไม่ต้องใส่ใจอะไรมาก  พอมีอำนาจบารมีเลยแสดงออกแบบนี้  ไม่ได้หมายถึงตัวบุคคล  ตัวบุคคลมาจากไหนก็ได้แต่พอมีอำนาจบารมีแล้วมีความคิดแบบนี้ โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ธ.ค. 20, 2006 1:19 pm

* * * สาเหตุที่ " อ่อมหมุ๋ย " หลับกลำ ยกเลิกมาตรก ถ้าผู้บริหารคิดแค่ขาวกับดำและมองแบบแยกส่วนไม่เป็นองค์รวม ก็คงต้องเจอสภาพที่ทำไป ผิดไป แก้ไปสลับกันไปเรื่อยๆอย่างนี้แหละ ดูอายุ+ประสพการณ์แต่ละคนแล้ว  ไม่น่าพลาดเรื่องอะไรแบบนี้เลย  น่าจะมีปัญหาเรื่องข้อมูลอย่างมาก โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ธ.ค. 20, 2006 12:55 pm

อยากทราบความเห็นครับ ถ้าท่านเป็นผู้ว่าแบงก์ชาติ ท่านจะ ???? เอาวันที่19เย็นไปรวมกับวันที่18เย็น โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ธ.ค. 20, 2006 11:13 am

อย่าไปห่วงคนเล่นหุ้น วลีของ รมว.คลัง โหวตครับ  ยังไงศักดินาก็ยังอยู่  ประเทศเป็นประชาธิปไตยไม่ได้หากเขาไม่อนุญาต  รูสึกขมขื่นใจมาก  อะไรที่ไม่ได้มาจากประชาชนก็หวังยาก โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ธ.ค. 20, 2006 10:55 am

ผมคิดว่าพวกเราน่าจะฟ้อง ธปท.นะครับ น่าห่วง ถ้าคนระดับนี้ขาดความรอบคอบ  ทำงานด้วยความรู้อย่างเดียว(แต่ก็รู้ไม่พอ)ไม่มีจินตนาการด้วยนี่อันตราย โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ธ.ค. 20, 2006 6:59 am

AMC มันดีกว่า TMT ตรงไหน ราคามันวิ่งมากกว่ากันเยอะเลย วาจาท่านซันฯศักสิทธิ์นัก เรียกได้กระทั่งเจ้า อดทนมานาน คุ้มจริงๆ โดย ด๊กดิงด่าง จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 10:25 am

ข้อเสียของ VI คนมีประสพการณ์น้อยอย่างผม ขอเพียงให้รู้ว่ากำไรของกิจการจะเติบโตเมื่อไร จะอิ่มตัวเมือไร และจะตกต่ำเมื่อไร เพราะอะไร ก็พอแล้ว ส่วนเรื่องจะถือยาวต้องหาให้เจอก่อนว่ามีดีกว่าคู่แข่งยังไง ซึ่งรู้สึกว่ายาก เวลายิ่งยาวนานความไม่แน่นอนยิ่งสูง  คู่แข่งใหม่ๆเกิดขึ้นเรื่อยๆ(ก็ในเมื่อทำแล้วรวยคนอื่นก็อยากรวยมั่ง)  ตอนแพนแอมเจ้งยังงงว่าเป็นไปได้ไง  ทัศนคติตอนนั้นอะไรที่ใหญ่ๆนี่มันน่าจะมั่นคง แต่มารู้ทีหลังว่าคนที่ดูว่ารวยบางทีหนี้เยอะแฮะ ต้องดูเนื้อในด้วย จำได้สมัยหัดลงทุนใหม่ๆ ซื้อกองทุนตราสารควบคู่กับกองทุนหุ้น ผมเอา NAV ของตราสารรายวันมาคำนวณหาผลตอบแทนจากราคาทุนทุกวันเลย  เมื่อเริ่มคงที่และต่อมาก็ดรอปลง ผมก็ขายก่อนเศรษฐกิจเจ้งปี40ประมาณสี่ห้าเดือน  เลยรอดมาได้ โดย ด๊กดิงด่าง พุธ ธ.ค. 06, 2006 9:50 pm

๑๑๑...TVIท่านใด ถือหุ้นตัวเดียวเต็มพอร์ตบ้างครับ ...๑๑๑ t=21314 โดย ด๊กดิงด่าง จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 10:38 pm

๑๑๑...TVIท่านใด ถือหุ้นตัวเดียวเต็มพอร์ตบ้างครับ ...๑๑๑ STPIนี่ ฟังท่านโลโซบ้างก็ดีนะครับ โดย ด๊กดิงด่าง จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:25 pm

ค่าระวางเรือในปีหน้า ประเด็นที่ผมมองคือเมื่อเปิดการค้าเสรีมากขึ้นเรื่อยๆ  สินค้าเทกองทั้งหลายอาจแปรเปลี่ยนไปเป็นสินค้าสำเร็จรูปมากขึ้นเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มจากประเทศผู้ผลิตต้นทางมากขึ้น(เพื่อเพิ่มขนาดเศรษฐกิจ)เพราะไม่มีพิกัดภาษีตามลักษณะสินค้ามาเป็นเงื่อนไขตามขั้นของการถูกแปรรูป  ส่วนผสมหรือลักษณะและขนาดของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้  ฯลฯ  ในลักษณะจากผู้ผลิตแปรรูปสำเร็จพร้อมบริโภคแบบ from farm to table  เพราะฉนั้นลักษณะของแพคกิ้งอาจเปลี่ยนไปให้เหมาะสมกับการขนส่งชนิดอื่น เช่นเรือตู้ หรือทางบก เพื่อให้ตอบสนองต่อการกระจายสินค้าให้คล่องตัวที่สุดเพื่อต้นทุนที่ต่ำลง  ตัวอย่างเช่นเราอาจส่งอาหารสัตว์สำเร็จรูปเป็นถุงขนาดพร้อมใช้ที่ปลายทางแทนที่จะเป็นการส่งมันสำปะหลังและส่วนผสมอื่นๆแบบบรรจุถุงกระเช้าขนาดใหญ่แบบเดิม(ผมอาจยกตัวอย่างไม่ตรง แต่คิดว่าเป็นลักษณะแบบนี้) การแปรรูปพร้อมใช้สำหรับผู้บริโภคปลายทาง ย่อมต้องเกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ประเทศต้นทางอย่างแน่นอนไม่ว่าอุตสาหกรรมเกี่ยวกับตัวสินค้าเอง  บรรจุภัณฑ์  และอื่นๆ โดย ด๊กดิงด่าง จันทร์ พ.ย. 27, 2006 5:17 pm

ค่าระวางเรือในปีหน้า ผมเริ่มสงสัย  สินค้าเทกองจะอยู่คู่โลกอีกนานมั๊ย โดย ด๊กดิงด่าง เสาร์ พ.ย. 25, 2006 9:42 am

การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain สาเหตุที่คนลงทุนสั้นหรือเก็งกำไรน่าจะมาจากภาพพจน์ของตัวธุรกิจไม่ใช่หรือ  แทนที่จะจัดการกับคนลงทุนน่าจะไปจัดการกับตัวธุรกิจ ทำยังไงให้ธุรกิจแข็งแกร่งให้ผลตอบแทนมั่นคงระยะยาว จัดการผู้บริหารที่ขี้โกงทั้งหลาย ถ้าความั่นคงใกล้เคียงเงินฝากคนลงทุนสั้นน่าจะน้อยลง หุ้นบางตัวที่ผลการดำเนินงานดีๆก็ไม่ค่อยมีคนเก็งมีแต่คนเก็บ โดย ด๊กดิงด่าง พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 12:35 pm

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม ถอยไปตั้งหลักก่อน  ขายออกให้หมดไปตั้งสติให้ใจสงบข่มความเสียดายเสียใจให้ได้ก่อน  เงินที่เสียไปก็ถือเป็นค่าวิชาวิธีลงทุนที่ผิดพลาดแล้วไปหาวิชาวิธีลงทุนที่ถูกต้อง  ซึ่งใช้เงินน้อยกว่าแน่นอน  หนังสือไม่กี่เล่มและค่าชั่วโมงอินเตอร์เนตไม่กี่บาทต่อวันกับเวบไซต์เกี่ยวกับการลงทุนดีๆเช่นตลาดหลักทรัพย์ ไทยวีไอ กรมส่งเสริมการส่งออก  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  ประวัติผู้บริหาร ฯลฯอีกมากมาย  ที่ผ่านมาเหมือนคุณปาเป้าไม่ถูกมาตลอดเพราะไม่ได้ฝึกวิธีปาที่ถูกต้อง  เสียแรง(เงิน)ไปเยอะ  เป้าที่ถูกต้องเป็นจุดเล็กๆนิดเดียวแต่บริเวณรอบเป้านี่กว้างใหญ่มหาศาล ขืนทำต่อไปเรื่อยๆคงหมดแรง(เงิน)ซักวัน ผมมีเทคนิคเล็กๆน้อยแบบมวยวัดที่ผมเคยฝึกตัวเองมานำเสนอ   1.ประเมินความเปลี่ยนแปลง เริ่มจากตัวเราและคนรอบข้างแล้วค่อยๆกระจายไปสู่วงกว้าง(จุลภาคสู่มหภาค)เช่นเรากินเราใช้อะไรบ้างครอบครัวเราละ  ญาติพี่น้องเราละ  ชุมชนเราละ  เมืองที่เราอยู่ละ  ประเทศเราละ  โลกเราละ  แต่ละอย่างมีโอกาสเติบโตเรื่อยๆมั้ย  มีคนสนใจใช้มากขึ้นมั้ย       -ตัวเราและครอบครัว ปัจจัยสี่ เสื้อผ้าอาหารเครื่องใช้ไม้สอยส่วนตัวต่างๆ       -ชุมชนและเมืองที่เราอยู่ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ  ไฟฟ้าประปาถนนสะพานโทรศัพท์  ห้างสรรสินค้า  สินเชื่อ  ธุรกิจบริการต่างๆ       -ประเทศและโลก  เครือข่ายขนาดใหญ่ทั้งผลิตและบริการ  วัสดุก่อสร้าง  อาหารสำเร็จรูป  ขนส่งลำเลียง  ยานพาหนะ  ฐานข้อมูล  การเงิน  ฯลฯ(หมวดต่างๆในSET)   2.ประเมินธุรกิจ(ตัวหุ้น) สินค้าแต่ละตัวใครผลิตใครขายบ้าง  ใครเป็นเจ้าของเทคโนโลยี่  ใครทำมานานกว่าหรือชำนาญกว่า   กิจการมีการเติบโตมาเรื่อยๆหรือปล่าว  ตอนนี้กิจการอยู่ในช่วงไหนของวงจรธุรกิจ  เริ่มลงทุน  ปรับโครงสร้างภายในให้ดีขึ้น  กำลังเป็นขาขึ้นลูกค้าเริ่มนิยมคู่แข่งยังไม่เกิด  หรืออิ่มตัวแล้ว  ปริมาณขายเต็มกำลังผลิต  มีการลงทุนใหม่ๆเพิ่ม   3.ประเมินผู้บริหาร เทือกเถาเหล่ากอเป็นใครทำมาหากินอะไรมาบ้างความสำเร็จเป็นอย่างไรวิสัยทัศน์เกี่ยวกับธุรกิจยังไง เป็นคนดีมีคุณธรรม  ทะเลาะฟ้องร้องอะไรมาบ้าง   4.สรุปและตัดสินใจ  ดูข้อมูลเชิงปริมาณ เช่นราคาหุ้นเมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้น อัตราเติบโตตามหนังสือที่หลายท่านได้แนะนำไปนำมาเทียบกับการประเมิน 3 ข้อข้างบน  แล้วถือยาวนะ  ต้องอดทนให้ไหว  ไม่ว่าจะซื้อหรือขาย หลายท่านในไทยวีไอเคยบอกว่า ไม่รู้คือเสี่ยง ถ้าไม่ขยันอ่านหาข้อมูลก่อนแต่ขยันคีย์บิด-ออฟเฟอร์ก็เท่ากับขยันเอาเงินไปแจกคนอื่น ชอบชื่อคุณ  คงหมายถึงดวงจันทร์หลายร้อยดวง  ขอให้สำเร็จเหมือนความสว่างจากแสงจันทร์นะครับ โดย ด๊กดิงด่าง พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:26 am

ทัวร์ นรก-สวรรค์ กับ TRC ไม่รู้คุณคนขายของนั่งห้องเดียวกันกับผมหรือปล่าว  หนาวมาหลายเดือนแล้ว บางท่านเตือนว่าอาจต้องเพิ่มทุน  แต่มองที่ตัวธุรกิจที่ต้องอยู่คู่โลกไปอีกนานผมยินดีจ่ายครับ โดย ด๊กดิงด่าง พุธ พ.ย. 22, 2006 7:48 pm