หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
FITCH
Joined: พฤหัสฯ. ก.ค. 31, 2003 8:21 am
194
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - FITCH
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: my port for comment
ท่านลุงขวดช่างคำนวณมากๆครับ ปัจจุบัน port ผมจำนวนหุ้นมากขึ้นกว่าเดิมมาก ตัวหุ้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนักและมีความสุขดีกับ port ที่มี ส่วนมูลค่า port สูงกว่าที่ลุงขวดคำนวณไปอีก 2.3 เท่าครับ หวังว่าเพื่อนๆนักลงทุนคงหาทางเดินของตัวเองให้เจอ และยึดมั่นในแนวทางที่ตัวเองต้องการนะครับ เอาไว้เจอกันใหม่อีกที 3 ปีข้างหน้าครับ :D :D
โดย
FITCH
อังคาร ม.ค. 18, 2011 7:57 am
0
3
my port for comment
เกือบลืมที่นี่ไปแล้ว อืม เวลาสิบปีช่างนานเหลือเกิน :lol: :lol:
โดย
FITCH
อาทิตย์ ก.ค. 04, 2010 12:18 am
0
0
SUC_Dividend Payment Announcement
ขอบคุณครับที่ร่วมแชร์ไอเดียและประสบการณ์ คุณ juntuma :D
โดย
FITCH
ศุกร์ มี.ค. 23, 2007 8:59 pm
0
0
SUC_Dividend Payment Announcement
ผมเพียงแต่อยากบอกว่า การถือหุ้นหนึ่งๆ เราไม่ได้ต้องการแค่ปันผลเท่านั้นครับ เราต้องการให้เค้าไปขยายกิจการตามที่เค้าเห็นสมควรด้วย ใน idea ของผมน่ะครับ ถ้าเราไม่ชอบนโยบายที่กรรมการบริษัทนั้นๆให้มา เราก็ไม่ควรซื้อหุ้นเขาครับ ด้วยความเคารพ :) ผมว่าการที่ราคาหุ้นหนึ่่งๆวิ่งไป เนื่องด้วยเหตุผลใดก็ตามที่เป็นการคาดหวัง แต่การณ์ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆิแล้วจะทำให้ราคาไม่ สามารถ sustain อยู่ได้ครับ ส่วนตัวแล้วผมมองหาการลงทุนที่(เกือบจะ)ืสามารถคาดการณ์ผลตอบแทนได้มากกว่าคาดหวังครับ ที่เขียนมานี่ เป็นเพียงความเห็นของคนหนึ่งคนเท่านั้นครับ้ เพื่อ share idea ในที่นี่ครับ:)
โดย
FITCH
ศุกร์ มี.ค. 23, 2007 3:31 pm
0
0
SUC_Dividend Payment Announcement
อย่าลืมว่า ราคาของหุ้นที่ซื้อขายกันใน SET ตัวบริษัทไม่ได้เป็นคนกำหนดนะครับ ตลาดเมืองไทยยัง มีคนที่ไม่เข้าใจกลไกอีกมากจริงๆ :shock:
โดย
FITCH
ศุกร์ มี.ค. 23, 2007 12:20 pm
0
0
SUC_Dividend Payment Announcement
ทำไมถึงคาดหวังปันผลเพิ่มขึ้นกันล่ะครับ :o
โดย
FITCH
ศุกร์ มี.ค. 23, 2007 11:23 am
0
0
ย้อนรอย STPI Sep 2003 - Nov 2004
You are the man k.Eto :D
โดย
FITCH
ศุกร์ มี.ค. 09, 2007 8:46 am
0
0
ขอถามนิดนึงนะ ว่าทำไมบางคนถือหุ้นได้ยาวมาก ทั้งๆที่ราคา
Welcome back ครับพี่เจ๋ง เห็นความพยายามของพี่แล้วน่านับถือจริงๆ ที่จะทำให้ เวปนี้เป็นเวปด้านการลงทุนที่ดี งั้นผมขอแจมหน่อยนึงตรงนี้รึกัน ผมมองว่า ปัจจัยด้าน ราคาต้นทุน แต่ละช่วงเวลา ของแต่ละคนทำให้ระยะเวลาการถือหุ้นของคนนั้นไม่เท่ากัน ซึ่งปัจจัยตัวนี้เองเป็นตัวกำหนด ให้เกิดอาการขึ้นๆลงๆเป็น after effect ของการ เทรดหุ้น พูดแล้วก็งง เอาเป็นว่าพูดง่ายๆก็คือ สมมุติว่าถ้าผมซื้อหุ้น A มาในราคา 1 บาท เมื่อวานนี้แล้ววันนี้มันขึ้นมา 20% time value มันแทบไม่มีความหมาย ผมจึงสามารถตัดสินใจขายออกไปได้ในเวลาอันรวดเร็วมากๆ แทบไม่ได้คิดเลย (ไม่ว่าหุ้นนั้นจะมีมูลค่า intrinsic มากเท่าใด ) กลับกัน ถ้าผมถือหุ้นนั้นมา 1 ปี แล้วขึ้นมา 20% ผมอาจจะเฉยๆ เพราะคิดว่า หนึ่งปีแค่ 20% เอง แถมมีเวลาไตร่ตรอง intrinsic value ของ หลักทรัพย์นั้นๆ ให้ถ่องแท้อีกด้วย ยิ่งถ้าผมถือมา 2 ปี 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ยิ่งไปกันใหญ่ นอกไปจากนั้น ถ้าผมมั่นใจว่า บริษัทต้องดีแน่ๆ จาก whatever assumption..ที่ได้มา ผมยิ่งต้องรอให้โครงการ business plan ต่างๆที่บริษัทตั้งต้นมาตั้งกะทีแรกที่ผมคิดจะซื้อหุ้นแรกของบริษัทนั้นๆ ให้ดำเนินการได้ สร้างรายได้ได้นั้นมันเสร็จลง ซึ่งปกติโครงการต่างๆที่ว่ามันจะกินเวลานานเกิน 1 ปี หรือบางที 2-3 ปี พอได้ยังงี้แล้วก็หันกลับไปดูเรื่อง time value อีกทีนึงครับ มันเลยนานไปเอง.. :lol:
โดย
FITCH
จันทร์ พ.ค. 29, 2006 11:21 am
0
0
SUC Strike Back
ขอออกตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวนี้ผม ไม่อยากบอกว่าผมถือหุ้นอะไร ไม่ใช่เพราะ หวงหรือว่าอะไร แต่กลัวทุกท่านเข้าใจผิด ด้วยเหตุผลที่เคยผ่านมา เวลาสามปี ยังไม่ได้พิสูจน์ อะไรทั้งสิ้นกับวงการนี้... อีกอย่างที่ ผมรู้สึกว่าบางทีพวกเราได้ overanalized ทุกๆแง่ของหุ้น จนไม่ได้ใช้ instinct ในการเลือก เพราะ จะกลัวโน่นกลัวนี่ไปหมด ผมเองก็เป็น ไม่ใช่ไม่เป็น ไอ้อาการา overanalized เกิดแล้วในที่สุดก็จะเอาไปเปรียบเทียบกับหุ้นอีกตัวที่จะถูก overanalized เหมือนกัน แล้วก็กลัวๆกล้าๆ ไม่ได้ซื้อเยอะ หรือ รอดูไปก่อน ให้อาการที่เราสงสัยมันฟ้องออกมาก่อนทาง บัญชี ให้ตัวเลข clear กว่านี้ก่อนเพื่อจะได้เป็นการตอบคำถามตัวเอง ว่าเราคิดถูกหรือไม่ ปริมาณที่ซื้อไปลองของอาจจะแค่ 2-3 หมื่น หรืออย่างมากก็แสนหุ้น ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิด financial freedom ได้ ผมเลยคิดว่าเดินสายกลาง น่าจะดีที่สุด ใช้ feeling เข้าช่วยมั่ง ใช้การ estimate มั่ง ให้ใกล้เคียงที่สุด ผมอาจโชคดีก็ได้ที่มีโอกาสในการลงทุนที่ดี มีการงานประจำที่รักที่ได้ผลตอบแทนที่ดี ผมเลยเหมือนมีเวลา ที่จะรอได้ ดังนั้น ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน(ย้ำหลายที) ขอให้สมาชิกทุกท่านโชคดี มีความสุขกับการลงทุนที่ท่านเลือกเอง แล้วเจอกันเมื่อชาติต้องการครับ :D
โดย
FITCH
ศุกร์ พ.ค. 19, 2006 6:11 pm
0
0
SUC Strike Back
ระบบบัญชีปัจจุบัน บริษัทจะรับรู้กำไรจากบริษัทร่วม (ถือหุ้นมากกว่า 20% แต่ไม่เกิน 50%) โดยวิธีส่วนได้ส่วนเสียครับ ไม่ใช่รับรู้จากเงินปันผล จริงของคุณ fantasia กำไรของบริษัทร่วม รับรู้ Equity method ซึ่งไม่ได้เม็ดเงินมาจริงๆ ต้องดูงบกระแสเงินสดประกอบกันด้วยครับ ในเวปนี้มีผู้รู้แทบทุกด้านเลยจริง thank you ถามในนี้เอาก็ได้ง่ายดี ดีกว่า ลงทุนไปซื้อหนังสือ consolidated statement ของธรรมนิติ มาอ่านเอง โอ้ย กว่าจะเข้าใจ ตายพอดี :oops:
โดย
FITCH
ศุกร์ พ.ค. 19, 2006 11:38 am
0
0
SUC Strike Back
[quote="ลูกอิสาน"]เรื่องราวคุณ FITCH เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนเลยครับ อย่างน้อยก็ผมคนนึง
โดย
FITCH
ศุกร์ พ.ค. 19, 2006 11:12 am
0
0
SUC Strike Back
ใช่ครับ :D
โดย
FITCH
ศุกร์ พ.ค. 19, 2006 10:32 am
0
0
SUC Strike Back
คุณ FICHT ช่วยประมาณการกำไร ของ SUC หน่อยดิ 1. โรงงานไฟฟ้าในจีน ต่อปี กำไรประมาณเท่าไร และถ้า ที่ราชบุรีเดินเครือง จะทำผลตอบแทนให้ SUC เท่าไร 2. โรงเรียนนานาชาตินี่ ตอนนี้มีที่ปักกิ่ง เซี้ยงไฮ้ และกำลังจะไปเปิดอีกที่ ถ้าเปิดครบหมด จะทำผลตอบแทน ในแง่กำไรได้ต่อปีประมาณเท่าไร 3. ถ้าโรงงานสิ่งทอหรืออื่นๆ ที่อยู่ในไทย แล้วคิดว่าย้ายไปจีนจะดีกว่า คิดว่า โรงงานทั้งหมดเหล่านี้ น่าจะได้กำไรประมาณเท่าไร อันนี้เดาๆก็พอ เออ และที่อยากรู้มากเลย คือ 1. เงินที่ไปลงทุนที่จีนเอามาจากไหน ทำไมไม่ต้องเพิ่มทุน 2. กลุ่มบริษัท รู้สึกมีสองแบบ คือบริษัทร่วม กับกับบริษัทย่อย ต่างกันอย่างไร ขอบคุณครับ โห พี่คำถามโหดๆ ทั้งนั้นเลย คำตอบ เอาเป็นว่าไม่ทราบ ได้แต่ให้ตัวเลข analogy ไปคิดต่อเอาเองก็รึกันครับ ตอบคำถามที่พี่อยากรู้ก็รึกัน 1. เงินลงทุนของ SUC ส่วนใหญ่ได้จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ปกติกำไรปีละ 900-1000 MB ก็ประมาณ 3-4 บาทต่อหุ้น มาเป็นเวลานานมาก แต่ว่าจ่าย dividend 1.25 ก็เลยเหลือตังค์เยอะ ไปลงทุนไงครับ ดูกำไรสะสมเพิ่ม (ความรู้ accounting กะ corporate finance ผมแค่งูๆปลาๆ) ผมคิดว่า management SUC คงเห็นว่าบริษัทเก็บเงินไว้กับตัว แล้วไปลงทุนเพิ่ม คงได้อะไรงอกเงยมากกว่าที่จะให้ ผทห. ไปลงทุนเองมังครับ ก็ดี เพราะบริษัทของผมเอง ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน สมมุติว่ากำไรปีละ 7 บาทต่อหุ้น ผมก็จ่ายแค่ 1 บาท 1.25 บาท ที่เหลือก็เก็บไว้ทำทุนขยายงาน อีก 6 บาท ซึ่ง VI ยังไงก็ไม่ขายหุ้นไม่ใช่เหรอครับ จะเก็บไว้ให้ลูกหลานเหลนโหลน 3-5 ปีนี่เรื่องหมูๆ อย่าไปหวังผลใน 5 ปีก็รึกัน อันนี้ผมรอได้ ดังนั้นเงินบริษัท ก็เหมือนเงินเรานั่นเอง อีกอย่าง ให้ผมไปเปิดโรงไฟฟ้า ในเมืองจีน หรือว่า เอาแค่เปิด รร นานาชาติสักอันในเมืองไทย ก็ไม่ไหวหรอก มันแพง จัด ขอเป็นแค่หุ้นส่วน หนึ่งในร้อยก็ยังดี เค้าเปิดร้อยแห่ง ผมก็เป็นเจ้าของ แห่งนึงนะผมคิด :lol: 2. บริษัทย่อย คือ SUC hold > 50% บริษัทร่วม SUC hold 25% < SUC < 50% ส่วนคำถามกลุ่มแรก นั้นผมให้ช่วยกันคิด 1. การลงทุนโรงไฟฟ้านั้น มี contract แน่นอน ซึ่งได้ analogy idea มาจาก EGCOMP (another core hoding ของผม)เพราะคงจะมีสัญญาระยะยาวถึงยาวมากๆ และคิดกำไร cost plus แปลว่า IRR ต้อง 15%-20% เป็นอย่างน้อย ดังนั้นเปิด โรงไฟฟ้าโรงนึงต้องมี ผลประโยชน์ที่แน่นอน(ระยะยาว) ไม่ว่าที่ไหนในโลก ยกเว้น โรงไฟฟ้าเอื้ออาทร 2. รร นานาชาติ ก็เป็นธุรกิจที่ดีอันนึง อย่างน้อยก็ในระยะ 5 ปีข้างหน้า อีกอย่าง Dulwich เป็น รร ที่มีชื่อเสียงแรงจากอังกฤษ มี premium โดย "ระยะเวลาของ reputation" เอาเป็นว่าถ้าจะมี รร อื่นมาเปิดข้างๆ Dulwich ก็ไม่แพ้ก็รึกัน ส่วนอัตราค่าเรียนนั้น ใครอยากรู้ต้องไปถาม คุณ ศรีวารินทร์ เอาเอง ท่านพูดในการประชุมหลายทีแล้ว...รู้แล้วก็เอาไปวิแคะ ต่อ ได้เองครับ 3. ส่วน ธุรกิจสิ่งทอ เป็น mother of all ของ SUC แต่ไม่ได้เป็นทั้งหมด ดังนั้น การที่ management พยายามดิ้นรนหาทางออกใน sector นี้อย่างที่ท่านทำก็เป็นสิ่งที่ดีมากแล้ว เพราะใครเคยไป เสิ่นเจิ้น หรือเซี่ยงไฮ้คงพอรู้ว่า ราชาเงินสดของจีนตอนนี้ ที่ถอย ferrari กันเป็นว่าเล่น นั้น ทำธุรกิจ อะไร ดังนั้น SUC จะจับปลาก็คงตจ้องไปหาแม่น้ำตรงที่มันมีปลาเยอะๆ ใช่ไหมครับ มาจับอยู่ที่ๆมันไม่มีปลา ต่อให้เป็นแชมป์โลกตกปลา ก็คงตกได้น้อย กว่า มือสมัครเล่นที่ไปแหว่งแห อยู่ในแม่น้ำที่มีปลาเต็มไปหมดเป็นแน่ อีกอย่างดิ คือไม่รู้เป็นอะไร ผมชอบ โหงวเฮ้งคุณ ดำริ กับภรรยาท่าน คุณ จงรักษ์ มากจริงๆ เลย เรียกว่าเห็นก็ชอบ ท่านเป็นผู้อาวุโสที่ น่ายิ้มแย้มมากๆ คิด(เอาเอง)ว่าตูเป็นหุ้นส่วนกับท่าน ยังไงท่านก็ดูแลเราไม่โกงแน่ อันนี้เป็น subjective จริงๆ ทุกอย่างที่เขียนเป็นความเห็นผมเองทั้งสิ้น ไม่ได้ให้ใครเชื่อ แต่ควรไปตรวจสอบเอาเอง ดีที่สุด อย่าเชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกค้าบ :D
โดย
FITCH
ศุกร์ พ.ค. 19, 2006 8:59 am
0
0
SUC Strike Back
เพื่อนสมาชิกอย่ายกกันเกินไปเลยครับ ผมบอกได้อย่างเดียวว่า การที่จะเป็น VI ที่ดี จิตใจต้องหนักแน่นมากๆ อย่าไปฟังใคร อย่าไปฟังข่าวลือ ถ้าคิดว่าข้อมูลที่เรามีนั้นแน่นพอ ทำตามที่ใจคิดให้สุดไปเลย ถ้าข้อมูลยังไม่แน่น ก็หาให้มันแน่น เอาจนกว่าจะมั้นใจ อย่าไปเชื่อใคร หาเองดีทีสุดเจ้าข้อมูลดิบๆเนี่ย เพราะเราจะมั่นใจยิ่งกว่าไปฟังใครเค้ามา การ concentrated & diversified port นั้นสำคัญ บางที เราคงต้องมี หุ้นบางตัวหรือบางกลุ่มที่สามารถ offset กันเองได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จำนวนหุ้นต้องมากพอที่จะทำให้เกิด effect กับ port ไม่ควรกระจายไปเยอะเกินไป จนเหลือหุ้นนิดเดียว พอได้ jackpot ปรากฏว่ามี 500 หุ้นมั่ง 1000 หุ้นมั่ง มันก็ไม่มีประโยชน์ ทุกอาทิตย์ได้นั่งอ่าน ดร นิเวศน์ ใน กรุงเทพธุรกิจ ก็มีกำลังใจถือหุ้นต่อครับ จริงๆแล้ว ใครที่ถือ ptt ไว้ตอน ipo เมื่อ 3 ปีก่อนก็เป็นหุ้น 8 เด้ง ไม่น่ายากแล้วนาครับ เพียงแต่จะมีใคร"ทน" ได้ก็เท่านั้น TICON ควรจะเป็นหุ้น 3 เด้งของผมถ้าไม่ขายไปซะก่อน กำไรแค่ 20% ก็เพราะทนไม่ไหว ไม่หนักแน่นพอ ทั้งที่ปริมาณมากทีเดียวที่จะเกิด effect กับ port SAFE ซื้อมา 15 บาท โดน T/O ที่ 77 บาทเมื่อสองเดือนก่อนมีแค่ 9000 หุ้นก็ไม่มีประโยชน์เท่าใด ที่ผมพูดมาทั้งหมด เพราะอยากให้ทุกคนหนักแน่น ในเวบบอร์ด ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ว่าการ bias มันสูง น้องใหม่บางคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง อาจโดนชักจูงไปผิดได้ แม้กระทั่งหุ้นตัวเดียวกัน สำหรับแต่ละคนในเวลาต่างๆกัน feeling ยังไม่เหมือนกันเลย เพราะ ต้นทุนมันต่างกัน ทั้งต้นทุนทางด้านราคา และต้นทุนด้านเวลา ทุนด้านเวลาเป็น สิ่งที่ทำให้ทุกคนแตกต่างกันอย่างมาก ผมได้แต่ออกความเห็นเล็กๆที่ต่ำต้อยไว้ที่นี้รึกันครับ :)
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. พ.ค. 18, 2006 10:27 pm
0
0
SUC Strike Back
แล้ว SUC นี่คุณ FITCH ว่าจะกี่เด้งครับ อิอิ ถือทนจิงๆ VI ตัวจิง นายตลาดเท่านั้นที่จะบอกได้ครับพี่ ผมคงไม่อาจ :D
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. พ.ค. 18, 2006 2:24 pm
0
0
SUC Strike Back
BGH นี่เป็นหุ้น 16 เด้งของผม ไม่นับปันผล MFG โดน T/O ไปแล้วที่ 110 บาท RCL ขายไปหมดแล้ว เป็นหุ้น 5 เด้ง SUC ก็อยู่ครบๆครับ ทุกปียังไปประชุม เดี๋ยวนี้ Share holder เยอะจนล้นห้องออกมาแล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่ผู้อาวุโสก็เยอะ อบอุ่นดีครับ ปีที่ผ่านมามีคุณลุงอายุ 80 ได้มามอบดอกไม้ให้ท่านประธาน อำนวย ด้วยอ่ะ น่ารักมากๆ พิมพ์ไปเขินไป :oops: สามปีที่ผ่านมา มีอะไรเกิดขึ้นเยอะเหลือเกิน :D
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. พ.ค. 18, 2006 2:08 pm
0
0
SUC Strike Back
คุณ ลูกอิสาน นี่มีความจำ เยี่ยมจริงๆ นะครับ :lol:
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. พ.ค. 18, 2006 12:36 pm
0
0
SUC Strike Back
:lol: คุณ FITCH กลับมาแล้ว :lol:
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. พ.ค. 18, 2006 9:13 am
0
0
SUC Strike Back
มาแอบอ่านครับ :D
โดย
FITCH
พุธ พ.ค. 17, 2006 11:13 pm
0
0
แจ็ค มาสอน valuation หน่อย
เห็นภาพเลยครับ thank you :lol:
โดย
FITCH
พุธ ก.ย. 21, 2005 5:10 pm
0
0
อยากถามวิธีคิด DFC โดยใช้ WACC หน่อยครับ
หนังสือ coporate Finance ทั่วไปครับ มีเยอะ หลักการเดียวกับการคิด NPV นั่นแหละครับ แต่การที่จะ project cash flow นานๆล่วงหน้ามันยากมาก ดังนั้นไม่ควรใช้เกิน 10-15 ปีครับ ปกติการใช้หลัก DCF ในการ valuation ของ stock นั้น การกำหนด discount rate เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เนื่องจาก corporate Value จะสามารถต่างกันได้มหาศาล เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงค่า discount return (WACC) จากสูตรท่าน สุมาอี้ นั้นถูกต้องแล้ว จะขยายความต่อว่า cost of capital นั้นก็มีวิธีการหามาอีกต่อหนึ่ง ซึ่งสรุปได้ดังนี้ 1. Dividend growth model = เงินปันผลสูงขึ้นเป็นอัตราส่วนที่แน่นอน เอาเงินปันผลล่าสุดมาคูณ % สูงขึ้นทุกๆปี ไปเรื่อยๆ 2. Capital Asset Pricing Model = เกิดจากการประมาณค่าความเสี่ยงของธุรกิจ และ risk free investment ( T-bill) สูตรคือ Re = Rf + Be ( Rm-Rf) Rf = risk free rate Be = Beta เทียบกับหุ้นตัวอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน Rm-Rf = Market risk premium ส่วนที่สองคือ cost of debt มันง่ายครับ ก็ weight จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รึกัน อธิบายมากกว่านี้เดี๋ยวจะเป็น course Coporate Finance ไปซะครับ :P
โดย
FITCH
อังคาร ก.ย. 20, 2005 6:44 pm
0
0
ทำไมเจ้าของ MATI ถึงไม่ถือหุ้นให้เกิน 50% ตั้งแต่แรกครับ
เป็นกระทู้ที่ดีมากๆครับ :lol:
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2005 9:16 pm
0
0
ทำไมเจ้าของ MATI ถึงไม่ถือหุ้นให้เกิน 50% ตั้งแต่แรกครับ
ใครไม่มีบริษัทในตลาดไม่รู้หรอกครับ เจ้าของบริษัทไม่สามารถมานั่งดูแลหุ้นตัวเองได้ตลอดเวลาหรอกครับ เค้าก็ต้องบริหาร บริษัทจนกว่านักลงทุนจะเห็นคุณค่าของบริษัท ราคาหุ้นก็จะขึ้นมาเอง แบบนี้ราคาก็ขึ้นมาแล้วนี่ครับ อากู๋ จะเทคทำไมถ้าไม่เห็นศักยภาพของบริษัท มติชน ที่คุณขรรค์ชัยทำมากับมือ ผมว่าเรื่องนี้เป็นที่ศักดิ์ศรีมากกว่าอะไร ถ้าคุณขรรค์ชัย ไม่เป็นคนดี(จริงๆ) ผมไม่กล้าออกมาพูดหรอกครับ รู้จักท่านมานานนม กว่า 12 ปี Classic case มากๆ กรณีแบบนี้ เงินทองไม่เข้าใครออกใคร ใครมีบริษัทในตลาดแล้วจะรู้เอง ความเจ็บปวดหลายอย่าง ถ้าทุกคนดูแลหุ้นตัวเองหมดทุกหุ้น วันนี้คงไม่มีคำว่า VI หรือ เวบ TVI ด้วยความเคารพ :D
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2005 5:26 pm
0
0
ขอถามทุกท่านว่ามีวิธีการหา Instricsic Value อย่างไรกันบ้าง?
เอ้า ถ้าอยากได้ผมลอกมาให้แบบนี้รึกัน ลอกจาก owner's manual ของ BERKSHIRE INTRINSIC VALUE Intrinsic Value is an all-important concept that offers the only logical approach to evaulating attractiveness of investments and businesses. Intrinsic value can be defined simply: It is the discounted value of the cash that can be taken out of a business during its remaining life. The calculation of intrinsic value is not simple. As our definition suggestes, intrinsic value is an estimate rather than a precise figure, and it is additionally an estimate that must be changed if interest rates move or forecasts of future cash flows are revised. Two people looking at the same set of facts, ( แม้แต่ พี่ warren กับพี่ charles partners แก ) will almost inevitably come up with at least slightly different intrinsic value figures. That is one reason we never give you our estimates of intrinsic value. What our annual reports os supply, though, are the facts that we ourselves use to calculate this value.... The disparity can go in either direction. For Example in 1964 we could state with certitude that BERKSHIRE's per share book value was$19.46. However, that figure considerably overstated the company's intrinsic value, since all of the company's resource were tied up in a sub-profitable textile business. Our textile assets had neither going-concern nor liquidation values equal to their carrying values. Today, however, BERKSHIRE's situation is reversed: Now our book value far understates BERKSHIRE's intrinsic value, a point true because many of the business we control are worth much more than their carrying value.... ผมเมื่อยแล้วล่ะ หวังว่าคงได้อะไรจาก บทความโดย warren ข้างต้นนะครับ :lol:
โดย
FITCH
พุธ ก.ค. 14, 2004 6:22 pm
0
1
ขอถามทุกท่านว่ามีวิธีการหา Instricsic Value อย่างไรกันบ้าง?
สรุปว่าไม่มีหรอกครับวิธีตายตัวที่จะหา intrinsic value เพราะไม่มีใครสามารถทายอนาคตตัวเองได้นั่นเอง เพียงแต่นึก ทฤษฎีต่างๆนานามาประยุกต์ให้เข้ากับ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วทั้งนั้น เพียงแต่ว่า ใครจะสามารถประเมินสถานการณ์ และเหตุการณ์ที่สามารถก่อให้เกิดความต่อเนื่องยาวนานๆ ได้ สำหรับบริษัทหนึ่งๆก็คือเรื่อง competitive advantage ที่ยั่งยืนนั่นเอง ( ซึ่งก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก นั่นแหละ) "ความสามารถในเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน" นี้เองเป็น assumption ทั้งหมดของ mathematical model ที่จะตามมา เพียงเพราะว่าการใช้ assumption แบบนี้ เป็นอะไรที่น่าจะใกล้เคียงกับความจริงที่สุดในการที่จะทำนายอนาคต ระยะยาวๆได้เป็น 20 ปี แต่พอเกิดเหตุการณ์ บางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ไม่ใช่ว่า สูตรตายตัวที่แม้จะใช้มาเป็นสิบๆปีจะใช้ได้อีกต่อไป เพียงเพราะว่า assumption ที่เคยใช้มาในอดีตนั้นมันไม่เป็นความจริงอีกต่อไป..... ยกตัวอย่าง การขายทิ้งหุ้น General Re ของ พี่ Warren Buffet เนื่องจากเหตุการณ์ 9/11 ที่ WTC NY ทั้งๆที่แกรักบริษัทนี้มากมาก่อน :lol: :lol: 8)
โดย
FITCH
พุธ ก.ค. 14, 2004 11:52 am
0
2
พี่ๆช่วยวิเคราะห์การเข้าซื้อหุ้น RAM ของ BGH หน่อยครับ
คงต้องออกข่าวแหละครับ เพื่อภาพที่ดี การที่ BGH ซื้อหุ้นจากกรรมการของบริษัทเอง หากซื้อแพงก็จะแลดูไม่ธรรมมาภิบาล และผมว่าต้นทุนของกรรมการทั้ง 2 ก็ไม่น่าแพง (ไม่เกิน 100) ส่วนว่าหากจะออกข่าวว่าซื้อเฉพาะแต่ของกรรมการ 2 ท่านก็จะแลไม่ดี ก็เลยต้องออกข่าวจะซื้อซัก RAM 20 % เพื่อเปิดโอกาศกับคนอื่น ไม่ถูกมองว่าเอาแต่เฉพาะกรรมการ เอาเข้าจริงๆ ก็ได้เท่าที่ว่านั่นแหละ แต่อย่างไรเสีย BGH และ RAM ก็ดูจะเป็นพันธมิตรกันหละ และธุรกิจ รพ กำลังไปได้สวยครับ แม่นยังกับตาเห็นครับผม คุณ ramm เยี่ยมมากๆ ไม่ได้เข้า เวปนี้มานานมากกก ขอชมจริงๆ :lol:
โดย
FITCH
อังคาร มิ.ย. 29, 2004 10:02 pm
0
0
ทำไมไม่มีใครสน tttm เลยคะกำไรสะสม เกินราคาหุ้นอีก bv ก็สูง
ความเห็นพี่ ลูกอิสาน นี่เยี่ยมมากๆครับ นับถือจริงๆ ด้วยเหตุผลเดียวกันทำให้ผมมีตัวนี้แค่ 400 หุ้น เช็คปันผลมาที 500 กว่าบาท :cry:
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2004 10:59 am
0
0
หุ้นลง ร้อยกว่า จุด แต่บริษัทเหล่านี้ ราคาม่ายลง
มีของผมตั้ง 3 ตัวแนะ SAFE SMK กะ BGH :P
โดย
FITCH
อังคาร พ.ค. 18, 2004 7:39 am
0
0
หุ้นตัวที่บวกมากที่สุดในพอร์ท ของคุณ คือ ตัวไหน
SUC ครับซื้อเมื่อปี 2000 คงไม่ได้ขายแล้วมั๊ง ชอบจัง never have to be sold....จับใจมากๆ รับปันผลมา 4 ครั้งซื้อเพิ่มทุกทีเลย :lol: ราคาเค้าก็ค่อยๆขยับๆไปเรื่อยๆของเค้านะ ช่วงนี้ฤดูแล้งราคาหุ้นไม่ค่อยไปไหนหาโอกาสเก็บได้เรื่อยๆแฮะ :oops: แต่ถ้าบวกมากที่สุดคงเป็น BGH มั๊งซื้อเมื่อปี 2002 ราคา 24 บาทได้ปันผล 2 บาททีนึงแล้วก็ 4 บาทอีกทีนึง :lol:
โดย
FITCH
จันทร์ เม.ย. 26, 2004 6:34 pm
0
0
ข่าวล่าสุด EGCOMP
ข่าวนี้ confirm เลยจากหนังสือพิมพ์กระแสหุ้น ภาษีคิดเป็นมูลหนี้ 13,000 ล้าน ไม่ยุ่งด้วยดีก่าอ่ะ :cry:
โดย
FITCH
จันทร์ เม.ย. 26, 2004 6:07 pm
0
0
ข่าวล่าสุด EGCOMP
คุณ จ๊าบ มั่วมากขอรับ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ท่านสมหมายภาษี พูดคนละเรื่องกับที่คุณว่ามาเลยเนี่ย :cry: อย่าเอาข่าวมั่ว ข่าวปล่อยมาเล่าแถวนี้นาครับ :evil:
โดย
FITCH
จันทร์ เม.ย. 26, 2004 4:43 pm
0
0
พวกคุณจะรอผลตอบแทนทบต้น 300 เท่าภายใน 30 ปีได้มั้ย ถ้า...
เยี่ยมครับ ... ผมเชิญท่าน CK เป็นหัวหน้า ครม. ในสมัยหน้าเลย (คนรักเมีย) เอาไป 3 ก๊าก :lol: :lol: :lol:
โดย
FITCH
ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 5:07 pm
0
0
Re: พวกคุณจะรอผลตอบแทนทบต้น 300 เท่าภายใน 30 ปีได้มั้ย ถ้า..
ถ้าคุณสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าคุณจะได้มันแน่ ๆ แต่ข้อแม้ก็คือ คุณต้องใช้เงินเก็บเต็มจำนวนที่คุณมีอยู่ทั้งชีวิตในการลงทุน ทั้ง ๆ ที่เงินก้อนที่ว่านี้คุณจะใช้มันสำหรับ... - สู่ขอแฟนเป็นภรรยา - สร้างเรือนหอรอรัก - เตรียมสำหรับการมีลูกคนแรก - ซื้อรถยนต์ที่อยากจะได้มานาน - พาครอบครัวไปท่องเที่ยว - ให้เพื่อนยืม เพราะเพื่อนจะไม่รอดอยู่แล้ว - ตั้งบริษัทกับหุ้นส่วน ฯลฯ ^-^ ^o^ จะรอกันได้มั้ยครับ? ทั้งหมดที่คุณ โลมฯ ว่ามาผมได้ทำไปหมดแล้ว ขาดแต่ให้เพื่อนยืมนี่แหละคิดซะว่าถ้าอยากเลิกเป็นเพื่อนกันก็ให้เพื่อนยืมซะ คงได้เลิกเป็นเพื่อนสมใจ คิดว่าการลงทุนคงไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเราหรอกมั๊ง ยังไงซะ ต้องหาความสุข สนุกสนานกันมั่ง ล้านเท่าก็ไม่เอา อย่างที่ คุณ CK ว่าก็ถูกอีกแหละ :lol:
โดย
FITCH
ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 4:11 pm
0
0
[SAFE] ....เก้าอี้กรรมการสำหรับรายย่อยใน บมจ.ประกันคุ้มภัย
ว้าว คุณ นิติ นี่ไล่ซื้อจนเป็น major shareholder เลยเหรอเนี่ยที่ 17% สุดยอดครับสุดยอด :lol:
โดย
FITCH
ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 7:59 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
ผมก็ไม่เสียแรงที่ลงทุนไป 60% ของพอร์ตเลยนะสิ ฮิฮิ :lol: ตอนนี้นั่งรอ ให้มันขึ้นไปอย่างเดียว ของถูกๆนานๆจะเก็บเข้าพอร์ตได้ซะที :twisted: คุณมือใหม่ ก็เป็นขาใหญ่เจ้า บฟผ สิเนี่ย 8) ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนครับ :lol:
โดย
FITCH
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 11:07 pm
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
เจ๋งมากคุณ chachacha มิเสียแรงที่ลงทุนอ่าน มิเสียแรงจริงๆ ที่ลงทุนพิมพ์
โดย
FITCH
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 10:04 pm
0
0
สมบัติ ผลัดกันชม แต่ก่อน เคยรู้ว่า โรงแรม OHTL เป็นของ
กลุ่ม Italthai เป็น silence partner มาตลอดครับ คือถือหุ้นโดยได้รายได้ จากเงินปันผลอย่างเดียว การบริหารงานจะมาจากสาย MOIL โดยตรง แม้แต่ในช่วงวิกฤต กลุ่มกรรณสูตก็ไม่ได้ขายหุ้น OHTL ออกมา ผมไม่ ทราบเหมือนกันว่าหลังๆ มีการเปลี่ยนมือหรือไม่ เท่าที่เคยได้ยิน คุณพงษ์ สาระสินและดร.สุขม นวพันธุ์เป็นผู้จัดการให้ดร. ชัยยุทธ์ กรรณสูตเข้ามาซื้อหุ้นจาก OTHL เมื่อหลายสิบปีก่อน โดยไม่ได้ ค่าคอมฯ 5% ด้วยซ้ำ คุณ อดิศร สามีคุณ นิจพรเป็นลูกเขย คุณหมอชัยยุทธ มีส่วนกำหนดทิศทางของโรงแรมร่วมกับคุณ kurt ด้วยนะครับ พอดีแกเสียจากเครื่องบินตกปีที่แล้ว ปีนี้ คุณ Kurt เลยครองอำนาจผู้เดียวไปเพียวๆเลย อิอิ :)
โดย
FITCH
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 8:13 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
ดังนั้นถ้า say ว่า egcomp ไม่ทำอะไรเลย นั่งเฉยๆ กับทั้ง ขนอมและ ระยอง ( ซึ่งปัจจุบันก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น!!! ) ถึงแม้รายได้จะลดลง แต่กำไรไม่น่าจะลดลงนาครับ 8) ที่สารธยายมาเนี่ยไม่ได้ต้องการให้เห็นคล้อยตามนะ เพราะเป็นเพียงความเห็นของผมส่วนตัวล้วนๆ อีกอย่างเราต้องเอาตัวแปรอื่นๆ ของ egcomp เข้ามาคิดอีกด้วยดังนั้น ผลลัพธ์มันจึงไม่น่าที่จะสรุปออกมาได้เรื่องจุดสูงสุดของ hyperbola = now!!! หรือไม่....แบบสั้นๆ อีกอย่าง ถ้า egcomp มีเงินสดเหลือในมือมากๆ อย่างที่เป็นในปัจจุบัน โครงการที่ใหม่ๆ อย่างน้ำเทิน หรือโครงการอื่นๆใน ต่างประเทศ egcomp ก็สามารถขยาย equity ทำให้ consolidated capacity มากขึ้นอีก ดังนั้นที่พี่เจ๋งเคยว่าเรื่อง hyperbola ซ้อนๆกันหลายอันเป็น based แล้วมาลากจุดเชื่อมต่อตรงยอด ของ hyperbola น่าจะใช่มากกว่า กระทู้นี้ matematic intensive จริงๆ วุ้ย :roll:
โดย
FITCH
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 8:07 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
ผมก็เลยคิดว่า อัตราค่าความพร้อมจ่ายพื้นฐานคำนวณจากค่าใช้จ่ายคงที่ของโครงการ (EAAP) ที่เป็นที่มาของ BAC ที่นำไปใช้คำนวณ ค่าความพร้อมจ่ายเต็ม (FAP) ซึ่งเป็นที่มาของรายได้ นี่แหละครับ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ ค่าของรายได้ที่คำนวณเกิดการผันผวน เป็นสาเหตุให้ รายได้จากการขายของ ขนอม น้อยลง แม้ว่าปริมาณการจ่ายไฟจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ดู ๆ ไปดูเหมือนว่า ค่า EAAP เนี่ย จะแปรผันโดยตรงกับปริมาณค่าใช้จ่ายในการดูและรักษาโรงไฟฟ้านะครับ หมายความว่า ถ้าค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ค่า EAAP ก็จะสูงขึ้น เป็นผลให้ FAP สูงขึ้น ทำให้เงินที่ EGAT จะต้องจ่ายให้ KEGCO มากขึ้น หรือเปล่า งั้น ปริมาณรายได้หลัก ก็แปรผันโดยตรงกับปริมาณค่าใช้จ่ายหลัก น่ะสิ งั้นกราฟรายได้ระฆังคว่ำหรือกราฟไฮเพอร์ที่ว่าถ้าเป็นจริง แสดงว่าค่าใช้จ่ายหลักของ KEGCO จะลดลงทุก ๆ ปีงั้นเหรอ ฮา ๆ ๆ ๆ ???? เป็นไปได้ครับ แต่ใครจะรู้ล่ะ ถ้าไม่ใช่วงใน?? ผมก็ไม่รู้นะ นี่แหละครับ Cost-Plus Pricing Model ของเค้า อืมสงสัยคงต้องทำ simulation model จาก mathematic นี้ซะละมั๊ง :oops: ขอบคุณคุณ chachacha มากครับที่ชี้ทางสว่างให้ แหม กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ผมชอบที่สุดตั้งกะอ่าน TVI เลยนะเนี่ยนะ :D ยังไงซะผมก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดีเรื่อง สมมุติฐานระฆังคว่ำ เหตุที่ ขนอมต้องขยายกำลังการผลิตเพิ่มนี่นอกจากจะเป็นเพราะอัตราส่วนความต้องการการใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคใต้สูงขึ้นมากและ ขนอมเป็นโรงไฟฟ้าที่มีความพร้อมทางด้าน geographic แล้วผมว่ายังสามารถ Prolong contract PPA หรือ สามารถ utilized existing facility ต่างๆให้ได้ประโยชน์สูงสุดด้วย คืองี้ถ้าเราจะสร้าง supply ของพลังงานไฟฟ้าในภาคใต้เราคงต้องมี constraints อื่นๆเข้ามาอีกมากมาย ( ดูหินกรูด บ่อนอกเป็นตัวอย่างที่ดี ) ดังนั้นการที่ EGAT ยอมชดเชยแม้กระทั่ง อัตราการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากผมกระทบจากเงินตราต่างประเทศให้ ( ถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอาจไม่ทีทางเป็นแบบเดียวกับที่ทำนายโดยหลักการทางคณิตศาสตร์ได้หมด ) โดยเฉพาะการเขียน contract ล่วงหน้าเป็น 20 ปีแล้วเอามาคิดเงินกันแบบนี้ ความแตกต่างในเหตุการณ์จริงกับ mathemetic model ต้องมีแน่นอน เพียงแต่ว่า objective ของ contract คืออะไร ผมว่าในส่วนตัวคือ IRR ต่อผู้ลงทุนที่ประมาณ 19% นั้นคือหลักใหญ่ที่จะต้องยึดถือปฎิบัติ ดังนั้นเราคงต้องมาคิด over period of time ของ PPA ส่วนแรกที่ IRR ส่วนตั้งแต่ปี 37-47 ว่าเป็นเท่าไหร่ ถ้าได้ตรงนั้นแล้ว การคิดต่อก็ไม่น่ายากครับ :lol: ดังนั้น เอาสั้นๆ เลยดีกว่าถ้าเราคิดจะลงทุนยาวๆกับหุ้นตัวนี้ ( เรียกว่าอย่างต่ำๆ ก็ 10 ปี รึกัน ) มากทฤษฎี PPA แล้วเพราะเหลืออีก 10 ปีตอนนี้ก็เรียกได้ว่ามาครึ่งทางแล้ว ผมไม่คิดว่า IRR ที่ผ่านมาได้เกิน 19% ( ขอย้ำว่า ไม่เกินนะครับ ) แล้วดังนั้น สิ่งที่น่าจะเกิดต่อไปก็คือ return ควรจะ continue ที่จะ >= 19% ( Adjustable based จากการแก้ contract ระหว่างกันกับ EGAT ) ย้ำข้างบนขอรับ :lol:
โดย
FITCH
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 7:49 am
0
0
อิอิ ถือแป๊ปเดียว กำไรเกือบ 10 % นี่ขนาดยังไม่เลิกประท้วงนะ
เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นเมื่อคืน ไปตั้งเกือบอาทิตย์นึง มีอาราย update กันบ้างเนี่ย พี่เจ๋ง ว่ามาซะยาวเชียว :P
โดย
FITCH
อาทิตย์ เม.ย. 18, 2004 6:55 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
อิอิ น้อง Fitch สำหรับพี่แล้ว 1. ดอกเบี้ยต่ำ 2. โรงไฟฟ้า ไม่น่าเจ๊งง่ายๆ 3. เห็นกำไรเยอะดี 4. ปันผลก็พอใช้ได้ 5. บ้านเราอากาศร้อน 6. ประวัติในอดีต มียอดขายเพิ่ม แค่นี้พี่ก็พอใจแล้ว ข้อควรระวัง 1. หนี้มาก 2. จ่ายดอกเบี้ยแพง 3. กฟผ.จะเข้าตลาด 4. เรื่อง vat 5. เรื่องระฆังคว่ำ ระฆังหงาย อิอิ พี่คิดแบบพ่อค้าครับ คือ banpu เสนอซื้อ egcomp ราคาเท่าไร banpu ก็อยู่ในวงการ ระฆังคว่ำ ระฆังหงาย คงจะรู้ดีกว่า คุณ invisible hand เป็นแน่แท้ ถ้าพี่ซื้อต่ำกว่า banpu พี่ก็ ok ในระดับหนึ่งเหมือนกันครับ Couldn't agree more... :lol:
โดย
FITCH
จันทร์ เม.ย. 12, 2004 8:55 am
0
0
ไม่น่าเชื่อเลย ได้หนังสือรายงานประจำปี ของ WG บริษัทแรกเลย
ปีนี้ได้ DELTA BECL SCB BBL AYUD SCIB OHTL ยังไม่มาเลยก็ SUC EGCOMP SAFE SMK TTTM TTL BGH BH TISCO KTC มาเยอะๆแบบนี้ ตั้งใจอ่านจริงๆ แค่ 4 เล่มเอง ผับผ่าสิ :lol:
โดย
FITCH
อาทิตย์ เม.ย. 11, 2004 8:26 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
เรื่อง Hyperbola นี่ผมยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นะครับว่ามันจะเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นคงเป็นเพราะ main contract agreement มากกว่าแต่เนื่องจาก บริษัทคงต้องมีการกระจายหารายได้จากโครงการอื่นๆเพิ่มขึ้นมา ถ้าจะเป็นดังว่าจริงๆ คงต้องมีแรงถ่วงจากโครงการอื่นๆ หรือว่าผู้บริหารต้องหาวิธีแก้ก่อนที่เราจะรู้ตัวก่อนซะล่ะมั๊งครับ :lol: เปล่าเชียร์นะเนี่ยนะ อีกอย่าง ฝ่าย บ/ช ที่นี่ไม่รู้จะ conservative อะไรนักหนาพวกเล่นตัดค่าใช้จ่ายล่วงหน้าบานพวกค่าที่ผมไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ความนิยมเสื่อมสภาพหรืออะไร กะพวกเงินลงทุนที่ต้องลงทุนไปก่อนในการศึกษาการลงทุนโครงการใหม่ๆ พวกน้ำเทินบ้างอะไรบ้าง กลายมาเป็น คชจ. ในปีก่อนๆ เช่น 44 45 ไปแล้วเพียบ สงสัยไปก่อนๆ คงมีกำไรเยอะมังกลัวกราฟจะชันเร็วไป เดี๋ยว parabola ไม่ค่อยสวย อุอุอุ :wink:
โดย
FITCH
อาทิตย์ เม.ย. 11, 2004 7:55 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
din ปกติถ้าผมแปลงกายเป็น VI ผมจะลุ้นให้กิจการมีกำไร กิจการมั่นคง ส่วนเรื่องราคาไม่ต้องไปดูมันให้มาก เหมือน bigc นี่ถือมาตั้งแต่ต้นทุน 13 บาทนิดๆ เห็นแว๊ปๆแถว 17-18 บาท มาชาติหนึ่งแล้ว อิอิ ก็ไม่เห็นเป็นไร ได้ปันผล 2 ปีแล้วครับ นั่นดิ นี่เป็นเหตุผลนึงว่าทำไมจึงต้องตีโจทย์ให้ แตกละเอียดแล้วอัดซื้อไปทีเดียวเลย เมื่อ 4 ปีก่อนผมซื้อ SUC เกือบ 4 แสนหุ้นที่ราคาเฉลี่ย 12 บาท สองปีก่อนซื้อ EGCOMP 1 แสนหุ้นที่ 40 บาท ปีที่แล้วต้นปี RCL 5 หมื่นหุ้นที่ 50 บาท ตอนนั้นพาร์ 10 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าจะขึ้นลงยังไง เพราะมันห่างจุดนั้นมานานแล้วเรายังได้รับ จดหมายเชิญประชุมกะเงินปันผลก็เป็นสุขใจแล้วล่ะ ยกเว้นบางที่ต้องมี short บ้างนี่ RCL Overvalue ไปแล้วที่ 20-23 บาท ล่ะ อุอุ :lol: อย่าว่ากันนะ :oops:
โดย
FITCH
เสาร์ เม.ย. 10, 2004 8:52 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
สุดยอดฝีมือคุณ chachacha ที่พี่เจ๋งถามเรื่องโครงการเพิ่มกำลังการผลิตของ egco นั้น เท่าที่เห็นมีด้วยกัน ดังนี้คือ ส่วนใหญ่เป็นแบบ Equity share 1. เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน GULF POWER จาก 60 เป็น 100% เจ้า GULF POWER นี้เป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าบ่อนอกครับ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 140MW จากเดิม 210 MW 2. โครงการ ขยายกำลังการผลิต โรงไฟฟ้าขนอมอีก 385MW กำลังดำเนินอยู่ เอ้าแถมให้อีกนิดเรื่อง replacement cost ของโรงไฟฟ้าเผื่อเอาไว้คิดต่อเล่นๆแก้กลุ้มยามหุ้นตกๆ ตอนนี้ถ้าจะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ต้นทุนของการสร้างอยู่ที่ 1 Million USD ต่อ 1 MW อันนี้ได้ตัวเลขจากผู้รู้อีกที บฟผ มีกำลังการผลิตปัจจุบันแล้ว 2426 MW ครับ.... อันนี้ อาจเอาไปรวมคำนวณและอธิบายถึงต้นทุนของการผลิตและ profit margin แตกต่างกันของ RATCH และ EGCOMP ได้นาครับ.... ทำการบ้านต่อ ถามว่า D/E ration ของ EGCOMP อยู่ที่เท่าไหร่ใครตอบได้บ้าง :lol:
โดย
FITCH
เสาร์ เม.ย. 10, 2004 8:44 am
0
0
ฟันธง EGCOMP vs RATCH ถ้าถึงเวลาต้องเลือก!!
เพื่อความมันส์ต้อง ราชบุรีเท่านั้น :lol: อิอิ พอดีมี บผฟ แล้วอ่ะ :wink:
โดย
FITCH
พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2004 3:28 pm
0
0
อยากให้ประชุมใหญ่สามัญประจำปีมีวันไหน เวลาไหนกันบ้างครับ
ไป SUC EGCOMP ทุกปีอยู่แล้ว แล้วปีนี้ก็ SAFE กะ SMK ที่จะ add มาใน list ส่วน BECL พรุ่งนี้เด้อสงสัยไม่ได้ไปอีกนั่นแหละ สงสัยผมคงเป็นผู้ถือหุ้นที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไรมัง :cry:
โดย
FITCH
พุธ เม.ย. 07, 2004 3:45 pm
0
0
อยากให้ประชุมใหญ่สามัญประจำปีมีวันไหน เวลาไหนกันบ้างครับ
วันนี้ก็ไม่ว่างอดไป AYUD เลย บ่าย 2 ที่ เพลินจิต DELTA ไปยากมากครับโรงงานอยู่ในนิคมบางปู โหยรถก็ติดสุดๆ วันที่ 8 ก็ SCB วันที่ 9 ก็ BBL เจ้า SAFE กับ SMK นี่ยังไม่เห็นส่งรายงานเลย เคยไป MFG เจ้าแห่ง pizza แท้ก็ไม่เห็นเลี้ยงอะไรดีนี่ครับผม ถ้าเป็น OHTL ปีนี้วันที่ 20 ไม่รู้จะเลี้ยงดีรึเปล่ามีแค่ 600 หุ้นเองไม่ค่อยกล้าไปง่ะ พูดตามตรงท่าทางคนน้อยๆ :lol:
โดย
FITCH
พุธ เม.ย. 07, 2004 2:28 pm
0
0
!!!มาดูกันว่าใครลงทุนด้วยเงินเท่าไรและยาวนานที่สุด ผลตอบแทน?
ซวยล่ะซิตูเพิ่งซื้อ cooper มาใหม่คันนึง :oops:
โดย
FITCH
พุธ เม.ย. 07, 2004 8:14 am
0
0
ธุรกิจแห่งอนาคต เมื่อ 3 ปีที่แล้วของผม
ยังงั้น SUC ผมก็ยังถือได้อีก 3 ปีค่อยมาดูกันดีมั๊ยพี่ครับ :lol: ลองเทียบกับธุรกิจอนาคตเจ๋งแบบไทยๆ อย่าง ITV กะ SATTEL ดีกว่า :oops:
โดย
FITCH
จันทร์ เม.ย. 05, 2004 2:50 pm
0
0
169 โพสต์
of 4
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
FITCH
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พฤหัสฯ. ก.ค. 31, 2003 8:21 am
ใช้งานล่าสุด:
ศุกร์ ม.ค. 27, 2017 3:16 pm
โพสต์ทั้งหมด:
194 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว