Re: สิ่งที่ควรทำเวลาหุ้นตก สิ่งที่ควรทำเวลาหุ้นตก คือ ช้อนซื้อของดีราคาถูกครับ ขอโม้หน่อย... จริงๆ ผมก็ได้เตียมตัวไว้นะ ก็ได้ขายบางส่วนออกมา ก่อนที่หุ้นจะปรับตัวลงมาวันนี้ครับ แต่ว่า ราคาที่ขายนั้น ต่ำกว่านี้อีกเยอะเลยครับ 555 โดย Jho_Jho เสาร์ พ.ค. 19, 2012 11:35 am

ลินช์ บริหารกองทุนได้ผลตอบแทนเท่าไรครับ ถ้าตัดเอาช่วงเวลาเดียวกัน ที่ 13 ปีที่ Lynch  ทำผลตอบแทนได้ >29% ต่อปี นั้น Buffett ก็ยังทำผลตอบแทนในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ได้สูงกว่าอยู่ดี ครับ โดย Jho_Jho อาทิตย์ ก.พ. 10, 2008 7:23 am

สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์ ดีแล้วครับที่เป็นคนไฝ่รู้ วันข้างหน้า คุณมี Port ลงทุนเป็นของตัวเองจะได้มีความพร้อมครับ สมมติ นานมาแล้ว คุณหุ้นกับเพื่อนเปิดร้ายขายก๋วยเตี๋ยวมูลค่า 1 ล้านบาท พาร์ 100 แบ่งเป็น 10,000 หุ้น กิจการ ทรงๆ ทรุดๆ มูลค่ากิจการลดเหลือ 5 แสนบาท อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคุณสุดแสนจะใจดีเหลือเกิน ขายหุ้นในส่วนของเค้าให้คุณ ในราคา 99 บาทต่อหุ้น (ต่ำกว่าพาร์) คุณอาจจะดีใจ (ก็ได้น่ะ ห้ามกันไม่ได้หรอกครับ) แต่แฟนคุณที่บ้านคงเป็นลม ความเห็นกวน teen ไปบ้าง ขออภัย ครับ โดย Jho_Jho ศุกร์ ธ.ค. 14, 2007 9:41 am

ตอนนี้มีใครเต็มพอร์ทบ้างครับ ขอเสียงไหน ของผมประมาณ 80% ของ Port แต่ไม่ได้กั๊กไว้เพื่อรอจังหวะตลาดอะไรหรอกครับ ถ้าเจอกิจการใหนที่ "เข้าข่าย" ก็ซื้อครับ โดย Jho_Jho ศุกร์ ธ.ค. 14, 2007 9:24 am

ประเทศไทยจะเกิดต้มยำกุ้งอีกได้มั๊ยครับ ผมไม่คิดว่า บาท เทียบ USD จะแข็งค่าจากนี้ไปมากนัก คืออย่างนี้ครับ 1. ประเทศผู้ส่งออกทั้งหลายต่างก็พยายาม ทำให้ค่าเงินอ่อนเพื่อแข่งขันด้านราคากับประเทศคู่แข่งด้วยกัน 2. บาท ที่คุณ ผม ประเทศไทยออม และเงินออมประเทศเอเชีย นั้นในที่สุดแล้วมันจะเข้าไปรองรับการอ่อนค่า USD จากการขาดดุลของอเมริกา โดย Jho_Jho ศุกร์ มิ.ย. 22, 2007 9:52 am

เครือข่ายการลงทุน จบ: ตรี วิศวะ เครื่องกล  โท MBA ทำงาน: ลูกจ้างที่แสนดี เชี่ยวชาญ:  ยกแก้วๆ โดย Jho_Jho พุธ มิ.ย. 13, 2007 11:19 am

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล [email protected] โดย Jho_Jho จันทร์ มี.ค. 26, 2007 2:31 pm

ประเทศที่ขาดดุลค่าเงินถึงมักจะอ่อนแต่ทำไมเวลาอเมริกาขาดดุล.. เราจะเทียบระบบเศรษกิจของไทย กับระบบของอเมรกาไม่ได้ครับ อย่างนี้ครับ อเมริกันชนนั้น สามารถใช้เงินของตัวเองชำระหนี้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้ครับ ส่วนเราจะทำอย่างนั้นไม่ได้ และเงิน USD นั้น เป็นเพียงกระดาษเปล่าที่พิมม์ตัวเลขติดไว้เท่านั้นครับ ไม่มีอะไรหนุนหลังเลย แต่ก็ยังคงใช้กัน และเก็บเอาไว้ชำระหนี้ในอนาคตกันต่อไปได้ ประเทศที่เกินดุล ก็สามารถให้กู้กับประเทศที่ขาดดุลได้ ดังนั้นอเมริกาจึงขาดดุลกับประเทศอื่นๆไปได้ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องทุนสำรองจะหมด อย่างที่บอกครับว่าไม่มีทองหรืออะไรอย่างอื่นมาหนุน จะว่าไปแล้วก็เหมือนเอาชื่อเสียงของประเทศเป็นทุนสำรองอะไรอย่างนั้น ส่วนเราต้องทำงาน ต้องค้าขายให้ได้ USD มา เมื่อจะใช้ชำระหนี้ต่างประเทศก็ใช้ส่วนนี้ไป เพราะเหตุนี้ อเมริกา จึงไม่จำเป็นต้องมีทุนสำรอง ก็พิมม์ออกมาเท่าไร ก็เป็นทุนสำรองเท่านั้นนี่ครับ แต่ก็ต้องแลกกับภาระในการพิมม์ให้ประเทศอื่นๆ เก็บไว้ คือ ดอกเบี้ย ซึ่งอเมริกาเองก็ จ่ายดอก ในส่วนที่พิมม์ออกมาและประเทศอื่นเก็บเอาไว้ และถ้าเขาขาดดุลไปเรื่อยๆ ค่าเงิน USD ก็จะอ่อนค่าลง ทำให้อเมริกาต้องจ่ายเงินมากขึ้นในการซื้อของต่างประเทศ และก็มีส่วนไปทำให้เกิดเงินเฟ้อขึ้น พอเงินเฟ้อสูงขึ้นก็กดดันเรื่องดอกเบี้ย และพอจ่ายดอกมากขึ้น ก็จะขาดดุลมากขึ้นตามครับ เงิน USD นั้นแปลก คือเจ้าของเงินคืออเมรกาเองนั้น มีส่วนครอบครองน้อยกว่าประเทศอื่นๆ พอเศรษกิจอเมริกาทำท่าจะแย่ ประเทศอื่นก็โยกเงินไปเป็น ยูโร เยน  ทำให้การแก้ไขปัญหาเศรษกิจของอเมริกาจึงหินสุดๆ การที่อเมริกามีระบบเศรษกิจอย่างนี้ จึงมีทั้งประโยชน์ และโทษ อย่างที่ว่าครับ กลับมาที่ระบบเศรษกิจของเรา เงินบาทเรานั้น ถ้าทุนสำรองหมด กู้ใครไม่ได้แล้วหละก็ จะทำให้ค่าเงินตกลงมาได้อย่างมากเลยทีเดียวครับ โดย Jho_Jho ศุกร์ ก.ค. 21, 2006 11:08 am

มีโจทย์คำนวนเล็กๆมาให้พี่ๆคิดกันเล่นๆครับ ได้ข้อคิดเล็กๆครับ ในกรณีปกติทั่วไปนั้น การปันผล จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการถือครองหลักทรัพย์ด้วยครับ โดย Jho_Jho พฤหัสฯ. ก.ค. 20, 2006 2:44 pm

น้ำมันยิ่งขึ้น รถป้ายแดงยิ่งเต็มถนน คุณ hot สังเกตุเฉพาะบนถนนในกรุงเทพใช่ใหมครับ? ผมก็ขับรถป้ายแดงเหมือนกัน  คือ เอา wish ไปเปลี่ยนเป็น yaris รถป้ายแดงที่เห็นกันนั้นอาจมาจากการปรับตัวของผู้คนจากสภาวะน้ำมันแพงก็ได้นะครับ โดย Jho_Jho ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 2:47 pm

เอาไงกะเจ้าเพื่อนจอมขี้เกียจดี Hmmm .... ท่านสามัญชน หมายถึง น้ำยาดูแลเส้นผม หรือ มันมีความหมายอย่างนั้นจริงๆ :D โดย Jho_Jho พฤหัสฯ. มิ.ย. 22, 2006 11:29 pm

ถ้าเราจะถือหุ้นไป 20 ปี เราไม่ต้องสนใจเทคโนโลยีจริงหรือครับ เรื่อง CHANGE - Technology Change ไม่ว่าจะเป็น Hi Tech หรือ Lo Tech เป็นสิ่งที่ธุรกิจเองจะต้องคอยเฝ้าสังเกตุและติดตามอยู่แล้วครับ ส่วน Hi Tech Industries นั้นเป็นคนละส่วนกัน โดย Jho_Jho จันทร์ มิ.ย. 05, 2006 1:14 pm

คิดยังไงกลับกลุ่มโรงพยาบาลครับ คุณ pk8 คงเดาออกว่าตัวอย่างที่ยกมาเป็นที่ใหน ค่าตอบแทนแพทย์ ใน case ปกติ ก็ จ่ายตามปกติ ส่วนของกลุ่มที่ว่านั้น จะต่ำกว่าประมาณ 60% ครับ แต่ก็ได้ปริมาณมาก (มีคนไข้มาก) ส่วนเรื่องวัสดุ ที่นำมาใช้  จริงๆ พวกเราหลายท่านรู้ หรือไม่ก็พอมองออกอยู่แล้วว่าในทางธุรกิจ จะทำอย่างไรให้อยู่รอด, มีกำไรได้ และขออนุญาตที่จะไม่ให้ความเห็นต่อจากนี้ครับ โดย Jho_Jho อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 2:50 pm

คิดยังไงกลับกลุ่มโรงพยาบาลครับ ประเด็นนี้ได้มีการตั้งขึ้นมาบ่อยๆ ในช่วงหลัง ก็ขอแสดงความเห็นอย่างง่ายๆ ครับ อุตสาหกรรมนี้โดยรวมเติบโตประมาณปีละ 10% โดยกลุ่ม รพ. เอกชนที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับบน จะโตได้มากกว่าค่าเฉลี่ยอยู่พอสมควร แพทย์จะขาดแคลนอยู่บ้างที่ รพ. ของรัฐ ส่วน รพ.เอกชนกลับไม่มีปัญหาตรงนี้ ส่วน รพ. เอกชน ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ระดับกลาง, กลาง ถึง ล่าง โดยรวมจะมีการเติบโตน้อยกว่า ลดตามระดับกันลงมา แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้างครับ เร็วๆนี้ รพ.หนึ่ง งบออกมาสวย ราคาหุ้นก็วิ่งกันใหญ่ครับ อันเกิดจากควบคุมต้นทุน เช่น การไปกดค่าตอบแทนแพทย์,  ของที่ใช้แล้วกับคนไข้กลุ่มที่จ่ายตังเองบางส่วนก็ไปอบฆ่าเชื้อแล้วนำไปใช้กับคนไข้กลุ่ม 30 บาท ทำให้เกิดการประหยัด... โดย Jho_Jho เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 11:52 pm

เก็บตกความคิดคน ถ้าสรุปว่า มีแต่พวกคนโง่ และ พวกคนโกง ดูเหมือนว่า ประเทศไทยเราไม่ควรมีตลาดหุ้น จริงๆ บริษัทจดทะเบียนเองก็เป็นสถาบันหนึ่งของสังคมครับ การระดมทุนในตลาด สังคมของเรา ประเทศของเรา ก็ได้ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราๆเองก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน นานาอารยะประเทศเขาก็มีตลาดกันทั้งนั้นครับ จริงๆ คนพูดประเด็นนั้นก็น่าจะมีเหตุผลประกอบด้วยครับ โดย Jho_Jho เสาร์ พ.ค. 27, 2006 1:29 pm

ผมว่าข่าว ใช้คำว่า คนสู่คน ไม่รุนแรงไปหรือ ผมเข้าใจว่าคงเป็นข่าวที่ องค์การอนามัยโลก ที่ระบุว่า ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ไข้หวัดนกกลายพันธุ์และติดต่อจากคนสู่คน ที่เกิดขึ้นที่อินโดนีเซียเวลานี้ จริงๆ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ เขย่าขวัญกันอยู่บ่อยๆ นี่ครับ เราคนไทยน่าจะเคยชินแล้วครับ โดย Jho_Jho พุธ พ.ค. 24, 2006 2:13 pm

ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดไทยจะพบวิกฤตในอนาคตอันใกล้ไม่ต้องรอนาน ก็ที่ผ่านมา และ ในระยะ ยาว  เงินบาท เทียบ USD ก็อ่อนค่าลงเรื่อยๆ และยังคง จะอ่อนไปอย่างนั้น ส่วนที่แข็งค่าขึ้นมานั้นเป็นเรื่องระยะสั้น คงต้องแยกกันหนะครับ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นตามภูมิภาค มันเป็นคนละเรื่องกันเลย กับ ค่าเงินที่แข็งค่าเพราะเรื่องของเศรษฐกิจในประเทศ โดย Jho_Jho เสาร์ เม.ย. 29, 2006 1:46 pm

ฟองสบู่ คืออะไร อาว อาว .... เราจะซื้อหุ้นไปทำไมหละครับ ถ้าไม่มีฟองสบู่ในหุ้นนะ โลกทุนนิยม มันมีฟองสบู่ในทุกๆ การผลิตสินค้าและบริการทั้งนั้นแหละครับ ทีนี้ก็ระดับฟองสบู่ตรงใหนที่ทำร้ายเรา รวมถึงคำถามของคุณ hot ที่ค่อนข้างจะยาวไปหน่อย ถ้าผมมีเวลาจะเข้ามาตอบอีกที ... โดย Jho_Jho พุธ เม.ย. 12, 2006 10:01 am

ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินเยน,ดอลล่าร์,บาท "เงินทองของมายา  ข้าวปลาสิของจริง"  เป็นคำพูดของผู้รู้ท่านหนึ่ง สิ่งสิ่งหนึ่ง เอาไปแลกกับอีก สิ่งสิ่งหนึ่ง จะไม่คล่องตัว เพื่อความสะดวก ก็ใช้เงินแทน สิ่งสิ่งหนึ่งที่ว่า ในทางเศรษฐศาสตร์ ราคาของสิ่งสิ่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับ Demand และ Supply  ดังนั้น ราคา (ค่า) เงิน ก็เป็นเช่นกัน แบงก์ชาติเป็นผู้ดูแลปริมาณเงิน ปริมาณเงิน = ตัวคูณ X ฐานเงิน ฐานเงิน มีสองส่วน คือ Net Foreign Assets กับ Net Domestic Asset Net Foreign Assets ก็คือ Net International Reserve นั่นเอง ด้วยกฎหมาย เงินตราต่างประเทศต้องซื้อขายโดยแบงก์ชาติ ส่วนธนาคารพาณิชย์ที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงนายหน้าเท่านั้นครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ ยอดเงินตราต่างประเทศก็ตกอยู่ที่แบงก์ชาติ ซึ่งยอดเงินตรานี่แหละครับ จะสร้างเสถียรภาพให้กับค่าเงินบาท หากไม่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพียงพอ ค่าเงินบาทอาจตกลงไปแบบไม่มีจุดรับ อะไรประมาณนั้นครับ Net Domestic Asset การให้กู้ยืมจากแบงก์ชาติกับรัฐบาล (พันธบัตรรัฐบาล) และสินเชื่อสุทธิที่แบงก์ชาติให้กับสถาบันการเงิน เมื่อนำ NFA + NDA เราก็จะได้ฐานเงิน  พอเม็ดเงินเหล่านี้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหลายรอบ ก็จะเกิดปริมาณเงินเพิ่มขึ้นมามากใหนระบบเศรษฐกิจครับ เงินจึงเป็นเหมือนสารหล่อลื่นในระบบเศรษฐกิจครับ ... ก็ตอบง่ายๆ อย่างนี้ผมเองก็ไม่ทราบว่า คุณ Cantona ต้องการทราบเรื่องรวมๆ ในประด็นที่ถามมาแบบนี้หรือเปล่า โดย Jho_Jho จันทร์ มี.ค. 20, 2006 11:44 am

อะไรคือ ความแตกต่างระหว่าง รพ ที่รับต่างชาติ กับ รพ ทั่วไป ? เห็นคุณคัดท้าย ยก BGH ขึ้นมา ผมขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างนี้ครับ BGH นั้น ช่วง 3-4 ปี หลังๆ นี้  ได้มีสินทรัพย์ และ กำไร ขยายตัวมาค่อนข้างเร็วครับ สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินที่จะตามมา ของ รพ แห่งนี้ครับ โดย Jho_Jho เสาร์ มี.ค. 18, 2006 11:11 am

อะไรคือ ความแตกต่างระหว่าง รพ ที่รับต่างชาติ กับ รพ ทั่วไป ? มาแก้ตัวครับ.... ยังงั้นผมก็มีอาชีพเดียวกันกับคุณคัดท้ายครับ ที่ผมได้ทราบเรื่องพวกนี้ก็มาจากครอบครัวผมที่มีอาชีพเป็นแพทย์ครับ... รพ กลุ่มหลัง ถ้ามีการบริหารจัดการ เรื่องต้นทุนได้ดีพอ ก็พอไหวครับ พิมม์ผิด... ตปท.... จริงๆ คนข้างๆผมเขาก็ชมอยู่ครับ ว่าผมพิมม์ภาษาไทยเก่ง ใช้แค่ 2 นิ้วเอง พิมม์ได้เร็วประมาณ 35 คำ ....... ต่อ ชั่วโมง   5 5 5    ขออภัยด้วยครับ โดย Jho_Jho อาทิตย์ มี.ค. 12, 2006 11:37 pm

อะไรคือ ความแตกต่างระหว่าง รพ ที่รับต่างชาติ กับ รพ ทั่วไป ? ผมเองก็ไม่ทราบว่า คุณคัดท้าย มีอาชีพเป็นแพทย์หรือเปล่า ข้อคิดเห็นจากนี้อาจกลายเป็นว่าผมเอามะพร้าวเหง้ามาขายสวนครับ จากประเด็น ข้อแตกต่าง รพ ที่มีผู้ป่วยเป็น ปตท เกือบ 50/50 กับ รพ ที่มีผู้ป่วยส่วนนี้ในอัตราที่น้อย ภาษา อันนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับคุณคัดท้ายครับ ถ้าผู้ป่วย ปตท หลักๆก็ภาษาอังกฤษ นอกนั้น ภาษา อาหรับ จีน ญี่ปุ่น แพทย์เองก็ฝึกพูดเอาเฉพาะคำ ประโยคง่ายๆ ไม่มีความแต่ต่างกันทั้งสองกลุ่ม รพ ที่ว่าครับ หลักๆแล้วถ้าไม่ใช่ภาษาอังกฤษก็ใช้ล่ามเอาเป็นส่วนใหญ่ครับ การตลาด ก็เห็นด้วยครับ อาจเป็นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและบวกเฮงด้วยครับ คือหลัง 9 1 1 ประเทศอาหรับ ก็ไม่สะดวกในการเข้าไปรักษาในประเทศตะวันตก บวกกับ นำมันแพง กำลังซื้อเพิ่มอีกแถมครับ รพ กลุ่มหลังขยายไปรับผู้ป่วย ปตท เพิ่ม ชั่วโมงนี้เกือบทุก รพ แล้วครับ พยามยามเพิ่มส่วนนี้อยู่ โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวจีนที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วครับ แต่ถ้าจะให้ได้ระดับที่ผู้นำตลาดส่วนนี้เป็นอยู่ ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และคงใช้เวลามากครับ P/E สูงในกลุ่ม รพ ที่เน้นผู้ป่วย ปตท ก็ Hi Gth และพูดๆ กันว่า จะมีการควบรวมกิจการกับต่างชาติอะไรทำนองนั้นครับ ขออนุญาตแสดงความเห็นเพิ่มเติมจากประด็นของคุณคัดท้ายครับ เรื่องปริมาณ และคุณภาพแพทย์ ค่อนข้างตลกครับ คือว่า ภาครัฐ ผู้ผลิตแพทย์ กลับขาดแคลน ส่วน รพ เอกชน เดี๋ยวนี้ ทำ case ซ้อนกันก็ค่อยจะได้แล้ว แสดงให้เห็นว่า นอกจากไม่ขาดแคลนแล้ว ยังจะล้นอีกครับ คุณภาพนั้นผมว่าไม่แตกต่างกันครับ คือ แพทย์ที่รักษาในกลุ่มแรก ก็ไปทำให้ รพ ในกลุ่มหลังด้วย คุณภาพ รพ แน่นอนว่ากลุ่มแรกค่อนข้างดีกว่า ทั้งระบบ และเครื่องไม้เครื่องมือ แต่ก็ต้องจ่ายแพงกว่าเป็นการทดแทน ส่วนกลุ่ม รพ หลัง บางที่ ที่รับ 30 บาท, รับประกันสังคม พวกนี้แค่ยืนอยู่ให้ได้ ก็ ของบางอย่างที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ก็ไปนึ่งฆ่าเชื้อเอา ประหยัดกับแบบสุดๆ ผู้ถือหุ้นก็พิจารณากลุ่มนี้กันให้ดีๆ หน่อยครับ ชักจะยาวไปแล้ว ก็ ขอแค่นี้ครับ.... โดย Jho_Jho อาทิตย์ มี.ค. 12, 2006 3:35 pm

หุ้นโรงพยาบาล สนใจกันมั้ย :) ผมมี NTV ครับ ก่อนหน้านี้เคยมี RAM ตอนแรกที่ซื้อก็คิดว่าจะเก็บไว้เป็นหุ้นปันผล ที่ใหนได้กลายเป็นหุ้นโตเร็วไปเฉยเลย ส่วน AHC นั้นงบสวยมาหลายปีแล้ว แต่ผมไม่มีตัวนี้ครับ ผมไม่เคยเห็นตัว รพ นี้ครับ ถึงแม้ไปผักผ่อนแถวนั้นบ่อยๆ กลุ่ม รพ มีเพื่อนๆ ที่เป็นแพทย์ เค้าบ่นให้ฟังว่า รพ ที่รับ 30 บาท ประกันสังคม เค้าไม่อยากไปทำ part time ให้ เพราะได้เงินน้อย ได้ช้า แถมหักโน้นหักนี่ ไม่คุ้มค่าเหนื่อย รพที่ว่านี้ดูได้ครับจากงบการเงิน เช่น PM จะตำ .... BH คุณ Frontosa คิดว่าแพงไป, ดูจาก Growth ไม่แพงหรอกครับ แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่รู้จะรักษาอัตรา Gth นี้ไว้ได้นานแค่ใหน แล้วถ้าเกิด รพ ที่ระดับเดียวกัน หรือ ดีกว่า จากต่างประเทศเข้ามาตั้งแข่งขันหละ พวกผู้ถือหุ้นก็หนาวสิครับราคานี้ และผมเองก็ไม่กล้าเหมือนคุณ Frontosa เช่นกันครับ 555 จากสติถิคนไทยเราอายุยาวขึ้นเรื่อยๆ ครับ ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไป ใน USA นั้นมีตัวเลขอยู่ว่า ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์อยู่ที่ 1 ใน 3 เกิดจากคนที่อายุ 65 ปีหรือสูงกว่าครับ  และคนไทยเราเองก็จะเข้าสู่สังคมชราภาพในระยะเวลาอันใกล้นี้แล้ว การมีหุ้นตัวดีๆกลุ่มนี้เก็บไว้ก็น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคตครับ ส่วนความเสี่ยงที่ชื่อเสียงของรพ อาจพังได้ชั่วข้ามคืน และตัวผู้ถือหุ้นก็จะขาดทุนไปด้วย อาจเกิดขึ้นได้จากเรื่อง เช่น กรณีแพทย์ทำคลอดโดยประมาท ทำให้เด็กตาย, แม่ตาย หรือ กรณีเรื่องขโมยอวัยวะบางส่วนของผู้ป่วย..... พอเกิดเรื่องเกิดราวเป็นข่าวคราวกัน ลูกค้าก็จะหายไปด้วย พวกนี้เป็นเรื่อง Sensitive ครับ โดย Jho_Jho ศุกร์ มี.ค. 10, 2006 2:41 pm

อยากรู้เรื่องดุลบัญชีของประเทศ โปรดชี้แนะ มาเม้าอีกรอบนึ่ง.... คือ เมื่อ ก็ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล และดุลบัญชีเงินทุนขาดดุลไปด้วยกัน ก็หมายความว่า เมื่อนั้นเราก็จะต้องเอาส่วนทุนสำรองมาใช้ และเมื่อทุนสำรองลดลง มีไม่พอจะให้เฉือนออกไปอีก ค่าเงินเราก็จะเสื่อมค่าลง เมื่อนั้นก็จะแย่ครับ จริงๆ ยังมีอีกดุลนึง เราเรียกว่าดุลภาครัฐ  การขาดดุลภาครัฐนี้ จะส่งผลให้เรานำเข้าสิ้นค้าสูงขึ้น นำไปสู่ดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง และสุดท้ายก็ขาดดุล ก็เลยกลายเป็นขาดทั้งสามดุลไป แก้ไขได้ถ้า ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล ดุลภาครัฐขาดดุล ก็ควรให้ดุลบัญชีเกินดุลเพื่อชดเชยกันครับ การขาดทั้งสามดุลทำให้ระบบเศรษกิจยำแย่ และเกิดปัญหาวิกฤตการณ์การเงิน และไม่ลืมว่าค่าเงินที่ตำลงจากการที่ทุนสำรองระหว่างประเทศถูกนำมาใช้นั้น เป็นคนละเรื่องกับค่าเงินที่อ่อนค่าตามภูมิภาคครับ เพราะอย่างแรกจะลากเศรษกิจของประเทศตามไปด้วยครับ โดย Jho_Jho พฤหัสฯ. มี.ค. 09, 2006 11:55 pm

อยากรู้เรื่องดุลบัญชีของประเทศ โปรดชี้แนะ ก็ขอให้ความเห็นคุณ copywriter อย่างหยาบๆ หนะครับ ดุลการค้า   เป็นดุลรายรับรายจ่ายของการซื้อสินค้าที่มีตัวตน เช่นว่า รายรับจากการส่งออกรถยนต์ ยางพารา ข้าว..... รายจ่ายจากการนำเข้าเครื่องจักร วัตถุดิบเพื่อการผลิต .... เมื่อเราเอาสองรายที่ว่านี้มาหักลบกลบหนี้กัน ถ้าเป็นบวกก็เรียกว่าเกินดุล ถ้าเป็นลบก็ตรงอันข้ามครับ ดุลบริการ รายรับสำหรับค่าบริการที่เราขายออกไปต่างประเทศ กับรายจ่ายค่าบริการที่เราจ่ายออกไป กรณีนี้ รายรับใหญ่สุดของเราก็คือ รายรับจากการท่องเที่ยวจากชาวต่างประเทศเข้ามาเที่ยว มาจ่ายในบ้านเรา หรือเงินที่ต่างประเทศบริจาคให้เรากรณีสึนามิ ก็รวมอยู่ในนี้ ส่วนเราไปเที่ยวนอก และบริจาคให้เค้าก็เป็นรายจ่ายครับ และรายการใหญ่ของเราอีกอันหนึ่งก็คือดอกเบี้ยจ่ายครับ และที่ต่างประเทศได้กำไรจากการเล่นหุ้นในบ้านเราก็อยู่ในส่วนนี้เหมือนกันครับ ถ้ารายรับตำกว่ารายจ่ายก็แปลว่าขาดดุลบริการ และเมื่อเอาสองดุลข้างต้นดังกล่าวมารวมกัน ก็จะได้ บัญชีเดินสะพัด  ซึ่งตัวนี้จะไปเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของค่าเงินของเราครับ บัญชีเงินทุน เป็นบัญชีรับเงินที่ได้มา หรือ จ่ายเงินออกไป เป็นบัญชีที่เงินไหลเข้าออกประเทศไทยครับ ในรูปเงินก้ยืมบ้าง ต่างประเทศขนเงินมาเล่นหุ้นบ้าง.... ดุลบัญชีเดินสะพัดรวมกับบัญชีเงินทุน ก็จะได้ดุลบัญชีชำระเงิน อันนี้ถ้าเกินดุล ก็ ทุนสำรองเพิ่ม ตรงข้ามก็ลด ถ้าขาดทั้งสามดุลจะเป็นอย่างไร? ก็... ระบบการเงินก็พังสิครับ. โดย Jho_Jho พฤหัสฯ. มี.ค. 09, 2006 2:32 pm

Early Retired ได้ตังค์ตั้ง 4 ล้านบาท เทียบคนหละหน่วยงานกันพูดยากครับ แต่อย่างไรก็ตาม พูดกันจริงๆ แค่ 4 ล้าน ถือว่าน้อยครับ เป็นอย่างนี้ครับ ตามสถิติ ชายไทย อายุเฉลี่ย 67 ปี เผื่อเอาไว้บ้างก็ ตีเสียว่า 80 ปี 60--->80 ปี ก็อีก 20 ปี เนื้อเยื่อและกระดูกก็หมดอายุการใช้งาน ถ้าชนชั้นกลางทั่วไป และอยู่ในเมืองใหญ่ ค่าใช้จ่ายต่ำๆ ก็ 50,000/mm 4 ล้านใช้ได้แค่ไม่ถึงครึ่งทางเลยครับ ขั้นต่ำแล้วควรจ่าย 12 ล้านครับ แต่ครูบ้านเรามีเยอะ และ ประเทศเราก็จน ก็... ยังไงหละ ....ดูแลตัวเองมั่ง โดย Jho_Jho ศุกร์ ก.ย. 23, 2005 9:59 pm

กิ๊ก หมายถึงอะไร คงจะประมาณการได้ว่า ภรรยา คือ สินทรัพย์ถาวร ( หรือเปล่า? ) ส่วน กิ๊ก เป็น "สินทรัพย์หมุนเวียน" โดย Jho_Jho ศุกร์ ก.ย. 16, 2005 11:53 am

อยากลงทุนในหุ้นปันผลดีๆ สักตัว ช่วยแนะนำกันหน่อยค่ะ ผมเห็นเค้าใบ้หุ้นกันทางทีวีบ่อยๆ ผมก็ขออนุญาตใบ้หุ้นทางนี้ตามที่คุณ pok อยากทราบเพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนครับ ขอใบ้หุ้น 3 ตัวครับ egcomp scc s&p คุณ pok ซื้อลงทุนได้ครับ ซื้อวันใหนก็ได้ตามสะดวกครับ แต่ผมเองก็ไม่ทราบจริงๆ ครับว่าถ้าคุณ pok ถือไป 3-4  ปีแล้วจะมีกำไรหรือเปล่า แต่ถ้า 9-10 ปี มีโอกาสสูงมากๆเลยครับที่จะได้กำไร ผมไม่ได้ตอบกวนๆ ด้วยความสัตย์จริงครับ เพราะสถิติ มันเป็นอย่างนั้นครับ โดย Jho_Jho พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2005 9:27 am

การค้าขาย 5 อย่างที่อุบาสกไม่ควรทำ "ไม่ควร" กับ "ข้อห้าม" มีความแตกต่างกัน ผมว่า ท่าน ครรชิต ได้ให้ความเห็นในความหมาย "ไม่ควร" ได้อย่างชัดเจนดีครับ โดย Jho_Jho พุธ ก.ย. 14, 2005 10:38 am

อยากลงทุนในหุ้นปันผลดีๆ สักตัว ช่วยแนะนำกันหน่อยค่ะ หุ้นปันผลดีๆ ยาวๆ ต่อเนื่อง อาจมาจากธุรกิจที่มีความมั่นคงทางรายได้สูงครับ แต่จะต้องแลกกับต้นทุนคือการเจริญเติบโตต่ำ Peter Lynch เคยให้ความเห็นว่า หุ้นประเภทนี้เหมาะสำหรับ แม่หม้าย และเด็กพิการ ถ้ายังใหม่ต่อการลงทุนในหุ้น ผมว่า ทางเลือกที่เสียงน้อยกว่า คือ ลงทุนในกองทุนครับ หรือถ้าถือคติที่ว่า no pain no gain ก็ลองเริ่มจากน้อยๆ ก่อนก็ได้ครับ โดย Jho_Jho พุธ ก.ย. 14, 2005 10:29 am

การค้าขาย 5 อย่างที่อุบาสกไม่ควรทำ ขออนุญาตให้ความเห็นอย่างกลางๆ ครับ ธุรกิจทั่วไปก็อาศัยกำไรจากการทำลายสภาพแวดล้อมอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่แล้ว ข้อพิจารณาการลงทุนน่าจะไปดูที่ business ethic มากกว่าครับ โดย Jho_Jho พุธ ก.ย. 14, 2005 9:36 am

ทำไมหุ้น IPOถึงต่ำกว่าจองครับ "ทำไมหุ้น IPOถึงต่ำกว่าจอง"? คุณเคยซื้อสินค้าจากพ่อค้าร้านค้าปลีกทั่วไปมั๊ย เคยเห็นมั๊ยที่พ่อค้ามีต้นทุนสินค้า 10 บาท แล้วใจดี ขายให้คุณ 7.50 บาท เคยเจอแต่ บอกว่า โอ้ยย.... กันเอ้ง กันเอง เนี๊ยะลดพิเศษให้ 25% เลยหนะ  12.5 บาทเอง ยอมขาดทุนหนะเนี๊ย.... เหตุที่นักลงทุนขาดทุนจากหุ้น IPO นั้น สาเหตุหลักๆ ..... 1. ก็รู้กันทั่วแล้วนี่ครับ  ตบแต่งบัญชีให้ดูดี (ประมาณว่า ย้อมแมว) 2. ที่ปรึกษาทางการเงิน มีการแข่งขันกัน  ใครไม่ยอมก็ไม่ได้งาน 3. จังหวะ เวลา พ่อค้ามักเลือกช่วง peak ของธุรกิจ ในการเข้าตลาดเพราะได้ราคาดี    เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก  พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (เช่น ATC      ตอนเข้าตลาดเมื่อหลายปีที่แล้ว ราคา IPO 35 บาท) ... ฯลฯ แต่เราเองก็มีทางเลือกนี่ครับ ก็ไม่เคยมีใครมาบังคับเราให้ซื้อหุ้น IPO ไม่ใช่เหรอครับ โดย Jho_Jho พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2005 11:21 am

ทำไมคนไทยทำโรตีไม่อร่อยเท่าคนอินเดีย ก็ต้องตั้งคำจำกัดความคำว่า "อร่อย" กันก่อนครับ พวกเราคงทราบกันมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วมั่งครับ ว่าลิ้นเป็นตัวรับรส อย่างนั้นความอร่อยก็น่าจะอยู่ที่ลิ้นของแต่ละคน  แต่เรื่องนี้มีคนไม่เชื่อครับ เขาก็ไปทดลอง ตามระเบียบวิธีทดลองครับ ..... ผลออกมา.... ลิ้นมีส่วนในความอร่อยของอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ความอร่อยส่วนใหญ่เลยมาจาก จมูกครับ  และอีกเล็กน้อยครับ ที่มาจากตา (มองเห็นอาหารตอนทานทำให้รู้สึกอร่อยยิ่งขึ้น) ผมว่า ก็คงฝีมือส่วนหนึ่ง และจิตวิทยาอีกส่วนนึงครับ โดย Jho_Jho อังคาร ก.ย. 06, 2005 11:22 pm

การลงทุนแนว VI ไม่เหมาะกับโลกในยุค ศตวรรษที่ 21 คุณ ceo มีความคิดอะไรใหม่ๆ หนะครับ ผมอยากให้ความเห็นอย่างนี้ครับ ผมเคยอ่านหนังสือ the master of change ถ้าแปลเป็นไทยก็คงประมาณ " เหนือความเปลี่ยนแปลง" ธุรกิจที่ buffett เลือกลงทุนนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมียุทธวิธีในการดำรงอยู่ และเติบโต คล้ายกับที่เขาเขียนไว้ในหนังสือเลยครับ ผมว่าหลักการลงทุนของเขาคงใช้ได้อยู่ต่อไปครับ คุณ ceo ลองอ่านดูก็ได้หนะครับ เผื่อว่าจะได้ความคิดอะไรใหม่ๆ กับเรื่องนี้ครับ โดย Jho_Jho อังคาร ก.ย. 06, 2005 10:17 pm

PHATRA น่าสนใจไหมคะ (ท่าทาง EGAT จะเข้าตลาดแน่) กลับมาดูความเห็นในกระทู้นี้อีกครั้ง  ก็มีความเห็นจากท่านนักลงทุนค่อนข้างน้อยไปหน่อย อาจเป็นเพราะชาว VI ไม่ค่อยสนใจหุ้นในแนวนี้มากนักมังครับ ก็ต้องถามครับว่า ไม คุณ joy ถึงได้สนใจหุ้นประเภทนี้หละ? เป็นเพราะเห็น โบรกฯ เค้าเชียร์กัน ที่ บ หลักทรัพย์ดังกล่าว ที่จะนำ egat เข้าตลาดหรือเปล่า? อยากจะให้ความเห็นเพิ่มเติมอย่างนี้ครับ คนที่รู้เรื่องนี้ดี เข้าใจอุตสาหกรรมนี้เป็นอย่างดี ก็คือท่านนักวิเคราะห์นั่นแหละครับ เพราะงานนี้เค้าทำอยู่กับมือ เป็นที่ทราบๆกันอยู่โดยทั่วไปครับ ว่าท่านนักวิเคราะห์เนี๊ยะ เขาก็ชอบเปิด port กันในนามของญาติ หรือพักพวก กันอยู่ครับ ลองคิดดูสิครับ เป็นไปได้หรือครับ ที่หุ้นที่ว่านั้นจะ undervalue มากๆ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เขาเหล่านั้นก็จะไปซื้อตัดหน้าคุณ joy ได้ครับ คงจะหาคนที่เห็นประโยชน์ต่อคนอื่นได้น้อยกว่าเห็นประโยชน์ของตนเองได้ยากมังครับ เอาหละถ้าเราไม่สนใจตรงนั้น ตัดสินใจเข้าไป เข้าไป ซื้อๆ ขายๆ (เพราะหุ้นประเภทนี้ต้องเข้าเร็วออกเร็วครับ) คำถามที่ตามมา เรากำลังแข่งขันอยู่กับใคร? ไม่ต้องตอบก็พอเดาได้ครับ รายย่อยอย่างเรากำลังแข่งขันอยู่กับคนที่เขาเข้าใจและทำอยู่เองกับมือ จะเหลืออะไรหละครับ คุณ joy ลองมองย้อนกลับไปดูสิครับ ในอดีตคนที่เล่นหุ้นกลุ่มนี้เขามีสภาพกันอย่างไร ก็ลองถามความเห็นคนอื่นๆดูอีกหนะครับ ฟังความเห็นของผมอาจจะดู bias ไปหน่อย โดย Jho_Jho จันทร์ ก.ย. 05, 2005 11:57 pm

PHATRA น่าสนใจไหมคะ (ท่าทาง EGAT จะเข้าตลาดแน่) phatra เป็นลูกที่แม่รักน้อยครับ แม่เขารักลูกที่ชื่อ ksec มากกว่า แต่ ksec ยังไม่เข้าตลาด ดูหนังสือพิมม์ผ่านๆ บล บัวหลวงบอกว่า undervalue ถึงสองเท่าครับ แต่ถ้าคุณ joy อยากจะเป็นนักลงทุนที่ไม่ขาดทุน ผมว่าทางเลือกที่ดีกว่าคือวิเคราะห์เอาเองครับผม ปกติ market cap ขนาดนี้ เมือเที่ยบกับตลาดอื่นๆโดยทั่วไป มูลค่าชื่อขาย ก็ตกประมาณ 15,000 - 17,000 ล้านบาทต่อวันครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็หมายความว่า หุ้น finance ยังอยู่ที่ระดับที่ยังไม่น่าสนใจครับ ส่วน egat จะเข้าตลาดนั้น คงเพิ่ม maket cap เมื่อเทียบกับขนาดตลาดแล้ว ยังคงเป็น % ที่ไม่มากครับ ผมขออนุญาตตอบข้อมูลอย่างหยาบๆหนะครับ เพราะผมเอง ไม่สนใจที่จะลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ครับ ก็ระมัดระวังหน่อยหนะครับ กลุ่มนี้ช่วงนี้ก็เห็น โบรกฯ หลายๆที่เค้าเชียร์อยู่ครับ โดย Jho_Jho จันทร์ ก.ย. 05, 2005 2:47 pm

ทำไมผงชูรสถึงเป็นสินค้าควบคุมราคาคับ ออ ใช่ครับคุณ hot   ksl เขามีบริษัทลูกผลิตผงชูรสด้วยครับ  แต่ไม่น่าสนใจครับ โครงสร้างรายได้หลักมาจากนำตาล คุณ Amorna ครับ ไม่ใช่แต่ประเทศไทยเท่านั้นที่บริโภคผงชูรสกันเยอะ ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของเราหนักกว่าเราอีกครับผม ไล่ไปเลยครับ ตั้งแต่จีน เวียดนาม มาเลย์ อินโดนีเซีย ... โดยเฉพาะที่เวียดนาม ถ้าเป็นปลาต้ม ก็แทบเอาโรยไปบนตัวปลาเลยครับ และอาหารประเภท"หนูนาต้มนำใส  งูหั่นเป็นท่อนๆชิ้นๆ ขนาดนิ้วครึ่งต้ม." ลองคิดดูเถอะครับถ้าเราต้องทานอาหารแบบนี้ เรายังจะคิดว่าเค้าได้ใส่ผงชูรสลงไปหรือเปล่าอีกเหรอครับ อาหารที่ว่านี้ไม่ใช่คนยากไร้เค้าทานกันหนะครับ แต่มันอยู่บนโต๊ะระดับผู้ว่าเลยทีเดียว อย่าซีเรียสเลยครับคุณ Amorna ถึงชีวิตจะสั่นลงหน่อย แต่เป็นชีวิตที่มีความสุข ก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ โดย Jho_Jho ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 11:05 am

ทำไมผงชูรสถึงเป็นสินค้าควบคุมราคาคับ ผงชูรส เป็นสินค้าควบคุม  ผมเข้าใจว่าสินค้านี้ใช้กันอย่างกว้างขวางโดยทั่วไป กระทรวงพาณิชย์สามารถดึงเข้ามาเป็นสินค้าควบคุมได้ครับ จากรายงานการวิจัย ผงชูรสนั้นไม่ได้มีโทษต่อการบริโภค แต่ก็เช่นกันครับ มันก็ไม่ได้มีประโยชน์ ผมว่าทางที่ดี ในเมื่อไม่มีประโยชน์ ก็ไม่น่าใช้มันครับ ในตลาดหลักทรพย์บ้านเรานั้นไม่มีหุ้นผลิตผงชูรส  แต่ถ้า ayinomoto เข้าตลาดละก้อ ผมสนใจแน่นอน หุ้นแบบนี้ โดย Jho_Jho ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 9:30 am

ค่าจ้างคนไทย ถูกหรือแพงในสายตา นายจ้างต่างชาติ จากกระทู้ ก็ตอบยากครับ.... อัตราค่าครองชีพแต่ละประเทศต่างกัน เงินเฟ้อต่างกัน... ก็ขอแยก คำจำกัดความออกมาก่อนหนะครับเพื่อง่ายต่อการเปรียบเทียบ นายจ้างต่างชาติ " ไต้หวัน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา" คงไม่ต้องไปเทียบกับพวกเขา ใครๆ ก็รู้ครับ ค่าจ้างก็คงต้องเทียบกับประเทศเพือ่นบ้านเราครับ ที่พวกนายจ้างต่างชาติ เขาหอบเงินมาลงทุนและพิจารณาประเทศที่เขาต้องการ เช่น มาเลย์ ฟิลิปปินส์ อินโด อินโดค่าจ้างถูกกว่าไทย มาเลย์แพงกว่าครับ ฟิลิปปินส์นั้นค่าแรงขั้นตำแพงกว่าเราครับ ผมเองเคยทำงานเป็นวิศวกรของบริษัทลูกครึ่ง (ไทย+ต่างชาติ) ได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศค่าแรงถูกที่ว่าข้างต้น ได้คุยกับเพื่อนๆที่ฟิลิปปินส์ น่าแปลกก็คือว่า เพือ่นๆที่นั่นเขาชื่นชมไทยหนะ ที่ค่าแรงถูกกว่าคนของเขา เพราะว่าการที่ค่าแรงขั้นตำของพวกเขาแพงกว่าไทย พวกนักลงทุนเขาก็เลือกที่อื่นดีกว่าประเทศของเขา คนเขาก็ว่างงานกันเยอะครับ ต้องไปหางานต่างประเทศทำกัน แล้วค่าแรงขั้นตำเนี๊ยขึ้นแล้วลงยากครับ แค่เท่าเดิมก็ประท้วงกันแล้ว ที่อินโด ค่าแรงถูกกว่าก็จริง แต่การทำงานของพวกเขา.... แค่ยกปูนถุงนึงก็ถือกันคนละมุมถุง 4 คนต่อถุง พี่ไทยเราจับขึ้นบนบ่าคนเดียวสองถุงเลยครับ เป็นอะไรประมาณนั้นครับ โดยสรุปเมื่อเทียบงานที่ได้ต่อค่าจ้างโดยรวมๆ แล้ว เรายังเป็นต่อมากครับ ผมเข้าใจเอาเองว่า คุณ hot คงอยากทราบว่า เฉพาะค่าแรงงาน ของ บลจ ของเรานั้น ยังสู้เขาได้มั๊ย ผมก็ให้ความเห็นว่าถ้าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ว่ามานั้น เรายังคงได้เปรียบครับ แต่ถ้าเป็นจีน เราก็เสียเปรียบ ถ้าจะให้แยกลงไปอีก เช่น พวกเฟอร์นิเจอร์อะไรที่ไม่ได้แข่งกับจีนแต่แข่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่ว่านั้น เรายังคงครองความได้เปรียบต่อไปครับ กลุ่มสิ่งทอ เราก็ยังได้เปรียบประเทศเพื่อนบ้าน แต่แพ้จีนครับ โดย Jho_Jho พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 3:07 pm

กลุ่มโรงพยาบาล กับสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบัน ... ก็มีความเห็นเข้ามาหลายท่านหนะครับ บางทีข้อมูลกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ทำเอางงไปเหมือนกันครับ เช่น capacity ของโรงพยาบาล และ จำนวนเครื่องมือแพทย์ ตอนนี้ ของกรุงเทพ มีใกล้เคียงกับที่ London ... ก็ขอบคุณทุกๆ ความเห็นครับ ท่านปรัชญา ก็ ได้ให้ Positioning ของแต่ละโรงพยาบาลมา และให้ความเห็นว่าไม่มีผลกระทบอะไร... ท่าน Knott ก็ได้ให้ความเห็นถึงทิศทางการทำรายได้ของโรงพยาบาลในอนาคต จากอดีต ที่มีโรคทางการติดเชื้อมาก ปัจจุบัน และอนาคต รายได้จะมาจากการรักษาโรคที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อแทน และจาก topics ที่แยกแต่ละโรงพยาบาล ก็ยังมองอนาคตโดยรวมๆ ก็ยังดีอยู่ ก็คล้ายๆกับความเห็นของเพื่อนๆผมในห้องค้าครับ จริงๆ ผมเคยชื้อหุ้น ram เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และเพิ่งขายไปเมือต้นปี ตอนนี้ราคาหุ้นก็ได้วิ่งขึ้นไปอีกมาก เมือได้ฟังความเห็นของเพื่อนๆแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกว่า "ตัวเองได้ทำอะไรที่โง่ๆไปแล้วครับ" โดย Jho_Jho พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 2:23 pm

น้ำมันแต่ละปั้มไม่ไช่ แบบเดียวกันหรือคับ น้ำมันแต่ละปั้มไม่ไช่ แบบเดียวกันหรือ? คืองี้ครับคุณ hot พวกปั๊มนำมันต่างๆ เนี๊ย เขาก็ชื้อนำมัน มาจากโรงกลั่นที่มีอยู่ในประเทศเรานั่นแหละครับ และบางส่วนเราก็นำเข้า ครับ เพราะว่าเวลากลั่น มันจะได้นำมันที่ออกมาตามสัดส่วนของมัน เผอิญว่าเราใช้ ดีเซล ในสัดส่วนที่มากไปหน่อย ก็เลยต้องนำเข้ามาชดเชยครับ ปั๊มนำมันต่างๆ เหล่านั้น เมื่อซื้อไปแล้วก็จะใส่ additive อันนี้เป็นของใครของมันครับ นำมันแต่ละปั๊มก็เลยมีความต่างกันเพียงเล็กน้อยครับผม โดย Jho_Jho พุธ ส.ค. 31, 2005 10:56 am

กลุ่มโรงพยาบาล กับสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบัน ว้า .............  ขายหน้าจังเลย เพิ่งเป็นน้องใหม่ ก็เลยลอง Post   topic ข้างบนนี้ดู ไม่มีใครมาแจมด้วยเลย .... จะลบออก ก็ไม่รู้ว่าทำอย่างไร ขายหน้า ขายหน้า.............. โดย Jho_Jho อังคาร ส.ค. 30, 2005 10:11 pm

สมัยก่อนที่ มีการล่าอนานิคมกัน เรื่องมันยาวหนะครับ เริ่มจากล่าอานานิคม จนมาถึงสงครามนิวเคลียร์ ยาวแล้วก็ขอยืดออกไปอีกครับ 555 ผมว่าสมัยก่อนสองประเทศมหาอำนาจตะวันตก ได้ล่าอานานิคม แล้วยึดเอาทรัพยากรมากมายจากพวกเราไป ไปใช้ ไปเป็นวัตถุดิบพัฒนาประเทศของเขา วันนี้เขาพัฒนา เขาเจริญก้าวหน้าแล้ว เราควรจะเรียกดอกเบี้ยคืนบ้างดีมั๊ย? จากการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาของพวกเขา copy เทคโนโลยีของพวกเขาบ้าง ดีมั๊ย? โดย Jho_Jho อังคาร ส.ค. 30, 2005 9:58 am

แก๊สโซฮอล์ (Gassohol) คุณ dingding ครับ ขออนุญาตแสดงความเห็นเพิ่มเติมเรือ่ง gassohol หนะครับ ก็ชื่นชมหนะครับที่เขียนเรียบเรียงได้ดีมากครับ จากตัวเลขที่คุณ dingding บอกว่า จะช่วยลดการใช้น้ำมันของประเทศลงได้ประมาณ 10% หรือเดือนละ 25 ล้านลิตร นั้นมาจากใหนเหรอครับ เพราะเท่าที่ทราบ เราไม่มีวัตถุดิบเพียงพอที่จะผลิตได้มากขนาดนั้นหนะครับ ระดับตัวเลขนั้นเราคงต้องเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกพืชวัตถุดิบอีกมากครับ โดย Jho_Jho จันทร์ ส.ค. 29, 2005 2:26 pm

เอทานอลในต่างประเทศถูกกว่าไทยเราผลิตเองแค่ไหนคับ วันนี้ วันหยุด ไม่ค่อยมีกระทู้อะไรอ่าน เลยมาคุยในกระทู้คุณ hot ต่อ ประเด็นการนำเข้า เอทานอลครับที่ถูกกว่าจากต่างประเทศ จริงๆผมคิดว่ามันจะไม่ถูกกว่าตลอดไปตลอดเวลาครับ คืออย่างนี้ครับ ราคาวัตถุดิบจากการเกษตรนั้นนะ มันมีปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่แน่นอนสูง เช่น ภัยแล้ง นำท่วม โรคระบาดของพืชต่างๆ ครับ อย่างตอนนี้ของเรานอกจากต้นทุนสูงกว่าจากผลิตปกติแล้วก็ยังเพิ่มเรื่องภัยแล้งเข้ามาอีกเลยไปกันใหญ่เลยครับ ปัญหาก็มีอยู่ว่า ปริมาณและราคาจากต่างประเทศไม่แน่นอนหละ แล้วบริษัทนำมันในประเทศเราจะตั้งราคาอย่างไร? แล้วจุดประสงค์ของเราที่ต้องการลดดุลการค้าต่างประเทศแต่ดันไปนำเข้าเอทานอลแทนนำมัน มันแทบไม่เหลือส่วนต่างอะไรมากนัก ผมว่าถ้าเรายังต้องการที่จะผลิตเอทาลนอล ก็ควรหาทางลดต้นทุน โดยการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง อันนี้จะต้องแลกด้วย "เวลา" ครับ อย่างที่สองเรื่องวัตถุดิบ เราไม่ควรที่จะไปทำลายโครงสร้างเดิมครับ คือเวลานี้ จริงๆ แล้ววัตถุดิบเหล่านั้น เราส่งออกไปต่างประเทศอยู่แล้วครับ เช่น ผลผลิตมันสำปะหลัง เราส่งออกถึง 50% ของที่เราผลิตได้เลยทีเดียว เราควรจะหาแหล่งใหม่ครับ เช่น ปลูกมันสำปะหลัง ในพื้นที่ทำนา ที่ทำนาเพียงครั้งเดียวในหนึ่งปี อันนี้จะทำให้การใช้พื้นที่ทางการเกษตรคุ้มค่ามากขึ้น และผลประโยชน์ก็จะได้ถึงมือเกษตรครับ ส่วนโรงงานที่มีอยู่แล้วนะ คุณ hot ไม่ต้องห่วงครับ เพราะ เอทาลนอลมัน สามารถ applies ไปใช้ได้ในหลายๆ industry ครับ โดย Jho_Jho อาทิตย์ ส.ค. 28, 2005 10:29 am

เอทานอลในต่างประเทศถูกกว่าไทยเราผลิตเองแค่ไหนคับ คุณ hot ครับ ผมเปิดอ่านกระทู้ต่างๆ ผ่านๆ มาเจอกระทู้นี้ของคุณก็เห็นว่างๆ ไม่มีอะไรเลย ก็เรื่องนี้ผมอยากให้ความเห็นอย่างนี้ครับ โดยอาชีพผม เป็นวิศวกร และพอมีความรู้ทางด้านนี้อยู่บ้าง เรื่อง เอทานอล ที่จะเอาไปผสมกับนำมัน แล้วได้ ก๊าสโซฮอล มานั้นนะ มันเป็นเรื่องการตลาดของบริษัท นำมันมากกว่าครับ คื่อ ขอตั้งประเด็นต่อว่า ก๊าสโซฮอลมันช่วยชาติลดการขาดดุลการค้าได้จริงหรือ? เอทานอล ผลิต มาจากวัตถุดิบเช่น 1. หัวมันสำปะหลัง 2. โมลาส 3. กากมันสำปะหลัง (ตัวนี้ ค่าวัตถุดิบจะมีราคาถูก แต่ต้นทุนค่า process แพง และ ค่าเคมีที่ต้องนำเข้าก็แพงค่อนข้างมาก จนทำให้การผลิตได้ผลไม่คุ้มค่า) ระดับกำลังการผลิตที่คุ่มค่าต่อการลงทุนนั้น ก็ ประมาณ 150 000 l/dd(24hr) ต้นทุนต่อ ลิตร เมื่อก่อนโน้นตอนวัตถุดิบราคาถูกนั้นก็ประมาณ 18 บาท แล้วครับ (ราคานำมันตอนนั้น 15-16 บาทครับ) ตอนนี้ผมคิดว่า ต้นทุนคงประมาณ 20 ต้นๆ แล้วครับ ราคา plant ก็ประมาณ 2000 - 3000 ล้านบาทครับ เอาหละทีนี้ ถามว่า เอทานอลทำไมมันแพงกว่าต่างประเทศเค้าหละ 1. ประเทศไทย มีพืนที่ ขนาดเล็กกว่า บราชิล เพราะงั้น พื้นที่เพาะปลูกตัววัตถุดิบ ต่อตันจะมีราคาสูงกว่า อีกอย่าง เช่นโมลาส เทคโนโลยีโรงงานหีบอ้อยเราพัตนาทันสมัยมากขึ้น ทำให้เหลือโมลาสน้อยลงจากการหีบออ้ยครับ 2. เรานำเข้าเทคโนโลยี เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต โดยเฉพาะตัวหอกลั่นจะมีราคาแพงมากๆ ส่วนตัวเครื่องจักรที่เราผลิตได้ในประเทศบางส่วนนั้นนะ มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยครับ ครับ, เมื่อเป็นอย่างนี้ ราคาสุดท้ายของเอทานอลมันก็ต้องแพงกว่าครับ และคำถามที่ว่า ก๊าสโซฮอลมันช่วยชาติลดการขาดดุลการค้าได้จริงหรือ ผมก็อยากบอกว่า เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจครับ คืออย่างนี้ครับ เราเอาผลผลิตทางการเกษตร มาผลิตแล้วเอาไปผสมนำมัน ทำให้เกษตรกร มีผู้มาแย่งซื้อวัตถุดิบเป็นการถ่วงดุล ไม่ให้ผู้ผลิตสินค้าตัวอื่นที่นำวัตถุดิบตัวเดียวกันนั้นใช้กดราคาอย่างที่เคยเคยครับ แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกรยังได้ราคาไม่ต่างจากเดิมอย่างมีความหมายมากนัก เราะถ้าแพงไปผู้ผลิตเอทานอลเองก็จะไม่คุ้มค่าในการผลิตครับ ครับ ดูเหมือนเราจะลดการนำเข้านำมันได้ แต่ เรานำเข้าเครื่องจักรแทน(และมีราคาแพงครับ) ถ้านำมันยังคงแพงต่อไปอย่างนี้หลายสิบปีก็พอไหวครับ แต่ถ้านำมันถูกลงระดับ 30-40 USD/BAR ในไม่กี่ปีหลังจากนี้ มันเกิดผลด้านลบต่อการลงทุนเรื่องนี้มากกว่าครับ โดย Jho_Jho เสาร์ ส.ค. 27, 2005 10:34 pm