ชาว ThaiVI มีค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละเท่าไหร่ ลูก 3 คน ภรรยา 1 คน    บ้านไม่ต้องเช่า   รถไม่ต้องผ่อน  ตกเดือนละ 6 หมื่น บาทครับ โดย milkshaq จันทร์ ส.ค. 09, 2010 10:42 pm

กลุ่มบรรจุภัณฑ์ PKG Tpac นิ่งจริงๆครับ โดย milkshaq จันทร์ ส.ค. 09, 2010 5:46 pm

ธนชาต จะตัดสิทธิ์ในการเข้าใช้ Streaming ถ้าหยุดซื้อขายเกิน 6 หลายๆ โบรคก็ใช้ กฏ นี้อยู่แล้วครับ   แต่ไม่แน่ใจว่าทุกโบรค หรือเปล่า โดย milkshaq ศุกร์ ก.ค. 23, 2010 9:45 am

อ่านไม่ออกเลย เครื่องอยู่ safe mode ตลอดเวลา ทีเค เชียร์หงส์หรือครับ ผมก็สาวกหงส์เหมือนกันครับ โดย milkshaq พุธ ธ.ค. 03, 2003 10:15 pm

เห็นเพื่อนๆ พี่ๆ ได้หุ้นจองกันแล้วอิจฉาจัง ผมได้กิมเอ็งมา 200 หุ้นเองครับ ก่อนนี้สดๆร้อนๆ ก็มี ระยองเพียวกับ สคิบ ก็ได้หลักพัน ล่าสุด สิงห์พาราเทค น่าจะได้หลักร้อยอีกแล้วครับ โดย milkshaq พุธ ธ.ค. 03, 2003 10:13 pm

มีใครตอบได้บ้าง ผมได้มา 200 หุ้น คงได้แต่กินเอง จะพาเพื่อนไปเลี้ยงคงไม่พอครับ โดย milkshaq อังคาร ธ.ค. 02, 2003 11:37 pm

ช่วยวจารย์portด้วยครับอยากเปลี่ยนมาศึกษาแนวทางVI ที่ว่ามาช่วงนี้ผมชอบ pf ตัวเดียวครับ โดย milkshaq พุธ พ.ย. 19, 2003 1:07 am

ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับ ESTAR ด้วยค่ะ คงต้องรอประมาณ Q1 ปีหน้าครับ โดย milkshaq พุธ พ.ย. 19, 2003 12:57 am

มีใครได้ ปิคนิค ไหมครับ ผมไม่ได้ picni เลย ได้แต่ ระยองเพียว พันหุ้น โดย milkshaq พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2003 11:18 pm

ผิดไหมถ้าคิดจะเก็งกำไร เป็นไงบ้างครับ คุณจีนี่ กำไรกี่% แล้วครับ โดย milkshaq อาทิตย์ พ.ย. 02, 2003 11:32 pm

เกิดอะไรขึ้นกับ LEE ครับ????? ไม่ดีเลยครับ ราคามันวิ่งขึ้นมาก่อนล่วงหน้า ห้า หก วันแล้ว เหมือนเล่นข่าว inside กัน ก่อนเลย ผมว่ามันไม่ค่อยแฟร์เลย โดย milkshaq เสาร์ พ.ย. 01, 2003 12:05 am

ไทโอลิฟิล ลืมไปครับ เที่ยวนี้ผมได้ sc asset มา 2900 หุ้นครับ (น้อยจัง) โดย milkshaq ศุกร์ ต.ค. 31, 2003 11:43 pm

ไทโอลิฟิล ป๋มไม่ได้ปั่นหุ้นนะครับ แค่นี้ไม่พอปั่นหรอกครับ เจอบางคนเทรดวันนึง 10 ล้าน แทบทุกวันก็เห็นกันมาจะๆแล้วครับ แค่นั้นยังไม่พอปั่นเลยครับ พอดีไม่รู้ว่าตัวเองเทรดเท่านี้หรอกครับ มาร์บอกเลยเพิ่งรู้ ปกติเทรดไม่บ่อยมากครับ บางวันก็ไม่ได้เทรดเลย บางอาทิตย์ไม่ได้เทรดเลย แต่อาศัย ซื้อขายครั้งละหนักๆครับ ก็เลยทำให้ยอดมันดูเยอะครับ ผมซื้อไม้นึงน้อยสุดก็ประมาณ สามแสน up ครับ แต่ยอดเท่านี้ผู้จัดการโบรกผมบอก ประมาณกลางๆครับ ไม่จัดว่าเยอะอะไร โดย milkshaq ศุกร์ ต.ค. 31, 2003 11:41 pm

เรื่องนัดกันกลุ่มย่อย ในวันที่ 1 พ.ย. :cry: :cry: :cry: อยากไปบ้าง แต่อยู่ต่างจังหวัด อีกอย่าง แฟนก็กลับไปบ้านเค้าที่ต่างจังหวัด(อีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งห่างจากจังหวัดที่ผมอยู่ประมาณ 1700 กิโลเมตร) ผมก็เลยอดไปกินเลย :cry: :cry: :cry: โดย milkshaq ศุกร์ ต.ค. 31, 2003 11:08 pm

เก่งหรือเฮง ผมว่าถ้าเทียบกัน เฮงดีกว่าเก่ง เพราะเฮงเราตั้งใจทำขึ้นมาไม่ได้ แต่เก่งถ้าเราตั้งใจ มุ่งมั่น มันทำกันได้ แต่ประเด็นจริงๆที่บอกว่าระยะยาวเก่งดีกว่าเฮง เนื่องจากถ้าเก่งแล้วตามแนวโน้มมักจะเก่งได้เรื่อยๆ คือเก่งระยะยาวได้ และคนที่เก่งถึงแม้จะไม่เฮงมาก แต่ก็คงไม่ซวยไปตลอดคงมีจังหวะที่จะเฮงบ้างตามจังหวะของมัน แต่เฮง หายากครับที่จะอาศัยแต่เฮงไปตลอดโดยไม่มีความเก่งเลย แล้วถ้าคนเฮงบ่อยๆก็จะไม่ค่อยฝึกฝนความเก่งของตน เพราะคิดว่าเฮงอยู่แล้ว เดี๋ยวอาศัยความเฮงก็รอดเอง แต่ความเฮงมันไม่เฮงกันตลอดทั้งชีวิต พอถึงช่วงที่ความเฮงหายไป ทีนี้พอไม่มีความเก่งประกอบ ก็เสร็จเลยครับ ดังนั้นผมเห็นด้วยกับคุณเจ๋งครับ ในระยะยาว เก่งน่าจะดีกว่าเฮง แต่ผมว่าเจ๋งน่าจะดีกว่าเพื่อนนะครับ(ทั้ง เก่ง+เฮง) โดย milkshaq พฤหัสฯ. ต.ค. 30, 2003 5:27 am

เก่งหรือเฮง กำไร 100% ในช่วงนี้ผมเชื่อครับ ยิ่งถ้ามีเงินลงทุนน้อยๆ ยิ่งมีโอกาสไม่ยากครับ เพราะน้องๆบางคนที่คุยกับผมทาง msn บอกกับผมว่ามีหุ้นตัวนึงเต็มพอร์ทเลย แล้วบอกเก็บไว้ไม่ขาย ผมเช็คดูแล้ว เค้าได้กำไรเกิน 100% ในเวลาไม่ถึงเดือนเลยครับ แล้วที่คุณเอกบอกว่าถ้าบอกได้กำไรร้อยเปอร์เซ็นต์ใครจะเชื่อ ใครบอกมาผมเชื่อครับ เพราะมันก็ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งถึงผมเชื่อก็ไม่ได้เสียหายอะไร และผมก็ดีใจกับเขาด้วยครับ โดย milkshaq อังคาร ต.ค. 28, 2003 11:38 pm

ไทโอลิฟิล ผมเทรดเดือนละ สามสิบล้าน ได้มาแค่ 100 หุ้นเองครับ เซ็งเลยครับ พี่ปรัชญา สงสัยต้องตามไปเทรดซิกโก้บ้างซะแล้ว โดย milkshaq อังคาร ต.ค. 28, 2003 11:32 pm

พี่ครรชิตครับ ผมก็มีครับ STA มีอยู่ แปดพันหุ้น ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิ์ครับ ปกติไม่เคยเล่นหุ้นกลุ่มเกษตร แต่ตัวนี้อยากลองเล่นดูเล่นๆครับ เลยซื้อมาทดลองนิดหน่อย ก็คงเก็บไว้ลุ้นกับทุกคนครับ โดย milkshaq อังคาร ต.ค. 28, 2003 11:21 pm

ส่งรูปลูกชาย มาให้เฮียปรัชญา ดู ป๋มอยู่ต่างจังหวัดครับ คงต้องรออีกสักพักครับ เนื่องจากตอนนี้มีงานสอนเยอะมากครับ ยังไงก็ขอให้โชคดีในหุ้นครับ ผมจะไปอุดหนุน แมคโคร กับบิ๊กซี ให้ท่านเจ๋งบ่อยๆแล้วกันนะครับ โดย milkshaq อังคาร ต.ค. 28, 2003 1:30 am

ส่งรูปลูกชาย มาให้เฮียปรัชญา ดู ท่านเจ๋งน่าจะโพสต์รูปตัวเองบ้างนะครับ จะได้เปรียบเทียบกับรูปลูกชายว่าใครหล่อกว่ากัน เห็นหลายๆท่านบอกหน้าเหมือนกันก็เลยอยากเห็นครับ อีกอย่างผมจะได้ดักปล้นได้ถูกคน :D โดย milkshaq จันทร์ ต.ค. 27, 2003 3:12 am

ส่งรูปลูกชาย มาให้เฮียปรัชญา ดู หน้าหวานมากเลยครับ ตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงซะอีก หน้าหวานอย่างนี้โตมาต้องหล่อแน่ๆครับ โดย milkshaq เสาร์ ต.ค. 25, 2003 3:44 pm

หุ้นขึ้น 600 กว่าจุดเพื่อนๆเป็นไงบ้าง ผมงงครับคิดอะไรไม่ออก ทำไมหุ้นบวกเยอะจัง แต่พอร์ทไม่ค่อยขยับเลย บวกเป็นสิบนี่เหมือนบวกซักสองจุด บวกสี่จุดก็เหมือนบวก จุดเดียว โดย milkshaq เสาร์ ต.ค. 25, 2003 3:35 pm

เล่นครั้งแรก (ขอคำแนะนำหน่อยครับ) ขอบคุณมากครับท่านเจ๋ง :D แต่ตอนนี้ไม้พาร์ติเกิ้ล วอร์แรนต์จะหมดแล้วครับ แปลงกันจนจะเกลี้ยงแล้ว ตัวนี้ผมไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ เพราะพื้นฐานมันมี แต่พวกอย่าง B-LAND ผมกลัวจริงๆ ไม่รู้มันขึ้นมาได้ไง หนี้สินบานเบอะ ผมด่าหุ้นตัวนี้มาตั้งแต่สี่บาท บอกว่ามันขึ้นมาได้ไง จะแซงอมตะเลยเหรอ ปัจจุบันมันทิ้งไม่เห็นฝุ่นเลย อาทิตย์ก่อนโดนอาซิ้มในห้องค้าแซวเจ็บๆเลย เพราะไปว่าจนแกไม่กล้าเล่น พอหุ้นมันขึ้นมาขนาดนี้เลยโดยว่าเลย แต่ยังไงผมก็ไม่เล่นแน่ๆ หุ้นแบบนี้ โดย milkshaq อาทิตย์ ต.ค. 19, 2003 11:59 pm

ท่าน milshaq ช่วยอธิบายสถานการณ์ ปัจจุบันให้ฟังหน่อยซิ เห็นด้วย 100% ครับ ผมยังงงตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ที่เห็นอยู่ๆ หุ้นมันก็ลงมาแบบไม่มีเหตุผลเท่าไหร่ ยังไงผมก็ยังเชื่อว่าเทรน ตลาด ยังดีอยู่ครับ โดย milkshaq อังคาร ต.ค. 14, 2003 12:34 am

ท่าน milshaq ช่วยอธิบายสถานการณ์ ปัจจุบันให้ฟังหน่อยซิ ผมชอบนำเสนอประเด็นความเห็นมากกว่าครับ ถ้าอยู่ๆให้เสนอความเห็นโดยไม่รู้หัวข้อ ไม่ค่อยถนัดครับ รอฟังคุณเจ๋งดีกว่า โดย milkshaq จันทร์ ต.ค. 13, 2003 11:18 pm

เล่นครั้งแรก (ขอคำแนะนำหน่อยครับ) ผมไม่รู้ครับว่าผมเป็นพวกไหน ระหว่างเก็งกำไรหรือนักลงทุน แต่ที่ แน่ๆ ก่อนที่ผมจะซื้อหุ้นแต่ละตัว ผมจะต้องศึกษาหุ้นที่จะซื้อให้ดีก่อน ว่ามันทำอะไร จุดอ่อนจุดแข็งคืออะไร มี story อะไรให้เล่นบ้าง แล้วซื้อด้วยเหตุผลอะไร มันดีกว่าหุ้นอื่นๆอีก เกือบสี่ร้อยตัวในกระดาน ตรงไหน แล้วราคาหุ้นตอนนี้สมเหตุสมผลไหม p/e เป็นไง p/b ล่ะ รับได้ไหม เมื่อซื้อแล้ว ถ้าสมมติผมถืออยู่แล้วราคาหุ้น มันวิ่งลง ผมก็จะซื้อเพิ่ม(ลงมาระดับหนึ่ง และปัจจัยพื้นฐานไม่ เปลี่ยน) แต่ถ้าสมมติผมถืออยู่ได้สี่วัน ปรากฏว่าวันที่สี่ มันวิ่งบ้าเลือด จนติดเพดาน ซึ่งผมมองแล้วว่ามันวิ่งเร็วเกินพื้นฐานไปแล้ว ผมก็ขาย ทิ้ง แล้วพอวันต่อมามันก็ตกลง จากนั้นอาทิตย์ต่อมาผมเห็นมัน ราคาลงมาสมเหตุสมผลที่จะซื้อ ผมก็กลับไปซื้อใหม่ แล้วถ้าราคา มันค่อยๆขึ้น ผมก็ถือไปเรื่อยๆ อาจจะสองปีสามปีหรือสิบปี? อย่างนี้ ผมจัดอยู่ในพวกไหนครับ แต่ที่แน่ๆ ผมไม่ใช่พวกเล่นซื้อเช้าขาย เย็นแน่ๆ และที่แน่ๆอีกเหมือนกัน ก่อนที่ผมจะซื้อหุ้นแต่ละตัว ผมเก็งว่ากำไรแน่ๆครับ(เก็งแปลว่าคาดการณ์) เลยซื้อหุ้นตัวนั้น ส่วน ถ้าผมเก็งแล้วว่าซื้อหุ้นตัวนั้นแล้วน่าจะขาดทุนแน่ๆ ผมคงไม่ซื้อ อย่าง นี้ผมเป็นพวกเก็งกำไรมั๊ยครับ จริงๆแล้วอยากเป็นนักลงทุนครับ แต่ ผมคิดว่าพวกที่ทำธุระกิจในปัจจุบันนี้ ก่อนที่เขาจะลงทุนเค้าก็คิดแล้วว่า ลงทุนแล้ว น่าจะกำไรแน่ๆ เลยลงทุน ซึ่งเมื่อลงทุนแล้วอาจจะสัก 4-5 ปีน่าจะคืนทุน แต่สมมติเริ่มลงทุนไปได้สองวัน มีคนมาซื้อ กิจการต่อโดยให้ราคาสูงมากๆ เรียกว่าเกินมูลค่าของกิจการที่น่าจะ เป็น ซึ่งก็ไม่รุ้ว่าคนที่มาซื้อต่อ คิดบ้าอะไรขึ้นมา ถ้าผมเป็นเจ้าของ กิจการผมก็ขายครับ แล้วผมค่อยมาลงทุนทำใหม่ก็ได้ แนวความคิด นี้ก็คล้ายกับแนวทางการเล่นหุ้นของผมครับ ผมซื้อหุ้นมาเพราะผม ชอบแนวทางกิจการรวมถึงมูลค่าของหุ้นตัวนั้นซึ่งไม่สูงเกินไป ซื้อแล้ว คิดว่ากิจการนี้น่าจะทำกำไรให้ผมได้แน่นอน แต่วันดีคืนดี มีใครก็ไม่รู้ มาบอกขอซื้อหุ้นกิจการที่ผมลงทุนด้วยราคาที่สูงแบบโอเวอร์ ผมเห็น ดังนั้นผมก็ขายให้ ถ้าเค้าซื้อจากผมไปแล้ว ผมทราบข่าวว่า มีใคร ก็ไม่รู้ไปซื้อต่อจากเค้าในราคาที่สูงขึ้นไปอีก ผมก็ไม่เสียใจอะไร เพราะคิดว่าราคาที่ผมขายให้เค้ามันก็โอเวอร์เกินเหตุแล้ว แต่สมมติ วันดีคืนดี คนที่ซื้อต่อจากผมเค้าเกิดเบื่อกิจการที่เค้าซื้อไป ก็เอาหุ้น มาขายบนกระดานด้วยราคาถูกๆ ผมเห็นว่ามันถูกมากๆแล้วผมก็ชอบก็ เลยกลับเข้าไปซื้อใหม่ อย่างนี้เรียกผมว่านักลงทุนหรือเก็งกำไรครับ แล้วจะให้ผมทำยังไงดีครับ ราคาที่เค้าเสนอมันก็สูงมากจนเกินมูลค่า แต่ผมก็ยังอยากได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุน ดังนั้นจะให้ผมไม่ขายหรือ ครับ อีกอย่างสมมติผมจะลงทุนทำกิจการสักอย่าง ผมก็ต้องมองแล้ว ว่ากิจการนั้นน่าจะทำกำไรให้ผมดีที่สุด ถ้าทำแล้วขาดทุนผมไม่ทำแน่ ขณะที่กิจการที่ผมลงทุนทำอยู่ เป็นกิจการที่ผมถนัด ผมรัก และไม่ได้ ทำแบบหวังว่าลงทุนทำวันนี้เช้า เดี๋ยวเย็นผมขายกิจการทิ้งแน่ แต่ทาง สมาคมบอกว่าทำกิจการอย่างนี้เช่นขายไม้ปาร์ติเกิ้ล ไม่ถือเป็นนักลง ทุน ต้องขายมาม่าหรือขายกางเกงในสิ ถึงเป็นนักลงทุน อย่างนี้ผม ก็อยากเป็นนักลงทุน และคิดว่าตัวเองเป็นนักลงทุน ดังนั้นผมจึงต้องจำ ใจทิ้งกิจการไม้ปาร์ติเกิ้ล แล้วไปทำกิจการมาม่าแทนหรือครับ อยาก ขอความเห็นนะครับ ผมอยากเป็นนักลงทุนจริงๆครับ แต่ต้องลงทุน แล้วคาดการณ์หรือเก็งว่าลงทุนแล้วต้องกำไรครับ โดย milkshaq จันทร์ ต.ค. 13, 2003 10:25 pm

ผมกำลังว่างมาก ผมอยากเรียนคร๊าบ ขอสมัครคนแรกเลย แต่ไม่เอาวิธีเล่นหุ้นแบบวอร์เรนต์นะครับ อ่านมาเยอะแล้ว ขอวิธีเล่นหุ้นแบบท่านเจ๋งดีกว่า อยากเรียนมากครับ ยังไงขอเป็นลูกศิษย์คนแรกเลยนะครับ โดย milkshaq จันทร์ ต.ค. 13, 2003 9:53 pm

ท่าน milshaq ช่วยอธิบายสถานการณ์ ปัจจุบันให้ฟังหน่อยซิ ขอโทษนะครับ ผมไปธุระต่างจังหวัดทั้งอาทิตย์ครับ เลยไม่ได้เปิดเน็ตดูเลย เพิ่งกลับมาเปิดดูพอร์ท unreal ขาดทุนอยู่ สองพันกว่าบาท ขาดทุนมากสุดก็ตัว STA ตัวนี้บอกตรงๆว่าซื้อเล่นๆครับ ซื้อนิดเดียวเองครับ ประมาณสองแสน ขาดทุนอยู่สี่หมื่นกว่าบาท ว่าแต่ท่านเจ๋งจะให้ผมอธิบายถึงสถานการณ์อะไรเหรอครับ ถ้าเรื่องหุ้น คงต้องขอคิดดูก่อนนะครับ เผอิญอาทิตย์ที่แล้วไปต่างจังหวัดทั้งอาทิตย์ แทบไม่ได้ดูเรื่องเกี่ยวกับหุ้นอะไรเลย มีก็แต่วันที่หุ้นตกหนักๆ มาร์โทรมาบอกว่า ทั้งพอร์ทติดลบ สามแสนกว่าแล้วซึ่งก็ไม่ได้ทำอะไร แล้ววันที่หุ้นขึ้นแรงๆ จำไม่ได้ว่าวันไหน ขายหุ้น TFI ออกไป กำไรมาพอสมควรครับ สรุปยังดีวันนี้ขาดทุนเหลือสองพันกว่าบาท ยังไงถ้าจะให้พูดถึงสถานการณ์อะไรบอกกันด้วยนะครับ หรือไม่ท่านเจ๋งเล่าความคิดเห็นให้ผมฟังก็ได้ครับ ชอบฟัง โดย milkshaq จันทร์ ต.ค. 13, 2003 9:44 pm

พี่ๆครับ ขอถามเรื่องหุ้นRehabcoครับ คุณปีเตอร์ ผมก็ไม่ได้ถือทุ่งคานะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าถือ เคยคิดจะถือตอนมันย่ำอยู่แถว 1.5 แต่พอมันไปแล้ว ไม่เคยกลับไปดูอีกเลยครับ โดย milkshaq พุธ ต.ค. 01, 2003 2:39 am

พี่ๆครับ ขอถามเรื่องหุ้นRehabcoครับ คุณ chatchai ชมผมซะตัวลอยเลยครับ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ขอบคุณมากครับ ที่ท่านเจ๋งพูดถึงการยึดหลักไม่ขาดทุนของวอเรนต์ ตรงใจผมเต็มๆเลยครับ เวลาผมลงทุนผมจะยึดหลักกำไรน้อยไม่เป็นไรแต่ต้องไม่ขาดทุน ดังนั้นหุ้นที่ผม cut loss จึงมีน้อยมาก ยกเว้นมีเหตุภายนอกมากระทบเช่นสงคราม ผมมีความรู้สึกว่าถ้าเรากำไร 30% แล้วเรามาขาดทุน 30% เงินเราก็เหลือไม่ถึง 100% เช่นเดียวกัน ถ้าเราขาดทุน 30% แล้วมากำไรจากเงินที่เหลือ 30% เราก็เหลือเงินไม่ถึง 100% อยู่ดี ดังนั้นการลงทุนจึงต้องหาทางลดความเสี่ยงให้มากที่สุด กรณีของผม 1. ผมจะเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานรองรับ อย่างที่บอกว่าถ้าราคาหล่นลงมา ผมยังต้องยิ้มได้ แล้วถ้าถึงจุดที่คิดไว้ก็รีบรับเพิ่ม ไม่ใช่หุ้นร่วงแล้วหน้าเหี่ยว 2. หุ้นทั้งตลาดมี 400 กว่าตัว จะหาหุ้นที่ดีอยู่ในกลุ่มสุดยอดมาสัก 3-5 ตัวไม่ได้เชียวเหรอ ผมจะเล่นหุ้นไม่เกินครั้งละ 3-5 ตัว ถ้าเผอิญไปพบหุ้นตัวที่ดี มากๆ ประเภทไม่ซื้อไม่ได้ ผมก็ต้องมาเทียบกับหุ้นที่มีอยู่เดิมว่ามันดี กว่าเดิมมั๊ย ถ้าห่วยกว่า ผมก็ไม่ซื้อ ถ้าดีกว่าก็ขายตัวที่คิดว่า ด้อยที่สุดหรือ timing ตรงนั้นเหมาะที่สุดที่จะขายหุ้นตัวนั้น แล้วจึงมา รับตัวใหม่ สาเหตุที่ต้องเล่นหุ้นไม่เยอะเพราะ ถ้าเล่นเยอะ ตัว มันดูไม่ทันจริงๆ เนื่องจากปีนี้ผมมีเวลามานั่งห้องค้าทุกวัน ก็ เลยได้นั่งเฝ้าหน้าจอ อีกทั้งถือหุ้นไม่กี่ตัว ทำให้พอที่จะมองลักษณะ การเล่นของหุ้นที่เรา FOCUS ออก (ผมคิดเอาเองนะครับว่า มองออก) ก่อนที่จะมานั่งเฝ้า ผมก็ไม่อยากเชื่อว่ามีการมองออก ด้วยเหรอว่าจะซื้อเมื่อไหร่ขายเมื่อไหร่ แต่พอมานั่งดูมันบ่อยๆ จับลักษณะการเล่นของหุ้นตัวนั้นๆ ผมพบว่าการเล่นโดยดูจังหวะและ ศึกษามาก่อนให้ดี มีการดูลักษณะการเล่นในแต่ละวัน ดู ประวัติการเล่นย้อนหลัง ผมจับจังหวะได้หลายตัว อย่าง LPN- W1 ผมเข้ามาเล่นครั้งแรกตอนมัน ราคากำลังขึ้นมาที่ 16 บาท ปลายๆ ล่าสุดผมขายไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 34.5 ถ้าคิดว่าถือยาวมา เลยก็จะได้กำไรตีว่าหักค่าคอมด้วยก็ประมาณ 100% ของเงินลงทุนใน หุ้นตัวนี้ แต่เท่าที่เล่นมาจากเงินที่ลงกับหุ้นตัวนี้ แล้วสังเกตจังหวะ การเล่นเข้าออกเป็นรอบ ซึ่งผมเข้าออกได้ถูกรอบเกือบตลอด ถ้าผิด พลาดก็สามารถเฉลี่ยแล้วทำกำไรเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจากการเล่นเป็นรอบ ผมทำได้ประมาณ 170% ขณะที่ VNG ผมเล่นกับมันตั้งแต่ มัน หล่นจาก 14 บาทลงมา ก็ได้กำไรกับมันตลอด พอมาเป็นขาขึ้นก็ กำไรกับมันตลอดอีกเช่นกัน ตัวนี้เวลามาร์จะไปแนะนำลูกค้ายังต้อง มาถามผมเลยว่าเล่นได้ยัง จะซื้อราคาไหน ขายเมื่อไหร่ ซึ่ง ส่วนมากก็คาดการณ์ถูกต้องเกือบตลอด หุ้นบางตัวเล่นแล้วขาดทุนซึ่ง ก็มีตัวเดียว คือ sattel ผมก็เลิกเล่นมันอีกเลย เพราะผมไม่สามารถ พยากรณ์ธุรกิจตัวนี้ได้ ตอนที่มันขึ้นในช่วงพฤษภา ผมยังมองไม่ ออกเลยว่ามันขึ้นด้วยสาเหตุใด แล้วเมื่อไหร่มันจะขึ้นอีก แล้วอยู่ๆวันดีคืนดีบริษัทประกาศมาว่าดาวเทียมเสีย ผมยังมองไม่ออก เลยว่าเค้าจะขึ้นไปซ่อมยังไง ดังนั้นผมก็จะวนเล่นหุ้นที่ถนัดและเล่น แล้วได้กำไรตลอด มาเล่นเป็นรอบๆ ถ้าช่วงไหนผมไม่มี เวลา ก็จะถือยาวจนกว่าจะมีเวลามาดู 3. ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไมถึงซื้อหุ้นตัวนี้ มันมีดีกว่าหุ้นตัวอื่นในท้องตลาดยังไง ถ้าในหุ้นที่ผมมั่นใจมากๆ ข้อดีจะต้องมีมาก ขณะที่เหตุผลที่เป็นข้อเสีย หรือข้อแย้งในการลงทุนหุ้นตัวนี้ แทบจะไม่มีเลย บางครั้งผมจะเดินไปถามมาร์เก็ตติ้งหรือถามนักลงทุนในห้องค้าว่าคุณว่าหุ้นตัวนี้มีข้อเสียอะไรบ้าง พบว่าตัวที่มั่นใจ แทบจะหาข้อเสียอะไรไม่ได้เลย 4. หุ้นที่เล่นต้องมี story ประกอบ อย่างตอนที่ผมซื้อ tnity ผมมองว่าการเทรดของโบรกมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นมากๆเกือบ 4 เท่าของปีที่แล้ว ขณะที่ราคายังขึ้นมาไม่เท่าไหร่ แล้วถ้าซื้อแล้วในระยะสั้นมันไม่เป็นไปตามคาด โอกาสที่หุ้นจะกลับมาเล่นมีอีกมั๊ย ผมก็เช็คดูพบว่ามันมีข่าวรออีกสองข่าวที่อาจจะกลับมาเล่นอีกคือ tnity จะนำ TK เข้าตลาด ถ้างานนี้ราคาไม่ผ่านอีก ก็ยังมีอีกงานคือจะนำ TOC เข้าตลาด ซึ่ง TOC มีปริมาณเงินลงทุนเยอะมาก น่าจะสร้างผลกำไรให้ tnity ได้เยอะพอควร 5. หุ้นที่เล่นต้องเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องพอสมควร ถามว่าถ้าไม่มีไม่ได้เหรอ ผมก็ตอบว่าได้ แต่ถ้าทุกอย่างเหมือนกัน แล้วมีสภาพคล่องไม่ดีกว่าเหรอ ผมคิดว่าดีกว่าแน่ เพราะอยากซื้อก็ซื้อได้ อยากขายก็มีคนซื้อ ผมว่าดีกว่าเวลาซื้อแทบจะต้องไปขอร้องวิงวอนแถมยังต้องกระโดดขึ้นไปซื้อที่ราคาสูง แต่เวลาขาย ต้องทั้งลดทั้งแถม ทิ้งลงกับพื้น ยังกะของไร้ค่า กว่าจะหาคนมาซื้อได้ ดังนั้นผมจึงมองว่าถ้า factor ทุกอย่างเหมือนกัน ผมเลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องดีกว่า ซึ่งผมคิดว่าหุ้นทั้งตลาด 400 กว่าตัว ผมหาหุ้นที่ดีมากๆและมีสภาพคล่องน่าจะได้ ยังมีหลักอีกสองสามข้อครับ แต่ผมคีย์ยาวแล้วครับ เดี๋ยวจะเปลืองพื้นที่เปล่าๆครับ ขอนำเสนอแค่นี้แล้วก้นครับ โดย milkshaq อังคาร ก.ย. 30, 2003 3:00 am

คุณคิดอย่างไรที่เพื่อนหนูโดนมาร์ด่า(สั่งสอน) ผมโชคดีครับ มาร์ผมไม่ค่อยกล้าว่าอะไร มีแต่ชอบมาถามว่า พี่ เมื่อไหร่หุ้น V... จะเล่น ตอนนี้เล่นได้ยัง เป้าหมายราคาเท่า ไหร่ ตอนนี้หุ้นตัวไหนน่าเล่น หุ้นตัวนี้จะเชียร์ให้ลูกค้าคนอื่นพี่ ว่าเชียร์ได้มั๊ย หรือจะเชียร์ตัวไหนดี แล้วเวลาเชียร์หุ้นแล้วผมไม่ ซื้อก็ไม่ว่าอะไร แต่ก่อนที่ผมจะเป็นลูกค้าเค้า ผมคุยกับเค้าเลย ว่ามีอะไรให้บอกผมให้หมด แต่การตัดสินใจซื้อหุ้นผมตัดสินใจเอง ถ้าบอกผมว่าหุ้นตัวนี้น่าซื้อ แล้วผมซื้อตาม ปรากฏว่ามันตก ก็ไม่ต้อง ตกใจ ผมไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เพราะผมเป็นคนตัดสินใจสั่งซื้อ เอง มาร์เค้าก็โอเคยิ้มแย้มดี ปัจจุบันก็แฮปปี้ดีครับ โดย milkshaq จันทร์ ก.ย. 29, 2003 2:27 am

ใครทันสมัยเคาะกระดานบ้างครับ ชอบอ่าน ที่ท่านเจ๋ง เล่ามากเลยครับ อ่านแล้วสนุกมาก ใครมีประสบการณ์อะไรมาเล่ากันอีกนะครับ โดย milkshaq จันทร์ ก.ย. 29, 2003 1:37 am

พี่ๆครับ ขอถามเรื่องหุ้นRehabcoครับ พอดีผมมีความถนัดในเรื่องการมองแนวโน้มธุรกิจ และจิตวิทยา มวลชน แล้วพอดีคู่หูผมเค้าถนัดในเรื่องวิเคราะห์งบมาก ส่วนผมก็ วิเคราะห์พอได้ แต่ไม่ถึงกับเก่งมาก อย่างที่บอกครับ คู่หูผมเค้า โทรไปเถียงกับนักวิเคราะห์หลายครั้ง แล้วส่วนมากนักวิเคราะห์จะยอม รับซะด้วย ก็เลยให้เค้าทำหน้าที่วิเคราะห์ให้ ส่วนผมมีหน้าที่นำ เสนอหุ้นและให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ พอมีเพื่อนมาถกกัน อย่างงี้ก็ทำให้เวลาเราซื้อหุ้น ก็อุ่นใจขึ้นมากครับ โดย milkshaq จันทร์ ก.ย. 29, 2003 1:09 am

พี่ๆครับ ขอถามเรื่องหุ้นRehabcoครับ ผมเมล์ ไปแล้วนะครับ ไม่รู้ถึงหรือเปล่า โดย milkshaq เสาร์ ก.ย. 27, 2003 6:25 pm

พี่ๆครับ ขอถามเรื่องหุ้นRehabcoครับ รีแฮปตัวไหนครับ คุณปีเตอร์ชาง ผมจะได้คอยช่วยเชียร์ ใช่ทุ่งคาหรือเปล่าครับ โดย milkshaq เสาร์ ก.ย. 27, 2003 2:26 am

ถามหน่อยนะครับเรื่องซื้อและขายหุ้น ถึงคุณชาติชาย(ไม่รู้ถูกมั๊ย) คือเวลาผมซื้อหุ้น ผมจะเล่นหุ้นไม่เกิน 3-5 ตัวครับ ทีนี้ผมจะซื้อหุ้นไม้ละประมาณ 400000 บาท บางตัวมั่นใจมากก็อาจจะประมาณล้านกว่า ทีนี้อย่างหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อย เช่นสมัยผมเล่น team ตอน บาทหกสิบ ช่องนึงมีคนตั้งขายสองสามหมื่นหุ้น เวลาจะซื้อ จะรำคาญมาก เพราะมันมีน้อย ซึ่งถามว่าหุ้นที่ซื้อขายยาก ณ.วันหนึ่งก็อาจจะซื้อขายง่ายก็ได้ ผมก็ไม่เถียงครับ เพียงแต่ผมมองตลาดอย่างนี้ หุ้นทั้งตลาดมี สี่ร้อยกว่าตัว ถ้าเราเลือกหุ้นที่เราคิดว่าดีที่สุดมา 3-5 ตัว ผมว่ายังมีหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง และ p/e ต่ำ อีกทั้งอัตราการเจริญเติบโตดี และมี story ให้เล่น ให้เลือกครับ ดังนั้น ณ ช่วงเวลานี้ ผมจึงคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องไปเลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ เพราะหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ ไม่ได้มีศักยภาพที่จะให้ผลตอบแทนดึงดูดใจมากกว่าหุ้นที่คิดว่าดีที่สุด 3-5 ตัวที่ว่าครับ และหุ้น 3-5 ตัวที่ว่า ผมก็พบว่า ทั้งหมด ไม่ใช่หุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำมากครับ โดย milkshaq เสาร์ ก.ย. 27, 2003 2:20 am

ถามหน่อยนะครับเรื่องซื้อและขายหุ้น ดีใจที่ได้คุยกับคุณเจ๋งอีกครับ กำลังคิดถึงพอดี ไม่ได้คุยด้วยนานแล้วครับ อย่าอิจฉาเลยครับ ปริมาณเงินในพอร์ทผมไม่เยอะครับ ถึงจะขึ้นมา 100% ก็ยังนิดเดียวเองครับ ยังอิจฉาคุณเจ๋งเลย ได้ไปเที่ยวเมืองนอกด้วย ปีนี้ผมยังไม่ได้ไปไหนเลย อิจฉาจังเลย :cry: :cry: โดย milkshaq ศุกร์ ก.ย. 26, 2003 2:26 am

บริษัทที่เป็นนิช(niche ไม่แน่ใจสะกดถูกหรือเปล่า)คืออะไร ผมไม่รู้ว่า DCA คืออะไรครับ รู้แต่ว่าบริษัทที่เป็น นีซ ก็คือบริษัทที่มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เน้นลงไปในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม ตัวอย่างเช่น TK ที่กำลังจะเข้าตลาด เน้นปล่อยสินเชื่อเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ในเขตกทม. เป็นหลัก โดย milkshaq ศุกร์ ก.ย. 26, 2003 2:08 am

พี่ๆครับ ขอถามเรื่องหุ้นRehabcoครับ ผมมีความเห็นขัดแย้งบ้างหวังว่าคงไม่ว่ากัน จริงๆแล้ว ผมชอบอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับหุ้นให้มากที่สุดถ้าเป็นไปได้ แต่ผมไม่ยึดติดกับว่าต้องเหมือนใคร ต้องเหมือน บัฟเฟต เหมือน ปีเตอร์ ลินซ์ เหมือนหมอยรรยง เหมือน ดร. นิเวศ ผมมองว่า เราเพียงแต่นำประสบการณ์ แนวคิด มาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเราเอง ไม่จำเป็นต้องไปเลียนแบบหรือเหมือนใคร เหมือนกับไทเกอร์ ที่นำรูปแบบของ ยอดนักกอล์ฟในอดีตหลายๆคน มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับตน บางอย่างสุดยอดนักกอล์ฟในอดีตบอกว่าต้องทำอย่างนี้ ทำอย่างอื่นแล้วไม่ดี แต่ไทเกอร์ก็นำมาพลิกรูปแบบวงสวิงโดยทำในสิ่งที่นักกอล์ฟสมัยก่อนห้ามไม่ให้ทำ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือไทเกอร์กำลังลบสถิตินักกอล์ฟเหล่านั้น ถ้าไทเกอร์ลอกเลียนแบบหลักการของสุดยอดนักกอล์ฟในอดีตโดยไม่คิดปรับปรุงหลักการอะไรเลย วันนี้ไทเกอร์คงเป็นได้เพียงนักกอล์ฟเล่นเก่งคนหนึ่งโดยเลียนแบบนักกอล์ฟที่เก่งกาจในอดีตเท่านั้น ไหนเลยจะสามารถลบสถิติของนักกอล์ฟยอดฝีมือในอดีตได้ เพราะคนทุกคนต้องมีจุดบกพร่อง ไม่มีใครเป็น perfect man ดังนั้นถ้าเราลอกเลียนแบบวิธีการของคนในอดีตโดยไม่คิดจะปรับปรุงอะไรเลยเต็มที่ของเราก็คือได้แค่ใกล้เคียงกับคนที่เราเลียนแบบ ผมจึงเชื่อว่า การที่เราเอาหลักการของคนที่เล่นหุ้นแล้วประสบความสำเร็จในอดีตหลายๆคน นำหลักการเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับตัวเรา น่าจะเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่ขอให้มีเหตุผลหลักการประกอบ อย่าซื้อหุ้นเพียงเพราะ เห็นหุ้นมันกำลังวิ่ง ก็เลยคิดว่าน่าจะวิ่งต่อก็เลยซื้อ เหมือนสมัยผมเรียน MBA เวลา present case หรืออะไรก็ตาม อาจารย์บางท่านชอบอ้างอิงตามหนังสือตลอด โดยมากหลักวิชาการตามทฤษฏีของฝรั่งก็โอเค ยอดเยี่ยม แต่มีบางครั้งซึ่งผมว่ามันใช้ไม่ได้กับทุกเคส ผมเสนอความเห็นค้าน แต่อาจารย์บอกว่า ฝรั่งเค้าคิดมาดีแล้ว คุณไม่เชื่อตำราได้ไง พอผมนำเสนอโดยเปรียบเทียบเป็นเรื่องราวกับธุรกิจจริงๆแล้วถามปัญหา ให้อาจารย์ลองใช้ทฤษฏีที่กล่าวอ้างมา อาจารย์ก็อึ้งไปเลยตอบไม่ได้ ผมมองว่าที่คุณ เดชณรงค์ คิดจะซื้อ ต้องถามตัวเองก่อนว่าทำไมถึงเชื่อว่ามันจะขึ้นได้อีก 40% มีเหตุผลอะไร ประกอบ แล้วโอกาสที่มันจะไม่เป็นไปตามคาดมีเยอะมั๊ย ถือแล้วเกิดมันตก มีผลทำให้อารมณ์หงุดหงิดหรือกินไม่ได้นอนไม่หลับมั๊ย ผมมองว่าถ้าตอบตัวเองได้ ก็น่าจะตัดสินใจได้ อย่างตอนนี้ผมมีหุ้นกลุ่ม rehab ตัวนึง ก่อนซื้อ ผมต้องทำการบ้านมาก่อน ผมนั่งวิเคราะห์ว่าทำไมเราถึงต้องซื้อตัวนี้ มันมีดีอะไรกว่าหุ้นตัวอื่นถึงต้องซื้อ ความเสี่ยงสูงมั๊ย ถ้าผิดพลาดไม่เป็นไปตามคาด มันมี story อื่นให้แก้ตัวมั๊ย แล้วโอกาสที่มันจะพลาดเกิดได้จากอะไรบ้าง หลังจากวิเคราะห์เสร็จ ก็ไปบรีฟกับเพื่อนคู่หู ซึ่งเค้าเก่งเรื่องการวิเคราะห์งบมาก บรีฟกันเสร็จ เค้าก็เช็คบทวิเคราะห์ทุกโบรก ที่ออกมาเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ เสร็จแล้วเค้าก็โทรมาออกความเห็นกับผมบอกว่าบทวิเคราะห์ของโบรก A ถูกอยู่เจ้าเดียว อีกสองโบรกผิด เสร็จแล้วเค้าก็โทรไปหานักวิเคราะห์ของทั้งสองโบรกที่คิดว่าบทวิเคราะห์ผิด คุยจนนักวิเคราะห์สองโบรกนั้นยอมรับว่าตัวเองวิเคราะห์คลาดเคลื่อน จากนั้นก็โทรไปเช็คกับบริษัทที่ถือหุ้นใหญ่ในหุ้นตัวนั้น เนื่องจากที่เราวิเคราะห์กันไว้ มองว่าโอกาสที่เราคาดการผิดมีกรณีนึงคือถ้าผู้ถือหุ้นใหญ่ทำการในลักษณะหนึ่งแล้ว จะทำให้มันไม่เป็นไปตามที่คาด แต่ก็ไม่ถึงกับเสียหายอะไรนัก แต่เพื่อนผมก็บอกต้องโทรไปคุยกับบริษัทนั้นเลยให้รู้แนวโน้มว่าเค้าจะทำการในลักษณะที่ทำให้เราคาดการณ์ผิดมั๊ย พอได้ข้อมูลแล้ว ก็มาบรีฟกันอีกครั้ง ก็สรุปเลยว่าซื้อ โดยเราจะมี price story และ timing ของหุ้นตัวนี้เสร็จสรรพ เราจะคาดการณ์เป็นฉากๆของหุ้นตัวนี้เลย โดยคาดการณ์เป็นช่วงเวลาเลย ว่าหุ้นตัวนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงราคายังไง ราคาควรจะวิ่งขึ้นไปถึงประมาณไหนในช่วงเวลานึง จากนั้นมันจะทรงๆ ไปถึงตอนไหน แล้วมันควรจะวิ่งขึ้นตอนไหนเพราะอะไร สุดท้ายจุดที่ถึง finally ของหุ้นตัวนี้ที่เราคาดการณ์ได้ถึงคือตอนไหน เช่นหุ้นตัวนี้ เราจะประมาณการ การเคลื่อนไหวมันถึงแค่ สิ้น Q1 ปีหน้า จากนั้นถ้าจะถือต่อก็มาวิเคราะห์กันอีกที ดังนั้นผมจึงมองว่าทำอะไรที่เราคิดว่าทำแล้วสบายใจ มีเหตุผลตอบตัวเองได้ ทำแล้วเราแฮปปี้ ไม่มีใครเดือดร้อน คิดว่าเหมาะกับเราก็ทำครับ โดย milkshaq ศุกร์ ก.ย. 26, 2003 2:05 am

ถามหน่อยนะครับเรื่องซื้อและขายหุ้น เวลาจะขาย ผมมองสามอย่างคือ ราคา เวลาแล้วก็หุ้นตัวอื่นที่ดีกว่าครับ ราคาก็คงเหมือนกับที่ทุกท่านกล่าวมาแล้ว ส่วนเวลาผมมักจะคิดให้กับหุ้นที่ซื้อเลยว่าจะขายเมื่อใด เพราะสาเหตุใด เช่น VNG ผมก็จะขายเมื่อคิดว่าราคาจะลงแรงๆ เช่น เมื่อลูกหุ้นเข้า เมื่อราคาวิ่งสูงเกินไปโดยไม่มีวอลลุ่มรองรับ อีกอย่างก็ใช้หลักการคาดการณ์ความคิดของเจ้ามือ ผสมกับหลักจิตวิทยามวลชน ส่วนหุ้นตัวอื่นที่ดีกว่า คือถ้าได้ข้อมูลมาใหม่ว่ามีหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า ผมก็จะขายหุ้นตัวที่มีอยู่ไปเข้าหุ้นตัวใหม่ หุ้นที่เล่นจะไม่เล่นหุ้นที่ขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด เช่น B-LAND และหุ้นที่ซื้อขายยาก ก็จะไม่เล่น โดยมากจะเล่นหุ้นที่ราคาตกลงมาอีก 10% ก็ยิ้มแล้วรับเพิ่มโดยไม่รู้สึกเดือดร้อนเพราะดีใจที่ได้ของถูก หุ้นที่ลงแล้วเดือดเนื้อร้อนใจจะไม่เล่น ตั้งแต่เล่นสไตล์นี้ รู้สึกดีครับกำไรดีทุกเดือน ถ้าอีก 5 วันที่เหลือ ทำได้อีก 7% พอร์ทก็จะโต 100% ใน 3 เดือนครับ เล่นแล้วก็กินอิ่มนอนหลับ สบายครับ โดย milkshaq ศุกร์ ก.ย. 26, 2003 1:18 am

ขอถามมือใหม่ที่ซื้อหุ้นช่วงเดือนสิงหาที่ผ่านมานี้ ได้หรือเสี กลับมาแล้วเหรอครับ ท่านเจ๋ง อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจริงๆ ครึ่งปีหลัง หรือสองเดือนที่ผ่านมา ผมได้กำไรแบบ realized คือที่ขายไปแล้ว 70% ของพอร์ทครับ ส่วนที่ unrealized เท่าทุนครับ อ้อ ถ้าคิดจริงๆแล้ว unreal ขาดทุนประมาณ 2% ครับ โดย milkshaq เสาร์ ก.ย. 06, 2003 1:20 am

ขอถามมือใหม่ที่ซื้อหุ้นช่วงเดือนสิงหาที่ผ่านมานี้ ได้หรือเสี กลับมาแล้วเหรอครับ ท่านเจ๋ง อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจริงๆ ครึ่งปีหลัง หรือสองเดือนที่ผ่านมา ผมได้กำไรแบบ realized คือที่ขายไปแล้ว 70% ของพอร์ทครับ ส่วนที่ unrealized เท่าทุนครับ อ้อ ถ้าคิดจริงๆแล้ว unreal ขาดทุนประมาณ 2% ครับ โดย milkshaq เสาร์ ก.ย. 06, 2003 1:20 am

เรามีขั้นตอนในการแปลง Warrent ยังไงครับ ลองโทรไปถามโบรกดูก็ได้ครับ หรือไม่ก็โทรถามบริษัทที่คุณไปซื้อวอร์เค้าไว้ ส่วนการแปลงต้องแปลงก่อนครับ ก็เช่นเดียวกันโทรถามโบรกที่เราใช้บริการอยู่ได้ครับ ว่าต้องแปลงวันสุดท้ายวันไหน โดย milkshaq อังคาร ก.ย. 02, 2003 1:58 am

ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ ถึงคุณชาติชาย(ถ้าผิดขอโทษด้วยนะครับ) ผมว่าไม่เครียดเลยครับ เพราะเราศึกษามาดีแล้วครับ เคยเล่นแบบ เล่นตามเพื่อน หรือดูหน้าจอแล้วก็ซื้อเลย อย่างนี้จะเครียดมากครับ เพราะเราไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย อย่าง VNG ไม่ว่าจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ผมก็กำไรตลอดทุกรอบ เพราะเราศึกษามาดีครับ แต่ถ้าไม่มีอะไรในหัวเลย อย่างงี้เครียดแน่ ผมก็มีลูกแล้วครับ แต่แนวทางที่ผมเล่นผมไม่ไล่หุ้น ผมจะจับหุ้นพื้นฐานดี ที่มี story อีกทั้งยืนฐานมาพอสมควร แนวโน้มเริ่มจะไป ผมจบป.ตรี และ ป.โท หลังจากคุณชาติชาย 4 ปี ครับ โดย milkshaq จันทร์ ก.ย. 01, 2003 2:41 am

เรามีขั้นตอนในการแปลง Warrent ยังไงครับ ปกติถ้าได้วอร์เนื่องจากบริษัทแจกให้ เค้าจะมีใบแปลงสิทธิ์ให้มาด้วย แต่ถ้าวอร์ที่ได้เกิดจากการซื้อมา ให้ไปถามมาร์เกตติ้งครับ เค้าจะหาใบแปลงให้เราได้ ปกติมักจะแปลงกันประมาณวันที่ ยี่สิบกว่าๆ เวลาแปลงก็ต้องไปซื้อดราฟท์ตามจำนวนที่แปลง แล้วกรอกแบบฟอร์มการแปลง ส่งให้โบรกที่เราใช้บริการอยู่ เค้าก็จะจัดการให้เราครับ ระยะเวลาที่จะได้หุ้นตัวแม่มา ก็ประมาณเกือบเดือนครับ โดย milkshaq จันทร์ ก.ย. 01, 2003 12:08 am

ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ 5555 ขอบคุณครับคุณ genie ผมถึงว่าสิ รู้สึกตาร้อนผ่าว อิจฉาท่านเจ๋งจริงๆๆๆ :shock: 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) :roll: โดย milkshaq เสาร์ ส.ค. 30, 2003 6:40 pm

เป็นตัวแทนในการสั่งซื้อหนังสือ Thailand Company Handbook ขอด้วยคนครับ ยังไงบอกวิธีชำระเงินด้วยนะครับ ผมว่าโอนเข้าบัญชีธนาคารก็ดีนะครับ โดย milkshaq เสาร์ ส.ค. 30, 2003 6:35 pm

เวลายามว่าง ว่าจะว่ายน้ำแบบคุณส้มจุกครับ แต่เผอิญอายพุงตัวเองครับ เลยไม่กล้าไปว่ายน้ำ รอให้หุ้นดีแบบคุณส้มจุก คงจะได้ลงสระครับ โดย milkshaq เสาร์ ส.ค. 30, 2003 3:03 am

ต่างชาติ ปอดไม่ดี... ขอบคุณมากครับ คุณส้มจุก โดย milkshaq เสาร์ ส.ค. 30, 2003 2:59 am

ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ ผมน่าจะอิจฉาท่านเจ๋งมากกว่าครับ อยากเป็นหมอครับ แต่สมัยเด็กกลัวเลือดมากเห็นเลือดเป็นลม แค่ฟังคนเล่าเรื่องซีอุย ผมยังเป็นลมเลยครับ ว่าแต่ทำไมช่วงนี้ท่านเจ๋งถึงไม่พิมพ์ไทยครับ สงสัยจัง โดย milkshaq เสาร์ ส.ค. 30, 2003 2:55 am