หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
nanakorn
Everything I do, I do it for you.
Joined: อังคาร ก.ย. 13, 2005 8:45 am
636
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - nanakorn
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
ยื่นภาษี 2552 กันแล้วหรือยัง
ผมรอเอกสาร RMF และ LTF ก่อนครับ
โดย
nanakorn
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2010 7:31 am
0
0
สวัสดีปีใหม่ครับ
สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ :D :cheers:
โดย
nanakorn
พุธ ธ.ค. 30, 2009 10:54 pm
0
0
200 อันดับยอดนักโพส ที่ทำให้ THAIVI มีชีวิตมีชีวา 30/12/09
คุณครรชิต มีข้อมูลมาฝากตามเคย ขอบคุณมากครับ
โดย
nanakorn
พุธ ธ.ค. 30, 2009 10:51 pm
0
0
หายนะ !!
ไม่เคยคิดว่าจะหายนะ ผมเชื่อว่าคนไทยจะสู้เขาได้ ผมไม่ชอบให้มีการปกป้อง คิดว่าถ้าปกป้องมากๆ แทนที่จะเป็น หนึ่งในตองอู จะกลายเป็นหนึ่งในซองตู อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐจะต้องให้คนของเรารู้ รู้เขารู้เราถึงจะสู้เขาได้
โดย
nanakorn
จันทร์ ธ.ค. 28, 2009 6:43 pm
0
0
สองเซียนระดับโลกกำลังปาฐกถาสด
เพิ่งได้ดูเมื่อคืน ตอน 1 ทุ่มครับ ชอบคำตอบของ Buffett เมื่อตอนโดนถามว่า Buffett เป็น VI ซึ่งใช้ Fundamental analysis แต่ทำไมกลับเคยพูดหลายครั้งว่า บางครั้งตัดสินใจลงทุนเร็วมาก ใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาที Buffett ก็ตอบว่า นั่นเป็นการเตรียมตัว 50 ปี และ การตัดสินใจ 5 นาที ที่ชอบมากคือประโยคนี้ ที่ตามมา But the good big decisions, they don't take any time at all. If they take time, you're in trouble.
โดย
nanakorn
เสาร์ ธ.ค. 26, 2009 9:11 am
0
0
สรุปพอร์ต8ปีของ 2นิ+1น ผู้ยิ่งใหญ่>นิติ&นิเวศน์+นริศ
ขอบคุณคุณครรชิตครับ สำหรับข้อมูลดีๆ
โดย
nanakorn
อังคาร ธ.ค. 22, 2009 9:14 pm
0
0
วันนี้ผมอยากมีเพื่อนสัก 500 กว่าคน
เคยอ่านนานมาแล้วว่า ในขณะใดขณะหนึ่ง คนเราจะมีเพื่อนที่ติดต่อกันจริงๆอยู่โดยเฉลี่ย 6 คน โดย 6 คนนี้จะเปลี่ยนคนไปเรื่อยๆ
โดย
nanakorn
ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 6:37 pm
0
0
งานวิจัย เปรียบเทียบผลตอบแทน VI กับค่าเฉลี่ยตลาดหลักทรัพย์
เรียบร้อยครับ
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 4:39 pm
0
0
++ กองทุนหุ้นไทย...บริหารแจ๋วขนาดนั้นเลยหรือ ++
ต้องเทียบกับ TRI ซิครับ ถึงจะถูกต้อง TRI เริ่มเก็บตั้งแต่ ปี 2002 ตอนนี้ 220 % แล้วครับ http://www.set.or.th/th/market/tri.html เห็นด้วยครับ กองทุนหุ้นส่วนใหญ่ไม่จ่ายปันผล ต้องเทียบกับ TRI ส่วนกองทุนที่จ่ายปันผล ต้องเอาปันผลมารวมคำนวณ แล้วเทียบกับ TRI คุณอะไรดีละ คำนวณว่าผลตอบแทนทบต้นต่อปีต่างกัน 4% ก็คงมาจากส่วนของปันผล
โดย
nanakorn
เสาร์ ธ.ค. 05, 2009 10:08 am
0
0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
ตกลงได้สาวมาตอบแล้วยังครับ
โดย
nanakorn
เสาร์ พ.ย. 14, 2009 7:27 pm
0
0
เรื่องของเดือนวาด
ถ้ามี ค่าเช่าต่อรายได้ ต่ำสุด และรายได้สม่ำเสมอ ค่าเช่าไม่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ก็คงจะเป็นที่ต้องการ ค่าเช่าต่อพื้นที่ ต่ำสุด ถ้าไม่ดูรายได้ ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย
โดย
nanakorn
เสาร์ พ.ย. 14, 2009 9:51 am
0
0
เงิน 9 ล้านเพื่อการเกษียณ ความร่ำรวยหรือความจำเป็น?
เรื่องค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ถึงจะพอ ผมเคยอ่านหนังสือเรื่อง Your Money or Your Life ได้ข้อคิดดีๆหลายข้อครับ ในหนังสือบอกความจริงที่เราอาจจะไม่ทันคิดว่า ค่าใช้จ่ายของคนทำงานที่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพราะการทำงาน อาจจะเป็นค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนสูง เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าน้ำมันรถที่ขับไปทำงาน ค่าเครื่องแต่งกายสำหรับที่ทำงานในส่วนที่แพงกว่าเครื่องแต่งกายพื้นๆตอนอยู่ที่บ้าน ค่าอาหารเที่ยงที่ทำงานในส่วนที่แพงขึ้นกว่าปกติเพราะร้านอาหารที่ทำงานขายแพง ค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากสุขภาพที่เสื่อมโทรมจากการทำงาน เป็นต้น ดังนั้น เวลาเราคิดว่ารายได้จากการทำงานของเราเป็นเท่าไหร่ เราควรหักต้นทุนที่ใช้ในการทำงานออกด้วย ซึ่งอาจจะมีผลทำให้งานที่มีเงินเดือนน้อยแต่ต้นทุนต่ำ ให้รายได้สุทธิสูงกว่า ลองคิดรายได้สุทธิในการทำงานของเราดูแล้ว อาจจะตกใจได้ครับ
โดย
nanakorn
ศุกร์ ต.ค. 23, 2009 8:50 am
0
0
Expected value analysis
[quote="humdrum"]
โดย
nanakorn
เสาร์ ส.ค. 08, 2009 7:00 am
0
0
หุ้นรัฐวิสาหกิจ
ผมว่ายกตัวอย่าง PTT หรือรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปเนี่ย รัฐหน้าจะเรียกเก็บภาษีเงินได้ร้อยละ 80 ของกำไรสุทธิน่าจะดีกว่านะครับ ถ้ารัฐบาลมีความประสงค์จะเก็บ 80% ของกำไรเข้ารัฐ ก็ไม่ควรนำหน่วยงานนั้นเข้าตลาดตั้งแต่แรก ถ้าไม่นำเข้าตลาด รัฐก็จะได้ 100% อยู่แล้ว
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 8:09 pm
0
0
หุ้นรัฐวิสาหกิจ
โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็นไปได้ครับ
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 5:14 pm
0
0
ถามวิธีคำนวณผลตอบแทนของ port สวนตัวหน่อยครับ
เพิ่มเติมครับ http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=20738
โดย
nanakorn
อังคาร พ.ค. 19, 2009 8:55 am
0
0
Re: ขอบคุณครับ
พอเข้าใจครับ แต่ความสามารถในการวิเคราะห์ของแต่ละท่านก็ไม่เท่ากันทำให้ระดับความเสี่ยงไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้น ผมก็เลยคิดว่าในการตัดสินใจแต่ละครั้งนั้นนักลงทุนแนว VI เมื่อตัดสินใจไปแล้วที่เหลือก็แล้วแต่ "ดวง" เพราะฉะนั้นผมก็เลยมองว่านักลงทุนแนว VI ก็ต้องเป็นนักพนันด้วยส่วนหนึ่ง และนักเก็งกำไรด้วยส่วนหนึ่ง หลังจากที่ทำการลดความเสี่ยงด้วยการตัดสินใจแต่ละท่านแล้ว เพราะฉะนั้นผมจะสรุปได้ใหมว่า ดร. ของเรา และนักลงทุนแนว VI ที่สำเร็จแต่ละท่าน เป็นนักวิเคราะห์เพื่อลดความเสี่ยงได้ดี และเป็นนักพนันที่รับความเสี่ยงได้สูงอยู่ในตัวครับ ------------------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณสำหรับแกะ ช่วยแพะตัวนี้ครับ การข้ามถนน เป็นการพนันหรือไม่ ถ้าคนข้ามถนน ดูรถราอย่างดี แล้วตัดสินใจข้าม ในกรณีนี้ คงไม่มีใครตอบว่า การข้ามถนนเป็นการพนัน ถามว่ามีความเสี่ยงในการข้ามถนนหรือไม่ คงต้องตอบว่า มี เช่น 1) อาจจะมีรถที่อยู่ดีๆก็โผล่เข้ามาอย่างรวดเร็ว ตอนมองเพื่อตัดสินใจข้ามไม่มีรถคันนี้ 2) ตาคนข้ามอาจจะไม่ดี มองไปในทุกทิศทางครบถ้วนแล้ว แต่ไม่เห็นรถทั้งหมด 3) อื่นๆอีกอย่างมาย ถ้าคนข้ามถนน ปิดตาก่อนแล้วตัดสินใจเดินข้ามถนน ก็น่าจะเรียกว่าเป็นการพนันอย่างหนึ่ง การทายเหรียญหัวก้อย ที่ถูกโยนโดยเครื่องโยนที่ควบคุมได้และอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ถูกควบคุมไว้ จะไม่เป็นการพนันเลย ถ้าเราคำนวณการเคลื่อนที่ของเหรียญตั้งแต่ต้นจนจบและทายตามผลการคำนวณ แต่ถ้าเราทายไปเฉยๆเหมือนตามปกติ ก็เป็นการพนัน พนันหรือไม่พนัน ขึ้นกับว่าเราลดความเสี่ยงลงไปได้มากเท่าไร ความเสี่ยงน้อยแค่ไหนถึงจะไม่เป็นการพนัน คงแล้วแต่ละบุคคลจะคิด
โดย
nanakorn
เสาร์ เม.ย. 11, 2009 10:19 am
0
0
Re: เกี่ยวกับ K-cyber invest
[quote="wavesnippy"]รบกวนผู้รู้หน่อยครับ คือเมื่อวานผมไปทำการขายกองทุน K-treasury ทั้งหมด แล้วกะว่า จะซื้อ K-money ในวันนี้ แต่ผมติดธุระไม่ว่างไปทำการซื้อ
โดย
nanakorn
อังคาร มี.ค. 24, 2009 6:58 pm
0
0
โปรแกรมบันทึกพอร์ตโฟลิโอ
ผมใช้ MS Money เช่นกัน ซื้อของจริงเพราะว่าเป็นเครื่องมือสำคัญประจำครอบครัวจริงๆ ไม่ต้องการให้มีปัญหากับข้อมูลหรือเรื่องอื่นๆ ใช้บันทึกรายรับ รายจ่ายและการลงทุนทุกอย่างของครอบครัว โปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากอีกโปรแกรมคือ Quicken แต่ผมไม่เคยใช้ เข้าใจว่ามีมาก่อน MS Money ขายดีจน Microsoft ต้องเข้ามาทำ MS Money มีเพื่อนที่ทำงานที่ใช้ Quicken มาตั้งแต่ต้น และจะไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เนื่องจากข้อมูลใหญ่มากแล้ว สองโปรแกรมนี้ ไม่ได้เป็นโปรแกรมเพื่อการลงทุนโดยเฉพาะ
โดย
nanakorn
อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 11:47 am
0
0
หุ้นของบัฟเฟตไม่เคยจ่ายปันผลแล้ว VI จะกินอะไรอยากรู้อย่างแรง
เท่าที่ผมจำได้จากหนังสือหลายๆเล่ม รวมทั้งรายงานของ Warren Buffett เอง ที่ถูกรวบรวมในหนังสือบางเล่ม Warren Buffett คิดว่าตัวเขาเองสามารถทำประโยชน์จากเงินลงทุนได้ดี (กว่าคนอื่นๆ) ดังนั้นจึงไม่จ่ายเงินกำไรสะสมไปเป็นเงินปันผล ถ้าใครต้องการใช้เงินจริงๆ ก็ให้ขายหุ้นออกไป ตอนที่ยังไม่ต้องใช้เงิน ก็เก็บเงินไว้ใน Berkshire Hathaway ซึ่งควรจะให้ผลตอบแทนที่ดี (ในรูปของกำไรสะสม ซึ่งจะส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัท) ต่อมาราคาหุ้นของ Berkshire Hathaway สูงขึ้นมาก ทำให้คนที่ต้องการใช้เงินไม่มากนัก ต้องโดนบังคับขายเป็นจำนวนเงินครั้งละมากๆ (เนื่องจากหุ้นมีราคาสูง) ทำให้เริ่มมีกองทุนรวมเข้ามาทำกองทุนหุ้น Berkshire Hathaway ที่มีราคาต่อหน่วยของกองทุนน้อยๆ ทำให้ซื้อง่ายขายคล่อง ถ้านักลงทุนเลือกลงทุนกับกองทุนแบบนี้ แทนที่จะลงทุนกับบริษัทโดยตรง และมีการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนกันมากๆ ก็จะทำให้หุ้นของบริษัทมีการซื้อขายโดยกองทุนรวมมากขึ้นไปด้วย ซึ่ง Buffett ไม่ชอบ จึงตัดสินใจทำสิ่งที่คล้ายๆกับที่กองทุนรวมทำ ด้วยตนเอง แต่มีระบบป้องกันไม่ให้เกิดการซื้อขายหุ้นในลักษณะเก็งกำไร โดยแบ่งหุ้นออกเป็น 2 Classes คือ A และ B โดย Class B มีราคาเป็น 1/30 เท่าของ Class A แต่มีสิทธิโหวตเพียง 1/200 เท่าของ Class A (http://www.berkshirehathaway.com/compab.html) หุ้น Class A แปลงเป็น B ได้ตลอดเวลา แต่กลับกันทำไม่ได้ การที่ตั้งให้แปลงได้ทางเดียว เป็นระบบป้องกันไม่ให้เกิดการซื้อขายหุ้นในลักษณะเก็งกำไร คนที่อยากใช้เงิน ก็แปลงหุ้นจาก A เป็น B แล้วขาย B ไปเพียงบางส่วนเท่าที่จำเป็น
โดย
nanakorn
ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 1:05 pm
0
2
DCF Calculator
[quote="sai"][quote="nanakorn"]ขอบคุณครับ
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 1:17 pm
0
0
DCF Calculator
ขอบคุณครับ น่าสนใจว่า Default Discount Rate เป็น 12% น่าจะมาจากผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดหุ้นในอเมริกา
โดย
nanakorn
พุธ ธ.ค. 17, 2008 8:20 am
0
0
GDP=C+I+G+(X-M) แล้วท่องเที่ยวมันอยู่ไหนล่ะ
ไม่ใช่ครับ
โดย
nanakorn
อังคาร ธ.ค. 16, 2008 10:41 am
0
0
GDP=C+I+G+(X-M) แล้วท่องเที่ยวมันอยู่ไหนล่ะ
รบกวนถามแบบไม่รู้ด้วยครับ :lol: (แบบคร่าวๆไม่ต้องคิดส่วนต่างของภาษี) 1 สอบถามถึงการบริโภค C ด้วยครับ ถ้าบ.Aผลิตน้ำปลา100ล้านบาทขายเข้าร้านค้า GDPก็นับ100ล้านบาทใช่ไหมครับ 2 ถ้าร้านค้าเป็นโมเดริน์เทรดขายตรงผู้บริโภค บวกกำไร10% GDP ก็เท่ากับเพิ่มขึ้น10ล้านใช่ไหมครับ 3 ถ้าร้านค้าเป็นยี่ปั๊วซึ่งกระจายไปซาปั๊วี่ปั๊วและเกิดการหมุนเวียนของเงินก้อนนั้นในตลาดอีก4-5รอบ มีส่วนต่างของกำไรเพิ่มมาอีก50ล้าน เท่ากับGDPเพิ่มมาอีก50ล้านใช่ไหมครับ ไม่ใช่ครับ ต้องเป็นคนสุดท้ายซึ่งจ่ายเพื่อบริโภคจริงๆ ไม่ใช่เพื่อไปขายต่อ ราคาสุดท้ายก็ถือเป็นมูลค่าของผลิตภัณฑ์ไปเลย GDP ใช้ประมาณมูลค่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นของประเทศ ผลิตรถได้หนึ่งคัน ถ้าขายในประเทศก็คิดเป็นเงินเท่ากับราคาที่คนซื้อไปใช้ คนสุดท้ายคนเดียว โดยจะอยู่ใน C ถ้าจะคิดวนหลายรอบแล้วกลายเป็นผลิตหลายคัน ก็จะไม่ถูกต้อง ถ้าขายไปต่างประเทศ ก็จะไปอยู่ใน X ไม่ว่าอย่างไร ก็จะต้องนับรถได้เพียงหนึ่งคัน น่าจะเป็นอย่างนี้ครับ
โดย
nanakorn
อาทิตย์ ธ.ค. 14, 2008 6:56 pm
0
0
GDP=C+I+G+(X-M) แล้วท่องเที่ยวมันอยู่ไหนล่ะ
[quote="chode"]เข้าใจผิดมาตลอด เป็น export of services ตามที่คุณ investment biker บอกไว้ครับ ดูใน sheet table 1 ตามตารางนี้ครับ http://www.nesdb.go.th/Portals/0/eco_datas/account/qgdp/data3_08/AlltableQ3_2008.xls ตัวเลขการบริโภคดูได้ที่ sheet table 7 ครับเก็บตัวเลขจะได้ Private Consumption Expenditure in the Domestic Market Private Consumption Expenditure(C) =
โดย
nanakorn
อาทิตย์ ธ.ค. 14, 2008 2:41 pm
0
0
GDP=C+I+G+(X-M) แล้วท่องเที่ยวมันอยู่ไหนล่ะ
การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะนับเป็น C หรือ X ถ้าไม่นับซ้ำซ้อน ก็จะได้คำตอบเท่ากัน มูลค่าการส่งออกของประเทศที่ประกาศกันอยู่ ไม่น่ารวมเงินที่นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้ในประเทศไทย ดังนั้น ถ้าจะให้สอดคล้องกัน การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะถูกนับอยู่ใน C
โดย
nanakorn
อาทิตย์ ธ.ค. 14, 2008 11:29 am
0
0
แบบนี้ก็มีด้วย
Unacceptable corporate governance!
โดย
nanakorn
พุธ ธ.ค. 10, 2008 11:39 am
0
0
หุ้นขึ้นวันหนึ่ง 200000% เอาอีกแล้วครับท่าน
ถ้าเป็นการตั้งขายแพงก่อน แล้วมีคนมาซื้อแพงๆ อย่างนี้ไม่ปกติแน่นอนครับ เพราะมันต้องเพี้ยนทั้งสองด้าน ถ้าเป็นการตั้งซื้อแพงก่อนโดยสาเหตุอะไรก็ตาม แล้วมีคนมาขายแพงๆ อย่างนี้อาจจะผิดพลาด (คนตั้งซื้อ) หรือไม่ชอบมาพากล ได้ทั้งสองทาง ที่ดูจาก Post ที่มีอยู่ ด้วยเหมือนจะเป็นกรณีแรก อย่างนี้ก็ต้องมีคนทำอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน ของญี่ปุ่น ผิดพลาดที่ตั้งขายถูก คนซื้อก็แห่กันเข้ามา เป็นการผิดพลาดในด้านราคาต่ำ ผมดูข่าวตอนนั้น เห็นว่ามีคนซื้อได้ไปหลายรายมาก ไม่รู้ว่าในที่สุดแล้ว Broker แก้ไขความเสียหายไปอย่างไร นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าจะมีการพูดถึงเรื่องที่ว่า Broker ที่ขายหุ้นไป จะไม่มีหุ้นพอที่จะขายด้วย
โดย
nanakorn
เสาร์ พ.ย. 15, 2008 9:04 pm
0
0
หุ้นขึ้นวันหนึ่ง 200000% เอาอีกแล้วครับท่าน
ถ้ายังจำกันได้ ที่ญี่ปุ่น เคยมีที่สั่งขาย 610,000 หุ้นที่ 1 เยน แทนที่จะขายตามที่ตั้งใจคือ 1 หุ้นที่ 610,000 เยน ใส่ตัวเลขจำนวนหุ้นกับราคาสลับกัน คนซื้อกันใหญ่เหมือนได้ของฟรีครับ ลองอ่านข่าวเก่าๆใน Link ข้างล่างครับ http://www.cbc.ca/money/story/2006/01/13/goof-060113.html An employee of Mizuho Securities Co. cost the brokerage 40 billion yen ($394 million Cdn) when the trader made a simple typing error. The trader mistakenly placed an order to sell 610,000 shares of a recruiting company at one yen (less than a Canadian cent) apiece instead of sell one share at 610,000 yen ($6,150 Cdn).
โดย
nanakorn
ศุกร์ พ.ย. 14, 2008 10:47 pm
0
0
หยุดการซื้อขายชั่วคราวแล้วจ้า -10% !!
เพิ่งทราบครับว่า SET โดนหยุด รุนแรงดีจริงๆครับ
โดย
nanakorn
ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 5:01 pm
0
0
หุ้นตกแบบนี้ทำไมไม่ดีใจกันเลย น่าจะเฮกันทุกคน
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ถ้าหุ้นตกแรงๆหมดทั้งตลาดอย่างนี้ ถ้ามีเงินซื้อ ก็ซื้อและรู้สึกดีเล็กๆ ถ้าไม่มีเงิน หุ้นตกหมดก็ไม่ดีใจ เพราะไม่มีเงิน ก็ซื้อไม่ได้ หุ้นตก สำหรับคนที่ไม่มีเงินซื้อ เกิดอยากจะซื้อ ก็ไม่ได้เพราะไม่มีเงิน เกิดอยากจะขาย ก็ต้องขายถูก อย่างนี้ ถ้าดีใจก็แปลก แต่ทั้งนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจหรือตกใจ
โดย
nanakorn
อังคาร ต.ค. 07, 2008 6:49 pm
0
0
บริษัทในตลาด ที่ได้รับการยอมรับ จากฟอร์บส์
จาก http://www.forbes.com/2007/09/27/asia-best-midcaps-cx_jg_0927bub_land.html Our annual Best Under A Billion list draws from over 22,500 publicly listed outfits in Asia and the Pacific. Those with less than $1 billion in sales are vetted for consistent growth of both sales and profits over three years. สรุปคือ ดูการเติบโตอย่างสม่ำเสมอของ Sales และ Profits 3 ปีย้อนหลัง รายละเอียดของ Criteria มากกว่านี้หาไม่เจอครับ ดูจากข้างบน เห็นว่า Forbes ไม่ได้สนใจว่าราคาหุ้นถูกหรือแพง
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 5:14 pm
0
0
ดูการเคลื่อนย้ายเงินทุนแล้วน้ำมันอาจวิ่งรอบท้ายได้~20%
"There is a tide in the affairs of men which, taken at the flood, leads on to fortune; Omitted, all the voyage of their life is bound in shallows and in miseries." ใน Julius Caesar โดย Shakespeare หมายความว่า ในชีวิตของคนแต่ละคนจะมีโอกาสดีผ่านเข้ามา ถ้าไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ ชีวิตก็จะไม่ไปไหน ในสมัยโบราณ เดินทางด้วยเรือมาก ตอนที่น้ำขึ้นสูง จะทำให้สามารถใช้เรือเดินทางไปได้ไกล ตอนที่น้ำลง เรือจะไปไหนไม่ได้ไกล ดังนั้น ถ้าน้ำขึ้นสูง จะต้องรีบจับโอกาสนั้นไว้
โดย
nanakorn
ศุกร์ ส.ค. 22, 2008 2:47 pm
0
0
Re: ประโยคเด็ดของ จอร์จ ตัน
[quote="Rocker"]"หุ้นมันเป็นความเชื่อ ถ้าคนเชื่อว่าราคาจะไป(วิ่ง)เขาก็จะไม่ดูค่า พี/อี แต่ถ้าคนไม่เชื่อ ต่อให้กำไรดีแค่ไหนคนก็ไม่ซื้อ การเล่นหุ้นมันเป็น Psychology (จิตวิทยา) มันเป็น Common Sense (สามัญสำนึก) เราต้องอ่านความคิดคนให้ออก
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. ส.ค. 21, 2008 5:23 pm
0
0
ผมอยากเล่าเรื่อง ชีวิต ผมกับ ตลาดหุ้นจังเลยครับ
ขอบคุณมากครับ อยากอ่านต่อ
โดย
nanakorn
พุธ ส.ค. 20, 2008 6:40 pm
0
0
คนส่งงบเมาหรือเปล่า
ตอนนี้ยังไม่ได้แก้ไขเลยครับ จริงๆเรื่องความถูกต้องนี้สำคัญมากครับ ความผิดครั้งนี้ ดูแล้วรู้ทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติ แต่ถ้าผิดแบบดูไม่ออก เช่น ทำสูตร Excel ผิด ทำให้ตัวเลขบางตัวไม่ถูกต้อง จะอันตรายมาก ก่อนส่งงบ บริษัทต้องตรวจสอบงบที่จะส่งให้ดีที่สุด
โดย
nanakorn
เสาร์ ส.ค. 09, 2008 7:55 am
0
0
เคยได้ยินหลักการลงทุนแบบ VALUE AVERAGIN หรือเปล่าครับ
มีคนทำวิจัยเปรียบเทียบ DCA กับ DVA ไว้ ผมยังไม่ได้อ่านอย่างละเอียดครับ ดูสรุปคร่าวๆแล้วดูเหมือน DVA จะชนะ DCA ได้ เหตุผลน่าจะเป็นที่ ตอนราคาหน่วยลงทุนลดลง DVA จะต้องใช้เงินมากขึ้นในการซื้อจำนวนหน่วยลงทุน (ที่ราคาถูกอยู่) เพื่อชดเชยส่วนของพอร์ตที่ลดลง กล่าวสั้นๆคือ ตอนราคาลง แค่ใช้เงินเท่าเดิม (อย่าง DCA) ก็ซื้อหน่วยลงทุนได้จำนวนหน่วยมากขึ้นอยู่แล้ว แต่ในกรณี DVA ยังโดนบังคับให้เพิ่มเงินซื้อเข้าไปอีกด้วย http://www.studyfinance.com/jfsd/pdffiles/v13n1/marshall.pdf
โดย
nanakorn
ศุกร์ ก.ค. 18, 2008 9:24 am
0
0
ของที่ระลึกมอบแด่พี่ครรชิตครับ
ขอแสดงความยินดีและขอบคุณ คุณครรชิตมากๆครับ
โดย
nanakorn
อังคาร ก.ค. 15, 2008 4:15 pm
0
0
หุ้นตก
ได้มาอ่านกระทู้นี้ คลายเครียดจริงๆครับ (ตอนที่เป็นกลอน) :D :D
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. มิ.ย. 12, 2008 4:53 pm
0
0
ผลประกอบการ Q1 51 ทดสอบจิตใจ VI
ผมถือว่าทุกอย่างเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ หุ้นแต่ละตัวย่อมมีปัจจัยภายนอกที่เราคาดไม่ถึงหรือไม่รู้ มากระทบได้อยู่แล้ว หุ้นที่เลือกบางตัวจะทำให้ดีใจมาก ผิดหวังมากอยู่บ้าง ก็คงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ สำคัญอยู่ที่ตัวพอร์ตทั้งพอร์ตไม่ควรจะถูกกระทบได้มากๆแบบง่ายๆขนาดนั้น และสำคัญอยู่ที่เราจะตัดสินใจอย่างไร ในกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นด้วย
โดย
nanakorn
อังคาร พ.ค. 13, 2008 8:20 pm
0
0
บจ. ที่สามารถเอาสายไฟลงใต้ดินได้
มีหม้อแปลงใต้ดินสำหรับสายไฟฟ้าใต้ดินครับ ส่วนใหญ่เป็นแบบที่เรียกว่า pad-mounted transformers ซึ่งจะมีส่วนที่อยู่ใต้ดินและส่วนที่โผล่มาอยู่บนดินมีลักษณะเป็นตู้ ให้สามารถ service ได้
โดย
nanakorn
ศุกร์ เม.ย. 18, 2008 6:12 pm
0
0
มาม่าห่อเล็กลง ราคาเท่าเดิม 5 บาท
ตอนเด็กๆเคยอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ที่เป็นเรื่องของคนในอนาคตที่จะตัวเล็กลง ทั้งนี้เนื่องจากคนตัวเล็กใช้พลังงานน้อย (ถึงแม้ว่าพลังงานจำนวนมากจะถูกนำไปเลี้ยงสมอง แต่ถ้าร่างกายเล็กกว่า ก็ใช้พลังงานรวมน้อยกว่า) ทำให้ได้เปรียบในสภาพแวดล้อมที่อาหารและพลังงานหายาก ในอดีตคนตัวใหญ่ดีเนื่องจากใช้กำลังในการเอาชนะกัน ในอนาคต คนตัวเล็กอาจจะดีกว่าเหมือนอย่างที่ว่าไว้ในนิยาย กินมาม่าห่อเล็กลง ใช้น้ำหอมทาง่ามแขนขวดเล็กลงได้ ไม่มีปัญหาอะไร :D :D
โดย
nanakorn
พุธ เม.ย. 16, 2008 10:53 am
0
0
ทำไมนักลงทุน จึงไม่พ่ายแพ้ต่อพนักงานบริษัท นั้นๆ โดยสิ้นเชิง
คน 2 คนมีข้อมูลเดียวกันอยู่ คนนึงขาย คนนึงซื้อ ผมว่าปัญหาของความแตกต่างนอกจากข้อมูลแล้ว อยู่ที่การวิเคราะห์ข้อมูลนั้นด้วยนะหมอ ถ้าจะเปรียบเทียบความได้เปรียบเสียเปรียบ เนื่องจากการทำงานและไม่ทำงานในบริษัทนั้นๆ ต้องสมมุติว่า คนเก่งเท่ากันก่อนครับ ถึงจะยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ถ้านำนักลงทุนที่ลงทุนมาแล้วหลายๆบริษัท มีประสบการณ์และความรู้ในเรื่องลงทุนมากกว่า มาแข่งกับ พนักงานบริษัทที่บังเอิญลงทุนในบริษัทตัวเองไว้ ก็อาจจะเป็นไปได้มากว่านักลงทุนจะได้เปรียบในเรื่องการลงทุน
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 2:16 pm
0
0
ทำไมนักลงทุน จึงไม่พ่ายแพ้ต่อพนักงานบริษัท นั้นๆ โดยสิ้นเชิง
ผมคิดว่า พนักงานบริษัทระดับปกติๆ ไม่ควรถือหุ้นบริษัทตัวเองมากเกินไป เพราะถ้าบริษัทมีปัญหาอาจจะโดนเคราะห์สองทาง ยิ่งถ้าผู้บริหารไม่โปร่งใส ปกปิดความจริงก็จะยิ่งแย่ ตัวอย่างที่ Extreme ก็เช่นพนักงานของ Enron ที่มี Provident Fund และลงทุนส่วนตัวใน Enron มากๆ พอ Enron ล้ม ก็ตกงานและทรัพย์สินที่เก็บไว้เป็นหุ้น Enron ก็ละลายหายไปด้วย แต่ถ้าลงทุนไม่มากนัก ในความเห็นของผม พนักงานบริษัทอย่างไรก็ได้เปรียบบุคคลภายนอกในเรื่องข้อมูลของบริษัทตนเองอยู่แล้ว
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 1:41 pm
0
0
+TEAM+
แล้วพี่พอใจว่าไงคะ ต้องคิดแบบไหนถึงจะเหมาะสมกว่ากันคะ :8) ถ้าคิดแบบว่าราคาเมื่อวาน 6.85 ปันผล 0.35x0.9=0.315.......>>>6.85-0.315=6.535 แล้วได้หุ้น 4 :1>>>>>>>>>>>(6.535x4)/5=5.228 คิดแบบนี้ถูกหรือไม่อย่างไรก็ชี้แนะด้วยแล้วกันนะคะ :o สมการต่างๆต้องมีเหตุผลที่ใช้ในการตั้งสมการด้วยครับ สมมุติเราบอกว่าคนที่ขายหุ้นวันก่อน XD หนึ่งวัน และ ขายวัน XD ควรได้รับผลตอบแทนเท่ากัน เนื่องจากวันต่างกันเพียงวันเดียว มีหุ้นเพียง 1 หุ้นก่อน XD ขายก่อน XD ได้ = 1x6.85 บาท ขายหลัง XD (สมมุติว่าได้หุ้นปันผลมาขายด้วยเลย) ในราคา B บาท/หุ้น ได้ (1+1/4)B+0.35 จับมาเท่ากัน 5B/4 + 0.35 = 6.85 B = (6.85-0.35)x4/5 = 5.20
โดย
nanakorn
พุธ มี.ค. 12, 2008 8:49 am
0
0
(เกมจับผิด)หมายเหตุเรื่องหนี้สงสัยจะสูญ
ขอคิดต่อเช่นกันครับ ตัวรายละเอียดเรื่องสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น ต้องเป็น ณ เวลาที่ระบุ เนื่องจากเป็นความจริง ณ เวลานั้น อันนี้ ตรงไปตรงมา ขยับไม่ได้ แต่ตัว "ความสงสัย" ในหนี้"สงสัย"ว่าจะสูญ ไม่ใช่ความจริง แต่เป็นการคาดเดาตั้งแต่ต้น (อาจจะมีการใช้วิธีทาง Quantitative เช่น ระยะเวลาที่ไม่จ่าย มาช่วยในการคาดเดา) ดังนั้น ภายหลังถ้ามีข้อมูลที่่ชัดเจนกว่าการคาดเดาที่เดาไว้ตอนแรก ณ วันสิ้นสุดรายงานการเงิน (เช่นลูกหนี้จ่ายหนี้เรียบร้อย หลังวันสิ้นสุดในรายงาน แต่ก่อนทำรายงานเสร็จ ทำให้ไม่สงสัยว่าหนี้จะสูญอีกต่อไป) แล้วยังใช้การคาดเดา (ที่ไม่ใช่ความจริงอะไร) ที่รู้ว่าผิดในรายงานอีก ผมคิดว่าก็ไม่น่าจะเหมาะสม การปรับสิ่งที่เดาผิด ให้ถูกต้องกว่า น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าครับ
โดย
nanakorn
ศุกร์ ก.พ. 22, 2008 9:03 pm
0
0
(เกมจับผิด)หมายเหตุเรื่องหนี้สงสัยจะสูญ
ผมไม่ใช่นักบัญชี แต่เข้าใจว่าหลักการต่างๆของนักบัญชีตั้งขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด ถ้า ณ วันที่ 31/12/07 มีลูกหนี้เจ้าหนึ่งที่ติดหนี้เกิน 6 เดือนอยู่ 10 ล้านบาท ปรากฎว่าวันที่ 15/01/08 ลูกหนี้เจ้านี้จ่ายหนี้คืนทั้งหมด ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่รายงานการเงินปี 07 จะทำเสร็จ ถ้าให้ผมคิดเอง ผมก็จะบอกว่า ในรายงานการเงินปี 07 น่าจะเป็นดังนี้ 1) ณ วันที่ 31/12/07 ลูกหนี้เจ้านี้ติดหนี้บริษัทอยู่ 10 ล้านบาท (ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง) 2) แต่ผมจะไม่ Classify ว่าเป็นหนี้สงสัยจะสูญ เพราะจริงๆแล้วมันไม่สงสัยว่าจะสูญ ได้รับเงินคืนมาแล้ว (ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง) แต่ผมไม่ชอบส่วนที่บอกว่า ให้บริษัทพิจารณาทาง Qualitative ได้ด้วย เช่น ลูกหนี้เจ้าหนึ่ง ถึงแม้เวลาล่วงเลยมานานยังไม่จ่าย แต่บริษัทเจ้าหนี้มั่นใจว่ายังไงก็จ่ายแน่ ไม่ต้องรวมเป็นหนี้สงสัยจะสูญ ตรงนี้จะเป็นช่องให้ซ่อนตัวเลขได้ กติกาจริงๆเป็นอย่างไร อยากทราบจริงๆครับ
โดย
nanakorn
ศุกร์ ก.พ. 22, 2008 5:43 pm
0
0
Re: (เกมจับผิด)หมายเหตุเรื่องหนี้สงสัยจะสูญ
ไปอ่านมาบริษัทหนึ่งเจอในหมายเหตุระบุไว้ดังนี้ ผมว่า ส่วนที่ขีดเส้นใต้ไว้เป็นส่วนที่บริษัทจะใช้ในการตัดลูกหนี้บางคนออก เช่นตามตัวอย่างลูกหนี้ที่เป็นราชการที่คุณ Naris ให้ไว้ ประโยคที่ตามมาเป็นอัตราที่ใช้ในการคิดสำหรับลูกหนี้ที่ไม่ได้ถูกคัดออก ส่วนตัวผมเห็นว่า น่าจะต้องใช้หลักการเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าลูกหนี้จะเป็นใคร จะได้ตัด Human Factor ออก ไม่อย่างนั้น จะเป็นช่องให้หลบตัวเลขหนี้จะสูญมากๆได้
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. ก.พ. 21, 2008 7:54 am
0
0
** แค่ใหนถึงเรียกว่านักลงทุน **
เรื่องแค่ไหนถึงเรียกได้ว่าเป็นนักลงทุน ไม่ใช่นักเก็งกำไร คงจะขึ้นกับแต่ละคนครับ เส้นแบ่งของแต่ละคน ในเรื่องความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เริ่มเข้าสู่การเก็งกำไรคงไม่เท่ากัน ที่่คนส่วนใหญ่จะเห็นตรงกัน น่าจะเป็นกรณีที่ชัดเจนค่อนข้างมาก หรือตามภาพพจน์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น การเล่นหวยไม่เป็นการลงทุน การฝากเงินในธนาคารเป็นการลงทุน การซื้อขายหุ้นเองเป็นการพนัน การซื้อขายหุ้นผ่านการซื้อหน่วยกองทุนรวมเป็นการลงทุน เป็นต้น แต่แม้แต่กรณีที่คิดว่าชัดเจนแล้ว อาจจะยังมีคนคิดแตกต่าง ผมเคยดูรายการเกี่ยวกับคนติดหวยที่บอกว่าการเล่นหวยเป็นอาชีพเสริมของตัวเอง
โดย
nanakorn
พฤหัสฯ. ก.พ. 21, 2008 7:39 am
0
0
ROA คืออะไร บอกอะไรเราได้ครับ
[quote="chatchai"]บริษัท B
โดย
nanakorn
จันทร์ ก.พ. 18, 2008 6:22 pm
0
0
374 โพสต์
of 8
ต่อไป
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
nanakorn
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร ก.ย. 13, 2005 8:45 am
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
636 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.03% จากโพสทั้งหมด / 0.09 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
Everything I do, I do it for you.
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว