Re: รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ ขอบคุณนะครับพี่ Yoyo กับคุณูปการและข้อเขียนทรงคุณค่าให้กับวงการลงทุนไทย ด้วยความอาลัยครับ แสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยครับ โดย SawScofield จันทร์ ต.ค. 18, 2021 10:10 pm

Re: ท่านคิดว่า mos กี่ % ถึงจะตัดสินใจซื้อหุ้นครับ แล้วแต่ช่วงครับ เพราะกระทั่ง valuation เรายังยืดหยุ่นระหว่าง Absolute Value กับ Relative Value Margin of safety อาจจะต้องการแค่ 25-50% แล้วแต่บริบท แต่หลายครั้ง upside หวังได้เกินเด้งแลยครับกับพัฒนาการและกิจกรรมตามความเป็นจริง โดย SawScofield ศุกร์ พ.ย. 27, 2020 12:06 pm

Re: **วันนี้ 9 โมง**เปิดรับสมัคร Thai VI Global Forum เปิดประตูสู่หุ้นต่างประเทศ สมัครร่วมงานครับ โดย SawScofield ศุกร์ ต.ค. 09, 2020 9:04 am

Re: มาแนะนำหนังสือการลงทุนในต่างประเทศ กันคนละเล่มครับ อีกซักเล่มแล้วกันครับ อาจจะ Old economy หน่อย แต่เชื่อว่าชื่อนี้ใครก็รู้จักครับ Nutella World เป็นเล่มฉลองครบรอบ 50 ปี (2015) พอดี ไปเดิน kino จะซื้ออย่างอื่นดันเตะตาได้แถมมาด้วย สนุกครับ 😄 6AC43C50-0E56-4230-8345-8472A9D91B75.jpeg โดย SawScofield จันทร์ ต.ค. 05, 2020 12:50 pm

Re: จิตวิทยา Biasที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ thaiviรุ่น17 อ.พี่เวป มีครับ anchoring นี่ พี่เวปสอนว่า ยึดได้ทั้งตัวเลข เช่น ราคาiPo ราคาต่ำสุดและยึดเหตุการณ์ ก็ได้ครับ เช่นคิดว่า วิกฤต ก็ต้องเหมือนๆกันหมด อะไรแบบนี้ครับ เช่นชอบเอาวิกฤตนี้ไปเทียบวิกฤตก่อนกันแบบผิวเผินเดี๋ยวผมจะสรุปต่อครับพอดีเมื่อวานโดนโทรตามไปทำงานรอบดึกอีกครับแหะๆ ขอโทษด้วยครับ สรุปไม่เสร็จสักที อ่อว ครับๆ ขอบคุณมากนะครับ ไว้รออ่านต่อครับ ^^ โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.ย. 24, 2020 4:47 pm

Re: VI กับสภาพคล่อง ขึ้นกับขนาดพอร์ตด้วยน่ะครับ สมัยเริ่มแรกหรือพอร์ตยังเล็ก สภาพคล่องหรือขนาดกิจการอาจจะไม่มีผล หรือมีผลน้อยมากๆจนไม่ต้องสนใจ แต่พอขนาดพอร์ตเริ่มโตขึ้นการขาดสภาพคล่องแล้วเราจำเป็นต้องขาย (คำว่าจำเป็นมีหลายรูปแบบที่ไม่ใช่ขายเพราะราคาของตัวนี้ลงหรือจำเป็นต้องใช้เงินนะครับ) ยกตัวอย่างเป็นเจอตัวใหม่ที่ต้องซื้อในช่วงเวลานั้นเท่านั้นแล้วกันครับ การ switch ออกจากตัวที่มีสภาพคล่องต่ำ อาจทำให้ราคาเสียหาย ลงมาหลายช่อง หรือใช้เวลานานกว่าจะขายได้ถึงจุดที่ตั้งใจ จนเสียโอกาสในการ switch อะไรแบบนั้นครับ โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.ย. 24, 2020 4:31 pm

Re: จิตวิทยา Biasที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ thaiviรุ่น17 อ.พี่เวป พี่เว็ปสุดยอดเสมอจริงๆครับทั้งจิตวิทยาการลงทุนและ case study กิจการต่างๆ ว่าแต่ท่านไม่ได้พูดถึง Anchoring Bias หรอครับรอบนี้ (ไม่แน่ใจ หรือถือว่ารวมอยู่ใน Cognitive Bias แล้วรึปล่าวนะครับ) เพราะส่วนตัวก็ยังเผลอเป็นอยู่ตลอดกับราคาหุ้นตัวนั้นตัวนี้ แล้วเราจะได้ยินนักลงทุนเป็นกันบ่อยว่า โห ปีที่แล้ว 10 บาท ตอนนี้ 5 บาท ถูกลงตั้งเยอะ เดี๋ยวก็เด้ง หรือกลับกันเคยซื้อ 5 บาทขึ้นมา 10 บาทก็จะรู้สึกแพงมากแล้ว ทั้งที่ 2 กรณี ปัจจัยพื้นฐานของกิจการอาจเปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง แล้วยิ่งเป็นหุ้นที่มีอยู๋ในมือยิ่งผสมโรงกับ Loss Aversion Bias หนักขึ้นไปอีก ส่วนตัวเลยชอบ Anchoring Bias ที่สุด และเตือนตัวเองสำหรับ Bias นี้บ่อยที่สุดครับ โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.ย. 24, 2020 11:29 am

Re: มาแนะนำหนังสือการลงทุนในต่างประเทศ กันคนละเล่มครับ ขอเป็นเล่มล่าสุดที่เพิ่งอ่านจบแล้วกันครับ ชอบมากๆ เห็นว่ามีแปลไทยแล้วด้วย AI Superpowers : China, Silicon Valley, and The New World Order ไปครับ นอกจากจะได้รู้ที่มาที่ไป การขับเคี่ยว AI ระหว่าง 2 ชาติ ยังมีมุมเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้ประกอบการของทั้ง 2 ชาติ จีนและอเมริกา สนุกและทรงคุณค่ามากครับ 2FD0D891-19F2-4AC4-AE62-39707983AAA7.jpeg โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.ย. 24, 2020 1:23 am

Re: สิ่งที่ นักลงทุนระยะยาว ควรทำมีอะไรบ้างครับ ขอบคุณมากๆครับ 🙏🙏🙏 ผมจะนำไปปฏิบัติตามนะครับ มิกล้าครับๆ 555+ ถือว่าแชร์กันสนุกๆครับ พอได้นึกๆแล้วเขียนอะไรแบบนี้ มันเหมือนได้ทบทวนตัวเองด้วยน่ะครับ ขอบคุณเช่นกันครับ :) โดย SawScofield พุธ ก.ย. 23, 2020 11:09 pm

Re: สิ่งที่ นักลงทุนระยะยาว ควรทำมีอะไรบ้างครับ ขอเสริมซัก 4 ข้อครับ 1. ต่อม curiosity ทำงานโดยธรรมชาติ : ช่างสังเกต ช่างซักช่างถามช่างสงสัย scuttlebutt จนเป็นนิสัย หลายครั้งเราจะเห็นพฤติกรรมและความเปลี่ยนแปลงก่อนคนในตลาดแน่นอนครับ 2. จมูกในการสืบค้นและ crosscheck ข้อมูล : คือข้อแรกอาจจะเป็นข้อมูลปฐมภูมิ แต่หลายครั้งเราก็ต้องการ confirm ข้อมูลนั้นด้วย research / slide ต่างๆจากบริษัทจดทะเบียน คู่แข่ง / สัมภาษณ์ผู้บริหาร / กิจการในต่างประเทศที่อาจจะเป็นต้นแบบได้ / กระทั่งบางครั้ง keyword ในการ search ยังอาจจะทำให้ได้ข้อมูลที่ต่างมุมกัน 3. ความสามารถในการปะติดปะต่อเชื่อมโยง : ทุกสิ่งที่เราได้มาจากความมุมานะ อดทน อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียรหาความรู้ แต่ถ้าเราไม่ต่อจิ๊กซอว์ ก็จะไม่มีทางเห็นภาพรวมของสิ่งที่เราอุตส่าห์รวบรวมมาเลยครับ นอกจากนี้ ยังนึกไม่ออกด้วยว่าภาพที่เหลือที่ยังต่อไม่ครบหรือยังไม่กิดขึ้น เราควรจะเห็นอะไรบ้าง เรียกว่าเหนื่อยไม่คุ้มที่ลงแรงไปก็ว่าได้ 4. สุดท้าย จิตวิทยาในการลงทุน : อันนี้ก็สำคัญครับ ต่อให้คุณมีคุณสมบัติอื่นๆ ครบ อย่างที่นักลงทุนอันยอดเยี่ยมจะพึงมี แต่ขาดจิตวิทยาในการลงทุน ไม่เข้าใจมวลชน take action แบบแห่ตาม ตื่นตระหนก ไปเป็นคนสุดท้ายทั้งที่ควรไปคนแรกๆ หรือลุกเป็นคนแรกๆทั้งที่ยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของการแสดงอันยิ่งใหญ่ ขายหมู ซื้อควาย ขาดทุนแล้วเด้งกลับมาก็ขาย กำไรแล้วลงกลับมาก็ดันถือจนขาดทุนหนัก ซื้อที่ All tome high ขายที่ All time low รวมๆแล้วคือ เก่งแต่ในตำรา apply จริงๆในหน้างานไม่ได้ (ในเชิงจิตวิทยา) ก็มิอาจถึงฝั่งฝัน หรือซื้อกองทุนอาจจะเหมาะกว่าอะไรแบบนั้นครับ ปล อีกซักข้อแล้วกันครับ กตัญญูรู้คุณ ทั้งบุพการี และเพื่อนฝูง/ผู้ที่ชี้แนะทุกท่าน ไม่ปฏิเสธว่าบางคนเก่งได้ด้วยตัวเอง แต่ศิษย์ดีน่าจะต้องมีครูด้วยครับ :) ประมาณนี้ครับ รอท่านต่อไปมาเสริมครับ :) โดย SawScofield พุธ ก.ย. 23, 2020 10:47 pm

Re: การที่บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน แต่หุ้นขึ้น มันหมายความว่ายังไง ตัวอย่างที่ชอบที่สุดช่วง Covid-19 ที่จำติดตาเลยคือข่าวของสายการบิน Delta Airlines ครับ ทันทีที่งบ Q1/20 ประกาศราวเดือน พ.ค. จากนั้นอีก 1 เดือนหุ้นขึ้นราว 90% เฉียด 1 เด้ง เหตุผลคือผลประกอบการแย่น้อยกว่าคาดนั่นแหละครับ ที่เด็ดคือคาดว่ารายได้จะหายราว 90% แต่ประกาศมาหายจริงแค่ 88% !! ใช่ครับ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว 555 แม้ว่าหลังจากนั้นมาจะเริ่มซิกแซกออกข้างแต่ก็ถือว่าผลตอบแทนไม่ขี้เหร่เลยจากจุด bottom แม้จะเป็นหุ้นต่างประเทศก็เป็นตัวอย่างที่ดีครับ นาทีนี้ผลตอบแทน YTD ยังอาจจะ -47% โดยประมาณแต่ก็ถือว่า turn จากจุด bottom ที่ -70% มาได้ประมาณนึง ส่วนเรื่องราวการ price in ใช่แค่ข่าวร้ายครับ การไม่มีข่าวร้ายเพิ่มก็อาจเป็นข่าวดี ในขณะที่การไม่มีข่าวดีเพิ่มแล้วก็อาจเป็นข่าวร้ายเช่นกันครับ นอกจากประเมินมูลค่าแล้ว risk/reward upside/downside โอกาส/ค่าเสียโอกาส ก็ควรถูกวัดอยู่สม่ำเสมอในกิจการที่คัดสรรเชิงคุณภาพมาแล้วเหมือนกันครับ :) โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2020 4:19 pm

Re: ทำไมเราต้องลงทุนหุ้นต่างประเทศ? มาแชร์กันครับ กลายเป็นกระทู้ทรงคุณค่าในยุคโควิดปีที่ 0 ไปเรียบร้อยครับ ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านนะครับ ไม่ได้เห็น log in ระดับตำนานมารวมตัวกันแบบนี้มานานแล้วครับ ^^ โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.ย. 03, 2020 4:07 pm

Re: แชร์ List 10 หุ้นพื้นฐานดี จาก เพจ ซั่มหุ้น ไม่เอากลุ่มสร้าง ซ่อม บ้าน เข้ามาซักตัวหรอครับ ็HMPRO GLOBAL DOHOME ถือว่ามีของพอตัวเลยนะครับ *** ค้องขอสังเกตในเชิง categories เฉยๆนะครับ มิได้เจตนาชี้นำใดๆ *** โดย SawScofield ศุกร์ เม.ย. 10, 2020 3:05 pm

Re: **เปิดรับ** งานสังสรรค์ VI ประจำปี 2562 ครั้งที่1 SawScofield / สมาชิกสมาคม / 1 ที่นั่ง / 1,440.06 บาท / scb / 23-04-2562 / 10.01 โดย SawScofield อังคาร เม.ย. 23, 2019 10:03 am

Re: ข้อดีและข้อเสียของSBL คืออะไร? ผมคิดว่าข้อเสียคือการจะใช้เงินทันทีด้วยการขายหุ้นที่ถูกยืมคงทำไม่ได้ ลองให้ยืมกับบัวหลวง ขายได้ทันทีครับ เข้าใจว่า pool supply คงใหญ่พอ จะใช้เงินก็ไม่ต่างจากขายหุ้นปกติ โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.พ. 14, 2019 3:49 pm

Re: “Stay The Course” / หนังสือเล่มสุดท้ายของ Jack Bogle ขอบคุณมากครับทั้งส่วนของหนังสือและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเพิ่มเติม แถมหยิบยกและลำดับเรื่องราวได้ยอดเยี่ยมเลยครับ รู้ตัวอีกตัวกดสั่งหนังสือมาประดับชั้นวางหนังสือ เอ้ย สั่งมาอ่านแล้วครับ 555+ โดย SawScofield อังคาร ม.ค. 29, 2019 1:08 pm

Re: *จองได้เลยค่ะ* งาน Money Talk@SET เดือน ธ.ค. 61 จอง 1 ที่ครับ โดย SawScofield พุธ ธ.ค. 12, 2018 12:14 pm

Re: **วันนี้10.00โมง**เปิดรับงานสังสรรค์ VIประจำปี 61(ครั้งท SawScofield / สมาชิกสมาคม / 1 ที่นั่ง / 1,440.14 บาท / bbl / 27-09-2561 / 10.01 โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.ย. 27, 2018 10:02 am

Re: การตกผลึกแนวคิดของเซียน ชวงเวลาแบบนี้ ขอกลับมาตั้งหลักแถวๆกระทู้ทรงคุณค่ากันอีกซักทีนะครับ ขอบคุณครับพี่นริศ เหนือกาลเวลาจริงๆครับผลึกความคิดเหล่านี้ โดย SawScofield พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2018 5:00 pm

Re: หนีเป็นยอดกลยุทธ์ cut loss แปลว่าอะไรครับ555 Cut loss แปลว่า ถอยทัพ ครับ 555+ โดย SawScofield พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2018 4:00 pm

Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลความจริงครับ โดย SawScofield จันทร์ มิ.ย. 18, 2018 6:51 pm

Re: ต่างชาติขายหุ้นไทย 2561 อีกนัยหนึ่งอาจจะเรียกได้ว่าประเทศไทย Fully value ไปแล้วก็ได้นะครับ ตามความเห็นพี่ข้างต้นและอ้างอิงบทความของท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ กระนั้นถ้ามองถึงเนื้อในและกิจกรรม เราก็ยังเป็น top destination ของการท่องเที่ยว ยังเป็นเมืองหลวงของอาหารและผลไม้ Capital of Food and fruits อุตสาหกรรมบันเทิงก็แข่งกันอย่างดุดัน banking ก็ปรับเปลี่ยนให้คล่องตัวขึ้นมากมาย app สั่งอาหาร shopping online ก็ตื่นตัวเหลือเกินในเมือง แม้การ disrupt จะเกิดขึ้นทุกวัน สินค้าและบริการดีๆ อาจจะไม่ใช่กิจการที่ดี กิจการที่ดีก็อาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ใน spot light โดยตรง อาจเป็นกลุ่มข้างเคียงหรือขั้วตรงข้ามด้วยบางครั้ง ทั้งหลายทั้งปวงแค่อยากจะบอกว่า "อย่าเพิ่งหมดหวัง" ครับ เขาไม่ถือหุ้นเรา เราก็อยู่กันเองได้ ข้อดีเราก็มีมากมาย หรือสุดท้ายถ้ากังวลหรือถูกทอดทิ้งกันมากไป "กิจการนางฟ้าตกสวรรค์" ก็จะกลับมายื่นข้อเสนอที่เกินกว่าจะปฎิเสธให้เราอยู่ดี ยกตัวอย่างศตวรรษที่สูญหายหลังยุครุ่งเรืองของญี่ปุ่นก็ยังมี Nintendo มี Okamoto ที่ยังทำ 3-4 เด้งในช่วงเวลาที่ถูกต้อง บางคนอาจจะบอกก็นั่นมันญี่ปุ่น ยักษ์เบอร์ 3 โลก จ้าวนวัตกรรม ก็แล้วทำไม ที่นี่ก็ประเทศไทย ดินแดนที่ยังขี่ช้างไป รร นะเหรอ ? ปล่าว ดินแดนทุเรียน 80,000 ลูกใน 1 นาทีต่างหาก :) โดย SawScofield พุธ พ.ค. 30, 2018 2:36 pm

Re: ช่วยผมหน่อยครับ นอกจาก P/E 50 ในตอนนั้นที่ทุกคนพูดกันไปเยอะแล้ว ตัวช่วยอีกตัวคือขนาด Mkt cap. ครับ จะพอบอก size ของกิจการได้ ทั้งกำไร ทั้ง management ทั้งทุกอย่างที่บริษัทมีจะเป็นตัวบอกเราได้ว่าเราซื้อได้ที่ราคาคุ้มค่ามั้ย ไอ่ 5,200 ล้านบาทเหนี่ย คุ้มขนาดธุรกิจมั้ย แล้วคุ้มตอนนี้เลยมั้ย หรือต้องรออีกกี่ปี แล้วจากนั้นล่ะมันจะโตต่อเนื่องมั้ย เป็น 6 พันล้าน 7 พันล้าน ไหวมั้ย หมื่นล้านไหวมั้ย ไม่ใช่แค่ฟังใครต่อใครพูดให้ข้อมูลแล้วเชื่อเลยครับ เราต้องมากรองเอา facts มาวิเคราะห์ต่อเอง ... อีกมุมหนึ่งผมขอเรียกมุมมองเหล่านี้ว่าเป็นการหา Absolute fair value นะครับ ในขณะที่ ... เอ๊ะ แล้ว 5,200 ล้านบาทตอนนั้น มันยังมีกิจการที่ขนาดใกล้เคียงกันที่น่าซื้อมากกว่ารึปล่าว Mkt cap. ขนาดนี้เนี่ย ที่คุณภาพแน่นกว่า กิจการติดตามได้ง่ายกว่า เดินดุ่มๆไปใช้สินค้าและบริการ รวมถึงนับลูกค้าแทนเค้า ฟัง feedback แทนเค้า รู้ซะก่อนงบจะออกซะอีกว่าไตรมาสนี้หรือกระทั่งปีนี้ตัวเลขจะเป็นอย่างไร รวมถึงย้อนมาที่ P/E ว่า P/E ของกิจการที่แพงสมน้ำสมเนื้อกัน อันไหนคุ้มค่ากว่า มี upside มากกว่า มุมมองนี้ผมเรียกกันว่า Relative fair value ครับ ว่าเปรียบเทียบกับของที่ใกล้เคียงกันแล้วควรซื้ออันไหนมากกว่า (ex. กางเกงยีนส์ก็ได้ครับ ตัวละ 1,000-2,000 คุณซื้อมั้ย ถ้าซื้อราคานี้เอาของ uniqlo zara mc wrangler lee h&m หรืออะไรดี ก็เทียบไป) แล้วพวกผมชอบพูดกันเล่นๆนะฮะว่า ... ทำไมต้องซื้อหุ้น P/E แพงกว่าหุ้น Starbucks นะ ... เอาจริงๆ คือคนละบริบทอะนะครับ ทั้ง growth ทั้งความแพง แต่อยากให้เปรียบเทียบแล้วซื้อของที่เข้าใจและคุ้มค่าจริงๆ สุดท้ายนะฮะ ถ้าซื้อของที่ราคา ก็ขายที่ราคานั่นแหละครับ แต่ถ้าซื้อเพราะมูลค่า คุณจะเห็นลึกกว่าคนทั่วไปครับ ... แค่บางครั้งมันจะต้องใช้เวลาบ้างอะไรบ้าง ที่สำคัญที่สุด ซื้อของแพงก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้าเรารู้คุณค่ามันจริงๆหรืือมันเหมาะสมจริงๆ หมูกระทะ 299 กับบุฟเฟ่ต์เนื้อวากิว 1,399++ คุณภาพก็ต่างกันจริงมั้ยครับ จะเลิกอะไร ก็แล้วแต่คุณครับ โชคดีครับ ขอให้ผ่านไปได้ฮะ :) โดย SawScofield จันทร์ เม.ย. 09, 2018 12:40 pm

Re: <วันนี้เปิดจอง10.00น.>งานสังสรรค์ VI ประจำปี 2561 ครั้งท Sawscofield / สมาชิกสมาคม / 1 ที่นั่ง / 1,440.14 บาท / KBANK / 13-03-2561 / 10:01 โดย SawScofield อังคาร มี.ค. 13, 2018 10:01 am

Re: ** เปิดรับจอง ** Money Talk@SET เดือน ธ.ค.60 จองสัมมนา 1 ที่ครับ โดย SawScofield พุธ ธ.ค. 06, 2017 12:16 pm

Re: """งานสังสรรค์ VI ประจำปี 2560 ครั้งที่ 2"""">>>จอง 16 ส SawScofield / สมาชิกสมาคม / 1 ที่นั่ง / 1,350.06 บาท / KBANK / 16-08-2560 /10:01 โดย SawScofield พุธ ส.ค. 16, 2017 10:03 am

Re: **เปิดจองแล้ว Money Talk@mai Forum 2017 รับ 100 ที่นั่ง* จอง 1 ที่ครับ โดย SawScofield พุธ มิ.ย. 21, 2017 11:09 am

Re: ///วันนี้_เปิดจอง Money Talk@SET มิ.ย.60 ((80ที่นั่ง))// จอง 1 ที่ครับ โดย SawScofield พุธ มิ.ย. 07, 2017 11:39 am

Re: ณ ต้นปี2017 หุ้นที่เพื่อนๆถือมานานสุดนั้น ถือมากี่ปี 6 ปีครับ หุ้นก่อสร้างเฉพาะทางตัวหนึ่ง ขายออกเกือบหมดตอนที่ประเมินได้ว่าเกินมูลค่าเหมาะสมมาพอสมควร แต่ระหว่างนั้นมีการแตกพาร์/จ่ายหุ้นปันผลมาก็กลับมามีสัดส่วนในพอร์ตประมาณหนึ่งอีกครั้ง แม้จะไม่ได้เป็นสัดส่วนที่เยอะแล้วในวันนี้ครับ โดย SawScofield อังคาร มี.ค. 28, 2017 1:44 pm

Re: (วันนี้เปิดจอง10.00 น.):::งานสังสรรค์ VI ประจำปี 2560 SawScofield / สมาชิกสมาคม / 1 ที่นั่ง / 1,350.01 บาท / Kbank / 08-03-2560 / 10:01 โดย SawScofield พุธ มี.ค. 08, 2017 10:02 am

Re: “มองหาไอเดียการลงทุน"งานสังสรรค์ VI-59 ครั้งที่2 (ห้ามพล Sawscofield / สมาชิกสมาคม / maje / สมาชิกสมาคม / 2 ที่นั่ง / 2,700.02 บาท / BBL / 22-08-2559 / 10.00 ขอบคุณครับ โดย SawScofield จันทร์ ส.ค. 22, 2016 10:01 am

Re: เปิดจอง Company Visit TKN พฤ. 11 กพ 59 เวลา 10:00น 36 ที จอง 1 ที่ครับ โดย SawScofield พฤหัสฯ. ก.พ. 11, 2016 10:59 am

Re: เมื่อเพื่อนบอกว่า Value Investor คือ การมโน บางเรื่องอาจจะไม่มีอะไรถูกอะไรผิดก็ได้ครับ เป็นแค่ความเหมาะหรือไม่เหมาะ เรียกอีกอย่างว่า match หรือไม่ match พื้นฐานคนละอย่าง ประสบการณ์คนละอย่าง ก็เอาตัวรอดและพัฒนาไปคนละแบบครับ แม้นหลักการทาง Value Investing จะผ่านการพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามันเป็นจริง ใช้งานได้ผลในระยะยาว แต่ความไม่ match หรือไม่เหมาะกับบางคน อาจเป็นพิษร้ายกับเขาด้วยซ้ำครับ ถ้าเราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ก็เปลี่ยนที่ตัวเองครับ ถ้าเรายังคงมีคำถามกับ Value Investing ก็ต้องหาคำตอบและพิสูจน์ด้วยตัวเองครับ แต่ถ้าเราไม่มีคำถามแล้วแค่เดินหน้าอยู่ ก็ปล่อยเขาไปครับ แบ่งปันได้เท่าที่สามารถ จอมยุทธยังมีหลายกระบวนท่าหลากศาตราวุธ X-men หรือ super heros เอยก็มีพลังคนละแบบ ถนัดคนละอย่าง ไม่แปลกหรอกครับที่จะคิดต่างกันบ้าง ^^ โดย SawScofield จันทร์ ก.ย. 14, 2015 5:42 pm

Re: อีก10ปีข้างหน้า หุ้นไทยยังพอมีหวังทำกำไรเฉลี่ยปีละ10-15% เพิ่มเติมนิดนึง : รูปอาจจะไม่เกี่ยวซะทีเดียวเนื่องจากเนื้อหาแค่บอกวิธีการคำนวณ GDP ที่เปลี่ยนไป แต่สัดส่วนกิจกรรมจากภาคบริการในระดับขนาดนี้ ผมเชื่อว่าต้องมีปลาให้เราหาแน่นอนครับ โดย SawScofield จันทร์ ก.ค. 20, 2015 10:46 am

Re: อีก10ปีข้างหน้า หุ้นไทยยังพอมีหวังทำกำไรเฉลี่ยปีละ10-15% ด้วยสัดส่วนกิจกรรมประมาณนี้น่าจะยังมีที่ให้เราไปและอะไรใหม่ๆรอเกิดขึ้นในประเทศอีกมากครับ ... แต่อาจต้องเตรียมสายตาแบบใหม่ๆไว้มองกว้างๆมองไกลๆครับ โดย SawScofield จันทร์ ก.ค. 20, 2015 10:43 am

Re: หนี้ครัวเรือน กับสภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน มีญาติทำขนมขายอยู่ตลาดนัดในจังหวัดพัทลุง จังหวัดเล็กๆเงียบๆ พี่เค้าใช้คำว่าแม่ค้าแทบจะมองหน้ากันในขณะที่ต้นทุนต่างๆก็สูงขึ้นๆ ลูกก็โตขึ้นๆ ในขณะที่ป้าอีกท่านขายของเก็บเล็กผสมน้อยจนสร้างห้องเช่ามากมายในพื้นที่ใกล้ๆกัน ก็ยังหาคนเช่าเก็บค่าเช่าได้ในระดับที่ดี อีกมุมหนึ่งในกรุง กลุ่มเพื่อนหุ้นกันเปิดร้านอาหารขายได้เดือนละ 8 แสนถึง 1 ล้าน อาจเพราะ location ดี เรียกได้ว่าคืนทุนภายใน 2 ปี พร้อมๆกันก็เอาเงินต่อเงินกับเพื่อนอีกกลุ่มร่วมกันเปิด hostel ย่านสุขุมวิท สะกดกันแต่คำว่า all time high high high ทั้งแง่ traffic และรายได้ ดูเหมือนจะคืนทุนใน 7 เดือน แทบทั้งกลุ่มเริ่มจากทำงานกินเงินเดือนที่ทำเงินหน่อยแล้วอาศัยใจกล้า + connection ข้ามมาเริ่มมีกิจการของตัวเอง (แม้อาจจะต้องดูยาวๆอีกหลายปีก็ตาม) ในขณะที่พนักงานออฟฟิซค่าเฉลี่ยมีชีวิตอยู่ด้วยบัตร ตอบสนองความอยากที่เปลี่ยนไปทุกวันแบบไม่สิ้นสุด เดือนชนเดือน แม้หาได้มากขึ้น ตำแหน่งสูงขึ้น ก็ยังมี wealth เท่าเดิมหรือถูกกัดกร่อนไปตามวัยและภาระหน้าที่ ทุกพื้นที่มีปัญหา แต่ในปัญหาก็มีโอกาสเช่นกัน ทุกทะเลทรายมีโอเอซิส ทุกความศิวิไลก็มีมุมมืดเช่นกัน โดย SawScofield จันทร์ ก.ค. 13, 2015 11:58 am

Re: ช่วยแนะนำหนังสือที่รวบรวมการลงทุนของวอร์เรนบัฟเฟตต์หน่อย แนะนำ snowball ที่มีแปลไทยทั้ง 2 เล่มครับ เพื่อให้ทราบที่มาและพัฒนาการของชายที่ชื่อ Warren Buffett ก่อน ส่วนกิจการที่เคยผ่านมือแกมานั้น แนะนำให้อ่าน annual report ของ Berkshire Hathaway ไปเลยครับ + Live blog การประชุมผู้ถือหุ้นของแต่ละปี หรือ สรุปตาม website ต่างๆ top 10 เอย top 20 เอยในกิจการที่ปู่ถือหรือเคยถือ ก็ทำให้พอเห็นแนวคิดและเหตุผลของท่านได้เยอะครับ ก้าวข้ามกำแพงภาษาไปให้ได้ครับ ข้างหลังนั้นมีอะไรสนุกๆรออยู่อีกมากครับ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดคนนึงที่อ่อนภาษาอังกฤษมากครับพี่ จากคนที่เคยเปิดดิกชันนารีแทบทุกคำ ก็เริ่มที่จะอ่านรายงานประจำปีของบริษัทต่างชาติได้สะดวกขึ้น ... ลองดูครับพี่ เป็นกำลังใจให้ครับ บางอย่างเรารอไม่ได้ครับ :) โดย SawScofield พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2015 12:18 pm

Re: **ใกล้เต็มแล้วค่า** เปิดจองสัมมนา Money Talk@SET เม.ย. 5 จอง 1 ที่ครับ โดย SawScofield ศุกร์ เม.ย. 17, 2015 6:40 pm

Re: ความผิดพลาดมูลค่า 100,000 ล้านเหรียญของ “บัฟเฟตต์”/ประภา ขอบคุณครับ ชอบ annual report ครบรอบ 50 ปีนี้มากๆจริงๆครับ ในส่วนของความผิดพลาดในการเข้าซื้อ dexter shoe ก็สนุกดีฮะ ที่ระดับ buffett ยังมอง competitive strength พลาดไป แถมที่เจ็บกว่านั้นแกมักจะไม่ซื้อกิจการด้วยเงินสด แต่มักจะจ่ายด้วยหุ้น Berkshire แกบอกไว้ว่าไม่ใช่แค่เงิน 433 ล้านเหรียญที่ Berkshire จ่ายเพื่อซื้อ Dexter (and its value went to zero !!! T^T) แต่หุ้น Berkshire ที่จ่ายไปน่ะ พอผ่านกาลเวลาดันมีมูลค่าสูงถึง $5.7 billion !!! แหนะ ฮ่าๆ แกถึงกับบอกว่า As a financial disaster, this one deserves a spot in the Guinness Book of World Records. อ่านเพลินเลยครับ รู้จักตัว Warren Buffett เพิ่มขึ้น Charlie Munger เพิ่มขึ้น DNA Berkshire เพิ่มขึ้น ... ที่สำคัญ annual report อะไรยิงมุขตลอด ฮาไปไหน ฮ่าๆ :) แก้ความคลาดเคลื่อนให้ครับ Buffett ชอบซื้อกิจการด้วยเงินสดมากและเกลียดที่จะออกหุ้นใหม่เพื่อซื้อกิจการเป็นอย่างยิ่งเนื่องด้วย Buffett มองว่าหุ้น berkshire มักจะ. Undervalue เสมอดังนั้นการออกหุ้นใหม่เพื่อซื้อกิจการก็คือขาดทุนในความเห็นของ. Buffett ครับ แต่ในบางครั้งเพราะความจำเป็นเนื่องด้วยเจ้าของเก่าเรียกร้องที่จะเอาทั้งเงินสด และ/หรือ หุ้นของberkshire เป็นการแลกเปลี่ยน ในกรณีนี้ buffett จำเป็นต้อง issue new shares ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าของเก่ามักมองว่าการขายหุ้นตัวเองแล้วได้ หุ้น berkshire นั้นคุ้มค่าเพราะคือ "a collection of many outstanding businesses" สามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า. และดีกว่าถือเงินสดด้วย สรุปก็คือ buffett เกลียดการ issue new shares มากแต่ต้องทำในบางครั้งเพราะเจ้าของเก่าใช้เป็นเงื่อนไขเวลาจะขายธุรกิจครับ ขอบคุณนะครับ :) โดย SawScofield พฤหัสฯ. มี.ค. 19, 2015 1:49 pm

Re: ความผิดพลาดมูลค่า 100,000 ล้านเหรียญของ “บัฟเฟตต์”/ประภา ขอบคุณครับ ชอบ annual report ครบรอบ 50 ปีนี้มากๆจริงๆครับ ในส่วนของความผิดพลาดในการเข้าซื้อ dexter shoe ก็สนุกดีฮะ ที่ระดับ buffett ยังมอง competitive strength พลาดไป แถมที่เจ็บกว่านั้นแกมักจะไม่ซื้อกิจการด้วยเงินสด แต่มักจะจ่ายด้วยหุ้น Berkshire แกบอกไว้ว่าไม่ใช่แค่เงิน 433 ล้านเหรียญที่ Berkshire จ่ายเพื่อซื้อ Dexter (and its value went to zero !!! T^T) แต่หุ้น Berkshire ที่จ่ายไปน่ะ พอผ่านกาลเวลาดันมีมูลค่าสูงถึง $5.7 billion !!! แหนะ ฮ่าๆ แกถึงกับบอกว่า As a financial disaster, this one deserves a spot in the Guinness Book of World Records. อ่านเพลินเลยครับ รู้จักตัว Warren Buffett เพิ่มขึ้น Charlie Munger เพิ่มขึ้น DNA Berkshire เพิ่มขึ้น ... ที่สำคัญ annual report อะไรยิงมุขตลอด ฮาไปไหน ฮ่าๆ :) โดย SawScofield อังคาร มี.ค. 17, 2015 8:01 pm

Re: มีพี่ๆ คนไหนจำความรู้สึกตอนที่เข้ามาตลาดหุ้นครั้งแรก เข้าตลาดครั้งแรกกลางปี 2009 จากการเรียนต่อโท เศรษฐศาสตร์ ครับ จุดเริ่มต้นคือวิชาหนึ่งในหลักสูตรที่ชื่อ cost and finance ทำให้ได้เริ่มรู้จักกับตลาดทุนแห่งนี้ครับ เนื่องจากต้องดึงข้อมูล 3-5 บริษัทมาทำ SWOT analysis เปรียบเทียบกัน แล้วส่งการบ้านด้วยการเลือกลงทุนใน 1 บริษัท ... มองย้อนกลับไป คือ เรียนเพื่อทำการบ้านส่ง สอบ และแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโลกการลงทุนจริง จนมีพี่ในกลุ่มที่เรียนด้วยกันนี่แหละครับแกเคยทำงานอยู่ในวงการจึงเริ่มชักชวนไปเปิดพอร์ตตอนกลางปี 2009 นั้นเอง จำได้ว่าไปเซ็นเปิดพอร์ตกันถึง office ของโบรกเกอร์ชื่อดังกลางกรุงหลังเลิกเรียนวันแรกๆที่เริ่มเรียนวิชานี้เลยครับ ผ่านไป 3 วันก็ได้พอร์ตมา วันเดียวก็ฝากเงินเข้าไปในพอร์ต ซัดหุ้น 3 ตัวแรกในชีวิตเลย ได้แก่ PTTEP DTAC และ QH ครับ ขนาดไม่รู้อะไรเลยยังซื้อตั้ง 3 ตัว ... ฮา โชคดีมากมายที่ไม่ได้เริ่มลงทุนในช่วงหุ้นซิ่งครองเมืองครับ T^T ความรู้สึกตอนนั้นคือเอาบริษัทใหญ่ๆไว้ก่อน ชัวร์กว่า + แสกนหุ้นด้วย Financial ratio (P/E เอย P/BV เอย Div. yield เอย) ที่เพิ่งเรียนมาแบบงูๆปลาๆ เฝ้าจอ แล้วก็นั่งลุ้น ซื้อแล้วหุ้นขึ้นดีใจเอาตังค์ไปใช้ ลำพองเล็กๆว่าเอาแล้วสินี่ขนาดยังไม่มีงานทำยังหาตังค์วันนึงเป็นพันๆได้ แม้ตอนที่ซื้อแล้วไม่ขึ้นหรือลงต่อแต่ถือว่าหุ้นดีบริษัทใหญ่โตมันต้องกลับมาสิ (คิดเองเออเองสุดๆครับ T^T) แล้วแป๊บๆมันก็กลับมาจริงๆ ก็มีตังค์ไปใช้อีก เลยเกิดวงจร ... ซื้อ ลุ้น ลำพอง ใช้ตังค์ ... ไปเรื่อยๆแบบนั้นแหละครับ ฮ่าๆๆ คิดแล้วมันช่างเหมือนละครที่ตอนจบไม่น่าจะงามนัก T^T แต่ที่น่ากลัวที่สุด คือ ผมเกิดมาในครอบครัวชนชั้นกลางต่างจังหวัดที่พ่อแม่ไม่ได้มีทรัพย์สมบัติมากมายมากองให้ มีแต่ความรักความอบอุ่นและความสบายตามสมควรครับ ^^ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่มีเงินเก็บมากมายเหลือเฟือให้ได้ลงทุนตั้งแต่แรกครับ เงินก้อนแรกที่นำมาเปิดพอร์ตซื้อหุ้นจึงเป็น "เงินค่าเทอม" ทีี่จ่ายให้ช้าที่สุดเพื่อจะเอามาหมุนซื้อหุ้น มันจึงเป็นเงินทุนหล่อเลี้ยงพอร์ตตั้งแต่ช่วงกลางปี 2009 - 2010 ครับ ... ใช้ชีวิตได้ประมาทดีมั้ยล่ะครับ T^T ถ้าผมเรียนต่อโทปี 2007 หรือ 2008 จะเกิดอะไรขึ้น หรือหลังจากนั้นอีก 3-4 ปีจะเกิดอะไรขึ้น ... ขนลุก เดชะบุญที่เป็นหนอนหนังสือและขี้สงสัยพอสมควรครับ จึงเกิดคำถามและพัฒนาการ ดังนี้ 1. ทำไมหุ้นมันถึงขึ้น ทำไมหุ้นมันถึงลงล่ะ ? -> ก็อ่านมันซะทุกอย่าง ข่าวเศรษฐกิจ ดูกราฟ บทวิเคราะห์ เข้า pantip ดูนุ่นนี่เกี่ยวกับหุ้นตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกับการลงทุนแนวเน้นคุณค่า และแน่นอนว่าผมก็ยังไม่รู้ว่าทำไมหุ้นมันขึ้นทำไมหุ้นมันลง ฮ่าๆ 2. แล้วจะซื้อตัวไหนที่ราคาเท่าไหร่ล่ะ ? -> ผ่านมาครึ่งปีจนช่วงปลายปี 2009 จากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่ได้ทำร้ายจิตใจกันมากก็ยังอยู่ในตลาดได้สบายครับ และเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักงาน SET in the city ครับ แน่นอน 4 วันนั้นผมสิงอยู่ในงานฟังสัมมนาแทบจะตลอดเวลา ฟังแทบจะทุก session ที่พอจะฟังรู้เรื่อง จนพบว่าการลงทุนที่ดูเป็นวิชาการหน่อยก็ต้อง technical หรือ fundamental นี่แหละ แต่ใจเริ่มจะเอนเอียงมาทาง fundamental มากกว่าเพราะตื่นเต้นกับการที่รู้ว่า อ๋อ ไอ่ร้านอาหารนี้หุ้นตัวนี้เป็นเจ้าของ อ๋อ หุ้นตัวนี้มันขายอันนี้บริการอันนี้นี่เอง ... ถ้าเราเป็นเจ้าของคงจะเท่ดี แต่ก็ยังดูกราฟนั่นตัดนี่ ซื้อนั่นขายนุ่นอยู่และยังรู้สึกว่า "เลือกหุ้นด้วยพื้นฐาน หาจังหวะซื้อขายด้วยกราฟเทคนิค" ยังเป็นวิธีการเด็ดที่ต้องตรึงใจ :) ในขณะเดียวกันในใจก็เหมือนจะมีอะไรบางอย่างบอกว่า แล้วเราต้องมาฟังหุ้นเด็ดอย่างนี้ตลอดหรอ ถ้าเค้าไม่บอกก็ต้องรอหรอ เราหาเองจะได้รึปล่าวนะ พี่ๆนักวิเคราะห์ดูเก่งจังอีกซักกี่ปีจะพรั่งพรูความรู้ได้แบบเขาบ้างนะ ต้องหาทางๆ ^^ 3. ไอ่นี่ valuation แม่นมากนะออกมากี่บาทๆเลย !!! -> แน่นอนว่าพอเราเริ่มลงทุนก็จะมีกลุ่มเพื่อนๆลงทุนตามๆกันครับก็จะเริ่มรู้ว่าคนนู้นก็เล่นหุ้นคนนี้ก็มีหุ้น แชร์กันใครซื้ออะไรถืออะไรมีตัวไหน จนวันนึงเพื่อนในกลุ่มที่สนิทกันก็เล่าให้ฟังว่า รู้จักไอ่ K รึยังเพื่อนไอ่ B เค้าบอกว่าไอ่นี่ valuation แม่นมากๆนะออกมาเป็นเป้ากี่บาทๆเลย อู้หูววว แม่เจ้าเว้ย นี่ไงล่ะทางที่เราหา อะหรอๆ แล้วมันทำยังไงๆ ... มันอ่านมาจากหนังสือ 2 เล่มว่ะ "Security Analysis" ของเบนจามิน แกรแฮม กับ "One up on wall street" ของ ปีเตอร์ ลินช์ว่ะ ด้วยความที่ "One up on wall street" เป็นเล่มที่มีแปลไทย (ภาษาอังกฤษตอนนั้นอ่อนแอกว่าตอนนี้มากครับ) เลยมีหนังสือการลงทุนเล่มแรกกับเค้าและฝากตัวเป็นศิษย์ลุงหัวขาวที่ชื่อ Peter Lynch ผ่านตัวหนังสือครับ :) และหลังจากนั้นก็เริ่มสะสมหนังสือการลงทุนทรงคุณค่าอีกหลายต่อหลายเล่มเช่นทุกท่าน และเริ่มรู้จัก ThaiVI ถัดจากนั้นไม่นานครับ จากนั้นจึงค่อยสั่งสมวิธีประเมินมูลค่ามาเรื่อยๆครับ ^^ 4. กูอยากเป็นจ้าวว่ะ -> ขออภัยสำหรับเนื้อหาที่ล่อแหลมในส่วนนี้และโปรดใช้วิจารณญานในการรับฟังเนื่องจากเป็นความเห็นและประสบการณ์ ณ เวลานั้นครับ แต่อยากจะแบ่งปันเพราะเป็นจุดเปลี่ยนในการเลือกเส้นทางการลงทุนที่สำคัญจุดหนึ่งของผมครับ บ่ายวันนึงช่วงต้นปี 2010 ก็มีเพื่อนสนิทท่านนึงที่ลงทุนพร้อมๆกันถามเรื่องพอร์ตเรื่องหุ้นที่ถือปกติ จนมีคำถามนึงเพื่อนถามผมว่า "แล้วมึงเอาไงต่อ" ประมาณว่าจะทำงานอะไรยังไงครับเพราะเพิ่งเรียนจบกันบางส่วน ทำงานมาปีนึงบางส่วน อะไรก็ไม่ทราบทำให้ผมตอบแบบไม่ลังเลทั้งที่ก็รู้น้อยนักและยังไม่สามารถหารายได้เองครับ "กูอยากเดินเส้นทาง VI ว่ะ มึงล่ะ" ... "กูอยากเป็นจ้าวว่ะ" ... ตะลึงครับ แน่นอนว่าการเป็นอะไรตรงจุดนั้นมันค่อนข้างไกลตัวเด็กหนุ่มวัย 20 ต้นๆแต่เพื่อนซึ่งพบประสบการณ์ในอีกรูปแบบมาค่อนข้างชัดเจนในจุดยืน ไอ่เราก็พูดไม่ออกเลยบอกไปเพียงว่า "ทำบุญบ้างนะ" ^^' ข้อคิดสำคัญในครั้งนั้นที่เพื่อนแนะ คือ ... ไม่ใช่แค่ทุกคนที่เห็นว่ากราฟราคาหรือ indicator แสดงอะไรออกมา แต่จ้าวยังเข้าใจและรู้ว่าคนหมู่มากอยากเห็นอะไร ว่ากันจริงๆแล้ว มันสร้างได้ O.o ... นั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผมให้ความสำคัญกับกราฟเทคนิคน้อยลงจนแทบไม่ใส่ใจครับ ไม่สนใจ SET index ปิดเปิดเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยทราบ ดู Volume บ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญในการซื้อขาย คงไว้แต่จิตวิทยาการลงทุนบางอย่างที่จำเป็นต่อการลงทุนระยะยาว แล้วเอาเข้าจริง "เลือกหุ้นด้วยพื้นฐาน หาจังหวะซื้อขายด้วยกราฟเทคนิค" พอรู้ตัวอีกที เหมือนจะไหลไปฝั่งเทคนิคซะส่วนใหญ่ แล้วรู้จักบริษัทแบบผิวเผินมาก และคิดว่ามันถึงเวลาต้องปฏิวัติ !!! ก็จัดหนักเลยครับจากนั้น อยากรู้คุณภาพธุรกิจ ก็ศึกษาบริษัทให้เยอะๆอ่าน annual report ทั้งไทยทั้งนอก ฟังสัมมนา meeting คุยกับคนเก่งๆในมุมมองเชิงธุรกิจ กิจการ กิน ใช้ ชอบ สินค้าและบริการอะไรก็ search มันเดี๋ยวนั้นว่าของใคร บริษัทอะไรเป็นเจ้าของ อยากรู้ถึงเบื้องหลังเบื้องลึกของ financial ratio ที่ไม่ได้เป็นแค่อัตราส่วนทางการเงิน แต่สะท้อนความจริงและบ่งบอกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิด ก็ลุยอ่านมันทุกอย่าง หาให้ได้ว่าราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ รวมถึงลงคอร์สบัญชี ภาษาต่างดาวที่หนีมาตลอด เพราะรู้ว่างบการเงินเป็นสิ่งที่บอกสุขภาพทางการเงินของกิจการได้ สั่งสมความรู้ทบต้นและศรัทธาในดอกเบี้ยทบต้นว่ามันต้องตามมาสำแดงเดชเข้าสักวันหนึ่ง >< !!! จะเห็นว่าคำถามและพัฒนาการต่างๆเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่นานนักครับ แต่โชคดีที่ตระหนักรู้เร็วว่าเรารู้น้อยนักครับในช่วงนั้น เส้นทาง VI แบบจริงจังจึงเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายปี 2010 หรือผ่านไปแค่ปีครึ่งประมาณนั้นครับและดำเนินต่อมาจนวันนี้ (และคงจะอยู่ตลอดไป ^^) วันนี้ก็ยังรู้น้อยครับ แค่รู้มากขึ้นกว่าเมื่อวานวันละเล็กวันละน้อย แต่คงจะไม่ยอมและต้องไม่ยอมหยุดนิ่งครับ :) ชีวิตอีกด้านผมเป็นนักวิ่งมาราธอนครับ แม้จะเคยผ่านมาเพียงแค่ 2 Full marathon ด้วยระยะ 42.195 กิโลเมตร ทุกครั้งที่ออกจากจุดสตาร์ทไป ผมรู้สึกว่าเส้นชัยมันไกลมาก ไกลเกินเอื้อม ... แต่ผมไม่หยุดครับ ไปเรื่อยๆ แข่งกับตัวเอง คนที่วิ่งไปด้วยกันไม่ได้มาแข่งกัน แต่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีความฝันมีเป้าหมายร่วมกัน ... ขอเพียงหันหน้าให้ถูกทาง อดทน ไปต่อเรื่อยๆ แข่งกับตัวเอง ซักวันคงได้เห็นเส้นชัยแบบรุ่นพี่ที่ถึงเส้นชัยแล้ว พอเขียนแล้วมันพรั่งพรูครับ ฮ่าๆ ยาวนิดนึงนะครับ ขอบคุณครับ :) ... โดย SawScofield จันทร์ มี.ค. 16, 2015 2:55 pm

Re: **วันนี้ 9.00น. เปิดจองสัมมนา Money Talk@SET มี.ค. 58** จอง 1 ที่ครับ โดย SawScofield พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2015 2:28 pm

Re: เปิดจองงานสังสรรค์ VI ปิดงบปี 57 "สังสรรค์ VI สไตล์ชิว ๆ Sawscofield/ สมาชิกสมาคม / 1ที่นั่ง / 990.14 บาท / Bbl / 03-03-2558 /14.06 โดย SawScofield อังคาร มี.ค. 03, 2015 2:09 pm

Re: คิดยังไงกับ SET ที่ P/E 19 เท่า เป็นแค่สัญญาณการหาหุ้นได้ง่ายหรือยากครับ สุดท้ายก็ดูกันที่กิจการหรือหุ้นรายตัวอยู่ดี ในวิกฤติมีโอกาส ในโอกาสมีวิกฤติ ... ในแพงก็มีถูกซ่อนอยู่ ในถูกก็มีแพงแฝงตัวเช่นกัน :) ที่สำคัญน่าจะเป็นตัวชี้วัดอารมณ์ของคนในตลาดได้ดีฮะ ... ซื้อหุ้นตาม ig ก็มีแล้ว พระให้หุ้นแทนให้หวยก็มีแล้ว ... รอดูภาพต่อๆไปและทำตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสดีกว่าครับ หรืออีกนัยหนึ่งอาจจะเป็นสัญญาณให้เตรียมพร้อมสำหรับการข้ามพรมแดนซะทีรึปล่าวครับ 555 โดย SawScofield ศุกร์ พ.ย. 28, 2014 11:53 am

Re: มีวิธีเตือนคนรู้จักหรือเพื่อนยังไงดีครับ ณ ตลาดที่ดูน่าก แค่มีน้ำใจเตือนท่านเจ้าของกระทู้ ก็น้ำใจงามมากแล้วครัชชช :mrgreen: จากประสบการณ์ตรงๆ เลยนะครับ ผมเม่าตัวพ่อมาก่อนคนนึง :shock: หุ้นปั่นทุกตัว ซัดมาเกือบหมดแล้ว :shock: เล่นจริง เจ็บจริง รู้ใจเม่าอย่างดี เม่าคิดอะไร :shock: กฎของเม่า 1.เม่าทุกคนรู้ อันไหน หุ้นปั่นหุ้นเน่า อันไหนหุ้นดี ไม่ต้องบอกเม่า :shock: 2.เม่าคิดว่าตัวเองแน่กว่าจ้าวมือ ยังไงก็ออกทันก่อนจ้าวทิ้ง :wink: 3. เม่าต้องการความตื่นเต้นต้องการเอาชนะจ้าว :P 4. เม่าชอบหุ้นมีจ้าว ไม่มีจ้าวไม่เอา ช้า อืด ไม่ทันใจ :x สุดท้าย ติดดอย เม่ามโนว่าตัวเองเป็น vi ถือยาว ไม่ขายไม่ขาดทุน คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของกิจการ ทั้งที่ยังไม่รู้ธุรกิจเค้าทำอะไร รู้จักแต่ตัวย่อหุ้น :shock: 555 อดีตเม่าตัวพ่อมาเองเลยนะครัช ลองอ่านดูแล้วเชื่อ 100% ว่าไม่ได้ใช้สแตนด์อินจริง ผมกล้ารับประกันให้ เพราะผมก็ผ่านมาก่อนเหมือนกันนะฮ้าฟฟฟ ที่ท่าน kissme ว่ามามันเป็นความจริงเลยครับ คนที่เข้าไปเล่นกับความเสี่ยง ผมเชื่อว่ามากกว่า 80% ขึ้นไป รู้อยู่แล้วว่าเสี่ยง แต่ด้วยความกล้าบ้าบิ่น เชื่อมั่นในตัวเอง (แบบผิดๆ) เค้าเลือกเองที่จะไม่ซื้อหุ้นพื้นฐานทั่วไป เพราะ "มันช้า" สำหรับเพื่อนๆ ที่ยึดหลักวีไอมาแต่กำเนิด ท่านพลาดโอกาสทองในชีวิตครั้งนึงแล้วที่จะได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวาน (เฉพาะช่วงแรก) ของการเก็งกำไรแบบไม่รู้แต่นึกว่ารู้ เชื่อเถอะครับว่า เม่าทุกตัว (ทุกคน) ต่อให้เจ๊งยังไง เค้าจะไม่โทษจ้าว โทษเพื่อน โทษใครครับ มันเป็นศักดิ์ศรีของเม่า ที่เล่นเองก็ยอมเจ็บเอง ไม่บอกใคร (จริงๆ คือตอนเจ๊งม้นน่าอายเลยโม้ไม่ออกครับ ลองตอนกำไรสิ โม้ดังต้นซอยไปยังท้ายซอยเลยทีเดียวเชียว) ผมจึงแนะนำว่า ถ้าเค้าไม่ถึงกับไปกู้หนี้ยืมสินมาเล่น ก็ปล่อยๆ ไปเถอะครับ มันก็เป็นการเอาเงินไปแลกประสบการณ์แค่นั้นแหละครับ มันส์ดี ขออนุญาตแซวเล่นนะครับพี่ โทษเพื่อนนี่คงไม่ แต่โทษจ้าวนี่เพื่อนผมทำทุกวันเลยครับ 555+ ศัพท์ประจำกลุ่มจะเรียกว่า ... เล่นเ_ี้ย ! 555 คือจะแซวกันในกลุ่มว่า เฮ้ยเค้าให้มาตั้ง 50% 100% หรือ 2-3 เด้งก็ยังมี พอลงแค่ช่อง 2 ช่องไปด่าเค้าเล่นเ_ี้ยก็เกินไปนะเว่ย 555 มิได้มีจิตสนับสนุนการเล่นหุ้นแบบไร้เหตุผลและไร้ที่มาที่ไปครับผม เข้ามายืนยันกับพี่ kiss me อีกคน ว่าเม่าสไตล์น่ะ ... เม่ารู้ เม่าเห็น แต่เม่าอดใจไม่ได้ครับ ... เข้าใจว่าเพื่อนผมไม่ได้วางตัวเป็นเม่าด้วยฮะ มันแค่เอาทุกทาง วางตัวเป็น multi channel investor ครับ 555 :) โดย SawScofield ศุกร์ ต.ค. 03, 2014 10:49 am

Re: (วันนี้เปิดจอง) สัมมนา Money Talk@SET ต.ค. 57 - 100 ที่น จอง 1 ที่ครับ โดย SawScofield พฤหัสฯ. ต.ค. 02, 2014 10:55 am

Re: ปัจจัยอะไรที่จะทำให้หุ้นโรงกลั่นกลับไปรุ่งเหมือนในอดีต ได้แต่รอกลุ่มประเทศที่พี่ๆ เรียก New Frontier รึปล่าวครับ เพราะการบริโภคปัจจุบันกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมันก็เต็มมือตึงมือกันทั้งโลกแล้ว ไม่รู้จะเกิดเหตุอันใดให้สวาปามเพิ่มขึ้นอีก จนกว่ากิจกรรมใหม่ๆจะเกิดขึ้น จนกว่ากำลังซื้อจะยกระดับขึ้นทั้งภูมิภาค หรือ พลิกโฉมจนต้องยกเครื่องกันใหม่ หรือ ... เกิดเหตุให้ขาดแคลนครับ ;) เอาซะยืดยาว สุดท้ายก็ demand/supply นั่นแหละครับที่พยายามสื่อ แค่ลองย่อยออกมาเพื่อหาตัว drive จากความจริงดูครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ข้างบนด้วยครับพี่ๆ โดย SawScofield อังคาร ก.ย. 23, 2014 10:21 am

Re: หุ้นvalueในระยะยาวให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นgrowthจริงหรือคร เรามักจะเห็นการวัดกันหมัดต่อหมัดของ Value stock และ Growth stock อยู่เสมอครับ ความเห็นส่วนตัว ผมรู้สึกว่าแค่ criteria ในการคัดหุ้นโยนเข้ามุม Value หรือมุม Growth ก็ไม่ได้ตายตัว แถมขึ้นกับผู้เผยแพร่ซะเยอะ เอาเข้าจริง Value stock ในปัจจุบันหลายตัว ก็น่าจะเคยเป็น Growth stock อดีตนะครับ ในขณะเดียวกันก็มี Growth stock ที่มันแพงค้างฟ้าแล้วก็แพงอย่างนั้นมายาวนาน แม้จะสะดุดบ้าง ก็แพงต่อได้อีก ส่วน Value stock ก็มีแบบที่เรื่อยๆเฉื่อยๆแต่ไม่เคยล้มก็มีให้เห็น ^^" ประเด็นสำคัญจึงน่าจะอยู่ที่ คุณภาพของสินค้าและบริการรึปล่าวครับ ตามด้วยการซื้อในราคาที่เหมาะสม แม้ไม่ชนะ แต่โอกาสแพ้ก็น้อย ^^ โดย SawScofield พุธ ก.ย. 17, 2014 12:18 pm

Re: **วันนี้ 10.00 น.** VI สายดำ Charity 4 ตค. 57 โอนเงินพร้อมลงทะเบียนใน http://goo.gl/JLQ8X3 เรียบร้อยครับ 1 ที่ 2,000.14 บาท 10:02:32 จาก BBL ขอบคุณครับ โดย SawScofield จันทร์ ก.ย. 08, 2014 10:09 am

Re: *วันนี้*เปิดจองสัมมนา Money Talk@SET ก.ย. 57 - (100 ที่น จอง 1 ที่ครับ โดย SawScofield พุธ ก.ย. 03, 2014 12:11 pm