หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
-=spider=-
Joined: เสาร์ ต.ค. 15, 2005 2:03 pm
123
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - -=spider=-
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: มีหุ้นที่อยู่ในตลาด mai แล้วย้ายมา SET มั้ยครับ
BROCK
โดย
-=spider=-
จันทร์ ต.ค. 10, 2011 2:57 pm
0
0
Re: ความเลวร้ายของระบบทุน....ด่วน !! รัฐบาลกรีซได้เตรียมนำทร
เหมือน บลาซิน รึเปล่า ครับ จำ ดร.นิติภูมิ ได้ ประเทศล้มละลาย จะแตกออกเป็น เสี่ยงๆ ธรณีจะสูบ ตายครับตายงานนี้ พวกเราต้องรีบออกไปกู้ชาติกรีซกันแล้วพี่น้อง อาเยนติน่าครับไม่ใช่บราซิล
โดย
-=spider=-
พุธ มิ.ย. 22, 2011 4:48 am
0
0
Re: รวมหุ้น..ที่ทำให้VIต้องช้ำใจ
อุตส่าห์หลับตั้งแต่หัวค่ำ ดันตื่นมาเปิดกระทู้ดูตอนดึก :twisted: เลยต้องตอบแก้เคล็ด เผื่อจะหายจากขายหมู ตัวที่ช้ำใจที่สุดต้องเป็นเรือแขก ขายไปที่ 18 บาท ก่อนแตกพาร์ มาเห็นอีกทีตอนราคา 54 บาทหลังแตกพาร์แล้ว :twisted: :twisted: :twisted: ตอนนี้เลยเฝ้าดูราคาค่าระวางเรือตู้ที่กำลังทำ New High ในรอบหลายปีแล้ว แต่ราคาก่อนหน้านี้ใครๆก็ว่าเป็นเรือข้ามฟาก แต่ตอนนี้เป็นเรือดำน้ำไปแล้ว :lol: :lol: :lol:
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. ก.พ. 10, 2011 11:48 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
ขออภัย เพิ่งเข้าไปอ่านกระทู้ที่อ้างอิง งงด้วยคน สรุปว่าสรรพากรทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้คณะบุคคลลดหย่อนภาษีได้แล้ว :twisted:
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2011 7:45 pm
0
0
Re: ปัญหายื่นเครดิตปันผล คณะบุคคล
คณะบุคคลเป็นหน่วยภาษีหน่วยใหม่เลยครับ ไม่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดา
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2011 7:35 pm
0
0
Re: ขายหุ้นหลบ XD
คิดง่ายๆนะครับ ถ้าบริษัทนั้นๆเสียภาษีจากกำไรในอัตราที่มากกว่าหรือเท่ากับที่คุณเสีย ก็รับปันผลเพื่อเคลมภาษี จะได้ประโยชน์มากกว่าครับ อย่างน้อยก็ได้คืนภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% คืน
โดย
-=spider=-
อังคาร ม.ค. 11, 2011 9:06 am
0
0
ถามนักบัญชีเกี่ยวกับทรัพย์สินของบริษัทสัมปทาน
อ้อ..ขอบคุณคุณ sattaya กับคุณณรงค์ด้วยครับ เพิ่งถอดรหัสออก :lol: :lol: :lol:
โดย
-=spider=-
เสาร์ ก.ย. 25, 2010 9:47 pm
0
0
ถามนักบัญชีเกี่ยวกับทรัพย์สินของบริษัทสัมปทาน
เท่าที่ทราบ ตอนที่ DTAC เอาความถี่มาแบ่งขายให้ TRUE กับ DPC ก็แก้สัญญาให้ยืดเวลาไปอีก 5 ปี ทำให้ตอนนี้ DTAC มีเวลาอีก 8 ปี ขณะที่ TRUE กับ DPC เหลือ 3 ปีครับ ส่วน ADVANC ก็ 5 ปี
โดย
-=spider=-
เสาร์ ก.ย. 25, 2010 9:41 pm
0
0
ถามนักบัญชีเกี่ยวกับทรัพย์สินของบริษัทสัมปทาน
Kao Wrote : ลงบัญชีเป็น สินทรัพย์ภายใต้สัญญาอนุญาตให้ดำเนินการ ครับ อย่างของAIS ปัจจุบันมีสัดส่วนเกือบๆ 50%ของสินทรัพย์รวม แต่จะลดลงเรื่อยๆจนกว่าจะหมดอายุสัมปทานครับ ขอบคุณคุณ Kao ครับ แสดงว่าในทางบัญชีไม่ได้โอนไปจริง ที่อยากทราบเพราะว่าขณะนี้ใกล้หมดอายุสัมปทาน และการประมูลความถี่ใหม่ย่าน 2100 Mhz ที่ใครต่อใครชอบเรียกว่า 3G คงไม่เกิดในเร็ววันนี้แน่ โดยเฉพาะ TRUE จะหมดอายุสัมปทานน่าจะ ก.ย.2556 เหลือเวลาประมาณ 3 ปี ผมเดาว่าถึงเวลานั้นทรัพย์สินที่โอนให้เจ้าของสัมปทานยังคงใช้ประโยชน์ได้ต่ออีกซักระยะหนึ่ง และ CAT TOT คงไม่เก็บไว้เฉยๆ จะเอามาบริหารเองก็คงไม่มีปัญญา :evil: ทางออกน่าจะเป็นการขายคืนให้ผู้รับสัมปทานไปใช้ประโยชน์ต่อ
โดย
-=spider=-
เสาร์ ก.ย. 25, 2010 6:40 am
0
0
ทรัพย์จากกรมบังคับคดี
ความเสี่ยงย่อมมีแน่นอนครับ อย่างแรกอย่าดูเฉพาะในรูปบนกระดาษหรือบนจอครับ เดินทางไปดูของจริงก่อน ไม่ว่าจะเป็นที่ดินหรือมีสิ่งปลูกสร้างด้วย สภาพตอนที่ถ่านภาพกับปัจจุบันไม่เหมือนกันแน่นอน บ้านบางหลังสภาพโทรมมาก ค่าซ่อมแทบจะสร้างใหม่ได้ทั้งหลัง แม้แต่ที่ดินเปล่า ดูตามแผนที่เหมือนจะใกล้ แต่ความจริงแทบจะอยู่กลางป่า ถนนหนทางแย่มาก ทางที่ดีก่อนตัดสินใจเข้าประมูล ไปดูให้เห็นกับตาตัวเองก่อน แล้วประเมินราคาดูว่าคุ้มมั๊ย ความเห็นผมนะ ตอนที่เริ่มเอาออกมาประมูลใหม่ๆ ประมาณปี 45-46 หรือก่อนหน้านั้น ราคาประมูลถือว่าถูกมาก แต่ต่อมาแบงค์เจ้าของหนี้เข้ามาประมูลแข่งด้วย แล้วก็ให้ราคาค่อนข้างสูง หวังจะได้ของถูกมากๆตอนนี้คงยาก นอกจากตาถึงและเป็นทรัพย์ที่ไม่มีคนสนใจ บวกกับโชคดี อีกอย่าง ทรัพย์ที่ประมูลได้ ถ้ามีคนอาศัยอยู่ แล้วไม่ยอมย้ายออก เป็นหน้าที่ของผู้ผู้ประมูลต้องฟ้องขับไล่เองครับ กรมทำหน้าที่ประมูลอย่างเดียว
โดย
-=spider=-
อังคาร ส.ค. 17, 2010 8:06 pm
0
0
ชาว ThaiVI มีค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละเท่าไหร่
สงสัยว่าท่านพอลเป็นหมึกชื่อดังที่ทายผลบอลแม่นหรือเปล่า แล้วเรื่องหุ้นจะแม่นเหมือนเรื่องบอลมั๊ย :lol: :lol: :lol:
โดย
-=spider=-
อาทิตย์ ส.ค. 08, 2010 5:22 pm
0
0
ขายหมูตัวไหนไปแล้วเจ็บใจที่สุด
โดย
-=spider=-
พุธ ก.ค. 14, 2010 4:53 pm
0
0
ขายหมูตัวไหนไปแล้วเจ็บใจที่สุด
หมูคุณ Luty97 เกือบได้ครึ่งนึงของหมูผม
โดย
-=spider=-
เสาร์ ก.ค. 10, 2010 8:18 pm
0
0
ขายหมูตัวไหนไปแล้วเจ็บใจที่สุด
หมูของคุณยังตัวเล็กนัก ผมจะรอดูก่อนว่าจะมีใครขายหมูตัวใหญ่ได้ซักครึ่งของที่ผมขายไป แล้วจะเล่าให้ฟัง
โดย
-=spider=-
ศุกร์ ก.ค. 09, 2010 10:34 pm
0
1
1000 พอร์ตบุคคล (14/06/13 คุณ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ 1)
ขอบคุณพี่ครรชิตมากครับ แต่ลำดับที่ 601-800 หายไปน่ะครับ
โดย
-=spider=-
พุธ ก.ค. 07, 2010 9:44 pm
0
0
ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงในการลงทุนหุ้น นอกเหนือจากตัวเลข
อ่านมาถึงข้อหลังๆ แล้ว...โดน... ผมก็เคยคิดเรื่องแบบนี้เหมือนกัน เรื่องของศีลนี่มองได้ค่อนข้างชัดหน่อย บางคนไม่ลงทุนในหุ้นที่ทำธุกิจที่ผิดศีล เช่นที่ต้องฆ่า ไม่ว่าจะขายยาฆ่าแมลง หรือผลิตอาหารจากสัตว์ อาจเลยไปถึงผลิตอาหารจากพืช เพราะปลูกพืชก็เลี่ยงการฆ่าแมลงได้ยาก แต่พอเห็นว่ามีเรื่องธรรมด้วย เรื่องหวยนี่ไม่ผิดกฏหมายและไม่ผิดศึล มีบางบริษัทที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ด้วย แต่มันเกี่ยวกับกิเลสซึ่งผิดธรรม เรื่องธรรม ทำให้ผมนึกเลยไปถึงเรื่องหุ้น ไม่ว่าจะเรียกว่าการเก็งกำไร หรือการลงทุน มันก็มีกิเลสเป็นตัวนำทั้งนั้น คงไม่มีใครเล่นหุ้นโดยเจตนาเป็นผู้ให้ หรือเจตนาจะขาดทุน ทุกคนล้วนต้องการกำไร ซึ่งมีกิเลสเป็นตัวผลักดัน แบบนี้ก็ไม่ต้องลงทุนกันพอดี เคยฟังเทปบรรยายธรรมที่พูดถึงเรื่องหุ้นแล้วผมเกือบเลิก ระยะหลังเลยต้องเพราๆเรื่องความเคร่งครัดในเรื่องเหล่านี้ ...ทางสายกลาง...น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เหนืออื่นใด ลงทุนมีกำไรแล้วก็แบ่งไปทำบุญซะบ้าง จิตใจจะได้เบิกบาน
โดย
-=spider=-
ศุกร์ ก.ค. 02, 2010 10:52 am
0
0
ใกล้ครึ่งปีแล้ว เพื่อน ๆ เป็นไงกันบ้างครับ
ตอนต้นปีวางเป้าไว้ว่าจะทำให้ได้ 30% ตอนนี้ครึ่งปี เกินเป้ามาแล้ว ได้มาคิดเป็น % น่าจะพอๆกับเสี่ยเมืองเพิร์ท อาศัยลอกการบ้านเซียนแถวๆนี้ เพราะเลือกเองไม่ค่อยถูกซักที ตัวหลักก็ได้มาจากสิงห์รถบรรทุก กับหุ้นสามเซียน แต่สัดส่วนน้อยไปหน่อย โดยรวมก็เลยได้ไม่ถึง 50% ถึงตอนนี้ต้องปรับเป้าเพิ่มอีกหน่อย เลียนแบบผู้บริหารหลายบริษัทฯ ขอเพิ่มอีกซัก 20% ในครึ่งปีหลังแล้วกัน :lol:
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. ก.ค. 01, 2010 12:02 pm
0
0
ขอถามความหมายของคติ และแก่น การลงทุนของลุงขวด
ขอบคุณอาจารย์ขวด ผมแอบเป็นลูกศิษย์อาจารย์มานาน ขอบคุณจากใจจริง
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 8:02 pm
0
0
แบบนี้จะเรียกว่าลอกการบ้านหรืออ่านตำราเฉลยข้อสอบ ?
ขอถามเฮียคลายเครียด กระทู้แบบนี้เป็นแบบที่เฮียว่าหรือเปล่า http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=4018&start=600 :roll: :roll: :roll: ผมลอกการบ้านเสี่ยเมืองเลยเป็นประจำ :oops: :oops: :oops:
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 7:24 pm
0
0
แอบดู......พอร์ตคนดัง
กองทุนประกันสังคม"ผู้มั่งคั่งที่สุด ของตลาดหุ้น
โดย
-=spider=-
อังคาร มิ.ย. 01, 2010 3:27 pm
0
0
ร่วมฉลอง 800 จุด!!! @@##%%&&**$$!!฿฿
นักวิชาการระบุ พฤติกรรม หมอเหวง ทำคนในสังคมบัญญัติชื่อ เหวง ในสารบบศัพท์ใหม่ บ่งบอกถึงคนพูดจาวกวน ฟังไม่รู้เรื่อง ชี้เป็นปรากฏการณ์ปกติด้านภาษา เชื่อสังคมไม่เป็นพลังหนุนคำใหม่ๆ เกิดยาก แฝงนัยพลังเงียบตื่นตัว ไม่เอาด้วยกับไพร่แดง วันนี้ (31 มี.ค.) ดร.อนันต์ เหล่าเลิศวรกุล อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีของกระแสศัพท์คำว่า เหวง ที่ขณะนี้กำลังใช้กันอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ โดยมีความหมายเพื่อใช้เรียกบุคคลที่พูดจาวกวน ฟังไม่ได้ศัพท์ว่า เรื่องนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ปกติของภาษาที่จะมีการนำชื่อเฉพาะของบุคคลมาใช้เป็นคำศัพท์ โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้เมื่อบุคคลนั้นๆ มีลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเองจนเป็นที่สนใจของผู้คนในสังคม จึงมีการนำชื่อของบุคคลเหล่านั้นมาใช้แทนคำนาม คำกริยา หรือการบรรยายคุณสมบัติก็ได้ อย่างไรก็ตาม ปรากฎการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ตัวอย่างล่าสุดคือ กรณีของ นาธาน โอมาน ซึ่งตามที่เป็นข่าวและที่สังคมรับรู้คือ นาธานเป็นคนพูดโกหก หลอกลวง ดังนั้นชื่อ นาธาน จึงกลายมาเป็นคำศัพท์หนึ่งที่ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อใช้เรียกคนที่มีลักษณะพูดโกหก ตลบตะแลง ตอแหล หรืออีกตัวอย่างซึ่งเป็นคำที่ยังใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือในอดีตมีอาจารย์ผู้ชายคนหนึ่งชื่อ ตุ๋ย ซึ่งได้มีความสัมพันธ์ขั้นลึกซึ้งกับนักเรียนชายด้วยกันจนกลายมาเป็นคดีความ สังคมในขณะนั้นจึงนำคำว่าตุ๋ยมาใช้เรียกกริยาของการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ซึ่งยังใช้เรียกกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ ดร.อนันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นั้นก็ไม่แตกต่างกัน ซึ่งคำว่า เหวง มาจากคำว่า โหวงเหวง ใช้ประกอบกริยาของความรู้สึกเบา ว่างเปล่า ให้ความรู้สึกทางจิตใจเหมือนการขาดบางสิ่งบางอย่างไป เมื่อประกอบกับบุคลิกของ นพ.เหวง ในการเจรจาร่วมกับรัฐบาลทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาก็จะพบว่าเป็นคนที่พูดจาวกวน สับสน ยากที่จะเข้าใจ เป็นพฤติกรรมที่ทำให้สังคมสับสนในคำพูด เพราะครั้งหนึ่ง นพ.เหวงเคยโจมตีคุณทักษิณ แต่มาทุกวันนี้กลับเป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่สรรเสริญสนับสนุนคุณทักษิณ ตรงนี้สังคมจึงรู้สึกสับสน และมีจิตใจโหวงเหวง กับพฤติกรรมของ นพ.เหวงเอง การเจราระหว่างแกนนำคนเสื้อแดงกับรัฐบาล จะเห็นว่าหมอเหวงไม่ปรับเปลี่ยนท่าทีการพูด สังคมจึงจับได้ว่าตรงนี้เป็นคุณสมบัติเฉพาะส่วนตัว จึงไม่แปลกที่สังคมจะนำชื่อ เหวง มาใช้เรียกคนที่พูดจาสับสน ซึ่งอยากให้มองประเด็นที่ว่าหากพฤติกรรมของหมอเหวงที่นำมาเป็นศัพท์คำว่า เหวง นั้นไม่มีผู้คนในสังคมสนับสนุนก็คงไม่มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย แต่การที่คำว่า เหวง ถูกนำมาใช้ก็หมายถึงผู้คนตอบรับและเห็นด้วย ดังนั้น คนคนหนึ่งไม่สามารถบัญญัติศัพท์ใดศัพท์หนึ่งขึ้นมาได้ แต่ต้องเป็นข้อตกลงของทุกคนในสังคม ดร.อนันต์กล่าว ดร.อนันต์กล่าวอีกว่า ขณะนี้คนในสังคมโลกออนไลน์ต่างให้ความสนใจทางการเมืองและติดตามอย่างใกล้ชิด กลุ่มคนเหล่านี้อาจแสดงบทบาทแสดงตัวตนในสังคมโลกแห่งความจริงน้อย แต่ในโลกออนไลน์ คือ ที่ที่พวกเขาแสดงตัวตนอย่างชัดเจน ตรงนี้ก็มองเป็นนัยได้ว่าผู้คนในสังคมเห็นด้วยแค่ไหนกับข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรียุบสภา คนเหล่านี้จึงเป็นเหมือนพลังเงียบแต่ไม่เงียบ และจะเป็นพลังขับเคลื่อนสู่การบรรลุข้อขัดแย้งในสังคมในที่สุด
โดย
-=spider=-
ศุกร์ เม.ย. 02, 2010 12:44 pm
0
0
กลัวอะไรกัน
เสื้อแดงกับเรื่องวันพิพากษาน่ะไม่กลัวครับ :roll: แต่ผมกลัวคนอื่นเขาตกใจเทขายกันน่ะเฮีย เลยยังไม่กล้าซื้อวันนี้ รอดูพรุ่งนี้ก่อน :?
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. ก.พ. 25, 2010 11:37 am
0
0
+ใครคำนวณเป็นบ้างครับ+
นี่คงกะว่าตอนเกษียณ จะมีเงิน 150 ล้านบาท :wink:
โดย
-=spider=-
อังคาร ม.ค. 20, 2009 2:28 pm
0
0
+ขาดทุนหนักที่สุดในชีวิต เท่าไรกันครับ+
[quote="Reminiscence of 3 Dogs"]กลับมาเล่าต่อไม่ใช่อันที่ขาดทุนเยอะสุด แต่เป็นอันที่ทำให้เครียดที่สุด US-W1 ทำพอร์ตลบไป40% ในเวลา5เดือน เป็น5เดือนที่ยาวนานมาก สำหรับเด็กจบใหม่ งานก็ยังหาไม่ได้ นับวันสาละวันเตี้ยลง ลบวันละ3000-5000บาทไปเรื่อยๆ จากที่เคยร่าเริงก็เริ่มเงียบ ที่เคยใช้จ่ายก็หยุดใช้หยุดกิน ไปเที่ยวก็ไม่สนุก เริ่มกลายเป็นคนโมโหร้าย นอนไม่หลับ จนถึงวันที่ขายขาดทุน
โดย
-=spider=-
อังคาร มี.ค. 27, 2007 9:02 am
0
0
เดี๋ยวนี้เฮีย yoyo ดังใหญ่แล้ว
พ่อน้องหน่อยเป็นอาจารย์ผมเองครับ น้องหน่อยนี่ก็เห็นตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนอยู่เลย ครอบครัวนี้เก่งทุกคนครับ ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย จนถึงรุ่นพ่อแม่และตอนนี้มาถึงรุ่นลูกแล้ว ยกนิ้วให้จริงๆ ส่วน AIT นี่ ผมซื้อตั้งแต่สิบบาทต้นๆ แต่ขายไปหมดแล้วตั้งแต่ยังไม่ยี่สิบเลย ตอนนี้ยังไม่กล้าเข้าไปซื้อใหม่ ทั้งๆที่ปีที่แล้วที่ทำงานผมเองก็เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของ AIT ที่ทำเรื่องขอซื้อเองก็หลายอยู่ แต่ก็ไม่นึกว่าจะมาไกลขนาดนี้ คงเพราะยังอ่อนด้อยกับการเป็น VI ต้องขอคำแนะนำจากท่าน Yoyo ด้วยครับ
โดย
-=spider=-
พุธ ม.ค. 03, 2007 8:30 pm
0
0
น้องๆ ที่ เก่ง Windows ช่..ว..ย ด้..ว..ย
เป็น Windows XP หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ลองดูที่นี่ครับ น่าจะช่วยได้ครับ http://support.microsoft.com/kb/321305
โดย
-=spider=-
พุธ ม.ค. 03, 2007 7:41 pm
0
0
โค้กในตปท.
[quote="CK"][quote="phobenius"]รู้สึกป่าวครับ ว่าโค้กในไทย กับ ตปท ความซ่า ต่างกัน[/quote] เป็นที่น้ำที่เอามาทำครับ ตัวหัวเชื้อและวิธีการอัดแก๊ส เหมือนกันทุกประเทศ แต่คุณภาพน้ำที่แตกต่าง ทำให้รสชาตและความซ่า แตกต่างกันไป[/quote] :D :D :D เคยได้ยินคอเบียร์เขาคุยกันเหมือนกันว่า เบียร์ยี่ห้อเดียวกัน แต่ผลิตจากน้ำคนละแหล่ง รสชาดก็ต่างกันด้วย คอเบียร์ทั้งหลายว่าไง :lol: :lol: :lol:
โดย
-=spider=-
พุธ ต.ค. 18, 2006 7:37 pm
0
0
นิทานเซ็น
ผมจำไม่ได้ว่าใครแปลเป็นภาษาไทยให้ ต้องขอขอบคุณทั้ง สตีฟ จ๊อบ และผู้แปลเป็นภาษาไทยด้วยครับ
โดย
-=spider=-
จันทร์ มิ.ย. 05, 2006 7:53 pm
0
0
นิทานเซ็น
กระทู้นี้ทำให้ผมนึกถึงเจ้าของและผู้ก่อตั้ง Apple เมื่อ 25 ปีก่อน แกเป็นฮีโร่ของผมกับอีกหลายคนที่อยู่ในวงการคอมพิวเตอร์ ถึงวันนี้ผมก็ยังให้เครดิตกับคนคนนี้มากกว่าเจ้าของไมโครซอฟต์ ลองดูสิ่งที่แกเล่าให้ฟังเมื่อปีที่แล้วสิครับ เรื่องอาจยาวหน่อย แต่เป็นเรื่องที่ดีที่อยากให้ทุกคนได้รับรู้ รายงานของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด วันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2005 คุณต้องหาสิ่งที่คุณรักให้พบ จ๊อบกล่าว บทความนี้ นายสตีฟ จ๊อบ(ซีอีโอ ของบริษัท แอปเปิลคอมพิวเตอร์ และบริษัท พิกซาร์อนิเมชั่นสตูดิโอ) กล่าวแก่บัณฑิต ณ วันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2005 ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสมาในงานนี้ ซึ่งเป็นงานของหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก ตัวผมเองไม่เคยจบมหาวิทยาลัยอันที่จริงแล้วงานนี้ คือสิ่งที่ใกล้เคียงการจบมหาวิทยาลัยที่สุดที่ผมได้ประสบมา ผมต้องการเล่าเรื่อง 3 เรื่องของชีวิตผม แค่นั้นหละครับ ไม่มีอะไรมาก แค่ 3เรื่อง เรื่องแรกเกี่ยวกับการเชื่อมโยงเหตุการณ์ (การขีดเส้นโยงจุดจนเกิดเป็นรูปภาพ) ผมหยุดเรียนในมหาวิทยาลัยหรีด (Reed College) หลังจากเข้าเรียนได้เพียง 6 เดือน แต่ผมก็ยังวงเวียนอยู่ในมหาวิทยาลัยอีก 18เดือน ก่อนที่ผมจะออกจากมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ คำถามคือ ทำไมผมถึงเลิกเรียน มันเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเกิด คุณแม่ผู้ให้กำเนิดผมเป็นบัณฑิตสาว แต่เธอไม่ได้ผ่านการสมรส เธอจึงตัดสินใจยกผมให้กับคนอื่น เธอมีความประสงค์ว่าผู้ที่จะมาเป็นพ่อแม่บุญธรรมของผมต้องเป็นผู้ที่เรียนจบมหาวิทยาลัย มีการเตรียมการให้ทนายความท่านหนึ่งและภรรยารับผมเป็นบุตรบุญธรรม เพียงแต่ว่าเมื่อผมโผล่ออกมาพวกเขาเกิดเปลี่ยนใจเมื่อนาทีสุดท้ายว่าพวกเข้าต้องการเด็กผู้หญิง ผู้ที่ได้เป็นพ่อแม่บุญธรรมของผมซึ่งอยู่ในคิวรอเด็กเป็นรายต่อไป ก็ได้รับโทรศัพท์กลางดีกคืนหนึ่งว่า เราได้เด็กผู้ชายอย่างไม่คาดฝันคุณต้องการเขามั๊ย แน่นอน พวกเขาตอบ ภายหลังเมื่อคุณแม่ที่ให้กำเนิดผมได้ทราบว่าผู้ที่เป็นแม่บุญธรรมของผมไม่เคยจบมหาวิทยาลัย และผู้ที่จะเป็นพ่อบุญธรรมของผมก็ไม่เคยจบแม้กระทั่งม.ปลาย เธอจริงปฏิเสธที่เซนต์เอกสารยินยอม เมื่อผ่านไป 2-3 เดือน หลังจากพวกเขาสัญญาว่าจะส่งผมเรียนมหาวิทยาลัย เธอจึงยอมตกลง 17ปีต่อมา ผมก็ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ด้วยความซื่อผมกลับเลือกมหาวิทยาลัยที่มีค่าเล่าเรียนที่แพงมากเกือบแพงเท่าสแตนฟอร์ด เงินออมทั้งหมดของพ่อแม่บุญธรรมของผมผู้ซึ่งเป็นเพียงชนชั้นกลาง ถูกใช้ไปในการเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยของผม ผมเริ่มเห็นว่ามันไม่ได้คุ้มค่าอะไร ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าผมจะทำอะไรในชีวิตผม และผมก็มองไม่ออกว่ามหาวิทยาลัยจะช่วยให้ผมมองออกว่าผมจะทำอะไรกับชีวิตได้อย่างไร และนี่ผมก็กำลังใช้เงินทั้งหมดของพ่อแม่บุญธรรมของผมอยู่ ผมจึงหยุดเรียนด้วยเชื่อว่าทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี ถึงแม้ตอนนั้นมันรู้สึกน่ากลัว แต่การมองย้อนกลับไปในตอนนี้ทำให้ผมเห็นว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตผม ทันทีที่ผมหยุดเรียน ผมสามารถเลิกเรียนวิชาภาคบังคับที่ผมเห็นว่าไม่น่าสนใจ และผมสามารถเข้าเรียนในวิชาที่ผมสนใจตามอำเภอใจ มันก็ไม่ได้โรแมนติกไปเสียหมดหรอก ผมไม่มีหอพักเป็นของตัวเอง ดังนั้นผมจึงต้องอาศัยนอนบนพื้นห้องของเพื่อนๆ และอาศัยการเก็บขวดโค้กเพื่อแลกกับเงิน 5 เซนต์เพื่อใช้ซื้ออาหาร และผมก็เดิน 7 ไมล์ไปอีกฟากของเมืองทุกวันอาทิตย์ เพื่อที่จะกินอาหารดีๆสักมื้อที่วัดฮเรกฤษณะ ผมชอบอาหารที่นั่นมาก และสิ่งที่ผมประสบพบเจอเพราะความสงสัย และสัญชาตญาณของผมเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์แก่ผมอย่างหาค่ามิได้ในเวลาต่อมา ผมขอยกตัวอย่างหนึ่ง: ณ เวลานั้น มหาวิทยาลัยหรีดมีวิชาคัดลายมือที่สอนได้ดีที่สุดในประเทศก็ว่าได้ ทุกโปสเตอร์ในมหาวิยาลัย ทุกป้ายชื่อบนทุกลิ้นชักจะถูกคัดอย่างสวยงาม และเมื่อผมหยุดเรียนวิชาปกติแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะเรียนวิชาคัดลายมือเพื่อที่จะเรียนรู้เคล็ดลับของมัน ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวอักษร serif และ san serif เกี่ยวกับความถี่ห่างที่ต่างกันระหว่างตัวอักษรต่างๆ และอะไรก็ตามที่ทำให้การคัดลายมือที่สุดยอดนั้นสุดยอด มันเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นสิ่งที่มีประวัติศาสตร์ เป็นศิลปะ เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถยึดครองตีกรอบได้ และนั่นทำให้ผมชอบมัน ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าผมจะได้ใช้สิ่งที่ผมได้เรียนรู้นี้ในชีวิตจริงของผมได้อย่างไร แต่สิบปีต่อมา เมื่อเรากำลังออกแบบคอมพิวเตอร์แม็คอินตอชรุ่นแรก ความรู้นี้ก็ฟื้นคืนกลับมา และผมก็นำมันไปใส่ไว้ในเครื่องแม็คฯ มันเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่มีตัวอักษรสวยงาม ถ้าป่านนี้ผมไม่ได้เข้าเรียนวิชานี้ในมหาวิทยาลัย เจ้าแม็คฯ คงไม่ได้มีตัวอักษรหลากหลาย หรือตัวอักษรที่มีช่องว่างระหว่างกันอย่างเป็นสัดส่วน และเมื่อวินโดวส์ได้เลียนแบบแม็คฯในเวลาต่อมา มันก็เป็นไปได้ว่าป่านนี้คงไม่มีเครื่องใดที่จะมีตัวอักษรอย่างนี้ ป่านนี้ผมไม่ได้หยุดเรียน ผมก็คงไม่ได้เข้าเรียนวิชานี้ และเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลก็คงไม่ได้มีตัวอักษรแสนวิเศษต่างๆอย่างที่มันมีอยู่ในปัจจุบัน แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เมื่อมองย้อนกลับไปในตอนนี้หลังจากสิบปี ความสัมพันธ์ของสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ชัดเจนมากๆเลย ย้ำอีกครั้งว่าเราไม่สามารถเชื่อมโยงจุดต่างๆโดยการมองไปข้างหน้า เราสามารถเชื่อมโยงมันโดยการมองย้อนหลังไปเท่านั้น เพราะฉนั้น คุณต้องมีความเชื่อมันว่าจุดต่างๆมันจะเชื่อมโยงกันเองในอนาคตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คุณต้องเชื่อมั่นในบางอย่าง ความกล้าของคุณ โชคชะตา ชีวิต กรรม(การกระทำ) อะไรก็ได้ การมองในแง่นี้ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง และมันสร้างความแตกต่างในทางที่ดีให้แก่ชีวิตของผม เรื่องที่สองของผมเกี่ยวกับความรักและความสูญเสีย ผมโชคดีที่ผมพบสิ่งที่ผมรักตั้งแต่เนิ่นๆในชีวิต ผมและ Woz ก่อตั้งบริษัทแอปเปิลในโรงรถของพ่อแม่ผมเมื่อผมอายุ 20 พวกเราทำงานกันอย่างหนัก และใน 10 ปีบริษัทแอปเปิล ก็เติบโตจากเราสองคนในโรงรถเป็นบริษัท 2000 ล้านเหรียญ และลูกจ้างอีกกว่า 4000 คน เราเพิ่งเปิดตัวสิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดของเรา นั่นคือคอมพิวเตอร์แม็คอินตอชเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านั้น และหลังจากนั้นผมก็อายุ30 และผมก็โดนไล่ออก เป็นไปได้ยังไงที่คุณจะถูกไล่ออกจากบริษัทที่คุณก่อตั้ง? คือว่าเมื่อบริษัทเติบโตขึ้น ผมได้ว่าจ้างบุคคลผู้หนึ่งซึ่งผมคิดว่ามีความสามารถมากเพื่อที่จะช่วยผมบริหาร ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีอยู่ช่วงหนึ่งปี แต่หลังจากนั้นมุมมองต่ออนาคตของเราเริ่มแยกไปคนละทางและในที่สุดก็เกิดขัดแย้งกัน คณะกรรมการผู้บริหารบริษัทเห็นด้วยกับเขา ผมก็เลยต้องออกจากบริษัทเมื่ออายุ 30 เป็นการออกอย่างเป็นข่าวดังด้วย สิ่งที่เคยเป็นจุดศูนย์รวมของชีวิตผู้ใหญ่ของผมมลายหายไป และมันก็เป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสสำหรับผมมาก เป็นเดือนๆที่ผมไม่รู้ว่าผมจะทำอะไรกับชีวิตของผมดี ผมมีความรู้สึกว่าผมได้ทำให้คนรุ่นเดียวกับผมที่เป็นเจ้าของกิจการผิดหวัง เหมือนกับว่าผมเป็นคนที่ทำให้ไม้ที่ใช้ในการวิ่งผัดตกลงพื้น ผมพบกับ DavidPackard และ Bob Noyce และผมก็พยายามขอโทษพวกเขาที่ผมล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ผมคิดว่าผมกลายเป็นบุคคลล้มเหลวสาธารณะ และคิดแม้กระทั่งว่าจะหนีจาก SiliconValley (นิคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์) แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ค่อยๆกระจ่างขึ้น ผมยังรักสิ่งที่ผมทำอยู่ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นที่บริษัทแอปเปิลไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรักต่อสิ่งที่ผมทำแม้แต่น้อย จริงอยู่ที่ผมถูกปฏิเสธ แต่ผมก็ยังมีความรักอยู่ ผมเลยตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ขณะนั้นผมดูไม่ออก แต่ความจริงแล้วการที่ผมถูกไล่ออกจากบริษัทแอปเปิลนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผม แรงกดดันของความสำเร็จถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกเบาโล่งของความเป็นผู้เริ่มต้นอีกครั้ง และของการที่มีความมั่นใจน้อยลงในทุกๆอย่าง มันเป็นการปลดปล่อยให้ผมเข้าสู่ช่วงเวลาที่สร้างสรรค์ที่สุดของชีวิตผม ช่วงห้าปีต่อมา ผมก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ NeXT และอีกบริษัทชื่อ Pixar และผมก็ตกหลุมรักกับผู้หญิงแสนวิเศษคนหนึ่งผู้ซึ่งผมได้แต่งงานด้วยในเวลาต่อมา บริษัท Pixar กลายเป็นบริษัทที่ผลิตหนังการ์ตูนคอมพิวเตอร์เรื่องแรกของโลก : Toy Story (ทอยสตอรี่) และปัจจุบันก็เป็นบริษัทที่ประสบความในแวดวงหนังอนิเมชั่น (การ์ตูน) และด้วยชุดเหตุการณ์พลิกผันที่น่าทึ่ง บ. Apple ก็ได้ซื้อ บ. NeXT; ผมกลับคืนสู่ Apple; และเทคโนโลยีที่เราได้พัฒนาขึ้นที่ NeXT ก็เป็นหัวใจของการเกิดใหม่ของ Apple และผมและลอรีน(ภรรยา)ก็มีชีวิตครอบครัวที่สุดแสนวิเศษ ผมแน่ใจว่าสิ่งเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้นกับผมถ้าผมไม่ถูกไล่ออกจาก Apple มันเปรียบเสมือนยาขมที่คนไข้อย่างผมต้องการอย่างมาก บางทีชีวิตเราก็ตีหัวเราเหมือนก้อนอิฐก้อนหนึ่ง แต่ขออย่าได้สูญเสียความเชื่อและความหวัง ผมมั่นใจว่าสิ่งเดียวที่ทำให้ผมก้าวต่อไปคือความรักในสิ่งที่ผมทำ คุณต้องหาสิ่งที่คุณรักให้ได้ และนั่นเป็นจริงทั้งสำหรับงานและคนที่คุณรัก งานคุณจะเป็นสิ่งที่ครอบคลุมชีวิตส่วนใหญ่ของคุณ และวิธีเดียวที่คุณจะมีความพอใจกับมันอย่างแท้จริงคือ คุณต้องทำในสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ และวิธีเดียวที่จะทำงานยิ่งใหญ่คือการทำงานที่คุณรัก ถ้าคุณยังไม่เจอก็ให้พยายามค้นหาตอไป อย่าหยุดหรือย้อมแพ้ในการหา คุณจะรู้ได้ทันทีเมื่อคุณเจอมัน เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ของหัวใจ และเหมือนความสัมพันธ์ดีๆอย่างอื่น คุณจะมีความสุขเพิ่มขึ้นเรื่อยเมื่อเวลาผ่านไป เพราะฉนั้นจงค้นหาต่อไปจนกว่าจะสิ่งที่คุณรัก อย่าหยุดหรือย้อมแพ้(อย่ายอมรับสภาพ) เรื่องที่สามของผมเกี่ยวกับความตาย ตอนอายุ 17 ผมได้อ่านคำคมวลีหนึ่งทำนองว่า ถ้าคุณใช้ชีวิตทุกวันเหมือนกับว่ามันเป็นวันสุดท้าย สักวันหนึ่งคุณจะต้องถูกบ้างหละ มันทำให้ผมประทับใจ และหลังจากนั้นทุกเช้าเป็นเวลา 33 ปี ผมได้มองหน้าตัวเองในกระจก และได้ถามตัวเองว่า ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของผม ผมอยากจะทำสิ่งที่ผมกำลังจะทำวันนี้หรือไม่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่คำตอบคือ ไม่ ต่อเนื่องกันหลายวัน ผมก็รู้ว่าถึงเวลาที่ผมต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างแล้ว การเตือนตัวเองว่าผมจะต้องตายในไม่ช้าคืออาวุธที่สำคัญที่สุดที่ผมค้นพบ ที่ผมได้ใช้ในการช่วยตัดสินใจสิ่งสำคัญๆในชีวิตของผม เพราะว่าเกือบทุกสิ่ง ความคาดหวังภายนอกความเย่อหยิ่ง ความกลัวที่จะเสียหน้าหรือล้มเหลว สิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าความตายเหลือไว้เพียงแต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ การเตือนตัวเองว่าตัวเองจะตายคือวิธีที่ดีที่สุดที่ผมรู้จัก ที่ช่วยให้ผมไม่ติดกับดักของการคิดว่าผมมีอะไรจะสูญเสีย คุณก็ตัวเปล่าเปลือยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะฉนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะไม่เดินตามสิ่งที่หัวใจคุณปรารถนา เมื่อปีกว่าๆ คุณหมอวินิจฉัยว่าผมเป็นมะเร็ง ผมเข้าเครื่องตรวจเมื่อเวลา7:30 น. ในตอนเช้า ผลการตรวจแสดงอย่างชัดเจนว่าผมมีเนื้องอกบนตับอ่อนของผม ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตับอ่อนคืออะไร คณะแพทย์ฟันธงว่านี่น่าจะเป็นมะเร็งตับอ่อนชนิดที่รักษาไม่หาย และว่าผมน่าจะมีเวลาเหลืออีกประมาณ 3 ถึง 6 เดือน พวกเขาบอกผมว่าผมควรจะกลับบ้านเพื่อไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นรหัสของพวกหมอว่าไปเตรียมตัวตายได้แล้ว มันหมายความว่าให้คุณพยายามสอนลูกๆของคุณ ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนในสิ่งที่คุณเคยคิดว่าคุณจะมีเวลาค่อยๆสอน ในอีก 10 ปี มันหมายความว่าให้คุณเตรียมการทุกอย่าง เพื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะง่ายได้สำหรับครอบครัวคุณหลังจากที่คุณจากไป มันหมายความว่าให้คุณกล่าวคำอำลา ผมอยู่กับคำวินิจฉัยนั้นทั้งวัน เมื่อตกเย็นคณะแพทย์ได้ทำการตัดชิ้นเนื้อไปชันสูตร โดยการสอดกล้องเข้าคอผม ผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้ แล้วจิ้มเข้าไปในตับอ่อนเพื่อดูดเอาเซลล์จากเนื้องอก ขณะนั้นผมอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของยาสลบ ภรรยาผมซึ่งอยู่ด้วยได้เล่าให้ผมฟังว่า คุณหมอได้ร้องไห้ออกมาด้วยความยินดีเมื่อส่องกล้องดูเซลล์เหล่านั้น เพราะมันเป็นมะเร็งตับอ่อนชนิดที่พบได้ยากมากที่สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ผมได้รับการผ่าตัดในเวลาต่อมาและผมก็หายดีแล้ว นี่คือเหตุการณ์ที่ผมเฉียดตายมากที่สุด และผมก็หวังว่ามันจะเป็นเหตุการณ์ที่เฉียดที่สุดไปอีกหลายทศวรรษ เมื่อผ่านพ้นมันมาแล้ว ผมสามารถพูดกับคุณด้วยความมั่นใจที่เพิ่มอีกนิดกว่าก่อนหน้านี้เมื่อความตาย เป็นเพียงสิ่งทีมีประโยชน์[ที่ใช้ในการกระตุ้น]แต่เป็นเพียงสิ่งที่ผมเข้าใจเอาเองตามทฤษฎี: ไม่มีใครอยากตายหรอกครับ แม้คนที่ต้องการขึ้นสวรรค์ก็ไม่อยากตายแม้นว่าเขารู้ล่วงหน้าว่าตายไปแล้วเขาจะได้ขึ้นสวรรค์ ถึงกระนั้นความตายก็คือจุดหมายเดียวกันที่พวกเราทุกคนต่างมี ไม่เคยมีใครหนีความตายพ้น และมันควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะความตายน่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์อย่างเดียวที่ดีที่สุดของชีวิต มันเป็นจุดเปลี่ยนแปลง มันกำจัดสิ่งเก่าออกไปเพื่อปูทางสำหรับสิ่งใหม่ ณเวลานี้พวกคุณคือสิ่งใหม่ แต่วันหนึ่ง ไม่นานหลังจากนี้ พวกคุณก็จะกลายเป็นสิ่งเก่าที่ถูกทำให้พ้นไป ขอโทษถ้าที่ผมพูดมันฟังดูเหมือนลิเก แต่มันเป็นความจริง เวลาของคุณมีจำกัด เพราะฉนั้นอย่าใช้มันโดยการใช้ชีวิตของคนอื่น จงอย่ายอมติดกับดักของกฎเกณฑ์ ซึ่งก็คือการใช้ชีวิตจากผลของความคิดของคนอื่น อย่ายอมให้เสียงของความคิดเห็นของคนอื่นกลบเสียงของใจของคุณ และที่สำคัญที่สุด จงกล้าที่จะเดินตามหัวใจและสัญชาตญาณของคุณ ลึกๆแล้วพวกมันรู้ว่าคุณต้องการที่เป็นอะไร อย่างอื่นนอกจากนั้นเป็นเพียงเรื่องรองลงมา สมัยที่ผมยังเด็กอยู่ มีวารสารหนึ่งชื่อว่า The Whole Earth Catalogue ซึ่งเปรียบเสมือนกับคัมภีร์ไบเบิ้ลของคนรุ่นผม ชายคนหนึ่งนามว่า Steward Brand เป็นผู้ก่อตั้งมันขึ้นมาในMenlo Park ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่เขาทำให้วารสารนั้นมีชีวิตขึ้นมาด้วยความสามารถดุจนักกวีของเขา ช่วงนั้นเป็นช่วงปลายทศวรรษ 1960ก่อนที่จะมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และการพิมพ์โดยการใช้คอมพิวเตอร์เข้าช่วย ทุกสิ่งทุกอย่างคืองานที่ใช้เครื่องพิมพ์ดีด กรรไกร และรูปถ่ายจากกล้องโพลารอยด์ทำ มันเปรียบเสมือน Google บนหน้ากระดาษก่อนที่จะมี Google จริงๆในอีก 35 ปีต่อมา มันสุดยอดมาก เต็มปริ่มไปด้วยเครื่องมือดีๆและไอเดียยิ่งใหญ่ Stewart และทีมงานของเขาตีพิมพ์หนังสือนี้ออกมาหลายชุด และเมื่อถึงเวลาของมัน พวกเขาก็ตีพิมพ์ฉบับสุดท้ายออกมา มันป็นช่วงกลางทศวรรษ 1970 ขณะนั้นผมอายุประมาณพวกคุณในตอนนี้ ปกหลังของฉบับสุดท้ายเป็นรูปถนนในชนบท ถนนแบบเดียวที่คุณอาจเดินทางถ้าคุณเป็นคนรักการผจญภัย ข้างใต้รูปนั้น มีข้อความว่า Stay Hungry. Stay Stupid.* นั่นคือประโยคอำลาของพวกเขา ผมใช้ข้อความนี้เตือนใจผมเสมอ และขณะนี้ผมขอมอบข้อความนี้ให้พวกคุณทั้งหลายที่นี่ที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่ Stay Hungry. StayFoolish.* ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก * Stay Hungry แปลตรงตัวคือ จงดำรงไว้ซึ่งความหิว ความหมายก็คือ จงกระหาย[ที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา] Stay Foolish แปลตรงตัวคือ จงดำรงไว้ซึ่งความโง่เขลา ความหมายก็คือ จงอย่าคิดว่าเราฉลาดแล้วจนเลิกที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆหรือพัฒนาตัวเอง
โดย
-=spider=-
จันทร์ มิ.ย. 05, 2006 7:46 pm
0
0
งบ KH ออกแล้วว ...
[quote="moonkiss"]แล้วแต่มุมที่มองครับพี่สามัญชน แต่หากให้หารพ.เอกชนที่ถูกด่ามากสุดอันดับแรกแรกๆ มี kh ติดด้วยแน่ครับ[/quote] อย่างนั้นเลยหรือ สงสัยผมคงต้องกลับมานั่งพินิจพิเคราะห์ใหม้แล้วสิ
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 2:23 pm
0
0
APRINT & SE-ED
ผมเข้าร้าน SE-ED ส่วนใหญ่ดูแต่หนังสือแต่งบ้าน...แต่งสวนของ APRINT ก็เลยคิดว่าน่าจะโตด้วยกันทั้งคู่
โดย
-=spider=-
เสาร์ พ.ค. 06, 2006 6:53 pm
0
0
APRINT & SE-ED
ถ้าเป็นวันนี้เวลานี้ ต้นเดือน พ.ค.49 ผมให้น้ำหนัก APRINT น่าลงทุนมากกว่าครับ เพราะ...คนส่วนใหญ่สนใจแต่ SE-ED ที่ขึ้นมามากแล้ว
โดย
-=spider=-
เสาร์ พ.ค. 06, 2006 6:51 pm
0
0
Smm ธุรกิจ การตูน นิยายจีน วิทยุ นิตยสาร
ระวังเรื่องความเสียหายจากน้ำท่วมปีก่อนที่บางโบรคคาดว่าประมาณ 15 ล้าน ลงบัญชีไตรมาสที่แล้วไปประมาณครึ่งหนึ่ง น่าจะมีในไตรมาสนี้อีก 7-8 ล้านด้วยครับ
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. พ.ค. 04, 2006 8:54 pm
0
0
เรียนถามคุณ Tiger เรืองหม้อต้ม ที่เปลี่ยนมาใช้เป็นถ่านหิน
UMS เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ซื้อของเป็นราคา $US แล้วขายเป็นเงินบาท ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องแบบนี้ ยิ่งเป็นแรงส่งให้ผลประกอบการปีนี้น่าจะออกมาดีครับ
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 11:12 am
0
0
TICON จ่ายปันผล 93% ของกำไร???
หมายถึงว่าเวลาเครดิตภาษี แทนที่จะใช้ตัวคูณ 30/70 ก็เป็น 25/75 หรือเปล่าครับ
โดย
-=spider=-
ศุกร์ ก.พ. 24, 2006 8:46 am
0
0
TICON จ่ายปันผล 93% ของกำไร???
คุณ Setmaker ส่วน 25% นี่จะรู้ได้ไงว่าตรงไหน ครับ
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. ก.พ. 23, 2006 7:09 pm
0
0
TICON จ่ายปันผล 93% ของกำไร???
ผู้บริหารใจป้ำจริง เงินปันผลของ TICON นี่ขอเครดิตภาษีได้มั๊ยครับ
โดย
-=spider=-
พฤหัสฯ. ก.พ. 23, 2006 12:51 pm
0
0
ถามเรื่องภาษี
ผลประกอบการปี 48 จะได้รับปันผลปี 49 ถือเป็นรายได้ปี 49 ครับ
โดย
-=spider=-
พุธ ก.พ. 22, 2006 7:27 pm
0
0
หุ้นปันผลไหนที่เครดิตภาษีได้คับ
จะทราบได้อย่างไรว่าบริษัทไหนได้รับการยกเว้นภาษี
โดย
-=spider=-
อังคาร ก.พ. 07, 2006 7:06 pm
0
0
Sta ทำไมปิด12.70
ผมก็เคยงงกับเรื่องแบบนี้เหมือนกัน
โดย
-=spider=-
อังคาร ก.พ. 07, 2006 6:58 pm
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
[email protected]
โดย
-=spider=-
ศุกร์ ก.พ. 03, 2006 6:01 am
0
0
se-ed 6.3 baht แล้วคับ
ตอนนี้คงเป็นฝรั่งอยู่ซิครับ :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :D
โดย
-=spider=-
อังคาร ม.ค. 24, 2006 8:04 pm
0
0
มีหุ้นvi บริษัทไหนรอดมั่งนี่
SE-ED ก็ไม่ลงครับ ตั้งแต่ SET เริ่มลงเมื่อวันจันทร์
โดย
-=spider=-
พุธ ม.ค. 18, 2006 7:38 pm
0
0
ขออนุญาติครับ ดร นิเวศน์ vs ดร สุวรรณ เรื่องบ้าน
[quote]ส่วนผม ขอตามท่าน ดร.นิเวศน์ดีกว่าครับ เพราะปกติบ้านเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้นะครับ (แต่เกิดรายจ่าย ) ซื้อหลังเล็กๆ พอซุกหัวนอน อบอุ่นดี และถ้าให้ดีไม่ต้องซื้อบ้านเลย อยู่บ้านหลวง [/quote] ผมเห็นข้าราชการที่เอาแต่อยู่บ้านหลวงมาตลอด โดยไม่สนใจที่จะซื้อบ้านเอง พอใกล้เกษียณ หรือเกษียณแล้ว ล้วนต่างก็เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย น่าเสียดายวลาที่มีเงินมีทอง แต่สุรุ่ยสุร่ายไปวันๆ ท้ายที่สุดก็ขาดกำลังทรัพย์ที่จะซื้อหาเป็นของคนเอง น่าเสียดาย
โดย
-=spider=-
จันทร์ ธ.ค. 26, 2005 7:27 pm
0
0
มาฟันธงกันดีกว่า january effect เกิด ไม่เกิด
คาดว่าน่าจะเกิดครับ เหตุผล...ก็เหตุผลเดิมๆ 1-มกราคมเป็นเดือนเริ่มต้นปีใหม่ บริษัทฯส่วนใหญ่สรุปงบ จ่ายโบนัส จ่ายเงินพิเศษ จ่าย จ่าย จ่าย คนทำงานที่มีเงินก็เริ่มมองหาทางลงทุนต่อ ตลาดห้นนี่แหละที่เงินจะไหลลงมามาก หุ้นก็จะขึ้น 2-ไตรมาสสุดท้ายมักเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการของบริษัทฯส่วนใหญ่ในตลาดออกมาดีที่สุด นักลงทุนก็คาดว่าผลประกอบการสิ้นปีที่จะประกาศในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าน่าจะออกมาดี ก็แย่งกันลงเงินไว้ก่อน 3-ฯลฯ คุณ 121 ปีที่ Set 1700 มันขึ้นมาแป๊บเดียว วันที่ 4 มค. 2537 วันเดียว แล้วหลังจากนั้นมันก็ลงอย่างเดียวมานานนับปี ปีนั้นเป็น แจนยัวรี่เจ๊บบบเจ็บบบบ
โดย
-=spider=-
ศุกร์ ธ.ค. 23, 2005 5:39 pm
0
0
SMM ลงเพราะ เหตุนี้กระมัง
ดูแล้วน่าตกใจเหมือนกันนะครับความเสียหายจากน้ำท่วมนี่น่ะ ผมกำลังคาดอยู่ว่าหนังสือแดจังกึมน่าจะทำให้ผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายปีนี้ออกมาสวยงาม แต่ถ้าเสียหายจกน้ำท่วมตั้ง 15 ล้านนี่แดจังกึมช่วยไม่ได้เลย คำนวนดูคร่าวๆหนังสือออกมา 4 ตอนๆละ 40,000 เล่ม ราคาขายเล่มละ 200 บาท ให้มีกำไรซัก 25% และขายเก่งมากขายหมดเเลย ยังได้กำไรแค่ครึ่งเดียวจากที่เสียหายจากน้ำท่วมเอง อย่างนี้ไตรมาสสุดท้ายดูไม่สวยแน่ ถ้าลงบัญชีความเสียหายไว้ 6-7 ล้าน มันจะมีผลให้ไตรมาสแรกปีหน้าก็จะยังไม่สวยอยู่อีก ทำให้ผมนึกถึงที่คุณ IH พูดไว้ในการเลือกบริษัทว่ากำไรขอบริษัทฯต้องมากพอที่จะไม่ทำให้หากเกิดความเสียหายจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแล้ว ได้รับผลกระทบไม่มากนัก ดูอย่างไฟไหม้ RATCH สิ ราคาแทบไม่กระทบเลย แต่น้ำท่วมทำกำไร SMM หายไปตั้ง 30% ได้มั๊ง ผมเลยไม่กล้าเข้าเลย ขอรอดูก่อนดีกว่า
โดย
-=spider=-
อังคาร ธ.ค. 13, 2005 4:12 pm
0
0
ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"
บอกก่อนเลยว่า...ตอนนี้ผมไม่มีหุ้นทั้ง MINT และ CENTEL และยังไม่คิดจะซื้อ
โดย
-=spider=-
เสาร์ พ.ย. 05, 2005 10:31 pm
0
0
ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"
ผมแค่จะมาบ่นให้นักลงทุนรับทราบว่า...Pizza ของใครเป็นไงแค่นั้นเอง ส่วนใครจะถือหุ้นใครก็คิดกันเอง...
โดย
-=spider=-
เสาร์ พ.ย. 05, 2005 8:42 pm
0
0
ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"
ผมไม่โทษว่าเป็นความผิดของพนักงานหรอก แต่ที่อยากถามคือ แฟรนส์ไชน์ Pizza Hut มีมาตรฐานการให้บริการแค่ไหนหรือ ขาย Pizza มากี่ปีแล้ว ค่าแฟรนส์ไชน์แพงแสนแพง มีอย่างที่ไหน...ลูกค้าออเดอร์แล้วมันหลุดไปไหนไม่รู้ วันนี้ลูกสาวผมได้ทาน Pasta หลังจากสั่งแล้วประมาณ 45 นาที ซึ่งปรกติ...ผมสั่งจาก The Pizza มาทานที่บ้าน ซึ่งห่างจากร้านประมาณ 8 กม. ได้ทานไปแล้ว...นี่นั่งสั่งที่ร้านแท้ๆ
โดย
-=spider=-
เสาร์ พ.ย. 05, 2005 8:40 pm
0
0
ถามความเห็น"หุ้นอาหาร"
พนักงานกลับมาแล้วแจ้งว่า Order หลุดไป
โดย
-=spider=-
เสาร์ พ.ย. 05, 2005 8:32 pm
0
0
66 โพสต์
of 2
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
-=spider=-
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
เสาร์ ต.ค. 15, 2005 2:03 pm
ใช้งานล่าสุด:
พฤหัสฯ. ม.ค. 09, 2014 12:50 pm
โพสต์ทั้งหมด:
123 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว