Re: คำถามดังๆ ตั้งสมาคมเพื่ออะไร ขอถามอีกข้อครับ (8bfvp^js]kpiv[;jk0t5k,fusinvgx]jk) จากที่หลายๆคนให้รอรายละเอียดจากประธานหรือสมาคม ไม่ทราบว่ามีแผนที่จะเปิดเผยแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ครับ ทั้งนโยบายต่างๆ รวมถึงกฏระเบียบสมาคม หรือว่า ทั้งหมดที่แจ้งมามีแค่นี้ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว พอเข้าใจว่ากฏระเบียบสมาคมต้องจดแจ้งที่กระทรวงพณ. ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะมีการประชุมสามัญ ถ้าทำไปแล้วก็อยากทราบว่ามีรายละเอียดยังไง ถ้ายังไม่ทำ ไม่ทราบว่ามีฉบับร่างที่เตรียมให้สมาชิกลงคะแนนรับรอง นำมาเปิดเผยได้เมื่อไหร่ครับ โดย Boring Stock Lover ศุกร์ มิ.ย. 29, 2012 11:12 pm

Re: ต้องการบริจาคเครื่องใช้สำนักงานให้สมาคมฯ fyi krub มูลนิธิหรือสมาคมที่ต้องการขอรับโปรแกรมไมโครซอฟท์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.techsoup.asia กรุณาส่งเอกสารดังนี้ตอนลงทะเบียนค่ะ 1. เอกสารระบุว่าเป็นมูลนิธิหรือสมาคมในประเทศไทย รวมทั้ง 2. เอกสารระบุว่าเป็นองค์กรสาธาณประโยชน์จากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หรือ..... 3. เอกสารระบุว่าเป็นองค์กรสถานสาธารณกุศลจากกระทรวงการคลัง รวมทั้งหมด 2 เอกสารนะค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปเรียนรู้เพิ่มเติมที่เว็ปไซต์ดังกล่าว เกี่ยวกับความรู้พื้นฐานทางเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อ NGO ขนาดเล็กและกลางโดยเฉพาะ โดย Boring Stock Lover ศุกร์ มิ.ย. 29, 2012 11:02 pm

Re: คำถามดังๆ ตั้งสมาคมเพื่ออะไร ขอบคุณ Yoyo และท่านอื่นๆมากครับ แล้วมีการพูดคุยหรือได้ยินมาเรื่องเป้าหมายสมาคมหรือเปล่าครับ จะมีอะไรที่มากไปกว่านี้มั้ย ขอถามที่นี่อีกกระทู้นะครับว่า เมื่อเป็นสมาคมแล้ว สมาคมฯสามารถจัดตั้งกองทุนแนวหุ้นคุณค่าตามวัตถุประสงค์ได้หรือไม่ครับ ที่อเมริกา Investment club ทำได้แต่ต้องในความหมายที่ไม่เหมือน mutual fund ก็คือหลักใหญ่ๆ สมาชิกไม่มีส่วนเป็นเจ้าของกองทุนนั้นๆ ซึ่งคงจะรวมถึงว่าราคาสมาชิกไม่ขึ้นอยู่กับ NAV ที่เมืองไทยไม่รู้ แต่สมาคมเปิดพอร์ทนิติบุคคลได้แน่ โดย Boring Stock Lover ศุกร์ มิ.ย. 29, 2012 4:49 pm

Re: คำถามดังๆ ตั้งสมาคมเพื่ออะไร เรียนทุกท่านครับ ผมไม่ติดใจเรื่อง Integrity ของกรรมการและทีมงาน เรื่องค่าสมาชิก และหลายๆเรื่องที่พูดๆกัน ผมก็ยังสงสัยว่า ทำไมเราต้องทำ แล้วทำเพื่ออะไร ผลประโยชน์ ผลตอบแทน ที่เกิดขึ้นจากการเป็นสมาคมคืออะไร สมมติเอาเรื่องสำนักงานถาวร ซึ่งผมเชื่อว่าต้องอยู่ในกทม.แน่นอน ทุกวันนี้สมาชิกมีการกระจายตัวอย่างไร กทม.เมื่อเทียบตจว. จะหาพื้นที่มากเพียงไรสำหรับห้องประชุม 10คน หรือ 20คน หรือ 50คน และมีอุปกรณ์อะไรให้บ้าง ความถี่ในการเกิดกิจกรรม ทั้งจากการที่สมาคมเป็นผู้จัด หรือสมาชิกเป็นผู้ขอ มันมีความคุ้มค่าหรือไม่หรือไม่เมื่อเทียบกับการไปเช่าสถานที่ ซึ่งหลายๆที่ก็ไม่ต้องจ่าย เช่น ตามร้านกาแฟร้านอาหาร ฯลฯ ผมรู้สึกว่าเราทุ่มเททั้งทรัพยากร เวลา แรงกาย แรงใจ กำลังทรัพย์ ของกรรมการทีมงานและสมาชิกเพิ่มขึ้น โดยที่เพื่อวัตถุประสงค์ที่รูปแบบปัจจุบันทำได้อยู่แล้ว ไปเพื่ออะไร? อีกทั้งกรรมการต่างๆก็ยังเพื่มความเสี่ยงในข้อกฏหมายเพิ่มขึ้นอีก โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2012 12:40 pm

Re: คำถามดังๆ ตั้งสมาคมเพื่ออะไร ขอชี้แจงนิดนึง ไม่ได้ต่อต้านนะครับ แค่สงสัยดังๆว่า ทำไมต้องตั้งเป็นสมาคมไปเสียเงินเสียทองทำสถานที่ ต้องจ้างคนตรวจบัญชีใช้จ่าย ค่าพนักงาน และอื่นๆ ถ้าหากไม่มีเป้าหมายที่เหนือไปกว่าที่เขียนไว้ในวัตถุประสงค์ และอีกด้านของการตั้งเป็นสมาคม มันเกี่ยวพันกับกฏหมายมากขึ้น กิจการและองค์กรใดๆจะอยู่ได้เติบโตคงต้องมีความปราถนาในนามธรรมบางอย่าง แค่มาพบปะสังสรรค์สมาคมกัน โลกไซเบอร์ก็น่าเป็นคำตอบได้ดีพออยู่แล้ว และยังหยืดหยุ่นในแง่ที่สมาชิกจากทุกถิ่นที่สามารถร่วมได้ เรื่องเล็กๆน้อยๆทั้งคชจ.ผลประโยชน์ที่เขียนมา ผมไม่ได้สนใจมาก แค่สนใจในแนวทางใหญ่ๆว่ามารวมกันแล้วเพื่ออะไรทำไมอย่างไร ผมไม่ได้มีความตั้งใจให้เกิดบรรยากาศถกเถียงกันแบบ argument for the sake of argument อยากให้ ใครอยากได้อะไรก็บอก ไม่ชอบอะไรก็ชี้เหตุและผล มีข้อแนะนำให้มากกว่าที่จะมาใช้ลักษณะการโต้เวที อยากให้เป็นเหมือนพี่ปรัชญาว่า "หลายๆอย่าง ที่ยังไม่มีใครออกมาอธิบาย สมาชิกเสนอซิครับ" ขออภัยถ้าหากทำให้ใครไม่ชอบ just my 2 cents ปล.ถึงแม้จะอยู่เวบนี้มานาน แต่ก็ไม่รู้จักกรรมการและทีมงานทุกคน บางชื่อก็พอรู้ว่าเป็นใคร ใช้นามแฝงในการโพสอะไร เคยโพสอะไรอย่างไร แต่หลายชื่อนี่ไม่รู้จักเลย เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2012 2:33 am

Re: คำถามดังๆ ตั้งสมาคมเพื่ออะไร ด้วยความเคารพ เพราะอะไรครับ pro and con เป็นยังไงครับ โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2012 2:31 am

ขออำลาครับ ขอบคุณทีมงานทุกคนครับ โดย Boring Stock Lover อังคาร ต.ค. 26, 2010 8:10 pm

นี้มันการพนัน ชัดๆเลย ถ้าว่ากันอย่างนี้ การประกันชีวิตแบบไม่ออมทรัพย์ การประกันภัยทุกอย่างก็เหมือนกัน ไม่ตายไม่ได้ตัง บ้านไม่ไหม้ไม่ได้เงิน โดย Boring Stock Lover จันทร์ ก.ย. 27, 2010 7:31 pm

นี้มันการพนัน ชัดๆเลย [quote="unnop.t"]ตลาดอนุพันธ์ทุกตัวมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่ในทางปฎิบัติคนที่ใช้เครื่องมือนี้เป็นการป้องกันความเสี่ยงจริงๆ มีซักกี่เปอร์เซ็นต์กัน ดูอย่าง AFET เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงเรืองราคาสินค้าเกษตรที่ดีสำหรับเกษตรกรหรือผู้ค้า แต่คนที่เล่นจริง ๆเป็นนักเก็งกำไรส่วนใหญ่ เกษตรกรมีความเข้าใจน้อยมาก โดย Boring Stock Lover จันทร์ ก.ย. 27, 2010 4:44 pm

อยากทราบว่า หุ้นโตเร็วในสายตาท่านคือตัวไหนบ้าง ฉญโ ครับ แค่ขายเกี๊ยวให้คนทั้งโลกคนละกระป๋องต่อปี 6,000 ล้านคน x 50 = 360,000 ล้านบาท รายได้ก็เพิ่มมากกว่ารายได้ทั้งปีแล้ว ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ ก็ขายเกี๊ยว + ไส้กรอก ให้คนครึ่งหนึ่งของโลก ถ้ายังคิดว่ายากไป ก็ขายเกี๊ยว + ไส้กรอก + ไก่ + ไข่ ให้คน 1 ใน 4 ของโลก ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของคนจีนทั้งประเทศ ส่วนหนึ่งของคนอินเดีย ส่วนหนึ่งของคนเอเซีย อีกส่วนของคนที่เหลือทั้งหมดในโลก โดย Boring Stock Lover ศุกร์ ก.ย. 10, 2010 9:25 pm

วิธีบริหารจัดการอารมณ์ ข้อหนึ่งที่ทำให้คนเล่นตามอารมณ์ก็คือ ไม่มีแผนการเล่น มีเงินเท่าไหร่ เริ่มซื้อที่ราคาไหน จำนวนเท่าไหร่ ถ้าลงจะเฉลี่ยที่ราคาไหน ถ้าผิดจะยอมมอบตัวมั้ย ถ้าขึ้นจะตามซื้อเพิ่มป่าว ถ้าขึ้นไปเยอะจะมีแผนปกป้องกำไรหรือไม่ จะชักทุนออก หรือ ทำ Trailing stop ตามไป หรือ จะขายหมด ฯลฯ แต่ไม่ใช่ว่ามีแผนแล้วจะไม่ทำตามอารมณ์ แต่ถ้าไม่มีแผนนี่ ส่วนใหญ่ก็เป็นการเล่นตามอารมณ์ โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. ก.ย. 09, 2010 9:08 pm

เกี่ยวกับ Dollar Cost Averaging (DCA) http://dekisugi.net/7thltg อ่านทีเม้นต์ทั้งหมดนะครับ โดย Boring Stock Lover พุธ ก.ย. 08, 2010 9:56 pm

คนโง่เห็นคำเตือนเป็นที่ระคายหู รุ่นใหญ่มาเองเลย สบายดีมั้ยครับ ว่าแต่ทำไมระยะเวลาถือหุ้นหลักๆมันสั้นนะครับ ว่าไปแล้ว ที่นี่น่าเปิดอีกห้องนึงเป็นห้องช็อตหุ้นหรือห้อง SBL อาจเริ่มแค่ หุ้นใน set 50 จะได้ไปช็อตกันได้จริง การวิเคราะห์ก็เน้นตามปัจจัยพื้นฐานหลักตามเวบนี้ อาจมีเทคนิคมาผสมโรงเป็นช่วงๆไป  หุ้นหลายตัวท็อปฮิตที่นี่ก็อยู่ใน set 50 แล้วด้วย และอีกหลายตัวถ้ายังโตไปเรื่อยๆ ก็คงได้เข้าไป set 50 ในอนาคต จำได้ว่าคนเคยขอบว่าโบรกมีแต่งานวิจัยเชียร์ซื้อ ตอนขายไม่พูด วันนี้ที่นี่หลังจากที่เคยอยู่กันมาโดยหลัก ตอนซื้ออาจบอก แต่ตอนขายตัวใครตัวมัน หลักนี้ก็อยู่กันมายาวนาน แต่วันนี้ดูแล้วมันโกลาหลชอบกล ก็เพราะมันเริ่มคล้ายบทโบรกไปทุกทีมีแต่เชียร์ แถมไม่มีเป้าอีกต่างหาก คนที่ตามเลยตามไม่ค่อยถูก เอาว่าเปิดอีกห้องสำหรับพวกลงทุนทวนกระแส เชียร์ช็อตกัน เกิดในอีกสองสามปีนี้ ตลาดขึ้นไปเรื่อยๆ จะได้เรียนรู้การทำกำไรขาลง เมื่อถึงเวลาต้องใช้ จะได้ใช้คล่องถนัดมือ โดย Boring Stock Lover อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 3:51 pm

ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงขาดทุนในการลงทุนได้ เพิ่งซื้อไปตัวช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา คิด dividend yield เมื่อเทียบราคาซื้อ ก็ประมาณ 5.7%-6.5% ราคาตอนนี้หายไป 4% มั้ง ไม่รู้อนาคตจะให้ปันผลตลอกและโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบในตัวอย่างหรือเปล่า โดย Boring Stock Lover เสาร์ ก.ย. 04, 2010 4:57 pm

คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับกลุ่มหลักทรัพย์ครับ ซึ่งตลาดบ้านเรามุลค่าการเทรดอนุพันธ์นั้นน้อยมาก ซึ่งทำให้มองว่ามีโอกาสโตไปได้อีกมาก และยิ่งยุคเบบี้บลูค่อยๆหมดไป ยุคGenXค่อยๆน้อยลง ยุคGenYค่อยๆมากขึ้น แค่เวบนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว สมัยก่อนไม่มีการพูดคุยหุ้นโบรก มีแต่น้อยมากๆ โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2010 4:04 pm

ข้อมูลที่น่าจะผิดจาก set.or.th ของบริษัท ROCK มีหุ้นอยู่ 10 ล้าน x ราคาปิด = Market cap ก็น่าจะถูกนี่ โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 30, 2010 10:45 pm

ทำไม่โบรกเกอร์ ถึงเกลียดนักลงทุนแนว VI ปกติเท่าที่รู้มา ซื้อขายล้านบาทโดยให้มาร์คีย์ให้ มาร์ได้ 600 บาท โดยประมาณ พอร์ทใหญ่เล็กไม่สำคัญสำหรับคนอาชีพมาร์ ตัวทวีคูณ คือจำนวนการทำรอบ ก็ลองคิดดูว่า ธุรกิจเราที่กำลังทำอยู่กับเวลาของมาร์ที่ต้องใช้กับเรา ใจเขาใจเรา แล้วมาร์บางคนก็รวยจริงๆ รายได้เสียภาษีในอัตราสูงสุดก็มี ลูกค้าส่งคำสั่งที ฟังแล้วลมจะใส่ เอาปูนใหญ่ห้าหมื่นหุ้น ขายสผสองหมื่นหุ้น อะไรแบบนี้ เคยได้ยินจะจะทีนึงตอนไปทำธุระที่โบรก คำสั่งเดียวยี่สิบล้าน พวกที่ชอบพอร์ทใหญ่ๆคือ พวกแบงค์กับกองทุนรวม เพราะผลประโยชน์ผูกกับมูลค่าพอร์ท โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 30, 2010 5:55 pm

ถามเรื่องส่วนของผู้ถือหุ้น [quote="Amadeus"]ยกตัวอย่างแล้วกัน มีหุ้นสองบริษัท ทำธุรกิจเดียวกัน งบคล้ายกันกันเลย หุ้น end-part มี Asset 200M, โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 30, 2010 3:58 pm

Re: ค่า EV/EBITDA รู้ว่ายิ่งสูงยิ่งดี แต่ ไม่รู้เหมือนกันว่า คืออะไร ยิ่งสูงยิ่งแพงครับ ตัวนี้คล้ายกับค่า PE โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 30, 2010 12:25 pm

หุ้นถูก เต็มตลาด ตกลง นี่เป็นการใบ้ว่า หุ้นจะขึ้นอีกมาก เพราะจะมีเม็ดเงินเข้ามาอีกมาก เหรอ? โดย Boring Stock Lover อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 5:29 pm

หุ้นถูก เต็มตลาด เห็นด้วยครับ แต่หุ้นที่คุ้มค่ามีเหลือหรือเปล่า เป็นอีกเรื่งหนึ่ง หุ้นใหญ่ก็ถูก ptt ตอนนี้ก็ถูกกว่า 4xx เมื่อไม่กี่ปีก่อน scb ก็เคยร้อยนิดๆตอนี้เก้าสิบต้นๆ ฯลฯ พวกหุ้นตัวเล็กตัวน้อยอีกเพียบ iec bland loxley live twz ฯลฯ นี่เทียบแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ถ้าย้อนกลับไปก่อนต้มยำกุ้ง อีกเพียบๆเลย แต่ราคาหุ้นที่ถูก จะเป็นราคาที่คุ้มค่าหรือเปล่า ? โดย Boring Stock Lover เสาร์ ส.ค. 28, 2010 10:50 pm

ในร้อยคนร้อยหุ้นไม่มี phatra เพราะอะไรเหรอครับ ที่นี่ไม่ค่อยชอบธุรกิจโบรก เขาว่าประเมินยาก เป็นการเล่นกับไฟ เป็นหุ้นปั่น ไม่มีความยั่งยืน ในอดีต Fin1 ก็เคยล้ม ทิ้งไว้แต่กระดาษแผ่นเดียวให้ผู้ถือหุ้น ถ้าอยากตั้งห้อง phatra ผมว่าตั้งเป็นห้องโบรกเลยจะดีกว่า คุยได้ทุกตัวในหมู่โบรก ไม่รวมเงินทุนหรืออื่นๆ แยกตั้งเป็นตัวๆ โดย Boring Stock Lover เสาร์ ส.ค. 28, 2010 8:13 pm

เวลา กับ การลงทุนแบบ vi ราคามันอยู่ที่ตลาด สิ่งที่เราพอจะเดาได้น่าจะเป็นว่าธุรกิจดำเนินไปอย่างที่หวังหรือเปล่า คาดว่าบริษัทนี้จะเติบโตสูงกว่าตลาด ก็ต้องดูว่า ยอดขายโตมากจริงมั้ย การจัดการดีมั้ย กำไรยังอยู่ในสัดส่วนที่ควรจะเป็นหรือดีขึ้นมั้ย รวมทั้งดูสภาพบรรยากาศโดยรวมของเศรษฐกิจ ส่วนราคาหุ้นบางที่มันขึ้นลงเร็ว บางวันบวกเป็นสิบเปอร์เซ็นต์ บางอาทิตย์บวกเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ อันนั้นเดายากในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ไม่ลองคิดว่าเราจะถือชั่วชีวิตล่ะครับ โดย Boring Stock Lover ศุกร์ ส.ค. 27, 2010 4:33 pm

ขอถามครับ วันนี้web บัวหลวง ใครเข้าได้บ้าง สงสัยโบรกไม่ได้จ่ายตัง settrade ทำไมไม่โทรไปถามที่โบรกล่ะครับ โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. ส.ค. 26, 2010 9:17 pm

mutual fund, ltf เข้า 100 คน 100 หุ้นด้วยได้ไหมครับ ผมเห็นคนที่อยากเอาหุ้นเข้าห้อง ก็เริ่มที่ใส่เนื้อหา แล้วแจ้งทีมงาน ลองเริ่มใส่เนื้อหาก่อนก็ได้ ว่าไปแล้วเนื้อหาของกองทุนมันจะค่อนข้างน้อย ทุกอย่างที่เรารู้ ก็เมื่อเวบกองทุนประกาศ ไม่งั้นเข้าห้องไปแล้ว ก็อาจจะมีแต่การพูดคุยเรื่องการซื้อขาย แต่ไม่มีเนื้อหนังอะไร โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. ส.ค. 26, 2010 12:01 pm

คิดไงกับข่าว เฮียปอจะเทค คาร์ฟูร์ เป็นไปได้มั้ยว่า มองไปในอนาคต อาจเชื่อว่ารถยนต์จะใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ถ้าเป็นอย่าง สถานีบริการเติมไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ในอนาคต อาจจะต้องปรับรูปแบบ เนื่องจากเวลาที่ใช้ในการเติมไฟจะนานมาก เลยต้องให้คนขับมีที่ไปทำกิจกรรมที่ใช้เวลาพอสมควร การซ็อปของเข้าบ้านระหว่างการเติมไฟอาจเป็นทางเลือกหนึ่ง โดย Boring Stock Lover อังคาร ส.ค. 24, 2010 10:04 pm

อยู่ไม่สุข...จริงๆ :D ขอบคุณครับที่แบ่งปัน ... โอกาสที่จะเอาชนะค่าคอมในระยะยาวได้นั้นยากมากๆครับ :lol: คนที่เล่นก็คงไม่ได้ตั้งเป้าเอาชนะค่าคอมนะ แล้วโดยทั่วไปเขาคงไม่เล่นหุ้น 70 บาท หวังกำไรแค่ 1 บาท แล้วออก ก็คงเหมือนเราซื้อหุ้นลงทุน หลังจากศึกษามาดี ก็คงไม่ได้หวังว่าได้แค่ชนะดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ในความเป็นจริงได้มากกว่า หรือน้อยกว่า หรือขาดทุนก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ... ว่าไปแล้วช่วงนี้เอียนกับการพูดถึงวิธีการเล่นหุ้นลงทุนหุ้นในแต่ละแบบจริงๆ ไม่รู้ว่ามีประโยชน์ยังไง ถ้าอยากพูดถึงก็น่าจะออกในทางสร้างสรรค์ที่ทำให้มีพัฒนาการในวิถีนั้นๆดีกว่า จริงๆการเป็นนักลงทุน ก็ต้องมี skill set ที่ต้องศึกษา และหมั่นฝึกฝน และการเป็นเทรดเดอร์ก็ต้องมี skill set เหมือนกัน แต่อาจจะเป็นทักษะคนละตัวที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น ไม่ว่าแบบไหน เล่นแบบมั่วๆ ก็มีโอกาสขาดทุนพอกัน โดย Boring Stock Lover อังคาร ส.ค. 24, 2010 5:49 pm

รบกวนถามเรื่อง กู้มาร์จิ้นครับ วิธีคำนวณของหลักเอ http://inv4.asiaplus.co.th/cms/index.php?sc=finance_credit_balance 1.  ทรัพย์สินของลูกค้า (Assets) Assets = Cash Balance + มูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ (LMV) + Collateral   2.  หนี้สิน (Liabilities)   Liabilities = Loan + มูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ที่ขายชอร์ต (SMV)   3.  ทรัพย์สินสุทธิของลูกค้า (Equity) Equity = Assets - Liabilities 4.  มูลค่าหลักประกันที่ต้องการ (Margin Requirement : MR) MR = มูลค่าหลักทรัพย์ในบัญชีทั้งหมด * Initial Margin % 5.  ทรัพย์สินส่วนเกิน (Excess Equity : EE) EE = Equity - MR   6.  อำนาจซื้อ (Purchasing Power : PP)   PP = EE/ Initial Margin 7.  มูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ (Maintenance Margin Requirement/Call Margin) มูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ = มูลค่าหลักทรัพย์ในบัญชีทั้งหมด * อัตรา Call Margin 8.  มูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ (Minimum Margin Requirement/Force Margin) มูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ = มูลค่าหลักทรัพย์ในบัญชีทั้งหมด * อัตรา Force Margin โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 23, 2010 5:26 pm

รบกวนถามเรื่อง กู้มาร์จิ้นครับ เอาหุ้นค้ำได้ครับ ถ้าราคาหุ้นเพิ่ม วงเงินก็เพิ่มเอง ถ้าหากตอนที่ขอ ขอไว้มากกว่ามูลค่าหุ้นหรือของที่นำไปค้ำ แต่การขอวงเงินเพิ่ม ทำได้ง่ายๆครับ แล้วจะซื้อขายตัวเดิม หรือตัวใหม่ก็ได้ ซึ่งก็ว่าไปตาม mm ของหุ้นแต่ละตัวที่จะซื้อ เรื่องรายละเอียดของการคำนวณคงต้องถามมาร์แล้ว เพราะมันมีทั้ง mm ee  mr ซึ่งผมจำได้แค่คร่าวๆ เพราะผมไม่เคยเล่นมาร์จิ้นแบบเต็มพิกัด ชนิดต้องมาคำนวณทุกเวลา ไม่อยากใช้ชีวิตแบบไต่เส้นลวด ผมมีมาร์จิ้นแค่เสริมสภาพคล่องเท่านั้น แล้วเวลาใช้ ก็ดูแค่อำนาจซื้อเท่าไหร่ ซึ่งเวลาซื้อจริงก็พยายามไม่ซื้อเกินครึ่งของอำนาจซื้ออยู่แล้ว โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 23, 2010 5:03 pm

รบกวนถามเรื่อง กู้มาร์จิ้นครับ เปิดแล้ว จะใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้ แต่ถ้ามียอดกู้ค้าง จะคิดดอก ซึ่งวิธีคิดก็ซับซ้อน เพราะจะคิดในอัตราเพิ่มขึ้น ถ้าหากยอดซื้อขายต่ำลง เช่น ซื้อหุ้นวันนี้ ขายวันรุ่งขึ้น ก็คิดดอกสองวัน ซื้อๆขายๆ ไปเรื่อยๆ ก็คิดดอกแบบที่ว่า แต่ถ้าซื้อวันนี้ อมหุ้นไว้ แล้วไม่มีการซื้อขายเลย พอถึงสองหรือสามเดือน ดอกเบี้ยที่คิดจะเพิ่มขึ้น วิธีคิดดอกแบบนี้ น่าจะเป็นทุกโบรกนะ เท่าที่ผมเคยถามมาสี่โบรกคิดลักษณะนี้ ดอกตอนนี้ประมาณ 6%-12% ต่อปี โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 23, 2010 4:24 pm

รบกวนถามเรื่อง กู้มาร์จิ้นครับ โดนถอนได้ครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้น ทั้งพอร์ทตัวที่นำมาค้ำประกันมีค่ามากพอมั้ย ถ้าน้อยเกิน โบรกก็จะขอเงินหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่ม ไม่งั้นก็ force sell แต่ปกติก็ไม่ควรซื้อกันจนเต็มวงเงินนะ แต่ก็แล้วแต่คน บางคนเชื่อมั่นมาก อัดเต็มวงเงิน แต่ผมเองก็ยังมองว่า หุ้นยังไงก็ยังมีความเสี่ยง ผมว่ามันอยู่ที่แผนการเล่นและการจัดสรรเงินด้วย ผมเปิดมาร์จิ้นในวงเงินที่ผมรู้ว่า สามารถโทรไปหามาเติมได้ทันทีถ้ามีปัญหา แล้วพอเวลาผ่านไป พอร์ทในบัญชีนั้นโตขึ้น เราก็จะมีหุ้นที่สามารถนำมาคำนวณเป็นเงินค้ำประกันได้มากขึ้น วงเงินมาร์จิ้นเราก็จะสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ และปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้มาร์จิ้น เพราะทำหมือน OD มีไว้เผื่อฉุกเฉิน ถือมาร์จิ้นแล้วหุ้นไม่วิ่ง ดอกเบี้ยกินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 23, 2010 4:11 pm

รบกวนถามเรื่อง กู้มาร์จิ้นครับ การขอวงเงินมาร์จิ้น ไม่ต้องบอกว่าจะไปซื้อหุ้นตัวไหน มันไม่เกี่ยวกัน ขอได้ ได้รับอนุมัติ ก็ได้วงเงินมา ตอนที่ซื้อ ถ้าสั่งซื้อหุ้นที่ให้มาร์จิ้น ก็ซื้อได้ ถ้าสั่งไปแล้วหุ้นที่สั่งไม่ได้มาร์จิ้น ก็ซื้อไม่ได้ ดูรายชื่อก่อนซื้อได้ทุกวันที่โบรกที่ใช้ โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 23, 2010 3:44 pm

รบกวนถามเรื่อง กู้มาร์จิ้นครับ รายชื่อหุ้นที่ได้มาร์จิ้น และสัดส่วน เปลี่ยนเรื่อยๆครับ ไม่รู้ว่ามีการกำหนดเวลาเป็นประจำหรือเปล่า หรือใช้สูตรคำนวณในการเปลี่ยนแปลง อย่างหุ้นสภาพคล่องต่ำ มักจะไม่ให้มาร์จิ้น เพราะถ้าโดน force sell อาจจะโดนสองฟลอร์ได้ง่ายๆ แล้วก็เป็นความเสี่ยงของโบรก เพราะถ้า force sell แล้วเงินที่ขายยังไม่พอ ก็ต้องมาเสียเวลาไล่เบี้ยกับลูกค้าเอง เขาก็เลยไม่ค่อยปล่อยมาร์จิ้นกัน แต่พูดถึงถ้าหากเรื่องพวกนี้ยังไม่รู้ ไม่น่าเล่นมาร์จิ้นหรอก โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 23, 2010 3:09 pm

รบกวนถามเรื่อง กู้มาร์จิ้นครับ เข้าใจว่าโบรกที่ใช้ ไม่ให้มาร์จิ้นกับหุ้น ptl เลยซื้อไม่ได้ หุ้นแต่ละตัวได้มาร์จิ้นไม่เท่ากันครับ ดูรายชื่อหุ้นกับมาร์จิ้นได้ที่โบรกที่ใช้ โดย Boring Stock Lover จันทร์ ส.ค. 23, 2010 3:01 pm

เส้นทางสู่เงินเดือนหลักแสน หลักล้าน ที่คนส่วนใหญ่ไปไม่ถึง อ่านมาจากหนังสือ 100 ทิปส์ ข้อคิดทรงพลัง มีข้อความว่า คนที่รวยได้ทั้งหมดนั้นเป็นเจ้าของกิจการ ไม่ใช่ลูกจ้าง เพราะคนที่เป็นลูกจ้างนั้นไม่มีวันรวยอย่างแน่นอน อย่างเก่งก็เป็นลูกจ้างดีเด่นเท่านั้น เห็นว่าน่าจะจริง แต่การเป็นลูกจ้างในช่วงเริ่มต้นชีวิตก็ยังจำเป็นสำหรับสะสมประสบการณ์และเงินออมอยู่ดี ก่อนจะก้าวมาลงทุนเอง มีลูกจ้างมืออาชีพที่รวยครับ เอาอดีต ก็คุณสนั่น จากศรีไทยซุปเปอร์แวร์ sithai นี่น่าจะเป็นตำนาน หรือ role model ของคนทำงานลูกจ้างมืออาชีพ ขึ้นปกนิตยสารหรือนสพ.ธุรกิจตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว ต่อมาก็ คุณพิพัฒ พะเนียงเวทย์ จากมาม่า เข้าใจว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติอันใดกับทางสหพัฒน์ คุณประเสริฐ ก็โตมาจาก esso แล้วเข้ามาไต่เต้าใน ptt ปัจจุบันถ้าหากนับว่ามีเงินเดือนระดับหลายแสนต่อเดือนถึงหลายล้านเป็นคนรวย อันนี้เยอะมากผู้บริหารระดับกลางบริษัทต่างชาติ รายได้หลายแสนต่อเดือนมีพอสมควร sales สินค้าบางประเภท รายได้ก็หลายแสนต่อเดือน แล้วถ้านับเรื่อง stock options ที่คนทำงานได้จากบริษัท นี่ก็ยิ่งอีกมาก ทั้งคนในบริษัทไทย และคนที่ทำงานกับบริษัทข้ามชาติ ซึ่งหลายคนอาจได้ถึงร้อยล้านด้วยซ้ำไป ถ้าหากทำงานมาซะระยะหนึ่ง และไม่ขายหุ้นที่ได้ในระหว่างทาง แล้วราคาตลาดเป็นใจ apple นี่ราคาในรอบหลายๆปีนี่ขึ้นมาจากต่ำกว่า 5 เหรียญมาถึงวันนี้ ได้หมื่นหุ้นแล้วมาขายวันนี้ ก็ร่วมร้อยล้านแล้ว จริงๆถ้าลองไล่ดูหุ้นโตๆทั้งเซเว่น ปตท สผ หรือตัวอื่นๆ ก็น่าจะพอเห็นว่ามีลูกจ้างมืออาชีพจริงๆ ได้ส่วนเฉพาะหุ้นไปเท่าไหร่ โดย Boring Stock Lover อาทิตย์ ส.ค. 22, 2010 4:09 pm

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อย่าง CPN น่าจะไม่โดนนะ เพราะกม.ถ้ายังเหมือนฉบับร่าง สำนักงานทรัพย์สินไม่ต้องเสียภาษีเพราะยกเว้นไว้ ที่ centralworld ที่ใหญ่สุดก็คงไม่โดนกระทบ ดีไม่ดีอาจจะลดค่าใช้จ่ายด้วยเพราะสนงทััพย์สินไม่ต้องเสียภาษีแล้ว ภาษีโรงเรือนก็คงยกเลิกไป ค่าเช่าอาจได้ลดลง โครงการที่เหลือก็คงเป็นการต่อรองกันไป แต่คงไม่กระทบมากเพราะก่อนกฏหมายนี้ ก็มีภาษีโรงเรือนอยู่แล้ว จริงๆตอนนี้ยังสงสัยทางด้านคนทั่วๆไปมากกว่า เพราะก่อนมีภาษีนี้บ้านอยู่อาศัยไม่ต้องเสีย แต่พอมีภาษีนี้แล้วต้องจ่ายภาษีถึงแม้จะเป็นที่อยู่อาศัยก็ตาม ไม่รู้ว่าพวกคอนโดต่างๆ จะต้องเสียเพิ่มมากน้อยอย่างไร ยังไม่รู้ข้อมูลมาก เพราะไม่ค่อยมีใครพูดถึง มีแต่พูดว่าน้อย ทั้งๆที่กำหนดเพดานถึง 1% ของราคาประเมิณ ซึ่งก็ไม่รู้จะประเมิณอย่างไรและเท่าไหร่ แต่ช่วงแรกของการใช้กม.จะเก็บแค่ 0.1% โดย Boring Stock Lover ศุกร์ ส.ค. 20, 2010 10:47 pm

หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI ปกติเวลาได้ยินคำแนะนำให้ซื้อ เขาก็ว่า ซื้อหุ้นพื้นฐานดีในราคาที่ถูกหรือเหมาะสม หรือ ซื้อหุ้นโกรทในราคาที่สมเหตุสมผล Buy growth at reasonable price ถ้าเอาสองอย่างมาปนกัน หุ้น iec live คงเป็นหุ้นพื้นฐานดีกว่า cpall hmpro เพราะ pb แค่เท่ากว่าๆ แต่สองตัวหลัง อืมม์ หรือไม่งั้นสองตัวหลังก็เป็นหุ้นไม่มีพื้นฐาน ซึ่งก็ออกจะประหลาดไปหน่อย น่าจะเป็นหุ้นมีพื้นฐาน(ที่ดีด้วยซ้ำ)แต่ราคาอาจจะสูง (ไม่ได้ชื้นำราคานะครับ อนาคตถึงจะรู้ว่าราคาตอนนี้ถูกหรือแพง) แต่ก็แล้วแต่แต่ละคน เพราะการเล่นหุ้นมันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เล่นให้ได้ตัง ไม่ใช่การสอบ ที่ต้องตอบคำถามทุกข้อถูกหมด ผมก็อาจจะเข้าใจผิดก็ได้ โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. ส.ค. 19, 2010 11:24 pm

หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI พื้นฐาน สำหรับผม มีความแตกต่างจากวิมานในอากาศ คือราคามันลอย ตุ๊บป่องตุ๊บป่อง ไม่มีอะไรมารอง เวลาร่วงจะร่วงแรง ฐาน คืออะไรที่ต้องจับได้ คลำได้ นั่นคือ Book Value นั่นเอง โดยส่วนตัว หากซื้อหุ้นของบริษัทที่มีหนี้น้อยหรือไม่มีหนี้ได้ ในราคาต่ำกว่า book value ผมจะถือว่า มีฐานมารองรับ 1 ชั้น ยิ่งถ้าซื้อได้ต่ำกว่า 2/3 ของ Net current asset - total debt หรือหุ้น netnet ผมจะถือว่า ราคาขาย ตั้งอยู่บนฐานขนาดมหึมา หากมองแบบนี้ จะไม่มีหุ้นดีหรือหุ้นแย่ มีแต่หุ้นถูกกับหุ้นแพง อย่างเช่น cpall ที่ราคาพุ่งไป จน p/bv เกิน 9 ระยะยาวจะกำไรไม่กำไรผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ มันลอยขึ้นไปเหนือฐานมากแล้ว (ถ้ามองแต่ bookนะ) ผมว่านั่นคือ หุ้นราคาถูกนะ ไม่เกี่ยวกับพื้นฐานดีหรือไม่ดี ถ้าหากเอาราคามากำหนดความเป็นหุ้นพื้นฐาน ก็แทบจะว่าได้ว่า หุ้นทุกตัวไม่ใช่หุ้นพื้นฐาน เพราะทุกครั้งที่มีเหตุร้ายพานิค ราคาหุ้นทุกตัวก็ลงไปกองอยู่ข้างล่าง scc 9x, hmpro 1.50, cpf 3, bbl 7x, ราคาพวกนี้เพิ่งเกิดในช่วงน้อยกว่าสองปีที่ผ่านมานี้เอง หุ้นพื้นฐานกับราคาไม่ควรจะเกี่ยวกัน หุ้นที่พื้นฐานดี ก็คงเหมือนหลายคนว่าไว้ ดำเนินธุรกิจจริง ขายของจริง หรือบริการจริง มีกำไร ไม่มีชื่อเสียงทางร้ายมากนัก มีกำไรก็ปันผล ในแต่ละช่วงเวลาที่แย่ๆก็อาจจะขาดทุนได้ แต่ก็รู้จักปรับตัวปรับสภาพ และในช่วงเวลาดีๆ ก็กลับมาแข็งแรงกว่าเดิม ซึ่งแต่ละอย่างก็ทำให้ดีกรีความเป็นหุ้นพื้นฐานที่ดี ดีมากว่า หรือ ดีที่สุด เมื่อเทียบๆกัน ขณะที่หุ้นพื้นฐานไม่ดี ก็อาจจะเป็นพวก ทำธุรกิจยังไงก็ขาดทุน หรือธุรกิจที่ลุ่มๆดอนๆมากชนิดกำไรปีเดียวขาดทุนอีกสามปี เหมือนพวกขายตรง ที่ขายของเป็นหลัก ขายสมาชิกเป็นรอง พวกหุ้นพื้นฐานไม่ดี มักจะทำธุรกิจเป็นรอง ขายหุ้นโปรโมตหุ้นเป็นหลัก แต่ราคาที่เราจะเข้าซื้อหรือไม่ ก็คงเป็นอีกเรื่องนึง ในตลาดในหลายๆช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็มีหุ้นบ้าๆบอๆที่ราคาต่ำกว่าบุ๊คตั้งเยอะแยะ หลายครั้งหลายคราว แต่พื้นฐานในการดำเนินธุรกิจนั้นๆมันดูไม่ดีซะเลย โดย Boring Stock Lover พฤหัสฯ. ส.ค. 19, 2010 2:38 pm

!!!บริษัทเหล่านี้ ยังไม่ส่งงบการเงิน!!! [quote="arica"]KGI งบ Q2 ก็ยังไม่ออกครับ แต่ ยัง trade ปกติ โดย Boring Stock Lover พุธ ส.ค. 18, 2010 5:02 pm

ถ้าประเทศไทยเป็นบริษัท คุณคิดว่างบการเงินจะเป็นอย่าไรi? ถ้าบอร์ดนี้ยังไม่อยากให้คุยเรื่องการเมือง สงสัยคงตอบยาก เพราะคุยไปคุยมา ก็คงมีแบบ เปลี่ยนผู้บริหารใหม่ หรือ เปลี่ยนกรรมการตรวจสอบใหม่ อะไรทำนองนี้ ซึ่งก็จะวกเข้าการเมืองทันที ศก และ นโยบายรัฐ หรือ การเมือง มันแยกกันออกยากมาก โดย Boring Stock Lover อาทิตย์ ส.ค. 15, 2010 6:18 pm

Re: เรื่องภาษีจากเงินปันผล ขอทบทวนเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น (2) กรณีผู้ได้รับเงินปันผล ไม่ได้รับเครดิตภาษี เนื่องจากจ่ายจาก (2.1) กำไรสุทธิของกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (BOI) * กรณีนี้หมายความว่ากรอกจำนวนเงินปันผล แต่ไม่รวมเป็นยอดเงินได้ ใช่หรือไม่ ? (2.2) เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล * กรณีนี้ก็ให้กรอกจำนวนเงินปันผล แต่ไม่รวมเป็นยอดเงินได้เช่นเดียวกัน ใช่หรือไม่ ? (2.3) กำไรสุทธิส่วนที่ได้หักผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปีก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปีปัจจุบัน * กรณีนี้หมายความว่า ทั้งต้องกรอกจำนวนเงินปันผล และให้รวมเงินปันผลเป็นเงินได้ด้วย ใช่หรือไม่ ? (2.4) กำไรที่รับรู้ทางบัญชีโดยวิธีส่วนได้เสีย (equity method) * กรณีนี้ก็ต้องกรอกจำนวนเงินปันผลและรวมเป็นเงินได้ด้วยเช่นเดียวกัน ใช่หรือไม่ ? จึงขอให้ผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างหน่อยครับ 2.1 จะรวมยื่นเป็นรายได้หรือไม่ก็ได้ แต่ไม่ต้องนำมาคำนวณ เข้าใจว่าใน tax online มีช่องระบุ แต่ไม่แน่ใจเพราะปกติยื่นทางปกติ (กรณีแบบนี้รวมธุรกิจบางประเภทด้วย เช่น ธุรกิจพาณิชย์นาวี) 2.2 จำไม่ได้ 2.3 ต้องรวม แล้วทำให้เครดิตภาษีลดลง 2.4 จำไม่ได้ ปกติถ้าปันผลมาโดนหัก ณ ที่จ่าย ก็ต้องรวม ถ้าไม่โดนหักเลย ก็ไม่ต้องรวม แต่จำไม่ได้จริงๆว่าเป็นอย่างนี้ทุกกรณีหรือไม่ ส่วนเรื่อง pttep ต้องนำปันผลมารวม แล้วทำให้เครดิตภาษีลดลงครับ โดย Boring Stock Lover อาทิตย์ ส.ค. 15, 2010 6:14 pm

ขอความช่วยเหลือครับ ไม่เข้าใจการใช้โปรเนตซื้อขายหุ้นครับ ใส่ราคาที่อยากตั้ง bid ในช่องราคา  แล้วช่องถัดมา เว้นว่างไว้ หรือ -- (ช่องที่เป็น MP, ATO, ATC, ฯลฯ) แวะไปที่สาขา หรือ สนญ ก็มีจนท.ช่วยแนะนำได้ โดย Boring Stock Lover เสาร์ ก.ค. 17, 2010 7:22 pm

ถ้าจะต้องเลือก ..... อาจบอกได้แบบมองง่ายๆ คือ เราจะได้ MoS ตอนซื้อ ตาม%ฐานภาษีเลย แต่ ด้านเสีย คือ ต้องถือ3-5ปี ปัจจัยเปลี่ยน ขายหนีไม่ได้ ltf rmf นี่สับเปลี่ยนกองได้ครับ ถ้าคิดว่าตลาดรวมขึ้น ก็ถือ ltf หุ้น ถ้าคิดว่าน่าจะลง ก็สลับมากองที่ hedge แต่คงไม่ใช่เป็นวิธีที่คนในเวบนี้ชอบ เพราะมันเหมือนเทรดเดอร์มากกว่า โดย Boring Stock Lover จันทร์ มิ.ย. 14, 2010 12:13 pm

การตกแต่งงบกระแสเงินสด คนที่สนใจเข้ามาอ่านหัวข้อนี้ แวะไปอ่านที่นี่ด้วยก็จะดี http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=41722 "ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน" โดย Boring Stock Lover อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:48 pm

คนที่เคยถือ ปิคนิค แล้วเป็นไง วานผู้รู้ช่วยตอบที ก็ทำอะไรไม่ได้ เว้นแต่ หาคนมาซื้อหุ้นที่เราถือเอาเอง นอกตลาด แต่คงยากถึงยากมาก อีกอย่างก็ภาวนาให้ปลดป้าย sp จะได้ขายๆออกไป ไม่งั้นในทางดี ก็หวังว่า ระหว่างที่โดนแขวนอยู่ บริษัทสามารถปรับปรุงธุรกิจให้ดีๆๆขึ้น แล้ววันที่หลุด sp ก็จะได้ขายได้ราคาดีๆ โดย Boring Stock Lover อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 2:15 pm

การตกแต่งงบกระแสเงินสด ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ตราบใดที่พวกเราดูบัญชีย้อนหลัง และดูวิธีการบันทึกบัญชีว่ามีการเปลี่ยนแปลงวิธีการหรือไม่ ตัวเลขที่อาจจะลงผิดไปจากทฤษฏี แต่บริษัทนั้นทำเช่นนั้นตลอดเวลา เป็นเวลาต่อเนื่องนานๆ ไม่มีผลในการวิเคราะห์กิจการเมื่อเทียบกับตัวกิจการเองในอดีต โดย Boring Stock Lover อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 2:11 pm

สงสัยครับ เวบนี้มีรายได้โฆษณา ก็ถือว่าเป็นการค้าแล้ว ตามกม. ข่าวไม่มีลิขสิทธิ์ แต่บทความมี แต่ในรายละเอียด อะไรถือว่าเป็นข่าว ผมไม่รู้ ทำไมไม่ทำแบบรายงาน Quote มาเฉพาะส่วน แล้วลิ้งค์กลับไปต้นตอ ให้คนกลับไปอ่านทั้งหมดได้ โดย Boring Stock Lover พุธ มิ.ย. 09, 2010 3:51 pm

1 ล้านบาทแรกในชีวิต [quote="กุหลาบงามหลังฝน"]เงินมันแปลกนะครับ ถ้าเรามีเงินอยู่ 10 ล้าน แล้วกำไรหุ้นได้ 10 ล้าน กลายเป็น 20 ล้าน ความสุขเราไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวนะครับ แต่ถ้า เรามีเงินอยู่ 10 ล้าน แล้วขาดทุนไป 5 ล้าน ความทุกข์เรามีมากขึ้นเป็นกอง โดย Boring Stock Lover พุธ มิ.ย. 09, 2010 12:00 am

Re: ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ [quote="matee"] โดย Boring Stock Lover จันทร์ พ.ค. 31, 2010 9:53 am

จูงใจโดยลดภาษี ให้ต่างชาติ ช่วยแปลให้หน่อย ครับ ลองหาข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับ การตั้ง Regional Head Quarter หรือ Head Quarter ดูครับ จำไม่ได้แน่ๆว่า ออกสิทธิ์พิเศษนี้ตั้งแต่ปลายทักษิณหรือเปล่า เพื่อสนับสนุนให้บริษัทต่างชาติมาตั้ง RHQ ในไทยแทนสิงคโปร์หรือฮ่องกง โดย Boring Stock Lover อังคาร พ.ค. 25, 2010 12:15 pm