Re: ข้อเสียของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ความแตกต่างระหว่างนักลงทุนกับนักเก็งกำไร จุดประสงค์ของการซื้อหุ้น นักลงทุน -> ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ นักเก็งกำไร -> ส่วนต่างราคาซื้อ ราคาขาย สิ่งที่ต้องการเห็นในอนาคต นักลงทุน -> การเติบโตของธุรกิจ เงินปันผล นักเก็งกำไร -> ราคาหุ้นที่สูงขึ้น ระยะเวลาในการถือครอง นักลงทุน -> ถือไปเรื่อยๆจนกว่าธุรกิจจะเปลี่ยนแนวโน้มจากที่คาดการณ์ นักเก็งกำไร -> จนกว่ามีสัญญาณว่าราคาไม่สามารถไปต่อได้แล้ว สรุป -> ไม่ควรเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างการลงทุนกับการเก็งกำไรเพราะจุดประสงค์มันต่างกันตั้งแต่ต้นแล้ว นักลงทุนต้องการความเป็นเจ้าของ (ซื้อเพื่อถือ) ส่วนนักเก็งกำไรต้องการส่วนต่างราคาหุ้น (ซื้อเพื่อขาย) -> ก่อนลงเงินแต่ละครั้งถามตัวเองก่อนว่ามีจุดประสงค์เพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไรให้ชัดเจนก็จะสามารถวางแผนรับมือสิ่งที่ตามมาได้ดีขึ้น สำคัญที่สุดต้องมีวินัยทำตามแผนที่วางไว้ให้ได้ด้วย ไม่เช่นนั้นจะเสียเปล่าทั้งเงินและเวลา สำคัญสุดสภาพจิตใจจนไม่สามารถกำหนดเป้าหมายใดๆได้อีก -> พิจารณาตัวเองว่ามีทักษะในการมองทิศทางธุรกิจหรือมองทิศทางราคาหุ้นได้ดีกว่า หากศึกษา ทดลองจนแน่ใจ มั่นใจแล้วว่าถนัดทางไหน ก็ให้ไปทางนั้นจนทะลุก่อนจะดีที่สุด จากนั้นค่อยศึกษาอีกแนวเพิ่มเติม ไม่ควรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามกระแสต่างๆที่เข้ามาจะทำให้สับสน -> หลายคนมีทักษะสูงพอที่จะเป็นได้ดีทั้งสองอย่าง คนกลุ่มนี้จะสามารถทำกำไรได้มหาศาลเนื่องจากสามารถกำหนดกลยุทธการลงทุนตามภาวะตลาดทั้งขาขึ้น ขาลง และ sideway ได้เป็นอย่างดี สามารถสลับ mode, จัดสรรเงิน, เครื่องมือการลงทุนไปมาระหว่างการลงทุนแบบนักลงทุนและนักเก็งกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดย supawat_c อาทิตย์ ต.ค. 09, 2011 3:08 pm

Re: VI จะมีการ cut loss ไหมครับ VI ซื้อเพราะต้องการความเป็นเจ้าของธุรกิจ หากธุรกิจนั้นมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดีหรือดีไม่เท่ากับที่มูลค่าในอนาคตที่ประเมินไว้ก็จะขายออกทันที จุดประสงค์เพื่อเอาเงินไปลงทุนในความเป็นเจ้าของธุรกิจอื่นที่ดีกว่าโดยต้องคำนึงถึงเรื่อง MOS เป็นหลักก่อนตัดสินใจ ส่วนขายแล้วจะกำไรหรือขาดทุนกี่ % แล้วต้องเอาคืนให้ได้อีกกี่ % จึงเท่าทุนนั้นไม่เป็นสาระหรอกครับ นี่คือสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างนักลงทุนกับนักเก็งกำไร VI หาหุ้นซื้อเพื่อถือ แต่นักเก็งกำไรหาหุ้นซื้อเพื่อขาย โดย supawat_c เสาร์ ต.ค. 08, 2011 7:32 pm

Re: จะทำตามที่ ดร.นิเวศน์ แนะนำดี หรือ ทำตาม ที่ดร.นิเวศน์ทำ ผมไม่ได้ติดตามอ่านบทความของ ดร.ตลอด แต่คิดว่าสิ่งที่แกต้องการจะบอกคือ 1. ผลตอบแทนของตลาดในปีนี้ อาจะไม่สูงเท่ากับปีก่อนๆ เพราะขึ้นมาแรงประมาณ 2 ปีแล้ว 2. ควรเน้นลงทุนในหุ้นที่ปลอดภัย เช่นพวกสาธารณูปโภคมากกว่า หุ้นที่ขึ้นลงหวือหวา สำหรับผมในฐานะ VI ไม่ค่อยสนใจเรื่องผลตอบแทนของตลาดรวมว่าจะเป็นอย่างไร แต่จะสนใจแค่ว่าหุ้นที่เราถืออยู่ยังมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นตัวอื่นในตลาดและการลงทุนอย่างอื่นก็พอใจแล้วครับ สรุป "VI ไม่ควรสนใจภาวะตลาด แต่สนใจค้นหาหุ้นที่ดีที่สุดในตลาดในช่วงเวลาต่างๆ (สั้น กลาง ยาว แล้วแต่แผนการลงทุนของแต่ละคน) จะดีกว่าครับ" โดย supawat_c อาทิตย์ มี.ค. 27, 2011 5:47 pm

Re: ตอนนี้มีเงินสดอยู่ แต่หาหุ้นซื้อไม่ได้เลยครับ ส่วนตัวผมคิดว่ามีหุ้นที่มี MOS สูงเหลืออยู่ในตลาดหลายตัวนะครับ แต่อาจจะต้องดูว่าเราได้ทำ 2 ข้อต่อไปนี้ดีพอหรือยัง 1. คัดเลือกหุ้นที่จะมาอยู่ใน list ที่เราสนใจถูกวิธีหรือเปล่า 2. วิเคราะห์ธุรกิจที่อยู่ใน list เราแล้วดีพอแค่ไหน ถ้าเราเชื่อใน economic cycle เป็นตัวที่ขับเคลื่อน business cycle แล้วล่ะก็ต้องมีหุ้นที่มี MOS สูงเหลืออยู่ตลอดเวลาครับ โดย supawat_c เสาร์ มี.ค. 26, 2011 11:15 pm