หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
yoyo
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
Joined: อาทิตย์ ก.พ. 16, 2003 12:17 pm
4833
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - yoyo
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ลงทุน 100 ปี กับ หุ้นต่างประเทศ
มาแอบอ่าน ได้ความว่า คุยอะไรกัน ไม่รู้เรื่องเลย
โดย
yoyo
พุธ พ.ค. 31, 2017 6:55 pm
0
12
Re: ลงทุน 100 ปี กับ หุ้นต่างประเทศ
สุดยอดมากครับพี่ตี่ ขอแชร์นะครับ
โดย
yoyo
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2016 6:04 am
0
5
Re: A Golden Decade of Thai Value Investors
ผมเคยประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทไทยแล้วเจอผู้จัดการกองทุนสิงคโปร์ที่ถือหุ้นตัวเดียวกันมาประชุม เค้ายังชมว่าการประชุมของไทยนี่ดีจริงๆ นักลงทุนถามผู้บริหารตอบกันเป็นเรื่องเป็นราว (แม้ว่าเค้าจะฟังภาษาไทยไม่ออก แต่เค้าว่าสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นของการถามตอบ) ที่สิงคโปร์แทบจะไม่มีอะไรแบบนี้ ประชุมเสร็จก็จบแยกย้ายกันกลับ VI ไทยโชคดีที่มี ท่าน ดร. นิเวศน์เป็นเสาหลัก ผมมีชีวิตที่ดีมากๆทุกวันนี้ต้องขอขอบคุณดร. จริงๆครับ :bow:
โดย
yoyo
พุธ ก.พ. 04, 2015 3:15 pm
0
20
Re: พอร์ตอภิมหาเศรษฐี/ คนขายของ
เปิดโลกมากเลยครับ... ไม่เคยรู้มาก่อน
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. ม.ค. 08, 2015 3:17 pm
0
3
Re: ขอถามพี่ๆ VI ครับ
คุณภาพดีราคาไม่แพง เจอตอนไหนก็ซัดครับ ไม่ต้องคิดเลย
โดย
yoyo
พุธ ธ.ค. 03, 2014 8:29 pm
0
11
Re: หุ้นพื้นฐานดี แต่ราคาไม่สะท้อนนานๆ
มีครับ ผมว่ามันถูกนะ ถูกมานานแล้ว แล้วก็ยังถูกอยู่ แต่คนอื่นเค้าอาจจะมองไม่ถูกเหมือนผมก็ได้
โดย
yoyo
จันทร์ พ.ย. 10, 2014 12:55 pm
0
10
Re: ขอเด็ดๆ 1 ตัว
งั้นพี่โดมเบิ้ลมาให้ลอกเลยครับ 555
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2014 3:18 pm
0
2
Re: ขอเด็ดๆ 1 ตัว
หว้า....ไม่มีใครมาต่อยอดอีกเลยครับ โย... ขอโยเด็ดๆอีกตัวสิ.. :D หุ้นที่พี่ๆเพื่อนๆให้มา เอาไปทำการบ้านดู ขยายขอบเขตความรู้ดีครับ ขอบคุณครับ เบิ้ลได้หรือครับพี่โดม :roll: ตัวที่สองของพอร์ต อาจจะไม่ใช่มวยรองเสมอไปนะครับ แบบว่ารักพี่เสียดายน้องอะครับ ส่งมาเถอะครับ เอาไปศึกษากัน ไม่ได้บอกให้ไปซื้อซะหน่อย....อิอิ ตัวที่ 2 ไม่ post หรอกครับ ซ้ำกับคนแถวนี้
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2014 3:10 pm
0
5
Re: ขอเด็ดๆ 1 ตัว
ผมขอเริ่มคนแรกเลยครับ หุ้นอะไร - spali ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ (เป้าหมายไม่ต้องนะคิดเองได้) - 24.9 ทำธุรกิจอะไรขอสั้นๆ - ทำบ้านคอนโดขาย ช่วงที่ผ่านมาคอนโดสัดส่วนเยอะกว่าน่าจะประมาณ 60 40 อนาคตเริ่มเน้นแนวราบต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ย้อนหลัง 3 ปีรายได้และกำไรเป็นยังไง - รายได้เปลี่ยนแปลงไม่มาก มีขึ้นมีลงบ้างตามยอดโอนคอนโด กำไรเพิ่มขึ้นทุกปี ในอัตราไม่สูงมาก มีอะไรเป็นปัจจัยอะไรเร่งให้ธุรกิจเติบโตดีบ้างมั๊ย - backlog เยอะมาก อนาคตน่าจะรับรู้ได้เยอะ บวกกับเปิดโครงการใหม่เยอะมากๆ เน้นแนวราบต่างจังหวัดซึ่งคู่แข่งไม่แข็งแรงเท่าไหร่ น่าจะมียอดขายโตได้พอสมควร ปีนี้ปีหน้ารายได้กำไรคาดว่าเป็นเท่าไหร่ เอาแบบไม่เว่อร์นะ คิดให้ conservative ไว้ก่อน - ปีนี้รายได้ 20000-21000 eps 2.7-2.8 - ปีหน้ารายได้ 24000-25000 eps 3.3-3.4 อีก 3-5 ปีข้างหน้าเห็นภาพบริษัทเป็นยังไง - ก็น่าจะโตไปตามสภาพเศรษฐกิจ เป็นบริษัทอสังหาชั้นแนวหน้าที่สามารถแย่งแชร์จากคู่แข่งรายเล็กๆได้เรื่อยๆ เพราะงั้นน่าจะโตดีกว่าอุตสาหกรรมนะ คู่แข่งเยอะมั๊ย บริษัทมีจุดแข็งยังไงเทียบกับคู่แข่ง - คู่แข่งเยอะมาก เป็นร้อยบริษัท แต่จุดเด่นมากๆของ spali คือต้นทุนน่าจะต่ำที่สุดในกลุ่มละ แม้ design จะไม่สวยโดนใจ แต่ราคาขายที่ถูกกว่าคู่แข่งเค้าพอสมควร เลยโตมาได้สม่ำเสมอยาวนาน อำนาจการต่อรองกับลูกค้าและ supplier เป็นยังไง - อำนาจต่อรองกับลูกค้าไม่มีเท่าไหร่ ลูกค้ามีซื้อเลือกซื้อของใครที่ไหนก็ได้ - อำนาจต่อรองกับ supplier อยู่ระดับกลางๆ แต่มีแนวโน้มจะดีขึ้นนิดหน่อย เพราะคู่แข่งรายใหญ่ๆหันไปใช้บ้านแบบ precast กันหมด ทำให้ผู้รับเหมาหาง่ายขึ้น ความเสี่ยงอะไรที่ควรต้องติดตามบ้าง - สภาพเศรษฐกิจ การจับจ่ายใช้สอย หนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ย... เรียกว่า macro ภาพกว้างๆละที่ต้องติดตาม ถ้าแย่มากๆ มันก็คงแย่ไปด้วย แต่ถ้าทรงๆไม่ทรุด บริษัทน่าจะโตได้ดีกว่าตลาด กระแสเงินสดดีป่าว ในอนาคตต้องลงทุนเยอะมั๊ย - กระแสเงินสดกลางๆ ต้องใช้เงินมาซื้อที่ สร้างคอนโด ฯลฯ เพื่อสร้างการเติบโต แต่ถ้าอิ่มตัวแล้วไม่ขยายแล้วกระแสเงินสดจะดีมาก เพราะแทบไม่ต้องลงทุน fix cost เท่าไหร่ ใช้เฉพาะ working cap ถ้าไม่โตก็ไม่ต้องลงทุน แต่ roe สูงนะ ย้อนหลังไป 10 ปีนี่ติด top 50 ของ ตลาดอ่ะ ปันผลประมาณกี่ % ของกำไร - 40-45% กลุ่มผู้บริหารถือหุ้นอยู่ประมาณกี่ % - ที่เห็นชัวร์ๆก็ 28% นะ แต่ไม่รู้ว่ามีนอมินีอะไรอีกบ้างรึเปล่า
โดย
yoyo
จันทร์ ก.ย. 08, 2014 9:26 am
0
102
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
อ่านแล้วก็ตะหงิดๆอยู่ 2 เรื่อง 1. หุ้นไทยถูกคุมด้วยต่างชาติ... คุณบรรยงบอกว่าต่างชาติถือหุ้นไทย 60% กว่า... ตรงนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงครับ ผมว่าต่างชาติถือเต็มที่ก็ไม่น่าจะเกิน 40% .. ดีไม่ดีอาจจะต่ำกว่า 30% ด้วยซ้ำ 2. Buffett จ้างคนมาวิเคราะห์ 500 คน ตรงนี้ผมว่าผิดแน่ๆครับ ผมว่าแนวที่คิดแกบอกว่าคนธรรมดาไม่ควรมาเล่นหุ้นเอง ผมก็เห็นด้วยในระดับหนึ่ง แต่เนื้อหาที่ใช้ในการอธิบายเหตุผลหลายๆจุด ผมว่ามันออกแนวแต่งเสริมเติมเองซะเยอะ
โดย
yoyo
ศุกร์ ส.ค. 29, 2014 10:18 pm
0
23
Re: มีวิธีอะไรให้เพลาๆ กับเรื่องการลงทุนหุ้นได้บ้างครับ
แต่ผมว่าถ้าทำแล้ว ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วเราเองก็มีความสุข ก็ไม่ต้องเหยียบเบรกก็ได้นะครับ นอกจากว่ามันไปเบียดบังชีวิตส่วนอื่นมาก จนเดือดร้อนคนรอบข้างก็คงต้องพยายามละครับ
โดย
yoyo
จันทร์ ส.ค. 18, 2014 9:55 pm
0
21
Re: มีวิธีอะไรให้เพลาๆ กับเรื่องการลงทุนหุ้นได้บ้างครับ
ผมว่าผมก็ฟิตแบบนั้นประมาณ 7-8 ปีครับ พอปีที่ 9 ก็แผ่ว ปีที่ 10 ก็ขี้เกียจขึ้นอีก เข้าปีที่ 11 นี่หุันที่ถืออยู่ยังไม่อยากเปิดงบดูเลยครับ
โดย
yoyo
จันทร์ ส.ค. 18, 2014 9:51 pm
0
40
Re: งานสังสรรค์ VI Q2/57 "แก่นวีไอ ลงทุนได้ทั่วโลก"
yoyo / สมาชิกสมาคม / diamond dust / สมาชิกสมาคม / 2 ที่นั่ง / 2,340.08 บาท / kbank / 22-07-2557 / 10:02 แก้ kbank เป็น scb ครับ นึกว่าถามว่าโอนเข้าธนาคารไหน yoyo / สมาชิกสมาคม / diamond dust / สมาชิกสมาคม / 2 ที่นั่ง / 2,340.08 บาท / scb / 22-07-2557 / 10:02
โดย
yoyo
อังคาร ก.ค. 22, 2014 10:05 am
0
0
Re: งานสังสรรค์ VI Q2/57 "แก่นวีไอ ลงทุนได้ทั่วโลก"
yoyo / สมาชิกสมาคม / diamond dust / สมาชิกสมาคม / 2 ที่นั่ง / 2,340.08 บาท / kbank / 22-07-2557 / 10:02
โดย
yoyo
อังคาร ก.ค. 22, 2014 10:03 am
0
0
Re: ผู้บริหารของบริษัทที่ชื่นชอบ
ลืมคุณคาลิดแห่ง psl ไปคนนึงครับ 4 คนนี้ท่านครบเครื่องทุกคนเลยครับ ขยัน เก่ง ซื่อสัตย์
โดย
yoyo
ศุกร์ มิ.ย. 27, 2014 5:10 pm
0
4
Re: ผู้บริหารของบริษัทที่ชื่นชอบ
ไตรเตชะ spali สมชาย pm สมชัย snc 3 คนนี้ชอบสุดๆครับ
โดย
yoyo
ศุกร์ มิ.ย. 27, 2014 5:09 pm
0
4
Re: พี่ๆVIมีความคิดเห็นอย่างไรกับการให้โบรกเกอร์ยืมหุ้น SBL
ผมเคยให้ยืมไป ตอนนี้ยกเลิกแล้วครับ... มีอยู่ครั้งนึงมีคนยืมไปอยู่ พอผมจะขายดันขายไม่ได้ทันที ต้องรอโบรกไปหาหุ้นมาให้ขายจากโบรกอื่นอยู่ประมาณ 1-2 ชม. ได้ เสียจังหวะ เสียอารมณ์ เลยยกเลิกเลยครับ ได้ตังมาไม่กี่บาท เพราะเค้ายืมไปไม่กี่วันแต่วันดันมาตรงกับวันที่ผมจะขายพอดี ถ้าไม่ติดปัญหานี้ ผมว่าผมคงให้ยืมไปเรื่อยๆนะ
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2014 9:45 am
0
14
Re: การ" Valuation หุ้น "มีความยุ่งยาก สำหรับเพื่อนๆมากแค่ไห
ถ้าเลือกกิจการที่ง่ายๆ เราเข้าใจก็ง่ายมาก แต่ถ้าเปรี้ยวออกจาก circle of competence เมื่อไหร่ ก็ยากบรรลัยเลยทีเดียว
โดย
yoyo
พุธ ม.ค. 29, 2014 6:33 pm
0
48
Re: ตลาดเปลี่ยนไปมากทีเดียว ....ไม่เหมือน 10 ปีก่อน
ชอบสไตล์การเขียนของลุงขวดจริงๆครับ อ่านทีไรก็ได้อารม์เหมือนคุณลุงใจดีกำลังสอนหลาน เห็นลุงขวดคุยกันถึง p-fcb ผมยังจำได้ดีถึงความรู้สึกของการประชุมผถห. ครั้งแรกในชีวิต ไปคนเดียวแบบใจตุ่มๆต่อมๆ ทั้งห้องประชุมนอกจากพน้กงานบริษัทที่เกณฑ์มานั่งกันให้ครบองค์ประชุม มีนักลงทุนมาแค่ 2 คน คือผมกับคุณลุงหน้าตาใจดีคนหนึ่ง
โดย
yoyo
พุธ ส.ค. 28, 2013 10:34 pm
0
14
Re: ขอเชิญร่วมแสดงมุทิตาจิต แด่ ดร.นิเวศน์ 60 ปี ผ่านช่องทาง
ขอบคุณท่าน อ. มากๆครับ ชีวิตผมและครอบครัว เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมากหลังจากได้อ่านหนังสือ อ. ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายทั้งปวง ช่วยดลบันดาลให้ท่าน ดร. และครอบครัวมีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นเสาหลักให้กับนักลงทุนไปนานๆครับ
โดย
yoyo
อังคาร ส.ค. 13, 2013 11:43 pm
0
4
Re: นักลงทุนสายตาสั้น (ผมไม่ได้สั้นนะครับ)
ผมเข้าใจตรงกับท่านดร.ครับ หลังหมด 8 ปีกำไรลดลง อย่าง case ของ glow นั้นผ่านไป 4 ปีกำไรก็ลดก้อนหนึ่ง ผ่านไปอีก 4 ปีก็จะลดลงอีก step เอากำไรปีแรกๆคิด pe จะ mislead ได้ ไฟฟ้าหลายๆตัวก็คล้ายๆกัน
โดย
yoyo
อังคาร ก.ค. 16, 2013 1:26 pm
0
18
Re: เปิดบทเรียน 'ช้ำหนักเพราะรักวีไอ''จุ๊บ-ชลิตา' VS 'ตาร์-จ
อ่านข่าวแล้วก็ฟังหูไว้หูครับ เค้าชอบหยิบคำมาป้อนให้เรา ทั้งที่เราไม่ได้พูด หลังผมรู้สึกว่านักข่าวหลายคน ไม่ได้ให้ความนับถือกับแหล่งข่าวเลย ขอให้เขียนให้มันดูมีสีสันเป็นพอ เซียนมี่ก็โดนมาหลายดอก เซียนมาริโอ้ก็เพิ่งโดนไปสดๆร้อนๆ
โดย
yoyo
พุธ มิ.ย. 05, 2013 10:10 am
0
19
Re: สรุป สัมมนาหุ้นรวยได้ # พี่โจ ลูกอิสาน 24/3/56
ขอบคุณมากครับ พี่โจยังคงเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. มี.ค. 28, 2013 5:57 pm
0
6
Re: ฟรี! ระบบข้อมูลงบการเงินย้อนหลัง อัตราส่วนงบการเงิน และข
[email protected]
โดย
yoyo
เสาร์ มี.ค. 23, 2013 10:24 pm
0
0
Re: Tv digital กับ โฆษณา
ก็คงอย่างที่ฝรั่งเศสเค้าเป็นครับว่าช่องที่จะอยู่ได้จริงจะต้องมีสายป่านยาวพอที่จะรับผลขาดทุนในช่วงปีแรกๆได้ กลุ่มเนชั่นเลยจำเป็นต้องเพิ่มทุนรอไว้ก่อน ยังไงดู forecast ของเค้าแล้ว recheck ตัวเลขกันดีๆนะครับ ผมดูแล้วมันมีอะไรประหลาดๆอยู่พอสมควรเลย
โดย
yoyo
อังคาร มี.ค. 12, 2013 11:20 pm
0
5
Re: ปันผลเป็นหุ้น คือการขอเงินปันผลจากผู้ถือหุ้นมาเพิ่มทุนใช
ตามหลักfinance ปันผลเป็นหุ้นก็เท่ากับปันผลเงินสดครับ มีผลเท่ากัน ความจริงปันผลอะไรออกมาก็ไม่มีผลอะไรกับ valueที่shareholderต่อบริษัทได้รับครับ ต่างกันสิครับ ปันผลเป็นหุ้นบริษัทไม่ได้จ่ายเงินสดออกมาจริงๆ ปันผลเป็นเงินสดบริษัทต้องเอาเงินสดออกมาจ่าย ไม่แน่ในว่าจะบอกว่า ปันผลเป็นหุ้นกับไม่ปันผลเลยมีผลเท่ากันรึเปล่าครับ .... ถ้าหมายถึงอย่างนี้ ก็ยังต่างกันอยู่ดี เพราะ ปันผลเป็นหุ้นบริษัทต้องจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% ไม่ปันผลเลย บริษัทไม่เสียอะไรเลย เพราะฉะนั้นถ้ามองกันที่ตัวเลขทาง finance อย่างเดียว การปันผลเป็นหุ้น เทียบกับไม่ปันผลเลย การปันผลเป็นหุ้นถือว่าเป็นการลดคุณค่าที่เข้าสู้ shareholder ครับ
โดย
yoyo
จันทร์ ก.พ. 25, 2013 2:33 pm
0
3
Re: ทำไมเจ้าของถึงยอมขายกิจการให้ วอร์เรน บัฟเฟต ครับ
ผมเดาว่ามีหลายเหตุผลครับ - เตรียมแผนการส่งมอบมรดกให้ลูกหลาน เพราะการเป็นบริษัทจะแบ่งกันนั้นยาก บางคนไม่อยากได้เป็นบริษัทอยากได้เป็นเงิน แบ่งผิดแบ่งถูกลูกหลานตีกันตายครับ ขายให้ buffett ดีกว่าได้เงินมาแบ่งกันง่าย อำนาจการบริหารก็ไม่เปลี่ยนแปลง - ได้กระจายความเสี่ยง ไม่ต้องลงอยู่เพียงธุรกิจเดียว - บางบริษัทต้องการเงินทุนในการขยายกิจการ แต่ไม่อยากเข้าตลาดหุ้น มาอยู่กับ buffett มีเงินทุนให้ขยายเต็มที่ ไม่ต้องมานั่งตอบคำถามนั่งลงทุน ไม่ต้องมาพะวงกับราคาหุ้นรายวัน ไม่ต้องถูกคาดหวังให้สร้างผลกำไรให้โตอย่างเดียวโดยไม่มองผลระยะยาว ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียอำนาจการบริหาร - ส่วนบางบริษัทที่เคยอ่านๆดูก็เหมือนว่าเค้ารู้สึกภูมิใจ ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ buffett ฯลฯ ผมว่าบริษัทเหล่านี้ทั้งหมดไม่ได้ต้องการ maximize return ซะทีเดียว แต่เป็นเรื่องการบริหารความเสี่ยง บริหารมรดก
โดย
yoyo
จันทร์ ก.พ. 25, 2013 2:29 pm
0
11
Re: บัฟเฟตต์ซื้อกิจการซอส Heinz
brk ถือ coke อยู่ซึ่งตอนนี้ coke ราคา $37.56 p/bv อยู่ที่ 5.13 เท่า ตอนนี้ pe coke ประมาณ 19 เท่า ซึ่งเวลาบันทึกในบัญชี brk coke ถูกบันทึกไว้ที่ 1 เท่าของ bv เท่านั้น เราลองสมมติให้เห็นง่ายๆว่า ถ้า bkr ถือหุ้น coke แค่ตัวเดียว การที่ bkr สามารถซื้อหุ้นคืนได้ที่ 1.2 bv ของตัวเอง ก็เหมือนกับการซื้อ coke ที่ราคา 1.2 bv ด้วยเช่นกัน หรือเหมือนกับการซื้อ coke ที่ราคา $8.8 คิดเป็น pe เพียง 4.44 เท่า เท่านั้นเอง ทีนี้ในความเป็นจริง bkr มีหุ้นอยู่หลายตัว ทั้งตัวที่บันทึกงบ conso ทั้งที่บันทึกมาเฉพาะ equity ซึ่งหุ้นที่ปู่ถือเป็น equity ส่วนใหญ่มี p/bv สูงๆทั้งนั้น (หุ้น super stock ส่วนใหญ่ p/bv สูงๆทั้งนั้น) ยิ่ง p/bv ของหุ้นเหล่านี้สูงเท่าไหร่ การซื้อ p/bv 1.2 เท่า ก็ยิ่ง make sense ขึ้นเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นการซื้อ discount จากราคาตลาดอย่างมาก พิมพ์ไปพิมพ์มา เริ่มอยากไปซื้อหุ้น brk ซะแล้วซิเนี่ย ปู่ส่งซิกมาเองแท้ๆเลยว่าหุ้นต่ำกว่ามูลค่า ผมเข้าใจว่าการบันทึกบัญชีในส่วน Investments ที่ไม่ถึง 20% จะบันทึกมูลค่าที่ fair value (ราคาตลาดนั่นเอง) ไม่ได้บันทึก book value นะครับ อย่าง coke หรือ Amex Berkshire ถือไม่ถึง 20% ครับ แป่วๆ ผมเข้าใจผิดเองครับ
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. ก.พ. 21, 2013 9:58 pm
0
1
Re: บัฟเฟตต์ซื้อกิจการซอส Heinz
ถ้าให้วิเคราะห์ brk ตามรูปแบบข้างบน ก็เห็นได้ชัดมากครับ 1. คืนทำไม ปู่ไม่มีเงินกู้ 2. เงินเหลือเยอะจัด หาหุ้นดีๆต่ำกว่ามูลค่ายาก ซื้อไปหลายตัวแล้วก็ยังเหลือตังอยู่ดี 3. ถ้าหุ้น brk over value ปู่ก็ควรเลือกทางนี้ 4. แต่พอดี ปู่คิดแล้วคิดอีก ก็คิดว่าหุ้นตัวเองนั้นที่ราคา 1.2 bv นั้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเรื่องการวิเคราะห์ว่าหุ้นสูงหรือต่ำกว่ามูลค่านั้น คงไม่มีใครเถียงว่าปู่ไม่แม่นพอ ยิ่งให้วิเคราะห์หุ้นตัวเองด้วยแล้วเนี่ย ถ้าใครงงว่าจ่าย 1.2 bv มันจ่าย premium ตั้ง 20% มันจะต่ำกว่ามูลค่ายังไง ผมยกตัวอย่างง่ายๆให้ดู หุ้น cpall วันนี้ราคา 52 บาท หรือคิดเป็น 18.5 เท่า bv สมมติเล่นว่าถ้า cpall สามารถซื้อหุ้นตัวเองคืนได้ที่ 3.37 บาท (1.2 เท่า bv) cpall ควรจะซื้อมั๊ย คำตอบมันชัดอยู่แล้วครับว่าต้องซื้อ อย่าง bkr เนี่ยก็มีหุ้นในมือหลายตัว หลายๆตัวก็บันทึก conso งบมาหมด หลายๆตัวก็บันทึกมาแค่ equity ยกตัวอย่าง coke ก็ได้ brk ถือ coke อยู่ซึ่งตอนนี้ coke ราคา $37.56 p/bv อยู่ที่ 5.13 เท่า ตอนนี้ pe coke ประมาณ 19 เท่า ซึ่งเวลาบันทึกในบัญชี brk coke ถูกบันทึกไว้ที่ 1 เท่าของ bv เท่านั้น เราลองสมมติให้เห็นง่ายๆว่า ถ้า bkr ถือหุ้น coke แค่ตัวเดียว การที่ bkr สามารถซื้อหุ้นคืนได้ที่ 1.2 bv ของตัวเอง ก็เหมือนกับการซื้อ coke ที่ราคา 1.2 bv ด้วยเช่นกัน หรือเหมือนกับการซื้อ coke ที่ราคา $8.8 คิดเป็น pe เพียง 4.44 เท่า เท่านั้นเอง ทีนี้ในความเป็นจริง bkr มีหุ้นอยู่หลายตัว ทั้งตัวที่บันทึกงบ conso ทั้งที่บันทึกมาเฉพาะ equity ซึ่งหุ้นที่ปู่ถือเป็น equity ส่วนใหญ่มี p/bv สูงๆทั้งนั้น (หุ้น super stock ส่วนใหญ่ p/bv สูงๆทั้งนั้น) ยิ่ง p/bv ของหุ้นเหล่านี้สูงเท่าไหร่ การซื้อ p/bv 1.2 เท่า ก็ยิ่ง make sense ขึ้นเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นการซื้อ discount จากราคาตลาดอย่างมาก พิมพ์ไปพิมพ์มา เริ่มอยากไปซื้อหุ้น brk ซะแล้วซิเนี่ย ปู่ส่งซิกมาเองแท้ๆเลยว่าหุ้นต่ำกว่ามูลค่า ถ้าบุ๊คที่ราคาทุนจริง ผมไม่มีข้อโต้แย้งครับ แต่ในไทยมาตราฐานบัญชีไม่เหมือนกันสิครับ ตัวอย่างCPF มีบุ๊คกำไรจาก ราคาหุ้น cpallทุกไตรมาส คุณภาพBVของCPFคงสู้BKRไม่ได้แน่ๆ ฉนั้นต้องไปดูคุณภาพBVด้วยมั้งครับ ตกลงเราคุยเรื่อง brk หรือหุ้นไทยกันอยู่อ่ะครับ ผมเข้าใจว่าผมหมายถึง brk นะ
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. ก.พ. 21, 2013 12:15 am
0
1
Re: บัฟเฟตต์ซื้อกิจการซอส Heinz
Buffett ใช้การซื้อหุ้นคืนแทนปันผล เมื่อเร็วๆนี้ปรับเกณฑ์เป็นไม่เกิน 120% ของ BV และมีการซื้อหุ้นคืนบางส่วนแล้ว ผมมองว่าการไม่จ่ายปันผลของปู่ ทำให้ผถห.ไม่ได้รับประโยชน์อย่างยั่งยืน เนื่องจากหากผถห.ต้องการผลตอบแทน ผถห.ก็ต้องขายหุ้นออก จนวันหนึ่ง ผถห.ก็จะไม่มีหุ้นของปู่ติดพอร์ต แต่หากใครถือหุ้นยาวนาน ผลตอบแทนที่ได้ก็เป็นแค่unrealize gainจนกว่าจะมีการขายหุ้นออกไป การซื้อหุ้นคืนของบ.ต่างๆเป็นแค่การบริหารเงินสดในมือ ผถห.ไม่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง เป็นแค่unrealize gain ไม่ต่างกับการปันผลเป็นหุ้น งดจ่ายปันผลยังดีซะกว่าเพราะไม่ต้องจ่ายภาษีหุ้นปันผล แต่การปันผลเป็นเงินสด ผถห.ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ผมว่าเข้าใจผิดแล้วละครับที่บอกว่า ผถห. ไม่ได้ประโยชน์จากการซื้อหุ้นคืน เงินสดที่เหลืออยู่ของบริษัท มีทางออกอยู่ 4 ทาง แต่ละทางก็มีความเหมาะสมในตัวของมันเอง ซึ่งถ้าทำถูก สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผถห. ได้ทุกทาง ผมจะลองเล่าให้ฟังเป็นข้อๆ 1. คืนเงินกู้ - เมื่อบริษัทมีหนี้เยอะ การคืนเงินกู้ คือการลดความเสี่ยงของธุรกิจ แม้จะไม่ได้เพิ่ม return ให้ผู้ถือหุ้นมากนัก (แค่ดอกลดนิดหน่อย) แต่ถ้าเงินกู้มีจำนวนมากๆ การลดความเสี่ยงก็คือทางเลือกที่ดีกว่าเอาไปลงทุน 2. ลงทุนเพิ่ม - กรณีที่การลงทุนนั้นๆมี return สูงเพียงพอ ก็เพิ่ม return ให้ผู้ถือหุ้นได้ 3. ปันผล - กรณีที่หนี้น้อยอยู่แล้ว และไม่มี project ลงทุนที่ return เหมาะสม ก็ควรเอามาปันผล 4. ซื้อหุ้นคืน - กรณีเหมือนกับ ปันผล แต่เพิ่มมาอีกข้อคือ หุ้นตัวเองต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสม ถ้าให้วิเคราะห์ brk ตามรูปแบบข้างบน ก็เห็นได้ชัดมากครับ 1. คืนทำไม ปู่ไม่มีเงินกู้ 2. เงินเหลือเยอะจัด หาหุ้นดีๆต่ำกว่ามูลค่ายาก ซื้อไปหลายตัวแล้วก็ยังเหลือตังอยู่ดี 3. ถ้าหุ้น brk over value ปู่ก็ควรเลือกทางนี้ 4. แต่พอดี ปู่คิดแล้วคิดอีก ก็คิดว่าหุ้นตัวเองนั้นที่ราคา 1.2 bv นั้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเรื่องการวิเคราะห์ว่าหุ้นสูงหรือต่ำกว่ามูลค่านั้น คงไม่มีใครเถียงว่าปู่ไม่แม่นพอ ยิ่งให้วิเคราะห์หุ้นตัวเองด้วยแล้วเนี่ย ถ้าใครงงว่าจ่าย 1.2 bv มันจ่าย premium ตั้ง 20% มันจะต่ำกว่ามูลค่ายังไง ผมยกตัวอย่างง่ายๆให้ดู หุ้น cpall วันนี้ราคา 52 บาท หรือคิดเป็น 18.5 เท่า bv สมมติเล่นว่าถ้า cpall สามารถซื้อหุ้นตัวเองคืนได้ที่ 3.37 บาท (1.2 เท่า bv) cpall ควรจะซื้อมั๊ย คำตอบมันชัดอยู่แล้วครับว่าต้องซื้อ อย่าง bkr เนี่ยก็มีหุ้นในมือหลายตัว หลายๆตัวก็บันทึก conso งบมาหมด หลายๆตัวก็บันทึกมาแค่ equity ยกตัวอย่าง coke ก็ได้ brk ถือ coke อยู่ซึ่งตอนนี้ coke ราคา $37.56 p/bv อยู่ที่ 5.13 เท่า ตอนนี้ pe coke ประมาณ 19 เท่า ซึ่งเวลาบันทึกในบัญชี brk coke ถูกบันทึกไว้ที่ 1 เท่าของ bv เท่านั้น เราลองสมมติให้เห็นง่ายๆว่า ถ้า bkr ถือหุ้น coke แค่ตัวเดียว การที่ bkr สามารถซื้อหุ้นคืนได้ที่ 1.2 bv ของตัวเอง ก็เหมือนกับการซื้อ coke ที่ราคา 1.2 bv ด้วยเช่นกัน หรือเหมือนกับการซื้อ coke ที่ราคา $8.8 คิดเป็น pe เพียง 4.44 เท่า เท่านั้นเอง ทีนี้ในความเป็นจริง bkr มีหุ้นอยู่หลายตัว ทั้งตัวที่บันทึกงบ conso ทั้งที่บันทึกมาเฉพาะ equity ซึ่งหุ้นที่ปู่ถือเป็น equity ส่วนใหญ่มี p/bv สูงๆทั้งนั้น (หุ้น super stock ส่วนใหญ่ p/bv สูงๆทั้งนั้น) ยิ่ง p/bv ของหุ้นเหล่านี้สูงเท่าไหร่ การซื้อ p/bv 1.2 เท่า ก็ยิ่ง make sense ขึ้นเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นการซื้อ discount จากราคาตลาดอย่างมาก พิมพ์ไปพิมพ์มา เริ่มอยากไปซื้อหุ้น brk ซะแล้วซิเนี่ย ปู่ส่งซิกมาเองแท้ๆเลยว่าหุ้นต่ำกว่ามูลค่า
โดย
yoyo
พุธ ก.พ. 20, 2013 10:43 pm
0
16
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
ผมครับ ถือตัวเดียวครับ ซีเอ็ด เป็นความชอบส่วนตัวครับ ------------------------------------- รวยด้วยรัก http://www.thorfun.com/story/view/URtOR67rWaF3ABtA ชอบ SE-ED เหมือนกันครับ ไม่รู้ทำไม ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าคนเข้าร้านเยอะตลอดเวลา ส่วน Trend ของ E-Book ใจผมยังมองว่าการอ่านหนังสือด้วยวิธีการสัมผัสจากกระดาษจริงๆ ยังไม่น่าจะหมดไปจากโลกง่ายๆ แต่ผมก็ยังไม่เคยซื้อหุ้น SE-ED เลยครับ งงตัวเองเหมือนกัน :8) แนะนำให้ลอง kindle ดูครับ อาจจะเปลี่ยนใจได้ ผมคุ้นๆว่าเคยอ่านว่ายอดขายหนังสือแบบ ebook ใน amazon นี่แซงหนังสือเล่มไปแล้วครับ ทุกวันนี้ถ้ามีหนังสือแปลออกมาเป็นภาษาไทย เทียบกับ ebook เป็นภาษาอังกฤษ ผมเลือกที่จะซื้อ ebook แม้ว่าผมอ่านภาษาอังกฤษได้แย่กว่าไทยพอสมควร มันสะดวกกว่ากันแบบเห็นได้ชัดเลยครับ ไม่ต้องเปลืองที่เก็บ ไม่ต้องกลัวโดนปลวกกิน ไม่ต้องกลัวเก่า สามารถพกหนังสือติดตัวได้เป็นพันเล่ม (รวมกับที่อยู่ใน cloud อีกไม่จำกัด) แต่ต้องอ่านบน ebook reader เท่านั้นนะครับ มันสบายตาไม่ต่างจากหนังสือเล่มเลย
โดย
yoyo
พุธ ก.พ. 20, 2013 10:14 pm
0
10
Re: บัฟเฟตต์ซื้อกิจการซอส Heinz
heinz นี่ดูโตไม่หวือหวานะครับ แต่ว่าโต QoQ ติดต่อกันมา 30 Q roe ก็สูงมาก 10 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 40% เลยทีเดียว ถ้ามองในแง่ pe เราอาจจะมองว่าแพง แต่ถ้ามองที่กระแสเงินสดของบริษัท ภาพที่เห็นก็จะเริ่มเปลี่ยนไป
โดย
yoyo
อังคาร ก.พ. 19, 2013 11:21 am
0
9
Re: บัฟเฟตต์ซื้อกิจการซอส Heinz
อยากทราบความเห็นพี่ๆครับ ทำไม buffet ถึงมาซื้อ Heinz ตอนนี้ ก่อนหน้านี้ซัก 5 ปีทำไมถึงไม่ซื้อครับ เช่นกัน เจ้าสัวธนินท์ ทำไมไม่คิดซื้อผิงอันก่อนหน้านี้หลายๆปีครับ ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ ^_^ เจ้าของอาจจะเพิ่งยอมขายก็ได้นะครับ หรือไม่ปู่ก็รอราคาให้ลงอยู่ เพราะ mos ไม่เยอะ แต่พอเท่าไหร่ก็ไม่ลงซะที ปู่ตังเหลือเยอะ แล้วดูแล้วคงไม่เสี่ยงเท่าไหร่ mos น้อยหน่อยก็ได้ฟ่ะ ว่าแล้วก็เลยลุยเลย
โดย
yoyo
อังคาร ก.พ. 19, 2013 11:20 am
0
1
Re: สอบถามกู้ซื้อ บ้าน สําหรับนักลงทุน Full Time ครับ
กู้ซื้อบ้าน คอนโดลงทุนจะได้ yield ซักกี่ % เหรอครับ ผมเข้าใจว่าน่าจะได้ประมาณ 6-8% (ผมไม่เคยลงทุนนะครับ ฟังๆอ่านๆมาอีกที) ที่นี้กู้จะได้ดอกซักกี่ % ถ้าต้องผ่อนสูงกว่าค่าเช่าที่จะได้รับแบบนี้ก็เป็น bad investment แล้ว ไม่แน่ใจว่ามีใครทำรึเปล่าครับ ผมเคยคิดจะทำนานแล้ว (เอาไอเดียมาจากหนังสือพ่อรวยอีกที) หลังจากศึกษาไปพักใหญ่ๆ ก็เข้าใจว่าเมืองไทยยากมากครับ ดอกบ้านเราดูเหมือนจะแพงกว่าค่าเช่า นี่ยังไม่รวมเงินต้นที่ต้องผ่อนอีก โอกาสที่จะได้ค่าเช่า สูงกว่าดอก + เงินต้นที่ต้องผ่อนนี่ต่ำเอามากๆ ที่อย่างที่อเมริกานี่ผ่อนยาวกัน 30 ปี ดอกเบี้ย fix อีกต่างหาก ผมเลยเลิกคิดไปนานล่ะ
โดย
yoyo
จันทร์ ก.พ. 11, 2013 10:00 pm
0
5
Re: 'เชาว์' เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ สลัดภาพ'วาณิชธนกิจ'สู่เซียน
ทั้งเก่งทั้งหล่อ
โดย
yoyo
อังคาร ม.ค. 08, 2013 11:06 pm
0
2
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
สู้ๆครับพี่
โดย
yoyo
อาทิตย์ ธ.ค. 30, 2012 8:51 am
0
1
Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน
ทีนี้ภาพของตลาดอเมริกาที่คนส่วนใหญ่คิด กับที่ผมไปเจอมามันดูเหมือนจะสวนทางกันจริงๆ ก็สงสัยไปตามประสาว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น จนมาอ่านหนังสือเล่นนี้แหละครับ นอกจากที่เค้าบอกว่า introvert มักจะลงทุนได้ดีกว่า extrovert แล้ว เค้ายังบอกต่อว่า โลกเราฝั่งตะวันตกมันจะมี extrovert เป็นจำนวนมาก (โดยเฉพาะอเมริกา น่าจะอันดับต้นๆของโลก) ในขณะที่ทางฝั่งตะวันออกมาทาง asia เราคนส่วนใหญ่จะเป็น introvert มากกว่า มันเลยเริ่มอ้อเลยครับ ถ้าสมมติฐาน 2 ข้อข้างต้นเป็นจริง คนอเมริกาส่วนใหญ่ก็น่าจะลงทุนได้ไม่ดีเท่าไหร่ ในขณะที่ในไทยผมว่า vi นี่เยอะมาก เยอะจนหาหุ้นถูกๆเล่นยากจิงๆ .... ถึงว่าปู่ buffett ลงทุนสบายเลยครับ เพราะ Mr. Market ที่อเมริกานั้นอารมณ์แปรปรวนกว่า ปู่เลยหาประโยชน์ได้สบาย
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. ธ.ค. 06, 2012 10:14 pm
0
16
Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน
มีอีกประเด็นใหญ่หนึ่งที่ผมเพิ่งคิดได้ไม่นานนี้... ก่อนหน้านี้ผมเคยสงสัยว่า VI นั้นถ้าจะว่ากันตามตรง มีจุดกำเนิดมาจากอเมริกา คนส่วนใหญ่จะชอบบอกว่าอเมริกานั้นเป็นตลาดใหญ่เกิดมานาน นักลงทุนส่วนใหญ่เป็นกองทุน เพราะฉะนั้นอเมริกาจะเป็นตลาดที่ educate สูง นักลงทุนลงทุนกันแบบมีเหตุผล ซึ่งถ้าว่ากันตามทฤษฏีแล้วก็หมายถึงว่าอเมริกานั้นเป็นตลาดที่เข้าใกล้ efficient market theory มากกว่าตลาดไหนๆ ส่วนประเทศไทยเป็นตลาดเกิดใหม่ มีความผันผวนสูง นักลงทุนไม่ educate แต่พอได้ออกไปลงทุนในอเมริกาด้วยตัวเองแล้ว ผมรู้สึกเลยอย่างชัดมากเลยครับว่า ตลาดอเมริกานั้นผันผวนกว่าตลาดไทยอย่างมาก เวลาซื้อก็ซื้อกันบ้าคลั่ง เป็นขายก็ panic กันแบบเละตุ้มเป๊ะ อย่างหุ้นอเมริกาช่วงที่ผมติดตามหลายตัวเลยนะครับ เวลามีข่าวอะไรกระทบ เช่น cfo ลาออก.... มันลงวันเดียว 50% เลย แล้วผ่านไป 2-3 วันค่อยดีดขึ้นมาใหม่ หรือเวลามีข่าวได้งานอะไรมาที ซึ้่งผมดูแล้วก็ไม่ได้มีนัยะกับบริษัทมากมายนัก มันก็ขึ้นกันวันเดียว 20-30% เอาง่ายๆเหมือนกัน แล้วผมก็ได้โอกาสไปพูดคุยกับพวก vi ในต่างประเทศบ้าง คุยผ่านทางเวป ผ่านทางเวป blog ของเค้า .... ถ้าเป็นพวก vi รายย่อยๆที่ลงทุนมานาน พวกนี้พูดคล้ายๆกันครับว่า ตลาดอเมริกานี่ถ้าตั้งใจดูจริงๆ มี panic ขายหุ้นจากพวกกองทุนเยอะมาก พวกนี้เวลามีข่าวไม่ดี โยนกันแบบไม่คิดชีวิตเลยครับ จนพวก vi ที่รายย่อยเค้ามองกันว่าพวกกองทุนนี่คือหมูไว้เชือดเลยด้วยซ้ำ ... มุขนึงที่เค้าหากินกันหลักๆเลยคือ ดูข่าวร้ายครับว่าเกี่ยวกับหุ้นตัวไหนได้บ้าง แล้วไปไล่ดูราคาว่าตัวไหนลงเยอะๆ แล้วก็ไปวิเคราะห์ต่อว่าข่าวร้ายที่ว่ามันเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวรึเปล่า (อย่างที่ buffett สอนเลยครับ ให้ซื้อเมื่อมีข่าวร้าย) ถ้าชั่วคราว ไม่มีผลระยะยาวกับพื้นฐานบริษัทก็ซื้อเก็บไว้ เดี๋ยวก็กำไรสบายๆ
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. ธ.ค. 06, 2012 10:08 pm
0
18
Re: ภาษีกำไรจากการลงทุนและเงินปันผล
เท่าที่ทราบมาถ้าเป็นนักลงทุนสัญชาติอเมริกันทั้งบุคคลและสถาบัน ไม่ว่าจะไปลงทุนที่ประเทศไหนแล้วมีกำไรจะต้องถูกเก็บภาษีด้วยนะครับ จะเจอหรือ ? สรรพากรของ USA จะรู้ได้ไง ? ....ผมคิดว่ายากมากครับที่จะรู้ ดูที่เงินเข้าออกนอกประเทศก็ได้มั๊งครับ อย่างไทยเวลาไปลงทุนต่างประเทศ เค้าก็ดูแบบนี้ ถ้าไปกำไรหุ้น ตปท. มา เค้าก็เก็บ cap gain เหมือนกันครับ
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. ธ.ค. 06, 2012 9:34 pm
0
1
Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน
ผมคิดว่าคนที่เป็น In หลายๆ คนอาจจะเป็นเพราะสิ่งแวดล้อม หรือ ปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถมีได้หลายปัจจัย การจะตีความว่าเราเป็นคนลักษณะไหนคงไม่ง่าย ต้องค่อยๆ ใช้เวลาประเมิน ผมยกตัวอย่างตัวเอง ที่ถ้าให้ตอบในทันทีคงต้องบอกว่าเป็น In แต่เมื่อลองคิดเพิ่มเติม ผมคิดว่าเหตุผลมาจากการที่เราไม่เจอคนที่เข้ากันกับจริตของเรา ทำให้เราไม่ได้แสดงออกหรือคบหากับคนอื่นๆ มากนัก แต่ถ้าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน เช่น ถ้าเราเป็นคนที่ชอบลงทุน และสิ่งแวดล้อมหรือที่ทำงานเราเต็มไปด้วยนักลงทุนวีไอที่มีความคิดดีมีเหตุผล คุยกันถูกเรื่อง สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เรื่อยๆ ผมเองอาจเปลี่ยนเป็น EX เลยก็ว่าได้ หรืออย่าง facebook ก็เป็นอีกตัวอย่างที่คนที่ไม่ค่อยพูดเลย แต่กลับโพสต์ข้อความที่แสดงความเป็นตัวตนในสังคมใหม่ที่เค้าไม่ต้องแสดงตัวแบบเห็นหน้า ซึ่งก็ตอบได้ยากคนลักษณะนี้จะเรียกได้ว่าอยู่ในประเภทไหน เพราะฉะนั้นในเบื้องต้น เราควรใช้เวลาทำความเข้าใจตัวเองให้มากขี้นกว่านี้ ผมเองก็เลือกที่จะไม่เข้าสังคมมากนัก แต่ก็ชอบที่จะแชร์ความเห็นในเรื่องที่ตัวเองสนใจ ก็อาจจัดได้ว่าอยู่ในประเภท Am ส่วนการลงทุนถือว่าได้มามากกว่าที่ตั้งใจไว้มาก แต่ก็พยายามหาความรู้เพิ่มเติม เรียนรู้จากบทเรียนและประสบการณ์ที่ได้ลงทุนมา ค่อยๆ ปรับแก้ไขไปเรื่อยๆ ที่เหลือสุดท้าย อยากมีความสุขให้ได้มากเท่ากับผลตอบแทนที่ได้มาจากการลงทุน ซึ่งทุกวันนี้ดูจะยังมีทุกข์กับมันมากไปหน่อย (ชอบที่ ดร.ไพบูลย์พูดไว้ว่า การลงทุนที่ไม่ทำให้จิตใจสงบ ก็ถือเป็นกรรมหรือบาปอย่างนึง) ลืมบอกจุดสำคัญไปจุดหนึ่ง Introvert เนี่ยถึงจะดูไม่ค่อยชอบพูดคุยเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เค้าสนใจจะสามารถคุยได้เป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ ถ้าจะให้ชัดขึ้นมาอีกหน่อยก็น่าจะบอกว่า Introvert ไม่ชอบคุยอะไรที่ไม่ลึก ไม่ชอบ chit chat แบบว่าเป็นไงบ้าง ไปเที่ยวไหนมา อากาศดีเนอะ ทำงานที่ไหน เรียนจบที่ไหนเหรอครับ แต่จะชอบคุยแนวที่ตัวเองสนใจ คุยอะไรที่ลึกต้องใช้ความคิดทำนองนี้ อย่างผมนี่ไม่ชอบคุยกะใครเท่าไหร่ แต่ถ้าคุยกันแนว VI ผมก็จ้อได้ไม่หยุดเหมือนกัน Buffett ที่ oat บอกว่าคุยโทรศัพท์ได้ทุกวันก็อาจจะเข้าข่ายนี้ คือคุยกับคนที่ตัวเองสนใจ สนิท และคุยในเรื่องที่ตัวเองสนใจ
โดย
yoyo
เสาร์ ธ.ค. 01, 2012 10:08 am
0
8
Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน
เพื่อน VI ผมหลายคนส่วใหญ่ผมก็ว่าเป็น Introvert มี Extrovert อยู่นิดหน่อย Buffett นี่ผมเดาว่าน่าจะเป็น Introvert แน่ละคนนึง แต่อย่าง ดร. นิเวศน์ นี่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแกเป็นแนว Extrovert หรือ Introvert เพราะดูแกก็ชอบอ่านหนังสือ ติดบ้าน ดูเหมือนจะเป็น Introvert แต่ขณะเดียวกันแกไปพูดให้ความรู้ตามงานต่างๆมากมาย (ซึ่งถ้าเป็นผมต้องให้ไปพูดอะไรแบบนี้บ่อยๆ ผมจะรู้สึกอึดอัดพอสมควร) เลยดูเหมือนแกก็เป็นแนว Extrovert ..... ไม่งั้นก็อาจจะออกมากลางๆเป็น Ambi ก็ได้ครับ
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2012 4:12 pm
0
6
Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน
ผมนี่ก็ Introvert ตัวพ่อคนนึงครับ เคยทำงาน office อยู่แล้วต้อง deal งานกับคนอื่น อึดอัดมาก ทำงานที่ทุกๆวันคิดเพียงแค่อยากกลับบ้านๆ ช่วงนั้นทำงานเสร็จก็รีบบึงรถกลับบ้าน มานั่งอ่านหนังสือ แล้วพอดีช่วงนั้นชอบอ่านหนังสือพวกหุ้น พวกธุรกิจมาก ก็เลยลองเอาดีด้านหุ้น ก็เป็นไปด้วยดีเลยครับ ส่วนตัวตอนนั้นก็เชื่ออยู่นิดๆว่าคนหลายๆคนอาจจะมีจริตในการลงทุนที่ต่างกัน บางคนอาจจะเอาดีด้าน VI ได้ ในขณะที่บางคนอาจจะถนัดไปแนว Technical หรือแนว Trading system ตอนเรามาลงทุนแนว VI แรกๆก็ว่ามันยากนะ แต่ก็สนุก แล้วพอผ่านไปก็รู้สึกว่ามันง่ายขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เห็นเพื่อนหลายๆคนที่สนใจแนว VI แต่ศึกษาได้ไม่นาน สุดท้ายก็เปลี่ยนแนวไปเยอะ พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเลยเพิ่งเข้าใจว่าแต่จะคนก็มีความถนัดไม่เหมือนกันจริงๆ
โดย
yoyo
พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2012 4:08 pm
0
16
Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน
อ้อ แล้วก็นี่เป็นแค่ความเห็นหนึ่งจากหนังสือหนึ่งเล่มนะครับ ไม่รู้มันจะน่าเชื่อแค่ไหน บางคนอาจจะเป็น extrovert แล้วก็ลงทุนได้ดีผมว่าก็มีให้เห็นอยู่หลายคน หรือบางคนอาจจะอยู่กลางๆ ไม่ใช่ extrovert หรือ introvert ซะทีเดียวก็ได้ เค้าเรียกว่า Ambiversion Although many people view being introverted or extroverted as a question with only two possible answers, most contemporary trait theories measure levels of extraversion-introversion as part of a single, continuous dimension of personality, with some scores near one end, and others near the half-way mark.[10] Ambiversion is a term used to describe people who fall more or less directly in the middle and exhibit tendencies of both groups.[4][11] An ambivert is normally comfortable with groups and enjoys social interaction, but also relishes time alone and away from the crowd. ไม่รู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ คิดว่าตัวเองเป็นคนประเภทไหน ลงทุนมานานแล้วเท่าไหร่ ผลตอบแทนเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี แล้วคิดว่าลักษณะนิสัยเหล่านี้ มีผลกับการลงทุนของเรายังไง ลองแชร์กันดีมั๊ยครับ
โดย
yoyo
พุธ พ.ย. 28, 2012 10:48 pm
0
15
Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน
เค้าค้นพบว่าคนที่เป็น introvert มักจะเป็นนักลงทุนได้ดีกว่า extrovert เพราะ extrovert มักจะเป็นคนที่ถูกกระตุ้นด้วยรางวัลได้ง่าย (เค้าใช้คำว่า Reward sensitive) เพราะฉะนั้นคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะ take risk ที่สูงกว่า ส่วนใหญ่ฟองสบู่มักจะเกิดจากการที่ตลาดถูกครอบงำด้วยคนกลุ่มนี้เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ Introvert นั้นจะเป็นพวกคิดก่อนทำ เป็นพวกกลัวความเสี่ยง ยอมถอยจากตลาด bull แม้จะรู้ว่าตัวเองอาจจะตกรถ ประมาณว่าเสียดายดีกว่าใจนั้นเอง
โดย
yoyo
พุธ พ.ย. 28, 2012 10:45 pm
0
27
Re: In Search of Great Stocks
ส่วนประเด็นเรื่อง Goog นี่จะ Growth ดีมั๊ย ผมเองยังตอบไม่ได้ ไม่ได้ศึกษาลึกเท่าไหร่ เห็นหลายปีที่ผ่านมารายได้เค้าก็โตดี กำไรก็โตดีมาจนถึงปี 2011 แต่พอมาปีนี้รายได้ยังโตดีอยู่ แต่กำไรนี่แผ่วๆแล้วทรงๆทรุดๆ ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร แล้วจะมี biz model ไหนที่จะมาสร้างกำไรได้อย่างมีนัยะสำคัญอย่าง google adwords ได้ ด้าน Andriod ก็ดูยอดขายดี มีคนใช้เยอะ แต่ผมยังเชื่อว่าโฆษณาทางมือถือยังประสิทธิภาพยังห่างไกลกับ search engine มาก เพราะเป็นการโฆษณาที่มันออกแนวยัดเยียดนิดหน่อย ประมาณเหมือน facebook อ่ะครับ ในแง่ users นี่ดีมาก แต่ยังหา model มาสร้างรายได้เป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ ล่าสุด Chromebook ออกมาช่วงแรกๆก็แผ่วๆ ไม่เปรี้ยงป้าง มีคนใช้ไม่เยอะ app ใน Chrome store ก็ไม่ได้เยอะ และดึงดูดเท่าไหร่ ผมว่าอนาคตโลกคงมุ่งไปสู่ Cloud อย่างเต็มที่ ซึ่ง Chromebook นี่เกิดมาเพื่อ Cloud โดยเฉพาะ แต่อาจจะยังมาเร็วไปนิด (แต่คงมาแน่) พัฒนาการล่าสุดดูในยอดขาย Laptop ของ Amazon ตัว Chromebook นี่ขึ้นอันดับ 2 รองจาก Mac แล้ว แล้วตอนนี้ของก็ Out of stock ไปแล้ว คงเพราะทำรุ่นที่ราคาต่ำมากออกมา $249 เหรียญได้ค่อนข้างดี ผมเองยังอยากซื้อมาลองเล่นดูเลย (ใครหิ้วได้ฝากด้วยนะครับ อยากได้จริงๆ มันขายแต่ในอเมริกา) ซึ่งผมว่าอนาคตของ Chromebook ก็น่าจะเกิดได้ไม่อยาก แต่ประเด็นเดิมที่ต้องตีให้แตกคือ มีคนใช้เยอะแล้วไง อะไรคือ Biz model ในการ Generate รายได้ จะหวังขายแต่ OS อย่างเดียวก็ไม่น่าเกิดได้ เพราะเป็น OS ที่ lean มากๆ แทบจะไม่มีอะไรเลย จะ + แพงๆคงไม่มีใครเอาด้วยเพราะ Model ที่จะเกิดน่าจะต้องเป็นคอมเครื่องที่สอง ราคาไม่แพง จะเอาโฆษณายัดเข้าไปอีกก็ยัดเยียดเหมือนเดิม ผมว่าจะเกิดได้จริงๆ คือต้องทำ Chromebook ดีๆด้วยตัวเองเลย แล้วเอากำไรจากการขายเครื่องและ Chrome store เหมือนอย่างที่ Apple ทำกับ Iphone ipad ตัวเอง ถ้าเค้าทำมาทางนี้ได้จริงๆจะน่าสนใจมากๆ เพราะผมว่า Model ที่ฟรีไว้ก่อนแล้วให้ user เยอะๆ แล้วค่อยมาหาทางสร้างรายได้ทีหลังนั้นผมว่าเกิดยากแล้ว
โดย
yoyo
อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 9:09 am
0
7
Re: In Search of Great Stocks
สุดยอดเลยครับ คุณ yoyo อ่านบทความภาษาอังกฤษคุณ yoyo แล้วประทับใจมากๆ ผมว่าขนาดเขียนภาษาไทยให้ได้ขนาดนี้ยังยาก นี่ภาษาอังกฤษ สุดยอดมากๆ เลยครับ อ่านแล้วขอแสดงความนับถือ ในมุมมอง และ ไอเดียจริงๆ อ่านแล้วช่วยกระตุ้น เตือน ให้ต้องย้อนกลับมาพิจารณาการลงทุนในต่างประเทศของตัวเองอย่างละเอียดเลย เพราะ นี่ขนาดคุณ yoyo ขยันขนาดนี้ ยังโดนได้ สงสัยลงทุนในต่างประเทศจะยากจริงๆ พอดีตอนนี้ผมมีลงทุนอยู่ใน google ที่อเมริกาอยู่ ซึ่งคุณ yoyo ได้มีพูดถึงในตอนวิเคราะห์ baidu ไม่ทราบว่าคุณ yoyo มีอะไรที่จะแนะนำให้ผมระมัดระวัง หรือดูเป็นพิเศษไหมครับ เพราะ ตอนนี้กำลังวางแผนจะซื้อเพิ่มอีกพอสมควร ถ้าได้รับฟังความเห็นของคุณ yoyo น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของผมเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ พี่โตสรู้ละเอียดกว่าผมเยอะนะไอ้เจ้า goog เนี่ย แต่ถ้าลองให้วิเคราะห์แบบงูๆปลาดู ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า goog นั้นเป็นพวก Great cashflow + Low competition แบบสบายๆ คู่แข่งที่จะเข้ามาแข่ง goog ในตลาดโฆษณา search engine นั้นคงยากมากๆ ด้านกระแสเงินสดนี่ระดับเทพ กำไรเท่าไหร่ แทบไม่ต้องลงทุน working cap ลง capex ก็น้อยมากเทียบกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน แต่ที่มาเสียข้อใหญ่ๆเลย คือ พี่จะเก็บเงินสดไว้ทำไมเยอะแยะคับ ปันผลก็ไม่จ่ายหุ้นก็ไม่ซื้อคืน มีแต่หุ้นใหม่เพิ่มจากการแปลง warrant stock option เก็บจนเงินสดล้วนเป็น 45700 ล้านเหรียญ ทั้งที่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนั้น เลยแทนที่ goog ควรจะเป็นหุ้นที่ roe สูงมาก ตาม model ธุรกิจ แต่ก็มี roe ระดับ 1x% เท่านั้น น่าจะเรียกปู่บัฟมาเขกกระโหลกซักที steve job ก็เคยโทรไปปรึกษาปู่บัฟเฟตอยู่หนนึง ถามปู่ว่ามีเงินเหลือเยอะอ่ะ ทำไรดี? ปู่ตอบว่าก็ปันผลซะ job ถามว่ามีทางเลือกอื่นมั๊ย ปู่ถามกลับว่าแล้วคิดว่าหุ้นตัวเอง under value มั๊ย ถ้าใช่ก็เอาไปซื้อหุ้นตัวเองคืน ผ่านมาแล้วหลายปี apple ก็ยังเงินท่วมบริษัทอยู่เหมือนเดิม
โดย
yoyo
อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 8:52 am
0
6
Re: In Search of Great Stocks
ส่วนเรื่องโดนหนักแค่ไหน เอาไว้มาแชร์ต่อวันหลังครับ วันนี้ขอตัวไปนอนก่อน ปล. บทความมีรูปเยอะแล้ว post ยากจิงๆ :x
โดย
yoyo
เสาร์ พ.ย. 24, 2012 12:21 am
0
3
Re: In Search of Great Stocks
Conclusions • CTRP P/E 53 future growth 30% PEG 1.76 • BIDU P/E 76 future growth 50% PEG 1.51 • CHBT P/E 7.1 future growth 65% PEG 0.11 Great stocks usually have very high P/E ratios. In my opinion, they should be priced at least at a 30 P/E and some might be worth more than 50, depending on their fundamentals. So, to be successful in investing in great stocks, you need to buy them before others realize their potential or when there is a temporary problem which brings the price down to a cheap level. CHBT is one great stock that is unknown to many investors. Additionally, it is having a temporary problem, which I have written about in myprevious article, so we can buy it at a very low-price. I will give more details on CHBT in my next article.
โดย
yoyo
เสาร์ พ.ย. 24, 2012 12:19 am
0
6
Re: In Search of Great Stocks
Up until now, Chinese dairy manufacturers imported probiotics mostly from Europe and Japan. CHBT entered into the bulk additives probiotics industry over a year ago and just started production at its new plant in Qingpu. It is now the biggest domestic player in China. The quality of its products is equal to or better than that of its foreign competitors while prices are 20-30% lower. Entry into the industry is very difficult because the standard of food production is so high; it requires high technology; and it is hard to get licenses from the government. CHBT’s being a cost leader also gives it an advantage in terms of competitiveness. The probiotics industry has been growing exponentially due to very high growth of yogurt and animal feed products. The probiotics consumption is predicted to grow from 3,400 tons in 2006, to 10,000 tons in 2010. (Source: Domestic Probiotics Market Analysis and Forecast Report by Beijing Leadership Management Consulting Co. Limited.) Another source from Euromonitor has shown that, in 2009, China finally overtook Japan as the heaviest consumer of probiotic cultures, reaching over 10,000 tons (Actual consumption number reaches 10,000 tons faster than Beijing Leadership Management Consulting Co. Limited has predicted.) Euromonitor International predicts that by 2014 this will have risen to almost 18,000 tons, accounting for nearly 30% of global consumption. (Source: Euromonitor). CHBT’s net income growth is very high and stable. Net income growth has averaged 37% annually for the past 4 years, mainly from it supplement products. For the new market segment, bulk additives, CHBT has the largest capacity in China at 300 tons a year which represents a market share of only 2.xx% in 2010. When CHBT runs its 300-ton plant at full capacity in the next 4-5 years, it will have a market share of only 1.xx% of 18,000 tones in 2014. This means there is a lot of room for CHBT to grow very fast. CHBT doesn’t have to invest much in working capital as we can see that overall CFOA is a little higher than net income (excluding changes in fair value of derivatives.) Moreover, the probiotics industry is not a capital intensive business, so CHBT has invested around 50% of CFOA over the past 4 years in order to grow net income at least 50% annually for the next 4-5 years. CHBT’s valuation My forecast is that CHBT’s EPS will be $1.92, $3.33 and $5.23, during 2010-2012, which is 65% annual growth for the next 3 years. At $13.61, the P/E ratio is 7.1 times and the PEG is very low at 0.11. In my opinion, this is a great opportunity to buy a great stock at a very low price.
โดย
yoyo
เสาร์ พ.ย. 24, 2012 12:19 am
0
4
Re: In Search of Great Stocks
There are non-cash items from changes in fair value of derivatives that have to be excluded to see the real net income. I’ve adjusted them in the table below.
โดย
yoyo
เสาร์ พ.ย. 24, 2012 12:18 am
0
4
2832 โพสต์
of 57
ต่อไป
ต่อไป
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
ชื่อล็อกอิน:
yoyo
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อาทิตย์ ก.พ. 16, 2003 12:17 pm
ใช้งานล่าสุด:
ศุกร์ พ.ค. 01, 2020 1:38 pm
โพสต์ทั้งหมด:
4833 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.25% จากโพสทั้งหมด / 0.61 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว