หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Dr.Jfk
http://www.2jfk.com
"
Joined: อังคาร พ.ย. 06, 2012 2:41 pm
458
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Dr.Jfk
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
เรียนท่านแม่ทัพ รายงานจากอาสาสมัครจากแนวหน้า ตอนนี้ข้าศึกได้เข้าล้อมตีโอบทำให้ทหารแนวหน้าต้องล่าถอยเข้ามาหลบในเขตพระณคร ตอนนี้ทางอาสาสมัครได้แต่คอยเฝ้าดูสถาณการณ์ ขอให้พี่น้องเพื่อนทหาร หาญ ผู้ร่วมรบ ตั้งอยู่ในที่มั่น วันนี้ต้องเปลี่ยนหัวข้อกระทู้ ในวันที่ Set ลบ 130 จุด หรือ วันที่ Set Swing 200 กว่าจุดดีมั้ย คริๆ
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ ธ.ค. 15, 2014 4:17 pm
0
5
Re: Moneytalk@SET16Nov2014จับตาหุ้นเด่น&เลือกหุ้นจัดพอร์ตVI
ขอบคุณครับ
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ พ.ย. 17, 2014 8:05 pm
0
0
Re: Sharing การร่วมงาน 10ปี Thaivi 60 ปีปูชนียาจารย์
ผมเห็นมีกระทู้ ตั้ง ทำนองมางาน VI แล้วได้หุ้นกลับไปหลายตัว เกรงเพื่อนๆจะเข้าใจผิดกัน เลยตั้งกระทู้ชี้แจง ให้เพื่อนๆ ในพันทิป ได้ ทราบและเข้าใจเจตนารมณ์ ของ ThaiVI ที่แท้จริง ลองแวะอ่านได้ ครับ http://pantip.com/topic/30860472 http://f.ptcdn.info/580/008/000/1376848997-IMG1008JPG-o.jpg พร้อมแถมภาพคู่กับเพื่อนๆคนดัง ใน ThaiVI เป็นน้ำจิ้ม :P
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ ส.ค. 19, 2013 12:32 pm
0
22
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ภาวะตลาดตอนนี้ กับช่วงต้นปี ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว นับจากนี้ไปอีก 3 - 5 ปี ผมมองว่าเศรษฐีใหม่ในตลาดหุ้นคงเกิดน้อยมากๆ ตอนตลาดกระทิง อะไรก้ง่าย อะไรก้เป็นใจไปหมด เลือกหุ้นตัวไหน เป้นวิ่ง แต่ตลาดหมีจะตรงกันข้าม อะไรก้ดูยาก อะไรก้ดูไม่เป็นใจ เลือกหุ้นตัวไหน เป้นลง ในมุมมองผม แม้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่เศรษฐกิจในประเทศไทย คงตามแค่บางภาคส่วน เช่น ส่งออก สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะได้รับผลดีจาก การฟื้นตัวของอุปสงค์ และค่าเงินครับ ในเมื่อตลาดเป็นแบบนี้ น่าจะ sideway กว้างๆอีกเป็นปี เพราะไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแล้ว ผมเชื่อว่าถึงเวลาพักผ่อนและใช้เงินที่เราหามาได้ อาจจะไปเที่ยว หาประสพการณ์ชีวิตเพื่อต่อยอดการลงทุน ผมเองวางแผนเลือกที่จะไปอยู่new york ซัก3 อาทิตย์เพื่อดูเทรนในอนาคต วางแผนที่จะไปเที่ยวอเมริกาใต้เดือนนึงในช่วงต้นปีหน้า เพราะโลกนี้มีอะไรที่น่าสนใจอีกมาก ควรทำในสิ่งที่อยากทำ ทำบุญทำทานสำหรับเสบียงที่จะเก็บไว้ใช้ในชาติหน้าด้วยนะ ชีวิตช่างสั้นนัก ไม่มีใครรู้ว่าจะตายวันนี้ วันพรุ่ง นักรบและนักล่า ควรรู้ว่าเวลาใดควรสู้ เวลาใดควรถอย (ไม่ถึงกับต้องล้างพอร์ทหมด แต่ละคนต้องคิดเอาเองว่าสัดส่วนเท่าใดจึงเหมาะสม ทำให้ชีวิตไม่เครียด มีความสุขกับชีวิตด้านอื่นๆบ้าง) ขอให้คิดว่า อย่าเอาทุกเม็ด เพราะถ้าคิดแบบนั้นมักจะไม่ค่อยประสพความสำเร็จในการลงทุน เราต้องรู้จักรอคอยโอกาสนะครับ :D :D :D :D :D :D อิจฉาคนนี้ รอมีพอร์ต ซัก 1/10 ของคุณ Aqua แล้ว จะรีไทร์บ้าง แต่ตอนนี้ก็ยังเที่ยวแหลก แต่ ยังต้องทำงาน อิๆ
โดย
Dr.Jfk
ศุกร์ ส.ค. 16, 2013 12:43 pm
0
3
Re: ประกาศรายชื่อ 50 ที่ “10ปี Thai Vi 60ปี ปูชนียาจารย์
ยืนยันการจอง Dr.Jfk/ สมาชิกสมาคม / 1ที่นั่ง / 1,500.68 บาท / Kbank / 02-08-2556 /14:45 ขอออภัยที่โอนช้าเนื่องจากมัวแต่ไปเฝ้าตามดูรายชื่อในกระทู้เดิม ที่บอกว่าให้ตามดูในกระทู้นั้น ขอบคุณเจ้าหน้าที่thai vi ที่โทรมาแจ้งครับ
โดย
Dr.Jfk
ศุกร์ ส.ค. 02, 2013 2:50 pm
0
0
Re: รับเพิ่ม 50 ที่สุดท้าย (งาน 10 ปี Thai VI 60 ปี ดร.นิเวศ
จอง เข้าร่วมงาน Login :Dr.Jfk / สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า / จำนวน 1 ที่นั่ง
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ ก.ค. 29, 2013 12:58 pm
0
0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
สงครามกำลังพัวพัน ถึงเวลาแตกหัก พายุสุริยะดัน ผ่าเข้ามากลางศึก วงแตก แยกย้ายกันไป วันจันทร์มารบกันต่อ อิๆ
โดย
Dr.Jfk
ศุกร์ มิ.ย. 21, 2013 9:03 pm
0
2
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
ตามมาอ่านด้วยคน ทั้งความรู้ ข้อคิด และสำนวน ข้าน้อย ขอฝากตัวเป็นหลานศิษย์ ซือโจว ทั้งหลายด้วยคน อิๆ
โดย
Dr.Jfk
ศุกร์ มิ.ย. 21, 2013 11:44 am
0
1
Re: พบ Dr.JFK หมอนักลุย พุธ15พค 2230 น. moneytalk tnn2
ผมติดตามพี่หมอเจจากSNGเหมือนกันครับ นั่งอ่านพอร์ตนาฬิกาของพี่หมอแล้วอมยิ้มไปด้วย รู้สึกใจหายตอนวันที่พี่หมอยุบพอร์ตนาฬิกาออกเกือบหมดเลย ^&^ ขอบคุณพี่หมอที่แบ่งปันความรู้นะครับ :D อารมณ์ตอนนั้นเบื่อๆ โยนออกมาทีเดียว หกเจ็ดสิบเรือนภายในอาทิตย์เดียว ให้กับเพื่อนๆ เรากับกรรมการในบอร์ดนั่นแหละครับ ตอนนั้น รับกลับมาเกือบแปดหลัก แต่หลังจากนั้นสองสามปี ก็เริ่มนึกอยากเก็บใหม่ เผลอๆไอ้ที่ขายไป ซื้อกลับมา เงินที่ขายไป จ่ายออกไปหมด แต่นาฬิกาเหลือตัวโต หน่อย เข้ากรุกลับมาแค่ ไม่ถึง ยี่สิบตัวมั้ง อิๆ
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. พ.ค. 16, 2013 11:54 pm
0
3
Re: พบ Dr.JFK หมอนักลุย พุธ15พค 2230 น. moneytalk tnn2
ติดตามพี่หมอจากsiamnaliga ได้ความรู้เยอะครับ ขอบคุณที่แชร์ความรู้ ประสบการณ์ ให้คนรุ่นหลังอย่างผมครับ อ้าาาาาาาาาาาาว ใครล่ะเนี่ย จากก๊วน สยามนาฬิกา อิๆ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่แวะแจมกันครับ
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. พ.ค. 16, 2013 2:13 pm
0
1
Re: พบ Dr.JFK หมอนักลุย พุธ15พค 2230 น. moneytalk tnn2
หมอเอารูปตอนไปลุยปีนเขามาให้ดูด้วยครับ และกำลังเตรียมไปปีนยอดสูงสุดของหิมาลัยครับ แปลว่าคุณหมอต้องผ่านbase campมาแล้วใช่ไหมครับ อยากฟังประสบการณ์เทรคกิ้งคุณหมอครับ แต่ถ้าจะพิชิตเอเวอร์เรสต์ต้องฟิตร่างกายสุดๆ หัวจิตหัวใจก็ต้องสุดๆ แค่คิดก็คารวะแล้วครับ เบสแค้มป์ ส่วนใหญ่เ็ป็นพวกนักท่องเที่ยวเค้าไปกัน อ่ะครับ กับเป็นฐาน ของคนจะไปพัก ฝึกร่างกายก่อนขึ้น Everest ถ้าพวกปีนเขา เราจะไปขึ้นยอดต่างกัน อย่าง ทริป Mera Peak นี่ก็เป็นยอด 6500 นี่ก็มันส์ สูงกว่า เบสแค้มป์ อากาศเบาบางกว่าเบสแค้มป์ http://www.2jfk.com/pictures_trekking/mera_day6_trek_loseway.jpg http://www.2jfk.com/pictures_trekking/mera_day8_kharecamp2.jpg http://www.2jfk.com/pictures_trekking/mera_day9_4.jpg http://www.2jfk.com/merapeak.htm ทริปหลายๆทริป ไม่ค่อยได้ทำรีวิว ครับ เด๋ว กค.นี้ ก็ขึ้น Stok Kangri 6500 อีกยอดของหิมาลัย ที่เลห์ ลาดัค กันครับ ไว้จะเก็บบรรยากาศมาฝาก
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. พ.ค. 16, 2013 2:12 pm
0
5
Re: พบ Dr.JFK หมอนักลุย พุธ15พค 2230 น. moneytalk tnn2
คุณ JFK คือ คนเดียวกับ JFK ในเว็บ pantip รึเปล่าครับ ? ... คุ้นๆว่าเคยเห็นชื่อประมาณนี้ แฮ่ะๆ คนเดียวกัน ครับ เพิ่ง โพสต์ อัตตชีวะประวัติ ตัวเอง ฝากน้องๆที่เคยถามกันที่พันทิป ไว้อันนีั้ ยาวเชียว :) http://pantip.com/topic/30487744
โดย
Dr.Jfk
พุธ พ.ค. 15, 2013 1:18 am
0
6
Re: พบ Dr.JFK หมอนักลุย พุธ15พค 2230 น. moneytalk tnn2
มาลงชื่อ รอชมด้วยครับ :P Dr.JFK อัดเทปไปหรือยังครับ เนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องอะไรครับ รอชมครับ เทป อัดไปแล้ว ออนแอร์ พรุ่งนี้ พุธ15 ครับ tnn2 Truevision 8 เวลา 22:30 -23:30 แล้ว รีรัน วันมะรืน พฤหัส 16 8:30-9:30 คุยเรื่องประสพการณ์ยุคฟองสบู่แตก กับ เรื่อง เบ็ดเตล็ดเยอะหน่อย เรื่องหุ้น มีไม่ค่อยมากนัก ครับ :mrgreen:
โดย
Dr.Jfk
อังคาร พ.ค. 14, 2013 9:39 pm
0
2
Re: พบ Dr.JFK หมอนักลุย พุธ15พค 2230 น. moneytalk tnn2
ขอบคุณอจ. ครับ คุยกันแต่เรือ่ง อื่นๆ จนแทบไม่ได้คุยเรื่องหุ้นเลย นอกจากบาดแผล ในอดีต ที่ ทำให้ต้องหลบลี้จาก ยุทธภพ ไป ยี่สิบปี อิๆ
โดย
Dr.Jfk
อังคาร พ.ค. 14, 2013 7:22 pm
0
3
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
ชีวิตคนมีขึ้นมีลงฉันใด หุ้นก็มีชีวิตเหมือนกัน รายได้ของคนไม่เท่ากันไปตลอด หุ้นก็เหมือนกัน ดังนั้นแต่ละช่วงเวลาทั้งหุ้นและคนก็เปลี่ยนประเภทกันได้ ช่วงหนุ่มยังไม่มีภาระขยันขันแข็ง ก็ควรมีค่าตัวแบบหนึ่งใช้ชีวิตแบบหนึ่ง ช่วงที่เป็นผู้ใหญ่มีรายได้มากเริ่มมีภาะระมีลูกน้อยต้องเลี้ยงดู มีพ่อ แม่ ต้องดูแล ก็ใช้ชีวิตแบบหนึ่ง ช่วงแก่บั้นปลายปลดภาระหมด ลูกโตแล้วก็มีชีวิตแบบหนึ่ง หุ้นก็ไม่ต่างจากคนที่มีวงจรเหมือนกัน ผมชอบการเปรียบเทียบ เกี่ยวกับการมีลูกอันนี้จังเลยครับ เห็นภาพชัดดี :) สำหรับ ดีลนี คงเหมือนได้ลูกแฝดมาทีเดียว30 คนมังคับ เผอิญว่าพ่อรวย คงยังพอถูไถได้บ้าง แต่หลังจากนั้น ซัก 10 -20ปี คงเอามาใช้งานใช้ประโยชน์ได้สมใจ ถ้าพ่อไม่ขาดใจตายไปซะก่อน :) cpall เป็นลูกกตัญญูในสายตาผมสำหรับดิวนี้นะครับ นอกจากตัวเองจะได้โอกาสไปเติบโตในaecแล้วยังช่วยส่งเสริมธุรกิจหลักของครอบครัวด้วยครับ :D อ้าวผมเข้าใจว่า เค้าเปรียบเทียบเป็น CpAll โตแล้ว เริ่มจะออกลูกหลานเป็นภาระถ่วงตัวเองให้ช้าลง แต่รอว่าลูกบุญธรรมอย่างแมคโครที่รับมาเลี้ยงตอนโตแล้วนี่จะช่วยได้คุ้มน้ำพักน้ำแรงที่ที่จ่ายไปมั้ย ซะอีก ;)
โดย
Dr.Jfk
อาทิตย์ เม.ย. 28, 2013 8:57 am
0
1
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
ขอบคุณ มุมมอง และ ความคิดเห็นของเพื่อนๆทุกท่าน เลยครับ อ่านแล้ว ได้ ความเห็นหลากหลาย เปิดมุมมองใหม่ๆให้รอบด้านเพิ่มขึ้น ไ่ม่ผิดหวังเลย กับ สังคมคุณภาพ ด้านการลงทุนที่นี่
โดย
Dr.Jfk
ศุกร์ เม.ย. 26, 2013 12:47 pm
0
4
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
เรื่องชำระดอกเบี้ยคงไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่าไร แต่เรื่องชำระหนี้เงินต้น จำนวน 170,000 ล้านบาทซิครับ ไม่รู้ว่าบริษัทจะนำเงินจากไหนมาชำระ น่าสนใจมากๆ อื่มมมมม ฟังคุณฉัตรชัยว่า นี่ก็น่าคิดเหมือนกัน ถ้าแมคโคร ไม่ได้เติบโต แบบ ไวๆ ลำพัง กำไรทีส่งเข้ามา สมมุติว่า เพิ่มมา ปีล่ะ 10% ตามสมมุติฐานเดิม เงินต้นกว่าจะหมด นี่นานน่าดู แล้วระหว่างนั้น จะเกิดอะไรขึ้น ก็น่าคิด
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. เม.ย. 25, 2013 11:42 pm
0
1
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
ขอบคุณ คุณฉัตรชัย สำหรับ ความเห็น ปล.ตัวเลขข้างบนผม พลาดตรง ภาษีของ CPall กรณีสมมุติปีหน้าโตประมาณ 10% จาก 13990 ล้านมาเป็น 15400 ล้าน คิดภาษี 20% แบบคิดในใจได้ 3800 ล้าน จริงๆ มันต้องเป็น 3080 ล้าน ส่งให้ ตัวเลขกำไร หลังหักภาษีเหลือ 12,320 แต่มันก็ไม่ได้มีผล กระทบ กับเรื่องการชำระหนี้ ให้กับ ตัว Makro ด้วย ผลต่างทางภาษี บวกกับ กำไรของแมคโคร โทษอีกครับ พอ ตัวเลขข้างบนผิด มันเลยทำให้ตัวเลข เคลื่อนไปอีกอย่าง คือ เมื่อ รวมผลได้ทางภาษี จากการตัดดอกเบี้ยจ่ายไป 6000 ล้าน = ได้ลดภาษีไป 1200 ล้าน รวมกับ เงินกำไรหลังหักภาษี จากแมคโคร อีก 4000 ล้่าน ก็จะได้ รวมกันราวๆ 5200 ล้าน ดังนั้นในปีแรกๆ ส่วนนี้หักกับ ดอกเบี้ยหนี้ อาจจะยังขาดอีกเล็กน้อย
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. เม.ย. 25, 2013 10:55 pm
0
2
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
ขอบคุณ คุณฉัตรชัย สำหรับ ความเห็น ปล.ตัวเลขข้างบนผม พลาดตรง ภาษีของ CPall กรณีสมมุติปีหน้าโตประมาณ 10% จาก 13990 ล้านมาเป็น 15400 ล้าน คิดภาษี 20% แบบคิดในใจได้ 3800 ล้าน จริงๆ มันต้องเป็น 3080 ล้าน ส่งให้ ตัวเลขกำไร หลังหักภาษีเหลือ 12,320 แต่มันก็ไม่ได้มีผล กระทบ กับเรื่องการชำระหนี้ ให้กับ ตัว Makro ด้วย ผลต่างทางภาษี บวกกับ กำไรของแมคโคร
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. เม.ย. 25, 2013 10:34 pm
0
2
Re: งง กับราคาปิด
ถ้ามันเป็นอย่างนั้นตลอดเวลามันก็น่าจะต้องปิดที่ 2.12 นะครับ ผมไม่แน่ใจว่า ตอนไม่ได้มองจอก่อน จะปิดตลาด มีใครตั้งแทรก 2.10 ขึ้นมาอีกจำนวนนึง เช่น 2.10 4000 หุ้น ดังนั้นจากเดิม bid offer 6000 2.12 ATO 6000 XXXX 2.08 2.12 XXXX XXXX 2.06 2.14 XXXX มันอาจจะแว่บ เข้ามากลายเป็น bid offer 6000 2.12 ATO 6000 4000 2.10 2.12 XXXX XXXX 2.08 2.14 XXXX แล้วในขณะเดียวกัน ก็มึคน Key ฝั่ง Offer เพิ่ม ATO เข้ามา จำนวนเท่ากับ ปริมาณ คนที่ตั้ง 2.10 ไว้ พอดี ก็จะกลายเป็น bid offer 6000 2.12 ATO 10,000 4000 2.10 2.12 XXXX XXXX 2.08 2.14 XXXX อย่างนี้ มันก็จะกวาด 2.12 หมด และเก็บ 2.10 หมดไปพอดี เหลือปิดเป็นดังนี้ bid offer XXXX 2.08 2.12 XXXX XXXX 2.06 2.14 XXXX XXXX 2.04 2.16 XXXX แบบว่า ถ้าเราอาจจะไม่ได้จ้องดูตัวนี้ตลอด พอมันแว่บเข้ามา แล้ว คนจ้องจะทำปิดต่ำ ก็เล็งไว้แล้ว ก็เลย จัดการสอยเลย นอกจากนั้นก็นึกไม่ออกครับ ว่าเป็นได้อย่างไร อิๆ ไม่มีครับ ปิด
[email protected]
แถมเมื่อปิดแล้ว Bid ที่ดีที่สุด (แถวแรก)2.80 ประมาณ 18000 Offer 2.12 ประมาณ 9000 Match ตอนปิด 2.10 จำนวน 6000 คนนี้ได้ทั้งหมด ถ้าระบบถูกต้อง ปิดควรเป็น 2.12 เพราะ case นี้ bid มีราคา แต่ offer atc Logic ระบบมันเพี้ยงหรือเปล่า ถ้าเพี้ยง case นี้ใครเสียหาย คนขาย ราคาปิด ส่วนคนซื้อได้ของถูกไปช่อง ทดสอบระบบของจริงทำไมไม่เป็นไปตามเอกสารที่ ตลท ออกไว้ละ Case นี้ เห็นๆๆ :) อ้าวววววววววววว ถ้า Volume แม้ท 6000 ด้วย แล้วปิด 2.10 ด้วยระบบต๊องแล้ว :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: ยกเว้นอีกที ก็คือ อย่างที่ว่า เกิดแว๊บที่ดูไม่ทัน แล้ว คนตั้ง Bid ขยับ 6000 จาก 2.12 ลงไป 2.10 เท่านั้น
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ เม.ย. 06, 2013 9:44 am
0
0
Re: == รบกวนเพื่อนๆ ช่วยเข้ามาดูหน่อยครับ เรื่องการปรับสิทธิ
ด้วยความสงสัย อีก ก็เลย จับมันรวม ทังสองขั้นตอน เป็นครั้ง เดียวกัน คือ คิดรวมทั้งการเพิ่ม W และ การเพิ่มทุนเข้ามาคำนวนพร้อมกัน ก็ได้ ผลต่างกันไปอีก ดังนี้ Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 3 บาท Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 0.333 MP ราคาตลาดของหุ้นสามัญเฉลี่ย 14 วัน = 2.93 A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ก่อนการเปลี่ยนแปลง = 510 ล้านหุ้น B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ + หุ้นที่ออกมารองรับ W = 3876 ล้านหุ้น BX ค่าแปลง 1.20 /หุ้น X 1326 = 1591.2 M + ค่าหุ้นเพิ่มทุน .75 X 2550M หักค่าใช้จ่าย คิด 1900 M รวม 3491.2 M คำนวนราคาใช้สิทธิ์ใหม่ Price 1 = 3 X [(510M X 2.93)+3491.2 M ] / 2.93(510M+3876M) = 3 X [1494.3M + 3491.2 M ] / 2.93(4386M) = 3 X 4,985.5M / 2.93(4386M) = 14,956.5M / 12,850.98M) = 1.16 สัดส่วนการใช้สิทธิ์ใหม่ ratio 1 = 0.333 X 2.93(510M+3876M) / [(510M X 2.93)+3491.2 M ] = 0.333 X 2.93(4386M) / [1494.3M + 3491.2 M ] = 0.333 X 12,850.98M / 4,985.5M = 4,279.376 / 4,985.5M = 0.858 กลายเป็นได้ตัวเลขใหม่อีกชุด เอามาเปรัยบเทียบกัน คิดรวมกัน พร้อมกันทีเดียว ราคาใช้สิทธิ์ 1.16 บาท อัตราการใช้สิทธิ์ 1:0.858 คิดเพิ่มทุนก่อน แล้ว ค่อย คิด จากW ราคาใช้สิทธิ์ 0.933 บาท อัตราการใช้สิทธิ์ 1:1.07 คิดเพิ่ม W ก่อน แล้ว ค่อย คิดเพิ่มทุน ราคาใช้สิทธิ์ 0.97469 บาท อัตราการใช้สิทธิ์ 1:1.025 ปล.ผมไม่ได้เอาหุ้นสามัญที่อาจจะต้องออกมารองรับการแปลงสิทธิ์ ของ W3 ที่อาจจะเพิ่มขึ้นมา ใส่ไว้นะครับ เพราะว่ายังไม่ทราบตัวเลขแน่นอน และคิดว่าไม่มากด้วย แต่คิดด้วยเลขชุดเดียวกัน แต่คิดคนล่ะ Process ทำไม ค่ามันต่างกันล่ะ แล้วตกลงมันผิดตรงไหน แล้ว ต้องคิดอย่างไรกันล่ะครับ รบกวนเพื่อน ช่วยดู และให้คำแนะหน่อยครับ
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ เม.ย. 06, 2013 2:34 am
0
0
Re: == รบกวนเพื่อนๆ ช่วยเข้ามาดูหน่อยครับ เรื่องการปรับสิทธิ
ตอนแรกคิดว่า โอเคแล้ว แต่ นึกอีกที ลองเช็คสิ ว่าถ้าคิดสองขั้นตอนเหมือนกัน แต่แยกคิดจากการออก W ก่อน แล้ว ค่อยมาคิดการเพิ่มทุนล่ะ จะเท่ากันมั้ย คิดไว้ ว่ามันควรจะเท่ากัน แต่เอาจริง มันไม่เท่า กัน ซะแล้ว ผิดตรงไหนล่ะเนี่ย ขั้นตอนหนึ่ง คิด จากการเพิ่ม W ก่อน Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 3 บาท Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 0.333 MP ราคาตลาดของหุ้นสามัญเฉลี่ย 14 วัน = 2.93 A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ก่อนการเปลี่ยนแปลง = 510 ล้านหุ้น B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ที่ออกมารองรับ W =1,326 ล้านหุ้น BX (วอร์แล้นต์รอบนี้แจกฟรีไม่ได้ขาย ค่าแปลง 1.20 /หุ้น X 1326 = 1591.2 M คำนวนราคาใช้สิทธิ์ใหม่ Price 1 = 3 X [(510M X 2.93)+1591.2 M ] / 2.93(510M+1,326M) =3 X [1494.3M+1591.2 M ] / 2.93(1,836M ) =3 X [ 3085.5M ] / 2.93(1,836M ) = 9256.5M/5379.48M =1.72070 สัดส่วนการใช้สิทธิ์ใหม่ ratio 1 = 0.333 X [2.93(510+1,326M)] / [(510M X 2.93)+1591.2 M ] =0.333 X 2.93(1,836M) / 1494.3M+1591.2 M =0.333 X 5379.48M / 3085.5 M =1,791.3668M/ 3085.5 M = 0.58067 มาขั้นตอนที่สอง ปรับ ตามการเพิ่มทุน Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 1.72070 บาท Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 0.58067 MP ราคาตลาดของหุ้นสามัญเฉลี่ย 14 วัน = 2.93 A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ก่อนการเปลี่ยนแปลง = 1,836 ล้านหุ้น B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ที่ออกมารองรับ W = 2550 ล้านหุ้น BX ค่าหุ้นเพิ่มทุน 1900 M Price 1 = 1.72070 X [(1836M X 2.93)+1900M ] / 2.93(1836M+2550M) = 1.72070 X [ 5379.48M+1900M ] / 2.93(4386M) = 1.72070 X 7279.48 M / 12,850.98M = 1.72070 X 7279.48 M / 12,850.98M =12,525.8012/12,850.98M =0.97469 Ratio 1 = 0.58067 X 2.93(1836M+2550M) / [(1836M X 2.93)+1900M ] = 0.58067 X 2.93(4386M) / [ 5379.48M+1900M ] = 0.58067 X 12,850.98M / [ 5379.48M+1900M ] = 0.58067 X 12,850.98M / 7279.48 M = 7462.1M/7279.48 M =1.025 สรุป ราคา ใช้สิทธิ์ = 0.97469 บาท สัดส่วน 1W : 1.025 หุ้นแม่ กลายเป็นไม่เท่ากัน แฮะ
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ เม.ย. 06, 2013 2:21 am
0
0
Re: == รบกวนเพื่อนๆ ช่วยเข้ามาดูหน่อยครับ เรื่องการปรับสิทธิ
การหา ราคา MP ตามสูตร ข้างบน กรณีนี้ บริษัท ขึ้น XA วันที่ 4 ดังนั้นราคาถัวเฉลี่ย 14 วันทำการก่อน XA มีมูลค่าการซื้อขาย และ ปริมาณการซื้อขายทั้งหมด ได้ ดังนี้ มูลค่า จำนวนหุ้น 15/3 51.99 50,779,500 18/3 51.46 51,139,800 19/3 72.98 74,949,400 20/3 48.89 51,295,700 21/3 21.27 22,471,500 22/3 48.19 55,170,800 25/3 20.43 23,509,500 26/3 12.76 14,095,600 27/3 160.98 162,162,700 28/3 79.65 80,092,600 29/3 49.82 50,392,300 1/4 101.37 101,178,400 2/4 115.35 115,470,400 3/4 88.6 31,032,800 (93,098,400) ในวงเล็บ แปลงเป็นพาร์ 10 เท่าวันอื่น รวม 923.74 945,806,600 ราคาเฉลี่ย = 923,740,000/945,806,600 = 0.97667 บาท จับรวบ คูณ 3 ให้เป็นพาร์ใหม่ได้ = 2.93 บาท นั่นคือ ราคาตลาดเฉลี่ยตาม Parใหม่ ที่รวบแล้ว 14 วันทำการ (MP) = 2.93 ลองมาคำนวนกัน โดยแบ่งเป็นสองขั้นตอน ขั้นแรกนี้เป็นการ เป็นการปรับสิทธิ์ จากการออกหุ้นเพิ่มทุน หลัง จากที่ปรับมาแล้วจากการรวบพาร์ Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 3 บาท Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 0.333 MP ราคาตลาดของหุ้นสามัญเฉลี่ย 14 วัน = 2.93 A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น = 510 ล้านหุ้น B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ = 2550 ล้านหุ้น BX = เงินที่ได้จากการเพิ่มทุน ครั้งนี้ ถ้าขายได้หมด ก็ใกล้เคียงกับ 2550 X 0.75 = 1912.5 ล้าน หักด้วยค่าใช้จ่าย แต่ ตัวเลขตรงนั้นค่อนข้างน้อย ใช้ตัวเลขถ้วนๆ 1900 ล้าน ราคาใช้สิทธิ์ใหม่ Price 1 = 3 X [(510MX 2.93) + 1,900M] / 2.93 (510M+2,550M) = 3 X [1,494.3M+1,900M] / 2.93(3,060M) = 3 X 3394.3M / 2.93 (3,060M) =10,182.9M / 8,965.8M = 1.1357 บาท สัดส่วนการใช้สิทธิ์ใหม่ ratio 1 = 0.333 X [ 2.93(510M+2550M] / [(510MX2.93) + 1900M] = 0.333 X [ 2.93(3060M] / [1494.3M + 1900M] = 0.333 X 8,965.8M /3394.3M = 0.8795956 นั่นคือ เมื่อคิดรวม การออกหุ้นเพิ่มทุน อัตรา 5:1 ราคาใช้สิทธิ์ .75 บาท ถ้าขายได้หมด จะปรับสิทธิ์ดังนี้ สัดส่วนการแปลง 1 W : 0.8795956 หุ้นแม่ และ ราคาใช้สิทธิ์ เปลี่ยนเป็น 1.1357 บาท ขั้นตอนที่ สองปรับตาม W ที่ออกมาในรอบนี้ ที่มีสูตรเหมือนกัน(ตามลิ้งค์ข้างบน) แต่ว่า BX ) คือเงินที่ได้จากการออก W นี้ ทั้งราคาขาย W และ เงินที่ได้จากการแปลง Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 1.1357 บาท Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง = 0.8795956 MP ราคาตลาดของหุ้นสามัญเฉลี่ย 14 วัน = 2.93 A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ก่อนการเปลี่ยนแปลง = 3060 ล้านหุ้น B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ที่ออกมารองรับ W =1,326 ล้านหุ้น BX ค่าแปลง 1.20 /หุ้น X 1326 = 1591.2 M คำนวนราคาใช้สิทธิ์ใหม่ Price 1 = 1.1357 X [(3060M X 2.93)+1591.2 M ] / 2.93(3060M+1,326M) = 1.1357 X [8965.8M+1591.2M] / 2.93(4,386M) = 1.1357 X [10,557M]/2.93(4,386M) = 11,989.58/12,850.98 = 0.933 บาท สัดส่วนการใช้สิทธิ์ใหม่ ratio 1 = 0.8795956 X [2.93(3060M+1,326M)] / [(3060M X 2.93)+1591.2 M ] = 0.8795956 X [2.93(4386M] / [ 8965.8M + 1591.2 M ] = 0.8795956 X [12,850.98M]/ 10,557M =11,303,665M/10,557M = 1.07 สรุปเมื่อคิดแบบนี้ รวมทังสองขั้นตอนแล้ว ราคา ใช้สิทธิ์ ใหม่ ของ GEN-W3 จะเป็น = 0.933 บาท และ สัดส่วน เป็น 1W : 1.07 หุ้นแม่
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ เม.ย. 06, 2013 2:16 am
0
0
Re: == รบกวนเพื่อนๆ ช่วยเข้ามาดูหน่อยครับ เรื่องการปรับสิทธิ
ทีนี้ จากการที่เค้ายังไม่ได้ปรับสิทธิ์ ผมเลย มาลองคิดคำนวนดูตามสูตรที่เค้ากำหนดไว้ในหนังสือ ข้อมูลหลักทรัพย์ ของ GEN-W3 ที่กำหนดสูตรไว้ดังนี้ (ดูรายละเอียดในลิ้งค์ ของตลาดต้นฉบับได้ครับ) การปรับสิทธิ์ W ตามการขายหุ้นเพิ่มทุน.gif พอคิดแล้วเกิดปัญหา รบกวนเพื่อนๆช่วยดูนะครับ ว่ามันผิดพลาดตรงไหน งง หาไม่เจอว่ามันผิดพลาดตรงไหน
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ เม.ย. 06, 2013 2:07 am
0
0
Re: งง กับราคาปิด
ถ้ามันเป็นอย่างนั้นตลอดเวลามันก็น่าจะต้องปิดที่ 2.12 นะครับ ผมไม่แน่ใจว่า ตอนไม่ได้มองจอก่อน จะปิดตลาด มีใครตั้งแทรก 2.10 ขึ้นมาอีกจำนวนนึง เช่น 2.10 4000 หุ้น ดังนั้นจากเดิม bid offer 6000 2.12 ATO 6000 XXXX 2.08 2.12 XXXX XXXX 2.06 2.14 XXXX มันอาจจะแว่บ เข้ามากลายเป็น bid offer 6000 2.12 ATO 6000 4000 2.10 2.12 XXXX XXXX 2.08 2.14 XXXX แล้วในขณะเดียวกัน ก็มึคน Key ฝั่ง Offer เพิ่ม ATO เข้ามา จำนวนเท่ากับ ปริมาณ คนที่ตั้ง 2.10 ไว้ พอดี ก็จะกลายเป็น bid offer 6000 2.12 ATO 10,000 4000 2.10 2.12 XXXX XXXX 2.08 2.14 XXXX อย่างนี้ มันก็จะกวาด 2.12 หมด และเก็บ 2.10 หมดไปพอดี เหลือปิดเป็นดังนี้ bid offer XXXX 2.08 2.12 XXXX XXXX 2.06 2.14 XXXX XXXX 2.04 2.16 XXXX แบบว่า ถ้าเราอาจจะไม่ได้จ้องดูตัวนี้ตลอด พอมันแว่บเข้ามา แล้ว คนจ้องจะทำปิดต่ำ ก็เล็งไว้แล้ว ก็เลย จัดการสอยเลย นอกจากนั้นก็นึกไม่ออกครับ ว่าเป็นได้อย่างไร อิๆ
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ เม.ย. 06, 2013 12:59 am
0
0
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ก่อนจะหวังให้ใครมาจริงใจกับเรา ควรคิดก่อนว่าเราจริงใจกับเขาก่อนหรือยัง กล้าพอไหมที่จะบอกหุ้นที่คิดว่าดีให้กับคนอื่นโดยที่ตัวเองยังไม่ได้ซื้อ และกล้าพอไหมที่จะบอกว่าเราคิดว่าน่าจะขายโดยที่ไม่ได้ขายออกไปก่อน ผมว่าถ้าเรายังไม่กล้าพอที่จะทำแบบนั้น ก็คงยากครับ ที่จะ "สอบผ่าน" เรื่องความจริงใจ ขอแย้งประเด็นนี้ครับ ถ้าหุ้นดีจริงทำไมต้องบอกคนอื่นก่อนแล้วค่อยซื้อล่ะครับ ถ้าเป็นผมมีคนมาบอกว่าตัวนี้ดี แต่ยังไม่ซื้อ ผมอาจตีความได้ว่า ถ้าดีจริงทำไมไม่ซื้อล่ะ ที่รอดูอยู่เพราะยังไม่แน่ใจรึเปล่า และถ้าบอกว่าเสี่ยง แต่ตัวเองยังไม่ขาย ผมก็สงสัยอีกว่า ถ้ามันอันตรายจริง ทำไมถึงถือรอดูอยู่ล่ะ ถ้าจริงใจ ควรจะไปนั่งด้วยกัน แล้วเคาะซื้อเคาะขายให้เห็นจะๆ สิเรียกว่าจริงใจ พูดจริง ทำจริง แต่ที่ดีกว่านั้น คือ สอนหรือแชร์ไอเดียเทคนิคตกปลากันดีกว่าครับ ส่วนเวลาไปตกปลาจริงๆ ก็บ่อใครบ่อมัน คุณจะคิดแบบนั้นก็คงจะได้มั๊งครับ แต่ระหว่างซื้อแล้วค่อยมาบอกกับบอกก่อนที่จะซื้อ คุณจะเชื่อใครมากกว่ากัน อันนี้ไปคิดกันเอาเองนะครับ ใครจะมองมุมไหนก็แล้วแต่ครับ เพราะปัญหาที่มักจะได้ยินมาก็คือเก็บหุ้นหมดเรียบร้อยแล้วค่อยมาบอก ทิ้งหมดเรียบร้อยแล้วค่อยมาบอก อย่างที่คุณ AQUA บอกเรื่องสัจจะความจริงใจ ถ้ารู้จักกันไปนาน ๆ บอกหุ้นมาสิบครั้งซื้อก่อนทั้งสิบครั้ง มันก็ชวนให้คิดว่าต้องการอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า แต่ถ้ามีซื้อก่อนบ้างบอกก่อนบ้างผมว่ามันก็ยังโอเคครับ "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนครับ" และผมเชื่อว่าถ้าถึงระดับที่ไว้ใจกันมาก ๆ ก็คงไม่ต้องมาบอกอะไรกันมากด้วยซ้ำครับ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ต่างฝ่ายต่างเคารพการตัดสินใจของกันและกัน แต่ไม่ใช่มายืมมืออีกฝ่ายหนึ่งมาดันหุ้นให้ มาทุบให้ครับ ขอเสริมตรงนี้นิดนึง ก่อนจะบานปลาย คือผมมองว่าเหมือนการคบเพื่อนธรรมดาหรือคบแฟนนั่นแหละ ถ้าคบๆกันไป อาการมันออก เราคงรู้เองว่ามันใช่หรือไม่ใช่ คงไม่มีใครโง่ถูกหลอกไปตลอด จริงมั๊ยครับ เรื่อง การบอกหุ้น ผมว่า คนที่ฟัง แล้วซื้อตามทันที ทุกคร้ืง มัน ไม่ใช่นักลงทุนแล้ว ผมว่า การที่มีคน แนะนำหุ้น มันดี ตรงที่ ทำให้เราทราบว่ามีคนสนใจหุ้นตัวน้น มันอาจจะมีดีอะไร เราก็เข้าไปดู ศึกษา ว่ามันดีจริงม้ืย แล้ว เลือกว่ามันเหมาะกับเรามั้ย แล้วค่อยตัดสินใจ คือมันช่วยเรากรอง หุ้นออกมาจาก ห้าร้อยกว่า ตัวให้เหลือน้อยลง ดุและติดตามได้ง่ายขึ้น เหมือนเราไปเซียงกง จะหาอะไหล่ ถ้าเดินเข้าไปในโกดังรวมคงหาไรไม่เจอ แต่ว่า ถ้ามีคนแยกกองไว้ให้เลือกบ้าง ก็เลือกได้ง่ายขึ้น ส่วนเพื่อนที่ คบกันมาระยะนึง เราจะพอดูได้ ว่า เค้าเก่งแค่ไหน จริงใจแค่ไหน สมควรเชื่อมากน้อยแค่ไหน และ ควรให้ความสนใจมากแค่ไหน โดยส่วนตัว ผมเองคิดว่า การมีเพื่อน มีคน ให้ข้อมูล แ้ล้วเราเอามากรองอีกที มีประโยชน์ กว่าการปิดตัวเองไม่รับรู้อะไร แต่ทั้งนี้ทั้งน้น คนที่ภูมิต้านต่อการชักจูงต่ำ ต้องระวัง ความคล้อยตามง่ายเป็นพิเศษด้วยครับ ผมเองถ้าเพืื่อนถามเรื่องหุ้น ก็แชร์ด้วย แต่ ว่าก็จะเตือนให้เค้าหาข้อมูล และตัดสินใจเพิ่ม เราิเห็นจุดไหน น่าสังเกตุ ตั้งขอสงสัย ก็ บอกเค้า คือผมเอง ไม่ใช่คนเก่ง แต่ว่า ถ้าความจริงใจให้เพื่อนๆ ผมว่า ผมเกินร้อย :mrgreen: :mrgreen:
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. มี.ค. 21, 2013 12:52 pm
0
13
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ขอตอบเรื่องหนังสือนะครับว่าไม่อ่านของใครเลย เพราะในเมื่อเราจะเลือกที่จะคิดก่อนคนอื่น เราก็ไม่จำเป็นต้องตามคนอื่น จริงมั๊ยครับ แต่สิ่งที่คิดว่าควรจะต้องศึกษาก็คือหลักการบัญชีและการอ่านงบให้เป็น ซึ่งตรงนี้ถ้าไม่เป็น จะทำยังไงดีหว่า ขอแนะนำห้องร้อยคนร้อยหุ้น ช่วยท่านได้ครับ ปัจจัยที่ประสพความสำเร็จอีกอย่างที่สำคัญคือมีเพื่อนดีครับ มีเงินซื้อของได้ แต่ซื้อเพื่อนดีๆไมได้นะ การจะมีเพื่อนดีที่สำคัญเราต้องมีสัจจะและความจริงใจกับคนอื่นๆ เสี่ยหลายๆคนเล่นหุ้นยิ่งรวย ยิ่งเพื่อนน้อย เพราะหักกันเอง ผมก็ไม่เข้าใจ บางคนมีเป็นร้อยๆล้าน แต่พอมาร์คีย์ผิด ต้องcover order ดันแย่งซื้ออีก เล่นหุ้นไม่จำเป็นต้องเอาทุกเม็ดหรอก แบ่งกันกินก็ได้ การมีเพื่อนดีช่วยมองช่วยคิด จะทำให้เรามองได้กว้างขึ้น ไม่ bias ไม่คิดไปเองคนเดียว มีพี่ๆน้องๆหลายคนเอาหุ้นดีๆมาบอก (จะให้ช่วยมองหรือช่วยไล่ อันนี้แล้วแต่จะมอง) ผมจะเอามาวิเคราะห์ หาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วแชร์กัน ไม่แอบซื้อก่อน ต้องให้เครดิตคนบอกครับ หุ้นไม่ได้เล่นกันสองคน จริงๆถึงแม้ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้อยู่แก่ใจ อีกอย่าง ความลับไม่มีในโลก ถ้าวันใดเค๊ารู้ความจริง เค๊าก็จะไม่เชื่อถือเราอีกต่อไป อ่าน ข้างบนแล้วโดนครับ เงินซื้อเพื่อนไม่ได้ รวมทั้งประเด็นแชร์กับเพื่อน กับมีน้ำใจให้คนรอบข้าง ยิ่งไอ้ตรง มาร์คีย์ผิด แล้ว ดัน จะไปแย่งซื้อ อีก นี่ สุดยอดเลย ถ้าเป็นผมเป็นเพื่อนผมก็ขอถอยห่างครับ
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ มี.ค. 18, 2013 11:43 pm
0
3
Re: เปิดมุมมอง 5 กูรูมองโลก สะท้อนไทยปี 2015
ขอบคุณทีนำมาฝากกันครับ
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ มี.ค. 16, 2013 12:10 am
0
1
Re: สังสรรค์VI Q4/55พบกับเฮียคลายเครียดvsพี่มือเก่าหัดขับ
เสียดายที่ลงทะเบียนไม่ทัน พลาดงานนี้ เอาไว้งานหน้าต้องคอยเช็คหน้าแรกบ่อยๆ มัวแต่เข้าหน้ารอยคนร้อยหุ้น ตลอด ไม่ผ่านหน้าแรกตกข่าว อิๆ
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ มี.ค. 16, 2013 12:09 am
0
0
Re: ดี-เกิน-ไป/คนขายของ
ขอบคุณ ครับ สรุป ว่่าถ้า เจออะไร ที่มันดูดีเหลือเชื่อ ก่อนจะเชื่อให้คิดให้หนักๆ หรือ ไม่ก็อย่าไปเชื่อมันเลย ดีกว่า ใข่มั้ย คับ อิๆ
โดย
Dr.Jfk
เสาร์ มี.ค. 16, 2013 12:07 am
0
1
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ขอบคุณ คุณ AQUA ครับ รวมถึง พี่หมอ JFK รวมถึงทุกคน ผมเข้าตลาดช้า ประมาณ 6 ปี เป็นเม่าเล่นสนุกๆ เล่น 1 ปีขาดทุน 70,000 เพราะไม่คัทลอส หยุดไป 6 ปี เพราะต้องทุ่มเวลาและกำลังไปกับการสร้างธุรกิจของครอบครัว กว่าจะมาถึงวันนี้ได้สาหัสมาก ตอนนี้อยู่ตัวก็เลยมาดูหุ้น ระหว่างทางก็เล่นด้านอสังหาอย่างเดียวเลย เพราะโอกาสอยู่กับตรงนั้น เพราะ port น้ำพักน้ำแรง ผม กลับเป็น อสังหา 95 % ตอนนี้ถึงครึ่งทาง 100 ล ครับ ใน 6 ปี (เทียบกับรายรับต่อเดือนเมื่อฝากประจำในธนาคาร) และไม่นับ หุ้นในธุรกิจครอบครัวมูลค่าธุรกิจ xxx ล. ใน 5 ปีที่เหลือ กะให้ port ส่วนตัวครบ 100 ล แล้วออกจากราชการเสียที ผมชอบหุ้น turn around เหมือนกัน มองหุ้นวัฏจักร ------------->ต้องรอคอยอีก 2-3 ปี ถึงจะได้ฟันหนักๆ และชอบ warrant ดีดี เหมือนกัน port หุ้นเพิ่งใกล้ 7 หลักเดือนนี้เอง ระยะสั้นกำไรจาก technical ล้วนๆ ศึกษาลู่ทางเผื่อพาธุรกิจครอบครัวเข้าตลาด MAI อิอิอิ กระทู้พี้หมอในพันทิพเพิ่มทุน ลดทุน มีประโยชน์มากๆเลยครับ อิอิอิ http://static.asiarooms.com/hotelphotos/laterooms/178051/gallery/baan-yuree-resort-spa-phuket_170520111147082874.jpg ยินดีที่ได้เจอสมาชิก สินธร ที่นี่อีกแล้ว ครับ ขอบคุณที่แชร์เป้าหมายและประสพการณ์ กันครับ
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. มี.ค. 14, 2013 2:29 pm
0
2
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
แหมพี่หมอก็รวยอยู่แล้วนิ แต่ผมชอบความเร็วเหมือนพี่หมอครับ เพียงแต่ไม่ชอบ 2 ล้อเท่านั้นเอง ผมแค่พอมีพอใช้ ครับ แต่เป็นคนใช้เยอะ หน่อย (เมื่อเทียบกับรายได้ และเงินเก็บ) ตอนนี้ เลยต้องมานั่งปั้นพอร์ต ให้มันสมดุลกับรายจ่าย แล้วก็จะพักงานซักที อิๆ
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ มี.ค. 11, 2013 10:29 pm
0
1
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกัน แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI กลับมาต่อค่ำๆครับ :D :D :D คาราวะฝีมือด้วยคน ผม ตอนสิบกว่าๆ นี่ก็เล่น W เหมือนกัน แต่ เก่งน้อยกว่า คุณ Aqua เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ อิๆ พี่หมอเจครับ เราเคยเจอกันตอน meeting ห้องรัชดา นานนนนมาแล้วครับ อ้าวววววว แหม คนรู้จักกัน ตอนรวย ไม่มาชวนกันรวยมั่ง อิๆ วันหลังต้องรบกวนปรึกษา บ้างแล้วคับ อิๆ ผมเองก็อ่านที่คุณหมอโพส ใน pantip มาเป็นสิบปีแล้วนะ แต่ไม่เคยคุยด้วย ผมว่าที่คุณ*AQUA*ไม่ชวนนั่นก็เพราะ งานอดิเรกคุณหมอเจคือ ปีนเขา ขึ้นดอย ผมว่ามันไม่เข้ากันกันเรื่องหุ้นนะ :D :D :D ก๊ากๆๆๆๆๆๆ :mrgreen: :mrgreen: แถมดอยผม แต่ล่ะดอย หนาว ลบ35 - ลบ 40 C เลย หนาวมาก อิๆ
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ มี.ค. 11, 2013 10:21 pm
0
1
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกัน แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI กลับมาต่อค่ำๆครับ :D :D :D คาราวะฝีมือด้วยคน ผม ตอนสิบกว่าๆ นี่ก็เล่น W เหมือนกัน แต่ เก่งน้อยกว่า คุณ Aqua เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ อิๆ พี่หมอเจครับ เราเคยเจอกันตอน meeting ห้องรัชดา นานนนนมาแล้วครับ อ้าวววววว แหม คนรู้จักกัน ตอนรวย ไม่มาชวนกันรวยมั่ง อิๆ วันหลังต้องรบกวนปรึกษา บ้างแล้วคับ อิๆ
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ มี.ค. 11, 2013 9:25 pm
0
1
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ขอถาม คุณ *AQUA* ครับ ว่า แนวทางการลงทุน หรือ วิธีการลงทุน มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไร ครับ เช่น สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ หรือไม่? ประเภทของหุ้นที่ลงทุนเปลี่ยนหรือไม่? รายละเอียดต่างๆ แล้วแต่จะกรุณา แบ่งปัน ครับ ขอบคุณครับ เท่าที่นึกได้นะครับ เอาหลังวิกฤตปี 2540 แล้วกัน แนวทางการลงทุน ในช่วงที่ port หลักสิบล้าน จะเน้นลงทุนใน warrant ของตัวที่คิดว่าดีในแต่ละยุคนั้นๆ port จะโตได้เร็ว เช่น scb-c1 spl-w kk-w3 kk-w4 แต่ช่วงนี้ warrant ดูไม่ค่อยมีตัวน่าสนใจ ไม่เหมือนเมื่อ 5-10 ปีก่อน หลักต้นๆร้อยก็ยังเน้นเหมือนเดิม แต่จะถือควบคู่กันไป เน้นหุ้น trunaround ในสมัยนั้นๆ ช่วงปี 2546 ก็เช่น TDT THL (ตอนนี้เจ๊งไปหมดแล้ว บริษัทพวกนี้) หุ้นวัฎจักร PSL TTA STA ATC และหุ้นใหญ่ๆที่ตอนนั้นใครๆต้องเล่น PTT PTTEP พอ 300-400 ก็เปลี่ยนมาเก็บน้อยๆตัว ไม่เกิน4-5ตัว แต่มองให้ขาดว่ามันจะใช่หรือไม่ โดยซื้อแรกๆไม่เยอะ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งภาพอุตสาหกรรม,ผู้นำตลาดและคู่แข่งที่สำคัญคือจิตวิทยาการลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ อย่าทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด ถ้าราคาใช่ ก็ซื้อเยอะๆ แล้วเก็บยาว ที่ได้กำไรและขายไปแล้วเช่น JAS SIRI กลับมาต่อค่ำๆครับ :D :D :D คาราวะฝีมือด้วยคน ผม ตอนสิบกว่าๆ นี่ก็เล่น W เหมือนกัน แต่ เก่งน้อยกว่า คุณ Aqua เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ อิๆ
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ มี.ค. 11, 2013 5:32 pm
0
1
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ผมเป็นคนชอบถ่ายรูปเป็นงานอดิเรก ผมเคยอ่านในเวปกล้องเมืองนอกนานมาแล้ว มีตากล้องมือใหม่เขียนถามตากล้องมืออาชีพในเวปบอร์ดว่า ผมเป็นมือใหม่ต้องการเป็นตากล้องมืออาชีพ ผมสนใจจะซื้อกล้องรุ่นxxราคาแสนกว่าบาท มีฟังก์ชั่นมืออาชีพครบหมด ผมควรซื้อหรือไม่ ตากล้องมืออาชีพตอบว่า กล้องเทวดาไม่ทําให้คุณเป็นมือโปร ความรักในการถ่ายภาพพื้นฐานความรู้การถ่ายภาพ เทคนิคระดับสูง ความทุ่มเทตื่นตี3ไปโลเกชั่น เตรียมอุปกรณ์รอแสงแรกของพระอาทิตย์ การลุยหิมะตากฝนหลายชั่วโมงให้ได้ภาพที่ต้องการ สิ่งเหล่านี้ต่างหากทําให้คุณเป็นมืออาชีพ ถ้าคุณคิดว่าอุปกรณ์ทําให้คุณเป็นมืออาชีพ แนะนําให้ซื้อปากกาหนึ่งด้ามและเป็นStephen King เพราะปากกาถูกกว่ากล้อง และไม่มีตากล้องคนไหนรวยเท่าStephen King ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่านักลงทุนระดับเซียนทั้งหลาย ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเป้าหมายเป็นตัวเงินมากมายเท่าไหร่ เพราะคนเหล่านี้รู้อยู่แล้วว่าถ้าคุณมีปัจจัยพื้นฐานที่ครบถ้วน ความสําเร็จของตัวเงินเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนเพียงแต่ช้าเร็ว ถ้าคุณรักในการลงทุน มีพื้นฐานการวิเคราะห์หุ้นที่ถูกต้องแม่นยํา เข้าใจในการวิเคราะห์ธุรกิจประเภทต่างๆ มีพื้นฐานทางบัญชีและการงิน มีเงินทุน มีความสามรถรอคอยอดทนอดกลั้น มีอารมณ์ที่สงบนิ่งไม่หวั่นไหวง่าย ฯลฯ ถ้าคุณมีเหตุปัจจัยครบ ความสําเร็จตามเป้าหมายเป็นสิ่งที่คาดคะเนได้อยู่แล้ว ประด็นคือคนจํานวนมากที่โพสท์ตามเวปบอร์ดว่าจะมีสิบล้านร้อยล้าน แต่ไม่ได้มีปัจจัยพื้นฐานหรือความพยายามทุ่มเทอย่างหนักเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น สําหรับคนเหล่านี้ตัวเลขอาจเป็นเพียงแค่ความเพ้อฝัน อีกอย่างการเพ่งมองแต่เป้าหมายอย่างเดียว อาจทําให้พลาดบางอย่างในชีวิต เหมือนคุณขับรถด้วยความเร็วๅ150 เพื่อจะไปให้ทันดูพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม แต่ระหว่างทางคุณอาจไม่ทันได้มองดอกไม้สวยงาม ที่ออกดอกแค่ปีละไม่กี่วัน มองไม่เห็นเด็กน้อยน่ารักที่โบกมือให้คุณ รวมทั้งไม่รู้ตัวว่าคุณขับรถเร็ว ทําให้นํ้าสาดโดนคนข้างทาง ชีวิตที่ช้าลงบ้างอาจให้ความหมายบางอย่างที่คุณนึกไม่ถึง :8) [/color] เห็นประโยคนี้แล้วทำให้นึกถึงตอนทำขายตรง พุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างเดียวไม่ต้องคิดเรื่องอื่นเลย จนเกือบลืมชมดอกไม้ข้างทาง แต่ณตอนนี้ค่อนข้างแตกต่างออกไปเพราะหลังจากที่ผมลงทุนในหุ้นแล้วนั้น ผมก็จะคอยติดตามข่าววันละไม่นานทำให้มีเวลาทำอย่างอื่นมากขึ้น อย่างเช่น ออกกำลังกาย เล่นเกมส์ สังสรรค์ เรียน ทำธุรกิจส่วนตัว etc. ไม่เหมือนตอนทำขายตรงที่วันๆคิดแต่จะเอาคนมาเข้าcenter ให้ได้ จนลืมมองถึงมิตรภาพไปเลย ดีที่ทำได้ไม่นานเพราะเรียนไม่ทัน ผมเองกลับตรงกันข้าม เล่นแวะ ข้างทางตลอดเวลา ไม่ยอมตั้งเป้าหมาย เลย แวะ วนเวียน สนุกกับ ชีวิตไปเรื่อยๆ ก็เลยไม่ถึงเป้าหมายซักที เพราะว่า ไม่ได้ตั้งจริงจัง ตอนนี้เลย เริ่มตั้งเป้าหมาย แล้วกะเวลาไว้หลวมๆ ออกรถ ไปข้างหน้าแต่ยังคงแวะ เวียนมันทุกจุดพัก ระหว่างทาง และออกนอกทางเป็นบางครั้ง แต่ก็ยังคงมีเป้าหมายบ้างล่ะ อิๆ
โดย
Dr.Jfk
อังคาร มี.ค. 05, 2013 12:32 pm
0
1
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ตากล้องมืออาชีพตอบว่า กล้องเทวดาไม่ทําให้คุณเป็นมือโปร ความรักในการถ่ายภาพพื้นฐานความรู้การถ่ายภาพ เทคนิคระดับสูง ความทุ่มเทตื่นตี3ไปโลเกชั่น เตรียมอุปกรณ์รอแสงแรกของพระอาทิตย์ การลุยหิมะตากฝนหลายชั่วโมงให้ได้ภาพที่ต้องการ สิ่งเหล่านี้ต่างหากทําให้คุณเป็นมืออาชีพ :8) ขอนอกเรื่องนิดนึง กล้อง fullframe + เลนส์ L หรือ nano ให้คนเบๆ ถ่าย มันก็ยังงามจริงๆ นะครับ :B เห็นด้วยครับ ฝีมือห่วยได้อุปกรณ์ช่วยหน่อยมัน ก็ยังดีกว่าฝีมือห่วยกล้องห่วย ดูไม่ได้หนักไปใหญ่อิๆ
โดย
Dr.Jfk
อังคาร มี.ค. 05, 2013 12:26 am
0
0
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
ตอนผมเห็นชื่อ login ผมคิดว่าแค่ชื่อพ้องกันกับหมอJFK ที่พันทิพ เมื่อสิบปีก่อนไม่ค่อยมีเว็บหุ้น ผมเข้าไปอ่านพันทิพ จำได้ว่า พี่ดังมากครับ ผมเข้าไปอ่านอยู่ 2 ปีก็ไม่ได้เข้าไปอ่านอีก รู้แต่ว่าพี่วางมือไม่โพสต์เกี่ยวกับหุ้นแล้ว ยังจำได้ว่ายุคนั้น โพสต์กันแรง พวกใบ้หุ้นก็ใบ้แบบบอกชื่อตรง ๆ พวกคอมเมนต์ก็เล่นกันแรง ๆ ยินดีที่พี่กลับเข้ามายุทธจักรหุ้นอีกรอบครับ ใช่ครับ สมัยก่อน พันทิป ดุมากโดยเฉพาะตอนช่วงฟองสบู่แตก ผมเอง ช่วงนั้นเลยถอยห่างออกจากตลาด และ ก็ห่างจากสินธร ออกมา แต่ก็ยังคงติดต่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับเพื่อนๆ น้อง มาเรื่อย แล้ว ก็ไปขลุก กับห้องรถยนต์ และวิทยาศาสตร์ เป็นหลักครับ การตั้งเป้าหมาย เป็นสิ่งที่ดี หากเป้าหมายที่ตั้งขึ้นนั้น ไม่เฟ้อฝันและ หากระหว่างการเดินทาง มันไม่ไปคุกคลามความสูขของตัวเอง หรือ เบียดเบียนเอาของคนอื่นๆ และให้แบ่งปันบ้าง... ตั้งไว้เถอะครับจะ 100ล้าน หรือ 1000ล้าน ก็ตาม :D กระทืบ Like ให้ล้านครั้งเลยครับ ความต้องการ ความอยาก ความชอบ และ การใช้ชีวิต ของแต่ล่ะคน ต่างกันไป คนมีเงินน้อย แต่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย โลกก็มอง ว่า ไม่เจียมตัว ไม่ประมาณตน คนมีเิงินล้นเหลือ แต่ ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัดมากๆ บางที โลกก็ยกย่องว่า สมถะ แต่ บางที ก็ถูกมองว่าขี้เหนียว ไม่ฉลาด มีเงินเสียของ ผมเอง ยึดนโยบายส่วนตัวทำงานหนัก หาเงินสุจริต ดูแลบุพการี เลี้ยงครอบครัว ให้รางวัลชีวิตกับตัวเอง ส่วนที่เหลือ แบ่งคืนให้กับสังคม แต่พอทำงานมาหนักมากแล้ว ถึงเวลาอยากพักงาน แต่ยังไม่มีอิสระทางการเงิน ก็เพิ่มการออม แต่ว่า ยังคงใช้ิชีวิต เหมือนที่เราอยากทำ และเคยทำอยู่ การตอบแทนคืนให้สังคม ยังคง ดำเนินต่อไป แต่เมื่อใดที่ถึงเป้าหมาย ถึงเวลานั้น นอกจากกิจกรรมส่วนตัว แล้ว ก็คงมีเวลาทำงานให้กับสังคมเพิ่มขึ้น
โดย
Dr.Jfk
พุธ ก.พ. 27, 2013 5:31 pm
0
11
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
สวัสดีครับ พี่ Dr.Jfk ดูชื่อแล้วคุ้นว่าเล่น siamspeed ด้วยรึป่าวครับ หวัดดีครับ ใช่ครับ ในสยามสปีด ก็มีเพื่อนเล่นกันหลายคน ผมเองส่วนใหญ่เข้าไปดูหาซื้อรถ หรือลงขายรถในนั้นบ่อยๆ แต่ระยะปีกว่าๆ นี่ตัดกิเลสได้เยอะ ดูเฉยๆไม่ซื้อ และปล่อยขายที่ไม่ใช้แทนเอามาขยายพอร์ต อิๆ ผมว่า พี่หมอเจ ใช้ชีวิตสุดคุ้มแล้วครับ ความเห็นส่วนตัวผม มีเงินต้องใช้อย่างเหมาะสม ไม่มากไป แต่ต้องไม่น้อยไปด้วย ... จำได้ข่าวมหาเศรษฐีชาวมาเลย์ หรือ สิงคโปร์ มีเงินระดับหมื่นล้าน แสนล้าน บอกว่าเดินทางไปติดต่อธุรกิจ ทุกครั้งนั่งเครื่องบินชั้นประหยัด -_-" ผมว่าน่าตำหนิไม่ต่างไปกับคนฟุ่มเฟือยเลย ผมจะชื่นชมถ้าข่าวประมาณ ไม่ซื้อเครื่องบินส่วนตัวเพราะไม่คุ้ม ฟุ่มเฟือย แต่แบบนี้ ...ตีราคาคุณภาพชีวิตของตัวเองต่ำเกินไป ประหยัดเงินไปเพื่อ ? อยู่ได้ไม่เกิน 120 ปี ก็ตายแล้ว ผมเองช่วง สิบห้าปีแรกของการทำงาน ทำงานหนักมาก เพิ่งเริ่มออกทำกิจกรรม และท่องเที่ยว จริงๆจัง ก็ราวๆ สิบปีที่ผ่านมานี่แหละ จนคนคิดว่าผมเที่ยวอย่างเดียว ไม่ต้องทำงานเหรอ แต่จริงๆ ยังทำงานหนักพอสมควร ถึงได้อยากพัก พูดถึงเครื่องบิน จะว่าไปจุดหักเห ให้กลับมาลงทุนรอบนี้ เพื่อ เตรียมตัว รีไทร์ ก็เครื่องบินนี่แหละ ตอนนั้น คุณบอยเชษฐา เพื่อนผม ที่เค้าจัดมอร์เตอร์โชว์ แล้ว นำเครื่องบินเล็กมาโชว์ด้วย เอา เจ้า Pipistrel Virus SW เครื่องบินเล็กสองที่นั่ง ตัวนี้มาโชว์ด้วย Pipistrel virus SW.jpg http://www.pipistrel.si/plane/virus-sw/overview เป็นเครืองบินเล็ก ที่ชนะรางวัลประกวด ของ NASA ด้านสมรรถนะและความปลอดภัย และราคามัน ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า เลยพอๆกับ รถเก๋งดีๆคันนึงเอง แถมค่าน้ำมันก็กินพอๆกันอีก ตอนนั้นฟังดูเรื่องค่าใช้จ่าย และความยุ่งยากก็ไม่ได้ มากมาย แถม ตอนนั้น ซื้อเครื่องนี่ เค้ารวมค่าเรียน และ ออกใบอนุญาติ พร้อมโรงจอดอีกหนึ่งปี พำให้เกือบตัดสินใจไปเรียน และ ถอยมัน แล้ว แต่มาคิดอีกที ยังมีอีกหลายอย่างให้ทำ ในชีวิต เอาเงินก้อนนั้นที่ มารวมใช้ ลงทุนแทนดีกว่า เผื่อจะได้เกษียร์ตัวเองจริงๆซักที ก็เลยเริ่มจากตรงนั้นเลย ผ่านมาถึงตอนนี้ได้ก็เริ่มลงทุนรอบนี้ มาได้ 6 เดือนแล้ว อ้อก่อนลงทุนรอบนี้ เคยลงทุนหนัก สมัยฟองสบู่แตก ปี 36 แต่ออกแนวเก็งกำไร ซะเยอะรอบนั้น เจ็บตัวไปมาก ตอนหลังได้คืนมา แปดหลักต้นๆ เลยถอนตัวออกมา จากตลาด เพิ่งย้อนกลับมา เนี่ย อิๆ จะว่าไปเรื่องใช้ชีวิตคุ้ม(บางคนก็บอกใช้เปลืองไปมั้ยเนี่ย) ทาง อจ. คณะแพทย์ รามาธิบดี เค้าเห็นผมเป็นหมอที่แปลกกว่า ชาวบ้านมั้ง ใช้ชีวิต หลากหลายต่างกับหมออื่น เลยชวนไปเลคเชอร์ให้กับ นักศึกษา และ แพทย์ เค้า เรื่องการใช้ชีวิตนอกเหนือ งานประจำ แต่ อย่างว่า ผมแนะนำใครไม่ค่อยได้ แบบว่า ใช้ชีวิตเปลืองกว่า ชาวบ้าน วันนึง อยากได้ ซัก 25 ชม. อิๆ :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: ผมตามหมอเจเอฟเค มาตั้งแต่เริ่มเล่นพันธ์ทิพ สิบกว่าปีก่อน ย้ำว่าสิบปีก่อนเกือบยี่สิบปีแล้ว ย้ำว่าเขียนไม่ผิด ตรง ๆ เลยนะ ผมโคตรประทับใจคุณหมอเลยว่ะ ขอบคุณ ครับ ผมเอง อยู่ กับพันทิป มาตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งเว็บ ห้องสินธร นี่ ผมก็เป็นรวบรวมเพื่อน เสนอพันทิป ก่อตั้งขึ้น และ เป็นคนเลือกชื่อนี้เสนอพันทิป แต่ระยะหลัง ออกจากสินธร อยู่ตามรัชดา กับ ห้องหว้ากอวิทยาศาสตร์ ช่วยน้องๆ เผยแพร่ความรู้ความวิทยาศาสตร์ และเปิดโปง พวกหลอกลวง วิทย์ลวงโลกทั้งหลายแทน ผมเองอาจจะต่างกับคนเล่นเน้ตคนอืนที่ ไม่ได้ปิดบังตัวเอง เปิดเผยตัวเอง มาตลอด เพราะคิดว่า เรามีความจริงใจให้กับทุกคนที่เราคบหา อย่างตอนนี้ ช่วยพันทิป เป็นการการ ประกวด โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม ก็เปิดเผยตัวตน ไม่ปิดบังเช่นกัน http://pantip.com/usemeagain/profile.html ผมเอง อยากเห็นมิตรภาพ และความจริงใจ ในสังคมอินเตอร์เน็ต ให้เหมือนกับ โลกความจริง คับ
โดย
Dr.Jfk
อังคาร ก.พ. 26, 2013 11:59 am
0
12
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
สารภาพว่าตั้งเป้า ไว้ที่พอร์ต 9 หลัก แล้ว จะจัดพอร์ตกินปันผล ก็จะพักงานประจำ เกษียร ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบไปเรื่อยๆ ประมาณ ดำน้ำ ปีนเขา ขี่แมงกาไซค์ กับขับรถ ตะลอนข้ามประเทศ ไปเรื่อยๆ แบบว่า เป็นคนกิจกรรมเยอะ เลยใช้จ่ายค่อนข้างมาก ทุกวันนี้ทำงานหนัก แต่ใช้หนักด้วยไม่ค่อยได้ออมเลย ยังไม่เป็นอิสระทางการเงิน เริ่มเข้ามาลงทุนรอบนี้จริงจัง แบบสะสม ใช้จ่ายตามไลฟ์ไสตล์เดิม ยังทำงานหนักเหมือนเดิม แต่เลิกใช้ฟุ่มเฟือย แบบ ซ่ื้อรถเปลี่ยนรถบ่อยๆ แล้วเอาหยอดเข้ามา จัดเป้นพอร์ตแทน ตอนนี้ พอร์ตยัง แปดหลักต้นๆ แต่คิดว่า ถ้าเจอตัวถูกใจ ตลาดยังเป็นใจ ก็จะทะยอยเปลี่ยน Asset อื่นๆ และ เงินฝากมาเป็น ลงในพอร์ตเพิ่ม ให้เป็น แปดหลักกลางๆ และ ถ้ามันงอกเงยได้ถึงเก้าหลัก ซึ่งตั้งเป้าไว้ ใน ประมาณ 5 ปี (แต่แบบไม่กดดันตัวเอง) ถ้าครบแล้ว ก็จะพักงานประจำแล้ว ล่ะ ถึงวันนั้นถ้าแรงยังเหลือ คงจะลองขึ้นเอเวอร์เรสอีกยอด อิๆ ส่วนเวลาที่เหลือ ก็ว่าจะเลิกหาเงินจากงานประจำแต่ ทำงานคืน ช่วยสังคมแทน
โดย
Dr.Jfk
อังคาร ก.พ. 26, 2013 12:01 am
0
26
Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$
เข้ามาอ่านและเก็บ ความเห็นดีๆจากคุณ Pak ได้ข้อคิด และข้อมูลดีๆ จากคุณ Pak ทั้งที่นี่ และ พันทิป ว่างๆต้องหลังไมค์ไปรบกวนขอเบอร์โทร ไว้โทรปรึกษา กันหน่อยแล้ว :) :) :)
โดย
Dr.Jfk
อังคาร ม.ค. 15, 2013 10:24 pm
0
1
Re: รบกวนสอบถาม เรื่อง เมล์แจ้ง จาก
[email protected]
อ้าววววววววว หลังจากโพสต์โพสต์นี้แล้วผม ลองคลิค ตอบกลับเมล์
[email protected]
เพื่อสอบถาม ว่า จะติดต่อ กับคนนี้ได้ไง แต่ปรากฏว่า พอคลิค Reply กลับ มันขึ้น ชื่อเมล์ใหม่มา (ดูจากชื่อ คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ส่งมา) อันนี้ คือระบบการทำงาน ของเมล์ระบบนี้หรือป่าวครับ แล้ว คนส่ง ส่งมาให้เรา ทางไหนครับ แอบงงนิดๆ
โดย
Dr.Jfk
พุธ ธ.ค. 26, 2012 1:05 pm
0
0
Re: 1000 พอร์ตบุคคล (30/09/12 คุณ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ ที่
เข้ามาไล่อ่านหาแรงบันดาลใจ เก็บตังค์กับเค้ามั่ง คริๆ
โดย
Dr.Jfk
พุธ ธ.ค. 26, 2012 12:40 pm
0
0
Re: ใครๆก็ทำกำไรจากหุ้นได้ในช่วงนี้ แล้วคนที่ขาดทุนหายไปไหน
ตอบคำถาม ส่วน คนเล่นหุ้นช่วงนี้มีกำไร คนขาดทุนหายไปไหน คำตอบจริงๆ คือ หุ้นหรือ ตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่ Zero Sum Game ผลรวมกำไรของคนที่เข้ามาร่วมลงทุน ไม่จำเป็นต้อง = 0 มีคนกำไรต้องมีขาดทุนในปริมาณ เท่ากัน เหมือนกับ การพนันอื่นๆ หุ้น ถ้าช่วง ที่มันขึ้น คนที่ถือไว้มีกำไร ขายออกมา คนซื่้อต่อมา ถือไว้ ราคาเพิ่มขึี้น ก็มีกำไรต่อไป (คนที่ขายไปแล้วไม่ได้ขาดทุน) และ เมื่อขายออกไป คนซื้อต่อไป ราคาพุ่งก็กำไรต่อๆกันไปได้ แต่ถ้าขาลง คน Cut Loss ออกมา คนรับไป หุ้นลงต่อ ก็ขาดทุนต่อได้เหมือนกัน แต่ เห็นด้วยว่า ณ นาทีนี้ คนทั่วไปหันมา คุยเรื่องหุ้นกันเยอะมากๆๆๆๆๆๆ ชักน่ากลัว อิๆ
โดย
Dr.Jfk
พุธ ธ.ค. 19, 2012 12:06 am
0
3
Re: แจ้งข่าว.. เพื่อทราบ
เพิ่งเห็นกระทู้นี้ เข้ามา ขอบคุณ คุณ ธันวา และกรรมการทุกท่าน ที่เสียสละเพื่อส่วนรวม สำหรับผมเอง ถ้าวันไหนพอมีความรู้ ด้านใดช่วยเหลือสมาคม ได้ ยินดีให้ความร่วมมือเช่นกันครับ
โดย
Dr.Jfk
อังคาร ธ.ค. 18, 2012 10:52 pm
0
0
Re: สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI
เข้ามาตามอ่านด้วยคน ครับ :)
โดย
Dr.Jfk
อังคาร ธ.ค. 18, 2012 6:32 pm
0
0
Re: งานเลี้ยงที่กำลังร้อนแรง/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ของคุณ อจ ด้วยอีกคนสำหรับการเตือนสติ เพื่อนๆครับ
โดย
Dr.Jfk
อาทิตย์ ธ.ค. 02, 2012 6:25 pm
0
0
Re: กิจการที่ ROE ต่ำไม่มีทางเป็นกิจการที่ดีแน่ๆ ใช่มั้ยครับ
ไม่ทราบ มีใครรวบรวมตัวเลข ROE และ ROA ของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆไว้มั้ยครับ ว่า ควรจะอยู่ที่ประมาณเท่าไรถึง จะพอรับได้ หรือ ดี ผมเคยนั่งหาข้อมูล 2-3 ปีก่อนครับ หาจากฐานข้อมูลใน Valueline ครับ มีเยอะมาก คัดมาบางส่วนครับ แต่ว่าข้อมูลจะเป็นบริษัทที่ listed ใน US นะครับ เผื่อมีประโยชน์ครับ ROE ก็ดูตรง Return to Shr.Equity เป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 6 ปีตั้งแต่ 2005-2010 industry.jpg ขอบคุณมากครับ คงพอเทียบเคียงได้บ้าง ใครมีของไทยมั้ยครับ ขอบคุณล่วงหน้า ครับ
โดย
Dr.Jfk
ศุกร์ พ.ย. 30, 2012 1:51 pm
0
0
Re: กิจการที่ ROE ต่ำไม่มีทางเป็นกิจการที่ดีแน่ๆ ใช่มั้ยครับ
ไม่ทราบ มีใครรวบรวมตัวเลข ROE และ ROA ของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆไว้มั้ยครับ ว่า ควรจะอยู่ที่ประมาณเท่าไรถึง จะพอรับได้ หรือ ดี
โดย
Dr.Jfk
พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2012 5:03 pm
0
0
Re: ขอบคุณผู้จัดงานmeeting q3-2555
ขอบคุณมากเช่นกัน แม้จะีมีขลุกขลักไปบ้างเนื่องจากฝนตก แต่ ก็สนุก ได้ความรู้ครับ จาก การเปิดคุยกันเป็นกลุ่มๆ ถ้าคราวหน้าเรามี เวลา และสถานที่กว้างหน่อย ถ้าจัดรูปแบบ แบ่งกลุ่ม คุย เช่นคุย เรื่อง รายกลุ่ม รายตัว หรือ เรื่องราวเฉพาะ ไว้ล่วงหน้า ให้สมาชิก แจ้งกันไว้ก่อนแล้ว ถึงเวลาจริงเจอกัน จับกลุ่ม ก็อาจจะได้บรรยากาศ การแลกเปลี่ยน อีกแบบ ดีเหมือนกัน นะครับ
โดย
Dr.Jfk
จันทร์ พ.ย. 26, 2012 1:59 pm
0
1
68 โพสต์
of 2
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
Dr.Jfk
ระดับ:
Verified User
อายุ:
65
กลุ่ม:
สมาชิก
งานอดิเรก:
Sport
Stock
Scuba
Superbike
ความถนัด:
Physician
ที่อยู่:
Nakhon Sawan
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
เว็บไซต์:
เข้าชมเว็บไซต์
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร พ.ย. 06, 2012 2:41 pm
ใช้งานล่าสุด:
พุธ มี.ค. 23, 2022 5:13 pm
โพสต์ทั้งหมด:
458 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.02% จากโพสทั้งหมด / 0.10 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
http://www.2jfk.com
"
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว