หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Uncle Bob
Joined: ศุกร์ ก.พ. 17, 2006 7:55 am
51
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Uncle Bob
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
First thing First...เลือกประธานใหม่กันก่อนเลยครับ
ขอเลือก อ. มน ทำงานต่ออีกหนึ่งสมัย 4 ปีครับผม
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ มี.ค. 16, 2007 1:39 pm
0
0
ขอความร่วมมือทุกคนที่อยากให้ทีมงานชุดเก่าทำงานอยู่ต่อไป
ผมขอประท้วงให้ทีมเดิมทำงานต่อไปครับ
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ มี.ค. 16, 2007 1:37 pm
0
0
ขอให้สมาชิกทุกท่านอ่านกระทู้นี้ครับ
[quote="ครรชิต ไพศาล"]ผมก็อ่านรายการที่ น้อง CK เขียนมา ก็เวียนหัวแล้ว ต้องเป็นคนที่ มีความรู้เรื่องเวบไซต์ เก่งๆ แต่ถึงยังไง น้อง CK ก็ต้องดูแลต่อไป นั้นแหละ ดีแล้ว
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ มี.ค. 16, 2007 12:07 pm
0
0
งบออกกันจะครอบหมดแล้ว
จากนี้ไปในฐานะประธานชมรม ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายของปี(เอาแต่ต้นปีเลยนะ) ขอให้ทุกท่านเริ่มศึกษา Business Modelของบริษัทที่ท่านสนใจได้แล้วครับ ส่วนนี้ผมให้น้ำหนักถึง 70%ของการลงทุนแต่ละครั้ง ท่านประธานสนใจ Business Model ไหนครับ
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 11:14 am
0
0
ขอเตือนมือใหม่อ่าน web ต้องระวังให้ดี
รู้สึกว่าช่วงนี้ผมเละพอสมควร ครับ (เละจากคำพูดของแต่ละท่าน) ตามให้กำลังใจอยู่ครับ
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 9:56 am
0
0
มาสารภาพความผิด เรื่อง stpi
มีครับ ข้อมูลนะ ไม่ใช่หุ้น เห็นเลือกหุ้นแต่ละตัวน่าเสียวไส้แทน ผมดู STPIนั้นน่าจะเป็นม้าใช้ของ STECONมากกว่า ไม่น่าจะมีอะไรโดดเด่น แถมหนี้สินพะรุงพะรัง รายการแปลกๆมากมาย เฮ้อ...ตกลงมันทำอะไรของมันกันแน่ คุณว่าไหม ผมจำได้ว่า อาจารย์มน พูดไว้ตั้งแต่ เมษา ปี 06 อาจารย์มน ไม่สนใจ ผมก้อไม่มองแล้วครับ อิอิ
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 8:20 am
0
0
ชี้แจงเหตุไม่เข้าใจที่ผ่านมา
หลังจากอ่านๆ และ คิดๆ ดูแล้ว ผมคงไม่เหมาะกับที่นี้จริงๆ คงไม่ค่อยได้ post แล้วละ โชคดีนะครับ ครับคุณไม่เหมาะกับมี่นี่จริงๆ คนอื่นเขาจบกันหมดแล้ว ยังไม่เลิกอีก
โดย
Uncle Bob
จันทร์ ก.พ. 26, 2007 1:25 pm
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
TCJ กะ NWR ครับ เปงไงมั่ง ถามคั่นจังหวะมั่งเดี๋ยวจะมีคนทิ้ง mail ไว้อีก อิอิ
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 2:18 pm
0
0
เรียนคุณเฟยหง และคุณ Jeng
คุณ Jeng ไม่ใช่ moderator นะครับ และไม่มีสิทธิในการลบกระทู้ ดังนั้น การที่คุณ "Imply" ว่า ต่อว่าคุณ Jeng เรื่องไม่รู้เรื่องคอนโด ทำให้กระทู้ถูกลบ ไม่เป็นความจริงนะครับ เพราะคนที่ลบ หรือสั่งให้ลบ ไม่มีทางเป็นคุณ Jeng ไปได้ แล้วไม คุณเจ๋ง โพสว่า คุยถึงปรีชา อย่างสร้างสรรค์ ผู้โพสโปรดระวัง ไม่งั้นโดนลบ ไม่ลบ หรือสั่งให้ลบ ก้อต้องมีส่วนร่วมบ้างละ
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 1:45 pm
0
0
คุย ถึง ปรีชา อย่างสร้างสรร ผู้โพสโปรดระวัง ไม่งั้นโดนลบ
ดูอย่างคนจีนเสื่อผืนหมอนใบเขาเข้ามามีอะไรติดตัวไหม เสื่อผืนหมอนใบ โล้สำเภามาจากเมืองจีน ตอนนี้ก้อยังมีแค่เสื่อผืนหมอนใบเหมือนเดิมครับ ส่วนสำเภาขายกินไปแล้วครับ อิอิ
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 8:56 am
0
0
เดาเล่นๆกับหุ้นครับ
T... ??? ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบบบบบ แต่ขึ้นมาแยะแย้วววววววววว
โดย
Uncle Bob
พฤหัสฯ. พ.ย. 02, 2006 8:00 pm
0
0
ความคิดของผมเกี่ยวกับ GL
อย่าพูดเรื่องหนี้สูญมากนะ เดี๊ยวพี่เจ๋ง โกรธ หุหุ
โดย
Uncle Bob
พฤหัสฯ. ส.ค. 10, 2006 4:01 pm
0
0
Bizweek @ 20-Jan-06
เปิดพอร์ตลงทุน.."ที.เค.เอส.เทคโนโลยี" สำรวจพอร์ตหุ้น "ที.เค.เอส.เทคโนโลยี" พบขาดทุนหุ้นระนาว ผู้บริหาร ชี้แจง เป็นการลงทุนระยะยาวไม่ได้มุ่งเก็งกำไร เผยแผนปี 2549 เน้นเพิ่มมาร์จินในธุรกิจงานพิมพ์ และไอที ตั้งเป้า "ยอดขาย" เติบโต 15% ขณะที่ปัญหาหนี้เสีย ตั้งสำรองหมดแล้ว "บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี"(TKS) เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่มีพอร์ตเงินลงทุนอยู่ในตลาดหุ้น และที่ผ่านมาการลงทุนของบริษัทไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ขณะที่ธุรกิจงานพิมพ์ และไอที ก็อยู่ในภาวะการแข่งขันที่สูง ที.เค.เอส. เริ่มมีนโยบายเข้าลงทุนในตลาดหุ้น ตั้งแต่หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อปี 2546 โดยปัจจุบันมีหุ้นที่อยู่ในพอร์ตลงทุนของบริษัทรวม 7 บริษัท ประกอบด้วย หุ้นเอสวีโอเอ (SVOA), เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น (MSC), ทีพีไอ โพลีน (TPIPL), ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY), เอ็ม ลิ้งค์ คอร์ปอเรชั่น (MLINK) และ โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) จากการสำรวจพอร์ตลงทุนของบริษัท ณ วันที่ 17 มกราคม 2549 พบว่า หุ้นในพอร์ตเกือบทุกตัวให้ผลตอบแทน "ติดลบ" หรือ "ขาดทุน" ทางบัญชี (บริษัทยังไม่ได้ขายหุ้นออก) ถึง 25.5 ล้านบาท คิดเป็นผลตอบแทน -36.75% โดยเฉพะ "หุ้น SVOA" ที่สร้างผลขาดทุนให้แก่บริษัทมากที่สุดถึง 69% จากจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 10 ล้านหุ้น ที่ต้นทุนเฉลี่ย 3.37 บาท แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงเหลือเพียง 1.04 บาท จึงทำให้พอร์ตของ ที.เค.เอส. มีมูลค่าเงินลงทุนเหลือเพียง 10.4 ล้านบาท จาก 33.7 ล้านบาท เมื่อสิ้น ก.ย. 2548 คิดเป็นเม็ดเงินขาดทุน 23.3 ล้านบาท รองลงมา "หุ้น MLINK" ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นอยู่จำนวนประมาณ 2,210,000 หุ้น มีต้นทุนเฉลี่ยที่ 3.58 บาท แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงเหลือเพียง 2.40 บาท หรือมีมูลค่าลงทุนรวม 5.3 ล้านบาท ทำให้เกิดผลขาดทุน 2.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น -32.96% นอกจากนั้น บริษัทยังมีผลขาดทุนใน "หุ้น TPIPL" เป็นเม็ดเงิน 1.053 ล้านบาท หรือคิดเป็น -21.16% จากที่ถือหุ้นอยู่จำนวนประมาณ 161,000 หุ้น ราคาเฉลี่ย 30.82 บาท ล่าสุดราคาหุ้นเหลือ 24.30 บาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 3.92 ล้านบาท รวมถึงมีผลขาดทุนใน "หุ้น TTA" ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาโดยตลอด ที.เค.เอส. ถือหุ้นตัวนี้ในพอร์ตจำนวนประมาณ 128,000 หุ้น ต้นทุนเฉลี่ย 29.93 บาท แต่ราคาหุ้นล่าสุดได้ปรับลงมาอยู่ที่ 26 บาท จึงทำให้เกิดผลขาดทุน 5 แสนบาท หรือมีมูลค่าลงทุน 3.35 ล้านบาท จากสิ้นกันยายน 2548 มูลค่าลงทุนอยู่ที่ 3.85 ล้านบาท ขาดทุน -13.13% ด้าน "หุ้น MSC" พอร์ตลงทุนมีผลขาดทุนเพียงเล็กน้อย -5.69% จากที่ถือหุ้นอยู่จำนวนประมาณ 2,410,000 หุ้น ที่ราคา 2.99 บาท ล่าสุดราคาลดลงเหลือ 2.82 บาท ขาดทุน 4 แสนบาท มูลค่าหุ้นลดลงเหลือ 6.8 ล้านบาท ส่วนหุ้นแบงก์ในพอร์ต อาทิ "หุ้น BAY" มีผลขาดทุน -2.47% บริษัทถือหุ้นตัวนี้อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 574,000 หุ้น ต้นทุน 15.79 บาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 8.84 ล้านบาท ขณะที่หุ้นที่สร้างผลตอบแทนให้แก่พอร์ตลงทุนโดดเด่น และเป็นหุ้นเพียงตัวเดียวที่ "ทำกำไร" คือ "หุ้น SCIB" ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงถึง 98% ในจำนวนหุ้นที่ถือหุ้นอยู่ประมาณ 210,000 หุ้น มีต้นทุนที่ 12.58 บาท ล่าสุดราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นที่ 24.90 บาท ทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 5.26 ล้านบาท จาก 2.66 ล้านบาท เมื่อสิ้น กันยายน 2548 "วีระชัย ศรีขจร" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" ว่า หลังจากที่บริษัทมีนโยบายเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อปี 2546 จนถึงปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของบริษัทก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวหุ้น เพื่อการเก็งกำไร หรือมีการซื้อเพิ่มเข้ามาแต่อย่างไร เนื่องจากบริษัทมีนโยบายลงทุนในระยะยาว "หุ้นหลายตัวอย่าง SVOA หรือ MSC เราลงทุนหลังเข้าตลาดหุ้นราว 2 ปีมาแล้ว ยกเว้นหุ้นนอกตลาดอย่าง "ไทยบริติช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง" (ถือหุ้น 19.97%) ที่ลงทุนมา 3-4 ปี ซึ่งหุ้นดังกล่าวเป็นการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจไอที ที่เราทำอยู่ ส่วนการที่ราคาหุ้นในพอร์ต มีการปรับตัวลดลง และมีผลขาดทุน ก็เป็นการรับรู้ตามราคาตลาดเท่านั้น" นอกจากนี้ "วีระชัย ศรีขจร" ยังเปิดเผยถึง แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2549 ว่า คงไม่มีการลงทุนเพิ่มเติมเนื่องจากในปี 2548 ที่ผ่านมา ได้ลงทุนในส่วนของเครื่องจักรไปแล้ว แต่นโยบายของปีนี้ จะเน้นการเพิ่มมาร์จิน หรือมูลค่าเพิ่มในส่วนธุรกิจงานพิมพ์ และไอที มากกว่าการเน้นเพิ่มยอดขายอย่างเดียว "ทั้งธุรกิจงานพิมพ์และไอที เราจะเน้นการเพิ่มมาร์จินในตัวสินค้าที่มีความแตกต่างและไม่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะงานพิมพ์ดิจิทัลสีระบบ Security หรือระบบปลอดภัยสูง เช่น เช็ค, สมุดบัญชี, ป้ายทะเบียน รวมถึงงานพิมพ์ที่มีรายละเอียด ซึ่งผู้ผลิตไม่มากราย และผลิตได้ยาก เราจะเน้นตรงนี้ ส่วนธุรกิจไอทีก็เช่นกัน สินค้าบางตัวที่แข่งขันมาก เราจะไม่ให้ความสำคัญ สินค้าหลักที่จะเน้นเช่น จอ LCD, CPU, ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น" ขณะเดียวกัน ก็จะทำสินค้าประเภทสั่งผลิตตามแบรนด์ลูกค้ามากขึ้น (Build to Order) เช่น โน้ตบุ๊ค เป็นต้น แม้กำไรขั้นต้นจะต่ำลงเหลือเพียง 6-7% แต่จะมียอดขายที่สูงขึ้น ขณะที่งานพิมพ์แม้จะมียอดขายน้อย แต่กำไรขั้นต้นยังสูงอยู่ถึง 15-20% "เราคาดว่าอุตสาหกรรมไอทีในปีนี้จะเติบโต 10-15% ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการได้แม้การแข่งขันจะสูง แต่ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ก็จะเข้ามายาก จึงคิดว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ยังมีอยู่" ปัจจุบันโครงสร้างรายได้หลักของ ที.เค.เอส. มาจากธุรกิจไอที ราว 90% และธุรกิจงานพิมพ์ 10% "เราตั้งเป้าปี 2549 ว่า จะมียอดขายรวมมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะมาจากธุรกิจไอทีราว 1 หมื่นล้านบาท และธุรกิจงานพิมพ์ราว 1 พันล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปี 2548 จะมีรายได้รวม 1 หมื่นล้าน ซึ่งเติบโตจากปี 2547 ประมาณ 15% เช่นกัน" วีระชัย ยังกล่าวถึงปัญหาที่บริษัทต้องตั้งสำรองหนี้เสียสูงมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาว่า ได้แก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้บริษัทสามารถทำกำไรได้ดีขึ้น เพราะไม่มีหนี้เสียมาเป็นภาระอีกต่อไป แต่ก็จำเป็นต้องระมัดระวังในการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่ "ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุนมากกว่า 1 เท่า ซึ่งเราจะต้องพยายามดูแลไม่ให้สูงไปกว่านี้" วีระชัย ศรีขจร กล่าวปิดท้าย
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 4:08 pm
0
0
แจกอีกที:The Real Warren Buffett : Managing Capital, Leading
[email protected]
โดย
Uncle Bob
เสาร์ พ.ค. 20, 2006 10:26 am
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
[email protected]
โดย
Uncle Bob
เสาร์ พ.ค. 20, 2006 10:21 am
0
0
STPI คิดว่าเป็นไงครับ
มาอีหแล้วน้ามน ช่วยตอบที หากระทู้เก่าไม่เจอ อิอิ
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ พ.ค. 19, 2006 1:23 pm
0
0
หุ้นเด็ด >>> โปรดช่วยกันดูหน่อย
ข้อเสียอย่างเดียว มีหนี้สูญเยอะจัง ถ้าแก้ข้อนี้ได้ละ โอเชเลย
โดย
Uncle Bob
ศุกร์ พ.ค. 05, 2006 1:49 pm
0
0
อยากให้Thaivi จัดอบรม Stock Valuation น่าจะเป็นประโยชน์มากๆ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
โดย
Uncle Bob
เสาร์ เม.ย. 22, 2006 7:19 am
0
0
STPI น่าสนใจไม๊ครับ ขอเพื่อนๆช่วยหน่อยครับ
น้ามนของลุงนี่ น้ำใจงามจริง นับถือ นับถือ :bow: :bow:
โดย
Uncle Bob
อังคาร เม.ย. 18, 2006 4:28 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
Uncle Bob
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
ศุกร์ ก.พ. 17, 2006 7:55 am
ใช้งานล่าสุด:
พุธ พ.ย. 10, 2010 6:32 pm
โพสต์ทั้งหมด:
51 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว