Re: สอบถามเรื่อง การคุยกับ IR ไม่ผิดกฎครับ เข้าหน้า website บริษัทที่เราสนใจ ลองหาคำว่า นักลงทุนสัมพันธ์ จะมีรายละเอียดให้ติดต่อครับ โดย pop5888 จันทร์ ธ.ค. 21, 2020 12:05 pm

Re: ค่ารักษาพยาบาลส่งต่อ ? ค่ารักษาพยาบาลส่งต่อ คือ รายได้ที่รับเป็น Fixed จาก ประกันสังคม หรือ บัตรทอง แต่ รพ ที่รับรายได้จาก สิทธิ นั้นๆ ต้องมีความรับผิดชอบต่อ ค่าใช้จ่ายที่ ผู้ประกันตน นั้นมารักษา ในกรณีที่ รพ นั้นๆ ไม่สามารถรักษาได้ ก็ต้องส่งต่อไปยัง รพ อื่นๆ ที่มีความสามารถในการรักษา ค่าใช้จ่ายที่ส่งต่อไปยัง รพ อื่นๆ คือ ค่ารักษาพยาบาลส่งต่อ ครับ โดยส่วนตัวเป็น Variable Cost ครับ เพราะ โดยมากจะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างใกล้เคียงแต่ละปี (ถ้าในภาษาคณิตศาสตร์จะใช้คำว่า "ความน่าจะเป็น") ซึ่งพอมาคิดในสัดส่วนกับรายได้จาก ประกันสังคม หรือ บัตรทอง โดยมากจะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ใกล้เคียงกันต่อรายได้รวมจาก ประกันสังคม หรือ บัตรทอง ที่ รพ นั้นๆ รับครับ โดย pop5888 พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2020 10:56 am

Re: ++ร่วมแสดงความคิดเห็น พร้อมชมบรรยากาศงานสังสรรค์ VI ปี 63/1 ชอบมากครับ สนุกตอนพี่มี่แบ่งปันมุมมอง และ เล่าประสบการณ์ครับ โดย pop5888 จันทร์ ส.ค. 31, 2020 10:37 pm

Re: กิจวัตรประจำวันของวีไอ เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ ผมคิดว่าผมเป็นคนที่โชคดีมากนะครับที่ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมงานนี้ ผมชอบคำพูดนึงของเสี่ยยักษ์มากๆ คือ คุณทำวันนี้คู่ควรกับความฝันของคุณหรือยัง .. พี่มี่เป็นตัวอย่างที่ดีว่า สิ่งที่เค้ามี สิ่งที่เค้าเป็น ขวัญใจวีไอ คู่ควรกับที่พี่มี่ฝันและคู่ควรกับที่พี่มี่ทำทุกประการ ค่าบัตรเมื่อวานเมื่อเทียบกับการได้ฟังพี่มี่ ผมว่าคุ้มมากครับ ผมเชื่อว่าถ้ามีคนที่ทำแบบพี่มี่ได้ก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้แบบพี่มี่ไม่ช้าก็เร็ว แล้วพอทราบว่าเงินที่เราได้จ่ายเพื่อเข้าร่วมงานสามารถนำไปต่อยอด ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส เพื่อเปลี่ยนการดำรงชีวิตของน้องๆที่ห่างไกล ช่วยเหลือชาวบ้านที่ไม่มีโอกาสผมยิ่งรู้สึกยินดีมากๆที่ได้เข้าร่วม สิ่งที่ผมคิดคือ ผมคิดว่ามีคนอีกจำนวนมากที่ควรจะได้รับโอกาสในการร่วมงาน หรือร่วมพูดคุยแบบนี้ครับ แต่เวลาอาจจะไม่อำนวย เพราะเวลาก็บีบพอสมควรครับ แต่ถ้าหาทางให้นักลงทุนร่วมงานได้มากกว่านี้ โดยอาจจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบงานอื่นๆเพื่อให้คนได้มีโอกาสฟังมากขึ้นกว่านี้ น่าจะยิ่งเป็นประโยชน์ยิ่งๆขึ้นไปครับ .. ซึ่งพอกลับมาคิดถึงวิสัยทัศน์จากพี่หลินกับทีน่าที่บอกว่าจะมีรูปแบบงานที่เป็น online มากขึ้น ผมคิดว่านี่คือโอกาสที่ดีมากๆของนักลงทุนที่อาจจะไม่สามารถเข้าร่วมได้หรืออยู่ห่างไกลครับ ขอบพระคุณ Thai Vi สำหรับงานที่ดีมากๆ แบะ ขอบพระคุณพี่มี่สำหรับความรู้ครับ โดย pop5888 อาทิตย์ ส.ค. 30, 2020 10:31 am

Re: ** วันนี้ **เปิดรับงานสังสรรค์ VI ประจำปี 2563 ครั้งที่ 1 POP5888 / สมาชิกสมาคม / 1 ที่นั่ง / 1440.51 / KBANK / 05-02-2563 / 10.06 น. โดย pop5888 พุธ ก.พ. 05, 2020 10:07 am

Re: **เปิดรับ** งานสังสรรค์ VI ประจำปี 2563 ครั้งที่ 1 :oops: โดย pop5888 พุธ ก.พ. 05, 2020 10:02 am

Re: จุดอ่อนของ ROE / คนขายของ ผมขออนุญาติแชร์มุมมองเรื่อง ROE นะครับ ผมคิดว่าสิ่งที่ควรเอามาประกอบในการพิจารณา ROE คือ capacity ครับ ใน case ที่ธุรกิจจำเป็นที่จะต้องลงทุนในสินทรัพย์หลักมากๆ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล การที่มี ROE สูงมากๆ บางทีต้องเข้าไปดู capacity ด้วยว่าเต็มแล้วหรือเกือบเต็มแล้วหรือยัง โอกาสการเพิ่มของรายได้จะน้อยทำให้การเติบโตของ ROE นั้นช้าลง ต่อให้ ROE ดีมาก แต่การเติบโตไม่มีเพราะ full capacity หากตลาดปรับ pe ลงหุ้นก็ลงตามครับ และหาก full capacity แล้วก็อาจจะต้องมีการลงทุนหนักๆเพิ่มเพื่อขยาย capacity ตรงนี้อาจจะทำให้นักลงทุน suffer ได้ครับ บางบริษัท ipo มาตอน full capacity แล้ว ROE หากดูหนังสือชี้ชวนจะเห็นว่า ROE ย้อนหลังสูงมาก แต่ก็อาจจะเป็นการพีคของรายได้ไปแล้วครับ หรือบางบริษัท ipo มาแล้วได้เงินสดมาเพิ่มในบริษัทแล้วแต่โครงการที่จะเพิ่ม capacity นั้นอยู่ระหว่างก่อสร้างยังไม่สามารถโอนได้ roe ก็จะต่ำเพราะเงินสดที่รับมาจะไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทำให้ตัวหารในฝั่ง equity มากขึ้นแต่กำไรเท่าเดิม roe ก็อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริงครับ ผมคิดว่าที่ต้องพิจารณาสำคัญคือต้องดูว่าบริษัทที่เราสนใจนั้นมีโอกาสทำรายได้และกำไรมากขึ้นมั้ยเพื่อที่จะให้ roe เพิ่มได้ขึ้นในอนาคตครับ ซึ่งหาก roe คือ พระเอก เพื่อนพระเอกก็น่าจะ คือ capacity ครับ ขอบคุณครับ โดย pop5888 อาทิตย์ ม.ค. 06, 2019 5:46 pm

Re: ขอเด็ดๆ 1 ตัว หุ้นอะไร = KAMART ---------------------------------------------------------------------------------------------- ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ (เป้าหมายไม่ต้องนะคิดเองได้) = 6.00 ------------------------------------------------------------------------------------------------ ทำธุรกิจอะไรขอสั้นๆ = ขายเครื่องสำอางค์ ------------------------------------------------------------------------------------------------ ย้อนหลัง 3 ปีรายได้และกำไรเป็นยังไง - รายได้เติบโตมาตลอด มีการทำฐานรายได้ และทำจุดสุงสุดใหม่เรื่อยๆ - เนื่องจากฐานรายได้ที่ยังเล็ก ดังนั้นหากไตรมาสไหนมีค่าใช้ในการทำตลาด กำไรจะลด -------------------------------------------------------------------------------------------------- มีอะไรปัจจัยอะไรเร่งให้ธุรกิจเติบโตดีบ้างมั๊ย - บริษัทเพิ่งเปลี่ยนมาทำเครื่องสำอางค์ประมาณ 5 ปี ฐานรายได้ยังไมไ่ด้สูงมาก อยู่ในช่วงของการเติบโต - มีการเปิดสาขาใน โรบินสัน เรื่อยๆ เป้าหมาย คือ มีให้ครบใน โรบินสัน ทุกสาขา - ราคาต่อชิ้นนั้นไม่สุงมาก การที่เข้าไปขายใน 7-11 ได้ทำให้การกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคได้ดีขึ้นมาก ตลาดให้การยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆทั้งในประเทศ และต่างประเทศ - ฐานรายได้ของเครื่องสำอางค์ใน 7-11 นั้นยังไม่สูงมากนัก เนื่องจากคนจำนวนมากไม่รู้ว่าใน 7-11 มีขายเครื่องสำอางค์ ดังนั้นโอกาสที่ยอดขายของคามาทใน 7-11 จะเติบโตจากฐานที่ต่ำจากการไม่รู้ และ ไม่เคยลองนั้นไม่ยาก - ยอดขายหลักๆของ คามาท คือ ขายใน 7-11 ซึ่งจากเดิมมีสินค้าของ KAMART ขายแค่ 3 ชนิด ล่าสุดเมื่อประมาณสัก 1 เดือนที่ผ่านมา มีการเพิ่มจาก 3 ชนิดเป็น 9 ชนิด (แต่ละสาขามีสินค้าคามาทไม่เท่ากัน) และในอนาคตยังมีโอกาสเพิ่มสินค้าอีกเรื่อยๆ (7-11 ค่อนข้างที่จะ favour คามาทมาก ถึงกับมีป้าย KARMART ในชั้นวางเครื่องสำอางค์ในสาขาใหม่ๆ) - เครื่องสำอางค์ในต่างจังหวัดนั้นโดยมากจะมีเฉพาะห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านโชวห่วย ใหญ่ๆ ซึ่งการที่ คามาท มีขายใน 7-11 นั้นทำให้การเข้าถึงเครื่องสำอางค์ในต่างจังหวัดนั้นง่ายขึ้น - สินค้าใช้แล้วหมดไป มีการซื้อซ้ำตลอด มีการบอกปากต่อปาก มีการทดลองใช้และเกิดการซื้อซ้ำ ทำให้ฐานรายได้โตอย่างสม่ำเสมอ - เพิ่งเริ่มได้ใบอนุญาติจากประเทศเพื่อนบ้านในการขายเครื่องสำอางค์ (คล้ายๆ อย. ในประเทศไทย) ดังนั้นสามารถไปตั้งสาขา และขายสินค้าในร้านโชวห่วยต่างๆได้ ซึ่งการที่สินค้าราคาไม่สูง ทำให้สามารถเจาะตลาดเพื่อนบ้านที่มีรายได้ต่อหัวต่ำกว่าเราได้ไม่ยาก - เริ่มมีการผลิตสินค้าเองในประเทศไทย ทำให้ต้นทุนสินค้าต่ำลง (เริ่มเห็น มาร์จิ้น ดีขึ้นในไตรมาส 3 / 2557) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ปีนี้ปีหน้ารายได้กำไรคาดว่าเป็นเท่าไหร่ เอาแบบไม่เว่อร์นะ คิดให้ conservative ไว้ก่อน - น่าจะเติบโตได้ 20-30 เปอร์เซ้นต์ต่อปี ไปอีกหลายปี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อีก 3-5 ปีข้างหน้าเห็นภาพบริษัทเป็นยังไง - ด้วยการที่บริษัทเล็ก ดังนั้นบริษัทน่าจะใหญ่กว่านี้ได้อีกมากจากการไปแย่งส่วนแบ่งตลาดเดิมทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ - เติบโตไปกับตลาดเครื่องสำอางค์ที่เฉลี่ยย้อนหลังนั้นเติบโตกว่า GDP ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คู่แข่งเยอะมั๊ย บริษัทมีจุดแข็งยังไงเทียบกับคู่แข่ง - คู่แข่งในตลาดเยอะมาก แต่การยอมรับในเครื่องสำอางค์นั้นก็ไม่ได้ง่ายครับ เครื่องสำอางค์ก็คล้ายๆร้านอาหารที่มีขายเยอะ แต่ก็มีคนซื้อเยอะ อยู่ที่ความคุ้มค่าคุ้มราคา ขอคำพูดขอ วอเรน บัฟเฟต ที่ว่า จุดขายของ Mcdonald ไม่ได้ทำแฮมเบอร์เกอร์ที่อร่อย แต่มีการจัดการที่ดี กับคามาทก็เช่นกัน อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ราคา คุณภาพ กับการเข้าถึงของผู้บริโภคนั้นแนวโน้มไปได้ดีขึ้น ดีขึ้นทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศครับ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อำนาจการต่อรองกับลูกค้าและ supplier เป็นยังไง - 7-11 เป็นลูกค้าหลัก แต่ คามาท ก็เป็นสินค้าหลักที่ขายใน Shelf เครื่องสำอางค์กับ 7-11 เช่นกัน ดังนั้นอำนาจการต่อรองอาจจะไม่ได้สูง แต่ก็เป้นการเกื้อกูลกันได้ดี - อำนาจการต่อรองกับ Supplier นั้น ด้วยการที่ คามาท มีการจ้างผลิตหลายโรงงาน ดังนั้น Supplier จึงไมได่้มีรายใดที่มีอำนาจเหนือกว่าคามาท ใน ในทางกลับกัน คามาท จะมีการนำวัตถุดิบเพื่อมาผสมเอง หรือ เพื่อมาบรรจุเอง มีการร่วมทุนกับโรงงานผลิตเครื่องสำอางค์ในไทย ทำให้ supplier มีอำนาจการต่อรองกับคามาทได้น้อยมาก ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ความเสี่ยงอะไรที่ควรต้องติดตามบ้าง - เนื่องจากคามาทมีการเปลี่ยนธุรกิจมาดังนั้นจะมีตัวสินค้าเดิมที่มีค่าเสื่อมราคาสินค้าหรือค่าตัดจำหน่าย ซึ่งการตัดค่าเสื่อมตรงนี้ไม่ใช้เป็นเส้นตรง ดังนั้นก็อาจจะทำให้กำไรรายไตรมาสนั้นอาจจะลดลง หรือ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ จากจำนวนการตัดจำหน่ายรายไดตรมาส ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- กระแสเงินสดดีป่าว ในอนาคตต้องลงทุนเยอะมั๊ย - กระแสเงินสดดีมาก เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่นั้นเป็น 7-11 เครดิตดี - อนาคตหากมีการลงทุนสร้างโรงงานก็ไม่เยอะมากเนื่องจากมีการร่วมทุนในการสร้างโรงงานไปแล้ว และ ยังมีพื้นที่เหลืออีกมากเนื่องจากพื้นที่โรงงานเดิมที่ใช้สร้างเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นใช้พื้นที่มาก จึงมีที่เหลือเยอะมากสำหรับการวางเครื่องจักรในการผลติเครื่องสำอางค์ ปันผลประมาณกี่ % ของกำไร - ราคานี้คิดเป็นเงินปันผลประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ (ปันผลทุกไตรมาส) และ แนวโน้มเงินปันผลจะมากขึ้นเรื่อยๆจากฐานรายได้ที่มากขึ้น และ กำไรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ - ปันผลประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของกำไร กลุ่มผู้บริหารถือหุ้นอยู่ประมาณกี่ % - ผู้บริหารถือหุ้นประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ โดย pop5888 พุธ พ.ย. 12, 2014 5:12 pm