หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
ปลูกหุ้นกินผล
ปลูกหุ้นกินผล
http://www.facebook.com/PookHoonKinPhol
Joined: พุธ ธ.ค. 04, 2013 9:48 am
111
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - ปลูกหุ้นกินผล
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: MoneyTalk@SET7Jun2015เจาะหุ้นเด่นครึ่งหลัง&ข้อคิดจากเซีย
ขอบคุณครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
จันทร์ มิ.ย. 08, 2015 8:42 pm
0
0
Re: สัมมนา "เพราะเป็นเม่าจึงเจ็บปวด 1,000 ครั้งที่หวั่นไหว ก
ขอบคุณมากครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
จันทร์ พ.ค. 25, 2015 8:54 pm
0
0
Re: การตกผลึกแนวคิดของเซียน
ขอบคุณแนวคิดดีๆ จากทุกท่านครับ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปียังทรงคุณค่าเสมอครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
เสาร์ ก.ย. 27, 2014 12:39 pm
0
0
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
เป้าหมายการลงทุนของแต่ละคนคงไม่ใช่เพียงเพื่อ "ความมั่งคั่ง" จากพอร์ตการลงทุนที่เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ แต่รวมถึงการ "มีเวลา" ที่มีคุณภาพมากขึ้นและได้ "ใช้เวลา" เพื่อทำกิจกรรมที่ตนชอบและมีความสุข คำถามก็คือ เราได้ทำในสิ่งที่ "อยากทำ" ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมามากน้อยเพียงใด หาก "ไม่ได้ทำ" แสดงว่าเรายังไม่ได้จัดสรรเวลาเพื่อ "สุขสันต์วันหยุด" ดีเท่าที่ควร ขอบคุณหนังสือ สูตร(ไม่)ลับการลงทุน, คุณธันวา เลาหศิริวงศ์
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
อาทิตย์ ก.ย. 21, 2014 9:08 pm
0
0
Re: OVERCOME-ก้าวข้ามความแปรปรวน
ขอบคุณครับ ^_^ เมื่อเลือกกิจการที่แข็งแกร่งและเติบโตได้แล้วก็อยู่กับกิจการนั้นให้นานที่สุด เป็นหลักการที่เหมือนจะง่ายแต่ปฎิบัติยากมากนะครับ เช่น เมื่อเลือกกิจการที่แข็งแกร่งและเติบโตได้แล้ว เราจะอยู่กับกิจการหรือหุ้นตัวนี้ได้ไหมเมื่อผลตอบแทนเพิ่มจาก 0%-50%-100%-200%-n% เราจะอดทนต่อสิ่งยั่วเย้านี้ได้มากเพียงไร หรือเราจะขายกิจการที่ดีนี้เมื่อได้ผลตอบแทน 50%-100% ครับ กำลังพยายามก้าวข้ามสิ่งยั่วเย้านี้ครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
เสาร์ ก.ย. 13, 2014 9:37 am
0
0
Re: ..."คำสาป" ของ "เงินที่ได้มาง่าย"...
..... แต่คำสอนของหลวงพ่อท่านึงที่ผมจำได้ไม่ลืมเลยคือคำสอนที่ว่า " พวกเราไม่ต้องอายนะที่จน จนรวยไม่สำคัญ ถึงจะจนแต่เราสะอาดไม่ต้องอายฟ้าอายดิน ความจนไม่ใช่สิ่งน่ารังเกียจ ความชั่วต่างหากที่น่ารังเกียจ ได้เงินมาทางที่ผิดไปจี้ไปปล้นเค้าไปทุจริตไปหลอกลวงเค้าได้เงินมาไม่กี่วันก็หมดแล้ว แต่ความชั่วจะติดตัวไปตลอดชีวิตติดตัวข้ามภพข้ามชาติ มองเผินๆนึกว่าดีแต่แท้ที่จริงแล้วเป็นการทำลายตัวเองระยะยาว เกิดมาแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องดี ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าอยู่กันไม่กี่ปีก็ตายแล้ว " ..... "จำไว้นะ งานหลักของพวกเราคือการภาวนา งานรองลงมาคืองานที่หาอยู่หากิน โอกาสที่จะได้เจอพระพุทธศาสนานั้นยาก เกิดมาแล้วได้เจอพระพุทธศาสนา อย่าทิ้งโอกาสที่ดีที่ได้มีโอกาสพัฒนาคุณงามความดี พัฒนาจิตวิญญาณนี้ไป " ขอบคุณสำหรับข้อคิดที่ดีๆ ครับ คุณ cobain_vi
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
จันทร์ ก.ย. 01, 2014 12:46 pm
0
1
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
วันนี้ได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือ หุ้นเปลี่ยนชีวิตบนเส้นทาง VI ของคุณวีระพงษ์ ธัม ในบทที่เกี่ยวกับ ความสุขและความทุกข์กับจิตที่ปล่อยวาง คุณวีระพงษ์ได้ให้แง่คิดเอาไว้ว่า... จิตที่ไม่ยึดมั่นถือมั่น จะดำรงไว้ด้วยสติที่แข็งแรง เราจะทุกข์กับหุ้นน้อยลง ไม่ว่าเราจะขายหมู ซื้อน้อยเกินไป ซื้อเร็ว ซื้อช้า ขายเร็ว ขายช้าเกินไป ดังนั้น "สุดยอดการลงทุนที่ทำให้เรามีความสุขทุกย่างก้าวนั้นอยู่ที่ จิตที่ปล่อยวาง "
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
อาทิตย์ ส.ค. 31, 2014 9:20 pm
0
1
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
ความสุขจากการได้ทำสิ่งที่อยากทำครับ นอกจากมีความสุขกับการทำงานประจำแล้ว ยังมีความสุขที่ได้ลงทุนตามแนวทางของนักลงทุนเน้นคุณค่าครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
ศุกร์ ส.ค. 01, 2014 10:16 pm
0
1
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
มันยากที่จะอธิบายความสุขออกมาเป็นคำพูดครับ มันเป็นเรื่องที่หัวใจเราบอกว่ามันใช่ ยิ่งทำมันยิ่งหลงรัก ตั้งแต่กระบวนการค้นหา วิเคราะห์ เข้าเป็นหุ้นส่วน ติดตาม ประเมินผล ทุกกิจกรรมมันเป็นความสุข ความท้าทาย มันไม่ใช่เพื่อตัวเงิน เพราะถึงตัวเงินจะเป็น infinity แต่เราก็ไม่ได้ใช้มันอยู่ดี ความเติบโตของพอร์ตเหมือนคะแนนบอกความสำเร็จมากกว่า ความสุขของการลงทุนจึงเป็นความสุขจากการได้ทำในกิจกรรมที่เรารัก และจะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเมื่อกิจกรรมลงทุนที่เราทำนั้นมันประสบความสำเร็จด้วยมือของเรา ใช่เลยครับ รู้สึกมีความสุขกับวางแผนการเงิน การลงทุน ที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของตัวเอง ไม่เกินกำลังเกินไป ทำให้เรารู้สึกว่าเป้าหมายที่วางไว้มีความชัดเจน สามารถทำได้ และไม่ไกลเกินเอื้อม ซึ่งเมื่อสามารถทำได้ตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้แต่ละช่วงเวลาแล้ว ยิ่งทำให้เรารู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจตลอดการเดินทาง และเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ^_^
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
ศุกร์ ส.ค. 01, 2014 10:11 pm
0
0
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
ผมอ่านเล่มนี้ที่เขาแชร์ประสบการณ์ลงทุนของนักลงทุนที่หลากหลาย อ่านไปก็มีความสุขไปกับเขา เพราะชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนเพราะการลงทุนจริง ๆ และยังสะท้อนไปที่การปรับพฤติกรรมให้รู้จักคุณค่าของค่าเงิน ทำให้พฤติกรรมและทัศนคติการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น ตั้งแต่รู้จักออมเงิน หาความรู้ในการลงทุน เข้าใจธุรกิจที่จะลงทุนแทนการเก็งกำไร ลงทุนมีเหตุผลมากขึ้น ทำการบ้านมากขึ้น และรู้จักความเสี่ยงและบริหารความเสี่ยงเป็นด้วยตัวเองครับ ลองอ่านดูครับ :D http://www.set.or.th/yourfirststock/newlife_investor.pdf ขอบคุณมากครับคุณ chaitorn หลังจากอ่านแล้วดีมากๆ เลยครับ ขอนำแนวคิดแต่ละท่านมาแชร์เพื่อนๆ ครับ ............................................................... พูนศรี การเจริญกุลวงศ์ “การลงทุนทำให้โลกกว้างขึ้น มีมุมมองกว้างมากขึ้น” “แนวคิดของเราคือลงทุนไม่ได้หวังรวย แต่การลงทุนเหมือนกับออมเงินส่วนหนึ่ง ทำให้มีเงินใช้ในหลายช่วงชีวิตอย่างมีความสุข” พฤทธิพงศ์ ลิมาภรณ์วณิชย์ “พอได้รู้จักการลงทุนในทองคำและหุ้น ทำให้รู้เลยว่าทางเลือกการออมเงิน การลงทุนไม่ได้มีแค่ฝากเงินไว้กับแบงก์เท่านั้น” “ชีวิตของผมมีทางเลือกมากขึ้น ทำให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น” “สิ่งที่ทำได้นั่นคือ การช่วยเหลือตัวเอง เราหาเงินมาแทบตาย ก็ควรทำให้งอกเงย และอย่าลืมลงทุนให้กับตัวเองด้วยการศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา อ่านหนังสือ ฟังสัมมนา ยิ่งไปกว่านั้นการลงทุนไม่จำเป็นต้องรอให้มีเงินมาก มีเงินน้อยก็เริ่มต้นลงทุนได้ เพียงแต่ขอให้มีความรู้และความใส่ใจเท่านั้น “การลงทุนเป็นเรื่องของคนที่ใส่ใจ และอยากให้เงินงอกเงย” ชุมพล พิพัฒน์เมฆินทร์ “อย่าโลภเกินความรู้ที่ตัวเองมี หมายความว่า ถ้ายังไม่รู้อะไร ก็อย่าคาดหวังสูงเกินไป ผมอยากให้คิดคล้ายๆ ว่าเรากำลังจะทำธุรกิจ แต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่กลับทุ่มเงินลงไปหมดหน้าตัก ถ้าโชคดีก็ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าผิดพลาดขึ้นมาคงเจ๊ง” “เมื่อเป็นเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง และต้องการลงทุน ต้องศึกษาหาความรู้กระจ่างแจ้ง เหมือนกับก่อนที่จะทำงานต้องเรียนให้จบปริญญาตรีก่อน เช่นเดียวกันถ้าคิดจะลงทุนในตลาดหุ้น แต่ไม่ยอมศึกษาหาความรู้ คุณคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร” “เป้าหมายของผมคือลงทุนเพื่อชีวิต ไม่ได้ลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง” “ดังนั้นเมื่อคุณมีเป้าหมายแล้วต้องทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ อย่างเปลี่ยนใจเด็ดขาด” มนัสวี พรหมสถาวงศ์ “การจะทำอะไร รวมถึงการลงทุนจะต้องศึกษา หาความรู้ให้ถ่องแท้เสียก่อน” การดูหุ้น “ไม่ยาก” ถ้ามีหลักการและจุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง นั่นคือการศึกษา หาความรู้ หาสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง และค่อยๆ เรียนรู้จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จในระยะยาว นพ.บันดาล ซื่อตรง “สไตล์ผมเป็นนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นทุกอย่างต้องอธิบายได้ จึงวิเคราะห์หุ้นจากปัจจัยพื้นฐาน ไม่ดูเทคนิคกราฟที่เน้นการลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น แต่ผมจะลงทุนเหมือนเราตั้งบริษัท วิเคราะห์ธุรกิจ อนาคต ผลตอบแทนใน 5 ปีข้างหน้า” “การลงทุนทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ผมว่าชีวิตผมผมว่าเหมือนถอดแบบจาก Warren Buffet และ อาจารย์นิเวศน์ หมายถึงการที่มีเงินมากไม่ได้ทำให้เราใช้เงินเพิ่มขึ้น ผมยังใช้จ่ายเหมือนเดิม การมีเงินไม่ได้ทำให้เรา ใช้ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป มีบ้านหลังใหญ่หรือรถคันใหญ่ขึ้น” “ผมมีอิสรภาพทางการเงิน แต่หน้าที่การงานก็ยังเต็มที่ จะพูดได้ว่าผมสามารถทำงานในสิ่งที่รัก คือ เป็นทั้งหมอและครู” “คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนไว้อย่างน่าสนใจว่า ให้เริ่มลงทุนกับตัวเองเป็นสิ่งแรก โดยศึกษาหาความรู้อ่านหนังสือ ฟังสัมมนา สมัครใช้โปรแกรมทดลองลงทุน ซึ่งการลงทุนเหล่านี้จะลงทุนเพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น เมื่อเทียบการลงทุนหลักล้านบาทที่ไม่มีความรู้ใดๆ เพราะเมื่อมีความรู้ถูกต้อง การลงทุนกับการศึกษาให้ผลตอบแทนสูงสุด เมื่อเทียบกับอย่างอื่นแล้ว” “ การลงทุนต้องมีทัศนคติที่ดีและลงทุนระยะยาว ลงทุนผูกพันไปกับบริษัท จะทำให้สุขภาพจิตดี ถ้าลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นซื้อขายบ่อยๆ เหมือนที่พูดล้อเล่นกันว่า ซื้อขายหุ้นเพื่อเอาไปซื้อกับข้าว 2-3 พันบาทผมว่าใช้พลังงานชีวิตมากไป ใช้เวลา 3-6ชั่วโมงกับการอยู่หน้าจอ ถ้าเป็นหุ้นเขียวมีความสุข ถ้าเป็นหุ้นแดง ตอนเที่ยงอาจกินข้าวไม่ลง อาจทำให้อายุสั้น ดังนั้น ควรสร้างความสมดุลให้ชีวิตมีความสุข ” จุลทรรศน์ จิรานนท์ “การลงทุนทำให้เราคิดเยอะขึ้นอย่างในเวลาที่จะใช้เงิน คือหากเราเอาเงินไปใช้ในสิ่งของฟุ่มเฟือย สมมติจะใช้ซื้อโทรศัพท์ มูลค่าของสิ่งของที่เราซื้อมันมีค่าลดลงทุกวัน แต่หากเอาเงินที่จะไปซื้อโทรศัพท์มาซื้อหุ้นมันก็มีโอกาสที่จะเติบโต นอกจากนี้การลงทุนยังทำให้ต้องดูข่าวเศรษฐกิจมากขึ้น รู้เรื่องรอบตัวมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลกระทบต่อตลาด” “เรื่องการลงทุนสอนให้เราได้มีความรู้ และยังทำให้จิตใจเราเข้มแข็งในการตัดสินใจ”
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
อาทิตย์ ก.ค. 27, 2014 9:03 pm
0
1
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
ของผมน่าจะเพราะผม ชอบเลยมีความสุขที่ได้ลงทุน นอกจากเรื่องผลตอบแทน ที่ ทำให้เรามีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างมีทางเลือก แล้ว ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือ การติดตามธุรกิจที่เราลงทุน การได้คุยกับเพื่อนๆที่เป็นนักลงทุน การได้เรียนรู้ธุรกิจใหม่ๆที่เราไม่รู้จัก การได้นั่งจินตนาการถึงอนาคตของธุรกิจ หรือการฝันถึงมูลค่าของพอร์ตและเงินปันผลในอนาคต คือ สิ่งที่เราชอบ มีความสุขและหลงไหลเมื่อได้ทำหรือได้นึกถึงมัน ตั้งแต่ผมรู้จักการลงทุน ผมรู้สึกว่าชีวิตมีความหมายขึ้น, รู้สึกดีที่ได้ตื่นขึ้นมาตอนเช้า เพื่อจะได้มาติดตามข่าวสารการลงทุนผมว่าการลงทุนคือส่วนหนึ่งของชีวิตผมแล้วแหละครับ :D เห็นด้วยอย่างยิ่งครับคุณ saichon ที่ว่า ทำในสิ่งที่ชอบนั้นทำให้เรามีความสุข และการลงทุนนั้นทำให้เรามีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างมีทางเลือกมากขึ้นครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
อาทิตย์ ก.ค. 27, 2014 8:50 pm
0
1
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
ลงทุนอย่างมีความสุข by ธันวา เลาหศิริวงศ์ เป้าหมายในการลงทุนของนักลงทุนแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปบ้าง เช่น เพื่อผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากประจำหรืออัตราเงินเฟ้อ เพื่อเป็นแหล่งรายได้สำรองเพิ่มเติมจากรายได้ประจำ เพื่อวางแผนทางการเงินสู่ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น เพื่ออิสรภาพทางการเงิน หรือเพื่อเหตุผลอื่น แต่โดยรวมนั้น นอกเหนือจากการนำเงินที่หามาได้เพื่อใช้จ่ายกับสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวันและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายของตนและครอบครัวอย่างเหมาะสมแล้ว เป้าหมายสูงสุดของทุกคนก็คือ การมี “ความสุข” และได้ทำ “สิ่งที่ตนชอบและรัก” ในการใช้ชีวิตทุกๆ วันจนถึงบั้นปลายชีวิตวัยเกษียณ.... ....เพื่อ “การลงทุนอย่างมีความสุข” คำแนะนำของผมก็คือนักลงทุนจำเป็นต้อง “รู้จักและเข้าใจ” ตัวตนของตนเองให้มากที่สุด และเริ่มปฏิบัติตาม 3 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ หนึ่ง จัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้อย่างเหมาะสมโดยไม่จำเป็นต้องนำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นทั้งหมด สอง สำหรับการลงทุนในหุ้น ต้องเลือกแนวทาง วิธีการ กลยุทธ์และขบวนการตัดสินใจลงทุนให้เหมาะและสอดคล้องกับแนวทางการใช้ชีวิตโดยไม่ฝืนธรรมชาติของตน และสาม นักลงทุนควรตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแต่ไม่สูงและเป็นไปได้ยากเกินไปในการปฏิบัติ และต้องมีความสุขและพอใจเมื่อผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้และเห็นพอร์ตการลงทุนของตนเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงนั่นเอง ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการลงทุนตลอดไปครับ.... ขอขอบพระคุณ คุณธันวา ครับ ติดตามฉบับเต็มได้ตามลิงค์ http://www.thaivi.org/%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82/
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พฤหัสฯ. ก.ค. 24, 2014 9:10 pm
0
0
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
เมื่อก่อนผมก็เคยคิดว่าการมีเงินเยอะๆมันจะช่วยให้ชีวิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของผมมีความสุขมากยิ่งขึ้นแต่เอาเข้าจริงผมกลับพบว่า การลงทุนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างพอประมาณกับความต้องการของตน กล่าวคือการลงทุน เป็นการช่วยให้เรามีรายได้เพียงพอที่จะสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้เป็นปรกติ ไม่ขัดสน และไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร ซึ่งก็คือคำที่เราคุ้นหูกันนั่นคือ ให้เงินทำงานแทน แน่นอน ทางพันไมล์ย่อมเริ่มมาจากก้าวเดียว หากไม่มีการเริ่มต้นก็ยากที่จะพบกับความสำเร็จ ซึ่งก็เท่ากับว่าเรายังคงพอใจในการทำงานกินเดือนกับบริษัทต่อไปตราบเท่าที่เรายังไม่สามารถหาอิสรภาพทางการเงินเจอ การทำงานย่อมนำมาซึ่งความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าชีวิตในการทำงานของเราต้องเป็นทุกข์ตามไปด้วย เพราะเมื่อมีหน้าที่ความรับผิดชอบ เราเองก็ต้องทำมันให้ดีที่สุด ตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย หากงานปัจจุบันเราสามารถทำมันได้อย่างดีเยี่ยมเต็มกำลังความสามารถ งานในอนาคตที่เราวางแผนไว้ก็ไม่มีทางที่จะไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับผม ความสุขของการลงทุนถูกหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับการทำงาน ทำให้แม้เหนื่อยหรือหนักแค่ไหน ก็ยังทำให้เราไม่ละความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายสุดท้ายที่วางไว้ให้ได้ครับ ทุกวันนี้ความคิดของผมเปลี่ยน เปลี่ยนจากที่อยากมีเยอะๆ เป็นเพียงแค่อยากมีพอประมาณ พอใช้สำหรับครอบครัว จนสุดท้าย อาจไม่ต้องลงทุนอีกต่อไปครับ และที่ สำคัญที่สุดก็คือทุกช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า ก็จะไม่มีคำว่าเสียใจครับ… :P ครับคุณ tum_H มีความสุขกับทุกช่วงเวลาของชีวิต จำได้ว่าตอนที่เรียน MBA ท่านอาจารย์เคยสอนไว้ว่าลูกศิษย์ทั้งหลายเอ๋ย ใยเจ้าก้มหน้าก้มตาเที่ยววิ่งหาความสุขกันนักหนา แท้จริงแล้วความสุขอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือเจ้านี้เอง ท่านสอนว่า "ความสุขอยู่ตรงนี้ เวลานี้" เจ้าจงมีความสุขกับทุกช่วงจังหวะชีวิตของเจ้าเถิดลูกศิษย์เอ๋ย....
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
เสาร์ ก.ค. 19, 2014 9:05 pm
0
0
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
การลงทุน นอกจากจะทำให้ผมมีอาชีพในการดำรงชีวิต เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้แล้ว ยังทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจ และภูมิใจเล็กๆ กับการที่เราสามารถยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเองได้ นอกเหนือจากนั้น การลงทุน ยังทำให้ผมได้เรียนรู้ ศึกษา ค้นคว้า ศาสตร์แขนงต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง ทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำมาก่อน การลงทุน ทำให้ผมกระตือรือร้นทุกวันจริงๆครับ เยี่ยม! เห็นด้วยครับคุณ Tibular, นอกจากความสุขที่ได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาในการทำงานประจำแล้ว การลงทุนทำให้ผมเองมีความสุขที่ได้มีโอกาสเปิดหู เปิดตา เปิดใจ และเปิดโลกทัศน์ด้านอื่นๆ ของตัวเองจริงๆ ครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
เสาร์ ก.ค. 19, 2014 8:53 pm
0
0
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
ผมคิดว่าเมื่อเราลงทุนอย่างสบายใจ เราก็จะมีความสุขในชีวิตการลงทุนครับ ขอนำบทความของอาจารย์ ดร. นิเวศน์ ได้มาฝากเพื่อนๆ ครับ ขอบพระคุณท่านอาจรย์ครับ ............................................................................................... ลงทุนอย่างสบายใจ กุมภาพันธ์ 25, 2012 Posted by ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร การลงทุนในหุ้นนั้น หลาย ๆ คนมักจะรู้สึกเครียดและมีกังวลอยู่ตลอดเวลา เขากลัวว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดในประเทศไทยหรือในโลกนี้ซึ่งจะทำให้หุ้นตกทั้งตลาดและทำให้หุ้นเขาตกลงไปด้วย เขากังวลว่าหุ้นตัวที่เขาถืออยู่อาจจะมีปัญหาหรือมีเหตุการณ์ไม่ดีซึ่งทำให้หุ้นตกลงมาอย่างหนักและทำให้เขาขาดทุนมากมายอย่าง “ไม่คาดฝัน” การลงทุนในหุ้นดูเหมือนว่าจะมี “ต้นทุน” ที่ไม่ใช่ตัวเงินแฝงอยู่นั่นก็คือ ความกังวลและความไม่สบายใจ และนั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นบ่อยเพื่อ “ลดความไม่สบายใจ” ในสถานการณ์ที่ “ไม่แน่นอน” แต่นี่มักจะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนของเราลดลงในระยะยาว คำถามก็คือ จะทำอย่างไรถึงจะทำให้เราสามารถลงทุนอย่างสบายใจได้? สูตรการลงทุนอย่างสบายใจของผมก็คือ ข้อแรก จงตั้งความหวังผลตอบแทนระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นให้เหมาะสมนั่นก็คือ ผลตอบแทนทบต้นต่อปีเฉลี่ยประมาณ 10% ถ้าเราคิดว่าเรามีความสามารถสูงมาก ก็อาจจะตั้งความหวังได้สูงขึ้น แต่สูงสุดไม่ควรเกิน 15% ต่อปี โดยคำว่าระยะยาวของผมนั้นจะต้องยาวไม่ต่ำกว่า 10 ปีขึ้นไป การตั้งความหวังที่เหมาะสมนั้นจะทำให้เรามีโอกาสบรรลุผลได้ไม่ยากเกินไปซึ่งจะทำให้เราไม่ต้อง “เร่ง” ผลตอบแทนโดยวิธีการต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ไม่ต้องเล่น “หุ้นร้อน” หรือ ไม่ต้องใช้มาร์จินในการซื้อขายหุ้น เป็นต้น ซึ่งทำให้เราสามารถลงทุนหุ้นได้แบบ “ชิว ๆ” ข้อสอง เลือกซื้อหุ้นที่เน้นความปลอดภัยของตัวกิจการเป็นหลัก นี่คือหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงช้าในด้านของธุรกิจ เป็นกิจการที่ไม่ล้ำสมัยแต่ไม่ล้าสมัย เป็นกิจการที่เป็น “ผู้นำ” มีฐานะทางการเงินดี และถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีกก็คือ เป็นกิจการที่เราเองมีโอกาสได้พบเห็นหรือได้ใช้บริการเป็นประจำ ข้อสาม ต้องมีการกระจายความเสี่ยงในการถือหุ้นอย่างเหมาะสม นั่นก็คือ ถ้ามีเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ก็ควรต้องมีหุ้นอย่างน้อยประมาณ 5 ตัวโดยที่ตัวใหญ่สุดไม่ควรจะเกิน 30% ของพอร์ต นอกจากนั้น ควรจะถือหุ้นในหลาย ๆ อุตสาหกรรม แต่ถ้ามีเงินลงทุนค่อนข้างมากเช่นเป็น 10 ล้านบาทขึ้นไป หุ้นที่ลงก็อาจจะมากขึ้นไปได้ แต่ก็ต้องไม่มากจนเกินไป เพราะมิฉะนั้นเราก็อาจจะมีหุ้นที่เป็น “เบี้ยหัวแตก” ที่ทำให้เราขาดการเอาใจใส่และทำให้ผลตอบแทนการลงทุนของเราด้อยลงไปได้ โดยทั่วไปแล้ว ผมคิดว่าถ้ามีเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท ก็ไม่ควรถือหุ้นเกิน 10-15 ตัว ข้อสี่ เราควรพยายามตั้งเป็นกฎคร่าว ๆ ว่าในแต่ละปีเราจะมีการซื้อขายหุ้นไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุน กฎง่าย ๆ ของผมก็คือ ปริมาณการซื้อขายหุ้นของเราในแต่ละปีไม่ควรจะเกิน 2 เท่าของขนาดของพอร์ตของเรา เช่น ถ้าพอร์ตของเราเท่ากับ 1 ล้านบาทในตอนต้นปี เราควรซื้อขายหุ้นในปีนั้นไม่เกิน 2 ล้านบาท นั่นแปลว่า เราจะถือหุ้นแต่ละตัวเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยเฉลี่ย ถ้าเราซื้อขายหุ้นมากกว่านั้นก็แสดงว่าเราอาจจะถือหุ้นสั้นเกินไปและอาจจะหมายความว่าเราเป็น “นักเก็งกำไร” แทนที่จะเป็น “นักลงทุน” และประเด็นของผมก็คือ การเป็นนักเก็งกำไรนั้น ก่อให้เกิดความตึงเครียดสูงกว่านักลงทุนมาก ข้อห้า อย่าสนใจการขึ้นหรือลงของหุ้นแต่ละตัวมากนัก พยายามมองภาพรวมของพอร์ตหุ้นว่าเติบโตขึ้นหรือลดลง การไปเน้นดูหุ้นแต่ละตัวก่อให้เกิดความเครียดเพราะเราจะพบหุ้นที่มีราคาตกลงไปมากและอาจจะพยายามไปทำอะไรกับมันที่อาจจะไม่ก่อให้เกิดผลดี ที่สำคัญก็คือ อย่าไปดูราคาหุ้นทุกตัวทุกวัน วิธีที่ผมแนะนำก็คือ ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน เราก็คำนวณดูว่าพอร์ตการลงทุนของเราเป็นเท่าไรโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งมีอยู่มากมาย โดยการดูเป็นพอร์ตนี้ เราก็จะเห็นว่าความผันผวนมันน้อยลงเมื่อเทียบกับหุ้นแต่ละตัว และนี่ทำให้เราเครียดน้อยลง และถ้าเราลงทุนเลือกหุ้นได้ถูกต้องโดยเฉลี่ย เราก็ควรจะเห็นพอร์ตของเราโตขึ้นอย่างช้า ๆ และมั่นคงเมื่อเวลาผ่านไป ข้อหก การที่เราจะทำอะไรกับหุ้นแต่ละตัวนั้น ไม่ควรจะเน้นไปที่ด้านของราคาหุ้นรายวัน สิ่งที่เราควรทำก็คือ ทุกไตรมาศ เราต้องติดตามดูว่าผลประกอบการของบริษัทเป็นอย่างไร มันเป็นไปอย่างที่เราคาดไว้ไหม? เช่น ดีขึ้น ดีขึ้นมาก แย่ลง แย่ลงมาก เพราะอะไร? จากนั้นก็สามารถนำมาตัดสินได้ว่าเราจะทำอะไรกับหุ้น โดยปกติถ้าเราลงทุนหุ้นถูกตัวแล้ว ส่วนใหญ่เราก็มักจะไม่ต้องทำอะไร แต่ในบางกรณีที่เราคาดการณ์ผิด เราก็อาจจะขายทิ้งได้ เช่นเดียวกัน บางครั้งเราก็อาจจะซื้อเพิ่ม โดยวิธีนี้ เราก็ไม่ต้องกังวลเป็นรายวันกับราคาของหุ้นมากนัก ข้อเจ็ด เมื่อเราได้รับปันผลมา อย่านำเงินไปใช้หรือเอาออกจากพอร์ตถ้าไม่จำเป็น นำปันผลนั้นกลับไปซื้อหุ้นกลับเข้าพอร์ตเพื่อทำพอร์ตให้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นหลักการลงทุนแบบทบต้นซึ่งจะทำให้พอร์ตโตเร็วขึ้นแบบทวีคูณ เป้าหมายของเราควรจะตั้งไว้ว่าเราต้องการสร้างพอร์ตนี้เพื่อเป็นเงินเพื่อการเกษียณหรือเป็นเงินมรดกเพื่อลูกหลาน เงินที่เราจะนำไปใช้จ่ายนั้นควรเป็นเงินที่เราทำมาหาได้จากน้ำพักน้ำแรงมากกว่า ถ้าคิดได้แบบนี้ เราก็จะสบายใจว่านี่เป็น “เงินเย็น” ที่จะอยู่กับเราต่อไปอีกนานเราจะเครียดน้อยลง ข้อแปด ทุกปี เราต้องคำนวณหาผลตอบแทนประจำปีดูว่าเราทำได้เท่าไรเทียบกับผลตอบแทนของตลาดและเทียบกับเป้าหมายระยะยาวของเราซึ่งก็คือ 10-15% ที่เราตั้งไว้ ถ้าเราทำได้ดีกว่าตลาดและดีกว่าเป้า เราก็ควรจะดีใจโดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ถ้าเราทำได้แพ้ตลาดแต่ยังทำได้ตามเป้าเราก็ยังควรจะดีใจเพราะในไม่ช้าเป้าหมายระยะยาวของเราก็ไปได้ถึง แต่ถ้าเราแพ้ทั้งตลาดและก็ไม่ได้ตามเป้าส่วนตัวของเรา เราก็อาจจะเสียใจบ้างแต่ก็ควรจะดูต่อไปว่าปันผลที่ได้รับในปีนั้นของเราเพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้ามันยังเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน นั่นก็อาจจะเป็นเครื่องปลอบเราว่าที่จริงการลงทุนของเรานั้นไม่ได้ผิดพลาด มันยังก้าวหน้าไป เพียงแต่ในระยะสั้น ๆ ตลาดหุ้นอาจจะไม่เป็นใจทำให้ราคามันลดลง แต่ในอนาคต มันก็คงจะปรับตัวขึ้นไปได้ไม่ยาก ว่าที่จริง ในระยะยาวจริง ๆ แล้ว ปันผลนั้นถือว่าเป็นเครื่องวัดที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งว่า เราลงทุนได้ถูกต้องหรือเปล่า ถ้าปันผลเพิ่มขึ้นทุกปีในอัตราที่น่าประทับใจ เราก็ไม่มีอะไรต้องวิตกเลย ทั้งหมดนั้นก็เป็นกลวิธีการลงทุนที่จะทำให้เรามีความสบายใจ ใช้เวลาไม่มาก ไม่เครียด และได้ผลดี โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีงานประจำเต็มเวลา การลงทุนแบบนี้เปรียบไปก็จะคล้าย ๆ กับการปลูกต้นไม้ใหญ่ยืนต้นที่เราเฝ้าดูแลมันเติบโตขึ้นช้า ๆ แต่มั่นคง โดยที่เราไม่ต้องเร่งมัน แต่เมื่อถึงวันหนึ่ง เราก็จะได้อาศัยร่มเงาและผลของมันมากินได้ต่อเนื่องยาวนานและเป็นที่พึ่งของเราได้ http://www.thaivi.org/%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%83%e0%b8%88/
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พฤหัสฯ. ก.ค. 17, 2014 10:47 pm
0
3
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
ความสุขในการลงทุนของผมตอบแบบดูดีหน่อยก็คือชอบที่เวลาเราไปประชุม ผู้ถือหุ้น ไปเจอผู้บริหาร แล้วก็นั่งฟังและมองอย่างภาคภูมิใจว่า " แหมะ!! เราเลือกไม่ผิดคนจริงๆ " หุหุ...^^) ส่วนข้อที่เป็นความสุขส่วนตัว คือ เวลาไปคุยกับคนอื่นก็สามารถพูดได้เต็มปาก ว่า " ผมลงทุนหุ้นแบบ VI " แล้วก็มีความสุขที่ได้คุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นได้ครับ หากผมไม่ได้ลงทุนหุ้น ก็คงจะคุยกับคนอื่นๆไม่ได้ในเรื่องนี้ คงได้แต่นั่งหงอย และฟังแบบเงียบๆ...T-T) อ้อ สุดท้าย คือ มีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปเดินดูธุรกิจของหุ้นแต่ละตัว ทั้งที่เราสนใจ หรือว่าถืออยู่ครับ ตัวที่สนใจก็จะได้ไปหาข้อมูล สอบถามพนักงาน สังเกตุลูกค้าที่ใช้บริการ และไปส่องดูวิธีการทำงานของเขา ส่วนตัวที่ถืออยู่เวลาไปดูก็รู้สึกภูมิใจแบบเจ้าของ เวลาเห็นของขายหมด แล้วก็มีของใหม่มาเติม รู้สึกปลื้ม ปิติ ยิ่งนัก (แต่เราไม่ยักจะหยิบ ซักถุงแฮะ 555+...แป่ว...) ประมาณนี้ครับ...^^) ใช่เลยครับ มีความสุขที่ได้ลงทุนแบบ VI ครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พฤหัสฯ. ก.ค. 17, 2014 10:37 pm
0
0
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
สุขกาย สุขใจ คือความสุขครับ สั้นๆ แต่ให้นิยามความสุขได้ดีมากๆ เลยครับ ดังที่อาจารย์ดร. นิเวศน์ท่านได้กล่าวไว้ในบทความตอนหนึ่งว่า... การ “ลงทุน” นั้น ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องของเงินทองแต่เพียงอย่างเดียว เรื่องอื่น ๆ ที่เราสามารถอดหรือเลื่อนออกไปในตอนนี้เพื่อที่จะได้สามารถใช้ได้มากขึ้นหรือดีขึ้นในวันข้างหน้าก็เป็นการลงทุนเหมือนกัน ว่าที่จริงมีเรื่องอื่น ๆ อีกไม่น้อยที่การลงทุนมีความสำคัญไม่แพ้เรื่องของเงินทอง หนึ่งในนั้นก็คือ การลงทุนกับ “สุขภาพ” นี่คือการลงทุนในเรื่องของการ “ใช้” ร่างกายและจิตใจในวันนี้อย่าง “ถนอมรักษา” เพื่อที่จะได้สามารถใช้มันได้มากขึ้นและ/หรือดีขึ้นในวันข้างหน้า —เมื่อร่างกายของเราเข้าสู่โหมดเสื่อมโทรมตามอายุของเรา
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พฤหัสฯ. ก.ค. 17, 2014 10:05 pm
0
1
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
บางทีเงินก็ไม่ทำให้ชีวิตมีความสุขได้นะครับ หาเงินตัวเป็นเกลียว วันหาแต่เงิน เครียด ปวดหัว ใช้ชีวิตอยู่กับความเครียดและกองเงินกองทอง จะไปมีความสุขได้อย่างไร พระที่อยู่ในวัดมีจีวรกับบาตรเพียงใบเดียว ท่านยังบอกว่าท่านมีความสุขมาก เห็นด้วยอย่างยิ่งครับที่ว่า "บางทีเงินก็ไม่ทำให้ชีวิตมีความสุขได้" ดังคำกล่าวของ Warren Buffett ที่ว่า "เงินไม่อาจซื้อสุขภาพกับความรักได้"
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พฤหัสฯ. ก.ค. 17, 2014 9:19 pm
0
0
Re: ร้อย8พัน9ความสุขในชีวิตการลงทุน
ขอชื่นชมคุณ picatos แนวคิดท่านดีมากๆ ขอบคุณที่มาแชร์แนวคิดดีๆ ครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พฤหัสฯ. ก.ค. 03, 2014 8:28 pm
0
1
Re: ...หุ้นปั่น...
ขอบคุณครับ พี่โจ มีประโยชน์มากๆ เลยครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
เสาร์ มิ.ย. 07, 2014 9:07 am
0
3
Re: วิธีเพิ่มผลตอบแทน/ธันวา เลาหศิริวงศ์
ขอบคุณมากครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พฤหัสฯ. พ.ค. 29, 2014 11:37 pm
0
1
Re: The Little Book of Valuation
ขอบคุณครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
จันทร์ พ.ค. 12, 2014 9:57 pm
0
1
Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ
ขอบคุณมากๆ ครับ ได้แนวคิดดีมากๆ โดยเฉพาะคนที่เงินทุนน้อยๆ มีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลยครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
อาทิตย์ พ.ค. 04, 2014 7:54 pm
0
2
Re: Money talk@SET15Mar14เจาะหุ้นเด่นConsumer,เศรษฐกิจ-หุ้นไ
ขอบคุณครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
อาทิตย์ มี.ค. 16, 2014 8:33 am
0
1
Re: ...ข้อคิดจากหนังสือการลงทุนที่หายากและราคาแพงที่สุด...
ขอบคุณครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พุธ มี.ค. 12, 2014 9:57 pm
0
1
Re: …หลักการซื้อกิจการของ Warren Buffettt…
ขอบคุณครับ ผมขอเพิ่มเติมจากหนังสือ buffettology บริษัทชั้นเลิศสำหรับวอร์เรน บัฟเฟตต์ จะต้องเป็นธุรกิจผูกขาด ไม่ว่าจะเป็นสินค้ามียี่ห้อหรือธรกิจบริการที่ให้ความรู้สึกเหนือกว่าผู้บริโภค ซึ่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ พบว่าบริษัทชั้นดีนั้นต้องสามารถรักษากำไรสะสมให้ปราศจากภาระในการลงทุนเพื่อรักษาสภาพการดำเนินงานปกติ นอกจากนี้ ผู้บริหารยังต้องสามารถ นำกำไรสะสมไปใช้ลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูง ถ้าไม่มีช่องทางการลงทุนที่เหมาะสม ก็ควรนำไปซื้อหุ้นของบริษัทคืน ซึ่งบริษัทชั้นเลิศนั้นต้องมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีอิสระในการปรับราคาสินค้าหรือบริการตามอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งคำถามที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกบริษัทชั้นเลิศได้อย่างถูกต้องมีดังนี้ 1. บริษัทเป็นเจ้าของธุรกิจสินค้าผูกขาดอย่างชัดเจนหรือสินค้ามียี่ห้อ หรือเป็นเพียงผู้ขายสินค้าโภคภัณฑ์? 2. คุณเข้าใจธุรกิจของบริษัทหรือไม่? 3. บริษัทมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงหรือไม่? 4. กำไรของบริษัทมีความแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หรือไม่? 5. บริษัทจัดสรรเงินลงทุนเฉพาะในธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ หรือไม่? 6. บริษัทสามารถรักษาผลกำไรที่ทำได้ ไว้เป็นกำไรสะสม หรือไม่? 7. บริษัทมีอิสระหรือไม่ในการตัดสินใจนำกำไรสะสมไปใช้ลงทุน ไม่ว่าจะเพื่อธุรกิจใหม่ที่มีอนาคต เพื่อขยายกิจการเดิม หรือเพื่อซื้อหุ้นคืน และมีการตัดสินใจได้ดีเพียงใด หรือไม่? 8. บริษัทใช้กำไรสะสมของบริษัทไปในทางที่ทำให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น และนั้นก็ทำให้มูลค่าของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น ราคาตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้น หรือไม่? 9. บริษัทมีอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย หรือไม่? 10. บริษัทมีอิสระในการปรับราคาสินค้าได้ตามภาวะเงินเฟ้อหรือไม่? 11. บริษัทต้องการเงินทุนจำนวนมากเพื่อปรับปรุงโรงงานและเครื่องจักรให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และรักษาสถานการณ์การดำเนินงานปัจจุบัน หรือไม่? =Buffettology=
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
จันทร์ มี.ค. 10, 2014 10:14 pm
0
5
Re: สรุป Money talk@SET 16 Feb 2014
ขอบคุณครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
อาทิตย์ ก.พ. 16, 2014 11:33 pm
0
1
Re: ROE และ ROA
เข้าใจมากขึ้นและเป็นประโยชน์มากจริงๆ ครับ ขอบคุณมากครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
เสาร์ ธ.ค. 14, 2013 9:27 pm
0
0
Re: ครบเครื่อง เรื่อง PE
ขอคำแนะนำการประเมินราคาที่เหมาะสมโดยใช้ PE ตามตัวอย่างที่แนบมา ดังนี้ครับ... ค่าเฉลี่ยของ EPS จากปี 53-56 เท่ากับ 0.36 *ปี 56 Q3 มี EPS = 0.22 เลยประมาณการ Q4 =0.1 ดังนั้น EPS ปี56 = 0.32 บาทต่อหุ้น ค่าเฉลี่ยของ PE จากปี 53-56 เท่ากับ 31.84 เท่า ดังนั้น ราคาที่เหมาะสม = 0.36x31.84 = 11.30 บาทต่อหุ้น ราคาปัจจุบัน = 10 บาทต่อหุ้น ดังนั้นหากซื้อที่ราคาปัจจุบันจะมี SOF = 13% ช่วยแนะนำการประเมินดังกล่าวข้างต้นด้วยครับ หากมีคำแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติม ยินดีรับฟังทุกความเห็นครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
เสาร์ ธ.ค. 14, 2013 8:58 pm
0
0
Re: พบ saichon ใน moneytalk คืนวันพุธ 11ธค56 สี่ทุ่มครึ่ง tn
ดูไปก็ยิ้มไป คุณสายชล ดูจริงใจ เรียบง่าย และมีทัศนคติดี ครับ ขอบคุณสำหรับแนวคิดการลงทุนครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พุธ ธ.ค. 11, 2013 11:23 pm
0
3
Re: ข้อคิดก่อนจะขายหุ้นหรือปรับพอร์ต
ขอบคุณมากครับ ชอบประโยคนี้... ผมดำรงไว้ซึ่งนโยบายนี้เพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของผมที่จะ "สร้างผลตอบแทนแบบโดดเด่นในยามที่ตลาดตกต่ำหรือในสภาวะปกติ และผมยินดีที่จะได้รับผลตอบแทนแบบปกติในยามที่ตลาดร้อนแรง"
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 5:23 pm
0
0
Re: อจ.นิเวศน์สุดยอดครับ
ขอแสดงความนับถือ ท่านอาจารย์ ดร.นิเวศน์ ครับ
โดย
ปลูกหุ้นกินผล
พุธ ธ.ค. 04, 2013 10:52 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
ปลูกหุ้นกินผล
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พุธ ธ.ค. 04, 2013 9:48 am
ใช้งานล่าสุด:
พุธ พ.ย. 18, 2015 12:39 pm
โพสต์ทั้งหมด:
111 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.03 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
ปลูกหุ้นกินผล
http://www.facebook.com/PookHoonKinPhol
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว