ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน เพิ่งโทรไปคุยมา กลับโดนบอกกลับว่าไปหาคนอื่นมาคุยแทน เพราะเค้าบอกว่าผมไม่เข้าใจจริงแค่ไปยกตัวอย่างจากบอร์ดมาพูด :shock: ผมคุยตัวอย่างคุณck กับเรื่องกล้วย เค้ากลับบอกว่าหุ้นไม่เหมือนกล้วยหรือเพชร ถึงเพชรตอนแรก2แสนแต่พออีกคนจะซื้อ1แสน ก็รีบขายทันที ก็เป็นแค่ราคาอุปโลคขี้นมา เค้าพูดเร็วด้วย เถียงไม่ทันเลย ส่วนตัวอย่างคุณckเค้าบอกว่าไปถัวเฉลี่ยรวมกันเป็น0อย่างนั้นไม่ได้ ส่วนเรื่องกำไรเค้าไม่ขอคุยเพราะหาต้นตอเงินมาได้ แต่ส่วนขาดทุนที่c เงินมันหายไปไหน เป็นค่าโง่ จนป่านนี้ผมก็ยังเข้าใจว่าเรื่องเงินไม่ว่ากล้วยหรือหุ้นก็เหมือนกัน ตอนแรกผิดหวังเล็กน้อยที่เค้ายังไม่เข้าใจเลยคล้ายกับเราแพ้บทสนทนา แต่second thoughtก็พิจารณาได้ว่า สรุปว่าเค้าตัดบทสนทนารีบวางสายเอง ก็แล้วแต่ผมก็เข้าใจอย่างเนี้ย แล้วรู้สึกเค้าน่าจะสุภาพหน่อย secondThoughtก็พิจารณาว่าทุกอย่างเกิดแต่เหตุปัจจัย อย่าไปมีอกุศลกับเรื่องนี้เลย..okจบ..ใช้ชีวิตต่อไป โดย ปฏวี พุธ ก.ค. 27, 2005 5:47 pm

ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน ก่อนอื่นบอกก่อนว่าดีใจมากคนตอบกันเต็มเลย รักบอร์ดนี้มาก ชื่อเก่าๆที่เคยเห็นเมื่อปี2003ก็ยังเห็นกันอยู๋หลายคน ชอบคำตอบคุณckว่า20บาทไม่ได้หายไปไหน ตอนแรกผมลืมคิดต้นทุนของบริษัทที่ออกหุ้นออกมา ส่วนเรื่องกล้วยคุณคัดท้ายขอถามเหมือนกันว่า ถ้าคนปลูกกล้วยปลูกกล้วยขี้นมาใช้เงินทุนทั้งหมด5บาท แต่ที่ตลาดขายกัน3บาท เค้าเลยต้องขาย3บาท แล้วเงิน2บาทหายไปไหน (แต่จริงๆแล้วเงินทุนปลูกกล้วย5บาทมันก็แค่เรื่องตกลง ถ้าเกิดกล้วยมันงอกมาเองที่หลังบ้านล่ะ) ....สรุปกระทู้นี้คือ เงินไม่ได้หาย เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับเงินตัวเลขเกิดจากการตกลงเหมือนเกมส์แลกกระดาษปากกา สสารไม่หายจากโลก แต่การตกลงข้อยอมรับเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง...สรุปอย่างนี้ได้มั้ยครับ เดี๋ยวผมอาจมีคำถามอีก เพราะเดี๋ยวไปอธิบายเจ้าของคำถามกับเพื่อนก่อน ว่าเค้าอาจทำให้ผมมีคำถามอีกมั้ย โดย ปฏวี พุธ ก.ค. 27, 2005 5:21 pm

เรื่องข้าวกล้อง ข้าวกล้องกับการเผาไหม้สมบูรณ์ไม่เคยได้ยิน อนุมูลอิสระกับข้าวขาวไม่เคยได้ยิน ข้าวกล้องประกอบด้วย ข้าวขาว จมูกข้าว รำข้าว เพราะฉะนั้นถ้าเราเลี่ยงข้าวขาวไม่ได้ให้ไปซื้อจมูกข้าว กับรำข้าวที่สันติอโศก หรือร้านอาหารเพื่อสุขภาพทั้งหลาย lotusอ่อนนุชมีจมูกข้าวขาย แต่ไม่มีรำข้าว ข้าวกล้องมีอัตราส่วนระหว่าง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน ที่ลงตัว เหมาะกับการเป็นอาหารหลักของมนุษย์ที่สุด พวกอเมริกาเหนือกินข้าวโอ๊ต(โปรตีนเยอะแต่ขาดวิตามินบางตัว) ข้าวสาลี(ไม่ขัดขาวจะดี แต่ไม่นุ่มเหมือนหอมมะลิบ้านเราที่lotusอ่อนนุชมีขายเช่นกันแพงกว่าหอมมะลิด้วย) อเมริกาล่างกินข้าวโพด(แต่ต้องกินธัญพืชกินถั่วหลายประเภทด้วยในแต่ละมื้อ) ยุคก่อนหน้านี้ที่เศรษฐกิจเริ่มดี คนเปลี่ยนจากบริโภคข้าวซ้อมมือ มาเป็นข้าวขาว โดยเฉพาะพวกญี่ปุ่น แล้วติดกับความนุ่มของข้าวขาว เอเชียเลยตามๆกันหมด กลายเป็นแบบอย่างความเชื่อว่ากินข้าวขาวคือคนรวยกว่าเพราะต้องเสียค่าขัดข้าว แล้วต่อมาก็เริ่มเกิดโรคอะไรซักอย่างจำไม่ได้กับคนเอเชีย เพราะเนื่องจากขาดวิตามินบางอย่าง เช่น b นักวิทยาศาสตร์โภชนาการทั้งหลายเลยมาที่เอเชีย ศึกษาค้นคว้ากันใหญ่ แล้วสังเกตไก่ที่เลี้ยง ซึ่งแต่ก่อนกินข้าวกล้อง แล้วเปลี่ยนเป็นข้าวขาวที่เหลือจากคน ปรากฏว่าไก่ก็เป็นโรค จึงเริ่มมีการรณรงค์ให้กินข้าวกล้อง แล้วก็วิจัยข้าวกล้องกันมากขึ้นว่าดียังไง จมูกข้าวแน่นอนมีวิตามินบี ช่วยบำรุงประสาท ซ่อมแซมเซลล์ บำรุงสมอง ผมทานวิตามินบีเพิ่มด้วยเพราะเป็นมังสวิรัติ วิตามินบีให้ทานจะเร่งการเผาผลาญด้วย กินแล้วจะรู้สึกร้อน โฮลวีทก็สู้ข้าวกล้องไม่ได้เพราะผ่านกรรมวิธีมากกว่า ผมเข้าใจประมาณว่าเสียพลังธรรมชาติไปมั้ง เหมือนที่เค้าบอกว่ากินถั่วงอกแล้วดีเพราะได้พลังธรรมชาติจากการงอกขึ้นมา ซึ่งถึงแม้ทางวิทยาศาสตร์จะบอกว่าเสียคุณค่าไปจนน้อยกว่าถั่วเป็นเม็ดก็เหอะ ส่วนเรื่องน้ำตาลนั้นไม่ดียังไงก็อีกยาว ผมมีเทปอยู่ไว้ไปคัดลอกเอาคำพูดเป๊ะๆดีกว่า คนอื่นจะได้เข้าใจเต็มที่ แล้วไว้จะโพสให้ เอ้อ แล้วเรื่องอนุมูลอิสระอีก เดี๋ยวยาวอีก โพสไปแล้วกลัวเค้าจะไม่อ่านกันน่ะซี่ โดย ปฏวี พฤหัสฯ. ต.ค. 30, 2003 11:16 am

ผมกำลังว่างมาก ว่างก็ดีแล้วครับ เค้าเรียกว่ามีอิสรภาพทางด้านเวลา ไม่ต้องทำงานประจำหรือเฝ้าร้านเป็นเถ้าแก่ เป็นเป้าหมายของหลายคนทีเดียว ส่วนผมถ้าว่างก็ชอบอ่านเรื่องที่สนใจ เช่น ศาสนาพุทธ vi สุขภาพ การพัฒนาตัวเอง บ้านคุณเจ๋งอยู่ไหนครับ ถ้าพี่ไม่รังเกียจ แล้วว่างนัก ผมจะไปขอคำแนะนำเรื่องvi จะไปคุยถึงบ้านพี่เลย (ถ้าไม่ไกลนัก) ตอนนี้เรียนมหาลัยอยู่เรีอนเรื่องFCF EPS PE ROE ROAแล้ว แต่คิดว่ายังไม่กระจ่างเท่าไหร่ อยากcase studyเยอะๆหน่อย ที่คุณเจ๋งบอกว่าไม่เก็บตังค์แล้วตั้งใจน้อยกว่าเก็บตังค์ ผมว่าถึงไม่เก็บเค้าก็ตั้งใจนะครับ เพราะถ้าเทียบกับติวสอนเอ็นทรานซ์มันไม่เหมือนกัน เพราะถ้าเค้าจะเรียนเรื่องviคือหมายถึงเค้าสนใจเรื่องนี้ ถ้าเค้าสนใจเค้าก็จะตั้งใจ แต่ถ้าเอ็นเค้าอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ โดนบังคับสอบตามหลักสูตรเลยทำให้ไม่ตั้งใจ ส่วนเรื่องcompany visit ก็คอยอยู่ครับ ไปไหนไปด้วย เอ้อ พี่ว่างดี ไปเข้าคอร์สวิปัสสนาซัก7วันสิ กลับมาอาจได้อะไรดีๆหลายอย่าง -คุณแม่สิริhttp://www.ybat.org/members/member_thai5.html -หรือถ้าคอร์สเล็กๆ(ไม่เกิน10คน)ก็ที่ระยองมูลนิธิโคตมกะ วันที่17-24ตคนี้ผมก็จะไป โดย ปฏวี พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2003 9:43 am

มือใหม่ครับ มาแนะนำตัว เพิ่งสมัครสมาชิก ที่คุณsirivajjบอกว่าไม่ต้องรีบ เดือนหน้าก็ได้ ปีหน้าก็ได้ จริงหรือครับ เราก็ต้องรอราคามันตกอีกครั้ง ถึงจะซื้อได้ แล้วทั่วๆไปราคาหุ้นมันตกต่ำกว่าค่าจริงกันบ่อยเหรอครับ สำหรับหุ้นvi ผมคิดว่าคงรอกันนานกว่าตัวที่เราศึกษาไว้จะมีโอกาสต่ำดีพอจนเราน่าซื้อซะอีก โดย ปฏวี พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2003 9:09 am

ตี 4 แล้ว สุขภาพสำคัญมากครับ ควรเข้านอน3-4ทุ่ม เพราะร่างกายจะชาร์จพลังงานได้ดีที่สุดช่วงนี้ จะสังเกตได้ถ้านอนหลังจากนี้ในระยะเวลาเท่ากัน จะนอนไม่อิ่มเท่า แล้วควรตื่นซักตี5เพื่อมาขับถ่าย แล้ว7-9โมงเช้าต้องทานมื้อเช้า ไม่งั้นร่างกายจะดูดอุจจาระกลับเข้าไป ทำให้มีกลิ่นตัว โดย ปฏวี พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2003 8:57 am

ขอนอกเรื่องหน่อยนะคะพี่ๆ เลือกเรียนเลือกงานเลือกที่ชอบ ถ้าทำสิ่งที่ถูก ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ต้องสนกระแสสังคม เช่น ส่วนมากพอมีบ้านใหม่ต้องจัดงานขึ้นบ้านใหม่ประกาศฐานะ ถ้าเราเห็นว่าไม่เกิดประโยชน์ก็ไม่ต้อง โดย ปฏวี ศุกร์ ต.ค. 03, 2003 7:28 am

มาขอบคุณคณะจัดงานพร้อมมีคำถามค่ะ ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทั้งหลาย action=reaction แน่นอนครับ http://www.kittinun.com/Own2.asp?StoryNo=5&FileName=story18.txt โดย ปฏวี อาทิตย์ ก.ย. 21, 2003 9:38 am