หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
ลูกอิสาน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Joined: จันทร์ ต.ค. 13, 2003 8:52 pm
6483
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - ลูกอิสาน
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: สัมมนาวีไอภาคใต้ Q1 2566
มีตติ้งวีไอภาคใต้ครั้งที่จะถึง ไตรมาส 2/2566 ผมของดก่อนนะครับ เพราะยังไม่หายดีจากกล่องเสียงอักเสบ ครั้งที่แล้ว ต้องขออภัยเพื่อนๆพี่ๆน้องๆด้วยครับ ขอเป็นไตรมาสถัดไปนะครับ
โดย
ลูกอิสาน
พฤหัสฯ. ก.ค. 20, 2023 10:08 pm
5
12
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2566
รายชื่อผู้ได้สิทธ์ร่วมงานครับ ท่านที่พลาด ขอเป็นครั้งถัดไป จัดทุกไตรมาส จัดทุกปี 1 kophop 2 illidan 3 IndyVI 4 syj 5 golfinvest 6 Qwerty01 7 maylard 8 lekkung 9 it 10 papergirl 11 Ktdec 12 nongcat 13 Ratthanin 14 eyepan 15 off_kasidis 16 elite 5 17 Bankkimhor 18 T.ded 19 กุหลาบที่ไม่เคยโรย 20 clear-ice 21 M.Chanawee 22 devil_leg 23 SARANGUY 24 LOBSTERVI 25 thanadajhd 26 amornkowa 27 Thaned.Lao 28 shakirs marong 29 Tong30m 30 Khemt 31 Andy Dufresne 32 Arkad 33 dr1 34 rhythm 35 Hayate_VI 36 JJSMILE 37 AnieLee 38 กิมหงวน 39 teewu 40 large 41 mark26648 42 vrenbf 43 BenzBatutos 44 Marcus 45 bluesea_SK 46 sergio_rb (ครั้งแรก) 47 osay (ครั้งแรก) 48 Kingkony00 (ครั้งแรก) 49 Meawnoi (ครั้งแรก) 50 Nach.S (ครั้งแรก) 51 P3H12 (ครั้งแรก) 52 บัวดิน- ทีมงาน 53 พี่แมว- ทีมงาน 54 พี่จรัญ- ทีมงาน 55 พี่ตี้- วิทยากร ------- รายชื่อสำรอง 1.Khwanjai_lin 2.Fonfon 3.tarita263 4.Satori-Zen 5.bulbul 6.Buntam 7.019412 8.Peter1011 9.Brave Boy 10.LoveEarn (หากมีคนสละสิทธิ์ ขอให้แจ้งในกระทู้ คนที่สำรองสามารถมาร่วมงานได้ตามลำดับ ขอให้ยืนยันในกระทู้ด้วยครับเพื่อไม่ให้ท่านอื่นเสียสิทธิ์) งานมีตติ้ง เวลา 10.00-16.30 น. โรงแรมนิวซีซั่น หาดใหญ่ กระทู้จองร่วมงานจะโพสต์ก่อนวันงานประมาณ 1 เดือน วันจัดงาน จะเป็นอาทิตย์แรกหลังวันประกาศงบครบ
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ เม.ย. 24, 2023 8:07 pm
0
2
Re: พี่ๆท่านใดมีเว็บแนะนำบ้างไหมครับ ที่จะหาราคาหุ้นที่ตกลงมาเยอะที่สุดในตลาด 10 อันดับแรกเป็นต้นครับ ภายใน 1-2 ปีที่ผ่า
ลองเข้าไป investing.com เลือกดัชนี เลือกองค์ประกอบหรือ components เลือก ผลการดำเนินงาน หรือ performance คลิ๊กที่บรรทัดแรกเพื่อเรียงลำดับครับ
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ ก.พ. 11, 2023 10:21 am
1
20
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 4/2565
รายชื่อผู้ได้ร่วมงานจากการสุ่มครับ คนที่พลาดขอเป็นครั้งต่อๆไปนะครับ จัดทุกปี ปีละ 4 ครั้ง 1 1. IndyVI 2 2. amornkowa 3 4. kophop 4 5. thusthana4569 ครั้งแรก 5 9. theunited 6 11. AerwinTL 7 14. pongpongtep ครั้งแรก 8 19. lekkung 9 22. Thaned.Lao 10 26. M.Chanawee มือใหม่ 11 27. off_kasidis มือใหม่ 12 30. mark26648 13 31. nongcat 14 34. กุหลาบที่ไม่เคยโรย 15 35. Tana34 16 38. ninginvest 17 43. Sermwit มือใหม่ 18 46. earthcu 19 49. chocolatecake 20 51. horizon 21 54. Nutthida.ch มือใหม่, ครั้งแรก 22 56. saichon 23 58. shakirs marong ครั้งแรก 24 59. putin 25 60. sonny_k 26 63. REALYOU 27 65. theerasak24 28 68. Lhengvi มือใหม่ 29 72. syj (ใช้สิทธิ์ ส.ว. ได้ไหมครับ) 30 74. Khemt 31 75. Ktdec 32 78. vmr 33 82. AEMMY ครั้งแรก 34 84. Mongkol15 35 88. bluesea_SK 36 91. tarita263 37 92. ZVI 38 94. ALOHAYONG 39 96. Nek 40 98. Rakkiat 41 100. teewu ครั้งแรก 42 101. JJSMILE 43 104. WANCHRIST ครั้งแรก 44 17. GFlying (ครั้งแรก) 45 79. จอมยุทธอินทรี (ครั้งแรก) 46 83. mylifeichoose มือใหม่ (ครั้งแรก) 47 บัวดิน (ทีมงาน) 48 พี่แมว (ทีมงาน) 49 พี่จรัญ (ทีมงาน) 50 ty (ทีมงาน) 51. worapong(ทีมงาน) สำรอง 7. Ratthanin มือใหม่, ครั้งแรก สำรอง 16. JUPERJOE สำรอง 25. BenzBatutos สำรอง 40. eyepan สำรอง 80. Arkad สำรอง 89. Khwanjai_lin สำรอง (หากมีคนสละสิทธิ์ ขอให้แจ้งในกระทู้ คนที่สำรองสามารถมาร่วมงานได้ตามลำดับ ขอให้ยืนยันในกระทู้ด้วยครับเพื่อไม่ให้ท่านอื่นเสียสิทธิ์) งานจะจัดวันที่ 5 มีนาคม เวลา 10.00-16.30 น. โรงแรมนิวซีซั่น หาดใหญ่ กระทู้จองร่วมงานจะโพสต์ก่อนวันงานประมาณ 1 เดือน วันจัดงาน จะเป็นอาทิตย์แรกหลังวันประกาศงบครบ
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ ก.พ. 06, 2023 10:15 am
1
9
Re: ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
แจ้งข่าว ต่อไปผมจะโพสต์กระทู้สวัสดีปีใหม่ในห้อง Value investing แทนครับ
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ ม.ค. 01, 2023 1:18 pm
0
16
Re: รับจอง มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3/2565
รายชื่อผู้ได้มาร่วมงานมีตติ้งครับ หากท่านใด มาไม่ได้ ช่วยรีบแจ้งในกระทู้นะครับ ท่านที่สำรองจะได้ขยับขึ้นมา ท่านใดที่ไม่ได้สิทธิ์ ขอเป็นคราวหน้า จัดทุกไตรมาส ทุกปี 1 IndyVI 2 illidan 3 lekkung 4 kate.ttbk 5 kophop 6 it 7 Arttharin 8 mookvy 9 ninginvest 10 golfinvest 11 eyepan 12 REALYOU 13 Thaned.Lao 14 Qwerty01 15 M.Chanawee 16 JJSMILE 17 Tong30m 18 vmr 19 Airmd 20 RnD-VI 21 Khemt 22 syj 23 elite 5 24 Marcus 25 ekkachai22 26 monsoon 27 off_kasidis 28 nongcat 29 tarita263 30 SARANGUY 31 Mongkol15 32 maylard 33 chanchai_lee 34 Toro149 35 Thanavitk 36 สิปาดัน 37 Gflying 38 horizon 39 basikboy 40 rainforce 41 19412 42 noon.rinrada 43 chocolatecake 44 worchane มือใหม่ 45 LoveEarn มือใหม่ 46 Dr1 อาวุโส 47 encore999 อาวุโส 48 charan ทีมงาน 49 บัวดิน ทีมงาน 50 พี่แมว ทีมงาน สำรอง (ขยับขึ้นมาตามลำดับ หากมีการสละสิทธิ์) 1.ต้วนอี้ 2. Mr.Children 3. Lobstervi 4. Arkad
โดย
ลูกอิสาน
พุธ ต.ค. 26, 2022 6:32 pm
0
4
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 2/2565
รายชื่อผู้ได้สิทธ์ร่วมงานครับ ท่านที่จองไม่ได้ ขอเป็นครั้งถัดไป จัดทุกไตรมาสครับ ผู้ร่วมงานทุกท่าน กรุณาสวมใ่ส่หน้ากากตลอดงาน หากไม่มั่นใจตัวเอง ตรวจ ATK ก่อนครับ 1. AESTHETIC (ครั้งแรก) 2. eyepan 3. tanasan (ครั้งแรก) 4. indyVI 5. BenzBatutos 6. lekkung 7. maylard 8. ZVI 9. chocolatecake 10. tawa 11. Baty 12. golfinvest 13. ninginvest 14. benzkanin 15. Blzy 16. illidan 17. Khemt 18. DonaldduckVI 19. Satori-Zen 20.
[email protected]
(ครั้งแรก) 21. Ktdec 22. thanadajhd 23. noppakeng (ครั้งแรก) 24. encore999 25. devil_leg 26. Tong30m 27. Nonkc 28. Thaned.Lao 29. mookvy 30. markvi.hatyai (ครั้งแรก) 31. Piti091 (ครั้งแรก) 32. vmr 33. Dao Yoga 34. nuttapolm 35. Guez07 36. tarita263 37. nongcat 38. prompunyo 39. elite 5 40. Bankimhor 41. Saipan. 42. Qwerty01 43. rhythm 44. charun (ทีมงาน) 45. พี่แมว (ทีมงาน) 46. พี่บัวดิน (ทีมงาน) 47. ลูกอิสาน 48. birdying (ครั้งแรก) สำรอง (หากมีการสละสิทธ์ รายชื่อสำรองถัดๆ ไปตามลำดับ มาร่วมงานได้เลยครับ) 1. Joe Tanachot 2. International 3. wasin3107 4. Arkad 5. 019412
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ ส.ค. 01, 2022 11:28 am
1
3
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2565
มีรายชื่อซ้ำ 1 ท่าน ยกเลิก 1 ท่าน สำรองอันดับ 1-2 ขยับมาได้เลยครับ
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ พ.ค. 07, 2022 6:22 pm
0
4
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2565
สรุปรายชื่อผู้ร่วมงานและสำรองนะครับ 1 tarita263 2 kophop 3 theunited 4 DonaldduckVI 5 ผักกาด 6 lekkung 7 maylard 8 liverBO 9 illidan 10 gonogo 11 RnD-VI 12 Qwerty01 13 IndyVI 14 it 15 Nonkc 16 Mr.Children 17 Narut_R91 18 REALYOU 19 gasidit123 20 Fonfon 21 mookvy 22 vmr 23 Thaned.Lao 24 dr1 25 syj 26 Dao Yoga 27 monsoon 28 กิมหงวน 29 Moopama 30 nongcat 31 elite 5 32 chanchai_lee 33 rohan 34 แสนยานุภาพ 35 tarita263 36 019412 37 saichon 38 chocolatecake 39 natznatz 40 Blzy 41 Joe tanachot 42 eyepan มือใหม่ 43 190218 มือใหม่ 44 Lopstervi มือใหม่ 45 Bam999 มือใหม่ (1รายชื่อสมัครได้แค่1ที่ครับ) 46 พี่แมว 47 พี่บัวดิน 48 charun 49 ลูกอิสาน 50 Sawade สำรอง 1. montonhatyai 2. golfinvest 3. devil-leg 4. Toro149 5. ktdec
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ เม.ย. 25, 2022 10:15 am
0
8
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2565
ลงชื่อต่อได้นะครับ จนกว่าจะครบ 44 ท่าน
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ เม.ย. 24, 2022 11:03 am
0
2
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 4/2564
คุณ ckanjana ขอสละสิทธ์ คุณ ampare ขยับมาได้เลยครับ
โดย
ลูกอิสาน
พฤหัสฯ. ก.พ. 17, 2022 11:30 am
0
1
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 4/2564
ตรวจ ATK สามารถซื้อชุด kit มาตรวจได้เองก่อนวันงาน 1 วัน ถ่ายรูปผลตรวจ และนำมาแสดงก่อนเข้างาน แค่นั้นครับ
โดย
ลูกอิสาน
อังคาร ก.พ. 15, 2022 2:44 pm
0
1
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 4/2564
ผู้ได้เข้าร่วมงานครับ (อย่าลืมนำผลตรวจ ATK แสดงก่อนเข้างานนะครับ) 1 elite 5 2 syj 3 Moopama 4 ckanjana 5 papergirl 6 Khemt 7 vmr 8 mookvy 9 Dao Yoga 10 chanchai - lee 11 IndyVI 12 nongcat 13 ผักกาด 14 realyou 15 saichon 16 Arkad 17 illidan 18 bulbul 19 Qwerty01 20 Mr.children 21 lekkung 22 K.Jame 23 JUPERJOE 24 Nonkc 25 chocolatecake 26 calmezz 27 Narut - R91 28 RnD-VI 29 *19412 30 PJsmile 31 ต้าา 32 หูฉลาม น้ำเขียว 33 Thanatip 34 noon.rinrada 35 Nungruthai phouyt 36 gasidit123 37 jatturong 38 stangst8 39 Thaned.Lao 40 Tong30m 41 arin 42 JJsmile 43 rohan สำรอง 44 ampare 45 it ทีมงาน charun / บัวดิน / พี่แมว / วรพงค์
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ ก.พ. 11, 2022 8:37 pm
0
6
Re: สงสัยเรื่องผลตอบแทนเฉลี่ย 29%ต่อปี ใน 13 ปี ของ Peter lynch ครับ
เป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ เมื่อ Peter Lynch เริ่มบริหารกองทุนนี้ มีเงินเริ่มต้น 18 ล้านเหรียญ และเค้าทำผลตอบแทนต่อปีได้ 29 % ติดต่อกัน 13 ปี เงินต้นนี้ จะโตจาก 18 ล้านในปีแรก เป็น 493 ล้านเหรียญในปีที่ 13 แต่เนื่องจากเมื่อบริหารได้ 3-4 ปี และทำผลตอบแทนได้ดี ก็มีประชาชนเริ่มรับรู้ และสนใจซื้อกองทุนมากขึ้น และยิ่งทำผลตอบแทนได้ดีต่อเนื่อง ก็มีกระแสเงินหลั่งไหลมาซื้อกองทุนมากขึ้น โดยเฉพาะปีหลังๆ จนกองทุนมีขนาดถึง 14,000 ล้านเหรียญ สรุปคือกองทุนโตจาก 2 ทาง จากการทบต้นตามระยะเวลาลงทุนที่นานขึ้น และโตจากเงินทุนใหม่ จากประชาชนที่แห่เข้ามาลงทุนเพิ่ม ซึ่งเงินก้อนหลังนี้น่าจะมากกว่า คล้ายๆกับที่นักลงทุนบอกว่า เริ่มลงทุน 1 ล้าน ผ่านไป 3 ปี โตเป็น 10 ล้าน ความจริงคือใน 3 ปีนี้ เติมเงินเพิ่มไปอีก 9 ล้าน :D
โดย
ลูกอิสาน
อังคาร ม.ค. 11, 2022 9:52 pm
0
18
Re: ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
กราบสวัสดีปีใหม่ปี 2565 พี่น้องชาวสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่าทุกท่าน กราบสวัสดีอาจารย์ ดร.นิเวศน์ ดร.ไพบูลย์ พี่ปรัชญา พี่ครรชิต ลุงขวด เฮียคลายเครียด พี่หมอ jfk พี่กะละมัง พี่พี พี่วัฒน์ พี่หมอพงศ์ศักดิ์ พี่หลิน พี่หนิง พี่กุ๊ก พี่หมอสามัญชน พี่พรรณ พี่ไก่ พี่มน พี่บู พี่วิบูลย์ พี่นัน พี่ตี้ พี่จรัญ พี่แมว พี่สุบรรณ พี่บัวดิน หมอหนึ่ง พี่ WEB พี่ฉัตร พี่ชาย พีเจ๋ง พี่ประชา พี่นริศ พี่โดม พี่พอใจ พี่นุช พี่อมร พี่วรรณ พี่หน่อง พี่เล็ก พี่นา พี่ ๆ น้องๆ ชาวไทยวีไอทุกคน ขอคุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครองให้ทุกท่านปลอดภัย มีความสุขกาย สบายใจ ตลอดปี ตลอดไปครับ :D ปี 2564 ย่างเข้าสู่ปีที่สอง ของวิกฤติโรคโควิด ถึงแม้จะยังไม่สามารถขจัดโรคภัยนี้ให้หมดไปได้ แต่สถานการณ์ทั่วโลกโดยรวมก็ดีขึ้น เพราะโลกเริ่มรู้จักวิธีรับมือ มีเครื่องไม้เครื่องมือ ยารักษา วัคซีน ดีกว่าปีก่อนหน้า ในขณะที่ตัวเชื้อโรคก็ปรับตัวเองให้มีความสามารถในการอยู่รอดมากขึ้น นั่นคือติดต่อสู่ host ได้ง่าย แต่ไม่ทำให้ host ตาย นั่นทำให้เชื้อมีโอกาสที่จะแพร่พันธ์ได้มากกว่าเดิม สภาวะตลาดหุ้นก็คล้ายๆกัน ตลาดหุ้นไทยทำจุดต่ำสุดในช่วงต้นปี และค่อยปรับตัวขึ้นสูงแบบซิกแซก ดัชนี set ปิดสิ้นปีที่ 1,657.62 จุด เพิ่มจาก 1,449.35 จุดในปี 2563 นั่นคือดัชนีเพิ่มขึ้น 14.37 % เมื่อพิจารณาดัชนี Set TRI ซึ่งรวมเงินปันผลเข้าไปด้วย ดัชนีปิดที่ 11,365.88 จุด จาก 9,659.25 จุด หรือตลาดหุ้นไทยปี 2564 ให้ผลตอบแทน 17.67 % ทั้งปี 2564 มีหุ้น IPO เข้าตลาดประมาณ 41 บริษัท โดยบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ ตื่นไอพีโอ ” ได้แก่ ปตท.ค้าปลีกหรือ OR และเงินติดล้อหรือ TIDLOR ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยมีสิทธิ์ได้รับการจัดสรรหุ้นอย่างทั่วถึง มูลค่าการระดมทุนผ่านการ IPO ประมาณ 1.37 แสนล้าน เป็นรองแค่อินโดนีเซียที่สูงกว่าในภูมิภาคอาเซียน มูลค่าการซื้อขายต่อวันในตลาดหุ้นไทย 93,845 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งน่าจะสูงสุดตลอดกาล และสูงสุดในอาเซียนติดต่อกันหลายปี โดยกลุ่มนักลงทุนที่ขายสุทธิได้แก่ นักลงทุนต่างชาติ ปีนี้ขายอีกกว่า 48,6000 ล้านบาท โดยขายต่อเนื่องมาหลายปี น่าจะเกิดจากมูลค่าหุ้นไทยที่ไม่ถูก การเติบโตของผลกำไรที่ต่ำ ในขณะที่มีทางเลือกลงทุนในประเทศอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า อีกกลุ่มที่ขายออกสุทธิคือนักลงทุนสถาบัน ประมาณ 77,000 ล้านบาท น่าจะเกิดจาก เงินลงทุนใหม่ลดลงมาก เพราะกองทุนประเภท SSF ได้รับความนิยมจากประชาชนไม่มาก ประกอบกับประชาชนบางส่วนซื้อกองทุนที่ไปลงทุนต่างประเทศ ทำให้กองทุนต้องขายเงินลงทุนเดิมในตลาดหุ้นไทยออกมา และจาก 2 สาเหตุข้างต้น ทำให้อิทธิพลชี้นำของนักลงทุนสถาบันในประเทศเริ่มลดลง โดยมูลค่าการซื้อขายของกองทุนลดลงจากเกือบๆ 10% ก่อนหน้า เหลือแค่ประมาณ 6% กว่าๆ ในปี 2564 ทั้งตลาดหุ้นไทย รวม SET+ MAI มีบริษัทจดทะเบียนประมาณ 776 บริษัท มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 20 ล้านล้าน มีนักลงทุนเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น 2.129 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 1.506 ล้านบัญชี ค่อนข้างมาก การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น มีหุ้นที่ราคาลดลงประมาณ 95 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ถูกปั่นราคาขึ้นไปมากในปี 2563 เช่น หุ้นวัฏจักรบางกลุ่ม หุ้นโรงไฟฟ้าขนาดกลางหลายตัว ส่วนหุ้นที่ Mkt ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นคือ PTT มีราคาลดลงประมาณ 10% .. หุ้นที่นอกเหนือจาก 95 บริษัทข้างต้น ล้วนราคาเพิ่มสูงขึ้นทั้งสิ้น ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้น MAI เพิ่มถึง 73% ซึ่งน่าจะติดอันดับดัชนีตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในโลก ! :? สำหรับตลาดหุ้นต่างประเทศ เกือบทุกประเทศในโลกให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก โดยในเอเชีย ตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดคือตลาดเวียดนามที่ 35.73 % รองลงมาเป็นตลาดอินเดียและไต้หวัน ส่วนตลาดที่แย่ที่สุดคือดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง ซึ่งคำนวณจากหุ้น 64 ตัว ให้ผลตอบแทนติดลบ 13.81% โดยปิดที่ระดับ 23,397.67 จุด ในขณะที่ดัชนีหุ้นจีน CSI 300 ให้ผลตอบแทนติดลบ 5.2 % สาเหตุจากการแทรกแซงธุรกิจจากรัฐบาลจีนอย่างหนักหน่วงในปีที่ผ่านมา ส่วนตลาดยุโรป ให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกประเทศ มากบ้างน้อยบ้าง และตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างตลาดหุ้นอเมริกา หลังจากให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่องมาหลายปี ปีนี้ยังคงสามารถสร้างจุดสูงสุดขึ้นใหม่ ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นอีก 26.89% ส่วนดัชนีหุ้นเทคโนโลยี แนสแด็ค ให้ผลตอบแทน 21.39% พอร์ตส่วนตัวผมยังทำผลตอบแทนได้น่าพอใจ เป็นอีกปีที่ทำได้ดีกว่าดัชนี SET TRI ในตลาดหุ้นไทย หุ้นที่สร้างผลตอบแทนได้ดีคือ หุ้นวัฏจักร (ถ่านหิน) หุ้นเติบโต และหุ้นขนาดเล็กแทบทุกตัว ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศที่สร้างผลตอบแทนได้ดีมากคือตลาดเวียดนาม ตลาดอเมริกา (หุ้น FAANG บางตัว) ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงให้ผล ขาดทุน โดยดัชนีจากระดับที่ผมเริ่มเข้าไปลงทุน ลดลงเกือบ 20% ทำให้หุ้นบางตัวที่เข้าซื้อขาดทุนอย่างหนัก แต่การกระจายถือหุ้นหลายตัว และหุ้นบางตัวมีกำไรเยอะ ทำให้ชดเชยกันได้บางส่วน ประกอบกับเงินบาทที่อ่อนค่าประมาณ 10% ได้ช่วยให้โดยรวม ไม่ทำให้ขาดทุนมาก ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ค่อนข้างทรงๆ ปัจจุบันถือหุ้นรวมประมาณ 90 บริษัท เป็นบริษัทที่ฮ่องกงเป็นส่วนใหญ่คือ 60 บริษัท ในขณะที่ตลาดไทยและเวียดนาม ทยอยลดจำนวนหุ้นลง และเน้นหุ้นขนาดใหญ่ และกลางมากขึ้น ณ.สิ้นปี 2564 น้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย 46% และต่างประเทศ 54% โดยตลาดต่างประเทศให้น้ำหนักตลาดฮ่องกงสูงสุด ที่ประมาณ 34% ปรับพอร์ตเชิงกลยุทธ์ ปีที่ผ่านมา ผมได้ตัดสินใจสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับการลงทุน นั่นคือการเพิ่มสัดส่วนลงทุนต่างประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ ด้วยแรงจูงใจที่ว่า หุ้นไทยที่น่าสนใจหาได้ยากมากขึ้น ทั้งปริมาณและคุณภาพ ประกอบกับการได้รับคำแนะนำให้ศึกษาตลาดหุ้นฮ่องกง ที่ราคาหุ้นถูกกว่าตลาดไทยมาก บริษัทที่ลิสต์ในฮ่องกงส่วนใหญ่คือบริษัทที่ทำธุรกิจใน ประเทศจีน ราคาหุ้นที่ถูกมาก เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นไทย เป็นเรื่องที่ผมยังไม่เข้าใจนัก นอกจากข่าวที่รัฐบาลจีนเข้ามาแทรกแซงธุรกิจ และปัญหาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นผมจึงลงทุน ลงแรง ยอมเหนื่อยอีกครั้ง ศึกษาหุ้นรายบริษัทในตลาดต่างประเทศที่ไม่คุ้นเคย ทั้งที่เดิมเคยตั้งใจว่าจะลงทุนใน ETF เท่านั้น แน่นอนว่าในอนาคต ตลาดหุ้นฮ่องกงน่าจะเป็นตลาดหลักที่ให้น้ำหนักลงทุน รองจากตลาดหุ้นไทย ถึงแม้ว่าการเริ่มต้นในปีที่ผ่านมาจะไม่ดีนัก แต่ผมเชื่อว่าด้วย Value ระดับนี้ โอกาสที่จะขาดทุนในระยะยาวแทบไม่มี และอาจมีโชคดีจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่ควรจะแข็งค่าเมื่อเปรียบเทียบกับเงินบาทในระยะยาวด้วย :) หุ้นซอมบี้คืนชีพ หุ้นซอมบี้คือหุ้นที่ฆ่าไม่ตาย บางครั้งเกือบๆจะตาย แต่ก็ฟื้นกลับมาได้ทุกครั้ง ในตลาดหุ้น หุ้นซอมบี้คือธุรกิจที่ไม่อนาคต ขาดทุนซ้ำซาก แข่งขันไม่ได้ หลายบริษัทไม่มีเจ้าของที่แท้จริง เพราะคงไม่มีใครอยากถือหุ้นธุรกิจที่ไม่ดี หลายบริษัทถูก มือดี กว้านซื้อหุ้น ในระดับที่ไม่ถูกบังคับทำ tender offer แต่สามารถควบคุมการบริหารได้ เพราะผู้ถือหุ้นรายอื่นกระจายตัว รวบรวมเสียงไม่ได้ หลังจากนั้นจะถูกเข้าไปสูบเงินออกจากบริษัท ผ่านรายจ่ายต่างๆ อาทิ เอาเงินไปซื้อสินทรัพย์ในราคาแพงเกินจริง (แน่นอนว่าน่าจะมีเงินทอน) ค่าตอบแทนผู้บริหารที่สูงเกินควร ในช่วงตลาดหุ้นปกติหรือซบเซา หุ้นเหล่านี้จะแสดงผลขาดทุนตลอดเวลา ทั้งปีทั้งชาติ จวนเจียนจะถูกพักการซื้อขายรอมร่อ แต่เมื่อได้เวลา ฟ้าเปิดเมื่อไหร่ ตลาดหุ้นกลับมาคึกคัก หุ้นตัวเล็กๆ มีแรงเก็งกำไรสูง หุ้นเหล่านี้จะถูกดันราคาขึ้นมหาศาล ตามด้วยสูตรสำเร็จ จะขยายไปทำอย่างโน้นอย่างนี้ โดยเฉพาะธุรกิจที่กำลังร้อนแรงในขณะนั้น [ปี 2564 ต้อง Hemp - Crypto - EV เท่านั้น] แต่นักลงทุนต้องเพิ่มเงินนะจ๊ะ :8) ผ่านการอัดข่าวดีจากผู้บริหาร เมื่อนักลงทุนเคลิบเคลิ้มกับ story จนหลงเพิ่มทุน บริษัทก็รอดตาย กระบวนการสูบเงินของผู้บริหารออกจากบริษัท (อย่างถูกกฎหมาย) ก็จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง จนกว่าเงินจะเริ่มหมด กระบวนการก็จะย้อนกลับไปใหม่ เป็นวงจรอุบาทที่เกาะกินตลาดหุ้นไทยมาช้านาน ตลาดทุนแทนที่จะเป็นแหล่งระดมทุนให้กับธุรกิจที่สร้าง productivity สูงสุด กลับไหลเข้าสู่มือผู้บริหารที่ไม่ซื่อสัตย์ เราจะโทษใคร นักลงทุนที่ไม่รู้เท่าทัน ผู้บริหารเจ้าเล่ห์ หรือ ตำรวจที่ไม่ทำหน้าที่ ? พายุ Cryptocurrency หรือเงินดิจิตอล เป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ประมาณ 12 ปีที่แล้ว โดยมี Bitcoin เป็นเงินสกุลแรก เนื่องจากเป็นของใหม่ ยังไม่มีคนเข้าใจมากนัก ทำให้ความนิยมซื้อ - ขาย ค่อนข้างผันผวน บางช่วงได้รับความนิยม บางช่วงซบเซาจนแทบสาบสูญ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เงินดิจิตอลเหล่านี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมหาศาล อานิสงค์จากเริ่มมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้ามาลงทุน การเกิดขึ้นของเงินสกุลใหม่ๆอย่างมากมาย รวมถึงเม็ดเงินใหม่จากนักเก็งกำไรหนุ่มสาวทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้ามาซื้อขาย ทำให้เงินหลายสกุลให้ผลตอบแทนหลายเท่าตัว ยิ่งทำให้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Crypto Fever ในสังคมไทย ภาพเด็กมัธยมต้น โพสต์รูปโชว์กำไรที่ทำได้จากการซื้อขายคริปโต เด็กๆ รบเร้าขอเงินพ่อแม่ 500 บาท เพื่อไปซื้อคริปโตตามเพื่อนๆ :shock: ... ผมไม่รู้จริงๆ ว่าตอนจบของเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นอย่างไร ตลาดคริปโตอาจเติบโตมากกว่านี้ ได้รับความนิยมมากกว่านี้ หรืออีกทาง อาจจะหายสาบสูญไปเลย เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่จากประสบการณ์ ในตลาดหุ้นก็เคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ การแห่ลงทุนในธุรกิจต่างๆตามกระแส ที่ส่วนใหญ่ มาแล้วก็ไป เกิดแล้วดับในเวลาอันรวดเร็ว ในฐานะนักลงทุนที่ลงทุนมานานพอสมควร อยากให้คนที่จะลงทุน หรือคนที่ลงทุนอยู่แล้วในตลาดคริปโต ตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า ท่านได้เข้าใจไหม คริปโตที่ท่านลงทุนมีอรรถประโยชน์อย่างไร มีมูลค่าได้อย่างไร มีมูลค่าเท่าไหร่ อนาคตจะเป็นอย่างไร เก็บรักษาอย่างไร หากหาย โดนโกง ท่านจะไปเอาคืนหรือร้องเรียนเอาจากใคร หากท่านตอบคำถามเหล่านี้ได้ อย่างมีเหตุ มีผล ท่านน่าจะได้ไปต่อ แต่ถ้าไม่ คริปโตเหล่านี้ก็ไม่ต่างจาก ฝิ่นดิจิตอล ที่ทำให้ผู้คนหลงเมามัวในการเก็งกำไร ภายใต้บ่อนการพนันที่ถูกกฎหมาย กัญชาพาฝัน หนึ่งใน story ร้อนแรง ที่มีการใช้เป็นประเด็นผลักดันราคาหุ้นให้ร้อนแรงในปี 2564 คือนโยบายการทำกัญชา (รวมถึงพืชกระท่อม) ให้ถูกกฎหมาย ถึงแม้วันนี้ยังไม่สามารถค้าขายพืชกัญชาอย่างถูกกฎหมายได้ 100% แต่ทิศทางก็เป็นแนวทางผ่อนคลายการซื้อ- การขาย มากขึ้นเรื่อยๆ.. จากของที่ผิด กลายเป็นของที่ถูก ของที่อยู่ใต้ดิน กลับมาอยู่บนดิน ความตื่นเต้นก็บังเกิด ข่าวบริษัทจดทะเบียนหลายสิบรายแห่ประกาศข่าวจะมาทำธุรกิจกัญชา ทั้งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิม หรือแทบไม่เกี่ยวข้องเลย บางบริษัทเคยทำยางรถจักรยาน ผลิตไฟฟ้า ก็จะมาทำกัญชา บางบริษัทถึงกับลงทุนเปลี่ยนชื่อบริษัทให้ฟังดูคล้ายกัญชา การประกาศข่าวดี ราคาหุ้นที่ร้อนแรง เป็นส่วนผสมลงตัว ที่ทำให้นักลงทุนเคลิบเคลิ้มราวกับได้เสพกัญชาจริงๆ...แต่เอ..เดี๋ยวก่อน :x ฟังดูเหมือนคุ้นๆไหม หลายปีก่อนในตลาดหุ้น มีกระแสหลายสิบบริษัทแห่มาทำธุรกิจพลังงานทดแทน ทุกบริษัทออกข่าว อย่างโน้นอย่างนี้ จะได้กำลังการผลิตกี่ MW จนนักลงทุนหลงเชื่อ ไล่ซื้อหุ้นกันอย่างร้อนแรง กว่าจะได้สติ ราคาหุ้นก็สลิงขาดลงมาแล้ว ก่อนความจริงปรากฎว่า รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ทุกบริษัทให้ข่าวรวมกันจำนวนหลายพัน MW ทั้งที่สัญญาจริงที่รัฐบาลเปิดให้ประมูลแค่หลักร้อย MW สรุปนั่นคือบริษัทเหล่านี้ ให้ข่าวเกินจริง เพื่อผลักดันราคาหุ้น กว่าความจริงจะปรากฏ คนให้ข่าวก็โกยกำไรก้อนโตไปแล้ว สตอรี่กัญชาก็เช่นกัน หากเราเชื่อว่าคนไทยจะกินกัญชาแทนผัก จะมีกัญชาในแทบทุกผลิตภัณฑ์ที่ขาย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมอาจมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป ค่าต๋งตลาดหุ้น ปลายปี 2564 มีข่าวว่ารัฐบาลนำโดย รมว.การคลัง เสนอแนวคิดจัดเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นอีกครั้ง หลังจากได้รับการยกเว้นการจัดเก็บมายาวนาน เบื้องต้นเสนอจัดเก็บที่ 0.1 % ของมูลค่าการขายที่เกิน 1 ลบ.ต่อเดือนเพียงขาเดียว (มูลค่าขาย 1 ล้านเสียภาษี 1 พันบาท ขาซื้อไม่ต้องเสีย) แน่นอนว่าเสียงสะท้อนจากสังคมนักลงทุนย่อมไม่เห็น นัยว่าทำอย่างนี้ ไม่ส่งเสริมการลงทุน จะทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลง จะทำให้นักเก็งกำไรหนีจากตลาดหุ้นไปซื้อขายในตลาดคริปโตมากขึ้น [ ซึ่งก็น่าจะจริง หากกฎหมายมีผลบังคับใช้] ในฐานะที่เป็นนักลงทุนรายหนึ่ง ผมย่อมไม่เห็นด้วย แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ผมกลับเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า นักลงทุนในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่ ทุกคนมีหน้าที่ต้องเสียภาษี ให้รัฐบาลนำเงินไปพัฒนาประเทศ สร้างสาธารณูปโภคต่างๆ หรือใช้หนี้เงินที่กู้มารับมือกับวิกฤติโควิด ..ที่ผ่านมานักลงทุนเสียภาษีทางอ้อมผ่าน vat ที่เก็บจากค่าธรรมเนียมซื้อขาย หรือเสียภาษีหัก ณ.ที่จ่ายจากเงินปันผล แต่ผมคิดว่าเป็นการเสียที่น้อยเกินไป การจัดเก็บค่าธรรมเนียม ยังทำให้ต้นทุนเจ้ามือหุ้น มีต้นทุนการปั่นหุ้นสูงขึ้น ซึ่งจะลดการเก็งกำไร ที่น่าจะมากเกินไปในปีที่ผ่านมา ผมคาดหวังเพียงว่าภาษีที่ถูกเก็บไป จะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยต่อไป :? ม้ายูนิคอร์น 3 ตัว หลังจากปล่อยให้ชาติเพื่อนบ้านอาเซียนล้ำหน้ามาหลายปี ในที่สุด สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น ( มูลค่าบริษัทเกิน 1 พันบ้านเหรียญสหรัฐ) ก็ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทย ไม่ใช่แค่ตัวเดียว แต่เกิดพร้อมๆ กันถึง 3 ตัว ได้แก่ แพลช เอ็กซ์เพรส -ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์, แอสเซนด์ มันนี่- ธุรกิจการเงินดิจิตอล และ บิทคับ ออนไลน์ – ธุรกิจกระดานซื้อขาย Cryptocurrency (นอกจากนั้นยังมียูนิคอร์นที่มีคนไทยร่วมก่อตั้งในอินโดนีเซียคือ Ajaib ทำธุรกิจแพลทฟอร์มซื้อขายหุ้น ) เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับประเทศไทย ที่จะมีธุรกิจดิจิตอลใหม่ๆ ที่สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น และยังเป็นแบบอย่าง กำลังใจ ให้กับสตาร์ทอัพรายใหม่ๆ ให้มีแรงใจสร้างธุรกิจต่อไป ถึงแม้ว่าสถานะสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นในวันนี้ ไม่ได้การันตีว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จในระยะยาวก็ตาม X ขึ้นยานแม่ ปี 2564 มีอีกปรากฏการณ์ที่เด่นชัดในตลาดทุนนั่นคือกระแสการเปลี่ยนชื่อบริษัทให้มี ตัวเอ็กซ์ นัยว่าเพื่อเน้นรุกธุรกิจดิจิตอลในอนาคต รับมือกับการดิสรัปชั่น ที่จะมาเปลี่ยนแปลงธุรกิจ หรือเพื่อล้างภาพเน่าๆ ของบริษัทในอดีตออกไป ซึ่งก็ได้ผลจริง แทบทุกบริษัทที่เปลี่ยนชื่อและเติมตัวเอ็กซ์ จะตามมาด้วยราคาหุ้นที่ร้อนแรง บริษัทใดอยากให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น เพียงแค่เปลี่ยนชื่อและเติมตัวเอ็กซ์เข้าไป นั่นเพราะตัวเอ็กซ์เป็นสัญลักษณ์ของ ความเท่ห์ ความทันสมัย น่าค้นหา .. ในระยะสั้นการทำเช่นนี้ อาจจะมีผลผลักดันราคาหุ้นได้จริง แต่ในระยะยาว นักลงทุนย่อมรู้ดีว่า ราคาหุ้นจะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับว่า ธุรกิจจะสามารถแข่งขันและสร้างผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้มากน้อยแค่ไหน เราเลือกหุ้น หุ้นมันก็เลือกเรา ทุกบริษัทล้วนประชันขันแข่ง แต่งหน้าทาปาก เพื่อให้เราเลือกมัน แต่สุดท้ายบริษัทจะเป็นเงาะซ่อนรูป หรือสวยแต่รูปจูบไม่หอม การวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ถี่ถ้วน มีเหตุมีผลเท่านั้น ที่จะให้คำตอบได้ เจอ จ่าย จบเห่ ปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ไม่ปกติของแวดวงบริษัท ประกันภัย บางบริษัทประกันภัยถูกปิดกิจการ บางบริษัทขาดทุนหนักต้องเพิ่มทุน สาเหตุเพราะเสียหายหนักจากประกันภัยโควิด ทั้งที่ปีก่อนหน้าสร้างกำไรมหาศาล จากกรมธรรม์ ชนิดเดียวกัน เรื่องราวอย่างนี้สอนอะไรเรา การละเลยการบริหารความเสี่ยง การมองแง่ดีมากเกินไป จุดอ่อนเพียงนิดเดียวก็ทำให้เกิดหายนะได้ ดังส้นเท้าของ Achilles ..นักลงทุนที่อยู่รอดในระยะยาวได้ ต้องบาลานซ์ทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยง จะมีประโยชน์อะไร หากบางปีเรากำไรมหาศาล หรือกระทั่งกำไรจนคนอื่นอิจฉาติดต่อกันหลายปี แต่พลาดเพียงครั้งเดียว เอาถึงตาย การยอมรับผลตอบแทนที่น้อยลง ย่อมดีกว่าการกลับไปเริ่มต้นใหม่ มิใช่หรือ ? ถิ่นกาขาว ผู้ดีเดินตรอกขี้ครอกเดินถนน กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย - น้ำเต่าน้อยกลับถอยจม เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ท่านคิดว่าสุภาษิตใดเหมาะสุด ที่จะใช้อธิบายตลาดหุ้นไทยในปี 2564 ?.. ตลาดทุนที่ควรจะมีบทบาทจัดสรรเงินทุนให้กับธุรกิจที่ดีที่สุด กลับไหลไปสู่บริษัทที่น่ากังขา เมื่อหันไปดู 20 อันดับแรก หุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในตลาด แทบไม่มีตัวใด ที่ราคาขึ้นมาแบบปกติ ตามพื้นฐานที่ควรจะเป็น เราอยากเห็นตลาดหุ้นเราเป็นเช่นนี้หรือ :evil: การเก็งกำไรไม่ใช่สิ่งผิดหรือเลวร้าย แต่อะไรที่สุดโต่งเกินไป มักจบไม่สวย หากสังเกตสักนิด หุ้นที่ขาดทุนมากสุดของทุกปี ก็คือหุ้นที่เคยมีการเก็งกำไรสุงสุดในปีก่อนหน้านั่นเอง .. ปี 64 นักลงทุนได้เห็นทั้งการปั่นหุ้นที่ไม่พื้นฐานรองรับ หรือหุ้นที่พื้นฐานธรรมดาๆ ให้ดูเหมือนเป็นหุ้นที่ดีมาก พร้อมกับราคาที่ขึ้นไปหลายเท่าตัว ก่อนประกาศเพิ่มทุนที่ราคาต่ำกว่าตลาด แต่สูงกว่าราคาพื้นฐานมาก แล้วได้เงินก้อนโตจากนักลงทุน เรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นวิธีการเดิมๆ ที่ยังได้ผลดี ไม่เคยล้าสมัย ปีที่ผ่านมาเช่นกัน น่าจะเป็นปีที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้มาตรการการสกัดการเก็งกำไร มากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้นมา แต่ดูเหมือนมาตรการเหล่านี้แทบไม่ระคายผิว หลายกรณีเมื่อประกาศ ราคาหุ้นกลับขึ้นเย้ย นั่นแสดงว่าอาวุธหรือเครื่องมือของทางการใช้ไม่ได้ผลแล้ว แม้จะมีข่าวการปรับปรุงให้เข้มข้นขึ้น แต่นั่นจะทันกับโจรหรือเปล่า เมื่อโจรไม่กลัวตำรวจ มี DELTA ได้ ไม่โดนจับ ก็ย่อมมี JTS ...เมื่อไม่มีใครคุ้มหัวเราได้ เรานักลงทุน ก็ต้องปกป้องตัวเอง อย่าเห็นผิดเป็นชอบ แยกให้ออก ทองหรือกรวด อย่าให้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบิดเบือนให้เราเขว :8) เล่นขายของกันเอง ปี 2564 มีปรากฏการณ์เด่นชัดในแวดวงบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยนั่นคือ การจับคู่ซื้อขายหุ้นกันเองของบริษัทจดทะเบียน โดยแทบไม่ได้มีการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ส่วนใหญ่มักซื้อขายในสัดส่วนที่ไม่ถูกบังคับให้ต้องทำ tender offer และซื้อขายในระดับราคาสูงๆ จนน่าสงสัยว่าเบื้องหลังมีผลประโยชน์ตอบแทนกันหรือไม่ หลายบริษัทเอาบริษัทลูกมา spin off เพื่อหาเงินจากนักลงทุนอีกรอบ หรือบางบริษัทก็เอาธุรกิจเดิมมาทำเป็น PO หาเงินอีกครั้ง การจับคู่ซื้อขายกันเองเช่นนี้ อดคิดไม่ได้ว่าตลาดหุ้นไทยอยู่ในสภาวะที่ตีบตัน เงินล้น แต่ไม่มีของใหม่ๆ ก็ต้องหมุนของเก่า มาซื้อๆขายๆ ไป :roll: อนึ่ง ปี 2564 ที่ผ่านมาเป็นปีที่น่า “ ใจหาย ” สำหรับวงการนักลงทุนวีไอ เมื่อเพื่อนของเราบางท่านได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยไม่ทันได้ร่ำลา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ทราบมาว่า 4-5 ปี ที่ผ่านมา มีสุภาพบุรุษนักลงทุนวีไอได้จากเราไปถึง 4-5 คน ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา หลายคนผมรู้จักดี บางคนรู้จักผิวเผิน แต่ทุกคนล้วนอายุน้อยกว่าผมทั้งสิ้น ความเกิดแก่เจ็บตาย ทุกคนหลีกไม่พ้น หนีไม่ได้ แต่การจากไป ก่อนกาลอันควร เป็นเรื่องที่สะเทือนใจ ..ขอให้น้องๆ ทุกท่านได้เจอกับภพภูมิที่ดี หากชาติหน้ามีจริง เราจะได้เจอกันอีกครั้ง หากมีอะไรที่เราจะเรียนรู้ได้บ้าง ในฐานะนักลงทุน เมื่อเรายังหนุ่มสาว คงไม่มีใครคาดคิด ว่าตัวเราจะเป็นอะไรในวันนี้ แต่อย่างที่เราเห็น มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่พ้น และไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ สิ่งที่เราพอจะทำได้ คือการเตรียมตัว ตายก่อนตาย เพื่อที่ว่าเราจะจากไปอย่างสบายใจ และไม่ทำให้คนที่อยู่ข้างหลังเดือดร้อน.. อย่างน้อยๆ คนในครอบครัวควรรู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้น จะต้องทำอย่างไรกับพอร์ตการลงทุน ทำอย่างไรกับสินทรัพย์นั้น มีสินทรัพย์อะไรที่เราซ่อนเร้นไว้หรือเปล่า มีรหัสอะไรที่จำเป็นต่อการเข้าถึงสินทรัพย์นั้นๆหรือไม่ วันนี้เราได้เตรียมตัวกับ “ วันนั้น ” หรือยัง ? “เมื่อเราสุขสบาย ความปรารถนามีหมื่นอย่าง แต่เมื่อป่วยไข้ ความปรารถนาเหลืออย่างเดียว” กฤษฎา บุญเรือง (กระทู้นี้ล็อค อ่านได้เพียงอย่างเดียวครับ)
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ ม.ค. 02, 2022 9:34 pm
1
151
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3 / 2564
ได้นำเงินของผู้ร่วมงานทุกท่าน รวมถึงคนที่ร่วมสมทบ ทั้งหมด 2 หมื่นบาท ไปร่วมทำบุญกับร้าน Joyprint หาดใหญ่ แจกอาหารให้กับคนยากไร้ ครับ IMG_6856.jpg 15042944150229.jpg 15042943681476.jpg
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ พ.ย. 07, 2021 2:42 pm
0
12
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3 / 2564
แจ้งเตือนการชำระเงิน มีสมาชิกตามรายชื่อข้างล่างยังไม่ได้ชำระเงิน วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนะครับ ผมได้ส่ง pm.แจ้งเตือนทุกท่านไปเมื่อวานด้วยครับ 2 devil leg 18 chockolatecake 19 Blzy 20 yungying (มือใหม่) 24 Natnatnat 35 JJsmine 41 udomdee 42 DonadduckVI ท่านที่จองได้ อาจไม่ทราบ ว่าต้องชำระเงินด้วย การจองจึงจะสมบูรณ์ ขอวันที่ 5 พย. เที่ยงตรง เป็นเดดไลน์นะครับ หากไม่ได้ชำระ ขอให้ท่านที่สำรองขยับขึ้นมาแทนได้เลยครับ
โดย
ลูกอิสาน
พฤหัสฯ. พ.ย. 04, 2021 11:54 am
0
0
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3 / 2564
รายชื่อผู้ร่วมงานครับ ( สุ่มจากการหยิบสลากจากรายชื่อคนที่จองมา ไม่รวมบางท่านที่ไม่ตรงตามเงื่อนไขครับ) 1 kophop 2 devil leg 3 K Jame 4 Sawade 5 kulniti55 6 benzkanin 7 berich 8 maylard 9 ไพลิน 10 lekkung 11 Anpungman 12 gonogo 13 Iset (มือใหม่) 14 syj 15 Ihinjang 16 ใจใส 17 autthavisit (มือใหม่) 18 chockolatecake 19 Blzy 20 yungying (มือใหม่) 21 rohan 22 Miracle 23 happymom (อาวุโส) 24 Natnatnat 25 determination 26 thejusty 27 Regular 28 GaiGai 1979 29 PRECHAK 1972 30 prapenpit 31 Baggio 32 monsoon 33 Moopama 34 Realyou 35 JJsmine 36 trillionnaire 37 LUEK007 38 international 39 PongJayChou 40 firstee (ครั้งแรก) 41 udomdee 42 DonadduckVI 43 Thanathip สำรอง 44 patoyoa 45 ผักกาด ทีมงาน ลูกอิสาน charun ty warapong บัวดิน พี่แมว การสมัครจะสมบูรณ์เมื่อมีการโอนเงินแล้ว (โอนเงิน 350 บ. พร้อมเพย์ 0815439494 แล้วส่ง slip ไปที่ Private message พี่ charun หรือไลน์ไปที่ 0815439494 ขอให้โอนเงินภายในวันที่ 3 พ.ย.นี้ และโอนมาแล้ว หากมาไม่ได้ ขอไม่คืนเงินนะครับ เงินทั้งหมดจะเอาไปบริจาคช่วยผู้เดือดร้อนจากโควิด) รายละเอียดการล็อคอินเข้าโปรแกรม ( ผมจะส่งลิงค์ของมีตติ้งให้ทาง Private message ของเวป thaivi เฉพาะคนที่ชำระเงินแล้ว โดยจะส่งไป 1 วันก่อนวันมีตต้ิง เมื่อคลิ๊กลิ้งค์จะยังเข้าห้องไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เปิดห้อง จะเปิดห้องเวลาประมาณ 9.30 น. ของวันมีตติ้ง โดยทุกท่านรอผมอนุญาติให้เข้าห้องทีละท่าน ตามรายชื่อครับ )
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ ต.ค. 31, 2021 3:18 pm
0
12
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 2/2564
ได้รับเงิน 15,800 บาท จากสมาชิกที่ร่วมงาน (บางท่านจ่ายมาเกิน) และผมสมทบให้ครบ 300,000 บาท บริจาคให้มูลนิธิพุทธรักษา เพื่อซื้อสิ่งของจำเป็นให้โรงพยาบาลสนาม 37 แห่ง ในกรุงเทพและปริมณฑล เรียบร้อยแล้วครับ ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านด้วยครับ
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ ส.ค. 13, 2021 9:25 am
0
31
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 2/2564
รายชื่อผู้ที่สุ่มเลือกได้ร่วมมีตติ้งครับ (รวมทีมงาน 50 ท่าน) 1.gasidit123 4.mookvy 7.nongcat 8.Kessari 9.IndyVI 12.minnaja 14.it 15.Thaned.Lao 18.moosamchun2 21.กุหลาบที่ไม่เคยโรย อายุ 54 ปี 25.natznatz 26.Kaiser 33.RnD-VI 36.Zippoice 39.AnieLee 42.Indian Cork 45.Narut_R91 46.amornkowa อาวุโส 48.JUPERJOE 50.elite 5 53.Ktdec 55.Arkad 57.kik-kok 58.hauhom 61.TWT 63.Peter1011 67.Toro149 69.Khemt 72.dr1 75.PTA 78.pukpue 82.AAA 87.JJ_Jays 90.Dao Yoga 93.JOEKMUTT 94.Nonkc 95.Nichkit 99.Ratchanok มือใหม่ 101.Kasarus 103.the_matrix 108.horizon 66.luk อาวุโส 3.Nungruthai phouyt (มือใหม่) 68.ISHIBLUE จองครั้งแรก 89.workart มือใหม่ (ทีมงาน) ty worapong บัวดิน พี่แมว charun การสมัครจะสมบูรณ์เมื่อมีการโอนเงินแล้ว (โอนเงิน 250 บ. พร้อมเพย์ 0815439494 แล้วส่ง slip ไปที่ Private message พี่ charun หรือไลน์ไปที่ 0815439494 ขอให้โอนเงินภายในวันที่ 10 ส.ค.นี้ และโอนมาแล้ว หากมาไม่ได้ ขอไม่คืนเงินนะครับ เงินทั้งหมดจะเอาไปบริจาคช่วยโรงพยาบาลสนามโควิด) รายละเอียดการล็อคอินเข้าโปรแกรม ( ผมจะส่งลิงค์ของมีตติ้งให้ทาง Private message ของเวป thaivi เฉพาะคนที่ชำระเงินแล้ว โดยจะส่งไป 1 วันก่อนวันมีตต้ิง เมื่อคลิ๊กลิ้งค์จะยังเข้าห้องไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เปิดห้อง จะเปิดห้องเวลาประมาณ 9.00 น. ของวันมีตติ้ง โดยทุกท่านรอผมอนุญาติให้เข้าห้องทีละท่าน ตามรายชื่อครับ )
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ ส.ค. 07, 2021 10:03 am
0
10
Re: อยากสอบถามว่าห้าข้อมูลหุ้นเวียดนามได้จากไหนครับ
http://en.stockbiz.vn/MarketOverview.aspx https://en.vietstock.vn/TabId/56/Type/8/ChannelID/4/Vietnam.htm
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ พ.ค. 28, 2021 10:00 pm
1
11
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2564
ผมส่งลิงค์มีตต้ิงให้ทุกท่านแล้ว ทาง Private messages ของเวป หากท่านใดไม่ได้รับ ตกหล่น รบกวนแจ้งด้วยครับ
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ พ.ค. 15, 2021 11:59 am
0
7
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2564
เงินที่พวกเราโอนมา 15500 บาท ทั้งโอนปกติ โอนเกิน ร่วมบริจาค ขอขอบคุณทุกท่าน ได้นำมาสมทบเป็น 30000 บาท โอนช่วยโควิดของจ.สงขลาแล้วครับ IMG_D5E5EB12EC3E-1.jpeg
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ พ.ค. 07, 2021 9:04 am
0
20
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2564
รายชื่อผู้ได้สิทธ์มีตต้ิงครับ (ผมให้ลูกสาวสุ่มชื่อครับ :o ) 1 always24 2 AnieLee 3 Sureerat 4 Pjsmile 5 Arttharin 6 natznatz 7 stangst8 8 watgolf 9 ZVI 10 Notelio 11 tarita263 12 elite 5 13 it 14 Ktdec 15 iampooky 16 Rakkiat 17 amornkowa 18 wispan 19 AAA 20 natedaophu 21 pukpue 22 taothiam 23 richierich 24 Indian Cork 25 Narut_R91 26 papergirl 27 Kanchong 28 noon.rinrada 29 aehnicha 30 AMENGLOL 31 vmr 32 หูฉลาม น้ำเขียว 33 M.Chanawee 34 ชงต๊ะ 35 Princez 36 Brydo 37 K-TAW 38 kannicha 39 earthcu 40 VILIFE 41 บัวดิน (ทีมงาน) 42 พี่แมว (ทีมงาน) 43 charan (ทีมงาน) 44 dr1 (อาวุโส) 45 luk (อาวุโส) 46 Moosamchan2 (อาวุโส) 47 Mr.chanopps (ครั้งแรก) 48 Ckanjana (ครั้งแรก) 49 Kulisara.n (ครั้งแรก) 50 Nungruthai phougt (ครั้งแรก) สำรอง 1. Nonkc 2. Ragunar 3. hataiwuc 4. Joekmutt การสมัครจะสมบูรณ์เมื่อมีการโอนเงินแล้ว (โอนเงิน 250 บ. พรอมเพย์ 0815439494 แล้วส่ง slip ไปที่ Private message พี่ charun หรือไลน์ไปที่ 0815439494 ขอให้โอนเงินภายในวันที่ 6 พค.นี้ และโอนมาแล้ว หากมาไม่ได้ ขอไม่คืนเงินนะครับ เงินทั้งหมดจะเอาไปบริจาคช่วยโรงพยาบาลสนามโควิด) รายละเอียดการล็อคอินเข้าโปรแกรม ( ผมจะส่งลิงค์ของมีตติ้งให้ทาง Private message ของเวป thaivi เฉพาะคนที่ชำระเงินแล้ว โดยจะส่งไป 1 วันก่อนวันมีตต้ิง เมื่อคลิ๊กลิ้งค์จะยังเข้าห้องไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เปิดห้อง จะเปิดห้องเวลาประมาณ 8.40 น. ของวันมีตติ้ง โดยทุกท่านรอผมอนุญาติให้เข้าห้องทีละท่าน ตามรายชื่อครับ )
โดย
ลูกอิสาน
อังคาร พ.ค. 04, 2021 3:56 pm
0
15
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 4/2563
จะเปิดกระทู้รับจองมีตติ้งภาคใต้ไตรมาส 1/2564 วันจันทร์ที่ 3 พค.นี้ เวลา 20.00 - 4 พค. 15.00 น. งานมีตติ้งจะจัดวันที่ 16 พค. นี้ เป็นแบบออนไลน์ ผ่านโปรแกรม Zoom รับประมาณ 40 คน (มีโค้วต้ามือใหม่ อาวุโส) โดยจะเปลี่ยนการจองจาก จองก่อนได้ก่อน เป็นแบบสุ่มหมายเลข (ผมจะดำเนินการเอง) รายละเอียดอื่นๆ จะแจ้งภายหลังครับ
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ เม.ย. 30, 2021 1:32 pm
0
17
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 4/2563
รายชื่อสมาชิกที่ร่วมงานมีตติ้งไตรมาส 4/2563 ดังนี้ครับ 1. Narut_r91 2. maylard 3. qwerty01 4. arkad 5. nongcat 6. jjsmile 7. rainforce 8. saichon 9. papergirl 10. it 11. khemt 12. syj 13. horizon 14. teerasak24 15. somkull 16. elite5 17. pjsmile 18. ชงต๊ะ 19. Thaned.lao 20. lekkung 21. puttology 22. benzbatutos 23. tong30m 24. clear-ice 25. jtheerawut 26. satori-zen 27. mookvy 28. ลูกเป็ดน้อย 29. Bluesea_sk 30. daoyoka 31. ต้วนอี้ (ครั้งแรก) 32. Tarita263 33. Stangst8 (ครั้งแรก) 34. Singthong99 35. buntam 36. thanapon.k 37. anpungman (ครั้งแรก) 38. 019412 39. knumnoy 40. tyters 41. taothiam 42. prapenpit (จองผ่าน user buntam) 44. พี่บัวดิน (ทีมงาน) 45. พี่แมว (ทีมงาน) 46. พี่จรัญ (ทีมงาน) 47. ลูกอิสาน 48. dr1 49. bulbul 50. สิปาดัน 43. Fonfon
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ ก.พ. 08, 2021 8:56 am
0
5
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 4/2563
ขอให้สมาชิกที่จองทุกท่าน รับทราบว่ามีตติ้งครั้งนี้ ผู้ร่วมงานขอให้มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคใต้เท่านั้น (เพื่อป้องกันโควิด) หากท่านใดไม่ทราบมาก่อน ให้แจ้งยกเลิกด้วยครับ เพราะหากมาที่งานแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้า ท่านจะเสียเวลา เสียค่าเดินทางโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนท่านที่ร่วมงานได้ ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่สัมมนาครับ
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ ก.พ. 07, 2021 8:39 pm
0
5
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3/2563
ครั้งนี้งานจะจัดที่ รร.นิวซีซั่น สแควร์ หาดใหญ่ ครับ เริ่มงาน 10.00 - 16.30 น.
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ ก.พ. 06, 2021 10:39 am
0
3
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3/2563
จะเปิดให้จองมีตต้ิงวีไอภาคใต้ ไตรมาส 4/2563 ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ เวลาประมาณ 20.00-20.05 น. รับไม่เกิน 45 ท่าน แต่เนื่องจากสถานการณ์ระบาดโควิด ขออนุญาติให้ผู้มาร่วมงานมีภูมิลำเนาอยู่ในภาคใต้เท่านั้น และต้องไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงโควิดเร็วๆนี้ ต้องขออภัยเพื่อนๆภาคอื่นด้วย แต่เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกทุกท่านครับ งานมีตติ้งจัดวันอาทิตย์ที่ 7 มี.ค. 2564 นี้ครับ
โดย
ลูกอิสาน
พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2021 2:33 pm
0
12
Re: เป็นนักลงุทนปัจจัยพื้นฐานคนเดียวท่ามกลางคนรอบตัวที่เป็นสายอื่น มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจกันอย่างไรบ้างครับ
หนทางสู่ความสำเร็จนั้นเดียวดายเสมอนะครับ ไม่อย่างนั้นคนส่วนใหญ่คงรวยหมดแล้ว ตอนผมเริ่มลงทุนแบบวีไอเมื่อปี 40-41 ไม่มีแม้สักคนที่สนับสนุนความคิดของผม สิ่งที่ควรโพคัสคือยึดมั่นในหลักการ ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ระยะเวลานานพอ ว่ามันใช้ได้ผลจริง ล็อคหางเสือให้มั่น แล้วมุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ ม.ค. 31, 2021 10:09 am
0
58
Re: ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
กราบสวัสดีปีใหม่ปี 2564 พี่น้องชาวสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่าทุกท่าน กราบสวัสดีอาจารย์ ดร.นิเวศน์ อ.ไพบูลย์ พี่ปรัชญา พี่ครรชิต ลุงขวด เฮียคลายเครียด พี่หมอ jfk พี่กะละมัง พี่พี พี่วัฒน์ พี่หมอพงศ์ศักดิ์ พี่หลิน พี่หนิง พี่กุ๊ก พี่หมอสามัญชน พี่พรรณ พี่ไก่ พี่มน พี่บู พี่วิบูลย์ พี่นัน พี่ตี้ พี่จรัญ พี่แมว พี่สุบรรณ พี่บัวดิน หมอหนึ่ง พี่เวป พี่ฉัตร พี่ชาย พีเจ๋ง พี่ประชา พี่นริศ พี่โดม พี่พอใจ พี่นุช พี่อมร พี่วรรณ พี่หน่อง พี่เล็ก พี่นา พี่ๆน้องๆ ไทยวีไอทุกคน ขอคุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครองให้ทุกท่านปลอดภัย มีความสุขกาย สบายใจ ตลอดปี ตลอดไปครับ ตลาดหุ้นปี 2563 ปีแห่งมหาวิกฤติโควิด ปี 2563 นับเป็นปีที่นักลงทุนหรือแม้แต่ชาวโลกทุกคนไม่ลืมเลือน กระแส Globalization ในศตวรรษที่ผ่านมา ทำให้โลกหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น การเคลื่อนย้ายผู้คน สิ่งของ เป็นเรื่องง่ายดาย หนุนด้วยต้นทุนการเดินทางที่ถูกลงมาก การเดินทางด้วยเครื่องบินราคาถูก ยิ่งทำให้ผู้คนในโลกในเดินทาง เคลื่อนย้ายไปทั่วโลก นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ดีต่อมนุษย์เท่านั้น แต่มันเป็นสภาวะที่ดีมากๆ ด้วย สำหรับเชื้อโรค ที่สามารถขยายแพร่เผ่าพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วพอๆกับความเร็วของเครื่องบิน ณ.ปลายปี 2562 จากข่าวเล็กๆในหนังสือพิมพ์ที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ มีรายงานข่าวเกิดโรคปวดบวมลึกลับระบาดที่เมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ความโกลาหลเริ่มเกิดขึ้น เมื่อมนุษย์เริ่มตระหนักว่าเป็นโรคอุบัติใหม่ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน มีอัตราการตายค่อนข้างสูง และสามารถระบาดได้อย่างรวดเร็ว ความตื่นกลัวเริ่มเกิดไม่แต่เฉพาะชาวจีน แต่รวมถึงชาวโลก เมื่อมันเริ่มระบาดอย่างช้าๆ ไปในประเทศที่ชาวจีนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว ประเดิมด้วยไทยเป็นประเทศแรก แต่โลกเริ่มตระหนกเมื่อมันเริ่มระบาดหนักอย่างไม่ทันตั้งตัวที่ประเทศอิหร่านและอิตาลี หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเชื้อโควิด – 19 ได้ ไม่เคยมีครั้งใดที่กิจกรรมทางเศรษกิจของโลกจะได้รับผลกระทบเท่ากับวิกฤติครั้งนี้ (อย่างน้อยตั้งแต่ผมจำความได้) เพราะวิธีการเอาชนะไวรัสเมื่อยังไม่มีวิธีการรักษา คือต้องพยายามไม่ให้มนุษย์พบปะกัน เมื่อมนุษย์ถูกแยก ไวรัสก็ไม่สามารถติดต่อได้ แต่วิธีการนี้มีต้นทุนมหาศาล เพราะกิจกรรมทางเศรษกิจแทบทุกอย่าง ชะงักงันทั้งหมด การผลิต การบริการ ทั้งรัฐและเอกชน ล้วนได้รับผลกระทบทั่วทั้งโลก GDP ของโลกติดลบ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน IFM คาดการณ์ว่าปี 2020 เศรษกิจโลกจะติดลบประมาณ - 4.4% ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่เคยขึ้นมาก่อน ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าไทยจะมี GDP ติดลบ 6.6% ในปี 2563 กลับมาที่ตลาดหุ้น ซึ่งเป็นกระจกสะท้อนสภาพเศรษกิจที่ชัดเจนที่สุด ย่อมได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดัชนีหุ้นเริ่มต้นปีที่ 1579.84 จุด และไต่ขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1600.48 จุดกลางเดือนมกราคม เมื่อมีการระบาดใหญ่ในประเทศและกำลังลุกลามไปทั่วโลก นักลงทุนเริ่มตระหนกแห่เทขายหุ้นจนดัชนีทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 969.08 จุด ณ.วันที่ 13 มีนาคม ในช่วงแพนิค มีการใช้ Circuit Breaker ถึง 3 ครั้ง หลังจากนั้นตลาดค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น หลังจากไทยสามารถควบคุมการระบาดได้ดี ดัชนีค่อยๆไต่ขึ้นถึงระดับ 1,400 จุดช่วงกลางปี ก่อนค่อยๆไหลลงอีกครั้งจากการระบาดอย่างหนักในต่างประเทศ การชุมนุมประท้วงของคณะราษฏร แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ดัชนีกลับไปที่ 1,200 จุดอีกครั้งตอนปลายเดือนตุลาคม ก่อนพุ่งขึ้นค่อนข้างแรงจากแรงซื้อนักลงทุนต่างชาติหลัง โจ ไบเดน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ และความก้าวหน้าการผลิตวัคซีน ณ.สิ้นปี ดัชนีปิดที่ระดับ 1,449.35 จุด ลดลง 130.49 จุดหรือ ลดลงจากปีก่อน – 8.26 % ส่วนดัชนีผลตอบแทนรวม ( TRI ) ซึ่งรวมปันผล ปิดที่ระดับ 9,659.25 จุด ลดลง – 5.24 % จากปี 2562 สภาพโครงสร้างของตลาดหุ้นปี 2563 ที่เปลี่ยนแปลงไปมีหลายแง่มุม สัดส่วนนักลงทุนที่ซื้อขาย นักลงทุนรายย่อยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 43% ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศและสถาบันในประเทศ สัดส่วนลดลง เหตุที่เป็นเช่นนี้ น่าจะเป็นผลจากการเปิดบัญชีใหม่ของนักลงทุนรายย่อยไทยที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ประมาณ 6 แสนบัญชี หากนับเป็นรายบุคคลจะมีนักลงทุนหน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 140,000 คน สิ้นปี 2563 จะมีประชากรไทยที่มีบัญชีซื้อขายหุ้นประมาณ 1.4 ล้านคน เหตุผลที่อธิบายความสนใจของคนที่จะลงทุนในหุ้น เพิ่มขึ้นมาก มี 2 ประเด็น ประการแรกคือตลาดหุ้นที่ลดลงมากในระหว่างปี ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุน เพราะอยากเก็บหุ้นราคาถูก ประการที่สอง วิกฤติโควิด ทำให้มีคนตกงาน หรือต้องทำงานที่บ้าน จำนวนมาก ทั้งพนักงานทั่วไปหรือแม้แต่เจ้าของกิจการ ต้องการเล่นหุ้นเพราะว่าง :D และบางส่วนต้องการรายได้ เพื่อชดเชยงานที่หายไป (ผมคงดีใจหากเป็นเหตุผลแรก แต่เหตุผลที่ 2 ดูจะเป็นไปได้มากกว่า ) ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนลดลงเพราะได้ขายหุ้นติดต่อกันหลายปี และยังขายต่อเนื่องอีก 3 แสนล้านใน 10 เดือนแรกของปี 2563 ทำให้มีหุ้นให้ขายลดน้อยลงมาก ในขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศที่มีอิทธิพลเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เริ่มแผ่วลงไป เพราะนโยบายการปรับเปลี่ยนกองทุน LTF มาเป็น SSF ของรัฐบาล ไม่ประสบความสำเร็จ กระแสเงินสดที่สถาบันเคยได้รับปีละหลายหมื่นล้าน ลดลงเหลือระดับพันล้านต้นๆ ในขณะที่กองทุน LTF เก่าๆ ก็ค่อยทยอยถูกไถ่ถอน สองเหตุนี้ย่อมทำให้นักลงทุนสถาบันมีเม็ดเงินมาซื้อหุ้นน้อยลง จำนวนหุ้น IPO ในปี 2563 มีประมาณ 26-27 บริษัท ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีบริษัท (รวมกองทุนพื้นฐาน อสังหา) ประมาณ 740 บริษัท และหลายบริษัทที่ไอพีโอมี market cap ค่อนข้างใหญ่ เช่น CRC SCGP KEX STGT ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าไอพีโอสูงสุดของ Southeast Asia 2 ปีติดต่อกัน นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนักลงทุน ที่มีบริษัทให้เลือกลงทุนมากขึ้น และการระดมทุนยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงประสิทธิภาพของตลาดทุน ที่มีบทบาทต่อเศรษกิจของประเทศมากขึ้นด้วย มูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันในปี 2563 ประมาณ 66,000 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลขสูงสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน และทำให้ตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของ Southeast Asia ติดต่อกันหลายปี ชนะสิงคโปร์ที่แม้จะมี market cap รวมสูงกว่า โดยรวมมีบริษัทที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกประมาณ 43 % ( หากรวมเงินปันผลจะสูงกว่านี้ ) ที่เหลือให้ผลตอบแทนติดลบ กลุ่มธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนได้ดีในตลาดหุ้นปี 2563 คือกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ ไอที แพคเกจจิ้ง อาหาร และโลจิสติกส์ บริษัทในกลุ่มเหล่านี้ ได้ประโยชน์จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในทางตรงกันข้าม กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดคือ กลุ่มท่องเที่ยว เครื่องบินขนส่งผู้โดยสาร ห้างสรรพสินค้า กลุ่มผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ปิโตรเคมี ถ่านหิน และกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะสองกลุ่มหลังซึ่งมีน้ำหนักถ่วงดัชนีค่อนข้างมาก ส่งผลให้ดัชนีตลาดรวมติดลบ ในขณะที่หุ้นขนาดเล็ก ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ดัชนี MAI เพิ่มขึ้น 8.61 % จากปีก่อนหน้า ตลาดหุ้นต่างประเทศในปี 2563 ตลาดเอเชียให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี โดยเฉพาะประเทศเกาหลี ใต้หวัน ญี่ปุ่น จีน และเวียดนาม ประเทศเหล่านี้ควบคุมการระบาดของโรคค่อนข้างดี และมีบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการระบาดของโรคโควิด ส่วนตลาดที่แย่ที่สุดคือสิงคโปร์ ติดลบ 11 % ใกล้เคียงกับไทย เพราะพึ่งพาการท่องเที่ยวค่อนข้างมากเหมือนกัน ตลาดยุโรปค่อนข้างทรงตัวถึงติดลบเล็กน้อย เพราะมีการระบาดสูงและพึ่งพาการท่องเที่ยวมาก แต่ตลาดที่น่าสนใจคือตลาดอเมริกา ดัชนีดาวโจนส์เพิ่ม 7% เอสแอนด์พี- 500 เพิ่ม 16% และกลุ่มเทคโนโลยี - แนสแด็กบวกถึง 44 % ทั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการระบาดของโควิด -19 มากที่สุด มีคนเสียชีวิตสูงสุด และตลาดขึ้นมามากแล้วจากปีก่อนๆ แต่ด้วยการกระตุ้นเศรษกิจ การทำ QE แบบไม่อั้น และการมีบริษัทเทคโนโลยีที่ได้ประโยชน์จากการระบาดอยู่จำนวนมาก การที่ปัจจัยบวกส่งผลมากกว่าปัจจัยลบ ทำให้ตลาดอเมริกาให้ผลตอบแทนดีมากอย่างน่าประหลาดใจ พอร์ตส่วนตัวผมในปี 2563 ให้ผลตอบแทนเป็นบวกและชนะตลาด หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมามีทั้งขาดทุนและแพ้ตลาด ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่น่าพอใจ ปัจจัยที่ทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นมาจากหลายปัจจัย ประการแรก การขายหุ้นขนาดเล็กที่ราคาเฟอร์ฟอร์มดีขึ้น มาซื้อหุ้นขนาดกลางใหญ่ ในราคาที่ถูกลงมากจากแพนิค ประการที่สอง การตัดสินใจซื้อหุ้นตอนที่ตลาดกำลังแพนิค ( นำเงินจาก short tfex ,โยกเงินจากตลาดต่างประเทศ และเบิกเงินมาร์จิน 10-15 % ประการที่สาม การบริหารความเสี่ยงของพอร์ต โดยการ short index ก่อนดัชนีจะลดลงมาก รวมถึงการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ ...จำนวนหุ้นที่ถือ ณ.สิ้นปีลดลงเหลือประมาณ 40 ตัว จาก 70 ตัวในปีก่อนหน้า โดยหุ้นกลุ่มที่สร้างผลตอบแทนดี คือหุ้นเติบโต หุ้นวัฏจักร หุ้นขนาดกลาง ที่ราคาลดลงมาก รวมถึงหุ้นขนาดเล็กอีกหลายตัว ที่ยังทำผลประกอบการได้ดีและราคาขึ้นมามาก สำหรับพอร์ตหุ้นต่างประเทศ ปี 2563 ถือว่าสร้างผลตอบแทนได้ดี ล้อไปกับตลาด โดยลงทุนใน 3 ประเทศ คือเวียดนาม ปรับเปลี่ยนจากลงทุนในหุ้นขนาดเล็กมาซื้อกองทุนที่อิงดัชนีบางส่วน ทำให้สัดส่วนหุ้นรายตัวลดลงเหลือ 2/3 ส่วนตลาดอเมริกา เน้นลงทุนใน ETF อิงดัชนี S&P -500, NASDAQ, ETF-OIL และหุ้นบางตัวที่เป็นตัวแทนราคาน้ำมัน และในจีน เน้นลงทุนใน ETF ที่อิงตลาดรวม กลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศในอนาคต จะไม่เน้นลงทุนในหุ้นรายตัว (เพราะต้องใช้พลังและเวลามหาศาล ผมพอแล้ว :P ) แต่จะพยายามลงทุนใน ETF ที่อิงกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจงขึ้น มากกว่าการอิงดัชนีรวมเหมือนในปัจจุบัน ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศเป็นแค่ 10 % ของพอร์ต มีความตั้งใจว่าจะเพิ่มสัดส่วนให้มากขึ้น เพียงแต่รอคอยโอกาสที่เหมาะสมกว่านี้ มิเช่นนั้นจะกลายเป็น ต้องขายหุ้นไทยที่ราคาถูก และไปซื้อหุ้นนอกที่ราคากำลังแพง ซึ่งไม่สมเหตุสมผล ปรากฏการณ์ Delta ตลาดหุ้นไทยส่งท้ายปี 2563 มีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น นั่นคือการที่หุ้น Delta ซึ่งอยู่ในกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ ราคาเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง ไม่ได้เพิ่มแค่ 100% แต่เพิ่มกว่า 3,000 % ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยไม่มี story ใดๆ ที่สมเหตุสมผลรองรับ จนทำให้ market cap สูงเป็นอันดับ 3 ของตลาดหุ้น และนี่ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น Delta ส่งผลอย่างมีนัยยะต่อดัชนีตลาดหุ้นด้วย และยังส่งผลต่อการซื้อขายของกองทุนดัชนีที่ต้องซื้อหุ้นตาม เมื่อหุ้นดังกล่าวมีมูลค่าตลาด เข้าเกณฑ์ที่กำหนด ยิ่งทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้นไปอีก ในขณะที่ฝ่ายควบคุมดูแลคือ กลต.และ ตลท.ไม่ได้มีมาตรการอะไรอย่างจริงจัง ที่จะออกมาเพื่อปกป้องนักลงทุน การพร่ำบอกให้นักลงทุนรับผิดชอบ ดูแลตัวเอง อาจไม่ยุติธรรมนัก ในเมื่อสังคมย่อมมีทั้งคนที่มีความรู้ -คนไม่รู้ มีคนดี - คนไม่ดี ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองเราจะมีตำรวจไว้ทำไมกัน :roll: แต่เรื่องนี้คาดเดาได้ไม่ยาก ว่าจะลงเอยอย่างไร เพราะ Delta ไม่ใช่หุ้นตัวแรกที่เป็นเช่นนี้ จากอดีตที่ยังพอจำได้ เราเคยมี ปรากฏการณ์ Bay ปรากฏการณ์ Beauty ปรากฏการณ์ Gl แม้ชื่อหุ้นต่างกัน เวลาเกิดต่างกัน แต่จุดจบเหมือนกัน ราวกันนัดกันไว้ นักลงทุนพึงจำไว้ว่า ในตลาดหุ้น อะไรที่ขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล มันจะตกลงมาอย่างมีเหตุผล ในฐานะนักลงทุน นี่เป็นแค่เรื่อง “มารผจญ” ความโลภที่เข้ามาทดสอบเรา เหมือนดังคำพูดของเฮียคลาดเครียดที่ว่า “ จ้าวมือเค้าไม่ได้ปั่นหุ้น แต่เค้าปั่นความโลภในใจเรา ’’ ในอนาคตอันใกล้ เมื่อปรากฎการณ์หุ้น Delta จบลง นอกจากคนเข้าไปเล่นเกมส์ที่เสียหายแล้ว ยังมีผลต่อระดับดัชนี SET ด้วยไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน. ( ..คิดถึงเฮียคลายเครียด เงียบหายไป ใครพอรู้ข่าวสาร ช่วยกันบอกกล่าวหน่อยน้า..) บทเรียนจากวิกฤติโควิด วิกฤติตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่หากเกิดขึ้นแล้ว ความเสียหายมหาศาล การระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดหุ้นไทยลดลง 40 % ภายในเวลาแค่ 2 เดือน ยังไม่รวมว่าหุ้นขนาดใหญ่หลายๆ ตัว ราคาลดลงมากกว่า 50 % แน่นอนว่าวิกฤติรอบนี้มีคนรอดตาย คนที่ปางตาย และคนที่ตาย และเพื่อไม่ให้ประสบการณ์จากวิกฤติครั้งนี้ผ่านแล้วผ่านเลย หาประโยชน์ไม่ได้ ผมจะแสดงความเห็นในบางประเด็น เผื่อเป็นข้อคิด สำหรับรับมือวิกฤตครั้งต่อๆ ไป ซึ่งผมมั่นใจมากถึงมากที่สุด ว่าเราจะเจอแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว หากเรายังอยู่.. :P down.png thai.png ป่วยการที่จะทำนายวิกฤติ นี่เป็นสิ่งที่นักลงทุนวีไอส่วนใหญ่รู้ดีอยู่แล้ว เรารู้ว่าวิกฤติมันจะเกิดขึ้นแน่ แต่สิ่งที่ยากคือการทำนายว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การหลบเลี่ยงวิกฤติได้ ถือเป็นความฝันของนักลงทุนทุกคน หากรู้จะได้เทขายหุ้นออกไปก่อน แล้วค่อยไปซื้อกลับตอนราคาถูก ๆ แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายหรือเกือบๆเป็นไปไม่ได้ เพราะวิกฤติแต่ละครั้ง จะมาอย่างแนบเนียน ในรูปแบบที่ไม่ซ้ำกัน และทุกครั้งกว่าเราจะรู้ว่าเป็นวิกฤติ ราคาหุ้นก็ลดลงมากแล้ว ซึ่งป่วยการที่จะขาย เพราะขายที่ราคาต่ำไม่มีประโยชน์ เหตุการณ์ร้ายๆ ที่กระทบต่อตลาดหุ้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข่าวใดที่จะก่อให้เกิดวิกฤติ หรือเป็นข่าวเล็กๆ ที่แค่กวนใจ หากเราจะขายหุ้นทุกครั้งที่ตลาดมีข่าวร้าย เราอาจจะได้ขายหุ้นทุกเดือน แถมประสาทกิน สิ่งที่เราพอทำได้และควรทำ คือการคิดวางแผน หากวิกฤติเกิดขึ้น เราควรจะทำอย่างไร มีขั้นตอน 1..2...3.. ทำเช่นนี้จะมีประโยชน์มากกว่า การบริหารความเสี่ยง แม้วิกฤติเป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดเดาไม่ได้ และสร้างความเสียหายมากได้มากเมื่อมันเกิดขึ้น แต่ปัจจุบันตลาดทุนพัฒนามากขึ้น มีเครื่องมือบางตัว ที่สามารถใช้ลดความเสี่ยงของพอร์ตจากวิกฤติได้ เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือ Future และตราสารอนุพันธ์ที่ซับซ้อนขึ้นอย่าง option ..เมื่อผมได้รับข่าวเรื่องการระบาดโควิด และเริ่มตระหนักว่าอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นได้มาก ผมอยากขายหุ้น แต่ขายไม่ได้เพราะหุ้นส่วนใหญ่สภาพคล่องต่ำมาก ผมเลือกที่จะ hedge port บางส่วน โดยการใช้เงินก้อนสุดท้าย short สัญญา future set50 หากผมคาดผิด การระบาดไม่ร้ายแรง หุ้นไม่ลง กลับขึ้น ผมจะขาดทุนสัญญา future แต่จะได้กำไรจากหุ้น แต่สิ่งที่เกิดจริงคือตลาดหุ้นตกลงมาก ผมขาดทุนหุ้นที่ถืออย่างหนัก แต่ได้กำไรจากสัญญา future มาชดเชย ( ลองนึกภาพ..เมื่อหุ้นลง สมองซีกขวาผมเสียใจ :cry: แต่สมองซีกซ้ายกลับดีใจ :P ) และกำไรจากการ short future นี้เอง ที่ผมนำมาซื้อหุ้นที่ราคาต่ำๆ ถึงแม้จะเป็นสัดส่วนเงินที่ไม่ได้มากมาย แต่ตอนวิกฤติเงินสดคือพระเจ้าจริงๆ :| วิกฤติจะเป็นโอกาส เมื่อเราแข็งแรงเท่านั้น เหมือนร่างกายที่แข็งแรง เมื่อเจอเชื้อโรคร้ายก็มีโอกาสรอดสูงกว่า นักลงทุนก็เช่นกัน หากทำตัวให้อ่อนแอ เช่นแบกหนี้เงินมาร์จินมาซื้อหุ้น เจอวิกฤติ ราคาหุ้นลดลงมาก แทนที่เป็นโอกาสซื้อหุ้นราคาถูกเพิ่ม กลับต้องมาเป็นฝ่ายเทขายหุ้นเสียเอง เพื่อคืนเงินมาร์จิน ความเสียหายจะมหาศาล วิกฤติโควิดมีนักลงทุนที่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หลายคน สังเกตได้จากราคาหุ้นกลางเดือนมีนาคม แต่คนตายหรือปางตายคงไม่อยากเล่าให้เราฟัง ตรงกันข้ามคนที่ตัวเบาหรือแข็งแรง สามารถเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส เข้าซื้อหุ้นที่ถูกเทขายราคาถูกๆ ได้ อย่าสงสัยในความสามารถของมนุษย์ ที่จะโต้กลับจากปัญหาที่เข้ามาคุกคาม หากมนุษย์ไม่มีคุณสมบัตินี้ คงไม่สามารถแพร่เผ่าพันธุ์ ยึดครองโลกได้อย่างทุกวันนี้ เมื่อวิกฤติเกิดขึ้นในตลาดหุ้น - 100 % ของข่าวสารที่เราได้รับจะเป็นข่าวร้าย ข่าวที่ดูเหมือนโลกจะแตก ทุนนิยมจะล่มสลาย ผู้คนจะล้มตาย หุ้นจะเหลือแต่เศษกระดาษ แต่มนุษย์ไม่มีวันจะยอมแพ้ ไม่ช้าไม่นาน วิธี มาตรการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหา จะถูกระดมคิดขึ้น และถูกนำมาใช้อย่างรวดเร็ว ปัญหาที่ร้ายแรงจะทุเลาลง หรืออาจเอาชนะปัญหาได้เลย ณ. จุดแย่ที่สุด คนที่มองโลกในแง่ร้าย ไม่เชื่อมั่นในความสามารถของมนุษย์ จะขายหุ้นทิ้งไป หุ้นจะถูกเปลี่ยนมือไปอยู่ในมือคนที่มองโลกในแง่ดีกว่า มันเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง โลกหมุนเร็ว ต้องรีบตัดสินใจ โลกทุกวันนี้ หมุนเร็วกว่าโลกในอดีตมาก เพราะการหมุนเวียนของแทบทุกสิ่งอย่าง เป็นระบบดิจิตอล ตลาดหุ้นก็เช่นกัน วิกฤติรอบนี้ หุ้นได้ไปทำจุดต่ำสุดกลางเดือนมีนาคม และนิ่งๆอยู่เพียงแค่ไม่กี่วัน หลังจากนั้นก็แรลลี่ขึ้นยาว คนที่เงื้อง่าราคาแพง คนที่รอให้มีดตกถึงพื้นเสียก่อน คนที่ขอต่อราคาอีกหน่อย คนที่รอทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน คนที่มองโลกในแง่ร้าย ล้วนถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลัง จะดีกว่าไหมหากเราไม่ต้องรอให้มีดตกถึงพื้น เพราะเราไม่มีวันรู้ กว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อมันเด้งขึ้นมาแล้ว หากราคามันถูกพอ ซื้อบางส่วนไปก่อน ลงอีกได้ซื้ออีก หากมันเด้ง ยังมีหุ้นบ้าง ซื้อทันแบบคร่าวๆ ดีกว่าตกรถแบบจังๆ ตราสารหนี้ไม่ใช่ safe heaven เสมอไป นักลงทุนเคยเชื่อว่าตราสารหนี้เป็นการลงทุนที่ปลอดภัย เป็นที่พักเงินที่ไว้ใจได้ แต่วิกฤติครั้งนี้ ความเชื่อนี้เริ่มสั่นคลอน ตราสารหนี้ก็หนีไม่พ้นที่ได้รับผลกระทบ สภาพคล่องที่หายไป เพราะนักลงทุนแห่เทขายสินทรัพย์ทุกชนิดเพื่อถือเงินสด ผู้ถือตราสารอยากขายก็ขายไม่ได้ เพราะไม่มีแรงซื้อ จนกองทุนตราสารหนี้บางกองต้องประกาศปิดกองทุน เพราะหากดึงดันจะขายในสภาพที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ ราคาขายจะต้องมีส่วนลดสูง สู้ปิดกองทุนรอให้สภาพคล่องกลับมา จะขายได้ที่ราคาดีกว่า ความเสียหายจะน้อยกว่า แต่ลองนึกถึงนักลงทุนที่พักเงินในตราสารหนี้ เพื่อรอจังหวะช้อนซื้อหุ้นตอนราคาตกต่ำ อยากจะซื้อหุ้นก็ซื้อไม่ได้ เพราะขายไม่ได้ ไม่มีเงิน เหมือนเจอไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น แล้วจะสามารถไปเรียกร้องค่าเสียโอกาสกับใครได้บ้าง.. :roll: รอบ 2 ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ผมได้ผ่านวิกฤติตลาดหุ้นมา 3 ครั้ง ครั้งแรกวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ครั้งที่ 2 คือวิกฤติซับไพรม์ ปี 2551 และวิกฤติล่าสุด วิกฤติโควิดปี 2563 แทบทุกครั้งหลังจากหุ้นลงไปทำจุดต่ำสุด และมีทีท่าว่าจะฟื้นตัว จะมีความเห็น post crisis แทบทุกครั้งทำนองว่าจะวิกฤติรอบ 2 ..ตอนปี 40 ก็มีคำพูดที่โด่งดังคือ ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าจะเผาจริง ปี 2551 ก็มีคนหลายคนออกมาเตือนว่าจะมีวิกฤติรอบ 2 เพราะตราสารหนี้ CDO -collateralized debt obligation ล็อต 2 จะถูกไถ่ถอน และมันจะไม่มีคนซื้อ พอวิกฤติโควิดรอบนี้ ก็มีคำเตือนว่าโควิดจะระบาดรอบ 2 และทำให้เกิดวิกฤติเศรษกิจอีกรอบ ( ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นจริง แต่จะไม่สะเทือนหุ้นเหมือนครั้งแรก ) แต่สิ่งที่เป็นจริงทุกครั้งคือ วิกฤติรอบ 2 ไม่เคยเกิดขึ้นจริง คนที่เชื่อว่าจะเกิดวิกฤติรอบ 2 น่าจะเป็นผลจาก Snake-bite effect + Recently bias + pessimistic หากนักลงทุนเสพและคล้อยตามความเห็นเหล่านี้ เขาจะไม่กล้าซื้อหุ้น ในตอนที่ควรจะซื้อที่สุด หรือเรียกว่า เสพข่าวร้ายจนตกรถ สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนนักลงทุนทุกท่าน สำหรับการลงทุนต่อๆ ไป สิ่งที่ผ่านไปแล้ว มันจบไปแล้วกับปีเก่า เรารีเซ็ททุกอย่างเป็นศูนย์ ขึ้นปีใหม่ เริ่มกันใหม่ การลงทุนเรามองไปที่อนาคตเสมอ ไม่ว่าปีที่ผ่านไปจะดีหรือไม่ดี สิ่งที่ยังพอเป็นประโยชน์บ้างคือมันให้บทเรียน เราได้เรียนรู้ เพื่อที่จะเป็นนักทุนที่เก่งขึ้น ผิดพลาดน้อยลง หากเทคนิค วิธีใด ใช้ไม่ได้ผล ต้องฉุกคิด วิธีผิด หรือคนผิด ไตร่ตรองแล้วปรับเปลี่ยน โลกเปลี่ยน คนต้องยืดหยุ่น สวัสดีปีใหม่ปี 2564 ทุกท่าน อัตตาหิ อัตโนนาโถ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ผู้ที่ฝึกตนไว้ดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งอันหาได้ยาก" :o :o :o (กระทู้นี้ ตอบกลับไม่ได้นะครับ)
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ ม.ค. 01, 2021 11:32 pm
0
111
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3/2563
งานจัดวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย. 63 โรงแรมบุรีศรีภู หาดใหญ่ เริ่มงาน 10.00 - 16.00 น. ค่าใช้จ่าย 600-700 บาท เป็นค่าอาหาร สถานที่ ส่วนที่เหลือทุกบาททุกสตางค์ นำไปช่วยเหลือคนด้อยโอกาสในภาคใต้ งานจะจัดทุกไตรมาส หลังงบออกครบ แต่จะประกาศให้จองร่วมงานประมาณ 1 เดือนก่อนวันงาน (จะมีการเตือนก่อนจอง 2-3 วัน) จะตั้งกระทู้ในหน้า Value investing เท่านั้น มีโควต้าสำหรับมือใหม่และผู้อาวุโส
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ ต.ค. 19, 2020 1:50 pm
0
4
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3/2563
รายชื่อผู้ร่วมงานครับ แบ่งๆกันไปนะครับ จัดทุกไตรมาส ผู้ที่มาครั้งแรก ผู้อาวุโส จะได้โอกาสก่อน หากมีผู้สละสิทธ์ สำรองลำดับถัดๆ ขยับขึ้นมาตามลำดับ ผู้ที่จะร่วมงานต้องยินดีที่จะสวมใส่หน้ากากทุกท่าน ตามมาตรการที่รัฐและโรงแรมกำหนด 1. maylard 2. lekkung 3. chocolatecake 4. ชงต๊ะ 5. IndyVI 6. Papergirl 7. JJSMILE 8. ZVI 9. Narut_R91 10. Elite5 11. 019412 12. Nongcat 13. Karakasung (ครั้งแรก) 14. Arkad 15. Kophop 16. ekkachai22 17. Dao Yoga 18. PJsmlie 19. Little_Traveler 20. Syj 21. กุหลาบที่ไม่เคยโรย 22. Brave Boy 23. Bankkimhor 24. Puttology 25. Zerozang 26. M.Chanawee 27. REALYOU 28. chanchai_lee 29. Khemt 30. GaiGai1979 31. Saichon 32. It 33. Qwerty01 34. Horizon 35. Amy_P 36. หมอตี่VI 37. Basikboy 38. Taothiam 39. Ampare 40. Satori-Zen 41. Dr1 42. Theunited (ครั้งแรก) 43. nitis602 (ครั้งแรก) 44. Miracle (ครั้งแรก) 45. Bluesea-sk (ครั้งแรก) 46.Kuroemon (ครั้งแรก) 47. rohan (ครั้งแรก) 48. charan 49. พี่บัวดิน 50. พี่แมว สำรอง TSRnDEng thanapon.k theerasak24
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ ต.ค. 19, 2020 1:48 pm
0
3
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 2/2563
จะตั้งกระทู้รับจองงานมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 3/2563 วันอาทิตย์ที่ 18 ตค.นี้ เวลา 20.00-20.05 น. งานมีตติ้งจะจัดวันที่ 15 พ.ย. นี้ ณ. รร.บุรีศรีภู หาดใหญ่ รับประมาณ 40 กว่าท่านครับ
โดย
ลูกอิสาน
พฤหัสฯ. ต.ค. 15, 2020 7:43 pm
0
5
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 2/2563
น่าจะ 15 พ.ย. แต่ขอยืนยันการจองโรงแรมก่อนครับ
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ ต.ค. 10, 2020 8:36 pm
0
8
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 2/2563
สถานที่จัดงาน ไม่ใช่โรงแรมเดิมนะครับ ที่ใหม่เป็น โรงแรมบุรีศรีภู หาดใหญ่ ครับ
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ ก.ค. 24, 2020 9:38 pm
0
2
Re: รับจองมีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 2/2563
รายชื่อผู้ร่วมงานครับ หากมียกเลิก ลำดับถัดไปขยับขึ้นมาตามลำดับครับ 1 Arkad 2 taothiam 3 Buntam 4 maylard 5 elite 5 6 ekkachai22 7 ZVI 8 019412 9 Narut_R91 10 ผักกาด 11 Pjsmile 12 ชงต๊ะ 13 กุหลาบที่ไม่เคยโรย 14 saichon 15 AnieLee 16 REALYOU 17 theerasak24 18 JJSMILE 19 nongcat 20 mookvy 21 tarita263 22 Qwerty01 23 horizon 24 it 25 thanapon.k 26 TSRnDEng 27 Indian Cork 28 Amy_P 29 amornkowa 30 KITJA 31 puttology 32 Khemt 33 Newbie168 34 kung_king 35 Dao Yoga 36 AAA 37 prapenpit 38 bbshambles 39 015 40 dr1 41 GaiGai1979 42 natedaophu 43 DonaldduckVI 44 benkanin (มือใหม่) 45 ลูกอิสาน 46 ty 47 worapong 48 บัวดิน 49 พี่แมว 50 charun สำรอง basikboy Moopama
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ ก.ค. 19, 2020 11:16 am
0
5
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2563
จะตั้งกระทู้เพื่อรับจองงาน มีตติ้งวีไอภาคใต้ไตรมาส 2/2563 ในวันเสาร์ที่ 18 นี้ เวลา 20.00 - 20.05 รับประมาณ 40 ท่าน จัดในโรงแรม แบบ new normal งานมีตต้ิงวันที่ 16 ส.ค.นี้ เวลา 10.00-16.00 รายละเอียดจะตามมาอีกครั้ง
โดย
ลูกอิสาน
พุธ ก.ค. 15, 2020 8:39 am
0
11
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2563
งานยังไม่เริ่ม แต่เงินที่ทุกท่านให้มา ถูกใช้เพื่อเป็นประโยชน์แล้ว ได้เงินประมาณ 13200 บาท บางท่านตั้งใจให้มาเกิน charan kaiser saichon ekkachai22 maylard 019412 รวมกับสมาชิกท่านอื่นๆ นำมาทำชุดยังชีพได้ประมาณ 100 ชุด (รวมกับผู้บริจาคอื่นๆ) บริจาคให้กับชุมชนทางรถไฟ หาดใหญ่ ขอบคุณทุกท่าน รวมถึงท่านที่ช่วยจัดการงานบริจาคครับ.. :D IMG_6157.JPG IMG_6158.JPG IMG_6159.JPG IMG_6160.JPG IMG_6161.JPG IMG_6162 2.JPG
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ พ.ค. 16, 2020 1:38 pm
0
25
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2563
ผมส่งลิ้งค์ไปแล้ว ท่านใดไม่ได้รับ แจ้งมาได้เลยครับ
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ พ.ค. 16, 2020 10:14 am
0
3
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2563
พรุ่งนี้วันที่ 16 ก่อน 4 โมงเย็น ผมจะส่งลิงค์งานมีตติ้งไปให้ทุกท่าน (ผ่านทาง Private message เวป thaivi.org ) หากท่านคลิ๊ก จะขึ้นเป็นโปรแกรม zoom และเขียนประมาณนี้ Start a Meeting Valueinvesting Personal Meeting Room ...Waiting for the host to start this meeting ซึ่งนี่จะเป็นข้อความที่ท่านเห็น ซึ่งถูกต้องแล้ว ไม่ต้องทำอะไร เช้าวันที่ 17 เวลาประมาณ 8.40 ผมจะเปิดห้อง เมื่อท่านคลิ๊กลิ้งค์จะขึ้นข้อความ Please wait. the meeting host will let you in soon กด Join with audio.. ท่านรอเข้าห้อง เมื่อผมกดอนุญาติจะเข้ามาได้ครับ กฏ กติกา 1.ไม่บอกลิ้งค์ให้คนอื่น หากจำนวนคนเกิน ผมจะเช็คชื่อ 2.เตรียมหูฟัง ทั้งแบบมีสาย ไร้สาย จะชัดเจน 3.ผมจะปิดเสียงทุกท่าน ป้องกันเสียงรบกวน ใครต้องการพูด ให้ยกมือ 4.ให้ลองคลิ๊กลิ้งค์ทดสอบ หากถึงเวลางาน ใครเข้าไม่ทัน ต้องขออนุญาติผ่านไป เพื่อให้งานไม่ล่าช้า 5.ท่านใดสงสัย ให้ถามในกระทู้นี้ได้ครับ
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ พ.ค. 15, 2020 8:57 pm
0
5
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2563
ขอให้โอนเงินก่อนวันจันทร์ที่ 11 นี้ เที่ยงตรงนะครับ หากไม่ได้โอน ขออนุญาติให้สิทธิ์กับคนถัดๆไปครับ
โดย
ลูกอิสาน
เสาร์ พ.ค. 09, 2020 2:41 pm
0
1
Re: มีตติ้งวีไอภาคใต้ ไตรมาส 1/2563
รายชื่อผู้ร่วมงานครับ ( ขออภัยที่รับได้จำกัด เพราะยังไม่คุ้นเคยกับวิธีมีตติ้งแบบนี้ครับ ) 1. 019412 2. Arkad 3. maylard 4. ชงต๊ะ 5. IndyVI 6. ZVI 7. Narut_R91 8. mookvy 9. TWT 10. iampooky 11. Little_Traveler 12. Kaiser 13. tawa 14. Flyyma 15. elite 5 16. it 17. nongcat 18. wispan 19. TSRnDEng 20. Indian Cork 21. kophop 22. phodsawat 23. saichon 24. amornkowa 25. PREECHAK1972 26. REALYOU 27. kannicha 28. lekkung 29. ผักกาด 30. Fonfon 31. K-TAW 32. iamsupat 33. ekkachai22 34. taothiam 35. basikboy 36. papergirl 37. Zippoice 38. MiKewhay 39. intuition ( ครั้งแรก) 40. sukit2020 (อาวุโส เกิน 50 ปี) + ทีมงาน การสมัครจะสมบูรณ์เมื่อมีการโอนเงินแล้ว (โอนเงิน 250 บ. พรอมเพย์ 0815439494 แล้วส่ง slip ไปที่ Private message พี่ charun หรือไลน์ไปที่ 0815439494 ) รายละเอียดการล็อคอินเข้าโปรแกรม ( ผมจะส่งลิงค์ของมีตติ้งให้ทาง Private message ของเวป thaivi เฉพาะคนที่ชำระเงินแล้ว โดยจะส่งไป 1 วันก่อนวันมีตต้ิง เมื่อคลิ๊กลิ้งค์จะยังเข้าห้องไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เปิดห้อง จะเปิดห้องเวลาประมาณ 8.40 น. ของวันมีตติ้ง โดยทุกท่านรอผม admit ให้เข้าห้อง ชื่อที่ใช้เข้าห้อง ถ้าเป็นไปได้ให้เป็นชื่อเดียวกับล็อคอินที่ใช้จอง แต่หากมียูสเซอร์ zoom อยู่ก่อนแล้ว ผมจะ admit ไปก่อน และเช็คชื่ออีกครั้ง )
โดย
ลูกอิสาน
พฤหัสฯ. พ.ค. 07, 2020 11:00 am
0
7
Re: จองมีตติ้งภาคใต้ไตรมาส 4/2562
เนื่องจากมีหลายท่าน อยากให้มีการจัดงานแบบออนไลน์ ผมคิดว่าสนใจ เป็นการปรับตัวเข้ากับโลกใน ชีวิตวิถีใหม่ จึงสรุปเป็นรูปแบบมีตต้ิงประมาณนี้ครับ.. 1.จะรับสมาชิกประมาณ 30-40 คน 2.จัด 3 ชม 9.00 -12.00 น. เช้าวันอาทิตย์ที่ 17 พค. 3.จะมีตติ้งผ่านโปรแกรม zoom โดยผมจะแจ้งหมายเลขและพาสเวิดส์การเข้ามีตติ้ง ในกระทู้ก่อนเริ่มงาน คนที่จองได้ล็อคอินเข้าไป และผมจะ allow เฉพาะคนที่จองได้ (คนที่จองได้ จะต้องแจ้งชื่อใน zoom ผ่าน PM มาที่ผม) 4.ค่าใช้จ่าย 250 บาท ไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำไปช่วยคนที่เดือนร้อนจากโควิด โอนเข้าบัญชีที่ระบุ 5.จะตั้งกระทู้จองวันพุธที่ 6 พค. นี้ เวลา 20.00 -20.05 น.เช่นเดิม
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ พ.ค. 03, 2020 2:32 pm
0
14
Re: จองมีตติ้งภาคใต้ไตรมาส 4/2562
มีตติ้งวีไอภาคใต้ไตรมาส 1/2563 ของดไปก่อนนะครับ เพราะยังอยู่ในช่วงระบาดโควิด-19 คาดว่าจะมีมีตติ้งอีกครั้ง เป็นผลประกอบการหลังไตรมาส 2-2563 จะแจ้งวันมีตต้ิงและวันจองอีกครั้ง ในกระทู้นี้ครับ
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ เม.ย. 27, 2020 10:42 pm
0
6
Re: จองมีตติ้งภาคใต้ไตรมาส 4/2562
รอบนี้เต็มปิดจองไปแล้วครับ รอครั้งหน้า รอบไตรมาส 1/63 น่าจะเปิดให้จองประมาณ 17-20 ม.ย. สามารถประมาณ วันจอง วันจัด ได้จากที่ชี้แจงในโพสต์แรก กระทู้นี้ครับ
โดย
ลูกอิสาน
พฤหัสฯ. ก.พ. 20, 2020 8:30 pm
0
1
Re: จองมีตติ้งภาคใต้ไตรมาส 4/2562
รายชื่อผู้ร่วมงานครับ (ขอบคุณน้องมาเรียและ TSR ครับ) 1. kthanapon 2. ZVI 3. maylard 4. Buntam 5. nongcat 6. syj 7. papergirl 8. it 9. KITJA 10. elite 5 11. PJsmile 12. Arkad 13. 019412 14. iampooky 15. horizon 16. Bankkimhor 17. Brydo 18. TSRnDEng 19. puttology 20. REALYOU 21. ชงต๊ะ 22. tarita263 23. RoMEAotZ 24. prapenpit 25. Qwerty01 26. Maria Angela 27. jumbo 28. Fonfon 29. PREECHAK1972 30. mookvy 31. M.Chanawee 32. JJSMILE 33. jeasmine 34. thanapon.k 35. Khemt 36. saichon 37. Dao Yoga 38. gasidit123 39. tyters 40. Nut2540(ครั้งแรก) 41. monsoon 42. pongsakorn168 43. ekkachai22 44. Brave Boy 45. Arttharin((ครั้งแรก) 46. charun 47. บัวดิน 48. พี่แมว 49. worapong 50. ty 51. ลูกอิสาน หากมีใครยกเลิก รายชื่อลำดับถัดไป ขยับขึ้นมาตามลำดับครับ
โดย
ลูกอิสาน
ศุกร์ ก.พ. 07, 2020 11:27 am
0
5
Re: มีตติ้งภาคใต้ไตรมาส 3/2562
จะเปิดกระทู้ให้จองงานมีตติ้งไตรมาส 4/62 วันที่ 6 กพ.นี้ เวลาประมาณ 20.00-20.05 น.ครับ งานมีตติ้งจัดวันที่ 1 มีค. นี้ครับ
โดย
ลูกอิสาน
จันทร์ ก.พ. 03, 2020 8:25 pm
0
7
Re: มีตติ้งภาคใต้ไตรมาส 3/2562
ขอสอบถาม อ.โจ ครับ ว่า มีตติ้งภาคใต้ 4/2562 มีกำหนดจัดงานประมาณวันที่เท่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ คาดว่า วันที่ 1 มี.ค. ครับ
โดย
ลูกอิสาน
อาทิตย์ ก.พ. 02, 2020 8:10 pm
0
2
Re: ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
กราบสวัสดีปีใหม่ปี 2563 พี่น้องชาวสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่าทุกท่าน กราบสวัสดีอาจารย์ ดร.นิเวศน์ อ.ไพบูลย์ พี่ปรัชญา พี่ครรชิต ลุงขวด เฮียคลายเครียด พี่หมอ jfk พี่กะละมัง พี่พี พี่วัฒน์ พี่หมอพงศ์ศักดิ์ พี่หลิน พี่หนิง พี่กุ๊ก พี่หมอสามัญชน พี่พรรณ พี่ไก่ พี่มน พี่บู พี่วิบูลย์ พี่นัน พี่ตี้ พี่จรัญ พี่แมว พี่สุบรรณ พี่บัวดิน หมอหนึ่ง พี่เวป พี่ฉัตร พี่ชาย พีเจ๋ง พี่ประชา พี่นริศ พี่โดม พี่พอใจ พี่นุช พี่อมร พี่วรรณ พี่หน่อง พี่เล็ก น้องๆ ทีวีไอทุกคน ขอคุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครองให้ทุกท่านปลอดภัย มีความสุขกาย สบายใจ ตลอดปี ไม่ว่าตลาดหุ้นจะเป็นเช่นไรครับ ตลาดหุ้นปี 2562 เปรียบเหมือนรถไฟฟ้า วิ่งไปวิ่งมา วนกลับมาที่เดิม โดยเริ่มต้นปี ดัชนีฟื้นตัวจากปลายปีก่อน ก่อนขึ้นๆลงๆ ทีละเล็กละน้อย จนทำจุดสูงสุดที่ 1748 จุดช่วงต้นเดือนกรกฎาคม แล้วค่อยๆ ไซด์เวย์ลงจนทำจุดต่ำสุดที่ 1543 จุด กลางเดือนธันวาคม ก่อนเด้งขึ้นมาปิดสิ้นปีที่จุดใกล้เคียงปีก่อนที่ 1579.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.02 % หากรวมปันผลอีกประมาณ 3.27 % จะให้ ผลตอบแทนรวม 4.29 % (ดัชนีผลตอบแทนรวมหรือ TRI) ในปี 2562 วันที่ 28 พฤษภาคมมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยได้ทำสถิติใหม่ที่ประมาณ 2.04 แสนล้านบาท เนื่องจากการปรับพอร์ตของกองทุนต่างชาติ ที่ซื้อหุ้นไทยเพิ่มขึ้น เพราะสาเหตุเพราะต้องปรับตามดัชนี MSCI ที่กองทุนเหล่านี้อ้างอิง และเหตุผลที่ MSCI เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย ไม่ใช่เหตุทางเศรษกิจ แต่เป็นเหตุผลทางเทคนิค ที่เริ่มมีการคำนวณรวมหุ้นใน NDVR รวมกับหุ้นปกติ ทำให้น้ำหนักของหุ้นประเทศไทยเพิ่มขึ้น สัดส่วนหุ้นไทยในพอร์ตรวมหุ้นโลกจึงต้องเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน หุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้นมีประมาณ 200 กว่าตัว ที่เหลือคือ ติดลบ จากหุ้นทั้งตลาดประมาณ 700 บริษัท หุ้นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นคือหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ หุ้นกลุ่มการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร กลุ่มค้าปลีกบางตัว ธนาคารขนาดเล็ก กลุ่มขนส่งมวลชน กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่ดีผิดปกติคือกลุ่มกอง REIT และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นผลจากสภาวะดอกเบี้ยตกต่ำ ทำให้นักลงทุนมองหาผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอนแต่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้กอง REIT- โครงสร้างพื้นฐาน คือคำตอบ กลุ่มที่แย่คือบริษัทที่ผลิตสินค้าส่งออก กลุ่มหุ้นขนาดเล็ก (ดัชนีหุ้น MAI ลดลงถึง 13.13 % ) กลุ่มหุ้นอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ตลอดทั้งปี ตลาดหุ้นถูกครอบงำทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่ดุเดือดตลอดปี โดยผลัดกันโต้ตอบขึ้นภาษีสินค้าระหว่างกัน มีการแบนบริษัทเทคโนโลยี แต่สุดท้ายในสงครามที่จะไม่มีใครชนะ ก็สงบลงชั่วคราวโดยการทำข้อตกลงการค้าในเฟสแรก ( แต่รอติดตามชมเฟสต่อ ๆไป) ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่แท้จริงที่กระทบต่อผลประกอบการบริษัท ปัจจัยลบที่ชัดเจนคือ การแข็งค่าของเงินบาท ผลจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี ทำให้เงินบาทเป็น safe haven ของนักค้าเงิน ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าอันดับต้นๆ ของโลก ทั้ง ๆที่เศรษกิจขยายตัวต่ำมาก เป็นความย้อนแย้งที่ส่งผลเสียต่อหลากหลายธุรกิจ เช่นการท่องเที่ยว เงินบาทที่แข็งค่าทำให้ความคุ้มค่าในการมาท่องเที่ยวในไทยลดลง และที่ส่งผลที่สุดคือทำให้การส่งออก ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทย ทำได้อย่างยากลำบากขึ้น นอกเหนือจากสงครามการค้า ที่ส่งผลลบต่อกำลังซื้อแล้ว ค่าเงินบาทที่แข็งมาก ส่งผลให้การส่งออกปีที่ผ่านมาติดลบ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อย การแข็งค่าของเงินบาท ยังทำให้การส่งออกสินค้าเกษตร แข่งขันได้ยากขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรหลักแทบทุกตัว ราคาลดลง ส่งผลต่อกำลังซื้อของเกษตรกรทั้งประเทศด้วย ไม่รวมถึงภัยแล้งที่เกิดขึ้นแทบทุกปี และปี 2563 มีแนวโน้มว่าจะแล้งมากกว่าปี 2562 การเลือกตั้งที่เกิดในปีที่ผ่านมา ถูกคาดหวังก่อนหน้าว่าอาจจะเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษกิจ กลับกลายเป็นว่าทำให้เกิดสุญญากาศ การใช้เวลายาวนานเพื่อตั้งรัฐบาลอย่างทุลักทุเล ทำให้งบประมาณปี 2563 ยังไม่ได้ผ่านสภา ส่งผลให้การใช้จ่ายภาครัฐชะงักงัน นอกจากนั้นตลาดหุ้น ยังมีปัจจัยทางเทคนิคที่ทำให้กำไรรวมของบริษัทจดทะเบียนในปี 2562 ลดลงจากปี 2561 คือ พระราชบัญญัติแรงงานฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้ ทำให้หลายบริษัทต้องค่าใช้จ่ายย้อนหลังเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้บริษัทพลังงานต้องบันทึกการด้อยค่าของสินค้าในคลัง และเศรษกิจโดยรวมที่ค่อนข้างซบเซา ทำให้ P/E ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มจากประมาณ 17 เท่า เป็น 19 เท่า ทั้งที่ดัชนีทรงตัวเท่าๆเดิม ตลาดหุ้นต่างประเทศ ปี 2562 ที่ผ่านมาแม้มีสงครามการค้า แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับสดใส แทบทุกตลาด ผิดลิบลับกับตลาดหุ้นไทย ทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา มีเพียงตลาดหุ้นประเทศใน southeast Asia เท่านั้นที่แย่พอๆ กับตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวจากปีก่อนหน้า เพิ่มขึ้นประมาณ 20 % MSCI World Index เพิ่มขึ้น 24 % ตลาดที่โดดเด่นมากคือสหรัฐอเมริกา โดยดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเกือบ 30 % ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ ปัจจัยที่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลกคือ ความกลัวว่าเศรษกิจจะถดถอยจากสงครามการค้า ทำให้หลายประเทศมีการผ่อนคลายทางการเงิน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง ทำให้หุ้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนมากขึ้น พอร์ตหุ้นส่วนตัวปีนี้ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเล็กน้อย แต่แพ้ดัชนี SET TRI โดยแพ้ตลาด 2 ปีติดต่อกัน ปีนี้ครบรอบ 20 ปี ของการลงทุน สรุปว่าให้ผลตอบแทนติดลบ 2 ปี แพ้ตลาด 3 ปี ระหว่างปี 2562 มีการซื้อหุ้นเพิ่มเป็นประมาณ 70 ตัว ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ตัดสินใจผิดพลาด เพราะหุ้นที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษกิจมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ แม้จะมีหุ้นบางตัวที่ให้ผลตอบแทนดี แต่ไม่สามารถชดเชยกับหุ้นที่ขาดทุน ซึ่งมีเยอะกว่ามาก แต่ด้วยการ Hedge พอร์ตด้วยการ short future และ short หุ้นบางตัว รวมถึงการกระจายไปลงทุนต่างประเทศ ทำให้บรรเทาผลกระทบไปได้บ้าง พอร์ตหุ้นที่เวียดนามให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 8 % อีกส่วนได้นำไปลงทุนในสหรัฐอเมริกา โดยการซื้อ ETF ( หรือกองทุนที่ซื้อขายในตลาดหุ้น ) ซึ่งอิงกับดัชนี S&P 500 ซึ่งให้ผลตอบแทนทีดีมาก แต่ผมได้ซื้อไปเพียงเล็กน้อยของพอร์ตรวม Disruption ปีนี้เป็นปีที่ที่เริ่มสังเกตเห็นผลกระทบจาก disruption ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งได้ เป็น tsunami of disruption มองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ไม่น่าเชื่อว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีสื่อสาร 3 G 4 G และสมาร์ทโฟน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องต่อธุรกิจต่างๆ ถ้วนหน้า การถือหุ้นยาวนาน เริ่มถูกตั้งคำถามว่าเป็นความคิดที่ดีหรือเปล่า ในเมื่อธุรกิจเปลี่ยนแปลงเร็วขนาดนี้ คำถามแรกที่ต้องถามตัวเอง ก่อนการซื้อหุ้นสักตัวทุกวันนี้ คือบริษัทที่เราจะลงทุน มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจาก disruption เร็วๆนี้หรือไม่ ก่อนไปดูข้อมูลคุณภาพด้านอื่นๆ ธุรกิจด้านสื่อทีวี บรรจุภัณฑ์พลาสติกบางชนิด ธุรกิจอสังหา ห้างที่เปิดให้เช่าพื้นที่ คือกลุ่มที่เริ่มรับผลกระทบจากการ disrupt ของสื่ออินเตอร์เน็ต รถไฟฟ้าขนส่งมวลตน แอปสั่งอาหาร และที่ชัดเจนที่สุดคือการขายออนไลน์ ที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอีกต่อไปแม้กระทั่งนักลงทุนรายย่อยเองก็ถูก disrupt จากในอดีตที่สัดส่วนนักลงทุนรายย่อยประมาณ 80 % และได้ลดลงต่อเนื่องจนกระทั่งเหลือไม่ถึง 50 % ในปัจจุบัน ต่างจากนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มสัดส่วนขึ้นมาทดแทน น่าคิดว่า รายย่อยจะปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร เพื่อให้ยังมีที่ยืนในตลาดหุ้นเคียงคู่กับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ที่กุมความได้เปรียบแทบทุกด้าน วิกฤติหุ้นตัวเล็ก ชั่วคราวหรือถาวร 2 ปีที่ผ่านมา หุ้นที่ให้ตอบแทนแย่ที่สุดคือกลุ่มหุ้นตัวเล็ก จากในอดีตที่ให้ผลตอบแทนอย่างโดดเด่น ทำให้นักลงทุนหลายคนลืมตาอ้าปากได้ กลับกลายมาเป็นหุ้นที่ทำให้ฝันร้าย ใครถือหุ้นตัวเล็ก มีโอกาสสูงมากที่จะทำผลตอบแทนได้แย่ (เหมือนที่ผมเป็น ) ทำไมทุกอย่างกลับตาลปัตรเช่นนี้ เหตุผลหนึ่งที่คิดว่าเป็นไปได้คือในยามที่เศรษกิจเริ่มไม่ดี หลายธุรกิจถูก disrupt ประชาชนมีกำลังซื้อน้อยลง ทุกธุรกิจเริ่มรัดเข็มขัด กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กจะเริ่มได้รับผลกระทบก่อน เพราะอำนาจต่อรองน้อยกว่า สินค้าจำเป็นน้อยกว่า ต้นทุนสูงกว่า กำไรของกลุ่มนี้จะลดลง และนั่นทำให้ราคาหุ้นตัวเล็กลดลงด้วย แต่ยังมีหุ้นขนาดกลาง ขนาดเล็กอีกบางตัวที่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนสูง นั่นเพราะความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเหล่านั้นยังดี มีความสามารถในการแข่งขันสูง และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ว่า ผลประกอบการคือเจ้ามือตัวจริง อีกเหตุผลที่เป็นไปได้ที่หุ้นตัวเล็กลดความนิยมลง คือประมาณเม็ดเงินที่เข้ามาซื้อขายหุ้นเหล่านี้ลดลง ผลจากการลดลงของสัดส่วนนักลงทุนรายย่อย และกลายเป็นว่า กลุ่มที่มีเม็ดเงินที่ dominate ตลาดคือกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ที่มีกระแสเม็ดเงินเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ซึ่งหุ้นที่กลุ่มสถาบันนิยมซื้อขายคือหุ้นกลุ่มขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้การซื้อขายหุ้นขนาดเล็ก ค่อยๆซึมลง พีอีที่ซื้อขายก็ปรับลดลงด้วย หุ้นไอพีโอ ปี 2562 มีหุ้นเข้าใหม่ประมาณ 32 บริษัท ประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่เช่น AWC BAM เป็นที่น่าสังเกตชัดเจนว่าคือหุ้นไอพีโอหลายตัว เปิดซื้อขายที่ราคาต่ำกว่าจอง และส่วนใหญ่ราคาจะร่วงลงอีก หลังจากซื้อขายผ่านไปไม่นาน สาเหตุก็คือเหตุผลเดิมๆ คือขายแพง บางตัวเข้าตลาดด้วยระดับ P/E เป็นร้อยเท่า หรือหลายสิบเท่า ด้วยเหตุผลที่ฟังแล้วเคลิ้มคือมีการเติบโตสูง ซึ่งสุดท้ายทำได้จริงบ้างไม่จริงบ้าง การนำเอาพื้นฐานในอนาคตมาขายในปัจจุบัน ทำให้หุ้นมีราคาแพง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกคล้ายๆกันที่อยู่ในตลาดอยู่แล้ว พื้นฐานไม่ได้ต่างกันมากมาย แต่ราคาขายต่างกันเป็นเท่าตัว สุดท้ายนักลงทุนก็จะฉลาด แต่ก่อนฉลาด บริษัทเหล่านี้และผู้เกี่ยวข้องก็รับเงินไปแล้ว เมื่อไหร่ที่นักลงทุนเริ่มมีสติ ฟองสบู่ไอพีโอก็คงแตกลง หุ้นโรงไฟฟ้า ปีที่ผ่านมากลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะขนาดใหญ่ ขนาดกลาง เช่น EGCO RATCH GULF BGRIM ราคาเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น มีวอลุ่มการซื้อขายอย่างคึกคัก ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มนี้มีระดับราคาที่ค่อนข้างสูง ผิดปกติวิสัยของกลุ่ม utility ที่มักซื้อขายกันที่ระดับพีอีต่ำ story อะไรเป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้น ประการแรกอาจเป็นสภาวะดอกเบี้ยตกต่ำ หุ้นที่จะได้รับประโยชน์คือกลุ่มสาธารณูปโภค เช่นไฟฟ้า เพราะดอกเบี้ยจ่ายลดลง จ่ายปันผลค่อนข้างสูง พีอีไม่สูงมาก แต่หุ้นโรงไฟฟ้าบางตัวไม่เข้าข่ายนี้ แต่ราคากลับร้อนแรง แน่นอนว่าต้องมี storty การเติบโตหล่อเลี้ยงราคาหุ้น ยังเติบโตมากๆ ราคาสามารถขึ้นได้ไม่จำกัด แต่การเติบโตเหล่านี้ ดีเกินจริงหรือไม่ ทำไมการได้โครงการดูเหมือนง่ายดายไปหมด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แต่สุดท้ายจะทำได้จริงตามที่คาดหรือไม่ อนาคตจะเป็นคำตอบ แต่วันนี้ราคาหุ้นตอบรับไปแล้ว ! SSF หรือ Super Saving Fund ปี 2562 เป็นปีสุดท้ายที่จะมีกองทุนประหยัดภาษี LTF และภาครัฐได้ออกกองทุนประหยัดภาษีแบบใหม่เพื่อทดแทน นั่นคือกองทุน SSF โดยสาระสำคัญที่แตกต่างระหว่างกองทุน LTF และ SSF คือประเภทสินทรัพย์ลงทุน กองทุน LTF เดิม กำหนดให้ต้องลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65 % แต่กองทุน SSF สามารถลงทุนได้ในสินทรัพย์ทุกประเภท ดังนั้นบทบาทที่กองทุนแบบใหม่ จะลงทุนในหุ้นย่อมลดลง เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการลดภาษี แต่ไม่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงแบบหุ้น ทั้งที่การออมในหุ้นระยะยาวเช่นนี้ มีโอกาสขาดทุนน้อยมาก นอกจากนั้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่เสี่ยง เช่นกองทุนตราสารหนี้ ยังให้ผลตอบแทนต่ำ ไม่สามารถทำให้คนที่ลงทุนมีเงินเพียงพอในตอนเกษียณ ดังนั้นผมเชื่อว่ากองทุน SSF ไม่ตอบทั้งเรื่องความพอเพียงของเงินออมและการส่งเสริมตลาดทุนเท่ากับกองทุน LTF แบบเดิม อนาคตหุ้นไทย หลังจากทำผลตอบแทนมาได้แย่ ติดต่อกัน 2 ปี ทำให้ผมเริ่มมองอนาคตหุ้นไทยแนวโน้มเป็นลบมากขึ้น ( คนที่ยังกำไรย่อมไม่เห็นด้วย ) ประการแรก หากสมมุติให้ประเทศไทยคือหุ้น 1 ตัว ดังนั้นทั้งโลกมีหุ้นประมาณ 200 ตัว หากเราเป็นประชากรโลก เราจะซื้อหุ้น THAI หรือไม่ หากเราคิดวิเคราะห์เหมือนการเลือกหุ้นปกติ นั่นคือเราจะเลือกบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขัน แล้วประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลกนี้ ( ประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง มักทำได้ดีในการแข่งขันด้านอื่นๆด้วย ดูเหรียญการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ปีที่ผ่านมาสิ ) ผมเชื่อว่ามีไม่กี่อุตสาหกรรมที่ไทยพอจะแข่งขันกับต่างชาติได้ แต่ส่วนใหญ่เราเป็นผู้แพ้ เป็นผู้ซื้อเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้ และยิ่งการมาของ shopping online ที่เพิ่งเริ่มมาได้ไม่นาน แต่เริ่มส่งคลื่นผลกระทบต่อเศรษกิจไทยแล้ว โดยที่ภาครัฐ คนไทย ยังไม่ตระหนักรู้ ปัจจุบัน platform การค้าออนไลน์ เป็นของต่างชาติแทบทั้งสิ้น แต่ที่แย่กว่านั้นคือ สินค้าที่ซื้อขายออนไลน์ เริ่มมีสัดส่วนเป็นสินค้านำเข้ามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เงินไหลออก จากที่จะเคยหมุนเวียนในประเทศ มันย่อมส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่ เมื่อการผลิตลดลงเพราะไม่มีคนซื้อ โรงงาน รวมถึง cluster และ SME ที่เกี่ยวเนื่องก็อยู่ไม่ได้ สุดท้ายการผลิตก็จะค่อยๆหายไปจากไทย การจ้างงานก็หายไป แล้วเราจะอยู่กันได้อย่างไร เมื่อมีการซื้อขายเป็นหลายแสนล้าน แต่เงินไม่หมุนเวียนในประเทศสักบาท รัฐบาลต้องรู้เท่าทัน และออกกฎ ระเบียบ รับมือปัญหาเหล่านี้ ก่อนที่จะสายเกินแก้ ซ้ำร้ายจากโครงสร้างประชากรไทย ที่เข้าสู่สังคมที่มีคนสูงอายุเป็นสัดส่วนที่มาก ผู้สูงอายุมักไม่มีรายได้ หรือมีน้อย แต่มีค่าใช้จ่ายเยอะ โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาล เป็นความไม่สมดุลของรายได้และรายจ่าย ส่วนต่างนี้ถูกคาดหวังว่ารายได้จาก ลูก หลานจะช่วยทดแทนได้ แต่ในความเป็นจริงจะเป็นไปได้หรือไม่ ในเมื่อครอบครัวยุคใหม่มีลูกน้อยราย แต่ต้องดูแลผู้สูงอายุหลายคน ลำพังตัวเองยังเอาตัวแทบไม่รอด ตัวเลขที่น่าวิตกคือหนี้ครัวเรือนของไทย (ไม่รวมหนี้จำนำทะเบียนและหนี้นอกระบบ) สูงอันดับ 2 ของเอเชีย 80 % ของ GDP คิดเป็นมูลค่าประมาณ 13 ล้านล้าน คนไทยแบกหนี้หลังแอ่น เอาเงินอนาคตมาใช้ ลำพังดอกเบี้ยไม่รวมเงินต้นก็ต้องจ่าย ปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้าน แล้วจะเหลือเงินไปใช้จ่าย ดูแลครอบครัว ตัวเอง พ่อแม่ ให้ดีได้อย่างไร ทางออกสำหรับการลงทุนหุ้นในอนาคต ที่คิดว่าพอจะเป็นไปได้ ความเสี่ยงไม่มาก ผมจะมอง global มากขึ้น โดยการขยายไปลงทุนในประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งหากไม่อคติเกินไป น่าจะมีประเทศที่มีศักยภาพที่เก่งกว่าไทย และหากเราลงทุนในประเทศเหล่านี้ โอกาสที่เราจะได้รับผลตอบแทนที่พอใจย่อมเป็นไปได้สูง แต่การลงทุนในต่างประเทศที่เราไม่คุ้นเคย กลยุทธ์เลือกหุ้นลงทุนเป็นรายตัวอาจไม่เหมาะสม ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ดังนั้นทางเลือกที่น่าจะดีกว่าคือการซื้อ Exchange Trade Fund หรือ ETF ที่อิงกับดัชนีของประเทศที่เราสนใจ ซึ่งมี ETF มากมายหลายเจ้าให้ลงทุน และการซื้อขายสามาระทำได้ง่ายดาย เพียงแค่เรามีบัญชีซื้อหุ้นต่างประเทศ เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้กลยุทธ์ “ เกาะชายผ้าเหลือง” ไปกับประเทศที่จะรุ่งเรือง เรานักลงทุนก็น่าจะได้รับผลตอบแทนดีตามไปด้วย แต่การซื้อขายคงต้องดูเวลา มูลค่าที่เหมาะสมด้วย การซื้อช่วงที่ดัชนีประเทศนั้นๆกำลังทำนิวไฮท์ คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าการลงทุนหลักผมยังคิดว่าเป็นตลาดหุ้นไทย เพราะเราน่าจะมีความได้เปรียบ รวมถึง การกิน การใช้ เราก็ยังใช้เป็นสกุลเงินบาทเป็นหลัก ผมยังเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นไทย ยังเป็นทางเลือกที่ดี ทุกๆปี ยังมีหุ้นหลายตัวที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่เราอาจพลาดหุ้นเหล่านั้น เพราะใช้กลยุทธ์เดิมๆ ทั้งที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจได้เปลี่ยนไป การที่เราทำได้น้อยกว่าตลาดบ่อยๆ ขึ้น อาจเป็นไปได้ทั้งเรื่องของความบังเอิญ หรือยังไม่ใช่เวลาของเรา หรือกลยุทธ์ที่เราใช้ เริ่มไม่ได้ผล แต่นี่เป็นสัญญานเตือนที่ดังชัดเจน อย่างไรก็ตาม จากประวัติศาสตร์ที่เราเรียนรู้ในตลาดหุ้น เวลาผ่านไป ผู้ชนะ กลายเป็นผู้แพ้ ผู้แพ้ กลับมาเป็นผู้ชนะ ไม่แน่นอน หุ้นที่ชนะในปีที่ผ่านมา ก่อนหน้ากลับเป็นหุ้นที่ทำให้นักลงทุนขาดทุนมากที่สุด ตลาดที่ดี กลับกลายเป็นตลาดที่แย่ในปีถัดไป นี่คือสิ่งที่นักลงทุนต้องตระหนัก บางปีเราอาจเลือกชนะ บางปีเราเลือกผิดเป็นผู้แพ้ เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องปกติคือแม้แต่คนที่ลงทุนเก่งที่สุดในโลก ก็มีปีที่ขาดทุน บางครั้งหลายปีติดต่อกัน แต่เมื่อไม่ล้มเลิกก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาชนะ ขอให้เพื่อนนักลงทุนทุกท่าน ลงทุนด้วยความสุข พร้อมยิ้มรับทั้งสิ่งที่ดีที่สุด และร้ายที่สุด ในปี 2563 ครับ :D
โดย
ลูกอิสาน
พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2020 7:12 pm
0
105
4227 โพสต์
of 85
ต่อไป
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
ลูกอิสาน
ระดับ:
สมาชิกกิตติมศักดิ์
กลุ่ม:
สมาชิก
ความถนัด:
นักลงทุน
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
จันทร์ ต.ค. 13, 2003 8:52 pm
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
6483 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.33% จากโพสทั้งหมด / 0.84 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว