หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Wvix
Joined: อังคาร ต.ค. 28, 2003 11:25 am
124
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Wvix
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
ทำไมประเทศจีนไม่ยอมลอยตัวค่าเงินหยวนครับ
เอวัง :rofl:
โดย
Wvix
พุธ ธ.ค. 27, 2006 12:08 am
0
0
ทำไมประเทศจีนไม่ยอมลอยตัวค่าเงินหยวนครับ
ผมก็ว่างั้นเหมือนกัน คนซื้อก็ไม่ใช่ไม่รู้ประสีประสา แต่ที่ออกมาพูดโวยวายก็เพราะกำไรลดลงมั่ง สมมุติข้าวราคาเกวียนละ 4000 บาท ณ อัตราแลกเปลี่ยน 1:40 เท่ากับคนซื้อต้องจ่าย $100 ต่อมาค่าเงินบาทแข็งขึ้น 1:38 เท่ากับคนซื้อต้องจ่าย $ 105.30 เพราะฉะนั้นสินค้าเราแพงขึ้นนะครับถ้าค่าเงินบาทแข็ง
โดย
Wvix
อังคาร ธ.ค. 26, 2006 8:19 pm
0
0
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่กล้าแตะเรื่องดอกเบี้ย
เวลาต่างชาติเค้าขนเงินมาลงทุนในตปท. นี่เค้าดูแต่ดอกเบี้ยอย่างเดียวหรือ ? :shock: แล้วตอนนี้ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยอยู่ในอัตราที่น่าห่วงเหรอ ? :shock: แต่ที่แน่ๆ ผมถามร้านค้าหลายๆ ร้าน (ในกทม.) เห็นมีแต่คนบ่นว่าเงียบจริงๆ ของขายไม่ค่อยได้กันทั้งนั้นครับ ยิ่งเป็นพวกสินค้าฟุ่มเฟือยแล้วไม่ต้องพูดเลย ขนาดช่วงเทศกาลยังเป็นขนาดนี้ ปีหน้า ณ ช่วงเวลาปกติจะขนาดไหนกันเนี่ย แทนที่จะมาห่วงตัวเลขเงินเฟ้อ ผมว่าน่าจะไปห่วงตัวเลขการเจริญเติบโตทางของ ศก. ปีหน้าจะดีกว่ามั้ง
โดย
Wvix
อังคาร ธ.ค. 26, 2006 7:31 pm
0
0
ผมคิดว่าต้นตอของปั้ญหา คือ inflation targeting ของ ธปท.
จะโทษ Inflation Targeting ก็ไม่ถูกเสมอไปนะครับ ผมว่านโยบายเนี้ยจะดีไม่ดีก็ขึ้นกับคนใช้เองด้วย ก็รู้ๆ กันอยู่นี่ครับว่า Inflation ที่สูงขึ้นมันเกิดจากตัวแปรที่เรากำหนดไม่ได้ ทำไมเราไม่ตัดตัวแปรที่เรากำหนดไม่ได้นี้ออกไป หรือทำไมไม่ยอมปล่อยให้ Target ของ Inflation มันสูงขึ้นมาจากระดับปกติล่ะ ทำไมต้องทำตัวเป็นหุ่นยนต์ (ro BOT ) ที่พอตั้งโปรแกรมไว้อย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น ของอย่างนี้มันประยุกต์กันได้นี่ เรื่องอัตราดอกเบี้ยแปลกใจเช่นกันครับว่าทำไมไม่ยอมลด (เกรงใจ ธพ. หรือ) การลดอัตราดอกเบี้ยใช้วิธีแยปๆ ค่อยๆ ลด หรือบางทีเพียงแค่การส่งซิกส่งสัญญาณก็น่าจะทำให้รู้ทิศรู้ทางของกระแสเงินลงทุนระยะสั้นได้แล้ว ว่าจะดำเนินไปในทิศทางไหน ทำไมถึงได้เลือกใช้วิธีเหวี่ยงแหรุนแรงด้วย
โดย
Wvix
อังคาร ธ.ค. 26, 2006 5:38 pm
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
พี่ผมตอบทาง PM นะครับ
โดย
Wvix
อังคาร มิ.ย. 14, 2005 2:35 pm
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
เล่น Warrant เราต้องดูอะไร @_# ฮะๆ ไม่รู้จะคุยอะไร โพสเล่นๆ ประเด็นร้อนๆ เกี่ยวกับ CPF-W2 แล้วกัน ตอนนี้แม่ราคา 4.08 ลูกราคา 0.26 เป็นราคา Discount ที่ in money มากๆ ถึง 53.85% (ราคาที่ไม่มี Discount คือ 0.40) ถ้ามาดู Gearing สูงมากๆที่ 78.46 หมายความว่า ถ้าแม่ขึ้นนิดนึงอัตราผลตอบแทนลูกก็พุ่งขึ้นสูงมาก แต่กลับกันถ้าลงนิดนึงก็จะทำให้อัตราผลตอบแทนลูกวูบลงเยอะมากเช่นกัน สำหรับราคานี้ ถ้า CPF แม่ ลงมาอีก -0.69% ลูกก็หมดค่าทันที (นิดเดียวจริงๆ!!!) บอกได้คำเดียวว่าอันตรายมากครับ เพราะฉะนั้นเล่น Warrant อย่างมองแต่เพียง Discount และ Gearing ที่สูงครับ :lol: แต่คิดๆ ดูแล้วเหมือนไม่ใช่การลงทุนเลย :lol: ไม่มีอะไรหรอกครับแวะเข้ามาทั้งที มาเติมความรู้ประเด็นร้อนๆ ให้กระทู้เฮียวิบูลย์ครับ เผื่อเฮียมนกับเฮียวิบูลย์ได้ idea เอาไปเขียนบทความได้ เร็วๆ นี้เจอเจ่เจ๊ zippo ชวนให้มาทักทายพี่ๆ ที่นี่มั่งไม่รู้มารึยัง ส่วนผมช่วงที่ผ่านมายุ่งๆ ครับและตอนนี้ก็มีลูกต้องเลี้ยงลูกอีก แค่แวะมาทักทายเหล่าอาเฮียครับ :B
โดย
Wvix
เสาร์ มิ.ย. 11, 2005 1:59 am
0
0
มาดูตัวเลขต่างๆ ในงบการเงินของ ASTL แล้วมาโวยกันต่อครับ
เอ้อ.... ครือว่า..... ผมไม่ค่อยโกรธเค้าหรอกครับ เพราะว่า xxx และ xxx บนสินค้าเค้าทุกวัน ที่ผมไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียง ก็เพราะเค้าเป็นพวกกระเบื้องอย่างหนา รับรองได้ว่าทนจริงๆ หักลบกลบกันแล้วผมยังมีความรู้สึกดีๆกับบริษัทและสินค้ามากครับ ดีครับเห็นท่านพี่กลับมาอารมณ์ดีขึ้น รู้สึกช่วงที่ผ่านมาอารมณ์บ่จอย จริงๆ ไปโกรธเครื่องสุขภัณท์ก็ไม่ดีเหมือนกัน เดี๋ยวจะ XXX และ XXX ไม่ออกล่ะยุ่งเลย 55555
โดย
Wvix
พุธ ก.ค. 14, 2004 2:54 pm
0
0
มาดูตัวเลขต่างๆ ในงบการเงินของ ASTL แล้วมาโวยกันต่อครับ
นึกว่ากระทู้นี้จะไม่มีใครสนใจซะแล้ว (ต่อ) ผมเกรงว่าท่านพี่นักดูดาวเรียกผมว่าท่าน Wvix คงไม่เหมาะครับเนื่องด้วยทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ ที่ถูกน่าจะเรียกผมว่าไอ้น้อง Wvix มากกว่า ที่ผมอยากบอกคือผมอยากชวนให้พวกเรารอจนถึงฎีกากันก่อนเราค่อยตัดสินใจที่จะขายหรือถือเพื่อขาย และผมก็อยากให้พวกเราไปดูหน้าพวกยกมือเห็นชอบราคาที่ทำ T/O ที่ 270 ว่าเป็นใครและเป็นพวกไหนบ้างในที่ประชุม เผื่อว่าวันข้างหน้ามีโอกาสได้ทำธุรกิจกันจะได้จัดลำดับ Credit ได้ถูกตัว และถึงแม้ในที่ประชุมโหวตโอกาสที่เราจะชนะจะมีน้อยแต่เราก็ยังมีหวัง หรือปาฎิหารย์อยู่บ้างใครจะไปรู้คนที่เก็บหุ้นอยู่ตอนนี้อาจเป็นพวกเราก็ได้ ใครจะไปรู้เผื่อๆพวกเราอาจได้ปันผลระหว่างกาลก็ได้ ไม่เสียหายหรอกครับถ้าเราจะถือหุ้นไปจนถึงฎีกาเพราะยังไงเราก็จำกัดการขาดทุนได้อยู่แล้วที่ราคา 269.28 (ไม่รวม Opportunity cost ถ้าจะคิด) จริงไหม มันเป็นตรรกะง่ายๆครับ และ ASTLจะได้รู้ด้วยว่าการที่ตัวเองเค็มแบบนี้มันจะกลายเป็นชื่อเสียมากกว่าชื่อเสียง และกับกำไรในอนาคตที่คิดว่าจะได้มากก็อาจมากน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น เพราะลูกค้าที่คิดจะซื้อผลิตภัณท์ของบริษัทนี้จะต้องเปลี่ยนใจครับ สมมุติผมไม่ได้ถือหุ้น ASTL แต่เครื่องสุขภัณท์ที่บ้านก็ใช้ของ อเมริกันสแตนดาร์ด ถ้าผมรู้ว่าบริษัทนี้กระทำการอันไม่ชอบกับผู้ถือหุ้นคนไทย ผมก็คงรู้สึกไม่ดีกับบริษัทนี้และก็คงต้องคิดหนักถ้าคิดจะตัดสินใจซื้อผลิตภัณท์ของบริษัทนี้อยู่แล้วครับ ผมจะประจานความดีอันนี้สัก 9 ชั่วโครต (ถ้าอายุถึง) ให้แก่พ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหายทั้งใกล้ตัวและไกลตัว และจะทำ Forword Email และโพสกระทู้ตามเว็ปบอร์ดประจานไปยังคนที่ผมไม่รู้จักอีกมากมายด้วยครับ
โดย
Wvix
พุธ ก.ค. 14, 2004 2:30 pm
0
0
มุมมองส่วนตัว เอามาให้อ่าน
เขียนได้ดีครับคุณ harry ผมว่าคุณ harry ขยันมากๆเลยครับ นับถือ ผมให้คุณเป็นเด็กใหม่ไฟแรงอนาคตไกลคนนึงของ Thaivalueinvestor เลยครับ คุณ Harry เขียนได้น่าอ่านมากครับ.... แล้วเป็นไงบ้างครับ กับภาคนี้ รายได้ดีไหมครับ??? คุณ tenkafubu เค้าคงหมายถึงหนังภาคล่าสุดที่คุณแสดงนำมั้งครับ
โดย
Wvix
ศุกร์ มิ.ย. 18, 2004 2:15 am
0
0
ใกล้จะปิดงวดครึ่งปีแล้ว ผลการดำเนินงานของแต่ละคนเป็นอย่างไร
อวดบ้างครับ นับตั้งแต่ลงทุนมา เริ่มตอนกลางๆปีที่แล้ว ตอนนี้ใกล้ครบขวบปีแล้วครับ ผลตอบแทนที่ทำได้ 40%+/- นิดหน่อยกับสภาพคล่องเป็นเงินสด 70% ครับ (เพิ่งได้เมื่อไม่นานมานี้) ตอนปลายๆ ปีที่แล้ว ผมยังงอแงกับพี่ๆ ใน Board อยู่เลยครับ ว่าไม่เอาแล้วจะไม่เล่นหุ้นแล้ว เพราะ (1+1 ไม่เท่ากับ 2) และหาความเป็นธรรมในตลาดไม่ได้เลย งอแง งอแง แล้วก็ งอแง แต่ตอนนี้ยังไงผลงานก็ยังห่างไกลอาเฮียชั้นเซียนที่ผมเคารพอีกหลายๆท่านครับ ได้กันคนละหลายเท่าตัว
โดย
Wvix
ศุกร์ มิ.ย. 18, 2004 12:48 am
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
มาแอบฟังเสี่ยๆคุยกันครับ ^_^ ผมเสริมนิดหน่อยครับเรื่อง DCF มูลค่าซากนั้นมันอยู่ใน FCF อยู่แล้วเพราะจาก FCF นั้นส่วนหนึ่งเราต้องคำนวณ Capex ด้วย ซึ่ง Capex ก็คือการซื้อและขายสินทรัพย์นั่นเอง ตลอดเวลาที่กิจการนั้นดำรงอยู่มันเกิดการซื้อสินทรัพย์และการขายซากสินทรัพย์ไปตลอดครับ การพยากรณ์ Capex ลองเอางบการเงินหลายปีมาดูแนวโน้มประกอบกับยอดขาย แล้วลองพยากรณ์หา Capex ที่เหมาะสมดูครับ
โดย
Wvix
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2004 11:58 pm
0
0
ดังแล้วครับ
ยินดีด้วยกับเฮียมนเฮียวิบูลย์ และสมาชิกชาว Thaivalueinvestor ทุกๆคนด้วยครับ ข่าวดีชิ้นนี้ถือเป็นจุดเริ่มของความสำเร็จครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งเลยครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนร่วมสร้างสรรสิ่งดีเช่นนี้ต่อๆไปครับ และขอขอบคุณคุณ ธนากรด้วยครับ ที่ช่วยแบ่งเบาภาระให้พี่มนด้วยครับ ^_^ ^_^ ^_^
โดย
Wvix
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2004 2:10 am
0
0
เฮียปรัชญา ผมสัญญากับเฮียไว้ว่า
เพิ่งเห็นกระทู้นี้ครับ (ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาที่เว็ปเลย) อยากสื่อถึงป๋าปรัชญาหน่อยครับ ผมไม่เคยหวังและขออะไรจากป๋าปรัชญาเลยครับ เว้นแต่เพียงอยากให้ป๋ากลับมาโพสต์ที่นี่บ้างเท่านั้น ส่วนผมนั่งเจียมตัวเป็นคนอ่านและ โพสต์บ้างเพียงน้อยนิดก็เกินพอแล้วครับ ขอบคุณมากๆครับทุกๆคน
โดย
Wvix
พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2004 7:28 pm
0
0
tgp tender 7.00 bath
เห็นด้วยกับพี่ CK ครับผมคิดว่ามันยากแล้วล่ะครับ ยังไงก็ต้องออกและก็คงไม่ปรับราคา T/O แล้วล่ะ เพราะผมเดาว่าตอนนี้ Nominee ของผู้ถือหุ้นใหญ่เก็บหุ้นไปได้เพียบเลยครับ เพราะวันจันทร์ผมลงทุนนั่งดู Bid-Offer เลยครับ ขอบคุณพี่ CK ครับได้ความรู้ดีๆจากพี่ CK เสมอเลย " บริษัทที่ถูกทำ T/O โดยผู้ถือหุ้นเดิมมักจะเป็นบริษัทที่ดีครับ ทำกำไรมหาศาลและกำลังโตแบบก้าวกระโดด หนี้น้อยมาก และเจ้าของ รวยอยู่แล้ว ไม่ต้องการระดมทุน (คือระดมเองได้) แถมกำไรก็สูงและความ เสี่ยงต่ำ " เท่าที่เห็นยังมีอีกบริษัทนะครับ ^_^ แล้วเว็ปนี้ก็พูดถึงบ่อยๆด้วยครับ
โดย
Wvix
พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2004 6:46 pm
0
0
ผมเข้ามาเฉพาะกิจครับคือผมกำลังเดือดร้อนจริงๆ ครับ
พับผ่าสิยังมีคนตั้ง Offer ไว้อีก
โดย
Wvix
จันทร์ พ.ค. 24, 2004 9:48 am
0
0
ผมเข้ามาเฉพาะกิจครับคือผมกำลังเดือดร้อนจริงๆ ครับ
พี่ CK เดาหวยงวดนี้แม่นจริงๆ
โดย
Wvix
จันทร์ พ.ค. 24, 2004 9:46 am
0
0
ผมเข้ามาเฉพาะกิจครับคือผมกำลังเดือดร้อนจริงๆ ครับ
พี่เจ๋งครับอาจจะไม่มีคนขายครับ เพราะว่าราคาตลาดล่าสุด ห่างจาก Tender Offer 56.25% คนที่มีหุ้นอยู่คงไปขาย ในวันรับซื้อเลยครับ
โดย
Wvix
จันทร์ พ.ค. 24, 2004 9:41 am
0
0
ผมเข้ามาเฉพาะกิจครับคือผมกำลังเดือดร้อนจริงๆ ครับ
งบกระแสเงินสด 47 % 46 % 45 % 44 CFO 512,016 26% 405,776 38% 294,022 18% 249,820 CFI -389,996 359% -85,033 -52% -175,908 957% -16,641 Capex -62,846 6% -59,470 640% -8,033 -75% -32,062 FCF 449,170 30% 346,306 21% 285,990 31% 217,758
โดย
Wvix
จันทร์ พ.ค. 24, 2004 9:23 am
0
0
ผมเข้ามาเฉพาะกิจครับคือผมกำลังเดือดร้อนจริงๆ ครับ
ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมเลยสำหรับที่นี่ พี่เจ๋งครับถึงไม่ตอบแต่แค่เข้ามาโพสทักทายกันแบบนี้ผมก็รู้สึกดีใจแล้วครับ ขอบคุณครับพี่ CK ถามอีกนิดครับ บริษัทที่ออกนอกตลาดเค้าจะปันผลให้เรามั้ยครับ
โดย
Wvix
จันทร์ พ.ค. 24, 2004 9:12 am
0
0
ผมเข้ามาเฉพาะกิจครับคือผมกำลังเดือดร้อนจริงๆ ครับ
ผมจะเป็นคนปลุกระดมรายย่อยไม่ให้ขายเอง ถ้าเค้าทำ Tender Offer ราคาต่ำๆ ไม่ยอมแน่ๆ ฮึๆๆ
โดย
Wvix
จันทร์ พ.ค. 24, 2004 8:59 am
0
0
ผมเข้ามาเฉพาะกิจครับคือผมกำลังเดือดร้อนจริงๆ ครับ
พี่ CK ครับผมปรับให้ ปี 46 ให้เป็นรายการปกติแล้ว เพราะในปี 46 มี การกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 251,679,681 บาทครับ 47 46 45 44 Gross Profit Margin 43.44% 39.22% 40.45% 36.50% Operating Profit Margin 23.27% 30.55% 15.32% 6.32% Net Profit Margin 23.27% 15.09% 13.68% 3.74% 47 % 46 % 45 % 44 EBITDA ปกติ 591,885 55% 381,063 11% 342,985 45% 236,493 EPS ปกติ 0.48 82% 0.26 37% 0.19 298% 0.05 ยัง Growth อยู่ครับ
โดย
Wvix
จันทร์ พ.ค. 24, 2004 8:57 am
0
0
ผมเข้ามาเฉพาะกิจครับคือผมกำลังเดือดร้อนจริงๆ ครับ
ไอ้ตัวเลข 10 นี่ ตอนเอาไปใช้เลือกซื้อหุ้นก็ชอบนะครับ แต่ตอนโดนบังคับขายนี่ไม่อยากให้คิดที่ 10 เลยครับ ยิ่งตอนนี้ market return ต่ำๆจนเป็นลบอย่างนี้ เนี่ยถ้าใช้ตัวเลข 10 อีก ก็โครตเอาเปรียบเลยครับ นอนไม่หลับแน่เลยครับสำหรับผมคืนนี้ ไม่รู้พี่ๆคนอื่นไปไหนหมด วันนี้เหลือพี่ ลูกอีสานคนเดียวเอง เวลาแบบนี้คิดทึ้งคิดถึงจริงๆ เหล่าพี่ๆจริงๆ
โดย
Wvix
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2004 10:53 pm
0
0
ปีใหม่ไทย ผมขออวยพรให้ลุงขวด พี่ครรชิต พี่ปรัชญา และท่านดร.
I wish you. ทุกท่านเลยครับ ไม่เจ็บไม่จนมีเงินทองเหลือกินเหลือใช้ครับ
โดย
Wvix
จันทร์ เม.ย. 12, 2004 10:46 am
0
0
Wvix
เข้ามาบอกพี่เจ๋งครับว่าให้หยุดการแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้เถิดนะครับ มันเพียงพอแล้วครับ รับรู้และเข้าใจทุกๆความคิดเห็น และรู้สึกขอบคุณทุกๆคนมากครับ
โดย
Wvix
เสาร์ เม.ย. 10, 2004 6:32 pm
0
0
คุณปรัชญา กลับมาร่วมแจมเถอะครับ
เห็นเฮียปรัชญาแกไปโพสต์ที่พันทิพย์บ่อยๆ ผมอึดอัดมากเลยครับ ว่าทำไมไม่มาโพสต์ที่นี่บ้าง อย่างนี้เค้าไม่เรียกอาการเบื่อๆอยากๆแล้วครับ ไหนพี่สัญญากับพี่เจ๋งไงครับว่า จะอยู่ด้วยกันไปอีก 10 ปีครับ ผมไม่เข้าใจอะไรซักอย่างเลยครับว่า ทำไมไม่มาโพสต์ที่นี่ เข้ามาบอกเหตุผลสักนิดก็ไม่ได้ ปล่อยไว้มันคาใจมากเลยครับ ผมบอกแล้วว่าถ้าสาเหตุเป็นเพราะผม จะด่าหรือว่าผมหรือจะไล่ไปเลยก็ได้ครับ ตอนนี้ความรู้สึกผม ผมกลายเป็นตัวก่อกวนไปเลยครับ * เพราะเฮียแกโพสต์กระทู้สุดท้าย ว่าแกไปจริงๆแล้ว คือกระทู้ที่ผมโพสต์แล้วโดนลบไป แล้วผมก็เคยบอกแล้วไงครับว่า " ผมเป็นเพียงเด็กงี่เง่าคนหนึ่งที่เผอิญผ่านเข้ามาเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆจากที่แห่งนี้ และไม่เคยให้อะไรตอบแทน แต่การโพสต์ของผมได้ทำให้นักลงทุนรุ่นพี่ ที่แกได้เสียสละสร้างสรรสิ่งดีๆและให้ความอบอุ่นจริงใจแก่สังคมเป็นอย่างมากมายท้อใจ ผมรู้สึกเสียใจมากครับผมอยากให้พี่ปรัชญากลับมาโพสที่นี่อีกครั้งเพราะพี่เป็นหนึ่งในสิ่งดีๆ ในเว็ปนี้ ผมรู้สึกกับคนในเวปนี้เหมือนเป็นคนในครอบครัวของผม ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้อ่านหลายๆข้อความที่ทุกคนสื่อออกมา ถ้าพี่ปรัชญาจากก็เหมือนกับคนในครอบครัวจากไปคนเคยเจอกันเกือบทุนวันจากไปมันเศร้ามากนะครับ พี่เป็นคนสำคัญที่คนในครอบครัวนี้ต้องการมากนะครับ " ถ้าคนสำคัญของเว็ปนี้ไม่ต้องการผมๆก็ไม่อยู่ก็ได้ครับ แล้วผมตัดสินใจแล้วครับ ถ้าผมไม่รู้เหตุผลที่เฮียปรัชญาไม่กลับมาโพสต์ที่นี่ ผมก็จะไม่กลับมาโพสต์ที่นี่เหมือนกันครับ เพราะผมคือคนเลวที่ไล่พี่ปรัชญาไปจากสังคมเล็กๆแห่งนี้ครับ ผมคือคนที่สมควรถูกกำจัดทิ้งมากกว่า
โดย
Wvix
เสาร์ มี.ค. 27, 2004 4:39 am
0
0
อยากให้ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ จากพี่ Invisible hand
ขอบคุณครับ
โดย
Wvix
เสาร์ มี.ค. 27, 2004 4:36 am
0
0
อยากรู้เกี่ยวกับ การแตกพาร์
ลองนึกถึงสมการ Assets = Liabilities + Equity ให้ดีครับ ถ้าเกิด Equity ลด นั่นก็หมายความว่า Liabilities ต้องเพิ่ม หรือ Assets ต้องลดลงครับ
โดย
Wvix
เสาร์ มี.ค. 27, 2004 4:34 am
0
0
อยากรู้เกี่ยวกับ การแตกพาร์
BV คือ Equity ครับ ตัว Equity ไม่ลดลงครับ
โดย
Wvix
เสาร์ มี.ค. 27, 2004 4:32 am
0
0
อยากรู้เกี่ยวกับ การแตกพาร์
ข้างบนผมตอบเอง
โดย
Wvix
เสาร์ มี.ค. 27, 2004 3:46 am
0
0
OH APRINT
เพิ่งย้อนกลับมาดู เข้าใจแล้วครับพี่ Thebing Thankx.
โดย
Wvix
ศุกร์ มี.ค. 26, 2004 10:23 pm
0
0
เปิด IE ทุกครั้ง หน้าจอจะขึ้นเว็บนี้
นั่นล่ะใช่เลยพี่เตอร์ พี่เป็นคนที่มีความรู้เรื่องคอมมากคนนึงเลย รบกวนอย่าแอบอยู่ข้างหลังอย่างเดียวสิครับ พี่ก็เล่น แนว VI คนนึงน่าจะคุยด้วยกันนาครับ
โดย
Wvix
ศุกร์ มี.ค. 26, 2004 9:42 pm
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
เห็นนักลงทุนบางท่านจะขายหุ้นพื้นฐานดีจำนวนหนึ่งตอนที่ราคาหุ้นตัวนั้นเพิ่มสูงขึ้นมาก ๆ เป็นการลดต้นทุนให้ต่ำลง แล้วพี่ ๆ ทำอย่างนี้กันมั้ยคะ แล้วถ้าขายไป กลัวมั้ยว่าจะซื้อกลับคืนไม่ได้กรณีที่หุ้นมันขึ้นติดลมไปแล้วไม่ยอมลง ถามจู้จี้เหมือนเด็กเลยนิ คือ อยากเสริมบางส่วนต่อจะพี่ Thebing ในช่วงสั้นๆตลาดหุ้นนั้นมันมีอะไรหลายอย่างที่เป็นปัจจัยที่เข้ามากระทบกับราคาหุ้นตัวนั้นๆครับ ในระยะสั้นๆการที่เราคิดจะทำอะไรก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิดทุกอย่างหรอกครับ ลองเลือกวิธีดูเอาเองครับ
โดย
Wvix
ศุกร์ มี.ค. 26, 2004 9:36 pm
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
สาเหตุที่ หุ้นราคาลงในวันขึ้น XD มากๆเพราะบางคนซื้อเอาปันผลอย่างเดียวพอวัน XD ปุบก็ขายปั๊บอะไรประมาณนั้น บางคนเค้าก็ซื้อหุ้นที่ดีๆกันในวันขึ้น XD เนี่ยแหละครับ เพราะส่วนมากราคาหุ้นจะลงเกินจริงครับ *** แต่ไม่ทุกตัวนะครับที่เป็นแบบนี้ยังมี Factor ต่างๆอีกมากมายครับที่ต้องนำมาคิด
โดย
Wvix
พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2004 11:04 pm
0
0
OH APRINT
อีกความคิดเห็นของอาจารย์ใหญ่ Invisible hand ครับ ผลกระทบของการปันผลเป็นหุ้น http://www.bbznet.com/scripts/view.php?user=greenbull&board=8&id=1102&c=1&order=numtopic ปันผลเป็นหุ้นมันก็มีข้อดีตรงที่ว่าบริษัทสามารถเก็บเงินสดไว้ใช้ในการขยายกิจการในปีต่อๆ ไปได้ ก็น่าจะเหมาะกับกิจการที่อยู่ในช่วงการขยายตัว นอกจากนี้อาจจะเหมาะกับบริษัทที่ต้องการเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพื่อให้เข้าข่ายเกณฑ์อะไรบางอย่าง เช่น TEAM เคยปันผลเป็นหุ้นเพื่อให้มีทุนจดทะเบียนพอที่จะย้ายออกจาก MAI ได้ ข้อเสียของการปันผลเป็นหุ้นก็คือ ต้องแถมเงินนิดหน่อยมาให้ผู้ถือหุ้นทุกครั้งเพราะแม้ว่าผู้ถือหุ้นจะรับปันผลเป็นหุ้นก็ตามแต่ก็ยังต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ดังนั้นบริษัทที่ปันผลเป็นหุ้นจะต้องเสียเงินไปจำนวนหนึ่งเป็นค่าภาษีทั้งๆ ที่น่าจะเก็บเงินจำนวนนี้ไปทำอย่างอื่นน่าจะมีประโยชน์กว่า จริงๆ แล้ว best case หากบริษัทอยากจะเก็บเงินไว้จริงๆ เพื่อลงทุนอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์กว่าก็น่าจะงดจ่ายป้นผลเลยดีกว่าทีจะปันผลเป็นหุ้น แต่หากไม่ปันผลเลยก็อาจจะทำให้ผู้ถือหุ้นไม่พอใจได้ จริงๆ แล้วหากบริษัทนั้นดำเนินธุรกิจมาอย่างตรงไปตรงมาและคำนึงถึงผลประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้นมาโดยตลอด ก็น่าจะทำความเข้าใจกับผู้ถือหุ้นได้ง่ายกว่าหากต้องการเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่น เพราะบางครั้งหุ้นดีๆ เราได้เงินปันผลมาก็มักจะนำเงินไปซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่ม แต่ต้องเสียภาษีเงินปันผลฟรีๆ ซึ่งในเมืองนอกบริษัทที่ไม่ปันผลเลย ที่รู้กันดีก็คือ Berkshire ของ Warrent Buffet แต่สำหรับเมืองไทยเนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ที่ไม่จ่ายปันผลทั้งๆ ที่มีกำไรหรือบริษัทที่ปันผลน้อย มักจะมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีนักเช่น นำเงินไปลงทุนหรือให้กู้กับบริษัทในเครือที่มักจะให้ผลตอบแทนต่ำหรือขาดทุน นักลงทุนเลยติดภาพกับบริษัทที่ไม่จ่ายปันผลหรือจ่ายน้อยว่าไม่ดี เหตุผลนี้คงจะทำให้หลายบริษัทที่อยากเก็บเงินไว้ลงทุนเพิ่ม จึงต้องตัดสินใจจ่ายปันผลเป็นหุ้นแทน ส่วนหุ้นปันผลที่ได้มาซึ่งเหมือนจะได้มาฟรีๆ นั้นแต่จริงๆ แล้วมันก็เกิด dilution ซึ่งทำให้กำไรต่อหุ้นลดลง ซึ่งหากจะคิด net wealth หรือพูดง่ายๆ คือเงินในกระเป๋าของผู้ถือหุ้นในทางทฤษฎีก็จะไม่เปลี่ยนเพราะวันที่ xd หุ้นก็ควรจะถูก dilute ลงมา แต่การปันผลเป็นหุ้นก็มีข้อดีครับหากหุ้นตัวนั้นขาดสภาพคล่อง เพราะการปันผลเป็นหุ้นก็ทำให้ราคาหุ้นลดลงและจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งก็น่าจะทำให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่าหากต้องการเพิ่มสภาพคล่อง การแตกพาร์น่าจะเป็นทางเลือกแรกก่อนครับ
โดย
Wvix
พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2004 7:46 am
0
0
OH APRINT
เอาความคิดเห็นอาจารย์ใหญ่ Invisible hand มาแปะไว้หน่อย http://www.bbznet.com/scripts/view.php?user=greenbull&board=8&id=1103&c=1&order=numtopic แตกพาร์น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับ aprint เพราะหุ้นขาดสภาพคล่องนะครับ ส่วนเรื่องการปันผลเป็นหุ้น หากผมดูงบ Q4 ของ Aprint แล้วก็มีเงินสด 20 กว่าล้าน แต่มีภาษีที่ต้องจ่ายประมาณ 30 กว่าล้าน จริงๆ แล้วเงินสด ณ สิ้นปีในปีก่อนๆ ที่ผ่านมาของบริษัทที่ผ่านมากจะสูงกว่านี้มาก อย่างปลายปี 45 ก็มีร้อยกว่าล้าน แต่ aprint เองเพิ่งมีการลงทุนในเครื่องพิมพ์ครั้งใหญ่เมื่อปีก่อนจึงทำให้เงินสดลดลง บริษัทเองจึงคงไม่ค่อยอยากที่จะกู้ o/d เพื่อมาจ่ายปันผลเป็นเงินสดมั้งครับ ผมเองก็มองว่าทางที่ดีที่สุดสำหรับ aprint หากไม่ต้องการกู้มาจ่ายปันผลคือ งดจ่ายปันผล แต่ทางดีคงจะยากที่จะอธิบายให้ผู้ถือหุ้นทุกคนเข้าใจได้ ทางเลือกที่ผมเห็นว่ารองมาคือ การกู้ o/d มาจ่ายปันผล เพราะว่า operating cash flow ปีเดียวก็คืนเงินกู้ได้ และดอกเบี้ยช่วงนี้ก็ต่ำ ส่วนการปันผลเป็นหุ้นผมให้เป็นทางเลือกอันดับ 3 ครับ แต่อัตราการปันผลเป็นหุ้นที่ 19 ต่อ 1 นี่ผมว่าบาดใจผู้ถือหุ้นรายย่อยมากครับ เพราะจะมีเศษหุ้นจำนวนมากสำหรับคนที่ถือหุ้นรายย่อย ดีที่ยังแตกพาร์ หากไม่แตกพาร์ หากผมถือ 1000 หุ้น ผมจะได้หุ้นปันผลประมาณ 52.6 หุ้น่ ดูไม่จืดเชียวครับ เมื่อแตกพาร์แล้ว หุ้นปันผลผมก็จะเพิ่มเป็น 526 หุ้น ผมไม่แน่ใจว่าการปัดเศษเป็นยังไงนะครับ ใครถือ aprint อยู่ลองดูรายละเอียดเพื่อให้จำนวนหุ้นที่ถือได้ประโยชน์มากที่สุดจากการปัดเศษนะครับ ผมว่าธุรกิจ aprint ในระยะ 2 ปีนี้น่าจะดีอยู่ครับ แต่ในระยะยาวนี่ผมก็ห่วง 2 nd generation ครับ แต่ไม่เป็นไรครับ คนเราก็ไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิด ของอย่างนี้มันเรียนรู้พัฒนากันได้ โดยเฉพาะการมองคนให้ออก
โดย
Wvix
พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2004 7:39 am
0
0
ใครจะเป็นสมาชิกรายที่ 2000 ของ TVI
มีรางวัลจริงๆครับ ติดต่อทางPMมาหาผมได้เลย นั่นนนน เฮียมนเล่นนัดหอมกันหลังไม เลยนะครับ
โดย
Wvix
พุธ มี.ค. 24, 2004 10:20 pm
0
0
OH APRINT
ตรง Kd = 6% นั้นได้ รวม (1 - t ) ไปแล้วนะครับเดี๋ยวงง
โดย
Wvix
พุธ มี.ค. 24, 2004 10:01 pm
0
0
OH APRINT
พี่ Thebing ครับ ถ้าทุนเพิ่มขึ้น Equity Capital ก็เพิ่มแล้วไม่ใช่เหรอครับ แล้วพอ Equity Capital ก็จะส่งผมให้ WACC เพิ่มขึ้นตามไปด้วยนาครับ WACC = Kd * % D * (1 - t )+ Ke * % E ตัว Ke น่าจะเพิ่มขึ้นนะครับ เช่น Operating Capital = Debt Capital + Equity Capital สมมุติเดิม Operating Capital = 100,000 Debt Capital = 50,000; Kd = 6% Equity Capital = 50,000; Ke = 10% WACC = 6%* 50,000/100,000 + 10%* 50,000/100,000 = 0.08 ถ้า Equity Capital เพิ่มเป็น 60,000 WACC = 6%* 50,000/110,000 + 10%* 60,000/110,000 = 0.081818182
โดย
Wvix
พุธ มี.ค. 24, 2004 9:59 pm
0
0
OH APRINT
เท่าที่อ่านจากด้านบนครับ สรุปเรื่องสำคัญทางด้านราคา ดังนี้ 1. เรื่องการลดทุนจดทะเบียนไม่มีผลอะไรต่อผู้ถือหุ้นเดิมเพราะว่าเป็นการลดทุนจดทะเบียนจากมูลค่าที่ค้างชำระ 2. XD ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2547 สมมุติราคาก่อนวัน XD เท่ากับ 105 บาท ราคาหุ้นในวันขึ้น XD ก็จะเป็น (105*19)/20 = 99.75 บาท 3. วันต่อมา วันที่ 11 พฤษภาคม 2547 แตกพาร์ สมมุติถ้าราคาปิดวันที่ 10 พฤษภาคม 2547 เป็น 99.75 บาท ก็จะกลายเป็น 9.975 บาท จำนวนหุ้นในมือก็จะเพิ่มขึ้น 10 เท่า * คนที่มีเศษหุ้นต่ำกว่า 10 หุ้นไม่ได้รับเงินปันผล 4. วันที่ 1 มกราคม 2546 หุ้นในมือก็จะเพิ่มขึ้นเพราะได้รับหุ้นปันผล ในทุกๆ 19 หุ้นจะเพิ่มขึ้น 1 หุ้น ใครที่รู้จริงเช็คด้วยนะครับ ผมไม่ชัวว่าจะถูกรึเปล่า คืออ่านเข้าใจยังไงก็คำนวณไปตามนั้นครับ สถานะการณ์ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรจนต้องตกใจหรอกครับ. แต่ Cost of Equity เพิ่มขึ้นนะครับพี่ Thebing
โดย
Wvix
พุธ มี.ค. 24, 2004 9:29 pm
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
ปล่อยไก่ไปเลยพี่ Thebing แย่จริงๆ ขอบคุณครับ เสริมเรื่อง EVA ให้อีกนิดครับ EVA = NOPAT - (Operating Capital * WACC) ลองพิสูจน์สมการดูนะครับ จะได้ EVA = Equity capital * ( ROE - Cost of equity capital ) ทำให้ EVA นั้นไปลบข้อจำกัด ของ ROE ได้ 2 อย่างคือ ขนาดของเงินทุนในส่วนของเจ้าของ และ ความเสี่ยงที่เกิดจากการก่อหนี้ของกิจการ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้เป็นข้อจำกัดจากการใช้ ROE ในการวัดผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น กระทู้ฮอตจริง ๆ เลยค่ะ กำลังไล่อ่านตามอยู่ ยังไม่ทันซักที มีตั้ง 30 กว่าหน้า .. หุ หุ ตั้งใจอ่านได้แค่ 10 กว่าหน้าเองตอนนี้ พี่จะเป็นกำลังใจให้น้อง MedIEviL อ่านจบได้ในเร็ววันนะครับ น้องครับพี่ไปถาม Dr.T มาแล้วครับสาเหตุที่ หัวใจทั้ง 4 ห้องของพี่มันเจ็บเป็นเพราะ หัวใจทั้ง 4 ห้องของพี่มันเต้นพร้อมกันเป็นจังหวะเดียวกันหมด ก็เลยทำให้มันเต้นแรงไปหน่อยครับ Dr.T บอกว่ายาแก้ปวดหัวใจ มีคนเดียวเท่านั้นที่มีครับ คือน้อง MedIEviL ไม่ทราบว่าน้อง MedIEviL จะเห็นหัวใจดวงน้อยๆของพี่ที่กำลังเต้นด้วยทุกข์ทรมานนี้อยู่รึไม่ครับ
โดย
Wvix
พุธ มี.ค. 24, 2004 7:30 pm
0
0
เห็นที่นี่มีหมอเยอะ รบกวนปรึกษาหน่อยครับ
อาการของผมเป็นดังนี้ครับ คุณ MedIEviL พอผมเห็นกระทู้ที่มีชื่อของหมอสาว แล้วหัวใจทั้ง 4 ห้องของผมมันปวดแปล็บๆครับ ไม่รู้เป็นอะไรช่วยรักษาอาการแบบนี้ให้ผมด้วยเถอดครับ
โดย
Wvix
พุธ มี.ค. 24, 2004 5:04 am
0
0
หุ้นตก ตั้งแต่ต้นปี มา ใครขาดทุนบ้าง ยกมือขึ้น
คุณ nos ช่วยแปลไทยเป็นไทยให้หน่อยจิ ไม่เข้าใจครับเห็น เห็นใช้ประโยคนี้บ่อยครับ น้องๆมือใหม่ระวัง ซาตานในคราบเทวดาจะปล่อยของ แต่เอาเทวดามาบังหน้า อ ต ร . . . ซาตานคือใคร เทวดาคืออะไร ผมโง่ ช่วยไขปริศนาให้ผมด้วย เต๊อะ
โดย
Wvix
พุธ มี.ค. 24, 2004 4:58 am
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
มีคำถามเก่าๆมาย้อนถามพี่ Thebing ครับ เพราะเพิ่งอ่านจริงๆ สรุปแล้ว ROIC = NOPAT / Invested Capital ใช่บ่ * NOPAT = EBIT( 1 - t ) Invested Capital = Op. Working Capital + Fixed Assets ใช่บ่ Economic Profit = (ROIC-WACC)*Invested Capital ที่ผมอ่านมา EVA = NOPAT - Operating Capital * WACC * Operating Capital = เงินกู้ระยะสั้นที่ต้องชำระดอกเบี้ย + เงินกู้ระยะยาว + Preferred Stock + Common Stock + Retained Earning * Operating Capital = Debt + Equtiy ถ้าข้างบนถูกต้องทั้งหมด ดูยังไง Economic Profit ก็ไม่น่าเท่ากับ EVA นะครับ แต่เจ้า Invested Captital = Operating Capital EVA ก็จะเท่ากับ Economic Profit
โดย
Wvix
พุธ มี.ค. 24, 2004 4:38 am
0
0
อยากให้ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ จากพี่ Invisible hand
ได้ยินว่าพี่ Chatchai ก็ซื้อบ้านของ LH มีอะไรทำให้ตัดสินใจซื้อบ้านของ LH ครับ
โดย
Wvix
อังคาร มี.ค. 23, 2004 9:41 am
0
0
อยากให้ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ จากพี่ Invisible hand
ได้ยินว่าพี่ Thebing จะซื้อบ้านไม่ใช่เหรอครับ แล้วพี่ชอบของที่ไหนครับ
โดย
Wvix
อังคาร มี.ค. 23, 2004 9:36 am
0
0
คุณปรัชญา กลับมาร่วมแจมเถอะครับ
ผมก็นั่งนับดาวตอนกลางคืนรอพี่ปรัชญากลับคืนมาครับ ผมก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยครับ ที่ทำให้พี่ปรัชญาเสียกำลังใจ
โดย
Wvix
อังคาร มี.ค. 23, 2004 8:20 am
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
อ้าวผมตาถั่วอ่านตกกระทู้ของพี่ Thebing ไปได้ไงเนี่ย นึกว่าอธิบายเรื่อง Economic Profit ต่อ สงสัย...มากไป
โดย
Wvix
อังคาร มี.ค. 23, 2004 8:00 am
0
0
เพิ่งสมัครสมาชิกวันแรกค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย
คิดมากมั้ยครับคุณ MedIEviL อย่าคิดมากนะครับ ผมพูดเล่น ขอโทษนะครับ คุณ MedIEviL รีบนอนนะครับนอนดึกหน้าตาเหี่ยวย้นนะครับ ผมนอนล่ะครับ ฝันดีนะทุกคน
โดย
Wvix
อังคาร มี.ค. 23, 2004 2:26 am
0
0
เพิ่งสมัครสมาชิกวันแรกค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย
คุณ harry นอนดึกจังเลย คุณ MediEviL สวยมั้ยครับเดี๋ยวผมจะตามจีบ
โดย
Wvix
อังคาร มี.ค. 23, 2004 1:39 am
0
0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
ผมขอประเดิมด้วยการเลือกข้อ 2 ครับ ไม่ปันผลแล้วเอาเงินสดที่มีไปลงทุนต่อย่อมดีกว่าครับ ไม่ต้องไปกู้ให้โดนดอกเบี้ยอีก แต่ถ้าจะปันผลนิดๆหน่อยๆ ก็ได้นะ หรือไม่ก็กู้ไม่มากสัก 20-30% ของเงินลงทุนก็น่าจะรับได้ เพราะจะได้มีเงินสดสำรองไว้ด้วย harry อื่อ คุณ harry เสนอทางเลือกที่ดีนะครับ conservative ดี ตอบคนที่1 -------- ตามความเห็นผมนะครับ 1. ต้องดูว่าปันผลเท่าไหร่ครับ ถ้าปันผล 10 % สม่ำเสมอทุกปี ผมเลือกข้อ1 ดีกว่าครับ เพราะการลงทุนต้องใช้เวลาสักพักนึง ถึงจะได้ผลตอบแทนที่ดีครับ และถือว่าต้นทุนเงินกู้ ต่ำกว่าต้นทุนเงินทุนครับ 2. แต่ถ้าปันผลต่ำ และดูว่าขยายไปแล้ว มีโอกาสโตสูงมาก ก็เลือกข้อ 2 ครับ อดเปรี้ยวไว้กินหวานครับ kotaro คุณหมอ kotaro ตอบอย่างนี้เค้าเรียกว่าเก๋านะครับ ----------- ถามหน่อยครับ คณ Wvix บริษัทที่ว่านี่ มีหนี้สินอย่แล้วเท่าไรครับ รวมทั้งส่วนทนด้วย และโครงการใหม่นี่ต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหนครับ ถามเผื่อคนอื่นนะครับ พี่ ฉัตรชัย ละเอียดละออดีครับ ---------- "บริษัทที่ไม่มีหนี้ ไม่มีวันล้มละลาย" -ปีเตอร์ ลินช์ เลือกข้อ 2 ครับ คุณนักดูดาว อันนี้เหมือน harry เลย conservative มากเลย - ท่าทางผมจะอดตอบ เพราะยังตอบไม่ครบสิบคนและมีส่วนได้ส่วนเสียกับรางวัลด้วย แต่อดไม่ได้ ขอแจมหน่อยแล้วกัน เผื่อจะได้จูบตัวเองสักฟอด ถ้าผมเป็นผู้ถือหุ้น แล้วผู้บริหารถามว่า จะรับปันผลและให้บริษัทไปกู้เงินมาลงทุน หรือ งดปันผล นำเงินกำไรสะสมไปลงทุนโดยไม่ต้องกู้ ผมคงไม่ให้คำตอบทันทีครับ เพราะข้อมูลที่ให้ไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ ผมต้องมีคำถามต่อครับ หนึ่ง การลงทุนนั้นให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ (IRR) สอง อัตราผลตอบแทนของเงินลงทุนของบริษัทนี้ (ROE) เท่าไหร่ ถ้า IRR < ROE ก็ไม่ต้องพูดต่อ ลืมการลงทุนเรื่องนี้ได้เลย เพราะเป็นการทำลาย Shareholder Value เอาเงินคืนผู้ถือหุ้นหรือซื้อหุ้นคืนดีกว่าไปลงทุนในธุรกิจที่ทำให้อัตราผตอบแทนน้อยกว่าเดิม ถ้า IRR > ROE ค่อยน่าสนใจหน่อย มาถึงคำถามที่ว่า จะกู้เงินหรือจะเอากำไรสะสมไปใช้ อันนี้ก็แล้วแต่ Policy ของแต่ละบริษัทนะ บางบริษัทยังต้องการเงินทุนหมุนเวียนและเงินสดสำรองไว้ ก็คงต้องกู้ แต่ถ้าบริษัทนั้นมีเงินสดเยอะแยะ นอนแช่ไว้เฉยๆ ก็ไม่ต้องไปกู้ให้เมื่อยตุ้ม บางคนชอบกู้เงินมาลงทุน บางคนไม่ชอบกู้ ส่วนผมจะขอดูผลตอบแทนการลงทุนเป็นหลักแล้วกันครับ vib007 คำตอบของพี่วิบูลย์เป็นแก่ประโยชน์มากเลยครับ --------- ไม่ค่อยมีเวลาแล้ว ผมตอบเลยดีกว่าครับ (พี่ๆที่ยังไม่ตอบช่วยเสริมด้วยครับ) ตอบ จากโจทย์คำตอบหาไม่ได้ถูกแล้วครับ เป็นการหลอกให้คิดตามเฉยครับ (เป็นนโยบายการนำเข้าเรื่องต่อครับ) ถ้าบริษัทมีหนี้น้อยและเล็งเห็นว่าการก่อหนี้ครั้งหนี้ของบริษัท จะสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า ต้นทุนของเงินทุน ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีครับ * ต้นทุนของเงินทุนประกอบไปด้วย ต้นทุนดอกเบี้ยของเงินกู้และ ต้นทุนจากอัตราความคาดหวังผลตอบแทนในส่วนของผู้ถือหุ้น การจ่ายปันผลมาแล้วขยายกำลังการผลิตด้วยการกู้ อาจจะเป็นการสร้างความมั่งคั่งให้แก่ผู้ถือหุ้นได้มากกว่า บางครั้งกิจการที่มีเงินสดแต่ไม่ยอมปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้นซะบ้างก็จะเป็นการทำลายความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้นได้ และบางทีการเป็นหนี้ก็ไม่ใข่เรื่องที่เสียหายถ้าหนี้ที่กิจการสร้างแล้วกิจการสามารถควบคุมหนี้นั้นได้ และประโยชน์อีกอย่างของหนี้คือจะไปทำให้กิจการเสียภาษีน้อยลงด้วย เพราะดอกเบี้ยเป็นค่าใช้จ่ายก่อนเสียภาษี และการที่กิจการไม่ปันผลออกมาก็จะเท่ากับเป็นการสร้าง BV มากๆนั้น BVที่มากขึ้นก็จะทำลายไปผลตอบแทนของผู้ลงทุนในระยะสั้นๆได้ เสริม >>> * แต่ในระยะยาวกรณีที่กิจการเก็บ RE ไว้ในรูปของ Cash หรือ Short-Term Investment ไว้เยอะๆนั้น ถ้ากิจการนำสภาพคล่องส่วนนี้ปันผลออกมา ในงวดปีใดก็อาจทำให้ผลตอบแทนของผู้ลงทุนพุ่งได้สูงขึ้นมาเหมือนกัน แต่ถ้ากิจการนำสภาพคล่องส่วนเกินนั้นไปลงทุนต่อ ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นถ้าผลตอบแทนจากเงินลงทุนนั้นไม่ดี (ถ้าดีน่าจะขยายไปนานแล้ว) อาจใช้ทางเลือกให้กิจการซื้อหุ้นคืนน่าจะเป็นนโยบายที่ดีกว่า ฮั่นแน่ ชักสนใจเรื่อง ต้นทุนของเงินทุนแล้วสิ ตอนนี้ผมก็กำลังอ่านเรื่องนี้อยู่พอดีครับ ผมว่าเรื่องต้นทุนของเงินทุนมีประโยชน์นะครับ ตอนนี้อ่านไปก็งงไปครับ พี่ๆที่รู้เรื่องต้นทุนของเงินทุนดี เตรียมตัวตอบคำถามได้แล้วนะครับ พี่วิบูลย์กับพี่มน รอดตัวไปครับ แต่ครั้งต่อไปไม่แน่ครับ :lol: ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆที่ให้ความสนใจและได้คิดตามสำหรับคำถามที่ผมเสนอทุกคนครับ
โดย
Wvix
อังคาร มี.ค. 23, 2004 1:32 am
0
0
91 โพสต์
of 2
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
Wvix
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
เว็บไซต์:
เข้าชมเว็บไซต์
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร ต.ค. 28, 2003 11:25 am
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
124 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว