DW ไม่ใช่การพนัน มันคือเกม อ่านทีไรก็ขำคนที่เขียนว่า "VI ชอบลงทุนใน DW" หรือ "DW คือการลงทุนที่ดี" แล้วก็เชียร์ซื้อกันออกนอกหน้า ผมว่ารายย่อยมีไม่น้อยที่ซื้อ DW เพราะมีคนเชียร์กันในบอร์ด บางคนที่มาเขียนเป็นตัวแทนของพวก MM มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ในการโพสต์ สุดท้ายปล่อยพร้อมเจ้ามือตามโพย พอมันลงก็บอกขายไปแล้วตรงนั้นตรงนี้ ทำเหมือนเป็นเซียนแบบนี้เลิกเถอะครับ รวยบนความทุกข์คนอื่น นอนหลับก็ไม่เป็นสุข เพราะเงินมันร้อนนะครับ โดย คนรักน้ำมัน ศุกร์ ต.ค. 29, 2010 7:51 am

DW สุดยอดแห่งการเก็งกำไร ไม่ใช่สิ่งที่ชาว VI ควรเข้าไปยุ่งเลยครับ เพราะมันไม่ใช่การลงทุนไม่ว่ามองในเหลี่ยมไหน โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ ก.ย. 26, 2010 8:49 am

ขอความเห็นครับ สมควรคืนเพราะเป็นเงินร้อนครับ โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ ก.ค. 11, 2010 6:42 pm

Re: สัญญาณเตือน!!!! สัญญาณเตือน!! วันนี้ผมขึ้นรถจากมหาลัยไปเมเจอร์กับเพื่อนๆ คุยเรื่องหุ้นอยู่ ผมขึ้นไปบนรถ ผมบอกเพื่อนๆว่า ตอนนี้ระวังหน่อย ตลาดปรับขึ้นมามากแล้ว คนขับแท็กซี่ก็ถามขึ้น "ตลาดทุนเหรอครับ" จากนั้นลุงแกก็เริ่มเล่า การเดย์เทรดของแก การรีบาวด์ การติดดอยรอบที่แล้ว ดีวิเดนยิลด์ และศัพท์เทคนิกมากมาย คำพูดของลินซ์วิ่งเข้าหัวผม(หรือวิ่งออกมา)ทันที เมื่อคนขับแท็กซี่เริ่มโม้เรื่องหุ้น ระวัง! ไม่ได้บอกตลาดจะถล่มนะครับ แต่เตือนด้วยความหวังดีว่า ให้ลงทุนกันอย่างระมัดระวัง ตอนนี้เขียวทั้งกระดาน ตัวที่เราเคยมองว่าไม่ดีก็วิ่งขึ้นมาสูง ทำให้อาจเกิดความเสียดาย ยังไงก็ระวังกันหน่อยนะครับ กลับไปแปลซิเคียวริตี้อนาไลซิสต่อหละ อิอิอิ จะจบพาร์ท1แล้ว เอ แท๊กซี่ที่รู้เรื่องศัพท์เทคนิค การรีบาวด์  เดย์เทรด  dividend ขนาดนี้คงไม่ใช่แท๊กซี่ธรรมดาแล้วมังครับ เผลอๆคุณอาจไปเจอท่านแท๊กซี่นิรนาม เซียนหุ้นจากสินธรก็เป็นได้ 555   ผมคิดว่ายังหรอกครับ  การที่คนที่อยู่นอกวงแล้วคุยเรื่องหุ้น เปิดพอร์ต ซื้อหุ้น มันต้องมีเหตุการณ์ที่สอดรับกันและต้องอยู่ในภาวะกระทิงอย่างมาก ตลาดมีราคาเกินพื้นฐานกันมาก คนซื้อไม่ได้มองพื้นฐานกันต่อไป ต้องซื้อเพราะพรุ่งนี้มันจะขึ้นต่อ กลัวตกรถ แม้แต่นักเรียนยังคุยกันเรื่องหุ้น แท๊กซี่ที่คุยเรื่องหุ้น จะต้องรู้แบบงูๆปลาๆ มือใหม่แต่อยากเข้าตลาดเพราะกลัวไม่ทันการ ตลาดอยู่ในภาวะฟองสบู่อย่างมาก ที่กล่าวมานี้มีเหตุการณ์ในบ้านเราก็คือช่วงตลาดขึ้นไป 1000 กว่าจุด หรือตลาดจีนตอนเริ่มผ่าน 4000 จุด ซึ่งค่า P/E Ratio ขึ้นไป 25-30 เท่า โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ ก.ค. 11, 2010 6:39 pm

กำลังสนใจในกองทุนที่ลงทุนในจีน ขอความเห็นด้วยครับ ท่านเจ้าของกระทู้กำลังมองเห็นอะไรแน่ๆ ช่วยแนะนำด้วยครับ ผมไม่ค่อยชอบกองทุนดัชนีเท่าไหร่ แต่ถ้ามองตลาดเป็นขาขึ้นเต็มตัว กองทุนพวกนี้น่าสนใจอย่างแรงครับ ผมกำลังคิดว่าจะแบ่งเงินซักไม่เกิน 5 % ของพอร์ตหาจังหวะเก็บตลาดหุ้นจีนผ่านกองทุน  TMBCHEQ คงไม่ได้มองเห็นอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ แค่อยากกระจายการลงทุนออกไปบ้าง และตอนนี้ตลาดหุ้นจีนก็น่าสนใจเพราะ P/E เริ่มมาอยู่ในจุดที่น่าสนใจอีกครั้ง แต่คงยังไม่ใช่ตรงนี้หรอกครับ ใจก็ยังหวัง MOS ที่มากกว่านี้ เพราะ P/E ตลาดเซี่ยงไฮ้ ชนิด A ตอนนี้ยังอยู่ประมาณ 18-19 เท่า โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ ก.ค. 11, 2010 6:24 pm

เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ? เคยบ่อยไปครับ อย่างสมัยวิกฤติแฮมเบอเกอร์ ผมก็ล้างพอร์ต แล้วทำ Short Against Port เป็นระยะๆ สมัยปี 51 ทำให้เอาตัวรอดมาได้ ตอนนั้นยังเทรดหุ้นโดยอาศัยเครื่องมือทางเทคนิคเป็นหลัก ถ้าไม่ใช้เทคนิคตอนนั้นเจ็บตัวหนักแน่  แต่ถ้าถามวันนี้คงไม่ล้างไปอีกหลายปีเลยล่ะครับ เพราะไม่ได้เทรดแบบเทคนิคแล้ว โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ ก.ค. 11, 2010 6:09 pm

ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี เรื่องอีเลียตเวฟ ผมไม่ให้น้ำหนักการทำนายในแนวคิดนี้เท่าไหร่ บางคนถึงกับเรียกว่าอีเดียตเวฟ เพราะความเป็นไปได้ต่ำมากโดยเฉพาะการทำนายในอนาคตไปไกลๆ แกคงลากกราฟคลื่นโดยใช้หลักฟีโบนาชชี่ ซึ่งตามทฤษฎีคลื่นมันก็เป็นไปได้ว่าจะออกมาแบบนั้น แต่ทางปฏิบัติผมก็ลองมาเยอะมันมีโอกาสผิดได้มากพอๆกับถูกแหละครับ โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ ก.ค. 11, 2010 5:51 pm

Re: ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี [quote="nanchan"][quote="vichit"]ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี ตามการทำนายของเพรชเชอร์ โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ ก.ค. 11, 2010 5:46 pm

*** ทำไมคนส่วนใหญ่คิดว่า เป็นวีไอ ต้องถือหุ้นระยะยาว *** ผมให้เหตุผลไว้แล้วในลิ้งนั้นครับ คงไม่กล่าวซ้ำนะครับ โดย คนรักน้ำมัน ศุกร์ ก.ค. 02, 2010 8:49 pm

อัคราไมนิ่งฯ เทรดทัน Q4 ดันมาร์เก็ตแคปหมื่นล้าน ขุดทองจนเกือบเกลี้ยงแล้วได้เวลาขายทิ้งกลับออสเตรเลียซะที เหอๆ โดย คนรักน้ำมัน ศุกร์ ก.ค. 02, 2010 7:56 pm

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!! การใช้มาร์จินมันก็คือการนำหุ้นที่ตัวเองเล่นทำให้เสมือนเป็นวอร์แรนท์ ที่จริงก็หลักการเดียวกับ FUTURE แต่ leverage น้อยกว่าและเล่นได้ทางเดียว มันจึงเหมือนวอร์แรนท์มากกว่า Future สิ่งที่ผมเขียนไปข้างต้นถ้าแรงก็ขออภัย เพียงแต่อยากสะกิดเตือนมือใหม่ที่ไม่เข้าใจมันดีพอ เพราะถ้าคิดฝันเอาตามแบบตัวอย่างที่จขกท.ว่ามา อาจหมดตัวได้โดยเร็ว และหลักการใช้มาร์จินที่จริงเขาไว้เล่นเมื่อเป็นขาขึ้นหรือเมื่อกำลังเป็นขาขึ้นเท่านั้น หากแน่ใจว่าเป็นขาลงต้องหยุดเล่นไม่ใช่ขายออกทีละหน่อยๆแบบที่จขกท.ว่ามาครับ อีกอย่างหากตามตัวอย่างที่จขกท.สร้างโมเดลมาที่จะกำไรปีที่10 ประมาณ 100 ล้านอะไรนั่น ถ้าเก่งถึงขนาดทำกำไรได้ 50 % ทุกปีขนาดนั้น ไมไม่ไปเล่น Future เลยล่ะครับ เพราะเงื่อนไขเดียวกันปีที่ 10 ได้เงินถึง 17,000 ล้านบาท แต่ความเป็นจริงคนหมดตัวก่อนปีที่สุด(แถมเป็นหนี้โบรก) มีมากมาย บางคนถึงกับผูกคอตาย เพราะก่อนเล่นหุ้นมีเงิน ออกจากตลาดกับต้องหลบหนีหนี้เพราะไม่มีเงินจะใช้ ลองคิดให้รอบคอบเถอะครับ ผมหวังดีนะครับที่เตือน โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ มิ.ย. 06, 2010 8:53 am

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!! [quote="manza125"]ชอบกระทู้นี้จัง ให้ความรู้เยอะดี โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ มิ.ย. 06, 2010 8:09 am

ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ ผมว่าเจตนาแกดีนะครับ สำหรับ 2 สูง คือแกคงอยากให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น คือยกระดับฐานะของคนส่วนใหญ่ในประเทศ คือคนรากหญ้า(เกษตรกร)และคนชั้นกลาง(พนักงาน)ได้ลืมตาอ้าปากได้ ประเทศชาติจะได้มั่นคง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าพ่อค้าคนกลางจะรวยขึ้นขนาดไหน โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ มิ.ย. 06, 2010 5:58 am

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!! เข้าบ่อนไปเลยดิครับ จะมาเล่นหุ้นให้เสียเวลาอยู่ทำไม โดย คนรักน้ำมัน อาทิตย์ มิ.ย. 06, 2010 5:50 am

งบ TRC ขาดทุนอีกแล้วตามคาด ใครยังถือตัวนี้อยู่บ้าง แฟนคลับ จำไว้เลยครับว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างไม่ใช่ธุรกิจที่เข้าหลักการของ VI ด้วยเหตุผลดังนี้ 1) เป็นธุรกิจที่แข่งขันด้านราคา(จากการประมูล) 2) มีธรรมชาติธุรกิจที่ไม่สามารถโตแบบยั่งยืนได้ ยิ่งโตยิ่งล้มดัง และเป็นธุรกิจที่มีการปิดกิจการและเกิดใหม่มากที่สุด 3) เป็นธุรกิจที่ขาดความสม่ำเสมอในเรื่องรายได้และผลกำไรมากที่สุดในขบวนธุรกิจทั้งปวง 4) เป็นธุรกิจที่มีการคอรับชั่นมากที่สุดทั้งในระดับองค์กร ถึงขั้นที่สร้างความล้มละลายให้กับธุรกิจได้เช่น KTECH 5) ความสามารถในการควบคุมต้นทุนมีประสิทธิภาพต่ำที่สุดในขบวนธุรกิจด้วยกัน 6) ความเสี่ยงในเรื่องรายได้สูงจากระบบสัญญาที่ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้เปรียบผู้ว่าจ้าง ผมลงทุนตลาดหุ้นมา 6 ปี แต่ไม่เคยคิดลงทุนในบริษัทรับเหมาก่อสร้างเลย ทั้งที่อยู่ในวงการนี้มาเป็นสิบปีแล้ว โดย คนรักน้ำมัน พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2010 10:53 pm

n-park ยังมีอนาคตไหม คนที่บอกว่าตัวเองเป็น VI แล้วยังอยากไปซื้อหุ้นตัวนี้ ผมว่าต้องพิจารณาความเป็น VI ของตัวเองโดยด่วนด้วยการกลับไปศึกษาเบสิกและท่องความหมายของ VI ซักร้อยจบ โดย คนรักน้ำมัน เสาร์ เม.ย. 17, 2010 11:13 am

ซื้อถัวขาดทุนกับ หุ้น TRC มาตลอด ตอนนี้ทำยังไงดีครับ จำไว้เลยครับว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างไม่ใช่ธุรกิจที่เข้าหลักการของ VI ด้วยเหตุผลดังนี้ 1) เป็นธุรกิจที่แข่งขันด้านราคา(จากการประมูล) 2) มีธรรมชาติธุรกิจที่ไม่สามารถโตแบบยั่งยืนได้ ยิ่งโตยิ่งล้มดัง และเป็นธุรกิจที่มีการปิดกิจการและเกิดใหม่มากที่สุด 3) เป็นธุรกิจที่ขาดความสม่ำเสมอในเรื่องรายได้และผลกำไรมากที่สุดในขบวนธุรกิจทั้งปวง 4) เป็นธุรกิจที่มีการคอรับชั่นมากที่สุดทั้งในระดับองค์กร ถึงขั้นที่สร้างความล้มละลายให้กับธุรกิจได้เช่น KTECH 5) ความสามารถในการควบคุมต้นทุนมีประสิทธิภาพต่ำที่สุดในขบวนธุรกิจด้วยกัน 6) ความเสี่ยงในเรื่องรายได้สูงจากระบบสัญญาที่ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้เปรียบผู้ว่าจ้าง ผมลงทุนตลาดหุ้นมา 6 ปี แต่ไม่เคยคิดลงทุนในบริษัทรับเหมาก่อสร้างเลย ทั้งที่อยู่ในวงการนี้มาเป็นสิบปีแล้ว โดย คนรักน้ำมัน เสาร์ เม.ย. 17, 2010 11:02 am

แก๊งค์ทุ่งคามาเดากันดีกว่าครับว่า ราคาเปิดมาจะไปเท่าไรครับ มีนักลงทุนจำนวนมากไม่กล้าเข้าซื้อหุ้น Turn around หรือหุ้นเติบโตเร็วเพียงเพราะ มองค่าPE ในอดีตเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจว่าหุ้นถูกหรือแพง และต้องเสียโอกาสในการทำกำไรมหาศาล หมายเหตุ-หุ้นเรือในอดีต ตอนราคาอยู่1-2บาท หาค่าPEไม่ได้ด้วยซ้ำเนื่องจากขาดทุนติดต่อกันมาหลายปี แต่ราคาหุ้นก็ยังวิ่งขึ้นไปไม่หยุดและTradeกันที่ PE สูงๆมาโดยตลอด และเคยวิ่งขึ้นไปถึง 50 บาท สุดท้ายแค่ 2 ปี ราคาที่ 30-40 บาท ก็กลายเป็นราคาที่ค่าPE 6-7 เท่า โดย คนรักน้ำมัน พุธ เม.ย. 25, 2007 6:17 pm

ข่าวร้ายและข่าวดีจากที่ประชุมของทุ่งคาเมื่อวานนี้ ผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งของที่ประชุมเหมือนกันครับ และมีโอกาสถามไปหลายคำถามเช่นกันและเป็นอย่างที่เฮียคลายเครียดว่าไว้คือนักลงทุนหลายท่านถามคำถามได้ดีมากและจี้จุดอ่อนของได้ตรงจุดครับ เช่นเรื่องการกู้เงินจากดอยช์แบงค์เป็นต้น แต่ความเป็นจริงเงื่อนไขเงินกู้ดังกล่าวหากไม่นับเรื่องราคาทองเกิน700เหรียญต่อออนซ์ ที่ต้องตกเป็นของดอยช์แบงค์แล้ว ก็โอเคครับ เพราะสามารถนเงินกู้มาปลดล๊อคเงื่อนไขที่ทำไว้กับEXIMได้ ทำให้หายใจคล่องขึ้น สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับความจริงก็คือบริษัทเองยังไม่มีเงินเพียงพอที่จะทำอะไรได้ถนัดนัก ดังนั้นในแง่บริหารแล้วผมค่อนข้างเข้าใจว่าการบริหารเงินเป็นเรื่องเหนื่อยครับ(ถ้าคนทำธุกิจตัวเองจะเข้าใจดี) บางครั้งต้องยอมเสียเปรียบเขาเพื่อให้ได้เงินมาหล่อเลี้ยงหมุนเวียนในบริษัทไม่ให้ขาดสภาพคล่อง บางครั้งต้องยอมกู้นอกระบบกันทีเดียว เพราะการนำเงินประมาณ 1000 ล้านมาค้ำประกันทองคำ 50,000 ออนซ์ในปีแรกมันเป็นไปไม่ได้แน่นอกจากจะผลิตได้ตามนั้นจริงๆแต่ในความเป็นจริงช่วงแรกของการเปิดเหมืองมันย่อมยากที่จะได้ตามคาดหวังทุกอย่าง ทว่า หาก ณ วันหน้าทุ่งคามีเงินสดพอแล้วยังมีดีลประเภทนี้ออกมาอีกคงต้องคุยกันยาวแน่ครับในฐานะนักลงทุน ในแง่ที่มีผู้ถือห้นที่ท่านเสนอการเพิ่มทุนแทนการกู้นั้นโดยส่วนตัวแล้วถึงแม้ว่าผมไม่เห็นด้วย(เพราะการเพิ่มทุนนั้นเป็นข่าวร้ายซึ่งจะส่งผลต่อราคาห้นให้ร่วงลงและคงไม่มีนักลงทุนคนไหนอยากเห็นหุ้นที่ตัวเองถือมีมูลค่าลดลงเป็นแน่ ซึ่งถ้าเลือกได้ก็ขอให้เป็นทางเลือกสุดท้าย) แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกของนักลงทุนด้วยกันเพราะหากดูจากดีลนี้แล้วการเพิ่มทุนเสียยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่าจริงๆครับหากทองคำมีแนวโน้มที่จะขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ดี ในแง่ตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรที่มีนัยสำคัญจริงๆต่อผลประกอบการน่าจะเป็นปริมาณทองคำและประสิทธิภาพในการดึงทองคำออกมามากกว่า นั่นคือขึ้นกับว่าในชั้นซัลไฟต์จะสามารถดึงปริมาณทองคำมาได้อย่างที่คาดกันไว้หรือเปล่า (ซึ่งผมคิดว่าทางทุ่งคาเองทราบข้อมูลนี้ดีแต่เหมือนกับจะพยายามบอกข้อมูลในเชิงconservativeให้กับนักลงทุนได้รับรู้เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ยังสรุปยากจริงๆครับว่าทองมีมากกว่าหรือน้อยกว่าที่ประเมินไว้อย่างไร) หากปริมาณทองคำมีมากพอหรือเกินคาดน่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการอย่างแน่นอน ส่วนประสิทธิภาพก็ขึ้นกับอัตราการผลิตที่จะขยายจาก 1,400 เป็น 2,000-2,500 ตันต่อวันได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้ง Recovery ที่จะเพิ่มเป็น 90 % ได้เมื่อไหร่ โดยรวมก็โอเคครับ ถ้าเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมาที่ผมมีโอกาสเข้าร่วมประชุม บรรยากาศไม่อึมครึมเหมือนครั้งก่อน อาจเป็นเพราะเพื่อนนักลงทุนทำการบ้านมาดีและเริ่มเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีขึ้น ชัดเจนขึ้น รวมทั้งโครงการใหม่ของดีบุกที่คุณสมศักดิ์ได้เอาไสล์มานำเสนอให้ชมกันผ่านบริษัททรัพยากรสมุทรที่ทุ่งคาได้ซื้อหุ้นมาจนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ในอนาคตซึ่งอาจจะเพิ่มศักยภาพให้กับบริษัทอีกมาก นอกเหนือไปจาก ทุ่งคำ และคงเป็นสตอรี่ต่อไปที่จะเล่นได้อีก ทั้งนี้ต้องขึ้นกับเงื่อนไขการเจรจาเรื่องค่าภาคหลวงกับรัฐบาลให้เรียบร้อยเสียก่อน(ถ้าเจรจาสำเร็จราคาหุ้นคงวิ่งกระฉูดแน่ในอนาคต) โดย คนรักน้ำมัน พุธ เม.ย. 11, 2007 3:26 pm

พึ่งไปชมเหมืองทองของ THL มาครับ ที่ลุงทีมถามเรื่องปริมาณสินแร่จากที่สอบถามดูไม่ได้มีแค่ล้านกว่าตันครับ อันนี้เฉพาะที่ภูทับฟ้าเท่านั้นเองซึ่งเป็นเฟสแรกมีปริมาณทองคำประมาณ 2แสนออนซ์ แต่ที่ภูซำป่าคาวกับภูเหล็กซึ่งอยู่ติดๆกันก็มีอีกกว่า 2-3 ล้านตัน โดยเฉพาะที่ภูเหล็กนี่มีปริมาณทองคำไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งถือเป็นเฟสต่อมาครับ และมีปริมาณทองคำอีกประมาณ 4แสนออนซ์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ไม่ถึง10%ของที่ได้ประทานบัตรสำรวจมาครับ ดังนั้นผมคิดว่าโครงการที่นี่คงไม่หมดง่ายๆหรอกครับ และคงต้องทำการสำรวจไปเรื่อยๆแหละครับ โดย คนรักน้ำมัน จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 10:46 pm